(ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร) เลขเด่นงวดประจำวันที่ 16 ก.ค. 58 หน้าที่ 261 ...แชร์ความฝัน ^__^

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย aegmanmu, 15 มิถุนายน 2013.

  1. ป้าเม้าท์

    ป้าเม้าท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ก็อก ก็อก ก็อก มีใครอยู่ไม๊คะ.................เงียบ กลับบ้างก่องนะ แล้วจะแวะมาใหม่
     
  2. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    สวยมากครับ เก็บรักษาดีๆๆและสวดมนต์บูชาทุกวันนะป้า
     
  3. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ป้ายังสวดมนต์เหมือนเดิมป่ะ
     
  4. ป้าเม้าท์

    ป้าเม้าท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +1,565
    สวดจ้ะ ระหว่างวันก็ภาวนาตามที่คุณครูอีกห้องสอนด้วยจ้ะ ถ้าไม่ภาวนาก็จับลมหายใจจ้ะ จะได้ไม่ฟุ้ง
     
  5. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ดีมากป้าขอให้มีความสุขมากๆๆนะครับ
     
  6. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ทุกข์เพราะรัก


    ความวุ่นวายที่ทุกคนมีอยู่ยังดับไม่ลง เดี๋ยวเรื่องนั้นเข้ามาแทรกเดี๋ยวเรื่องนี้เข้ามาซ้อน เรื่องลูกหลานเรื่องบ้านเรือน เรื่องรักเรื่องใคร่ เรื่องโลภโกรธหลงมีอยู่ในหัวใจทุกคน แสวงหาความอยาก ความรัก เช่นไปขอความรักเขา อยากให้เขารักเรามากๆ รักน้อยไม่เอา อยากให้มันเพิ่มมากขึ้น ที่จริงมันเพิ่มทุกข์ทั้งนั้น

    สามีก็อยาก ให้ภรรยารักให้มากรักให้หลงเลย ให้รักตนคนเดียวไม่ให้ไปรักคนอื่น ภรรยาก็อยากให้สามีรักตนคนเดียวไม่อยากให้รักผู้หญิงอื่น ให้รักคนเดียวและอยากให้รักมากๆ มีเพื่อนฝูงก็อยากให้เพื่อนฝูงรักและเห็นใจตนคนเดียว

    เมื่อเป็น อย่างนั้นแล้วก็ทุกข์มากขึ้น รักมากก็กังวลมาก กลัวจะเป็นโน่นเป็นนี่ กลัวจะไม่ดี กังวลกลัวจะเปลี่ยนแปลง เกิดความทุกข์กระสับกระส่ายกระวนกระวาย เมื่อรักมากห่วงมากก็เป็นทุกข์มาก ห่วงมากๆเข้าก็หึงหวงเกิดทะเลาะขัดแย้งกันเพราะไม่ตรงตามที่ตกลง

    ภรรยา ก็เป็นอย่างนั้น เมื่อสามีไปไหนไม่ตรงตามเวลา คอยแล้วคอยอีกคอยจนดึกดื่น ถ้าไม่มาคืนนี้ก็เป็นปัญหาเพราะมันรักหมดหัวใจจนหลงมากก็ห่วงมาก เป็นทุกข์กังวล ผลที่สุดเมื่อไม่สมใจแล้วก็ขัดแย้งกันต่อว่ากันถากถางกันรุนแรง ทีแรกก็หวานกันดีหนักเข้าคำพูดที่ไม่ดีก็ออกมา การต่อว่ากันทะเลาะขัดแย้งกันก็มาจากความรักมากนั่นเอง เพราะรักมากจึงต้องห่วงกลายเป็นว่าเอาความรักมาทะเลาะกัน

    แม้รักลูกมากก็ตาม ลูกกลับดึกดื่นกลับไม่ตรงเวลา แม่ก็ด่าสาดเข้าไปคอยบ่นคอยว่า ลูกก็ไม่ชอบ ความรักจึงกลายเป็นความทุกข์เสียแล้ว

    “ทำไม รักแล้วต้องเป็นอย่างนี้ด้วย” รักแล้วต้องคอยติดตามเป็นเงาตามตัวทำไม? คนถูกรักก็ไม่เข้าใจในความรัก คนที่รักก็ไม่เข้าใจในความรัก รักแล้วกลายเป็นห่วงกลายเป็นเฝ้าติดตามจนกลายเป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา รักไม่มีธรรมะมักเป็นอย่างนี้

    เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วไม่มีครอบครัว หรือชีวิตใดที่เป็นไปตามความหวัง ตามความต้องการตามที่ตนปรารถนาได้ ลูกต้องการให้พ่อแม่ตนรักอย่างมีขอบเขต แต่พ่อแม่ก็รักมากเกินไปจนไม่มีขอบเขต สามีก็อยากให้ภรรยารักตนให้มากและให้มีขอบเขต แต่มันก็ไม่มีขอบเขต ภรรยาก็มีรักที่ไม่มีขอบเขตกับสามีหรือสามีก็มีรักที่ไม่มีขอบเขตกับภรรยา พิษภัยความทุกข์จึงเกิดขึ้นกับผู้ที่มีความรักมาก แล้วปัญหานี้ก็แก้ไม่ตก

    ถ้า เราไม่เข้าหาธรรมะมันก็หนักเอียงไปทางเดียว เอียงไปทางที่เป็นทุกข์อยู่เรื่อย เพราะเราอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันตรงกับตามความต้องการ แต่มันก็ไม่เป็นดังที่เราต้องการสักที นี่แหละชีวิตคนเราถ้าไม่มีธรรมะแล้วก็จะมีปัญหา แม้แต่ความรักก็เป็นเรื่องใหญ่โตเป็นความทุกข์ที่เข้ามาแทรกซ้อนอยู่ทุกลม หายใจ

    แม้คนที่รักเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นอะไรขึ้นมาก็เป็นทุกข์กับคน ที่รัก ทรมานจิตใจเหลือเกินเจ็บหัวใจเหลือเกินเพราะไม่อยากให้เขาเจ็บไข้ไม่อยากให้ เขาตาย อยากให้เขาดีอยู่ตลอดเวลา เพราะความรักมากเป็นห่วงมากจึงเฝ้าเป็นทุกข์อยู่คนเดียว

    ส่วนพ่อ แม่ที่รักลูกมาก ลูกไม่เป็นทุกข์แต่พ่อแม่เป็นทุกข์เพราะห่วงลูกมากอยากให้ลูกเป็นไปตามที่ตน ต้องการ แต่ลูกก็เป็นลูกอย่างนั้นเองที่ไม่เข้าใจพ่อแม่ แม้ภรรยาก็เป็นภรรยาอย่างนั้นเองที่ไม่เข้าใจสามี หรือแม้สามีก็เป็นสามีอย่างนั้นเองที่ไม่เข้าใจภรรยา จึงเป็นความรักที่ไม่เข้าใจกัน

    ความรักจะเข้าใจกันทีแรกเท่านั้น อยู่ไปนานๆ มันไม่รู้จักความเข้าใจเพราะมันเกินเลยไม่มีขอบเขต คนเราจึงมีปัญหาหัวใจ เป็นทุกข์เพราะห่วง เพราะหวง เพราะกังวล เพราะมันไม่ตรงตามที่เราต้องการ

    แม้ความรักที่สาบานว่าจะรักกันจน ตายมันก็ยังทิ้งกันได้ ต่างคนต่างเกิดมาก็ตายจากกันได้ ไม่มีอะไรเป็นของเที่ยงเลย แล้วจะไปยึดมั่นถือมั่นว่าทุกอย่างนั้นจะเป็นไปตามสัญญาไม่มีหรอก

    ถ้าเขาไม่รักแล้วจะทำอย่างไร

    เขา ไม่ห่วงเราแล้วเราจะห่วงเขาทำไม? เขาไม่รักเราแล้วเราจะรักเขาทำไม? เมื่อรักไม่สมปรารถนา เราจะตายบูชาความรักทำไม? เขานั่งยิ้มอยู่แต่เราไปผูกคอตาย เป็นความคิดผิดๆ รักเขามากเขาไม่รักด้วยไปตายดีกว่า โธ่! เขาไม่รักแล้วจะตายทำไมจะต้องทำใจให้ได้ รักตัวเองเข้าหาธรรมสิ!

    คน เรามันโง่ก็คิดไปผิดๆ เขาไม่รักเรายิ่งทุกข์ใหญ่ เขาไม่รักเราสิสบายใจเราไม่ต้องไปปรนนิบัติเอาใจเขา เป็นทาสของความรัก เรียกว่าเป็นทุกข์เพราะความรัก

    ถ้าเป็นคนมีธรรมะใครไม่รักไม่หวง ไม่ห่วงก็ไม่เป็นไร เราจะได้อยู่กับธรรมะ จะได้ไปบวชเรียนไปสร้างบารมีจะได้คบคนดีเป็นมิตร จะได้ไม่ผิดหวัง ไม่เจอคนหลอกลวง ถ้าฝืนทนอยู่กับคนที่เขาไม่รัก เขาไม่จริงใจด้วย เป็นความคิดผิด เป็นความทุกข์

    ถ้ามีธรรมะประจำใจแล้วจะปลงตก ผัวไปมีเมียน้อยก็ยกให้เมียน้อยเลย จะได้ไปหาธรรมะรอเวลานี้มานานแล้วจะได้หมดห่วงเสียที อยู่กับคนไม่ดีคนสองใจนี่ไม่มีความสุขหรอก ไปอยู่กับธรรมะใจเดียวดีกว่าสบายใจดี ถ้าฉลาดคิดสักหน่อยสลัดทิ้งเหมือนผ้าขี้ริ้วเลย ถ้าไม่ฉลาดคิดก็เป็นทุกข์อยู่นั่นเองต้องตกเป็นทาสของมันเป็นทาสของความรัก ความหวง ความห่วง

    การปรุงแต่งที่ผิดๆว่าลูกเราครอบครัวเราทำไมจึง เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เกิดความกังวลเป็นทุกข์ นึกคิดขึ้นมาเพราะความหลงผิดปรุงแต่งผิดๆ ไปนึกถึงคนนั้นคนนี้ขึ้นมาก็เกิดความร้อนรุ่มกลุ้มใจ ถ้าเราเพิ่มความรักมากขึ้นก็ทุกข์มากขึ้น ควรทำใจให้สงบคิดเสียว่า (ช่างมึ..ช่างมัน) มันจะเกิดก็ต้องเกิดมันจะดับก็ต้องดับมันเป็นของมันอยู่อย่างนี้นานเนแล้ว

    ความ รู้ความเข้าใจมีสติระลึกรู้ระวังใจตัวเองนี้ต้องฝึกฝนอบรมไปเรื่อยๆ ทำให้เรามีความสุขได้มากเหมือนไปสวรรค์ในครั้งหนึ่งเหมือนมีวิมานในใจ ธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักยึดเหนี่ยวทำให้ใจร่มเย็น เรามีความสุขสงบครั้งหนึ่งก็เท่ากับเป็นทุนเป็นปัจจัยที่ฝังลึกลงไปในหัวใจ เราว่าทางดับทุกข์มีทางเดิน แต่ที่วุ่นวายอยู่นี่เพราะเรายังเดินทางไปไม่ถึง เรายังอยู่กับความวุ่นวาย เราต้องละความห่วงความกังวลให้มันน้อยลงมันก็สิ้นทุกข์ไปเอง

    การมี ธรรมะฝึกอบรมใจช่วยให้จิตใจเรามีพื้นฐาน เมื่อมีทุกข์จะได้ไม่ไปทุกข์กับมัน อดทนรู้ทันอารมณ์รู้ทันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นมา อันนี้เขาเรียกว่าธรรมะคุ้มครองปกป้องรักษา อยู่กับพระรัตนตรัยแล้วก็จะมีความสุข

    การมีธรรมะได้เปรียบอย่างนี้ แหละ พยายามฝึกใจฝึกให้เห็นธรรมให้รู้ธรรมที่ใจ ทุกข์มันเกิดที่ใจก็ต้องแก้ปัญหาที่ใจด้วยความคิดทางธรรม และแก้ปัญหาด้วยการภาวนา (พุทโธ) ทำให้ใจเราเย็นลงสงบลง ภาวนามากๆ เข้า ใจมันสบายเอง จิตมันไม่สับสนกังวล ความห่วงก็น้อย

    เพราะอะไร เพราะมีปัญญาที่ตัดใจได้ เมื่อเราเกิดมาคนเดียวก็ตายคนเดียว ห่วงกันก็แค่นั้นเองช่วยอะไรกันไม่ได้ พอมีปัญญาก็ปลงตก ถ้าไม่มีปัญญาก็ทุกข์คนเดียวทั้งที่คนอื่นเขาไม่ทุกข์เท่าไหร่ ฉะนั้นธรรมะนี้จึงแก้ปัญหาหัวใจตนเอง

    เราต้องรู้จักบั่นทอนตัด กิเลสอย่างหยาบอย่างกลางอย่างละเอียดให้มันลดน้อย ถอยลง ขัดเกลาให้มันว่างบ้างสงบบ้าง จากหนักกลายเป็นเบา เบาลงๆเกิดความปล่อยวางขึ้นก็สบาย เพราะความรู้ทันว่าอะไรควรคิดอะไรไม่ควรคิด อะไรควรรับอะไรไม่ควรรับจึงจะมีความสุข เมื่อเข้ามาสู่แดนธรรมมาสู่ทางสว่างทางสงบ

    รู้จักละวางให้ใจว่าง บ้างด้วยการภาวนา ด้วยการเข้าใจธรรม พอมันไปห่วงไปรักไปกังวลคนอื่นมันเป็นทุกข์ทุกทีอีกแล้วว่าเขาจะเป็นโน่น เป็นนี่ ตัดใจให้ได้ช่างมันเถอะเกิดคนเดียวตายคนเดียว เอาความตายมาตัดปุ๊ปสบายใจ คนเรากรรมใครกรรมมัน เขาทำบุญไว้ก็ต้องไปดีเขาทำบาปก็ต้องไปตามกรรมของเขา ใครจะไปดึงรั้งเขาได้

    จึงว่าเราเกิดมาแล้วก็ศึกษาชีวิตให้เป็นธรรมะเสีย เกิดคนเดียวตายคนเดียวกินคนเดียวทุกข์คนเดียว ถ้าเรายังช่วยใจตนเองให้สงบไม่ได้ ก็ช่วยคนอื่นไม่ได้จะต้องช่วยเหลือตนเองก่อน เมื่อช่วยเหลือตนเองได้ก็ช่วยเหลือผู้อื่นได้
     
  7. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ทุกข์ที่สุด จะหลุดได้อย่างไร



    อย่ากลัวว่าความทุกข์นั้น จะมีตลอดไป... อย่าคิดว่าไม่มีทางแก้ไข... หนทางที่เร็วที่สุดคือ เปลี่ยนอารมณ์... ท่านใดมีทุกข์ ขอให้มันผ่านไปโดยไวครับ.....
    เมื่อเราเกิดมาย่อมได้รับ ทั้งสุขและทุกข์ ปะปนกันไปอยู่แล้ว แต่เมื่อทุกข์ที่สุดเราควรจะทำอย่างไร ปัจจุบันเราได้ยินข่าวเรื่อง การฆ่าตัวตายบ่อย ทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ

    การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ควรกระทำหรือไม่ และเราควรจะทำอย่างไรดี
    การกระทำอย่างนั้นจะมีผลในอนาคตอย่างไร ทำลายตนเองจะบาปมากแค่ไหน ต้องเกิดมาฆ่าตัวตายใช้กรรมอีก 500 ชาติจริงหรือ เพราะถ้าบอกไป ต้องใช้ความเชื่อและศรัทธาในตัวศาสนามาพูดคุยกัน แต่ต้องการจะบอกว่า การทำลายตนเอง เป็นสิ่งที่น่าเสียดายนัก เสียดายโอกาสที่จะได้รับสิ่งที่ดีอีกมากที่จะตามมา และเสียดายแทนญาติมิตรที่เกี่ยวข้องที่จะต้องได้รับผลกระทบกายและใจตลอดไป

    ในเรื่องความทุกข์ที่สุดนี้ ธรรมะในพระพุทธศาสนาสอนให้เราแก้เรื่องนี้ได้ทันที ด้วยความเข้าใจ ด้วยความรู้ที่เราไตร่ตรองเองได้ และด้วยประสบการณ์ในอดีตของเราทุกคน ในกาลามสูตรพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อด้วยเหตุ 10 อย่าง เช่นด้วยเหตุผลว่าผู้สอนเป็นครูของเรา และอื่นๆ รวมสิบประการ แต่จะให้เชื่อก็ต่อเมื่อไตร่ตรองรู้ได้ด้วยตนเองจึงเชื่อ การจะไตร่ตรองให้รู้ได้ด้วยตนเอง จะมีได้ก็ต่อเมื่อเรามีประสบการณ์ในเรื่องนั้นมาแล้ว ดังนั้นประสบการณ์ในอดีตจึงเป็นธรรมะที่เราตรึกตรองได้เช่นกัน

    เมื่อความทุกข์ที่สุดมาถึง สิ่งที่ควรระลึกถึงมีสองสามอย่างคือ หนึ่ง อย่ากลัวว่าความทุกข์นั้นจะมีตลอดไป เพราะมันจะไม่คงอยู่ตลอดไป เดี๋ยวมันก็จางไป สอง อย่าคิดว่าไม่มีทางแก้ไขให้ดีขึ้นได้ เพราะจะมีทางแก้ไขเสมอ เพียงแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเท่านั้น สาม อย่านึกว่าต่อไปนี้เราจะไม่ได้รับสิ่งดีๆ อีก เพราะเมื่อทุกข์ผ่านไป เราจะยังมีความสุข สนุกสนาน ได้อย่างเดิมแน่นอน และสุดท้ายคือ ให้นึกถึงคนข้างหลัง ที่เขาจะต้องเศร้า ได้รับการกระทบกระเทือน จากการกระทำด้วยอารมณ์ของเรา เมื่อทุกข์ที่สุดมาถึงสิ่งที่เราต้องทำทันที ในขณะที่ยังตั้งตัวปรับใจไม่ทันก็คือ รีบหาทางเปลี่ยนอารมณ์ เมื่อเราไปเจอคนอื่นทุกข์สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือช่วยเปลี่ยนอารมณ์เขาก่อน จากนั้นสติจึงจะตามมา

    ความทุกข์ที่มากสุดจะแก้ได้เร็วและง่ายที่สุด ด้วยการเปลี่ยนอารมณ์ ดึงอารมณ์ออกจากสถานการณ์นั้นก่อน อาจง่ายๆ เพียงแค่ทำอะไรที่ชอบ ฟังเพลง ดูหนัง หาของอร่อยกิน ชวนเพื่อนไปเที่ยว ชวนคุยเรื่องอื่น ลืมเรื่องทุกข์ไปชั่วคราวก่อน บางทีก็เบาบางได้เอง ที่สำคัญถ้ามีเพื่อนดี จะเบาบางไปได้มากที่สุด ที่ไม่ควรทำคือดื่มสุรา หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ควรหันไปดื่มเหล้าเบียร์ เพราะการกินเหล้าก็ดับทุกข์ได้ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่จะมีข้อเสียกว่าคือ จะยิ่งโกรธง่าย น้อยใจง่ายและโมโหง่ายกว่าเดิม และไม่มีสติยับยั้งความโกรธ หรืออารมณ์ที่รุนแรงเหล่านั้น เมื่อเปลี่ยนอารมณ์ได้ ใจจะเข็มแข็งมากพอที่จะแก้ในขั้นต่อไป

    ขั้นต่อไปคือพยายามตั้งใจใช้สติคิดว่าจะแก้ได้อย่างไร อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล สายไปแค่ไหนแล้วและแก้ได้หรือไม่ ทำให้ดีขึ้นได้หรือไม่ ถ้าแก้ไม่ได้ ขั้นสุดท้ายคือ ทำให้ใจของเรายอมรับสิ่งนั้นให้ ได้ ใจของเราจะยอมรับได้ คิดได้ ปลงตกได้ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ

    ท่านพุทธทาสภิกขุ สอนว่า โดยสรุปรวมในธรรมะของพระพุทธเจ้า อาจสรุปเป็นแบบหนึ่งได้ว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น นั่นเป็นเพราะในความเป็นจริง สิ่งทั้งหลายย่อมไม่ได้ดั่งใจเรา มีความไม่เที่ยง แปรเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลาด้วยเหตุและปัจจัย จึงไม่สมควรที่จะไปหลงยึดมั่นหมายว่าเป็นเรา เป็นตัวเรา หรือเป็นของของเรา สิ่งทั้งหลายไม่ได้ดั่งใจทั้งนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร รวยเพียงใด อำนาจล้นฟ้าขนาดไหน ต่างก็มีความทุกข์ประจำตัวประจำอยู่ทุกคนทั้งสิ้น

    เมื่อคนคนหนึ่งประสพอุบัติเหตุขาขาดสองข้าง เขาจะรู้สึกอยากตายไม่อยากอยู่ จะรู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว แต่ผ่านไปสักสองปี ไปดูอีกทีกำลังหัวเราะอยู่เพราะดูละคร ส่วนเรื่องขาขาดก็นั่งรถเข็นเอา และก็ชินเสียแล้ว ไม่เสียใจมากเหมือนตอนขาขาดใหม่ๆ บางคนแฟนตายไปเสียใจแทบตายตาม ผ่านไป 3 ปี มีแฟนใหม่แล้ว มีความสุขดีมากเลย ความทุกข์จึงเป็นของไม่เที่ยงเสมอ เช่นเดียวกับความสุข เพียงแต่ว่าตอนทุกข์ ให้ผ่านวันเวลาไปได้ ไม่ด่วนตายไปเสียก่อน เมื่อทุกข์ผ่านไป จะมีสิ่งดีๆ ตามมาได้แน่นอน

    และเมื่อมองย้อนไป ความทุกข์เหล่านั้นมันก็เท่านั้นเอง เมื่อเราอ่านมาถึงตอนนี้ ก็ขอให้ลองใช้เวลานี้ นึกถึงอดีตที่มีทั้งทุกข์และสุขของเราดู อดีตนั่นแหละที่จะสอนตัวเราในความจริงแห่งธรรมะ ในกาลามสูตรพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ แต่สอนว่าเมื่อเราพิจารณาได้เอง ว่านี้เป็นสิ่งดีหรือไม่ดีแก่จิตใจจึงค่อยเชื่อ การจะพิจารณาได้อย่างนั้น จะต้องมีประสบการณ์ในความรู้สึก แบบนั้นในอดีตมาก่อน อดีตจึงเป็นธรรมะที่สอนใจได้เป็นอย่างดี

    ทุกข์ที่สุดจะเกิดจาก ความยึดมั่นถือมั่นที่สุด สิ่งใดที่เรารักมากยึดมากว่าเป็นตัวเราหรือของเรา สิ่งนั้นถ้าขาดหายไปจะทำให้ทุกข์ถึงที่สุด ถ้าเรารักความสวยงาม เมื่อเสียโฉมจะทุกข์ที่สุด ถ้าเรารักสามีหรือภรรยา เมื่อเขานอกใจ หรือเสียเขาไปจะทุกข์ที่สุด ถ้ารักลูก ลูกหายหรือพิการหรือตายจะทุกข์ที่สุด ถ้ารักยศถาบรรดาศักดิ์เมื่อสูญเสียจะทุกข์ที่สุด ถ้ารักตนเอง เมื่อทราบว่าตนป่วยเป็นมะเร็ง เป็นเอดส์ หรือโรคที่รักษาไม่หายก็จะทุกข์ที่สุด

    แต่ถ้าเราไม่มีสิ่งนั้นเลย ก็ไม่มีอะไรจะทุกข์กับสิ่งนั้น ไม่มีลูกก็ไม่ทุกข์กับลูก ไม่มีแฟนก็ไม่มีทุกข์จากแฟน ไม่มีทรัพย์สิน ก็ไม่ทุกข์กับทรัพย์สิน หรือถ้าเรามีแต่ทำใจไว้เสมือนไม่มี หรือทำใจไว้ว่าของที่มีมันไม่เที่ยงย่อมแปรปรวนไป ก็จะทุกข์น้อยลง ยิ่งยึดมั่นได้น้อยลงเท่าไรก็ทุกข์น้อยลงเท่านั้นเป็นสัดส่วนไป เมื่อไม่ยึดมั่นก็ไม่ทุกข์เลย หมายความว่าไม่มีอะไรทำให้ทุกข์ใจได้อีกเลย แต่ความเจ็บปวดยังมีตราบเท่าที่มีสังขารร่างกายอยู่ เพียงแต่ความทุกข์กายอันนั้น จะไม่สามารถมากินใจให้ทุกข์ใจได้เลย

    ความทุกข์ที่เกิดขึ้น มักเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนคิดจะทำความดี เพราะธรรมชาติของเราจะหลงลืมและเพลินในสุข ซึ่งความสุขส่วนมากที่เราชอบ มักจะตั้งอยู่บนความไม่เที่ยงทั้งสิ้น พระพุทธองค์เห็นข้อนี้จึงสละทุกสิ่งออกบวชแสวงหาธรรมะ แต่อย่างเราๆ มักจะไม่คิดเรื่องนี้จนกว่าจะทุกข์ เสียก่อน เราจึงพบว่าคนจำนวนมาก ได้ประพฤติธรรมะ ได้ทำสิ่งดีๆ แก่ตนและผู้อื่นเพราะประสพกับความทุกข์มาแล้ว ดังนั้นเมื่อมีทุกข์นั่นคือเราได้อยู่ใกล้ธรรมะแล้ว ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็มักจะมีสิ่งดีโอกาสดี และเราเองก็จะดำรงอยู่ในความดีมากขึ้น ความทุกข์และความสุขเป็นของคู่โลกเช่นนี้มาตลอด

    เมื่อเราทุกข์หรือพบคนที่ทุกข์ อย่าลืมเปลี่ยนอารมณ์ ตั้งสติหาทางแก้ไข ใช้ความดีเอาชนะสิ่งไม่ดี ทุกข์ย่อมไม่เที่ยง ย่อมผ่านไป เป็นธรรมดา และเราก็มีโอกาสที่จะได้รับสิ่งที่ดี ได้ปรับปรุงตนเป็นคนดีเสมอ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2013
  8. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น นั่นเป็นเพราะในความเป็นจริง สิ่งทั้งหลายย่อมไม่ได้ดั่งใจเรา มีความไม่เที่ยง แปรเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลาด้วยเหตุและปัจจัย จึงไม่สมควรที่จะไปหลงยึดมั่นหมายว่าเป็นเรา เป็นตัวเรา หรือเป็นของของเรา สิ่งทั้งหลายไม่ได้ดั่งใจทั้งนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร รวยเพียงใด อำนาจล้นฟ้าขนาดไหน ต่างก็มีความทุกข์ประจำตัวประจำอยู่ทุกคนทั้งสิ้น
     
  9. Palita N

    Palita N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +1,515
    สวัสดีค่ะ น้องเอก ติดธุระหรือเปล่า หายไปหลายวันเลย
     
  10. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090

    ตอนนี้หัวฟูเลยครับพี่งานบานตะไท
     
  11. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    Test Test Test Test Test Test
     
  12. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    งานบุญยอ่ยที่ 15

    ผมจะเดินทางไปทำวันที่ 15 ธ.ค. นี้ครับ ก็รับอนิสงส์จากการอนุโมทนาละกันครับ ใครมาได้ก็เชิญครับ

    [​IMG]
     
  13. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    งานบุญยอ่ยที่ 16

    ขอเชิญร่วมงานหล่อพระจักรพรรดิกินบ่เสี้ยง 3 องค์ วันที่ 4 มกราคม 2557 และร่วมถวายพระแก้วแดง พร้อมทอดผ้าป่ามหากุศล ณ วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)

    >>>ฤกษ์มงคล ในวันที่ 4 มกราคม 2557 ขอเชิญญาติธรรมทั้งหลายร่วมงาน
    หล่อพระจักรพรรดิกินบ่เสี้ยง 3 องค์ หน้าตัก 30 นิ้ว และร่วมเป็นส่วนหนึง
    ในพิธีการถวายพระแก้วแดงทรงเครื่องประดับเพชรพลอยแท้
    พร้อมร่วมกันทอดผ้าป่ามหากุศล..

    ท่านหลวงตาม้า (พระอาจารย์ วรงคต วิริยะธโร)
    เป็นประธานสงฆ์ในงานหล่อ

    ในวันงานจะมีการทอดผ้าป่ามหากุศล โดยญาติธรรมทุกท่าน
    สามารถมาร่วมบุญได้ในวันงานหล่อพระนี้ โดยการทอดผ้าป่านี้จะเป็นการทอดผ้าป่า
    เพื่อร่วมบุญหล่อพระจักรพรรดิกินบ่เสี้ยงที่หล่อทั้งสามองค์และการถวายพระแก้วแดง

    ท่านใดที่เดินทางมาร่วมบุญในวันงานไม่ได้แต่มีความประสงค์ต้องการที่จะ
    ร่วมปัจจัยในครั้งนี้กับหลวงตาม้า สามารถทำบุญเข้ากองทุนพุทธพรหมปัญโญได้ที่

    ชื่อบัญชี : พระวรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)
    ธนาคาร : กสิกรไทย บัญชีออมทรัพย์ สาขามูลเมือง จ.เชียงใหม่
    หมายเลขบัญชี : 383 223 9258


    [​IMG]

    ทั้งนี้สำหรับเจ้าภาพกองละ 10,000 บาท 10 ท่าน จะได้รับเม็ดทับทิบแท้จักรพรรดิกินบ่เสี้ยง ที่ทางวัดจะนำไปแกะสลักเป็นพระจักรพรรดิ และหลวงปู่ดู่ รุ่นพิเศษ ที่หลวงตาท่านจะมอบให้เป็นวาระพิเศษ เจ้าภาพมาเลือกเม็ดทับทิบแท้กับหลวงตาม้าได้ในวันงาน มีจำนวน 10 เม็ดเท่านั้น และทางวัดจะนำไปแกะสลักและมอบให้ต่อไป

    [​IMG]

    ในวันงานคณะญาติธรรมผู้ศรัทธาได้จัดให้มีการถวายพระแก้วแดงทรงเครื่อง
    เป็นหินแก้วแดงจากประเทศเยอรมัน พร้อมเครื่องทรงทองคำแท้
    ประดับเพชรพลอยแท้ 100% เพื่อประดิษฐานไว้
    ณ วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)
    เป็นมรดกทางศาสนาสืบไป..

    ในวันงานจะมีการทอดผ้าป่ามหากุศล โดยญาติธรรมทุกท่าน
    สามารถมาร่วมบุญได้ในวันงานหล่อพระนี้ โดยการทอดผ้าป่านี้จะเป็นการทอดผ้าป่าเพื่อร่วมบุญหล่อพระจักรพรรดิกินบ่เสี้ยงที่หล่อทั้งสามองค์และการถวายพระแก้วแดง


    [​IMG]

    แผนที่วัด

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2013
  14. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    [​IMG]

    "อย่าให้เลยพระพุทธเจ้า" ที่เลยเถิดไปกว่านั้น ก็คือเลยพระพุทธเจ้า คือเก่งกว่าพระพุทธเจ้า เป็นต้นว่า คิดค้นและประกาศสอนแนวทางการปฏิบัติธรรมของตนเองว่าเป็นทางลัดตรง หากเราพิจารณาคำเตือนของหลวงปู่ดู่ที่ว่า "อย่าเลยพระพุทธเจ้า" ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจว่า จงอย่าอวดดี อย่าบัญญัติสิ่งที่พระพุทธองค์มิได้บัญญัติ และหากพิจารณาให้ดีในสามโลกนี้จะหาใครที่มีความบริสุทธิ์ อีกทั้งเปี่ยมได้ด้วยพระกรุณา และพระปัญญาเท่ากับพระพุทธองค์ ดังนั้น หากมีทางลัดตรงกว่านี้ มีหรือพระพุทธองค์จะไม่ทรงบอกทรงสอน พระองค์สละชีวิตมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ก็เพื่อค้นหาหนทางเพื่อความหลุดพ้นคือ อริยมรรคมีองค์ 8 หรือศีล สมาธิ ปัญญา นี้มาประกาศสอนแก่สัตว์โลกทั้งหลาย แล้วผู้ประกาศทางลัดเหล่านั้นเล่าจะมีปัญญาเหนือพระองค์เชียวหรือ

    หลวงปู่ได้สั่งสอนและชี้แนะให้ลูกศิษย์ได้ตระหนักถึงกับดักบนหนทางของการปฏิบัติธรรม โดยเพาะอย่างยิ่งคำว่า "คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร" และ" อย่าเลยพระพุทธเจ้า"
    แม้จะเข้ามาในหนทางแห่งการสร้างสมความดีงาม ก็ยังมีสิ่งที่เป็นกับดักรอเราอยู่อย่างมากมาย และเป็นสิ่งที่แก้ยาก ดังคำพูดของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถรที่ว่า "ติดดีน่ะ แก้ยากกว่าติดชั่ว" เพราะคนที่ถือตนว่าเป็นนักปฏิบัติ เป็นครูเป็นอาจารย์เป็นคนเข้าวัดเข้าวา เป็นคนถือศีลกินเจ หรือเป็นคนปฏิบัติสมาธิภาวนา หากเผลอตัวให้กิเลสแล้ว ความหลงตัวหลงตนจะเข้าครอบงำจนสำคัญว่าตนวิเศษกว่าคนอื่น นอกจากจะเป็นตัวปิดกั้นความดีไม่ให้งอกงามแล้ว ก็ยังจะทำให้จิตใจเสื่อมลงๆเที่ยวกล่าวตีคนโน้นคนนี้ ยิ่งกว่าการสอนเตือนตนเอง เข้าลักษณะที่บัณฑิตทั้งหลายกล่าวไว้ว่า "คนรู้ธรรมะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนมีธรรมะชอบเอาชนะตนเอง"...

    กราบนมัสการ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
     
  15. Palita N

    Palita N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +1,515
    ช่วงนี้พี่เองก็ไม่ต่างจากน้องเอกค่ะ วันที่ 17-18 นำนักเรียนเข้าปรกวดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือ ครั้งที่ 63 ซึ่งเพชรบูรณ์เป็นเจ้าภาพ วันที่ 16 รับคณะครู-นักเรียนจากจังหวัดเชียงใหม่ที่มาร่วมแประกวด (มาพักที่โรงเรียนค่ะ)
     
  16. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    สู้ๆๆครับทำหน้าที่ให้สำเร็จ อิอิ
     
  17. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ขอบคุณพี่จูดี้นะครับที่ร่วมบุญหล่อพระหลวงพ่อทาครับ สาธุ
     
  18. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    แจ้งชื่อไว้ด้วยครับ หากว่าได้แท่งทอง 1000 บาทจะนำชื่อสมาชิกที่เหลืออยู่และใหม่ไปร่วมสร้างบุญด้วยกันครับ ขอบคุณครับ
     
  19. juu-dt07

    juu-dt07 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2010
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +934
    พี่โอนตังค์ร่วมทำบุญมาให้แล้วนะคะ 500บาท เวลาประมาณ 17.15น. ผ่านทางธ.กรุงไทยน้องเอกลองไปเช็คดูนะคะ
     
  20. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ไปเช็คเรียบร้อยแล้วครับพี่จูดี้ อนุโมทนาสาธุด้วยครับ อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...