ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

วันนี้เลยทำเป็นครั้งแรก พอจบพิธี ก็อัญเชิญครูบาอาจารย์
เลยจัดการเขียนยันต์อุณาโลมให้ที่หน้าผากคนป่วย แปะทับด้วยทองคำเปลว
พร้อมนะโมพุทธายะ เขียนด้วยดินสอพองผสมน้ำมันจันทร์และน้ำอบผสมทองคำเปลว

คนข้างเตียงมองจารุแบบเหวอมาก

หวังว่ายันต์นี้จะประทับในวิญญานและคุ้มครองดวงจิตของคนป่วย

ภรรยาคนป่วยดูเกรงใจ ที่เราไม่ได้นำเงินเก็บไว้บางส่วน แม้แต่ค่าครู 9 บาท เราก็ถวายวัด
เราบอกว่า ทำให้ด้วยใจ ถือว่าขับรถมาทำบุญ เราไม่ได้ทำเป็นอาชีพ เมื่อรับเงิน คือรับกรรม

หวังว่าจะเกิดปาฏิหารย์ ภรรยาคนป่วยเข้มแข็งมาก แต่วันนี้ก็ร้องไห้ออกมาบ้าง
ได้แต่แผ่เมตตาให้เธอด้วย

 

เขียน ๒๑.๒๙

ท่านสุวิ มาก็ดีแล้ว พอดีมีใคร เค้าฝากธุระมาให้จัดการหน่อยน่ะนะ คือว่า



กระต่ายป่า ข้างวัด เค้าทุ่มหมดตัว เหลือแต่เหรียญ
โอนเงินให้ตั้งแต่วันที่สิบเก้าแล้วนะ จะบอกให้
แต่โดนแบนซะก่อน เลยหมดอารมณ์แจ้ง

แต่เค้าไม่ต้องการเหรียญที่ท่านจะสร้าง เค้าว่าขี้เกียจพก หรือพึ่งพิง
แต่เค้าว่า จะยกให้ใคร ที่เคยสนับสนุน ให้ทุนในการรบน่ะนะ
นามเรียกขานนั้น ของเค้าคนนั้น คล้ายกะชื่อหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องกะอาวุธสงคราม ที่ใช้ป้องกันประเทศ
เดี๋ยวจะส่งเมล์ผู้รับเหรียญ ไปให้นะครับ.

ถ้าเหรียญเสร็จแล้ว ช่วยถ่ายรูปมาโชว์หน่อยละกัน ชัดๆ
เค้าว่า ด้วยพลังจิตที่มี แค่เก็บจากรูปภาพ ก็เหลือเฟือ
ไม่ต้องพกของจริงให้เป็นภาระ เนอะ เค้าว่างั้นอ่ะนะ


ส่วนเจ้าตัวเค้าออกมาไม่ได้ ขาใหญ่เค้าไม่ยอม
ขาใหญ่เค้าต้องการยูสของเค้าคืนมาก่อน
ไม่งั้นก็ซวยกันไปเรื่อยๆ คอยดูไป
ชื่อ ิbat of light เค้าตั้งเอง
และต้องการใช้ชื่อนั้นน่ะ
เค้าทุบโต๊ะด้วยอ่ะ




(เช่นเดียวกับนายกระต่ายป่า-ขออนุญาติพาดพิงหน่อย
หากท่านเข้าใจสิ่งนี้ ท่านก็จะหลุดจากวิบากนี้เช่นกัน)

ส่วนอันนี้ ขอตอบแทนให้ละกันนะ ว่า
ไม่ใช่เช่นนั้นทั้งหมด เค้าใช้เทคนิคต่างกัน ในแต่ละกรณี
และไม่เคยเบิกบุญออกมาใช้ล่วงหน้า แม้จะเคยได้รับการฝากบอกใบ้

สิ่งที่ต้องเจอ เค้าไม่เคยคิดว่ามันเป็นปัญหาอะไรมากนัก แค่บ่นๆ รำคาญ
เค้ามองว่ามันเป็น "อิทัปปัจยตา" เป็นเรื่องตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่ปัญหา
และกองหนุนเค้ามีแยะ พระช่วยไม่ได้ ยังมีมาร มีเปรต บลาๆๆ แยะ

(ส่วนของขาใหญ่หลวง ไม่ต้องนับ)
เว้นแต่เรื่องใหญ่ๆ เช่น กสิณแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่ใช้ตอนน้ำท่วมกรุงครั้งโน้น คงมีใช้บ้าง เท่าไหร่ไม่ทราบ
แต่ไม่น่าจะมากนัก เพราะทำที่ท่าน้ำวัดระฆัง หันหลังให้โบสถ์ ตอนหัวค่ำ
ซึ่งเค้าก็ไม่ได้กังวลว่าต้องเสียเท่าไร เพราะเพื่อชาติไทยแล้ว น้อยกว่านี้ได้อย่างไร

และเค้าคงไม่เข้ามาโพสท์อีก จนกว่าจะได้ชื่อค้างคาวแห่งแสง กลับคืนมา
และคงไม่เข้ามาอ่านเวบบ่อยๆ นานถึงนานมาก กว่าจะเข้ามาได้ซักครั้งนึงนะ เนอะ

มัจจุราชรับจ็อบ
​

.

 

ฝากบอก ท่านพี่ต่ายด้วย อย่าหายไปนาน ป้าจารุคิดถึง 5555

ไม่มีคนลับฝีกลอนเลย

หายไปนานๆ เจอกันอีกที คงกลายเป็น หลวงพี่ต่าย แทน

 

เขียน ๒๑.๓๙

ปฐ.หมอสุวิ รบกวนส่งเหรียญให้กับเมล์ในข้อความส่วนตัวนะครับ ขอบคุณ

บอกให้แล้วนะ แต่คงจะหายไปนานแน่
จนกว่า Moderator6 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด
ที่เป็นคนแบนชื่อ ิbat of light จะคืนชื่อนั้นมาให้ใช้งาน
ถ้ายังไม่คืน เค้าก็คงต้องเลิกเข้าเวบพลังจิตซะที เค้าว่าเบื่อชิป

ตอนที่เค้าโดนแบน gratrypa อีกชื่อนึง ก็บ่นกระปอดกระแปดไปหลายวัน
ตอนนั่งสมาธิทั้งรอบเช้า เย็น และระหว่างวัน ที่ปกติจะอยู่ในฌาน
ก็ปล่อยแต่พลังลบออกมาตลอดตลอด จนเส้นพันยี่สิบตกถึงเมืองกรุงเลยอ่ะ

วันก่อนที่โพสท์ไป เค้าก็ปล่อยพลังลบอีกแล้ว และลมหนาวก็กลับมา เกี่ยวกันไม๊หว่า หึหึหึ
แผ่นดินไหวที่ไต้หวัน แค่หกจุดสี่ ตึกถล่มเลย ตายกันเป็นร้อย
ก็ไม่รู้ว่า มอด ๖ กับ สูญศรัทธา สองคนที่แบนสองชื่อ ต้องรับกรรมอะไร แค่ไหน เกี่ยวไม๊หว่า

สรรพสัตว์อีกนับพันชีวิต และคนอีกหลายคน ที่ต้องตายไปกับความหนาวเย็น
ทั้งสองคนนั้น ต้องรับผิดชอบแค่ไหน หรือเกี่ยวข้องไม๊หว่า กรรมเป็นเรื่องซับซ้อนนะ เนอะ

ตอนโดนแบน ก็นึกถึงสมัยกรุงศรีใกล้แตกเลยว่ะ
ห้ามยิงปืนใหญ่ เดี๋ยวมีคนตกใจ กูจะบ้าตาย
พวกมันเข้าใจสถานการณ์กันบ้างไม๊วะเนี่ย
ข้าศึกมาถึงหน้าประตูแล้ว บ้านเมืองจะชิปหายหมด
พวกมันแม่งก็ยังกังวล เรื่องพูดจาไม่เพราะ ไม่เหมาะ
เฮอะ กูฟังแล้วของขึ้น รับกรรมกันไปเหอะ

สองคนอาจจะรับมือไหว แต่บุคคลในทิศทั้งหกของทั้งสองครอบครัว
จะพาลซวยไปด้วยนะ ขอบอก นี่เป็นคำเตือนสุดท้าย
เป็นคำเตือนนะ ไม่ใช่คำแช่ง หรือคำพยากรณ์ ก่อนจะมีใครตาย

จากกันวันนี้ อาจไม่ได้เจอกันอีก เค้าฝากบอกลาด้วย ลาก่อน

มัจจุราชรับจ็อบ
​

 

เมฆรูปแปลกๆ

 

การทำบุญ จะได้บุญมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัย สามประการ

๑. ประการแรก ก็คือเมล็ดพันธ์ที่หว่านลงนนาข้าว
เมล็ดพันธ์นี้คือทรัพย์ อันได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยความเพียร ด้วยน้ำพักนำแรง ฯลฯ ได้มาด้วยความลำบาก และเก็บออมไว้
๒. ประการที่สอง ผู้หว่านเมล็ดพันธ์ ท่านผู้นี้ ได้หว่านเมล็ดพันธ์ คือทรัพย์ลงในพื้นนาแล้ว
เป็นทรัพย์ที่หาได้มายาก เพียรอดออมไว้ ตัดใจสละแล้วทั้งหมด เหลือติดตัวเพียงน้อยนิดแค่เศษเหรียญ
๓. ประการที่สาม เนื้อนาบุญ หากนาดี ดินดี เมล็ดพันธิ์ก็งอกงาม บุญก็อันเกิดจากเมล็ดพันธิ์นี้ ก็ออกรวงงดงามให้ผลมาก

เนื้อนาบุญนี้ มาจาก การสร้างเหรียญพระองค์ปฐม เพื่อแจกแก่ผู้ร่วมสร้างโบสถ์
เพื่อเป็นที่สถิตย์ "พระปฐมบรมพุทธรัตนศาสดา"(พระพุทธชินราชจำลอง)
พระปฐมบรมพุทธรัตนศาสดา เป็นพระประธานประจำวัด พ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์
ยังไม่มีโบสถ์เป็นที่สถิตเลย ดังปรากฏในรูปที่ ๑ (ถ่ายเมื่อ ๒๗ พ.ย. ๕๘)
ปัจจุบันกำลังสร้างศาลาเอนกประสงค์ เพื่อเป็นที่สถิตย์ชั่วคราว

ดังนั้นเนื้อนาบุญนี้คือองค์ปฐม

ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้า และเป็นจักรพรรด์ (เรียว่าพุทธจักรพรรดิ์-เป็นผู้ปกครองสามโลกธาตุนี้ )
ดังนั้นปริมาณบุญที่ท่านได้รับจึงเต็มเปี่ยม มหาศาลสุดคาดคำนวน

ที่ท่านกระต่ายป่านิมิตรเห็นลูกนิมิตร นั่นคือ ดวงแก้วมณีโชติรส อันเกิดจากบุญที่อัดตัวรวมกันแน่นเป็นดวงมณีฯ
หากดวงมณีนี้ขยายตัว แปรออกเป็นบุญปกติ ปริมาณของบุญนี้ ก็ท่วมสามโลกธาตินี้แล้ว
ใครมีญานดี ใครมีตาที่สาม ใครสัมผัสได้ ก็ลองอธิษฐานขอดูซิ
ปริมาณบุญที่ท่านกระต่ายป่าได้รับครั้งนี้ ท่วมสามโลกธาตุนี้จริงดังที่หมอสุวิกล่าวหรือไม่


ในการสร้างเหรียญพระนี้ พระองค์ท่านได้ ประทานพระเมตตา ประทานพลังงานไว้ให้ในเหรียญพระ ด้วยพระองค์เอง
ใครที่สามารถสัมผัสพลังได้ ก็ลองสัมผ้สพลังของท่านดู ในรูปเหรียญ รูปที่ ๒ และ ๓ (เหรียญยังสร้างไม่เสร็จ กำลังยู่ในช่วงดำเนินการ)
ให้ทดสอบดู สรรพคุณอำนาจเหรียญได้ จากรูปภาพที่นำมาให้ดู

อำนาจเหรีญนพระเป็นพระเมตตาขององค์ปฐมท่าน ประทานพรให้ มีจุดประสงค์หลักคือ
๑.ปกป้องกัน กัมมันตะภาพรังสีนิวเคลียได้
๒.นะเมตตา ๗-๙ ชนิด (ปกติพระทั่วไป มีเพียง ๔ ชนิด)
๓.แคล้วคลาด
๔.คงกระพันและชาตรี
(เหรียญสีเงินจะมีพลังอำนาจสูงกว่า เหรียญทองแดง)

หากท่านกระต่ายป่า ไม่ชอบพกเหรียญ ก็ไม่ต้องรอให้เหรียญทำเสร็จแล้ว
ให้มองดูรูปเหรียญ ในรูปที่ ๒ และ ๓ เลย และกำหนดใจว่าเรามีสิทธิ์ในเหรียญสีเงิน ขออราชธนาอำนาจเหรียญลงสถิตในใจท่านได้เลย


ปล.
ได้อ่านข้อความของท่านกระต่ายฯและผองเพื่อนในชุดสุดท้ายแล้ว
คล้ายกับว่า ท่านกำลังถูกกับดักของมารที่จะมาริดรอนอำนาจและบุญ

ขอเตือนท่านกระต่ายฯและพรรคพวกไว้ในที่นี้หน่อยว่า
อย่าให้กิเลส คือความโกรธ ความไม่พอใจ สะสมจนเกิดความคิดแค้น ฯลฯ ให้เกิดขึ้นในจิต
สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดบาป และลดทอนปริมาณบุญที่จะได้รับ

 

ได้แอบไปเยี่ยมคนไข้ของ จารุฯ มา ๒ ครั้ง

ไปครั้งแรก ผลออกมาว่า เขาจะไม่สู้แล้ว ขอไปแล้ว

ไปครั้งที่สอง ตกลงว่าจะอยู่ลองสู้ดูอีกสักตั้ง

จารุฯ ลองติดต่อเอาอาการจริงๆของกายเนื้อหยาบ ของท่านผู้นี้ให้หมอสุวิได้ ทราบบ้างซิ

 

เมื่อเช้าภรรยาคนป่วยโทรมา แจ้งว่าคนป่วยเสียชีวิต ช่วงสี่ทุ่ม. วันรุ่งขึ้น(วันอาทิตย์) ตรงกับวันพระพอดี และจากไปอย่างสงบ ลมหายใจค่อยแผ่วลง จิตจับดวงแก้ว แล้วจากไปอย่างสงบ เหมือนคนนอนหลับ

 

วันนี้มางานศพ เพื่อขออโหสิกรรมต่อกัน สาธุ ไปสู่ภพภูมิที่ดีนะพ่อคุณ

 

หลังจากไปงานศพ เสาร์อาทิตย์ก็เดินทางเข้ากรุงเทพ และได้มีโอกาสไปวัดพระแก้ว

ยังคงงดงามเช่นเดิม แต่ทัวร์จีนเยอะมาก .... ไม่มีโอกาสสวดมนต์ในโบสถ์ ที่จะนั่งจะยืนแทบไม่มี น่าเสียดายการจัดระบบระเบียบ ศาสนสถานอันทรงคุณค่า ดูด้อยค่าไปเยอะ

 

วันที่รับโอน ชื่อผู้โอน ยอดโอน

1/2/2559 ??? 100.00
1/2/2559 คุณ itou 500.00
2/2/2559 คุณ sustain36 500.00
3/2/2559 คุณ pruek 280.00
4/2/2559 คุณยศกร และครอบครัว 1,000.00
5/2/2559 ??? 100.00
6/2/2559 คุณ wanni_ch 1,000.00
9/2/2559 ??? 1,000.00
16/2/2559 คุณอัญชลี เปรมปรีดาและครอบครัว 2,000.00
รวม 6,480.00

ท่านใด คือ ??? รบกวนแจ้งด้วยจ้า ตกหล่นท่านใด

 

เค้าฝากมาบอกบุญผ้าป่า เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม

ณ.วัดสวนป่าภาวนาธรรม ต.สีสุก อ.จักราช จ.นครราชสีมา

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2559

บัญชีพระอ. ตามรูปเลยจ้า

 

ขออภัยแฟนๆที่หายไปนาน เนื่องจากวิชาสุดท้ายหนักมาก สอบอีกที 17 ก.พ.
หลังสอบก็ทำงานอีกนิดหน่อย จากนั้นคงว่างเขียนได้บ่อยขึ้น

 

นำบุญเล็กน้อยในวันมาฆบูชามาฝาก

ที่วัดวันนั้น ชาวบ้านมาร่วมแรงร่วมใจ กวาดต้นไม้ใบหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้
เลยบริจาคเพิ่มไป 100 บาท ค่าน้ำเย็นๆ ไว้เลี้ยงผู้ทำความดี

ซื้อปลาไปปล่อย 100 บาท

และทำบุญกับทางวัด 100 บาท

300 บาท อันทรงคุณค่าทางจิตใจ สำหรับมนุษย์เงินเดือน ตอนสิ้นเดือน

ธรรมะวันมาฆบูชา หมาแมวยังเล่นด้วยกันได้ มนุษย์เราก็อภัยกันเสียบ้าง

 

เดือนหน้าเปิดรับดูดวงปกตินะจ๊ะ

วันธรรมดา จ-ศ ดูช่วงเย็นทุกวัน
เสาร์อาทิตย์ ดูได้เป็นรอบ 10 โมงเช้า 13:00 15:00 17:00

วันพระไม่รับดู

ป.ล.ดูไม่ดู แล้วแต่อารมณ์และสุขภาพแม่หมอ
(ทำเป็นเล่นตัว ประหนึ่งว่ามีคนมารอดูเยอะ)

ดูเฉพาะในไลน์ โทรฟรีในไลน์หรือโทรศัพท์ค่ะ

ขอบพระคุณที่ร่วมดู ร่วมบุญ ด้วยดีมาตลอด

แล้วจะกลับมาเป็นนักเขียนนิยายประวัติศาสตร์กันต่อไปนะจ๊ะ เย้

 

ช่วงนี้อาการป่วยด้วยเบาหวาน ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

ร่างกายไม่ตอบสนองต่อสารเคมีที่เข้าไป หรือยาสมัยใหม่

น่าสงสารคุณหมอที่รักษา ไม่ว่าจะเปลี่ยนยา หรือเพิ่มระดับอินซูลิน
การควบคุมอาหาร ร่างกายก็ยังมีระดับน้ำตาลที่ 250-380

ซึ่งเป็นระดับสีแดง

ถ้าเป็นเช่นนี้ไม่เกินห้าปี คงต้องฟอกไต และพร้อมจะช็อคตายได้เสมอ

หรืออาจจะตาบอด???

ได้แต่ใช้กำลังใจเข้าต่อสู้

วันนี้ช่วงหัวค่ำ ก็เกิดอาการไข้ เลยทานยาและนอนพัก ในช่วงโพล้เพล้

หลับฝันไปว่า นอนอยู่ในห้อง แล้วมีคนมาคล้องแขนสองข้าง เหมือนจะให้เราลุกขึ้น
ตอนแรกเป็นเงาสีดำ เราก็เลยถามไปว่าใครน่ะ เจ้าหน้าที่กฏแห่งกรรมหรือ เวลาของเราหมดแล้วหรือ เรายังไม่ไป ถ้าไม่ได้คำตอบ

ก็เลยใช้จิตเพ่งมอง แต่ไม่รู้สึกถึงพลังงานของเจ้าหน้าที่กฏแห่งกรรม รู้สึกถึงพลังงานของวิญญานมากกว่า เลยกดกายละเอียดให้นอนลง สองร่างที่คล้องแขนกอดข้อศอกเราซ้ายขวาแน่นขึ้น มองไปด้วยจิตเพ่ง เห็นเป็นร่างตอตะโก ไหม้เกรียม ไม่มีผม ดำสนิท สองตน กอดไว้แน่น รู้สึกได้ว่าเป็นเพศหญิง

เราเลยบอกว่าปล่อย ไม่ปล่อยจะ... พวกหล่อนก็เลยบอกว่า ปล่อยตอนนี้ แต่อีกไม่เกินห้าปี พวกเราก็จะได้ติดตามท่านไป ไม่ยอมให้ไปไหนง่ายๆ แม้แดนนรกโลกันตร์ก็จะตามไป ท่านพี่ต้องชดใช้ให้เรา

ตื่นมาด้วยความเหนื่อยใจ และปลงกับชีวิตและจิตวิญญาน

อายุขัยที่ถูกกำหนดไว้แล้ว จะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่

 

จะบังเอิญหรือไม่ หลังจากตื่นขึ้นมา มีผู้ที่เราให้ความเคารพอีกท่านหนึ่ง
ได้มาเตือนผ่านตัวอักษรมาว่า ให้เลิกเขียนเรื่องราวสมัยอยุธยา หรือเรื่องในอดีตชาติ
แม้เป็นเพียงนิทาน หรือในฝันของเราเองนั้น

เพราะอาจมีผลทำให้เมื่อตายไป จิตวิญญานที่หมกมุ่น อาจจะทำให้ต้องพัวพันในภพภูมิเหล่านั้นอีกหลายชาติ...

คนที่เรารู้จักหลายต่อหลายคน ก็ยังตกนรกหมกไหม้อยู่

หรืออยู่ในดินแดนพิเศษที่กฏแห่งกรรม อยู่ภายใต้กฏแห่งนครปริศนา

ภพภูมิที่ไม่มีใครกล่าวถึง และห้ามกล่าวถึง

บางท่านก็อยู่ในภพภูมิสูง ไม่ว่าจะเป็น นาค ครุฑ ยักษ์ชั้นสูง พญามาร

แหม ญาติเยอะซะด้วยซิ

ว่าแต่ญาติบนสวรรค์ ไม่คิดถึงและห่วงใย ส่งบุญให้กันบ้างเลย

 

สิบเนื่องจากความเอาแต่ใจ ไม่สนใจกฏเกณฑ์อันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นกฏที่ทรงพลัง

เสือก ไป แหกกฏ เบิกบุญมาช่วยชาวบ้าน แบบลับๆในโลกมนุษย์

แต่ไม่ลับในโลกวิญญาน ณ.บัดนาว

การเบิกบุญห้ามเด็ดขาด การใช้บุญเพื่อกิเลสตัณหาก็ห้าม

การมีชีวิตแบบมนุษย์ก็สั้นลง อยากอยู่เหนือกฏเกณฑ์ ก็ต้องไปอยู่นครปรืศนาแดนพิเศษ แต่ไม่ใช่ภพภูมิมนุษย์

ดัน เสือก ไปภาวนาให้อายุขัย ของบางคน ยืดยาวต่อไป ก็ลดอายุตนเองไปละกัน

แล้ว ..... กลัวมั้ยล่ะ ความตาย

ห่วงล่ะ ละได้มั้ย ....

นึกถึง หน้าลูกชาย ที่เป็นเด็กพิเศษ ใจที่เคยวางได้ ก็วุ่นวายนัก

 

หน้าที่เก่า ของเรา หนึ่งหน้าที่ คือ ควบคุมแดนพิเศษ ......

สงสัยว่า ถ้าไม่เลิกเล่า จะได้ไป ที่ที่จากมา เพราะเฝ้ารอกันเหลือเกิน

สงสัยเค้าบอกว่า เวลาเหลือน้อย ให้บำเพ็ญภาวนา ตัดความสัมพันธ์

แล้ว คิดว่า เราจะตัดสินใจเยี่ยงไรดี

มิน่า ช่วงนี้อยากทำบุญเหลือเกิน

 

เราทุกคนล้วนผ่านการพบ การพราก และการจากลามานับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าเราจะอยู่หรือจากไป ทุกอย่างก็ล้วนต้องดำเนินต่อไป เนื่องด้วยเหตุและปัจจัย ขอเป็นกำลังใจครับ ถ้าคิดว่าหมดหน้าที่ ก็ขอให้ตัดตรงเลยครับ อนุโมทนาครับ