ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ข่าวสารจากจิตจักรวาล​

​

​

​

จากการสื่อสารรับข้อมูลจาก"จิตจักรวาล"ของอาจารย์ปริญญาที่ได้รับบอกกล่าวกันไว้ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2552 ผ่านทางรายการ "สำนึกรักแผ่นดิน" โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่องสุวรรณภูมิ เวลา 18.00 - 20.00 น. อาจารย์ปริญญาได้บอกกล่าวถึงหายนภัยทางธรรมชาติ ไว้ล่วงหน้าเป็นการเตือนให้มนุษย์คิดตระหนัก และสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้อง ดีงามกันใหม่ กระผมจึงนำมาเสนอไว้ ณ บทความนี้ คือ

ค.ศ. 2012 ( พ.ศ. 2555) กรุงเทพฯ ธนบุรีน้ำท่วมหนัก - พายุใหญ่ถล่มกรุง - คอนโดใหญ่ และตึกสูงพัง ถล่มสะพานแขวนขาด เพราะพายุ และฟ้าผ่า จะมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง

ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ไทย-พม่า-อินเดีย-ศรีลังกา จะประสบภัยร้ายแรงระดับที่ต้องเขียนแผนที่โลกกันใหม่ แผ่นดินส่วนหนึ่งจะจมหายไปในทะเล จะมีผู้ประสบภัยไร้ที่อยู่ที่กิน-เสียชีวิตรวมกัน 3.23 ล้านคน/คนไทย 1.2 แสนคน เหตุการณ์นี้จะทำให้ด้ามขวานของไทยหักจมทะเล ตรงประมาณหลัก กม.ที่ 346 จากกทม. ไปตามถนนเพชรเกษม ทำให้ทะเลเชื่อมต่อกันสองด้าน เป็นระยะห่างประมาณ 1,823 เมตร ในส่วนที่หักจมทะเลหายไป

โพสต์ข้อความโดยคุณ ประมวล รุจนเสรี วันที่ 23/8/2009

ที่มา http://www.naewna.com/news.asp?ID=175558

 

ภัยแล้งคุกคามหนักยอดใช้น้ำทะลัก!​

​

แผนรับมือล้มเหลวไม่เป็นท่า โดยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เกษตรโยนกรมชลแจงชาวนาเอง....

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางขณะนี้ว่า มีปริมาณน้ำรวมกันทั่วประเทศทั้งสิ้น 39,179 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 53% ของความจุอ่างทั้งหมด โดยเขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาตรน้ำในอ่าง 4,983 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 37% ของความจุอ่าง เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำ 3,692 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 39% ของความจุอ่าง โดยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแผนการจัดสรรน้ำทั่วประเทศที่วางแผนใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมกัน จำนวน 20,720 ล้าน ลบ.ม. ใช้ในกิจกรรมต่างๆตามลำดับดังนี้ เพื่อการอุปโภค-บริโภค 1,836 ล้าน ลบ.ม. เพื่อการรักษาระบบนิเวศและอื่นๆ 5,539 ล้าน ลบ.ม. เพื่อการเกษตรกรรม 13,176 ล้าน ลบ.ม. และเพื่อการอุตสาหกรรม 169 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันทั่วประเทศมีการใช้น้ำไปแล้ว 21,427 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 103% ของแผนจัดสรรน้ำหรือใช้เกินแผนไปแล้ว 707 ล้าน ลบ.ม.

โดยเฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาซึ่งใช้น้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์รวมกัน 6,000 ล้าน ลบ.ม. ร่วมกับการใช้น้ำจากเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จำนวน 400 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อีกจำนวน 600 ล้าน ลบ.ม. และผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองอีก 1,000 ล้าน ลบ.ม. รวมเป็นปริมาณน้ำทั้งสิ้น 8,000 ล้าน ลบ.ม.นั้น ล่าสุดมีการใช้น้ำไปแล้ว 9,893 ล้าน ลบ.ม. เกินแผนที่วางไว้ 1,893 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 124% ของแผนการจัดสรรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ทั้งนี้ กรมชลประทานยืนยันว่าการใช้น้ำในเขตพื้นที่ชลประทานมีปริมาณน้ำใช้อย่างเพียงพอและไม่ขาดแคลน แต่จะไม่มีน้ำสำหรับสนับสนุนการทำนาปรังครั้งที่ 2 อย่างแน่นอน จึงขอให้เกษตรกรที่จะทำนาปรังครั้งที่ 2 พิจารณาถึงผลกระทบที่จะได้รับตามมาด้วย พร้อมกันนี้ได้เตรียมแผนการใช้น้ำในช่วงต้นฤดูฝน ตั้งแต่เดือน มิ.ย. ถึง พ.ค. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลน

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/eco/78692

 

พ.ศ.๒๕๕๕
พญานาคจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก​

​

หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้...

พอดีผมพึ่งได้ซื้อหนังสือรวมเล่ม ประวัติ อภินิหาร และ วัตถุมงคล ของ หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล มาเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว เป็นหนังสือรวมเล่มหนาจากนิตยสาร 'ลานโพธิ์' เคยลงเอาไว้ และได้นำมารวมเล่มเป็นเล่มใหญ่ บอกตามตรงเมื่อก่อนผมไม่เคยรู้จัก หลวงปู่สรวง แต่พอดีวันนี้ไปเดินซื้อหนังสือเล่น เจอหนังสือเล่มนี้น่าสนใจดีเลยซื้อมา อ่านๆไปจึงได้รู้ว่า อภินิหาร ของท่านมากจริงๆครับและยังมีเรื่องแปลกประหลาดอีกนับไม่ถ้วนจะเล่าก็คงไม่หมด ใครอยากอ่านลองตามหาอ่านตามแผงดูครับ

และที่วันนี้มาตั้งกระทู้นี้ก็เพราะว่าผมก็อ่านหนังสือเล่มนี้ไปตามปกติแต่ยังอ่านไม่จบ วันนี้อ่านไปเจอตอนหนึ่งที่คิดว่าตรงกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันมากๆ เป็นที่น่าแปลกใจจึงจะพิมพ์จากหนังสือมาให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านกันครับ

เรื่องเล่าเกี่ยวกับภัยพิบัตินี้ เป็นคำบอกเล่าจาก พระครูจันทธรรมานุโยค (ลมัย จันทโร) เจ้าอาวาสวัดโคกตาเขียว อ.สังขละ จ.สุรินทร์ ซึ่งท่านได้เมตตาเล่าให้ทางนิตยสารลานโพธิ์ถึงเรื่องต่างๆ แต่ผมขอยกเรื่องที่ท่านเคยได้ยิน หลวงปู่สรวง พูดถึงเรื่องภัยพิบัติมาดังนี้ (ขออภัยถ้าเคยอ่านแล้ว)

ลป.สรวง พูดถึงภัยพิบัติ

มีประมาณ ปี 2541 ลป.สรวง ท่านแวะมาที่วัดของ หลวงพ่อลมัย ในช่วงเข้าพรรษา และก่อนท่านจะจากไปท่านพูดเป็นภาษาเขมรกับหลวงพ่อลมัยว่า

"พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรมจะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้"

ต่อไปนี้ พ.ศ. 2555 คนเก่งอยู่ในเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ตามแต่ มุมไหนก็แล้วแต่ พ่อ - แม่ - ญาติพี่น้อง ไม่ต้องสู้ จะตายหมด น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว มาบอกให้หยุดนะ ไม่ต้องอยากชนะกันให้ออกไป อย่ามีเวร อย่ามีกรรม

ครั้งที่สองบอกอีก เป็นภาษาเขมรว่า ให้ออกก่อน "พวกที่ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ออกไปก่อน นางนาคเป่าน้ำน้ำทะเลเต็มไปหมด" ให้มันไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ กลับเข้ามาก็ตีท่วมภูเขา มีทั้งดินมีทั้งโคลน

"พวกทำไม่ดีตายหมด" แกว่า...เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง หลวงพ่อไม่กลัว(ลป.สรวง) แล้วก็ไม่หนีด้วย หลวงพ่อนี่ในตัวสังขละ ท่านสร้างมาหลายวัดเหมือนกัน ไปอยู่ที่นั่นเขาเอาระเบิดเข้าไป สามปีมอบตัวกันหมด ที่ถนนดินแดงหลวงพ่อก็ไป

ถาม - ที่ หลวงปู่สรวง พูดหมายความว่ายังไง ?

ตอบ - แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาคเป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย

"คนดีมันเป็น ไม่ตายจะรอด"

ท่านบอกให้คอยดู แต่มาเป่านี่มันปี 2547 - 2550 ไม่ใช่สึนามินะ นางนาคสิเป่า ปี 55 แถวเราน้ำไม่มี เขาว่านางนาคเอาขึ้นข้างบน สามวันสามคืนก็เป็นลูกเห็บ ลูกที่หนึ่ง ลูกที่สอง ถูกใครตายระเนระนาด อย่าให้ถึงขนาดนั้น "คนดีไม่ตาย"

แกว่างั้นนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก ก็เรา ไม่ได้กบฎพระเจ้าอยู่หัว คนที่กบฎ คนที่อยากชนะ ผืนแผ่นดินนี้ตายแน่ จะยึดแผ่นดินเป็นหลักแค่นั้นแหละ ปีนี้นาคไม่ขึ้นที่หนองคาย นาคไม่ขึ้น

หลวงปู่สรวง ท่านละสังขารเมื่อ วันที่ 8 กันยายน 2542 (ขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีมะโรง ) สะรีระสังขารของท่านตั้งอยู่ที่ศาลา.ออยเตียนสรูล.วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล

ออยเตียนสรูล เป็นภาษาเขมรแปลวว่า ให้ทานความสุข ซึ่งความหมายของคำนี้คือหลวงปู่สรวงท่านเป็นผู้ให้ ให้แก่ลูกหลาน ลูกศิษย์ ทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตท่าน ท่านให้ได้ทุกอย่าง ทรัพย์สินเงินทองที่มีผู้ถวายท่าน ท่านไม่เคยเก็บเป็นสมบัติส่วนตัว ท่านจะให้แก่คนที่ท่านเห็นว่าเขาควรจะได้ โดยที่ไม่มีกำหนดแน่นอนว่าจะเป็นใคร และที่สำคัญท่านให้ความสุขกับ ผู้มีความทุกข ์แล้วมาหาท่าน หรือแม้แต่ผู้ที่แค่นึกถึงชื่อท่านท่านก็เผื่อแผ่พลังเมตตานั้นมาช่วยให้เขาคนนั้นคลายทุกข์ได้ถ้าไม่เนื่องด้วยความทุกข์นั้นเกิดจากกฎแห่งกรรมแล้วท่านก็จะช่วยเสมอ นี่แหละคือที่มาของฉายาท่าน

โพสต์โดยคุณ KK วันที่ 2009-05-23 21:19:55

เชื่อนะ เพราะหลวงปู่เพ็ง พุทธธัมโม เป็นพระลูกชายของหลวงปู่บัวสิริปุณโณ ท่านก็เคยพูดไว้เมื่อตอนที่ทักษิณกำลังหาเสียงเลือกตั้ง ตอนนั้นท่านมาพักที่บ้านท่านเรียกเข้ามาดูทีวี แล้วชี้ไปที่ทักษิณ ท่านบอกว่า

"มึงจำคำกูไว้นะ....(เอ่ยชื่อผู้เขียน) ไอ้แม้ว (ตอนนั้นผู้เขียนไม่ทราบว่าทักษิณชื่อเล่นว่าแม้วเลยฟังไปอย่างงๆ) เมื่อไหร่ที่ไอ้แม้วขึ้นมาครองเมืองเมื่อนั้นคนจะตายเป็นเบือ(ตายยังกับใบไม้ร่วง) และไม่ใช่เฉพาะเมืองไทยจะเป็นไปทั่วโลกเพราะว่า ฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมันมาเจอกันพอดี๊ พอดี "ท่านว่าอย่างนั้น และเมื่อทักษิณขึ้นเป็นนายกครั้งแรกก็ทราบว่าที่อเมริกาจอร์จ ดับเบิ้ลยูบุช อังกฤษก็โทนี่แบร์ ก็รู้สึกว่าบ้าอำนาจพอๆกัน

ทีนี้หลวงปู่ท่านก็พูดอีกว่า"ไอ้แม้วมันบ้าอำนาจมันจะพยายามหาคนมาแทนพระสังฆราช จ้างก็ไม่มีทาง มันช่างไม่รู้เอาเสียเลยว่าพระสังฆราชกว่าจะมาเป็นได้นั้นมาจากไหน หวังจะล้มพระเจ้าแผ่นดิน เมินเสียเถอะ กว่าจะมาได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินเขาคัดเลือกมาเพื่อคู่กันกับพระสังฆราชแล้ว"ตอนนั้นผู้เขียนก็กราบเรียนถามท่านถึงเรื่องนี้ท่านเมตตาเล่าให้ฟังจนจบไม่ขอเล่าตรงนี้มันยาวและเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย

ต่อจากนั้นท่านก็พูดอีกว่า "น้ำจะท่วมเมืองทั่วโลก เพราะเขาเริ่มคัดคนมันเป็นทีของพวกนาคแล้ว ทีใครทีมัน เมื่อก่อนหากมีเรื่องใครตายใครเป็นใครเจ็บจะมีลมพัดมาเรียกว่าลมส่า (ภาษาอีกสานเรียกว่าส่า ภาษาไทยคือ หมายถึงลมกระพือข่าว) คือเทวดาเขาส่งข่าวและถ้าดีเทวดาก็จะดูแลรักษาแต่ไม่ดีก็ไม่รักษา แต่คนปัจจุบันนี้หาดียากมากและไม่ค่อยสนเทวดา มันว่ามันเก่งกว่าเทวดา เทวดาเเลยไม่สนคนเหมือนกัน เรื่องของมึงเรื่องของกู ทีนี้คนก็เป็นเหมือน "คน" จริงๆ คนกันอยู่นั่นะแหละ คนเท่าไหร่ก็ไม่ทั่วมีแต่เรื่องราวให้ตีแตกแยกแยะกัน พวกมึงเร่งทำบุญภาวนาเข้าพวกมึงจึงจะรอด"

"ต้องทำยังไงบ้างหลวงปู่"

"มันจะยากอะไรก็ให้รักษาศีล ข้อไหนที่มันขาดก็เอาใหม่เริ่มต้นเสียแต่เดี๋ยวนี้ ข้อไหนพร่องหย่อนยานไปก็ให้ดึงให้มันตึงเข้าไว้ ในที่สุดมันก็จะเข้าใจและรักษาได้สบายๆ แล้วก็ทำบุญไปอย่าไปขัดบุญใคร บุญเราก็เร่งทำของเราไป ภาวนาไปด้วย"

"ภาวนาอย่างไรบ้างปู่ อยากได้แบบลัดๆ"

"คนสมัยนี้ความดีมันไม่ค่อยอยากทำ แต่พออยากได้มันก็อยากได้ลัดๆเลย"

"ก็มันไม่มีเวลาแล้วพอได้ไหมปู่"

"มึงพอไหว เริ่มเข้าเดี๋ยวนี้ชำระสิ่งชั่วจากใจเดี๋ยวนี้เลยนะ รู้ไหมว่า จะมีน้ำท่วมใหญ่เขาคัดคน เขาบอกว่าโลกจะแตกนั้นมันไม่ใช่แตกดังโป๊ะเหมือนลูกโป่งนะ มันค่อยๆแตกทีละน้อย ๆ คือเลือกคนนั้นแหละ"

"คนที่ทำบุญจะรอดไหมปู่"

"รอด คนมีศีลมีธรรมเท่านั้นจึงจะรอด พยายามกันเข้า มันจะแย่ไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ไอ้แม้วขึ้นครองเมือง การสู้รบตบมือมากมายและมันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ให้ดูไว้นะ ข้าวจะยากหมากจะแพง....จนถึงปี 2555 วิกฤตสุด"

ตอนนั้นผู้เขียนไม่อยากจะเชื่อ จนกระทั่งมีช่วงหนึ่งอาหารการกินขึ้นหมด ท่านพยากรณ์เอาไว้ก่อนท่านมรณภาพ 2 ปี หลังจากนั้นก็เป็นตามที่ท่านพูดทุกอย่าง และตอนนั้นท่านพูดถึงการบาดเจ็บของหลวงพ่อคูณด้วย และก็เป็นจริงว่าหลวงปู่จะถูกรถชน (รถชนกันหลวงพ่อคูณอยู่ในรถตู้) ก็รถชนกันจริงๆ ซึ่งถือว่าท่านมีญาณอนาคตบอกลูกหลาน

อีกครั้งหนึ่งเคยไปกราบหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรมท่านบอกกับผู้เขียนว่า นำจะท่วมใหญ่ให้รีบทำบุญเสีย

"เมื่อน้ำท่วมจะมีกองถั่วอยู่ 4 กอง

"กองที่ 1 จะไหลไปกับน้ำอย่างรวดเร็วหายไปเลย กองที่ 2 จะไหลไปกับน้ำบางเมล็ดก็จะสามารถเกาะเกี่ยวอยู่ได้รอดจากน้ำแต่ก็ร่อแร่เต็มที กองที่ 3 จะกระทบเพียงเล็กน้อยเพราะสงสารกองที่ 2 เลยต้องอาสา กองที่ 4 ไม่กระทบกระเทือนใดๆเลย"

"หลวงปู่กำลังหมายถึงว่ากองถั่วนั้นคือคนใช่ไหม"

"ใช่ "

"กองที่ 1 ไปทั้งคนทั้งบ้าน ทั้งรถ ทุกอย่างจมหายไปเลย"

"กองที่ 2 ไปบ้างก็รอดบ้างหรือคะ"

"ใช่ กองที่ 3 คือคนที่ปฏฺบัติธรรมมีศีลธรรม กระทบเพียงเพื่อส่งสาร ขอช่วยเหลือเขาส่งข้าวส่งน้ำเท่านั้น"

"ถ้าอย่างนั้นกองที่ 4 ก็คือพระอริยเจ้าหรือเจ้าคะ"

"ถุกต้อง ไม่กระทบเลยแม้แต่ใจก็ไม่กระทบ"

ท่านว่าอย่างนั้น และเมื่อก่อนจะเกิดสึนามิ ท่านก็ยังบอกด้วยว่าเมื่อมารวมตัวเลย ในการเคยสร้างความชั่วเอาไว้ก็จะเกิดขึ้นด้วยการรับกรรมร่วมกันอีกต่อไป"
ท่านบอกต่อไปว่า ให้ท่อง วิรูปักเขเอาไว้มากๆ มันเป็นทีของพวกสัตว์มีเขี้ยวทั้งหลาย งู ตะขาบ แมงป่อง ฯลฯ"ท่านว่าอย่างนั้น

มีอีกมากมายหลายองค์ที่ท่านพูดเอาไว้ ล่วนใหญ่เป็นพระอริยะทั้งสิ้น จึงเชื่อเพราะเห็นมากับตาแล้วมากมาย

โพสต์โดยคุณ ผู้เชื่อเรื่องเวรกรรม 2010-02-16 19:19:40

ที่มาhttp://www.maneemusic.com

 

มีการเปรียบว่าเหมือนทั้งสองอัน
นากรีส และ แคทรินาที่นิวออลีน
สภาพเมือง กทม. น่าจะเหมือนนิวออลีน

 

ภัยธรรมชาติน่ากลัวขึ้นทุกวัน

 

“ครูบาหนุ่ม-แม่ชีมโนรา” ฟันธง 5 วันจบสงครามกลางเมือง<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--zone = "15";url = "http://ads.palungjit.org";//--></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://ads.palungjit.org/show.js"></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript src="http://ads.palungjit.org/show.php?z=15&w=0&pl=0&ad_type=0&shape=0&c_border=0&c_background=0&c_text1=0&c_text2=0&c_text3=0&c_text4=0&c_text5=0&c_text6=0&c_text7=0&c_text8=0&c_text9=0&c_text10=0&code=1272119330765"></SCRIPT>
“ครูบาหนุ่ม-แม่ชีมโนรา” ฟันธง 5 วันจบสงครามกลางเมือง - ชี้ดวง “มาร์ค” ยังแรงประคองรัฐอยู่ครบวาระ <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=246><TBODY><TR><TD vAlign=top width=246 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ครูบาหนุ่ม ยิ่งยืน เกจิชื่อดังจากวัดบนดอย อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>นครราชสีมา - “ครูบาหนุ่ม” เกจิชื่อดังจากวัดบนดอยแม่สะเรียง - “แม่ชีมโนรา” ฟันธง 5 วันสงครามกลางเมืองจบแน่ ชี้ ไม่มีการสู้รบครั้งใดไม่เสียเลือดเนื้อและชีวิต แต่สิ้นเมษายนทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ ระบุ “ดวงอภิสิทธิ์” ยังแรงประคองรัฐอยู่ครบวาระ ไม่มียุบสภา เลือกตั้งใหม่แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผู้ทรยศต่อแผ่นดินจะถูกบาปกรรมกัดกินจนวาระสุดท้าย

แม่ชีมโนรา เขตภูเขียว จากสำนักปฏิบัติธรรมแม่ชีมโนรา ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ว่า ตนไม่ใช่หมอดู และไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะลูกศิษย์ก็มีอยู่ทุกภาคในประเทศ แต่ตนพูดตามภาพที่ได้เห็น

“จึง กล้าฟันธงว่าภายใน 5 วันนี้รัฐบาลจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อสลายการชุมนุมและจะทำสำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีการสู้รบครั้งใดจะไม่เสียเลือดเนื้อและชีวิต โดยในครั้งนี้ก็จะมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนไม่น้อยและเป็นคนทุกระดับ ซึ่งทุกคนก็ถึงคราวสิ้นอายุขัยของตัวเอง การเสียสิ่งหนึ่งเพื่อรักษาส่วนใหญ่ไว้เป็นสิ่งที่ผู้นำก็ต้องตัดสินใจ จึงขอให้ทุกคนตั้งสติ คิดดี ทำดี และทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ และจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป”

แม่ชีมโนรา กล่าวว่า ขณะนี้ดวงเมืองยังดีอยู่เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ยังมีบารมีเต็มเปี่ยมไม่มีใครทำอะไรได้ แม้จะสะบักสะบอมบ้างแต่ก็เป็นกรรมเฉพาะตัวและก็จะผ่านพ้นไปได้ เพราะท่านเป็นคนจิตนิ่ง จิตมั่น จิตเดียว ที่จะนำพาประเทศชาติให้อยู่รอด นอกจากนี้ด้วยบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรมจะเป็นเกราะคุ้มภัยให้ประเทศกลับมาสู่ความร่ม เย็นอีกครั้ง

“คน ที่เป็นผู้นำต้องมีความอดทน อดกลั้น เมื่อถึงคราวคับขัน สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย แต่ถ้าสู้ก็ยังมีทางรอด ขณะนี้รัฐบาลก็ตกอยู่ในสภาพนั้น แต่จะผ่านไปได้ อย่างไรก็ตาม คนที่มีดวงเป็นกาลกิณีต่อบ้านเมือง ขายชาติขายแผ่นดินก็มีไม่น้อย ซึ่งเขาก็ จะได้รับผลกรรมของเขาไปเอง บาปกรรมจะกัดกินเขาไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต แม่ชีได้เคยพูดไว้แล้วว่าคนพวกนี้ตายไปจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เพราะแผ่นดินนี้บูรพกษัตริย์ไทยทุก ๆ พระองค์ เหล่าทหารกล้าได้สละเลือดและชีวิตรักษาไว้นับร้อยนับพันปีมาแล้ว” แม่ชีมโนรา กล่าว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300><TBODY><TR><TD vAlign=top width=300 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แม่ชีมโนรา เขตภูเขียว จากสำนักปฏิบัติธรรมแม่ชีมโนรา ต.หนองสาหร่าย อ.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>แม่ชีมโนรา ให้ธรรมะด้วยว่า ผู้นำที่ดีควรเอาชนะมาร 5 คือ 1.ขันธมาร คือ เนื้อหนังเอ็นกระดูก เราเพียงแค่ยืมมารมาใช้เท่านั้น 2.กิเลสมาร คือ ความโลภ โกรธ หลงเข้าครอบงำ การยุแยงให้เกิดความแตกแยก ก็ถือเป็นกิเลสมารอย่างหนึ่ง 3.อภิสังขารมาร คือ การปรุงแต่งต่างๆ นานา โดยขาดสติจะนำมาซึ่งความเดือดร้อน

4.เทวบุตรมาร คือ สิ่งที่มาทดสอบเราว่าเราจะผ่านไปได้หรือไม่ มีเรื่องเล่าตั้งแต่พุทธกาลสมัยพระพุทธเจ้าในภพของพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญภาวนา พลันพระอินทร์ได้แปลงกายเป็นนกใหญ่ไล่ฆ่านกเล็ก และนกเล็กได้บินมาซุกจีวรของพระองค์ นกใหญ่จึงมาขอนำนกเล็กไปทำลายแต่พระโพธิสัตว์ขอบิณฑบาตรไว้ นกใหญ่ไม่ยอม และบอกว่าเนื้อต้องแลกด้วยเนื้อ พระโพธิสัตว์ท่านก็ได้เฉือนเนื้อของตัวเองจนกว่านกใหญ่จะพอใจเพื่อแลกชีวิต ของนกเล็ก เปรียบได้กับสถานการณ์บ้านเมือง ณ ขณะนี้การจะผ่านการทดสอบหรือผ่านพ้นวิกฤติไปได้ บางครั้งก็ต้องเสียสละเลือดเนื้อบ้าง และมารตัวสุดท้ายคือ มัจจุมาร อันหมายถึงความตายซึ่งทุกคนหนีไม่พ้น แต่คนเราจะเลือกตายแบบไหน ตายเพื่อแผ่นดิน หรือจะตายเพื่อคนขายแผ่นดิน

นอกจากนี้ แม่ชีมโนรา ยังระบุด้วยว่า แม้จะมีการเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา แต่สิ่งที่ตนเห็นก็คือมีคนจำนวนมากกว่าที่ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น ซึ่งเป็นเหมือนเกราะให้นายอภิสิทธิ์ได้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนครบวาระ ไม่มีการยุบสภา ลาออก หรือเลือกตั้งใหม่ล้านเปอร์เซ็นต์ แต่จะมีแก้ข้อกฎหมายในบางข้อเพื่อให้บ้านเมืองเดินได้ นายกรัฐมนตรีในขณะนี้เปรียบเสมือนต้นไม้ที่แม้จะต้องลมพายุบ้าง ใบร่วงหล่นไปบ้าง แต่ลำต้นยังสามารถตั้งตรงอยู่ได้ ตนไม่เคยพบนายอภิสิทธิ์เขาไม่เคยให้เงินให้ทองหรือมีส่วนอุปถัมภ์ตนใดๆ ทั้งสิ้น จึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่ตนจะเข้าข้างหรืออคติต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่พูดจากสิ่งที่ได้เห็นและสัมผัสได้เท่านั้น

ด้านครูบาหนุ่ม ยิ่งยืน เกจิชื่อดังจากวัดบนดอย อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า บ้าน เมืองจะพ้นวิกฤตได้แน่นอนภายในเดือนเมษายนนี้ แต่ต้องมีเสียเลือดเสียเนื้อและชีวิต จึงขอให้ทุกคนตั้งมั่นอยู่กับการทำความดีรักชาติรักแผ่นดิน ผู้ใดเป็นกบฏต่อแผ่นดินเกิด ก็จะต้องสังเวยชีวิตไปตามกรรม</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เสื้อหลากสีจี้แดง คืนความสงบให้ กทม.​

​

มารวมตัวที่สวนจตุจักร แจงคนเสื้อแดงทำความเดือดร้อนให้คนกรุงเทพฯมากเกินไป พร้อมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี แนะให้รีบจัดการ อย่าปล่อยให้ตำรวจ-ทหารเกียร์ว่าง ประกาศ 25 เม.ย. จะไปรวมตัวที่วัดพระแก้ว...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (24 เม.ย.) บริเวณหอนาฬิกา สวนจตุจักร กลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติ และกลุ่มเฟซบุ๊คค้านยุบสภา หรือกลุ่มคนเสื้อหลากสี นำโดยนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ยังคงปักหลักชุมนุมกันตามปกติ โดยพื้นที่รอบสวนจตุจักร มีการเสริมกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือ และตำรวจชุดปราบจลาจล บก.น.2 คอยดูแลความปลอดภัย ขณะเดียวกันมีกำลังทหารส่วนหนึ่งคอยเดินตรวจตราภายในพื้นที่ชุมนุมเพื่อป้องกันเหตุร้าย โดยบรรดาแกนนำต่างขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้องให้คนเสื้อแดงคืนความสงบสุขให้คนกรุงเทพฯ และให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ส่วนวันที่ 25 เม.ย.นี้ เวลา 07.00 น. จะมีการรวมตัวกันที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เพื่อสวดมนต์ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รวมทั้งอุทิศส่วนกุศลให้ทหารและประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. และวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นช่วงเวลา 16.00-18.00 น. จะรวมตัวชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ด้าน นพ.ตุลย์ แกนนำกลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติ และกลุ่มเฟซบุ๊คค้านยุบสภา กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ภายใต้เงื่อนไขเวลาที่กำหนด เพราะขณะนี้ทำความเดือดร้อนให้คนกรุงเทพฯมากเกินไปแล้ว เพราะฉะนั้นต้องคืนความสงบสุขให้คนกรุงเทพฯทันที ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดงใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่รัฐบาลต้องทำก็คือเจรจากับทหารและตำรวจ ให้รีบจัดการกับกลุ่มคนเสื้อแดงโดยเร็วที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เกียร์ว่างกันเหมือนเช่นทุกวันนี้

นอกจากนี้ นพ.ตุลย์ กล่าวด้วยว่า จากกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวหาว่า ขึ้นไปบนตึก สก.ช่วงกลางคืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ขอปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยขึ้นไปบนตึกดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา เพียงแต่ช่วงเวลาดังกล่าว ตนไปเพื่อดูแลคนไข้ที่รพ.จุฬาฯ ตึกคนไข้ตึกอื่น ไม่เกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้อยากให้จับตาเสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ที่มีคนเห็นว่าวันที่มีการยิงเอ็ม 79 ใส่คนสีลม จนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ไปป้วนเปี้ยนแถวตึกดังกล่าว


ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ.2553

เชียงรายบ้านพัง 200 หลังจากฤทธิ์พายุฤดูร้อน​

​

พายุฤดูร้อนเล่นงาน 5 หมู่บ้าน ใน ต.เจริญเมือง อ.พาน จ.เชียงราย ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก บ้านพังกว่า 200 หลัง เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือเต็มที่...

เมื่อเวลา 09.00 น. 24 เม.ย. ร.ต.ต.มนู สายลังกา นายกอบต.เจริญเมือง อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.เจริญเมือง เข้าสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านป่าบง บ้านป่ายาง บ้านดงตะเคียน บ้านฐานตะเคียนทอง และบ้านป่าปี้ ต.เจริญเมือง รวมทั้งสิ้น 5 หมู่บ้าน หลังจากกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนพัดถล่มในพื้นที่อย่างรุนแรง เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายประมาณ 200 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านทุกหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากแรงลมที่พัดอย่างรุนแรง พัดเอาหลังคาบ้านปลิวไปกับกระแสลมทั้งหลัง โดยบางหลังปลิวไปจากตัวบ้านไกลกว่า 100 เมตร ทำให้ข้าวของภายในบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกลงด้วย

ด้านร.ต.ต.มนู กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า ที่บ้านของนายวีระพันธ์ ลำพงษ์เหนือ อดีตนายกอบต.เจริญเมือง ที่บ้านป่าบง ได้รับความเสียหายหนัก เพราะหลังคาบ้านปลิวไปกระแทกกับโรงสีข้าวขนาดเล็ก จนโรงสีข้าวพังทั้งหลัง เครื่องจักรได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนการช่วยเหลือนั้น ทางอบต.เจริญเมืองได้เร่งทำการรวบรวมจำนวนบ้านเรือนที่เสียหาย แจ้งให้กับนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผวจ.จเชียงราย เพื่อขอเงิบประมาณฉุกเฉินในการช่วยเหลือ เพราะมีความเสียหายมาก เบื้องต้นมีบ้านเรือนเสียหายประมาณ 200 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่จะเป็นกระเบื้องกับหลังคาบ้านที่ถูกแรงลมยกปลิวพังเสียหายทั้งหมด

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ.2553

พายุฤดูร้อนถล่มสระแก้วบ้านพัง 40 หลัง​

​

พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านทับพริก ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เสียหายกว่า 40 หลัง เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบ และเร่งช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน...

เมื่อเวลา 09.30 น. 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งชาวบ้านทับพริก หมู่ 2 ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ว่า ได้เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดพาเอาสังกะสีหลังคาบ้านเรือนประชาชนกว่า 40 หลังคาเรือนปลิวไปกับสายลม และสังกะสีที่หลุดออกไปจากตัวบ้านยังตัดเอาต้นกล้วยได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่บ้านทับพริก พบนายสมบุญ มูลรส ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทับพริก พร้อมเจ้าหน้าที่อบต.ทับพริก กำลังออกสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน เนื่องจากบ้านบางหลังพังเสียหายทั้งหมด ซึ่งจากการสำรวจพบว่า มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายกว่า 40 หลังคาเรือน และได้รับความเสียหายหนักประมาณ 3 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังพบว่าบางแห่งต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนชาวบ้านเสียหาย และยังทับถนนทางเข้าหมู่บ้านด้วย ในขณะที่สังกะสีที่มุ่งหลังคาบ้านปลิวตกไปทั่วบริเวณ โดยเบื้องต้น ทางอบต.ทับพริก ได้รายงานให้ทางอำเภอและจังหวัดทราบ เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน

ด้านนางสุวิมล โคกสำโรง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 2 ต.ทับพริก กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ เวลา 19.00 น. ได้เกิดฝนตกหนักและมีลมพัดแรงมากประมาณ 5-6 นาที และหลังจากสงบลง พบว่ามีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายสังกะสีเปิดออกจำนวน 1 หลังคาเรือน ซึ่งพบเป็นครั้งแรก น่ากลัวมาก หลังเหตุการณ์สงบลง ได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านให้เร่งออกสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านเร่งด่วน

ขณะที่นายวัน ใจทองดี อายุ 51ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 2 บ้านทับพริก กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ตนกำลังเตรียมจัดเก็บข้าวของ จู่ๆ เกิดลมพัดขึ้นและมีฝนตกลงมา ซึ่งใช้เวลาไม่นาน ทั้งบ้านที่อยู่อาศัยโดนพัดเสียหายเกือบหมด ผู้คนต่างวิ่งหาที่หลบเพื่อความปลอดภัย หลังเหตุการณ์สงบลงพบว่าบ้านถูกพัดเสียหายและมีบ้านเรือนของชาวบ้านอีกหลายหลังในหมู่บ้านทับพริก ถูกพายุพัดพังเสียหายเช่นกัน น่ากลัวมาก เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วและผ่านไปเร็วแต่ทิ้งความเสียหายเป็นอย่างมาก ขณะนี้ทางผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่อบต.ทับพริก ได้เข้าสอบถามและสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือแล้วดังกล่าว

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

​

"หยุดหนึ่งชั่วโมงให้กับประเทศไทย" 25 เม.ย. 2553​

เพื่อนๆ รวมพลังบริสุทธิ์เพื่อประเทศชาติอีกสักครั้งแค่ 1 ชั่วโมง ร่วมสวดพาหุงมหากา ตามรายละเอียดด้านล่าง ไปที่วัดพระแก้วไม่ได้ก็ร่วมสวดที่บ้านได้เปิดทีวีมี ถ่ายทอดสด ช่อง 11 มีพระท่านสวดนำ อย่าลืมเตรียมธูป 9 ดอก และเทียนขาว 1 คู่

การที่จะเข้าไปทำพิธีในพระวัดพระแก้วซึ่งเป็นเขตพระมหาราชวังได้ ต้องขออนุญาตจากสำนักพระราชวัง ดังนั้นการสวดครั้งนี้มีความหมายต่อประเทศชาติมาก เป็นพระเพณีโบราณ ไม่ได้ทำกันเล่นๆ โปรดสร้างศรัทธาให้เกิดพลังที่ได้จะมีพลังสูง

"พาหุงมหากาฯ" บทสวดที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าทรงสวดก่อนทำศึกสงคราม ซึ่งเป็นบทสวดมนต์ที่มีค่ามากที่สุด มีผลดีที่สุด เพราะเป็นชัยชนะอย่างสูงสุดของพระบรมศาสดา จากพญาวัสดีมาร จากอาฬาวกะยักษ์ จากช้างนาฬาคีรี จากองคุลิมาล จากนางจิญมานวิกา จากสัจจะกะนิครนธ์ จากพญานันโทปนันทนาคราช และท่านท้าวผกาพรหม เป็นชัยชนะที่พระพุทธองค์ ทรงได้มา ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ และด้วยอำนาจแห่งบารมีธรรมโดยแท้ ผู้ใดได้สวดไว้เป็นประจำทุกวัน จะมีชัยชนะ มีความเจริญรุ่งเรือง ตลอดกาลนาน มีสติระลึกได้จะตายก็ไปสู่สุคติภูมิ ขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วยนะ ว่าให้สวดพาหุงมหากากันให้ถ้วนหน้า นอกจากจะคุ้มตัวแล้วยังคุ้มครอบครัวได้ สวดมาก ๆ เข้า สวดกันทั้งประเทศ ก็ทำให้ประเทศมีแต่ความรุ่งเรือง พวกคนพาลสันดานหยาบก็แพ้ภัยไปอย่างถ้วนหน้า

ไม่เพียงแต่พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเท่านั้น ที่พบความมหัศจรรย์ของพบพาหุงมหากา แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ทรงพบเช่นกัน โดยมีบันทึกโบราณบอกไว้ดังนี้ "เมื่อ พระเจ้าตากสินมหาราชตีเมืองจันทบุรีได้แล้วก็ทรงเล็งเห็นว่า สงครามกู้ชาติต่อจากนี้ไป จะต้องหนักหนาและยืดยาว จึงทรงโปรดเกล้าให้สร้างพระยอดธงแบบศรีอยุธยาขึ้น แล้วนิมนต์พระเถระทั้งหลาย มาสวดบทพาหุงมหากาบรรจุไว้ในองค์พระ และพระองค์ก็ทรงเจริญรอยตาม พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ด้วยการเจริญพาหุงมหากา จึงบันดาลให้ทรงกู้ชาติสำเร็จ" อ้างอิงจากเว็บ http://www.jarun.org/v6/th/dhamma-pray.html#9

ขอเชิญชาวไทยพร้อมใจกัน

"หยุดหนึ่งชั่วโมงให้กับประเทศไทย"

เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ขจัดภัยพิบัติด้วยอำนาจธรรม

ร่วมสวดพาหุงมหากา (ชนะมาร) ๙ จบ พร้อมกันทั่วประเทศ
เพื่อความชนะมารของแผ่นดินไทย เพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์
และสืบทอดพระพุทธศาสนา

วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๓
เวลา ๐๗.๐๐-๐๙.๐๐ น.
ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

โปรดเตรียม ธูป ๙ ดอก และ เทียนขาว ๑ คู่ พร้อมกันในพระอุโบสถ เวลา ๐๗.๐๐ น.

มีการถ่ายทอดสดทาง สถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑
(ท่านที่ไม่สามารถไปร่วมในพิธีได้ โปรดสวดมนต์หน้าจอทีวี พร้อมกันทั่วประเทศ)

หมายเหตุ
การแต่งกายชุดสุภาพ : สีขาว หรือ เสื้อขาว
สุภาพสตรี ควรสวมกระโปรงยาว หรือ ผ้าถุง
งดเว้นการสวมใส่กางเกง หรือ กระโปรงสั้น เพราะเป็นเขตพระราชฐาน

ท่านที่นับถือศาสนาอื่น ก็ให้สงบจิตใจ แต่ทราบมาว่าที่โบสถ์คริสต์ก็มีการสวดเหมือนกันนะคะ

โพสต์โดยคุณ Jhantip April 19 at 4:54 am

ที่มา http://www.facebook.com/topic.php?uid=113378595341758&topic=177

 

ข้อความของบาทหลวงนี้ดี
สิ่งที่เราทำจะส่งผลกระทบไปถึงผู้อื่น
ความเมตตาปรานี นำสันติสุขไปสู่คนทั้งหลาย ขณะที่ความเห็นแก่ตัว ก่อให้เกิดความทุกข์ยากและความปวดร้าว

บาปทำให้เสียคน

ความบาปเป็นเหมือนกับรอยเปื้อนไม่น่าดูบนกระดาษที่สะอาด
ทั้งความเห็นแก่ตัว ความเกียจคร้าน ความสะเพร่า การพุดมุสา และลามก มิใช่จะค่อย ๆ ทำลายอุปนิสัยของเราเท่านั้น แต่จะส่งพิษร้ายไปถึงบุคคลอื่นด้วย
หลายครั้งเราไม่สำนึกจริง ๆ ว่าสิ่งที่เราพูดมีผลต่อคนอื่นมากแค่ไหน

บาปลุกลามไป

ความบาปคล้ายกับวัชพืชในเรือกสวน ถ้าหากไม่ถอนรากถอนโคนออก มันก็จะลุกลามไปทั่วทั้งสวน
การประพฤติไม่ซื่อสัตย์เล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถลุกลามไปถึงท่าทีและอุปนิสัยต่าง ๆ จนไม่สามารถแก้ไขได้
เราเกือบนึกไม่ถึงว่าการติดยาเสพติดครั้งแรกจะนำไปสู่การจองจำที่ดิ้นไม่หลุด
ถ้อยคำหยาบคายที่ไม่มีการขอโทษและการให้อภัยตามมา สามารถทำให้ความสัมพันธ์ร้าวฉานและตึงเครียด

บาปก่อให้เกิดความแตกแยก

ผลร้ายที่สุดคือบาปแยกเราขาดจากพระเจ้า
บาปคล้ายก้อนเมฆหนาทึบบดบังเราไว้จากดวงอาทิตย์ นี่คือสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าพระเจ้าอยู่ห่างจากเราออกไปหลายพันไมล์
แท้จริงพระองคืทรงอยู่ใกล้ ล้อมรอบตัวเรา แต่บาปเป็นเหมือนกำแพงมหึมาที่กั้นเราไว้จากพระเจ้า
ดูรถยนต์คันนั้นซิ เครื่องดีพร้อม น้ำมันเต็มเพียบ แต่สตาร์ทไม่ติด ทำไมเล่า ? ... ก็หัวเทียนมันสกปรกน่ะซิ
ความบาปคล้ายกับรอยเปื้อนนี้ที่แยกเรากับพระเจ้า
พระองค์ทรงกอปรด้วยความบริสุทธิ์หมดจด ทรงเกลียดชังความผิดบาป แต่ทรงรักเรา
บาปของเรา กันเราไม่ให้ไปถึงพระองค์
พระเจ้าปรารถนาจะเปิดเผยพระองค์เองให้เรารู้จัก แต่บาปขวางทางอยู่

เขียนโดย นอร์แมน วอร์เร็น
แปลโดย กนกบรรณสาร
จากหนังสือ ชีวิตฉงน ​

 

"หยุดหนึ่งชั่วโมงให้กับประเทศไทย" 25 เม.ย. 2553

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เกษม

ร่วมสวดพาหุงมหากา (ชนะมาร) ๙ จบ พร้อมกันทั่วประเทศ
เพื่อความชนะมารของแผ่นดินไทย เพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์
และสืบทอดพระพุทธศาสนา

วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๓
เวลา ๐๗.๐๐-๐๙.๐๐ น.
ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

โปรดเตรียม ธูป ๙ ดอก และ เทียนขาว ๑ คู่ พร้อมกันในพระอุโบสถ เวลา ๐๗.๐๐ น.

มีการถ่ายทอดสดทาง สถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑
(ท่านที่ไม่สามารถไปร่วมในพิธีได้ โปรดสวดมนต์หน้าจอทีวี พร้อมกันทั่วประเทศ)
---------------------------------------------------------

อนุโมทนาสาธุครับ

 

โหรดังทำนาย จะมีปฏิวัติเดือน ก.ย.-ต.ค.53


ภาพ/ข่าวจาก นสพ.ไทยรัฐ -ศูนย์ข่าว surinnews.com​

ฝันสลายโหรดังทำนายอิทธิพลดวงดาวเล็งกัน 3 ดวงพา "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ฝันสลายนั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. จากนั้นจะมีการปฏิวัติ..

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นายเก่งกาจ จงใจพระ โหรการเมือง ออกมาเตือนผ่าน ไทยรัฐออนไลน์ ว่า จะเกิดการปฏิวัติและความรุนแรงภายในเดือน ก.ย.-ต.ค. โดยดวงดาวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) จะไม่ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.

"ถามว่าตำแหน่งรองเคยขึ้นเป็นผบ.ทบ.บ่อยไหม ตำแหน่งเขาเป็นเสธ. แล้วทำไมไปย้ายเขา มันแสดงว่า ตามดวงดาวบอกว่าเขาตั้งใจจะเอาตำแหน่ง เสธ. มาเสียบ ผมมองแบบนั้น ผมดูตามเกณฑ์ดวงดาวในช่วง ก.ย.-ต.ค.53" นายเก่งกาจ ยังบอกว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็น ผบ.ทบ. จะนำไปสู่การปฏิวัติ

" แต่หลังจากนั้นสิที่น่ากลัว เพราะมันจะมีการก่อวินาศกรรม และก็มีเหตุการณ์ระเบิดตูมๆ โผล่ไปทั่ว รวมถึง กทม. เพราะว่าจากหลังวันสงกรานต์ดวงดาวมันจะเสีย คือ อังคารจะเข้าราศีกันต์ รวมกับดาวเสาร์ เล็งดาวมฤตยู ดาวอังคารคือดาวสงคราม ระเบิด คือ มันเป็นตำแหน่งมหาจักษ์ เล็งกับดาวมฤตยู หรือดาวสงคราม ดาวแห่งการเปลี่ยนแปลง ดาวพวกมันเล็งกัน 3 ดวง ดาวเสาร์ ดาวอังคาร ดาวมฤตยู จะมารุมดาวเมือง คือดาวพฤหัส ในราศีมีน ซึ่งเป็นภพวินาศกับดวงเมือง แต่อย่าเอาไปเขียนมากเพราะว่าคนบอกว่าผมพูดจาน่ากลัว"

โหรการเมือง ชื่อดังยังแสดงความมั่นใจกับคำทำนายในครั้งนี้ด้วย โดยระบุว่าในชีวิตการเป็นโหรการเมืองของตนมากว่า 30 ปี คำทำนายทุกๆ สิ่งที่พูดออกไปสามารถเชื่อถือได้ 70-80%

"หลายคนถามผมว่าทายผิดจะ เอาอะไรเป็นประกัน ผมบอกตรงนี้เลยว่า จนถึงวันนี้ถ้าผมทำนายอะไรผิดมากกว่า 50% ผมเลิกเป็นหมอดูไปเลี้ยงหลาน ไปหาอะไรทำดีกว่า แต่วันนี้ทุกๆ คนยังให้ความเชื่อถือแสดงว่าคำทำนายของผมยังแม่นยำ"

ที่มา http://www.payakorn.com/webboard_ans.php?q_id=31551

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ธรณีพิโรธเขย่าชิลี 6.1 ริคเตอร์ ไม่มีเจ็บตาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>แผ่นดินไหว 6.1 ริคเตอร์ ทางภาคกลางของชิลี ใกล้กับเมืองคอนเซปซิยอน พื้นที่แผ่นดินไหว 8.8 ริคเตอร์ เมื่อก.พ.ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 500

คน แต่เหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ...

สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว วัดระดับความรุนแรงได้ 6.1 ริคเตอร์ ทางภาคกลางของประเทศชิลี ใกล้กับเมืองคอนเซปซิยอน พื้นที่แผ่นดินไหว 8.8 ริคเตอร์ เมื่อ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 500 คน และสร้างความเสียหายราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( ราว 966,749 ล้านบาท)

ด้านสำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า แผ่นดินไหวดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.03 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ห่างจากเมืองคอนเซปซิยอน ไปทางใต้ราว 41 ไมล์ ( ประมาณ 66 กิโลเมตร) แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายของอาคารบ้านเรือน ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้เสียชีวิต

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>วอดแล้ว 2 พันไร่ไฟไหม้ป่าพรุนราฯ ยังดับไม่ได้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>

ล่วงเข้าสู่วันที่ 3 ไฟไหม้ป่าพรุ กินพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.นราธิวาสยังดับไม่ได้ เผาป่าเสม็ด สวนผลไม้และสวนยางชาวบ้านกว่า 2 พันไร่...


วันที่ 23 เม.ย. 2553 จากเหตุไฟไหม้ป่าในพื้นที่ 7 หมู่บ้าน กินพื้นที่ อ.เมือง อ.ตากใบ อ.ยี่งอ และ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ล่าสุด ล่วงเลยเข้าสู่วันที่ 3 พบว่า ป่าเสม็ด สวนผลไม้ และ สวนยางพาราของประชาชนได้รับความเสียหายไปแล้วมากกว่า 2,000 ไร่ โดยเฉพาะพื้นที่บ้านตะโล๊ะมีญอ อ.ยี่งอและบริเวณหลังที่ทำการ อบต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ถือเป็นจุดที่เกิดไฟไหม้รุนแรง


ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย หน่วยดับไฟป่าและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องต่างระดมกำลังเข้าดับไฟ แต่สามารถควบคุมไฟได้ประมาณ 50-60% เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่ป่าพรุยังคงมีไฟคุกรุ่นอยู่ชั้นใต้ผิวดิน และจะเกิดไฟปะทุขึ้นเมื่อมีลมพัด นอกจากนั้น ยังพบต้นเพลิงเพิ่มขึ้นทุกวัน เฉลี่ยวันละ 4-5 จุด โดยเฉพาะบริเวณแนวป่าพรุนิคมสหกรณ์บาเจาะ ซึ่งสาเหตุหลัก คือ การเผาตอ เผากิ่งไม้ถางป่าและการทิ้งก้นบุหรี่

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เหมือนที่บอกนั่นแหละค่ะว่าเทวดาเค้ากำลังคัดคนค่ะ

 

การคิดเห็นตรงข้าม ไม่อาจอ้างเป็นเหตุให้ต้องไปเข่นฆ่าเขาหรอก พระพุทธองค์ถูกลอบฆ่ามานับครั้งไม่ถ้วนก็ไม่เคยที่จะไปตอบโต้ พวกที่มีความปรารถนาลามกก็ย่อมมีความเห็นวิปริตผิดจากพระธรรมวินัย เห็นการฆ่าเป็นสิ่งดีไปได้อย่างไร ผู้ฆ่าย่อมก่อเวรเสมอ ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับกฎแห่งกรรม

 

ได้ดู VCD ตุลาอาถรรพณ์ วันมหาสงครามเจ้ากรรรมนายเวร ของอ.ปริญญา (จิตจักรวาล) แล้ว ดีมากๆเลยค่ะ ท่านกล่าวถึงวันชำระโลกได้ฟังแล้วขนลุก ไม่ว่าวันนั้นจะมาถึงจิงหรือไม่จริงก็จะพยายาม ทำตามคำที่ อ.ได้แนะนำไว้นะคะ จะพยายามละ โลภ โกรธ หลงให้ได้ค่ะ

โชคดีจังเลยค่ะ ที่ได้มาเจอกระทู้นี้และได้ฟัง อ.ปริญญา ขออนุโมทนาสาธุกับเวบพลังจิต และทุกท่านในที่นี่ค่ะ

 

อยากชมบ้างครับ

ท่านchermelot จะกรุณาแนะนำเว็บลิงค์ให้หน่อยจักขอบคุณมาก
อ่านข้อความท่านแล้วอยากชมบ้างครับ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=99skxXgxTCc&feature=player_embedded]YouTube - Many different views of the Sun - HMI & AIA[/ame]
ภูเขาไฟปะทุ

 

ถามจริง

ถ้าเก่งนักก็ออกมาตั้งกระทู้ให้ความรู้ประชาชนเค้าด้วยซีครับ ว่าแต่คนนั้นคนนี้กัดกัน แล้วนายมาจ้องกัดอะไรกระทู้นี้เค้า เก่งจริงต้องแสดงออก อย่าแอบ โฉบไปโฉบมา เอาแต่ว่าคนอื่น น่าสงสาร

 

การตำหนิผู้อื่นทุกวันเป็นเหตุให้ตกนรก

การตำหนิ ....นั้น มันก็อาจมีได้หลายลักษณะ เช่น

1.ตำหนิ ในลักษณะ เตือนทักท้วงด้วยธรรม เป็นลักษณะ ติเพื่อก่อ ...เช่น เตือนสติผู้ที่ใช้ความรุนแรงให้หยุดใช้ความรุนแรง... ใน กรณีนี้ อาจเป็นบุญเสียด้วยซ้ำ ถ้าตั้งจิตไว้ชอบ หรือ กล้าที่จะทักท้วงต่อครอบครัวก่อนที่ครอบครัวจะล่มสลาย ใน กรณีเช่นนี้ ถ้ารักษาใจตนเองไม่ให้เศร้าหมองได้ และ ไม่ตกไปในอคติ ก็มีประโยชน์ในบางแง่มุม

2.ตำหนิ ในลักษณะ บริภาส ด่า ว่า ไม่ใช่ลักษณะกล่าวด้วยธรรม....เป็นลักษณะ ด่าเช้า ด่าเย็น ....ด่าเอาสนุก ...ถ้า เป็นลักษณะนี้ ก็เป็นปัญหาแล้ว ผู้ที่ติผู้อื่น จิตจะเศร้าหมองง่ายจริง แต่ วจีกรรม ในลักษณะนี้ จะถึงขนาดนำไปสู่ อเวจีมหานรก หรือไม่ มันก็คงจะมีปัจจัยอื่นๆ มาประกอบอีก เช่น การตำหนินั้นๆ นำไปสู่ การประกอบอกุศลกรรมที่หนักกว่านั้นไหม เพราะ ลำพังวจีกรรมในการตำหนิผู้อื่นที่หนัก ที่สามารถนำไปสู่นรกได้นั้น ต้องเป็นลักษณะ อริยูปวาโท คือ มุ่งตำหนิพระอริยเจ้า จะอย่างไรก็ตาม การตำหนิผู้อื่น เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง จริงๆ ครับ... เกิดโทษได้ง่าย สู้ หันมาเพ่งโทษ ตำหนิตนเองกันดีกว่า... มี ประโยชน์ชัดเจน

โดยคุณ ลูกพระพุทธ 26/10/2008 16:09

ผู้ใดตำหนิผู้อื่นอยู่เป็นนิจ ใจของผู้นั้นก็จะเศร้าหมอง เป็นเหตุนำพาสู่มหานรกขุม 4 ได้โดยง่าย เพราะฉะนั้นอันตรายในวัฎสงสาร ตอนมีชีวิตอยู่ยังระเริงกันพูดได้น้ำไหลไฟดับ แต่ตายไปแล้วไม่ต้องพูดถึงกันล่ะนิ อึ๋ย...นึกแล้ว..หยอง!!

โดยคุณ usr23299 26/10/2008 18:24

ที่มา http://dmc.tv/forum/lofiversion/index.php/t18315.html

หมายเหตุ

ดังที่ผมได้เคยบอกเตือนเอาไว้หลายครั้งแล้วว่า คำทำนายส่วนใหญ่ในกระทู้นี้เป็นพุทธทำนาย และคำทำนายของพระอริยะสงฆ์ของไทย เป็นส่วนมาก ดังนั้นหากใครได้กล่าววาจา ลบหลู่ ดูหมิ่น เหยียดหยาม จาบจ้วง ล่วงเกิน พุทธทำนายและคำทำนายของพระอริยะสงฆ์ทั้งหลาย

ที่ท่านได้เมตตาบอกกล่าวให้ได้รู้ถึงภัยอันตราย ที่กำลังจะบังเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้เหล่าชาวพุทธทั้งหลายได้เตรียมตัวให้ตั้งมั่นอยู่ใน ทาน ศีล ภาวนา และละเลิกการกระทำความชั่วทั้งปวงแล้วละก็ ย่อมจะเป็นการพาตัวของท่านไปสู่อบายภูมิ อันมี นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย อีกทั้งหากมีผู้ใดเห็นดีเห็นงาม ไปกับคำกล่าววาจาว่าร้ายดังกล่าว ย่อมจะได้รับโทษเวรกรรมตามไปด้วย จึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่าสงสารอย่างยิ่ง.....

 

เตือนอันตราย ไวรัส RSV ตายแล้วแสนคน​

​

กระทรวงสาธารณสุข เตือนอันตราย ไวรัส “อาร์เอสวี” คร่าชีวิตเด็กทั่วโลกปีละ 2 แสนราย ร้อยละ 99 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ในไทยพบเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ กว่า 1 หมื่นคน ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้ว.....

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นางพรรณสิริ กุลนารถศิริ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยกรณีที่นิตยสารแลนเซต ประเทศอังกฤษ รายงานผลการศึกษาใหม่ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระในสก็อตแลนด์ซึ่ง เป็นการศึกษาระดับโลกครั้งแรก ค้นพบว่าไวรัสที่มีชื่อว่าอาร์เอสวี (RSV : respiratory syncytial virus) เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของการติดเชื้อในปอดของเด็ก ทำให้เกิดโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ คร่าชีวิตเด็กทั่วโลกถึงปีละ200,000 ราย ร้อยละ 99 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา โดยมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลก ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว 33.8 ล้านคน ในจำนวนนี้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 3.4 ล้านคน

นางพรรณสิริ กล่าวว่า การศึกษาวิจัยดังกล่าว นับเป็นประโยชน์กับประเทศไทยมากในการพัฒนาสุขภาพเด็กเล็ก โดยเฉพาะการป้องกันโรคปอดบวม ซึ่งเป็นสาเหตุการตายของเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี สูงเป็นอันดับ 1 ของโรคติดเชื้อทั้งหมด จากการเฝ้าระวังการป่วยของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปีในปี 2552 พบว่าป่วยจากโรคปอดบวม 53,727 ราย เสียชีวิต 46 ราย โดยเกือบครึ่งหนึ่งติดเชื้อไวรัสหลายชนิด และมีประมาณกว่า 10,000 รายที่ติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี หรือประมาณ 1 ใน 4 ของสาเหตุติดเชื้อทั้งหมด โดยที่เหลือเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย

รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ในการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ที่ดูแลเด็กต่ำกว่า 5 ปีทั่วประเทศให้มีคุณภาพ ไม่ให้เป็นแหล่งแพร่โรคติดเชื้อทุกชนิด โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ เช่นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม เนื่องจากจะติดต่อกันง่าย เพราะเด็กวัยนี้ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เมื่อมีเด็กป่วย 1 คน ก็อาจจะลุกลามไปได้ทั้งศูนย์ โดยมาตรการสำคัญในการป้องกันคือการล้างมือให้เด็กเล็กบ่อยๆ และพี่เลี้ยงเด็กก็ต้องล้างมือบ่อยๆเช่นกัน เมื่อมีเด็กป่วย หากเป็นไปได้ให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน แต่หากไม่สามารถรับกลับบ้านได้ ให้แยกเด็กและแยกเครื่องใช้ของเด็กป่วย ออกจากเด็กปกติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค

ด้านนพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ไวรัสอาร์เอสวี ทำให้เกิดโรคปอดบวม หรือปอดอักเสบและโรคระบบทางเดินหายใจ สามารถติดเชื้อได้โดยตรงและเกิดเป็นโรคแทรกซ้อนรุนแรงในกลุ่มทารกที่คลอด ก่อนกำหนด หรือมีความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด ในประเทศไทยพบโรคนี้ได้ตลอดปี แต่จะพบมากในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนก.ค. - ก.ย. อาการของโรคจะเริ่มจากเด็กเป็นไข้หวัดธรรมดาก่อน อาจมีไข้ต่ำๆ ไอ มีน้ำมูก แต่ต่อมาไข้จะสูงขึ้น หายใจลำบาก เด็กจะซึมลง ไม่กินน้ำ ไม่กินนม มีไข้สูง ไอ หายใจหอบเร็วและมีเสียงหวีดหรือฮื๊ด ซึ่งเป็นสัญญาณของอาการปอดบวมต้องรีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน มิฉะนั้นอาจเสียชีวิตได้

ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th