ผู้ที่เห็นรูปหล่อ ปูนปั้นเป็นพระพุทธเจ้าย่อมตกนรก

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 12 พฤษภาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    บทความนี้จริงๆแล้ว ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คงต้องต้องบอกว่า
    ท่านกำลังด่าคนที่ยึดถืออัตตา ตัวกู ของกู พระพุทธเจ้าในแบบกู
    ศีลในแบบกู ธรรมในแบบกู อ่านไปอ่านมา ท่านด่าเจ้าของกระทู้นี้นั่นเอง
     
  2. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ................ต้องแยกเป็นความเชื่อของเราอย่างนึง(ทิฎฐิ)....และความอยากให้คนอื่นเชื่อเหมือนเรา(ตัณหา)อีกอย่างนึง:cool:
     
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=LpS-wywKWL8]ไหว้พระพุทธรูป. - YouTube[/ame]
     
  4. momogo

    momogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,158
    ...ยอมตกนรกค่ะ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
    แค่หลับฝัน ว่าได้พบพระองค์ท่านก็สุขใจสุด ๆ แล้ว
    ได้ระลึกนึกถึงท่าน แม้เพียงแวบเดียว จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ก็สุขใจแล้ว

    ขอเพียงได้นึกถึงพระองค์ท่านอีกสักครั้ง แม้ตายตกนรกก็ยอม...


    เพราะจิตหยาบไปจึงมิอาจเห็นได้ เฝ้ารอวันที่ได้ระึลึกนึกถึงท่าน
    แล้วสุขใจอีกสักครั้ง

    แค่นี้...ก็เพียงพอและพอเพียงแล้ว
     
  5. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    ปัญญาคือแสงสว่างก็จริง แต่คนเราจะรับรู้ได้เท่าที่ปัญญาหรือแสงสว่างของเขาจะอำนวยให้ว่านั่นคือ ความจริง แต่หากผู้นั้นมีปัญญามากขึ้น เขาจะมองต่างไปจากเดิม สิ่งที่เรียกว่าความจริงของเขา ย่อมเปลี่ยนไปตามแสงสว่างหรือปัญญาที่เพิ่มขึ้นของเขา

    ถ้าท่านได้อ่านสิ่งที่ท่านได้ Ctrl+C และก็มา Ctrl+V ในกระทู้ของท่านเองสักหน่อยแล้วล่ะก็

    ท่านน่าจะหลุดพ้นจาก สิ่งที่ท่านกำลังทำความเข้าใจมันอยู่ก็ได้

    เพราะมันก็เป็นของมันอย่างนั้นเอง

    จะมาหักล้างกันเพื่อให้ได้อะไร

    อะไรที่ท่านแปะไว้ น่าจะอ่านทวนสัก 3 รอบ แบบ พินิจ พิจารณาด้วย
    ว่า ความหมายที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ (สิ่งนี้ควรทำ)

    ไม่ใช่ ยกมาเพื่อให้สอดคล้องกับความเห็นตน (สิ่งนี้ไม่ควรทำ)

    ท่านอ่านบทความที่ท่านยกมาแปะ ท่านไม่ เอ๊ะในใจบ้างหรือ



    รู้ข้อธรรมมากมาย มีประโยชน์ สามารถส่งต่อบอกให้ผู้อื่นฟังได้ (สมควรทำ)

    แต่รู้ความหมายของข้อธรรมนั้นอย่างลึกซึ้ง แม้เพียง 1 (ถ้าทำได้จะดีมาก)
    ก็ยังดีกว่าจำอักขระได้ทั้งคัมภีร์ แต่หารู้ความในของมันไม่ (ขอให้ท่านอย่าเป็นอย่างนั้นเลย น่าเสียดายที่ได้มาพบพุทธศาสนา ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยง่ายนะจ๊ะ)

    อย่าปล่อยเวลาให้ศูนย์เปล่าอยู่เลยท่าน
    เรื่องคนอืน ยังไง ก็เป็นคนอื่นอยู่ดี
    สัญญาเก่าๆ ตัวเราถอนได้นะ เราเป็นคนตั้งใจ เราก็สามารถล้มเลิกความตั้งใจเดิมของเราได้เหมือนกัน แล้วแต่กำลังใจของแต่ละคนอันนี้คงห้ามกันยาก ทำได้แต่เพียงบอกกล่าวเท่านั้นเอย
     
  6. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมเข้าใจท่านครับ ผมคิดว่าไม่สูญเปล่าครับ ผมบวชมาแล้วแต่ไม่เคยเห็นธรรม วันนี้ผมเห็นแล้ว และก็มีคนเห็นตามผม เข้าใจพระศาสนามากขึ้น ใครมองเห็นก็รับไป ใครไม่เห็นจะงมงายต่อไปก็เป็นกรรมของเขาครับ คำด่า คำชม ผมเฉยๆ ครับ ด่าสัก ๑,๐๐๐ คน แต่มีคนมองเห็นธรรมสัก ๑ คน ก็ดีแล้วครับ
     
  7. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ผมถามคุณไป ไม่ตอบเพราะตอบไม่ได้ใช่มั้ย

    ว่าคุณกับเจ้าสำนักหลุดพ้นแล้วหรือ ที่ไม่ได้ยึดติดพระพุทธรูป
    (แต่รูปบรรพบุรุษกลับมีไว้ ไม่ทำลาย นี่หรือไม่ยึดติด)

    อย่าเอาข้ออ้างเพียงด้านๆ ของคุณมาทำลายวัฒนธรรมและประเพณีไทย
     
  8. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    -----------------------------

    ผู้ที่ระลึกถึงคุณพระศาสดามีหรือจะตกนรก
    จะมีก็แต่ผู้ที่สั่งสอนและส่งเสริมคิดทำลายองค์พระปฏิมา


    ลองถามคุณอุรุเวลา บรรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ตั้งแต่อดีต
    ก็เคารพบูชารูปพระพุทธเจ้า ไปนรกหมดหรือ
     
  9. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมเว้นกระทู้ที่ #4 ไว้ คิดว่าจะเพิ่มเติมความคิดเห็นเข้าไป แต่คนเล่นเว็บนี้แปลก ผมบอกแล้วว่าข้อมูลมาจาก Youtube ไม่ใช่ความคิดเห็นของผม ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ

    ข้อมูลที่พระเกษมอ้าง เอามาจากส่วนที่พระอรรถกถาอธิบายเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าครับ คำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องพระพุทธรูปมีแค่สองพระสูตรเท่านั้น ไปหาอ่านเอาเองครับ ยกมาหลายครั้งแล้ว คำอรรถกถาผมไม่สนใจครับ

    มนุษย์ตายแล้วไปไหน พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า ประพฤติศีลห้าเป็นทางไปสวรรค์ ทุศีลเป็นทางไปอบายฯ ดังนั้นไม่เกี่ยวกับการกราบไหว้ วิงวอนขอพรครับ การกราบไหว้ที่ไปสวรรค์ คือการกราบไหว้สังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งครับ แต่ต้องตามกราบไหว้ด้วยความเลื่อมใสและตามระลึกฯ ไหว้อย่างเดียวไม่ได้ครับ ข้อนี้ผมตั้งใจไว้แล้ว ผมจะได้เดินทางไปกราบไห้วสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งนี้ ได้ไปเมื่อไรขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยครับ

    คนที่กราบไหว้วิงวอนเป็นคนเชื่อเรื่อง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ย่อมมีหนทางเห็นพระสัทธรรม นี่เป็นเหตุที่มาของการให้พระพุทธรูป และพระเครื่องที่ผมมีกับคนมีศีลห้าไม่ขาดไม่ทะลุ แต่สุดท้ายผมก็หาไม่เจอ ผมไม่ได้หวังแค่ไปสวรรค์ ผมตั้งใจเข้าถึงโสดาบัน พระโสดาบันต้องละ "สีลัพพตปรามาส" ต้องไม่ยึดมั่นสิ่งใดแม้ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แต่ตอนนี้ผมมีความตั้งใจใหม่ ผมตั้งใจเข้าถึงอนาคามี หนทางเดียวที่มีผมต้องออกบวชอีกครั้ง ผมไม่ได้บอกจากปาก ผมทำให้เห็น ครอบครัวผมทุกคนรู้แล้ว ผมค่อยๆ ละภาระทางโลกที่ละอย่าง ถือศีล ไม่ดูหนัง ฟังเพลง กินข้าวมื้อเดียว ทำกิจกรรมทางโลกให้น้อยที่สุด ไม่มีกิจก็ศึกษาพระธรรม นั่งสมาธิ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยครับ

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษโยนแอก ซึ่งมีช่องเดียวลงไปใน
    มหาสมุทร เต่าตาบอดมีอยู่ในมหาสมุทรนั้น ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ เธอ
    ทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เต่าตาบอดนั้น ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ
    จะสอดคอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้นได้บ้างหรือหนอ? ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่
    พระองค์ผู้เจริญ ถ้าล่วงกาลนานไปบางครั้งบางคราว เต่าจะสอดคอให้เข้าไปในแอกนั้นได้บ้าง.
    พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เต่าตาบอด ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ สอด
    คอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้น ยังจะเร็วกว่า เราย่อมกล่าวความเป็นมนุษย์เพราะคนพาล
    ผู้ไปสู่วินิบาตแล้วคราวเดียวก็หามิได้ ข้อนั้น เพราะเหตุไร? เพราะว่าในวินิบาตนี้ ไม่มีการ
    ประพฤติธรรม การประพฤติชอบ การกระทำกุศล การกระทำบุญ มีแต่การเคี้ยวกินกันและกัน
    การเคี้ยวกิน ผู้มีกำลังน้อยกว่า ย่อมเป็นไปในวินิบาตนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะไม่เห็น
    อริยสัจ ๔ อริยสัจ ๔ เป็นไฉน? คือ ทุกขอริยสัจ ฯลฯ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียร เพื่อรู้ตามความเป็นจริง
    ว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา."

    เมื่อมีศีลไม่ครบ ต้องมั่นทำทาน เจริญสมาธิ ตอนตายนึกถึงลมหายใจสุดท้ายเข้าใว้ จิตอย่าเกาะอกุศล ถ้าลองได้ไปอบายฯ แล้ว โอกาสกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ยากมากครับ
     
  10. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    อย่าเบี่ยงเบนเลยท่านอุรุฯ

    เมื่อก่อนสนับสนุน เจ้าสำนักสามแยก เห็นว่าจะเอาพระที่บ้านไปให้วัดนั้นทำลาย
    และก็มีคลิปเผยแพร่ของเจ้าสำนักสามแยก อยู่บ่อยๆ

    มาคห.นี้ บอกตกนรกอยู่ที่ บลาๆๆๆๆ ไม่เห็นจะตรงกับหัวกระทู้เลย
     
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    กำเนิดพระพุทธรูป

    แต่เดิมนั้นพุทธศาสนาไม่มีรูปเคารพแต่อย่างใด ศาสนาพราหมณ์ หรือ ฮินดู ซึ่งมีมาก่อนศาสนาพุทธ ก็ไม่มีรูปเคารพเป็นเทวรูปเช่นกัน หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ผู้ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา อยากจะมีสิ่งที่จะทำให้รำลึกถึง หรือเป็นสัญญลักษณ์ขององค์ศาสดา เพื่อที่จะบอกกล่าวเล่าขาน เรื่องราวขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงศึกษาค้นคว้าหาทางดับทุกข์ และทรงชี้แนะสอนสั่งผู้คน ถึงการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุถึงความเป็นอยู่ ที่ก่อให้เกิดความผาสุขในหมู่มวลมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในโลก
    คราวแรกนั้นชาวพุทธก็ได้แต่นำเอาสิ่งของอันได้แก่ ดิน น้ำ และกิ่ง ก้าน ใบโพธิ์ จากบริเวณสังเวชนียสถาน 4 แห่ง คือ สถานที่ประสูติ (ลุมพินีวัน),ตรัสรู้ (พุทธคยา), ปฐมเทศนา (พาราณสี) และปรินิพพาน (กุสินารา) เก็บมาไว้เป็นที่ระลึกบูชาคุณพระพุทธเจ้า
    ล่วงมาถึงในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พุทธศาสนูปถัมภกที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง เมื่อ 2,200 ปีก่อน หรือหลังจากการดับขันธ์ของพระพุทธเจ้ามา 300 ปี พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ทรงส่งสมณะทูต จำนวน 500 รูป ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังเมืองตักกศิลา แคว้นคันธาราฐ จึงมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเมืองที่ประสิทธิประสาทวิทยาการต่าง ๆ นับว่า "เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกทางพระพุทธศาสนา" แต่ก็ยังไม่มีรูปเคารพแทนพระพุทธเจ้าที่เป็นรูปคน
    พระพุทธรูป หรือ รูปเคารพแทนพระพุทธเจ้า เริ่มมีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ระหว่าง พ.ศ. 500 ถึง 550 เมื่อชาวกรีก ที่ชาวชมพูทวีป (อินเดียโบราณ) เรียกชาวต่างแดนว่า "โยนา" หรือ "โยนก" โดยพระเจ้าเมนันเดอร์ที่ 1 หรือ พระเจ้ามิลินท์ กษัตริย์เชื้อสายกรีก ยกทัพกรีกเข้ามาครอบครองแคว้นคันธาราฐ (ปัจจุบันเป็นดินแดนของอัฟกานิสถาน) จากนั้นพระองค์ก็แผ่อาณาเขตไปทั่วบริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของชมพูทวีป และสร้างเมืองหลวงเป็นที่ประทับ ณ เมืองสากล (Sakala) หลังจากที่ได้พบพระสงฆ์ท่านหนึ่งนามว่า นาคเสน จึงมีเรื่องราวแห่งการตั้งคำถามของพระเจ้ามิลินท์ต่อพระนาคเสน จนทำพระเจ้ามิลินท์ ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา (คำถามคำตอบปุจฉาวิสัชนา ซึ่งถูกเขียนบันทึกเป็นหนังสือและแปลเป็นภาษาต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงมาก เรื่องนี้ก็คือ มิลินทปัญหา - The Milinda Panha or The Questions of King Minlinda) ได้มีการสร้างสถาปัตยกรรม และประติมากรรมทางพุทธศาสนามากมายในแคว้นคันธาราฐ ซึ่งการสร้างพระพุทธรูปนั้นมีลักษณะต่างๆ ตามพุทธประวัติ (ปางพระพุทธรูป)
    พระพุทธรูปรูปแรกจึงเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้ามิลินท์ หรือเมนันเดอร์ที่ 1 ชาวกรีกที่มาครอบครองแคว้นคันธาราฐ เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 หรือ 2,000 ปีที่แล้วนั่นเอง พระพุทธรูปที่เกิดขึ้นครั้งแรกจึงเรียกรูปแบบของพระพุทธรูปนี้ว่า แบบคันธาราฐ โดยถ่ายแบบอย่างเทวรูปที่พวกชาวกรีกนับถือกันในยุโรปมาสร้าง พระพุทธรูปแบบคันธาราฐจึงมีใบหน้าเหมือนฝรั่งชาวกรีก จีวรก็เป็นริ้วเหมือนเครื่องนุ่งห่มของเทวรูปกรีก และต่อมาในภายหลัง ราวพุทธศตวรรษ ที่ 4-12 มีคตินิยมสร้างพระพุทธรูปเป็นขนาดเล็กๆ (พระเครื่อง) บรรจุไว้ในพุทธเจดีย์

    ที่มา พระพุทธรูป - วิกิพีเดีย
     
  12. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระคันธารราฐ

    [​IMG]
     
  13. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระพุทธชินราช

    [​IMG]

    บอกว่าสร้างรูปเคารพแทนพระพุทธเจ้า ผมเห็นแต่ พระพุทธชินราช แล้วพระพุทธเจ้าไปอยู่ไหนครับ
     
  14. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    สมเด็จพระพุทธมงคลชัย (หลวงพ่อโต)

    [​IMG]

    บอกว่าสร้างรูปเคารพแทนพระพุทธเจ้า ผมเห็นแต่ สมเด็จพระพุทธมงคลชัย (หลวงพ่อโต) แล้วพระพุทธเจ้าไปอยู่ไหนครับ
     
  15. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ---------------------

    คุณอุรุเวลา
    พระพุทธชินราช ก็คือพระพุทธเจ้า หรือว่าคุณไม่รู้ครับ

    พระพุทธชินราช เป็นผู้ตรัสรู้องค์แรก มีบารมีสูงถึง 111 อสงไขย

    พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็ได้ ปราถนาเป็นพระพุทธเจ้า จึงได้สั่งสมบารมี
    และสุดท้า่ยตรัสรู้ได้ใน 4 อสงไขย แสนกัป

    พระพุทธโคดม มีเยอะแยะ ในโบสต์ เป็นพระประธานหลายวัด


    อย่างว่า คุณก็แค่เป็นพวกที่ทำความเข้าใจแบบลวกๆ ก็จะเข้าใจไปตามที่เห็นแบบนี้
     
  16. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    "พระพุทธชินราช เป็นผู้ตรัสรู้องค์แรก"

    ผมอ่านพระไตรปิฏกมาสองปี ผมไม่เคยอ่านเจอเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธชินราชเลย ผมเข้าใจท่าน sutanon แล้ว ท่านกราบต่อไปนะครับ
     
  17. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ---------------------------

    อ้อ... เลยคิดว่าพระพุทธชินราชไม่มีสินะ

    ทำไมพระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสรู้และหลุดพ้นได้ เพียงแค่ 4 อสงไขยแสนกัป

    ผมแนะนำให้คุณไปหาอ่านเกี่ยวกับจิตปราถนาครั้งแรกของพระโคดมพุทธเจ้า(พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ว่าได้มีความเพียรอย่างไรถึงได้บารมี 10 ทัศ
    มีในพระไตรฯ เกี่ยวข้องกับพระพุทธชินราช

    พระพุทธเจ้าที่นิพพานไปแล้วมีมากมายนับไม่ถ้วน เรื่องนี้คุณก็ไม่รู้อีกสิ
    ถึงได้ไม่เชื่ือเรื่องพระพุทธชินราช
     
  18. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=sH0A-KqMJb4]พุทธวจน-ความเข้าใจผิดของชาวพุทธ - YouTube[/ame]

    มีครบเลย กรวดน้ำ พระพุทธรูป รอยพระพุทธบาท ไหว้พระเก้าวัด ฝังลูกนิมิต ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2012
  19. ทะเลลึก

    ทะเลลึก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +80
    จริงอยู่ บรรดารูปเคารพต่างๆ ไม่ใช่จุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนาพุทธ

    เหตุที่มีรูปเคารพเกิดขึ้น ก็เกิดมาจากพัฒนาการทางสังคมและวัฒนธรรม จนถือเป็น ประเพณี เป็นวัฒนธรรมสืบต่อกันมา เมื่อเห็นว่าเป็นสิ่งดีงาม ก็สืบต่อมาเรื่อยๆ ถ้าไม่ดีจริง ก็คงมลายไปกับกาลเวลาแล้วหล่ะ

    มนุษย์ปกติทั่วๆไป จะไม่ทำลาย หรือต่อต้าน ประเพณีที่ดีงามที่สืบทอดมาจากบรรพชน แม้ไม่ใช่สาระสูงสุด แต่มันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว เป็นสิ่งผูกพันธ์ให้คนในสังคมมีกิจกรรม มีวิถีในการปฏิบัติ มีความเป็นกลุ่มเป็นก้อน เพื่อขับเคลื่อนสังคมต่อไป

    คนปกติทั่วไป กราบพระพุทธรูป ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้า แต่กราบด้วยพุทธานุสสติ มันมีแต่ได้ ไม่มีผลเสียหายเลย

    การที่จะมีชาวพุทธสักคน ไม่กราบพระพุทธรูป มันก็แปลกประหลาดอยู่แล้ว สำหรับสังคมปัจจุบันนี้ การทำตัวเช่นนี้ชื่อว่า แตกร้าวกับสังคมและประเพณี ขัดต่อความสงบสุขของสังคม ถ้าเป็นสมัยก่อน อาจถูกตัดหัวประจานเลยทีเดียว

    คนที่ฉลาด มีปัญญา ย่อมต้องอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ ประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีๆ ก็ร่วมกระทำไป เพราะมันไม่เสียหายอะไร แต่ถ้าทำตัวเป็นแกะดำขึ้นมา(ทั้งที่ไม่น่าจะทำเช่นนั้นเลย) ตัวเองนั่นแหละจะเดือดร้อน เดือดร้อนเพราะยึดติดกับธรรมอันสูงสุด แต่ลืมเหลือบแลธรรมที่แวดล้อมตนอยู่ ย้ำร้ายยังเหยียบย่ำสิ่งบูชาของผู้คน เข้าให้อีก

    อย่างคุณ อุรุเวลา ดูเหมือนจะทรงภูมิปัญญามาก แต่ทัศนคติกลับโง่เขลาอย่างยิ่ง เป็นทัศนคติที่จะนำตนไปสู่ความลำบากในบั้นปลาย
     
  20. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    นี่มันเป็นสีลัพพตปรามาสทั้งนั้น ต่อให้ไม่กราบไหว้สิ่งใดเลย มีแค่ศีลห้าข้อ ไม่ขาด ไม่ทะลุ ตายไปพ้นอบายแน่นอน ศีลห้านี่มันเป็นความลำบาก รักษายาก ที่พูดกันอยู่ในนี่ มีใครมีศีลห้าไม่ขาด ไม่ทะลุบ้าง เดินตามหลังพระพุทธเจ้ายังห่างไกลธรรม นับถือศาสนาพุทธต้องมีศีลบริบูรณ์เป็นเบื้องต้น จะตำหนิใครไปรักษาศีลให้บริบูรณ์ก่อนนะครับ เมื่อศีลบริบูรณ์ปัญญามันจะเกิด โทษการปรามาสผู้มีศีลในพระไตรปิฏกก็มี ไปอ่านกับบ้างนะครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...