พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle height=10>
    วันช้างไทย

    http://www.naewna.com/news.asp?ID=152641

    </TD></TR><TR><TD align=middle height=10>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]


    </TD></TR><TR><TD align=middle height=10>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>
    มูลนิธิพระคชบาล ได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันช้างไทยขึ้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาโดยเลี้ยงอาหารช้างและร่วมสนุกกับไอศครีมช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเป็นการยกย่องให้เกียรติ และอนุรักษ์ช้างไทย โดยได้รับความสนใจจากชาวไทยและนักท่องเที่ยวร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจำนวนมาก เมื่อวันที่ 13 มีนาคม
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle height=10>11 ปีที่เวียนผ่านของ"วันช้างไทย" สัตว์คู่บ้าน คู่เมือง สุ่มเสี่ยงสูญพันธุ์ (สกู๊ปแนวหน้า)
    </TD></TR><TR><TD align=middle height=10>[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>http://www.naewna.com/news.asp?ID=152464
    </TD></TR><TR><TD align=middle height=10>[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD> หลังจากที่คณะอนุกรรมการประสานงาน อนุรักษ์ช้างไทย ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ ของชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 13 มีนาคม 2541 เป็น "วันช้างไทย" เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของช้าง ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของเรามาช้านาน และในประวัติศาสตร์ไทยช้างก็เป็นกำลังสำคัญในการกอบกู้เอกราช ของชาติมาโดยตลอด

    11 ปีเวียนผ่าน วันช้างไทย บรรจบครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าสถานการณ์ สัตว คู่ บ้านคู่เมือง ยังอยู่ในภาวะวิกฤตเช่นเดิม !!! ทำความเข้าใจเบื้องต้น ตามหลักภาษาไทย ลักษะนามของ "ช้างบ้าน" จะเรียกเป็น "เชือก" ขณะที่ "ช้างป่า" จะเรียกเป็น "ตัว" ​

    จากผังโครงสร้าง ประชากรช้างของประเทศไทย แสดงให้เห็นว่า เมื่อ 50 ปีก่อนประเทศไทย มีช้างอยู่ประมาณ 40,000 ชีวิต แต่ ณ วันนี้เหลือช้างเพียงหยิบมือ 5,000 ชีวิต แบ่งเป็นช้างบ้าน 2,500 เชือก และช้างป่าที่คาดว่าเหลือเพียงไม่เกิน2,500 ตัว หลายฝ่ายประเมินว่า ยังมี ช้างป่า ถูกจับและสวมรอยเป็นช้างบ้านอย่างต่อเนื่อง หากไม่เร่ง ดำเนินการช่วยเหลือช้างป่า ที่กำลังถูกคุกคามจากอันตรายรอบด้าน ในอนาคตอันใกล้ช้างป่า อาจ ลดจำนวนลงเรื่อยๆ กระทั่งสูญพันธุ์ภายใน 14 ปี !!! ​

    นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพ ยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) อธิบายว่า ปัจจัยคุกคามช้างป่า ส่วนใหญ่เกิดจาก แหล่งที่อยู่อาศัยของช้างป่า ถูกบุกรุกทำลาย และเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรกรรม และกิจกรรมอื่น ๆ ของมนุษย์ ทำให้เกิดปัญหา... ​

    "ช้างป่าติดเกาะ" ​

    การเกิดประชากรช้างป่า ขนาดเล็กหลาย ๆ กลุ่มที่ตัดขาดออกจากกัน ได้นำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น ช้างป่าออกไปทำลายพืชไร่ และทรัพย์สินของชาวบ้าน การฆ่าหรือทำร้ายช้างป่าทำได้ง่ายขึ้น การเกิดผสมพันธุ์ในหมู่เครือญาติ จนเกิดลักษณะสายพันธุ์ด้อย ความอ่อนแอ การเสียชีวิต สภาวะเช่นนี้สุ่มเสี่ยงนำไปสู่การ สูญพันธุ์ในที่สุด.... ​

    วิกฤตสถานการณ์ช้างป่า ​

    อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ บอกว่า ประชากรช้างป่า ในปัจจุบัน มีอัตราการเพิ่มประมาณ 5-10 เปอร์เซนต์ ต่อปี แล้วแต่พื้นที่ มีอัตราการตายน้อย ขณะที่ ลูกช้างบ้าน มีอัตราการเกิดน้อย และมีอัตราการตายมาก โดยเฉพาะในช่วงอายุแรกเกิดจนถึง 5 ปี เนื่องจากโรคท้องเสีย และเฮอรปีส์ไวรัส คือ คล้ายโรค เริม และงูสวัส ซึ่ง เกิดจากอาการเครียดของลูกช้าง ที่ถูกแยกจากแม่ตั้งแต่ยังเล็กมาก เพื่อนำมาใช้งานตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะนำมาเดินเร่ร่อน หรือแม้แต่การดึงดูดนักท่องเที่ยว ​

    ในปัจจุบันมีพื้นที่ป่า ที่มีปัญหาช้างป่า ออกมาทำลายพืชไร่ จำนวน 24 แห่ง แต่ที่มีปัญหาค่อนข้างมาก มีประมาณ 10 แห่ง ได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา ​

    " บางพื้นที่ มีการจับช้างป่า มาเพื่อใช้ในการทำไม้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ ทางภาคเหนือ ทำให้ประชากรช้างป่า ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันมีน้อยมาก บางพื้นที่ มีการขยายพื้นที่ทำเกษตรกรรม ทำให้ป่าหลายแห่ง เหลือเป็นหย่อมป่า และทำให้เกิดปัญหาช้างป่าออกมาทำลายพืชไร่ " เป็นเสียงเอ่ยของ ดร.มัทนา ศรีกระจ่าง นักวิทยาศาสตร์ ชำนาญการพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญด้านช้าง ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ​

    ในประเด็นการแก้ปัญหาช้างบุกรุกทำลายพืชไร ดร.มัทนา บอกว่า ได้ทำงานร่วมกับชุมชน และองค์กรพัฒนาเอกชน โดยใช้หลาย ๆ วิธีประกอบกัน อาทิ... ​

    ให้ช้างป่าอยู่ได้อย่างปลอดภัยในพื้นที่ป่าและเมื่อออกจากป่า โดยให้ช้างป่าอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มากกว่าออกไปข้างนอก โดยการการปรับปรุงแหล่งที่อยู่อาศัยของช้างป่า ในบริเวณป่าลึก ได้แก่ การเพิ่มแหล่งน้ำ การจัดการทุ่งหญ้า ทำโป่ง ฯลฯ เพื่อดึงดูดให้ช้างป่าอยู่ในป่า ผสมผสานกับมาตรการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่เกษตรกรรม ​

    จัดทำฐานข้อมูล ส่งเสริมงานวิจัยและ รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับช้างป่า โดยเน้นการศึกษาวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลพื้นฐานและข้อมูลเชิงลึก เช่น จำนวนและโครงสร้างประชากรของช้าง ข้อมูลเชิงพฤติกรรม เช่น การเคลื่อนย้ายตามฤดูกาล และพฤติกรรมของช้างป่าเมื่อได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีต่อถิ่นที่อยู่อาศัยของช้าง ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงความหลากหลายทางพันธุกรรมของช้างป่า ​

    โดยในวันที่ 13-18 มี.ค. นี้ จะมีอาสาสมัครเข้าร่วมการสำรวจ นับช้างป่าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อทราบข้อมูล การเปลี่ยนแปลงประชากรช้างป่า ที่อุทยานแห่งนี้ เพื่อทราบโครงสร้างของประชากรช้างป่า เช่น อัตราการเกิด อัตราการตาย ​

    ธุรกิจมืดคุกคามช้างป่า ​

    เธอ บอกว่า ช้างถูกดึงเข้าสู่ธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาลอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ ช้างเร่ร่อน การส่งช้างไปต่างประเทศ และการใช้ช้างดึงดูดนักท่องเที่ยว ตามปางช้างหลายแห่ง ทำให้ช้างมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะเมื่อความต้องการลูกช้างจำนวนมากและไม่จำกัดจำนวน จึงเกิดแรงจูงใจในการ จับช้างป่า เพื่อทำธุรกิจดังกล่าวมากขึ้น อย่างน่าวิตก ​

    "พื้นที่ที่ต้องจับตามองคือ ชายแดนประเทศพม่า ที่ติดกับ จ.กาญจนบุรี โดยกลุ่มพ่อค้าใช้วิธี ให้หมู่บ้านตามแนวชายแดน 2-3 หมู่บ้าน หาลูกช้างป่ามาให้ จำนวนไม่อั้น เมื่อได้มาแล้ว ก็จะมีการ ส่งกลุ่มช้างเร่ร่อน เข้าไปในหมู่บ้าน ทำทีเป็นการแสดงโชว์ เมื่อกลับออกมาก็นำลูกช้างป่าเหล่านั้น จับใส่รถ ออกมาด้วย และหลายครั้งที่ลูกช้างเหล่านั้น ตายก่อนที่จะถูกส่งออกไป" ​

    ดร.มัทนา เอ่ยต่อว่า "ระหว่างเดินทาง ก็จะไม่มีใครผิดสังเกต ในขณะที่ การจดทะเบียนทำตั๋วรูปพรรณ ทำได้อย่างง่ายดาย โดยปราศจากการตรวจสอบ และควบคุมใด ๆ ทั้งสิ้น จึงเป็นการส่งเสริมให้เกิดการฟอกช้างป่า เป็นช้างบ้าน และนำมาซึ่ง ปัญหาช้างเร่ร่อน ปัญหาที่สังคมไทยยังไม่สามารถแก้ไขได้" ​

    ในปัจจุบันมีความพยายาม ผลักดันให้มีการตั้งคณะกรรมการช้างแห่งชาติ และออก กฎหมาย เพื่อยกระดับให้ช้างเป็นสัตว์สงวน แต่ทว่าดูเหมือนความหวังนั้นจะ ริบหรี่เต็มที ​

    "ขั้นแรกการตั้งคณะกรรมการช้างแห่งชาติ คงไม่มีปัญหาเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อดูปัญหา ของช้าง ในภาพรวม เป็นความพยายามของกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ แต่ทว่าในส่วนของกฎหมาย ไม่มีวันได้ออก และอย่าคาดหวัง เพราะเม็ดเงินที่หมุนเวียนในธุรกิจเกี่ยวกับช้างมีมูลค่ามหา ศาล" ​

    เธอ บอกว่าการแก้ปัญหาช้าง ต้องมองแบบแยกส่วน ว่าแต่ละพื้นที่มีปัญหาอย่างไร และทำอย่างไรให้ชุมชนและช้างอยู่ร่วมกันได้ ​

    หากพื้นที่ใด มีปัญหารุนแรง รัฐบาลอาจต้องจ่ายเงินชดเชย ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ชุมชน และช้างอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ​

    " ไม่อยากเห็นคนไทย บางคน มีใจทำร้ายช้าง และไม่ควรทำกับเขาแบบนี้ เขาก็มีชีวิตและจิตใจเหมือนเราทุกคน อยากให้คนไทยช่วยกันอนุรักษ์ช้างไทย" เป็นข้อความที่ ดร. ดร.มัทนา ฝากถึงคนไทยทุกคน ​

    "วันช้างไทย" เวียนมาบรรจบ ครบรอบปีที่ 11 ...ได้แต่หวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจริง จัง และจริงใจ ในการแก้ปัญหา....เพื่อให้สัตว์คู่บ้าน คู่เมือง สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ อย่างสุขสงบบน ผืนแผ่นดินไทย ​


    SCOOP@NAEWNA.COM

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  3. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    มายืนยันครับ ต้องระวังกันให้ดีๆครับ เยอะจริงๆครับ
     
  4. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    - -" โดนนำอ่ะ ไม่ดีเลย
     
  5. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    นั่งพานหลวงพ่ออะไรรึครับ พิมพ์นี้เยอะอ่ะครับ ผมยังตาไม่ถึง
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีง่ายๆเข้าห้องน้ำสาธารณะไม่ติดเชื้อ
    http://campus.sanook.com/teen_zone/senior_02769.php

    <SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT><!--START-->[​IMG]


    น.พ.เชิดพงษ์ ชินวุฒิ สูติ-นรีแพทย์ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช สาทร-คอนแวนต์ เผยว่า เชื้อโรคที่มักพบในห้องน้ำสาธารณะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เชื้อในกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อหนองใน เชื้อเริม และเชื้อที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น เชื้ออุจจาระร่วง เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด เอ เป็นต้น

    เชื้อพวกนี้อาจแฝงอยู่ตามจุดต่างๆ ของห้องน้ำ เช่น ชักโครก อ่างล้างมือ หรือแม้กระทั่งลูกบิดประตูแต่ โอกาสที่เราจะติดเชื้อพวกนี้จนทำให้เกิดโรคหรือเป็นอันตรายนั้นน้อยมาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเหตุผลที่ว่า

    1.เชื้อพวกนี้จะสามารถก่อให้เกิดโรคได้ ต้องมีปริมาณที่มากพอ เราอาจไปสัมผัสกับเชื้อพวกนี้ก็จริง แต่ปริมาณไม่มาก จึงไม่เกิดอันตรายใดๆ

    2.เชื้อพวกนี้มักจะเจริญเติบโตได้ดีในร่างกายคนเรา แต่เมื่อออกมาสัมผัสกับแสง และอุณหภูมิภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป เชื้อมักจะมีชีวิตอยู่ไม่นานพอที่จะติดต่อไปสู่คนอื่น


    [​IMG]

    3.เชื้อพวกนี้จะก่อให้เกิดโรคได้ ต้องมีหนทางที่จะผ่านเข้าไปในร่างกายของคนเรา เช่น ผ่านเข้าทางผิวหนังที่มีแผล หรือรับเข้าทางปาก การที่เราไปสัมผัสและเชื้อนั้นติดอยู่กับผิวหนังเฉยๆ จะไม่ทำให้เกิดโรค เพราะผิวหนังเป็นปราการด่านแรกที่ป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้เป็นอย่างดี

    4.หากได้รับเชื้อเข้าไปจริง ร่างกายของเรามีระบบภูมิคุ้มกันที่คอยจัดการเจ้าเชื้อโรคแปลกปลอมนี้อยู่แล้ว

    น.พ.เชิดพงษ์ แนะนำวิธีปฏิบัติตัวแบบง่ายๆ เพื่อป้องกันการรับเชื้อโรคจากการเข้าห้องน้ำสาธารณะไว้ว่า ใช้เวลากับการทำกิจธุระในห้องน้ำสาธารณะให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าจำเป็นต้องใช้ชักโครก เลือกที่ดูสะอาด ทำความสะอาดที่รองนั่งด้วยกระดาษทิชชูสักหน่อย แล้วจึงใช้งาน ไม่ต้องถึงกับใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ

    ที่สำคัญเมื่อเสร็จกิจธุระแล้วต้องล้างมือทุกครั้ง เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคติดมากับมือของเรา


    <!--END-->
     
  7. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    เย้ แฟนหงษ์ ขอเฮก่อนน่ะครับ นำครึ่งแรกก็ยังดี ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • j.jpg
      j.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.2 KB
      เปิดดู:
      51
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2009
  8. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เหมือนของหลวงปู่คำพันธุ์ช่ายมั้ยครับ แต่นี่ก่อนครับเป็นของหลวงปู่ทิมวัดพระขาวปี39ครับ
     
  9. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    หงษ์แดง มีชัยฝังผีลงหลุมครับ ....จะบอกให้
     
  10. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    แง่มๆ วันนี้เซ็งเลยครับ
     
  11. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    โอ...ขอบพระคุณครับ งามจริงๆ นอกจากหลวงปู่คำพันธุ์ ก็เคยเห็นเกจิท่านนิยมสร้างกันครับ
    แต่ที่ดังๆก็คง 2 รูปนี้กระมังครับ ผมก็ไม่ค่อยทราบเท่าไร
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"หงส์"เฉียบ! บุกถลุงผีหมดรูป 4-1 ศึกพรีเมียร์ลีก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 มีนาคม 2552 21:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มเด็ดทำผลงานพลิกความคาดหมายด้วยการบุกไปเอาชนะ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 ถึงสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา

    ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-4 ลิเวอร์พูล


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=348 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=348>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ออเรลิโอ" ดีใจหลังยิงฟรีคิกให้หงส์นำ 3-1</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจพัก พอล สโคลส์ และ ไรอัน กิ๊กส์ สองมิดฟิลด์ประสบการสูงพร้อมกับส่ง ปาร์ก จี ซอง และ อันแดร์สัน ลงสนามแทน ส่วนแดนหน้าเลือก คาร์ลอส เตเบซ มาจับคู่กับ เวย์น รูนีย์ และมี คริสเตียโน โรนัลโด เป็นสนับสนุนเหมือนเดิม ขณะที่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ส่ง ลูคัส เลวา ลงมาตัดเกมคู่กับ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ส่วนแดนหน้ายังมี เฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวหลักและ สตีเวน เจอร์ราร์ด คอยสนับสนุน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=201 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=201>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ตอร์เรส" ดวลกับ "วิดิช"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เริ่มเกมครึ่งแรก ทั้งสองทีมเน้นความแน่นอนในการครองบอลทำให้ยังไม่มีโอกาสแบบจะแจ้งต่อการทำประตู ต้องรอจนกระทั่งนาที 22 เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ เตเบซ รับบอลบริเวณระยะ 25 หลา ก่อนแทงบอลทะลุแผงหลังเข้าไปในเขตโทษให้ ปาร์ก จี ซอง โฉบมาแตะบอลหนี เรนา ที่ออกมาตัดบอลจนถูกทำฟาวล์ล้มลงในเขตโทษ กรรมการเป่าทันทีและเป็น โรนัลโด รับหน้าที่สังหารไม่พลาดเข้าประตูไป สกอร์ขยับเป็น 1-0

    หลังถูกส่องประตู "หงส์แดง" พยายามเปิดเกมรุกมากขึ้นจนมาตามตีเสมอเป็นผลสำเร็จในนาที 28 จากจังหวะการวางบอลยาวขึ้นมาจากแดนหลัง วิดิช กะจังหวะบอลพลาดจนเสียท่าถูก ตอร์เรส ตามมาเบียดแย่งเอาบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ ฟาน เดอร์ ซาร์ และดาวยิงทีมชาติสเปนอาศัยความนิ่งรอจังหวะจนซัดผ่านตัวนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปให้ทีมไล่ตีเสมอ 1-1

    เกมมาถึงนาที 34 โรนัลโด ลองยิงฟรีคิกเต็มแรงจากนอกกรอบให้ เรนา ต้องออกแรงเซฟ บอลกระฉอกเกือบหลุดมาถึง เตเบซ ที่ตามเข้าซ้ำ แต่ยังดีที่นายทวารชาวสเปนตามมาเก็บบอลเข้าซองได้ทัน นาทีต่อมา ทีมเยือนตอบโต้กลับบ้างเมื่อ ริเอรา ทำเกมขึ้นมาทางริมเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดบอลไปลุ้นในเขตโทษ แต่ยังดีที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาตัดทันก่อนที่ผู้เล่นหงส์แดงจะชาร์ตถึง

    ทั้งสองทีมสู้กันในแดนกลางอย่างสูสี เกมมาถึงนาที 41 คาร์ริก พลิกบอลได้สวยจากระยะประมาณ 35 หลา ก่อนจะลากเข้ามายิงตรงหน้ากรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างมีเสียว แต่อีกสองนาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ตอบโต้กลับ ตอร์เรส รับบอลได้ก่อนจะจ่ายให้ เจอร์ราร์ด แตะบอลเข้าไปในเขตโทษจนถูก เอฟรา ตามมาเสียบสกัดล้มลงไป กรรมการเป่าให้จุดโทษแก่ทีมเยือนบ้างและกัปตันทีมหงส์แดงลุกขึ้นมาสังหารเองผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ให้สกอร์พลิกมาเป็น 2-1 พร้อมกับจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=199 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=199>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"เจอร์ราร์ด" แย่งโหม่งกับ "เอฟรา"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เข้าสู่ครึ่งหลัง "ผีแดง" โหมบุกเข้าใส่ทันทีเพื่อหวังทำประตูตีเสมอและมีโอกาสลุ้นเป็นจังหวะแรกในนาที 56 เมื่อ อันแดร์สัน เปิดลูกเตะมุมเข้ากลาง กลายเป็น เรนา นายทวารทีมเยือนพยายามออกมาตัดบอลแต่ดันไปชนกับ ฮูเปีย กองหลังเพื่อร่วมทีมจนบอลเกือบทะลักเข้าประตูตัวเองไป ยังดีที่นายทวารชาวสเปนตามกลับมาคว้าได้ทันก่อนที่ เตเบซ จะได้ซัดจ่อๆหน้าประตู

    เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง รูนีย์ มีโอกาสลุ้นทำประตูหลังจากได้บอลตรงบริเวณมุมเขตโทษ ก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางสับไกยิงเต็มๆ แต่บอลไปแฉลบคู่แข่งย้อยออกหลังไปนิดเดียวได้เพียงลูกเตะมุม อีกสองนาทีต่อมา "ผีแดง" เติมเกมรุกขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้เป็น โรนัลโด ได้เปิดบอลจากทางริมเขตโทษด้านขวา บอลลอยไปทางถึงเสาสอง รูนีย์ วิ่งเบียดกองหลังมาเอาเท้าแหย่บอลกลับเข้ากลาง เตเบซ เกือบตามมาชาร์ตทัน แต่บอลผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย

    เกมมาถึงนาที 65 จากจังหวะสวนกลับบอลมาถึง ริเอรา ทางริมเขตโทษด้านซ้ายก่อนเปิดบอลเข้ากลาง กองหลังเจ้าถิ่นโหม่งเคลียร์ออกมาเข้าทาง ลูคัส ยิงแบบโล่งหน้าเขตโทษ แต่เบาเกินไปบอลพุ่งตรงตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ รับเข้าซองได้อย่างไม่มีปัญหา อีก 5 นาทีต่อมาเป็นโอกาสของ "ผีแดง" เมื่อ คาร์ริก เปิดบอลข้ามแผงหลังให้ เตเบซ ที่กำกึ่งว่าจะล้ำหน้าหลุดเข้าไปพลิกตัวยิง แต่โดนไม่เต็มเท้าบอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

    เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเพิ่มขึ้นอีกเมื่อ วิดิช ซึ่งเป็นตัวสุดท้ายตัดสินใจทำฟาวล์ เจอร์ราร์ด หน้าเขตโทษ กรรมการตัดสินใจควักใบแดงไล่ออกไปและลูกฟรีคิกจากจังหวะดังกล่าว ออเรลิโอ รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่าน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ยืนขาตายเข้าประตูไปให้ ลิเวอร์พูล หนีห่าง 3-1 จากนั้นมาถึงนาที 85 "หงส์แดง" น่าจะหนีห่างออกไปอีก เมื่อ ดอสเซนา ได้บอลทางริมเส้นทางซ้ายมาถึง บาเบล ตอกส้นกลับหลังให้ เจอร์ราร์ด ได้ยิงโล่งหน้าประตู แต่กลับซัดเหินข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

    แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มถอดใจและมาเสียประตูเพิ่มอีกจนได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเมื่อ เรนา วางบอลยาวขึ้นมา กลายเป็นกองหลังที่กะจังหวะบอลพลาดอีกครั้งจนถูก ดอสเซนา โฉบมาตัดหน้า โอเชีย หลุดเข้าไปกระดกบอลลอยโด่งข้ามหัว ฟาน เดอร์ ซาร์ มุดคานประตูไปอย่างสวยงามให้ ลิเวอร์พูล หนีห่าง 4-1 หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มอีกทำให้จบ 90 นาที "หงส์แดง" บุกมาเอาชนะไปด้วยสกอร์ข้างต้น

    รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
    แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เนมานยา วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, จอห์น โอเชีย, อันแดร์สัน, ไมเคิล คาร์ริก, ปาร์ก จี ซอง, คริสเตียโน โรนัลโด, คาร์ลอส เตเบซ, เวย์น รูนีย์
    ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, ซามี ฮูเปีย, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เจมี คาร์ราเกอร์, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ลูคัส เลวา, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, สตีเวน เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอรา, เดิร์ก เคาท์
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    -------------------------------------------------------------------

    อืมมมมมมมม

    ไม่เป็นไร แต่ก็แสดงความยินดีกับแฟนหงส์แดงด้วยนะครับ

    สำหรับแฟนๆผีแดง เชียร์กันต่อ สู้กันต่อไปครับ
     
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ไปพบมาจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์เลยนำมาฝากกันครับ


    พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าบารมีหลวงปู่โต


    <!-- main-content-block --><!-- 14 มีนาคม 2552 - 21:28 -->
    14 มีนาคม 2552 - 21:28


    ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี ท่านเป็นพระเกจิที่มีศรัทธามหาชนให้การเคารพนับถือเป็นยิ่งนัก และเรียกขานท่านด้วยความเคารพว่าหลวงปู่โต แม้ทุกวันนี้จะผ่านมากว่าร้อยปีเศษแล้ว บารมีของท่านก็ยังแพร่อภิบาลช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากเป็นเนืองนิจ
    พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙ ) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม รูปปัจจุบัน หรือที่ศิษย์ทั้งหลายเรียกท่านว่าหลวงพ่อเที่ยง ท่านเป็นเถระอีกรูปหนึ่งที่มากด้วยความรู้ในทางธรรมยิ่งนัก และในทางปฏิบัติกรรมฐานท่านก็ได้รับความเมตตาจากบารมีของหลวงปู่โตยิ่ง
    หลวงพ่อเที่ยงเป็นคนโคราช บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุน้อยๆ มาอยู่พระนครศรีอยุธยาศึกษาพระธรรมบาลี จากนั้นมาอุปสมบทที่วัดระฆังฯ จากวันนั้นถึงวันนี้ท่านไม่เคยลาสิกขาเลย วัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเที่ยงนั้น ท่านฉันอาหารมังสวิรัติและฉันเพียงมื้อเดียว
    เคยกราบนมัสการถามท่านว่า เช้าตอนตีสามท่านปฏิบัติกิจอะไร ท่านก็ว่านั่งสวดมนต์ภาวนาสมาธิเป็นประจำก่อนลงมาทำกิจอื่นๆ จากนั้นท่านก็เดินรอบๆ วัดตรวจตราสิ่งต่างๆ หากมีญาติโยมมาพบก็สนทนาธรรมกัน
    หลวงพ่อเที่ยงเป็นพระที่เมตตาสูงมาก ท่านเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณของหลวงปู่โตว่า ครั้งหนึ่งท่านเอนหลังอยู่ จิตรวมเป็นสมาธิจึงได้นิมิตเห็นหลวงปู่โตเดินมา จากนั้นก็มากระชากแขนดึงท่านไป หลวงพ่อเที่ยงร้องถามว่าหลวงปู่จะพาผมไปไหน ถามเท่าไหร่ๆ ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา
    หลวงปู่พาหลวงพ่อเที่ยงเดินย่ำไปในที่แห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยหมอกควันจางๆ บางๆ และพื้นดินนั้นเต็มไปด้วยเปลือกหมากแดงสุก เดินแล้วรู้สึกว่านุ่มเท้านัก จนกระทั่งไปถึงกระท่อมกลางสวนหลังหนึ่ง หลวงปู่โตท่านปรารภว่าอยู่ในนี้แหละเที่ยง อยู่ที่นี่นะอย่าไปไหน จากนั้นหลวงพ่อเที่ยงก็สะดุ้งคลายออกจากนิมิตจิตใจของหลวงพ่อเที่ยง จึงมีความคิดว่าสงสัยจะต้องอยู่ที่วัดระฆังฯ ที่นี่ไปจนสิ้นแน่แท้...แล้วท่านก็อาศัยจำพรรษาที่วัดระฆังฯ มายาวนานจวบจนปัจจุบันนี้
    หลวงพ่อเที่ยงท่านกล่าวเสมอว่า เป็นเพราะบารมีของหลวงปู่โตทำให้ท่านได้อยู่ที่วัดระฆังฯ แห่งนี้มายาวนาน จวบจนถึงวันที่ได้เป็นเจ้าอาวาส
    เรื่องราวของบารมีหลวงปู่โตนั้น มีมากมายที่จะนำเสนอเป็นตอนๆ ให้ท่านได้ศึกษา แม้แต่เรื่องของพระเครื่องรางของขลังที่ท่านสร้างตามตำนานที่ไม่เหมือนใคร ได้พยายามค้นคว้าหาตำรับตำราต่างๆ มาอ้างอิง อย่างเรื่องของพระสมเด็จอันมีนามว่า เจ้าคุณกรมท่า เป็นพระสมเด็จที่สร้างจากเนื้อผงจากประเทศจีน เรียกว่า ปูนเพชร ผู้สร้างคือ ท่านเจ้าคุณกรมท่า (ช่วง บุนนาค) ซึ่งเป็นฆราวาสเทียบเท่ากับตำแหน่งในปัจจุบันก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
    ท่านเป็นคนสนิทของกรมพระราชวังบวรฯ วังหน้า ในสมัยรัชกาลที่ ๕ มวลสารในการสร้างนั้นดีเยี่ยมยิ่งนัก และมีมวลสารจากหลวงปู่โตรวมอยู่ด้วย สร้างแล้วพระทุกองค์ลงรักปิดทองเหมือนกันหมด รูปแบบพิมพ์มีมากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมเห็นจะเป็นพระพิมพ์ใหญ่แบบทั่วไป ปัจจุบันเริ่มมีผู้นิยมสะสมมากขึ้น เพราะหลวงปู่โตท่านเป็นประธานในการปลุกเสกที่วังหน้า
    การสร้างพระสมเด็จชุดนี้เป็นเฉพาะกิจเฉพาะกาลภายในรั้วในวัง ที่คนข้างนอกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด อีกทั้งการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ด้วยแล้ว ชาวบ้านไม่อาจทราบภารกิจของผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองได้เลยเมื่อเป็นเรื่องส่วนพระองค์
    การสร้างพระชุดนี้ ท่านเจ้าคุณกรมท่าปรารถนาที่จะสร้างเพื่อนำไปบรรจุภายในวัดพระแก้ว เพราะท่านเป็นประธานเป็นแม่งานในการซ่อมวัดพระแก้ว เพื่อจะสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น พระสมเด็จชุดนี้มีทั้งแบบเป็นสีสายรุ้งหรือที่เรียกว่าเบญจรงค์ และเป็นแบบลงรักล่องชาด ซึ่งในหมู่นักสะสมพระเครื่องส่วนหนึ่งเก็บสะสมกัน สนนราคาเช่าหาบูชากันองค์ละห้าพันบาท
    วัดนรสิงห์ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ขณะนี้กำลังสร้างอุโบสถซึ่งยังขาดปัจจัยอยู่มาก ทางวัดได้รับการอนุเคราะห์จากศรัทธาญาติโยม ท่านหนึ่งได้นำเอาพระสมเด็จชุดเบญจรงค์มาถวาย เพื่อให้ทางวัดมอบเป็นของมงคลแก่ผู้ที่มาร่วมสร้างอุโบสถ หากท่านผู้อ่านสนใจเพื่อจะร่วมสร้างอุโบสถ ทำบุญเพื่อได้บุญไม่มีคำว่าวัดครึ่งกรรมการครึ่ง เพื่อเป็นการสืบทอดพระศาสนา ก็ขอเชิญได้ที่วัดนรสิงห์ ติดต่อโดยตรงกับท่านพระอาจารย์ยนต์ เจ้าอาวาส ที่โทร.08-3435-1281
    ราช รามัญ

    พระบรมรูปรัชกาลที่ 9 ปี 2539 (รุ่น 2)
    พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงชุดทหารบกครึ่งพระองค์ ผู้จัดสร้างคือ "กรมราชองครักษ์" ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต เนื่องในมหามงคลสมัยทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2539 โดยมีคุณไข่มุก ชูโต จากกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ จำนวนการสร้าง 10,000 องค์ ราคาสั่งจองขณะนั้นองค์ละ 5,000 บาท
    พระบรมรูปนี้มีการตอกหมายเลขและออกใบประกาศประจำองค์ทุกองค์ โดยมีลายเซ็นของพลเอกดำรง สักขะมณฑล สมุหราชองครักษ์ เซ็นกำกับทุกใบ พระบรมรูปรุ่นนี้เป็นที่นิยมและเสาะแสวงหาของประชาชนทั่วไป เพียงแค่เปิดจองไม่กี่วันก็มีผู้สั่งจองจนหมด สืบเนื่องจากพระบรมรูปรุ่นแรกที่สร้างเมื่อปี พ.ศ.2516 มีจำนวนน้อยและหายาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างเป็นครั้งที่ 2 ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ใน พ.ศ.2539 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นแก่ปวงชนชาวไทย
    แทนไทย เชื้อไทย
     
  14. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    เอ้า....คุณมัน คุณเผือก อยู่ไหน มาอ่านเร้ว ปกติเห็นสายตาซอกแซก วันนี้น่าจะมาอ่านสักหน่อยนะ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นักสืบโบราณแกะรอยใบขับขี่ รวบแก๊งโจรกรรมสะท้านเมือง
    http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9520000029499
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 มีนาคม 2552 13:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายสุภัทร หรือทอม เนินวิเชียร (เสื้อลายสก็อตสีฟ้า) ผู้ต้องหาที่ถูกจับเป็นรายแรก</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายณัฐ หรือโต้ง ชาหอม หัวหน้าแก๊งโดนจับที่มอเตอร์เวย์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ทรัพย์สินมีค่าของกลางที่ยึดได้จากบ้านผู้ต้องหา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายหทัย หรืออ๊อฟ ไชยวัณณ์ อายุ 38 ปี นักแข่งรถชื่อดังเจ้าของฉายา “ไอ้หมูสกปรก” หรือ “อ๊อฟซ่า” ที่เข้ามอบตัวในเวลาต่อมา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายพีรวัฒน์ หรือพี ตะวันธรงค์ โผล่มอบตัวทันทีหลัง หมูสกปรกเข้ามอบตัว</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายกีรติ หรือ เด กุมพล ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีการจับกุม</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เหยื่อแก๊งโจรกรรมเข้าดูของกลางที่ตำรวจยึดได้</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“ผมร่วมทำมาแล้ว 5 ครั้ง แต่ละครั้งก็จะได้ส่วนแบ่งประมาณ 8 แสน ถึง 1 ล้านบาท มีที่หมู่บ้านธารารมณ์ ได้ประมาณ 5 ล้าน เงินที่ได้มาผมก็จะนำไปเล่นการพนันในบ่อนที่ปอยเปต ซื้อรถ ดาวน์บ้าน ซื้อปืน เที่ยวอาบอบนวด ใช้ชีวิตท่องเที่ยวสถานที่หรูหรา” สุภัทร สารภาพหลังถูกจับเป็นคนแรก

    เหตุย่องเบาสะท้านเมือง ถูกเปิดเผยเมื่อ พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สืบสวน บก.น.4 นำหมายศาลเข้าจับกุม นายสุภัทร หรือทอม เนินวิเชียร นายณัฐ หรือโต้ง ชาหอม อายุ 32 ปี ได้พร้อมของกลางอย่างมโหฬาร ทั้งรถยนต์หรู เงินสด ทองรูปพรรณ มูลค่าทรัพย์สิน กว่า 200 ล้านบาท และยังขยายผลจนรู้ว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกคือ นายพีรวัฒน์ หรือพี ตะวันธรงค์ อายุ 23 ปี นายกีรติ หรือเด กุมพล อายุ 30 ปี และนายหทัย หรืออ๊อฟ ไชยวัณณ์ อายุ 38 ปี นักแข่งรถชื่อดังเจ้าของฉายา “ไอ้หมูสกปรก” หรือ “อ๊อฟซ่า” ที่ยังคงหลบหนี หลังจากสืบทราบว่าทั้งหมดคือแก๊งย่องเบาที่ก่ออาชญากรรม บ้านคนมีตังค์ จนได้ทรัพย์อย่างอลังการ

    ความพยายามของชุดสืบสวนที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนรู้ว่า บ้านไอ้อ๊อฟซ่า เปิดเป็นอู่ซ่อมรถ และที่สำคัญรับเฉพาะคนมีตังค์ คนไร้ทรัพย์ อย่าได้แหยมเข้ามา อยู่ย่านพระราม9 ซอย 60 จึงส่งสายสืบไปสังเกตการณ์ และแน่ใจว่าไอ้อ๊อฟ อยู่ที่นี่แน่ ๆ แต่ยังไม่ทันได้เข้าค้น ไอ้อ๊อฟเกิดไหวตัวทัน สวมวิญญาณนักแข่งขับรถสปอร์ตนิสสัน 350Z บึ่งออกมาจากอู่อย่างทันควัน และอาจหาญยิงเปิดทาง หนีไปได้อย่างหวุดหวิด

    “แค่ส่งคนไปเฝ้ายังไม่ได้ตรวจค้นอะไรเลย เพราะยังไม่ชัดว่าใช่แก๊งนี้หรือเปล่า แค่มีความเชื่อมโยง มันดันหนีไปก่อน ลูกน้องผมบอกว่าไอ้อ๊อฟยิงปืนออกมาเปิดทางหนี แต่รถตำรวจอีกคัน ที่ดักอยู่ปากซอยบอกว่าได้ยินเสียงปืนแต่ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนยิงเลยต้องถอยก่อน เดี๋ยวไปยิงกันเอง” พ.ต.อ.ปกรณ์ หัวหน้าชุดบอกเมื่อวันที่ไปล้อมจับไอ้อ๊อฟ หวังได้ตัว เพราะทางการข่าวรู้ว่าเป็นไอ้ตัวแสบคนหนึ่ง

    แต่ชุดสืบ ไม่ได้ทำงานหน้าเดียว เพราะอีกชุดก็ก็ไล่ล่ากดดัน ไอ้ณัฐ หรือโต้ง ชาหอม ได้บนถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้ากรุงเทพฯ ขณะขับรถมินิคูเปอร์ สีขาวคาดดำ ทะเบียน ฌต-7777 กทม. มุ่งหน้าเข้ากรุง แต่เมื่อค้นในรถ ชุดสืบสวนถึงกับผงะ เพราะสิ่งที่เจอคืออาวุธครบมือ ทั้งปืนสงคราม ชนิดอ็ม 79 พร้อมกระสุน ปืนกลอูซี่ ปืน 11 มม. กระสุนอีกกว่า 100 นัด เมื่อเค้นสอบจึงได้รู้ว่าทั้งรถหรูราคาแพง และอาวุธต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ใช้เงินที่ได้มาจากการปล้นไปซื้อทั้งสิ้น ถือว่าโชคดีที่มันไม่คิดสู้ ไม่งั้นคงไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น

    ส่วนไอ้อ๊อฟ หลังยิงเปิดทางหนีตำรวจชุดจับ อาศัยความสนิทสนมกับที่รู้จักมักจี่กันดีกับลูกชาย “เดอะตุ๊” พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 เมื่อครั้งยังโลดเล่นในสนามประลองความเร็ว จึงขอเข้ามอบตัวที่โคราช เมืองย่าโม ที่ตั้งของ บช.ภ.3 เพราะกลัวว่าจะถูกเด็ดหัว ก่อนที่ “รองแป๊ะ” พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. จะไปเอาตัวมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลและแถลงข่าวทันที แต่ไอ้อ๊อฟ ก็ยังปากแข็ง ลอยหน้าลอยตาบอกวันเกิดเหตุ ไม่ได้ยิงเปิดทางหนี และยิงปืนไม่เป็น แค่ขับรถออกมาแล้วได้ยินเสียงปืน และเห็นตำรวจ เลยตกใจ ขอไปตั้งหลัก เมื่อหายตกใจแล้วก็กลับมามอบตัว และบอกว่า ไม่มีส่วนรู้เห็น แค่ทำเป็นครั้งคราวเท่านั้น

    ส่วนที่เหลืออีก 2 ที่ยังหนี ตำรวจก็ยังคงกดดันและ เร่งไล่ล่าลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมวางแผนรับมืออย่างดี เพราะสายรายงาน ว่าทั้งคู่ มีอาวุธครบมือพร้อมจะตอบโต้ตำรวจได้ทุกเวลา กระทั่ง ช่วงสายของวันที่ 9 มี.ค. ไอ้พี หรือ นายพีรวัฒน์ ตะวันธรงค์ ก็ได้ติดต่อขอมอบตัวเพราะกลัวจะต้องไปเฝ้ายมบาล และทนต่อการกดดันการไล่ล่าไม่ไหว

    หากย้อนกลับไปว่าแก๊งนี้มารวมตัวกันก่อเหตุจนกลายเป็นแก๊งโจร 200 ล้าน ได้อย่างไร นั้น จากปากของ พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ยอดนักสืบแห่ง บก.น.4 เล่าว่า เริ่มจาก ไอ้อ๊อฟซ่า เจ้าของฉายาหมูสกปรก เป็นนักแข่งรถและยังมีอู่ซ่อมรถ จูนเครื่อง เป็นของตัวเอง ที่ย่านศรีนครินทร์ มีไอ้พีเป็นสมุนคู่ใจ คอยวิ่งซื้อของสัพเพเหระ ส่วน ไอ้ทอม หรือ นายสุภัทร ชอบแข่งรถและชอบแต่งรถแต่ไม่มีอู่เป็นของตัวเอง กอปรกับรู้จักไอ้อ๊อฟในสนามและรู้ว่าไอ้อ๊อฟมีอู่ จึงนำรถมาแต่ง จนสนิทสนมและมักนัดเจอเพื่อสนทนากันหลังสนามแข่งบ่อยครั้ง ไอ้โต้งเป็นอีกคนที่ชอบแต่งรถ และเอารถไปแต่งเครื่องที่อู่ของไอ้อ๊อฟ จนทั้ง 3 คนรู้จักกัน และด้วยความที่ไอ้โต้งเอารถมาแต่งที่อู่อยู่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย ไอ้อ๊อฟจึงตั้งข้อสงสัยยิ่งนักว่าเอาเงินมาจากไหนมากมาย เมื่อได้ทีจึงนัดสังสรรค์ เพื่อแกะข้อมูล จนไอ้โต้งยอมปริปาก เพราะไว้ใจและเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทว่า “ไปปล้นเขามา” และเมื่อดูแล้วว่าเพื่อนเริ่มสนใจ ไอ้โต้งเลยชักชวนเพื่อนเข้าสู่เส้นทางสายโจรทันที

    นักสืบคนเก่งยัง บอกอีกว่า เมื่อทั้งหมดรวมตัวกันเป็นแก๊งแล้ว ในการก่อเหตุทุกครั้งจะมีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจน มีการวางแผนอย่างดี ไม่มีการใช้หลักฐานของตัวเองจะใช้หลักฐานของคนอื่นที่ ไอ้โต้ง ลงมือขโมยมา เพื่อป้องกันการติดตาม โดยเมื่อเข้าหมู่บ้านเป้าหมาย จะใช้ทั้งทะเบียนรถยนต์ขโมยมาเป็นกำลัง และบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ที่ต้องใช้แลกก่อนเข้าหมู่บ้านก็ยังใช้ของคนอื่นแสดงกับ รปภ.หน้าหมู่บ้าน และแจ้งว่ามาหาคนรู้จัก ในหมู่บ้านนี้ โดยบอกชื่อคนในบ้านได้ถูกต้องเพราะวางแผนมาแล้ว ทำให้รปภ.หลงเชื่อ

    เมื่อเข้ามาได้ ไอ้อ๊อฟก็จะทำหน้าที่เลือกเป้าหมาย โดยพุ่งเป้าไปที่บ้านหรูหรา ดูดีมีฐานะ เมื่อได้ แล้วสมาชิกในแก๊งก็จะทำทีเป็นเดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน รอจนแน่ใจ ถ้าไม่มีคนมาเปิดแสดงว่าไม่มีคนอยู่ แต่นั่นก็ไม่ใช่องค์ประกอบเดียวที่ทำให้แก๊งนี้ตัดสินใจเข้าไปก่อเหตุทันที ยังมีการสังเกตใบไม่ใบหญ้าสภาพรอบ ๆ บ้านว่ารกมากแค่ไหน ตู้รับจดหมายมีจดหมายกองเต็มตู้ขนาดไหน เพราะนั่นแสดงว่าเจ้าของบ้านคงไม่อยู่เป็นเวลาหลายวันแล้ว ถือเป็นทางสะดวกที่จะลงมือ

    ไอ้โต้งจะทำหน้าที่ใช้แชลง หรือไม่ก็ไขควงงัดบ้าน ก่อนสำรวจในบ้านอย่างละเอียด ถ้ามีเซฟ ไอ้พีและไอ้เด จะเป็นคนงัดเซฟ และใช้แก๊สเป่า เพื่อเอาทรัพย์สินภายใน ส่วนไอ้อ๊อฟ หลังจากหมดหน้าที่หาเป้า ก็จะทำหน้าที่ดูต้นทาง ส่วนที่เหลือก็ช่วยกันกวาดทรัพย์สินของมีค่าในบ้านเหยื่อ ก่อนจะแบ่งคนละเท่า ๆ กัน ไอ้อ๊อฟจะเอาเงินไปแต่งรถ และเที่ยว ไอ้โต้ง ไอ้พี และไอ้เด จะเอาไปเล่นการพนัน ส่วนไอ้สุภัทรก็เล่นการพนันเหมือนกันแต่ข้ามไปเล่นในบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน และยังเที่ยวหนักกว่าคนอื่น

    เมื่อการลงมือแต่ละครั้งผ่านไปอย่างง่ายดาย เงินส่วนแบ่งที่ได้ทุกครั้งล้วนอยู่ในหลักล้าน ความย่ามใจของแก๊งนี้จึงเกิดขึ้น และลงมือโจรกรรมเงียบอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี’49 แต่หารู้ไม่ว่า ตำรวจก็กำลังแกะรอยตามล่าอยู่เหมือนกัน เพราะผู้เสียหายที่ถูกโจรกรรมเพิ่มขึ้นและมูลค่าทรัพย์สินก็หาใช่น้อยไม่

    “อาชญากรรม ทุกอย่างต้องทิ้งร่องรอยไว้เสมอ” พ.ต.อ.ปกรณ์ สั่งลูกน้องในกองสืบระดมกำลังหาข่าวอย่างเงียบ ๆ และต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการตรวจสอบรถที่เข้าออกของหมู่บ้านธารารมณ์ ที่ถูกโจรกรรมไปอย่างมโหฬารที่สุด พบว่ามีรถต้องสงสัย 2 คัน คันแรก เป็นฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน อันนี้ธรรมดาแต่ที่ไม่ธรรมดาคือติดฟิล์มดำทึบมาก ใช้บัตรประชาชนของ นายพรเทพ คุณมาศ แสดงกับ รปภ. ก่อนเข้าหมู่บ้าน คันที่ 2 เป็นรถฮอนด้า แอคคอร์ด สีบรอนซ์เทา ใช้ใบขับขี่ระบุชื่อ นายนนทชัย อัศวนนท์ ซึ่งเป็นใบขับขี่แบบชั่วคราว จึงเชิญตัวเจ้าของบัตรทั้ง 2 มาขอข้อมูล

    “จากการสอบถามปรากฏว่าหนทางเริ่มจะมืดมนเพราะเค้าลางจากใบขับขี่ของนายนนทชัย ที่ได้มานั้น เจ้าตัวระบุว่าเป็นใบขับขี่ใบนั้นเป็นแบบชั่วคราว และเจ้าตัวเอาไปเปลี่ยนเป็นใบขับขี่ตลอดชีพที่กรมการขนส่งมาแล้ว จึงเป็นที่น่าแปลกใจว่าคนร้ายแก๊งนี้ไปนำใบขับขี่ของเขามาได้อย่างไร” พ.ต.อ.ปกรณ์ บอกที่มา

    ผกก.สืบ 4 ยังบอกเส้นทางการสืบสวนอีกว่า เหมือนโชคเข้าข้าง เพราะใบขับขี่ของนายนนทชัย ที่แก๊งนี้เอาไปใช้นั้นถูกทิ้งไว้ในซอย ซอยหนึ่งย่านรามอินทรา มีเด็กเก็บได้และส่งคืนเจ้าของทางไปรษณีย์ เหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ในซอยที่พบใบขับขี่เพื่อหาเบาะแสทันที เพราะเชื่อว่าต้องมีคนร้ายที่ก่อเหตุอยู่ไม่ไกลจากซอยนั้นแน่ ๆ กระทั่งได้ข้อมูลที่สำคัญจากร้านค้าในซอยนั้น รวมถึงสถานบันเทิงในละแวกใกล้เคียง เพราะพวกมันใช้เงินกันอย่างฟุ่มเฟือย ทิปครั้งละเป็นหมื่น และยังขยายผลจนรู้ตัวคนร้ายทั้งหมดและรู้ว่ากลุ่มนี้อยู่ในขบวนการนักแข่งรถที่เปิดอู่บังหน้าด้วย เมื่อมีพยานหลักฐานชัดเจนจึงดำเนินการให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับจนจับได้เกือบทั้งหมดตามที่เป็นข่าว เหลือก็เพียงไอ้เด คนเดียวที่ยังหลบหนี ซึ่งเราจะตามจับมันให้ได้

    การสืบสวนครั้งนี้เราใช้วิธีการแบบนักสืบโบราณ จากสิ่งที่ถือเป็นหลักฐานทางคดี ไม่มีการใช้เทคโนโลยีใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ตลอดกว่า 2 เดือนที่แกะรอยจนสามารถจับกุมได้เกือบยกแก๊ง ก็ถือเป็นความภูมิใจในการทำงานด้านการสืบสวนด้วย เพราะกลุ่มคนพวกนี้ถือเป็นภัยกับสังคมอย่างยิ่ง เป็นอาชญากรตัวฉกาจที่ต้องล้างบางไม่ให้เหลือซากให้จงได้ พ.ต.อ.ปกรณ์ ทิ้งท้าย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    น้องอุ้มครับ

    จรเข้ที่น้องอุ้มให้ถามพี่ใหญ่ ตกลงเป็นจรเข้ที่หลวงปู่สุภาท่านอธิษฐานจิตครับ ดีมากครับ

    ส่วนพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามสมณโคดม ( 2 โถ) และพระบรมสารีริกธาตุ องค์พระปัจเจกพุทธเจ้า ( 1 โถ) ก็ใช่ครับ ตามที่พี่บอกไว้

    ยินดีด้วยนะครับน้องอุ้ม

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. dragonlord

    dragonlord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,541
    ขอบคุณคะ พี่หนุ่ม
    ฝากขอบคุณพี่ใหญ่ด้วยอีกคนนะคะ

     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px">พระบ้าน-พระป่า [15 มี.ค. 52 - 19:04]
    http://www.thairath.co.th/news.php?section=specialsunday03&content=127888

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ (คู่กับฉบับประมวลธรรม) ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) เริ่มพิมพ์ ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2522 จนถึงเดือน ก.ค.2551 พิมพ์เป็นครั้งที่ 11

    <O:p</O:p

    การพิมพ์ในครั้งที่ 11 (มีการชำระเพิ่มเติม ช่วงที่ 1) บางศัพท์อธิบายได้เนื้อหามากกว่าพจนานุกรม ธรรมดา ถึงขั้นน่าจะเรียกว่าสารานุกรม
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    ตัวอย่างศัพท์ อรัญวาสี ผู้อยู่ป่า พระป่า หมายถึงพระภิกษุที่อยู่วัดในป่า คู่กับคามวาสี หรือพระบ้าน ซึ่งหมายถึง พระภิกษุที่อยู่ในบ้านในเมือง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านอาจารย์พระมหาประยุทธ์ (พระพรหมคุณาภรณ์) อธิบายว่า ในพุทธกาล ไม่มีการแบ่งแยกว่า พระบ้านพระป่า และคำว่าคามวาสี-อรัญวาสี ก็ไม่มี ในพระไตรปิฎก
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในสมัยพุทธกาล พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นศูนย์รวม มีการจาริกอยู่เสมอ ภิกษุที่ยังไม่จบกิจในพระศาสนา นอกจากเสาะสดับคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ย่อมระลึกอยู่เสมอถึงพระดำรัสเตือนให้เสพเสนาสนะอันสงัดเจริญภาวนา
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...