เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ----นอกจากคำแก้ตัวของผมในช่วงต้นๆแล้ว ก็ไม่ต้องอ่านก็ได้ครับ รกตา-รกใจปล่าวๆ แค่คนแก่ๆขี้บ่นคนนึงเท่านั้นเองครับ ซึ่งดาบอนัตตาไล่ผ่ามันไม่ทันเพราะตาแก่- หนังเหนียว แอนด์ เคี้ยวลำบากครับ..ฟันธง
    ---------------------------------------------------------
    ----ความหลงผิดของสังคมมนุษย์- เจอยายแก่กระทุ้งกิเลสเข้าให้-----
    ---------ยายแก่คนหนึ่งมาจากบ้านนอก(30ปีก่อน) แกอยากเห็นเมืองกรุงที่ว่าศิวิไลซ์ พอดีแกเห็นสถานีโทรทัศน์ จึงเดินเข้าไป มีรายการดนตรีสดแสดงอยู่ แกอยากเข้าไปดูในห้องส่ง ก็เลยขออนุญาตกับยาม ยามบอกว่า "ไม่ได้ครับ เพราะยายแต่งตัวไม่สุภาพ" "แล้วกูมันหยาบคายตรงไหนล่ะ ไอ้ทิด" " ก็ยายใส่รองเท้าแตะ ที่นี่สถานที่ราชการนะยาย" "อ๋อ ไอ้ทิดลองเดินมาตรงนี้ แล้วชะโงกมองสิ เห็นยัง"
    "เห็นอะไรยาย" -- "ก็นักร้องสาวกับหางเครื่อง" --"เห็นจ้ะยาย"
    --"แล้วเอ็งว่า ไอ้ที่แต่งตัวแบบแทบจะแก้ผ้าเต้น กับท่าทางการเต้นแบบเด้งหน้าเด้งหลังนี่ อย่างนี้เหรอที่เค้าเรียกว่า สุภาพ" เล่นเอายามถึงแก่หน้าม้าน ไม่สามารถตอบคำถามยายได้ ต้องเดินหลบไปโดยเร็ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2012
  2. โลกสมมุติ

    โลกสมมุติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +64
    อนุโมทนาบุญกับคุณเจษฎาด้วยนะคะ เห็นความตั้งใจที่คุณโพสต์มาให้อ่านแล้วต้องขอถวายสิบนิ้วให้เลยค่ะ ยังอ่านไม่หมดค่ะ ค่อยๆทยอยอ่าน มาให้กำลังใจนะเจ้า ข้าเจ้าก็เป็นสาวเหนือเหมือนกัน
     
  3. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,673
    ค่าพลัง:
    +3,464
    เข้ามาอ่านครับ-----เงินทองของนอกกายแต่ก็น่าเสียดายถ้าช่วยเขาแล้วยังไม่สำนึก หวังว่าคนทั้งสองนั้นจะดีขึ้นให้สมกับความเมตตาของพี่เจษฏาและแฟน
     
  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ยินดียิ่งแล้ว มิตรแก้วมาเยือน ความจริงหน่วยความจำสองจิ๊กนี่ไ ม่น่าทำให้เครื่องช้าขนาดค้างไปสามชั่วโมงได้เลย มีอุปสรรคแบบไม่นึกฝัน วันดีคืนดีมันไม่ทำงาน ให้แก้ระบบใหม่ แต่แก้แล้ว ก็มียอมฟื้นตัว-รัคอฟเว่อร์ ต้องทิ้งไว้สักพัก แบบว่า บื้อ-มึนๆกับมัน มันยจึงยอมหายบื้อ หลังนี่การเปิดทิ้ง24 ชมงก็ไม่ได้มีมาก
    ----ถ้ามีคนรู้ใจนี่ ถึงตายก็ยอมนะครับ งานแก้ไขปรับปรุงบทความเซ็นสยาม ผมอ่านไปก็ยิ้มไป หัวเราะไป แต่สุดท้ายงานที่ทำไปแล้วมันหายหมดเลย กลับไปเป็นแบบไม่ได้แต่งอะไรเลย ถึงว่ามารมันอยู่ได้ทุกที่ บางคนหล่อเรซิ่นแล้วไม่แข็งตัว เอาเตาไฟมาอบก็ไม่แข็งตัว ต้องลงจากเพชรบูรณ์ ไปหาซื้อถึงกรุงเทพใหม่ เพราะทำงานเกี่ยวกับศาสนา จึงมีมารไงล่ะครับ
    --คนบางคนบางประเภทก็โปรดไม่ไป พระท่านบอกให้ลองนั่งสมาธิ แต่สิ่งที่เธอทำคือวิ่งไปหาซื้อหนังสือการทำสมาธิมากองหนึ่ง สุดท้ายก็ขายซาเล้งไป
    เพราะไม่มีใครบอกว่า ธรรม ต้อง ทำ ทำโดยไม่มีแนวทางและเป้าหมายก็ยังไปได้ แต่ถ้าไม่ทำ อีกกี่สิบชาติ ก็ไม่สามรถจะรู้รสพระธรรมได้
    ----คนบางคนก็แปลก แปลกทั้งเชื้อชาติ การเกิด และดวงยังแปลก พี่รัต เป็นสาวแก่ แต่งงานแล้ว แต่แฟนก้แอบไปมีเมียอีกที่เมืองนอก เธอทำงานเป็นสถาปนิก ดังมากที่เมืองนอก พอกลับมาเมืองไทย หมอดูบอกว่า เมืองไทยไม่เหมาะกับดวงของเธอ เธอเป็นผู้ออกแบบตึกอับดุลราฮิม ซึ่งสร้างบนบ้านเก่าแก่ ของหลวง มีการฝังของขลังไว้ตามใต้ประตู เธอก็ทำศาลเป็นรูปิรามิด เพราะตึกนี้เป็นทรงปิรามิดแหลมๆ ครั้งหนึ่งผมไปเดินเอ็มโพเรียมกับพี่สาว และนัดเจอกับเธอ เธอดูจะมีพลังอำนาจในตัว เราเดินเที่ยวเอ็มโพเรี่ยมไปกับ"ผู้ที่ออกแบบตึกเอ็มโพเรี่ยม"(ถึงดูจนๆ แต่กระทบไหล่คนดังอ่ะ) พอไปที่บ้านของเธอ ซึ่งเธอทิ้งกุญแจไว้ให้ ก็พบกับความแปลก มีภาชนะยุดโบราณ--สมัยหิน ที่เธอช่วยซื้อไว้ ไม่ให้มันไปอยู่ต่างประเทศ
    ---ที่บ้านหลังเดิม ทุกๆเช้าเธอจะใช้ให้พ่อแม่ไปตัดหญ้ามาให้กระต่ายกิน พ่อแม่เธอบอกว่า"กระต่ายมันมีบุญนะ" และเธอก็ได้หยุดการใช้พ่อแม่ไปแล้ว เพราะวันหนึ่งพวกท่านก็ได้ถูกคนร้ายฆ่าตายทั้งคู่ พี่รัตเป็นคนธรรมมะธรรมโมชอบปฏิบัติธรรม -ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดว่าเธอปฎิบัติธรรมแบบไหน- มันไม่ค่อยซึมซับเข้าไปในใจเธอสักเท่าไหร่เลย

    --ที่เกริ่นมานี่อยากให้พบกับตัวตนคนแปลกๆ --ฝรั่งที่รักเมืองไทย ทิ้งความเป็นเจ้าหญิง ดาราฮอลลีวู้ดไว้ที่เมืองนอก มาเป็นศิลปินเดี่ยว หมอตำแยแผนโบราณของเมืองไทย ยังไม่พอ ยังไปทำคลอดแบบธรรมชาติให้คนอังกฤษได้อึ้งกิมกี่กันเป็นแถวเลยนะครับ
    --เธอเกิดที่เมืองไทยครับ - ฟีโอน่า(ธาริณี) เกรแฮมครับ เธอยังเป็นผู้จูงสาวบ้านนอก คือ-ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา สู่วงการนางแบบโลก แต่ยุ้ยไปได้ไม่นาน เกิดติดยาอย่างหนัก จนต้องกลับเมืองไทย และมีข่าวว่าทำร้ายแม่ออกมาบ้าง ทุกวันนี้ยุ้ยจึงไม่รุ่งดังแต่ก่อน แต่ผมชื่นชมคนๆนี้มากครับ ธาริณี เธอดูสวยสง่าและงดงาม และยังมีสัมผัสลี้ลับ--เหมือน ระวี ชังก้าร์นักดนตรี ปรมาจารย์ซีต้าร์ และยังมีความสูงส่งในจิตเหมือนกับเทพ --มีผู้ส่งจิตติดต่อกับท่านได้ ท่านว่า จักรวาล เกิดจากการระเบิดที่เรียกว่า "บิ๊กแบง"
    (มีลูกสาวชื่อ อนุชก้า ชังก้าร์อะไรนี่แหละ(เก่งทางดีด"ซีต้าร์"Sitar) และนอร่า โจนส์ นักร้องแจ๊ซผู้โด่งดังก็เป็นลูกสาวระวี ชังก้าร์นี่แหละ--ที่ไปหยอดไข่ทิ้งไว้

    -ผมคิดว่าจะเขียนความแปลกประหลาดของจักรวาลโดยการค้นคว้าทางอนุภาคพลังงานสูงทางฟิสิกส์
    แต่รอเขียนเรื่อง"เฟียว"ก่อน
    ------------------------------------------------------
    --บางคนไม่รู้ ไม่เชื่อว่า นอร่า โจนส์ เป็นลูกสาว ระวี ชังก้าร์
    http://userserve-ak.last.fm/serve/_/27583785/Anoushka%2BShankar%2Bnorajones_sisanoshkashankar.jpg

    นอราห์ โจนส์<!-- /firstHeading --><!-- bodyContent -->
    <!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    <!-- /tagline --><!-- subtitle -->
    <!-- /subtitle --><!-- jumpto -->ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- /jumpto --><!-- bodycontent --><TABLE style="WIDTH: 20em; FONT-SIZE: 95%" class=infobox><TBODY><TR><TH style="TEXT-ALIGN: center; BACKGROUND: rgb(240,230,140); COLOR: black" colSpan=3>นอราห์ โจนส์</TH></TR><TR style="TEXT-ALIGN: center"><TD colSpan=3>[​IMG]






    </TD></TR><TR><TH style="BACKGROUND: rgb(240,230,140); COLOR: black" colSpan=3><CENTER>ข้อมูลพื้นฐาน</CENTER></TH></TR><TR><TD>ชื่อเกิด</TD><TD colSpan=2>Geethali Norah Jones Shankar</TD></TR><TR><TD>วันเกิด</TD><TD colSpan=2>30 มีนาคม พ.ศ. 2522</TD></TR><TR><TD>แหล่งกำเนิด</TD><TD colSpan=2>นิวยอร์ก,สหรัฐอเมริกา</TD></TR><TR><TD>แนวเพลง</TD><TD colSpan=2>แจ๊ซ,โฟล์ค,คันทรี,โซล,ป็อป</TD></TR><TR><TD style="WHITE-SPACE: nowrap">อาชีพ</TD><TD colSpan=2>นักร้อง,นักแต่งเพลง,นักดนตรี</TD></TR><TR><TD style="WHITE-SPACE: nowrap">เครื่องดนตรี</TD><TD colSpan=2>เปียโน ,คีย์บอร์ด,กีตาร์</TD></TR><TR><TD>ปี</TD><TD colSpan=2>ค.ศ. 2001 - ปัจจุบัน</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em">ค่าย</TD><TD colSpan=2>Blue Note</TD></TR><TR><TD>เว็บไซต์</TD><TD colSpan=2>NorahJones.com</TD></TR></TBODY></TABLE>นอราห์ โจนส์ (Norah Jones) มีชื่อจริงว่า (ภาษาเบงกาลี: গীতালি নোরা জোনস শঙ্কর, Geethali Norah Jones Shankar) เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2522 ในบรู๊คลิน นิวยอร์ก เป็นนักร้อง นักเปียโนเพลงแจ๊ซ เจ้าของรางวัลแกรมมี่ 11 รางวัล





    <TABLE id=toc class=toc><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

    [ซ่อน]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>[แก้] ประวัติ

    นอราห์ โจนส์ เป็นทายาทศิลปินโดยสายเลือดของ รวี แชงการ์ เป็นนักดนตรีชื่อดังระดับโลกของอินเดีย คุณแม่ของเธอ ซู โจนส์ เป็นคอนเสิร์ต โปรดิวเซอร์ แต่ทั้งคู่ไม่ได้แต่งงานกัน โตมาในรัฐเท็กซัสกับแม่เพียงลำพังโดย ไร้เงาของศิลปินอย่างราวี ขานกา ผู้เป็นพ่อ
    เมื่อ นอราห์ อายุ 15 ปีคุณแม่ก็พาเธอย้ายไปอยู่ใจกลางเมืองดัลลัส ที่นั่นเธอได้เข้าเรียนชั้นมัธยมที่บุคเคอร์ ที่ วอชิงตัน ไฮสคูลในสาขา Performing and Visual Arts ระหว่างที่เรียนที่นั่นเธอได้รับรางวัล Down Beat Student Music Award ในสาขา Best Jazz Vocalist กับ Best Original Composition ในปี 1996 และ Best Jazz Vocalist รวมทั้งรางวัล Down Beat Student Music Award ในสาขา Best Jazz Vocalist ในปี 1997 จากนั้น นอราห์ ก็เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนอร์ธ เท็กซัสซึ่งขึ้นชื่อเรื่องวิชาการดนตรี เธอเลือกเรียนแจ๊ซ เปียโนเป็นวิชาเอก ตอนนั้นเธอตั้งวง Laszlo ร่วมกับเพื่อน ๆ แล้วด้วย เป็นวงที่เล่นเพลงแบบร็อกผสมแจ๊ซ
    ช่วงต้นปี 2000 แมวมองจากสังกัด EMI มาชมการแสดงของ นอราห์ รู้สึกติดใจ เลยแนะนำเธอให้กับเพื่อนที่ทำงานอยู่กับบลู โน้ตสังกัดเพลงแจ๊ซชื่อดัง เดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้น นอราห์ กับวงของเธอส่งเดโม 3 เพลงไปยังสังกัดบลู โน้ต บรู๊ซ ลันด์วาลล์ ประธานของ บลู โน้ตเซ็นสัญญารับเธอเข้าสังกัดทันที ในเดือนมกราคม 2001 หลังจากได้ฟังเดโมของเธอ
    จากนั้น นอราห์ ก็ได้ไปเป็นนักร้องรับเชิญให้อัลบั้ม Songs From The Analog Playground ของ ชาร์ลี ฮันเตอร์ มือกีตาร์ในสังกัดบลู โน้ต เพลงที่เธอร้องในชุดนี้มี More Than This เพลงเก่าของ Roxy Music กับ Day Is Done ของ นิค เดรค และยังได้ออกทัวร์กับวงของ ชาร์ลี ด้วย
    นอราห์ เริ่มบันทึกเสียงอัลบั้มแรกของเธอในเดือนพฤษภาคม 2001 ครั้งแรกเธอได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ เครก สตรีท ที่แบร์สวิลล์ สตูดิโอที่วู้ดสต็อคในนิวยอร์ก เครก เคยโปรดิวซ์งานให้ศิลปินแจ๊ซร่วมสมัยอย่าง คาซานดรา วิลสัน , Manhattan Transfer, เค.ดี. แลง , Dirty Dozen Brass ฯลฯ ผลที่ได้ไม่เป็นที่พอใจ เพราะเครื่องดนตรีรกไปกลบเสียงของ นอราห์ สิงหาคม 2001 บรู๊ซ ลันด์วาลล์ แนะให้เธอเปลี่ยนมาร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ดัง อะริฟ มาร์ดิน
    ทั้งหมดย้ายไปทำงานที่ซอร์เซอเรอร์ ซาวด์ในแมนฮัตตัน การบันทึกเสียงคราวนี้ อะริฟ เน้นเสียงมีเสน่ห์ของ นอราห์ เป็นหลัก หลายเพลงบันทึกกันแบบสด ๆ หลังจากทำงานเสร็จ ก็ได้นำเสนอความเป็นเธอในเวลานั้นได้เป็นอย่างดี จึงพร้อมที่จะวางแผงงานชุดแรกกันในเดือนกุมภาพันธ์ 2002
    จากนั้น นอราห์ ก็เริ่มออกแสดงคอนเสิร์ต ได้ขึ้นเวทีในคอนเสิร์ตที่เป็นทริบิวต์ให้ วิลลี่ เนลสัน จากนั้นก็ออกทัวร์เป็นวงเปิดให้ศิลปินหนุ่ม จอห์น เมเยอร์ คู่กับ ชาร์ลี ฮันเตอร์ ในอเมริกา ก่อนจะออกมาทัวร์เป็นเฮดไลน์เองในเวลาต่อมา
    [​IMG]





    <TABLE><TBODY><TR><TD width="100%" colSpan=2 align=center>[SIZE=+1]Anoushka Shankar[/SIZE] <HR></TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=2 align=center>Discography · Booking Agency · Similar Music <HR></TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=2>Biography: </TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD width="3%"></TD><TD width="97%">
    [​IMG]









    Anoushka Shankar continues to bring a new energy and excitement to one of the noblest and most sublime legacies in the world of contemporary music. Anoushka is the daughter of Indian sitar master Ravi Shankar, and she is the first and only sitarist in the world trained completely by him. Ravi Shankar has guided his daughter through her emergence as a performer and as a recording artist, writing and producing the five works she plays on Anoushka, her debut album. For [ame="http://www.amazon.com/gp/product/B00004W47N/002-0810330-8607219?ie=UTF8&tag=musidelmund-20&linkCode=xm2&camp=1789&creativeASIN=B00004W47N"]Anourag[/ame], her second recording, Anoushka once again performed music written and produced by her father. This time, Ravi Shankar also joined Anoushka as performer, in his first studio recording in three years.
    When Ravi Shankar’s friend and protégé George Harrison first worked with Anoushka in 1997 -- when she conducted on the Chants of India album -- he saw that she had inherited not only her father’s virtuosity but also his musical soul. "Most people are musicians simply because they play a certain instrument when they play that instrument, the music appears," Harrison said. "But Ravi -- to me, he is the music; it just happens to be that he plays the sitar. And it’s like that with Anoushka. She just has that quality. She could play the banjo, and it wouldn’t matter – she is the music."
    The release of [ame="http://www.amazon.com/gp/product/B00004W47N/002-0810330-8607219?ie=UTF8&tag=musidelmund-20&linkCode=xm2&camp=1789&creativeASIN=B00004W47N"]Anourag[/ame] coincided with the extensive "Full Circle" tour of the United States, in which Anoushka and [ame="http://www.worldmusiccentral.org/artists/artist_page.php?id=526"]Ravi Shankar[/ame] performed together in concert in celebration of Ravi’s 80th birthday and the 70th anniversary of the beginning of his career in music. On August 15th, India's Independence Day, Anoushka performed alone in New York at Summerstage in Central Park. Throughout the tour, she o shared the stage with her father, performing his Sitar Concerto No. 1 and conducting master classes.
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=BgCpkduEQ7U"]Anoushka Shankar Live at Verbier Festival - Mishra Pilu - YouTube[/ame]​



    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=tOgfK6HnuNk&feature=fvwp&NR=1"]ระวี ชังก้าร์ กับลูกสาว อนุชก้า[/ame]
    </TR></TBODY>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 999999.jpg
      999999.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.2 KB
      เปิดดู:
      144
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2012
  5. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=baseline align=left>จาก “นางแบบ” สู่ “หมอตำแย” ฟิโอน่า เกรแฮม


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=337><TBODY><TR><TD vAlign=top width=337 align=center>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หมอตำแย ผู้ยังไม่ทิ้งมาด นางแบบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ปี 2537 หากใครเป็นสาวกวงโมเดิร์นด็อก นักดนตรีร็อกกลุ่มแรกๆที่จุดประกายดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ เชื่อว่าก็ต้องรู้จัก เฟี่ยว - ฟิโอน่า ธาริณี เกรแฮม ผู้หญิงนอกกรอบอีกคนที่ร่วมปลุกปั้นโมเดิร์นด็อกให้ดังคับฟ้าในช่วงนั้น

    เฟี่ยว เป็นลูกของมาร์ค แกรแฮม กับ จันทรนิภา กระบวนรัตน์ พ่อของเธอเป็นผู้ดีอังกฤษจากตระกูลเก่าแก่ผู้มั่งคั่ง เฟี่ยวเกิดและโตเมืองไทย จนอายุ 11 ขวบ จึงถูกส่งตัวไปเรียน Hatherop Castle School ที่อังกฤษเพื่อไปเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้ดีอังกฤษเตรียมการเป็น "เลดี้" เพื่อเข้าไปรับใช้ในวัง แม้ว่าเฟี่ยวจะไปได้ดีการการเรียนแต่ไม่ชอบการแบ่งชั้นวรรณะ ขณะเดียวกันก็อยากเรียนการแสดงจึงปลอมลายเซ็นของพ่อ-แม่แต่โดนจับได้ พ่อจึงส่งเธอไปเรียนการแสดงที่ Hurtwood Horse International Sixth form College เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เพราะโลกของแสดงคือสิ่งที่เธอรักจึงทำได้ดี เมื่อจบก็มีเอเยนซี่มารับตัวไปฮอลลีวู้ดได้เล่นละครทีวี

    ชีวิตของเฟี่ยวดูเหมือนกำลังจะไปได้สวย แต่ความฝันที่ฝังลึกในใจ ได้ปรากฏในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างเหลือเชื่อ “ช่วงเรียนจบใหม่ๆ เริ่มฝันแบบไม่ธรรมดา เหมือนคนบ้าคือได้ยิน ได้สัมผัสกับมิติที่มันเกินกว่าที่เราเห็น มีครั้งหนึ่งฝันมีคนมาบอกว่าต้องเจอผู้ชายผิวดำเพื่อให้เขาเป็นพ่อของลูก แล้วก็เจอจริงที่นิวยอร์ค เขาชื่อ “รอน” เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้หลงรักหรืออะไร รู้สึกเหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อให้แสงฟ้า เกิด” เฟี่ยวเล่าเรื่องราวในอดีต

    ช่วงตั้งท้อง “แสงฟ้า” ลูกสาวคนแรกเป็นช่วงเวลาที่เธอกำลังสนใจลิเกป่า จึงตัดสินใจทิ้งนิวยอร์คกลับไทย “เฟี่ยวตามคณะลิเกป่ามาหมู่บ้านชาวอิสลามที่เกาะเจ้าไหม จังหวัดตรัง เจอครอบครัวฮาวา เป็นชาวเล ไปอยู่กับเขา เขาก็รักเราเป็นลูกหลาน เรารู้สึกปลอดภัย เขาสร้างกระท่อมให้ ตอนหลังมารู้เขาเป็นครอบครัวหมอตำแยกัน แต่เขาไม่ได้เฉลยจนใกล้จะคลอดแล้ว”



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=center>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“เฟี่ยว” เมื่อครั้งตามคณะลิเกป่าไปใช้ชีวิตกับชาวเล หาดเจ้าไหม จ.ตรัง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ที่เกาะเจ้าไหม เฟี่ยวได้พบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ได้สัมผัสกับความจริงในข้อนี้ด้วยตัวเธอเองว่าชีวิตที่แท้จริงแล้วเราทุกคนต่างก็เกิดขึ้น มีชีวิตอยู่ และลาลับโลกนี้ไป ด้วยวิถีแห่งธรรมชาติทั้งสิ้น จากนั้นมาวิถีชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปจากเดิม

    ฟีโอน่าเลือกที่จะทำคลอดด้วยวิธีธรรมชาติกับ “หมอตำแย” ผู้สูงวัยของหมู่บ้าน เป็นการคลอดแบบง่ายๆภายใต้กระท่อมเก่าหลังเล็กริมทะเล ที่นั่นปราศจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีขาหยั่ง ไม่มีพยาบาลมารายล้อมส่งเสียงเชียร์ ไม่มีคนไข้ ไม่มีกระดาษบันทึกเรื่องราวการให้ยาของคนไข้

    การคลอด “แสงฟ้า” ลูกสาวคนแรกกับหมอตำแยชาวอิสลาม สร้างความประทับใจมาก “มันไม่น่ากลัวไม่เป็นอย่างที่เราเห็นในภาพยนตร์ ช่วงเวลานั้นหมอตำแยทำให้เรารู้สึกสบาย ผ่อนคลาย สัมผัสได้ว่ามันเป็นพลัง เป็นแรงบันดาลใจคือมันโล่ง เฟี่ยวคิดว่ามันเป็นอะไรที่สบายมากเมื่อเทียบกับที่เราได้เห็นหลายคนที่คลอดลูกแบบแผนปัจจุบัน ที่มานั่งรู้สึกว่า โอ๊ย! เหนื่อยเป็นบ้าเลย ทำไมมันเจ็บอย่างนี้ โอ๊ย! ฉันจะไม่มีอีกแล้วนะ ฉันเข็ดแล้ว คือมันคนละเรื่องกันเลย”

    ตามศาสตร์ของการคลอดลูกกับหมอตำแย เขาจะเรียกผู้หญิงท้องว่า “คุณแม่” ไม่เรียกว่า “คนไข้” เหมือนแพทย์แผนใหม่ “เฟี่ยวมองว่า แพทย์แผนใหม่ก็จะมีวิธีการของเขาอีกแบบหนึ่งที่เป็นระเบียบแบบแผน แต่เฟี่ยวคิดว่ามันเหมือนการ“ข่มขืน” หรือ “ยัดเยียด” ให้คนที่กำลังจะเป็นแม่กลายเป็นคนไข้ ทั้งๆที่เขาไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ได้เป็นโรคที่ต้องรักษา เขาแค่ตั้งท้องกำลังจะให้กำเนิดบุตร แต่พอไปฝากท้องที่โรงพยาบาล คุณแม่ทั้งหลายกลับกลายเป็นคนไข้ไปทันทีซึ่งเฟี่ยวว่ามันไม่ใช่แล้ว อันนี้มันทำให้กฎเกณฑ์ธรรมชาติความสวยงามหายไปทันที ผู้หญิงท้องกำลังจะมีลูกเป็นเรื่องน่ายินดี แต่นี่อะไร อยู่ ๆ กลายมาเป็นคนไข้ซะงั้น”



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=center>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>รอยยิ้มสดใสหลังคลอด “แสงฟ้า” กับหมอตำแยชาวอิสลามในกระท่อมบนหาดเจ้าไหม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เสน่ห์แห่งการคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติทำให้ “เฟี่ยว” หลงใหลจนต้องหาครูสอนวิชาการเป็น “หมอตำแย” จนวันหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่ที่ “เฟี่ยว” เรียกว่า “พี่รุ้ง” ซึ่งสนใจในเรื่องเดียวกัน ไปรู้จักหมอตำแยท่านหนึ่งชื่อ “ครูสว่าง” เฟี่ยวจึงเดินทางไปฝากตัวขอเป็นลูกศิษย์

    “ตอนแรกครูสว่างก็ไม่รับ บอกขอกลับไปคิดดูก่อน ก็หายไปหลายวัน เฟี่ยวก็รอ จนวันหนึ่งแกยอมรับเราเป็นลูกศิษย์ ใช้เวลาเรียน 5 ปี พูดตรงๆ 3 ปีแรกแทบไม่ได้ทำคลอดเลย ได้แต่ดูวิธีที่ครูสว่างปฏิบัติกับคุณแม่ทั้งหลาย คือ ครูเขาจะสอนให้เราเรียนรู้เรื่องประสาทสัมผัสทั้งหมด เราต้องรู้ให้ได้มากกว่าคนอื่น คือจากเดิมเรามี 3 มิติ แต่นี่เราต้องเรียนรู้ให้ได้ทั้ง 7 มิติคลอดธรรมชาติคุณแม่ต้อง สงบ ไม่ใช้วิชาเบ่ง แต่ใช้วิชาคลาย-- มันต่างกันมาก หมอตำแยทุกคนรู้ว่าหากให้คุณแม่เบ่งมันจะทำให้ปากช่องคลอดบวม จึงต้องทำให้คุณแม่เริ่มต้นด้วยการคลี่คลายในหลายๆจุด เพื่อให้ทั้งแม่และลูกไม่มีบาดแผลใด ในขณะที่การทำคลอดแผนปัจจุบันจะเน้นให้เบ่ง”

    เฟี่ยวแยกแยะให้ฟังว่า สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจระหว่างการคลอดกับหมอตำแยและหมอแผนปัจจุบัน คือ ในศาสตร์ของหมอตำแย มองการเจ็บท้องเป็นช่วงเวลาที่ฝึกลูกให้เรียนรู้เรื่องการฝึกลมหายใจ คือเวลาที่เจ็บท้อง ท้องจะเกร็งดังนั้นคนเป็นแม่ต้องคลาย การคลายนี่คือสิ่งที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตเขา

    “ลมหายใจแรก” ของทารกที่ออกมาสู่โลกภายนอกหากผ่านการเกร็งมันคือบาดแผลที่จะเกิดขึ้นกับเด็กทั้งทางกายและใจ หากคุณแม่คลายทุกอย่างจะโล่ง ตัวเด็กออกมาก็ไม่ต้องผ่านการบีบรัด ไม่เจ็บปวด ไม่มีบาดแผลเป็นความรู้สึกที่สบายทั้งแม่และลูก

    หลังครูสว่างเสียชีวิต เฟี่ยวจึงหันหลังให้กับวงการนางแบบแล้วกลับสู่อังกฤษเพื่อนำวิชาความรู้ที่ได้มาไปปฏิบัติกับบรรดาคุณแม่ที่อังกฤษ แต่เธอรู้ดีว่าอาชีพ “หมอตำแย” ที่อังกฤษจะทำไม่ได้หากไม่ประกาศนียบัตร เธอจึงต้องมาเรียนเสริมวิชานวดที่วัดโพธิ์เพิ่มเติมเพื่อใบประกาศนียบัตร



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=center>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“เฟี่ยว” อยู่ไฟตามแบบฉบับชาวบ้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ที่อังกฤษเฟี่ยวได้มาเริ่มต้นปฏิบัติกับคุณแม่ที่ต้องการคลอดแบบธรรมชาติ โดยการใช้วิธีการให้เพื่อนบอกต่อปากต่อปาก “มันน่าประหลาด ที่อังกฤษมีคุณแม่หลายคนหันมาสนใจการคลอดแบบธรรมชาติมากขึ้น เพราะเขาเบื่อการคลอดแบบข่มขืนเต็มทน เฟี่ยวมีโอกาสตรงนี้ได้ปฏิบัติกับคุณแม่หลายระดับ ตั้งแต่ระดับล่างจนถึงเชื้อพระวงศ์”

    ขั้นตอนการปฏิบัติคุณแม่ที่ต้องการคลอดกับหมอตำแย คือเมื่อแม่ตั้งท้องได้ประมาณ 3 เดือน ก็จะต้องมาคุยสร้างความคุ้นเคยกัน เหมือนฝากครรภ์กับโรงพยาบาล “เมื่อตกลงกันแล้ว ก็จะพูดคุยสร้างความคุ้นเคยให้เค้าสบายใจ ต้องปฏิบัติกับตัวเองอย่างไร หลักการของมันง่ายมาก เฟี่ยวจะอยู่กับคุณแม่อย่างใกล้ชิด ยิ่ง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด จะต้องไปแต่งท้องให้คุณแม่ คือ ค่อยๆไปลูบคลำท้อง จัดร่างกายเด็กให้รู้ว่าเด็กอยู่ในท่าไหน”

    การปฏิบัติที่ดูเรียบง่าย แต่ความเป็นจริงหมอตำแยที่อังกฤษ ไม่ได้ราบรื่น รัฐบาลยังมองว่าการทำคลอดกับหมอตำแยยังเป็นสิ่งอันตราย มีกฎหมายฉบับหนึ่งกำหนดห้ามบริษัทประกันทุกแห่งให้ความคุ้มครอง ซึ่งหมอตำแยที่นั่นก็ตั้งกลุ่มพยายามต่อสู้ แต่ชัยชนะก็ดูเลือนโชคดีที่คุณแม่รุ่นใหม่หลายคนเบื่อระบบข่มขืน หันกลับมาใช้การคลอดหมอตำแยมากขึ้น



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=334><TBODY><TR><TD vAlign=top width=334 align=center>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>13 ปีกับการเป็นหมอตำแยของเฟี่ยว เธอบอกว่าทำคลอดเด็กมาแล้วกว่า 30 คน ทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกับพ่อแม่ของเด็กอยู่ บางคนโตแล้วแม่เขาก็จะส่งรูปถ่ายมาให้ดู บางคนก็ได้พูดคุยกันแบบอบอุ่น

    ด้านราคาในการปฏิบัติกับคุณแม่แต่ละราย เฟี่ยวบอกว่า “ไม่รู้จะบอกยังไงคือคุณแม่มีทุกระดับ ในบางรายที่เขาเงินน้อยก็ได้น้อย เอาเป็นว่าได้ตั้งแต่ 70 ปอนด์ สูงสุดที่เคยได้คือ 7,000 ปอนด์”

    เดินทางกลับมาไทยครั้งนี้ เฟี่ยวคิดว่าเวลาของคนเรากับธรรมชาติมันลดน้อยลงไปทุกที เธออยากทำโครงการฟรีเบิร์ด(Free Birth) ให้คุณแม่คนไทยสนใจกลับมาให้ความสำคัญกับการคลอดลูกแบบธรรมชาติอีกครั้ง

    “กลับมาครั้งนี้ก็สานต่อโครงการฟรีเบิร์ดหรือการคลอดแบบธรรมชาติ ที่ทำตั้งแต่ก่อนไปอังกฤษ แต่ปีนี้เฟี่ยวจะทำให้มันสนุก คือให้มันง่ายขึ้น ตอนนี้เราอยู่ภายใต้ภาวะที่ตึงเครียดมากพอแล้ว โครงการนี้เฟี่ยวให้ชื่อ “สวนสนุกแห่งจินตนาการ” ก็จะค่อยๆทำไป โดยช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้จะจัดนิทรรศการถ่ายทอดความรู้ให้คุณแม่ สอนให้เขารู้ว่าการคลอดธรรมชาติเป็นอย่างไร? มันไม่น่ากลัวอย่างที่คุณคิดนะ อันนี้เชื่อว่าต้องใช้เวลา แต่หากคุณแม่เหล่านี้ได้รู้แล้วเฟี่ยวเชื่อว่าเขาจะหันกลับมาสนใจ” เฟี่ยวกล่าวทิ้งท้ายกับเราด้วยแววตาแห่งความมุ่งมั่น

    “สวนสนุกแห่งจินตนาการ” นับเป็นหนึ่งของโครงการ กิจกรรมนี้ใช้ชื่อว่า “งานบุญอยุธยา” เริ่มตั้งแต่วันที่ 2-4 มีนาคม 2555 ในงานจะมีนิทรรศการโชว์การคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ

    เฟี่ยวเป็นเพียงฟันเฟืองชิ้นเล็ก ที่พยายามดึงมนุษย์ให้กลับมาอยู่กับธรรมชาติ จะสำเร็จหรือไม่เธอไม่รู้ แต่แววตาที่มุ่งมั่น เราจึงเชื่อว่าสวนสนุกแห่งจินตนาการ จะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป เพราะคุณแม่หลายคนพร้อมเปิดประตูบ้านรับหมอตำแยมาทำคลอดให้เด็กไทยมากขึ้น


    http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=pk_aK8AQvW8
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2012
  6. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    --ตื่นเช้ามา นอนดูจิตใจที่ยังสงบอยู่ มองให้เห็นโครงกระดูกในกาย สแกนทีละแบบ- ดิน น้ำ ลม ไฟ เอาซะให้เต็มเหนี่ยว เผื่อจะมีคนแอบรู้ว่า ผมดีแต่สอน ขี้เกียจทำหรือทำไม่เป็น เชอะ คราวนี้จะนินทาเราไม่ได้แล้ว และจะว่าเราไม่ใช่ชายแท้ก็ไม่ได้แล้ว เพราะมีความรักแบบสากล แจกจ่ายให้คนทั่วไปโดยเฉพาะสาวๆ (รักเอง เจ็บเอง แท้ๆ ไม่ได้ใช้สตั๊นท์ แสตนอินนะเนี่ย)
    -----------------------------------
    ---ใครที่ยังอ่านไม่ทันขอให้เร่งอ่านแบบช้าๆ ลองมองดูที่ริมตลิ่ง จะเห็น น้ำไหลนิ่ง แม้ลมแรงแต่ธงไม่ได้โบกสะบัด คงเป็นใจของเธอโบกสะบัด
    --ศิลปินคนหนึ่งวาดต้นไผ่ได้เก่ง แต่ตอนเขาวาดน่ะเขากลายเป็นต้นไผ่ไปโดยทางจิตใจ ตกกิ่งก้านสาขาสวยงาม
    ---จั๋งจื๊อฝันว่าเป้นผีเสื้อโบกโบยบินไป แต่ในขณะนั้น เขาตอบไม่ถูกว่า เป็นจั๋งจื๊อที่ฝันว่าเป็นผีเสื้อ หรือเป็นผีเสื้อที่ฝันว่าเป็นจั๋งจื๊อ
    ----การใช้ถอยคำที่ขัดแย้งกัน สามารถไปกระทบใจผู้ที่ใคร่ครวญอยู่ด้วยเหตุผลธรรมดา อาจจะกระทบจิตแรงมาก จนทำให้ความสงสัย หรือ ความคิดชินเชื่อแตกสลายออก จากนั้น ความรู้แจ้ง หรือสติปัญญาจะเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาที แล้วไปตีอวิชชากับกิเลสแตกกระจาย
    ---ซึ่งเป็นการบรรลุโดยไม่มีวิถีทาง ไร้รูปแบบ บางครั้งพระพุทธองค์ก็ทำการถ่ายทอดธรรมโดย ไม่ได้ใช้คำพูดคำสอน แต่เมื่อเครื่องรับ เครื่องส่งพร้อม การถ่ายทอดธรรมมะก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินความคาดหมาย
    ---------------------
    ขอนุญาตยกตัวอย่างเรื่องของตัวเอง
    ครั้งหนึ่งตอนที่หลับอยู่ พยายามตื่นขึ้นมา แต่...
    มันมืดไปหมด...ไม่กลัวเลย...แต่รู้ว่าจะต้องมี "ความมี..ความเป็นตัวฉัน"..อยู่ที่ไหนสักที่..ในขณะนั้น ผมไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ไม่มีร่างกาย ไม่มีแขนขา แถมยังไม่มีตัวตนอีกด้วย มีแต่ความคิดบางๆ กับความรู้ตัว ท่ามกลางความมืด เหมือนมีการดิ้นรนนิดหน่อย จึงได้โผล่มาถึงร่างภายในเสี้ยววินาที และความรู้สึกว่าเป็นนายเจษฎา ก็กลับมาในเสี้ยววินาทีเช่นกัน ชนิดว่าลุกขึ้นมาพูดได้เลย แต่ก็ยังจำได้ว่า ความไม่มีตัวตนนั้นมันมีความสุขอีกแบบหนึ่ง ซึ่งสุขพอใช้ได้เลยนะ
    -----อีกครั้งหนึ่งไปนอนเล่นที่บ้านเพื่อน เป็นร้านขายโลงศพ ซึ่งขึ้นชื่อว่า จะดลใจคนให้นอนหลับได้ดี พลังมันแปลกๆ ....หลับไปสักพัก ภรรยาเรียกชื่อเรา มันเหมือนว่าเราลอยอยู่กลางอากาศ เหมือนมีพลังดูดจากร่างกาย แล้วมีภาพสิ่งหนึ่ง ซึ่งคิดว่าเป็นการเห็นด้วยจิตนะ
    มันเป็นควัน หมุนวนเป็นรูปก้นหอย--ลงไปจุดที่เป็นหัวใจของเรา มันเร็วมากครับ คิดว่าเป็นจิตวิญญาณกลับเข้าสู่ร่างครับ ซึ่งในพุทธพจน์บอกว่า วิญญาณอยู่ในหทัยรูป คือหัวใจนะครับ ฝึกมองดูจิต ดูกายบ่อยๆ แล้วจิตจะว่องไวครับ
    --ทราบไหมครับว่า รูป-นามคืออะไร-- นามรูปคืออะไร
    รูป คือรูปร่างในโลกวัตถุ เช่นร่างกาย แม้แต่พลังงาน ทางพุทธยังเรียกว่า "รูป" พระอภิธรรมจึงบรรยายาในสิ่งที่เล็กและละเอียดอ่อนมาก
    --นาม คือ สิ่งไร้รูปร่าง เช่น ความรู้สึกหรือเวทนาเรามักใช้ผิดว่า "เกิดความเวทนา"(แปลว่าสงสาร) โดยจำมาจาก "สมเพชเวทนา" แล้วย่อลงมา จริงๆแล้วผิดครับ เช่น รุ้สึกทุกข์ ต้องเรียก ทุกขเวทนา สุข ก็สุขเวทนา
    --นามรูป คือ สิ่งที่มีแต่ชื่อ ไม่มีตัวตน อย่างที่บอกไว้ เพียงแต่เรียกให้ชัดเจนขั้น
    --วิริยะ แปลว่า ความเพียรอย่างกล้าหาญ อดทน
    --------------------กล่าวถึงวิทยาศาสตร์ทางกลศาสตร์ควันตั้ม--(ฟิสิกส์ชั้นสูง)------
    --ในตำราโบราณ กล่าวถึงสร้อยไข่มุกของพระอินทร์ ทุกๆเม็ดสะท้องภาพของเม็ดอื่นทุกๆเม็ด และทั้งจักรวาล อนุภาคต่างๆก็ทำตัวเช่นกัน มีผู้สงสัยว่า อาจจะมีคนที่จิตละเอียด สัมผัสถึงโลกแห้งอนุภาค ระดับก้อนแสง-เม็ดแสง หรือควันตั้ม ซึ่งมันจะเป็นโลกที่เรานึกภาพไม่ได้ ไปไม่ถึง และทุกสิ่งไม่เหมือนสิ่งที่เราได้พบทุกวันอย่างชาชิน
    ---อะตอม ไม่ได้เป้นก้อนแข็ง ข้างนอกเป็นอิเลคตรอนที่วิ่งเร็วมาก จนดูเป็นหมอกจางๆ ข้างในเป็นแก่น ประกอบด้วย โปรตอน นิวตรอน ถ้าคิดว่าอะตอมเท่าสนามฟุตบอล อิเล็คตรอน และอื่นๆ จะมีขนาดเท่าลุกเทนนิสเท่านั้น การจะตรวจสอบ ตำแหน่งของอิเลคตรอน ต้องใช้อนุภาคอื่น เช่นแสงมายิงชนมัน แต่มันจะทำให้รบกวนการอยู่แบบสบายๆของมัน จึงบอกว่าการวัดแบบนี้ไม่มีความแน่นอน
    ----ทะเลขี้ผึ้ง ทะเลแห่งความไร้---
    ในการวัดอนุภาค เราจะทำห้องฟองสบู่ เมื่อมีอนุภาคอะไรวิ่งผ่าน ฟองเล็กๆจะสลายตัว เราก็พอจะรู้แนวทางของมัน
    --แต่สิ่งที่พวกเราชาวนักวิทยาศาสตร์ เป็นงงไม่เคยลืมเลือนก็คือ หาความว่างมาสักที่ ดูดเอาอากาศออกหมด คราวนี้หละ--ว่างแน่ๆ ยิงอนุภาคพลังงานสูงเข้าไปสู่มัน ก็ความว่าง มันจะมีอะไร ปรากฏว่าถูกของบางอย่างกระเด็นออกมามากมาย เช่นเกิดสสารกับปฎิสสารวิ่งออกมาเป็นคู่ วิ่งโค้งมาพบกัน สลายเป็นพลังงานอื่นแล้วหายตัวไป
    -จะเป็นไปได้ไง ความว่างแท้ๆนะเนี่ย
    --คำตอบก็คือ มันว่างแบบไม่ว่างจริง เป็นอนุภาคแอบแฝงอยู่มากมายเต็มไปหมด เรียกว่า ทะเลแห่งอนุภาคว่าง"ไร้รูปร่าง"(ไม่ปรากฏตัว) ในตำรากล่าวภึง อนุภาคมึด(สสารมืด) พลังงานมืด วึ่งวมีมากมายในอวกาศ แต่เรายังรู้จักมันน้อยนัก
    ---ถ้าจับอนุภาคอย่างอิเล็คตรอนมาขังไว้ในที่แคบๆ มันจะยืดตัวออก เปลี่ยนความยาวคลื่น จนหนีจากที่คุมขังไปจนได้ ความประหลาดแบบนี้เรียกว่าการเจาะรู หรือ ทันเนลลิ่ง
    --ฝรั่งเขาทดลองแปลกๆแบบนี้ครับ ยิงแสงเลเซอร์ผ่านกำแพงโบราณ โดยมีตัวตรวจจับอยู่ด้านหลังกำแพง ซึ่งแน่อยู่แล้วว่า ไม่มีอนุภาคแสงผ่านไปได้ เพราะกำแพงมันทึบแสง ใครๆก็รู้ แต่ปรากฏการ์ณทางควันตั้มมันแปลกกว่านั้น สมมุติว่ามันเกิดทันเนิลลิ่งผ่านไปในมิติอื่น แล้วมิตินั้นส่งมันกลับมาหาเราล่ะ ซึ่งจริงๆแล้ว เครื่องรับก็ดันรับแสงของมันได้ด้วย เมื่อนำมันลดความถี่ และป้อนสัญญาณพาหะเข้าไปบ้าง ถอดรูปออกมาเป็นคลื่นเสียง มันเหมือนเสียงสะท้อนใต้น้ำ หรือในโบสถ์ หรือว่าเป็นความจริงที่ว่ามิติอื่น จักรวาลและโลกคู่ขนานนั้นมีจริง

    ----ข้อมูลลับเรื่องมอธแมน และสะพานที่หักลง โดยมอธแมนได้มาเตือนก่อนแล้ว ที่เมือง พ้อยน์ พลีแซ้นท์ 1966-1967 และยังมีที่อื่นๆอีก ก็มาแบบนี้ เชื่อว่าเป็นมนูษย์จากต่างมิติ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=0oEQQxMygnU&feature=related"]Stuff They Don't Want You To Know- What Happened in Point Pleasant, West Virginia? - YouTube[/ame]

    วิลเฮล์ม ได้ทดลองรวบรวมพลังจิตวิญญาณ--พลังชีวภาพ หรือที่เรียกว่า ออร์กอน ในกรอบไม้ แล้วทำท่อส่งพลังไปทำลายเมฆได้ รัฐบาลสหรัฐปฏิเสธ แต่นำข้อมูลไปดองไว้ และปิดเงียบ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=wvSCMoT9vAg&feature=relmfu"]Stuff They Don't Want You To Know: Wilhelm Reich and Orgone Energy - YouTube[/ame]

    สมาคมโลกแบน มีข้อพิสูจน์ สมาคมโลกกลวง มีข้อพิสูจน์ โลกไม่ได้หมุ หถ้าหมุน 1600 กม.ต่อชั่วโมง เราอยู่บนโลก ไม่กระเด็นออกไป หรืออกอาการอ้วกแตกทันทีอะดิ หรือที่เราเรียนมานั้น มันผิดหมด
    --นาซ่าบอกว่าโลกใหญ่กว่าที่เราคิดไว้ อ้าวผิดแล้วทำไมเพิ่มาบอก
    --ขณะนี้มีความแปลกแบบเดียวกับในหนัง 2012 อนุภาคลึกลับจากแกนดวงอาทิตยื จะส่งผลต่อการผิดเพี้ยนของสสสารทั่วโลก รวมทั้งธาตกัมมันตรังสี 8 ชนิดในคน คนในอนาคตจะมีรูปร่างผิดเพี้ยนไปจากปัจจุบัน อาจเหมือนมนุษย์ต่างดาว

    ---กายและใจ รวมกันเราสู้ ----ยาราคาแพง สู้กับแป้งมัน(ยาปลอม-พลาเซโบ้-เอฟเฟ็คท์) placebo effect
    --มาแบบงงๆมะ การทดลองยาต่างๆ จะให้ยาจริง ร่วมกับยาหลอก เช่น คนไข้สองคน คนหนึ่งใช้ยาจริง อีกคนใช้แป้งมันอัดเม็ด ก็ดูคล้ายๆกัน แต่ที่น่าแลก ยาจากแป้งมัน กลับทำให้คนไข้ มีอาการดีขึ้นเท่าๆกับยาจริง เพราะระบบของจิตใจ-ร่างกายได้สร้างภาพชนิดหนึ่ง ซึ่งช่วยสังเคราะห์ยาในรูปแบบพลังงาน ขึ้นมาได้เอง(ปัจจุบันยิ่งมีเปอร์เซ็นต์มากขึ้น) ยังงี้ยาเม็ดละพันก็ขายไม่ออกละสิ หน่วยอาหารและยาสหรัฐมีข้อมูลแบบนี้เพียบเลย
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=v_feOG94IAs&feature=relmfu"]Stuff They Don't Want You to Know - The Placebo Effect and Pharmaceutical Companies - YouTube[/ame]
    [​IMG]


    Uploaded by HowStuffWorks on Sep 7, 2011
    Scientists have noticed that patients may experience improvements just from thinking they've had medicine, even if that medicine is fake . But why does the placebo effect work, and why do some researchers believe it's growing stronger? Tune in to find out.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2012
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    พบกันตอนบ่ายสามครับ ขอเสนอเรื่องแปลกอีกแล้ว
    ---เดือนก่อนเป็นสิวที่หู กลายเป็นก้อนแข็งๆ ความจิงมันเป็นมาเกือบสองปี รำคาญมาก อยากจะผ่าออกก บางครั้งเกา -ขยี้จนเป็นแผล อ๋อ คันหูมันมันส์ดีอย่างนี้นะเอง-โปรดอย่าได้คิดลามกเลยครับ ปล่อยให้ผมคิดคนเดียวพอ เดี๋ยวเต็มเมืองไทย 55-
    - ได้แต่คิดว่าจะผ่ามัน โดยไปคลีนิคหมอ ตื่นขึ้นมาอีกเช้าวันนึง มันหายไปแล้ว แบบเกลี้ยงเกลา
    --หลายเดือนก่อนกุมารมาทัก โดยไม่ได้บอกก่อน แต่เค้ารู้เลยนะ กุมารบอกจะจัดการให้ เหมือนจะหายไปแว็บๆ แต่ครั้งนี้หลายเดือนแล้ว สิวเม็ดนั้นก็ไม่กลับมาแล้ว มีอย่างนี้หลายครั้ง ไม่ได้บอก เพียงแค่คิด เช่นปวดหลังปวดเอว พระอินทร์องค์เขียวๆก็มาปัดเป่าให้ตอนที่ผมหลับ เหล่านี้กุมารบอกทั้งสิ้นครับ
    ---เหลือเชื่อมาก และนับเป็นโชคดีของท่านผู้อ่าน จากซีดีที่ไม่เขียนรายละเอียด เป็นดีวีดีน่ะ เป็นพันๆแผ่น บังเอิญตกอยู่ใต้ชั้นโชว์ ผมจึงเอามาดู มีแฟ้มนุึงเขียนว่า Deva คลิกออกมาดู พบรูปที่ต้องการทันที เป็นภาพดวงวิญญาณ หรือก้อนแสงที่เรียกว่าเอิ๊ร์บ-Orb นะแหละ มาชมกันเลย
    ---ดวงแสงที่เชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณ จะมีชั้นๆอยู่ เรียกว่าเป็นอวัยวะของวิญญาณ(เรียกกันเอง) โดยเราเพิ่งย้ายรูปปั้นเทพเข้ามา (เดิมๆมีแต่รูปภาพ) ทำงานเสร็จ จะออกนอกบ้าน เหมือนมีอะไรมาดลใจผมแบบหน่วงๆหนัก จึงคว้ากล้องมาถ่ายภาพทั้งสองห้อง แชะๆ ประมาณ4 รูป ก็ติดแสงวิญญาณดังกล่าว หลังจากนั้น กลับมา โดยไม่รู้ว่าติดสิ่งแปลกๆ ก้ได้ถ่ายอีก-แต่ไม่มีดวงแสง---ส่วนแมวตัวนี้คืออีเหมียว รู้ภาษาคนครับปากมีสีขาว (คาบแก้ว) หางขอด (รับทรัพย์) ทุกขาจะเหมือนใส่ถุงท้าวขาว เป็นแมวสีสวาด ตระกูลวิเชียรมาศ ชอบอยู่นิ่งๆ มาดสง่าราวนางพญา เวลาถ่ายก็จะเข้าห้องน้ำเหมือนคนคนนึง บางครั้งลูกสาวทะเลาะกันว่าผมเอาดินสอเธอไปซ่อน นังเหมียวกระโดดขึ้นหลังตู้ไปเขี่ยมาให้ทันที ภรรยาผมรักมากกว่าลูกอีกน่ะ
    ---เวลาเริ่มจะทะเลาะกัน มันจะเข้ามาขวางตรงกลางจนหายโมโหเลย พอมันตาย--มาเข้าฝันภรรยา เป็นเด็กหญิงน่ารักคนนึง ใส่กระโปรงบานๆสีขาว บอกว่าจะไปเกิดแล้วนะแม่
    รูปที่5 เป็นภาพขยายขึ้นมา
    รูปที่6 เป็นภาพถ่ายหลังจากนั้น ไม่มีดวงแสงเลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111tled.jpg
      111tled.jpg
      ขนาดไฟล์:
      288.7 KB
      เปิดดู:
      187
    • 222tled.jpg
      222tled.jpg
      ขนาดไฟล์:
      243.8 KB
      เปิดดู:
      133
    • 3333.jpg
      3333.jpg
      ขนาดไฟล์:
      162.7 KB
      เปิดดู:
      132
    • 44444.jpg
      44444.jpg
      ขนาดไฟล์:
      248.6 KB
      เปิดดู:
      123
    • 5555455.jpg
      5555455.jpg
      ขนาดไฟล์:
      151.3 KB
      เปิดดู:
      164
    • 66666ed.jpg
      66666ed.jpg
      ขนาดไฟล์:
      161.7 KB
      เปิดดู:
      166
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2012
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=853 align=center><TBODY><TR><TD height=91 background=../images/frame_04-.jpg></TD><TD vAlign=top rowSpan=3 colSpan=6><TABLE class=table-body border=0 width="98%"><TBODY><TR><TD colSpan=2>นิวเอจ เป็นทางเลือกทางจิตวิญญาณยุคใหม่ เป็นแนววิถีชีวิต-ไลฟ์สไตล์ที่แพร่ระบาดเร็วไปทั่วโลก คงมีอะไรดีๆอยู่ในนั้นแน่เลยครับ


    </TD></TR><TR align=left><TD colSpan=2>นิวเอจหรือจิตวิญญาณทางเลือก สิ่งที่เรากำลังสนใจกันอยู่</TD></TR><TR align=left><TD colSpan=2>มีความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ทางจิตวิญญาณแบบที่ทางเว็บเรากำลังคลั่งไคล้กันอยู่มาฝากครับ searchหาทางgoogle พบข้อมูลเยอะทีเดียว(ขนาดgoogleของไทยยังเยอะขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดให้เสียวซาบซ่านเลยว่า yahoo จะขนาดไหน พูดง่ายๆ ถ้าจะเขียนหนังสือแนวนี้สักเล่ม ไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนหรอกครับ แค่ yahoo อย่างเดียวคาดว่ายังมากกว่าข้อมูลหนังสือของสนพ.ต้นไม้ทั้งหมด ตั้งแต่เปิดสนพ.(ปี2543)จนกระทั่งอีก100ปีข้างหน้า(ปี2652))</B>
    ข้อความที่ copy มามีดังต่อไปนี้ครับ
    ไม่ทราบว่าใครเขียนเหมือนกัน

    "ในขณะที่ข้าพเจ้ามักจะบังเอิญเจอหนังสือที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่แปลกประหลาด ซึ่งไม่น่าจะใช่หมวดของหนังสือเล่มนั้นอยู่เนืองๆ จนเป็นเรื่องปกติในร้านหนังสือเมืองไทย (ข้าพเจ้ามีทฤษฎีส่วนตัวว่า เมืองไทยจัดหมวดหนังสือจาก "ชื่อเรื่อง" ไม่ใช่ "เนื้อหา !" เพราะไม่มีใครมีเวลาพอที่จะดูว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับอะไร !) การแบ่งหมวดหมู่ของชั้นหนังสือในร้านหนังสือภาษาอังกฤษใหญ่ๆ มักจะดูชัดเจน เป็นระบบ เป็นเรื่องเป็นราว และเพลิดเพลินสนุกสนาน เช่น Architecture, Music, Computer, Literature, History, Philosophy, Graphic Design, Gender Studies, Popular Science, Travel และอื่นๆ อีกมากมาย ยิ่งร้านใหญ่มหึมาก็ยิ่งแบ่งซอยประเภทของหนังสือได้มากราวกับเป็นห้องสมุดหรือเป็นคณะวิชาในมหาวิทยาลัย

    แต่มีอยู่หมวดหมู่หนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าฉงนสนเท่ห์เป็นอันมากเมื่อแรกเจอหลายปีมาแล้ว นั่นคือหมวด "Spirituality" ซึ่งอาจแปลตรงตัวได้ว่า "จิตวิญญาณ"

    หนังสือหมวดจิตวิญญาณมันเป็นยังไงกัน ? ข้าพเจ้าคิด ความเคลือบแคลงสงสัยในจิตใจยิ่งเพิ่มทวีคูณเมื่อหมวดที่อยู่ติดกันมีป้ายบอกว่า "Religion" ศาสนาก็เป็นเรื่องจิตวิญญาณไม่ใช่หรือ แล้วทำไมต้องแยก "ศาสนา" กับ "จิตวิญญาณ" ด้วย ? ในเวลาต่อมาข้าพเจ้าก็ค้นพบเพิ่มเติมว่า หมวด Spirituality นี้ บางทีมีอีกชื่อหนึ่งว่า "New Age" หรือ "ยุคใหม่" แต่ยุคใหม่กลับฟังดาดๆ เหมือนภาษาโฆษณาชวนเชื่อตื้นๆ ทางการเมืองกับการตลาดเกินไป เพื่อความขลังเราต้องเหยาะใส่ความเป็นแขกลงไปแล้วสลับคำขยายตามไวยากรณ์อินโด-ยูโรเปี้ยนให้เป็น "นวยุค" แต่ "นวยุค" ก็ฟังอลังการเสียจนงงงวยไพล่นึกไปถึงยุคพระศรีอาริย์แบบพุทธๆ ข้าพเจ้าจึงขอล้มเลิกการพยายามตรากตรำแปลที่ผ่านมา แล้วใช้ทับศัพท์ไปเลยว่า "นิวเอจ" ดูจะดีที่สุด !

    "นิวเอจ" เป็นคำเรียกรวมๆ และหลวมๆ ของการก่อรูปของโลกทัศน์ทางจิตวิญญาณแบบ "ใหม่" ในตะวันตกยุคโลกาภิวัตน์/หลังสมัยใหม่ ซึ่งเป็นยุคที่ข้อมูล ข่าวสาร ความคิด ความเชื่อ และอะไรต่อมิอะไรทางวัฒนธรรม เคลื่อนย้าย ถ่ายเท แพร่กระจาย และปะทะสังสรรค์กันได้ทั่วโลก ในระดับและความเร็ว (และอาจรวมถึงความมั่ว !) ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

    ภาพที่เห็นง่ายที่สุดคือ "นิวเอจ" เป็นการ "เลือก" หยิบความคิดความเชื่อและการปฏิบัติที่มาจากเศษเสี้ยวหลายวัฒนธรรมและศาสนามาผสมผสานจนกลายเป็นกระแสทางความเชื่อและไลฟ์สไตล์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวพอที่จะอธิบายและบ่งชี้ได้ว่าอย่างไรแบบไหนถึงจะเข้าเค้า "นิวเอจ"

    เนื่องจากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกตะวันตกในสภาวะทางสังคมที่ผู้คนมีความเป็นปัจเจกในเชิงความเชื่อ และถอยห่างออกจากสถาบันทางศาสนา (คริสต์) ตามประเพณี แต่ก็มีความโหยหาขาดพร่องทางจิตวิญญาณ (สวนทางกับความเชื่อของนักวิเคราะห์สังคมในอดีตว่า สังคมที่มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์ขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนก็จะยิ่งมีภาวะจิตใจที่เข้าหาโลกีย์ (secular) มากขึ้นเรื่อยๆ) อันเป็นปรากฏการณ์และเทรนด์ทางสังคมมาตั้งแต่ยุคซิกซ์ตี้ (60s) "นิวเอจ" จึงผนวกโลกทัศน์แบบตะวันออกๆ เข้ามาในบริบททางสังคมวัฒนธรรมแบบตะวันตกๆ และมีความหลากหลายมโหฬารจนยากที่จะตีกรอบให้แน่นอนตายตัวได้

    รูปร่างหน้าตาภาพลักษณ์เด่นๆ ของ "นิวเอจ" จึงครอบคลุมตั้งแต่ การปฏิบัติทางจิตวิญญาณอย่างนั่งสมาธิ, การใช้เวทมนตร์คาถา, รหัสยลัทธิแบบตะวันออก, ไบเบิลของคริสต์, เทววิทยา, ความเชื่อเรื่องการเกิดใหม่, โหราศาสตร์, การบำบัดรักษาทางจิต ฯลฯ ส่วนที่เห็นเป็นรูปธรรมกว่านั้นก็เช่น อัญมณีบำบัด, ไพ่ทาโรต์-ไพ่ยิปซี, หรืออโรมาเทอราปี (aroma therapy หรือ "สุคนธบำบัด" ว้าว !) เป็นต้น

    เราอาจพูดได้ว่า "นิวเอจ" คืออะไรที่เป็นกระแสรองหรือทางเลือก ไม่ใช่สถาบันศาสนากระแสหลัก, วิทยาศาสตร์กระแสหลัก, หรือการรักษาพยาบาลกระแสหลัก แต่ถึงกระนั้นคนที่สนใจหรือทำอะไรแบบ "นิวเอจๆ" ก็มีมากมายมหาศาลจนกลายเป็นวิถีชีวิตธรรมดาๆ เกินกว่าจะจัดให้เป็นเพียงแฟชั่นแนวใต้ดินหรือนอกกระแส

    แน่ละว่าภายใต้ "ร่ม" ของนิวเอจนั้นก็ไม่ต่างไปจาก "ร่ม" ของศาสนากระแสหลัก ที่ย่อมต้องเต็มไปด้วยธุรกิจการพาณิชย์ แฟชั่นของไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงความศรัทธางมงาย แต่หากไม่ตัดสินอย่างคับแคบแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่า "นิวเอจ" เป็นภาพของสภาวะทางตัวตนและจิตวิญญาณของมนุษย์ในโลกยุคนี้ที่สถาบันศาสนาความเชื่อตามประเพณีไม่สามารถครอบงำหรือเป็นจุดอ้างอิงสูงสุดอย่างละเมิดมิได้อย่างในอดีต

    ในสังคมเมืองร่วมสมัยของตะวันตก รวมทั้งที่อื่นๆ ในโลกด้วย ศาสนาแบบ "ทางการ" กำลังเสื่อมความสำคัญลงไปในชีวิตผู้คน และศาสนาแบบ "ส่วนตัว" กำลังเบ่งบานเฟื่องฟูขึ้นเรื่อยๆ

    "Spirituality" จึงเป็นแนวคิดลูกผสมที่มีต้นตอมาจากกระแสทางเลือก (alternative) และกระแสประชานิยม (popular) ที่มุ่งแสวงหาอะไรอื่นที่ดีกว่าศาสนาแบบทางการ, มีโลกทัศน์แบบองค์รวม, ไม่จำกัดอยู่กับพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของสถาบัน (เช่น วัด, โบสถ์), เน้นประสบการณ์ส่วนตัวของปัจเจกบุคคลว่าสามารถสื่อ เข้าถึง และพัฒนาเรื่องทางจิตวิญญาณได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง (เช่น พระ, นักบวช) และมุ่งเล็งผลปฏิบัติภายในโลกนี้ ไม่ใช่โลกหน้า

    "Spirituality" / "นิวเอจ" เคลื่อนย้ายความคิดเกี่ยวกับจิตวิญญาณจากที่เคยอยู่ภายใต้อำนาจของ "สถาบัน/คัมภีร์" ศาสนา มาสู่การให้พลังกับ "ตัวตนของปัจเจก" (หรือ self) ที่เท่าเทียมกัน และสร้างความศักดิ์สิทธิ์ (sacred) ให้กับสิ่งที่เคยถูกถือว่าเป็นความสาธารณ์ (profane)

    ถ้าหากอาการของความรู้สึกทางศาสนาจิตวิญญาณในสมัยนี้ไม่ได้จำกัดอยู่กับบริบททางศาสนาแบบเดิมอีกต่อไป แต่แผ่ซ่านแทรกซึมอยู่ที่ไหนก็ได้ในวัฒนธรรมแบบโลกีย์ๆ บางทีเราอาจจะกำลังอยู่ในยุคสมัยของการปฏิวัติทางจิตวิญญาณก็เป็นได้"



    </TD></TR><TR align=left><TD width="75%">ชื่อผู้ส่ง : นิก(ผู้คลั่งไคล้นิวเอจ(ไม่ต้องสนพ.ต้นไม้แล้ว ถ้าสนพ.ไหนนิวเอจเอาหมด))</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></B>

    นิวเอจ(ดนตรีนิวเอจ)<!-- /firstHeading --><!-- bodyContent -->
    <!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี,
    <!-- /jumpto --><!-- bodycontent --><TABLE style="WIDTH: 22em" class=infobox cellSpacing=5><TBODY><TR><TH style="TEXT-ALIGN: center; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,204,238); COLOR: black; FONT-SIZE: 125%; FONT-WEIGHT: bold" colSpan=2>นิวเอจ</TH></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>แหล่งกำเนิดทางรูปแบบ</TH><TD>ดนตรีคลาสสิก
    ดนตรีอีเลกโทรนิก
    Musique concrète
    โพรเกรสซีฟร็อก
    ไซเคเดลิกร็อก
    เวิลด์มิวสิก
    เคราต์ร็อก
    ดนตรีอาวองต์-การ์ด
    ดนตรีโฟล์กพื้นบ้าน
    ดนตรีแอมเบียนต์
    มินิมอลิสม์
    </TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>แหล่งกำเนิดทางวัฒนธรรม</TH><TD>ปลายทศวรรษ 1960 ใน ยุโรป</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>เครื่องบรรเลงสามัญ</TH><TD>เปียโน, เครื่องสังเคราะห์เสียง, แซมเพลอ, sequencer, คอมพิวเตอร์, เครื่องดนตรีสาย, เสียงจากธรรมชาติ (เช่น เสียงนก ปลาวาฬ น้ำตก เป็นต้น), เครื่องดนตรีโฟล์ก, อคูสติกกีตาร์, ฟลูต, พิณ, ซิตาร์, แทมบูรา, tabla, ออร์แกน, เสียงเอฟเฟกต์</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>ความนิยมกระแสหลัก</TH><TD>ทั่วโลก</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: left" scope=row>รูปแบบอนุพันธุ์</TH><TD>โพสต์-ร็อก</TD></TR><TR><TH style="TEXT-ALIGN: center; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,204,238); COLOR: black" colSpan=2>แนวประสาน</TH></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" colSpan=2>เคลติกฟิวชัน, tone poem, biomusic, โพสต์-ร็อก</TD></TR></TBODY></TABLE>ดนตรีนิวเอจ (อังกฤษ: New Age) หากแปลตามตัวก็หมายถึง ดนตรียุคใหม่ เป็นแนวดนตรีชนิดหนึ่งมีจุดเริ่มต้นจากงานความหลากหลายของนักดนตรียุโรปและอเมริกันในทศวรรษที่ 60 ที่ทำเพลงอีเลกโทรนิกและอคูสติก โดยทั่วไปมีลักษณะการใช้เครื่องดนตรีพื้นฐานและความซ้ำของเมโลดี้ในธรรมชาติ การบันทึกเสียงจากธรรมชาติก็มีการนำมาใช้ในเพลง ดนตรีนิวเอจมีดนตรีที่ให้ความผ่อนคลาย แรงบันดาลใจ และมักใช้กับกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น โยคะ การนวด การทำสมาธิ การอ่านหนังสือ และการบริหารความเครียด<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP> ที่จะสร้างบรรยากาศไม่ว่าจะที่บ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ
    ลักษณะของดนตรีนิวเอจมักผสมระหว่างเสียงเอฟเฟกหรือเสียงจากธรรมชาติ รวมกับเพลงอีเลกโทรนิกและเครื่องดนตรี อาศัยโครงของดนตรีหนุนไว้ อย่างเช่น ฟลุต เปียโน อคูสติกกีตาร์ และอาจรวมถึงเครื่องดนตรีตะวันออก ซึ่งในบางเพลงอาจมีการร้องลำนำในภาษาสันสกฤต ทิเบต หรือการสวดของคนพื้นถิ่นในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นต้น หรือในบางคร้งก็มีการเขียนเนื้อร้องที่อิงมาจากเทพนิยายอย่างตำนานเคลติก เป็นต้น สำหรับเพลงที่มีความยาวมากกว่า 20 นาทีในเพลงประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกอะไร และในบางครั้งลักษณะของเพลงแบบนี้ก็มีการเปรียบได้ว่าดนตรีแอมเบียนต์ (ambient music)
    ในช่วงทศวรรษที่ 80 ดนตรีนิวเอจได้รับความนิยมทางสถานีวิทยุทั่วไป

    (อะวอง-การ์ด เป็นภาษาฝรั่งเศสหมายถึงความล้ำสมัย--ถ้าเป็นดนตรีก็คือ "ดนตรีล้ำยุค")
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2012
  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <TABLE class=table-body border=0 width="98%"><TBODY><TR align=left><TD colSpan=2>ข้อมูลเกี่ยวกับนิวเอจจากอีกเว็บหนึ่งครับ ลองอ่านเทียบเคียงกับข้อมูลอันแรกดู
    นิวเอจทางเลือกของคนยุคใหม่?

    เวลาพูดเรื่อง “นิวเอจ” หลายคนในบ้านเราทำหน้างง บางคนก็ถามว่ามันคืออะไร? แม้จะไม่ใช่เรื่องที่คนส่วนใหญ่สนใจ แต่ใช่ว่าจะไม่รับเอาอิทธิพลของมันมา เอาเป็นว่ามาทำความรู้จักกับมันหน่อยแล้วกัน

    จริง ๆ “นิวเอจ” ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่นักมีมานับสิบ ๆ ปีแล้ว เพียงแต่บ้านเราไม่ค่อยพูดถึงเท่านั้น แต่แม้ไม่พูดถึงอิทธิพลของนิวเอจและลัทธิความเชื่อนี้ก็แทรกแซงอยู่ในสังคมไทยแทบทุกวงการ ไม่ว่าสื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือ ภาพยนตร์ ตลอดจนวิถีปฏิบัติ ดนตรี และ ฯลฯ ยกตัวอย่างที่กำลังฮือฮาในเวลานี้ก็เห็นจะเป็นหนังสือและซีดีเรื่อง The Secret โดยรอนด้า เบิร์นหรือเล่มอื่น ๆ ที่เข้ามาทำกระแสเป็นพัก ๆ เช่น The Conversation With God ในช่วงก่อนหน้านี้ และยังมีหลาย ๆ เล่มที่ร้านหนังสือบ้านเรายังไม่ได้ขึ้นป้ายจัดหมวดหมู่ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันหรือแม้แต่ภาพยนตร์ก็มีมาให้เห็นเรื่อย ๆ ตัวอย่างชัด ๆ ที่กำลังฉายอยู่เห็นจะเป็น The Golden Compass หรือพวกดนตรีกรีนมิวสิคทั้งหลายตลอดจน การแพทย์ทางเลือก การใช้ยาแผนโบราณ ซึ่งบ่อยครั้งก็มักมีมิติด้านจิตวิญญาณบางอย่างอยู่ด้วย เช่น แนวคิดการผสมผสานกาย ใจและจิตวิญญาณ เป็นต้น ซึ่งแต่ละอย่างที่กล่าวมาล้วนมีสิ่งดี ๆ มากมายทว่า นี่คือทางเลือกของคนยุคใหม่จริงหรือ ก่อนอื่นมาดูที่มาที่ไปของลัทธินิวเอจกันคร่าว ๆ




    ลัทธินิวเอจคืออะไร

    จะว่าไปก็เป็นผลกระทบส่วนหนึ่งจากกระแสสังคมยุคโลกาภิวัตน์ก็ว่าได้ที่วัฒนธรรมตะวันตกมาบรรจบกับตะวันออกมากยิ่งขึ้น เกิดผสมผสานขึ้นเป็นวัฒนธรรมใหม่ของคนยุคใหม่ที่เรียกว่า “นิวเอจ” ซึ่งมีรูปแบบย่อย ๆ หลากหลาย ส่วนมากค่อนไปทางจิตนิยม เน้นการปฏิบัติศาสนาในด้านพิธีกรรมของศาสนาที่อุบัติจากตะวันออก

    อาจเป็นเพราะองค์ประกอบของศาสนาตะวันออกที่เราคุ้นเคยและฝังตัวผสมปนเปอยู่ในความเชื่อของคนไทยมาช้านานนี่เองที่ทำให้คนในประเทศตะวันออกอย่างเรา ๆ ไม่ตื่นตัว หรือรับรู้ว่าเป็นลัทธิใหม่เสียทีเดียวเพราะโดยปกติการรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาผสมปนเปกับวัฒนธรรมของเราก็ถือเป็นธรรมชาติส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่สำหรับประเทศที่มีพื้นฐานความเชื่อเดิมในศานาคริสต์ กระแสวัฒนธรรมและศาสนาตะวันออกถือเป็นสิ่งใหม่ และเมื่อเข้าไปมีอิทธิพลผสมผสานกับศาสตร์หรือศาสนาตะวันตก จึงถูกมองเป็นสิ่งใหม่และตื่นตัวกันมากว่า

    จากบทความใน พลังจิต เว็บ พระพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism Buddhist ที่โพสท์เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2007 กล่าวว่า “ขบวนการเคลื่อนไหวสู่ยุคใหม่ วัฒนธรรมใหม่หลากหลายนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรียกกันหลวม ๆ รวม ๆ ว่า POSTMODERNISM (ยุคหลังสมัยใหม่) ซึ่งนักคิดนักวิชาการด้านสังคมตะวันตกแทบทุกคนเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมระดับโลก อย่างน้อยก็จากยุคมืดบอดทางปัญญาในสมัยกลางของยุโรป (MIDDLE AGE) มาสู่ยุคฟื้นฟูและสู่ศตวรรษการรู้แจ้งของสังคมตะวันตกอันเป็นที่มาของอารยธรรมความศิวิไลซ์ วัฒนธรรม “สมัยใหม่" ที่ยกมนุษย์ขึ้นเป็นศูนย์กลางของจักรวาลหรือที่ดำรงอยู่โดยมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือ เพื่อคุณภาพที่ดีของชีวิต เป้าหมายที่นำมาซึ่งการพัฒนาของเทคโนโลยี เพื่อแปรเปลี่ยนธรรมชาติสู่ความมีคุณภาพที่ดีกว่าของชีวิตดังกล่าว... ขบวนการนี้มีเป้าหมายหลักที่การ “โยนทิ้ง” วัฒนธรรมเก่าที่เรามี ที่เคยชินมาหลายสิบชั่วคนนับแต่ยุคฟื้นฟูและศตวรรษแห่งการรู้แจ้งที่กล่าวมาข้างต้น นั่นคือ “โยนทิ้ง” ความเป็นสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหลัก หรือเป็นคราบที่ฝังตัวอยู่ในระบบการเมือง สังคม หรือเศรษฐกิจที่เราใช้ ๆ กันอยู่และคิดว่าถูกต้องแล้ว แต่กลับเป็นแหล่งเพาะความแตกแยกขัดแย้งที่ก่อปัญหาสารพัดดังที่รู้ ๆ กันในปัจจุบัน ซึ่งก่อตัวขึ้นมาจากความรู้ด้านกายภาพเพียงด้านเดียว โดยมีปรัชญาของเดส์การ์ต มีฟิสิกส์คลาสสิกของนิวตัน มีชีววิวัฒนาการของอาร์ลส์ ดาร์วิน และมีจิตวิทยาพฤติกรรศาสตร์ผิวเผินของซิกมันด์ ฟรอยด์ เป็นเครื่องมือ”



    Holy:
    นิยาม

    ลัทธินิวเอจเป็นการเคลื่อนไหวอิสระด้านจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้เชื่อและผู้ปฏิบัติที่ต่อเติมความเชื่อใหม่ ๆ เข้ากับความเชื่อทางศาสนาดั้งเดิมทั้งจากตะวันออกและตะวันตกซึ่งผสมผสานเข้ากับความคิดทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ โดยเฉพาะจิตวิทยาและนิเวศวิทยาส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศาสนาหลัก ๆ ในโลกนับจากลัทธิจิตวิญญาณนิยมพุทธศาสนา ศาสตร์ลึกลับว่าด้วยไสยศาสตร์ และอาคมฮินดู ศาสนาอิหร่าน เทววิทยา เต๋า เวทย์มนต์ตามพิธีกรรมต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมาก จึงเป็นแนวความคิดและกิจกรรมที่ครอบคลุมกว้างมาก ซึ่งผู้เข้าร่วมในวัฒนธรรมย่อยจะเลือกเอาเองว่าอยากสนับสนุนหรือเข้าร่วมสายไหน และไม่มีนิยามที่เป็นทางการ แต่มีงานวิจัยหนึ่งเสนอว่า พวกที่เอาตัวอย่างจากคำสอนทั้งหลายแหล่มาปฏิบัติทั้งจาก “ศาสนาหลัก” และธรรมเนียม “อื่น ๆ” แล้วสร้างความเชื่อของตัวเองจากประสบการณ์ นั่นก็ถือเป็นพวกนิวเอจได้ พวกนี้จะไม่ทำตามระบบศาสนาที่มีอยู่เดิม

    นิวเอจต่างจากศาสนาหลัก ๆ ส่วนใหญ่ตรงที่ไม่มีคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ องค์กรกลาง สมาชิกภาพนักบวช ศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ หลักคำสอน หลักข้อเชื่อ ฯลฯ สำนักพิมพ์ถือเป็นองค์กรกลาง ส่วนการสัมมนาการประชุมใหญ่ หนังสือ และการรวมตัวกันอย่างไม่เป็นทางการเข้ามาแทนที่คำเทศนาและการประชุมทางศาสนา



    ความเป็นมา

    คำสอนของลัทธินิวเอจเริ่มต้นที่ประเทศอังกฤษในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 โดยเกิดจากปฏิกิริยาการต่อต้านสิ่งที่มองกันว่าเป็นความล้มเหลวของคริสเตียนและมนุษยนิยมทางโลกในการให้แนวทางจิตวิญญาณและศีลธรรมในอนาคตจึงเกิด วิถีปฏิบัติและความเชื่อรูปแบบจิตวิญญาณทางเลือก หรือศาสนาทางเลือกขึ้น ดังนั้น การใช้คำว่า “ทางเลือก” ในความคิดแบบลัดธินิวเอจโดยทั่วไปจึงส่อถึงสิ่งที่ตรงข้ามกับความเชื่อหลัก ๆ ทางศาสนาและ/หรือวิทยาศาสตร์ และความคิดนิวเอจมากมาย รวมทั้งวิถีปฏิบัติในโลกตะวันตกมักตำหนิคริสเตียนอย่างโจ่งแจ้งหรือไม่ก็อ้อม ๆ

    ราวกลางทศวรรษ 1970 เกิดนิตยสารรายเดือน New Age Journal ขึ้นแล้วถูกนำไปตั้งเป็นชื่อร้านหนังสือและของที่ระลึกเล็ก ๆ แนวนี้อีกหลายพันแห่ง ต่อมาคำนี้ยิ่งแพร่หลายมากขึ้นเพราะสื่อมวลชนอเมริกันนำไปใช้เรียกวัฒนธรรมย่อยด้านจิตวิญญาณทางเลือก รวมทั้งกิจกรรมทั้งหลายของกลุ่มตั้งแต่การนั่งสมาธิ การปลุกวิญญาณผู้ตาย การกลับชาติมาเกิด ลูกแก้ว จนถึงเรื่องสุขภาพ เช่น ฝังเข็ม ดนตรีบำบัด จิตบำบัด ฯลฯ ความเชื่อในปรากฏการณ์วิปริต หรือ “เรื่องลี้ลับ” เช่น ยูเอฟโอ ความลึกลับของโลกและวัฏจักรของพืชผล หรือทำนายดวงชะตาโดยใช้ลูกตุ้ม ไพ่ทาโร่ โหราศาสตร์เป็นต้น



    ราวปลายทศวรรษ 1980 มีสิ่งพิมพ์ใหม่ ๆ อีกมากมายปรากฏขึ้นสนองตลาดนี้ ได้แก่ Psychic Gulde Magazine (ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Body, Mind & Spirit), Yoga Journal, New Age Voice (นิตยสารดนตรีนิวเอจโดยเฉพาะ) และนิตยสารการค้า เช่น New Age Retailer, NaPRA ReView (สมาคมผู้พิมพ์และค้าปลีกแนวนิวเอจ) และ ฯลฯ



    Holy:
    ความเชื่อ

    จากความเชื่อพื้นฐานที่หลากหลายมาก นิวเอจทุกคนจึงได้รับการสนับสนุนให้ “เลือกหา” ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ตัวเองรู้สึกสบายใจที่สุดอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ หรือทั้งหมดนี้

    ศาสตร์แห่งเป้าหมาย

    - เชื่อว่าเหตุการณ์ประจวบเหมาะมีความหมายและบทเรียนด้านจิตวิญญาณที่สอนผู้เปิดใจรับได้
    - ทุกสิ่งเชื่อมโยงกันหมดโดยพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกที่มีพลังงานแบบเดียวกัน
    - มีเป้าหมายกว้างใหญ่ไพศาล และความเชื่อที่ว่าธาตุแท้ทุกอย่างร่วมมือกัน (เต็มใจหรือไม่ก็ตาม) สู่เป้าหมายนี้
    - ทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตและบทเรียนต้องเรียน
    - ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง และความสัมพันธ์ยังถูกกำหนดให้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ จนกว่าจะดี

    ความรู้ด้านจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์

    - การหยั่งรู้โดยสัญชาติญาณเป็นตัวชี้นำที่เหมาะสมกว่าหลักเหตุผลหรือวิธีการทางวิทยาศาสตร์
    - วิญญาณทั้งหลาย (นางฟ้า วิญญาณที่ล่องลอย ผีสางธรรมชาติ และ/หรือ มนุษย์ต่างดาว) มีจริงและนำเราได้ถ้าเรายอมเปิดใจ
    - ทุกศาสนามีแก่นเหมือนกัน ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นต้องมีคำสอนและเอกลักษณ์ทางศาสนา
    - รูปแบบจิตวิญญาณผู้หญิง รวมทั้งภาพลักษณ์ของพระเจ้าเพศหญิง
    - มีอารยธรรมโบราณอยู่ เช่น แอทแลนติส และได้ทิ้งสิ่ง ที่ตกทอดมาและอนุสาวรีย์ต่าง ๆ เช่น ปิรามิดใหญ่และอนุสาวรีย์หิน ซึ่งธรรมชาติแท้จริงของสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกค้นพบโดยนักประวัติศาสตร์สำคัญ ๆ
    - ทำเลทางภูมิศาสตร์บางแห่งพลังจิตได้ เช่น สถานที่บางแห่งถือว่าศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาทั่วโลก
    - วิทยาศาสตร์ตะวันตกละทิ้งจิตวิทยาด้านประสาทรับรู้ การนั่งสมาธิและสุขภาพองค์รวมจนเกิดความเสียหาย
    - วิทยาศาสตร์และจิตวิญญาณที่สุดแล้วก็เข้ากันได้ การค้นพบใหม่ ๆ ทางวิทยาศาสตร์ เช่น วิวัฒนาการ กลไก พลังงานรังสีเมื่อเราเข้าใจถูกต้องย่อมชี้ไปสู่หลักการจิตวิญญาณ



    ศักยภาพของมนุษย์

    - ความคิด มนุษย์มีศักยภาพยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิดและสามารถเอาชนะความเป็นจริงทางกายได้ มีผู้ยิ่งใหญ่ฝ่ายจิตวิญญาณไม่กี่คนเท่านั้นที่บรรลุศักยภาพสูงสุดได้
    - ทุกวันนี้เด็ก ๆ เกิดมาพร้อมอำนาจจิตวิญญาณที่พัฒนาสูงกว่าในยุคก่อน ๆ
    - ท่าที่ดีที่ได้รับการสนับสนุนด้วยคำยืนยันชมเชยจะสามารถประสบความสำเร็จในทุกสิ่งได้
    - มนุษย์รับผิดชอบมีส่วนในกิจกรรมสร้างสรรค์ดี ๆ ที่จะทำงานและรักษาตัวเอง คนอื่นและโลกนี้
    - การนั่งสมาธิ โยคะ ไทชิ จี้กง และกิจกรรมของชาวตะวันออกช่วยให้เราบรรลุศักยภาพของตัวเองได้
    - มนุษย์มีศักยภาพรักษาโรคได้ (เช่น การใช้สัมผัสบำบัด) ซึ่งสามารถพัฒนาขึ้นมารักษาคนอื่นด้วยการสัมผัส หรือแม้แต่จากระยะไกลได้
    - อาหารที่รับประทานเข้าไปมีอิทธิพลต่อจิตใจ เช่นเดียวกับร่างกาย
    - การอดอาหารอาจช่วยให้บรรลุภาวะจิตสูงขึ้นได้

    จิปาถะ

    - จิตสำนึกนั้นยังฝังแน่นดุจมีชีวิตแม้หลังจากตายแล้วแต่อยู่ในอีกรูปแบบหนึ่ง
    - ชีวิตหลังความตายมีเพื่อนเรียนรู้เพิ่มขึ้นโดยกลับชาติมาเกิด วัฏจักรนี้วนเวียนไปเรื่อย ๆ คล้ายแนวคิดของฮินดู
    - หินและลูกแก้วมีพลังจิตช่วยนั่งสมาธิ และรักษาโรค
    - ความฝันและประสบการณ์ทางจิตมีความหมายด้านจิตวิญญาณ



    ลัทธิผสมผสาน

    - เป็นแบบผสมผสาน และมีรากมาจากปรากฏการณ์ที่ต่อต้านวัฒนธรรม
    - มักเน้นแนวคิดที่ใกล้เคียงความจริงและมักอ้างคำกล่าวตามศาสนาฮินดูที่ว่า “มีความจริงเดียว แต่ไปได้หลายทาง”
    - ไม่เพียงพยายามเน้นทางเลือกส่วนบุคคลเรื่องจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ยังยืนกรานว่า ความจริงถูกกำหนดโดยบุคคลและประสบการณ์ของเขาหรือเธอได้ด้วย

    พระเจ้าคือจักรวาล

    - ทุกอย่างที่ดำรงอยู่คือพระเจ้าซึ่งนำไปสู่แนวคิดที่ว่าเราแต่ละคนเป็นพระเจ้า
    - ไม่แสวงหาพระเจ้าตามที่บอกไว้ในพระคัมภีร์ แต่แสวงหาพระเจ้าในตัวเอง และทั่วจักรวาล

    กรรม

    - การดีและชั่วที่เราทำจะสั่งสมขึ้นหรือถูกลบล้างออกไป เมื่อชีวิตสิ้นสุดลง เราจะได้รับรางวัลหรือถูกลงโทษตามกรรมเวรของเรา โดยกลับชาติมาเกิดใหม่ที่อาจดีหรือร้าย

    รัศมีไฟฟ้า
    - เชื่อว่ามีสนามพลังที่แผ่รังสีออกมาจากร่างกาย คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น แต่บางคนอาจตรวจจับได้เป็นรัศมีระยิบระยับหลากสีที่ห้อมล้อมร่างกาย พวกที่เชียวชาญ ตรวจจับและตีความหมายรัศมีนี้สามารถวินิจฉัยภาวะจิตใจ ตลอดจนสุขภาพร่างกาย และจิตวิญญาณของคนได้



    ศาสนาสากล

    - ทุกอย่างเป็นพระเจ้า จึงมีความเป็นจริงเพียงอย่างเดียว ฉะนั้น ทุกศาสนาก็เป็นแค่เส้นทางสู่ความเป็นจริงสูงสุดนั้นเท่านั้น
    - อาจมองเป็นรูปภูเขาที่มีเส้นทางจิตวิญญาณหลายสายที่นำไปสู่ยอดเขาได้ บางเส้นทางก็ยาก บางเส้นทางง่ายกว่า ไม่มีเส้นทางใดถูกต้องเพียงเส้นทางเดียว ในที่สุดทุกเส้นทางก็พาไปถึงยอดเขาเหมือนกัน
    - ควาดหวังว่าศาสนาสากลใหม่นี้ซึ่งมีองค์ประกอบของทุกความเชื่อในปัจจุบันจะวิวัฒนาการขึ้นไปและได้รับการยอมรับทั่วโลก



    ระเบียบโลกใหม่

    - เมื่อยุคอะแควเรียสเริ่มปรากฏขึ้น ลัทธินิวเอจก็จะเฟื่องฟู เป็นสังคมสมบูรณ์แบบที่มีรัฐบาลโลก
    - เป็นจุดจบของสงคราม โรคภัยไข้เจ็บ ความหิวโหยมลพิษ และความยากจน เพศชายหญิง เชื้อชาติศาสนาและการเลือกที่รักมักที่ชังทุกอย่างจะหมดสิ้น
    - ความจงรักภักดีของผู้คนต่อเผ่าพันธุ์ หรือประเทศขอตนจะถูกแทนที่ด้วยความเป็นห่วง และความสนใจในโลกและประชากรโลกทั้งหมด



    Holy:
    บทสรุป

    มีคนมากมายที่เรียกตัวเองว่าคริสเตียนหรือศาสนาอื่น ๆ แต่ก็ได้ผนวกเอาความเชื่อหลายอย่างของลัทธินิวเอจเข้าไว้ในความเชื่อเดิมด้วย ดร.คาร์ล แรชเค ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาศานาแห่งมหาวิทยาลัยเดนเวอร์อธิบายว่า "ลัทธินิวเอจเป็นเหมือนเอดส์ฝ่ายวิญญาณซึ่งทำลายความสามารถที่คนจะรับมือและทำหน้าที่อย่างถูกต้อง” และยังอธิบายต่อว่า “โดยเนื้อแท้แล้ว มันคือการตลาดของลัทธิเทียมเท็จที่มาในคราบการเมือง"

    ส่วนผู้เขียนเองมองว่านิวเอจเป็นอีกความพยายามของมนุษย์ที่แสวงหาชีวิตที่ดีกว่า และความหมายแท้จริงของชีวิตด้วยกำลังของตัวเอง และเป็นความพยายามพิสูจน์ว่ามนุษย์ทำได้โดยไม่ต้องมีพระเจ้า มนุษย์สามารถกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้ และจนถึงอาจควบคุมทุกสิ่งได้ แต่นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่มนุษย์ทำได้จริง

    แม้ว่าหลักการดี ๆ บางอย่างของนิวเอจที่ไม่ค้านกับหลักการในพระคริสตธรรมคัมภีร์อาจฟังดูดี และได้ผลสำหรับทุกคนที่นำไปปฏิบัติตาม ไม่ว่าผู้นั้นจะเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ก็ตาม นั่นก็ต้องถือเป็นพระคุณของพระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์และโลกที่อนุญาตให้มนุษย์ที่เป็นเหมือนต้นหญ้าที่งอกขึ้นในเวลาเช้า..ครั้นเวลาเย็นก็ร่วงโรยและเหี่ยวไปนี้ได้มีส่วนกำหนดคุณภาพชีวิตช่วงสั้น ๆ ของเราบนโลก เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เราจะมีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้หรือไม่ นับประสาอะไรจะควบคุมอนาคต

    แท้จริงลึก ๆ ในใจมนุษย์ทุกคนก็รู้ว่า มีบางสิ่งที่มองไม่เห็นกุมชะตาชีวิตเราอยู่ (แม้จะไม่ยอมรับก็ตาม) แต่เพราะความพยายามจะปลดแอก และบังเหียนนี้จากชีวิตมนุษย์จึงเสาะหาวิธีประกาศอิสรภาพจากสิ่งนี้ที่หลายคนอาจเรียกกันไปต่าง ๆ นานาว่า ธรรมชาติบ้าง เวรกรรมบ้าง แต่สำหรับผู้เขียนสิ่งนี้คือ พระเจ้า โดยเอาสิ่งดี ๆ จากศาสนาหลัก ๆ มาผสมผสานปนเปเพื่อชี้คนออกจากศาสนาหลัก ๆ ออกจากพระเจ้า ไปที่ตัวเอง และบอกว่าเราทำได้โดยไม่ต้องมีพระเจ้า หรือนี่อาจเป็นความปรารถนาลึก ๆ ในใจมนุษย์ที่อยากเป็นพระเจ้าเสียเอง

    อ้างถึง (…, 2008, น.35-39)
    บรรณานุกรม .... (2008). BRIDGE ปีที่ 3 เล่มที่ 11. กรุงเทพฯ

    ข้อมูลจาก New Age Spirituality,
    http://en.wikepedia.org/wiki/New_Age และ พลังจิต เว็บ พระพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism Buddhist

    </TD></TR><TR align=left><TD width="75%">ชื่อผู้ตอบ : นิก</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ----ขณะนี้เป็นเวลาเกือบตีหนึ่ง ความเงียบและความเหงา มันได้เข้ามาโจมตีหัวใจผมมาเป็นชั่วโมงแล้ว
    --ความเงียบ นั้นมีประโยชน์ ที่เราอาจจะได้นั่งคิดทางปรัชญาหรือทฤษฎีฟิสิกส์อนุภาค หรือดูจิต หรือใคร่ครวญเรื่องจิตว่าง

    --ส่วนความเหงา มันเป็นอาการของจิตแบบหนึ่ง มันก็มาคู่กับความไม่เหงานั่นแหละ มันอยู่กับผมราวๆครึ่งชีวิต เหมือนเป็นสิ่งงที่ขาดไม่ได้ เป็นรสชาติชีวิตแบบหนึ่งเหมือนเหล้าที่ทั้งขมทั้งรสปร่าๆ แต่เหมือนสิ่งเสพติดยังไงไม่รู้ มากับความเศร้าเป็นแพ็คคู่เช่นเดียวกัน
    --ส่วนใหญ่ผมจะนั่งคิดเรื่องราวของแม่ ยังรับรู้ถึงพลังความรักอันมากมายมหาศาล พี่น้องทุกคนก็ทราบดีว่าแม่เป็นคนที่รักลูกมาก การกระทำทุกอย่างทุกลมหายใจของแม่ไม่ได้ทำเพื่อตัว้อง พี่สาวคนโตบอกว่า แม่เรา ไม่มีใครเหมือน แม้แต่จะซื้อเสื้อให้แม่ ต้องนั่งนึกถึงบุคคลิกของแม่ก่อน จึงจะหาเสื้อที่เหมาสมได้ ผมมาคิด ก็จริงๆ แม่กับภรรยาผมมีความคล้ายกันทางนิสัย ชอบสะอาด ใจร้อน มุ่งมั่นในการกระทำ และมีอารมณ์ขัน ชอบเย้าแหย่

    ---ขอคุยเรื่องน้ำเน่านิดนึง ลูกสาวภรรยาโทรมาบอกว่า ให้ทุกคนช่วยคิดว่าลูกของเธอ จะตั้งชื่อว่าอะไรดี พวกเราช่วยกันคิดแล้ว ลูกสาวคนเล็กยังบอกว่าสรุปว่า บ้าครับ ยิ่งตัวผัวเค้า จัดที่นอน -กั้นห้องเตรียมรับการมาของแม่ยาย ซึ่งอีก8 เดือนข้างหน้า (ปีหน้า)เด็กถึงจะคลอด--ป่านนั้นโลกอาจแตกไปแล้ว โอบาม่าตกกระป๋อง บิน ลาเดนฟื้นจากหลุมศพ
    --การตั้งชื่อเด็ก เราต้องรู้ก่อนว่า เป็นเด็กชายหรือเด็กหญิง ตกฟากตอนไหน อยู่ราศีอะไร จากนั้นเปิดตำรา หาอักษรที่เป็นมงคล แม้ชื่อเล่น ก็ควรจะตามแบบนี้
    --ผมเลยบอกว่า ถ้าเป็นผู้ชาย ให้ชื่อท้าวบัวเงิน ถ้าเป็นหญิงให้ชื่อ แม่บัวไหล
    ---------------------------
    --ข่าววงการเรื่องลึกลับ
    --- พบปฏิทินชาวมายันใหม่ นับไป6พันปี แต่ผ่านมาแล้ว 1200ปี ซึ่งแสดงว่าโลกจะไม่แตกปลายปีนี้แน่นอน และผู้เชี่ยวชาญว่า ชาวมายันไม่ได้บอกว่าโลกจะแตก คนเราคิดไปเอง

    --ข่าวอเมซซิ่งไทยแลนด์
    --ชาวนาภาคกลาง โดนเพลี้ยลงนาข้าว แจ้งทางการไปสองอาทิตย์แต่ก็เงียบ พระท่านทนไม่ได้จึงทำผ้ายันต์แจกฟรี เหลือชื่อ เพราะว่า มันเวิร์คครับ ตอนนี้ข่าวดังทะลุฟ้ายิ่งกว่าตอนพบว่านิวตริโน่และรังสีคอสมิคเจาะกำแพงได้
    ป่านนี้รอยเตอร์ตีข่าวไปทั่วโลกแล้วมั้ง

    --ข่าวดีสำหรับผู้กลัวอิลลูมิเนตจะครองโลก ขณะนี้พบว่า ฐานที่มั่นใต้ดินของอิลลูถูกโจมตีสองแห่ง
    พออิลลูเรียกประชุม68 ชาติแล้ว โดนเข้าไปอีก6 แห่ง ซึ่งเสียหายมาก เกินกว่าจะฟื้นตัวได้ในเร็ววัน
    --คือลักษณะของข้าวของกระจัดกระจาย เครื่องมือ เช่นคอมพิวเตอร์หายไป คนทั้งหมดก้หายไป
    ครั้นพบว่ามีการบันทึกเสียงทิ้งไว้ พอมาฟังดู มีเสียงคนตะโกนด้วยความตกใจ เสียงข้าวของเคลื่อนไหว น่าจะถูกลากตัวหายไปอีกมิตินึง ซึ่งคิดว่า ทางสหพันธ์แห่งกาแลกซี่ เช่นสภาอันโดรเมด้าได้สั่งการ
    แบบนี้ จนเป็นสงครามลับๆกับพวกอิลลูมิเนติ
    --ฝ่ายที่ทำหน้าที่คล้ายกองกำลังกาแล็กซี่ ก็เช่น แอชต้าร์ คอมมานด์ และ ชาวอาร์คทอเรี่ยน ส่วนชาวพลีอิเดี้ยนนั้นได้ยุติภารกิจบนโลกนี้ไปแล้ว
     
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ยิ่งด่า! ยิ่งแรง! ยิ่งชอบ!

    [​IMG]ภาพ © ผู้จัดการออนไลน์
    นักร้องสาววง“เกิร์ลลี่เบอร์รี่” เมิน คนด่า มิวสิควิดีโอแรง ส่อเรื่องทางเพศ กลับชอบซะอีก เพราะคนยิ่งด่า กระแสยิ่งดี ยิ่งเพิ่มยอดวิวในการเข้าดู ตอนนี้ยอดทะลุครึ่งล้านแล้ว...
    ปล่อยเอ็มวีเพลง “เกิร์ลลี่เบอร์รี่” ออกไปไม่นาน 4 สาว“เกิร์ลลี่เบอร์รี่” ยิ้มแก้มปริ เพราะกระแสดีเหลือเกิน ตอนนี้ยอดในการคลิกเข้าชมห้าแสนวิวแล้วเรียบร้อยและดูเหมือนว่ายอดกำลังจะทะลุหลักล้านในเร็วๆวันนี้ ซึ่ง "แนนนี่" หนึ่งใน4สาว ของนักร้องวงนี้ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า กระแสตอบรับดีมาก ทำให้ตนมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น มีทั้งแฟนคลับทวิตข้อความมาหา ว่ารอดูเอ็มวีนี้ทั้งคืน หรือบางคนรอถึงเช้าก็มี ทำให้ตนรู้สึกดีมาก ส่วนกระแสเรื่องกระวิจารณ์เกี่ยวกับเนื้อหาเอ็มวีว่า ส่อเรื่องทางเพศมากเกินไป ตนมองว่าเป็นความบันเทิงมากกว่า เพราะความจริงๆของเอ็มวีนี้ทำออกมาในลักษณะเปรียบเทียบ เสียดสี เพื่อเพิ่มสีสันในงาน นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไร
    แต่เจ้าตัวก็บอกว่าไม่ได้ซีเรียสกับคำวิจารณ์ที่มีถ้อยคำรุนแรง เพราะถือว่ายังมีคนติดตามผลงานพวกตนอยู่ และคนเหล่านั้นก็มีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น--
    -ในแง่ของศีลธรรม คนพวกนี้ไม่ได้สนใจ ต่อศีลธรรม-คณธรรม จริยธรรม-วัฒนธรรมอะไรทั้งนั้น และไม่ได้รักชาติแม้แต่น้อย-
    -ในขณะที่กำลังทำลายชาติอย่างไม่ละอาย พื่อความร่ำรวยของพวกตน

    ในแง่ของสังคม คนพวกนี้ทำให้สังคมตกต่ำถึงขีดสุด
    --คนพวกนี้กำลังส้างบาปกรรมอันหนักให้กับตนเอง เพราะสร้างเวรกรรม สร้างค่านิยมเสื่อมต่อคนหมู่มาก
    --เมื่อไหร่สังคมจะออกมาต่อต้าน คนที่ยกย่องบูชาวคราบคาวอันโสมม สิ่งดีๆในโลกมีมากมาย แต่คนพวกนี้ไม่เคยมอง
    ก้มหน้าลงจ้องมองแต่เรื่องต่ำๆ ในสมองชาตินี้ทั้งชาติก้คิดเป็นแค่นี้แหละ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2012
  12. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ภาพชุดแรก "เมืองโบราณใต้น้ำ" อายุกว่า 2,000 ปี

    [​IMG]ภาพ © ผู้จัดการออนไลน์
    จีนเผยภาพ เมืองโบราณ ที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบเฉียนเต่า อายุมากกว่า 1,900 ปี
    สื่อประเทศจีนเผยภาพชุดเมืองโบราณที่จมอยู่ภายใต้ทะเลสาบเฉียนเต่า อายุมากกว่า 1,900 ปี ณ เมืองซือเฉิงใกล้กับภูเขาสิงโต เมืองโบราณนี้จมอยู่ใต้ทะเลทราบเป็นเวลานานกว่า 50 ปี เนื่องจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำซินอัน กระทั่งรัฐบาลท้องถิ่นชูอัน ได้ริเริ่มโครงการค้นหาเมืองโบราณ โดยขอกำลังเสริมจากกองทัพจีนและผู้เชี่ยวชาญโบราณคดีใต้น้ำ เพื่อช่วยค้นหาจนสำเร็จ จนกระทั่งได้ข้อมูลครบจนสามารถสร้างผังเมืองได้อย่างสมบูรณ์
    ทั้งนี้ ทางการจีนกำลังเตรียมความสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์จำลองผังเมืองเพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ เพื่อให้ทราบถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเมืองโบราณแห่งนี้
    ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์
     
  13. malangpong

    malangpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +813
    :cool: ขอบคุณ คุณchandayot ที่เอาเรื่องมาเล่า สนุก และ ได้รู้อะไรๆ อีกมากมาย

    ขอเอารูปมาแบ่งกันดูบ้างนะคะ เป็นงานโชว์การลุยไฟที่ศรีลังกา เมื่อปีก่อน ฮะๆๆ ไม่ได้ถ่ายเอง ไกด์เป็นคนถ่าย ลอกมาล้วนๆ ขออนุญาตเอามาแบ่งกันดูนะค้าาาคุณไกด์

    รูปแรกเป็นตอนระหว่างการอันเชิญเทพของเขาและเล่นไฟให้ดู
    รูปต่อมาที่เขาแบกดูเหมือนจะเป็นตัวแทนองค์เทพขณะเดินลุยไฟ
    รูปสุดท้ายบรรยากาศเมื่อ เลิกงานแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC16392s.jpg
      SDC16392s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.7 KB
      เปิดดู:
      128
    • SDC16396s.jpg
      SDC16396s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.2 KB
      เปิดดู:
      128
    • SDC16401s.jpg
      SDC16401s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.7 KB
      เปิดดู:
      108
  14. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---ขอบคุณครับคุณแมงป่องสาว ภาพชัดเจนมากครับ ภาพที่สองดวงแสงใหญ่มากๆ แสดงถึงว่าไม่ใช่ฝุ่นหรอกครับที่สะท้อนแสงแฟลชเข้ามา เป็นเพราะตัวรับแสงของกล้องดิจิตอลนั้น ไวต่อพลังงายในช่วงคลื่นอื่นๆมากกว่ากล้องแบบฟิล์มครับ
    --ที่ผมด่าเรื่องวงดนตรีบางวงนั้น จริงๆแลัวมีเยอะครับ เช่น คันหู เคาะกะลา(เอามาแขนตรงเป้าแล้วให้คนดูเคาะเล่น) พวกนี้เลวเหมือนกันหมดครับ ขนาดในยุโรปอเมริกา ญี่ปุ่น ที่ว่าลามกแล้ว ก็ยังไม่แสดงออกเท่านี้ หลายๆชาติเค้าแสดงออกแนว อีโรติก เซ็กซี่ แต่ก็ไม่สกปรกเท่าเรา--ติเพื่อก่อครับ หรือสมองผิดปกติ แยกคำว่าศิลปะกับอนาจารไม่ออก ตามสโลแกนที่ว่า "สังคมไทยป่วย พวกเราจะช่วย ให้ป่วยหนักขึ้น"
    พิมพ์เรื่องวิญญาณแต่ละชาติกลายเป็นคนหลายบุคคล พิมพ์แล้วข้อมูลหายหมดครับ
    ------------คนมีอดีตชาติ ที่เป็นบุคคลหนึ่ง แล้วชาตินี้ก็เป็นอีกคนหนึ่ง แล้วจิตวิญญาณเดิมหายไปไหน ตามพุทธศาสนาบอกว่า จิตเกิดๆดับๆด้วยความเร็วสูง ตามหลักแห่งปฏิจจสมุปบาท-ธรรมชาติที่อาศัยกันและกันเกิดขึ้น (เปรียบดังวงจรไฟฟ้าที่แช่ในไนโตรเจนเหลว หรือ ซูเปอร์คอนดักเตอร์ คือ จะมีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา ไม่มีความต้านทานทางไฟฟ้า) ระบบทางจิตก็เช่นกัน มันจะทำงานเช่นนี้ไม่มีการหยุด ถ้าหยุดวงจรการเกิดดับนี้ได้ ก็น่าตะเป็นความชุ่มเย็นที่เราเรียกว่า "นิพพาน"อย่างไม่ต้องสงสัย

    --การพิจาณาข้อธรรมหรือสิ่งต่างๆ ที่เกิดในกายและจิต "อย่าส่งจิตออกนอกกาย"นะครับ มันจะกลายเป็นความหลงไม่มีที่สิ้นสุด
    เชื่อหลวงปู่หลวงตาที่เคยทำมาเถิดครับ จะได้ไม่เสียเวลา
    ---การปฏิบัติแรกๆ มันอึดอัดขัดข้อง ปวดเมื่อยครับ นั่งดูจิตมันพาลให้เป็นแบบนั้นไปหมด ทีนั่งดูหังดูละคร มันไม่เป็นแบบนั้น เพราะมันสวนกระแสกิเลสตัณหา ซึ่งพวกมันก็ทวงบุญคูณว่า เพราะพวกมันจึงได้รักษาชีวิตร่างกายมารอด ซึ่งครั้นจะทำจริงๆ อุปสรรคมันเยอะ
    --ต้องเล่นแบบสงครามกองโจร ทำมั่งหยุดมั่ง แต่อย่าท้อ ถ้ามันเผลอ ต้องรีบบุกทันที การต่อสู้กับความต้องการของตนเองนั้นมันยากยิ่ง ดังคำกล่าวว่า "ผุ้ชนะตนนั้นคือสุดยอดแห่งชัยชนะ"อะไรแบบนั้น
    --ครั้งนึงที่อเมริกา พี่สาวเค้าเดินทางไปเรียน ต้องผ่านมุมตึกตรงนั้นทุกวัน เช้านั้นพี่ก็เดินไป พอพ้นมุมตึกก็พบชายคนหนึ่งผุกคอตายอยู่ เดิมก็เจอกันทุกวัน ทำให้ช็อคมาก ไม่กล้าเดินผ่านตรงนั้นอีก ฝรั่งก็แนะว่า ให้ย้อนศร คือไปตรงนั้นอีก แต่ผมซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ20 ได้เขียนจม.ไปบอกพี่ว่า "จิตมันยังอ่อนความรู้และประสพการณ์ -จิตมันกลัวตาย -กลัวความว่าง กลัวหายไปเฉยๆ หรือตกลงในขุมลึกที่ไร้ก้น ไร้ที่ยึดเหนี่ยวทางใจ" ซึ่งต่อมาจากประสพการณ์ของพี่กับของผม ก็พิสูจน์ได้ว่า จิตเรายังอ่อนหัดจริงๆ ทุกครั้งที่มีคนตาย ศพ รีบเข้าไปรู้ ทำความเข้าใจ และให้คุ้นเคยกับความตายโโยเร็ว และนำมาใคร่ครวญบ่อยๆ "ไม่มีใครที่จะพ้นความตายไปได้

    --มีลูกค้าบริษัทผม ได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน ดูๆก็หน้าตาดี มีลูกสองคน กำลังสร้างครอบครัว ต่อมาอ่านนสพ.พบว่ารถตู้ของราชการที่เขาเดินทางลงภาคใต้ประสพอุบัติเหตุ เขาตายพร้อมกับภรรยา--ก็น่าสงสารเด็กๆที่จะอยู่อย่างไรต่อไป
    ---นอกจากจิตที่กลัวตาย แล้วยังมีอีกหลายอย่าง เช่นถ้าพยายามมาก วิปปัสนาจะกลายเป็นวิปัสสนูปกิเลส เป็นสิ่งลวงใจ รู้ตัวตลอด แต่ไม่สามารถหลุดออกมาได้ เช่่นแม่ชีคนหนึ่ง อยู่ๆเกิดนึกขึ้นว่า มีพญามัจจุราชมานั่งบนหัวแล้วสั่งอะไรต่างๆ แม้ว่าพรุ่งนี้จะมีใครเดินทางมาวัด แม่ชีก็รู้อีก ทำนายได้ถูก ยิ่งเพิ่มความหลงผิดหนักเข้าไปอีก แม่้แต่พระท่านพยายามเข้าไปคุย แม่ชีก็ว่า "อาจารย์จะมาแก้วิปัสสนูเหรอ" ซึ่งบางคนก็สองสามปีครับกว่าจะหาย
    --พระอาจารย์บางท่านก็ใช้การด่าอย่างหยาบคาย จนพระแก่ๆที่ท่านคิดว่าบรรลุธรรมแล้ว โมโหมาก เดินคว้าเสียม โดยนึกว่าเป้นกลด หนีออกจากวัดไปทันที พอสักพัก อำนาจของความโกรธกระแทกเอาความหลงผิดแตกสลายไป เริ่มมีสติมองดูตัวเอง และเห็นสภาพทุกสิ่งตามความเป็นจริง จึงได้กลับมาขอโทษครูบาอาจารย์
    --บางอาชีพถือตัวตน มีอัตตามาก ขอโทษที่ต้องยกตัวอย่างอาชีพแพทย์ คือ ต้องเรียนมามาก มีความแม่นยำชัดเจน มีความมั่นใจในวิชาความรู้ และในตนเอง จึงจะกล้าสั่งยา--วินิจฉัยโรคได้ บางคนบอกว่า "เราเข้ารพ.ก้ไม่ต้องบอกว่าตนเป็นโรคอะไร จะรักษาอย่างไร หมอจะจัดการให้เราเสร็จเรียบร้อย"--แบบนี้ก็เช่นกัน --แพทย์หญิงอมรา ได้เข้าไปกราบถวายรายงานการฝึกจิตว่าตั้งจิตแบบนี้ อะไรๆแบบนี้ดีไหมคะ -เก่งหรือยัง พระท่านกลับตะคอก ดุด่าเธออย่างหนัก และท่ามกลายสายตาของคนเป็นร้อยๆ เต็มศาลา"นี่..โยมทำอะไรไม่รู้เรื่องเลย เข้ารกเข้าพงทำแบบนี้มันผิดหลักทางวืปัสสนา" เธอบอกว่า หน้าชาไปหมด ถ้ามีรูอะไรตรงนั้นจะรีบมุดลงไปให้หลายอาย ตอนหลังพระท่านบอกว่า เป็นคนเก่ง -เชื่อมั่น-ยึดมั่นในตัวเองสูง-เป็นถึงอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์-- ก็ต้องใช้"ดาบอนัตตา"ฆ่าอัตตาซะแบบนั้น---กว่าจะรู้ก็นอนโกรธอาจารย์ซะหลายคืน
    --เข้าเรื่องเลยละกัน เมื่อได้จดทะเบียบแต่งกับภรรยาคนนี้แล้ว (คนไหนล่ะ โห ไม่ใช่ของจะเปลี่ยนบ่อยๆ เดี๋ยวเจอลมเพชรหึง)มีคืนหนึ่ง เทพบอกว่า อดีตชาติของภรรยาจะมาหา ชื่อว่า องค์หญิงจิตต์วดี
    แล้วเธอก็มาจริงๆ พูดจาเรียบร้อย มีความดุและเด็ดขาดในตัว เรียกตัวเองว่า"หญิง" พอเธอไปแล้ว ภรรยาบอกว่าเวียนหัวมาก และเธอคนนั้นก้มาบ่อยๆ ภรรยาก็บอกว่า "บอกเค้าอย่ามายุ่งกับหนูนัก" เทพก็ว่า "มันจะมาหึงอะไร ก็คนๆเดียวกับมัน--ตัวมันเองแท้ๆ"
    --ผมเคยฝันเห็นเธอ ผู้หญิงร่างเล็ก ใส่ชุดสีเทา เสื้อ-กางเกงติดกันใบหน้าสวย เศร้า มากับเด็กอายุประมาณหกขวบ นั่งที่โต๊ะหินอ่อนกลมๆ เธอบอกว่า คนรักของเธอหายไป
    ---บางสายเช่นทางโพธิสัตว์ -มหายานบอกว่า ต้องพาจิตวิญญาณในอดีตชาติเข้านิพพานได้ทุกคนแล้วจึงจะเสร็จสิ้นกระบวนการทางธรรม ใครทราบโปรดมายืนยันครับ--จากหนังสือของแม่ภิกษุนีวรมัย กบิลลสิงห์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2012
  15. malangpong

    malangpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +813
    ความจริงเป็นแมลงป่องเฒ่ามากกว่าค่ะ

    หาข้อมูลที่คุณว่าเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ไม่เจอ สนใจมาก
    ถ้าทำได้อยากจะติดตั้งค่ะ เดี๋ยวจะลองหาดูอีกที
     
  16. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    มันมีสองแบบนะครับ แบบแรกเปลี่ยนพลังแสงอาทิตย์เป็นพลังความร้อน ได้น้ำร้อนออกมาอาบครับ
    อีกแบบที่เรียกว่าโซล่าร์เซล เป็นไฟฟ้ากระแสตรงครับ ปัจจุบันนี้ราคาไม่สูงมากนัก

    โซล่าเซล 650 บาท และพลังงานทางเลือก

    ใครอยากจะหาอะไรมาปลูกเล่น ต้นหม่อนกินผล ปลูกง่าย ตายยากครับ
    ขายต้นมัลเบอรี่ หรือต้นหม่อนพันธุ์กินผล

    แต่ผมซื้อเจ้าที่ถูกกว่าเจ้านี้ครับ ได้จองต้นใหญ่มาหลายต้นแล้ว

    ขายต้นหม่อน (มัลเบอรี่)

    มะยมแดง ขายต้นมะยมแดง/////ขายหมดแล้ว ขอบคูณครับ เชียงรายโฟกัส///

    ปลูกผักในน้ำ--ไฮโดรโพนิคส์


    ภาพสุดประทับใจ ชาวเน็ตจีน ยกย่องเป็น "วีรบุรุษมันฝรั่ง"

    [​IMG]ภาพ © ผู้จัดการออนไลน์
    ภาพหนุ่มชาวต่างชาติกำลังแบ่งปันอาหาร น้ำ ให้หญิงชราชาวจีนหน้าร้านอาหารอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างความประทับใจให้ชาวโลกออนไลน์จีนเป็นอย่างมาก ถึงกับยกย่องว่าเป็น วีรบุรุษ
    หลังภาพดังกล่าวปรากฏบนโลกออนไลน์ ไม่กี่ชั่วโมง ได้สร้างความประทับใจให้ชาวจีนที่นิยมท่องอินเตอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก ทั้งส่งต่อ และกลายเป็นประเด็นถกเถียงเรื่องนี้อย่างแพร่หลาย ชายหนุ่มในภาพดังกล่าวคือ นาย เจสัน ลูส (JasonLoose) วัย 23 ปี และมีชื่อจีน ว่า ลู่ เจี๋ยหลิน เป็นชาวอเมริกัน เขาได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ขณะที่ตนกำลังจะเข้าไปซื้ออาหารในร้านแมคโดนัลด์ เห็นคุณยายนั่งอยู่หน้าร้านแล้วเกิดความรู้สึกเคารพจึงได้แบ่งมันฝรั่งและน้ำเปล่าให้กับคุณยาย พร้อมคุยกันไปด้วย หลังจากทราบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ตนก็รู้สึกงงมากกว่า เพราะทุกคนต่างก็อยากได้รับความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เขารู้สึกเขินอายมากที่ได้มาตอบคำถามเรื่องนี้
    วีรบุรุษมันฝรั่ง ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องขอทานในจีนที่ส่วนใหญ่เป็นพวกหลอกลวง ไม่ควรได้รับความช่วยเหลือ ว่า เขาเข้าใจสถานการณ์เรื่องนี้ดี แต่คิดว่าคนแก่ไม่น่าใช่คนหลอกลวง หากช่วยเหลือได้ ก็ควรช่วยเหลือ
    ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์
    คลิปสุดฉาว! ครูหนุ่ม...ทำอะไรนักเรียนสาว?

    [​IMG]ภาพ © Manager.co.th
    คุณครูดวงซวยเจอถ่ายคลิปนี้ในขณะที่ลงโทษเด็กสาวด้วยการเฆี่ยน กลับกลายเป็นภาพที่สังคมชาวเวียดยอมรับไม่ได้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคลิปชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์แห่งหนึ่งในช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา กำลังแพร่สะพัดออกสู่วงกว้างและสร้างความสะเทือนอารมณ์หรือความโกรธแค้นให้กับครอบครัวชาวเวียดนามทั่วประเทศ สื่อเวียดกล่าวว่า เหตุการณ์ที่ครูชายคนหนึ่งซึ่งดูยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่น ใช้ไม้เรียวหวดก้นนักเรียนสาวหลายคนที่หน้าชั้นเรียนเป็นการลงโทษนั้น นับเป็นภาพที่โหดร้ายเกินไป และใช้วิธีการ "ป่าเถื่อน" ไม่เหมาะกับยุคสมัยสังคมยุคใหม่
    ทางการได้สั่งให้กระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมตรวจสอบที่มาที่ไป และให้มีการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว

    ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
    หอมจนต้องอยาก "แก้ผ้า"

    [​IMG]ภาพ © ผู้จัดการออนไลน์
    นักท่องเที่ยวสาวเกิดความคิดสุดแปลก หลังได้เที่ยวชมดอกลิทเซีย หากได้เปลือยกายชมคงดีมาก จนเป็นแนวคิดท่องเที่ยวแบบใหม่ของเอเจนซี
    จากแนวความคิดของนักท่องเที่ยวสาวคนนี้ ทำให้เอเจนซีนำมาสานต่อ-นำเสนอการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในเขตทัศนียภาพหนันตันซันหยั่งเซิน (南丹山养生风景区) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตซันสุ่ย เมืองฝัวซัน มณฑลก่วงตง โดยเปิด “ป่านุ่งลมห่มฟ้าอาบกลิ่นอายธรรมชาติ” ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องสลัดผ้าเปลือยกาย เดินเที่ยวชมธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ เคล้ากลิ่นดินพืชพันธุ์ไม้มวลบุปผานานา เพื่อเพิ่มรสชาติในการท่องเที่ยว โดยต้องจองล่วงหน้าและต้องรวมเป็นกลุ่ม 10 คน และห้ามบันทึกภาพ หรือนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปเด็ดขาด แต่หลังจากมีการประกาศการท่องเที่ยวแบบใหม่นี้ขึ้นมา ก็ต้องตกเป็นเป้าของประชาชนในเรื่องความเหมาะสม บ้างก็เห็นด้วย บอกว่าแปลกใหม่ น่าลิ้มลอง
    ทั้งนี้ การเที่ยวชมธรรมชาติในรูปแบบใหม่นี้ จะแบ่งแยกเป็นกลุ่มหญิง-ชาย ไม่ได้รวมกัน ดังนั้นหากใครอยากเที่ยวแบบคู่ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาติให้เข้าชม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2012
  17. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เส้นทางการปฎิบัติวิปัสสนา ขวากหนาม หลุมพราง กับดักที่มองไม่เห็นนั้นมีมาก

    "ทุกทุกก้าวหย่อมหญ้าที่ย่างเหยียบ
    ใช่ปูพรมราบเรียบให้เหยียบย่ำ
    ทั้งหนามคมหินแข็งคอยแทงตำ
    ทั้งผงฝุ่นหมุนคร่ำกระหน่ำวน"
    บทกวีโดยสุดยอดกวีของผม คมทวน คันธนู ครับ

    ---จิตไม่แกร่ง อ่อนแอ กลัวความตาย ความลำบาก ก็ยังต้องอบรมมันอีกเยอะครับ จากลูกแมวจนกลายเป็นเจ้าป่า จากม้าแคระกลายเป็นม้าศึก มันก็เป็นไปได้

    --เพราะจิตคือพลังเหนือธรรมชาติ ที่เกิดมาพร้อมๆกับสสารโลกวัตถุ-- จิตไปมาดวงเดียวเดี่ยวๆ--ท่องเที่ยวไปโดยลำพัง อาศัยอยู่ในถ้ำคูหา --คือห้องหัวใจ (พุทธพจน์)

    --ตอนที่พี่สาวผมเรียนที่อเมริกา เธอเดินผ่านมุมตึกหนึ่งทุกวัน วันนั้นเดินไปพบคนผูกคอตาย เธอตกใจมาก และมันฝังใจ ติดตา ผมตอนนั้น อายุ20 ก็เขียนจดหมายบอกเธอว่า "จิตมันกลัวความตาย กลัวการหายไปเฉยๆ กลัวความว่างเปล่า กลัวการตกลงสู่เหวที่ไร้ก้น ไร้ที่ยึดเหนี่ยว"
     
  18. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เวลาก็อปจากนี่ลงเว็ปญาณทิพย์ ถ้าเขียนธรรมมะ ข้อความจะหาย ล็อกอินหลุดเป็นที่เว็ปพลังจิต
    ผมจึงเขียนที่เว็ปญาณทิพย์ แล้วก็อปมาที่เว็ปนี้ ผลก็เหมือนเดิมครับ ข้อความหายเหมือนกัน


    แต่ถ้าเป็นข่าวแบบเชิงโลกีย์แบบข้างบนนี้ ผ่านฉลุยตลอดเลยครับ มันน่าตื้บๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2012
  19. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    Andromeda Council: Removing Reptilian undersea bases from Middle East & China

    [​IMG]
    Submitted by Alfred Lambremo... on Fri, 10/28/2011 - 07:26<!-- google_ad_section_start -->By Alfred Lambremont Webre, JD, MEd
    This is the 5th article in a series of articles on information of the Andromeda Council, a reported galactic governance council composed of selected star system representatives that carry out governance and development functions in a selected areas of our populated and organized galaxy and universe.
    ED. NOTE: CAVEAT LECTOR - The opinions expressed in this article by interviewees are solely those of the interviewees and do not necessarily reflect the opinions of this reporter or Exopolitics.com. Thank you.
    In an exclusive [ame="http://www.youtube.com/watch?v=7sy-QWgq_yY"]ExopoliticsTV interview[/ame] released Oct. 26, 2011, a human representative of the Andromeda Council, a reported galactic governance council whose membership consists of star systems and includes representation from the galactic governance council of our Milky Way Galaxy, disclosed policing actions being undertaken by star systems of the Andromeda Council using advanced sonic energy beam weapons against specific undersea bases operated by Draco & Hydra based reptilian extraterrestrials off of the Middle East and of China.
    Andromeda Council destruction of reptilian bases under Washington, DC, Denver and other DUMBS
    These ongoing Andromeda Council police actions against reptilian undersea bases off the Middle East and China are similar to sonic energy beam weapons actions that resulted in the destruction of underground Draco & Hydra reptilian bases under Washington, DC on August 23, 2011 and later under Denver, CO, and in the south-west U.S. Independent researchers have confirmed that these deep underground military bases (DUMBS) were destroyed by advanced ethical extraterrestrials using advanced frequency weapons.
    Please see:
    Andromeda Council: War with grey-Draco reptilian ETs is won, no false flag ET invasion
    ET Council: War with grey-Draco reptilian ETs is won, no false flag ET invasion - Seattle exopolitics | Examiner.com
    The Middle East reptilian undersea base
    In his [ame="http://www.youtube.com/watch?v=7sy-QWgq_yY"]ExopoliticsTV interview[/ame], the Andromeda council representative stated, “[The base] is located in the area of the Gulf of Aden. This gulf is located in the Arabian Sea between Yemen, on the south coast of the Arabian Peninsula, and Somalia in the Horn of Africa. In the northwest, it connects with the Red Sea through the Bab-el-Mandeb strait, which is about 20 miles wide…. As you may or may not know the “vortex” phenomena also happened in this body of water, the Gulf of Aden.”
    As to the purpose of destroying the reptilian base off of the Middle East, Tolec states, “But, taking out the Reptilian base on the floor of the ocean south of the Saudi Arabian, UAE, Yemen, Oman peninsula is a priority, a much more pressing matter. The reason is simple. As you know, Earth’s history continues to repeat itself year after year. The squabbling, the skirmishes in this region, these have gone on for thousands of years. And the original reasons for these skirmishes have gotten blown way out of proportion. With help from the Reptilian undersea base, as you can understand.
    “And, the constant ‘bombardment’ of this region with a highly disruptive -agitation, confusion, anger & fear based sonic energy beamed from the transmitter from this specific undersea base' continues to escalate the possibility of full blown war in this region. Constant fighting, constant irritation, constant bickering' even among their own people. And they don’t even realize what is going on. They don’t even know the reason why - The undersea base with its transmitter.
    “In closing, I’m going to quote the commander of primary Andromeda Council biosphere, when I asked him about this situation, he said,
    “’The people in this area are being played much like what you call ‘pawns on a chess board’, and they have no knowledge as to how, why, or how long this has taken place. We have to and we will put a stop to this. This undersea base will be taken out.
    "’Yes, outside parties, with outside interests, have attempted nuclear strikes in order to start a full-scale war in this region. Which we have stopped, disabled and neutralized their bombs, a few times. Yes, we had a ‘hand’ in this.
    "’Understand, a full-scale nuclear war cannot and will not happen in this region. We will not allow actions that permit nuclear war to start by either side. The impact would be far too great to your planet, your people, and the rest of your solar system. What you do on Earth affects us all.’”
    The reptilian undersea base off China
    Tolec explains the goal of the destruction of the reptilian base off China as follows, “This undersea base is also in deep water, much like the undersea base in the Middle East region. This base is thousands of feet deep in the ocean off of the coast of China' it’s a about (1) mile down located on the ocean floor.
    Tolec states, “This specific base has also been here a long time, in operation for about 3,000 years. This base, like the one in the Middle East, has also beamed a very focused, very specifically attenuated fear based frequency. It’s a different sonic frequency but it works the same way, beamed right toward the Asian mainland meant to keep the people, the population of China, of this whole region as best as possible, in a place of constant emotional fear, intimidation, anxiety & control. For years these people have been highly manipulated & highly ‘controlled' in a constant state of fear for their lives, mode. They have so few freedoms, living under the strict regime of the government.
    Even if this specific transmitter is set at a low level, it’s still effective. It’s turned on for approximately 30 minutes at a time. Like the undersea transmitter in the Middle East, it also rotates. Its reach is also long range & can affect the Korean Peninsula, China, Vietnam, Laos, Cambodia and other countries in this region.

    Tolec concludes, “This is the intent of this specific energy frequency: control & manipulation through continually perpetuated fear & anxiety. Which of course generates more fear. But lets ask why. This is more important, why? Well, the Reptilians & the Greys soak up, they literally feed off of negative energy, negative emotions – like anxiety, fear, terror, much like the human drug classification of – amphetamines. The Reptilians, they crave this human emotion fear, as a consumable, as one food source. As with any drug, the more they have, the more they want.”
    Watch ExopoliticsTV interview on removing Reptilian undersea bases from Middle East & China
    Readers can watch the exclusive ExopoliticsTV interview on removing Reptilian undersea bases from Middle East & China embedded in the article above or at this URL:
    WATCH INTERVIEW:
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=7sy-QWgq_yY]Andromeda Council: Removing Draco & Hydra reptilian undersea bases from the Middle East and China - YouTube[/ame]
    FAQ: Transforming the earth. Removing deadly undersea bases from the Middle East & China
    Tolec, the representative of the Andromeda Council, provided a detailed FAQ setting out the Andromeda Council approach and goals in destroying the Draco and Hydra reptilian bases off the Middle East and China, as well as the location of these bases and the ultimate positive impact on humanity of destroying these bases. Illustrations of each geographic area continuous to each specific Draco & Hydra reptilian undersea base are provided in the special slide show in this article.
    Introduction
    www.andromedacouncil.com
    See “FIG A – Asia” above and in Slide show.
     
  20. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    --http://www.meetup.com/Lightworkers-Magnet/
    กล่าวถึงการสูญเสียอำนาจของกลุ่มอิลลูมิเนติ หลังวันที่ 11 เดือน 11 ปี 2011

    -----------------------------------------
    สภาอันโรเมด้า: การทำลายฐานที่มั่นใต้ดินของพวกต่างดาวเร็ปติเลี่ยน(สัตว์เลื้อยคลาน)ในตะวันออกกลางและจีน



    โดยอัลเฟรด Lambremo ... เมื่อ Fri, 2011/10/28 - 07:26

    โดยอัลเฟรด Lambremont Webre, JD, MED

    นี่คือบทความที่ 5 ในชุดของบทความที่เกี่ยวกับข้อมูลของสภา Andromeda รายงานสภาธรรมาภิบาลกาแลคซีประกอบด้วยตัวจากแทนระบบดาว เลือกที่จะดำเนินการกำกับดูแลและฟังก์ชั่นการพัฒนาในพื้นที่ที่เลือกจากกาแลคซีที่มีประชากรและการจัดระเบียบและจักรวาลของเรา

    ED หมายเหตุ: lector caveat - ความคิดเห็นที่แสดงออกในบทความนี้โดยการสัมภาษณ์เป็นคนเดียวที่บรรดาผู้สัมภาษณ์และไม่จำเป็นต้องสะท้อนความคิดเห็นจากรายงานนี้หรือ Exopolitics.com ขอบคุณ

    ในการให้สัมภาษณ์พิเศษเปิดตัว ExopoliticsTV 26 ตุลาคม 2011, ตัวแทนของมนุษย์แห่ง สภาAndromeda รายงานการกำกับดูแลสภากาแล็คซี่ที่มีสมาชิกประกอบด้วยระบบดาวและรวมถึงการเป็นตัวแทนจากสภาธรรมาภิบาลกาแล็คซี่ของทางช้างเผือกของเรา เปิดเผยการกระทำของตำรวจอวกาศกำลังดำเนินการ โดยระบบดาวของ สภาAndromeda โดยใช้อาวุธที่เกี่ยวกับเสียงขั้นสูง--อาวุธลำแสงพลังงาน เข้่าทำลายฐานใต้ดิน -ใต้น้ำที่เฉพาะเจาะจงที่ดำเนินการโดยมนุษย์ต่างดาวคล้ายสัตว์เลื้อยคลานเดรโก และไฮดร้า ที่จากตะวันออกกลางและจีน


    Andromeda สภาการทำลายของสัตว์เลื้อยคลานภายใต้ฐาน Washington, DC, เดนเวอร์และ DUMBS อื่น ๆ

    เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง สภาAndromeda ได้สั่งการกระทำของตำรวจอวกาศกับฐานใต้สัตว์เลื้อยคลานออกตะวันออกกลางและจีน---มีความคล้ายคลึงกับการกระทำของพลังงานอาวุธลำแสงกับเสียงที่ทำให้มีการทำลายของฐานใต้ดินของเดรโกและพวกมนุษย์สัตว์เลื้อยคลานไฮดร้า-ใต้กรุงวอชิงตันดีซีเมื่อ 23 สิงหาคม 2011 และต่อมาภายใต้เดนเวอร์,
    โคโลราโดและในทางตะวันตกเฉียงใต้นักวิจัยอิสระของสหรัฐได้ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ลึกฐานทหารใต้ดิน (DUMBS) ถูกทำลายโดยมนุษย์ต่างดาวมีจริยธรรมขั้นสูงในการใช้อาวุธขั้นสูงความถี่

    กรุณาดูที่:
    สภาอันโดรเมด้า: สงครามกับพวก เกรย์-เดรโก -ต่างดาวETs

    ฐานใต้ดินของมนุษย์สัตว์เลื้อยคลานในตะวันออกกลาง

    ในการให้สัมภาษณ์ของเขา ExopoliticsTV, Andromeda สภาผู้แทนดังกล่าว "[ฐาน] ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอ่าวเอเดน อ่าวแห่งนี้ตั้งอยู่ในทะเลอาหรับระหว่างเยเมนบนชายฝั่งทางตอนใต้ของคาบสมุทรอาหรับและโซมาเลียในฮอร์นของแอฟริกา ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะเชื่อมต่อกับทะเลแดงผ่าน Bab-el-Mandeb ช่องแคบซึ่งมีความกว้าง ประมาณ 20 กิโลเมตร....
    ในขณะที่คุณอาจจะหรืออาจไม่ทราบว่าปรากฏการณ์ "น้ำวน" ที่เกิดขึ้นยังอยู่ในบริเวณผืนน้ำอ่าวเอเดน. "(ผมได้อ่านพบจากที่อื่นเมื่อหลายเดือนก่อนแล้ว มีแผ่นดินไหวตรงนี้ แท้จริงพวกเขารบกันในมิติที่สี่ครับ) ชาวโลกไม่รู้เลย-

    ในฐานะที่เป็นวัตถุประสงค์ของการทำลายฐานคล้ายสัตว์เลื้อยคลานออกจากตะวันออกกลาง โทเล็ค-Tolec ยืนยัน "แต่การกำจัดฐานใต้ดินของมนุษย์สัตว์เลื้อยคลาน บนพื้นของมหาสมุทรใต้ของซาอุดิอาราเบีย, UAE(อาหรับอมิเรตส์), เยเมน, โอมาน ในคาบสมุทรมีความสำคัญมาก มีเรื่องเร่งด่วนมากขึ้น เหตุผลง่ายๆ ดังที่คุณทราบประวัติศาสตร์ของโลกยังคงซ้ำรอยปีแล้วปีเล่า การทะเลาะกัน, การต่อสู้ในภาคนี้เหล่านี้ได้ไปเมื่อพัน ๆ ปี และเหตุผลที่เป็นต้นฉบับสำหรับการต่อสู้เหล่านี้มีอากาศพัดวิธีออกจากสัดส่วน
    ด้วยความช่วยเหลือจากฐานใต้สัตว์เลื้อยคลานที่คุณสามารถเข้าใจ

    (เดี่ยวผมจะมาขัดเกลาสำนวนให้ บางทีคืนนี้อาจหลับไปก่อน)"และ 'ทิ้งระเบิด' คงที่ของภูมิภาคนี้ที่มีการใช้พลังงานอย่างเกี่ยวกับเสียงก่อกวน-กวนสับสนโกรธและความกลัวตาม beamed จากเครื่องส่งสัญญาณจากฐานใต้นี้เฉพาะ 'ยังคงขยายความเป็นไปได้ของสงครามเป่าเต็มในภูมิภาคนี้ การต่อสู้คงที่เกิดการระคายเคืองอย่างต่อเนื่อง, การโต้เถียงอย่างต่อเนื่อง 'แม้แต่ในหมู่คนของตัวเอง และพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
    พวกเขาไม่ได้รู้เหตุผลว่าทำไม - ฐานใต้ที่มีการส่งสัญญาณของมัน

    "ในปิดฉันจะพูดบัญชาการหลัก biosphere Andromeda สภาเมื่อฉันถามเขาเกี่ยวกับสถานการณ์เช่นนี้เขากล่าวว่า

    "'คนในพื้นที่นี้มีลูกเล่นมาก ดังเช่นสิ่งที่คุณเรียก' เบี้ยบนกระดานหมากรุก 'และพวกเขาไม่มีความรู้เป็นวิธีการทำไมหรือว่ายาวนี้ได้ที่สถานที่ เราต้องและเราจะนำหยุดไปนี้
    นี้ฐานใต้ดินจะถูกกำจัดออกไป

    "'ใช่บุคคลภายนอกที่มีผลประโยชน์นอก ได้พยายามนัดนิวเคลียร์เพื่อที่จะเริ่มทำสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาคนี้. ซึ่งเราได้หยุดการปิดการใช้งานและทำให้เป็นกลาง ระเบิดไม่กี่ครั้งของพวกเขา. ใช่เรามี' มือ
    'ในวันนี้

    "'เข้าใจเต็มรูปแบบสงครามนิวเคลียร์ไม่สามารถและจะไม่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้. เราจะไม่อนุญาตให้แอคชันที่อนุญาตให้มีสงครามนิวเคลียร์ที่จะเริ่มต้นด้วยการด้านใดด้านหนึ่ง. ผลกระทบจะไกลเกินไปที่ดีเพื่อดาวเคราะห์คนของคุณและ
    ส่วนที่เหลือของระบบสุริยจักรวาลของคุณ. สิ่งที่คุณทำบนโลกมีผลต่อเราทั้งหมด. '"

    ฐานใต้สัตว์เลื้อยคลานออกของจีน

    Tolec อธิบายเป้าหมายของการทำลายฐานคล้ายสัตว์เลื้อยคลานออกของจีนดังนี้ "นี้ฐานใต้ยังอยู่ในน้ำลึกมากเช่นฐานใต้ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
    ฐานนี้เป็นหลายพันฟุตลึกลงไปในมหาสมุทรนอกชายฝั่งของประเทศจีน 'มันเกี่ยวกับ (1) กิโลเมตรตั้งอยู่ลงบนพื้นมหาสมุทร

    Tolec รัฐ "นี้ฐานที่เฉพาะเจาะจงยังได้รับที่นี่เป็นเวลานานในการดำเนินงานประมาณ 3,000 ปี ฐานนี้เช่นหนึ่งในตะวันออกกลางมีคานยังเน้นมากกลัวความถี่มากโดยเฉพาะที่ใช้ยับยั้ง มันเป็นคลื่นความถี่เสียงที่แตกต่างกัน แต่การทำงานในลักษณะเดียวกันคานด้านขวาเข้าหาแผ่นดินใหญ่เอเชียหมายถึงการทำให้ผู้คนจำนวนประชากรของประเทศจีนของทั้งภูมิภาคนี้อย่างดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในสถานที่ของค่าคงกลัวอารมณ์ข่มขู่ความวิตกกังวลและ การควบคุม สำหรับปีคนเหล่านี้ได้รับการจัดการอย่างสูงและสูง 'ควบคุม' ในสภาพคงที่ของความกลัวสำหรับชีวิตของพวกเขาโหมด,
    พวกเขามีเสรีภาพน้อยดังนั้นอยู่ภายใต้ระบอบการปกครองที่เข้มงวดของรัฐบาล

    แม้ว่านี้ส่งสัญญาณที่เฉพาะเจาะจงตั้งไว้ที่ระดับต่ำก็ยังคงมีประสิทธิภาพ มันเปิดอยู่ประมาณ 30 นาทีในเวลา ชอบเครื่องส่งสัญญาณใต้ในตะวันออกกลางก็ยังหมุน
    เข้าถึงมันยังช่วงยาวและสามารถส่งผลกระทบต่อคาบสมุทรเกาหลี, จีน, เวียดนาม, ลาว, กัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้

    Tolec สรุปว่า "นี่คือเจตนาของความถี่พลังงานเฉพาะนี้: การควบคุมและการจัดการผ่านความกลัว perpetuated ความต่อเนื่องและความวิตกกังวล ซึ่งแน่นอนจะสร้างความหวาดกลัวมากขึ้น แต่ช่วยให้ถามว่าทำไม นี้มีความสำคัญมากขึ้นว่าทำไม? ดี Reptilians & Greys ดื่มด่ำกับพวกเขาอย่างแท้จริงฟีดออกจากพลังงานเชิงลบอารมณ์เชิงลบ - ความวิตกกังวลเช่นกลัว, หวาดกลัว, มากเช่นยาเสพติดการจัดหมวดหมู่ของมนุษย์ - ยาบ้า Reptilians พวกเขากระหายความกลัวนี้อารมณ์ของมนุษย์เป็นบริโภคเป็นแหล่งอาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง
    เช่นเดียวกับยาเสพติดใด ๆ มากกว่าที่พวกเขาจะมีมากขึ้นพวกเขาต้องการ ".

    ชมการสัมภาษณ์ ExopoliticsTV ในการลบฐานใต้สัตว์เลื้อยคลานจากตะวันออกกลางและจีน

    ผู้อ่านสามารถรับชมการสัมภาษณ์พิเศษเฉพาะ ExopoliticsTV ในการลบฐานใต้สัตว์เลื้อยคลานจากตะวันออกกลางและจีนฝังตัวอยู่ในบทความข้างต้นหรือที่ URL นี้:

    คำถามที่พบบ่อย: การปฏิรูปแผ่นดิน การถอดฐานใต้ร้ายแรงจากตะวันออกกลางและจีน

    Tolec ตัวแทนของ Andromeda สภาให้มีรายละเอียดคำถามที่พบบ่อยการออกแนวทาง Andromeda สภาและเป้าหมายในการทำลายเดรโกและสัตว์เลื้อยคลาน Hydra ฐานปิดตะวันออกกลางและจีนรวมทั้งสถานที่ตั้งของฐานเหล่านี้และผลกระทบเชิงบวกที่ดีที่สุดเมื่อ มนุษย์ทำลายฐานเหล่านี้
    ภาพประกอบจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของแต่ละอย่างต่อเนื่องให้กับแต่ละฐาน Draco & Hydra เฉพาะสัตว์เลื้อยคลานใต้จะได้รับบริการในการนำเสนอภาพนิ่งพิเศษในบทความนี้

    การแนะนำ
    www.andromedacouncil.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...