พญานาคในแม่น้ำเจ้าพระยา

* * * * *

 

อาจารย์พิมพ์เสร็จแล้ว ลากคลุมเลยครับ Ctrl+C ก๊อบปี้ไว้ ถึงจะหายเราก็ยังมีส่วนที่ก๊อบไว้ อิอิ

 

แวะเข้าอ่าน เพราะทิ้งไว้นานมาก
พบว่า มีคนอ้างถึง พญานาคที่ วัดเขาอิติสุขโต ใกล้หัวหิน
เป็นความจริงตามที่เขา/เธอได้เล่าไว้ ว่า สัมผัสพญานาคได้

จากประสบการณ์ที่ท่องเที่ยวไปตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ในตาที่สามที่มองอีกมิติ
พบว่า ที่มีพญานาคเด่นชัด หลายที่
ที่เด่นและชัดเจน คือ วัดถ้ำพระโพธิสัตว์
ที่ ในปัจจุบัน บางท่านที่ได้อ่านข้อความที่ผมได้เล่าไว้
ก็ได้ลองไป สัมผัสดู
กลับมาเห้ผมฟังว่า สิ่งที่ผมเล่าไว้นั้นเป็นจริง
เขาหลายคน หลายกลุ่ม ได้ไป และได้พบ พญานาค
ได้สนทนาธรรม และบางราย พญานาค นั่งรถกลับมาด้วยกัน
พอมาถึงบ้านที่ กทม
เขา และ พญานาคก็เข้าบ้านไปสนทนากันต่อ จนดึกดื่น
พอเวลากลับ พญานาคก็จะ หายแวบกลับไปทันที
ในเวลาสั้นๆๆ ไม่กี่วินาที

และอีกสถานที่หนึ่งที่ พิศดารมาก
คือ วัดเขาอิติสุขโต ใกล้ตลาดหัวหิน
ที่นั่นเป็นแดนประหลาด และพิเศษสุด
ตัวท่านเจ้าอาวาส คือ หลวงพี่ ปรีชา
ท่านเป็นอาจารย์ ของ แม่ชี่ ทศพร ที่กำลังดังมาก เรื่อง ตรวจกรรม
ที่ได้ย้ายมาอยู่ที่ วัดพระพิชัยญาติ
และได้ออกหนังสือ เรื่อง กรรม มาแล้ว หลายเล่ม

 

ตัวท่านเจ้าอาวาส หลวงพี่ ปรีชา นั้น กายท่านเป็นอณูของ องค์พระศิวะ
จึงมี อภิญญาสูงเอามากๆๆ
ท่านจึงสร้าง รูปปั้นขนาดเท่าองค์จริง ของพระศิวะ ไว้ที่หน้า ทางเข้ากุฏิ
เมื่อเข้าใกล้ จะมีพลังสูงมาก ๆ ดันจนเราต้องถอย

มีความวุ่นวายตั้งแต่ทางเข้า ตรงประตูวัดเลยทีเดียว
ประตูวัด จะอยู่ทางขวา เมื่อมาจาก ตลาดหัวหิน
พอเวิ่งรถมา ก็ต้องรอให้รถที่สวนให้ ว่างเสียก่อน

พอว่างก็ต้องเหยียบคันเร่งรถแรงๆๆ

วิ่งเข้ามาก็ต้องเบรคอย่างกระทันหัน
เพราะมี ทั้งตะบอง ขนาด ใหญ่ และ ไม้เท้า งอๆๆ ยกกั้น รถ
มองไป ทางขวามือ เป็นยักษ์ตัวใหญ่ สี แดงยืนเอาตะบองยันหน้ารถไว้
มองไปทางซ้ายมือ เห็นฤาษี หนวดยาวขาว ยืนยกไม้เท้า หงิกๆๆงอๆๆกั้นรถไว้เช่นกัน
พวกเราที่ไปด้วยกัน สามคน ล้วนมองเห็นด้วย
จึงกำหนด ขอโทษที่ รุกล้ำเข้ามาโดยไม่ได้ ขออนุญาติ ก่อน
พอทั้งฤาษีและยักษ์ตัวแดง เอาไม้เท้าและ ตะบองลง
เราก็ขับรถเข้าไปภายในวัด
ทางเข้าเป็นถนนลาดยาง ค่อนข้างดี
มีแนวไม้ยืนต้น ทั้งซ้ายและขวา

เข้ามาได้ ประมาณ 200 เมตร
ทางซ้ายมือ มี รูปปั้นสูงใหญ่ ขนาด ตึก สามชั้น ของ พระพุทธรูป
และรูปปั้นสุดท้าย คือ องค์ตรีมัลลติ
คือ พระพรหม พระศิวะ และพระนารายณ์ วมอยู่ในองค์เดียวกัน เหมือน ที่ เวิลร์เทรดสี่แยก ราชประสงค์

เมื่อเลี้ยวไปทางขวาประมาณ 150 เมตร ก็จะถึงลานกว้างของวัด
ทางซ้ายมือ มีรูปปั้นขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ระดับสูง
มี รูปปั้น องค์พระนเรศวร พ้อม ไก่ชน
พระเจ้ากรุงธนบุรี
สมเด็จพระพุทธเหลวง

ล่างสุด ปลายเนิน เป็นรูปปั้น สง่างาม สีขาว ขององค์พระศิวะ
นุ่งหนังเสือ ยก พระหัตถ์ขวา ตั้งในท่า ให้พร
เมื่อไปยืนเบื้องหน้า แล้วขอพร
มีพลังร้อนแรงออกมากระทบ จนตัวชา
ทำให้เลือดในกาย แล่น ไฟธาตุทั้งตัวสบาย

ขึ้นมาบนเนินสูง หน้าวิหารใหญ่
ฃวามือเป็นรูปปั้นเสือโคร่งขนาดใหญ่
ตัวโตขนาดบ้าน คาบเราได้สะบายๆๆ
เสือตัวนี้ มาจาก ป่าหิมต์มพาน
เจ้าอาวาสเร่งให้ช่างฝีมือ รีบมาปั้น
โดยบอกว่า" เสือ ตัวนี้ ตามกูมาจาก หิมต์พาน มากวนขออยู่ด้วยทุกคืน
ก็เลยต้องให้ช่างเขามาปั้น มันจะได้มาอยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่กวนกูอีกต่อไป"
เจ้าอาวาส เล่าให้ฟัง เมื่อพบกัน ตอนหลัง

 

มีพวกเราคนหนึ่งที่มีอภิญญา สูง ไปที่วัดนี้
พอกลับมาถึงบ้า
ตอนกลางคืนพบว่าเสือตัวใหญ่นี้ตามมาเยี่ยมด้วย
มาเดินรอบๆๆ ห้องรับแขก
พอตอนเช้า ออกมา ก็พบว่
ผนังห้องทั้งหมด กลายเป็น วอลล์เปเปอร์ ลายหนังเสือโคร่งโดย อัตตโมมัติ
ก็ตื่นเต้นดี

บนเนินเดียวกับที่มีรูปปั้นเสือใหญ่ ยืน แต่อยู่ทางซ้าย
มีรูปปั้นอย่างสวยงาม ของ นาคี (นาคเพศหญิง)
ตามที่ใครคนหนึ่งได้เล่าไว้
กายล่างเป็นลำตัวพญานาคี ที่เหมือนงู ยาว มีเกล็ดสีเขียว
ยาวประมาณ 6 เมตร
ส่วนหัว แทนที่จะเป็น หัวนาค กลับกลายเป็น มนุษย์ที่เป็นแม่
ที่เปลือยอก ในอ้อมกอด กระชับอก เป็น ลูก นาค ที่อยู่ในรูป ทารก เพศชาย
เมื่อเดินเข้าไป ใกล้ จะมีกระแสเย็น แห่งความเมตตา ออกมาเย็นๆๆ

เบื้องหลัง เยื้องไปทางซ้ายมือ
เป็นรูปแกะสลักไม้สัก ของ พระแม่กวนอิมพันมือ
หรือ องค์พระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร ที่มีกรนับพัน
เมื่อเราไปยืนถ่ายรูปเบื้องหน้า แบบเรียงแถว รวมกัน
พออัดรูปออกมาดู พบว่า เบื้องหลัง ของเราที่เป็นพระแม่กวนอิม
เป็นแสง ฉับพรรณังสี ชัดเจนสวยงาม เป็นเลื่อมลายอันอัศจรรย์ ยิ่ง

 

จากสายตาพบว่า มีทางขึ้นไปข้างบนอีก
จึงขึ้นไป ก็เจอ พอดี
ฤาษีหนวดยาว ตัวเท่าคน ยืนถือไม้เท้า
อ้อ !!ฤาษี ตนนี้เอง ที่ ไป ยืนเอาไม้เท้า กั้นรถเราตอนเข้ามา
ก็เลยถือโอกาส ขอโทษ ที่ บุกรุกเข้ามาโดยไม่ได้บอกกล่าว

ขึ้นบรรได สูงขึ้นไปอีกประมาณ 5 เมตร
พอโผล่ศีรษะ ขึ้นไป ก็จ๊ะ เอ๋ กับยักษ์ตัวแดง
เป็นยักษ์ขนาดใหญ่เท่ากับที่เฝ้าประตูวัดพระแก้ว กทม
นี่ คือ ยักษ์ตัวที่ กั้นรถเรา ตอนขับรถเข้ามา ตรงประตู นั่นเอง


ลองกำหนดจิตดู ก็พบว่า ยักษ์นั้น อมยิ้ม
คงจะขำท่าทางของเราตอนนี้
และทั้งตอนที่ ตกใจ ที่พบ ตะบองกั้นประตู

แม้ยักษ์จะอมยิ้มอย่างขำขัน
แต่ความที่ มีเขี้ยวใหญ่ ยาว ทั้งสองมุมปาก
ก็ยังทำให้น่ากลัวอยู่แบบ ยักษ์ๆๆๆๆ เหมือนเดิม

 

ยังมีเรื่องอีกยาว แต่ก็ต้อง จบไว้ก่อน
มิฉนั้น เรื่อง พญานาคในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ก็จะกลายเป็น พญานาคแห่งเขาอิติสุคโตไป

ตอนเย็น เจ้าอาวาส กลับมาจากการไปรับพัดยศที่ นครปฐม
คำแรกที่เจอ ท่านว่า
" คนของกูบอกว่า มึงมาแต่เช้า
ดีนะที่มึงของโทษเขา ไม่อย่างนั้น มึงเละ"

นั่นไง ทั้ง ฤาษีและยักษ์ ทั้งคู่ คงจะรายงาน เจ้านาย ตามระเบียบ

ท่านว่า ต่อ " เขาบอกว่า มึง มาถึงก็เที่ยวไปดูทุกห้อง แม้กระทั่งห้องครัว"
ก็จริงของท่าน
เพราะไปถึง ตอน 10 โมง เช้า ท่านกลับมาเกือบ 6 โมงเย็น
มีเวลาหลายชั่วโมง ก็ต้องดูให้ทั่ว เข้าทุกห้องไม่ให้ขาด
ว่า ที่นี่ มีดี ตรงไหนบ้าง


จากการสำรวจทางจิต
พบว่า นอกจาก รูปปั้นพระ เทพ ทั้งหลายที่ได้เล่าไปแล้ว
พบว่า มีของศักดิ์สิทธิ ที่น่าสนใจอีก3-4 อย่าง

ที่กลางโถงศาลาปฏิบัติธรรม
มีรูปปั้นเคารพของ หลวงปู่ขาว
เมื่อ เพ่งด้วยตาที่สาม มีกระสุนจากตาวิ่งออกไปกระทบรูปปั้นนั้น
พลันมีการระเบิดจากการกระทบ กระจายออกมา เป็นดอกไม้โปรยกระจายออกมาเต็ม อากาศเย็น แปลว่า ท่านแผ่เมตตาออกมาเหมือนให้พร

ด้านหลัง มี องค์พุทธบาทขนาดเล็ก ยาวประมาณ 1 เมตร
เป็นพระพุทธบาทที่ให้กระแสเย็นจนหนาว ทำให้ ร่างกาย หายเมื่อย
สมควรอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไป จะต้องไป กราบที่นั่น

 

ตรงกลางโถง ปฏิบัติ มีรูปปั้น พระแม่กวนอิม ปางเทขวดน้ำสูงครึ่งเท่า คน
ซึ่งเป็นปางที่ ให้พลัง รักษาโรค
เราจึงไปยืนเบื้องหน้า ขอพระแม่ประทานน้ำมนต์ออกมาเพื่อรักษาเราด้วยเถิด
เมื่อเราเอามือไปรอง ตรงปลายขวด ที่กำลังเท
พลันมี เสมือน น้ำ มนต์อันเย็นเจี๊ยบ ไหลออกมา
เราก็เอามือรองไว้แล้ว เอามา ลูบหัวลูบตัว
ทำให้ กายเย็นฉ่ำ สะบาย เบา
พวกเราที่ไปทั้งหมด ก็เข้าแถว เอามือรองน้ำมนต์ศักดฺสิทธิ์ ที่ไหลออกมาจากปลายขวด ครบทุกคน

ที่นั่นมีแม่ชี และ กลุ่มคนที่มาปฏิบัติชีพราหมร์ กว่า 20 คน
เห็นพวกเราไปยืนเอามือ รองที่ปลายขวดน้ำ ของ พระแม่กวนอิม
ก็แปลก ใจ ถามว่า ทำอะไร
เราก็ตอบ " ขอน้ำมนต์ รักษาโรค"

เท่านั้นแหละ พวก แม่ชี และ ชีพราหมร์
ก็พากันมาเข้าแถว รองน้ำ เช่นกัน
เป็นที่ อัศจรรย์

พวกเที่คิดว่า มีอภิญญา หือ มีสัมผัสไว
ให้ลองไป ที่นั่นครับ
จะได้ เจออะไรดีๆๆ
ระวัง ฤาษีและยักษ์ที่เฝ้าประตูวัดนะครับ
หยุดรถและขออนุญาติก่อนเข้า
ขอบคุณ ก่อน จาก

 

ไปมาแล้ว ๆ รู้สึกประทับใจมากที่สุดก็ตรงรูปปั้นพญางูที่เรียงรายตลอดบันได ที่รู้สึกพลังแรงมากสุด ๆ ก็ 2 องค์ที่อยู่ชั้นบนสุด รู้สึกจะมีไข่ด้วย อยากให้อาจารย์ตาที่สามช่วยอธิบายหน่อยว่าท่านเหล่านั้นเป็นพญานาคใช่หรือไม่ รู้สึกผูกพันกับท่านอย่างไรไม่ทราบ ตอนก้มลงกราบท่านทักแรงมากจนเข่าอ่อนอยู่นานค่ะ

 

นาคา - นาคี

อนุโมทนา ครับ

ท่านพญานาค อยู่ทุกหนทุกแห่ง ที่ท่านเมตตา เพื่อการรักษา สิ่งใด สิ่งหนึ่ง ในสถาน ที่นั้นๆ ครับ

แม้กระทั่ง บุญ เพ็ญ 15 ค่ำเดือน 11 ออกพรรษา ทั้ง สองฝั่งริมโขง ยุดหลัง 2500 ปี ....

...ขออำนวยพร...

 

คุณตาที่สามนี้นับวันจะทำให้หนิงเลื้อมใสมากขึ้น
รู้สึกอยากจะเจอท่านแล้วสิ
แต่เสียดายเราอยู่ห่างกัน
แต่ ท่านพี่ก็ไม่ต้องถอดจิตมาดูก็ได้หนะ เดี่ยวหนิงหาโอกาศลงไปเยี่ยมเอง

 

ใช่รูปนี้หรือเปล่าครับ?

 

ถามคุณ The Third Eyes<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_478269", true); </SCRIPT> เคยฝันเห็น พญานาคมาเลื่อยรอบ 3 รอบแล้วแต่ละรอบจะเรียกว่ามหาบพิต อย่างนี้จะหมายความว่าอย่างไรครับ

รอคำตอบจากคุณThe Third Eyes<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_478269", true); </SCRIPT> อยู่นะครับ
ปล. ฝันจริงๆ

 

เอใครนะที่หนีเตลิดเปิดเปิงมาจาก pantip ลึกลับ โดนเช็คบิลล์มา แล้วก็มาโผล่แถวๆนี้
ใครหว่า ใครที่ทำบาปเอง ก็ย่อมเศร้าหมองเองแหละ

 

ผมเสนอ กระทู้ที่เป็นข้อมูลเผยแพร่ เพื่อเสริมความรู้แก่คนทั่วไป
ที่ไม่มีพลังจิต และไม่มีตาที่สาม
ที่จะมองโลก อีกมิติ ที่เป็นโลก แห่งวิญญาณ

ไม่เคยกล่าวร้ายผู้ใด มีแต่การเสริมสร้าง และสร้างสรรค์
เวบ พันทิปนั้น แรกเริ่มดี
ต่อมา มี พวกป่วนเข้ามาแยะ
เหมือนกับที่ คุณโคกผักหวาน กำลังจะทำเช่นกัน
จึงไม่มีประโยชน์ ที่จะอยู่ที่นั่น
อยากให้กลับไปดูว่า เดี๋ยวนี้ เวปที่นั่น เป็นอย่างไร

คุณโคกผักหวาน เข้ามาป่วนที่นี่เพื่อประโยชน์ใด
ถ้าไม่ชอบ และไม่เห็นด้วย ก็ขอให้ข้ามไป
อย่า อ่าน ก็เท่านั้นเอง
ยังมีสมาชิกอีกมากมาย ยังอยากที่จะอ่าน

ผมเชื่อในหลักธรรม อยู่ข้อหนึ่ง
ผู้ใดกล่าวร้ายผู้อื่น ในข้อมูลที่เป็นเท็จ
จงใจให้ร้ายเขา
เขาจะได้บาปและกรรมนั้น

 

ผมติดตามอ่านกระทู้ของ The Third ตลอดเลย ได้อะไรใหม่ๆที่เราไม่รู้มาก่อน

 

ถ้าคุณโคกผักหวานพูดแบบนี้ก็กระทบหลายคนทีเดียว
เวปนี้เขาเปิดให้คนที่มีเรื่องราวแปลกๆมาเล่าสู่กันฟัง เราเองติดตามอ่านสมัยคุณเวปสโนว์อยู่ พอไปแล้วห้องก็เงียบ คุณตาที่สามมาห้องก็ครื้นเครง พอเลิกโพสก็ไม่มีสีสรร ตอนนี้เราเองก็นานๆเปิดดูห้องลึกลับ พันทิพ ซึ่งกระทู้แทบไม่เดินแล้วด้วยมั้ง

จำได้ว่า ห้องนั้นถ้าใครดังปุ๊บก็จะโดนก่อกวน ไม่ว่าจะเป็นคุณเวปสโนว์ คุณคนเก่า คุณตาที่สาม มีช่วงหนึ่งจะทำลิงค์พลังจิตที่พันทิพยังทำไม่ได้เลย ตอนนี้ไม่รู้ว่าได้หรือเปล่านะคะ ไม่รู้จะรังเกียจอะไรขนาดนั้น

ตอนที่มีปัญหากัน เราก็อยู่ ยังเคยเอาข้อมูลจริงๆคนก่อกวนมาลง คนนั้นเขาก็พยายามลบกระทู้ สร้างภาพตัวเอง หาข้อมูลเหมือนตัวเองรู้จริงทั้งๆที่ก๊อปเขามา ลบเรื่องจริงของตัวเองจนเวปเดี้ยง สุดท้ายโดนแบนด์ไอดีเอง ก็สมควรเป็นผู้ชายแต่เอาผู้หญิง(คุณระนาดแก้ว)ไปนินทาเวปโน้นเวปนี้ (เปลี่ยนใช้ชื่ออื่น เวลาด่าคน) คนที่โดนระงับบัตรสมาชิกคือคนนี้แหละ ไม่ใช่คุณตาที่สามค่ะ แต่ว่าอาจารย์ออกมาเองก็คงเพราะเบื่อ อ้อ จำได้แล้วหนึ่งในชื่อที่เขาโพสว่าคนอื่นบ่อยๆคือ บวชใจ จำได้จนได้ แต่ชื่ออื่นๆที่เอาไว้ขอต้นไม้ฟรี หรือด่าคนอื่น จำไม่ได้แล้ว

ชอบอ่านหนังสือแปลกๆ และติดตาม อ.ตาที่สามโพสตลอด หนังสือ(คนเห็นผี)ก็ซื้อไปฝากผู้ใหญ่และเพื่อนตลอด อ่านแบบนิยายก็ได้ สนุกมาก เพื่อนอ่านแล้วยังอยากมาทำความรู้จักค่ะ

 

ชอบที่อาจาย์ตาที่สาม โพส สนุกดีเหมือน ผู้ใหญ่เล่านิทาน
อาจารย์คะ โบว์อยากทำอย่างอาจารย์ได้มั้งจังคะ คริกๆ
ท่าทางจะอีกนาน โบว์เหมือนว่า เคยเห็นพญานาคที่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่ที่โบว์เห็นตัวท่าน สีขาวอ่ะค่ะ

 

ไม่ได้ตั้งใจมาก่อกวนหรอก แต่เป็นความหวังดีว่า ไม่ควรจะเชื่ออะไรง่ายๆ บางคนเนียนมากในการวาดวิมานในอากาศ ครูบาอาจารย์ที่เป็นทองแท้ ท่านไม่พร้ำพรรณาขนาดนี้ ผูกลากจิตใจให้คล้อยตาม แล้ว คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ตามมาทีหลัง แล้วจะหาว่าไม่เตือน

 

มาให้กำลังใจอาจารย์ค่ะ