เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

กนก--3 กรรมสนองกรรม
ผมว่าเทือกต้องฝันค้างอีกเป็นแน่ที่มั่นใจว่า เกมจะจบในเดือนเมษายนี้ ในวันที่ศาลรธน ตัดสินคดีที่กล่าวหาว่า ยิ่งลักษณ์ในขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ได้โยกย้าย ถวิลโดยมิชอบ ซึ่งในเวลานี้เทือกย่อมยังจะได้ใจอยู่ เพราะมีคำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุดออกมาก่อนว่าการย้ายมิชอบด้วยกฎหมาย และให้ถวิลกลับสู่ตำแหน่งเดิม ต่อมาเมื่อวานนี้ศาลรธน ก็รับวินิจฉัยกรณีดังกล่าว ว่ายิ่งลักษณ์จะพ้นสภาพรัฐมนตรี ตามบัญญัติกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา182(7) ประกอบมาตรา 266-268 หรือไม่

ทำให้เทือกรู้สึกคึกคักมาก ดังที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างๆๆออกมาเช่นโพสต์ทูเดย์ โดยเชื่อมั่นว่ายิ่งลักษณ์ต้องเสร็จในคดีนี้แน่นอน

แต่ความเห็นของนักกฎหมายหลายท่าน อาทิเช่น อจ.พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ชี้ไว้ว่า ที่มีการกล่าวหาว่านายกฯยิ่งลักษณ์มาตรา 266 และ 268 ของรธน.2550 นั้น มาตราทั้งสองเป็นเรื่องของการใช้ สถานะหรือตำแหน่งหน้าที่ของตนเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงในการแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการในหน่วยงานอื่น ในองค์กรอื่น แต่กรณีย้าย ถวิลนั้น นายกฯยิ่งลักษณ์ในเวลานั้น ไม่ได้ไปก้าวก่ายผู้ใดหรือแทรกแซงหน่วยงานอื่นใด เพราะการย้ายถวิลเป็นอำนาจโดยตรงของนายกรัฐมนตรี กระทำด้วยตัวเอง ในหน่วยงานที่ตนเองกำกับดูแลอยู่

ซึ่งผมได้พยายามตรวจสอบดูจากคำวินิจฉัยของศาลกปครองแล้ว น่าจะเป็นอย่างที่อาจารย์พนัสให้ความเห็น และจากคำวินิฉัยที่เห็นนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าเป็นการย้ายไม่สมบูรณ์ถูกต้องตาม พระราชบัญญัติระเบียบขาราชการพลเรือนกำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งจะต้องแถลงเหตุผลประกอบการย้ายอันสมควรไว้ตามกฎหมาย แต่ศาลเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันประกอบสมควรในคำสั่งย้าย จึงทำให้การย้ายนั้น ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายหรือผิดกฎหมายข้าราชการพลเรือนไป แต่มิได้มีความผิดอาญาหรือความผิดวินัย ดังนั้น จึงเป็นการกระทำที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายข้าราชการพลเรือน โดยไม่ได้ไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงผู้ใด และไม่มีโทษอาญาใด

แต่อย่างที่ทราบกัน ในเวลานี้ สานสามารถวินิจฉัยว่า เรือเป็นปลา มอร์เตอร์ไซด์เป็นรถถัง พระจันทร์เป็นพระอาทิตย์ได้ ดังนั้น ต่อให้ตามข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย นายกรัฐมนตรีไม่ได้แทรกแซงผู้ใดหรือหน่วยงานใดให้กระทำการ เพราะได้กระทำการนี้ด้วยตัวเอง ในขอบเขตหน้าที่ของตนเอง ในหน่วยงานที่ตนเองมีอำนาจกำกับ แต่พอมีเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ก็เป็นไปได้ว่า จะมีการวินิจฉัยว่าไปกล่าวหาว่าเป็นการแทรกแซง เพื่อจะมีการตามไปฟันต่อให้นายกฯนั้นพ้นสภาพรัฐมนตรี และจะได้มีการพยายามตั้งนายก ม 7 กันขึ้นมา

แต่ผมยังเชื่อว่า นายก ม 7 จะต้องไม่เกิดขึ้น และไม่มาตามที่เทือกฝันแน่นอน

เพราะหากดูลำดับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น จะเห็นว่า บทบัญญัติกฏหมาย กำหนดไว้ให้คณะรัฐมนตรี ที่ต้องพ้นตำแหน่งไป เพราะการที่นายกฯ ต้องพ้นสภาพรัฐมนตรี ต้องอยู่ปฏิบัตหน้าที่ต่อไป จนกว่า จะมีคณะรัฐมนตรีใหม่เข้ามา

 

“นักประดิษฐ์ ป.4”

คุณผู้อ่านเคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่า ทำไมคนเราถึงมีความสามารถที่แตกต่างกัน บางคนทำได้แต่อีกหลายๆ คนทำไม่ได้ หรือสิ่งที่เราเองคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่สำหรับอีกหลายคนกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยาก นั่นอาจเป็นเพราะธรรมชาติสร้างคนเราให้เกิดมาโดยอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกัน เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
แต่สำหรับในยุคปัจจุบัน การพึ่งพาซึ่งกันและกันนับวันจะยิ่งหายากมีแต่ต้องการความเป็น 1 ต้องการพึ่งคนอื่น แต่ไม่ต้องการให้ใครมาพึ่งตน ก็อย่างว่าล่ะมันคงเป็นสัจธรรมของมนุษย์ในสังคมยุคโลกาภิวัฒน์ คุณผู้อ่านเห็นด้วยหรือเปล่า...?
กลับมาว่าด้วยเรื่องราวของคนธรรมดาๆ ที่ไม่ธรรมดาในวันนี้กันดีกว่า ผู้เขียนได้ไปเจอะเจอเรื่องราวที่เห็นแล้วทึ่งมาก เพราะเขาเป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มีร้านขายรถจักรยานยนต์ของตัวเองอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่แกเป็นคนชอบประดิษฐ์คิดค้นอะไรแปลกๆ จากวัสดุเหลือใช้ ทำให้แกเป็นที่รู้จักไปทั่ว คนที่ผู้เขียนกำลังจะพูดถึงก็คือ นายเพิ่งเกียรติ ราญรอน อายุ 41 ปี
นายเพิ่งเกียรติ เป็นเจ้าของร้านขายรถจักรยานยนต์มือสอง ที่มีชื่อร้านว่า “เพิ่มเซียงกง” เป็นคนจังหวัดระยอง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้เคยผลิตรถจักรยานยนต์สำหรับคนพิการมาแล้ว เขาจบการศึกษาเพียงชั้น ป.4 จากโรงเรียนวัดเนินยาง ซึ่งถ้าคุณผู้อ่านจะรู้สึกทึ่งเมื่อผู้เขียนจะบอกถึงผลงานชิ้นโบว์แดงที่เขาได้เป็นคนประดิษฐ์คิดค้นมันขึ้นมาจากวัสดุเหลือใช้ และวัสดุรีไซเคิล นั่นคือ
ชิ้นที่ 1 เป็นรถจักรยานยนต์คันมหึมาที่ได้ลงบันทึกในกินเนสบุ๊ค ว่าเป็นจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาตั้งชื่อผลงานชิ้นนี้ว่า “ประเทศไทย 1”
ชิ้นที่ 2 เป็นสามล้อที่รูปร่างไม่เหมือนกับสามล้อที่เราๆ ท่านๆ เห็นอยู่ตามท้องถนน ที่บอกว่ามันไม่เหมือนกับสามล้อที่อยู่ตามท้องถนนนั่น ก็เป็นเพราะมันสร้างมาจากอุปกรณ์ที่เหลือใช้ในครัวเรือน แถมยังมีประกาศเกียรติคุณเป็นรางวัลการันตีจากพิพิธภัณฑ์ริบลี่ย์...โห! อะไรจะแจ๋วขนาดนั้น คิดได้ไงเนี่ยคุณพี่ อ้อ ลืมบอกไปว่าเขาได้ตั้งชื่อสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ว่า “ประเทศไทย 2” ยังไม่จบแค่นี้..ยังมีต่ออีก
ชิ้นที่ 3 เป็นหุ่นยักษ์เฝ้าบ้านชื่อว่า “ประเทศไทย 3”
ชิ้นที่ 4 เป็นโต๊ะบัญชีเคลื่อนที่บังคับด้วยขาชื่อว่า “ประเทศไทย 4”
ชิ้นที่ 5 เป็นบูธสำหรับขายกาแฟซึ่งเขาออกแบบออกมาเป็นรูปรองเท้า ชื่อว่า “ประเทศไทย 5” ส่วนชิ้นต่อไปเป็นชิ้นที่สร้างความฮือฮาตามหน้าหนังสือพิมพ์ในช่วงราวๆ ต้นปีที่ผ่านมาคือ เขาสร้างรถจักรยานยนต์ล้อเดียว โดยตั้งชื่อว่า “ประเทศไทย 6”
ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคนที่จบเพียงแค่ชั้น ป.4 จะสามารถสร้างอะไรได้หลายๆ อย่าง ไม่แพ้นักศึกษาด้านวิศวกรรมเลยนะเนี่ย สาเหตุที่คุณเพิ่มเกียรติคิดที่จะสร้างสิ่งประดิษฐ์ชิ้นที่ 6 นี้ขึ้นมาก็เพราะต้องการสร้างผลงานทีละชิ้น และเนื่องจากตนได้ย้ายร้านไปอยู่นอกเมืองจึงคิดอยากดึงดูดความสนใจของลูกค้าและเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านไปในตัว โดยขณะที่ทำการประดิษฐ์จักรยานยนต์ล้อเดียวนี้ได้รับการสนับสนุนจากรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ แล้วใช้เหล็กแป๊บดัดเป็นวงกลมใช้แทนล้อ โดยอาศัยลูกล้อที่ติดแทนล้อรถตั้งอยู่บนโครงเหล็กวงในขับเคลื่อนรถ เขาใช้เวลาในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ประมาณ 2 เดือน จึงเห็นผลงานที่เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างมันออกมา มาถึงตรงนี้คุณผู้อ่านอาจสงสัยว่า ไอ้จักรยานยนต์ล้อเดียวนี้มันจะวิ่งได้หรือ ก็ปกติแล้วเราจะเห็นแต่จักรยานยนต์ที่มี 2 ล้อ ถึงจะวิ่งได้
จริงๆ แล้วรถจักรยานยนต์ล้อเดียวคันนี้ มันวิ่งได้จริง แถมวิ่งเร็วด้วยความเร็วประมาณ 70-80 กม./ชม. ส่วนการบังคับให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาต้องอาศัยการโยกตัวถ่ายน้ำหนักเพื่อบังคับเลี้ยว
จักรยานยนต์ล้อเดียวคันดังกล่าว ยังได้ไปโชว์ที่งาน “สตาร์ดิจิตอล และมอเตอร์โชว์” ที่เมืองระยองซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก
นี่ขนาดคุณเพิ่งเกียรติ จบแค่ชั้น ป.4 เขายังคิดสร้างสิ่งประดิษฐ์จนเป็นที่รู้จัก ไม่ต่างจากพวกที่จบทางด้านวิศวะเลยนะเนี่ย ไม่ธรรมดาจริงๆ เขาสามารถเรียกความสนใจให้กับกลุ่มลูกค้าหรือชาวบ้านให้ติดตามผลงานของเขาว่าต่อๆ ไปเขาจะออกมาประดิษฐ์อะไรให้เป็นที่ฮือฮาอีกหรือเปล่า ...เอ้า ผู้เขียนก็จะเป็นคนหนึ่งที่จะคอยติดตามชิ้นต่อๆ ไปด้วยเหมือนกัน
จากเรื่องราวของคุณเพิ่งเกียรติที่ผู้เขียนเล่ามานี้ ทำให้เรารู้สัจธรรมข้อหนึ่งที่ว่า ความสามารถของเราจริงๆ แล้วอาจมีเหมือนๆ กับคนอื่นๆ เพียงแต่ว่าเราได้ลองลงมือปฏิบัติหรือยังเท่านั้นเอง...
หากเราได้ลองลงมือทำแล้ว บางครั้งมันอาจไม่ใช่ก็อย่าเพิ่งท้อแท้ เพราะชีวิตคือการต่อสู้...สู้เพื่อวันข้างหน้า อย่างคนไม่ธรรมดาในวันนี้ที่เขาสู้ประดิษฐ์ผลงานออกมา โดยไม่เคยคิดว่าคนอื่นจะหาว่าไร้สาระ แต่สำหรับเขาแล้วมันคือความภาคภูมิใจที่เขาได้มีโอกาสลงมือทำ

แหล่งข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 2/4/48
เรียบเรียงโดย : ศิริพร กองเปง E-mail : siriporn@fpmconsultant.com

 

เข้าเน็ตไม่ได้ครับ เป็นที่ผมเอง ไดร์้เวอรน์แลความจริง เจ้า เซมพร่อนนี่มันเร็วมากๆ ดูหนังทางเน็ตได้สบาย ทางบริษัทเขาพยายามแก้ให้แทบตาย
อืมมาดู เสียงคู่ประสานเยี่ยมสุดในโลก เอ่อไม่ใช่มิวสิก"อย่ามโน" ฝรั่งอึ้ง ทึ่ง..
อีกวงหนักแน่น ดนตรีข้ามภพ ไวโอลิน-- กีต้าร์ไฟ้า Symphonic metal
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=IR_mBh5mqok"]Somewhere - The Best Duet Ever - YouTube[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=ZTCbugaGzfI"]Epica - We Will Take You With Us [Full Video] with Lyrics - YouTube[/ame]

 

IMDb: My Favorite Actresses - a list by Eric-Scissorhands
ดารา(สาว)ที่ฉันชอบ-----มีคนนึง นามสกุลแปลก มิเชล ยี---โอว์ มาจากภาษาจีน ว่า โหยวว์(ควบกล้ำ)

 

อ้าว...ใครสวยกว่ากัน หว่า[/COLOR

]

 

หน้าคล้าย จางซิยี่ แต่เป็นคนเกาหลี

 

งามคนละขั้วโลก คนละแบบ
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2007/12/A6091354/A6091354.html


เจ๊โหย่ว สมัยยังสาว

 

มิเชล โหย่ว สวมบทอองซาน ซู จี

 

Zhang Ziyi

 

มิเชล โหย่ว Vs เเองเจลลิน่า โจลี่ 2นางพญาฮอลลี่วู๊ด 2 ฝั่งทวีป

 

เคยแอบรักอยู่ลึกๆ อจ.สนธยา เพื่อนร่วมงาน แต่ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่ารักหรือเปล่า เธอเองก็คงเหมือนกัน ตอนจากกันแล้วจึงวรู้ ---หากมิใช่คู่ ก็ยากจะเจอกัน มีสาวหลายคนรสวย หุ่นดี สาวจีนฮ่อ ก็ไม่ต่างจากดาราจีน--ในด้านความสวย ผิวพรรณดี แต่สนธยา--เธอ เป็นสาวตัวเล็ก-ผิวคล้ำนิดๆ สอนวิชาพวกช่างอุตสาหกรรม---รบับพวกทะโมนไดี
ในบรรดาวสาวเก่ง แก่น ซน ดื้อ นอกจากภรรยาผม ก็ส้ม นี่แหละ ผิวขาวสวย ตาคม ฉลาด เจ้าเ่ล่ห์แสานกล คนมีความสวยมีสเน่ห์ เรียกว่าทำบุญมาดี แต่บางคนอาภัพรัก สวย แต่โสดอมตะ นิรันดร์กาล

 

ไบวช9วัน ยังเจอสาวตั้ง 3คน(ดวง) บางคนน่ารัก เ็ป็น(ทำงาน) อบต.อีกคน ทำงานพัฒนากร พอดีไปสวด ตรงต้นโพธิ พวกเธอขอมาสวดด้วย พอดีว่าเีราจะแจกหนังสือก็ ต้องหน้า้ด้าน--ไปขอที่อยู่พวกเธอ
--มีคนนึงขับรถเล็กๆีสีเหลืองมา --เราไ้ด้รับรู้ถึงความเศร้าโศกมากมายจากหญิงที่ขับรถ รูอนหลั่า แหฟนชอบทำร้าย ทุบตีเธอ แค่เธอก็๋ไม่เข็ดเรื่องความรัก

 

---ใครเอ่ย โชว์---ยันต์ห้าแถว

 

แถม---เทือกยังโง่ พา ส ลิ่มปัญญาอ่อน ไปคัดค้านการ นิรโทษกรรมฯอีก....ทีนี้มันหาทางลงไม่ได้เลย
---ทหารก็ไม่กล้ารัฐประหาร เพราะ นิรโทษกรรมตัวเองไม่ได้..........เรียกว่าตีโง่ตั้งแต่ ประธานฯ ยันลูกหาบ

555555555555555555

 

เขาและเราธรรมชาติทุกสิ่ง เป็นอนัตตา แล้วจะยึดทำไม แบกทำไมหนักเปล่า ปณิธานตั้งจิตมั่่น สรรพสิ่งอุบัติเพื่อดับสูญ แล้วจะยึดติดทำไม ไม่ต้องยึดติด ปล่อยวาง นั่งสมาธิกรรมฐาน ไร้ความคิด ข้างใน ใต้ใจไร้จิต ใต้จิตไร้ใจ ไร้ใจไร้จิตไร้คิด จิตทิพย์ทะลวง36จุด สุริยันมุ่งสู่จันทรา เอนกายาพิงดาวเหนือ-

 

บางคนอาจจะคิดว่า ชาวต่างดาวต้องตัวสีเขียว หน้าเรียวๆ วิ่งแบบหมา เดินแบบคน งี้ซึ่งต่างดาวบางพวกก็ไำม่มีร่างกาย ---เป็นเมฆอวกาศ เป็นพลังจากแก๊สในเอกภพ เป็นรูปร่่างของ ก้อนแสง เช่นมีบางท่านเห็นพระเจ้า หรือพระศิวะ เป็นแสงสีเงิน และ-อรูปพรหม เแป็นแสงสีทอง ในขณะที่พวกท่านยืนยันมาว่า-- เห็นเป็นแสงสว่างถูกแล้ว เพราะไม่มีรูปร่้่าง --จะให้ทำอย่างไร---มีภาพนึงที่ วิญญาณ ดร.คลุ้มเคยติดต่อมาทางจิต ก็ถ่ายไ้ด้ เป็นแสงสีฟ้า ขนาดเท่าฝ่ามือ

 

เผยโฉมหน้าจขกท. กับอาวุธคู่ใจ(สักวันหนึ่งจะวิวัฒนาการละเน้อ--อุเบกขา ไม่ยึดติดอัตตา แต่ห้ามด่า)

 

จะใช้คำว่า ปฏิวัติ อภิวัฒน์ ประชาภิวัฒน์ หรือรัฏฐาธิปัตย์ ก็เป็นวาทะกรรมที่ใครจะใช้ แต่กระบวน
การทั้งหมดก็อยู่ในกระบวนการรัฐธรรมนูญมาตรา 7 อยู่ดี แต่วิธีที่ราบรื่นคงอยู่ที่กระบวนการของ
วุฒิสภา แต่เงื่อนไขจะเป็นอย่างไรต้องอยู่ทีสถานการณ์ขณะนั้น" นายเอกนัฏ กล่าว