พรแม่พิมพา (เน้นเสน่ห์ เสริมโชคลาภ เชิญครับ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kwang0197, 11 สิงหาคม 2013.

  1. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระขุนแผน หลวงปู่แย้ม "พระขุนแผนเนื้อดินกุมารทอง"


    พระขุนแผนเนื้อดินกุมารพิพิธภัณฑ์ปี 47 เป็นพระขุนแผนที่จัดทำโดยช่างเขียวซึ่งเป็นช่างคนนึงที่มีส่วนร่วมในการจัดทำกุมารทองรุ่นพิพิธภัณฑ์ ได้จัดทำพระขุนแผนเนื้อดินกุมารซึ่งเป็นเนื้อเดียวกับกุมารทองรุ่นพิพิธภัณฑ์ไว้จำนวนหนึ่งและเก็บไว้ให้หลวงปู่แย้มท่านอธิษฐานจิตยาวจนลืมถึงปัจจุบัน

    10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับหลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม

    1. หลวงปู่แย้มท่านแพ้อาหารทะเลจำพวกกุ้งและท่านจะไม่ฉันเนื้อสัตว์ใหญ่และจะไม่ค่อยฉันสัตว์ปีกครับ ถ้าเป็นจำพวกปลาหรือผักต้มผักลวกจะดีกว่า

    2. การเจิมกุมารทอง(ตุ๊กตาทอง)ท่านมักจะหันหน้าไปทางสังขารหลวงพ่อด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าเจิมกี่องค์ท่านก็จะหันทุกครั้งเพื่อบอกกล่าวหลวงพ่อเต๋ท่าน และในพิธีอธิษฐานจิตทุกครั้งไม่ว่างานเล็กใหญ่แค่ไหน ท่านก็จะให้เตรียมอาสนะหรือที่นั่งสำหรับหลวงพ่อเต๋ด้วยทุกครั้ง

    3. เหรียญรูปเหมือนของหลวงปู่แย้ม ท่านจะจารอักขระด้วยตัวท่านเองทุกครั้ง บางรุ่นอาจจะจารหน้าเดียวบางรุ่นอาจจะสองด้านอยู่ที่รูปแบบของเหรียญแต่ละรุ่น

    4. หลวงปู่ท่านทำวัตรสวดมนต์ก่อนจำวัดตอนกลางคืนทุกครั้งไม่เคยขาด แม้วันไหนท่านอาพาธหนักจริงๆ ท่านก็ยังจะให้ลูกศิษย์ปักธูปหน้าหิ้งพระแทนท่าน แล้วท่านก็สวดมนต์ต่อในที่จำวัดของท่าน

    5. คำถามแรกที่หลวงปู่ถามแขกและญาติโยมที่มากราบท่านอยู่ทุกครั้งคือ "มาจากไหน?"

    6. การได้ยินของหลวงปู่แย้มท่านไม่ค่อยได้ยิน เนื่องจากการนั่งเครื่องบินเมื่อหลายสิบปีก่อน(ความดันอากาศ)ทำให้ท่านมีอาการหูตึงโดยเฉพาะหูด้านซ้ายของท่านจะมีอาการมากสุด ดังนั้นหากจะพูดบอกกล่าวถามอะไรหลวงปู่ท่านให้พูดบอกทางด้านขวาของหลวงปู่ครับ

    7. ภาพภายนอกดูเหมือนหลวงปู่แย้มท่านไม่ค่อยพูด แต่จริงๆแล้วท่านมักจะเล่าเรื่องต่างๆให้ลูกศิษย์ฟังอยู่เสมอ เช่น การออกธุดงค์กับหลวงพ่อเต๋ เป็นต้น เพียงแต่ช่วงเวลาแต่ละวันหมดไปกับการรับแขกและการเจิมวัตถุมงคล ดังนั้นหากใครอยากนั่งพูดคุยกับหลวงปู่ท่านลองมาตัวเปล่าๆงดนำของมาลงซักครั้งแล้วหาจังหวะที่ท่านว่างๆนั่งพูดคุยกับท่าน แล้วจะได้ฟังเรื่องราวดีๆอีกเยอะครับ

    8. เวลาหลวงปู่นั่งรถเดินทาง ท่านจะไม่นั่งเบาะด้านหลังรถแต่ท่านจะนั่งข้างคนขับอยู่เสมอทุกๆครั้ง (หลวงปู่เคยนั่งรถผมอยู่ 4-5 ครั้ง เวลาผมพาท่านไปกิจของสงฆ์) และท่านมักจะจดจำพูดคุยบอกเส้นทางได้อย่างแม่นยำ ยกเว้นพื้นที่กรุงเทพที่หลวงปู่ท่านขอยอมแพ้ เพราะบางพื้นที่เปลี่ยนไปเยอะมากแล้ว

    9. หลวงปู่มีความรู้ทางธรรมสูงมากเพราะท่านเป็นถึงพระครูและตำแหน่งเทียบเท่าเป็นรองเจ้าอาวาสวัดหลวง อีกทั้งหลวงปู่มีความรู้ชำนาญเรื่องสมุนไพรเป็นอย่างดีด้วย แต่แทบจะไม่มีใครมานั่งคุยกับหลวงปู่เรื่องทางธรรมเลย

    10. การถามอะไรหลวงปู่ก็ตามแล้วท่าน"พยักหน้า" ไม่ได้หมายความว่าท่านได้ยินเข้าใจในสิ่งที่เราบอกท่าน เนื่องด้วยหูท่านไม่ค่อยได้ยินในการพูดแบบปกติ ซึ่งส่วนใหญ่ทุกวันนี้น้อยคนที่จะทราบว่าหูท่านไม่ค่อยได้ยิน ดังนั้นควรบอกกล่าวท่านเสียงดังกว่าปกติเล็กน้อย หากท่านพูดตอบรับกลับมาถือว่า ok ครับ

    เพิ่มเติม : หลวงปู่ท่านมีสายตาและความจำดีมากๆ และท่านมักจะทราบเรื่องราวต่างๆรอบตัวท่านเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวสารบ้านเมือง รวมถึงความเป็นไปของบรรดาลูกศิษย์ทั้งในและนอกวัด และท่านชอบที่จะหาความรู้ทั่วๆไปเช่นการดูสารคดีต่างๆทีมีคนนำมาถวายเป็นต้น ดังนั้นเราสามารถพูดคุยเล่าให้ท่านฟังได้ทุกเรื่องครับ

    สอบถามทาง PM ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1196.jpg
      IMG_1196.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.1 MB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_1197.jpg
      IMG_1197.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2013
  2. mookung27

    mookung27 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,382
    ค่าพลัง:
    +570
    กุมารขอดทรัพย์เท่าไหร่เหรอคับพี่กวาง
     
  3. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    แจ้งราคาคุณหมูแล้วคับ ขอบคุณครับ
     
  4. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    สอบถามเพิ่มเติมได้ครับ ขอบคุณครับ
     
  5. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ลูกค้าท่านใดมีไลน์ สามารถแอคเข้ามาพูดคุยกันได้นะคับ
     
  6. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    นางพญาพิมพ์กลาง กรุเก่า อายุมากกว่า 84 ปี!!***


    รายการเก็บก่อนแพงครับ***

    เข้าพิธีเสาร์ 5 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
    มาพร้อมกล่องเดิมจากวัดครับ

    เปิดกรุพระเครื่อง วัดราชบูรณะ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2553​


    พระนางพญาที่กรุแตก ณ วัดราชบูรณะ จ.พิษณุโลก ทราบมาว่าขุดค้นเจอเมื่อเย็นวันเสาร์ ที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่พระเณรกำลังพัฒนาวัดบริเวณข้างเจดีย์ราย, ใกล้ๆ กับเจดีย์หลวง หลังวิหารของวัดราชบูรณะ ด้วยทางท่านเจ้าอาวาสจะทำการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณนี้ให้ดูสวยงาม และง่ายต่อการดูแลรักษาศาสนสมบัติ เพราะวัดราชบูรณะ นี้ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่คู่บ้านคู่เมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ของจังหวัดพิษณุโลก

    การขุดเจอกรุพระนั้น ตามที่เป็นข่าวว่า เจอโดยบังเอิญขณะที่พระเณรพยายามจะขุดเอาต่อไม้เก่าออก บริเวณนั้นเคยเป็นที่เผาใบไม้ ที่พระเณรเก็บกวาดมากองสุมเผาใกล้ๆ ตอไม้นี้ประจำ ต่อมาทางเจ้าอาวาสไม่อนุญาตให้เผาขยะ และใบไม้บริเวณนี้อีก เพราะเป็นเขตโบราณสถานของวัด โดยทางท่านเจ้าอาวาสได้มีความดำริจะพัฒนา ปรับปรุง บริเวณนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยการจะปรับปรุงภูมิทัศน์โดยทั่วบริเวณโบราณสถานให้ดูเรียบร้อย สะอาด สวยงาม ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพิษณุโลกอีกแห่งในไม่ช้านี้ จึงสั่งการผ่านพระเลขาของท่าน ให้นำพระเณรไปทำความสะอาดบริเวณนั้น และขุดตอไม้ที่เผาไหม้ไม่หมดนั้นออก จึงเป็นเหตุให้ขุดเจอไหบรรจุกรุพระนางพญาดังกล่าว ใต้ตอไม้นั้น และคงเป็นเหตุให้ขุดหาในบริเวณโดยรอบๆ จนเจอไหลักษณะเดียวกันนั้นอีกรวมถึง 5 ไห ตามที่เป็นข่าว

    ส่วนพระนางพญาที่ขึ้นกรุนี้ จากการสันนิษฐานของเจ้าอาวาส โดยท่านกล่าวว่า ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดราชบูรณะ นี้นานกว่า 30 ปี และเป็นเจ้าอาวาสมานาน 20 กว่าปีนี้ ได้เก็บรักษาวัตถุมงคลต่างๆ ครั้งในอดีตที่เจ้าอาวาส หลายๆ รุ่น ได้สร้างวัตถุมงคลไว้ และโดยส่วนมากจะเป็นพระพิมพ์นางพญา และพระนางพญาที่แตกกรุในครั้งนี้ มีลักษณะพิมพ์องค์เหมือนกับพระนางพญาที่ท่านเคยเห็นและเคยเก็บรักษาไว้ ก็คือพระพิมพ์นางพญาของ พระครูอนุโยคศาสนกิจ หรือหลวงพ่ออ่ำ อดีตเจ้าอาวาสเคยสร้างไว้

    และจากที่ได้หาประวัติโบราณสถานวัดราชบูรณะ ก็ได้พบทำเนียบเจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ ที่ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร คือ เริ่มจาก

    1. พระครูอนุโยคศาสนกิจ หรือ หลวงพ่ออ่ำ เป็นเจ้าอาวาส เมื่อใดนั้นไม่ปรากฏหลักฐาน ทราบแต่ว่าเป็นเจ้าอาวาสถึงปี พ.ศ.2469 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ปรากฎหลักฐานเหมือนกันว่า ใครเป็นเจ้าอาวาสมาก่อนด้วย

    2. ปี 2469 - 2480 หลวงพ่อตุ้ม เป็นเจ้าอาวาส

    3. ปี 2480 - 2496 หลวงพ่ออิ่ม

    4. ปี 2496 - 2526 พระครูอนุโยคศาสนกิจ หรือ หลวงพ่อวัลลภ

    5. ปี 2526 - 2530 พระอาจารย์สิน อมโร

    และ7. ปี 2530 - ปัจจุบัน พระครูสิทธิธรรมวิภัช



    จะเห็นได้ว่า ถ้าหากพระนางพญากรุนี้ สร้างในสมัยหลวงพ่ออ่ำจริง นั่นก็คือ อย่างเห็นๆ ก็มีอายุกว่า 84 ปี แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางกรมศิลปากร ที่มีความชำนาญการในเรื่องโบราณสถานโบราณวัตถุ ได้มาตรวจสอบแล้ว และระบุว่าพระนางพญาที่ทางวัดเจอดังกล่าว เป็นพระพิมพ์เนื้อดิน ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปีแล้ว ก็ตรงตามสันนิษฐาน ว่า พระนางพญากรุที่แตกดังกล่าวนี้ ได้สร้างในยุคของหลวงพ่ออ่ำ จริงๆ

    เป็นที่น่าทึ่งอยู่เหมือนกัน ที่ว่าทึ่งนี้ ผมทึ่งกับความชาญฉลาดของคนสมัยโบราณ ซึ่งก่อนๆ นั้นผมไม่เห็นด้วยกับ เรื่องที่เคยฟังหรือได้อ่านมา เกี่ยวกับการฝังสิ่งของ หรือฝังสมบัติ ของมีค่าต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นแก้ว แหวน เงิน ทอง หรืออะไรก็ตาม อาจจะด้วยเหตุศึกสงคราม หรือฝังหนีการโจรกรรม ปล้นชิง หรืออาจจะฝังด้วยเพราะว่าเล็งเห็นอนาคต ก็น่าคิดเหมือนกันว่า คนโบราณท่านที่ฝังสมบัติไว้เหล่านั้น ท่านฝังไว้ทำไมหนอ ฝังแล้วท่านก็มิได้อยู่ตลอดกาลนาน เพื่อจะได้ใช้สอยตลอดเลย หากแต่ล้มหายตายจากไปเสีย ตายไปก็ไม่แน่ว่าจะได้ใช้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ก็เป็นทรัพย์ในดิน เป็นสินในน้ำโดยแท้คนที่ฝังไว้ไม่ได้ใช้สักราย แต่ถ้าหากมองกลับกันละครับ ท่านไม่ได้ฝังไว้เพื่อตัวท่านเอง ท่านไม่ได้ฝังไว้เผื่อใช้ขณะอยู่ในปรโลก แต่ว่า ท่านได้ฝังไว้ให้ลูกให้หลาน ให้ผู้มีบุญ มีวาสนาได้พบได้เจอ จะได้นำสิ่งที่ท่านฝังไว้เหล่านี้ให้เกิดประโยชน์ยังไงล่ะ

    และทางศาสนบุคคล คือผู้ที่สืบทอดพระศาสนา อย่างพระสงฆ์องค์เจ้าสมัยก่อนๆ ที่มีวิชา มีความรู้ ที่ได้สร้างศาสนสมบัติไว้ในอดีต ท่านก็คงเล็งเห็นอนาคตว่า สิ่งที่ท่านได้สร้างได้ทำเหล่านั้น อาจจะไม่คงทนถาวรหากขาดการดูแลรักษาจากคนรุ่นต่อๆ มา ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นจริงดั่งท่านคิด สิ่งก่อสร้างหรือศาสนสมบัติต่างๆ มิได้คงทนต่ออนิจกรรม หากเป็นทุกขังที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาจริงๆ หากไม่มีการบูรณะซ่อมแซม สิ่งเหล่านี้จากคนรุ่นต่อๆ มา ก็ไม่แน่ว่าเราจะมีบุญได้เห็นความอลังการ ความสวยงามของสิ่งเหล่านี้หรอกหรือ แต่จะบูรณะปฏิสังขรณ์ หรือบำรุงรักษาอย่างไรล่ะ ถ้าหากไม่มีกำลังทรัพย์ หรือ สิ่งของจำเป็นในการดำเนินการ

    ด้วยเหตุนี้อย่างไรล่ะ จึงเป็นเรื่องที่น่าทึ่งกับความชาญฉลาดคนโบราณ ที่มีการฝังสิ่งต่างๆ เหล่านั้น อย่างทางวัดในพระพุทธศาสนา หากจะสร้างโบสถ วิหาร เจดีย์ หรือถาวรวัตถุต่างๆ ก็มีการบรรจุพระเครื่อง พระบูชา ต่างๆ ไว้ หรือด้วยการฝังไว้กับดิน ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของวัด ก็คงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังๆ จะได้นำไปเป็นกำลังในการบูรณะ รักษาศาสนสถานนั้นไว้ให้ได้นานเท่านานนั่นเอง


    รายการนี้สอบถามทาง PM ดีกว่าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1187.jpg
      IMG_1187.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      42
    • IMG_1188.jpg
      IMG_1188.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      37
    • IMG_1189.jpg
      IMG_1189.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      35
    • IMG_1190.jpg
      IMG_1190.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      27
    • IMG_1191.jpg
      IMG_1191.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      31
    • IMG_1192.jpg
      IMG_1192.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.7 MB
      เปิดดู:
      35
    • IMG_1193.jpg
      IMG_1193.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      27
    • IMG_1455.jpg
      IMG_1455.jpg
      ขนาดไฟล์:
      376.1 KB
      เปิดดู:
      43
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2013
  7. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ​


    พระขุนแผนรุ่น แรก เนื้อผงล้วน หลวงพ่อตั้งใจสร้างอย่างดีที่สุด ด้วยการลบผงถมผงเองตามตำราหลวงพ่อกวย ที่ได้เล่าเรียนมา จนกระดานชนวนทะลุ มีผงขุนแผนชมตลาด ผงขุนแผนส่องกระจก ผงหัวเชื้อนางอกแตก ผงนะเมตตา 500 ชาติ ผงนะมหาเสน่ห์ 500 ชาติ ดินลูกตามแม่ ผงนางล้อม ผงเมตตาชั้นสูงตามตำราโบราณที่แรงและเร็วตามสูตรครบถ้วน ผสมกับผงพระเก่า รวมถึงผงพระหลวงพ่อกวย และหลวงพ่อเชื้อ ที่ท่านรวบรวมไว้แต่เก่าก่อน พระขุนแผนท่านขลังและศักดิ์สิทธิ์มาก เทียบเท่าพระขุนแผนรุ่นเก่าได้เลย เรียกว่าใครใช้ก็เห็นผล บางคนมีครอบครัวแล้ว ขอในเรื่องการทำมาหากิน ให้ค้าขายร่ำรวย มีลูกค้ามากๆ มีกำไรมากๆ ก็ได้ผลสำเร็จตามนั้น

    คนข้าง วัดมีอายุแล้วเขาเรียกคำนำหน้าว่า "ลุง" มีอาชีพหาพระตามบ้าน เกิดไปชอบใจหลานสาวเถ้าแก่น้อยที่ชอบเล่นพระเก่า เพราะเข้าออกบ้านนี้บ่อยๆ เถ้าแก่น้อยก็รู้แกวว่าตาลุงจะมีตีท้ายครัว กีดกันสุดฤทธิ์ ตาลุงนี่ก็ไม่ละความพยายาม ได้มากราบหลวงพ่อเกาะ เพียรขอพระขุนแผนของท่านมาบูชา ท่านเสียไม่ได้เพราะรำคาญจึงให้มา 1 องค์ บอกว่าได้แล้วไม่รับเลี้ยงให้มีอันเป็นไป แต่ถ้ารับเลี้ยงเขา ก็ขออวยพรให้อยู่กันยืนยาว ตาลุงพอได้พระแล้วก็อาราธนาเป็นอย่างดี หลานสาวเถ้าแก่น้อยเดินมาทักทายบอกว่า จะขอพระลุงสักองค์หนึ่งซิ หนูไม่มีพระแขวนคอเลย ลุงขายพระแกดีใจที่สาวรุ่นทักแกก่อน แต่น้อยใจว่าทักทั้งทีทำไมเรียกลุง จึงบอกว่าถ้าเรียกพี่จะให้พระฟรี แถมเลี้ยงข้าวอีกต่างหาก ถ้าเรียกลุงก็บ้านใครบ้านมัน ผลคือสาวน้อยยอมเรียกพี่ งานนี้สาวเจ้าได้ทั้งพี่ชายคนใหม่ ได้ทั้งพระฟรี แถมได้กินข้าวฟรีอีกด้วย ส่วนลุงคนหาพระก็ได้สิ่งที่ต้องการเช่นกัน

    ที่ จริงพระขุนแผนรุ่นแรกนี้ หลวงพ่อทำเก็บไว้นานแล้ว เสกอัดไว้หลายปี ถามว่าทำไมไม่เอาออกให้มาเช่าบูชา ท่านตอบว่าท่านไม่มั่นใจว่าคนเอาไปใช้จะมีศีลธรรมหรือไม่ เมื่อท่านอธิษฐานให้พระขุนแผนรุ่นแรกรุ่นแรงนี้ ตกไปอยู่ในมือคนดี มีศีลธรรมได้ครบทุกองค์แล้ว จึงได้นำออกให้เช่าบูชา ถามว่าทำไมรู้ว่าเป็นของแรงและเห็นผลเร็วจึงยังสร้างอีก ตอบว่า ท่านไม่อยากให้วิชาสูญหายไป สร้างเพื่อยืนยันว่า ของดี ของแรงทางเมตตามหาเสน่ห์อย่างสุด ตามโบราณสอนนั้นทำได้จริง

    จัดสร้างพิมพ์กรรมการมีทั้งฝังตะกรุด และพิมพ์ไม่ฝังตะกรุด

    รายการนี้สอบถามทาง PM ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1221.jpg
      IMG_1221.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      40
    • IMG_1222.jpg
      IMG_1222.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      37
  8. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระกริ่งต่างๆครับ


    พระกริ่งพระพุทธเจดีย์โกไสย์ รุ่น 1 เนื้อสามกษัตริย์

    พระกริ่งสิงห์ 1 รุ่นรวมพลคนเกิดปีขาล (พี่sriharaj_wit ปิดรายการพระกริ่งสิงห์ครับ)

    พระเจ้าทันใจ รุ่นฉลองพระอารามหลวง​


    พระกริ่ง : ที่มาและพุทธคุณ

    พระกริ่งถือเป็นของสูงมาตั้งแต่โบราณ การสร้างและการมีไว้บูชา
    ต้องเป็นไปเพื่อความสูงส่งของผู้สร้างและผู้ครอบครอง พระกริ่งที่มีอยู่ใน
    โลกนี้ได้รูปแบบศิลปะมาจากธิเบตและจีนเป็นส่วนใหญ่ แล้วได้แพร่หลาย
    มาสู่เขมรและสยามประเทศในเวลาต่อมา คติความเชื่อมีรากฐานมาจาก
    พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่เชื่อว่า พระพุทธเจ้ามี ๓ พระภาค อันได้แก่
    ๑. พระศรีศากยะมุนี หรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่
    เบื้องกลาง
    ๒. พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่เบื้องตะวันออก
    ๓. พระอมิตตภะพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่เบื้องตะวันตก

    พระไภษัชคุรุพุทธเจ้านี้เองเป็นที่มาของพระกริ่ง ชื่อของพระองค์
    แปลว่า พระพุทธเจ้าที่เป็นครูด้านยาอายุวัฒนะ รักษาโรคภัย ไข้เจ็บ
    พระองค์เป็นที่นิยมนับถือของพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายานเป็นอย่างสูงยิ่ง
    เพราะมีพระสูตรบรรยายไว้ว่า ในคราที่ยังเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงตั้งมหาปณิธานไว้ ๑๒ ประการ เพื่อโปรดสรรพสัตว์ให้บรรลุถึงความต้องการ ในยามที่พระองค์ทรงสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้
    ๑. ให้มีกายที่ผ่องใส
    ๒. ให้พ้นจากอบายคติ
    ๓. ให้ได้รับโภคสมบัตินานาประการ พ้นจากความจน
    ๔. ขอให้มีสัมมาทิฐิ
    ๕. ขอให้ศีลไม่วิบัติ
    ๖. ขอให้พ้นจากกายไม่สมบูรณ์
    ๗. ขอให้ความเจ็บป่วยจงปราศไปสิ้น มีบ้านเรือนพรั่งพร้อมด้วยธนสารสมบัติและมีญาติมิตรที่ดี
    ๘. ขอให้สตรีเพศที่เบื่อหน่ายต่อเพศแห่งตนสามารถเปลี่ยนเป็นเพศชายได้ตามปรารถนา
    ๙. ขอให้หลุดพ้นจากข่ายแห่งมาร และเหล่ามิจฉาทิฐิทั้งปวง
    ๑๐. ขอให้พ้นจากอาญา ทัณฑกรรม คดีความ และการคุมขังใดๆ ตลอดจนการถูกข่มเหงรังแกเหยียดหยาม
    ๑๑. ขอให้พ้นจากความหิวกระหาย อดอยากอาหาร ขาดซึ่งเครื่องอุปโภคบริโภคอันปราณีตและให้มีความอิ่มหนำสำราญ ได้รับธรรมรสและมีความสุขในเบื้องปลาย
    ๑๒. ขอให้บริบูรณ์ด้วยอาภรณ์นุ่งห่ม เครื่องประดับ และเครื่องบำรุงความสุขต่างๆ

    สำหรับพระกริ่งของไทยนั้นถือว่า “พระกริ่งปวเรศวัดบวรฯ” เป็นพระกริ่งที่ถูกสร้างเป็นครั้งแรกโดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรฯ สร้างขึ้นเพื่อประทานแก่เจ้านายในวังที่คุ้นเคย หรือที่ท่านเคยเป็นพระครูอุปัชฌาย์ให้ โดยสร้างจากตำราที่ตกทอดจากสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว สมัยอยุธยา พระกริ่งปวเรศในปัจจุบันถือเป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องเนื้อโลหะที่มีราคาเช่าบูชาสูงที่สุด ส่วนพระเครื่องเนื้อผงได้แก่ พระสมเด็จวัดระฆังฯ

    ความเชื่อด้านพุทธคุณของพระกริ่ง พุทธศาสนาฝ่ายมหายานเชื่อว่าเมื่อได้บูชา หรือรำลึกนึกถึงจะประสบความสำเร็จได้ดั่งใจหวัง ๑๒ ประการ

    ส่วนความเชื่อของไทยเชื่อว่ามีพุทธคุณด้านการรักษาโรค หรือคุ้มครองให้ผู้บูชามีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรงปราศจากโรคภัยมาเบียดเบียน นอกจากนั้นพระกริ่งยังมีพุทธคุณด้านให้ลาภสมบัติ หรืออวยทรัพย์สินเงินทอง และให้สรรเสริญสมบัติหรืออวยชื่อเสียงเกียรติคุณ รวมทั้งป้องกันภยันตรายต่างๆ

    รายการทั้งสอง เหลือ

    พระกริ่งพระพุทธเจดีย์โกไสย์ รุ่น 1 เนื้อสามกษัตริย์

    พระเจ้าทันใจ รุ่นฉลองพระอารามหลวง

    แบ่งให้บูชาครับ องค์ละ 700 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1223.jpg
      IMG_1223.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_1224.jpg
      IMG_1224.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      29
    • IMG_1227.jpg
      IMG_1227.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.7 MB
      เปิดดู:
      38
    • IMG_1228.jpg
      IMG_1228.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      21
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2013
  9. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    สอบถามได้ครับ คุยกันหลังไมค์ได้ ขอบคุณครับ
     
  10. somharnwong

    somharnwong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +196
    มีพระมาให้ชมกันอีกแล้วนะครับ
     
  11. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ขอบคุณครับที่แวะมาชม
     
  12. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    EJ 9611 2379 3 TH คุณนิธิดล ลาดพร้าว กรุงเทพฯ

    EJ 9611 2380 2 TH คุณชาญวิทย์ ดุสิต กรุงเทพฯ

    ส่งพระเรียบร้อยแล้วครับ
     
  13. bamee888

    bamee888 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +238
    โอนเงินให้แล้วนะครับ ขอบคุณมากสำหรับ การแบ่งปันของดีๆครับ ^^
     
  14. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    รับทราบครับ พรุ่งนี้จะจัดส่งให้คุณหมี่นะคับ
     
  15. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    เหรียญพัดยศ โบราณย้อนยุค
    เนื้อระฆังชุบเงินโบราณ


    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ( 27 มีนาคม พ.ศ. 2430 – 5 มีนาคม พ.ศ. 2524) ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาส วัดประดู่ฉิมพลี เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หรือ จังหวัดธนบุรี ในอดีต เป็นพระคณาจารย์ที่รู้จักกันดี ด้วยวัตรอันปฏิบัติอันงดงามเป็นที่เคราพศรัทธาของชาวพุทธทุกชนชั้น ท่านถึงพร้อมด้วยบุญบารมีและอิทธิบารมี พระเครื่องของท่านมีปาฏิหาริย์ศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์เล่าขานมากมายจกเหนือจดใต้ทั่วประเทศไทย จนกลายเป็นพระหลักยอดนิยมของเมืองไทย [1] ท่านได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีเมื่อ(วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2456 - 5 มีนาคม พ.ศ. 2524) จนกระทั่งมรณภาพ รวมระยะเวลานานถึง 68 ปี ขณะนี้ พระครูวิโรจน์กิตติคุณ รักษาการเจ้าอาวาสมาจนถึงปัจจุบัน
    หลวงปู่โต๊ะ
    ประวัติหลวงปู่โต๊ะ พระราชสังวราภิมณฑ์ (โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ)

    พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือ ที่ชาวบ้านเรียกกันในนามที่รู้จักกันว่า หลวงปู่โต๊ะ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2430 ในแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นบุตรของนายลแย และนางทับ รัตนคอน มีพี่น้องอยู่ร่วมกัน 2 คน ซึ่งถึงแก่กรรมก่อนหลวงปู่ตั้งนานแล้ว ในวัยเด็ก เด็กชายโต๊ะ ได้เข้าเรียนวิชาอยู่ที่วัดเกาะแก้ว ใกล้บ้านเกิดของท่าน เมื่อมารดาถึงแก่กรรม พระภิกษุแก้ว เห็นความขยันหมั่นเพียรของเด็กชายโต๊ะ จึงได้พาเด็กชายโต๊ะ มาฝากอยู่กับพระอธิการสุข เจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีในสมัยนั้น ส่วนนายเฉื่อยก็ไม่ได้ตามมาด้วย คงอยู่ที่วัดเกาะแก้วเหมือนเดิม ท่านได้มาเรียนหนังสืออยู่ที่วัดประดู่ฉิมพลีอยู่เป็นเวลาอยู่ 4 ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 17 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยมีพระอธิการสุขเป็นอุปัชฌาย์ บรรพชาได้วันเดียวพระอธิการสุข ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์และผู้อุปการะของท่านก็ได้มรณภาพ นายคล้าย นางพันธ์ ซึ่งเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ของพระอธิการสุข และมีบ้านอยู่ใกล้วัดประดู่ฉิมพลีจึงได้อุปาการะท่านต่อมา เมื่อบรรพชาแล้ว ท่านก็มาเรียนศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่ วัดประดู่ฉิมพลี
    ซึ่งต่อมามีพระอธิการคำ เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา พร้อมทั้งเรียนกรรมฐานกับพระอาจารย์พรหม วัดประดู่ฉิมพลีอีกท่านหนึ่งด้วย จนกระทั่งเมื่อมีอายุได้ 20 ปี สามเณรโต๊ะ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 ณ พัทธสีมา วัดประดู่ฉิมพลี โดยมีพระครูสมณธรรมสมาทาน (แสง) วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอักขรานุสิต (ผ่อง) วัดนวลนรดิศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูธรรมวิรัต (เชย) วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า อินทสุวัณโณ หลงจากนั้น ท่านได้เรียนศึกษาปฏิบัติคันทธุระ วิปัสสนาธุระ หลวงปู่โต๊ะ ท่านเป็นคนมีความเพียรพยายาม จนกระทั่งสอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาพระอธิการคำ ได้มรณภาพลง ทางคณะสงฆ์จึงได้แต่งตั้งท่านให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีสืบต่อมาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2456
    ออกธุดงค์

    ต่อมาหลวงปู่โต๊ะ ได้ออกธุดงค์จาริกไปทั้วทุกภาคในประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ท่านได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรม โดยได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ เรียนวิชาพุทธาคม และได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน และก็ได้ธุดงค์ไปยังภาคเหนือเพื่อศึกษาวิชากับพระอาจารย์อีกหลายท่าน และในขณะที่ท่านเดินธุดงค์ ท่านก็ได้เรียนวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงพ่อชุ่ม วัดราชสิทธาราม ส่วนสหธรรมิกของท่านที่มีชื่อเสียงได้แก่ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อกล้าย วัดหงส์รัตนาราม และต่อจากนั้น ท่านก็เดินทางไปยังภาคใต้ ไปที่จังหวัดปัตตานี และเมื่อหลวงปู่ท่านกลับมาที่ จังหวัดธนบุรี กลับมายังวัดประดู่ฉิมพลี ท่านก็ได้สร้างพระพุทธบาทจำลอง
    ปฏิปทาและจริยาวัตร

    หลวงปู่โต๊ะ ท่านเป็นคนที่มีศีลวัตรปฏิบัติอันงดงาม มีกริยามารยาทที่งดงาม มีความสุภาพอ่อนโยน มีความเมตตากรุณาต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้ และท่านได้เคยเจอเกี่ยวกับโรคระบาด หลวงปู่ท่านเห็นคนหลายคนไม่สบาย ท่านก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะท่านเองก็เป็นโรคนี้ด้วยเหมือนกัน ท่านจึงตั้งจิตว่า หากท่านยังมีชีวิตอยู่ ขอให้ท่านจงหายจากโรคนี้ แต่ถ้า ท่านหมดบุญแล้ว ก็ขอให้ตายซะ ในตอนกลางคืน ท่านได้นิมิตว่า หลวงพ่อบ้านแหลมได้นำน้ำพระพุทธมนต์มาเจริญให้ ตื่นมาท่านก็มาเจริญน้ำพระพุทธมนต์ และสุดท้ายท่านก็หายจากโรคนี้
    เบื้องปลายชีวิต

    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านได้เริ่มอาพาธด้วยโรคชรา เนื่องจากว่า ตั้งแต่ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ มีผู้คนมานิมนต์ท่านให้ออกมาให้พร หรือ ขอความช่วยเหลือ ท่านจึงไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน สุขภาพท่านจึงไม่ค่อยแข็งแรง แต่ยังพอฉันอระไรได้มาก แม้จะรักษาอย่างดีเท่าใด แต่สุขภาพ กายสังขารของท่านก็ไม่อาจจะทนไหว ท่านได้อาพาธครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 และก่อนมรณภาพได้เพียง 7 วัน ท่านลุกจากเตียงไม่ได้เลย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2524 คณะลูกศิษย์ทีเป็นพยาบาล ได้มาถวายรังนกอีก แต่คราวนี้สังเกตได้ว่า แขนของท่าน บวม ท่านอยู่ได้จนกระทั่งเมื่อเวลา 9:55 น. ท่านได้ถึงแก่มรณภาพลงด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุได้ 93 ปี 73 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดให้เชิญศพไปตั้งที่ศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตร พระราชทานเกียรติยศศพเป็นพิเศษ เสมอพระราชาคณะชั้นธรรม พระราชทานโกศโถบรรจุศพ พร้อมฉัตรเบญจาเครื่องประกอบเกียรติยศครบทุกประการ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่การศพโดยตลอด เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน 50 วัน 100 วัน และตามโอกาสอันควรหลายวาระ

    รายการนี้เปิดที่ 1,800 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1303.jpg
      IMG_1303.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      34
    • IMG_1304.jpg
      IMG_1304.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      31
    • IMG_1305.jpg
      IMG_1305.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      33
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2013
  16. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระสีวลี ลอยองค์ปางจกบาตร
    ใต้ฐานอุดพระธาตุ

    วัดเขาแก้วชัยมงคล ​


    เคล็ดการบูชาพระสีวลี

    พระสีวลีเป็นพระเถระ ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็นพระอรหันต์ที่เลิศทางลาภสักการะมาก หากผู้ใดมีพระสีวลีไว้บูชา ประจำบ้านเรือน จะนำโชคมหาลาภ มาสู่ท่านผู้บูชา ในธุรกิจ การค้า หรือเคหาสน์สถานบ้านเรือน หากได้บูชาพระสีวลีแล้วจะสำเร็จดังปรารถนาแน่นอน

    สำหรับการบูชาพระสีวลีมีดังนี้

    ในการบูชาพระสีวลีนั้น ให้บูชาด้วยดอกบัว ๕หรือ ๙ ดอก หรือใช้พวงมาลัยที่เป็น ดอกมะลิ ดาวเรือง ใช้ธุปหอม หรือกำยานสามเม็ดก็ได้เป็นกลิ่นหอมเย็นๆๆ อย่าใช้ธุปหอมสีดำเป็นอันขาดเพราะพระสีวลีเป็นพระอรหันต์ไม่ใช่เทวดา ครับ ธูปแขกสีดำไว้บูชาเทวดา เมื่อจะบูชาให้เอาพวงมาลัยถวายใส่พานถวายหน้ารูปเคารพแทนองค์พระสีวลี หรือ เอาดอกบัว ๕หรือ๙ ดอกใส่แจกัน จะมีเทียนหรือไม่ก็ได้ จุดธูป สามดอก แล้วตั้ง นโมสามจบ กล่าวคำบูชาพระสีวลีด้วยพระคาถานี้
    นโมสามจบ
    สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

    สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

    สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ
    เสร็จแล้วเอาธูปปักที่กระถาง กราบสามที
    และสวดบทนี้เพื่อขอลาภจากองค์พระสีวลี
    คำอธิฐานขอลาภจากพระสีวลี
    (โดยหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง)

    นโม ๓ จบ

    สิวะ ลีมะหา เถรัง วันทามิหัง ( ๓ จบ )

    มะหาสิวะลี เถโร มะหาลาโภ โหติ มะหาสิวะลี เถโร ลาภัง เม เท ถะ(๓จบ)
    เสร็จแล้วอธิษฐานขอเรื่องลาภ เลยโดยตรง ครับแล้วกราบสามที บทนี้เป็นบทหลวงปู่เกษม เขมโก ที่มอบให้หลวงปู่ขวัญ ปวโร ใช้บอกญาติโยมเป็นบทขอลาภพระสีวลีโบราณครับ
    ทางเว็ปพุทธคุณ(buddhakun.com)จึงขอนำมาลงให้อ่านกัน
    อนึ่ง มีเคล็ดว่า ในวันพฤหัสบดี หากสะดวก ควรถวาย น้ำผึ้ง พระสีวลีด้วยโดยจะใส่จอกเล็กถวายท่านในวันพฤหัสบดีหรือหากทุกวันได้ยิ่งดีครับ จะทำให้ท่าน บังเกิดโชคลาภ อย่างเห็นได้ชัด และเป็นเคล็ดเพื่อให้เงินทองไหลมาเทมาในเคหาสน์สถานบ้านเรือน และผู้บูชาด้วยน้ำผึ้งประจำวันพฤหัสบดี จะไม่ตกทุกข์ได้ยากเลยในชีวิต เพราะในอดีต พระสีวลีได้ถวายน้ำผึ้งแก่พระพุทธเจ้ากัสสปะ ด้วยอานิสงส์นี้เองทำให้ท่านได้เป็นพระอรหันต์ที่เลิศในทางมีลาภมากครับ เป็นเคล็ดที่นำมาฝากกันครับ

    ตั้งบูชาที่ 550 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1314.jpg
      IMG_1314.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      27
    • IMG_1315.jpg
      IMG_1315.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      32
    • IMG_1316.jpg
      IMG_1316.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      27
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2013
  17. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    สอบถามได้ครับ ขอบคุณมากๆครับ
     
  18. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    EJ 9611 4042 5 TH คุณอาทร รามอินทรา กรุงเทพฯ

    ขอบคุณคุณหมี่มากๆครับ
     
  19. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปลัดหัวชะมด หากินเก่งเช้าัยันค่ำ

    วัดเขาแก้วชัยมงคล


    เครื่องรางค้าขายอันดับหนึ่ง ทำไมถึงต้องทำเป็นหัวชะมด คำตอบมาจากอุปเทห์สมัยโบราณที่คนสมัยก่อนเห็นตัวชะมดเป็นสัตว์หากินเก่ง หากินคล่อง ไม่มีอด ส่วนใครจะหาคู่ ต้องการคู่ อยากได้คู่ครอง โบราณยังกล่าวอีกว่าชะมดหาคู่ครองเก่ง ฤดูครองรัก จะอยู่เป็นคู่ตลอดไป ไม่ยอมไปไหน

    แต่อย่าเอาอย่างชะมดทั้งหมด ... หมดฤดูแล้ว ตัวเมียเลี้ยงลูกตัวเดียว มันบาปครับมันบาป

    มีเครื่องรางชนิดหนึ่งที่สร้างมาแต่โบราณกาลปัจจุบันไม่พบเห็นบ่อยนัก เครื่องรางชนิดนี้อยู่กับใคร จะมีผลเป็นโดดๆ ขึ้นเหมือนมีตัวเชื่อกันว่าเยี่ยมยุทธทุกอย่าง มหานิยมมหาเสน่ห์เป็นยอด การทำมาหากินคล่องแคล่วว่องไว อุดมสมบูรณ์ การค้าขายดีเดินทางปลอดภัย กันเขี้ยวงา ยาสั่ง อสรพิษดีนักนั่นคือ “ หัวชะมด ” ด้วยความที่ชะมดเป็นสัตว์พิสดารอยู่อย่างเร้นลับเงียบสงบสุขุมรอบคอบ แต่เวลาทำอะไรจะว่องไว ต่อสู้ศัตรู ไม่ถอยหนีชะมดขี้อายแต่ขยายพันธุ์รวดเร็วมีสัญชาตญาณรู้ภัยที่จะมาถึงล่วงหน้าเหมือนมี “ เรด้า ” เสือ,สิงห์,หมาป่ายากที่จะฆ่าชะมดได้ คุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครมีคือเวลาชะมดไปไหนจะปล่อยสารประหลาดทิ้งไว้ตามต้นไม้จอมปลวกโบราณจะเรียกว่า “ ชะมดฝากรัก ” สารนี้มีความแปลกและอัศจรรย์มากเป็นกลิ่นเฉพาะตัว สัตว์อื่นมาเจอ “ ชะมดฝากรัก” หลงงงงวยเดินไปไหนไม่ถูก ทำให้สัตว์หลงป่า พรานหลงทิศกันมานักต่อนักแล้ว แม้แต่ตนเองยังตามเก็บ “ ชะมดฝากรัก ” นี้ไปทำสุดยอดหัวน้ำหอมชั้นเลิศที่มีราคาแพงเป็นหมื่นเป็นแสนมีกรุ่นรุนแรงหอมทวนลมไปทั้งหมู่บ้าน ถ้าอยู่ในห้องแอร์กลิ่นน้ำหอมชะมดฝากรักก็จะกลบกลิ่นอื่นๆ ทั้งหมดข่มจมูกทุกคน

    ชะมดมีความพิเศษแปลกประหลาดโบราณจึงนิยม “ หัวชะมด ” เพื่ออานุภาพทางมหาเสน่ห์มหานิยม พกหัวชะมดจะค้าขายดีพิลึก (คนเก่าแก่รุ่นปู่ย่าเล่าสืบต่อกันมา)
    อ้างอิงจาก ชะมดหลวงพ่อประเทือง

    รายการนี้บูชา่ที่ 800 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1310.jpg
      IMG_1310.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      38
    • IMG_1311.jpg
      IMG_1311.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      34
    • IMG_1312.jpg
      IMG_1312.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      33
    • IMG_1313.jpg
      IMG_1313.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2013
  20. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ตะกรุดเถาวัลย์หลงพันดงสวาท อุดสีผึ้ง ๓ นาม หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง


    ตะกรุดเถาวัลย์หลงพันดงสวาท อุดสีผึ้ง ๓ นาม หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง

    เถาวัลย์ นั้นเป็นศาสตร์ ลึกลับมาแต่โบราณแล้ว เป็นของทนย์สิทธิ์ทีฤทธิ์ ในตัวเอง ตำนาน ของพวกพรานป่าล่าสัตว์จะรู้จัก เถาวัลย์ดี เช่น เดิน ไปเกี่ยวขาไม่ให้ไปบ้าง เดินไปข้ามแล้วหลงป่าเหมือน เมืองลับแลบ้าง เรื่องเถาวัลย์ อาถรรพ์นั้น มีในตำราว่า เถาวัลย์ หลงนั้นแน่นัก แค่พบเจอที่ป่า หักกิ่งมาติดตัว ท่านว่า ใครก็ห้ามไม่ไห้หลงไม่ได้ จนมีคนแต่งกลอนเอาประสบการณ์จริงของคนที่ใช้เถาวัลย์หลงติดตัวมาว่า

    " ว่านเถาวัลย์หลง งวยงงวาบหวาม ใครลอดใครข้าม เกิดความหลงใหล
    ทำซุ้มเยี่ยมยอด คนลอดไปมา เกิดความเมตตา อุรารักใคร่
    เคยพูดโผงผาง กระด้างตีรวน กลับเป็นนุ่มนวล ละมุนละไม
    ที่เคยระแวง กินแหนงแคลงจิต ศัตรูทั่วทิศ เป็นมิตรทันใด
    เปลี่ยนแปลงสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี คนปลูกคนมี เป็นศรีสดใส
    อาคารร้านค้า ใครมาลอดผ่าน ซื้อของจากร้าน ถูกจิตติดใจ
    ต้องหวนมาอีก ค้าปลีกค้าส่ง ฤทธิ์เถาวัลย์หลง เสริมส่งค้าขาย
    ว่านนี้เล่าขาน ตำนานเผยแพร่ ว่าเมืองลับแล มีมากเหลือหลาย
    ชายจึงงวยงง ลุ่มหลงไม่กลับ เกิดเรื่องลี้ลับ อยู่เมืองแม่ม่าย"

    และยิ่งมาเจอเถาวัลย์ หลงดงสำคัญที่ ขึ้นมาแกะกับต้นไทรใหญ่ และข้ามไปแกะดง ต้นสวาท นี่ซิ ไม่ธรรมดาเลย เถาวัลย์หลงสายนี้ อยู่ที่จังหวัด พัทลุง ส่วนลูกสวาทนั้น เป็นไม้มงคลที่คนใต้ว่าใช้ดีทางเมตตามหานิยมมาก เกจิยุคเก่าของสำนักตรรคศิลา เขาอ้อ ยังนำลูกสวาทของดีตามธรรมชาตินี้นำมาลงเลขยันต์ รายไหนรายนั้นพกติดตัว อย่าใด้มองหน้าผู้หญิงไดเลย กลัวผู้หญิงเดินตาม แม้ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ยังนำลูกสวาทนี้มาบรรจุใส่กระดาษสา และอุดด้วนชันโรงให้ศิษย์พกติดตัวเมตตาแรงนัก
    เถาวัลย์หลง ที่ขึ้นมาชนกับต้นสวาท ตำราว่าดียกกำลังสอง โบราณว่า หายาก ข้ามไปร้อยทุ่งก็ไม่พานพบ ยิ่งเถาวัลย์หลงดงที่หลวงปู่บุญ ให้ศิษย์ผู้เป็นพรานป่าไปหามา ยิ่งเป็นของดีที่ สิบปี ร้อยปีก็หาไม่พบ เถาวัลย์หลงนี้ขึ้นไปเหนือยอดสวาท เท่ากับว่าคลุมทั้งต้นทั้งลูกทั้งดอกทั้งใบสวาทหมดทั้งต้น นี้แหละ หลวงปูบุญสั่งให้นำมา ท่านนำมาปลุกเสก และตัดเป็นท่อนๆยาวเท่า 1 องคุลี ถักเชือกลงทอง แบบโบราณ จารย์ยันต์ " กรุณาทมิฬ " แล้วท่านเจอะ หัวท้าย อุดสีผึ้งสามนาม (สีผึ้งสามนาม เป็นสีผึ้งชั้นยอดที่ผสมจากสีผึ้งครูของหลวงปู่คือ สีผึ้ง หลวงพ่อ ทาบวัดกระบกขึ้นผึ้ง สีผึ้งหลวงพ่อ อี๋ วัดสัตหีบ สีผึ้งหลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม) เท่านั้นยังไม่พอท่านได้คลุกเคล้าผงหลวงปู่แก้ว ด้วย
    จำนวนการจัดสร้างเพียง ๑,๐๐๐ ดอกเท่านั้น

    ตะกรุดนี้ปล่อยต่อ 550 ครับ ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1317.jpg
      IMG_1317.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      36
    • IMG_1318.jpg
      IMG_1318.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      27
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...