รัก

ฉันท์เยี่ยงนี้ เห็นที ต้องขอลา
เพราะพลัง วังชา มิพอแล้ว
ขอผลัดไป เช่นกัน นะแม่แก้ว
ขออำลา ไปนอนแร๊ววว สวัสดี...

 

"Love is like standing in the wet cement. The longer you stay,the harder it is to leave.And you can never go without leaving your shoes behind."(ช่วยแปลหน่อย)

 

RINVARA<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4193053", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

"Love is like standing in the wet cement.
รัก คล้ายกับการยืนอยู่บนพื้นซีเมนต์ที่ยังไม่แห้ง

The longer you stay, the harder it is to leave.
ตราบที่คุณยังยืนอยู่บนพื้นซีเมนต์เปียกนั้น มันก็ยากที่จะก้าวเท้าออกมา

And you can never go without leaving your shoes behind."
และคุณก็จะไม่สามารถก้าวออกมาจากมันได้ โดยที่ไม่ทิ้งรองเท้าของคุณไว้บนพื้นซีเมนต์ที่คุณยืนนั้น



ผู้ที่กล่าวกลุ่มประโยคข้างต้น คงมีเจตนาหมายถึงความรักมักทำให้คุณต้องเสียสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรืออารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด ให้กับการมีความรัก...

เอ... แต่ "พรานพิเศษ" ไม่เห็นเสียอะไรไปกับการมีความรักเลยนะ
เพราะไม่เคยคิดว่าจะได้อะไร แต่กลับคิดว่าจะให้อะไรได้มากกว่า อย่างน้อยก็ได้รักอ่ะนะ

แล้วถ้ารู้ว่าซีเมนต์มันยังไม่แห้ง จะโง่ใส่รองเท้าลงไปเหยียบมันทำไมล่ะจร๊ะ... ก็ถอดรองเท้า เหยียบมันไปทั้งเท้าเปล่าๆนี่ล่ะ แล้วก็ก้าวออกมา เลอะก็ล้าง ล้างเสร็จก็ค่อยใส่รองเท้าต่อ ไม่เห็นเสียอะไรเลย นอกจากน้ำล้างเท้า แถมยังได้ฝากรอยเท้าเอาไว้ว่าเคยได้ก้าวเข้ามาเหยียบอย่างชาญฉลาด
ได้ก้าวเท้าเข้ามารัก ได้รักอย่างมีสติปัญญา...

Amen...

 

ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน..เลยเพิ่งเห็น ขอบคุณนะคะ คุณป๋า
จริงที่สุด เราจะเห็นดาวสวย เมือท้องฟ้ามืดสนิท

 

ความรัก....มีหลายความหมาย
* แค่ได้อ่านข้อความก็เกิดหลงรักขึ้นมาในบัดดล ถึงแม้ไม่ได้เห็นหน้า
* และในทางตรงกันข้ามคุยกันครั้งเดียวอาจจะไม่น่าสนใจไปเลยก็มี
* ยิ่งคุยดียิ่งทำให้มีเสน่ห์....ชวนให้เฝ้าติดตาม...
หรือเราจะมีปัญหาเสียแล้ว.....

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=0ibwC_PfuHo&feature=related]YouTube - เด็กมีปัญหา - สุดา ชื่นบาน , ฉันทนา กิติยพันธ์[/ame]

 

ขอส่งความสุขให้เพื่อนพ้อง...น้องพี่..เจ้าค่ะ

[VDO]<object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/uQzMaE4KLlI?hl=en&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/uQzMaE4KLlI?hl=en&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>[/VDO]

ขอให้ทุกๆ วัน เป็นวันที่มีความสุขนะคะ
​

 

ขออนุญาตร่วมแจมหน่อยนะ...

"ความรักเหมือนซีเมนต์เปียก ยิ่งคุณยืนอยู่นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งจากไปได้ยากเท่านั้น และคุณจะไม่มีวันจากมาได้เลย โดยที่ไม่ได้ทิ้งรองเท้าไว้"(อีกมุมมองนึงนะคะ มองหลายๆมุมค่ะ โอ.เค..นะ ชิว ชิว)
ขอเสียงตอบรับจากจขกท.ด้วย.

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เทเซอัส<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4207021", true); </SCRIPT>
สมาชิก

ขอเสียงตอบรับจากจขกท.ด้วย.

ตอบรับ ปิ๊บ ปี๊บบบ... จุ๊กกรู

 

มายืนยันจ๊ะ .......

เพิ่งไปนอนบนพื้นซีเมนต์เปียกมาขนแหว่งเลย - -"

แอบนอนร้องไห้ ไม่กล้าออกไปไหนนอกบ้านหลายซะวัน .....

ตอนนี้เลยต้องหวีปัดๆทรงบ็อบไปก่อน ......

แล้วก็ไม่ได้ทิ้งรองเท้านะจ๊ะ ... แค่ฝากหลักฐานพิมพ์รอยนิ้วเท้าไว้นิดๆเอง ..... แหะๆ

 

เปียกแบบนี้อ๊ะป่าว

ดีนะเนี่ยไม่ยืนอยู่นานๆ ติดแหงกแน่ๆ



​

 

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
วสันตดิลก แปลว่า รอยแต้มที่กลีบเมฆในฤดูฝน น่าจะหมายถึง ฉันท์อันมีลีลาว่าฤดูฝนได้เริ่มต้นแล้ว

คณะและพยางค์
ฉันท์บทหนึ่งมี ๒ บาท บาทหนึ่งมี ๒ วรรค วรรคต้นมี ๘ คำ วรรคท้ายมี ๖ คำรวมทั้งบาทมี ๑๔ คำ
สัมผัส สัมผัสบังคับดูได้จากแผนตามเส้นโยงสัมผัส และจากตัวอย่างคำที่สัมผัสกันใช้วงกลมสีเข้ม
คำครุ ลหุ บังคับ ครุ และลหุ ตามที่เขียนไว้ในแผน

ฉันท์ยังมีอีกหลายชนิดที่มิได้นำมาเสนอไว้ ณ ที่นี้ หากเยาวชนผู้ใดสนใจ อาจศึกษาเพิ่มเติมจากตำราฉันทลักษณ์ของพระยาอุปกิตศิลปสาร หรือจากหนังสือเรียนภาษาไทย การเขียน ๒ (ท.๐๔๒ ชั้น ม.ปลาย โรงพิมพ์อักษรเจริญทัศน์)

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
ลักษณะการแต่ง มี ๔ วรรค วรรคหน้ามี ๘ คำ วรรคหลังมี ๖ คำ แต่งโดยใช้คำครุ (สระ อะ) ลหุ (สระอุ) ในการแต่ง
คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓
แผนผัง

​

​

ตัวอย่าง
บอกหน่อยเถิดว่าดะรุณิเจ้า ก็จะยอมสมัครรัก
ตูข้าสมัครฤมิสมัคร ก็มิขัดจะคล้อยตาม
จาก บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา


คำครุ ลหุ
คำครุ ลหุ นี้ เป็นคำที่บังคับใช้เฉพาะร้อยกรองประเภทฉันท์เท่านั้นเครื่องหมายที่ใช้แทนคำครุ มีลักษณะเหมือนไม้หันอากาศ คือ ั ส่วนเครื่องหมายที่ใช้แทนคำลหุ มีลักษณะเหมือนสระอุ คือ

คำครุ ( ั ) เป็นคำที่มีเสียงหนัก ได้แก่ คำทุกคำที่ประสมกับสระเสียงยาวในแม่ ก กา เช่น งา ชี้ สู้ แล้ ห่อ และคำที่ประสมกับสระเสียงสั้นก็ได้เสียงยาวก็ได้และมีตัวสะกดด้วย เช่น ขม คิด นึก ปาน โชค เล็บ นอกจากนั้นคำที่ประสมกับสระอำ ไอ ใอ เอา ซึ่งถือว่าเป็นเสียงมีตัวสะกด ก็จัดเป็นคำครุเช่นเดียวกัน

คำลหุ ( ุ ) เป็นคำที่มีเสียงเบา ได้แก่ คำที่ประสมกับสระเสียงสั้นในแม่ ก กาเช่น จะ มิ ปุ และคำที่เป็นพยัญชนะตัวเดียว (ไม่มีรูปสระ) เช่นคำ ก็ ณ ธ บ่ บางทีเมื่อมีพยัญชนะ ๒ ตัวเรียงอยู่ด้วยกัน ก็จะอ่านออกเสียงสั้นเป็นลหุทั้ง ๒ ตัว เช่นจร (อ่าน จะ-ระ) มน (อ่าน มะ-นะ) พล (อ่าน พะ-ละ) วร (อ่าน วะ-ระ) ในที่ที่ต้องการลหุ ดังตัวอย่าง

 

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

​

มีความหมายเรียกกันว่า ฉันท์สายฝน เป็นฉันท์ที่มีลีลางดงามที่สุด
ประดุจความงามของน้ำฝนในวสันตฤดู มีความไพเราะเหมาะสำหรับแต่งเรื่องพรรณนา ชมเชย ให้ผู้ฟังรู้สึกไพเราะซาบซึ้งกินใจ

................................................................................................

ขอขอบพระคุณท่านพรานมาก ........ จะให้งามยิ่งกว่านี้ .........




ต้องขอเชิญท่าน และเพื่อนสมาชิกบัตรทองทุกท่าน

แต่ง (วสันตดิลกฉันท์ ๑๔) ก่อน ........ คริๆ

 

.......................................................................................................






แม่อีหนู ........ เม้าท์เสร็จหรือยังจ๊ะ !!!! .......

BERGAMOT ของป๋าหมดแล้ว ...... อย่าลืมช็อปมาด้วยนา .... (tm-love)

 

ปีใหม่ดิถีสิริฤดี.....ปิติมีริเริงกลอน
ฤทธิ์รักหทัยสิริสมร.....ก็จะร่ายสุพรพา

ผองมิตรสหายปิติฤทัย.....ทุรภัยมิจรมา
ปัญญาผลิผุดสติจะพา.....อุระหรรษ์มิขัดเคือง

 

ประมาณนั้นจ๊ะ

 

(deejai);ปรบมือ

 

​

 

denceedenceedenceedenceedencee

ปีเก่าไป ปีใหม่มา ยังเหมือนเดิม
งมมะงา หรามะงม งมงายนิ
เชื่อหรือไร สิ่งที่มอง มะไม่เห็น
ถ้าไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ ยังเหมือนเดิม​

 

คุ้นๆ นะเนี่ย..ใครหว่า

ใช่คนชอบกินเห็ดป่าว..หว่าว...หว่าว...หว่าว..
​