พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) วัดสระประสานสุข บ้านนาเมือง ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ออกมาดูโลก, 30 มกราคม 2009.

  1. ภะควา

    ภะควา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +435
    สืบเนื่องจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หน้าที่ 11 วันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค. 52 ในคอลัมน์ มุมพิลึก ได้พูดถึงประตูลอดท้องช้างของวัดสระประสานสุข ว่าเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ที่จริงแล้วเป็น พระเวสสันดร นะครับ ขอแจ้งเพื่อรับทราบ ใครได้ลอดผ่านก็เป็นสิริมงคลในชีวิตแน่นอน ใครไปเที่ยวปีใหม่นี้อย่าลืมแวะไปกราบสังขารหลวงปู่ด้วยนะครับ สาธุๆๆ
     
  2. ภะควา

    ภะควา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +435
    พระสายกรรมฐานที่ชาวอุบลนับถือมากมาลองติดตามอัติชีวประวัติที่น่าอรรศจรรย์ของท่านดูครับ ***
    พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) วัดสระประสานสุข บ้านนาเมือง ต.ไร่น้อย อ.เมือง
    จ.อุบลราชธานี
    พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) นามเดิม บุญมี นามสกุล กุศลคุณ
    เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ซ.2452 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ปีระกา
    ซึ่งตรงกับวันสำคัญทางพุทธศาสนาคือ วันมาฆบูชา ณ บ้านเลขที่ 136 หมู่ 2 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง
    จังหวัดอุบลราชธานี
    โยมบิดาชื่อนายกุ โยมมารดาชื่อ นางเลื่อน กุศลคุณ
    หลวงพ่อบุญมีท่านเล่าให้ฟังถึงเหตุที่ได้ชื่อว่า บุญมี
    นั้นมีอยู่ว่าก่อนที่โยมมารดาของท่านจะตั้งครรภ์ได้ฝันว่า
    หลวงปู่สีทา ชยเสนโน ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของหลวงพ่อได้เอาพร้ามาให้ แต่พร้าด้ามนั้นเป็นสนิมไปหมด
    ในนิมิตนั้นโยมมารดาท่านได้ถามหลวงปู่สีทาว่า “เอาพร้าที่เต็มไปด้วยสนิมนี้มาให้ทำไม
    ใช้ประโยชน์อะไรก็ไม่ได้” หลวงปู่สีทาได้บอกว่า “ก็เอาไปลับเสียก่อนแล้วจะใช้การได้”
    ครั้งเมื่อหลวงปู่เกิดโยมมารดาท่านได้เจ็บท้องเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน ยังไม่คลอด ความทราบถึง
    พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ เจ้าเมืองอุบลราชธานี
    ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่สีทา ชยเสโน พระองค์ได้เสด็จมาดูพร้อมด้วย หลวงปู่สีทา ชยเสโน
    ว่าเป็นเพราะอะไรจึงคลอดยากเย็นหนักหนา
    ครั้งถึงเวลาเที่ยงตรง ในสมัยนั้นไม่มีเครื่องบอกเวลาเหมือนในปัจจุบัน
    มีการบอกเวลาโดยการยิงปืนใหญ่เป็นสัญญาณ
    พอสิ้นเสียงปืนใหญ่โยมมารดาก็คลอดทารกเพศชายออกมาเป็นเวลาเที่ยงพอดี และเสด็จในกรมทรงมีรับสั่งว่า
    “เด็กชายคนนี้ชะรอยจะเป็นผู้มีบารมีมาเกิดจะดีจะชั่วเพียงใดไม่อาจรู้ได้ ขอให้ชื่อว่า บุญมีนะ”
    และมีรับสั่งให้โยมบิดาของหลวงพ่อพันตัวแล้วนำไปลอดใต้ท้องช้างกลับไปกลับมาสามครั้ง
    หลวงพ่อจึงได้ชื่อว่า บุญมี ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา หลวงพ่อบุญมี ในวัยเด็กนั้นร่างกายของท่านบอบบางมาก
    เป็นเด็กที่เลี้ยงยาก แม้โยมมารดาได้ประคับประคอง เลี้ยงดูเป็นอย่างดี แต่ก็ยังเป็นห่วงลูกอยู่ตลอดเวลา
    เป็นคนไม่ค่อยแข็งแรง และไม่อยากให้ไปทำมาหากินจึงบอกหลวงพ่อ “ลูกเอ๋ย บวชแล้วอย่าสึกนะ”
    จากคำพูดนี้เอง ทำให้หลวงพ่อบุญมีรำลึกอยู่เสมอว่า จะเข้าสู้ร่มกาสาวพักตร์ เพื่อทดแทนพระคุณพ่อแม่
    หลวงพ่อบุญมีเข้าเรียนและจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนนาเมือง ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง
    จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2465 และสอบได้นักธรรมเอก จาก สำนักเรียนวัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม)
    อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2480
    ด้านการศึกษาพิเศษ หลวงพ่อบุญมี ได้ศึกษาอักษรขอมจนมีความรู้ความสามารถอ่านออกเขียนได้
    และยังมีความชำนาญ ในการอ่านหลังสือธรรมสมัยโบราณ
    นอกจากนั้นหลวงพ่อยังมีความสามารถทางด้านการใช้ภาษาผะหญา ภาษิตอีสาน
    เป็นอย่างดีสามารถนำเอาใช้ในการเทศนาธรรม และคำสอนของหลวงพ่อจนเป็นที่ประทับใจ
    และศรัทธาแก่ลูกศิษย์ที่ได้ฟังพระธรรมเทศนาทุกคน
    โยมมารดาได้พา หลวงพ่อบุญมี ไปฝากไว้กับ หลวงปู่สีทา ชยเสโน ทำให้ท่านได้มีโอกาสกราบนมัสการ
    หลวงปู่เสาร์ กนฺสีโล และพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งเป็นอาจารย์
    ทั้งสองได้แวะเวียนมากราบนมัสการ หลวงปู่สีทา ชยเสโน
    ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาเถระในสมัยนั้น
    เมื่อสิ้น หลวงปู่สีทา ชยเสโน โยมมารดาได้พา หลวงพ่อบุญมี ไปบรรพชาเป็นสามเณรที่ วัดศรีทอง
    และในระหว่างที่บรรพชาเป็นสามเณรนั้น พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ได้เมตตานำสามเณรบุญมี
    ไปจำพรรษากับท่านที่จังหวัดสกลนคร
    เมื่ออายุครบ 20 ปี หลวงพ่อบุญมี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดศรีทอง เมื่อวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ
    เดือน 6 ปี มะแม ซึ่งตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคม 2474 ซึ่งตรงกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา คือ วันวิสาขบูชา
    โดยมีพระเดชพระคุณ พระศาสนดิลก (เสน ชยเสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาสว่าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ
    พระอาจารย์เพ็ง เป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “โชติปาโล” อันมีความหมายว่า
    “ผู้มีแสงสว่างในธรรม”
    หลังจากอุปสมบท หลวงพ่อบุญมี ได้มีโอกาสกราบนมัสการ ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)
    ซึ่งเป็นพระเถระผู้ใหญ่ผู้มีคุณูปการต่อกิจการคณะสงฆ์ภาคอีสาน
    ซึ่งท่านได้เมตตาต่อหลวงพ่อบุญมี โดยอนุญาติให้ติตามท่านไปอยู่จำพรรษาที่ วัดบรมนิวาส และที่
    วัดเขาพระงาม จังหวัดลพบุรีด้วย
    ช่วงชีวิตสมณเพศของ หลวงพ่อบุญมี ท่านได้ออกจารึกธุดงค์ไปในสถานที่ต่าง ๆ
    ครั้งหนึ่งท่นได้ออกจารึกไปพร้อมกับท่านอาจารย์ มหาสว่าง
    ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่าน โดยจารึกไปในประเทศพม่า ลาว เขมร เวียดนาม เลยไปถึงประเทศจีน
    เมื่อกลับมาจากเมืองจีน หลวงพ่อบุญมี ท่านได้ช่วย พระอาจารย์สิงห์ สร้างวัดป่าสาละวัน อำเภอเมือง
    จังหวัดนครราชสีมาอีกวัดหนึ่ง
    นอกจากนี้ หลวงพ่อบุญมี ท่านยังได้มีศรัทธาร่วมสร้าง วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับหลวงพ่อลี
    เพื่อเป็นศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน แก่พุทธศาสนิกชน
    และยังได้ร่วมกันกับ พระอาจารย์ดี ฉันโน สร้าง วัดภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร
    จังหวัดอุบลราชธานีอีกวัดหนึ่งด้วย
    ในปี พ.ศ.2480 หลวงพ่อบุญมี ได้กลับมาที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับแต่ตั้งเป็น
    เจ้าอาวาสวัดสระประสานสุข(บ้านนาเมือง)
    ที่เป็นวัดบ้านเกิดของท่านจนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาแก่ประชาชน ชาวจังหวัดอุบลราชธานี
    และจังหวัดใกล้เคียงทั่วไป
    ทางวัดมีอาณาเขตติดต่อกับ เขตทหารอากาศ กองบิน 21
    ข้าราชการทหารอากาศได้มีศรัทธามาร่วมอุปสมบทและจำพรรษาตลอดมา
    หลวงพ่อบุญมี ได้รับสมณศักดิ์ พระครูไพโรจน์ รัตโนบล เป็นครั้งแรก ซึ่งสมณศักดิ์ พระครูรัตโนบล
    นั้นเป็นของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านได้รับเพียง 3 วัน จากนั้นได้มอบคืนให้ พระธรรมเจดีย์
    (เจ้าคุณจูม) วัดโพธิ์สมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี หลังจาก หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    แล้วก็ไม่ปรากฏว่ามีพระสงฆ์องค์ใดได้รับแต่งตั้งในสมณศักดิ์นี้อีกเลย
    จนกระทั่งปี พ.ศ.2524 สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิตร
    ได้รับสั่งกับหลวงพ่อว่าไม่มีใครเหมาะสมที่จะได้รับสมณศักดิ์ พระครูไพโรจน์รัตโนบล
    นี้เท่ากับหลวงพ่อบุญมี อีกแล้ว
    จึงได้มอบตำแหน่ง พระครูไพโรจน์รัตโนบล ให้กับหลวงพ่อซึ่งเป็นที่ หลวงพ่อบุญมี ได้รับจาก
    สมเด็จพระสังฆราช โดยไม่รู้ตัวมาก่อน
    จากนั้นได้เลื่อนมาจนถึงชั้นพิเศษ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2544 หลวงพ่อบุญมี ได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์ เป็น พระภาวนาวิศาลเถร
    หลวงพ่อบุญมี ท่านได้ละสังขารโดยอาการสงบ ท่ามกลางความอาลัย ของศิษยานุศิษย์เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน
    พ.ศ.2547 เวลา 11.45 น. มีอายุรวม 95 ปี 3 เดือน<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562
    บรรยากาศวัดสระประสานสุข ปัจจุบันครับ

    [​IMG]
    บริเวณประดิษฐานสรีระของหลวงปู่บนศาลาการเปรียญครับ


    [​IMG]

    หลวงปู่ฝากไว้ "คำสอนของหลวงปู่"


    [​IMG]
    วิหารนาคราช กลางน้ำครับ

    [​IMG]
    เจดี์พิพิธภัณฑ์ที่กำลังก่อสรา้ง ใกล้จะแล้วเสร็จครับ


    [​IMG]
    พระอุโบสถรูปเรือสุพรรณหงษ์

    [​IMG]
    พระอุโบสถอีกรอบครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PC060004.jpg
      PC060004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.7 KB
      เปิดดู:
      546
    • PC060005.jpg
      PC060005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.3 KB
      เปิดดู:
      562
    • PC060006.jpg
      PC060006.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.2 KB
      เปิดดู:
      542
    • PC060007.jpg
      PC060007.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.1 KB
      เปิดดู:
      532
    • PC060008.jpg
      PC060008.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.7 KB
      เปิดดู:
      603
    • PC060009.jpg
      PC060009.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.8 KB
      เปิดดู:
      586
  4. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    ผมเคยนึกในใจว่าอยากได้พระเครื่องของท่านไว้บูชา ต่อมาก็ได้พระสิวลีเนื้อผงรุ่นแรก ตามด้วยพระสิวลีผง พิมพ์เล็ก ในราคาไม่แพง ก็เลยทึ่งในความคิดที่เราศรัทธานับถือท่าน
     
  5. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562
    เป็นพระผงพิมพ์รูปเหมือนห้าเหลี่ยม รุ่นแรกของหลวงปู่ท่านครับผม

    สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมๆอีกต่างหาก ดีใจด้วยขอรับ

    ขอบพระคุณครับผม
     
  6. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    ผมเกิด และโตที่อุบลฯ
    ย่าและยายผมนับถือหลวงปู่มีมาก (ย่าผมเสียไปนานแล้ว)
    ตอนที่ผมเกิดได้ยังไม่เดือนย่านิมนต์หลวงปู่ท่านไปที่บ้านหน้าวัดหลวง
    หลวงปู่ได้เมตตาเหยียบหัวให้ผมตังแต่แรกเกิด
    หลวงปู่เหยียบหัวให้ผมครั้งสุดท้ายก่อนที่ท่านจะมรณภาพ 55 วัน
    ครั้งสุดท้ายที่ไปกราบหลวงปู่ มีคนกราบเต็มศาลา
    พอท่านฉันเสร็จทุกคนก็จะคลานไปรดน้ำมนต์ด้วยน้ำล้างปากท่าน
    ท่านจะกล่าวนำ แล้วพวกเราก็ว่าตาม
    พอท่านทำความสะอาดปากและฟันด้วยไม้เจีย (ทำจากไม้ทุบให้นิ่มคล้ายไม้สีฟัน)
    ผมเห็นลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้ๆท่านแบบมือขอเมตตาหลวงปู่
    ผมก็เลยแบบมือขอเมตตาท่านบ้างพลางนึกในใจว่าผมกราบท่านแต่เล็กจนอายุจะ30แล้ว(ปี46) ยังไม่เคยได้ไม้เจียท่านไว้บูชาเลย
    ปรากฎว่าท่านวางไม้เจียท่านมาวางไว้บนมือผม
    หลังจากนั้น แม่ออก (น้องสาวคนสุดท้องของหลวงปู่)ซึ่งปรกติตอนหลวงปู่ยังอยู่แกจะนั่งอยู่บนศาลา เวลาผมกลับบ้านไปกราบหลวงปู่ถ้าไม่เจอหลวงปู่ก็จะถามแม่ออกเนี่ยแหละครับว่าหลวงปู่อยู่หรือป่าวไม่ก็ไปถามที่กุฏิครูบามงซึ่งเป็นหลานหลวงปู่ที่มาบวชและเป็นพระอุปฐากหลวงปู่ ว่าหลวงปู่อยู่หรือเปล่า
    ต่อเรื่องไม้เจียของหลวงปู่ต่อ แม่ออกบอกว่าผมโชคดีมากที่ได้ไม้เจียท่าน
    เพราะหลวงปู่ท่านภาวนาตลอด และยังถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านปากองค์ท่าน
    ใช้อธิษฐานขอพรจากองค์ท่านได้ เหมือนขอพรจากหลวงปู่โดยตรง
    นอกจากนั้นยังเคยมีลูกศิษย์ นำไม้เจียของหลวงปู่มาอธิษฐานทำน้ำมนต์ขอให้หายจากโรคร้ายก็ผลปรากฎว่าเมื่อเอาน้ำมนต์มาดื่มกินโรคร้ายก็หายโดยอัศจรรย์
    ผมลืมถามแม่ออกว่าศิษย์คนนั้นเป็นโรคอะไร เข้าใจว่าเป็นโรคมะเร็ง
    ยังมีเรื่องเกี่ยวกับหลวงปู่ ที่อยากถ่ายทอดอีกมาก พรุ่งนี้มาเล่าต่อนะครับ
    ประสบการณ์ที่ผมได้รับเมตตา จากองค์หลวงปู่บุญมี โชติปาโล
    วัดบ้านนาเมือง
    "อุตตะมัง วะรังเสฐฐัง กันหัง วะรังโหตุ"
    สาธุ พระแก้ว 2 องค์ พระสงฆ์องค์ที่เชื่อ
     
  7. หลวงจีน

    หลวงจีน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    861
    ค่าพลัง:
    +1,326
    ขอกราบระลึกถึงหลวงปู่ ด้วยความเคารพยิ่ง
     
  8. ภะควา

    ภะควา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +435
    " ผมเห็นลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้ๆท่านแบบมือขอเมตตาหลวงปู่
    ผมก็เลยแบบมือขอเมตตาท่านบ้างพลางนึกในใจว่าผมกราบท่านแต่เล็กจนอายุจะ30แล้ว(ปี46) ยังไม่เคยได้ไม้เจียท่านไว้บูชาเลย
    ปรากฎว่าท่านวางไม้เจียท่านมาวางไว้บนมือผม "

    เจโต ท่านครับ สาธุ
     
  9. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    มาต่อนะครับ
    เนื่องจากตั้งแต่เรียนจบที่ขอนแก่น
    ผมเข้ามาทำงานที่กรุงเทพตั้งแต่ ปี39
    ดังนั้นช่วงตั้งแต่ปี 39-ปี47 ที่ท่านมรณภาพ
    ผมจะได้ไปทำบุญ กับหลวงปู่ช่วงที่กลับเยี่ยมบ้านที่อุบลฯ
    แทบทุกครั้ง ผมจะซื้อน้ำผึ้งไปถวาย
    บางครั้งจะมี ยาคูลท์ และถ้าเป็นหน้ามังคุดก็จะซื้อไปถวายครับ
    มีครั้งนึงผมชวนเพื่อนไปกราบหลวงปู่ด้วยกัน
    ผมเตรียมถังสังฆทานจะไปถวายสังฆทานกับหลวงปู่
    ช่วงนั้นบังเอิญห้าง Big C ที่อุบลฯเปิดใหม่ๆ
    เพื่อนผม บอกว่าแวะไปดู Big Cก่อนแล้วค่อยแวะไปหาหลวงปู่
    ผมจำต้องตามใจเพื่อน เพราะเพื่อนเป็นคนขับรถพาไป
    แต่ก็เร่งเพื่อนอยู่ตลอดเวลาว่าให้ไปกราบหลวงปู่ก่อนค่อยมาเดินก็ได้
    ในที่สุดเพื่อนรำคาญ เลยเลิกเดินห้างพาผมไปวัด
    พอไปถึงวัด ปรากฎว่าหลวงปู่ยืนอยู่ข้างรถเบนซ์ของลูกศิษย์ที่จอดอยู่หน้าศาลาที่ท่านนั่งประจำ โดยมีลูกศิษย์เจ้าของรถเบนซ์นั่งยองๆพนมมืออยู่ข้างๆ
    พอผมกับเพื่อนหิ้วถังสังฆทาน ไปใกล้ๆหลวงปู่หลวงปู่ก็ว่า
    " มัวแตไปเที่ยวเล่น การบุญบ่ฮู้จักเฮ็ด มาแมะจะได้รีบไป"
    (มัวแต่ห่วงเที่ยว การบุญการกุศลไม่รู้จัก รีบๆเข้าๆจะได้รีบไป)
    จากนั้นท่านก็พากล่าวทาน แล้วก็ให้ลูกศิษย์เอาถังสังฆทานไปเก็บบนศาลา
    พี่เจ้าของรถบอกว่านิมนต์หลวงปู่ไปเมตตาที่บ้าน ไว้วันนี้มารับตามที่นิมนต์
    หลวงปู่บอกให้รอก่อน หลวงปู่ยังไม่ขึ้นรถ หลวงปู่รอสักครู่ใหญ่แล้ว
    เนี่ยครับเป็นอีกหนึ่ง เจโตของท่าน และเมตตาที่เหลือประมาณของหลวงปู่
    คิดถึงหลวงปู่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  10. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    จากการอธิษฐานคิดถึงหลวงปู่บุญมี ผมเลยได้พระสีวลี พิมพ์นั่ง มา ๑ องค์ครับ
     
  11. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    ก่อนที่ผมจะไปสอบเรียนต่อ ป.โท
    แม่ออก(คนเดิม-น้องสาวคนเล็กท่านที่นั่งประจำบนศาลา)บอกผมว่า
    จะไปสอบให้มาขอเมตตา ให้หลวงปู่มนต์(เสก)ผ้าเช็ดหน้า
    โดยให้หาซื้อผ้าเช็ดหน้าแบบที่ผู้ชายใช้มา 1 ผืน
    แล้วให้มากราบหลวงปู่ตอนเช้า ขอเมตตาให้หลวงปู่มนต์ให้
    ถ้าหลวงปู่ถามว่าเอาไปหยัง(เอาไปทำไม) "ให้ตอบว่าเอาไปรักษาชีวิต"
    ผมก็ไปจัดการตามที่แม่ออกบอก ไปกราบหลวงปู่ตอนเช้าช่วงที่ท่านรับบาตรบนศาลา
    คลานเข้าไปเอาผ้าเช็ดหน้า ไปขอเมตตาให้หลวงปู่มนต์ให้
    หลวงปู่รับไปพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก็ถามว่า เอาไปเฮ็ดหยัง
    ผมก็ตอบว่า เอาไปรักษาชีวิตครับ
    หลวงปู่ก็ตอบว่า เออดี เอาไปพกติดตัวไปรักษาชีวิต และห้ามคลี่จากที่พับให้
    แล้วหลวงปู่ก็พับ ผ้าเช็ดหน้าแล้วยื่นกลับมาให้ผมครับ
    10 กว่าปีแล้ว ตอนนี้ผ้าเช็ดหน้าก็ยังอยู่ครับ
    ยังพกติดตัวไว้รักษาชีวิต และไม่เคยคลี่ออกตามคำสั่งหลวงปู่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2010
  12. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    บอกเป็นเคล็ดนะครับ
    สมัยหลวงปู่ยังทรงขันธ์
    แม่ออกจะปั้นเทียนขี้ผึ้งแท้หนัก 1 บาท
    ให้บูชา จำไม่ผิดเล่มละ 20 บาท
    เวลามีเรื่องจะขอเมตตาให้ท่านช่วย
    ลูกศิษย์จะไปบูชาเทียน บนศาลาที่ท่านนั่งประจำกับลูกศิษย์
    เขียนเรื่องราวทุกข์ร้อน หรือขอพรต่างๆที่ต้องการให้องค์ท่านเมตตา
    ใส่กระดาษเสร็จแล้วก็เอากระดาษมาพันเทียนไว้แล้วเอาหนังยางรัด
    เอาไปถวายหลวงปู่ให้ท่านเมตตา
    ปัจจุบันหลวงปู่มรณภาพแล้ว
    ลูกศิย์ลูกหา ผมก็ยังเห็นมีคนทำอยู่บ้างโดยเอาไปวางไว้บนพานหน้าห้องกระจกที่บรรจุสรีระองค์ท่าน ส่วนตัวผมไปทุกครั้งก็จะทำเช่นนี้ทุกครั้งโดยซื้อเทียนขี้ผึ้งหนัก1บาท
    เตรียมไปเอง โดยเขียนชื่อนามสกุล และเรื่องที่จะขอเมตตาหลวงปู่
    ผมเชื่อของผมเองว่าเมตตา ของท่านไม่มีประมาณแม้องค์ท่านจะทิ้งขันธ์ไปแล้วก็ตาม
    สาธุ พระแก้ว 2 องค์
    พระสงฆ์องค์ที่เชื่อ
     
  13. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    วันจันทร์มาเล่าต่อ
    เรื่องเกี่ยวกับองค์หลวงปู่
    ที่ผมได้ประสบมา และเรื่องเล่าต่างๆ
    ที่ได้ยินมาจาก ลูกศิษย์รุ่นเก่าๆครับ
     
  14. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    ขอบคุณครับ
     
  15. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562
    ขอบคุณที่นำเรื่องราวขององค์หลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังครับผม

    กราบหลวงปู่บุญมี กราบพระแก้วสององค์
     
  16. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกท่านด้วยครับ ผมจำปีที่ท่านละสังขารผิด
    จริงๆแล้วหลวงปู่ละสังขารปี 47 ผมจำเป็นปี 46
    แต่ที่จำได้แม่นคือวันนั้นข่าวหลวงปู่ละสังขาร ออกทางทีวี
    ทั้งวัน 2-3 รอบ พระองค์โสมเสด็จเยี่ยมหลวงปู่ส่วนพระองค์พอเสด็จกลับได้ไม่นาน
    หลวงปู่ก็ละสังขาร
     
  17. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    ครั้งหนึ่งผมกลับบ้านโดยรถทัวร์ถึงอุบลฯราว 8 โมงเช้า
    พอรถเข้าที่ท่านครชัยแอร์ ผมก็จ้างรถพาไปวัดหลวงปู่ต่อเลย
    เพื่อไปทำบุญกับหลวงปู่ (เอาน้ำผึ้งและยาไพลสดสำหรับนวดไปถวาย)
    ถึงที่วัด ไปที่ศาลาที่หลวงปู่นั่งอยู่ประจำ หลวงปู่กำลังฉัน
    ผมจึงเข้าไปกราบอยู่ใกล้ๆ เพื่อรอหลวงปู่ฉันเสร็จจะได้ทำบุญกับหลวงปู่ต่อ
    ระหว่างที่รอ ผมเริ่มรู้สึกหิวข้าว
    ทันใดนั้นเอง หลวงปู่ก็โยนข้าวเหนียว 1 ปั้นและกระดูกหมูทอด 5-6 ชิ้น
    ให้ผม ตรงหน้า พอดีผมนั่งใกล้ๆหลวงปู่
    แล้วหลวงปู่ก็ บอกผมว่า " กินซ่ำแหมะ"(กินซะสิ)
    วันนั้นผมเลยไม่ต้องหิ้วท้อง กลับไปกินข้าวที่บ้าน
    สาธุ พระแก้วสององค์ พระสงฆ์องค์ที่เชื่อ
     
  18. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562
    คุณสุรเทพโชคดีมากครับ ได้กราบหลวงปู่ตั้งหลายครั้ง

    แต่ละครั้งเจอประสบการณ์ "เจโตฯ" ขององค์ท่านอีกต่างหากครับ

    กราบพระแก้วสององค์ กราบหลวงปู่บุญมีครับ
     
  19. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    ขอบคุณครับ
    ไว้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่าทำไมหลวงปู่ไม่ให้เอาดอกไม้ไหว้รูปหล่อท่าน
    และเคล็ดการขอเกศาท่านสมัยที่ท่านดำรงค์ขันธ์อยู่
     
  20. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,924
    การที่หลวงปู่ไม่ให้เอาดอกไม้สดมาไหว้รูปเหมือนหลวงปู่
    ตอนหลวงปู่ยังทรงขันธ์อยู่ผมก็ไม่กล้าถาม
    เมื่อสิ้นหลวงปู่แล้วผมจึงถามครูบามงคล
    พระหลานชายผู้อุปฐากหลวงปู่
    ครูบามงบอกว่า
    หลวงปู่ว่าดอกไม้สดเดี๋ยวมันก็เหี่ยว
    การไหว้ การกราบเมื่อเรา พนมมือก็คือดอกบัว
    กราบลงไปครั้งที่หนึ่ง ก็ระลึกถึงคุณพระพุทธ
    กราบครั้งที่สอง ก็ระลึกถึงคุณพระธรรม
    กราบครั้งที่สาม ก็ระลึกถึงคุณพระสงฆ์
    กราบครั้งที่สี่ก็รำลึกถึงคุณ มารดา บิดา
    กราบครั้งที่ห้าระลึกถึงคุณครูอุปฌาย์ อาจารย์ ผู้มีพระคุณฯ
    หรือ อีกนัยหนึ่งหลวงปู่ท่านไม่สอนเน้นให้บูชา พระรัตนตรัยด้วยอามิสบูชา
    แต่เน้นการปฏิบัติบูชา
    สาธุ พระแก้วสององค์ พระสงฆ์ องค์ที่เชื่อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...