พลังงูไฟ( กุลฑณี )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 1111, 9 มีนาคม 2005.

  1. RuamJit

    RuamJit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +628
    (good) ขอบคุณ ครับ อ.Suwi สำหรับ หลักการและ เคล็ดวิชา รวม ดิน-ฟ้า ให้เป็นหนึ่ง ที่ชี้แนะ จะนำไปปฏิบัติครับ (*)(*)(*)(*)(*)
     
  2. svt

    svt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,033
    คุณคนขายธูป นำเนื้อหาที่มีประโยชน์มาลงได้ดีครับ
    ในนี้ก็มีเกี่ยวกับกุลฑลิณี http://www.crystalinks.com/kundalini.html


    ส่วนตัวเคยพบพลังที่ไหลขึ้นไปจากบริเวณผิวหน้าผาก ไปเปิดจักระเหนือกระหม่อม เป็นพลังที่เป็นไออุ่น เป็นกลุ่มอุ่นๆหยุ่นๆ ซึมเข้าไปที่เหนือกระหม่อม หลังจากนั้นมันเหมือนมีบางสิ่งเกิดขึ้นใหม่ทั้งร่างกายและจิตใจ

    -บางครั้งเคยเจอตอนทำสมาธ ิเมื่อเข้าที่แล้วเปิดรับพลังที่เหนือกระหม่อม สิ่งที่ลงมาที่เป็นพลังเหมือนน้ำทิพย์ที่ละเอียด ชะโลม ทั่วทุกส่วนในร่างกายที่โปร่งแสง คล้ายเทคอฟฟี่เมต(ครีมเทียม)ลงในแก้วที่มีน้ำเปล่าใสๆ โปรยปรายทั่วร่าง
    ทำให้จิตใจร่างกายมีกำลังมาก จิตและเอียดและมีกำลังเพิ่มขึ้นพีคมาก เมื่อเจออะไรลักษณะนี้

    - และเมื่อพลังมาถึงเหนือกระหม่อม พอทำไป นานเข้าๆ มันจะมีท่อใสๆ เป็นแกนพุ่งขึ้นไปสู่จักรวาล ไกลแสนไกล สู่จุดสิ้นสุดที่แหล่งกำเนิด ดูแล ทำลายทุกสิ่ง แกนดังกล่าวนั้นเป็นแกนที่พุ่งขึ้นบนไปไกล และท่อเดียวกันนี้ก็พุ่งลงด้านล่างผ่านร่างกายลงไปใต้พื้นดินด้วย แกนท่อใสดังกล่าวสามารถรับพลังลงมารักษาสุขภาพ และทำประโยชน์ได้อีกหลายสิ่ง ให้ตัวเองและคนรอบข้าง
    ข้อนี้มาเล่าแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันครับ พอดีตอนหลังๆมาเจอเวปที่มีรูปอันนึงไว้อ้างอิงถึง
    ซึ่งเค้าอธิบายแกนท่อนั้นว่าคือ soul axis

    กระนั้นดังกล่าวทุกอย่างเริ่มต้นจากจุดแรกกุลฑลิณีก่อน จึงมาเสถียร ณ จุดจักระต่างๆแบบอัตโนมัติ

    รูป soulaxis ออร่า และจักระ 7 จุด จากเวปดังกล่าวจากที่ http://mystery-school.com/NoegenesisMysterySchool.html

    [​IMG]

    ยอมรับว่ากุลฑลิณี เป็นศาสตร์ที่ลึกซึ้ง อธิบายพูดไปได้ยาก ต้องฝึกต้องเจอเองก่อน และบางท่านฝึกไม่นานเพราะมีของเดิมอยู่ก่อนบ้าง บางท่านก็นับหนึ่งเริ่มต้น บางท่านก็ไม่สนใจลักษณะทำนองนี้

    คุณคนขายธูป ลำดับอธิบายได้ละเอียด ดีทีเดียวครับ ท่านคงต้องคร่ำหวอดผ่านร้อนหนาวมามาก มีประสบการณ์ตรงที่สั่งสมลักษณะนี้มานานแล้วจึงได้เก็บเกี่ยวศึกษาวิจัยได้ดีอย่างนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มกราคม 2008
  3. thongdee1

    thongdee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +1,499
    พลังที่ศึกษากันอยู่นี้มีอำนาจมากกว่าที่คิดที่รู้กันในปัจจุบันมากมายนัก
    การฝึกฝนวิชาเหล่านี้ทำให้มนุษย์กลายเป็นพระเจ้าได้ด้วย

    ร่างกายคนเรานี้คือจักรวาลย่อยๆ
    การรวมจักรวาลย่อยให้เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
    คือหลอมรวมตัวเราให้เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
    แล้วมีสิทธิ์ใช้พลังจักรวาลอย่างไร้ขอบเขตนั้น
    ทำได้โดยการปลุกพลังที่หลับใหลอยู่ที่ใต้จักระที่ 1 ให้ตื่นขึ้นมา
    แล้วเคลื่อนผ่านจักระแต่ละจักระ
    เวลาที่พลังเคลื่อนผ่านจักระแต่ละจักระ
    จะมีอำนาจพิเศษความสามารถพิเศษตามอำนาจของจักระนั้นๆเกิดขึ้น
    เมื่อพลังเคลื่อนผ่านครบทุกจักระไปจนสุดจักระที่ 7
    แล้วมีการหลอมรวมตัวเราเข้าเป็นหนึ่งกับจักรวาล
    คนผู้นั้นจะมีความรู้ความสามารถและมีอิทธิฤทธิ์ดุจเดียวกับพระเจ้า
    หากคนผู้นั้นเลือกที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติคนผู้นั้นก็จะสามารถควบคุมธรรมชาติให้เป็นไปตามใจปราถนาได้ไม่ยาก เมื่อสำเร็จวิชานี้แล้วเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติได้แล้วถ้าอารมณ์ของคนผู้นี้เสียสมดุลภัยพิบัติก็จะเกิดขึ้น ดังนั้นผู้ที่เลือที่จะเป็นผู้ปกครองธรรมชาติหลังจากฝึกวิชานี้สำเร็จแล้วจึงต้องพยาม ไม่รัก ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เพื่อคงสมดุลแห่งธรรมชาติเอาไว้
    ไม่ให้เกิดภัยพิบัติ ธรรมชาติแปรปรวนตามอารมณ์ของคนผู้นั้น
     
  4. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +2,752
    .....ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้ครับ...แต่นึกเอาเองว่าน่าจะ เหมือนกับ พลังที่มาจาก แดนที่อยู่ห่างไกลออกไปมากๆ...จน ขณะนี้ ก็ ยังไม่สามารถสาวไปหา ต้นกำเนิดได้....น่าจะเป็นพลังเดียวกับที่ เรียกว่า กุณฑลิณี...แต่ไม่แน่ใจ ก็ เพราะพลังนี้ อาโปกสิณ ทำลายไม่ได้...หรือ อาจไม่ใช่ พลังงูไฟ อย่างที่เข้าใจกันก็ได้...ปกติทางเข้าออกของพลังนี้ จะเป็นตรงกลางกระหม่อม.....คิดๆไป ก็แปลกดี...เคยเห็น แต่ ไม่ทราบว่า เป็นอะไร...แต่ที่เห็นไม่ใช่ไฟ เป็น พลัง หมุนวน เป็น เกลียว สีทอง หรือ ใสแกมทอง..หรือ อุปทานคิดไปเอง ก็ ไม่แน่ใจ ท่านใด, ใคร ทราบช่วยบอกที...
     
  5. thongdee1

    thongdee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +1,499
    ในกระดูกไขสันหลังมีช่องทางเดิน 3 ช่อง เรียกว่า นาฑี
    ช่องทางซ้ายสำหรับพลังลบ เรียกว่า อิทะ นาฑี
    ช่องทางขวาเป็นพลังบวก เรียกว่า บิงคละ นาฑี
    ตรงกลางเป็นช่องไขสันหลัง เรียกว่า สุษุมนะ นาฑี
    ช่องนี้เองเป็นทางเดินของพลังที่เรียกว่า กุณฑาลิณี

    ตามปกติ กุณฑาลิณี อยู่ตรงปลายสุดของกระดูกสันหลัง
    ด้วยอำนาจของการเพ่งสมาธิ โยคีจะดึงพลังกุณฑาลิณีขึ้นไปเบื้องบน
    ผ่านจักรต่าง ๆ ไปตามลำดับจนถึงตำแหน่งสหัลสราร
    เมื่อพลังกุณฑาลิณีขึ้นไปสู่จักรหนึ่ง ๆ โยคีจะมีพลังจิตสูงขึ้นไปเป็นขั้น ๆ ตามลำดับ
    และเกิดฤทธิ์ต่าง ๆ เช่น ตาทิพย์ , ปรจิตวิทยา , อดีตังสญาณ , อนาคตังสญาณ
    จนกระทั่งถึงตำแหน่งสหัลสราร ก็บรรลุถึงจุดสุดยอด เป็นญาณอันสูงสุดเป็นเอกภาพกับอาตมัน

    การเดินกำลังกุณฑาลิณีดังกล่าวนี้ เรียกว่า การบำเพ็ญสมาธิ
    เป็นเรื่องของการฝึกหัดอบรมจิต ซึ่งกล่าวไว้ในราชโยคะ

    พลังต่างๆเหล่านี้นั้นเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นเป็นแค่ทางผ่านในการเดินทางไปสู่นิพพาน
    พลังต่างๆเหล่านี้นั้นเป็นพลังที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ มนุษย์ทุกคนมีอยู่แล้วเพียงแต่ไม่รู้วิธีที่เป็นเสมือนกุญแจในการเปิดขุมพลังในกายตนแล้วรู้วิธีนำออกมาใช้เท่านั้นเอง

    การปลุกพลังกุณฑาลิณี ให้ตื่นขึ้นแล้วเคลื่อนผ่านจักรต่างๆเป็นการเดินตามสายทางแห่งอิทธิฤทธิ์ ผู้ที่เปิดจักระที่ 1 ด้วยพลังงูไฟได้แล้วโดยสมบูรยณ์และถูกต้องมักจะเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ ถ้าหลงติดในฤทธิ์ก็เป็นอันว่าจะยังก้าวต่อไปไม่ได้จิตวิญญานจะยังไม่สามารถพัฒนาให้สูงขึ้นกว่านี้ได้
     
  6. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +2,752
    อ่าน แล้ว..สงสัย ที่ผมเจอคงไม่ใช่พลังกุณฑาลินี ครับ เพราะ ไมใช่ พลังที่มาจากภายในกาย(จักรที่ ๑) แต่มาจากภายนอก...เข้ามา ข้างในกาย....

    ....อย่างก็ดี ขอ ขอบคุณ ทุกท่านทีได้ความรู้ ในกระทู้นี้....เพียงแต่ แปลกใจ ที่ มันมี ลักษณะใกล้เคียงกัน ...
     
  7. rahool

    rahool Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +59
    สวัสดีครับผมไม่เคยฝึกหรอกนะครับสายนี้ผมไม่เคยทำสมาธิเลยด้วย ผมผ่านเข้ามาอ่านเห็นว่าแปลกดี ผมอ่านแล้วมาสดุดตรงที่ คุณ คนขายธูป เล่าว่าอาจารของคุณเคยเหมือนโดนเข็มพันเล็มทิ่มกระหม่อม ผมคนนึงที่เคยครับ ตอนสมัยเรียนมัธยม เข้าแถวตอนเช้า แดดจัดมากวันนั้น อยู่ๆผมก็เหมือนมีเข็มพันเล่มทิ่มไล่ตั้งแต่ก้นกกไปจนถึงท้ายทอย มันรู้สึกเจ็บๆคันๆ แต่ผมไม่เคยรู้จักศาสตร์นี้เลยนะครับ สมาธิก็ไม่เคยนั่ง ผมเป็นลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง แต่อาจจะเป็นอาการทางแพทยข์ก่อนได้ มีคำแนะนำอะไรก็บอกผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
     
  8. พลบค่ำ

    พลบค่ำ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมสงสัยเกี่ยวกับพลังกุณฑาลินีครับ พอดีผมได้ฝึกการทำสมาธิแบบสหจะโยคะ ซึ่งกุณฑาลินีแบบสหจะโยคะจะเป็นลักษณะกระแสลมเย็นวิ่งไปตามจักระต่างๆ แต่จากข้อมูลแหล่งอื่นจะบอกว่าพลังกุณฑาลินีมีลักษณะร้อนเหมือนงูไฟ
    พลังกุณฑาลิณีนี่มีหลายแบบหรือครับ
     
  9. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    อืมๆ เห็นในหนังสือคนมีญาณก็มีพูดถึงเหมือนกัน พลังกุณฑาลิณีเนี่ย แต่ช่วงที่เกิดกุณฑาลินีกับผม(โดยบังเอิญ)ก็รู้สึกว่ามันสุดๆเลยจริงๆนะ ตัวเองจะแบบรู้สึกร้อนๆในกายอ่ะแล้วก็อารมณ์แรงๆ
     
  10. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    พลังนี้นะ มันจะค่อยร้อนที่จักระที่ 1 และเมื่อเราเพ่งไปที่จักระที่ 1 มันก็จะร้อนขึ้นมาทันทีครับ
    การดึงพลังนี้ขึ้น คนนั้นต้องทานอาหารเจครับ
    ช่วงที่พลังนี้พุ่งขึ้นช่วงแรกๆ จะสบายๆไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น จิตอุเบกขา ปล่อยวางทุกอย่าง ส่วนพลังอำนาจไม่ต้องพูดถึงครับ พูดกับสัตว์ สั่งให้ทำอะไรได้หมด พูดออกมาได้หลายภาษา รู้ว่าคนๆนั้นจะพูดอะไรกำลังคิดอะไร ไม่ต้องกินอะไรไม่ต้องนอนก็ได้แต่ถ้าไปยึดอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ผู้คนจะเรียกว่าบ้า ต้องดึงสติกลับคืนมาโดยเพ่งไปที่จักระที่ 5 พักผ่อนให้มากๆ ตื่นขึ้นมาพยายามทำตัวให้ปกติเหมือนคนอื่น ครับ แต่ก็ยังบ้าอยู่ของเราในใจ 555555555555555555555555
     
  11. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ทีนี้พอเรานั่งสมาธิฝึกพลังจักรวาลหรืออะไร จักระที่ 1 จะร้อนแล้วพลังความร้อนนั้นจะค่อยๆแผ่ขึ้นมาจนทะลุศรีษะครับ บางครั้งอาจจะมีพลังความเย็นแผ่ขึ้นมาบ้างบางวันครับ พละกำลังจะมากไม่เหนื่อย ...............
     
  12. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ส่วนท่านที่ต้องการฝึกเพื่อให้พลังตัวนี้ขึ้นมา ก็ต้องทานอาหารเจ จากนั้นก็นั่งเราส้นเท้าวางจักระที่1 แล้วให้ทำการเขย่าธาตุตัวเอง ทำไปไม่เกิน 9 วันครับได้เรื่องแต่ต้องมีครูบาอาจารย์ดูแลด้วยนะครับ
     
  13. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ถ้าท่านจะฝึกเองก็พอได้ครับ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไปอย่ารีบร้อน
    สิ่งที่จะต้องมี
    1.ต้องละโกรธ โลภ หลง ให้มากที่สุดเท่าที่จำทำได้เพราะว่า เมื่อพลังนี้ตื่นขึ้นจิตใต้สำนึกต่างๆจะแสดงออกมาถ้าเรามองไม่ออกใครก็เข้าใกล้ไม่ได้ครับ
    2.กินอาหารเจ หรือ มังสวิรัต ถ้าจะดีงดอาหารช่วงเย็นให้ดื่มนมแทน ช่วงกลางวันกินผลไม้แทนข้าวยิ่งดีครับ
    3.อ่านหนังสือธรรมมะในเวลาว่าง
    4.พยายามลดการพูดจากับบุคคลอื่น
    5.จัดเวลาการฝึก ถ้ามีเวลาควรฝึกในถ้ำที่อยู่บนภูเขา

    การฝึกในแต่ละวัน ส่วนเวลาในแต่ละข้อนั้นก็กำหนดเอาเองยิ่งนานยิ่งเร็ว
    1.ฝึกหมุนจักระ 2 - 7 ให้คล่องทุกวัน นั่งแบบที่ผมแนะนำ
    2.หายใจเข้าดึงพลังจาก 2 ขึ้นมา 3 4 5 6 7 หายใจออกผ่อนคลาย
    3.ดึงพลังจาก 7 6 5 4 3 2 1
    4.เพ่งจักระ 7 กับ 6 ดันพลังลง 1 บางช่วงเวลา
    5.กำหนดเพ่ง 1 กับ 6 สลับกัน จนพอใจ

    ทำจนรู้สึกว่า พลังหมุนเวียนคล่องไม่มีจุดติดขัด ไม่สามารถกำหนดได้นะครับ จากนั้นก็เขย่าธาตุในร่างกายให้จุดทุกจุดในร่างกายเปิดขึ้นมา ช่วงนี้ถ้าไม่รู้ก็อย่าเพิ่งทำนะครับเพราะช่วงนี้สำคัญมากๆๆๆๆๆ คุณต้องยอมถวายร่างกาย ตายเป็นตาย จนเหมือนว่าโลกพลิกคว่ำบางทีกายทิพย์อาจหลุดออกไปเลย
    เอาพอคร่าวๆ ให้ยั่วน้ำลายเล่นละกัน ส่วนท่านใดจะฝึกหรือไม่ ก็ไม่รู้นะเจ้าข้า
    ขอบอกไว้ก่อนนะครับพลังมันแรงและเยอะมากๆ พูดค่อยๆ ดังไปสิบบ้านเลยละครับอย่าตกใจค่อยๆปรับตัวกลับคืนมาเพื่อเข้าสู่สภาวะปกติเหมือนคนทั่วไป เดี่ยวจะหาว่าไม่บอกไม่เช่นนั้นจะต้องเข้าป่าอยู่คนเดียว พลังที่ได้ท่านจะเอาไปทำอะไร จะเอาฤทธิ์ หรือจะแค่ให้ร่างกายไม่แก่เร็ว หรือจะอยู่เป็นหมื่นๆปี ก็เลือกฝึกกันไป แต่ขอบอกไว้สักนิด
    ยามใดที่เจ้าแสดงฤทธิ์ เจ้าจะปิดประตูนิพพานของเจ้าเลยละจะบอกให้
     
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772


    เขย่าธาตุตัวเองนี่เขาทำกันยังไงหรือครับ??


    ................................................
     
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    โอ้...เพิ่งสังเกตว่า พอเข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้ว
    จักระที่ 6 เต้นตุบๆ จนปวดไปหมดเลย

    แสดงว่า "ท่านๆ" ทั้งหลาย ที่เข้ามาให้คำแนะนำไว้ในนี้
    ท่านทิ้ง "พลัง" ของท่านเอาไว้กันเยอะแน่ๆเลยครับ

    ...............................................
     
  16. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    เขย่าธาตุ จริงแล้วผมไม่รู้จะเรียกยังไงดีครับ มันเป็นการเปิดจุดในร่างกายสอดรับพลังงานกับจักรวาลให้เต็มที่ วิธีการนั้นเดี่ยวผมเรียบเรียงในสมองก่อนนะครับ แต่จริงๆแล้วมันมีที่หนึ่งที่เขาฝึกกันนะครับแต่ผมปรับมาใช้กับการเปิดพลัง เขาเรียกว่า การเปิดโลกในร่างกายให้สัมพันธ์กับจักรวาล แต่ที่เขาฝึกกันดันเป็นการเปิดกรรมซะงั้น เพราะว่าเขาฝึกยังไม่สุดถึงก้นกบ ผมลองแอบสอบถามคนเก่าๆดู เขาบอกว่าจริงๆแล้วหลวงปู่ที่ท่านเปิดสอนวิชานี้เขาสอนแบบที่ผมฝึกอยู่แค่ให้ปราณทะลุถึงก้นกบหายในเข้าดึงพลังขึ้น
    แต่ที่เขาฝึกปัจจุบันนี้ผิดแปลกไปจากหลวงปู่มาก เขาบอกมาอย่างนั้นครับ
     
  17. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ไม่ต้องห่วงละครับพลังเพราะพลังผมมันวิ่งอยู่ตลอดเวลาเพียงแต่จะใช้หรือแค่นี้ เพราะเคยลองมาแล้วครับระยะ 300 เมตร เห็นคนทรงเจ้าอยู่ลองยกขาถีบจากระยะ300 เมตรหลุดเลยครับคนทรงล้มทั้งยืน
    แค่คิดว่าจะไปบอกว่ามาถึงแล้ว เขาก็เห็นกายอีกกายของเราเดินอยู่ข้างถนนใส่ชุดที่เราไปเดินผ่านเขาไป ทั้งที่เรากำลังเดินทางไปใกล้ถึงแล้ว
    มีอีกเยอะครับ แต่พวกเหล่านี้ผมว่าไม่เกิดประโยชน์ใดเลย ก็มีจะเข้าท่าอยู่แบบ ไปเข้าฝันเขา เอาเงินไปให้ หมื่นหนึ่ง เขามาถามอายุเท่าไหร่ แต่ตัวเราดันทะลึ่งบอกเอาวันที่เกิดไปเล่นด้วยนะ ออกมาจริงๆ เขาได้หมื่นพอดี ซะงั้น
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แล้วนั่งเอาส้นเท้าไว้ที่จักระที่ 1 นี่ทำยังไงครับ

    จริงๆแล้วอยากจะถามแบบละเอียดๆเลยหละครับ
    เพราะตัวเองก็ฝึกอยู่ แต่ไม่เห็นได้เรื่องอะไร คือไม่ก้าวหน้าหนะนะครับ
    ก็เลยเลิกๆฝึกไปแล้ว หันไปหาอะไรอย่างอื่นทำซะมากกว่าหนะครับ

    ประโยชน์หนะ ผมว่ายังไงก็มีแน่ เพราะว่าผมรู้ว่ามันต้องมีแน่ๆ
    อยู่ที่ว่าเราจะเอามาใช้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์นั้นหรือเปล่าเท่านั้นเองครับ

    ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
    .................................
     
  19. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    เออผมเห็น อ.สุวินัย อยู่ในกระทู้หรือเปล่าไม่รู้ หนังสือที่ท่านเขียนก็มีนะครับ
    การนั่งมีหลายแบบ หลายวิธี
    ก็คือ เรานั่งบนส้นเท้าข้างซ้ายให้ตรงจักระที่ 1 ตรงรอยฝีเย็บ ส่วนเท้าขวาก็วางพาดบนเขาซ้าย นั่งไปนานๆเลยครับช่วงแรกๆนั่งดูทีวี นั่งอ่านหนังสือให้ฝึกการนั่งแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับอาจจะมีอาการกระตุกบ้าง เข็มทิ่มแทงตรงจักระ1 บ้างบางเวลาก็อย่าตกใจ เหนื่อยก็พักอย่าหักโหมแต่อย่าหย่อนเกินไปครับ ส่วนมือเราจะพนมมือ หรือวางตามสะดวกครับ
    ถ้าเป็นผมช่วงแรกๆผมนั้งจักระที่ 1 ส้นเท้า จักระที่ 2 ที่ก้นกบ นั่งบนหินอุลกามณีดำ จักระ 4 ห้อยหินให้ตรงพอดี จักระ 5 ห้อยหินให้รัดคอพอเหมาะ จักระ 7 วางศรีจักรา แล้วเดินพลังครับเนี่ยแค่ฝึกเดินพลังนะครับยังไม่เกี่ยวกับการเขย่าธาตุเปิดจุดในกายกับจักรวาล ถ้าทนไม่ไหวให้หยุดพักก่อน ค่อยๆฝึกไป มีเวลาออกกำลังกายโยคะไปด้วย ช่วงแรกๆพยายามอย่ายุ่งกะใครมากบอกคนอื่นว่าฝึกอะไร เพราะจิตเราจะไปยึดในเหตุการณ์ต่างๆมันจะทำให้เราหงุดหงิด ง่วงนอนช่วงแรกๆๆ พอร่างกายปรับเข้าที่ทุกจุดเริ่มเปิดมากขึ้นก็นั่งนานขึ้นๆ ถ้าพลังติดตรงไหนต้องหมุนคลายพลังออกให้หมดก็คืออย่าให้พลังไปกระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง การนั่งเหมือนกันพยายามให้ตัวตรงๆไว้พอได้ที่แล้วร่างกายจะจัดของเขาเองรับรองตรงดิ่งเลยละ แต่ช่วงแรกถ้านั่งไม่ตรงพลังจะไปจุกอยู่ตรงนั้นทำให้เกิดการปวดบ้างหนักบ้างก็ต้องนั่งให้ตรงๆ ก็จะค่อยๆคลายไปเอง
    พอจุดเปิดได้มากๆแล้ว ให้วางหินหรือศรีจักราที่ฝ่ามือทั้งสองเพิ่มอีกครับเพราะฝ่ามือทั้ง2จะมีจุดสัมพันธ์กับจักระในร่างกายด้วยครับกลางฝ่ามือก็จักระที่6 ละที่จำพอได้
    แล้วแต่ละวิธีการฝึกนะครับผมแนะแนวทางให้เท่านั้นนะครับผม
     
  20. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ส่วนการหมุนคลายจักระที่ละจุดนั้นก็คงต้องเขียนอีกแหล่ะ หรือว่าไม่ต้องคงรู้กันแล้วนะครับหมุนคลายแล้วหมุนกงจักรตัดลง
    พลังที่แท้จริงจะเย็นสบาย จะค่อยๆเริ่มขึ้นจากก้นกบของเราขึ้นมาแผ่พลังความเย็นขึ้นมาหลังจากที่ช่วงแรกๆ จะเป็นพลังความร้อน

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...