ผมถูกความคิดชั่วเข้าครอบงำครับ ท่านผู้รู้ช่วยที

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย potaetae, 26 พฤษภาคม 2010.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,473
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    ฝากอันนี้ให้ไปฟังกันด้วยครับ เจริญในธรรมครับ

    เรื่องการห้ามจิตคิดชั่ว - Buddhism Audio

    เรื่องการห้ามจิตคิดชั่ว<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title -->
    Artist: หลวงพี่สมปอง ( ท่านจิตโต )
    <!-- attachments --> <fieldset class="fieldset"> <legend>ไฟล์แนบข้อความ</legend> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3"> <tbody><tr> <td width="20"><input id="play_55646" onclick="document.all.music.url=document.all.play_55646.value;" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=55646" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>เรื่องการห้ามจิตคิดชั่ว - ท่านจิตโ.mp3 (15.31 MB, 0 views)</td></tr> </tbody></table> </fieldset>
    <!-- / attachments --> <!-- message --> <!-- google_ad_section_start -->เรื่องการห้ามจิตคิดชั่ว - หลวงพี่สมปอง ( ท่านจิตโต )
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ที่จิตมันคิดไป แล้ว เราห้ามไม่ได้ ทั้งๆ ที่เราก็อยากจะคิดดี นั้นเป็นเพราะว่า

    1 นิวรณ์เต็มอยู่ในจิต เมื่อ จิตเต็มไปด้วยนิวรณ์ จิตจะขาดสมาธิ ตัวอุทธัจจะ คือ ความฟุ้ง จะปรากฎ และ ผลักดันให้เราคิดไป

    2 อำนาจแห่งกรรม เช่น เคยปรามาส พระเอาไว้บ่อย เมื่อถึงเวลาจะคิดดี จิตก็จะถูกอำนาจกรรมผลักดัน ให้คิดไปในทางไม่ดี

    3 อำนาจ มาร คือ มาร เขาดลใจ ให้คิดไม่ดี จะได้เป็นอุปสรรค ให้เราไม่เจริญก้าวหน้า

    ทีนี้ ทางแก้ไข คือ

    ทำสมาธิ ให้เป็น เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว อาการปรุงทั้งหลายจะไม่ปรากฎ

    วางให้เป็น คือ ไม่ใส่ใจกับ อาการคิดไม่ดีทั้งหลาย เมื่อเราไม่ใส่ใจแล้ว จิตจะยอมรับความธรรมดา แล้ว มันจะไม่ไปติด


    ก็ลองทำดู
     
  3. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    อนุโมทนาครับ ทุกท่านที่ได้กล่าวไปแล้วล้วนมีประโยชน์
    ตอนที่คิดชั่ว(จมอยู่กับความคิดชั่วนั้น)เป็นบาป รู้ตัวว่าคิดชั่ว(ออกมาจากความคิดชั่วนั้น)เป็นบุญ
    ไม่สบายใจ เป็นทุกข์ ไม่มีทุกข์ สบายใจ
     
  4. titapoonyo

    titapoonyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,133
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,769
    อนุโมทนากับท่าน จขกท ด้วยครับกับการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
    ผมว่า คุณกำลังโดน กิเลสมาร เล่นงานอยู่ครับ คือพอเราทำความดีมาได้ระยะหนึ่ง กิเลสมารมันก็จะเกิดขึ้นเพื่อให้เราเกิดท้อใจในการปฏิบัติ เรื่องนี้หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยสอนไว้ว่า กิเลสมาร มันกลัวเราจะพ้นจากมันได้ มันก็พยายามทำทุกวิถีทางให้เราเลิกปฏิบัติ อย่างเรื่องการปรามาสพระรัตนตรัยก็เหมือนกัน นักปฏิบัติต้องเจอกันแทบทุกคน
    ลองศึกษาเรื่อง มาร 5 ประเภทดูนะครับ

    คุณมาถูกทางแล้วครับ ขอเพียงอย่าท้อกับการปฏิบัติ จะผ่านพ้นมันไปได้เองครับ เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ ทาเคชิ
     
  5. จิตปรุง

    จิตปรุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +802
    ขออนุโมทนากับคุณนะคะที่รู้สึกตัวได้ว่าถูกความคิดชั่วครอบงำอยู่ เท่าที่พอรู้ตามกำลังของเรา รู้ตัวบ่อยๆๆไม่ว่ากับเรื่องใดๆๆปัญญาจะเกิดขึ้นเอง เราก็เคยเป็นแบบคุณ เราก็ตามดูตามรู้สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในใจเราตลอดเวลา พอเราตามดูบ่อยๆๆ สติจะเกิด เรื่องดีไม่ดีเกิดขึ้นเราก็แค่รู้มัน ความรุ่มร้อนในใจเราก็เบาบางลงนะค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังต้องคอยดูจิตดูใจตัวเองตลอดเวลาอยู่เลยค่ะ
     
  6. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    เมื่อคิดไม่ดี แสดงว่าในขณะนั้นอกุศลเข้าครอบงำจิต ขาดสติสัมปชัญญะ
    ดังนั้นควรหาการงานชอบที่เป็นกุศลให้จิต มีสติอารักขา

    "ผู้มีปัญญา ย่อมทำจิตที่กวัดแกว่ง ดิ้นรน รักษายาก ห้ามยากให้ตรงได้ เหมือนช่างศรดัดลูกศรฉะนั้น. จิตนี้ ที่ยกขึ้นจากห้วงน้ำคือความอาลัย เพื่อจะละบ่วงมาร ย่อมดิ้นรนเหมือนปลาที่ถูกโยนไปบนบก."

    จิตนี้ฝึกได้ บังคับได้ ด้วยสติ สัมปชัญญะ เมื่อใดมีสติอยู่ท่านมีความเพียรอยู่ ละชั่ว เพียรก่อกุศล เพื่อจิตหลุดพ้นเครื่องเศร้าหมอง ....



    " ทูรํ คมํ เอกจรํ อสรีรํ คุหาสยํ เย จิตฺตํ สญฺญเมตฺสนฺติ โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา ฯ "
    " ผู้ใด จักสำรวมจิต ที่ไปไกล เที่ยวไปดวงเดียว ไม่มีรูปร่าง มีถ้ำคือกายเป็นที่อาศัย ผู้นั้น จะพ้นจากเครื่องผูกของมาร. "



    หาเครื่องอยู่อันเป็นกุศลให้จิตเช่นพุทธานุสติ เมื่อใดที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า เมื่อนั้นท่านละชั่วทางกาย ทางวาจา ทางใจ
    เมื่อท่านระลึกอยู่ เมื่อนั้นนั้นท่านทรงอยู่ในมหากุศล น้อมน้อมเคารพคุณพระพุทธเจ้า ยังกุศลพร้อมทั้งกาย วาจา ใจ .....



    เมื่อกุศลถึงพร้อมทั้งกาย วาจา ใจ ระลึกรู้คุณพระพุทธเจ้า พึ่งพระยึดพระพุทธเจ้าอยู่ที่จิต เมื่อนั้นจิตท่านทรงตัว วางอุเบกขาต่อกาย และเวทนา ย่อมยังจิตใจท่านผ่องใสพ้นจากเคื่องเศร้าหมอง .....



    "สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺสูปสมฺปทา. สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสนํ นี้คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย"



    ปล. เมื่อปฏิบัติไปเรื่อยก็จะเห็นความคิดชั่วได้ง่าย ได้เร็วขึ้น ไม่คิดคล้อยตาม ทำตามความคิดล้นออกทางกาย และออกมาทางวาจา ขุดค้นหาเหตุและดับที่เหตุได้ต่อไป ใช้กรรมบท 10 เป็นข้อควบคุมกาย วาจา ใจ ไว้เป็นข้อวัตรปฏิบัติให้ถึงซึ่งความดี ความผ่องใส
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 กรกฎาคม 2010
  7. titapoonyo

    titapoonyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,133
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,769
    เมื่อวานลืมบอกวิธีแก้ กิเลสมาร ครับ จริงๆ ต้องแล้วแต่ว่ามันมาในรูปแบบไหน อย่างของผมนี่ เล่นปรามาสพระพุทธเจ้า ไอ้เราก็งง บ้าหรือเปล่าหว่า เรารักและนับถือพระพุทธเจ้าสุดชีวิต แล้วอะไรกันเนี่ย ทำไมจิตมันคิดปรามาสท่านไปได้ จะห้ามมันก็ห้ามไม่ได้ซะด้วย ควบคุมไม่ได้ ตอนแรกก็ตกใจ ว่าเราเป็นอะไรเนี่ย ทำไมยิ่งปฏิบัติยิ่งแย่ พอได้อ่านหนังสือหลวงพ่อฤาษีก็ถึงบางอ้อเลย ท่านบอกว่ากิเลสมารพวกนี้มันเห็นว่าเราจะพ้นอำนาจมัน ก็เลยหาทางลากเราลงนรก ท่านบอกว่าให้ขอขมาพระรัตนตรัยไปเรื่อยๆ จะหายเอง ก็ทำตามที่ท่านบอก ตอนนี้ดีขึ้นมากเลยครับ ตอนนั้นก็เสียวๆ ถ้าหากผมพลาดพลั้งตายไปช่วงนั้นก็คงนู่นแหล่ะ อเวจีมหานรก

    อย่างกรณีของคุณ จขกท. คงต้องใช้อุเบกขานะครับ คือ รู้แล้วก็ปล่อยวาง จริงๆ ไอ้ที่มันเกิดกับคุณนี่เป็นเรื่องดีนะครับ เพราะอะไร ก็เพราะมันเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "แหวกหญ้าให้งูตื่น" แต่เราคือ งู นะครับ บางทีความพยายามลากเราลงนรกของมันก็เป็นการเปิดช่องโหว่ของมันเอง ลองพิจารณาดูให้ดีนะครับ ว่าอาการพวกนี้เราควบคุมมันไม่ได้ นั่นเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เรารู้ว่า ขันธ์ 5 นี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่งั้นเราก็คงสั่งให้มันหยุดได้ นี่ล่ะครับ ให้พิจารณาอย่างนี้เรื่อยๆ ตามรู้ไปเรื่อยๆ ผมว่าอีกไม่นานอาการเหล่านี้น่าจะหายไปเอง (แต่อาจมีกิเลสมารตัวใหม่เกิดได้อีกนะครับ)

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...