พยากรณ์กรรม โดยยึดหลักธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'บริการรับดูดวง' ตั้งกระทู้โดย รัตนชาติ, 7 มีนาคม 2011.

  1. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    วินัยในทางพระก็คือศีล เราจะต้องเป็นผู้มีศีล พระท่านก็บอกแล้วว่าศีลทำ�ให้เกิดโภคทรัพย์ ... ศีลทำ�ให้เกิดความสุข ... ศีลทำ�ให้พ้นทุกข์
    ต้องถามว่าเราควบคุมตัวเองได้มั้ย? ถ้าควบคุมตัวเองได้ แล้ว
    เราเป็นคนที่เมื่อโกรธแล้วกำ�หนด “โกรธหนอ” เป็นมั้ย?
     
  2. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง ถ้าว่างไม่มีอะไรทำ�ก็ให้กำ�หนดสติ
    เกิดมาใหม่ๆ มันก็ต้องรู้จักพึ่งพาคนอื่นเป็น
    เมื่อพึ่งพาคนอื่นได้พอสมควรแล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะพึ่งตนเอง
    ต้องรู้จักทำ�งานเป็นทีม ด้านไหนที่เราไม่ถนัด ก็ต้องรู้จักดึงคนที่เขาถนัดมากกว่าเรามาทำ�งาน
    คือคนเราไม่จำ�เป็นต้องเก่งทุกเรื่อง เหลือไม่เก่งไว้บ้าง เพื่อจะได้มีเพื่อน เก่งทุกเรื่องก็ไม่มีเพื่อน
    เราต้องมีเป้าหมายว่าในชีวิตเราแต่ละคนก่อนจะตาย เราต้องเป็นที่พึ่งของใครได้บ้าง
     
  3. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    เราต้องมีนิสัยที่เรียกว่าเป็นคนกัดไม่ปล่อย
    กัดไม่ปล่อยไม่ได้แปลว่าไปหาเรื่องใครแล้วกัดเขาจนขนติดปากมาเลยนะ
    กัดไม่ปล่อยในที่นี้หมายความว่าเมื่อเราทำ�อะไรแล้ว ต้องทำ�จริง ทำ�จนรู้เรื่องเลย!!
    ถ้าเรายังไม่เห็นมรรคเห็นผลจากการเดินจงกรม-การทำ�วิปัสสนากรรมฐาน เราก็มาเดินมันสัก ๗ ปี .. ให้เวลา ๗ ปีว่าจะรู้เรื่องมั้ย? ...
    ถ้าไม่รู้เรื่องก็เลิกไปเลย มันต้องเอาให้จริง ไม่ใช่มาเดิน ๒ วันแล้วบอกไม่เห็นรู้เรื่องเลย!
    เพราะเรายังไม่รู้ลึกซึ้ง จะไปตัดสินยังไม่ได้ ต้องเอาจริงทำ�อะไรทำ�ให้จริง
    อย่าล้มเลิกกลางคัน เขาเรียกคนที่มีนิสัยกัดไม่ปล่อย
     
  4. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    ผู้หญิงเขามีคำ�กระทบกระแทกแดกดันเอาไว้ ...
    เขาว่าผู้หญิงตอนอายุ ๑๕-๒๕ เปรียบเสมือนลูกฟุตบอล มีผู้ชาย ๒๐ คนวิ่งไล่ตาม -- เนื้อหอมใช่มั้ย?
    พออายุ ๒๕-๓๕ เปรียบเสมือนลูกบาส เหลือผู้ชาย ๑๐ คนวิ่งไล่ตาม ... คนมันเริ่มน้อยลงแล้วนะ!
    พออายุ ๓๕-๔๕ เปรียบเสมือนลูกปิงปอง มีผู้ชาย ๒ คนคอยตีให้พ้นตัว ... บอกแกเอาไป ... อีกคนบอกแกเอาไป แฟนใหม่แฟนเก่าเกี่ยงกัน
    พออายุ ๔๕-๕๕ ขึ้นไป เปรียบเสมือน “ลูกกอล์ฟ” เหลือผู้ชายแค่คน
    เดียวตีไปให้ไกลที่สุด ... ลงหลุมเลยได้ยิ่งดี
    รู้อย่างนี้แล้วเราอย่าไปยอมจำ�นนต้องสร้างภาพตัวเองว่าอีกสิบปีข้างหน้า เราเป็นคนที่มีภูมิรู้ภูมิธรรมเพิ่มขึ้น เราเป็นคนที่หน้าอ่อนเยาว์กว่าวัยขึ้น เราเป็นคนที่แข็งแรงขึ้น
    หัดออกแบบให้ตัวเอง ไม่ใช่ว่าเรามองภาพข้างหน้าอีกสิบปีเราเป็นลูกกอล์ฟแล้ว ไม่ต้องดูแลตัวเอง ถ้างั้นก็เตรียมหาหลุมไว้เลย
     
  5. ธาติแท้

    ธาติแท้ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +5
    Have not seen anything at all related
     
  6. arisara70

    arisara70 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    รบกวนอีกทีค่ะ
    จะถามเรื่อง
    1.หนี้สินว่าจะสามารถใช้ให้หมดไปได้เมื่อไร
    2.การงานจะเปลี่ยนงานที่ทำอยู่ดีหรือไม่
    3.การปฏิบัติธรรมที่เหมาะกับตนเองค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  7. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> DanielK[FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เพื่อนยืมเงินไปแสนกว่า ท้วงถามทุกเดือนแต่ยังไม่ได้คืน อยากทราบว่าจะหนี้จะสูญ หรือ จะได้คืน ครับ มีวิธีแก้ให้ได้เงินคืนไหมครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]สมัครงานไหม่ สัมภาษณ์แล้ว ต่อรองเรื่องเงินเดือนกันอยุ่ อยากทราบจะได้เปลี่ยนงานไหมครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]เรื่องหนี้สินใกล้ ๆ วันเกิดลองดูใหม่นะค่ะ ให้คุณสมาทานศีล5 สวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตาให้ทรัพย์ของแผ่นดิน ให้สกุลเงินตรา เหรียญ ธนบัตร เอกสารสัญญา ให้พระแม่ธรณี และลูกหนี้ของคุณ กรวดน้ำลงดิน ขอให้ได้เงินคืน[/FONT]
    [FONT=&quot] สำหรับการงานของคุณก็เช่นกัน ใกล้วันเกิดหรือหลังวันเกิดไปแล้วถึงจะดีขึ้น ให้คุณสวดมนต์ธัมจักร พระปริตร พาหุง อิติปิโส ชินบัญชร พระโพธิสัตว์กวนอิม ถือศีล กินเจ ขอพรให้ท่านช่วย[/FONT]
     
  8. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> DanielK[FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เพื่อนยืมเงินไปแสนกว่า ท้วงถามทุกเดือนแต่ยังไม่ได้คืน อยากทราบว่าจะหนี้จะสูญ หรือ จะได้คืน ครับ มีวิธีแก้ให้ได้เงินคืนไหมครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]สมัครงานไหม่ สัมภาษณ์แล้ว ต่อรองเรื่องเงินเดือนกันอยุ่ อยากทราบจะได้เปลี่ยนงานไหมครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]เรื่องหนี้สินใกล้ ๆ วันเกิดลองดูใหม่นะค่ะ ให้คุณสมาทานศีล5 สวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตาให้ทรัพย์ของแผ่นดิน ให้สกุลเงินตรา เหรียญ ธนบัตร เอกสารสัญญา ให้พระแม่ธรณี และลูกหนี้ของคุณ กรวดน้ำลงดิน ขอให้ได้เงินคืน[/FONT]
    [FONT=&quot] สำหรับการงานของคุณก็เช่นกัน ใกล้วันเกิดหรือหลังวันเกิดไปแล้วถึงจะดีขึ้น ให้คุณสวดมนต์ธัมจักร พระปริตร พาหุง อิติปิโส ชินบัญชร พระโพธิสัตว์กวนอิม ถือศีล กินเจ ขอพรให้ท่านช่วย[/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> noodeel
    1. [FONT=&quot]กิจการงานส่วนตัวที่ขาดทุนตลอด[/FONT] 2. [FONT=&quot]เรื่องหนี้สินที่ต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจะใช้หมดเมื่อไหร่ และไม่อยากหาหนี้มาเพิ่มอีกแล้ว[/FONT]
    3. [FONT=&quot]เรื่องคดีความ[/FONT] 4. [FONT=&quot]เรื่องความรักที่ไม่สมหวัง[/FONT]
    [FONT=&quot] สิ่งที่คุณต้องประสบกับปัญหาต่างๆ เป็นวิบากกรรมที่คุณได้กระทำไว้ คุณจะมีทุกข์เรื่องความรัก เรื่องความมั่นคง หนี้สิน คนรักคบกันไม่นานก็เลิกรา จากกันไป[/FONT] [FONT=&quot]ระแวงสงสัยคู่ วิตกกังวล คิดมากเรื่องคู่ ส่วนหนี้สินก็พัวพันกับเรื่องคู่ด้วย คุณก็ต้องปฏิบัติพื้นฐาน สมาทานศีล5 สวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตา ขออโหสิกรรม อธิษฐาน ทำบ่อย ๆ ทำบุญใส่บาตรทุกวัน ซื้อที่ดินถวายวัด ชำระหนี้สงฆ์ ขอขมาพระรัตนตรัย บิดามารดา ผู้มีพระคุณ ระวังความคิด คำพูด การกระทำ บวชเนกขัมมะ สวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น พาหุง อิติปิโส พระปริตร คาถาเงินล้านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือหลวงพ่อปาน ก่อนใส่บาตรทุกวัน หรือว่างเมื่อไหร่ก็สวดได้เรื่อย ๆ[/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]น้องผ้าห่ม[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    1.[FONT=&quot]เรื่องกรรมในอดีตชาติที่ยังแก้ไม่หมด[/FONT] 2.[FONT=&quot]เจ้ากรรมนายเวร[/FONT] 3.[FONT=&quot]เรื่องงานที่เหมาะแก่ตนเองครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]เรื่องกรรมแก้ไม่ได้นะค่ะ เพียงแต่คุณต้องสร้างกุศลให้มาก ๆ แล้วชดใช้กรรมที่ทำไว้ แม้แต่พระพุทธเจ้ายังต้องชดใช้ กรรมใดที่เคยทำไว้หนีไม่ได้ ยังไงก็ไม่พ้น กรรมของคุณก็มีเรื่องคู่ ญาติผู้ใหญ่ การเงิน ให้ระวังเรื่องคำพูดด้วย สวดมนต์ ภาวนาบ่อย ๆ ทำวิปัสสนากรรมฐาน ทำบุญเกี่ยวกับหนังสือ สื่อพิมพ์ต่างๆ ถวายเทียนบ่อย ๆ อย่าใจร้อน ปฏิบัติสมาธิให้มากๆ
    [/FONT]

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> kotak50[FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] อยากรู้ เรื่องการงาน การเงิน โชคลาภว่าเป็นอย่างไร[/FONT] [FONT=&quot]ตอนนี้ และต่อไปจะดีขึ้นหรือไม่อย่างไร[/FONT]
    [FONT=&quot]ใอไรที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง หรือไม่ และต้องแก้ไขอย่างไร[/FONT] [FONT=&quot]และอื่นๆ ขอขอบคุณมากๆๆเลยครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ปีนี้ก็ดีนะค่ะ การเงิน มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ปีหน้าควรระวัง ให้หมั่นทำบุญใส่บาตร สมาทานศีล5 สวดมนต์ ทำสมาธิ ถวายสังฆทาน ธูป เทียน ดอกไม้ ผ้าไตร สวดมนต์ พาหุง อิติปิโส พระปริตร แผ่เมตตา กรวดน้ำ อธิษฐานจิด ทำบุญปล่อยสัตว์บ่อย ๆ งดเนื้อสัตว์ทุกวันเกิดหรือวันพระก็ได้นะค่ะ ขอขมาพระรัตนตรัย บิดามารดา ผู้มีพระคุณ ถ้าเคยล่วงเกินด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ขออโหสิกรรม[/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> pupaka
    [FONT=&quot]ดูเรื่องครอบครัว (กำลังมีปัญหา และต้องการหย่าร้างเพื่อความสุขของบั้นปลายชีวิตที่สงบสุข)[/FONT] [FONT=&quot]การเงิน[/FONT] [FONT=&quot]การงาน[/FONT] [FONT=&quot]และการแก้กรรมของตนเองค่ะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าคุณมีส่วนในการรับรู้เรื่องการทำแท้ง ด้วยวจีกรรม ขอให้คุณทำบุญให้เค้าได้ไปเกิดกับคนที่พร้อม และอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้น ทำบุญมูลนิธิเด็ก สมาทานศีล5 สวดมนต็ ทำสมาธิ แผ่เมตตาให้ทรัพย์ของแผ่นดิน สกุลเงินตรา เหรียญ ธนบัตร เอกสารสัญญา แผ่เมตตาให้คู่ ให้ครอบครัว อย่าจองเวรหรือพยาบาทต่อกัน หมั่นทำบุญใส่บาตรให้คู่ของคุณและตัวคุณเอง สวดมนต์ธัมจักร พาหุง อิติปิโส สวดบทมงคลสูตร องคิมาลสูตร โมรปริตรสูตร โพชณงค์ อาฏานาฏิยะ ปล่อยสัตว์ เช่น โค-กระบือ ปลาไหล แผ่เมตตาให้ท่านพญานาคราช เจ้าสมุทร พระแม่คงคา พระแม่ธรณี ถวายดอกไม้ ของหอม และชีวิตจะดีขึ้น เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ทุกคนมีวิบากกรรมต้องชดใช้ค่ะ ขอให้ใช้สติพิจารณา อย่าใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสินปัญหานะค่ะ[/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot][/FONT]tawan2008
    1.[FONT=&quot]เรื่องงาน[/FONT] [FONT=&quot]กลุ้มสุดๆ เลยตอนนี้ ทำไม่ทัน[/FONT] 2.[FONT=&quot]เรื่องเงิน[/FONT] [FONT=&quot]มีใช้ไปวันๆ เงินอนาคตทั้งนั้น[/FONT] 3.[FONT=&quot]บริวาร[/FONT] [FONT=&quot]อยากมีบริวาร[/FONT] [FONT=&quot]ธุรกิจจะได้รุ่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]ใจเย็นๆ นะค่ะ อย่าใจร้อน ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณต้องเปลียนแปลงตนเองไปในทางที่ถูกที่ควร ชีวิตจะดีขึ้น คุณใส่บาตรทุกวัน สมาทานศีล5 สวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตา และอธิษฐานจิต ทำอะไรไม่ร้อนรน มีสติตลอด ตั้งต้นใหม่ ค่าใช้จ่ายอะไรไม่จำเป็น อะไรจำเป็น คิดก่อนใช้ วางแผนชีวิต การงาน การเงิน จัดสรรเวลาที่มี ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ ปล่อยปลาบ่อย ๆ ทุกวันเกิดหรือวันพระ ถือศีล งดเนื้อสัตว์ด้วยจะยิ่งดีค่ะ[/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> gerard300[FONT=&quot][/FONT]
    1. [FONT=&quot]ตามดวงชะตาจะมีลาภลอยจากการเสี่ยงโชคบ้างรึป่าวคะ[/FONT]
    2. [FONT=&quot]ถ้ามีลูกจะดีรึป่าวคะทุกวันนี้ยังตั้งตัวไม่ได้ แต่มีคนบอกว่าถ้ามีลูกจะพารวย ยังงงๆ อยู่ค่ะ[/FONT]
    3.[FONT=&quot]ตามดวงแล้วเป็นคนมีเงินไม่ได้จริงรึป่าวคะ แบบว่าจะเก็บเงินไม่อยู่[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เรื่องของการเงินคุณต้องระวังคำพูด ถ้าคุณเคยพูดอย่างไรไว้คุณต้องรับผิดชอบคำพูดนั้น คุณลองคิดดูกับคุณพ่อ กับปัญหาการเงิน กระเป๋าสตางค์ของคุณก็ต้องดูแลอย่างดี วางในที่สูง อย่าทิ้งข้วาง ให้สวดมนต์หลวงพ่อปานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ คาถาเงินล้านบ่อย ๆ และวางแผนการใช้เงิน ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ฝากบัญชีที่ลืมไปเลยไว้ 1 บัญชี ไม่ถอนออก ถ้าคุณต้องการมีเงินมาก ๆ คุณต้องหมั่นทำทานนะค่ะ [/FONT]


     
  9. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]หมูกระป๋อง[/FONT]
    [FONT=&quot]อยากทราบเรื่องกรรมของตัวเองบ้างค่ะ[/FONT] [FONT=&quot]ขอคำแนะนำในการทำบุญปฏิบัติตนให้เหมาะสม เพื่อสร้างกุศลลดกรรมให้กับตนเองด้วยค่[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ก่อนอื่นก็ให้ปฏิบัติพื้นฐานนะค่ะ สมาทานศีล5 สวดมนต์ ทำสมาธิ ทุกวันเช้า-เย็นหรือก่อนนอน เรื่องของกรรมก็เป็นเรื่องคู่ คนรัก กับเรื่องบริวาร เรื่องลูก ถ้าไปรับรู้เรื่องการทำแท้ง ก็ให้ทำบุญให้เค้า ให้เกิดกับคนที่พร้อม ให้มีภพภูมิสูงขึ้น ทำบุญมูลนิธิเด็ก คนชรา รพ.สงฆ์ [/FONT]
    [FONT=&quot] เรื่องสุขภาพกับการเงิน ของตนเองและคู่[/FONT] [FONT=&quot]หมั่นให้ทานบ่อย ๆ ทำบุญใส่บาตรทุกวัน สวดมนต์ชินบัญชร พาหุง อิติปิโส พระปริตร พระโพธิ์สัตว์เจ้าแม่กวนอิม ถวายน้ำ ธูปเทียน ดอกไม้ ปัจจัย ไปวัดก็ซื้อที่ดิน อิฐ หิน ปูน ทราบ กระเบื้อง ชำระหนี้สงฆ์ หรือสร้างโบสถ์ วิหาร ห้องน้ำ ทำบุญอะไรก็แผ่เมตตา อธิษฐานจิต ถ้าเคยสร้างกรรมกับผู้ใดหรือผิดศีลข้อหนึ่งข้อใดกับใครก็แล้วแต่ ก็ขออโหสิกรรม ต่อกัน อย่าจองเวรหรือพยาบาทต่อกันและกันเลย [/FONT]
     
  10. มารีจัง

    มารีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2007
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +351
    เรียนคุณ ปัตจะตัง รบกวนถามค่ะ
    1.สอบถามเรื่องการเงินค่ะ มีปัญเงินไม่พอใช้ต้องเป็นหนี้ทุกเดือน ต้องทำอย่างไรคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
    2.เรื่องคู่ครอง จะมีโอกาสมีคู่หรือเปล่าคะ หรือมีคู่อุปถัม หรือเปล่าคะ
    ขอบพระคุณค่ะ
     
  11. gerard300

    gerard300 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอบคุณอีกทีค่ะ คุณปัตจะตัง
    วันนี้จะเริ่มสวดมนต์แล้วค่ะหลังจากไม่ได้สวดมานาน
    (สวดสะสมบุญไว้ ดีกว่ามานั่งอยุ่เฉยๆ แล้วรอว่าเมื่อไหร่
    เรื่องดีๆ จะเข้ามา) ขอบคุณที่เตือนสตินะคะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สำหรับพระธรรมคำสอน
    ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ ขอให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ สาธุ

    รบกวนถามคุณปัตจะตังอีกอย่างค่ะ การให้ทานที่คุณแนะนำให้ทำบ่อยๆ
    หมายถึงทานทุกรุปแบบรึปาวคะ หรือว่าเป็นการบริจาคทาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2011
  12. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93

    สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะที่มีเกิดดวงตาเห็นธรรม ถ้าเราใช้เวลาคิดได้ว่าจะทำ แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ จะเห็นผลได้อย่างไร เราต้องเป็นที่พึ่งของตนเองให้ได้ ค่อย ๆ ทำทุกวันสะสมบุญบารมี วันนี้ก็จะเป็นวันเก่าของวันพรุ่งนี้ ที่คนเค้าชอบพูดว่ามีบุญเก่ามา ก็คือตรงนี้แหละ เราต้องทำทุกวัน ได้ตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้าออกได้ยิ่งดี มาเสียเวลากับการสร้างกุศลดีกว่า การที่เรามาคิดทุกข์ใจกับปัญหา ก็เท่ากับเราสร้่างอกุศลให้ตนเอง ไม่เมตตาตนเอง ไม่ช่วยตนเอง ตัวเรารู้ปัญหาของตัวเราเองดีที่สุดว่ามันเป็นอย่างไร เกิดขึ้นเพราะอะำไร ถ้าเรามีสติและคิดพิจารณาให้ดีทุกสิ่งเกิดจากผลที่เรากระทำแล้วทั้งสิ้น เพียงแต่เราคิดไม่ทัน บางทีก็อาจเป็นชาตินี้ที่ทำ หรืออดีตที่ทำ บางทีเราเพิ่งพูด เพิ่งคิด เพิ่งทำ แป็บเดียวมาถามอีก เราก็จำไม่ได้ บางทีก็ได้แต่ไม่เหมือนครั้งแรก
    ที่แนะนำให้ทุกคนปฏิบัติตามพื้นฐานก่อน คือ สมาทานศีล 5 สวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตา อธิษฐานจิต ทุกวัน เป็นการปูพื้นฐาน แล้วลำดับต่อไปเราจะค่อยๆ คิดได้เองว่าต้องทำอะไร ฟังธรรม อ่านหนังสือธรรมมะ หรือสื่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับธรรมมะ เราก็จะได้เพิ่มปัญญามากขึ้น บวกกับการปฏิบัติพื้นฐานที่บอก การนั่งสมาธิก็จะดีขึ้น นี่คือปัญญาที่เกิดจากการนั่งสมาธิ ที่พระุพุทธเจ้าท่านให้ มีศีล สมาธิ ปัญญา เราจะร้องอ๋อทันทีว่า พระธรรมคำสอนของท่านที่ตรัสรู้มานั้นมันจริงแท้แน่นอนอย่างไร เราจะมีความศรัทธาในพระรัตนตรัยและเชื่อในคำสอนของท่าน ค่อย ๆ สะสมไป
    ทานอะไรก็ได้ตามแต่สะดวก ตนเองไม่เดือดร้อน ผู้อื่นไม่เดือดร้อน สังคมไม่เดือดร้อน ไม่กระทบใคร ผู้ให้พร้อม ผู้รับพร้อม
    สิ่งที่ตนเองตั้งใจที่ตั้งกระทู้นี้ ก็หวังว่าถ้าแม้มีเพียงคน 1 คน ที่นำไปปฏิบัติ และเป็นที่พึ่งของตนเองได้ โดยใช้หลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต และเป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้
    เราก็ไม่ต้องเที่ยวไปดูดวง ให้ผู้อื่นช่วย เราต้องทำใจยอมรับการชดใช้จากวิบากกรรมทั้งกุศลและอกุศลที่ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุมาแล้วทั้งสิ้น ชดใช้และสร้างกุศลแทนที่จนน้ำที่เค็ม จืดลงเรื่อย ๆ เราก็จะสามารถดื่มน้ำนั้นได้
    เราไม่ต้องไปแก้กรรมที่ไหนหรอก ไม่ต้องหนีกรรม เพราะยังไงก็หนีไม่พ้น ทำอะไรไว้ กาย วาจา ใจ ทุกอย่างมีผลต้องรับผิดชอบเองทั้งสิ้น เราจึงต้องมีศีล มีสติ เพราะเราจะแยกแยะผิด ถูก และคุมได้ว่า ไม่ให้ทำผิด อกุศลก็ไม่เกิด ทำแต่สิ่งดี พูดแต่สิ่งดี คิดแต่สิ่งดี กุศลก็เกิด (ไว้จะเอาบุพกรรมของพระพุทธเจ้ามาเล่าสู่กันฟัง จะได้ทราบว่าแม้พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้แล้ว ก็แก้กรรมไม่ได้ หนีกรรมไม่พ้น หรือพระอัครสาวกเบื้องซ้าย พระโมลลัลนะ ก็ต้องชดใช้กรรมก่อนถึงจะสำเร็จอรหัตผล จะใช้ฤทธิ์หนีอย่างไร ก็ต้องชดใช้ก่อน กรรมนั้นจึงจะสิ้นสุด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤษภาคม 2011
  13. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    [FONT=&quot]phodej-ขอชื่อ-นามสกุล และ เวลาเกิดด้วยนะค่ะ[/FONT]
     
  14. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    เศษวิบากกรรมของพระพุทธเจ้า

    การทำทุกรกิริยาอยู่ถึง ๖ พรรษา ชื่อว่า ทำทุกรกิริยา.
    ในกาลแห่งพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีต พระโพธิสัตว์บังเกิด
    เป็นพราหมณ์มาณพชื่อว่า โชติปาละ โดยที่เป็นชาติพราหมณ์จึงไม่เลื่อม
    ใสในพระศาสนา เพราะวิบากของกรรมเก่าแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
    เขาได้ฟังว่า พระผู้มีพระภาคเจ้ากัสสปะ. จึงได้กล่าวว่า การตรัสรู้ของ
    สมณะโล้นจักมีมาแต่ที่ไหน การตรัสรู้เป็นของที่ได้โดยยากยิ่ง เพราะ
    วิบากของกรรมนั้น พระโพธิสัตว์นั้นจึงได้เสวยทุกข์มีนรกเป็นต้นหลาย
    ร้อยชาติ ถัดมาจากพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นนั่นแหละ เขาทำ
    ชาติสงสารให้สิ้นไปด้วยกรรมที่ได้พยากรณ์ไว้นั้นนั่นแล ในตอนสุดท้าย
    ได้อัตภาพเป็นพระเวสสันดร จุติจากอัตภาพนั้นแล้วบังเกิดในภพดุสิต.
    จุติจากภพดุสิตนั้นด้วยการอาราธนาของเหล่าเทวดา บังเกิดในสักยตระกูล
    เพราะญาณแก่กล้าจึงละทิ้งราชสมบัติในสกลชมพูทวีปเสีย แล้วตัดกำ
    พระเกศาให้มีปลายเสมอกัน ด้วยดาบที่ลับไว้อย่างดี ที่ฝั่งแม่น้ำอโนมานที
    รับบริขาร ๘ อันสำเร็จด้วยฤทธิ์ซึ่งเกิดขึ้นกลีบปทุม ในเวลาที่กัปยังตั้ง
    อยู่ซึ่งพระพรหมนำมาให้แล้วบรรพชา เพราะญาณทัสสนะคือพระโพธิ-
    ญาณยังไม่แก่กล้าก่อน จึงไม่รู้จักทางและมิใช่ทางแห่งความเป็นพระ-
    พุทธเจ้า เป็นผู้มีสรีระเช่นกับเปรตผู้ไม่มีเนื้อและเลือด เหลือแต่กระดูก
    หนังและเอ็น ด้วยอำนาจที่บริโภคอาหามื้อเดียว คำเดียว เป็นผู้เดียว
    ทางเดียว และนั่งผู้เดียว บำเพ็ญทุกรกิริยามหาปธานความเพียรใหญ่
    โดยนัยดังกล่าวไว้ในปธานสูตรนั่นแล ณ อุรุเวลาชนบทถึง ๖ พรรษา.
    พระโพธิสัตว์นั้นนึกถึงทุกรกิริยานี้ว่า ไม่เป็นทางแห่งการตรัสรู้ จึงกลับ
    เสวยอาหารประณีตในคาม นิคม และราชธานี มีอินทรีย์ผ่องใส มี
    มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ครบบริบูรณ์ เสด็จเข้าไปยังโพธิมัณฑ์โดยลำดับ
    ชนะมารทั้ง ๕ ได้เป็นพระพุทธเจ้า.
    ก็ในกาลนั้น เราได้เป็นพราหมณ์ชื่อ โชติปาละ ได้กล่าว
    กะพระกัสสปสุคตเจ้าว่า การตรัสรู้ของสมณะโล้นจักมีนาแต่
    ไหน การตรัสรู้เป็นของได้ยากยิ่ง.
    เพราะวิบากของกรรมนั้น เราจึงต้องทำทุกรกิริยามากมาย
    อยู่ที่ตำบลอุรุเวลาถึง ๖ ปี จากนั้น จึงได้บรรลุพระโพธิญาณ.
    เราไม่ได้บรรลุพระโพธิญาณอันสูงสุดโดยหนทางนั้น เรา
    ถูกกรรมเก่าห้ามไว้ จึงได้แสวงหาโดยทางผิด.
    การกล่าวโทษ
    การกล่าวยิ่ง คือการคำว่า ชื่อว่า อัพภักขานะ. ได้ยินว่า ใน
    อดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลศูทร เป็นนักเลงชื่อ มุนาฬิ ผู้ไม่
    มีชื่อเสียง ไม่มีความชำนาญอะไรอาศัยอยู่. ครั้งนั้น พระปัจเจกพุทธ-
    เจ้านามว่า สุรภิ มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากไปถึงที่ใกล้ของเขาด้วยกิจ
    บางอย่าง. เขาพอเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้านั้นเท่านั้น ได้ด่าว่าด้วยคำ
    เป็นต้นว่า สมณะนี้ทุศีล มีธรรมลามก. เพราะวิบากของอกุศลนั้น เขา
    จึงได้เสวยทุกข์ในนรกเป็นต้น หลายพันปี ในอัตภาพครั้งสุดท้ายนี้ ใน
    ตอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในภพดุสิต พวกเดียรถีย์ปรากฏขึ้น
    ก่อน เที่ยวแสดงทิฏฐิ ๖๒ หลอกลวงประชาชนอยู่นั้น จึงได้จุติจาก
    ดุสิตบุรี บังเกิดในสกุลสักยราช แล้วได้เป็นพระพุทธเจ้าโดยลำดับ.
    พวกเดียรถีย์เสื่อมลาภสักการะ เสมือนหิ่งห้อยในตอนพระอาทิตย์ขึ้น จึง
    ผูกความอาฆาตในพระผู้มีพระภาคเจ้าเที่ยวไปอยู่. สมัยนั้น เศรษฐีใน
    กรุงราชคฤห์ผูกตาข่ายในแม่น้ำคงคาแล้วเล่นอยู่ เห็นปุ่มไม้จันทร์แดง
    จึงคิดว่า ในเรือนของเรามีไม้จันทร์มากมาย จะให้เอาปุ่มไม้จันทร์แดง
    นี้เข้าเครื่องกลึง แล้วให้ช่างกลึงกลึงบาตรด้วยปุ่มไม้จันทร์แดงนั้น แล้ว
    แขวนที่ไม้ไผ่ต่อ ๆ ลำกัน ให้ตีกลองป่าวร้องว่า ผู้ใดมาถือเอาบาตรใบนี้
    ได้ด้วยฤทธิ์ เราจักเป็นผู้จงรักภักดีต่อผู้นั้น.
    ในกาลนั้น พวกเดียรถีย์ปรึกษากันว่า บัดนี้ พวกเราฉิบหายแล้ว
    บัดนี้ พวกเราฉิบหายแล้ว นิครนถ์นาฏบุตรกล่าวกะบริษัทของตนอย่างนี้
    เราจะไปใกล้ๆ ไม้ไผ่ ทำอาการดังว่าจะเหาะขึ้นในอากาศ พวกท่านจง
    จับบ่าเราแล้วห้ามว่า ท่านอย่ากระทำฤทธิ์เพราะอาศัยบาตรที่ทำด้วยไม้
    เผาผีเลย เดียรถีย์เหล่านั้นพากันไปอย่างนั้น แล้วได้กระทำเหมือน
    อย่างนั้น.
    ครั้งนั้น พระปิณโฑลภารทวาชะ และพระโมคคัลลานะ ยืนอยู่บน
    ยอดภูเขาหินประมาณ ๓ คาวุต กำลังห่มจีวรเพื่อต้องการจะรับบิณฑบาต
    ได้ยินเสียงโกลาหลนั้น . บรรดาพระเถระทั้งสองนั้น พระโมคคัลลานะ
    ได้กล่าวกะพระปิณโฑลภารทวาชะว่า ท่านจงเหาะไปเอาบาตรนั้น. พระ-
    ปิณโฑลภารทวาชะนั้นกล่าวว่า ท่านผู้เจริญ ท่านเท่านั้นที่พระผู้มีพระภาค-
    เจ้าทรงสถาปนาไว้ในตำแหน่งเลิศของท่านผู้มีฤทธิ์ทั้งหลาย ท่านนั่นแหละ
    จงถือเอา. แม้เมื่อเป็นอย่างนั้น ท่านถูกพระโมคคัลลานะบังคับว่า ท่าน
    นั่นแหละผมสั่งแล้ว จงถือเอาเถิด จึงทำภูเขาหินประมาณ ๓ คาวุต ที่
    ตนยืนอยู่ ให้ติดที่พื้นเท้าแล้วให้ปกคลุมนครราชคฤห์เสียทั้งสิ้น เหมือน
    ฝาปิดหม้อข้าวฉะนั้น. ครั้งนั้น ชนชาวพระนครแลเห็นพระเถระนั้น ดุจ
    ด้ายแดงที่ร้อยในภูเขาแก้วผลึก พากันตะโกนว่า ท่านภารทวาชะผู้เจริญ
    ขอท่านจงคุ้มครองพวกกระผมด้วย ต่างก็กลัว จึงได้เอากระด้งเป็นต้น
    กั้นไว้เหนือศีรษะ. ทีนั้น พระเถระได้ปล่อยภูเขานั้นลงไว้ในที่ที่ตั้งอยู่
    แล้วไปด้วยฤทธิ์ถือเอาบาตรนั้นมา. ครั้งนั้น ชนชาวพระนครได้กระทำ
    ความโกลาหลดังขึ้น.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งอยู่ในพระเวฬุวนาราม ได้ทรงสดับ
    เสียงนั้น จึงตรัสถามพระอานนท์ว่า นั้นเสียงอะไร ? พระอานนท์
    กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะพระภารทวาชะถือเอาบาตรมา
    ได้ ชนชาวพระนครจึงยินดีได้กระทำเสียงโห่ร้อง. ครั้งนั้น พระผู้มี-
    พระภาคเจ้า เพื่อที่จะทรงปลดเปลื้องการกล่าวร้ายผู้อื่นต่อไป จึงทรงให้
    นำบาตรนั้นมาทุบให้แตก แล้วทำการบดให้ละเอียดสำหรับเป็นยาหยอดทา
    แล้วทรงให้แก่ภิกษุทั้งหลาย ก็แหละครั้นทรงให้แล้ว จึงทรงบัญญัติ
    สิกขาบทว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ควรทำการแสดงฤทธิ์ ภิกษุใด
    ทำ ภิกษุนั้นต้องอาบัติทุกกฏ.
    ลำดับนั้น เดียรถีย์ทั้งหลายกล่าวกันว่า ข่าวว่าพระสมณโคดม
    บัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลาย สาวกเหล่านั้นย่อมไม่ล่วงละเมิดสิกขาบท
    ที่บัญญัติไว้นั้น แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต พวกเราจักทำอิทธิปาฏิหาริย์ จึง
    พากันเป็นหมวดหมู่ทำความโกลาหลอยู่ในที่นั้น ๆ ครั้งนั้น พระเจ้า-
    พิมพิสารได้ทรงสดับดังนั้น จึงเสด็จไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงไหว้
    แล้วประทับนั่ง ณ ส่วนสุดข้างหนึ่ง กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกเดียรถีย์บ่าวร้องว่า จักทำอิทธิปาฏิหาริย์.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มหาบพิตร แม้อาตมภาพก็จักทำ.
    พระราชาตรัสถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงบัญญัติสิกขาบท
    แก่สาวกทั้งหลายไว้แล้วมิใช่หรือ พระเจ้าข้า.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มหาบพิตร อาตมภาพจักถามเฉพาะ
    พระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงตั้งสินไหมสำหรับผู้กินผลมะม่วงเป็นต้น
    ในอุทยานของพระองค์ว่า สินไหมมีประมาณเท่านี้ แม้สำหรับพระองค์ก็
    ทรงตั้งรวมเข้าด้วยหรือ.
     
  15. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    พระราชาทูลว่า ไม่มีสินไหมสำหรับข้าพระองค์ พระเจ้าข้า.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อย่างนั้น มหาบพิตร สิกขาบทที่
    บัญญัติไว้แล้ว ย่อมไม่มีสำหรับอาตมภาพ.
    พระราชาตรัสถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ปาฏิหาริย์จักมีที่ไหน
    พระเจ้าข้า.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ที่โคนต้นคัณฑามพพฤกษ์ ใกล้เมือง
    สาวัตถี มหาบพิตร.
    พระราชาตรัสว่า ดีละ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทั้งหลาย
    จักคอยดูปาฏิหาริย์นั้น.
    ลำดับนั้น พวกเดียรถีย์ได้ฟังว่า นัยว่าปาฏิหาริย์จักมีที่โคนต้น
    คัณฑามพพฤกษ์ จึงให้ตัดต้นมะม่วงรอบ ๆ พระนคร. ชาวพระนคร
    ทั้งหลาย จึงพากันผูกมัดเตียงซ้อน ๆ กัน และหอคอยเป็นต้น ในสถาน
    ที่อันเป็นลานใหญ่ ชาวชมพูทวีปเป็นกลุ่ม ๆ ได้ยืนแผ่ขยายไปตลอด
    ๑๒ โยชน์ เฉพาะในทิศตะวันออก แม้ในทิศที่เหลือ ก็ประชุมกันอยู่
    โดยอาการอันสมควรแก่สถานที่นั้น.
    ฝ่ายพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อกาลเวลาถึงเข้าแล้ว ในวันเพ็ญเดือน ๘
    ทรงทำกิจที่ควรทำให้เสร็จแต่เช้าตรู่ แล้วเสด็จไปยังที่นั้นประทับนั่งอยู่
    แล้ว. ขณะนั้น นายคนเฝ้าอุทยานชื่อว่าคัณฑะ เห็นมะม่วงสุกดีในรัง
    มดแดง จึงคิดว่า ถ้าเราจะถวายมะม่วงนี้แก่พระราชา ก็จะได้ทรัพย์อัน
    เป็นสาระมีกหาปณะเป็นต้น แต่เมื่อน้อมถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
    สมบัติในโลกนี้และโลกหน้าก็จักเกิดมี ครั้นคิดดังนี้แล้วจึงน้อมถวายแด่
    พระผู้มีพระภาคเจ้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับมะม่วงนั้นแล้ว ดำรัสสั่ง
    พระอานนทเถระว่า เธอจงคั้นผลมะม่วงนี้ทำให้เป็นน้ำปานะ. พระเถระ
    ได้กระทำตามพระดำรัสแล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงดื่ม (น้ำ) ผลมะม่วง
    แล้ว ประทานเมล็ดมะม่วงแก่นายคนเฝ้าอุทยานแล้วตรัสว่า จงเพาะเมล็ด
    มะม่วงนี้. นายอุยยานบาลนั้นจึงคุ้ยทรายแล้วเพาะเมล็ดมะม่วงนั้น พระ-
    อานนทเถระเอาคนโทตักน้ำรด. ขณะนั้น หน่อมะม่วงก็งอกขึ้นมา เมื่อ
    มหาชนเห็นอยู่นั่นแหละ ก็ปรากฏเต็มไปด้วยกิ่ง ค่าคบ ดอก ผล และ
    ใบอ่อน. ชาวชมพูทวีปทั้งสิ้นเคี้ยวกินผลมะม่วงที่หล่นลงมา ไม่อาจให้
    หมดสิ้นได้.
    ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนิรมิตรัตนจงกรมบนยอดเขา
    มหาเมรุในจักรวาลนี้ จากจักรวาลทิศตะวันออกจนกระทั่งถึงจักรวาลทิศ
    ตะวันตก เมื่อจะทรงยังบริษัทมิใช่น้อยให้บันลือสีหนาท จึงทรงกระทำ
    มหาอิทธิปาฏิหาริย์ โดยนัยดังกล่าวแล้วในอรรถกถาธรรมบท ทรงย่ำยี
    พวกเดียรถีย์ทำให้พวกเขาถึงประการอันผิดแผกไปต่าง ๆ ในเวลาเสร็จ
    ปาฏิหาริย์ ได้เสด็จไปยังภพดาวดึงส์ โดยพุทธจริยาที่พระพุทธเจ้าใน
    ปางก่อนทรงประพฤติมาแล้ว ทรงจำพรรษาอยู่ในภพดาวดึงส์นั้น ทรง
    แสดงพระอภิธรรมติดต่อกันตลอดไตรมาส ทรงทำเทวดามิใช่น้อยมีพระ-
    มารดาเป็นประธาน ให้บรรลุพระโสดาปัตติมรรค ออกพระพรรษาแล้ว
    เสด็จลงจากเทวโลก อันหมู่เทวดาและพรหมมิใช่น้อยห้อมล้อม เสด็จลง
    ยังประตูเมืองสังกัสสะ ได้ทรงกระทำการอนุเคราะห์ชาวโลกแล้ว. ครั้งนั้น
    พระผู้มีพระภาคเจ้าได้มีลาภสักการะท่วมท้นท่ามกลางชมพูทวีป ประดุจ
    แม่น้ำใหญ่ ๕ สาย (คือ คงคา อจิรวดี ยมุนา สรภู มหี) ฉะนั้น.
    ครั้งนั้น พวกเดียรถีย์เสื่อมลาภสักการะ เป็นทุกข์ เสียใจ คอตก
    นั่งก้มหน้าอยู่. ในกาลนั้น อุบาสิกาของพวกเดียรถีย์เหล่านั้น ชื่อนาง
    จิญจมาณวิกา ถึงความเป็นผู้เลอเลิศด้วยรูปโฉม เห็นพวกเดียรถีย์
    เหล่านั้นนั่งอยู่อย่างนั้น จึงถามว่า ท่านผู้เจริญ เพราะเหตุไร ท่านทั้งหลาย
    จึงนั่งเป็นทุกข์ เสียใจอยู่อย่างนี้ ? พวกเดียรถีย์กล่าวว่า น้องหญิง ก็เพราะ
    เหตุไรเล่า เธอจึงได้เป็นผู้มีความขวนขวายน้อย. นางจิญจมาณวิกาถามว่า
    มีเหตุอะไร ท่านผูเจริญ. เดียรถีย์กล่าวว่า ดูก่อนน้องหญิง จำเดิมแต่กาลที่
    พระสมณโคดมเกิดขึ้นมา พวกเราเสื่อมลาภสักการะหมด ชาวพระนคร
    ไม่สำคัญอะไร ๆ พวกเรา. นางจิญจมาณวิกาถามว่า ในเรื่องนี้ ดิฉันควร
    จะทำอะไร. เดียรถีย์ตอบว่า เธอควรจะยังโทษมิใช่คุณให้เกิดขึ้นแก่พระ-
    สมณโคดม. นางจิญจมาณวิกานั้นกล่าวว่า ข้อนั้น ไม่เป็นการหนักใจสำหรับ
    ดิฉันดังนี้แล้ว เมื่อจะทำความอุตสาหะในการนั้น จึงไปยังพระเชตวันวิหาร
    ในเวลาวิกาล แล้วอยู่ในสำนักของพวกเดียรถีย์ ครั้นตอนเช้า ในเวลาที่
    ชนชาวพระนครถือของหอมเป็นต้นไปเพื่อจะถวายบังคมพระผู้มีพระภาค-
    เจ้า จึงออกมา ทำทีเหมือนออกจากพระเชตวันวิหาร ถูกถามว่า นอน
    ที่ไหน จึงกล่าวว่า ประโยชน์อะไรด้วยที่ที่เรานอนแก่พวกท่าน ดังนี้
    แล้วก็หลีกไปเสีย. เมื่อกาลเวลาดำเนินไปโดยลำดับ นางถูกถามแล้ว
    กล่าวว่า เรานอนในพระคันธกุฎีเดียวกันกับพระสมณโคดมแล้วออกมา
    พวกปุถุชนผู้เขลาเชื่อดังนั้น บัณฑิตทั้งหลายมีพระโสดาบันเป็นต้น ไม่เชื่อ.
    วันหนึ่ง นางผูกท่อนไม้กลมไว้ที่ท้องแล้วนุ่งผ้าแดงทับไว้ แล้วไปกล่าว
    กะพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ประทับนั่งเพื่อทรงแสดงธรรมแก่บริษัทพร้อมทั้ง
    พระราชาอย่างนี้ว่า พระสมณะผู้เจริญ ท่าน (มัวแต่) แสดงธรรม ไม่
    จัดแจงกระเทียมและพริกเป็นต้น เพื่อเราผู้มีครรภ์ทารกที่เกิดเพราะอาศัย
    ท่าน. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนน้องหญิง ท่านกับเราเท่านั้น
    ย่อมรู้ภาวะอันจริงแท้. นางจิญจมาณวิกากล่าวว่า อย่างนั้นทีเดียว เรา
    กับท่าน ๒ คนเท่านั้น ย่อมรู้คราวที่เกี่ยวข้องกันด้วยเมถุน คนอื่นย่อม
    ไม่รู้.
    ขณะนั้น บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ของท้าวสักกะแสดงอาการเร่าร้อน.
    ท้าวสักกะทรงรำพึงอยู่ ทรงรู้เหตุนั้น จึงตรัสสั่งเทวบุตร ๒ องค์ว่า
    บรรดาท่านทั้งสอง องค์หนึ่งนิรมิตเพศเป็นหนู กัดเครื่องผูกท่อนไม้กลม
    ของนางให้ขาด องค์หนึ่งทำมณฑลของลมไห้ตั้งขึ้น พัดผ้าที่นางห่มให้
    เวิกขึ้นเบื้องบน. เทวบุตรทั้งสองนั้นได้ไปกระทำอย่างนั้นแล้ว. ท่อนไม้
    กลมตกลง ทำลายหลังเท้าของนางแตก. ปุถุชนทั้งหลายผู้ประชุมกันอยู่
    ในโรงธรรมสภา ทั้งหมดพากันกล่าวว่า เฮ้ย! นางโจรร้าย เจ้าได้ทำการ
    กล่าวหาความเห็นปานนี้ แก่พระผู้เป็นเจ้าของโลกทั้ง ๓ ผู้เห็นปานนี้
    แล้วต่างลุกขึ้นเอากำปั้นประหารคนละที นำออกไปจากที่ประชุม เมื่อ
    นางล่วงพ้นไปจากทัสสนะคือการเห็นของพระผู้มีพระภาคเจ้า แผ่นดินได้
    ให้ช่อง. ขณะนั้น เปลวไฟจากอเวจีนรกตั้งขึ้น หุ้มห่อนางเหมือนหุ้มด้วย
    ผ้ากัมพลแดงที่ตระกูลให้ แล้วซัดลงไปในอเวจีนรก. พระผู้มีพระภาคเจ้า
    ได้มีลาภสักการะอย่างล้นเหลือ ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
    พระพุทธเจ้าผู้ทรงครอบงำสิ่งทั้งปวง มีสาวกชื่อว่านันทะ
    เรากล่าวตู่พระสาวกชื่อว่านันทะนั้น จึงได้ท่องเที่ยวไปใน
    นรก สิ้นกาลนาน.
    าท่องเที่ยวไปในนรกตลอดกาลนานถึงหมื่นปี ได้ความ
    เป็นมนุษย์แล้ว ได้รับการกล่าวตู่มากมาย.
    เพราะกรรมที่เหลือนั้น นางจิญจมาณวิกาได้กล่าวตู่เรา
    ด้วยคำอันไม่เป็นจริงต่อหน้าหมู่ชน.
     
  16. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    การด่าว่า
    การด่า การบริภาษโดยยิ่ง คือโดยพิเศษ ชื่อว่า อัพภักขานะ.
    ได้ยินว่า ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ เป็นผู้ศึกษา
    เล่าเรียนมาก คนเป็นอันมากสักการบูชา ได้บวชเป็นดาบส มีรากเหง้า
    และผลไม้ในป่าเป็นอาหาร สอนมนต์พวกมาณพจำนวนมาก สำเร็จการ
    อยู่ในป่าหิมพานต์. ดาบสรูปหนึ่งได้อภิญญา ๕ และสมาบัติ ๘ ได้มา
    ยังสำนักของพระโพธิสัตว์นั้น. พระโพธิสัตว์นั้นพอเห็นพระดาบสนั้น
    เท่านั้น ถูกความริษยาครอบงำ ได้คำว่าพระฤาษีผู้ไม่ประทุษร้ายนั้นว่า
    ฤาษีนี้หลอกลวง บริโภคกาม และบอกกะพวกศิษย์ของตนว่า ฤาษีนี้
    เป็นผู้ไม่มีอาจาระเห็นปานนี้. ฝ่ายศิษย์เหล่านั้นก็พากันด่า บริภาษอย่าง
    นั้นเหมือนกัน . ด้วยวิบากของอกุศลกรรมนั้น พระโพธิสัตว์นั้นจึงได้
    เสวยทุกข์ในนรกอยู่พันปี ในอัตภาพหลังสุดนี้ ได้เป็นพระพุทธเจ้า ถึง
    ความเป็นผู้เลิศด้วยลาภและเลิศด้วยยศ ปรากฏดุจพระจันทร์เพ็ญในอากาศ
    ฉะนั้น.
    แม้ด้วยการด่าว่าถึงอย่างนั้น พวกเดียรถีย์ก็ยังไม่พอใจ ให้นาง
    สุนทรีทำการด่าว่าอีก ให้เรียกพวกนักเลงสุรามาให้ค่าจ้างแล้วสั่งว่า พวก
    ท่านจงฆ่านางสุนทรีแล้วปิดด้วยขยะดอกไม้ในที่ใกล้ประตูพระเชตวัน พวก
    นักเลงสุราเหล่านั้นได้กระทำอย่างนั้น แต่นั้น พวกเดียรถีย์จึงกราบทูล
    แก่พระราชาว่า ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่พบเห็นนางสุนทรี. พระราชา
    รับสั่งว่า พวกท่านจงค้นดู เดียรถีย์เหล่านั้นจึงเอามาจากที่ที่ตนให้โยน
    ไว้แล้วยกขึ้นสู่เตียงน้อยแสดงแก่พระราชา แล้วเที่ยวโฆษณาโทษของ
    พระผู้มีพระภาคเจ้าและภิกษุสงฆ์ในพระนครทั้งสิ้นว่า ท่านผู้เจริญ ท่าน
    ทั้งหลายจงเห็นการกระทำของพระสมณโคดมและของพวกสาวก. แล้ว
    วางนางสุนทรีไว้บนแคร่ในป่าช้าผีดิบ. พระราชารับสั่งว่า ท่านทั้งหลาย
    จงค้นหาคนฆ่านางสุนทรี.
    ครั้งนั้น พวกนักเลงดื่มสุราแล้วทำการทะเลาะกันว่า เจ้าฆ่านาง-
    สุนทรี เจ้าฆ่า. ราชบุรุษทั้งหลาย จึงจับพวกนักเลงเหล่านั้นแสดงแก่
    พระราชา พระราชาตรัสถามว่า แน่ะพนาย พวกเจ้าฆ่านางสุนทรีหรือ?
    นักเลงเหล่านั้นกราบทูลว่า พระเจ้าข้า ข้าแต่สมมติเทพ. พระราชาตรัส
    ถามว่า พวกใครสั่ง ? นักเลงทูลว่า พวกเดียรถีย์สั่ง พระเจ้าข้า. พระราชา-
    จึงให้นำพวกเดียรถีย์มาแล้วให้จองจำพันธนาการแล้วรับสั่งว่า แน่ะพนาย
    พวกเจ้าจงไปป่าวร้องว่า เราทั่งหลายให้ฆ่านางสุนทรีเองแหละ โดยความ
    จะให้เป็นโทษแก่พระพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าและสาวกทั้งหลายของ
    พระองค์ไม่ได้เป็นผู้กระทำ. พวกเดียรถีย์ได้กระทำอย่างนั้นแล้ว. ชาว
    พระนครทั้งสิ้นต่างเป็นผู้หมดความสงสัย. พระราชาทรงให้ฆ่าพวกเดียรถีย์
    และพวกนักเลงแล้วให้ทิ้งไป. แต่นั้น ลาภสักการะเจริญพอกพูนแก่
    พระผู้มีพระภาคเจ้า โดยยิ่งกว่าประมาณ. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาค-
    เจ้าจงตรัสว่า
    เราเป็นพราหมณ์เรียนจบแล้ว เป็นผู้อันมหาชนสักการะ
    บูชา ได้สอนมนต์กะมาณพ ๕๐๐ คนในป่าใหญ่.
    พระฤาษีผู้กล้า สำเร็จอภิญญา ๕ มีฤทธิ์มาก มาในที่นี้
    นั้น และเราได้เห็นพระฤาษีนั้นมาแล้ว ได้กล่าวตู่ว่าท่านผู้ไม่
    ประทุษร้าย.
    แต่นั้น เราได้บอกกะศิษย์ทั้งหลายว่า ฤาษีนี้เป็นผู้บริโภค
    กาม แม้เมื่อเราบอกอยู่ มาณพทั้งหลายก็พลอยยินดีตาม.
    แต่นั้น มาณพทุกคนเที่ยวภิกขาไปทุก ๆ ตระกูล ก็บอก
    กล่าวแก่มหาชนว่า ฤาษีนี้บริโภคกาม.
    เพราะวิบากของกรรมนั้น ภิกษุ ๕๐๐ รูปนี้จึงได้รับการ
    กล่าวตู่ด้วยกันทั้งหมด เพราะเหตุแห่งนางสุนทรี.
     
  17. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    การด่าว่า-การกล่าวหา
    การด่า การบริภาษโดยยิ่ง คือโดยพิเศษ ชื่อว่า อัพภักขานะ.
    ได้ยินว่า ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ เป็นผู้ศึกษา
    เล่าเรียนมาก คนเป็นอันมากสักการบูชา ได้บวชเป็นดาบส มีรากเหง้า
    และผลไม้ในป่าเป็นอาหาร สอนมนต์พวกมาณพจำนวนมาก สำเร็จการ
    อยู่ในป่าหิมพานต์. ดาบสรูปหนึ่งได้อภิญญา ๕ และสมาบัติ ๘ ได้มา
    ยังสำนักของพระโพธิสัตว์นั้น. พระโพธิสัตว์นั้นพอเห็นพระดาบสนั้น
    เท่านั้น ถูกความริษยาครอบงำ ได้คำว่าพระฤาษีผู้ไม่ประทุษร้ายนั้นว่า
    ฤาษีนี้หลอกลวง บริโภคกาม และบอกกะพวกศิษย์ของตนว่า ฤาษีนี้
    เป็นผู้ไม่มีอาจาระเห็นปานนี้. ฝ่ายศิษย์เหล่านั้นก็พากันด่า บริภาษอย่าง
    นั้นเหมือนกัน . ด้วยวิบากของอกุศลกรรมนั้น พระโพธิสัตว์นั้นจึงได้
    เสวยทุกข์ในนรกอยู่พันปี ในอัตภาพหลังสุดนี้ ได้เป็นพระพุทธเจ้า ถึง
    ความเป็นผู้เลิศด้วยลาภและเลิศด้วยยศ ปรากฏดุจพระจันทร์เพ็ญในอากาศ
    ฉะนั้น.
    แม้ด้วยการด่าว่าถึงอย่างนั้น พวกเดียรถีย์ก็ยังไม่พอใจ ให้นาง
    สุนทรีทำการด่าว่าอีก ให้เรียกพวกนักเลงสุรามาให้ค่าจ้างแล้วสั่งว่า พวก
    ท่านจงฆ่านางสุนทรีแล้วปิดด้วยขยะดอกไม้ในที่ใกล้ประตูพระเชตวัน พวก
    นักเลงสุราเหล่านั้นได้กระทำอย่างนั้น แต่นั้น พวกเดียรถีย์จึงกราบทูล
    แก่พระราชาว่า ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่พบเห็นนางสุนทรี. พระราชา
    รับสั่งว่า พวกท่านจงค้นดู เดียรถีย์เหล่านั้นจึงเอามาจากที่ที่ตนให้โยน
    ไว้แล้วยกขึ้นสู่เตียงน้อยแสดงแก่พระราชา แล้วเที่ยวโฆษณาโทษของ
    พระผู้มีพระภาคเจ้าและภิกษุสงฆ์ในพระนครทั้งสิ้นว่า ท่านผู้เจริญ ท่าน
    ทั้งหลายจงเห็นการกระทำของพระสมณโคดมและของพวกสาวก. แล้ว
    วางนางสุนทรีไว้บนแคร่ในป่าช้าผีดิบ. พระราชารับสั่งว่า ท่านทั้งหลาย
    จงค้นหาคนฆ่านางสุนทรี.
    ครั้งนั้น พวกนักเลงดื่มสุราแล้วทำการทะเลาะกันว่า เจ้าฆ่านาง-
    สุนทรี เจ้าฆ่า. ราชบุรุษทั้งหลาย จึงจับพวกนักเลงเหล่านั้นแสดงแก่
    พระราชา พระราชาตรัสถามว่า แน่ะพนาย พวกเจ้าฆ่านางสุนทรีหรือ?
    นักเลงเหล่านั้นกราบทูลว่า พระเจ้าข้า ข้าแต่สมมติเทพ. พระราชาตรัส
    ถามว่า พวกใครสั่ง ? นักเลงทูลว่า พวกเดียรถีย์สั่ง พระเจ้าข้า. พระราชา-
    จึงให้นำพวกเดียรถีย์มาแล้วให้จองจำพันธนาการแล้วรับสั่งว่า แน่ะพนาย
    พวกเจ้าจงไปป่าวร้องว่า เราทั่งหลายให้ฆ่านางสุนทรีเองแหละ โดยความ
    จะให้เป็นโทษแก่พระพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าและสาวกทั้งหลายของ
    พระองค์ไม่ได้เป็นผู้กระทำ. พวกเดียรถีย์ได้กระทำอย่างนั้นแล้ว. ชาว
    พระนครทั้งสิ้นต่างเป็นผู้หมดความสงสัย. พระราชาทรงให้ฆ่าพวกเดียรถีย์
    และพวกนักเลงแล้วให้ทิ้งไป. แต่นั้น ลาภสักการะเจริญพอกพูนแก่
    พระผู้มีพระภาคเจ้า โดยยิ่งกว่าประมาณ. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาค-
    เจ้าจงตรัสว่า
    เราเป็นพราหมณ์เรียนจบแล้ว เป็นผู้อันมหาชนสักการะ
    บูชา ได้สอนมนต์กะมาณพ ๕๐๐ คนในป่าใหญ่.
    พระฤาษีผู้กล้า สำเร็จอภิญญา ๕ มีฤทธิ์มาก มาในที่นี้
    นั้น และเราได้เห็นพระฤาษีนั้นมาแล้ว ได้กล่าวตู่ว่าท่านผู้ไม่
    ประทุษร้าย.
    แต่นั้น เราได้บอกกะศิษย์ทั้งหลายว่า ฤาษีนี้เป็นผู้บริโภค
    กาม แม้เมื่อเราบอกอยู่ มาณพทั้งหลายก็พลอยยินดีตาม.
    แต่นั้น มาณพทุกคนเที่ยวภิกขาไปทุก ๆ ตระกูล ก็บอก
    กล่าวแก่มหาชนว่า ฤาษีนี้บริโภคกาม.
    เพราะวิบากของกรรมนั้น ภิกษุ ๕๐๐ รูปนี้จึงได้รับการ
    กล่าวตู่ด้วยกันทั้งหมด เพราะเหตุแห่งนางสุนทรี.
     
  18. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    บทว่า สิลาเวโธ ได้แก่ ผู้มีจิตอันโทสะกระทบแล้ว กลิ้งศิลาทับ.
    ได้ยินว่า ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์และน้องชายเป็นลูกพ่อเดียวกัน เมื่อ
    บิดาล่วงลับไปแล้ว พี่น้องทั้งสองนั้น ทำการทะเลาะกัน เพราะอาศัย
    พวกทาส จึงได้คิดร้ายกันและกัน พระโพธิสัตว์กดทับน้องชายไว้ด้วย
    ความที่ตนเป็นผู้มีกำลัง แล้วกลิ้งหินทับลงเบื้องบนน้องชายนั้น. เพราะ

    วิบากของกรรมนั้น พระโพธิสัตว์นั้นได้เสวยทุกข์ในนรกเป็นต้นหลาย
    พันปี ในอัตภาพหลังสุดนี้ได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้า.
    พระเทวทัตผู้เป็นพระมาตุลาของพระราหุลกุมาร ในชาติก่อนได้
    เป็นพ่อค้ากับพระโพธิสัตว์ ในครั้งเป็นพ่อค้าชื่อว่า เสริพาณิช พ่อค้า
    ทั้งสองนั้นไปถึงปัฏฏนคาม บ้านอันตั้งอยู่ใกล้ท่าแห่งหนึ่ง จึงตกลงกันว่า
    ท่านจงถือเอาถนนสายหนึ่ง แม้เราก็จะถือเอาถนนสายหนึ่ง แล้วทั้งสอง
    คนก็เข้าไป. บรรดาคนทั้งสองนั้น ในถนนสายที่พระเทวทัตเข้าไป
    ได้มีคน ๒ คนเท่านั้น คือภรรยาของเศรษฐีเก่าคนหนึ่ง หลานสาวคนหนึ่ง
    ถาดทองใบใหญ่ของคนทั้งสองนั้น ถูกสนิมจับ เป็นของที่เขาวางปนไว้
    ในระหว่างภาชนะ. ภรรยาของเศรษฐีเก่านั้นไม่รู้ว่าภาชนะทอง จึงกล่าว
    กะท่านเทวทัตนั้นว่า ท่านจงเอาถาดใบนี้ไปแล้วจงให้เครื่องประดับมา.
    เทวทัตนั้นจับถาดใบนั้นแล้วเอาเข็มขีดดู รู้ว่าเป็นถาดทอง แล้วคิดว่า
    เราจักให้นิดหน่อยแล้วถือเอา จึงไปเสีย.
    ลำดับนั้น หลานสาวเห็นพระโพธิสัตว์มายังที่ใกล้ประตู จึงกล่าวว่า
    ข้าแต่แม่เจ้า ขอท่านจงให้เครื่องประดับ กัจฉปุฏะ แก่ดิฉัน. ภรรยา
    เศรษฐีเท่านั้นจึงให้เรียกพระโพธิสัตว์นั้นมา ให้นั่งลงแล้วจึงให้ภาชนะ
    นั้นแล้วจึงกล่าวว่า ท่านจงถือเอาภาชนะนี้แล้วจงให้เครื่องประดับกัจฉปุฏะ
    แก่หลานสาวของข้าพเจ้า. พระโพธิสัตว์จับภาชนะนั้น รู้ว่าเป็นภาชนะ
    ทอง และรู้ว่า นางถูกเทวทัตนั้นลวง จึงเก็บ ๘ กหาปณะไว้ในถุง
    เพื่อตน และให้สินค้าที่เหลือ ให้ประดับเครื่องประดับ กัจฉปุฏะ ที่มือ
    ของนางกุมาริกาแล้วก็ไป. พ่อค้านั้นหวนกลับมาถามอีก. ภรรยาเศรษฐี
    นั้นกล่าวว่า นี่แน่ะพ่อ ท่านไม่เอา บุตรของเราให้สิ่งนี้ ๆ แล้วถือเอา
    ถาดใบนั้นไปเสียแล้ว. พ่อค้านั้นพอได้ฟังดังนั้น มีหทัยเหมือนจะแตก
    ออก จึงวิ่งติดตามไป. พระโพธิสัตว์ขึ้นเรือแล่นไปแล้ว. พ่อค้านั้น
    กล่าวว่า หยุด! อย่าหนี อย่าหนี แล้วได้ทำความปรารถนาว่า เราพึง
    สามารถทำให้มันฉิบหายในภพที่เกิดแล้ว ๆ.
    ด้วยอำนาจความปรารถนา พ่อค้านั้นเบียดเบียนกันและกันหลาย
    แสนชาติ ในอัตภาพนี้ บังเกิดในสักยตระกูล เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า
    บรรลุพระสัพพัญญุตญาณ แล้วประทับอยู่ในกรุงราชคฤห์โดยลำดับ ได้
    ไปยังสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมกับเจ้าอนุรุทธะเป็นต้น แล้ว
    บวช เป็นผู้ได้ฌานปรากฏแล้ว ทูลขอพรพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่
    พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุสงฆ์ทั้งปวง จงสมาทานธุดงค์ ๑๓ มีเที่ยว
    บิณฑบาตเป็นวัตรเป็นต้น ภิกษุสงฆ์ทั้งสิ้นจงเป็นภาระของข้าพระองค์.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงอนุญาต พระเทวทัตผูกเวร จึงเสื่อมจากฌาน
    ต้องการจะปลงพระชนม์พระผู้มีพระภาคเจ้า วันหนึ่ง ยืนอยู่เบื้องบน
    พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ประทับยืนอยู่ที่เชิงเขาเวภาระ* กลิ้งยอดเขาลงมา ด้วย
    อานุภาพของพระผู้มีพระภาคเจ้า ยอดเขายอดอื่นรับเอายอดเขานั้นที่กำลัง
    ตกลงมา. สะเก็ดหินที่ตั้งขึ้นเพราะยอดเขาเหล่านั้นกระทบกัน ปลิวมา
    กระทบหลังพระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระ-
    ภาคเจ้าจึงตรัสว่า
    เมื่อชาติก่อน เราฆ่าน้องชายต่างมารดา เพราะเหตุแห่ง
    ทรัพย์ เราใส่ลงในซอกหิน และบดขยี้ด้วยหิน
    เพราะวิบากของกรรมนั้น พระเทวทัตจึงกลิ้งหิน ก้อนหิน
    บดขยี้นิ้วหัวแม่เท้าของเรา.
     
  19. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    สะเก็ดหินกระทบ ชื่อว่า สกลิกาเวธะ. ได้ยินว่า ในอดีตกาล
    พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลหนึ่ง ในเวลาเป็นเด็ก กำลังเล่นอยู่ที่ถนน
    ใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าเที่ยวบิณฑบาตอยู่ในถนนคิดว่า สมณะโล้น
    นี้จะไปไหน จึงถือเอาสะเก็ดหินขว้างไปที่หลังเท้าของท่าน. หนังหลังเท้า
    ขาด โลหิตไหลออก. เพราะกรรมอันลามกนั้น พระโพธิสัตว์นั้นได้
    เสวยทุกข์อย่างมหันต์ในนรกหลายพันปี แม้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็ได้เกิด
    การห้อพระโลหิตขึ้น เพราะสะเก็ดหินกระทบที่หลังพระบาท ด้วยอำนาจ
    กรรมเก่า. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่า
    ในกาลก่อน เราเป็นเด็กเล่นอยู่ที่หนทางใหญ่ เห็นพระ-
    ปัจเจกพุทธเจ้าในหนทาง จึงขว้างสะเก็ดหินใส่.
    เพราะวิบากของกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้ พระเทวทัต
    จึงประกอบนายขมังธนูเพื่อฆ่าเรา.
     
  20. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    ช้างธนปาลกะที่เขาส่งไปเพื่อต้องการให้ฆ่า ชื่อว่า ช้างนาฬาคิรี.
    ได้ยินว่า ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นคนเลี้ยงช้าง ขึ้นช้าง
    เที่ยวไปอยู่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในหนทางใหญ่ คิดว่า คนหัวโล้น
    มาจากไหน เป็นผู้มีจิตถูกโทสะกระทบแล้ว เกิดเป็นดุจตะปูตรึงใจ ได้
    ทำช้างให้ขัดเคือง. ด้วยกรรมนั้น พระโพธิสัตว์จึงได้เสวยทุกข์ในอบาย
    หลายพันปี ในอัตภาพหลังสุดได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้า. พระเทวทัต
    กระทำพระเจ้าอชาตศัตรูให้เป็นสหายแล้วให้สัญญากันว่า มหาบพิตร
    พระองค์ปลงพระชนม์พระบิดาแล้วจงเป็นพระราชา อาตมภาพฆ่าพระ-
    พุทธเจ้าแล้วจักเป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้ อยู่มาวันหนึ่ง ไปยังโรงช้างตาม
    ที่พระราชาทรงอนุญาต แล้วสั่งคนเลี้ยงช้างว่า พรุ่งนี้ ท่านจงให้ช้าง
    นาฬาคิรีดื่มเหล้า ๑๖ หม้อ แล้วจงปล่อยไปในเวลาที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
    เสด็จเที่ยวไปบิณฑบาต. พระนครทั้งสิ้นได้มีเสียงเอิกเกริกมากมาย. ชน
    ทั้งหลายกล่าวกันว่า เราจักดูการต่อยุทธ์ของนาคคือช้าง กับนาคคือ
    พระพุทธเจ้า ดังนี้แล้วพากันผูกเตียงและเตียงซ้อน ในถนนหลวง จาก
    ด้านทั้งสอง แล้วประชุมกันแต่เช้าตรู่.
    ฝ่ายพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงกระทำการปฏิบัติพระสรีระแล้ว อัน
    หมู่ภิกษุห้อมล้อมเสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงราชคฤห์. ขณะนั้น พวก
    คนเลี้ยงช้างปล่อยช้างนาฬาคิรี โดยทำนองที่กล่าวแล้วนั่นแหละ. ช้าง
    นาฬาคิรีทำลายถนนและทางสี่แพร่งเป็นต้นเดินมา ครั้งนั้น หญิงผู้หนึ่งพา
    เด็กเดินข้ามถนน ช้างเห็นหญิงนั้นจึงไล่ติดตาม. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
    นี่แน่ะนาฬาคิรี เธอถูกเขาส่งมาเพื่อจะฆ่าหญิงนั้นก็หามิได้ เธอจงมาทางนี้.
    ช้างนั้นได้ฟังเสียงนั้นแล้ว ก็วิ่งบ่ายหน้ามุ่งไปทางพระผู้มีพระภาคเจ้า.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแผ่เมตตาอันควรแก่การแผ่ในจักรวาล อันหา
    ประมาณมิได้ ในสัตว์อันหาที่สุดมิได้ ไปในช้างนาฬาคิรีตัวเดียวเท่านั้น.
    ช้างนาฬาคิรีนั้นอันพระเมตตาของพระผู้มีพระภาคเจ้าถูกต้องแล้ว กลาย
    เป็นช้างที่ไม่มีภัย หมอบลงแทบบาทมูลของพระผู้มีพระภาคเจ้า. พระผู้มี-
    พระภาคเจ้าทรงวางพระหัตถ์ลงบนกระหม่อมของช้างนาฬาคิรีนั้น . ครั้งนั้น
    เทวดาและพรหมเป็นต้นเกิดจิตอัศจรรย์ไม่เคยเป็น จึงพากันบูชาด้วย
    ดอกไม้และเกสรดอกไม้เป็นต้น. ในพระนครทั้งสิ้น ได้มีกองทรัพย์
    ประมาณถึงเข่า. พระราชารับสั่งให้เที่ยวตีกลองป่าวร้อง ทรัพย์ที่ประตู
    ด้านทิศตะวันตกจงเป็นของชาวพระนคร ทรัพย์ที่ประตูด้านทิศตะวันออก
    จงนำเข้าท้องพระคลังหลวง. คนทั้งปวงกระทำอย่างนั้นแล้ว. ในครั้งนั้น
    ช้างนาฬาคิรีได้มีชื่อว่า ธนบาล. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสด็จไปยังพระ-
    เวฬุวนาราม. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า.
    ในกาลก่อน เราได้เป็นนายควาญช้าง ได้ทำช้างให้โกรธ
    พระปัจเจกมุนีผู้สูงสุด ผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาตรอยู่นั้น.
    เพราะวิบากของกรรมนั้น ช้างนาฬาคิรีตัวดุร้ายหมุนเข้า
    มาประจัญในบุรีอันประเสริฐ ชื่อว่า คิริพพชะ คือกรุง
    ราชคฤห์.
     

แชร์หน้านี้

Loading...