ม็อบพระ 400 บุก ม.ศิลปากร

ประท้วงไปก็ทำให้เขาดัง เขาเด่นมากขึ้น งานก็ดังมากขึ้นขายได้มากขึ้น
กรรมใครกรรมมัน กรรมของเขาก็ช่างเขาเถอะ

 

ภิกษุทั้งหลาย! กา เป็นสัตว์ที่ประกอบไปด้วยความเลว ๑๐ ประการ ๑๐ ประการอะไรกันเล่า? ๑๐ ประการ คือ

กา เป็นสัตว์ทำลายความดี

กา เป็นสัตว์คะนอง

กา เป็นสัตว์ทะเยอะทะยาน

กา เป็นสัตว์กินจุ

กา เป็นสัตว์หยาบคาย

กา เป็นสัตว์ไม่กรุณาปรานี

กา เป็นสัตว์ต่ำช้า

กา เป็นสัตว์ร้องเสียงอึง

กา เป็นสัตว์ปล่อยสติ

กา เป็นสัตว์สะสมของกิน

ภิกษุทั้งหลาย! กาเป็นสัตว์ที่ประกอบด้วยความเลว ๑๐ ประการเหล่านี้

แหล่งที่มา
http://www.aia.or.th/lookmonktextbook.htm#6

เดียรัจฉานวิชาใดว่าที่พระพุทธเจ้าได้ทรงห้ามไว้

อะไรเป็นเดียรัจฉานวิชากำหนดได้จากบาลีสามัญญผลสูตรหรือพรหมชาลสูตร ว่าด้วยมหาศีล กล่าวโดยสรุปได้ว่า สมณะ (พระ) ห้ามประกอบเดรัจฉานวิชา (ซึ่ง พุทธศาสนิกชนรุ่นใหม่ เข้าใจว่าเป็นเฉพาะ อาถรรพ์เวท แลกิจอันเกี่ยวด้วยสรรพเวทมนต์เท่านั้น)
เดรัจฉานวิชา ตามพระไตรปิฎกไทย ได้แก่ เป็นหมอทำนายโชค หมอทำพิธี หมอโรค (เข้าใจกันว่า วิชาแพทย์ ก็เป็นเดรัจฉานวิชาสำหรับพระ) หมอแผล หมอทำนายเสียงสัตว์ หมอดูลักษณะของ หมอดูลักษณะสัตว์เลี้ยง หมอทำนายสงคราม (นักวิจารณ์สงครามก็เป็นเดรัจฉานวิชาสำหรับพระ) หมอบวงสรวง หมอประกอบยา (เภสัชกรศาสตร์ก็เป็นเดรัจฉานวิชชาสำหรับพระ) เป็นต้น<!-- / message -->

 

เฮ่อ เวรกรรม

 

(b-no) (b-evil2) (b-angry)

 

อะไร คือ เบื้องสูง ที่บอกว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นเบื้องสูง แล้วอะไร คือเบื้องสูงบ้าง? พุทธศาสนา คือ เบื้องสูง หรือ ต่ำ ? ตอบที...

 

ผมเชื่อว่า คุณอนุพงษ์ จันทร ผู้วาดภาพนี้ เป็นคนดีมีศีลธรรม ธรรมะธรรมโมอย่างว่าจริง แต่การกระทำครั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาด ถึงแม้เจตนาจะดี ในเบื้องต้น แต่ปัญญาของท่านก็มองไม่เห็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเลย แต่พระสงฆ์และผู้มีปัญญาทั้งหลายท่านมองเห็นได้ จึงต้องทักท้วงกัน ขออย่าได้ทำเช่นนี้เลย จะวาดอะไร จะสื่ออะไรออกมาก็ให้มันสร้างสรรค์กันหน่อย ภาพแง่ลบจะเอามาสร้างสรรค์สังคมนั้นมันคงเป็นเรื่องยาก มิฉะนั้น ก็คงจะต้องทำอนุสาวรีย์คนเลวไว้ดูเต็มบ้านเต็มเมืองกันบ้างหล่ะ

 

ก็รู้ว่าพระนิสัยกาน่ะ ก้มีอยู่เเต่ก็ไม่ควรเอามาวาดหรอก เพราะมันจะกระทบทระเทือนพระส่วนใหญ่ มันทำให้คนที่ดู หรือเด็กไก้ได้สามารถมองเห็นพระสงฆ์เป็นตัวตลก หรือเป็นตัวการ์ตูนหรือปีศาสได้ ซึ่งไม่ควรจิงๆ

 

โลกธรรม...
ศิลป์...

มองทางดี...มีแต่ได้
มองทางร้าย...มีแต่เสีย

 

คาดว่าเจตนาของผู้วาดน่าจะดี

แต่ยังสื่อออกมาไม่ถูกต้องหรอก

มันแรงไป น่าจะคิดถึงผลที่จะตามมาด้วย ..

 

หากตามคูคอนเซปท์ของเจ้านี่ หากินกับภาพพระมาตลอด ภาพคนธรรมดาที่สื่อเสียดสีมันไม่แรงพอ มันไม่สะใจ เล่นกับพระนั่นแหละดี ตีตรงไหนก็ได้ ตีเสร็จบอกท่านกินปูนร้อนท้องหรือ หากไม่ได้ทำก็ไม่ได้หมายถึงท่าน ใช้วิถีทนายให้คอยแก้ต่าง อยู่ๆก็กล่าวหา จริง ใช่ พระมีทั้งดีและไม่ดี แต่ไปกล่าวหาขลุมๆโดยรวมโดยใช้สีจีวร สายสิญจ์ ตะกรุด การสักยันต์ เป็นสื่อในองค์ประกอบ ขอโทษ เขาสื่ออะไร ง่ายมาก ก็พระเท่านั้น จะพระดี พระหนุ่ย ก็ครบองค์ประกอบทั้ง4 ไปกล่าวหาท่านแล้วบอกว่าอย่าร้อนตัว หากไม่ผิดอย่าร้อนตัว เราฆาราวาสมีหน้าที่ปกป้อง หากองค์ประกอบของพุทธบริษัท4อ่อนแอ ไม่เข้าใจขาดความเข้าใจ ก็เริ่มแล้วละ ศักราชแห่งกลียุค หาแต่เงินล่าแต่รางวัล ไม่เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ หากเข้าใจแล้วก็จะไม่มีทางเดินลงนรกอย่างนี้ ทุกวันนี้เราก็รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก คนก็ยังฆ่ากันทุกวันแย่งชิงทำทุกอย่างที่เป็นบาปกรรม มันไม่ยาก จนต้องให้ไอ้ติสท์นี่มาสำแดงขาวดำให้ประจักษ์หรอก การที่จะให้วางใจเป็นกลางน่ะ ภาพนี้น่ะมันไม่ได้กล่าวอ้างอิงถึงพระที่ไม่ดี ภาพมันไม่ถึง หากดีกรีความสามารถในการสื่อไม่ถึง จะมาแตะเรื่องละเอียดอ่อนทำไม ฝีมือการเขียนอาจดี แต่ควรไปเขียนอาจมยังจะดีกว่าไปเขียนพระแบบนี้ เขียนให้ได้ประโยช์นอันใด

 

วิเคราะห์ได้ ละเอียด ชัดเจน ตรงประเด็นเลยครับ

 

สังคมไทยมักปกปิดและหวาดกลัวต่อการแสดงความเห็น
สิ่งที่ศิลปินต้องการสืออาจขัดต่อทัศนคติของสังคมโดยรวม
การตีความหมายงานศิลปะ ไม่มีขีดจำกัด

 

ไม่รู้เรื่องนี้จะจบลงยังไง แต่สิ่งนี้ก็สะท้อนว่า ต่อไปคงมีการสะท้อนภาพของพระคล้ายๆแบบนี้

มาอีกเรื่อยๆ เพราะศาสนาพุทธที่แท้ กำลังเสื่อมลงทุกวัน คนไทยตอนนี้ที่เข้าถึงแก่นพุทธจริงๆ

คงมีน้อยมาก อาจอยู่แค่หลักหมื่น นอกนั้น ส่วนใหญ่ไม่ใช่พุทธที่แท้ เป็นแค่คนที่ไหว้อะไรก็ได้

ที่ทำให้ตัวเองรวย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อนาคต ศาสนาพุทธจะเป็นอย่างไร ถ้าหมดชาตินี้

แล้วไปเกิดในชาติใหม่ จะมีโอกาสได้พบแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาเช่นนี้อีกหรือเปล่า

ชาตินี้เรามาศึกษาถึงแก่นแท้ อย่างน้อยก็ขอให้ได้เป็นพระโสดาบันในชาตินี้กันเถอะครับ

ซึ่งเป็นหลักประกันเดียวที่ทำให้เราเข้าสู่พระนิพพานได้ในชาติต่อๆไป เวลาไม่คอยใคร

ชีวิตนี้ไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ขอท่านทั้งหลายจงอย่าประมาท

 

บัวใต้น้ำแถมมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับอีก ยังไปยกย่องว่าเป็นบัวที่บานแล้ว

 

ถ้าไม่นับรวมความเห็นซึ่งเป็นแต่เพียงความเห็นแล้ว จริงๆแล้วภาพนี้จะทำให้สังคมพุทธเคลื่อนไปในทางดีขึ้นหรือเลวลง ถ้าเลวลงก็ไม่ควรอย่างยิ่ง ถ้าดีขึ้นก็ควรอยู่มิใช่หรือ

 

สมัยเป็นนักเรียนสมัยก่อนมีแต่ศิลปินดังๆเป็นอาจาร์ย อาจาร์ยสวัสดิ ตันติสุขเป็นผอ ครูเป็นติสท์ทั้งโรงเรียนยกเว้นครูวิชาสามัญกับตาฟักภารโรง (ตำนานเรื่อง คำพิพากษา) เขาสอนแบบให้เราเป็นติสท์จริงๆออกโจทย์สารพัดคอนเซปท์ เขาสอนให้เรารู้จักคิด รู้จักหาตัวตนให้เจอ
มุมมองของเราบางครั้งอาจสร้างความร้าวฉานและเจ็บปวดโดยไม่มีประโยช์น ศิลปมีไว้เพื่อรับใช้สังคม คุณอาจจะนึกว่าสังคมไทยเราปิดกั้น แต่หากคุณเอารูปแบบนี้ไปแสดงที่ฮอล์แลนด์ แล้วเอาเครื่องแบบบาทหลวงมาใช้แทนจีวร เขาจะฟ้องคุณเอา เขาเข้าใจคำว่าเสรีกว่าเราเยอะ คุณไม่เข้าใจคำว่าเสรีหรอก หากคุณมีธรรม คุณจะไม่ทำร้ายจิตใจผู้อื่นโดยไม่จำเป็น คนไปบวชพระแล้วทำเรื่องเลวๆน่ะเยอะ แต่จะทำให้ภาพพจน์ของพระสงฆ์เสื่อมโดยไม่จำเป็น ควรหรือ คนทุกวันนี้ห่างวัด ไม่มีความเข้าใจ พระจะปราชิกในข้อไหนยังไม่รู้ พระทั่วไปไม่ใช่อรหันต์ ทำถูกบ้างผิดบ้าง เขามีนรกรออยู่แล้ว เขามีกฎเกณฑ์กำหนดอยู่ พระทำผิดศีล โลกวัชชะติเตียน โดนสึกก็ตำรวจก็ไม่ได้จับ
เหมือนคุณผิดศีล5 ใครเข้าจับคุณ พุทธศาสนามีความเสรีและเปิดกว้างมากๆ พร้อมกันนั้นให้คุณพิจารณาตัวเอง ทำอะไร ควรมีสติสัมปัชชัญญะบ้าง รู้ควรไม่ควร ไม่ใช่สักแต่ทำๆไป จริงๆเจตนาเจ้าหมอนี่ก็แค่เขียนรูปล่ารางวัลกับหาเงิน คุณดูไม่ออกหรือ หากคนมันชอบประชดประชัน มันจะประชดไปทุกอย่างทุกๆเรื่อง ไม่เฉพาะแค่พระหรอก มันเห็นอะไรไม่ถูกต้องก็จะประชดซะ มีเรื่องให้สะท้อนตั้งแยะ คุณคงไม่เข้าใจนิสัยศิลปินจริงๆ ภาพที่เขียนภาพบางภาพพอโอเค พอเจ็บๆคันๆ แต่ก็เจาะพระท่านอยู่ แต่รูปที่พระท่านถือน่ะมันเกินไป ล้ำเส้นควรไม่ควร สำนึกน่ะต้องรู้ แล้วศิลปินน่ะ ไม่ได้ฉลาดทุกคนหรอก อย่าไปเชื่อมันนักเลย วงการศิลปก็ไม่สะอาดอย่างที่คุณคิด

 

สาธุ คุณ2fish<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_727402", true); </SCRIPT> วิจารณ์ได้ตรงประเด็น
HooK เข้าลิ้นปี่ศิลปินอีกา ที่สะท้อนจิตใจตัวออกมาเป็นภาพ
เราเคยเห็นศิลปะภาพจิตรกรรมของ อ. ถวัลย์ ดัชนี
ที่เกี่ยวกับภาพสัตว์ในตัวคนแล้วเข้าใจได้แบบไม่ต้องตีความเลยว่า
วิญญาณของสัตว์ภูมิต่างๆมันใช้ร่างกายของมนุษย์อาศัยอยู่เท่านั้น
อย่างนี้สิ ที่เรียกว่า งานพุทธศิลป์ ที่ระบือไปทั่วโลก
แต่กรณีนี้
อยากดังอยากเด่น แต่เอาศิลปะไปหากินกับการชี้นำจุดเสื่อมของศาสนาแต่ฝ่ายเดียว
แล้วคิดดูสิว่า ธรรมชาติของจิตมนุษย์น่ะ คิดกุศล หรือ อกุศล มากกว่ากัน
คงรู้แล้วสินะว่า..
ไอ้ศิลปินเพี้ยนคนนี้
มันชักนำจิตคนดูไปในทางร้อน หรือ ทางเย็นมากกว่า

แล้วเยาวชนที่ยังไม่มีวิจารณญาญที่ถูกต้อง เห็นภาพเหล่านี้แล้วไปตีความเอาเองล่ะก็..
คิดในทางดีได้บุญ
คิดอกุศล ได้บาป
เวรกรรมจริงๆนะคุณเอ๋ย

 

ภาพศิลปะคือกระจกะท้อนความจริงโดยที่ตัวเราเองไม่ยอมรับความจริงในด้านมืด ที่ใดมีความสว่างก็ต้องมีความมืด ท่านชาวพุทธทั้งหลายจงเข้าถึงนิพพาน
อย่ายึดหมั่นถือหมั่น กิเลส ตันหา คือ ความทะยานอยาก มี 3 คือ
1.ความอยากได้โน่นได้นี่ อันเป็นสิ่งบำเรอตน
2.ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่ ไม่มีจบสิ้น
3.ความรังเกียจสิ่งโน่นสิ่งนี้ไม่ต้องการเป็น

 

แหม...โดนใจอีกแล้วครับโพสท์นี้ สำนวนไม่ถึงหยาบ แค่เจ็บๆ
เห็นด้วยครับมันล้ำเส้น.

สังคมถ้าปล่อยให้ใครทำอะไรได้แบบนี้บ่อยๆแล้วเพิกเฉย
ต่อไปคนรุ่นใหม่จะเป็นคนที่ก้าวร้าว ไม่มีสัมมาคารวะ
วัฒนธรรมประเพณีความอ่อนโยน จะถูกกัดกินทีละเล็กละน้อย

ในสังคมนี้มีหลายคน ชอบอ้างคำว่า "แก่นของศาสนา" มาพูดบ่อยๆ
ก็ไม่รุ้ว่ามีความเข้าใจแค่ไหน อย่าเอาความไม่รู้จริงมาปิดหู ปิดตา
ตัวเอง และ คนอื่น ด้วยคำว่า แก่นของศาสนาอยู่เลย

 

ยุคนี้มันยุคตู่พระธรรม ยำพระสงฆ์ ครับทุกท่าน