ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

พ่ออยู่หัว ทรงพระราชดำเนิน มาหยุดตรงหน้าสิงห์ ที่รีบหมอบกราบแทบพระบาท ในฉลองพระบาททอง สลักลวดลายงดงาม ทรงประทับนั่งบนพระเก้าอี้ ข้างเจ้าหอหน้า แล้วก้มลงมา สองพระหัตถ์ประคองบ่าสิงห์ แล้วทรงตรัสเบาๆ ด้วยพระสุรเสียงทุ้มอ่อน "ลุกขึ้นเถิดลูกพ่อ ขวัญเอ๋ยขวัญมา เป็นเยี่ยงไรบ้างเจ้า เห็นว่าไข้หนัก ลุกไม่ได้เสียหลายเพลา"

สิงห์เงยหน้า ยืดตัวขึ้น เงยหน้าสบสายพระเนตร ที่ทอดลงมา ก็ได้แต่ยิ้ม พ่ออยู่หัว ทรงวางพระหัตถ์บนศรีษะสิงห์แล้วตรัสว่า "ขอเทวดารักษาลูกพ่อ หมดเคราะห์หมดโศกเสียที ขอให้สวัสดีมีชัย ชนะศึกทุกทิศ" สิงห์รู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง ดั่งสายฝนพร่างพรมลงมาในใจที่แห้งผาก

 

ยังมิทันที่สิงห์จะกล่าวกะไร เจ้าหอหน้าก็ทูลว่า "เจ้าพ่อ สิงห์ฟื้นตัวดีแล้ว พะย่ะค่ะ ลูกเห็นสมควรจักให้สิงห์คุ้นศึก ลูกจักออกรบตีเมืองละแวกให้ยำเกรงเสีย ลูกฟังที่พวกพระยาอำมาตย์ อโยธยากล่าวอ้างมิยอมไปตีเมืองละแวกด้วยชักแม่น้ำมาพูดพล่ามเสียมาก แท้แล้วคงเกรงจักแพ้ศึก แลยำเกรงพระเวทย์ของเมืองละแวก เป็นข่าวลือว่าทัพใดต้องมนต์ดำเมืองละแวก แม่ทัพจักตายด้วยมนต์ดำอันทารุณ ลูกจักให้สิงห์ติดตามลูกไปตีเสียให้แตก แต่เจ้าพ่อมิต้องกังวลพระทัยไป ลูกจักตีเพื่อสร้างขวัญให้ทัพอโยธยา ให้พวกละแวกยำเกรงเสียบ้าง ไพร่ฟ้าจักได้อยู่เย็นเป็นสุข กะไรเสียทัพหลวงลูกจัดเตรียม แลขัดเกลา เพื่อต่อศึกอิระวดี"

พ่ออยู่หัว ทรงเงียบไปครู่หนึ่ง "หากเจ้าเห็นดี พ่อก็เห็นดี" ทรงตรัส
แล้วหันมาตรัสกับสิงห์
"พ่อห่วงเจ้านัก แต่เมื่อมีองค์ดำนำทัพ พ่อก็เบาใจ จงติดตามพี่เจ้าอย่าให้คลาดสายตา"

แล้วทรงหันมาตรัสกับองค์ดำ "พ่อฝากน้อง ไม้ยังอ่อนนัก เจ้าจงค่อยดัด"

เจ้าหอหน้า ตรัสตอบว่า "พะย่ะคะ เสด็จพ่อ"

 

แสดงว่าคงอีกนานมาก สิน่ะ กว่าจะเขียบจบ

 

ไม่มีกำหนด

 

อ่อเขียนไปเรื่อยๆสินะ
เพิ่งมาอ่านนิยายของคุณไม่นานมานี้แต่ชอบ
เพราะคุณบรรยายได้ระเอียดดี น่าจะรวมเล่มเป็นหนังสือนะ

 

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้บอกบุญ ประชาสัมพันธ์งานบุญครับ

ขอเชิญเจ้าของกระทู้ และสมาชิกที่ติดตามกระทู้ทุกท่าน ร่วมทำบุญสร้างวิหารแก้ว 2 ชั้น และสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯ หล่อด้วยโลหะ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร สูง 15 เมตร ปิดทอง ประดับเพชร ยอดพระเกศทองคำ ณ วัดนาเดื่อ บ้านนาเดื่อ ตำบลนาแก้ว อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร

โดยร่วมทำบุญ กองบุญละ 20 บาท
1 ท่าน จะทำกี่กองบุญก็ได้
โอนเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 021 - 8 - 78604 - 9
ชื่อบัญชี พระพลัฏฐ์ ฐิตกรณีโย(หลวงพ่ออึ่ง) เจ้าอาวาสวัดนาเดื่อ
เบอร์มือถือ 090-9635669

โดยให้ส่งหลักฐานการทำบุญ และส่งรายชื่อมาที่ Facebook ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร เล้ง

https://www.facebook.com/profile.php?id=100014474581651&fref=hovercard&hc_location=chat

ท่านที่ส่งรายชื่อมาแล้ว ทางทีมงาน ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร เล้ง จะนำรายชื่อของท่านไปพิมพ์ลงในสมุดปกสีทอง ด้วยกระดาษสีทอง ซึ่งสมุดบุญปกสีทองนี้ จะนำไปเก็บไว้ที่ห้องใต้ฐานสมเด็จองค์ปฐมฯ หน้าตัก 10 เมตร และทุกครั้งที่วัดมีพิธีสวดสะเดาะเคราะห์ ทางวัดนาเดื่อจะนำ สมุดบุญ ที่มีชื่อ - นามสกุล ของท่านมาเข้าในพิธีด้วยทุกครั้ง

บุญที่สร้างสมเด็จองค์ปฐมนั้น ในบัญชีบุญบาปในโลกทิพย์ หรือโลกวิญญาณนั้น เขาจะเปลี่ยนเป็นอีกบัญชีหนึ่งแยกต่างหาก ซึ่งก็คือ บัญชีสมุดสีทอง เป็นทองคำล้วนทั้งเล่ม และเขาจะบันทึกรายชื่อผู้ทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม ไว้ในบัญชีสมุดสีทอง

เหตุก็เพราะว่าเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ที่พระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ให้ความเคารพ และการสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมนั้น พระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ ย่อมมาร่วมอนุโมทนา

หรือในคราวใด ที่มีการอันเชิญพระพุทธเจ้าองค์ปฐมให้เสด็จ พระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ย่อมเสด็จตามมา และพระพุทธเจ้าองค์ปฐมย่อมเป็นประธานทุกครั้ง

การสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯ หล่อด้วยโลหะ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร สูง 15 เมตร ปิดทอง ประดับเพชร ยอดพระเกศทองคำ นี้ ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก ยังไม่เคยมีที่ใดทำมาก่อน ต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก และทางวัดยังขาดปัจจัยอีกจำนวนมาก

ขอรบกวนเจ้าของกระทู้และผู้ติดตามกระทู้ทุกท่าน ช่วยแชร์กระจายข่าวงานบุญนี้ต่อไปยังสาธุชนพุทธบริษัททั้ง 4 ให้ทราบโดยทั่วหน้ากัน

สาธุ ขออนุโมทนา

ผู้เขียนโพสนี้โดย Sirius Galaxy
หรือ Facebook คิดดี พูดดี ทำดี ปรารถนาพุทธภูมิ

 

สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมดูดวงทุกท่าน ท่านเจ้ากรรมนายเวร เทวดาประจำตน ผู้ติดตามจากอดีตชาติ คุณครูอาจารย์ สาธุ

 

แล้วเจ้าหอหน้า ก็ตรัสกับสิงห์เบาๆ
"สิงห์ เจ้าจงทวนมนตราที่ขรัวอินทร์สอนให้แม่นยำ จงตระเตรียมลูกน้องของเจ้าให้พร้อม
ศึกเมืองละแวกมิใช่การละเล่น หากเพลี่ยงพล้ำ เจ้าอาจมิได้พบหน้าพ่ออยู่หัวอีกครา"

สิงห์งุนงง กับคำว่าลูกน้อง ที่เจ้าหอหน้าตรัส แต่ก็รีบตอบไป "พะย่ะค่ะ"

เจ้าหอหน้าตรัสว่า "ขรัวอินทร์ ให้ของขลัง อันใดบ้าง จงบอกพี่มาเถิด "

พลันสิงห์ จึงคิดได้ ว่าลูกน้อง คือ ภูติโหงพราย ของดีของขลัง คือ ควายธนูแลหุ่นพยนต์

สิงห์อ้ำอึ้งไปเหมือนเกรงจักมิบังควร ในรั้วในวังควรฤาจะพูดเรื่องไสยเวทย์

 

สิงห์ อ้ำอึ้งอึกอัก มิกล้าตอบ สายพระเนตร พ่ออยู่หัว ทรงงงกับอาการประหม่าของสิงห์
แต่สายพระเนตร ของเจ้าหอหน้าที่ทอดพระเนตรมา ทำเอาสิงห์แทบสะดุ้ง ช่างดุดันนัก

ทรงหันไปสบพระเนตร กับพ่ออยู่หัว แล้วตรัสว่า "ลูกก็อยากจะค่อยสอนค่อยดัด แต่บางเพลา
ขุนสิงห์ขัดตาขัดใจลูกนัก อยากจะหักด้ามพร้าเสียด้วยเข่า พะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ"

สิงห์รีบตอบทันใด "ขรัวอินทร์ มอบหุ่นพยนต์แลควายธนู ให้น้อง ส่วนพวกภูติโหงพราย หลัง
จากขรัวอินทร์ละสังขาร ก็ยึดน้องเป็นนายมัน แต่น้องมิค่อยไว้ใจนัก ด้วยฝูงมัน มักทำมาก
บางเพลาน้องก็ลืมมันไปเสียสิ้น พะย่ะคะ เสด็จพี่ อย่ากริ้วเลย"

 

พ่ออยู่หัว ทรงถอนพระปัสสาสะ แล้วตรัสสอนด้วยพระสุรเสียงอันเปี่ยมเมตตา
"สิงห์เอ๋ย ลูกเอ๋ย ด้วยเจ้าสองพี่น้องห่างพ่อไปเสียนาน แลอุปนิสัย ใจคอ ก็ไปตามสถานถิ่น
พำนัก แต่กะไรเสีย ก็เป็นลูกพ่อ พ่อจักขอร้อง เจ้าจักขืนใครก็ขืนได้ แต่อย่าขืนพี่เจ้า
เจ้าจักมีความลับอันใด กับผู้ใดก็มีได้ แต่เจ้าต้องอย่าหลีกเร้นจากพี่เจ้า ด้วยพี่เจ้านั้น
จักได้ช่วยเหลือเจ้าได้ทันการ หากเจ้าเพลี่ยงพล้ำ อันคนเรา ดาบจักงาม ต้องตีด้วยหลายฆ้อน
เจ้าก็เฉกเดียวกัน จงฟังคำสอน พี่เจ้าเชี่ยวชาญ ชำนาญไสยเวทย์ มนต์ คาถาอาคม ไม่แพ้ผู้ใดในแผ่นดิน แลพี่เจ้ายังกล่าวว่า ได้รับเจ้าเป็นศิษย์ จงให้พี่เจ้าสอนเถิด "

สิงห์มิกล่าวกะไร รีบหมอบกราบแทบพระบาท ที่เสด็จพ่อสั่งสอน

เจ้าหอหน้ามองภาพที่สิงห์กราบพระบาทเสด็จพ่อ แล้วทรงถอนพระปัสสาสะเช่นกัน

ทรงระงับพระอารมณ์ลง แล้วตรัสด้วยเสียงเรียบ

"ลูกขอลากลับตำหนัก เพื่อจัดเตรียมทัพลับ ขอกราบทูลลา พะย่ะค่ะ"

พ่ออยู่หัว ตรัสว่า "ขอสวัสดี มีชัย จงอยู่กับลูกทั้งสอง"

 

สาธุ ขออนุโมทนา
ขอขอบพระคุณครับ

 

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้บอกบุญ ประชาสัมพันธ์งานบุญครับ

ขอเชิญเจ้าของกระทู้ และสมาชิกที่ติดตามกระทู้ทุกท่าน ร่วมทำบุญสร้างวิหารแก้ว 2 ชั้น และสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯ หล่อด้วยโลหะ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร สูง 15 เมตร ปิดทอง ประดับเพชร ยอดพระเกศทองคำ ณ วัดนาเดื่อ บ้านนาเดื่อ ตำบลนาแก้ว อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร

โดยร่วมทำบุญ กองบุญละ 20 บาท
1 ท่าน จะทำกี่กองบุญก็ได้
หรือ 1 ท่าน จะส่งรายชื่อมากี่คนก็ได้ ตามจำนวนบุญ
ส่งรายชื่อญาติพี่น้อง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ลูก หลาน เหลน โหลน สัตว์เลี้ยง เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เทพ เทวดา อินทร์ พรหม มาร ยักษ์ นาค ครุฑ สัตว์นรก เปรต อสูรกาย ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วทั้งหลาย

โอนเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 021 - 8 - 78604 – 9
ชื่อบัญชี พระพลัฏฐ์ ฐิตกรณีโย(หลวงพ่ออึ่ง) เจ้าอาวาสวัดนาเดื่อ
เบอร์มือถือ 090-9635669

โดยให้ส่งหลักฐานการทำบุญ และส่งรายชื่อมาที่ Facebook ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร เล้ง

https://www.facebook.com/profile.php?id=100014474581651&fref=hovercard&hc_location=chat

ท่านที่ส่งรายชื่อมาแล้ว ทางทีมงาน ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร เล้ง จะนำรายชื่อของท่านไปพิมพ์ลงในสมุดปกสีทอง ด้วยกระดาษสีทอง ซึ่งสมุดบุญปกสีทองนี้ จะนำไปเก็บไว้ที่ห้องใต้ฐานสมเด็จองค์ปฐมฯ หน้าตัก 10 เมตร และทุกครั้งที่วัดมีพิธีสวดสะเดาะเคราะห์ ทางวัดนาเดื่อจะนำ สมุดบุญปกสีทอง ที่มีชื่อ - นามสกุล ของท่านมาเข้าในพิธีด้วยทุกครั้ง

บุญที่สร้างสมเด็จองค์ปฐมนั้น ในบัญชีบุญบาปในโลกทิพย์ หรือโลกวิญญาณนั้น เขาจะเปลี่ยนเป็นอีกบัญชีหนึ่งแยกต่างหาก ซึ่งก็คือ บัญชีสมุดสีทอง เป็นทองคำล้วนทั้งเล่ม และเขาจะบันทึกรายชื่อผู้ทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม ไว้ในบัญชีสมุดสีทอง

เหตุก็เพราะว่าเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ที่พระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ให้ความเคารพ และการสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมนั้น พระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ ย่อมมาร่วมอนุโมทนา

หรือในคราวใด ที่มีการอันเชิญพระพุทธเจ้าองค์ปฐมให้เสด็จ พระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ย่อมเสด็จตามมา และพระพุทธเจ้าองค์ปฐมย่อมเป็นประธานทุกครั้ง

การสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯ หล่อด้วยโลหะ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร สูง 15 เมตร ปิดทอง ประดับเพชร ยอดพระเกศทองคำ นี้ ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก ยังไม่เคยมีที่ใดทำมาก่อน ต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก และทางวัดยังขาดปัจจัยอีกจำนวนมาก

วัดนาเดื่อ และบ้านนาเดื่อ นี้ มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับ หลวงพ่อหนุน สุวิชโย (พระครูวิชัยสารคุณ)

คือ หลวงพ่อหนุน เกิดที่บ้านนาเดื่อ ตำบลนาแก้ว อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร และเคยเป็นเจ้าอาวาสที่วัดนาเดื่อ แห่งนี้ และหลวงพ่อหนุนเคยเรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อฤษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง ถือได้ว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤษีฯ อีกองค์หนึ่งที่มีคุณวิเศษ

ปัจจุบันวัดนาเดื่อ มี พระพลัฏฐ์ ฐิตกรณีโย (หลวงพ่ออึ่ง) เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อหนุน สุวิชโย

ขอรบกวนเจ้าของกระทู้และผู้ติดตามกระทู้ทุกท่าน ช่วยแชร์กระจายข่าวงานบุญนี้ต่อไปยังสาธุชนพุทธบริษัททั้ง 4 ให้ทราบโดยทั่วหน้ากัน

สาธุ ขออนุโมทนา

ผู้เขียนโพสนี้โดย Sirius Galaxy
หรือ Facebook คิดดี พูดดี ทำดี ปรารถนาพุทธภูมิ
ชื่อนามสกุลจริง นายศุภชัย รังสิยานนท์

 

ร่วมทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมวัดนาเดื่อ 5 กองครับ

ส่งรายชื่อไปที่ และส่งรายชื่อมาที่ Facebook ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร เล้ง แล้วครับ

 

สาธุ ขออนุโมทนา
ขอขอบพระคุณมากครับ

 

แล้วพ่ออยู่หัวก็ทรงดำเนินออกจากพระทวารหลังท้องพระโรง แลเห็นมีมหาดเล็ก แลขบวนสนมกำนัลรอตามเสด็จ เจ้าหอหน้ารอจนขบวนเสด็จทิ้งห่างไป จนมิได้ยินเสียงฝีเท้า ตามไม้กระดาน
ท่านก็ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สิงห์รีบลุกเดินตามไปด้านหลัง ทรงผลักพระทวาร ออกไป สิงห์
หยีตา กับแสงอาทิตย์ ยามบ่ายที่สาดเข้ามา เห็นทหารมหาดเล็ก นั่งคุกเข่า ประมาณสิบนาย ถวายบังคมเจ้าหอหน้า แต่มิมีใคร ผุดลุก ทุกคนก้มหน้ามองพื้น สิงห์ รีบก้าวตามเจ้าพี่ โดนมินำพา ทหารพวกนั้น ด้วยตนโดนคาดโทษเสียหลายกระทง ทหารเหล่านั้น ทิ้งช่วงเกือบศอก แล้วเร่งเดินตามสิงห์ ไปเช่นกัน

 

ถึงแม้ ตอนมาแม่หนูอินทร์ จะเป็นผู้นำพา แต่ตอนกลับ มีเพียงเหล่าทหารติดตามเจ้าหอหน้า มิมีนางกำนัลในขบวนเสด็จ ผ่านทหารยาม ที่ใด ทหารยามก็ก้มคุกเข่าถวายบังคม แต่เจ้าหอหน้าทำพระพักตร์เรียบเฉย มิมีอาการตอบรับ ทรงพระดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ผ่านหมู่ปราสาทน้อยใหญ่ทะลุไปค่อนข้างไกล จากท้องพระโรง ก็ไปถึงอาคารรูปทรงงดงาม ด้านหน้ามีประตูรั้วสีขาว
แต่ประตูนี้ ผิดแผกจากประตูอื่นในวังหลวง มีมีลวดลาย เป็นประตูสีแดงขนาใหญ่ บานสูง

เจ้าหอหน้าเสด็จมาประทับยืนนิ่ง พวกทหารองครักษ์ ด้านหลัง ก็รีบคุกเข่า รออยู่ด้านหลัง
ทรงพยักพระพักตร์ให้สิงห์ ไปทางประตูใหญ่นั้น สิงห์เข้าใจทันใด รีบผุดลุกไปเปิดประตูให้เจ้าหอหน้า เปิดไปแล้ว ก็ให้แปลกใจ แลชื่นชมในความงดงาม เป็นอาคารสวยงามนัก ก่อสูง มีบันไดปูนลายนาคประมาณสามขั้น ลักษณคล้ายโบสถ์ขนาดเล็ก ประตูเป็นลายนูนอกะสลักลงรักปิดทองงดงาม ที่ตีนบันได มีกระถางบัวสีเขียวอย่างเครื่องเคลือบจีน ขนาดใหญ่ และร่มรื่น จากประตูบานใหญ่ ไปอาคารคล้ายโบสถ์ขนาดย่อมนั้น ถูกคั่นด้วยสนามหญ้าสีเขียวงดงาม แต่มไ่มีไม้ยืนต้นขนาดใหญ่เลย เจ้าหอหน้าก้าวข้ามประตูไม้นั้นเข้าไป สิงห์รีบเดินตาม เห็นทหารองครักษ์ นั่งนิ่ง
ไม่ไหวติง ใต้แสดงแดดยามบ่าย ก็ให้เข้าใจทันที รีบปิดบานประตูนั้นเสีย คงจักเป็นสถานที่
หวงห้ามหรือไรหนอ สิงห์ให้ตื่นเต้นนัก

 

เจ้าหอหน้า ทรงดำเนินไม่รอสิงห์ สนามหญ้ารอบโบสถ์ นั้น ถูกล้อมด้วยกำแพง แต่แปลกตรง
มิมีหิน ไปสู่หอนั้นเลย สิงห์เห็นเจ้าหอหน้า ทรงเดินตัดตรงไป แล้วก้าวขึ้นบันได อย่างไม่ลังเล
เจ้าหอหน้าเป็นผู้เปิดประตูบานนั้นเอง ทรงตรัสกับสิงห์ เบาว่า จงดำรงจิตให้เป็นสมาธิ ข้าจัก
พาเจ้าชม หอศาสตรวุธ แห่งวังหลวงอโยธยา

 

สิงห์มองลอดเข้าไปในโบสถ์ก็ให้แปลกใจนัก โบสถ์นั้นมิมีหน้าต่าง กำแพงปิดทึบ แสงแดดที่ลอดเข้าไปจากประตูนั้น เป็นแสงสว่างเพียงอย่างเดียว ที่ทำให้เห็นภายในโบสถ์ ลมจากประตูที่เปิดช่างเป็นลมที่เยือกเย็นยิ่งนัก บรรยากาศเต็มไปด้วย มนตรา และพระเวทย์ สิงห์กลืนน้ำลายลงโดยมิรู้ตัว เจ้าหอหน้าก้าวข้ามธรณีประตูอันงดงามนั้น แล้วทรงดำเนินไปตามทางกลางโบสถ์ พื้นโบสถ์เป็นไม้กระดานขัดมันสีเข้ม ทรงพระดำเนินไปหยุดตรงหน้าพระประธานที่งดงามนัก เป็นศิลปะแบบสุโขทัย ทรงก้มลงกราบด้วยท่วงท่าอันสำรวมและงดงาม สิงห์ค่อยๆ คลานเข่าตามไป กราบพระเช่นกัน

 

เจ้าหอหน้ามิได้ทรงผินพระพักตร์มา แต่ทรงตรัสเบาๆว่า "หอศาสตราวุธ สร้างขึ้นตามตำราโบสถ์มหาอุตถ์ มิมีปรระตูออก มิมีหน้าต่าง มิให้สตรีล่วงล้ำ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จักมีพิธีชำระศาสตราวุธ โดยพราหมณ์ผู้ทรงศีล แลมีพิธีทำบุญบวงสรวงศาสตราวุธทุกขวบปี แลยังมีพิธีปลุกเสกอาวุธของพ่ออยู่หัวแลราชวงค์ ก็ทำพิธีที่โบสถ์แห่งนี้ เพลาพี่คิดการบ้านการเมืองติดขัด จักมานั่งสมาธิที่โบสถ์แห่งนี้ เพลาที่พี่ได้ข้ามธรณีประตูโบสถ์มา ดั่งพี่ได้ทิ้งยศฐาบรรดาศักดิ์ แลกิเลสทั้งปวงไว้หลังประตูสิ้น ในนี้มีเทพเทวารักษาศาสตราวุธ แลวิญญานบูรพกษัตราธิราชเจ้าแห่งอโยธยาศรีรามเทพนครก็จักคอยรักษา เจ้ารู้สึกเยี่ยงไรบ้าง สิงห์ พี่เคยนั่งสมาธิจิตด่ำลึกลงไป จนได้พบดวงจิตของเสด็จตาของพี่ ท่านทรงเป็นนักรบที่แกร้วกล้านัก แลยังปกปักรักษาเมืองอยู่มิได้ทรงทิ้งไป ทรงจากไปเพียงสังขาร แต่ทิ้งดวงจิตไว้เสียที่แผ่นดินที่ทรงกำเนิด ดั่งคำสัตย์สาบาน"

สิงห์รู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วทั้งร่างกาย เจ้าหอหน้าทรงทอดถอน พระปัสสาสะ "ก่อนออกรบ จากอโยธยาทุกครา พี่จักมาสวดมนต์ มิใช่เพื่อตัวพี่ พี่จักสวดมนต์ ขอให้เทพเทวา พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง ทรงรักษาทหารหาญ อีกทั้งบริวารช้างม้า ที่ออกศึก ให้ประสพสวัสดีมีชัย หากจักต้องตายในแดนศึก ดั่งทหารหาญ ก็ขอให้ดวงจิตกลับมาอโยธยาแผ่นดินแม่ โดยมิต้องอาคมมนต์ใด สะกดวิญญานไว้ได้ พี่จักปลุกเสกผ้ายันต์ แลตะกรุด เป็นขวัญกำลังใจ ให้แม่ทัพนายกลอง ด้วยบุญญาธิการแห่งบูรพกษัตริย์ รบคราใด พี่มิเคยพ่ายแพ้ มีแต่ถอย แต่มิเคยแพ้"