พุทธศาสนสุภาษิต

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 15 กรกฎาคม 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table width="85%"><tbody><tr valign="top"><td> เมื่อจิตเลื่อมใสแล้ว ทักษิณาทานชื่อว่าน้อยย่อมไม่มี </td> <td>
    </td> <td>นตฺถิ จิตฺเต ปสนฺนมฺห อปฺปกา นาม ทกฺขิณา
    ขุ.วิมาน. ๒๖/๘๒
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> การเลือกให้ อันพระสุคตทรงสรรเสริญ </td> <td>
    </td> <td>วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ
    สํ.ส. ๑๕/๓๐
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทาน</td> <td>
    </td> <td>พาลา หเว นปฺปสํสนฺติ ทานํ
    ขุ.ธ. ๒๕/๓๘
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้</td> <td>
    </td> <td>ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ
    สํ.ส. ๑๕/๓๑๖
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก </td> <td>
    </td> <td>ททมาโน ปิโย โหติ
    องฺ.ปญฺจก. ๒๒/๔๔
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ปราชญ์ผู้ให้ความสุข ย่อมได้รับความสุข</td> <td>
    </td> <td>สุขสฺส ทาตา เมธาวี สุขํ โส อธิคจฺฉติ
    องฺ.ปญฺจก. ๒๒/๔๕
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ </td> <td>
    </td> <td>เสฏฐนฺทโท เสฏฐมุเปติ ฐานํ
    องฺ.ปญฺจก. ๒๒/๕๖
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> เมื่อให้ทานในวัตถุอันเลิศ บุญอันเลิศ อายุ
    วรรณะ ยศ เกียรติ สุข และ กำลังอันเลิศ ก็เจริญ </td> <td>
    </td> <td>อคฺคสฺมึ ทานํ ททตํ อคฺคํ ปุญฺญํ ปวทฺฒติ
    อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ
    ขุ.อิติ. ๒๕/๒๙๙
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ให้สิ่งที่ดี ให้สิ่งที่ประเสริฐ
    ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศ ในภพที่ตนเกิด </td> <td>
    </td> <td>อคฺคทายี วรทายี เสฏฺฐทายี จ โย นโร
    ทีฆายุ ยสวา โหติ ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชติ
    องฺ.ปญฺจก. ๒๒/๕๖
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ให้ทานเป็นต้นก่อน จึงได้สุขบัดนี้
    เหมือนรดน้ำที่โคนให้ผลที่ปลาย </td> <td>
    </td> <td>ปุพฺเพ ทานาทิกํ ทตฺวา อิทานิ ลภตี สุขํ
    มูเลว สิญฺจิตํ โหติ อคฺเค จ ผลทายกํ
    สทฺทสารตฺถชาลินี
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ห้วงน้ำที่เต็ม ย่อมยังสาครให้เต็มได้ฉันใด
    ทานที่ให้แต่โลกนี้ ย่อมสำเร็จแก่ผู้ละไปแล้วฉันนั้น </td> <td>
    </td> <td>ยถา วาริวหา ปูรา ปริปูเรนฺติ สาคร
    เอวเมว อิโต ทินฺนํ เปตานํ อุปกปฺปติ
    ขุ.ขุ. ๒๕/๑๐
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ผู้ใดให้ที่พักอาศัย ผู้นั้นชื่อว่าให้สิ่งทั้งปวง
    ผู้ใดสอนธรรม ผู้นั้นชื่อว่าให้อมตะ </td> <td>
    </td> <td>โส จ สพฺพทโท โหติ โย ททาติ อุปสฺสยํ
    อมตนฺทโท จ โส โหติ โย ธมฺมมนุสาสติ
    สํ.ส. ๑๕/๔๔
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ผู้ใดไม่ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ แต่ให้ทานในคนที่ควรให้
    เมื่อประสบปัญหา ย่อมได้พบผู้ช่วยเหลือ </td> <td>
    </td> <td>อเทยฺเยสุ อททํ ทานํ เทยฺเยสุ โย ปเวจฺฉติ
    อาปาสุ พฺยสนํ ปตฺโต สหายํ อธิคจฺฉติ
    (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๒๙.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td width="53%">ผู้ใดไม่ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ ย่อมให้ในคนที่ควรให้.
    ผู้นั้นประสบความเสื่อมเพราะอันตราย ย่อมได้สหาย.</td> <td width="2%">
    </td> <td width="45%">อเทยฺเยสุ อททํ ทานํ เทยฺเยสุ โย ปเวจฺฉติ
    อาปาสุ พฺยสนํ ปตฺโต สหายํ อธิคจฺฉนฺติ
    (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๒๙.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ผู้ใดให้ทานในบุคคลที่ไม่ควรให้ ไม่ให้ในคนที่ควรให้.
    ผู้นั้นถึงความเสื่อมเพราะอันตราย ย่อมไม่ได้สหาย.</td> <td>
    </td> <td>อเทยฺเยสุ ททํ ทานํ เทยฺเยสุ นปฺปเวจฺฉติ
    อาปาสุ พฺยสนํ ปตฺโต สหายํ นาธิคจฺฉติ.
    (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๒๙.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ผู้ให้ข้าว ชื่อว่าให้กำลัง ผู้ให้ผ้า ชื่อว่าให้ผิวพรรณ ผู้ให้ยานพาหนะ ชื่อว่าให้ความสุข ผู้ให้ประทีบโคมไฟ ชื่อว่าให้จักษุ.
    </td> <td>
    </td> <td>อนฺนโท พลโท โหติ วตฺถโท โหติ วณฺณโท
    ยานโท สุขโท โหติ ทีปโท โหติ จกฺขุโท.
    สํ. ส. ๑๕/๔๔.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ผู้ให้ของชอบใจ ย่อมได้ของชอบใจ ผู้ให้ของเลิศ ย่อมได้ของเลิศ ผู้ให้ของดี ย่อมได้ของดี ผู้ให้ของประเสริฐ ย่อมถึงฐานะอันประเสริฐ. </td> <td>
    </td> <td>มนาปทายี ลภเต มนาปํ
    อคฺคสฺส ทาตา ลภเต ปุนคฺคํ
    วรสฺส ทาตา วรลาภี จ โหติ
    เสฏฺฐนฺทโท เสฏฺฐมุเปติ ฐานํ.
    อง. ปญฺจก. ๒๒/๕๖.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ผู้ให้ข้าวชื่อว่าให้กำลัง ผู้ให้ผ้าชื่อว่าให้ผิวพรรณ
    ผู้ให้ยานพาหนะชื่อว่าให้ความสุข ผู้ให้ประทีปโคมไฟชื่อว่าให้จักษุ </td> <td>
    </td> <td>อนฺนโท พลโท โหติ วตฺถโท โหติ วณฺณโท
    ยานโท สุขโท โหติ ทีปโท โหติ จกฺขุโท
    </td></tr></tbody></table>
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table width="85%"><tbody><tr valign="top"><td>ศีลยังประโยชน์ให้สำเร็จตราบเท่าชรา </td> <td>
    </td> <td> สีลํ ยาว ชรา สาธุ
    สํ.ส. ๑๕/๕๐
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ศีลนำสุขมาให้ตราบเท่าชรา </td> <td>
    </td> <td>สฺขํ ยาว ชรา สีลํ
    ขุ.ธ. ๒๕/๕๙
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ท่านว่าศีลนั้นเทียวเป็นความดี </td> <td>
    </td> <td>สีลํ กิเรว กลฺยาณํ
    ขุ.ชา.เอก. ๒๗/๒๘
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ศีลพึงรู้ได้เพราะอยู่ร่วมกัน </td> <td>
    </td> <td>สํวาเสน สีลํ เวทิตพฺพํ
    นัย- ขุ.อุ. ๒๕/๑๗๘
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ความสำรวมในที่ทั้งปวงเป็นดี </td> <td>
    </td> <td>สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร
    สํ.ส. ๑๕/๑๐๖
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ปราชญ์พึงรักษาศีล </td> <td>
    </td> <td>สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี
    ขุ.อิติ. ๒๕/๒๘๒
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
    </td> <td>
    </td> <td>อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
    ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
    (สีลวเถร) ขุ.เถร. ๒๖/๓๕๘
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> คนผู้ทุศีลย่อมได้รับความติเตียน และความเสียชื่อเสียง ส่วนผู้มีศีลย่อมได้รับชื่อเสียงและความยกย่องสรรเสริญทุกเมื่อ
    </td> <td>
    </td> <td>อวณฺณญฺจ อกิตฺติญฺจ ทุสฺสีโล ลภเต นโร
    วณฺณํ กิตฺตึ ปสํสญฺจ สทา ลภติ สีลวา
    (สีลวเถร) ขุ.เถร. ๒๖/๓๕๗
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ผู้มีปรีชามั่นคงดีแล้วในศีล ย่อมได้รับชื่อเสียงในโลกนี้
    ละไปแล้วย่อมดีใจในสวรรค์ ชื่อว่าย่อมดีใจในที่ทั้งปวง </td> <td>
    </td> <td>อิเธว กิตฺตึ ลภติ เปจฺจ สคฺเค จ สุมโน
    สพฺพตฺถ สุมโน ธีโร สีเลสุ สุสมาหิโต
    (สีลวเถร) ขุ.เถร. ๒๖/๓๕๘
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ผู้มีปรีชามั่นคงดีแล้วในศีล ย่อมได้รับชื่อเสียงในโลกนี้
    จะไปแล้วย่อมดีใจในสวรรค์ ชื่อว่าย่อมดีใจในที่ทั้งปวง </td> <td>
    </td> <td>อิเธว นินฺทํ ลภติ เปจฺจาปาเย จ ทุมฺมโน
    สพฺพตฺถ ทุมฺมโน พาโล สีเลสุ อสมาหิโต
    (สีลวเถร) ขุ.เถร. ๒๖/๓๕๘
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ผู้มีปัญญาเมื่อปรารถนาสุข ๓ อย่าง คือ ความสรรเสริญ ความได้ทรัพย์ และความละไปบันเทิงในสวรรค์ ก็พึงรักษาศีล
    </td> <td>
    </td> <td>สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี ปตฺถยาโน ตโย สุเข
    ปสํสํ วิตฺติลาภญฺจ เปจฺจ สคฺเค ปโมทนํ
    (สีลวเถร) ขุ.เถร. ๒๖/๓๕๗
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ผู้มีศีลย่อมได้มิตรมากด้วยความสำรวม
    ส่วนผู้ไม่มีศีล ประพฤติชั่ว ย่อมแตกจากมิตร </td> <td>
    </td> <td>สีลวา หิ พหู มิตฺเต สญฺญเมนาธิคจฺฉติ
    ทุสฺสีโล ปน มิตฺเตหิ ธํสเต ปาปมาจรํ
    (สีลวเถร) ขุ.เถร. ๒๖/๓๕๗
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
    ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
    </td> <td>
    </td> <td>สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
    สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td> ศีลเป็นสะพานอันสำคัญ ศีลเป็นกลิ่นที่ไม่มีกลิ่นอื่นยิ่งกว่า
    ศีลเป็นเครื่องลูบไล้อันประเสริฐสุด เพราะศีล (มีกลิ่น) ขจรไปทั่วทุกทิศ </td> <td>
    </td> <td>สีลํ เสตุ มเหสกฺโข สีลํ คนฺโธ อนุตฺตโร
    สีลํ วิเลปนํ เสฏฺฐํ เยน วาติ ทิโส ทิสํ </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td width="53%">เมื่อภิกษุมีมานะ ประมาทแล้ว มีความหวังในภายนอก, ศีล สมาธิ และปัญญา ย่อมไม่ถึงความบริบูรณ์.</td> <td width="2%">
    </td> <td width="45%">อุนฺนฬสฺส ปมตฺตสฺส พาหิราสสฺส ภิกฺขุโน
    สีลํ สมาธิ ปญฺญา จ ปาริปูรึ น คจฺฉติ.
    (โสณโกฬิวิสเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๖๐.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>มารค้นหาอยู่ ย่อมไม่พบทางของท่านผู้มีศีลสมบูรณ์ อยู่ด้วยความไม่ประมาท หลุดพ้นแล้ว เพราะรู้ชอบ.</td> <td>
    </td> <td>เตสํ สมฺปนฺนสีลานํ อปฺปมาทวิหารินํ
    สมฺมทญฺญา วิมุตฺตานํ มาโร มคฺคํ น วินฺทติ.
    ขุ. ธ. ๒๕/๒๒.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์.</td> <td>
    </td> <td>สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
    สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ.
    (สีลวเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๕๘.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ศีลเป็นสะพานอันมีศักดิ์ใหญ่ ศีลเป็นกลิ่นที่ไม่มีกลิ่นอื่นยิ่งกว่า ศีลเป็นเครื่องลูบไล้อันประเสริฐ ซึ่งเป็นเครื่องขจรไปทั่วทุกทิศ.</td> <td>
    </td> <td>สีลํ เสตุ มเหสกฺโข สีลํ คนฺโธ อนุตฺตโร
    สีลํ วิเลปนํ เสฏฺฐํ เยน วาติ ทิโส ทิสํ.
    (สีลวเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๕๘.
    </td></tr></tbody></table>
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table width="70%"><tbody><tr valign="top"><td width="65%">แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี</td> <td width="2%">
    </td> <td width="33%"> นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา.
    สํ.ส. ๑๕/๕
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต
    สํ.ส. ๑๕/๖๑
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ปัญญาเพียงดังแผ่นดินย่อมเกิด เพราะความ
    ประกอบโดยแท้
    </td> <td>
    </td> <td>โยคา เว ชายตี ภูริ
    ขุ.ธ.๒๕/๕๒
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ความสิ้นไปแห่งปัญญาเพียงดังแผ่นดิน
    เพราะความไม่ประกอบ
    </td> <td>
    </td> <td>อโยคา ภูริสงฺขโย
    ขุ.ธ.๒๕/๕๒
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>การได้เฉพาะซึ่งปัญญานำมาซึ่งความสุข</td> <td>
    </td> <td>สุโข ปญฺญาย ปฏิลาโภ
    ขุ.ธ. ๒๕/๓๓/๕๙

    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญา นรานํ รตนํ
    สํ.ส. ๑๕/๕๐

    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ปัญญาเทียวประเสริฐกว่าทรัพย์ </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญาว ธเนน เสยฺโย
    ขุ.เถร. ๒๖/๓๘๘/๓๗๙
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ความพินิจไม่มีแก่คนไร้ปัญญา
    (ฌานไม่มีแก่ผู้ไม่มีปัญญา)
    </td> <td>
    </td> <td>นตฺถิ ฌานํ อปญฺญสฺส
    ขุ.ธ. ๒๕/๖๕
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ</td> <td>
    </td> <td>นตฺถิ ปญฺญา อฌายโต
    ขุ.ธ. ๒๕/๖๕
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ปัญญาย่อมปกครองคนนั้น</td> <td>
    </td> <td>ปญฺญา เจนํ ปสาสติ
    สํ.ส. ๑๕/๑๗๕/๕๒
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>คนเกียจคร้านย่อมไม่ประสบทางแห่งปัญญา
    </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญาย มคฺคํ อลโส น วินฺทติ
    ขุ.ธ. ๒๕/๓๐/๕๒
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ฟังด้วยดี ย่อมได้ปัญญา
    </td> <td>
    </td> <td>สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ
    สํ.ส. ๑๕/๑๗๕/๕๒
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>คนย่อมเห็นเนื้อความด้วยปัญญา </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญายตฺถํ วิปสฺสติ
    อง.สตฺตก. ๒๓/๓
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญา </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญาย ปริสุชฺฌติ
    ขุ.สุ. ๒๕/๓๖๑
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>คนฉลาดกล่าวว่าปัญญาแล ประเสริฐสุด</td> <td>
    </td> <td>ปญฺญา หิ เสฏฺฐา กุสลส วทนฺติ
    ขุ.ชา. สตฺตก. ๒๗/๕๔๑
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ปราชญ์กล่าวชีวิตของผู้เป็นอยู่ด้วยปัญญาว่าประเสริฐสุด </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญาชีวีชีวิตมาหุ เสฏฺฐํ
    สํ.ส. ๑๕/๕๘, ๓๑๕ ขุ.สุ. ๒๕/๓๖๐
    </td> </tr> </tbody></table> <table width="85%"><tbody><tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>แท้จริง สัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญปัญญาเท่านั้น, ศิริเป็นที่ใคร่ของ คนโง่ เพราะมนุษย์ทั้งหลายยินดีในโภคสมบัติ,
    ก็ความรู้ของท่านผู้รู้ ทั้งหลาย ใครๆ ชั่งไม่ได้ ในกาลไหนๆ, คนมีศิริย่อมไม่ล่วงเลยคน มีปัญญาไปได้ ไม่ว่าในกาลไหนๆ.
    </td> <td>
    </td> <td>อทฺธา หิ ปญฺญาว สตํ ปสตฺถา
    กนฺตา สิรี โภครตา มนุสฺสา
    ญาณญฺจ พุทฺธานมตุลฺยรูปํ
    ปญฺญํ น อจฺเจติ สิรี กทาจิ
    (มโหสธโพธิสตฺต) ขุ.ชา.วีส. ๒๗/๔๒๘
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td width="53%">ผู้ขบคิดปัญหาอันลึกซึ้งด้วยใจ
    ไม่ทำกรรมชั่ว อันไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูลเลย,
    ไม่ละทางแห่งประโยชน์ที่มาถึงตามเวลา,
    บัณฑิตทั้งหลายเรียกคนอย่างนั้นว่า ผู้มีปัญญา.</td> <td width="2%">
    </td> <td width="45%">คมฺภีรปญฺหํ มนสาภิจินฺตยํ
    นจฺจาหิตํ กมฺม กโรติ ลุทฺทํ
    กาลาคตํ อตฺถปทํ น ริญฺจติ
    ตถาวิธํ ปญฺญวนฺตํ วทนฺติ.
    (สงฺภงฺคโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตฺตาฬีส. ๒๗/๕๔๐.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>คนเขลามียศศักดิ์ ก็เป็นทาสของคนมีปัญญา,
    เมื่อเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น คนฉลาดจัดการข้อใดได้แนบเนียน คนเขลาถึงความงมงายในข้อนั้น.</td> <td>
    </td> <td>ทาโส ว ปญฺญาสฺส ยสสฺสิ พาโล
    อตฺเถสุ ชาเตสุ ตถาวิเธสุ
    ยํ ปณฺฑิโต นิปุณํ สํวิเธติ
    สมฺโมหมาปชฺชติ ตตฺถ พาโล.
    (มโหสธโพธิสตฺต) ขุ. ชา. วีส. ๒๗/๔๒๘.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ผู้รู้ย่อมสรรเสริญคนมีปัญญา พูดจริง ตั้งมั่นในศีล ประกอบความสงบใจนั้นแล. </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญวนฺตํ ตถาวาทึ สีเลสุ สุสมาหิตํ
    เจโตสมถมนุยุตฺตํ ตํ เว วิญฺญุ ํ ปสํสเร.
    (มหากสฺสปเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๔๑๑.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ปัญญาเป็นเครื่องวินิจฉัยสิ่งที่ฟังแล้ว ปัญญาเป็นเครื่องเพิ่มพูนเกีรยติคุณและชื่อเสียง คนผู้ประกอบด้วยปัญญาในโลกนี้ แม้ในความทุกข์ก็หาความสุขได้.

    </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญา สุตวินิจฺฉินี ปญฺญา กิตฺติโลกวฑฺฒนี ปญฺญาสหิโต นโร อิธ อปิ ทุกฺเขสุ สุขานิ วินฺทติ.
    (มหากปฺปินเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๕๐.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>บรรดาความอิ่มทั้งหลาย ความอิ่มด้วยปัญญาประเสริฐ เพราะผู้อิ่มด้วยปัญญานั้น ย่อมไม่เดือดร้อนด้วยกามทั้งหลาย, คนผู้อิ่มด้วยปัญญา ตัณหาย่อมกระทำให้อยู่ในอำนาจไม่ได้.

    </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญาย ติตฺตีนํ เสฏฺ€ํ น โส กาเมหิ ตปฺปติ
    ปญฺญาย ติตฺตํ ปุริสํ ตณฺหา น กุรุเต วสํ
    (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. ทฺวาทส. ๒๗/๓๘ฅ.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ผู้มีปัญญานั้น ย่อมเล็งเห็นกามคุณเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นโรค, ผู้เห็นอย่างนี้ ย่อมละความพอใจในกามอันเป็นทุกข์ เป็นภัยใหญ่ได้.</td> <td>
    </td> <td>ส ปญฺญวา กามคุเณ อเวกฺขติ
    อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต จ
    เอวํ วิปสฺสี ปชหาติ ฉนฺทํ
    ทุกฺเขสุ กาเมสุ มหพฺภเยสุ.
    (สรภงฺคโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตฺตาฬีส. ๒๗/๕๔๒.
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>คนฉลาดกล่าวว่าปัญญาประเสริฐ เหมือนพระจันทร์ประเสริฐกว่าดาวทั้งหลาย แม้ศีลสิริและธรรมของสัตบุรุษ ย่อมไปตามผู้มีปัญญา </td> <td>
    </td> <td>ปญฺญา หิ เสฏฺฐา กุสลา วทนฺติ
    นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ
    สีลํ สิรึ จาปิ สตญฺจ ธมฺโม
    อนฺวายิกา ปญฺญวโด ภวนฺติ
    ขุ.ชา. ๒๗/๒๔๖๘/๕๔๑
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>คนมีปัญญาทราม ได้ยศแล้วย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมปฏิบัติเพื่อเบียดเบียน ทั้งตนและผู้อื่น </td> <td>
    </td> <td>ยสํ ลทฺธาน ทุมฺเมโธ อนตฺถํ จรติ อตฺตโน
    อตฺตโน จ ปเรสญฺจ หึสาย ปฏิปชฺชติ
    ขุ.ชา. ๒๗/๑๒๒/๔๐
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td> </td> <td>
    </td> <td> </td> </tr> <tr valign="top"> <td>ถ้าพึงเห็นสุขอันไพบูลย์ เพราะยอมเสียสละสุขส่วนน้อย
    ผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์ ก็ควรสละสุขส่วนน้อยเสีย </td> <td>
    </td> <td>มตฺตาสุขปริจฺจาคา ปสฺเส เจ วิปุลํ สุขํ
    จเช มตฺตาสุขํ ธีโร สมฺปสฺสํ วิปุลํ สุขํ
    ขุ.ธ. ๒๕/๓๑/๕๓
    </td></tr></tbody></table>
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table width="85%"><tbody><tr valign="top"><td width="53%">สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้, สิ่งที่คิดไว้ ก็เสียหายได้,
    โภคะของสตรีหรือบุรุษที่สำเร็จได้ด้วยนึกเอาไม่มีเลย.</td> <td width="2%">
    </td> <td width="45%">อจินฺติตมฺปิ ภวติ จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ
    น หิ จินฺตามยา โภคา อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา.
    (มหาชนกโพธิสตฺต) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๑๖๗.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>กามทั้งหลายมีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก
    ทุกข์อันยิ่งกว่ากามไม่มี
    ผู้ใดส้องเสพกาม ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนรก.</td> <td>
    </td> <td>อปฺปสฺสาทา ทุกฺขา กามา นตฺถิ กามา ปรํ ทุกฺขํ
    เย กาเม ปฏิเสวนฺติ นิรยนฺเต อุปปชฺชเร.
    (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. เอกาทสก. ๒๗/๓๑๕.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>พึงเป็นคนไม่เบียดเบียน (ผู้อื่น) และกล่าวคำสัตย์อย่างนี้
    ละไปจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่นแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก.</td> <td>
    </td> <td>อพฺยาปชฺโฌ สิยา เอวํ สจฺจวาที จ มาณโว
    อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ เอวํ เปจฺจ น โสจติ.
    ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๓๓๒.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>คฤหัสถ์ผู้บริโภคกามเป็นผู้เกียจคร้าน ไม่ดี,
    บรรพชิตไม่สำรวม ก็ไม่ดี,
    พระราชาไม่ทรงใคร่ครวญก่อนแล้วทำ ไม่ดี,
    บัณฑิตมักโกรธ ก็ไม่ดี</td> <td>
    </td> <td>อลโส คิหี กามโภคี น สาธุ
    อสญฺญโต ปพฺพชิโต น สาธุ
    ราชา น สาธุ อนิสมฺมการี
    โย ปณฺฑิโต โกธโน ตํ น สาธุ.
    (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. วีส. ๒๗/๔๔๖.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>ผู้เข้าใจสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นสิ่งที่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ เขามีความดำริผิดเป็นโคจร จึงไม่ประสบสิ่งที่เป็นสาระ</td> <td>
    </td> <td>อสาเร สารมติโน สาเร จาสารทสฺสิโน
    เต สารํ นาธิคจฺฉนฺติ มิจฺฉาสงฺกปฺปโคจรา.
    ขุ. ธ. ๒๕/๑๖.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>บุคคลไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ใฝ่หาถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง, ยังชีวิตให้เป็นไปด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เพราะเหตุนั้น ผิวพรรณย่อมผ่องใส.</td> <td>
    </td> <td>อตีตํ นานุโสจนฺติ นปฺปชปฺปนฺติ นาคตํ
    ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ เตน วณฺโณ ปสีทติ.
    สํ. ส. ๑๕/๗.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>เมื่อมีจิตใจไม่หนักแน่น เป็นคนใจเบา มักประทุษร้ายมิตร
    มีความประพฤติกลับกลอกเป็นนิตย์ ย่อมไม่มีความสุข.</td> <td>
    </td> <td>อวนฏฺฐิตจิตฺตสฺส ลหุจิตฺตสฺส ทุพฺภิโน
    นิจฺจํ อทฺธุวสีลสฺส สุขภาโว น วิชฺชติ.
    (สิงฺคิลโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก ๒๗/๑๔๒.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้วๆ, ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งผู้ฉิบหาย. </td> <td>
    </td> <td>อิตฺถีธุตฺโต สุราธุตฺโต อกฺขธุตฺโต จ โย นโร
    ลทฺธํ ลทฺธํ วินาเสติ ตํ ปราภวโต มุขํ.
    สุ. ขุ. ๒๕/๓๔๗.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>หญิงเป็นมลทินของพรหมจรรย์ ประชาชนนี้ข้องอยู่ในหญิงนี้ ตบะและพรหมจรรย์เป็นเครื่องอาบ ไม่ใช่น้ำ.</td> <td>
    </td> <td>อิตฺถี มลํ พฺรหฺมจริยสฺส เอตฺถายํ สชฺชเต ปชา
    ตโป จ พฺรหฺมจริยญฺจ ตํ สินานมโนทกํ
    สํ. ส. ๑๕/๕๒.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>ชีวิตคืออายุอันน้อยนี้ ถูกชรานำเข้าไป เมื่อสัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีเครื่องต้านทาน ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น มุ่งความสงบ พึงละโลกามิสเสีย.</td> <td>
    </td> <td>อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ ํ
    ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา
    เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขามาโน
    โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข.
    สํ. ส. ๑๕/๗๗.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>ผู้สงบ เว้นบาป ฉลาดมาก ไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมขจัดบาปธรรมเสียได้ เหมือนลมกำจัดใบไม้ฉะนั้น.</td> <td>
    </td> <td>อุปสนฺโต อุปรโต มนฺตภาณี อนุทฺธโต
    ธุนาติ ปาปเก ธมฺเม ทุมปตฺตํว มาลุโต.
    (มหาโกฏฺฐิตเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๒๖๐.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>ถ้าสัตว์พึงรู้อย่างนี้ว่า ‘ชาติสมภพนี้เป็นทุกข์’
    สัตว์ก็ไม่ควรฆ่าสัตว์ เพราะผู้ฆ่าสัตว์ย่อมเศร้าโศก.</td> <td>
    </td> <td>เอวญฺเจ สตฺตา ชาเนยฺยุ ํ ทุกฺขายํ ชาติสมฺภโว
    น ปาโณ ปาณินํ หญฺเญ ปาณฆาตี หิ โสจติ.
    (รุกฺขเทวตาโพธิสตฺต) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๖.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>ไม่ควรฟังคำก้าวร้าวของคนอื่น, ไม่ควรมองดูการงานของคนอื่นที่เขาทำแล้วและยังไม่ได้ทำ, ควรพิจารณาดูแต่การงานของตนที่ทำแล้วและยังไม่ได้ทำเท่านั้น.</td> <td>
    </td> <td>น ปเรสํ วิโลมานิ น ปเรสํ กตากตํ
    อตฺตโน ว อเวกฺเขยฺย กตานิ อกตานิ จ.
    ขุ. ธ. ๒๕/๒๑.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>เห็นความประมาทเป็นภัย และเห็นความไม่ประมาทเป็นความปลอดภัยแล้ว พึงเจริญมรรคมีองค์ ๘ นี้เป็นพุทธานุศาสนี.</td> <td>
    </td> <td>ปมาทํ ภยโต ทิสฺวา อปฺปมาทญฺจ เขมโต
    ภาเวถฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ เอสา พุทฺธานุสาสนี.
    ขุ. จริยา. ๓๓/๕๙๕.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>การไม่เห็นสิ่งที่รักเป็นทุกข์ และการเห็นสิ่งที่ไม่รักก็เป็นทุกข์ เหตุนั้น จึงไม่ควรทำอะไรให้เป็นที่รัก เพราะความพรากจากสิ่งที่รัก เป็นการทราม.</td> <td>
    </td> <td>ปิยานํ อทสฺสนํ ทุกฺขํ อปฺปิยานญฺจ ทสฺสนํ
    ตสฺมา ปิยํ น กยิราถ ปิยาปาโย หิ ปาปโก.
    ขุ. ธ. ๒๕/๔๓.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>โลกถูกมฤตยูกำจัด ถูกชราล้อมไว้ ไม่มีผู้ต้านทาน ย่อมเดือดร้อนเป็นนิตย์ ดุจคนต้องโทษต้องทำตามอาชญาฉะนั้น.</td> <td>
    </td> <td>มจฺจุนพฺภาหโต โลโก ปริกฺขิตฺโต ชราย จ
    หญฺญติ นิจฺจมตฺตาโณ ปตฺตทณฺโฑว ตกฺกโร.
    (สิริมณฺฑเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๓๕.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>เมื่อรากยังมั่นคงไม่มีอันตราย ต้นไม้แม้ถูกตัดแล้วย่อมงอกได้อีกฉันใด, เมื่อตัณหานุสัยยังไม่ถูกกำจัดแล้ว ทุกข์นี้ย่อมเกิดร่ำไป ฉันนั้น.</td> <td>
    </td> <td>ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห
    ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ
    เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต
    นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุนํ.
    ขุ. ธ. ๒๕/๖๐.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>ผู้ใดเห็นทุกข์ว่าเกิดเพราะกาม, ผู้นั้นจะพึงน้อม (จิต) ไปในกามได้อย่างไร, ผู้รู้จักอุปธิว่าเป็นเครื่องข้องในโลกแล้ว พึงศึกษาเพื่อกำจัดอุปธิเสีย.</td> <td>
    </td> <td>โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทานํ
    กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺย
    อุปธึ วิทิตฺวาน สงฺโคติ โลเก
    ตสฺเสว ชนฺตุ วินยาย สิกฺเข.
    สํ. ส. ๑๕/๑๗๐.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>ผู้ใดครอบงำตัณหาลามก อันล่วงได้ยากในโลก ความโศกทั้งหลายย่อมตกไปจากผู้นั้น เหมือนหยาดน้ำตกจากใบบัวฉะนั้น.</td> <td>
    </td> <td>โย เว ตํ สหตี ชมฺมึ ตณฺหํ โลเก ทุรจฺจยํ
    โสกา ตมฺหา ปปตนฺติ อุทพินฺทุว โปกฺขรา.
    ขุ. ธ. ๒๕/๖๐.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>การไม่ทำบาปทั้งปวง การยังกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว, ๓ ข้อนี้เป็นคำสั่งสอนของท่านผู้รู้ทั้งหลาย.</td> <td>
    </td> <td>สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา
    สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานสาสนํ.
    ขุ. ธ. ๒๕/๓๙.
    </td> </tr> <tr><td colspan="3"> </td></tr> <tr valign="top"> <td>พระราชา ดีที่ทรงยินดีในธรรม, คน ดีที่มีปัญญา, เพื่อน ดีที่ไม่ประทุษร้ายมิตร, สุข อยู่ที่ไม่ทำบาป.</td> <td>
    </td> <td>สาธุ ธมฺมรุจี ราชา สาธุ ปญฺญาณวา นโร
    สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ ปาปสฺสากรณํ สุขํ.
    (โพธิสตฺต) ขุ. ชา. ปญฺญาส. ๒๘/๒๐.


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก

    http://www.dhammalife.com/dhamma/bhasit
    </td></tr></tbody></table>
     
  5. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
  6. Kimzo

    Kimzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +1,046
    อนุโมทนาสาธุค่ะ

    ธัมมะทานัง สัพพะทานัง ชินาติ
    การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
     
  7. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ ทำดีได้ดี ทำชั้วได้ชั้ว
     
  8. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...