(ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร) เลขเด่นงวดประจำวันที่ 16 ก.ค. 58 หน้าที่ 261 ...แชร์ความฝัน ^__^

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย aegmanmu, 15 มิถุนายน 2013.

  1. Palita N

    Palita N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +1,515
    สวัสดีปีใหม่ค่ะน้องเอก และเพื่อนสมาชิกทุกๆท่าน
    ขอให้ประสบแต่สิ่งที่ดีๆ มีความสุขตลอดไปนะคะ
     
  2. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    Happy New Year ครับทุกคน ขอให้มีความสุขมากๆๆนะครับ
     
  3. ป้าเม้าท์

    ป้าเม้าท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +1,565
    สวัสดีปีใหม่จ้ะ คุณหลาน และสมาชิกทุกท่าน
    ขอให้มีความสุข หมดสิ้นความทุกข์ ร่ำรวยตลอดปี และตลอดไป

    จากใจ " ป้าเม้าท์ "
     
  4. พญาสัตตะ

    พญาสัตตะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +26
    สวัสดีปีใหม่ทุกๆท่านครับ หวังปรารถนาใดๆในสิ่งที่ดี ขอให้สำเร็จตามประสงค์ทุกสิ่งอัน ดว้ยพระมีแห่งคุณพระศรีรัตตรัยเทอญ
     
  5. พญาสัตตะ

    พญาสัตตะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +26
    ขอภาพนี้เป็นของขวัญในวันปีใหม่และทุกวันตลอดไป จนกว่าจะได้เข้าสู่พระนิพพานตามคำสั่งสอนของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ คุณเอกและสมาชิกในกระทู้นี้ทุกๆคนตลอดจนถึงผุ้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนทุกท่านครับ นิพพานะปัจยาโหตุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF4249.JPG
      DSCF4249.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      75
  6. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    สวัสดีปีใหม่เช่นกันนะป้า ขอให้รวยๆๆนะ
     
  7. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ขอให้มีความสุขนะครับ และเจริญทุกด้าน
     
  8. sunee สุนีย์

    sunee สุนีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +424
    [​IMG]
     
  9. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    สวัสดีปีใหม่ครับป้าสุนีย์ ขอให้มีความสุขมากๆๆนะครับ
     
  10. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    แจกอริยทรัพย์ธรรมะรับปีใหม่ พ.ศ. 2557

    [​IMG]

    อริยสัจ คือ ความเป็นจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ได้แก่

    ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ... ควรกำหนดรู้
    สมุทัย คือ ความอยากอันเป็นเหตุของทุกข์.. ควรละ
    นิโรธ คือ ความดับทุกข์...ควรทำให้แจ้ง
    มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์...ควรทำให้เกิดขึ้น

    ขันธ์ ๕ ได้แก่
    รูป คือ ร่างกาย
    เวทนา คือ ความรู้สึกสุข ความทุกข์
    สัญญา คือ ความจำมั่นหมาย
    สังขาร คือ ความคิดปรุงแต่ง
    วิญญาณ คือ ความรู้อารมณ์ต่างๆ
    สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เรา...ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ของเรา...ไม่ใช่ของเขา
    ไม่ใช่ตัวตนของเรา...ไม่ใช่ตัวตนของเขา.. สิ่งเหล่านี้ไม่เที่ยง มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา....

    "ทานคือ การอบรมจิตให้รู้จักการให้ ให้รู้จักการสละ
    ศีล คือ การอบรมจิต ให้ตั้งอยู่ในกุศลธรรมทั้งปวง
    สวรรค์ คือ ผลของจิต ที่ตั้งอยู่ในกุศลธรรม
    โทษของกามารมณ์ คือ จิตที่ยังรุ่มร้อน เเสวงหา เพราะการยึดมั่นอยู่ในขันธ์ ๕อานิสงส์ในการออกบวช คือ ทุกข์นี้จะดับไป ทุกข์อื่นจะไม่เกิดขึ้น"

    "ท่านทั้งหลาย เมื่อใดที่ท่านรู้จักอกุศลและรากเหง้าของอกุศล กุศลและรากเหง้าของกุศล รู้จักชราและมรณะ เหตุเกิดแห่งชราและมรณะ ความดับของชราและมรณะ ทางที่จะให้ถึงความดับชราและมรณะ รู้จักทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ ทางปฏิบัติเพื่อถึงความดับทุกข์ ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ชื่อว่าเป็นสัมมาทิฐิ"

    "ความสงัดเป็นความสุขของบุคคลผู้มีธรรม ความยินดีในที่สงัด ความไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย ความปราศจากความกำหนัด การพ้นจากกามทั้งปวงเสียได้เป็นความสุขที่ประเสริฐที่สุดในโลก การกำจัดความถือตัวตนเป็นความสุขอย่างยิ่ง"

    "บุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก พวกที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เมื่อฟังธรรม ก็รู้และเข้าใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำเมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที"

    พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง ได้ฟังธรรม และได้รับอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม ก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาไม่นาน เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริมน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป

    พวกที่มีสติปัญญาน้อย เมื่อฟังธรรม และได้รับการอบรมฝึกฝนอยู่เสมอ มีความเพียร มีศรัทธา ในที่สุดสามารถรู้และเข้าใจได้ เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆพ้นน้ำและเบ่งบานได้ในที่สุด

    พวกสุดท้ายแม้ฟังธรรมเท่าไหร่ ก็ไม่อาจเข้าใจความหมาย หรือรู้ตามได้ แต่ก็เป็นปัจจับให้บรรลุธรรมในภพต่อๆๆไป เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยุ่กับโคลนตม มีแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสได้พ้นน้ำและเบ่งบาน"


    "ท่านทั้งหลาย ขอท่านจงหมั่นอบรมตนไว้ว่า
    เราจักไม่ยึดถืออายตนะภายในอันได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
    เราจักไม่ยึดถืออายตนะภายนอกอันได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งที่กายสัมผัส
    และสิ่งที่ใจนึกคิด
    เราจักไม่ยึดถือสัมผัส
    เราจักไม่ยึดถือเวทนา
    เราจักไม่ยึดถือขันธ์ทั้ง ๕
    เราจักไม่ยึดถือโลกนี้และโลกหน้า
    สิ่งใดที่เราได้เห็นแล้ว ได้ยินแล้ว ได้ทราบแล้ว ได้รู้สึกแล้ว ได้แสวงหาแล้ว
    ได้เที่ยวไปด้วยใจแล้ว เมื่อเราไม่ยึดถือสิ่งเหล่านั้น ความรู้สึกอันเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น
    จึงจักไม่มีแก่เรา"

    "ท่านทั้งหลาย บุคคลย่อมบริสุทธิ์ได้ด้วยความหมั่นเพียรปฏิบัติ ด้วยปัญญา ด้วยธรรม และด้วยศีล ไม่ใช่บริสุทธิ์ด้วยตระกูลหรือทรัพย์สมบัติอันใด"

    ------------------------
    "การไม่ทำความชั่วทั้งปวง... การทำความดีให้ถึงพร้อม การทำจิตใจ
    ให้บริสุทธิ์ผ่องใสนี้เป็นหลักการของพระพุทธศาสนา"
    ------------------------
    "บางคนมีทิฐิเห็นว่าสิ่งทั้งปวงไม่สมควรแก่ตน บางคนเห็นว่าสิ่งทั้งปวง
    สมควรแก่ตน บางคนเห็นว่าบางสิ่งสมควรแก่ตน บางสิ่งไม่สมควรแก่ตน ด้วยยังมี
    ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน บุคคลเหล่านั้นจึงยังเสวยเวทนาอยู่เป็นนิจ ต่อเมื่อ
    ได้พิจารณาเห็นความไม่เที่ยงเห็นปัจจัยปรุงแต่ง เป็นไปตามธรรมดาอยู่อย่างนี้...
    จึงเกิดเบื่อหน่าย...เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด เมื่อคลายกำหนัดจิตย่อมหลุดพ้น
    จากความยึดมั่นถือมั่น เมื่อพ้นแล้วก็รู้ว่าพ้นแล้ว"
    ------------------------
    "เธอจงพิจารณาว่า เวทนาคือ ความสุข ความทุกข์ ความไม่สุข
    ไม่ทุกข์เหล่านั้น เป็นของไม่เที่ยง มีการเกิดขึ้นและดับไปเป็นธรรมดา เมื่อไม่เที่ยง
    จึงเป็นทุกข์ เมื่อไม่เที่ยงจึงไม่ใช่ของที่เป็นอยู่จริง ...อนิจจัง..ทุกขัง..อนัตตา"
    -----------------------------
    "ผู้ตั้งมั่นอยู่ในศีลสมบูรณ์แล้ว คือผู้เจริญสติรู้เท่าทันอารมณ์ต่างๆ อยู่โดยตลอดเมื่อเห็นการเกิด การดับตามธรรมดาของอารมณ์เหล่านั้น ย่อมเบื่อหน่ายเมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายความยึดติด เมื่อคลายความยึดติด จิตก็หลุดพ้น"
    --------------------------------
    "ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุแห่งธรรมนั้น และความดับแห่งธรรมนั้น"

    (สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลล้วนมีความดับไป
    เป็นธรรมดา)
    --------------------------------
    "ทานคือการให้ มีอภัยทานเป็นเลิศ... ...ผู้ที่บำเพ็ญอยู่เป็นนิจ
    ย่อมเป็นผู้อ่อนโยน...สำรวม...เยือกเย็น เพราะได้ละ...ได้คลาย...
    ความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ และในตัวตน"
    ---------------------------------
    "ผู้มีปัญญาสลัดตนออกจากความลุ่มหลง ความหมกมุ่นในกามคุณ ๕ ด้วยเห็นว่า
    การแสวงหาความสุขในช่วงเวลาอันน้อยนั้นคือ การข้องเกี่ยว ลุ่มหลง ผูกพัน เปรียบดั่งปลาติดเบ็ด ย่อมมีความทุกข์ ดิ้นรนอยู่"
    -----------------------------------
    "สรรพสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ตั้งอยู่เป็นธรรมดา และดับไปเป็นธรรมดา ทุกข์เท่านั้นที่เกิด... ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ...ไม่ใช่สตรี ไม่ใช่บุรุษ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา"
    ----------------------------------
    "อวิชชาและตัณหายังคนให้เกิด จิตของเขาย่อมวิ่งพล่านเวียนว่ายไปยังสงสาร เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังบังเกิดมีอยู่ การสมมุติว่าสัตว์ก็ยังมีอยู่ ความจริงแล้วกองสังขารเหล่านี้ย่อมไม่ได้นามว่าสัตว์ มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่และมีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เสื่อมสิ้นไป นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ"
    -------------------------------------
    "การส่งจิตออกไปภายนอก เพ่งโทษผู้อื่นนั้นคือเหตุ และมีทุกข์เป็นผล …
    การพิจารณาตนเอง คือ จิตดูจิตของตน เป็นมรรค มีนิโรธ คือการดับทุกข์เป็นผล"
    --------------------------------------
    "ท่านทั้งหลาย....ผู้รักษาศีลย่อมไปสู่สุคติ....ผู้รักษาศีล ย่อมเพรียบพร้อม
    ด้วยโภคสมบัติ.....ผู้รักษาศีล ย่อมไปถึงพระนิพพานได้.... ท่านทั้งหลาย
    จึงควรรักษาศีลให้บริสุทธิ์ผุดผ่องเถิด"
    --------------------------------------------
    “บุคคลเมื่อยังยึดมั่นอยู่ เพลิดเพลินอยู่ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็ต้องถูกมารมัดไว้ ต้องจมอยู่ในกองทุกข์ทั้งมวล เมื่อไม่ยึดมั่น ไม่เพลิดเพลิน จึงพ้นจากบ่วงมาร จึงพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง"
    ---------------------------------------------
    "เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่อาจล่วงพ้นความแก่ไปได้ เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา
    ไม่อาจล่วงพ้นความเจ็บไปได้ เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่อาจล่วงพ้นความตาย
    ไปได้ เราต้องมีความพลัดพรากจากของรักของชอบใจด้วยกันทั้งสิ้น เรามีกรรม
    เป็นของของตนมีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด เราจักทำกรรมอันใดไว้
    ดีหรือชั่ว เป็นบุญหรือเป็นบาป เราต้องได้รับผลกรรมนั้น"
    ===========================
    "ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี...ไม่มีสิ่งใด
    ที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ...แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่ง
    เครื่องพันธนาการที่มัดตรึงเหนียวแน่นให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิด
    และจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป"
    ===========================
    ไม่มีความสุขใดเสมอด้วยความสงบที่หาได้ในตัวเรานี้เอง
    ...ตราบใดที่มนุษย์ยังวิ่งวุ่นแสวงหาความสุขจากที่อื่นเขาจะไม่พบความสุข
    ที่แท้จริงเลย...เมื่อเธอปล่อยวาง...มองดูโลกเป็นของว่างเปล่าเสียแล้ว...จิตก็ว่าง
    ปลอดโปร่งแจ่มใสเบิกบานอยู่ดังนี้"
    ===========================
    "ดูก่อนมหาบพิตร...ไม่ว่ากาลไหนๆ เวรในโลกนี้ย่อมระงับด้วยการไม่มีเวร ผู้สมาคมกับคนพาลย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน ผู้สมบูรณ์ด้วยศีลย่อมรุ่งเรืองเหมือนไฟสว่าง ผู้มีสติย่อมได้รับความสุข มีความเจริญทุกเมื่อ ถ้าพระราชาเป็นผู้ทรงธรรม ราษฎรทั้งปวงก็เป็นสุข"
    ===========================
    "ท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลาย มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา จงพิจารณาถึงความไม่เที่ยงแท้ของสังขารทั้งหลายตามความเป็นจริงเทอญ น้ำตาของสัตว์ที่ท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสารนี้ มีมากเหลือคณา กระดูกที่เขาทอดทิ้งทับถมปฐพี จนไม่มีช่องว่างบนพื้นแผ่นดินนี้ เป็นที่น่าสังเวทสลดจิตยิ่งนัก บุคคลที่ยังยึดติดในรูป รส กลิ่น เสียง และโผฏฐัพพะ เขาเหล่านั้น ย่อมจะจากโลกนี้มิได้เลย"
    ============================
    "จิตนี้เป็นธรรมชาติที่ผ่องใสมีรัศมีเหมือนดวงจันทร์ แต่ถูกกิเลสที่จรมาเป็นครั้งคราว จิตนี้จึงเศร้าหมองเหมือนก้อนเมฆบดบังดวงจันทร์ให้อับแสง"
    --------------------------------------------



    "พระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์ เสมือนหงายของที่คว่ำ... เปิดของที่ปิด
    บอกทางแก่คนหลงทาง ส่องประทีปในที่มืด ข้าพระองค์ขอถึงพระองค์ ..พระธรรม
    และพระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่ง...ที่ระลึกตลอดชีวิตพระเจ้าค่ะ"
     
  11. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    แจกอริยทรัพย์ธรรมะรับปีใหม่ พ.ศ. 2557 (ต่อ)

    [​IMG]

    "การพัวพันด้วยความสุขในกาม...การทรมานตนให้ลำบากทุกข์ยาก...
    เป็นสิ่งที่บรรพชิตไม่ควรทำ ไม่ใช่หนทางแห่งการตรัสรู้ ทางดำเนินสายกลางคือมรรคมีองค์ ๘ เป็นไปเพื่อพระนิพพาน...."

    "ท่านทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ได้สดับว่าธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น เมื่อสดับแล้วย่อมทราบชัดด้วยปัญญา เมื่อทราบชัดด้วยปัญญาแล้วย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง ว่าเธอได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี ไม่สุขไม่ทุกข์ ก็ดี เมื่อรู้เวทนาที่เกิด เธอย่อมพิจารณาเห็นความไม่เที่ยง คือการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของเวทนาเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เป็นนิจ เมื่อเห็นความไม่เที่ยงย่อมเบื่อหน่าย เมื่อเบื่อหน่ายย่อมปล่อยวาง ย่อมพิจารณาเห็นความสละคืนคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในเวทนา ย่อมพิจารณาเห็นความดับ"

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...สิ่งทั้งปวงนั้นเป็นของร้อน เกิดขึ้นจาก สัมผัสของ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เมื่อสัมผัสเกิด... อารมณ์ต่างๆ ก็เกิด.... จะเป็นสุขก็ดี จะเป็นทุกข์ก็ดี หรือไม่ใช่สุข ไม่ใช่ทุกข์ก็ดี ...เพราะไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ
    ไฟคือโมหะ ร้อนเพราะความเกิด เพราะความแก่ เพราะความตาย ร้อนเพราะ
    ความโศกเศร้า เพราะความทุกข์ เพราะความเสียใจ เพราะความคับแค้นใจ
    อริยสาวกผู้ได้สดับและเห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายในความรู้สึก ในอารมณ์เหล่านั้น
    เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายความยึดติด เมื่อคลายความยึดติด จิตก็หลุดพ้น"

    "ดูก่อนกาม เราเห็นมูลเหตุของเจ้าแล้ว เจ้าเกิดจากความดำริคำนึงถึงนั้นเอง เราจักไม่ดำริถึงเจ้าอีก ด้วยประการฉะนี้ กามเอย ...เจ้าจะเกิดอีกไม่ได้"

    (โปรดองคุลีมาร)
    "เราหยุดแล้ว แต่ท่านนั่นแหละที่ยังไม่หยุด อหิงสกะ เราหยุดแล้ว คือ หยุดฆ่าหยุดเบียดเบียน หยุดแสวงหาในทางผิด หยุดดำเนินไปในทางทุจริตทุกประการ ตัวท่านนั่นแหละที่ยังไม่หยุด เพราะยังไม่หยุดฆ่าไม่หยุดเบียดเบียน ไม่หยุดแสวงหาในทางที่ผิด ไม่หยุดดำเนินไปในทางทุจริตในมือของท่านยังถือดาบอยู่ เหตุใดท่านจึงกล่าวว่าหยุดแล้ว"

    "อกุศลกรรมเหล่าใดที่มีมา เมื่อหวนระลึกถึงย่อมทำให้จิตนี้เศร้าหมอง
    กุศลกรรมเหล่าใดที่มีมา เมื่อหวนระลึกถึงย่อมทำให้จิตนี้แจ่มใส เบิกบาน
    เธอจงหมั่นบำเพ็ญกุศล รักษาศีล รักษาใจให้แจ่มใส เบิกบาน อยู่ทุกขณะเถิด"

    "สุภัททะ ศาสนาใดไม่มีมรรคอันมีองค์แปดประการ สมณะผู้สงบก็ไม่มี
    ในศาสนานั้น … หากภิกษุหรือใครก็ตาม ปฏิบัติตามมรรค อันเป็นทางประเสริฐ โลกก็จะไม่พึงว่างจาก พระอรหันต์ เธอจงตั้งใจฟังธรรมะจากเราเถิด"

    "สุภัททะ … เธอจงพิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ...รูป และนามทั้งหลาย
    ตามความเป็นจริง คือ ความเปลี่ยนแปลงเน่าเปื่อยไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ของเขา ไม่ใช่ตัวตนของเขา
    สุภัททะ...เธอจงดำรงเพศบรรพชิต โดยการถืออาหารบิณฑบาต อาศัย
    ผ้าบังสุกุลจีวรอยู่ตาม รุกขมูลเสนาสนะ รักษาสังขารด้วยยาน้ำมูตร
    ให้เป็นไปตามอัตภาพอันควรเถิด"

    "ภิกษุทั้งหลาย … เมื่อเราปรินิพพานแล้ว พระธรรมวินัยทั้ง ๘๔,๐๐๐
    (แปดหมื่นสี่พัน)พระธรรมขันธ์ จะเป็นครูสอนแทนตัวเรา อย่าได้คิดว่า พระศาสดาของเราปรินิพพานแล้ว ศาสดาของเราจะไม่มีด้วย เพราะแท้จริงแล้ว ธรรมก็ดีวินัยก็ดีที่เราแสดงและบัญญัติเอาไว้ จะเป็นศาสดาแทนเราต่อไป ภิกษุทั้งหลายเธอทั้งหลายจงมีธรรมและวินัย เป็นที่พึ่งเถิด อย่าได้มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลยแม้ตถาคตก็เป็นแต่เพียงผู้บอกทางเท่านั้น"

    "อานนท์ … อย่าได้เศร้าโศกเสียใจไปเลย ธรรมดาสังขารทั้งหลาย
    ย่อมไม่เที่ยงแท้ถาวร ทุกสิ่งมีเกิดก็ย่อมมีดับสลายลงในที่สุด …
    เธอได้ติดตามเฝ้าปรนนิบัติเรามานาน จงอุตส่าห์บำเพ็ญเพียร จะได้บรรลุอรหัตถ์ในไม่ช้า"

    "ภิกษุทั้งหลาย ตราบใดที่เธอทั้งหลายยังพร้อมเพรียงประชุมกันอยู่เนืองนิตย์
    เคารพในสิกขาบทบัญญัติ ยำเกรงภิกษุ ผู้อาวุโสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่ทำตน
    ให้ตกอยู่ใต้อำนาจแห่งตัณหา พอใจในการอยู่อาศัยเสนาสนะป่า ปรารถนาให้เพื่อน
    พรหมจารีมาสู่สำนักและอยู่เป็นสุข ตราบใดที่เธอทั้งหลายไม่หมกมุ่นกับการงาน
    มากเกินไป ไม่พอใจด้วยการคุยฟุ้งซ่าน ไม่ชอบใจในการนอนมากเกินควร ไม่ยินดี
    ในการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ไม่เป็นผู้ปรารถนาลามก ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจแห่งความ
    ปรารถนาชั่ว ไม่คบมิตรเลว ไม่หยุดความเพียรพยายามเพื่อบรรลุคุณธรรม
    ขั้นสูงขึ้นไปแล้ว ตราบนั้นเธอทั้งหลายจะไม่มีความเสื่อมเลย มีแต่ความเจริญอย่างเดียว

    ภิกษุทั้งหลาย … เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่าสังขารทั้งหลายย่อมมีความเสื่อมไป
    เป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้บริบูรณ์พร้อม
    ด้วยความไม่ประมาทเถิด"

    "อานนท์ … วันหน้าต่อไป แม้ผู้ใดจะสักการะบูชาเราด้วยเครื่องบูชามากมาย
    สูงค่าแค่ไหน ก็ไม่ชื่อว่า บูชาเราด้วยการบูชาอันยิ่ง …อานนท์ …ผู้ใดปฏิบัติตามธรรม
    อันชอบยิ่งนี้ ผู้นั้นจึงชื่อว่าได้สักการะบูชาเราด้วยการบูชาอันประเสริฐแล้ว
    อานนท์เราจะปรินิพพานในคืนนี้แล้ว"

    "พระอานนท์ … ในพรหมจรรย์นี้มีสตรีเป็นอันมาก เข้ามาเกี่ยวข้อง
    อยู่ในฐานะต่างๆ เป็นมารดา เป็นพี่น้อง เป็นเครือญาติ และเป็นผู้เลื่อมใส
    ในพระรัตนตรัย ภิกษุจะพึงปฏิบัติต่อสตรีอย่างไร
    พระพุทธเจ้า : การที่ภิกษุจะไม่ดูไม่แลสตรีเพศเสียเลย นั่นแหละเป็นการดี
    พระอานนท์ : ถ้าจำเป็นต้องดูต้องเห็นแล้วจะปฏิบัติอย่างไร
    พระพุทธเจ้า : อานนท์ … ถ้าจำเป็นต้องดูต้องเห็น ก็อย่าพูดด้วย อย่าสนทนาด้วย นั่นแหละเป็นการดี
    พระอานนท์ : ถ้าจำเป็นต้องสนทนาด้วย จะปฏิบัติอย่างไร
    พระพุทธเจ้า : ถ้าจำเป็นต้องสนทนาด้วยก็จงมีสติ ควบคุมสติ สำรวมอินทรีย์ กล่าววาจา ให้เรียบร้อย อย่าให้ความกำหนัดยินดีหรือความหลงใหลครอบงำ จิตได้ … สิ่งงดงามวิจิตรในโลกนี้มิใช่กาม แต่ความกำหนัดที่เกิดขึ้นเพราะการดำริต่างหากเล่าเป็นกามของคน เมื่อละความพอใจได้แล้ว สิ่งงดงามวิจิตรก็มีอยู่อย่างนั้น
    แต่ทำให้เป็นพิษอะไรไม่ได้อีกต่อไป "

    "ดูก่อน ปุกุสะ จิตนี้ผุดผ่อง แต่ต้องเศร้าหมองด้วยอุปกิเลสที่จอมมาร ปุถุชนผู้มิได้สดับย่อมไม่รู้ข้อนั้นตามความเป็นจริง ผู้ไม่ได้เรียนรู้ย่อมไม่มีการอบรมจิต ส่วนอริยสาวกผู้ที่ได้ฝึกฝนปฏิบัติดีแล้วย่อมทราบข้อนั้นตามเป็นจริง อริยสาวกผู้ที่ได้สดับย่อมมีการอบรมจิต ปุกุสะเราไม่เล็งเห็นธรรมมะอื่นแม้สักอย่างที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วเหมือนจิต ท่านจงกำหนดจิตระถึงคุณของพระอรหันตสัมามสัมพุทธเจ้า คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ ศีลอันดีงามของตน ทานที่ท่านสละแล้ว และเทวดาที่แตกต่างกันในผลแห่งทาน ศีลและการปฏิบัติภาวนา เมื่อท่านกำหนดจิตระลึกถึงอยู่ดังนี้ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ในครานั้นจิตของท่านย่อมไม่มี ราคะ โทสะ โมหะ ครอบงำ ย่อมเป็นจิตตรงโดยการระลึกถึงอยู่ ย่อมได้ความเข้าใจในอรรถธรรม ได้ความปราโมทย์อันประกอบกับธรรม ได้ความปราโมทย์แล้วปิติก็เกิด ปิติเกิดแล้วกายก็สงบ กายสงบแล้วก็ได้ความสุข ได้ความสุขแล้วจิตก็ตั้งมั่น อันนี้แหละเรียกว่าผู้ถึงความสงบ ถึงความไม่มีทุกข์ ถึงกระแสธรรม"


    เจริญในธรรมเถิดญาติธรรมทั้งหลาย...................
     
  12. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ญาติธรรมไปเที่ยวแล้วส่งของฝากมาให้ครับ มงคลมากๆๆเลย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2014
  13. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  14. Palita N

    Palita N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +1,515
    สวัสดีค่ะน้องเอก และญาติธรรมทุกๆท่าน
     
  15. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ดีครับพี่อ้อย กำลังจะนอนพอดีเลย ราตรีสวัสดิ์เลยนะครั้บ อิอิ

    ว่าแต่สบายดีไหม
     
  16. Palita N

    Palita N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +1,515
    สบายดีค่ะน้องเอก แต่ไม่มีกะตังค์ใช้ 555
    น้องเอกสบายดีนะคะ
     
  17. kwanzy

    kwanzy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +662
    สวัสดีปีใหม่ทุกๆคนค่ะ
    เพิ่งกลับวันจากเชียงใหม่ ไปหลายวันม๊ากก 555+
    อากาศหนาวมาก ยิ่งไปเที่ยวเชียงรายนี่เลขตัวเดียว
    หนาวสะใจ ใช้เสื้อหนาวคุ้ม แถมได้ไปทำบุญสบายใจมากๆค่ะ
    หวยงวดที่แล้วซื้อ 47 ดันออก 48 เฮ้ออออ เฉียดตลอดดด
     
  18. kwanzy

    kwanzy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +662
    มีใครทราบมั้ยคะว่า ฝันว่าล้างจาน มีความหมายว่ายังไง
    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
     
  19. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    สบายดีครับพี่อ้อย อิอิ อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
     
  20. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    สวัสดีปีใหม่ครับคุณขวัญ สบายดีไหมเอ่ย หวยมันงี้แหละครับ 5555 ไม่โดนสักที
    ฝันเห็นจานชามหรือถ้วยจาน หรือได้จับต้อง
    ทํานายฝันว่า หากท่านมีครอบครัวแล้ว ทำนายได้ว่า ท่านกำลังจะได้บุตร หรืออาจมีสัตว์เลี้ยงเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่หากเป็นโสด ทำนายได้ว่า ท่านจะได้การงานที่ดี หรือหากค้าขายก็จะได้หลักแหล่งที่ดี
    เลขเด็ด 77, 78, 79, 779, 789
    สีนำโชค สีเขียว
    ทิศนำโชค ทิศเหนือ
     

แชร์หน้านี้

Loading...