รายชื่อผู้ที่ปราถรถนาพุทธภูมิ(ในเว็บนี้)

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย thanan, 12 พฤศจิกายน 2004.

  1. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    ในวิชามโนมยิทธินั้น

    ..เขาสามารถฝึกไปเมืองนิพพาน และถามโดยตรงกะองค์สมเด็จได้...

    ..ไม่ได้รู้เองจ้า
     
  2. UFO99

    UFO99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2005
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +983
    แล้วผมปราถนาแบบไหน ช่วยบอกทีครับ
     
  3. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    [b-wai]
     
  4. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,295
    ค่าพลัง:
    +2,719
    โมทนาด้วยครับ

    ผมจะตามพวกท่านไป[b-wai]
     
  5. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400

    <!-- / message -->ครับผม นั่นนะสิ ความจริงน่าจะมีอยู่เยอะ ถือว่าเป็นทางกลางๆ ปัญญาก็ได้ วิริยะบางที แต่เด่นที่มีศรัทธา กำลังใจไม่เสื่อมคลาย พวกนี้ประหลาดครับ บางทีก็ขยันใจหายใช้แรงเป็นหลัก บางทีก็ขี้เกียจ ใช้สมองคิดอย่างเดียว พวกนี้เด่นที่อุดมการณ์มุ่งมั่น ชอบตั้งเป้าหรืออธิษฐานงานใหญ่ แล้วจะผสมผสานทั้งความเพียรและปัญญาด้วยกัน คลุกเคล้าไม่เด่นด้านใดด้านหนึ่งในสองด้าน จึงเกิดเป็นทางที่สามขึ้นมา " ศรัทธาธิกะ " ครับ ที่พอจะรู้อารมณ์เพราะเป็นคนสายนี้ครับ ผมเองก็ไม่เคยเจอคนสายนี้ตัวเป็นๆสักทีเหมือนกัน ช่วงหลังนี้พอจะผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตมาระดับหนึ่ง คงได้มีโอกาสมาเยี่ยมที่ นี้บ่อยขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2005
  6. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,668
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,212
    update
     
  7. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    เคยประสบกับตัวเองมาบ้างเหมือนกัน เรื่องพุทธภูมิและสาวกภูมินี่ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็เพราะยังไม่ได้ลาทั้งคู่ แต่ถ้าลาคนใดคนนึงแล้ว คุยเข้าใจไปในทางเดียวกันได้ครับ อีกอย่างครับ เท่าที่สังเกตนะครับ ส่วนใหญ่พุทธภูมิที่มีกำลังใจค่อนข้างจะเข้ม (ยังไม่เข้มเต็มซะทีเดียว) จะบำเพ็ญบารมีด้วยตัวคนเดียวตลอดจนกว่าจะเต็มโน่นเลย ด้วยเหตุว่าการบำเพ็ญบารมีส่วนใหญ่ตั้งแต่เริ่มเข้าปรมัตถจะต้องเป็นไปด้วยใจเด็ดเดี่ยวค่อนข้างเยอะ สังเกตอีกข้อนะครับ พุทธภูมิที่บำเพ็ญมาประมาณ 70% ไปแล้วก็จะเพิ่งเริ่มหาสาวกใครจะเป็นสาวกก็ต้องนับกันแต่พระโพธิ์สัตว์ที่บารมี 70% ขึ้นไปแล้วโน่น เหตว่ากำลังใจและบารมีเริ่มที่จะเพียงพอในการสอนผู้อื่น จริงไม่จริงประการใดชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
     
  8. ชา ใคร่รู้

    ชา ใคร่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +496
    สาวกภูมิเช่นผมคงไม่กล้าวิจารณ์ใครหรอกครับ แต่ขอเอาใจช่วยทุกท่านครับ จะสำเร็จหรือไม่ก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่ครับ อย่างอื่นคงไม่บังอาจแนะนำ
     
  9. PCO

    PCO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +3,626
    ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีคนเข้ามารายงานตัวเรื่องปราถนาพระโพธิญาณกันมากขึ้นเรื่อยๆขอเชิญเลยนะครับสำหรับคนที่ยังไม่ได้รายงานตัว ผมขอขอบคุณคนที่เปิดเว็ปเรื่องของพุทธถูมิขึ้นมาเป็นอย่างมาก ผมรอคอยมานานเรื่องที่อยากจะรู้ว่าใครบ้างนะที่ปราถนา ในวันนี้(23 ธันวาคม 2548)ก็พอนับได้ประมาณ 30 กว่าแล้ว ผมเชื่อว่ายังคงมีอีกมากที่ยังไม่รานงานตัว ใครพร้อมที่จะรายงานตัวเมื่อไรก็ขอเชิญอีกครั้งนะครับ ก่อนที่จะพูดเรื่องอื่นผมขอโมทนาในมหากุศลเจตนาของทุกๆท่านที่ตั้งนโนปณิธานในการที่จะสงเคราะสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ บางท่านตั้งใจที่จะบำเพ็ญให้นานที่สุด มากที่สุดและอีกหลายอย่างอันเป็นที่สุด บางท่านปราถนาที่จะสงเคราะจนหมดสรรพสัตว์ในอนันตจักรวาล บางท่านปารถนาเป็นคู่พระบารมีเช่นคุณศดานัน บางท่านปารถนาที่จะอยู่เป็นท่านสุดท้าย และอีกมากท่านที่ปารถนาแตกต่างกันออกไป ในส่วนตัวของผมขอก้มกราบในความดีในมหากุศลเจตนาของทุกๆท่านอย่างจริงใจ ขอเป็นกำลังใจ และขอสนับสนุนงานด้านพุทธภูมิของทุกๆท่านนะครับ ต่อแต่นี้ไปผมจะขออนุญาติเล่าเรื่องถึงมโนปณิธานความปารถนาของผม ความในใจ ประสพการณ์ต่างๆของผมให้หลายๆท่านได้รับรู้บ้างด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็เป็นการบันทึกไว้เป็นลายลักษ์อักษร เคยตั้งใจที่จะเขียนเป็นจดหมายเล่าความปารถนาในใจของตัวเองไปให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่าน (หลวงพ่อพระราชพรหมยาน)ซึ่งต่อไปในการเรียกองค์ท่านของผมจะเรียกว่าหลวงพ่อ หรือว่าพ่อสั้นๆนะครับ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มีโอกาศเขียนไปหาท่าน มีความตั้งใจไว้ก่อนที่จะมีหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่มแรกไม่นานพอหนังสือลูกศิษย์บันทึกออกมาก็มีความรู้สึกว่าสิ่งที่เราคิดก็มีคนอื่นคิดและก็มีคนทำจนสำเร็จและก็มีอีกหลายๆเรื่องมากๆที่พอนึกว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้พอไม่นานก็จะต้องมีคนทำ แม้กระทั่งเรื่องการอยากจะรู้ว่ามีใครบ้างนะที่ปารถนาพระโพธิญาณ ทำไงนะจะรวมตัวกันได้ ก็พอดีเป็นการบังเอิญเปิดเนตขึ้นมาเปิดเข้ามาพบนี่แหละทั้งๆที่ผมเล่นเนตกับเขาไม่เป็นหัดได้ไม่กี่วันเรื่องการพิมพ์ก็ไม่ค่อยจะเป็นอีก เมื่อเข้ามาก็เจอเรื่องราวของพุทธภูมิเข้าพอดีทำให้นึกถึงคำของท่านพ่อว่าเรื่องบางอย่างมันไม่ใช่หน้าที่ของเราถึงเราจะคิดหรืออยากจะทำก็ใช่ว่าเราจะทำได้ทุกเรื่องเท่าที่สังเกตุมาก็จริงของท่านทุกเรื่อง ก่อนเล่าเรืองอื่นๆขอเล่าเรื่องอารมณ์ใจความตั้งใจไว้คิอ
    ในสมัยที่เป็นนักบวชประมาณปี 2529 ถึงปี 2531อารมณ์ในตอนนั้นซึ่งมีความเลื่อมใสในท่านพ่อมากเพราะปฏิปทาของท่านมันอยู่ในความทรงจำมานาน นานจนไม่รู้ว่าลีลาต่างๆที่ติดมาเป็นเรียกว่าสันดานนี้เราไปรู้มาจากใครไปจดจำมาจากใหน ตั้งแต่เป็นเด็กจำความได้คือหมายความว่าเมื่อตอนเด็กได้ยินพ่อในชาตินี้สั่งสอนแม่ในชาตินี้สั่งสอนเกือบทุกอย่างที่ได้รับมานั้นมันคุ้นหูมันเหมือนเคยได้รับฟังมาแล้วเพียงแต่ไม่รู้ว่าที่ใหนมันง่ายมากที่เข้าใจคำสั่งสอนของห่อและแม่นั้น ต่อมาเมื่อมาเจอหนังสือประวัติหลวงปู่ปานและได้พบหลวงพ่อครั้งแรกเมื่อ วันที่5 ธันวาคม 2527 ที่บ้านซอยสายลมบ้านของท่านเจ้าคุณเสริม แต่นั้นมาก็บอกกับท่านพ่อในใจว่าพ่อท่านนี้นี่เองท่านอยู่นี่เองที่ลูกหลงไปเที่ยวหาลีลาท่าทางลักษณะปฏิปทาจาริยวัตแบบนี้นี่เองที่ลูกคุ้นเคย คำสั่งสอนของท่านนั้นทุกคำยังจำได้จนทุกวันนี้ ยิ่งรู้เรื่องราวที่ท่านเขียนไว้ในเรื่องจริงอิงนิทานฉบับพิเศษตำนานของพระเจ้ามังรายมหาราชสมัยเชียงแสนจนถึงสมัยปัจจุบันอันเป็นชาติสุดท้ายมันมีความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองอยู่ในเหตุการนั้นๆตลอดเวลาเรื่องราวของพ่อนั้นในความรู้สึกของลูกนี้เป็นตำนานของผู้กล้าเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ของลูกผู้ชายชาตรีท่านหนึ่งที่ได้กระทำบำเพ็ญมานานหนักหนาลูกๆของพ่อทุกคนรู้ดีว่าพ่อบำเพ็ญเพื่อพระโพธิญาณมานานขนาดใหน มาในชาติปัจจุบันอันเป็นชาติอวสานต์ท่านลาจากพุทธภูมิจบกิจของท่านไปแล้วลูกขออนุโมทนาทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านพ่อและท่านแม่บำเพ็ญแล้วตั้งแต่ตันจนถึงกาลอวสานต์ และโมทนากับท่านปู่ท่านย่าท่านตาท่านยายพี่ๆน้องๆตลอดจนทุกท่านที่มีพระคุณเคยได้เกิดร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเท่าที่รู้เกินกว่า16อสงขัยมาแล้ว การที่ลูกไม่ลาพระโพธิญาณนั้นลูกได้ตั้งใจมาตั้งแต่ที่เป็นนักบวชอยู่ใกล้ๆพ่อแล้วว่าจะขอเจริญรอยตามแนวทางพุทธภูมิของพ่อให้ถึงที่สุดให้จงได้เปรียบไปก็เหมือนเมื่อลูกทุกคนโตเติบใหญ่แล้วพ่อและแม่ได้แบ่งทรัพย์สินให้สุดแท้แต่ใครจะเลือกสิ่งใดไปใครชอบใจแบบใหนก็เลือกเอาไปตามใจปารถนา ในส่วนของลูกนี้จะขอเลือกสมบัติที่พ่อให้นั้นคือพระโพธิญาณแบบวิริยาธิกะซึ่งจะเติมความพิเศษเข้าไปอีกซึ่งลูกคิดว่าเป็นสมบัติสุดล้ำค่าหาประมาณไม่ได้ และที่ตั้งใจไว้คืองานของพุทธภูมิโดยที่พ่อรับภาระมาในช่วง2535ปีแรกแต่หลังจากนี้ไปช่วง2400เศษหลังในเขตพระพุทธศาสนานี้ลูกของท่านพ่อคนนี้จะขออาสารับใช้พระพุทธศาสนาเช่นเดียวกันกับพระเจ้าพรหมมหาราชฉันนั้น จะขอเกิดเหมือนที่ท่านพ่อเกิดจะทำให้คล้ายที่ท่านพ่อทำทุกๆอย่างเท่าที่สติปัญญาความรู้ความสามารถจะทำได้ แม้แต่วัดท่าซุงแห่งนี้ก็ได้ตั้งใจไว้ว่าจะขอเกิดมาเป็นคนไทยเป็นคนดูแลก่อสร้างบูรณะปฏิสังขรในสมัยเดียวกับท่านฮิตเล่อร์และท่านมุตโสลินีขอให้ลูกนี้จงได้มีโอกาศมีเดชมีอำนาจมีปฏิภาณสติปัญญาดีความรู้ความสามารถมีทรัพย์สินไม่น้อยกว่าใครในโลกและทุกสถานที่ในทุกครั้งที่เกิดขอให้มีพรรคพวกบริวารที่มีสติปัญญาดีซื่อสัตย์จงรักภักดีเป็นสัมมาทิฐถิจำนวนมากมหาศาล เพื่อบูรณะวัดท่าซุงให้เป็นถาวรวัตถุที่สวยงามคงทนมีอายุยืนยาวไปจนกว่าจะสิ้นพระพุทธศาสนานี้ อันนี้เป็นหนึ่งในอีกหลายๆเรื่องที่ได้ตั้งใจไว้
    จึงขอบอกถึงพี่ๆน้องๆชาวพุทธภูมิทุกท่านว่างานของพวกเรานั้นเป็นงานหนักถ้าสิ่งใหนที่ผมทำแล้วมันเป็นที่ชอบใจเป็นที่ตรงกับอัชยาสัยของใครแล้วก็โปรดช่วยสงเคราะส่งเสริมสนับในผมด้วย ส่วนผมเองก็เช่นกันสิ่งใหนถ้าไม่เกินวิสัยของผมแล้วขอปราวนาตัวเองว่าจะช่วยทุกท่านในกิจของพระโพธิญาณครับ ความตั้งใจโดยส่วนตัวคือเมื่อใดที่ผมเป็นผู้นำก็ขอให้ตัวเองเป็นผู้นำอย่างมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่าง เมื่อใดที่เป็นผู้ตามก็จะขอตามอย่างผู้ตามที่ดีมีคุณสมบัติของผู้ตามครบถ้วนเช่นกัน
    จะขอจบบันทึกแรกก่อนนะครับ
    ขอผลบุญที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้จงส่งผลให้ข้าพระพุทธเจ้าจงได้บรรลุอภิเสกพระสัมมาสัมโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษในอนาคตกาลโน้นเถิดพระพุทธเจ้าข้า
     
  10. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
    ยอดเยี่ยมครับคุณPCO
    ขอให้ความปรารถนาของท่านจงสำเร็จทุกประการเทอญ
     
  11. TONY2

    TONY2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +110
    :cool: โอ้ปรารถณาเป็นถึงพระพุทธเลยนะพวกท่าน พยายามกันหน่อยล่ะ
    :cool: ขออนุโมทนาสาธุด้วย
    [b-wai] ผู้เกิดจากดอกบัวผู้นี้ก็ยังไม่แน่ใจตัวเองซักเท่าไหร่
    จึงพูดได้ไม่เต็มปากว่า "ผมปรารถณาด้วย" ถึงพูดไปแต่มันไม่สามารถทำได้จริงมันก็ดูเท่านั้นแล ซึ่งกว่าจะได้เป็นต้องลงมาทำบารมีโพธิสัตว์อีกหลายชาติ และไม่สามารถนิพพานได้จนกว่าจะถึงเวลานั้น พวกท่านไหวไหมล่ะ? หรือควรจะนิพพานแบบพระอรหันต์ทั่วดีกว่าไหม?
    ลองคิดดูนะ..........[b-hi]
     
  12. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    อย่างนี้นี่แหละที่เค้าว่า สาวกภูมิกับพุทธภูมิคุยกันคนละภาษา ผมก็คงจะบอกได้คราวๆ ในเจตนาดีแต่ไม่มีประโยชน์กับพุทธภูมินะครับ ว่าการที่คนนึงคนจะตั้งความหวังสักอย่างนึงนี่มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับใครอยู่แล้ว ใครทำคนนั้นก็ได้ใครไม่ทำคนนั้นก็ไม่ได้ และเรื่องการบำเพ็ญบารมีนี่ใช่ว่าจะบำเพ็ญกันจนเหลือไม่กี่ชาติแล้วก็ถึงจะพูดได้ เรื่องอย่างนี้พวกพุทธภูมิด้วยกันเค้ารู้กันดีไม่มีใครว่าใคร เพราะกว่าจะบำเพ็ญบารมีมาก็ใช่ว่าจะพูดได้เลยแค่คิดอยู่ในใจก็ตั้งครึ่งค่อนระยะเวลาทั้งหมดแล้ว การที่เห็นในบอร์ดนี้พูดเรื่องพุทธภูมิกันเป็นสาธารณะก็ให้เข้าใจไว้ระดับนึงว่าคนที่มาพูดกันนี่ใช่ว่าจะสักแต่พูดกันอย่างเดียว เพราะเรื่องการปฏิบัตินี่ต่างคนเค้าก็ทำกันเต็มที่ไม่จำเป็นต้องสาธยายกันมาก การที่มีพุทธภูมิมาพูดเรื่องอะไรต่างๆ จนดูเหมือนไม่มีค่าก็เพราะเป็นนิสัยของพุทธภูมิเค้า ซึ่งผู้รับต่างหากที่ใครจะสามารถเห็นประโยชน์ที่เค้ามุ่งหมายให้ในการพูดคุยกัน ผมไม่ได้ว่าอะไรนะครับ เพียงแต่อยากให้ปรับความเข้าใจตามความเป็นจริงพื้นฐานว่าตัวใครก็ตัวมัน อย่าไม่ใส่ใจกับจริตคนอื่นให้มากกว่าจิตใจของตนเอง เพราะปัญหาทั้งมวลก็มาจากใจของตนเองนั่นแหละครับที่สร้างมันขึ้นมา ถ้าสิ่งที่ผมพูดทำให้จิตใจขุ่นมัว ผมก็ขอน้อมรับกรรมนั้นด้วยใจจริง ขอบคุณครับ
     
  13. PCO

    PCO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +3,626
    ผมเห็นด้วยกับคุณGenerationครับวิสัยของพุทธภูมินั้นคนที่รักในพระโพธิญาณประพฤติปฏิบัติในแนวทางพระโพธิญาณด้วยกันเท่านั้นจะมองกันออกและคุยกันเข้าใจ เหตุผลคือจะขออนุญาติยกสักสองตัวอย่างนะครับตัวอย่างแรกยกเอาวิสัยของคนที่เป็นพ่อมาเทียบเคียงเพื่อให้พอมองเห็นภาพ วิสัยของคนที่เป็นพ่อที่รักลูกนั้นย่อมที่จะทำทุกอย่างที่จะให้ลูกของตัวเองมีความสุข เริ่มต้นตรงแค่พอภรรยาบอกให้รู้ว่าเรามีลูกแม้ว่าพึ่งจะเริ่มปฏิสนธิในครรภ์เท่านั้น จะมีความรู้สึกทันทีในความรับผิดชอบ ในภาระหน้าที่ จะสำรวจรอบกายในทันทีถึงความพร้อมว่าตัวเองมีความพร้อมอะไรบ้าง จะมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ทันที พฤติกรรมของคนที่มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อคนจะเริ่มเปลี่ยนไปในทันที ทีนี้มาดูคนที่เป็นพ่อทำเอาอย่างย่อนะครับ พ่อจะทนุถนอมตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง ทำงานมากขึ้น ทำอะไรอยู่ก็จะคิดถึงลูกที่จะเกิดมา เห็นอะไรก็อยากที่จะหามาสะสมไว้ให้กับลูก วางแผนต่างๆในปัจจุบันยันในอนาคตเพื่อลูกเพื่อเมียไปต่างๆนา เพื่อลูกนั้นพ่อจะทำได้ทั้งเรื่องดีและเรื่องที่ไม่ดีเรื่องที่เป็นบุญและเป็นบาปเพื่อให้ลูกมีความสุข เมื่อลูกได้เกิดมาพ่อก็จะวุ่นวายไปด้วยประการทั้งปวงดูว่าของที่เตรียมไว้ต่างๆนั้น พอหรือปล่าว ดีหรือปล่าว ลูกจะใช้ได้หรือปล่าว เมื่อลูกยังเล็กช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้ พ่อก็เฝ้าดูอยู่ไม่ห่างแม้ยามนอนก็จะนอนข้างๆเปลี่ยนกันกับแม่คอยดูคอยฟังว่าลูกจะเป็นอย่างไร ทุกข์ร้อนอะไรไม๊ ลูกหลับแล้วพ่อจะยังเฝ้าดูเรียกว่าริ้นไม่ให้ไตร่ไรไม่ให้ตอม มดเล็กๆสักตัวแค่เข้าใกล้ ลูกของพ่อนั้นหมายความว่าตายทันที ยุงสักตัวแค่บินผ่านมันยังไม่ทันได้กัดเลย บางตัวแค่มองมันยังไม่ทันได้มองลูกด้วยซ้ำไป มันแค่อาจจะบินผ่านมาหรือหลงติดอยู่ในห้องเท่านั้นแต่โทษของมันคือตายทันที นี่เอาแค่เรื่องลูกอย่างเดียวที่คนเป็นพ่อนั้นทำแม้กระทั่งเรื่องที่มันเป็นบาป ในสำนักพระยายมของท่านลุงพุฒผมว่าแค่มดกับยุงนี่ตอนนี้ก็คงคอยที่จะชี้ตัวอยู่แล้วคนที่ฆ่าเขาเหล่านั้นคงจะมากพอดู อีกสักตัวอย่างที่พุทธภูมิต้องทำทั้งๆที่มันเป็นบาปหนักคือการฆ่าคน เอาตัวอย่างซักหน่อยนะพอเป็นกระษัยยา ยกตัวอย่างเช่นพระเจ้าพรหมมหาราชตอนกู้ชาติต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไปเท่าไร พระนเรศวรท่านก็เป็นพระโพธิสัตว์ในสมัยปัจจุบันท่านเหลืออีกเพียง 5 ชาติเท่านั้นสมัยกู้ชาติพระองค์ท่านก็ต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไปเท่าไร สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชท่านก็ต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่น้อยเลยสมัยกู้ชาติของท่าน ทหารทั้ง 500 คนนั้นพุทธภูมิทั้งหมดเพราะถ้าไม่ใช่วิสัยของพุทธภูมิทำไม่ได้ครับ คนกล้าที่จะตายเพื่อชาตินั้นมีมากมายใครก็ทำได้ไม่จำเป็นต้องพุทธภูมิเท่านั้น พุทธภูมิต่างจากชาวบ้านเขาก็คือ บารมี 10 ที่เข้มกว่าสาวกทั่วไป พุทธภูมิจะทำอะไรก็ต้องประกอบไปด้วยปัญญาที่จะต้องรอบคอบรอบรู้กว่าคนทั่วไปเสมอ ในการรบทุกครั้งเราจึงชนะ ที่ชนะเพราะไม่ใช่กล้าและฝีมือดีอย่างเดียวต้องใช้สติปัญญาจังหวะโอกาส สู้ได้เราถึงจะสู้ พุทธภูมิทุกท่านไม่มีใครยอมตายโง่ๆแบบขาดทุนหรอกครับ ไม่อย่างนั้นพ่อกำนันจันของผมคงไม่พาผมเผ่นอ้าวไปตั้งหลักรวมกับสมเด็จพระเจ้าตากหรอก สมเด็จพระนเรศวรตอนที่พระองค์ปีนกำแพงนำทหารเข้าไปตีค่ายนั้นพระองค์ท่านก็มีคาถาอาคมดีฟันแทงไม่เข้า ถ้าไม่อย่างนั้นตายสถานเดียวตั้งแต่ยังไม่ทันได้เหยียบบันไดขั้นแรก ความรู้สึกส่วนตัวของผมนั้นมันคล้ายกับอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆแทบจะทุกครั้ง นิสัยโดยส่วนตัวรวมทั้งคำที่พ่อและแม่สั่งสอนที่ว่าไม่ให้เป็นคนนิ่งดูดายมันคงจะเป็นสันดานของผม ยิ่งเรื่องของการกู้ชาติแบบนั้นรื่องที่ผมจะไม่เสือกกับเขานี่คงจะไม่มีแน่ คงจะย่องๆตามไปเป็นทหารเลวกับท่านเหล่านั้นมาบ้าง สังเกตุนิสัยตัวเองมันเป็นอย่างนั้น จากตัวอย่างย่อๆเราก็จะพอมองเห็นว่าท่านเหล่านั้นมีความเสียสละมากมายเพียงใดถึงจะมีเมตตาปรานีขนาดใหนยอมอุทิศตัวเสี่ยงอบายภูมิตลอดเวลาขึ้นชื่อว่าความดีของพระโพธิสัตว์เจ้านั้นพูดในแง่มุมใหนก็ไม่มีวันจบสิ้น ในส่วนของผมที่จะต้องทำก็คือศึกษาหาความรู้ทั้งทางโลกทางธรรมตลอดเวลาเท่าที่ยังมีลมหายใจ เพราะถ้าเราเป็นลูกเราก็ต้องการพ่อที่เก่งกว่าใครในโลกดีกว่าใครในโลกคนที่เป็นลูกทุกคนจะคิดกันแบบนี้ คนที่เป็นพ่อก็เหมือนกันถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลูกของตัวเองอย่างน้อยก็ไม่ด้อยกว่าใครในโลกนี้เหมือนกัน เพราะฉนั้นการที่ผมเติมความเป็นพิเศษเข้าไปในวิริยาธิกะพิเศษของผมก็เพราะวิสัยของความเป็นพ่อ ถ้าเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อคนเป็นแม่ได้ก็จะเข้าใจความรู้สึกของพุทธภูมิได้ง่าย ต่างกันเพียงแต่ความรู้สึกของท่านพุทธภูมิไม่วันที่จะเสื่อมคลายเป็นอจลังคือแน่นอนไม่โยกโคลง ส่วนของผม ผมก็ปารถนาที่จะสงเคราะห์คนที่ผมสงเคราะห์ได้ให้มีความสุข ในทุกที่ทุกสถานที่ ที่จะต้องเกิดตั้งแต่การเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา เป็นพรหม และท้ายที่สุดคือพระนิพพานเมืองแก้วนั้น เรื่องอบายภูมิในความคิดของผม ผมคิดว่าพอแล้วจะไม่ยอมไปเสียเวลาอีก ถามว่ารู้ได้อย่างไร ผมก็ตอบว่าผมก็ลูกพ่อวัดท่าซุงนี่ บางระจันพากันเผ่นยังไงเวลาที่ผมจะตายผมก็เผ่นแบบนั้นแหละ ก่อนที่จะจบบันทึกนี้ ขอสรุปสักหน่อยนะครับการปารถนาพระโพธิญาณนั้นคือจุดหมาย การอธิฐานนั้นเป็นความตั้งใจที่จะไปให้ถึงจุดหมายปลายทางให้จงได้ ซึ่งการอธิฐานมีหลายกรรมหลายวาระที่อธิฐาน พุทธภูมินั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ท้ายที่สุดสิ่งที่จะต้องทำคือการอธิฐาน สิ่งที่เป็นคุณธรรมสมบัติของพุทธภูมินั้นก็มีขันติ โสรัจจะ และ ทาน ศีล ภาวนา ใน 3 อย่างนี้ถ้าพิจารนาเราจะเห็นว่าบารมี ทั้ง 10 ทัศ ทั้งอย่างต้น อย่างกลาง และอย่างท้ายที่เรียกกันว่าปรมัตถบารมีอยู่ในนี้ทั้งหมด ต่างกับสาวก ที่บารมีท้ายที่จะหนักในเรื่อง ศีล สมาธิ และปัญญา ในส่วนของผมไม่ว่าผมจะทำอะไรก็แล้วแต่ผมจะอธิฐานทุกครั้ง
    และในวันหน้าที่ได้ตั้งใจไว้ที่จะพยายามอธิฐานทุกเมื่อเชื่อวันก็คือขอให้ผลบุญที่ได้บำเพ็ญแล้วตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้จงได้ไปเกิดในสมัยองค์สมเด็จพระศิริศรีอาริยเมตไตรพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้ได้มีโอกาศทำเหมือนกับที่พระองค์ท่านทำในสมัยพระเจ้าบรมสังขจักร คือเมื่อรู้ข่าวว่ามีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้วในโลกก็สลบลงในทันทีเพราะปีติอันล้นพ้นนั้น3ครั้งเมื่อฟื้นขึ้นมาแล้วก็สละทุกๆอย่างเป็นทานจากนั้นก็จะเดินไปด้วยเท้าเปล่า เพื่อไปพบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เดินไม่ไหวก็จะคลานไป คลานไม่ไหวก็จะเอาอกคืบไป ถ้าเอาอกคืบไม่ไหว ก็จะกลิ้งตัวไปให้ถึงให้จงได้ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ ขอให้ได้ฟังพระสัจจะธรรมคำสั่งสอน ขอจงได้เปล่งวาจาปรารถนาพระโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษเพื่อขอบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระหนึ่งในอนาคตกาล ขอจงได้รับพระพุทธพยากรณ์เป็นนิยตโพธิสัตว์ ขอจงได้เด็ดหัวของตัวเองถวายเป็นพุทธบูชา และการเด็ดหัวตัวเองเป็นพุทธบูชานี้ในอนาคตวงค์ทั้ง10พระองค์นั้นขอจงได้เด็ดหัวตัวเอง7ครั้งเจ็ดสมัย เอาผ้าชุบน้ำมันพันตัวจุดเป็นประธีปบูชา 3 ครั้ง 3 สมัย ก็เพื่อความปารถนาพิเศษ
    ในท้ายบันทึกในวันนี้ 28 ธันวาคม 2548 ข้าพระพุทธเจ้าขออ้างถึงกุศลผลบุญราศรีที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้และที่จะมีต่อไปในอนาคตกาล อันเอนกอนันต์นั้น จงส่งผลให้ข้าพระพุทธเจ้าจงได้บรรลุอภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษในอนาคตกาลโน้นเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2007
  14. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    ขอบคุณในความหวังดี แต่คุณเข้าใจหรือเปล่าว่ากำลังใจคืออะไร คุณคิดว่าการประกาศตนว่าปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าแล้วจะทำให้เค้าดีเลิศประเสริฐมากกว่าคนทั่วไป คนที่เค้าปราถนานี่เค้าก็ไม่ใช่ปัญญาอ่อนกันหรอกครับ เค้าถึงได้ตั้งความปราถนาไว้ เพราะถ้ามันเป็นกันง่ายๆ ก็คงจะมีพระพุทธเจ้ากันแทบทุกปีแล้วละมั้งครับ การที่ต้องประกาศให้คนอื่นรู้ก็เพื่อทดสอบกำลังใจกัน คุณคิดว่าคนที่พูดแล้วทำไม่ได้ กับคนที่พูดแล้วทำได้อย่างไหนน่านับถือกว่ากัน การที่เค้าออกมาพูดก็เพื่อสร้างกำลังใจในการปราถนาว่าจะต้องทำให้ได้อย่างแน่วแน่นตามที่ใจตนหวังไว้ ทั้งกาย วาจา ใจ ส่วนใครจะฟังแล้วเชื่อไม่เชื่ออันนั้นก็แล้วแต่ปัญญาของผู้ฟังว่าจะฟังแล้วจะได้กุศลหรืออกุศล ถ้าคุณคิดอะไรต่างๆ ทั้งที่ดีและไม่ดีคุณก็ต้องรับผิดชอบในความคิดของคุณเองทั้งนั้นนะครับ ไม่มีใครไปนั่งรับผิดชอบในความคิดของคุณได้ กรรมใดใครทำคนนั้นก็รับ เรื่องอย่างนี้แม้คุณเองก็เจอในชีวิตประจำวันกันแทบจะทุกนาทีก็ว่าได้ ถ้าคุณยังใช้ปัญญาในการพิจารณาในการจะเข้าใจเหตุและผล คุณก็จะวางเฉยไปเอง และคุณกลับจะยินดีกับเค้าด้วยในการตั้งใจในความดี บุญกุศลที่จะได้รับก็ไม่ใช่ใครอื่นเลยก็ตัวคุณเองเท่านั้น ในชีวิตของคนเราทุกวันนี้ก็ต้องพบเจอกับเรื่องอย่างนี้ตลอดเวลาอยู่ที่ว่าใครจะวางใจให้เป็นกุศลหรืออกุศล จริงๆ ผมจะต้องขอบคุณ คุณที่ตั้งคำถามนี้ เพราะอาจจะมีคนที่คิดอย่างคุณและไม่เข้าใจในการคิดพิจารณา จนอาจจทำให้สิ่งที่จะทำให้ได้ความดีกลับเป็นความไม่ดีแทน สรุปทั้งหมดอยู่ที่ตัวคุณเองนะครับจะเป็นผู้เลือกว่าจะให้เป็นบุญหรือบาป ดังนั้นพิจารณาไตร่ตรองกับความคิดคุณให้ดีไม่ใช่เฉพาะเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะมันก็เกิดขึ้นกับทุกๆ เรื่องที่คุณรับรู้เข้ามา จะวางใจให้เป็นสุขหรือทุกข์ก็เลือกันเอาเองนะครับ ขอบคุณครับ
     
  15. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +3,656
    หลวงพี่ท่านนึง ท่านเคยบอกไว้ตอนไปทำบุญกับน้องKomAon11และพี่พงษ์ศักดิ์ว่า ถ้าอยากให้บารมีเต็มเร็วๆ ก็หมั่นตัดหัวบูชาพระบ่อยๆ อันนี้ไม่ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไครสงสัยก็ลองได้นะคับ อิอิ

    และขอโมทนากับความตั้งใจของท่านทั้งหลายด้วยคับ ยังไงซะ ถ้าไม่ล้มเลิกความปราถนาก็คงจะได้เป็นไม่ชาติใดก็ชาตินึงนะคับทุกท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2006
  16. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    เท่าที่ฟังดูน่าจะเป็นการเปรียบเทียบธรรมมากกว่า ถ้าอย่างนั้นพระพุทธเจ้าองค์ต่อๆ ไปก็คงต้องทำเป็นแบบอย่างสิครับ ถึงจะได้บารมีเต็มไวๆ ผมว่าหลวงพี่ท่านน่าจะหมายถึง "ทำกำลังใจให้เต็ม" มากกว่าครับ ถึงได้เปรียบเทียบเหมือนกับการบำเพ็ญบารมีของพระศรีอารีย์ เพื่อให้เห็นชัดว่าถ้ากำลังใจเต็มสามารถที่จะถวายชีวิตให้ได้ ผลของกรรมบุญกุศลที่ได้รับยอมแรงตามกำลังใจที่ได้กระทำไป อีกอย่างนะครับ ส่วนใหญ่พระนักปฏิบัติจะสนทนากันหรือสอนลูกศิษย์บางครั้งก็ใช่ว่าจะสอนให้ตรงๆ ต้องใช้ปัญญาของตนเองพิจารณาตามไปด้วย เพื่อจะได้ไม่ฝืนคำสอนของพระพุทธองค์ อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้ฟังซะทุกอย่าง ผมเองครั้งนึงก็เคยอยู่ในระหว่างการสนทนาธรรมของพระปฏิบัติ แต่ละคำพูดถ้าฟังกันธรรมดาก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าใช้ปัญญาพิจารณาตามก็จะเห็นว่ากำลังแลกเปลี่ยนความรู้ภูมิธรรมกันชนิดที่ว่าทำให้แจ่มแจ้งกันเลยที่เดียว
     
  17. PCO

    PCO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +3,626
    ขอขอบคุณ คุณKasin84000 ที่ให้พรเป็นกำลังใจขอบคุณมากครับ
     
  18. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
    บรรลุแล้วอย่าลืมมาโปรดผมด้วยนาครับ
    อ้อ ไม่สิ ผมคงไปหาท่านถึงที่เลย
    ขอบคุณล่วงหน้าครับ :love:
    (b-smile)
     
  19. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    ถูกต้องนะครับ!!! แต่โดยส่วนตัวจะโต้ตอบเฉพาะคำถามหรือข้อขัดแย้งที่แย้งแล้วจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า ถ้าแย้งหรือโต้ตอบไปแล้วเป็นเพียงการแก้ต่างให้กับตัวเอง ไม่ใช่มารยาทของพุทธภูมิครับ ถ้าสังเกตให้ดีส่วนใหญ่การสนทนาธรรมบางครั้งผู้พูดกับผู้รับฟัง อาจได้ข้อธรรมไม่เทียบเท่าบุคคลที่สามก็มีนะครับ เนื่องจากบุคคลที่สามมิได้มีจิตลำเอียงเกี่ยวข้องกับเรื่องที่พูดคุยโต้ตอบกันอยู่ เลยมีสมาธิพอที่จะพิจารณาเห็นประโยชน์ได้ เรื่องอย่างนี้มีเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย ผมเชื่อว่าน่าจะเกิดกับผู้ปฏิบัติหลายๆ ท่าน ถ้าผ่านตรงจุดธรรมะล้นใจมาได้ก็คงจะสบายไปเปาะนึงแล้วละครับ
     
  20. PCO

    PCO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +3,626
    กว่าผมจะบรรลุนี่ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรอาจจะทีหลังคุณKasinก็ได้เพราะเรื่องความปารถนาพิเศษนั้นไม่มีกำหนดแน่นอนคือถ้าเป็นนักมวยก็ชกจนกว่ากรรมการจะเหนื่อยหรือเห็นว่าสมควรแก่เวลา ในส่วนตัวของผมก็แค่ปารถนาจะสงเคราะเฉพาะที่เขาสัทราเลื่อมใสที่ไม่เกินวิสัยที่จะสงเคราะได้อันนี้พูดถึงในส่วนของบริษัทบริวาร สิ่งที่ผมปารถนาที่จะให้พวกเขาได้รับในฐานะที่ติดตามผม คือ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณดีทุกคนทุกชาติทุกที่ทุกสถาน มีปฏิภาณปัญญาดีเป็นเลิศ มีโภคทรัพย์มาก มีเดชมีอำนาจมากตามพุทธคติคือพุทธบูชามหาเตชะวรรณโต ไว้วันหน้าถ้ามีโอกาศจะพูดรายละเอียดเรื่องความปราถนาพิเศษว่ามีอะไรบ้าง ในส่วนของพี่ๆน้องๆที่ปารถนาพระโพธิญาณด้วยกันที่ผมพอจะพูดได้ในตอนนี้ก็คือ มีอะไรก็ขอให้นึกถึงสมเด็จองค์ปฐมท่านเถิดนะครับ พระองค์ท่านเป็นต้นของพระพุทธศาสนา เป็นต้นของพุทธวงค์ที่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่หน่อเนื้อพุทธางกูลทั้งหลายต้องระลึกนึกถึงพระมหากรุณธิคุณของพระองค์ท่าน และการที่เรานึกถึงสมเด็จองค์ปฐมท่านก็เหมือนเรานึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์อารมณ์ใจถ้าตั้งไว้แบบนี้โอกาศที่จะหลงทางนั้นไม่มีแน่นอนครับ สำหรับผมแล้วนอกจากสมเด็จองค์ปฐม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ทุกๆท่านแล้ว ในอดีตใกล้ปัจจุบันพระโพธิสัตว์บารมีเต็มท่านหนึ่งที่อยู่ในใจอยู่ใความทรงจำที่ผมต้องการจะทำให้คล้ายท่านให้ได้ก็คือหลวงปู่ปาน คือนิสัยผมชอบคนเก่งที่เป็นคนดี เก่งอย่างเดียวไม่ดีผมก็เฉยๆ ดีอย่างเดียวไม่เก่งผมก็เฉยๆ หลวงปู่นั้นท่านรู้จริงท่านเก่งจริงอภิญญาญาณของท่านเป็นสมาบัติแปดอภิญญา และอภิญญาของท่านเป็นอภิญญาของพระโพธิสัตว์บารมีเต็ม กำลังอภิญญานั้นย่อมต่างจากสาวกปกติแน่ เรื่องความดีนั้นเกินกว่าที่จะบรรยายเรื่องราวของท่านนั้นเป็นแม่แบบให้กับคนที่ปารถนาพระโพธิญาณได้เป็นอย่างดี ในอดีตที่ใกล้ปัจจุบันที่พิสูจได้ที่ชัดเจนเห็นได้ชัดสมกับพระโพธิสัตว์บารเต็มในส่วนของผมแล้วผมก็เห็นมีแต่หลวงปู่ปานวัดบางนมโคนี่แหละ ส่วนอีกท่านหนึ่งนั้นที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับผมที่ผมจะไม่มีวันลืมเลือนจางหายไปจากใจก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงที่เป็นแม่แบบที่ผมชอบในลีลาแบบนี้พุทธภูมิแนวนี้แนวของนักรบแนวของลูกผู้ชายชาตรีที่ครบเครื่องสมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยประการทั้งปวงการสั่งสมบุญญาธิการของท่านนั้นยาวนานตั้งแต่สมัยสมเด็จองค์ปฐม ความเป็นพหูสูตรนั้นไม่ต้องพูดถึง ความเคารพรักอาลัยในปฏิปทาในองค์ท่านของผมนั้นสุดที่จะบรรยายได้ สิ่งที่จะทดแทนพระมหากรุณาธิคุณตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมเป็นต้นลงมามีพระเดชพระคุณหลวงพ่ออันเป็นที่สุดนั้นคืองานของพุทธภูมิที่จะต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะมีสติปัญญากำลังความรู้ความสามารถและต้องทำไปจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางคือบรรลุอภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษให้จงได้ สรุปนะครับอนุสติ 10 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พุทธานุสติ ธรรมมานุสติ สังฆานุสติเท่านั้นที่จะไม่ทำให้หลงทาง ขออวยพรให้คุณกสิน 84000 และทุกๆท่านสมปารถนาในพระโพธิญาณนะครับ 3 มกราคม 2549
     

แชร์หน้านี้

Loading...