พระเครื่องวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง(แท้ ดูง่าย)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย อโศ, 8 กุมภาพันธ์ 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 92 ตะกรุดยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

    [​IMG]

    สุดยอดพระเกจิอาจารย์

    หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิชามาจากหลวงพ่อเนียม วัดน้อย และหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน สุดยอดพระเกจิอาจารย์เมืองสุพรรณบุรี ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันอย่างดี เป็นที่เคารพนับถือของชาวอยุธยา และเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระเครื่องที่ท่านสร้างมีหลายพิมพ์ เป็นที่เสาะแสวงหา และมีค่านิยมสูงมีราคาหลักหมื่นยันหลักแสน

    ขั้นตอนการปลุกเสก
    ท่านปลุกเสกด้วยพระคาถาปัจเจกโพธิ์ มีอานุภาพทางโชคลาภและการทำมาค้าขาย ซึ่งท่านเรียนมาจากครูผึ้ง และคาถายันต์เกราะเพชร ที่มีอานุภาพทางปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ

    ยันต์เกราะเพชร
    อานุภาพของยันต์เกราะเพชร โดยตัดมาจากส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม ท่านให้ชื่อว่ายันต์เกราะเพชร ผู้ใดได้บูชายันต์เกราะเพชรโดยถูกต้องตามข้อปฏิบัติแล้ว ยันต์เกราะเพชรจะมีอานุภาพคุ้มครอง ดังนี้
    1. จะไม่ตายโหง
    2. ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด
    3. ไสยศาสตร์ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง
    4. จะไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด


    พุทธคุณ
    ครอบจักรวาล ปกป้องคุ้มครองภัยอันตราย ป้องกันเสนียดจัญไร เสริมบารมี เจริญโภคทรัพย์ ใช้ทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ กันคุณไสย โดยเอาตะกรุดมาอฐิษฐานแช่น้ำดื่มรักษาโรค

    สำคัญที่สุด
    หลวงพ่อปาน ได้สร้างตะกรุดยันต์เกราะเพชร จำนวนสร้างที่มีที่น้อยกว่าพระเครื่อง ทำให้หายากไม่ค่อยพบเห็น แท้ ดูง่าย ขนาดความยาว 3 นิ้ว


    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7


    โทร 0875509271
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2016
  2. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 36 ตะกรุดจันทร์เพ็ญ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ

    <a href="http://picture.in.th/id/c735e45fad7328932a4b324b8b2f6e58" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ij/151125092719.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    ปฐมบท
    หลวงพ่อรุ่ง ติสฺสโร ในช่วงยุคสมัย "สงครามอินโดจีน" วัตถุมงคลของท่านโดดเด่นทางด้านแคล้วคลาดและอยู่ยงคงกระพัน ชาวบ้านและประชาชนในยุคนั้นเคารพนับถือศรัทธาเป็นอย่างมาก จนขนานนามว่า "เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน" วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงของท่านมีหลายชนิด เช่น ตะกรุดชุด 9 ดอก,ตะกรุดโทน,ตะกรุดหน้าผากเสือ,แหวนพิรอด,เสื้อยันต์,รูปถ่าย ฯลฯ วัตถุมงคลที่โด่งดังที่สุด คือ เหรียญรุ่นแรก และผ้ายันต์และตะกรุดจันทร์เพ็ญ


    ตำราการสร้างตะกรุดจันทร์เพ็ญ
    ท่านทำเฉพาะใน วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ที่ตรงกับวันจันทร์เท่านั้น ในเวลาหลายปีจึงจะมีสักครั้ง ในช่วงชีวิตหลวงพ่อรุ่ง สร้างได้ไม่เกินสามครั้ง ซึ่งฤกษ์จันทร์เพ็ญนี้เป็นฤกษ์ที่ให้ความอุดมสมบูรณ์พูนสุข (เต็มบน และเต็มล่าง คือ ทั้งดวงจันทร์เต็มดวงบนฟ้า และน้ำนองเต็มตลิ่งด้านล่าง) ยันต์ที่ใช้ลงนั้น เป็นยันต์ปราสาท ๘ ทิศ ท่านว่ายันต์ตารางปราสาททั้ง ๘ นี้ คือสมมุติแห่งเสมา ๘ ทิศ ภายในตารางลง นะโมพุทธายะ มะอะอุ และด้านบนสุดของปราสาทลงพระนามพระพุทธเจ้าทั้งในอดีตและปัจจุบันรวม ๘ พระองค์ ดังนี้
    ๑) พระปทุมุตตโร
    ๒) พระเรวัตโต
    ๓) พระกัสสโป
    ๔) พระสุมังคะโล
    ๕) พระพุทธสิกขี
    ๖) พระเมธังกะโร
    ๗) พระสากยมุนี
    ๘) พระสรณังกะโร
    พระโบราณคณาจารย์ท่าน นำเอาพระนามของพระพุทธเจ้าทั้งหลายมาผูกเป็นพระคาถา โดยมีพระนามของพระพุทธเจ้าประจำอยู่ทิศต่างๆ เปรียบเสมือนการนำเอาพระพุทธานุภาพมาปกป้องทุกสารทิศและล้อมด้วยพระคาถาที่สำคัญอีกบทหนึ่งชื่อว่า "พระขรรค์เพชรพุทธเจ้า"


    พุทธคุณ
    พระยันต์นี้ใช้ดีมากทางหน้าที่การงาน เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง เมตตามหานิยม ค้าขายดี ตามชื่อยันต์ เรียกได้ว่าลงให้แบบครอบจักรวาล

    สุดยอดแห่งตะกรุด
    ตะกรุดจันทร์เพ็ญ เป็นสุดยอดแห่งวิชาของหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ "เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน" เป็นวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของหลวงพ่อรุ่ง ชั่วชีวิตท่านจะสร้างเพียงแค่ 3 หน เพราะสร้างได้ยากมาก การทำตะกรุดจันทร์เพ็ญตามตำราโบราณนั้น ทำได้เฉพาะในคืนวันจันทร์เพ็ญเท่านั้น เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงสวยที่สุด มีพลังอำนาจมากที่สุด เป็นฤกษ์ยามที่ดีที่สุดเหมาะสมในการทำตะกรุด เพื่อให้เกิดพลานุภาพสุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นฤกษ์เดียวกันกับพระสังฆราช(แพ) สร้างพระกริ่งวัดสุทัศน์ อันโด่งดังทั่วฟ้าเมืองไทย

    ตะกรุดจันทร์เพ็ญนั้นมีจำนวนการสร้างน้อยมากกว่าเหรียญรุ่นแรกราคาหลักแสนของหลวงพ่อรุ่ง เป็นของหายากที่สุดในกระบวนวัตถุมงคลทั้งหมดของท่าน นานจะเจอสักดอก


    สำคัญที่สุด
    ตะกรุดจันทร์เพ็ญดอกนี้ แท้ ดูง่ายมาก ทองแดงเก่าจัด เชือกถักเก่าจนจะเหมือนไม้ไม่มีขุยแบบเชือกถักของตะกรุดเก๊ทั่วไป มีการถักเชือกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของท่าน เก๊คืนเงิน 10 เท่า


    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดจันทร์เพ็ญ
    หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ

    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7


    เบอร์โทร 0875509271
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2016
  3. pkchalerm

    pkchalerm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,026
    ค่าพลัง:
    +3,171
    จองรายการนี้ครับ
     
  4. pkchalerm

    pkchalerm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,026
    ค่าพลัง:
    +3,171
    จองครับ
     
  5. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 93 ลูกอมเนื้อเมฆพัตร์หลวงพ่อเนียม วัดน้อย

    [​IMG]

    บรมครูแห่งเมืองสุพรรณ
    สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุพรรณบุรี เกียรติคุณชื่อเสียงของหลวงพ่อเนี่ยมที่โด่งดังจนเป็นที่กล่าวขาน พระเกจิจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ เช่น หลวงพ่อโหน่ง (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) หลวงพ่อปาน (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น

    ศิษย์สมเด็จโต วัดระฆัง
    หลวงพ่อเนียม ท่านฯได้ไปศึกษาในด้านสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณ วัดระฆัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอภิญญาสูงและมีวิทยาคมแก่กล้า


    รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
    ครั้งหนึ่งมีภิกษุจากวัดสุวรรณภูมิ ๔ รูป ไปหาหลวงพ่อเนียม เพื่อขอฤกษ์ลาสิกขาบท พอเห็นหน้าภิกษุทั้งสี่ ท่านร้องทักขึ้นว่า "จะมาขอฤกษ์ลาสิกขาบทใช่ไหมล่ะ" ภิกษุทั้งสี่ตอบว่าใช่ ท่านให้ฤกษ์ไปสามรูป อีกรูปหนึ่งท่านท้วงว่าอย่าเพิ่งเลย ชะตากำลังไม่ใคร่ดี ท่านไม่ให้ฤกษ์ แต่ภิกษุนั้นหายอมฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม ทนไม่ไหวจีวรร้อนเป็นไฟ ตัดสินใจสึกโดยไม่ฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม เมื่อออกจากวัดกลับมาหาบิดามารดาที่บ้าน ค่ำวันนั้นเองขณะที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่บนบ้าน ปรากฏว่ามีคนร้ายเอาปืนยิงเข้าไปในกลุ่มสนทนา กระสุนถูกศีรษะทิดสึกใหม่คนนั้นตายคาที่

    ผู้มีญาณวิเศษ
    วันหนึ่งหลวงพ่อเนียมเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านจำนวน ๕๐ สำรับ โดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน ครั้นใกล้จะถึงเวลาเพล สำรับที่ขอชาวบ้านทยอยมาสู่วัดครบตามจำนวน แต่ชาวบ้านมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ไม่เห็นมีวี่แววจะ มีใครจะมาจากที่ไหน เสียงกลองเพลดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง พาภิกษุมารวม ๕๐ รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นที่ผิดปกติ หลวงพ่อปาน จึงพูดกับพระที่มาด้วยกันแล้ว
    " เอ เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้ว เจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ ไม่ควรขัดศรัทธา" จึงสั่งให้เรือจอดที่ท่าวัดน้อย พาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมด้วยการถวายเพลแก่อาจารย์วัดบางเหี้ยและ ภิกษุทุกรูป

    .

    คำประกาศิต
    ในงานทำบุญคล้ายวันเกิด ชาวบ้านจัดงานใหญ่โต มีแสดงพระธรรมเทศนาพร้อมด้วยมหรสพสมโภช ร้านค้าตั้งเต็มลานวัด ค่ำวันนั้น เมฆดำทมึนฝนตั้งเค้า พายุพัดตึง ฝนได้ลงเม็ดมาปรอยๆ ร้านค้าขายต่างกุลีกุจอเก็บข้าวของเตรียมหนีฝนกันจ้าละหวั่น วุ่นวายไปทั่วทั้งลานวัด คนที่มาเที่ยวต่างก็หลบฝนเข้าไปในใต้ถุนกุฏิ และที่หอฉันเต็มไปหมด ในขณะที่กำลังอลหม่านกันนั้นเอง หลวงพ่อเนียมเดินลงมาจากุฏิร้องบอกว่า "ไม่ต้องเก็บไม่ต้องเลิก มหรสพเล่นต่อไป ของขายต่อไป ที่นี่ไม่มีฝน ฝนไม่ตกที่นี่ "ท่านเดินไปหยุดที่หน้ากุฏิ มองขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า ดั่งคำประกาศิต ฝนตั้งเค้าและท่าจะตกลงมาอย่างหนักนั้นหาได้ตกลงมาภายในบริเวณวัด แต่เมื่อมองออกไปนอกวัดจะเห็นฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ทั้งตกอยู่นานอักโขอยู่ พองานเลิกทุกคนต้องเดินลุยน้ำขนาดครึ่งหน้าแข้ง

    ถ่ายรูปไม่ติด
    เล่าลือกันว่าการถ่ายรูปหลวงพ่อเนียมถ่ายไม่ติด พระประมาณต้อง การพิสูจน์ความจริง ตามเสียงที่เล่าลือกันจะเป็นจริงเพียงใด จึงไปที่วัดน้อยแล้วนิมนต์พระทั้งวัดมานั่งถ่ายรูปพร้อมด้วยหลวงพ่อเนียม เมื่อเอาฟิล์มไปล้างปรากฏว่าไม่มีรูปหลวงพ่อเนียมอยู่ในกลุ่มนั้นจริงๆ จึง ขอทดลองถ่ายอีกโดยขอให้หลวงพ่อเนียมเดินไปที่โอ่งน้ำมนต์ ถ่ายขณะที่หลวงพ่อกำลังเดินไปและขณะอยู่ที่โอ่งกำลังทำน้ำมนต์ก็ไม่ติดอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

    [​IMG]

    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ของท่านไม่เฉพาะแต่น้ำมนต์ในโอ่งเท่านั้น ที่ท่าวัดของท่านก็ศักดิสิทธิ์เช่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งมีจีนคนหนึ่งชื่อ "โต้ผ่วย" มาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเนียม ท่านบอกเจ๊กโต้ผ่วยให้ไปตักเอาเองซิ อยู่ที่ท่าน้ำ เจ๊กโต้ผ่วยไปตักน้ำมาแล้วเอามาให้ท่านหลวงพ่อบอกให้จุดธูป พอจุดเสร็จท่านบอกกับเจ๊กโต้ผ่วยว่าเสร็จแล้ว เจ๊กโต้ผ่วยมองหน้าหลวงพ่อเนียมเป็นเชิงสงสัย และนึกฉุนตะหงิดๆ ขึ้นมาในใจ อะไรกัน ไม่เห็นหลวงพ่อท่านบริกรรมคาถาเลยแม้แต่คำเดียว จะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไร แต่จะไม่เอาไปก็ไม่ใช้ที่ จึงเอาไปอย่างไม่เต็มใจ เมื่อออกไปนอกวัด เจ๊กโต้ผ่วยรำพึงขึ้นอย่างแค้นใจ จึงคว่ำขวดโหลใบที่ใส่น้ำมนต์ น้ำมนต์ในขวดโหลหาได้ไหลออกมาไม่! บังเอิญพลัดหลุดมือแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำมนต์ในขวดโหลแทนที่จะเป็นน้ำเหลว กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เจ๊กโต้ผ่วยตกใจรีบตาสีตาเหลือกเก็บก้อนน้ำแข็งนั้นใส่ภาชนะอื่นทันที นึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อเนียม ยกภาชนะนั้นขึ้นทูนหัวพร้อมกับกล่าวขออภัยในใจ ที่หมิ่นหลวงพ่อและเอาก้อนน้ำแข็งน้ำมนต์นั้นไปเก็บไว้จนละลาย


    [​IMG][​IMG]

    ลูกอมเนื้อเมฆพัตร์หลวงพ่อเนียม วัดน้อย
    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7



    เบอร์โทร 0875509271
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2016
  6. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 94 ลูกสะกดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย

    [​IMG]

    บรมครูแห่งเมืองสุพรรณ
    สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุพรรณบุรี เกียรติคุณชื่อเสียงของหลวงพ่อเนี่ยมที่โด่งดังจนเป็นที่กล่าวขาน พระเกจิจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ เช่น หลวงพ่อโหน่ง (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) หลวงพ่อปาน (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น

    ศิษย์สมเด็จโต วัดระฆัง
    หลวงพ่อเนียม ท่านฯได้ไปศึกษาในด้านสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณ วัดระฆัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอภิญญาสูงและมีวิทยาคมแก่กล้า


    รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
    ครั้งหนึ่งมีภิกษุจากวัดสุวรรณภูมิ ๔ รูป ไปหาหลวงพ่อเนียม เพื่อขอฤกษ์ลาสิกขาบท พอเห็นหน้าภิกษุทั้งสี่ ท่านร้องทักขึ้นว่า "จะมาขอฤกษ์ลาสิกขาบทใช่ไหมล่ะ" ภิกษุทั้งสี่ตอบว่าใช่ ท่านให้ฤกษ์ไปสามรูป อีกรูปหนึ่งท่านท้วงว่าอย่าเพิ่งเลย ชะตากำลังไม่ใคร่ดี ท่านไม่ให้ฤกษ์ แต่ภิกษุนั้นหายอมฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม ทนไม่ไหวจีวรร้อนเป็นไฟ ตัดสินใจสึกโดยไม่ฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม เมื่อออกจากวัดกลับมาหาบิดามารดาที่บ้าน ค่ำวันนั้นเองขณะที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่บนบ้าน ปรากฏว่ามีคนร้ายเอาปืนยิงเข้าไปในกลุ่มสนทนา กระสุนถูกศีรษะทิดสึกใหม่คนนั้นตายคาที่

    ผู้มีญาณวิเศษ
    วันหนึ่งหลวงพ่อเนียมเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านจำนวน ๕๐ สำรับ โดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน ครั้นใกล้จะถึงเวลาเพล สำรับที่ขอชาวบ้านทยอยมาสู่วัดครบตามจำนวน แต่ชาวบ้านมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ไม่เห็นมีวี่แววจะ มีใครจะมาจากที่ไหน เสียงกลองเพลดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง พาภิกษุมารวม ๕๐ รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นที่ผิดปกติ หลวงพ่อปาน จึงพูดกับพระที่มาด้วยกันแล้ว
    " เอ เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้ว เจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ ไม่ควรขัดศรัทธา" จึงสั่งให้เรือจอดที่ท่าวัดน้อย พาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมด้วยการถวายเพลแก่อาจารย์วัดบางเหี้ยและ ภิกษุทุกรูป

    .

    คำประกาศิต
    ในงานทำบุญคล้ายวันเกิด ชาวบ้านจัดงานใหญ่โต มีแสดงพระธรรมเทศนาพร้อมด้วยมหรสพสมโภช ร้านค้าตั้งเต็มลานวัด ค่ำวันนั้น เมฆดำทมึนฝนตั้งเค้า พายุพัดตึง ฝนได้ลงเม็ดมาปรอยๆ ร้านค้าขายต่างกุลีกุจอเก็บข้าวของเตรียมหนีฝนกันจ้าละหวั่น วุ่นวายไปทั่วทั้งลานวัด คนที่มาเที่ยวต่างก็หลบฝนเข้าไปในใต้ถุนกุฏิ และที่หอฉันเต็มไปหมด ในขณะที่กำลังอลหม่านกันนั้นเอง หลวงพ่อเนียมเดินลงมาจากุฏิร้องบอกว่า "ไม่ต้องเก็บไม่ต้องเลิก มหรสพเล่นต่อไป ของขายต่อไป ที่นี่ไม่มีฝน ฝนไม่ตกที่นี่ "ท่านเดินไปหยุดที่หน้ากุฏิ มองขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า ดั่งคำประกาศิต ฝนตั้งเค้าและท่าจะตกลงมาอย่างหนักนั้นหาได้ตกลงมาภายในบริเวณวัด แต่เมื่อมองออกไปนอกวัดจะเห็นฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ทั้งตกอยู่นานอักโขอยู่ พองานเลิกทุกคนต้องเดินลุยน้ำขนาดครึ่งหน้าแข้ง

    ถ่ายรูปไม่ติด
    เล่าลือกันว่าการถ่ายรูปหลวงพ่อเนียมถ่ายไม่ติด พระประมาณต้อง การพิสูจน์ความจริง ตามเสียงที่เล่าลือกันจะเป็นจริงเพียงใด จึงไปที่วัดน้อยแล้วนิมนต์พระทั้งวัดมานั่งถ่ายรูปพร้อมด้วยหลวงพ่อเนียม เมื่อเอาฟิล์มไปล้างปรากฏว่าไม่มีรูปหลวงพ่อเนียมอยู่ในกลุ่มนั้นจริงๆ จึง ขอทดลองถ่ายอีกโดยขอให้หลวงพ่อเนียมเดินไปที่โอ่งน้ำมนต์ ถ่ายขณะที่หลวงพ่อกำลังเดินไปและขณะอยู่ที่โอ่งกำลังทำน้ำมนต์ก็ไม่ติดอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

    [​IMG]

    ท่าน้ำศักดิสิทธิ์
    ปัจจุบัน แม่น้ำที่ไหลผ่านวัดน้อย ทางวัดได้สร้างแพให้ลงไปเป็นที่ตักดื่มน้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ ตามอมตะวาจาของหลวงพ่อเนียมบรมครูเฒ่าพระอาจารย์ใหญ่ผู้ศักดิสิทธิ์ทรงอิทธิปาฏิหารย์ แม้วันเวลาจะล่วงเลยผ่านมาเป็นร้อยปี แต่ความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้


    [​IMG][​IMG]

    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ของท่านไม่เฉพาะแต่น้ำมนต์ในโอ่งเท่านั้น ที่ท่าวัดของท่านก็ศักดิสิทธิ์เช่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งมีจีนคนหนึ่งชื่อ "โต้ผ่วย" มาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเนียม ท่านบอกเจ๊กโต้ผ่วยให้ไปตักเอาเองซิ อยู่ที่ท่าน้ำ เจ๊กโต้ผ่วยไปตักน้ำมาแล้วเอามาให้ท่านหลวงพ่อบอกให้จุดธูป พอจุดเสร็จท่านบอกกับเจ๊กโต้ผ่วยว่าเสร็จแล้ว เจ๊กโต้ผ่วยมองหน้าหลวงพ่อเนียมเป็นเชิงสงสัย และนึกฉุนตะหงิดๆ ขึ้นมาในใจ อะไรกัน ไม่เห็นหลวงพ่อท่านบริกรรมคาถาเลยแม้แต่คำเดียว จะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไร แต่จะไม่เอาไปก็ไม่ใช้ที่ จึงเอาไปอย่างไม่เต็มใจ เมื่อออกไปนอกวัด เจ๊กโต้ผ่วยรำพึงขึ้นอย่างแค้นใจ จึงคว่ำขวดโหลใบที่ใส่น้ำมนต์ น้ำมนต์ในขวดโหลหาได้ไหลออกมาไม่! บังเอิญพลัดหลุดมือแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำมนต์ในขวดโหลแทนที่จะเป็นน้ำเหลว กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เจ๊กโต้ผ่วยตกใจรีบตาสีตาเหลือกเก็บก้อนน้ำแข็งนั้นใส่ภาชนะอื่นทันที นึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อเนียม ยกภาชนะนั้นขึ้นทูนหัวพร้อมกับกล่าวขออภัยในใจ ที่หมิ่นหลวงพ่อและเอาก้อนน้ำแข็งน้ำมนต์นั้นไปเก็บไว้จนละลาย


    ขั้นตอนวิธีการสร้าง
    การสร้างลูกสะกดตามตำราโบราณาจารย์นั้นทำได้ยาก กรรมวิธีมีหลายขั้นตอน ดังต่อไปนี้
    1. นำตะกั่วน้ำนมมาหลอมจนละลายเทลงไปบนถาดโลหะ เพื่อให้แผ่เป็นแผ่นเมื่อโลหะเย็นลงแล้วก็แกะออกมา
    2. บริกรรมพระคาถาจนจิตเป็นสมาธิแน่วนิ่ง เรียกสูตรหัวใจพระคาถาต่างๆ เอาเหล็กจารมาลงอักขระเขียนไปจนเต็มแผ่นหมดด้านหนึ่งแล้วพลิกอีกด้านหนึ่งมาจารจนเต็ม
    3. เอาตะกั่วที่ลงอักขระพระคาถาต่างๆ กลับไปหลอมใหม่เทลงในแบบพิมพ์เดิม เมื่อเย็นก็เอามาลงอักขระอีกครั้งหนึ่งแล้วก็หลอมอีก ทำอย่างนั้นไปจนครบ 9 ครั้ง 9 หน เรียกว่า "ลงถม" วิธีนี้คือ การจารอักขระทับถมไปบนแผ่นโลหะจนครบ 9 ครั้ง ตามที่กำหนดในสูตรการสร้างลูกสะกดในตำราโบราณาจารย์ เมื่อเทลงบนแบบเป็นรูปกลมหรือทรงรูปยาวรี แกะออกมาและตกแต่งผิวให้เรียบร้อย พร้อมเจาะรูตรงกลาง ร้อยเชือกเอาไว้ให้คาดเอวเรียกว่า “ลูกสะกด” หากไม่เจาะรูใช้เป็น "ลูกอม" มีพุทธคุณเท่าเทียมกัน ลูกสะกดหรือลูกอม นอกจากจะทำด้วยตะกั่วแล้วยังทำด้วยการผสมโลหะต่างๆ เช่น เมฆพัตร เมฆสิทธิ์ ฯลฯ แล้วแต่ท่านโบราณาจารย์ผู้ชาญฉลาดจะประดิษฐคิดทำกันขึ้นมา นำเอาวัตถุมงคลหรือวัตถุอาถรรพณ์ต่างๆ ที่นำเอามาเป็นส่วนผสมพร้อมกับลงอักขระเลขยันต์บริกรรมปลุกเสกจนสำเร็จ

    พุทธคุณ
    อานุภาพแห่งลูกสะกดนั้น พระอาจารย์ท่านทั้งหลายได้มุ่งหมายให้ใช้ทางมหาอุดและคงกระพันชาตรี สำเร็จขึ้นจากการหล่อหลอมโลหะด้วยเตโชธาตุ

    คาถาอาราธนาลูกสะกด
    อิติพันธะเกษามะอะอุ พันธะโลมาจะภะกะสะพันธะนักขามะนะนพะทะ พันธะทันตากระมะถะ พันธะตะ โจอิสวาสุ พันธะนังสังจิปีเสดิ พันธนะหะรูหะรูสุวิสังอะ พันธะอัฐิทุสะมะนิ พันธะอัตถิมินชังนะสังสิโม พันธะวักกังปะวะอะปะ ทิมะสังอังขุ นะมะอะอุ นะมามิหัง สิทธิเตชัง สิทธิวาจัง กายะพันธะนัง องคะพันนธะนัง สารพัดสิทธิ ภะวันตุเมฯ

    คาถานี้ให้ตั้งนะโมฯ 3 จบก่อนแล้วยกลูกสะกดขึ้นจดเหนือหน้าผาก จึงค่อยภาวนาพระคาถาให้จบบท สูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วผ่อนออก และเมื่อเวลาจะคาดเข้าเอวให้ภาวนาพระคาถานี้จนกว่าจะผูกเงื่อนเสร็จให้ภาวนาดังนี้ “อิมังกะยะพันธะนังอธิษฐานมินะมะพะทะ”

    เบญจภาคีลูกสะกด
    ลูกสะกดวัดพระแก้ว
    ลูกสะกดหลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม

    ลูกสะกดหลวงปู่เนียม วัดน้อย
    ลูกสะกดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    ลูกสะกดแร่บางไผ่ หลวงปู่จันทร์ วัดใหม่โมลีโลก



    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ลูกสะกดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย
    บูชา 4000 บาท
    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7


    เบอร์โทร 0875509271
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2016
  7. pkchalerm

    pkchalerm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,026
    ค่าพลัง:
    +3,171
    โอนเรียบร้อย2รายการครับ ตะกรุดหลวงพ่อปานกับหลวงพ่อรุ่งครับ
     
  8. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 95 ตะกรุดกระดอนมหาสะท้อน หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ

    <a href="http://picture.in.th/id/c735e45fad7328932a4b324b8b2f6e58" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ij/151125092719.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน
    พระเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังเรืองเวทย์วิทยาคม ประชาชนในยุคนั้น เคารพนับถือศรัทธาท่านเป็นอย่างมากจนเป็นที่เลื่องลือ ด้วยเหตุนี้วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นที่ปราถนาที่ใครๆอยากได้ไว้ในครอบครอง เป็นเจ้าของเพื่อบูชาติดตัว

    เป็นที่เลื่องลือเล่าขานกัน
    หลวงพ่อรุ่ง ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่ได้รับนิมนต์ใน งานพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธชินราชอินโดจีน พศ.๒๔๘๕ แผ่นยันต์ที่หลวงพ่อรุ่งจารอักขระนำไปหลอมโลหะไม่ละลาย ท่านปลุกเสกจน ผ้าคลุมยังกระพรือ...พึบพับ


    พระเกจิอาจารย์แห่งยุค
    ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังเป็นที่เคารพนับถือของเมืองสมุทรสาคร

    วัตถุมงคล
    โดดเด่นในด้านเมตตา แคล้วคลาดและอยู่ยงคงกระพัน เป็นที่เล่าขานกันมาก คือ เหรียญ ผ้ายันต์จันทร์เพ็ญ ผ้าประเจียด ธง เสื้อยันต์ ตระกรุดชุด ตะกรุดโทน รูปถ่าย กระดอนมหาสะท้อน ฯลฯ


    กระดอนมหาสะท้อน
    เป็นวัตุถุมงคลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีอานุภาพปกป้องคุ้มครองภัย ป้องกันการกระทำคุณไสยเสนียดจัญไร มิให้กระทำย่ำยีให้เกิดอันตรายสะท้อนกลับไปยังศัตรูผู้กระทำ ดังคำกล่าวโบราณที่สืบต่อกันมาที่ว่า...

    ท่านสร้างจากไม้กระท้อนที่มีกาฝากขึ้นแก่นไม้กระท้อน โดยเลือกไม้ที่มีชื่ออันเป็นมงคลนาม เช่น พยุง ขนุน คูณ รัก กระท้อน ฯลฯ ลูกสะกดที่ทำจากแก่นกาฝากไม้กระท้อน เรียกกันว่า "ไม้กระดอนสะท้อนกลับ"
    คุณวิเศษของเครื่องรางชนิดนี้นั้นสามารถที่จะปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย คุณไสย์ที่ถูกปล่อยออกมา เสนียดจัญไรและภยันอันตรายไม่ให้เข้ามากล้ำกราย ต่อผู้ที่มีไม้กระดอนสะท้อนนี้ติดกาย


    พุทธคุณ
    มหาอุด หยุดปืน ทั้งแก้คัดทำลายสเนียดจังไร และคุณไสย ลมเพลมพัด ฯลฯ พุทธคุณลูกสะกดมหาสะท้อน ยังสะท้อนสิ่งชั่วร้ายให้สนองกลับไปยังผู้ที่คิดร้ายต่อผู้ที่สวมใส่ไม้กระดอนสะท้อนกลับข ดังคำที่ว่า...



    [​IMG]


    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดกระดอนมหาสะท้อน
    หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ

    บูชา 2500 บาท
    ปิดรายการ
    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7


    เบอร์โทร 0875509271

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2016
  9. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 96 ตะกรุดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย

    [​IMG]

    บรมครูพระอาจารย์ของอาจารย์
    สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุพรรณบุรี เกียรติคุณชื่อเสียงของหลวงพ่อเนี่ยมที่โด่งดังจนเป็นที่กล่าวขาน พระเกจิจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ เช่น หลวงพ่อโหน่ง (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) หลวงพ่อปาน (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น

    ศิษย์สมเด็จโต วัดระฆัง
    หลวงพ่อเนียม ท่านฯได้ไปศึกษาในด้านสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณ วัดระฆัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอภิญญาสูงและมีวิทยาคมแก่กล้า


    รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
    ครั้งหนึ่งมีภิกษุจากวัดสุวรรณภูมิ ๔ รูป ไปหาหลวงพ่อเนียม เพื่อขอฤกษ์ลาสิกขาบท พอเห็นหน้าภิกษุทั้งสี่ ท่านร้องทักขึ้นว่า "จะมาขอฤกษ์ลาสิกขาบทใช่ไหมล่ะ" ภิกษุทั้งสี่ตอบว่าใช่ ท่านให้ฤกษ์ไปสามรูป อีกรูปหนึ่งท่านท้วงว่าอย่าเพิ่งเลย ชะตากำลังไม่ใคร่ดี ท่านไม่ให้ฤกษ์ แต่ภิกษุนั้นหายอมฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม ทนไม่ไหวจีวรร้อนเป็นไฟ ตัดสินใจสึกโดยไม่ฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม เมื่อออกจากวัดกลับมาหาบิดามารดาที่บ้าน ค่ำวันนั้นเองขณะที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่บนบ้าน ปรากฏว่ามีคนร้ายเอาปืนยิงเข้าไปในกลุ่มสนทนา กระสุนถูกศีรษะทิดสึกใหม่คนนั้นตายคาที่

    ผู้มีญาณวิเศษ
    วันหนึ่งหลวงพ่อเนียมเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านจำนวน ๕๐ สำรับ โดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน ครั้นใกล้จะถึงเวลาเพล สำรับที่ขอชาวบ้านทยอยมาสู่วัดครบตามจำนวน แต่ชาวบ้านมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ไม่เห็นมีวี่แววจะ มีใครจะมาจากที่ไหน เสียงกลองเพลดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง พาภิกษุมารวม ๕๐ รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นที่ผิดปกติ หลวงพ่อปาน จึงพูดกับพระที่มาด้วยกันแล้ว
    " เอ เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้ว เจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ ไม่ควรขัดศรัทธา" จึงสั่งให้เรือจอดที่ท่าวัดน้อย พาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมด้วยการถวายเพลแก่อาจารย์วัดบางเหี้ยและ ภิกษุทุกรูป

    .

    คำประกาศิต
    ในงานทำบุญคล้ายวันเกิด ชาวบ้านจัดงานใหญ่โต มีแสดงพระธรรมเทศนาพร้อมด้วยมหรสพสมโภช ร้านค้าตั้งเต็มลานวัด ค่ำวันนั้น เมฆดำทมึนฝนตั้งเค้า พายุพัดตึง ฝนได้ลงเม็ดมาปรอยๆ ร้านค้าขายต่างกุลีกุจอเก็บข้าวของเตรียมหนีฝนกันจ้าละหวั่น วุ่นวายไปทั่วทั้งลานวัด คนที่มาเที่ยวต่างก็หลบฝนเข้าไปในใต้ถุนกุฏิ และที่หอฉันเต็มไปหมด ในขณะที่กำลังอลหม่านกันนั้นเอง หลวงพ่อเนียมเดินลงมาจากุฏิร้องบอกว่า "ไม่ต้องเก็บไม่ต้องเลิก มหรสพเล่นต่อไป ของขายต่อไป ที่นี่ไม่มีฝน ฝนไม่ตกที่นี่ "ท่านเดินไปหยุดที่หน้ากุฏิ มองขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า ดั่งคำประกาศิต ฝนตั้งเค้าและท่าจะตกลงมาอย่างหนักนั้นหาได้ตกลงมาภายในบริเวณวัด แต่เมื่อมองออกไปนอกวัดจะเห็นฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ทั้งตกอยู่นานอักโขอยู่ พองานเลิกทุกคนต้องเดินลุยน้ำขนาดครึ่งหน้าแข้ง

    [​IMG]

    ถ่ายรูปไม่ติด
    เล่าลือกันว่าการถ่ายรูปหลวงพ่อเนียมถ่ายไม่ติด พระประมาณต้อง การพิสูจน์ความจริง ตามเสียงที่เล่าลือกันจะเป็นจริงเพียงใด จึงไปที่วัดน้อยแล้วนิมนต์พระทั้งวัดมานั่งถ่ายรูปพร้อมด้วยหลวงพ่อเนียม เมื่อเอาฟิล์มไปล้างปรากฏว่าไม่มีรูปหลวงพ่อเนียมอยู่ในกลุ่มนั้นจริงๆ จึง ขอทดลองถ่ายอีกโดยขอให้หลวงพ่อเนียมเดินไปที่โอ่งน้ำมนต์ ถ่ายขณะที่หลวงพ่อกำลังเดินไปและขณะอยู่ที่โอ่งกำลังทำน้ำมนต์ก็ไม่ติดอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

    ท่าน้ำศักดิสิทธิ์
    ปัจจุบัน แม่น้ำที่ไหลผ่านวัดน้อย ทางวัดได้สร้างแพให้ลงไปเป็นที่ตักดื่มน้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ ตามอมตะวาจาของหลวงพ่อเนียมบรมครูเฒ่าพระอาจารย์ใหญ่ผู้ศักดิสิทธิ์ทรงอิทธิปาฏิหารย์ แม้วันเวลาจะล่วงเลยผ่านมาเป็นร้อยปี แต่ความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้


    [​IMG][​IMG]

    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ของท่านไม่เฉพาะแต่น้ำมนต์ในโอ่งเท่านั้น ที่ท่าวัดของท่านก็ศักดิสิทธิ์เช่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งมีจีนคนหนึ่งชื่อ "โต้ผ่วย" มาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเนียม ท่านบอกเจ๊กโต้ผ่วยให้ไปตักเอาเองซิ อยู่ที่ท่าน้ำ เจ๊กโต้ผ่วยไปตักน้ำมาแล้วเอามาให้ท่านหลวงพ่อบอกให้จุดธูป พอจุดเสร็จท่านบอกกับเจ๊กโต้ผ่วยว่าเสร็จแล้ว เจ๊กโต้ผ่วยมองหน้าหลวงพ่อเนียมเป็นเชิงสงสัย และนึกฉุนตะหงิดๆ ขึ้นมาในใจ อะไรกัน ไม่เห็นหลวงพ่อท่านบริกรรมคาถาเลยแม้แต่คำเดียว จะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไร แต่จะไม่เอาไปก็ไม่ใช้ที่ จึงเอาไปอย่างไม่เต็มใจ เมื่อออกไปนอกวัด เจ๊กโต้ผ่วยรำพึงขึ้นอย่างแค้นใจ จึงคว่ำขวดโหลใบที่ใส่น้ำมนต์ น้ำมนต์ในขวดโหลหาได้ไหลออกมาไม่! บังเอิญพลัดหลุดมือแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำมนต์ในขวดโหลแทนที่จะเป็นน้ำเหลว กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เจ๊กโต้ผ่วยตกใจรีบตาสีตาเหลือกเก็บก้อนน้ำแข็งนั้นใส่ภาชนะอื่นทันที นึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อเนียม ยกภาชนะนั้นขึ้นทูนหัวพร้อมกับกล่าวขออภัยในใจ ที่หมิ่นหลวงพ่อและเอาก้อนน้ำแข็งน้ำมนต์นั้นไปเก็บไว้จนละลาย



    สำคัญที่สุด
    ตะกรุดหลวงพ่อเนียม เอกลักษณ์ของสำนักนี้ เป็นเนื้อทุบตะกั่วถ้ำชา เก่าจนกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน ไขขึ้น ยาว 3.5นิ้ว เก่าลึก อายุเกิน 100 ปี แท้ ดูง่ายที่สุด

    พุทธคุณ
    เกินบรรยาย สุดยอดแห่งความเหนียว คงกระพันชาตรีเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเมืองไทย ครบเครื่องทั้งเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด ป้องกันสารพัดกันอันตรายต่างๆนานา ฯลฯ

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย
    บูชา 4000 บาท

    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7

    เบอร์โทร 0875509271
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2016
  10. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 97 ตะกรุดยันต์เกราะเพชร(เนื้อเงิน) หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

    [​IMG]

    สุดยอดพระเกจิอาจารย์

    หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิชามาจากหลวงพ่อเนียม วัดน้อย และหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน สุดยอดพระเกจิอาจารย์เมืองสุพรรณบุรี ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันอย่างดี เป็นที่เคารพนับถือของชาวอยุธยา และเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระเครื่องที่ท่านสร้างมีหลายพิมพ์ เป็นที่เสาะแสวงหา และมีค่านิยมสูงมีราคาหลักหมื่นยันหลักแสน

    ขั้นตอนการปลุกเสก
    ท่านปลุกเสกด้วยพระคาถาปัจเจกโพธิ์ มีอานุภาพทางโชคลาภและการทำมาค้าขาย ซึ่งท่านเรียนมาจากครูผึ้ง และคาถายันต์เกราะเพชร ที่มีอานุภาพทางปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ

    ยันต์เกราะเพชร
    อานุภาพของยันต์เกราะเพชร โดยตัดมาจากส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม ท่านให้ชื่อว่ายันต์เกราะเพชร ผู้ใดได้บูชายันต์เกราะเพชรโดยถูกต้องตามข้อปฏิบัติแล้ว ยันต์เกราะเพชรจะมีอานุภาพคุ้มครอง ดังนี้
    1. จะไม่ตายโหง
    2. ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด
    3. ไสยศาสตร์ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง
    4. จะไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด


    พุทธคุณ
    ครอบจักรวาล ปกป้องคุ้มครองภัยอันตราย ป้องกันเสนียดจัญไร เสริมบารมี เจริญโภคทรัพย์ ใช้ทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ กันคุณไสย โดยเอาตะกรุดมาอฐิษฐานแช่น้ำดื่มรักษาโรค

    สำคัญที่สุด
    หลวงพ่อปาน ได้สร้างตะกรุดยันต์เกราะเพชร สร้างไว้ในจำนวนที่น้อยมาก ถ้าเทียบกับพระเครื่องที่มีจำนวนการสร้างมากมายหลายเท่านัก โดยเฉพาะตะกรุดยันต์เกราะเพชร(เนื้อเงิน) ยิ่งหาได้ยากมาก แทบจะไม่มีให้ได้พบเห็น ท่านสร้างแจกเฉพาะศิษย์ใกล้ชิดและคหบดีหรือผู้มีอุปการะคุณแก่วัดเท่านั้น ถ้าเปรียบเทียบจำนวนการสร้างระหว่างตะกรุดยันต์เกราะเพชรเนื้อทองแดงกับเนื้อเงิน ตะกรุดยันต์เกราะเพชร(เนื้อเงิน) มีน้อยกว่าร้อยเท่าตะกรุดยันต์เกราะเพชรเนื้อทองแดงมีร้อยดอก ตะกรุดยันต์เกราะเพชร(เนื้อเงิน)มีแค่เพียงหนึ่งดอกเท่านั้น ใครได้ครอบครองเป็นวาสนาของผู้นั้น

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดยันต์เกราะเพชร(เนื้อเงิน) หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7

    โทร 0875509271
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2016
  11. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 98 ตะกรุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

    [​IMG]

    ปฐมบท
    หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดอีกองค์ของเมืองไทย มีความเชี่ยวชาญและแก่กล้าเวทย์วิทยาคมเยี่ยมยอดที่สุดไม่แพ้ผู้ใด ท่านเป็นพระเถราจารย์บรมครูผู้เป็นที่เคารพยกย่องของสานุศิษย์และประชาชนผู้ที่ศรัทธาทั่วไปมาอย่างยาวนาน


    พระอภิญญาจารย์
    ท่านเป็นพระอภิญญาจารย์ มีญาณวิเศษสามารถรู้วาระจิตได้อย่างมหัศจรรย์ มีนิสัยพูดจริง ทำจริง ใจนักเลง ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น อภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านฯ ชื่อเสียงโด่งดังมาก แม้แต่กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ เสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย กิตติศัพท์ของท่านเลื่องลือขจรขจายไปทั่วทุกภาคจากเหนือจดใต้จากตะวันออกจด ตะวันตกมาเนิ่นนานแล้วตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน


    ถึงแม้หลวงพ่อเงินจะมรณภาพจากไปนานแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในความทรงจำ และศรัทธาของทุกคนเสมอมา ต่างปรารถนาที่จะได้ของวัตถุมงคลของท่านมีไว้ครอบครอง เพราะวัตถุมงคลของท่านทุกๆ อย่าง ถ้าผู้ใดมีไว้คู่กาย จะได้รับแต่ความเจริญรุ่งเรือง เป็นศิริมงคล แคล้วคลาดจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวงฯ แม้แต่ชื่อของท่านก็เป็นมงคลนามอยู่แล้ว

    ตะกรุดหยุดปืน
    นายอุดม คำหมู่ หลานชายของท่านถูกโจรเข้าปล้นบ้าน มันได้ช่วยกันจับตัวนายอุดมเอาไว้และให้บอกที่ซ่อน ด้วยความเสียดายในทรัพย์สินที่อุตส่าห์หามาด้วยความยากลำบาก จึงไม่ยอมบอกที่ซ่อนทรัพย์ ยิ่งไปกว่านั้นยังตะโกนร้องเสียงดังเรียกให้ชาวบ้านมาช่วยเหลือ พวกโจรโมโหโกรธ จึงได้จ่อยิงนายอุดมด้วยปืนยูเอสขนาด 11 มม. หลายนัด กระสุนด้านไม่ดังเลยสักนัดเดียว ทำให้นายอุดมมีกำลังใจหึกเหิมกระโดดเข้าต่อสู้กับพวกโจรเป็นพัลวัล พวกโจรช่วยกันยิงนายอุดม ด้วยปืนหลายกระบอกไม่ออกเช่นนั้น นึกได้ว่านายอุดมจะต้องมีของดีเป็นแน่ จึงได้ช่วยกันจับนายอุดมขึงพืด ล้วงดูที่คอไม่เห็นมีอะไร คว้าดึงตะกรุดโทนที่เอวออก นายอุดมได้ยื้อแย่งได้แค่เพียงสายตะกรุดคืนมาเท่านั้น เมื่อโจรมันได้ตะกรุดไปแล้วก็หันปากกระบอกปืนกลับมายิงอีกหลายนัดก็ยิงไม่ออก เสียงดังแชะๆ ผลสุดท้ายพวกโจรต้องรีบล้าถอยโดยไม่ได้อะไรไปเลย นายอุดม รอดชีวิตมาได้เพราะอิทธิปาฏิหาริย์ในตะกรุดโทนคู่ชีวิตเพียงดอกเดียวเท่านั้น ถึงแม้พวกโจรจะแย่งเอาตะกรุดไปแล้ว เพียงแค่สายเชือกตะกรุดที่อยู่ในมือเพียงนิดเดียวเท่านั้น ก็ยังคุ้มลูกกระสุนได้อย่างมหัศจรรย์


    ตำนานตะกรุดคู่ชีวิต
    เป็นที่เลื่องลือเล่าขานกันมาแต่โบราณ ของตำนานตะกรุดคู่ชีวิต

    "ตราบใดที่ตะกรุดไม่ห่างกาย ชีวามิวอดวายม้อยมรณา"

    นักเลงรุ่นเก่าเมืองพิจิตร จะมีตะกรุดคู่ชีวิตดอกเดียวคู่กาย โดนซ้อมรุมกินโต๊ะ เจอทั้ังมีดและปืนไม่ระคายผิว จับมัดแขนขาผูกปากกระสอบโยนทิ้งแม่น้ำ ในขณะที่อยู่ใต้น้ำระลึกถึงครูบาอาจารย์ ฉับพลันเชือกที่มัดถุงปากกระสอบหลุด ขณะที่ใกล้จะหมดลมหายใจตะกายตัวเองขึ้นจากผิวน้ำ เผอิญจังหวะที่ชาวบ้านหาปลาเห็นเข้า ช่วยชีวิตให้พ้นจากมัจจุราชมาได้

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
    ปิดรายการ


    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2016
  12. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 99 ตะกรุดหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว

    [​IMG]

    ปฐมสบท
    นครปฐมเป็นหนึ่งในไม่กี่จังหวัดที่มีพระเกจิอาจารย์ ตลอดจนพระเถระผู้เปี่ยม
    ไปด้วยคุณอันวิเศษมากมาย หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ท่านเป็นอีกหนึ่งองค์ที่มีคุณอันวิเศษสูงยิ่ง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่บริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยศีล สมาธิและปัญญา เป็นพระผู้บริสุทธิ์หมดสิ้นกิเลสทั้งปวง ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ประกอบด้วยศีลอันบริสุทธิ์ มีข้อวัตรปฎิบัติที่น่าเลื่อมใสศรัทธา เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาธรรม เป็นที่เคารพและศรัทธาอย่างสูงยิ่งต่อทุกคนที่ได้ไปพบกราบนมัสการองค์ท่าน

    ความเป็นมา
    หลวงปู่เพิ่ม ท่านเป็นศิษย์เอกผู้ใกล้ชิดที่หลวงปู่บุญไว้วางใจมากที่สุด ท่านบวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ท่านอยู่รับใช้หลวงปู่บุญมาตลอดจนกระทั่งหลวงปู่บุญมรณภาพ เป็นเวลาถึง 39 ปี ท่านได้รับการสืบทอดสุดยอดวิชาความรู้แขนงต่างๆ มากมาย ตลอดจนพระเวทย์วิทยาคมจากหลวงปู่บุญผู้เป็นพระอาจารย์ของท่านจนหมดสิ้น

    วัตถุมงคลอันเลื่องชื่อ
    ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายชนิดล้วนเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการต่อผู้ที่ปราถนาอยากได้ไว้ในครอบครอง เป็นเจ้าของเพื่อบูชาทั้งสิ้น เช่น พระเครื่องและเหรียญรุ่นต่างๆ ตะกรุดและเบี้ยแก้ ฯลฯ โดยเฉพาะเบี้ยแก้ ท่านได้รับการถ่ายทอดสุดยอดเคล็ดลับวิชาการสร้างเบี๊ยแก้และเม็ดยาจินดามณีจากหลวงปู่บุญผู้เป็นพระอาจารย์ของท่านจนหมดสิ้น

    [​IMG]

    กรรมวิธีการสร้าง
    ท่านได้สร้างตะกรุดขึ้นมาพร้อมกับเบี๊ยแก้ เพื่อมอบให้แก่พระภิกษุสงฆ์ผู้บวชครบ 1 พรรษา เป็นที่ระลึกของสำนักวัดกลางบางแก้ว ดังนั้นเบี๊ยแก้บางอันจะมีตะกรุดติดมาด้วย เบี๊ยแก้บางอันก็ไม่มีตะกรุดติดมา ระหว่างตะกรุดกับเบี๊ยแก้นั้นแยกชิ้นกัน

    ปัจจุบันเบี๊ยแก้ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ราคาสูงหลายหมื่่น หายากมาก แต่น่าแปลกตะกรุดราคายังไม่สูงมากเท่า ความหายากก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน โดยเฉพาะถ้าจะหาตะกรุดหลวงปู่บุญผู้เป็นอาจารย์ของหลวงปู่เพิ่มยิ่งหายากแทบพลิกแผ่นดิน ตะกรุดหลวงปู่เพิ่มใช้แทนตะกรุดหลวงปู่บุญผู้เป็นอาจารย์ได้อย่างไร้ข้อกังขา

    ข้อสำคัญ
    ตะกรุดดอกนี้ เป็นตะกรุดสาริกาขนาดเล็ดกะทัดรัด น่าห้อยคอ พอกผงยาจินดามณี


    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    บูชา 2200 บาท

    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2016
  13. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 100 ตะกรุดแม่ทัพหลวง(ยุคต้น) หลวงพ่อกวย

    [​IMG]

    ปฐมบท
    หลวงพ่อกวยเป็นศิษย์พระอริยสงฆ์หลายองค์ เช่น
    -หลวงปู่เฒ่า วัดค้างคาว เป็นพระรุ่นพี่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ศึกษาวิชาจากตำราเดียวกัน มีการเเลกเปลี่ยนวิชากันหลวงพ่อกวยได้ไปศึกษาการทำผ้ายันต์ค่ายกลกับหลวงปู่เฒ่า
    -หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ พระเกจิที่โด่งดังของสิงห์บุรี มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงมากมายมาขอเรียนวิชา เช่น หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อเเพ วัดพิกุลทอง เป็นต้น หลวงพ่อกวยได้สร้างเเหวนตามตำรับของหลวงพ่อศรี
    - หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพ ผู้สร้างมีดเทพศาสตราวุธอันดับ 1 ท่านได้ไปเรียนวิชาทำ แหวนแขน, ตะกรุด, มีดหมอฯลฯ

    หลวงพ่อกวย ท่านเป็นพระอภิญญาจารย์จอมขมังเวทย์ เจ้าแห่งมนต์มหากาฬ ฉายาท่าน คือ ผู้วิเศษแห่งสรรค์

    ผู้วิเศษแห่งสรรค์

    การปลุกเสกวัตถุมงคล
    พระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ จะปลุกเสกเองทั้งหมด มนต์พระกาฬ เป็น มนต์ที่ท่านต้องปลุกเสกด้วยทุกครั้ง มนต์นี้ ใครทำไม่ดี คิดไม่ดี จะแพ้ภัยตัวเอง ท่านจะสั่งศิษย์ของท่านไว้เสมอว่า อย่าเอาวัตถุมงคลต่างๆของท่านไปลองเดี๋ยวจะเข้าตัว เพราะท่านได้ปลุกเสกมนต์พระกาฬเอาไว้

    วิธีการปลุกเสกวัตถุมงคล
    ท่านจะปลุกเสกตามฤกษ์มงคล แล้วจึงปลุกเสกด้วยฤกษ์โจร ฤกษ์บุญพญามาร คือพระของท่านนั้น คนดีก็ใช้ โจรก็ใช้ ท่านมีวิธีการปลุกเสกที่เข้มขลังมาก ปลุกเสกตอนเช้า สาย บ่าย เย็น หัวค่ำ เที่ยงคืน ค่อนสว่าง ท่านจะปลุกเสกทุกวัน เพื่อป้องกันคนชะตาขาดใช้ คือจันทร์ถึงอาทิตย์ หาก วันไหนเป็นวันอ่อน ยิ่งต้องปลุกเสกให้มาก วิธีปลุกเสก เช้าสายบ่ายเย็นกลางคืนกลางดึกนี้ ตรงกับไสยดำทุกอย่าง คือ ท่านกันเอาไว้ เพราะไสยดำเขาจะทำช่วง ๗ เวลานี้ คนจิตอ่อนหรือคนธรรมดาจะกันไม่ได้เลย

    ข้อห้ามในวัตถุมงคลของท่านคือ ห้ามด่าแม่เด็ดขาด

    สำคัญที่สุด
    แท้ ดูง่ายที่สุด เก๊คืนเงิน 10 เท่า ได้มาจากคนพื้นที่ แถบศรีประจันต์


    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดแม่ทัพหลวง(ยุคต้น) หลวงพ่อกวย
    ราคาพิเศษ3200 บาท

    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7

    เบอร์โทร 0875509271
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2016
  14. Narong2508

    Narong2508 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +381
    จองครับ
     
  15. kritss

    kritss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    533
    ค่าพลัง:
    +1,462
    จองรายการที่ 95 ครับ
     
  16. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 101 ตะกรุดจันทร์เพ็ญสาริกา หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า

    [​IMG]

    ปฐมบท
    พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดองค์หนึ่งของเมืองไทย น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า บรมครูผู้มีอภิญญาและฌาณสมาธิแก่กล้า เรื่องราวอิทธิปาฏิหารย์ความศักดิสิทธิ์เขององค์หลวงปู่ฯ มีมากมายจนเล่าขานกันไม่รู้จักจบสิ้น ทั้งการเสกใบไม้เป็นต่อแตน เสกหัวปลีเป็นกระต่าย เสกคนเป็นๆจนกลายเป็นจระเข้ ฯลฯ

    ตำนานตะกรุดจันทร์เพ็ญ
    หลวงปู่ศุข จะทำตะกรุดใต้น้ำ ในวันเพ็ญเดือน12 ของทุกๆปี ปีไหนตรงกับวันเสาร์เป็นวันแข็งยิ่งดี โดยจุดเทียนลงไปจารในแม่น้ำหน้าวัด โดยสบงจีวรไม่เปียก เมื่อจารเสร็จจะปล่อยตะกรุดลอยขึ้นมาเหนือน้ำ

    ขั้นตอนการทำแผ่นตะกรุด
    ตามตำราโบราณจารย์ เริ่มจากการเคี่ยวตะกั่วนมกับปรอทในกระเพาะควายเผือก เป็นเวลาถึง 7 วัน 7 คืน ซึ่งท่านจะควบคุมการเคี่ยวอยู่ใต้ถุนกุฏิท่าน เสร็จแล้วนำมาเทลงในสมุดข่อย เมื่อเย็นตัวลงแล้วนำไปตีแล้วตัดตามขนาดที่ต้องการ เตรียมพร้อมสำหรับในการลงตะกรุดต่อไป

    ขนาดของตะกรุด
    แบ่งเป็น 2 ชนิด
    -ตะกรุดมาตราฐาน ขนาดยาว 4 นิ้ว แจกแก่ศิษย์ใกล้ชิดและทหาร
    -ตะกรุดสาริกา ยาว 1นิ้ว ถึง 2.5 นิ้ว แจกแก่ผู้ทำบุญแก่วัด ญาติโยมช่วยงานโรงครัว ฯลฯ

    หนึ่งในสิบคณาจารย์ผู้มีพลังจิตสูง
    หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า เป็นหนึ่งในสิบคณาจารย์ผู้มีพลังจิตสูงในปีพ.ศ. 2452 ที่จังหวัดนครปฐมได้มีการชุมนุมพระอาจารย์จากสำนักต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีการทดสอบวิทยาคม และพลังจิตจากพระอาจารย์ทั่วประเทศที่ได้รับนิมนต์มาร่วมในพิธีร้อยกว่าองค์ ซึ่งแต่ละจังหวัดได้จัดให้พระอาจารย์เดินทางไปร่วมในพิธี โดยมีการทดสอบพระอาจารย์ต่างๆ ครั้งละสิบองค์ มีสมเด็จพระสังฆราช (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่บริเวณ วัดพระปฐมเจดีย์ ในการทดสอบครั้งนั้นมีกติกาว่าให้เอาท่อนไม้มา 1 ท่อน วางบนม้า 2 ตัว แล้วเอากบไสไม้วางไว้บนท่อนไม้ แล้วประธานฝ่ายสงฆ์จึงบอกกติกาว่า อาจารย์องค์ใดสามารถทำกบไสไม้ให้วิ่งไสไม้ไปกลับได้โดยกบไม่หล่นทำการทดสอบ กันถึงสามวันสามคืน พระอาจารย์ส่วนมากสามารถใช้จิตบังคับให้กบวิ่งไปได้ แต่กลับไม่ได้ ที่ทำให้กบไสไม้ไปกลับได้ มีด้วยกัน 10 รูป ในสิบรูปนั้นมีหลวงปู่ศุข เป็นหนึ่งในสิบนั้นด้วย



    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ตะกรุดจันทร์เพ็ญสาริกา ยาว 1 นิ้วครึ่ง
    บูชา 7200 บาท

    ปิดรายการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2016
  17. thaicat2013

    thaicat2013 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +1,010
    จองครับ ตะกรุดหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    บูชา 2200 บาท
     
  18. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 102 ลูกอมชานหมากหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

    [​IMG]

    ปฐมบท
    ในบรรดาพระเกจิอาจารย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ยอดพระเกจิหนึ่งเดียวของไทยนั้น หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา เป็นยอดพระเกจิที่อายุยืนยาวที่สุด มีอายุยืนถึง117 ปี เป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่ายุคก่อนสงครามมหาเอเซียบูรพา ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ภู วัดเงิน ตลิ่งชัน และพระอาจารย์แสง วัดมณีชลขันธ์ ผู้เป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพุทธาจารย์โต แม้แต่หลวงปู่เนียม วัดน้อยผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อโหน่ง และหลวงพ่อปาน ยังเป็นแค่ศิษย์ของสมเด็จโต แต่หลวงปู่ทองเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันกับสมเด็จโต

    พระเกจิอาจารย์ที่เป็นสหธรรมมิกไปมาหาสู่กัน เช่น หลวงปู่ปั้น วัดเงิน ตลิ่งชัน หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้้ย หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า หลวงปู่ภู วัดอินทร์ ท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง หลวงปู่แช่ม วัดท่าฉลอง ฯลฯ

    พระอาจารย์แห่งอาจารย์
    ท่านเป็นบรมครูใหญ่ มีวิทยาคมแก่กล้า บรรดาศิษย์ล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เช่น
    -หลวงพ่อเผือกวัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ
    -หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
    -หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    -หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม
    -หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา
    -หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
    -หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์
    -หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์
    -หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ
    เป็นต้น

    ทหารผี
    ช่วงสงครามอินโดจีน พระยาพหลพลพยุหเสนา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้นิมนต์ท่านขึ้นเครื่องบิน ไปโปรยทรายเสก รอบวัดพระแก้วและสนามหลวง เพื่อให้คุ้มครอง มิให้เป็นอันตรายจากระเบิดของข้าศึก และขอร้องให้ท่านสร้างเสื้อยันต์เพื่อแจกทหารไปใช้ในสงคราม จนมีกิตติศัพท์เลื่องลือกันมาก ว่าแคล้วคลาดยิงไม่ถูกหรือโดนยิงแล้วไม่เป็นอะไร บางคนโดนยิงล้มลง ก็ยังลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้ จนได้รับฉายาว่า ทหารไทยเป็นทหารผี

    เสื้อยันต์ที่ท่านสร้าง จะจารเขียนด้วยดินสอดำ ท่านเองทำให้ไม่ทัน จึงได้ขอให้พระอาจารย์อีก 5 ท่าน มาร่วมสร้างด้วย คือ
    1.หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
    2.หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม
    3.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    4.หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา
    5.หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว

    พระอภิญญาจารย์
    หลวงปู่ทอง ท่านเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีคุณวิเศษฤทธิ์อภิญญาสุดยอดไม่แพ้ใคร ยกตัวอย่าง เช่น
    1.เอากะลาครอบควาย
    2.เสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตน
    3.กำบังล่องหนหายตัว ใช้วิชาบังไพร
    4.ย่นระยะทาง ไปบิญฑบาตรที่ไกลๆ
    5.รู้วาระจิต
    6.รู้อดีต รู้อนาคต รู้ว่าจะเกิดสงครามโลก
    7.ใครก็ถ่ายรูปไม่ติด ทั้งชีวิตรูปท่านจะติดเพียงรูปเดียวขณะเดินลงบันได

    [​IMG][​IMG]

    ของดีที่สุดของหลวงปู่ทอง
    หลวงปู่ทอง ท่านฯเป็นพระสุดยอดอภิญญาจารย์ มีวาจาสิทธิ คำพูดท่านเป็น จริงเสมอ เมื่อสาปแช่งใครจะเป็นตามนั้น ท่านจะคายชานหมากมอบให้ใคร ท่านจะบริกรรมคาถาเพื่อประสิทธิวิชา เพื่อให้ชานหมากนี้มีความศักดิสิทธิ์เข้มขลัง สมัยที่หลวงปู่ฯ ท่านมีชีวิตอยู่ จะมีทหารและตำรวจมาขอชานหมากไป เพื่อนำไปติดตัวปกป้องคุ้มครองภัยอันตราย บางทีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า จะมาขอชานหมากเพราะศรัทธาในชานหมากของหลวงปู่ฯ ท่านบอกเองว่า..ชานหมากนี้ผู้ใดมีไว้กินไม่หมด เป็นชานหมากที่นิยมที่สุดอันดับหนึ่งในประเทศไทย เป็นชานหมากที่หายากที่สุด

    พุทธคุณ
    ครอบจักรวาล ปกป้องคุ้มครองภัย แคล้วคลาด เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย สมดังคำของหลวงปู่ทอง"ผู้ใดมีชานหมากไว้ ไม่จน ไม่อด ไม่ยาก"

    สำคัญที่สุด
    ในปัจจุบัน ทั้งตะกรุด ผ้ายันต์ ชานหมาก ลูกอม ของหลวงปู่ทอง หายากที่สุด จนเหลือแค่รูปภาพให้ชมเท่านั้น ชานหมากหลวงปู่ทอง เป็นอันดับ 1 เมืองไทย ในชานหมากของทั้งหมด สำหรับผู้ที่มีบุญวาสนากับหลวงปู่ทองท่านเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง ในฐานะศิษย์คนหนึ่งในสายของหลวงปู่ท่านฯ ขอยืนยันด้วยใจจริง


    แท้ ดูง่ายที่สุด ชานหมากแข็งจนกลายจะเป็นหิน
    แห้งไม่แตกรานและร่วนซุยเหมือนชานหมากทั่วไป บ่งบอกถึงอายุเกิน 100 ปี


    [​IMG][​IMG]

    ลูกอมชานหมากหลวงปู่ทอง
    บูชา 4500 บาท

    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2016
  19. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 103 ลูกอมหลวงพ่อเนียม วัดน้อย

    [​IMG]

    บรมครูแห่งเมืองสุพรรณ
    สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุพรรณบุรี เกียรติคุณชื่อเสียงของหลวงพ่อเนี่ยมที่โด่งดังจนเป็นที่กล่าวขาน พระเกจิจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ เช่น หลวงพ่อโหน่ง (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) หลวงพ่อปาน (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น

    ศิษย์สมเด็จโต วัดระฆัง
    หลวงพ่อเนียม ท่านฯได้ไปศึกษาในด้านสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณ วัดระฆัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอภิญญาสูงและมีวิทยาคมแก่กล้า


    รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
    ครั้งหนึ่งมีภิกษุจากวัดสุวรรณภูมิ ๔ รูป ไปหาหลวงพ่อเนียม เพื่อขอฤกษ์ลาสิกขาบท พอเห็นหน้าภิกษุทั้งสี่ ท่านร้องทักขึ้นว่า "จะมาขอฤกษ์ลาสิกขาบทใช่ไหมล่ะ" ภิกษุทั้งสี่ตอบว่าใช่ ท่านให้ฤกษ์ไปสามรูป อีกรูปหนึ่งท่านท้วงว่าอย่าเพิ่งเลย ชะตากำลังไม่ใคร่ดี ท่านไม่ให้ฤกษ์ แต่ภิกษุนั้นหายอมฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม ทนไม่ไหวจีวรร้อนเป็นไฟ ตัดสินใจสึกโดยไม่ฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม เมื่อออกจากวัดกลับมาหาบิดามารดาที่บ้าน ค่ำวันนั้นเองขณะที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่บนบ้าน ปรากฏว่ามีคนร้ายเอาปืนยิงเข้าไปในกลุ่มสนทนา กระสุนถูกศีรษะทิดสึกใหม่คนนั้นตายคาที่

    ผู้มีญาณวิเศษ
    วันหนึ่งหลวงพ่อเนียมเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านจำนวน ๕๐ สำรับ โดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน ครั้นใกล้จะถึงเวลาเพล สำรับที่ขอชาวบ้านทยอยมาสู่วัดครบตามจำนวน แต่ชาวบ้านมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ไม่เห็นมีวี่แววจะ มีใครจะมาจากที่ไหน เสียงกลองเพลดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง พาภิกษุมารวม ๕๐ รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นที่ผิดปกติ หลวงพ่อปาน จึงพูดกับพระที่มาด้วยกันแล้ว
    " เอ เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้ว เจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ ไม่ควรขัดศรัทธา" จึงสั่งให้เรือจอดที่ท่าวัดน้อย พาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมด้วยการถวายเพลแก่อาจารย์วัดบางเหี้ยและ ภิกษุทุกรูป

    .

    คำประกาศิต
    ในงานทำบุญคล้ายวันเกิด ชาวบ้านจัดงานใหญ่โต มีแสดงพระธรรมเทศนาพร้อมด้วยมหรสพสมโภช ร้านค้าตั้งเต็มลานวัด ค่ำวันนั้น เมฆดำทมึนฝนตั้งเค้า พายุพัดตึง ฝนได้ลงเม็ดมาปรอยๆ ร้านค้าขายต่างกุลีกุจอเก็บข้าวของเตรียมหนีฝนกันจ้าละหวั่น วุ่นวายไปทั่วทั้งลานวัด คนที่มาเที่ยวต่างก็หลบฝนเข้าไปในใต้ถุนกุฏิ และที่หอฉันเต็มไปหมด ในขณะที่กำลังอลหม่านกันนั้นเอง หลวงพ่อเนียมเดินลงมาจากุฏิร้องบอกว่า "ไม่ต้องเก็บไม่ต้องเลิก มหรสพเล่นต่อไป ของขายต่อไป ที่นี่ไม่มีฝน ฝนไม่ตกที่นี่ "ท่านเดินไปหยุดที่หน้ากุฏิ มองขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า ดั่งคำประกาศิต ฝนตั้งเค้าและท่าจะตกลงมาอย่างหนักนั้นหาได้ตกลงมาภายในบริเวณวัด แต่เมื่อมองออกไปนอกวัดจะเห็นฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ทั้งตกอยู่นานอักโขอยู่ พองานเลิกทุกคนต้องเดินลุยน้ำขนาดครึ่งหน้าแข้ง

    ถ่ายรูปไม่ติด
    เล่าลือกันว่าการถ่ายรูปหลวงพ่อเนียมถ่ายไม่ติด พระประมาณต้อง การพิสูจน์ความจริง ตามเสียงที่เล่าลือกันจะเป็นจริงเพียงใด จึงไปที่วัดน้อยแล้วนิมนต์พระทั้งวัดมานั่งถ่ายรูปพร้อมด้วยหลวงพ่อเนียม เมื่อเอาฟิล์มไปล้างปรากฏว่าไม่มีรูปหลวงพ่อเนียมอยู่ในกลุ่มนั้นจริงๆ จึง ขอทดลองถ่ายอีกโดยขอให้หลวงพ่อเนียมเดินไปที่โอ่งน้ำมนต์ ถ่ายขณะที่หลวงพ่อกำลังเดินไปและขณะอยู่ที่โอ่งกำลังทำน้ำมนต์ก็ไม่ติดอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก


    [​IMG]

    ท่าน้ำศักดิสิทธิ์
    ปัจจุบัน แม่น้ำที่ไหลผ่านวัดน้อย ทางวัดได้สร้างแพให้ลงไปเป็นที่ตักดื่มน้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ ตามอมตะวาจาของหลวงพ่อเนียมบรมครูเฒ่าพระอาจารย์ใหญ่ผู้ศักดิสิทธิ์ทรงอิทธิปาฏิหารย์ แม้วันเวลาจะล่วงเลยผ่านมาเป็นร้อยปี แต่ความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้


    [​IMG][​IMG]

    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ของท่านไม่เฉพาะแต่น้ำมนต์ในโอ่งเท่านั้น ที่ท่าวัดของท่านก็ศักดิสิทธิ์เช่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งมีจีนคนหนึ่งชื่อ "โต้ผ่วย" มาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเนียม ท่านบอกเจ๊กโต้ผ่วยให้ไปตักเอาเองซิ อยู่ที่ท่าน้ำ เจ๊กโต้ผ่วยไปตักน้ำมาแล้วเอามาให้ท่านหลวงพ่อบอกให้จุดธูป พอจุดเสร็จท่านบอกกับเจ๊กโต้ผ่วยว่าเสร็จแล้ว เจ๊กโต้ผ่วยมองหน้าหลวงพ่อเนียมเป็นเชิงสงสัย และนึกฉุนตะหงิดๆ ขึ้นมาในใจ อะไรกัน ไม่เห็นหลวงพ่อท่านบริกรรมคาถาเลยแม้แต่คำเดียว จะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไร แต่จะไม่เอาไปก็ไม่ใช้ที่ จึงเอาไปอย่างไม่เต็มใจ เมื่อออกไปนอกวัด เจ๊กโต้ผ่วยรำพึงขึ้นอย่างแค้นใจ จึงคว่ำขวดโหลใบที่ใส่น้ำมนต์ น้ำมนต์ในขวดโหลหาได้ไหลออกมาไม่! บังเอิญพลัดหลุดมือแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำมนต์ในขวดโหลแทนที่จะเป็นน้ำเหลว กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เจ๊กโต้ผ่วยตกใจรีบตาสีตาเหลือกเก็บก้อนน้ำแข็งนั้นใส่ภาชนะอื่นทันที นึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อเนียม ยกภาชนะนั้นขึ้นทูนหัวพร้อมกับกล่าวขออภัยในใจ ที่หมิ่นหลวงพ่อและเอาก้อนน้ำแข็งน้ำมนต์นั้นไปเก็บไว้จนละลาย


    ขั้นตอนวิธีการสร้าง
    การสร้างลูกสะกดตามตำราโบราณาจารย์นั้นทำได้ยาก กรรมวิธีมีหลายขั้นตอน ดังต่อไปนี้
    1. นำตะกั่วน้ำนมมาหลอมจนละลายเทลงไปบนถาดโลหะ เพื่อให้แผ่เป็นแผ่นเมื่อโลหะเย็นลงแล้วก็แกะออกมา
    2. บริกรรมพระคาถาจนจิตเป็นสมาธิแน่วนิ่ง เรียกสูตรหัวใจพระคาถาต่างๆ เอาเหล็กจารมาลงอักขระเขียนไปจนเต็มแผ่นหมดด้านหนึ่งแล้วพลิกอีกด้านหนึ่งมาจารจนเต็ม
    3. เอาตะกั่วที่ลงอักขระพระคาถาต่างๆ กลับไปหลอมใหม่เทลงในแบบพิมพ์เดิม เมื่อเย็นก็เอามาลงอักขระอีกครั้งหนึ่งแล้วก็หลอมอีก ทำอย่างนั้นไปจนครบ 9 ครั้ง 9 หน เรียกว่า "ลงถม" วิธีนี้คือ การจารอักขระทับถมไปบนแผ่นโลหะจนครบ 9 ครั้ง ตามที่กำหนดในสูตรการสร้างลูกสะกดในตำราโบราณาจารย์ เมื่อเทลงบนแบบเป็นรูปกลมหรือทรงรูปยาวรี แกะออกมาและตกแต่งผิวให้เรียบร้อย พร้อมเจาะรูตรงกลาง ร้อยเชือกเอาไว้ให้คาดเอวเรียกว่า “ลูกสะกด” หากไม่เจาะรูใช้เป็น "ลูกอม" มีพุทธคุณเท่าเทียมกัน ลูกสะกดหรือลูกอม นอกจากจะทำด้วยตะกั่วแล้วยังทำด้วยการผสมโลหะต่างๆ เช่น เมฆพัตร เมฆสิทธิ์ ฯลฯ แล้วแต่ท่านโบราณาจารย์ผู้ชาญฉลาดจะประดิษฐคิดทำกันขึ้นมา นำเอาวัตถุมงคลหรือวัตถุอาถรรพณ์ต่างๆ ที่นำเอามาเป็นส่วนผสมพร้อมกับลงอักขระเลขยันต์บริกรรมปลุกเสกจนสำเร็จ


    พุทธคุณ
    อานุภาพแห่งลูกสะกดนั้น พระอาจารย์ท่านทั้งหลายได้มุ่งหมายให้ใช้ทางมหาอุดและคงกระพันชาตรี สำเร็จขึ้นจากการหล่อหลอมโลหะด้วยเตโชธาตุ

    คาถาอาราธนาลูกสะกด
    อิติพันธะเกษามะอะอุ พันธะโลมาจะภะกะสะพันธะนักขามะนะนพะทะ พันธะทันตากระมะถะ พันธะตะ โจอิสวาสุ พันธะนังสังจิปีเสดิ พันธนะหะรูหะรูสุวิสังอะ พันธะอัฐิทุสะมะนิ พันธะอัตถิมินชังนะสังสิโม พันธะวักกังปะวะอะปะ ทิมะสังอังขุ นะมะอะอุ นะมามิหัง สิทธิเตชัง สิทธิวาจัง กายะพันธะนัง องคะพันนธะนัง สารพัดสิทธิ ภะวันตุเมฯ

    คาถานี้ให้ตั้งนะโมฯ 3 จบก่อนแล้วยกลูกสะกดขึ้นจดเหนือหน้าผาก จึงค่อยภาวนาพระคาถาให้จบบท สูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วผ่อนออก และเมื่อเวลาจะคาดเข้าเอวให้ภาวนาพระคาถานี้จนกว่าจะผูกเงื่อนเสร็จให้ภาวนาดังนี้ “อิมังกะยะพันธะนังอธิษฐานมินะมะพะทะ”

    สำคัญที่สุด
    ลูกอมหลวงพ่อเนียม ตัวจริง แท้หาดูยากมาก ตะกั่วขึ้นไข เก่าอายุเกินร้อยปี ผิวโลหะความเก่าขึ้นสนิมแดงเหมือนพระกรุสุพรรณบุรี


    [​IMG][​IMG][​IMG]

    ลูกอมหลวงพ่อเนียม วัดน้อย
    บูชา 3800 บาท
    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7


    เบอร์โทร 0875509271
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2016
  20. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    รายการที่ 104 ลูกสะกดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย

    [​IMG]

    บรมครูแห่งเมืองสุพรรณ
    สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุพรรณบุรี เกียรติคุณชื่อเสียงของหลวงพ่อเนี่ยมที่โด่งดังจนเป็นที่กล่าวขาน พระเกจิจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ เช่น หลวงพ่อโหน่ง (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) หลวงพ่อปาน (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น

    ศิษย์สมเด็จโต วัดระฆัง
    หลวงพ่อเนียม ท่านฯได้ไปศึกษาในด้านสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณ วัดระฆัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอภิญญาสูงและมีวิทยาคมแก่กล้า


    รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
    ครั้งหนึ่งมีภิกษุจากวัดสุวรรณภูมิ ๔ รูป ไปหาหลวงพ่อเนียม เพื่อขอฤกษ์ลาสิกขาบท พอเห็นหน้าภิกษุทั้งสี่ ท่านร้องทักขึ้นว่า "จะมาขอฤกษ์ลาสิกขาบทใช่ไหมล่ะ" ภิกษุทั้งสี่ตอบว่าใช่ ท่านให้ฤกษ์ไปสามรูป อีกรูปหนึ่งท่านท้วงว่าอย่าเพิ่งเลย ชะตากำลังไม่ใคร่ดี ท่านไม่ให้ฤกษ์ แต่ภิกษุนั้นหายอมฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม ทนไม่ไหวจีวรร้อนเป็นไฟ ตัดสินใจสึกโดยไม่ฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม เมื่อออกจากวัดกลับมาหาบิดามารดาที่บ้าน ค่ำวันนั้นเองขณะที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่บนบ้าน ปรากฏว่ามีคนร้ายเอาปืนยิงเข้าไปในกลุ่มสนทนา กระสุนถูกศีรษะทิดสึกใหม่คนนั้นตายคาที่

    ผู้มีญาณวิเศษ
    วันหนึ่งหลวงพ่อเนียมเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านจำนวน ๕๐ สำรับ โดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน ครั้นใกล้จะถึงเวลาเพล สำรับที่ขอชาวบ้านทยอยมาสู่วัดครบตามจำนวน แต่ชาวบ้านมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ไม่เห็นมีวี่แววจะ มีใครจะมาจากที่ไหน เสียงกลองเพลดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง พาภิกษุมารวม ๕๐ รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นที่ผิดปกติ หลวงพ่อปาน จึงพูดกับพระที่มาด้วยกันแล้ว
    " เอ เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้ว เจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ ไม่ควรขัดศรัทธา" จึงสั่งให้เรือจอดที่ท่าวัดน้อย พาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมด้วยการถวายเพลแก่อาจารย์วัดบางเหี้ยและ ภิกษุทุกรูป

    .

    คำประกาศิต
    ในงานทำบุญคล้ายวันเกิด ชาวบ้านจัดงานใหญ่โต มีแสดงพระธรรมเทศนาพร้อมด้วยมหรสพสมโภช ร้านค้าตั้งเต็มลานวัด ค่ำวันนั้น เมฆดำทมึนฝนตั้งเค้า พายุพัดตึง ฝนได้ลงเม็ดมาปรอยๆ ร้านค้าขายต่างกุลีกุจอเก็บข้าวของเตรียมหนีฝนกันจ้าละหวั่น วุ่นวายไปทั่วทั้งลานวัด คนที่มาเที่ยวต่างก็หลบฝนเข้าไปในใต้ถุนกุฏิ และที่หอฉันเต็มไปหมด ในขณะที่กำลังอลหม่านกันนั้นเอง หลวงพ่อเนียมเดินลงมาจากุฏิร้องบอกว่า "ไม่ต้องเก็บไม่ต้องเลิก มหรสพเล่นต่อไป ของขายต่อไป ที่นี่ไม่มีฝน ฝนไม่ตกที่นี่ "ท่านเดินไปหยุดที่หน้ากุฏิ มองขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า ดั่งคำประกาศิต ฝนตั้งเค้าและท่าจะตกลงมาอย่างหนักนั้นหาได้ตกลงมาภายในบริเวณวัด แต่เมื่อมองออกไปนอกวัดจะเห็นฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ทั้งตกอยู่นานอักโขอยู่ พองานเลิกทุกคนต้องเดินลุยน้ำขนาดครึ่งหน้าแข้ง

    ถ่ายรูปไม่ติด
    เล่าลือกันว่าการถ่ายรูปหลวงพ่อเนียมถ่ายไม่ติด พระประมาณต้อง การพิสูจน์ความจริง ตามเสียงที่เล่าลือกันจะเป็นจริงเพียงใด จึงไปที่วัดน้อยแล้วนิมนต์พระทั้งวัดมานั่งถ่ายรูปพร้อมด้วยหลวงพ่อเนียม เมื่อเอาฟิล์มไปล้างปรากฏว่าไม่มีรูปหลวงพ่อเนียมอยู่ในกลุ่มนั้นจริงๆ จึง ขอทดลองถ่ายอีกโดยขอให้หลวงพ่อเนียมเดินไปที่โอ่งน้ำมนต์ ถ่ายขณะที่หลวงพ่อกำลังเดินไปและขณะอยู่ที่โอ่งกำลังทำน้ำมนต์ก็ไม่ติดอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

    [​IMG]

    ท่าน้ำศักดิสิทธิ์
    ปัจจุบัน แม่น้ำที่ไหลผ่านวัดน้อย ทางวัดได้สร้างแพให้ลงไปเป็นที่ตักดื่มน้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ ตามอมตะวาจาของหลวงพ่อเนียมบรมครูเฒ่าพระอาจารย์ใหญ่ผู้ศักดิสิทธิ์ทรงอิทธิปาฏิหารย์ แม้วันเวลาจะล่วงเลยผ่านมาเป็นร้อยปี แต่ความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้


    [​IMG][​IMG]

    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
    น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ของท่านไม่เฉพาะแต่น้ำมนต์ในโอ่งเท่านั้น ที่ท่าวัดของท่านก็ศักดิสิทธิ์เช่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งมีจีนคนหนึ่งชื่อ "โต้ผ่วย" มาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเนียม ท่านบอกเจ๊กโต้ผ่วยให้ไปตักเอาเองซิ อยู่ที่ท่าน้ำ เจ๊กโต้ผ่วยไปตักน้ำมาแล้วเอามาให้ท่านหลวงพ่อบอกให้จุดธูป พอจุดเสร็จท่านบอกกับเจ๊กโต้ผ่วยว่าเสร็จแล้ว เจ๊กโต้ผ่วยมองหน้าหลวงพ่อเนียมเป็นเชิงสงสัย และนึกฉุนตะหงิดๆ ขึ้นมาในใจ อะไรกัน ไม่เห็นหลวงพ่อท่านบริกรรมคาถาเลยแม้แต่คำเดียว จะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไร แต่จะไม่เอาไปก็ไม่ใช้ที่ จึงเอาไปอย่างไม่เต็มใจ เมื่อออกไปนอกวัด เจ๊กโต้ผ่วยรำพึงขึ้นอย่างแค้นใจ จึงคว่ำขวดโหลใบที่ใส่น้ำมนต์ น้ำมนต์ในขวดโหลหาได้ไหลออกมาไม่! บังเอิญพลัดหลุดมือแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำมนต์ในขวดโหลแทนที่จะเป็นน้ำเหลว กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เจ๊กโต้ผ่วยตกใจรีบตาสีตาเหลือกเก็บก้อนน้ำแข็งนั้นใส่ภาชนะอื่นทันที นึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อเนียม ยกภาชนะนั้นขึ้นทูนหัวพร้อมกับกล่าวขออภัยในใจ ที่หมิ่นหลวงพ่อและเอาก้อนน้ำแข็งน้ำมนต์นั้นไปเก็บไว้จนละลาย


    ขั้นตอนวิธีการสร้าง
    การสร้างลูกสะกดตามตำราโบราณาจารย์นั้นทำได้ยาก กรรมวิธีมีหลายขั้นตอน ดังต่อไปนี้
    1. นำตะกั่วน้ำนมมาหลอมจนละลายเทลงไปบนถาดโลหะ เพื่อให้แผ่เป็นแผ่นเมื่อโลหะเย็นลงแล้วก็แกะออกมา
    2. บริกรรมพระคาถาจนจิตเป็นสมาธิแน่วนิ่ง เรียกสูตรหัวใจพระคาถาต่างๆ เอาเหล็กจารมาลงอักขระเขียนไปจนเต็มแผ่นหมดด้านหนึ่งแล้วพลิกอีกด้านหนึ่งมาจารจนเต็ม
    3. เอาตะกั่วที่ลงอักขระพระคาถาต่างๆ กลับไปหลอมใหม่เทลงในแบบพิมพ์เดิม เมื่อเย็นก็เอามาลงอักขระอีกครั้งหนึ่งแล้วก็หลอมอีก ทำอย่างนั้นไปจนครบ 9 ครั้ง 9 หน เรียกว่า "ลงถม" วิธีนี้คือ การจารอักขระทับถมไปบนแผ่นโลหะจนครบ 9 ครั้ง ตามที่กำหนดในสูตรการสร้างลูกสะกดในตำราโบราณาจารย์ เมื่อเทลงบนแบบเป็นรูปกลมหรือทรงรูปยาวรี แกะออกมาและตกแต่งผิวให้เรียบร้อย พร้อมเจาะรูตรงกลาง ร้อยเชือกเอาไว้ให้คาดเอวเรียกว่า “ลูกสะกด” หากไม่เจาะรูใช้เป็น "ลูกอม" มีพุทธคุณเท่าเทียมกัน ลูกสะกดหรือลูกอม นอกจากจะทำด้วยตะกั่วแล้วยังทำด้วยการผสมโลหะต่างๆ เช่น เมฆพัตร เมฆสิทธิ์ ฯลฯ แล้วแต่ท่านโบราณาจารย์ผู้ชาญฉลาดจะประดิษฐคิดทำกันขึ้นมา นำเอาวัตถุมงคลหรือวัตถุอาถรรพณ์ต่างๆ ที่นำเอามาเป็นส่วนผสมพร้อมกับลงอักขระเลขยันต์บริกรรมปลุกเสกจนสำเร็จ

    พุทธคุณ
    อานุภาพแห่งลูกสะกดนั้น พระอาจารย์ท่านทั้งหลายได้มุ่งหมายให้ใช้ทางมหาอุดและคงกระพันชาตรี สำเร็จขึ้นจากการหล่อหลอมโลหะด้วยเตโชธาตุ

    คาถาอาราธนาลูกสะกด
    อิติพันธะเกษามะอะอุ พันธะโลมาจะภะกะสะพันธะนักขามะนะนพะทะ พันธะทันตากระมะถะ พันธะตะ โจอิสวาสุ พันธะนังสังจิปีเสดิ พันธนะหะรูหะรูสุวิสังอะ พันธะอัฐิทุสะมะนิ พันธะอัตถิมินชังนะสังสิโม พันธะวักกังปะวะอะปะ ทิมะสังอังขุ นะมะอะอุ นะมามิหัง สิทธิเตชัง สิทธิวาจัง กายะพันธะนัง องคะพันนธะนัง สารพัดสิทธิ ภะวันตุเมฯ

    คาถานี้ให้ตั้งนะโมฯ 3 จบก่อนแล้วยกลูกสะกดขึ้นจดเหนือหน้าผาก จึงค่อยภาวนาพระคาถาให้จบบท สูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วผ่อนออก และเมื่อเวลาจะคาดเข้าเอวให้ภาวนาพระคาถานี้จนกว่าจะผูกเงื่อนเสร็จให้ภาวนาดังนี้ “อิมังกะยะพันธะนังอธิษฐานมินะมะพะทะ”

    เบญจภาคีลูกสะกด
    ลูกสะกดวัดพระแก้ว
    ลูกสะกดหลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม

    ลูกสะกดหลวงปู่เนียม วัดน้อย
    ลูกสะกดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    ลูกสะกดแร่บางไผ่ หลวงปู่จันทร์ วัดใหม่โมลีโลก



    [​IMG][​IMG]
    ลูกสะกดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย
    บูชา 4000 บาท
    ปิดรายการ

    โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
    ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
    เลขบัญชี 325-2-61738-7


    เบอร์โทร 0875509271
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2016
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...