มอบพระของหลวงพ่อฤาษีฯและพระอื่นๆเมื่อร่วมบุญซ่อมสร้างกุฏิวัดมะขามโพลงอ.ท่าเรือจ.อยุทธ

รายการที่60 พระรอดรุ่นพิเศษ เสาร์5 วัดพระบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้จ.ลำพูน
รายการที่61 พระรอดรุ่นพิเศษ เสาร์5 วัดพระบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้จ.ลำพูน

มาอยู่กับผมแล้วกันนะครับ ขออาราธนาเลย
แล้วก็คุณวิเชียรมีทีเด็ดอะไรปล่อยเลยนะครับ พรุ่งนี้จะรวมรายการแล้วครับ
จองไว้นานผมเกรงใจเพื่อนๆท่านอื่นจัง

 

รับทราบครับ

 

พระคำข้าวองค์นี้ ใครจะมีวาสนาได้ไปบูชาหนอ...หลังจาก วันที่ 5 มีค.2550 หากยังไม่มีใครอัญเชิญท่านไปบูชา ผมก็จะเปลี่ยนใจแล้วนะครับ

คุณsamatorn จองไปแล้วครับ

 

รายการที่95 พระคำข้าว รุ่นพิเศษ(รุ่นปืนแตก) ชุดที่ 1( 2 องค์ 2 แบบ)รุ่นนี้สร้างเพียง 100,000 องค์เท่านั้น ปลุกเสกเมื่อ 18 พ.ค. 2534 ด้านหลังองค์พระจะมี 2 แบบ(แบบยันต์ฯใหญ่และยันต์ฯเล็ก) ผมนำมาให้บูชา องค์ละ 1,800 บาท แต่ถ้าบูชาทั้งคู่เลย ให้บูชาที่ 3,500 บาทครับ ของแท้แน่นอนครับ

พระรุ่นนี้มีคนเคยไปบูชาที่วัดแล้วพระหมด เขาจึงไปขอบูชาจากป้าอี๊ด (คุณประภาศรี นิยมแก้ว) โดยเขาให้ป้าอี๊ดองค์ละ 5,000 บาท เอาไป 3 องค์ รวม 15,000 บาท คุณพัฒนานึกว่าหมดแล้วเช่นกันเลยขอบูชาจากป้าอี๊ดมาด้วยเช่นกัน โชคดีที่ป้าอี๊ด ให้เพิ่มมาอีก 1 องค์ ตอนหลังมาดูที่บ้านสายลม อ้าว..ยังมีเหลืออยู่ครับ ที่บ้านสายลมนี้ยังมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อฯเหลืออยู่หลายรุ่นครับ เป็นรุ่นที่ที่วัดท่าซุงหมดแล้วก็มี เช่น เหรียญท้าวเวสสุวัณ พระคำข้าวรุ่นปืนแตก


โดยโอนเงินเข้าบัญชี
นายวิเชียร นัตถิปัญญา ธ.กรุงศรีอยุทธยา สาขาเพลินจิต ออมทรัพย์เลขที่ 001-1-34167-2(บวกค่าส่ง50บาทต่อครั้ง)และอย่าลืมแจ้งรายละเอียดในการโอนและที่อยู่ที่จะให้จัดส่งพระด้วยนะครับ


ชุดที่ 1 คุณsamatornจองไปแล้วครับ

 

รายการที่96 พระคำข้าว รุ่นพิเศษ(รุ่นปืนแตก) ชุดที่ 2( 2 องค์ 2 แบบ)รุ่นนี้สร้างเพียง 100,000 องค์เท่านั้น ปลุกเสกเมื่อ 18 พ.ค. 2534 ด้านหลังองค์พระจะมี 2 แบบ(แบบยันต์ฯใหญ่และยันต์ฯเล็ก) ผมนำมาให้บูชา องค์ละ 1,800 บาท แต่ถ้าบูชาทั้งคู่เลย ให้บูชาที่ 3,500 บาทครับ ของแท้แน่นอนครับ


พระรุ่นนี้มีคนเคยไปบูชาที่วัดแล้วพระหมด เขาจึงไปขอบูชาจากป้าอี๊ด (คุณประภาศรี นิยมแก้ว) โดยเขาให้ป้าอี๊ดองค์ละ 5,000 บาท เอาไป 3 องค์ รวม 15,000 บาท คุณพัฒนานึกว่าหมดแล้วเช่นกันเลยขอบูชาจากป้าอี๊ดมาด้วยเช่นกัน โชคดีที่ป้าอี๊ด ให้เพิ่มมาอีก 1 องค์ ตอนหลังมาดูที่บ้านสายลม อ้าว..ยังมีเหลืออยู่ครับ ที่บ้านสายลมนี้ยังมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อฯเหลืออยู่หลายรุ่นครับ เป็นรุ่นที่ที่วัดท่าซุงหมดแล้วก็มี เช่น เหรียญท้าวเวสสุวัณ พระคำข้าวรุ่นปืนแตก


โดยโอนเงินเข้าบัญชี
นายวิเชียร นัตถิปัญญา ธ.กรุงศรีอยุทธยา สาขาเพลินจิต ออมทรัพย์เลขที่ 001-1-34167-2(บวกค่าส่ง50บาทต่อครั้ง)และอย่าลืมแจ้งรายละเอียดในการโอนและที่อยู่ที่จะให้จัดส่งพระด้วยนะครับ


ชุดที่ 2 คุณณรงค์จองแล้วครับ

 

เพื่อให้ท่านผู้มีจิตศรัทธาทราบถึงรายละเอียดงานบุญผ้าป่าครั้งนี้เพิ่มขึ้น เป็นงานผ้าป่าซ่อมสร้างกุฏิ วัดมะขามโพลง ต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงขอนำภาพบรรยากาศวัดและอื่นๆมาให้ชมคั่นรายการร่วมบุญสักเล็กน้อย

ประตูวัดและถนนทางเข้าวัด

 

หมู่กุฏิ,ศาลาการเปรียญ,โบสถ์

 

สิ้นสุดการจองเมื่อไร สิ้นสุดโครงการเมื่อไร จ่ายเงินอย่างช้าเมื่อไร ครับ

 

ดูเงียบสงบดีจังครับ ว่าแต่พระอะไรครับนั่น..

 

ประวัติวัดมะขามโพลงต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือจ.อยุทธยา(เท่าที่ทราบ)

วัดมะขามโพลงเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง ไม่ทราบประวัติเริ่มต้นการสร้างที่แน่ชัด ทราบแต่ว่าเจ้าอาวาสองค์ก่อน คือ พระครูพิบูลวิหารธรรม(พิณ พวงจำปา)ซึ่งเป็นพระญาติผู้ใหญ่ของเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน และมีศักดิ์เป็นหลวงตาทวดของผมรายละเอียดประวัติของท่านฯได้จารึกไว้ที่แผ่นหินใต้รูปปั้นเหมือนของท่านฯที่อยู่หน้าโบสถ์ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้<O</O

พระครูพิบูลวิหารธรรม พิณพวงจำปา<O</O​

ชาตะวันอังคารที่ 20 ธ.ค.2424 ปีมะเส็ง ณ บ้านสวนพริก ต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุทธยา ตระกูลชาวนาโยมชายชื่อ เอม โยมหญิงชื่อ เข็ม พวงจำปาอุปสมบทเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2444 ณ พัทธสีมา วัดมะขามโพลงพระครูรัตนาพิรมย์(อิ่ม)เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการ รอด เป็นกรรมวาจาจารย์พระอธิการ เชย เป็นอนุสาวนาจารย์ ฉายา (พุทธสโร) พ.ศ. 2454 เป็นเจ้าอาวาสวัดมะขามโพลง และเป็นเจ้าคณะตำบล พ.ศ. 2467 เป็นเจ้าคณะอำเภอท่าเรือเป้นพระครูประทานสมณะศักดิ์ และเป็นพระอุปัชฌาย์ วันที่ 6 พ.ย. 2476 ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นผู้นำก่อสร้างวิหาริย์ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์พระอุโบสถ ฯลฯ ของวัดมะขามโพลงให้เจริญสืบมา มรณภาพเมื่อ วันที่ 14 ม.ค. 2510 เวลา 8.25 น. อายุได้ 86 ปี พรรษา 64 พรรษา รูปนี้ นายชิต ประสพศักดิ์ได้ชักชวนร่วมกันหล่อ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค. 2510 เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของศิษยานุศิษย์ ญาติและมิตรในท่านพระครูพิบูลวิหารธรรม<O</O

 

ขอดีเมื่อไหร่จะมาละครับท่านพี่ รอนานแล้วคร๊าบบบบบ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 8 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ]​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>pong-sit, alovesab2002, สักกะ, Fourthman, Narong, phumiput, Tackled, vichian </TD></TR></TBODY></TABLE>

คึกคักๆ
<!-- currently active users -->

 

รอบนี้พอหอมปากหอมคอ ร่วมอนุโมทนาบุญเท่านี้ก่อนครับ




300+300+100+100+350 = 1,150 + ค่าโอน 50 = 1,200 บาท

หลังจากคุณวิเชียรยืนยันรายการแล้วพรุ่งนี้จะไปโอนให้ครับ หลังจากนั้นจะแจ้งที่อยู่ในการส่งอีกที ขอบคุณมากครับผม

 

ศาลาท่าน้ำหลังวัดซึ่งติดกับแม่น้ำป่าสักครับ ตอนเด็กเคยลงไปเล่นน้ำช่วงน้ำหลาก ว่ายน้ำก็ไม่เป็น เล่นอยู่ริมตลิ่งเกิดพลาดถูกน้ำพัดไป ปรากฏว่าจมน้ำทลึ่งน้ำขึ้นมา 2 เที่ยวไม่มีใครช่วย ทลึ่งขึ้นมาครั้งที่ 3 ที่บริเวณท่าน้ำอีกท่าหนึ่ง มีคนเอามือจิกหัวผมขึ้นมาจากน้ำ ตัวผมน่ะหมดสติไปแล้ว รู้ตัวอีกทีก็นอนอยู่บนบ้านปู่ คนที่ช่วยผมขึ้นจากน้ำก็คือ ป้าของผมเอง ซึ่งกำลังซักผ้าอยู่ที่ท่าน้ำพอดีเห็นเข้าเลยช่วยไว้ ผมจึงมีความรู้สึกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นค้ากับสุภาษิตที่ว่า "ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้" ถ้าตกน้ำไม่ไหลผมก็ตายไปแล้วครับ

 

ของดีที่ว่าคือพระสมเด็จฯนี่หรือปล่าวครับ

 

มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง(อ่าน)กันสักเรื่อง

ศาลาการเปรียญที่เห็นนี้เป็นศาลาการเปรียญหลังใหม่ เพิ่สร้างเสร็จเมื่อ7-8ปีมาแล้ว ด้วยงบประมาณ 3 ล้านกว่าบาท เป็นไม้สักทั้งหลังครับ แทนหลังเก่าที่ผุพังไปตามกาลเวลา ซึ่งศาลาหลังเก่าผมจำได้ว่าเป็นศาลาโปร่งยกพื้นสูงใต้ถุนโล่งเวลากลางคืนจะใช้เป็นที่หลับนอนของเด็กวัด ซึ่งสมัยนั้ประมาณ 60 ปีที่แล้ว พ่อผมเป็นเด็กวัดที่นี่และเรียนหนังสือที่นี่ พ่อเล่าว่า มีอยู่คืนหนึ่ง ขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับอย่างสบาย จู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวนเล็กแหลมยาว ทำให้พ่อและเพื่อนพ่อที่เป็นเด็กวัดด้วยกันซึ่งนอนเรียงรายอยู่ด้วยกันตกใจตื่น ทุกคนเห็นพร้อมกันว่า เปรตตนหนึ่งกำลังโผล่ขึ้นมาจากดินบริเวณวิหารที่ใกล้กับศาลา เปรตตนนั้นสูงเท่าต้นตาล ลูกตาทั้งสองข้างใหญ่เท่าลูกมะพร้าว กรอกตาหร็อกแร็กไปมา ปากจู๋เท่ารูเข็ม ยืนมองมาทางศาลาที่เด็กวัดนอนอยู่สักพักแล้วก็หายไป ตอนเช้าปรากฎว่าเพื่อนพ่อที่นอนอยู่ตรงกลาง จับไข้หัวโกร๋นเลย

ตามที่พ่อเล่าผมเข้าใจว่า เปรตตนนั้นโผล่ขึ้นจากดินบริเวณด้าขวาของศาลาหลังปัจจุบัน ก็ลองนึกภาพดูละกันนะครับ

 

งานผ้าป่า กำหนดวันที่ 6 เมษายน 2550 กำหนดปิดโครงการ 4 เมษายน 2550 ครับ เผื่อเตรียมการและเคลียเรื่องต่างๆ 1 วันครับ

โมทนาบุญกับทุกท่านครับ

 

ในรายการที่ 95และ96 เป็นส่วนหนึ่งครับ อีกส่วนหนึ่ง รอหมอnoi และอีกส่วนหนึ่งต้องหลังวันที่ 5มีค.ครับ

 

โมทนาบุญด้วยครับ

 

คราวนี้ก็มาถึงกุฏิเก่าที่จะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์จำนวน 2 หลังซึ่งเป็นไม้สักเก่าแก่หลายสิบปี ซึ่งผมเห็นมาตั้งแต่สมัยผมยังเป็นเด็กครับจำเป็นต้องรื้อออกทิ้งบางส่วนบางส่วนที่ใช้ได้ก็ต้องมาซ่อมขัดแต่งใหม่

<O</O