ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

nut_20036 · 27 พฤศจิกายน 2009

ตรงกับเวลา 02.07 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 02.08 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 02.13 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 03.25 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

Falkman · 27 พฤศจิกายน 2009

สัญชาติญาณของสัตว์

เมืองไทย เพลี้ยระบาด เป็นล้านๆ เห็นแล้วสยดสยองมาก (หาำภาพไม่เจอ) --> อาจจะดูธรรมดา แต่มันเกิดพร้อมๆ กับ สัตว์อพยบหลายที่

ออสเตรเลีย อูฐอพยพ เข้าเมืองเป็นพันๆ ตัว เห็นว่าทะเลทรายแล้งมาก

ปลาตายเป็นจำนวน เป็นหมื่นเป็นแสน ในลุ่มน้ำอเมซอน (ตามรูปด้านล่างเลย)

มันไม่ปกติเอามากๆ นะ เพราะสัตว์พวกนี้คง sensitive กว่ามนุษย์ หรือ ใต้แผ่นดินโลก มีอะไรเกิดขึ้นหว่า ช่วงนี้ภูเขาไฟระเบิดหลายที่เหมือนกันนะ

ชาวนาหมดตัว เจอเพลี้ยระบาดหนัก <table width="626" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="14" bgcolor="#414141"></td> <td valign="top"> <table width="599" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td valign="top" width="599"> <table width="599" border="0" cellpadding="5" cellspacing="5"> <tbody><tr><td class="text4">26 พย. 2552 13:57 น.

<dd> เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการไถแปลงนาข้าวทิ้ง เนื่องจากทนต่อสภาพเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดอย่างหนักไม่ไหว จำเป็นต้องยอมไถต้นข้าวทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ต้นข้าวกำลังเติบโตใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ผลผลิต บางรายหมดเนื้อหมดตัวไม่มีทุนที่จะปลูกใหม่ ส่วนที่พอมีกำลังต้องลงทุนปลูกใหม่ใช้เงินอีกหลายหมื่นบาท อนาคตยังไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือจะเจอเพลี้ยระบาดอีกรอบหรือไม่
</dd><dd> หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบ พบว่าที่แปลงนาของนายเกษม เพชรเกลอ อายุ 56 ปี กำลังไถ่ที่แปลงนาข้าวทิ้ง โดยเจ้าของนายืนดูด้วยสภาพใบหน้าที่สิ้นหวังเสียดายต้นข้าวที่ลงทุนปลูกเอา ไว้ ซึ่งกำลังจะได้ผลผลิตเป็นกอบเป็นกำ แต่ต้องมาขาดทุนเพราะเพลี้ยระบาดครั้งนี้
</dd><dd> นายสายัญ จันทร์จับ อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า ตนมีที่นาประมาณ 200 ไร่ ลงทุนแต่ละปีเป็นเงินนับแสนบาท ปรากฏว่าเพลี้ยระบาดต้นข้าวเสียหายไปแล้ว 50 ไร่ ต้องไถนาข้าวที่กำลังออกวงทิ้ง เพื่อรอปลูกใหม่อีกครั้ง ที่ผ่านมา 5 ปี ที่ผ่านมาเคยมีการระบาดแต่ไม่มาก มาในปีนี้หนักมาก เพลี้ยกัดกินโค่นต้นข้าวจนแห้งตาย แม้จะฉีดยาฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่อยู่ มีทางเดียวต้องไถทิ้ง เพราะถ้าปล่อยไว้ต้นข้าวก็ไม่สมบูรณ์ เพราะเมล็ดข้าวจะลีบ โดยไม่ทราบสาเหตุในการระบาดของเพลี้ย ทำให้ชาวนาทั้งตำบลหวังพิกุลเจอปัญหาเหมือนกันทั้งหมด จำนวนหลายหมื่นไร่ นอกจากทำนาแล้ว ตนนี้ตนยังรับจ้างตนไถที่แปลงนาทิ้ง ไร่ละ 220 บาท หลังมีการระบาดอย่างหนัก ทำให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานไหนเข้ามาดูแลเลย บางคนหมดเนื้อหมดตัวยังไม่เงินที่จะเอามาทำนารอบใหม่อีกเลย
</dd><dd> อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก พยายามเร่งสำรวจและแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องในการลงพื้นที่เพื่อ ตรวจสอบการระบาดรุนแรงของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรสำนักงานเกษตรจังหวัด พิษณุโลก และการสำรวจเฝ้าระวังของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรระดับอำเภอในทุกจุด พื้นที่ เกษตรกรควรพิจารณาใช้วิธีกลต่างๆ ผสมผสานกับการใช้สารชีวภัณฑ์ ชื่อ บิวเวอร์เลีย และ เมตาไรเซียม ผสมน้ำเพื่อฉีดพ่น และ ลักษณะพื้นที่การระบาดแบบรุนแรง เกษตรกรควรพิจารณาใช้สารเคมีในกลุ่มของฮอพซิน มิบซิน และอิมิดาโคลฟริค ผสมน้ำเพื่อฉีดพ่นเพื่อเป็นการกำจัดเพลี้ยกระโดดอย่างเร่งด่วน </dd></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
เล็งยิงอูฐป่าทิ้ง6พันเหตุแห้งแล้งเข้าเมืองหาน้ำ

 <script type="text/javascript"> var addthis_pub="komchadluek"; var addthis_brand = "คมชัดลึก"; var addthis_header_color = "#ffffff"; var addthis_header_background = "#3792ef" </script> <script type="text/javascript" src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js"></script> 
<script type="text/javascript"> var id='39037'; function addCommas(nStr) { nStr += ''; x = nStr.split('.'); x1 = x[0]; x2 = x.length > 1 ? '.' + x[1] : ''; var rgx = /(\d+)(\d{***)/; while (rgx.test(x1)) { x1 = x1.replace(rgx, '$1' + ',' + '$2'); } return x1 + x2; } function count(){ $.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('คนอ่าน '+addCommas(counter_)+' คน'); } }); } featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ } }) </script> คมชัดลึก : เพิร์ธ-รัฐบาลแถบนอร์ทเทิร์น แทริทอรีของออสเตรเลีย ประกาศเมื่อวันพุธ (25 พ.ย.) ว่า ในสัปดาห์หน้าจะใช้เฮลิคอปเตอร์ไล่ต้อนอูฐป่าประมาณ 6,000 ตัว ให้ออกนอกเมืองไปประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนจะยิงทิ้งและปล่อยให้ซากเน่าเปื่อยอยู่ในทะเลทราย หลังจากสภาพแห้งแล้งผิดปกติทำให้อูฐป่าเหล่านี้เข้าเมืองเพื่อหาน้ำ จากแอร์คอนดิชั่น เหยียบย่ำรั้วของรันเวย์ท่าอากาศยานขนาดเล็กของเมืองด็อกเกอร์ ริเวอร์ ทำลายแท็งก์น้ำ และสร้างความปนเปื้อนแก่แหล่งน้ำต่างๆ เพราะซากเน่าของอูฐที่ถูกเหยียบตายขณะแย่งน้ำ

<table valign="top" width="626" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="text5" width="626" bgcolor="#414141" height="97">ออสซี่มีแผนล้อมยิงทิ้งอูฐป่า6พันตัวที่คุกคามชาวบ้าน</td> </tr> <tr> <td> <table width="626" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td width="14" bgcolor="#414141"></td> <td valign="top"> <table width="599" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td valign="top" width="599"> <table width="599" border="0" cellpadding="5" cellspacing="5"> <tbody><tr><td class="text4">26 พย. 2552 15:21 น.

<dd> รัฐบาลแถบนอร์ทเทิร์น แทริทอรี่ของออสเตรเลีย ประกาศแผนการเมื่อวันพุธว่า ในสัปดาห์หน้า จะใช้เฮลิคอปเตอร์ทำการไล่ต้อนอูฐป่าประมาณ 6,000 ตัว ให้ออกนอกเมืองไปประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนจะยิงทิ้งและปล่อยให้วากเน่าเปื่อยอยู่ในทะเลทราย หลังจากสภาพแห้งแล้งในภูมิภาค ทำให้มีอูฐทยอยเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกทีที่เมืองเล็กๆชื่อดอกเกอร์ รีเวอร์ ซึ่งมีประชากร 350 คน เพื่อค้นหาน้ำดื่ม
</dd><dd> อากาศแห้งแล้งผิดปกติในพื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลียในปีนี้ ทำให้อูฐที่เคยอยู่ในป่า เข้าไปในเมืองเพื่อหาน้ำ พวกมันเข้าใกล้ตัวบ้านเพื่อพยายามหาน้ำจากแอร์คอนดิชั่น เหยียบย่ำรั้วของรันเวย์ของท่าอากาศยานขนาดเล็กของที่นั่น ทำลายแท็งค์น้ำ และสร้างความปนเปื้อนให้กับแหล่งน้ำต่างๆ เพราะซากเน่าของอูฐที่ถูกเหยียบตายขณะแย่งน้ำ
</dd><dd>
</dd></td></tr> <tr><td align="center">
</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> </td> <td width="13" bgcolor="#414141"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="626" bgcolor="#414141" height="22"></td> </tr> </tbody></table> 

Australian camel cull plan angers animal welfare groups

Campaigners urge 'trigger-happy' Australian government not to shoot 6,000 camels causing chaos in Docker River
In pictures: feral camels facing mass cull

Buzz up!

Digg it

Adam Gabbatt

guardian.co.uk, Thursday 26 November 2009 18.34 GMT

Article history

Feral camels converge on a water hole in the Northern Territory, Australia. Photograph: Northern Territory government/EPA

Animal welfare groups have accused the Australian government of being "trigger happy" over plans to shoot 6,000 camels that invaded an outback town in search of water.
The animals have caused chaos in the Northern Territory town of Docker River, smashing water tanks, destroying fences and approaching houses. State officials have described the siege as a "critical situation" and warned that the town did not "have the luxury of time", after the camels blocked the town's airstrip – preventing medical evacuations – and began to contaminate the water supply.
People for the Ethical Treatment of Animals (Peta) and Animals Australia said the cull would cause "terrible suffering" to the animals.
The drama began when 30 camels approached the town, known as Kaltukatjara to its mostly indigenous population, more than a month ago. More followed looking for water, and soon thousands of the animals – which can grow up to 2.1 metres (7ft) tall and weigh 900kg (2,000 pounds) – were antagonising locals.
"The community of Docker River is under siege by 6,000 marauding wild camels," the Northern Territory local government minister, Rob Knight, told Northern Territory News. "The herd is increasing day by day."
Camels were first taken to Australia in 1840 from the Canary Islands to help in exploring the vast outback. The population continued to rise until the early 1920s, when motorised vehicles became more widely available.
As the need for them dwindled, most were turned into the bush, where owners expected they would die in the harsh conditions. But numbers have swollen to the extent that the Northern Territory government now estimates that "in excess of 1 million" feral camels are roaming the country.
As well as wreaking havoc in Docker River, camels have been blamed for defoliating shrubs and grazing on food sources traditionally used by Aboriginal Australians. They create a hazard for motorists travelling in the outback.
Macdonnell Shire council, which oversees Docker River, said many residents were unable to leave their homes. "The social and psychological impacts on some people about being contained in homes and not being able to step out … there will be some cost factors for the community there," the chief executive, Graham Taylor, told the Sydney Morning Herald.
The camels have butted water tanks, approached houses and knocked down fencing at the local runway. Knight said the carcasses of camels killed in stampedes at water holes were contaminating the town's water supply. "This is a very critical situation out there, it's very unusual and it needs urgent action," he said.
The state government plans to use helicopters to herd the camels nine miles from the town before shooting them, leaving their carcasses to rot in the desert.
A spokeswoman for Peta said the "trigger-happy response from authorities [was] inexcusable", and stressed alternative measures were available. "There are humane solutions to every problem, and authorities just need to be compassionate enough to employ them," she said.
"There's no question that shooting thousands of wild animals is going to lead to terror and massive suffering. It's human action which has led to this problem because people introduced camels to this environment – it's not the camels' fault and they shouldn't pay a fatal price for human failures."
Glenys Oogjes, executive director of the animal welfare group Animals Australia, said the community could organise barriers to keep out the camels. "It's a terrible thing that people react to these events by shooting," she said. "The real concern is the terrible distress and wounding when shot by helicopter ... There will be terrible suffering."
If the cull goes ahead next week, it is unlikely to have much of an impact on the overall camel problem in Australia. The government set aside A$19m (£10.5m) in July for a programme to reduce the camel population, with proposals including shooting the animals en masse and using some of the meat for snacks, such as camel burgers. Animal welfare activists have mooted administering birth control drugs.
While the country makes up its mind about what to do with its camels, it should be mindful that the numbers are unlikely to fall of their own accord. The Northern Territory government has warned that the feral camel population is capable of doubling in size every nine years.

Australian camel cull plan angers animal welfare groups | World news | guardian.co.uk

Sad Photo: Drought causes death of thousands of fish in the Amazon River

Resident Manoel da Silva paddles his canoe through dead fish in the Parana de Manaquiri River, a tributary of the Amazon, near the city of Manaquiri November 22, 2009. After a rainy season that caused some of the worst flooding in recent history the seasonal drought that followed is proving to be especially bad as well.

winny · 27 พฤศจิกายน 2009

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อนามัยโลกรุดตรวจสอบหลังพบหวัด2009กลายพันธุ์ในหลายปท.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 พฤศจิกายน 2552 01:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=222 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=222> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กรณีกลายพันธุ์ของหวัด2009 ก่อความกังวลมากขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกเมื่อวันพฤหัสบดี(26) เปิดเผยว่ากำลังสืบสวนถึงการเปลี่ยนรูปในไวรัสหวัด 2009 หลังจากหลายสิบประเทศรายงานพบไวรัสเอช1เอ็น1นี้กำลังกลายพันธุ์

"คำถามคือการกลายพันธุ์ที่พบอีกครั้งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางมูลฐานของไวรัสหรือไม่ และมีการกลายพันธุ์เป็นเชื้อที่รุนแรงขึ้นหรือเปล่า" เคอิจิ ฟุกุดะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าว "คำตอบในตอนนี้คือเรายังไม่มั่นใจ" เขาบอกตามหลังได้รับรายงานการกลายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 จากจีน ญี่ปุ่น นอร์เวย์ ยูเครน และสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม ฟุกุดะ เน้นว่าการกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติในไวรัสหวัดทั่วๆไปและ "ทุกๆรายงานเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ มันก็เหมือนกับรายงานการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศนั่นแหละ" เขากล่าว "สิ่งที่เราพยายามทำเมื่อได้รับรายงานการกลายพันธุ์คือตรวจสอบว่าการเปลี่ยนรูปนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนลักษณะใดๆในภาพทางการแพทย์หรือไม่ -- มันรุนแรงขึ้นหรือเบาบางลง"

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทางการจีนออกมาระบุว่าพบไวรัสเอช1เอ็น1 กลายพันธุ์ในผู้ป่วย 8 ราย ขณะที่นอร์เวย์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตรวจพบกรณีไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 เปลี่ยนรูป 1 ราย

ฟุกุดะ เปิดเผยต่อว่านอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว องค์การอนามัยโลกยังจะเข้าตรวจสอบกรณีพบผู้ติดเชื้อดื้อยาทามิฟลูในอังกฤษและสหรัฐฯ แต่ก็ย้ำว่าพวกเขามีความกังวลเฉพาะคนไข้ที่อยู่ระหว่างรักษาโรคอื่นๆหรือบุคคลที่มีโรคเรื้อรังประจำตัวเท่านั้น

เพราะฉะนั้นทางองค์การอนามัยโลก จึงยืนหยัดรับประกันว่า ทามิฟลู ซึ่งผลิตโดยบริษัทโรเชแห่งสวิตเซอร์แลนด์ ยังสามารถรักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 อย่างได้ผล แต่ "เราจำเป็นต้องเฝ้าระวังในกลุ่มคนที่มีความอ่อนแออย่างมาก"

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

คุณ 4 · 27 พฤศจิกายน 2009

ยักษ์ใหญ่ตะวันออกกลางออกอาการซวนเซ
-------------------------------
Source - เว็บไซต์ไทยรัฐ (Th) Friday, November 27, 2009 06:02

บริษัทชั้นนำ 2 แห่งของดูไบ มีแผนเลื่อนการชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นมาตรการแรกในการปรับโครงสร้างดูไบเวิลด์ ...

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) แจ้งว่าบริษัทชั้นนำ 2 แห่งของดูไบ มีแผนเลื่อนการชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นมาตรการแรกในการปรับโครงสร้างดูไบเวิลด์ กลุ่มบริษัทที่เป็นผู้นำในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจรัฐดูไบขยายตัวขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
<O</O
โดยการประกาศเลื่อนการชำระหนี้อย่างกะทันหันของรัฐบาลดูไบครั้งนี้ ทำให้มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ซึ่งเป็น 2 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ของโลก ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลดูไบ โดยมูดี้ส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือของบางบริษัทลงสู่สถานะ "junk" หรือ "ขยะ" ขณะที่เอสแอนด์พีระบุว่า การที่รัฐบาลดูไบประกาศปรับโครงสร้างดูไบเวิลด์ อาจถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ตามเกณฑ์ของเอสแอนด์พี

ทั้งนี้ บริษัทนาคีล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือดูไบเวิลด์ แจ้งว่าดูไบเวิลด์มีหนี้สิน 59,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนใหญ่จากหนี้สินทั้งหมดจำนวน 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯของรัฐบาลดูไบ นอกจากนี้ บริษัทนาคีล ซึ่งเป็นผู้พัฒนาย่านคฤหาสน์หรูหราบนหมู่เกาะเป็นรูปต้นปาล์มที่มีชื่อเสียงของดูไบ มีหุ้นกู้อิสลามในวงเงิน 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ และมีหนี้ตราสารหนี้ในวงเงิน 980 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 13 พ.ค.ปีหน้า ขณะที่บริษัทลิ-มิทเลส ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของดูไบเวิลด์อีกรายหนึ่ง มีหุ้นกู้ในวงเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 31 มี.ค.ปีหน้า
<O</O
นักวิเคราะห์คาดว่าการสนับสนุนทางการเงินจากอาบูดาบี ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐของยูเออีเช่นเดียวกับรัฐดูไบนั้น จะทำให้เศรษฐกิจของดูไบสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่ดูไบมีแนวโน้มที่จะต้องล้มเลิกรูปแบบทางเศรษฐกิจที่หรูหราที่มุ่งความสนใจไปที่การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างชาติ ทั้งนี้ เศรษฐกิจดูไบได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ฟองสบู่ของเศรษฐกิจดูไบที่กำลังฟูเฟื่องมากว่า 6 ปี แตกลง จนทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เคยรุ่งเรืองของดูไบตกต่ำลง.--จบ--

ที่มา: http://www.thairath.co.th

เกษม · 27 พฤศจิกายน 2009

ดูไบเลื่อนชำระหนี้ ฟองสบู่อสังหาฯแตกกระจุย

บริษัทชั้นนำ 2 แห่งของดูไบ มีแผนเลื่อนการชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นมาตรการแรกในการปรับโครงสร้างดูไบเวิลด์ ...

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) แจ้งว่าบริษัทชั้นนำ 2 แห่งของดูไบ มีแผนเลื่อนการชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นมาตรการแรกในการปรับโครงสร้างดูไบเวิลด์ กลุ่มบริษัทที่เป็นผู้นำในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจรัฐดูไบขยายตัวขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

โดยการประกาศเลื่อนการชำระหนี้อย่างกะทันหันของรัฐบาลดูไบครั้งนี้ ทำให้มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ซึ่งเป็น 2 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ของโลก ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลดูไบ โดยมูดี้ส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือของบางบริษัทลงสู่สถานะ "junk" หรือ "ขยะ" ขณะที่เอสแอนด์พีระบุว่า การที่รัฐบาลดูไบประกาศปรับโครงสร้างดูไบเวิลด์ อาจถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ตามเกณฑ์ของเอสแอนด์พี

ทั้งนี้ บริษัทนาคีล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือดูไบเวิลด์ แจ้งว่าดูไบเวิลด์มีหนี้สิน 59,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนใหญ่จากหนี้สินทั้งหมดจำนวน 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯของรัฐบาลดูไบ นอกจากนี้ บริษัทนาคีล ซึ่งเป็นผู้พัฒนาย่านคฤหาสน์หรูหราบนหมู่เกาะเป็นรูปต้นปาล์มที่มีชื่อเสียงของดูไบ มีหุ้นกู้อิสลามในวงเงิน 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ และมีหนี้ตราสารหนี้ในวงเงิน 980 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 13 พ.ค.ปีหน้า ขณะที่บริษัทลิ-มิทเลส ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของดูไบเวิลด์อีกรายหนึ่ง มีหุ้นกู้ในวงเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 31 มี.ค.ปีหน้า

นักวิเคราะห์คาดว่าการสนับสนุนทางการเงินจากอาบูดาบี ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐของยูเออีเช่นเดียวกับรัฐดูไบนั้น จะทำให้เศรษฐกิจของดูไบสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่ดูไบมีแนวโน้มที่จะต้องล้มเลิกรูปแบบทางเศรษฐกิจที่หรูหราที่มุ่งความสนใจไปที่การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างชาติ ทั้งนี้ เศรษฐกิจดูไบได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ฟองสบู่ของเศรษฐกิจดูไบที่กำลังฟูเฟื่องมากว่า 6 ปี แตกลง จนทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เคยรุ่งเรืองของดูไบตกต่ำลง

ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2552

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/eco/49490

เกษม · 27 พฤศจิกายน 2009

ดวงเมืองวิกฤต!

ดวงเมืองและการเมืองไทยกำลังเข้าสู่จุดวิกฤต...ใครที่คิดว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังจะดีขึ้น ขอให้ระวังและคิดให้ดีก่อนลงทุน...จะดีทางด้านการส่งออกต่างประเทศ และบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผูกขาดสินค้าบริโภคไม่กี่บริษัทเท่านั้น...

พ่อค้าแม่ค้าประชาชนยังต้องผจญกรรมกับเกมชิงอำนาจทางการเมือง ของนักการเมืองผู้รักชาติแบบยอมตายคาเก้าอี้... “คนทิ้งเมีย” ไม่เข้าบ้านเข้าช่องจะรุกหนักขึ้นเป็นลำดับ และทำทุกวิถีทางเพื่อหวังจะได้กลับมาใหญ่ คนไกลบ้านใกล้ช่อง บุคคลผู้นี้มีทีเด็ดที่คาดไม่ถึง ทั้งเกมบนดิน...เกมใต้ดิน ..ไม่เว้นแม้แต่ยามอยู่บนฟ้า ...สามารถทุ่มซื้อได้ทุกอย่างทุกสถานที่ ...และที่ผ่านๆมาหลายปี “เสียเงินเปล่า” โดยไร้ค่า แต่ก็ทำให้คนกลุ่มหนึ่ง “สู้แล้วรวย” คนจ่ายเงินกลับซวย

บทความ ...มีปัญหา...นายกคนใหม่? ที่ท่านได้อ่านไปแล้ว ผมได้บอกเป็นนัยไว้บางจุดเช่น..พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา...พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา ...คือเป้าหมายสำคัญต้องระวังไว้...และมีตอนหนึ่งที่เขียนว่า..ทหารและตำรวจคงจะไม่ “ขายสี”...เขาคนนั้นจะรุกหนักยิ่งขึ้น...และทิ้งท้ายไว้ว่า...ทหารจะมีบทบาท...ทหารจะมีอำนาจเหนือนายก..

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปริศนาสำคัญทั้งสิ้น... “ดวงเมืองวิกฤต” เศรษฐกิจย่อยยับสำหรับประชาชนคนหาเช้าส่งดอกตอนเย็น...คนที่มีอำนาจจะเปิดร้าน “ขายสี” กันเกลื่อน...คนที่มีอำนาจทางการเงินจะพยายาม “เหมาสี” ให้ได้ และหากได้... “แม่สี” ไม่ต้องมาก แค่ 2 ภาค แถม “หัวสี” อีก 2-3 หัวเท่านั้น ประเทศไทยจบข่าว!

นายกอภิสิทธิ์จะยุบสภาก็คงจะมีเพียงทางเดียวนั่นคือโดน ...สีเสียด...เบียดจนหน้าเขียว...นายกอภิสิทธิ์มีความรู้และใจเย็นมีสติ สุภาพนุ่มนวลแบบผู้ดีมีสกุลมาก แต่นายกอภิสิทธิ์จะทนแรงเสียดทานจากสิ่งแวดล้อมได้นานแค่ไหน ในเมื่อบ้านเมืองอยู่ในห้วงวิกฤตทางการเมืองที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น...มันจะเกิดขึ้นหลายจุด...หลายแห่ง..หลายจังหวัดพร้อมๆกัน หรือ เว้นช่วงบึ้ม! ป่วนไปทั่วจากยอดฝีมือระดับพระกาฬก็เป็นไปได้...

ฝ่ายความมั่นคงต้องหาวิธีป้องกันเหตุให้ดีและรัดกุมที่สุด ที่ผมเขียนไว้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประยุทธ คือเป้าหมายสำคัญต้องระวังไว้ ... ผมไม่ได้หมายถึงชีวิตของท่านทั้งสองเพียงอย่างเดียว!!!! เพราะนั่น เป็นคำตอบสุดท้าย...แต่หมายถึงอะไรท่านผู้อ่านต้องช่วยผมหาคำตอบ...และตอบคำถาม.

<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O>ด้วยความเคารพ
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)
25 พ.ย. 52

ที่มา http://www.mornid.com/home.php</O>

แม่นายมล · 27 พฤศจิกายน 2009

ข่าวดูไบเวิลด์ เหมือนเป็นเค้าลาง
การล่มสลายของด้านมืด:boo:

Tossaporn K. · 27 พฤศจิกายน 2009

ข่าวดูไบเวิลด์ เหมือนเป็นเค้าลาง
การล่มสลายของด้านมืด

ผมว่าอาจจะเป็นการล่มสลายของด้านสว่างก็ได้ครับ เพราะแบบนี้ฝ่ายมืดจะดีใจที่ทำให้คนตื่นตระหนกได้แล้วจิตคนก็จะตกเพราะเกิดความกังวล

Kongp · 27 พฤศจิกายน 2009

ดูข่าว อูฐที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว

ผมว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ จะต้องมีสัตว์อีกหลายสายพันธุ์ ต้องพึ่งพามนุษย์มากขึ้น เพราะมนุษย์ เข้าไปทำลายพื้นที่ป่าหากินของเหล่าสัตว์ป่า

มันก็มีตัวอย่างอีกเยอะ เช่น ช้างบุกไร่สับปะรดที่กุยบุรี , จิงโจ้ที่ออสเตรเลีย ก็มาหาหญ้ากินในพื้นที่หมู่บ้าน เป็นต้น

เกษม · 27 พฤศจิกายน 2009

ประสานงานฯ ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ (ต่อ)

สุดใจเขากะลา
(สมาชิกเว็บพลังจิต)

จากนั้น คุณวรวิทย์ ก็ได้พาคณะ ไปดูสถานที่ใช้สำหรับตำข้าวเปลือก และการปลูกผัก เลี้ยงสุกร พร้อมทั้งการดำรงชีพอื่น ๆ ภายในบริเวณเนื้อที่ 1 ไร่แห่งนี้

หลังจากได้เยี่ยมชมโครงการอยู่อย่างพอเพียง ในพื้นที่ 1 ไร่ใน 1 ครอบครัวแล้ว ก็ได้สนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่้งกันและกัน โดยที่คุณวรวิทย์ท่านยังขาดบุคลากรที่จะมาให้ความรู้ อบรมชาวบ้าน

ซึ่งในส่วนของกลุ่มประสานงานฯ ได้แจ้งท่านว่า หากสมาชิกทางกลุ่มท่านใด มีความสามารถในด้านอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนแล้ว จะนำคณะมาร่วมให้ความรู้กับผู้เข้ารับการอบรมด้วย

ซึ่งท่านยินดีอย่างยิ่ง ที่จะได้ร่วมงานกัน

จากนั้น ท่านได้นำแผนผังของโครงการที่จะเตรียมการสำหรับรองรับเรื่องของภัยพิบัติ และพัฒนาให้เป็นที่พักอาศัย ดำรงอยู่ได้ในช่วงเกิดภัยพิบัติด้วย

ทั้งหมดตามแผนงานในโครงการ จำนวนที่ดินที่ต้องใช้ในโครงการ 1,700 ไร่

(สถานที่โครงการ ขออนุญาตไม่เปิดเผย)

คุณวรวิทย์ ได้กรุณานำคณะเดินทางไปดูพื้นที่จริง ซึ่งมีบริเวณกว้างมาก ดังนั้น ท่านจึงพาไปยังจุดยอดเนินที่สูง เพื่อมองเห็นพื้นที่ได้โดยรอบ ท่านได้ชี้แต่ละจุดให้ดู ส่วนไหนจะจัดเป็นส่วนที่ดำเนินการในเรื่องใด ๆ บ้าง

ซึ่ีงในขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน ดังที่ได้วางผังโครงการไว้

จากนั้น คุณวรวิทย์ ได้กรุณาพาคณะไปเที่ยวชมน้ำตก ที่ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณพื้นที่นี้ ซึ่งยังไม่ค่อยมีใครรู้มากเท่าใดนัก จึงยังไม่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

การเดินทาง ต้องใช้่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะทางเข้าลำบาก ยิ่งหน้าฝนไม่สามารถเข้าไปถึงน้ำตก เพราะทางจะลื่นมาก

คุณวรวิทย์ ขับรถเก่งมาก พาคณะไปจนใกล้น้ำตก จากนั้นก็จอดรถไว้ด้านบนซึ่งเป็นพื้นที่ราบ แล้วเดินต่อไปที่น้ำตก

ระหว่างทางที่เดินลงไป เริ่มได้ยินเสียงน้ำตก และเมื่อเข้าไปใกล้ก็ได้เห็นภาพน้ำตกที่สวยงามมาก ซ่อนอยู่กลางป่า

เห็นน้ำตกอันสวยงามแล้ว .... หายเหนื่อย

น้ำใสสะอาด ต้นไม้เขียวขจี ยังคงความเป็นธรรมชาติอันสวยงามไว้อย่างยอดเยี่ยม

นายแบบ นางแบบ ถ่ายภาพอันประทับใจกันอย่างสนุกสนาน ด้วยกล้องถ่ายภาพถึง 3 กล้องด้วยกัน

กล้องแรก เป็นกล้องถ่ายภาพของคุณอลงกรณ์ ที่มีความคมชัด ทำให้เห็นความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน

กล้องที่ 2 เป็นกล้องจากโทรศัพท์มือถือของคุณโสภา ภาพอาจไม่คมชัดนัก แต่ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง เห็นถึงความสนุกสนานของคณะ ในการลงไปสัมผัสกับน้ำตกแห่งนี้

ซึ่งเมื่อกลับมาที่ร้านคืนชีัวิตให้แผ่นดิน ปรากฏว่ามีแขกแวะมารับประทานอาหารจำนวนมาก

ซึ่งคุณวรวิทย์ ได้ขอตัวไปช่วยดูแลแขกที่มาทานกาแฟสด และอาหารซึ่งมีจำนวนมากในตอนนั้น

ทางคณะจึงได้ขออนุญาตลากลับ เพราะจะต้องเดินทางไปที่นครสวรรค์ แล้วจึงกลับเข้ากรุงเทพฯ

ซึ่งต้องขอกราบขอบพระคุณ คุณวรวิทย์ เป็นอย่างสูง ที่ได้ให้การต้อนรับ และดูแลคณะฯ เป็นอย่างดี ตลอด 2 วันที่ผ่านมา

ซึ่งคุณวรวิทย์ได้เรียนเชิญไว้ หากมีเวลาเชิญแวะมาเยี่ยมเยียน และสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันอีก ในโอกาสต่อไป

ทางกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ขอกราบขอบพระคุณ คุณวรวิทย์ เป็นอย่างยิ่งค่ะ

ขอประชาสัมพันธ์ให้กัีบ ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน เผื่อเพื่อน ๆ ที่ได้เดินทางผ่านไป ผ่านมาที่เขาค้อ หากอยากจะ้แวะไปเยี่ยมเยียน และทานอาหารที่ร้านแห่งนี้

ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน บรรยากาศดี อาหารอร่อย แม่ครัวของทางร้านฝีมือดีมาก กาแฟสดรสชาติเยี่ยม ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามพร้อมทานอาหารไปด้วย

โดยเฉพาะตอนเย็น ถึงกลางคืน นั่งชมวิวด้านล่างพร้อมทานอาหารไปด้วย บรรยากาศดีมากค่ะ

ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อความจาก-กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย-เขากะลา.86674/page-583

เกษม · 27 พฤศจิกายน 2009

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“อภิสิทธิ์” แนะ ขรก.ยึดพระราชดำรัส “ในหลวง” ชี้เก่งอย่างเดียวแต่ไม่ดี เกิดคอร์รัปชัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 พฤศจิกายน 2552 12:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

นายกฯ ประชุมส่วนราชการกับ ก.พ.พร้อมปฐกถาในหัวข้อ “ต้นแบบคนดี คนเก่งที่สังคมต้องการ ระบุคนดีคือคนที่มีคุณธรรมจริยธรรม หากเป็นคนเก่งอย่างเดียวแต่ไม่มีความดี ทำให้เกิดทุจริตคอร์รัปชัน แนะยึดถือพระราชดำรัส “ในหลวง” เชื่อหากปฏิบัติได้จะทำให้สังคมมีคุณธรรมจริยธรรมอย่างแท้จริง

วันนี้ (25 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีการประชุมระหว่างส่วนราชการกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการและพลเรือน (ก.พ.) ประจำปี 2552 โดยปาฐกถาในเรื่อง “ต้นแบบคนดี คนเก่งที่สังคมต้องการ” ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คนดีในความหมายของนายกรัฐมนตรี คือคนที่มีคุณธรรมจริยธรรมในตนเอง ซึ่งขณะนี้สังคมเกิดความตื่นตัวในเรื่องของธรรมาภิบาล หน่วยงานต่างๆ ต้องการคนดีและคนเก่งควบคู่กันไปในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะหากเป็นคนเก่งอย่างเดียวแต่ไม่มีความดี อาจทำให้เกิดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งจะกลายเป็นอุปสรรคปัญหาในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ยังต้องยึดถือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องของเมตตาธรรม สามัคคีธรรม สุจริตธรรม และเที่ยงธรรม ซึ่งเชื่อว่าหากทุกคนปฏิบัติได้ จะทำให้สังคมมีคุณธรรมจริยธรรมอย่างแท้จริง

นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า ในความเก่งนั้นคนทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความเก่งทุกด้าน แต่ต้องมีการพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับหน้าที่ภารกิจของตนเอง ซึ่งหากพบว่าตนเองยังมีการด้อยความเก่ง ต้องมีการปรับตัวและฝึกฝนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ และจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคม รวมถึงหน่วยงานด้วย

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000144219

หนุมาน ผู้นำสาร · 27 พฤศจิกายน 2009

เกษม said: ↑

*** อดีต...พุทธเคยมาเมกกะ ****

ผู้แสวงบุญเริ่มประกอบพิธีฮัจญ์วันแรก

ซาอุดีอาระเบีย 26 พ.ย. - ผู้แสวงบุญจำนวนมากเริ่มต้นการประกอบพิธีฮัจญ์ในวันแรก ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มของทางการซาอุดีอาระเบีย

ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมจากทั่วโลกที่หลั่งไหลไปรวมตัวยังนครเมกกะ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เตรียมร่วมประกอบพิธีฮัจญ์เป็นวันแรก ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคง รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า แม้จำนวนผู้แสวงบุญจากต่างประเทศจะมากเหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าจำนวนผู้แสวงบุญชาวซาอุดีอาระเบียเองน่าจะลดลงกว่าร้อยละ 40

ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย เผยว่า พบผู้แสวงบุญ 4 คน เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และอีก 16 คน เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในจำนวนนี้ 4 คน อาการสาหัส. - สำนักข่าวไทย

2009-11-26 02:46:33

ที่มา http://news.mcot.net
Click to expand...

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

หนุมาน ผู้นำสาร · 27 พฤศจิกายน 2009

*** คุณคนเก่ง ****

คนดี เขาต้องมีสัจจะ ...เขาจึงจะรักษาความดีได้ตลอดไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

Lazaza · 14 กรกฎาคม 2012

ย้ำเรื่องการนัดพบอีกครั้งนะคะ

Lazaza said: ↑

การเตรียมการที่หลบภัย ฐานผาแบ่น จ.เลย : การนัดพบครั้งที่ 4
การนัดพบครั้งที่ 4 : อาทิตย์ที่ 29 พ.ย. 2009 (29/11/2009)

สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าร่วม ตามไปอยู่ฐานผาแบ่น
อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย จะมีการนัดพบครั้งที่ 4 นะคะ

วัน : อาทิตย์ที่ 29 พ.ย. 2009
เวลา : 10.00 น. ถึง 11.00 น. (ช่วงเช้าค่ะ)
สถานที่ : ที่หน้าสถานีรถไฟดอนเมือง
ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ หน้าห้องขายตั๋ว

คุณอา k_isara จะไปรออยู่ที่นั่นนะคะ (ให้สังเกตุ ชายสะพายย่าม)


Click to expand...

---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น

Lazaza · 14 กรกฎาคม 2012

บทความจาก "องค์อินทร์ - 97" ค่ะ

======================================

27 พ.ย. 52

2012 วันสิ้นโลก

วันนี้ผมมีโอกาสได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ จากเพื่อนบ้านที่ได้ดึงจากเว็บหนังแล้ว
ก๊อปไว้ (ความจริงคิดว่าจะไปดูที่โรงฯ) เมื่อดูจบ ผมได้ข้อคิดจากหนังเรื่องนี้
หลายๆความคิด

ความคิดแรก เมื่อมีภัยมา ความเห็นแก่ตัวของคนจะมาเป็นอับดับหนึ่ง
สอง การไม่ยอบรับความคิดเห็นของคนอื่น ในสิ่งที่เขาเตือนจนทำให้
เกิดการสูญเสียไม่ว่าจะเป็นชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล
สาม ปกปิดข่าวสารไม่ให้ประชาชนได้รับรู้
สี่ คนส่วนใหญ่รู้ แต่จะดูเป็นเรื่องขบขัน เพราะผู้แจ้งภัยดูไม่น่า
เชื่อถือ เลยไม่มีการเตรียมความพร้อม
ห้า ภาพเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่ม น้ำท่วม ภูเขาไฟใต้ภิภพ
ประทุขึ้นมา ดูสมจริงซึ่งคำทำนายว่าจาก 6พันล้านคนเหลือ
10% 6ร้อยล้านคน ถ้าเกิด ตามในภาพยนต์ย่อมเป็นไปได้

ท่านสมาชิกคิดอย่างไร? ถ้าเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ ถ้าถามผม ขออย่าเกิดเลย
เป็นดีที่สุด

องค์อินทร์ - 97
ทำการแทน

======================================

---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น

วรเดช · 27 พฤศจิกายน 2009

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ลือสะพัดไทยสั่งปิดด่านอรัญประเทศตอบโต้เขมร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>สระแก้ว 26 พ.ย.-ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา เปิดเผยว่า

มีพ่อค้าชาวเขมรโทรศัพท์มาสอบถาม โดยบอกว่าในกรุงพนมเปญ มีข่าวลือว่ารัฐบาลไทยสั่งปิดด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตนจึงแจ้งพ่อค้าชาวเขมรกลับไปว่าไม่เป็นความจริง อย่าไปเชื่อข่าวลือ ด่านพรมแดนอรัญประเทศยังเปิดปกติและไม่มีเหตุบ่งชี้ใด ๆ ว่าจะมีการปิดด่าน นอกจากนี้ ก็ยังมีพ่อค้าชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ มาสอบถามเจ้าหน้าที่ทหารพรานว่าไทยจะสั่งปิดด่านพรมแดนอรัญประเทศจริงหรือไม่

โดยบอกว่าบรรดาพ่อค้าชาวเขมรทั้งในปอยเปตและในกรุงพนมเปญ ได้โทรศัพท์มาสอบถามกันวุ่นวายเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่าไทยสั่งปิดด่านอรัญประเทศ

เพื่อตอบโต้เขมรที่ปิดน่านน้ำเกาะกง ทำให้พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรต่างตื่นกลัวและหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้แจ้งกลับไปว่าขอให้พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรสบายใจได้ ไทยยังไม่มีการสั่งปิดด่านฯใด ๆ ทั้งสิ้น ขออย่าไปเชื่อข่าวลือดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>รางวัล“คนดี ประเทศไทย”ปี 52 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เผยผลการคัดสรร “คนดี ประเทศไทย เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2552” สาขาประชาชน และสาขาตำรวจ

วันนี้ (26 พ.ย.) นายศิโรจน์ มิ่งขวัญ นายกสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผย ผลการคัดสรร คนดี ประเทศไทย เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2552 ของสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ว่า คณะกรรมการพิจารณาคัดสรรที่มี พระราชพิพัฒน์โกศล (หลวงพ่อเณร) เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร เป็นประธานในที่ประชุม มีมติให้ นายภานุพงษ์ ลาภเสถียร ผู้เคยใช้รถจักรยานทำเป็นรถกู้ชีพ และนำเงินรางวัลจากรายการเกมโชว์ไปซื้อรถยนต์กู้ภัย เพื่อช่วยเหลือสังคม ต่อมาเกิดประสบอุบัติเหตุกระดูกข้อเท้าแตก ขับขี่รถจักรยานไม่สะดวก จึงหันไปขับรถยนต์กู้ชีพแทน โดยสนับสนุนรุ่นน้องให้มาขี่จักรยานกู้ชีพ เป็นคนดีประเทศไทยสาขาประชาชน

สำหรับ คนดีประเทศไทยสาขาตำรวจ ได้แก่ ด.ต.สมศักดิ์ บุญรัตน์ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.บางซื่อ ที่ทุ่มเทเวลาว่างเป็นครูข้างถนนช่วยสอนหนังสือให้แก่เด็กเร่ร่อน ตั้งแต่ปี 2544 รวมประมาณ 800 คน โดยทางสมาคมฯ ร่วมกับ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในเวลา 13.00 น. วันนี้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ทองแพงบ้าเลือด พุ่ง19,200 ตลาดปรับ2รอบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และทำสถิติปิดบวกติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 27 ปี ฉุดราคาทองไทยพุ่งกระฉูดบาทละ 19,200..

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,187.00 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 21.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ เคลื่อนตัวในช่วง 1,166.80-1,189.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 18.768 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 31.30 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ดีดขึ้น 5.35 เซนต์ ปิดที่ 3.197 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปอนด์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,479.50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 35.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 370.95 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ

นักวิเคราะห์ในแวดวงอุตสาหกรรมทองคำของสหรัฐ กล่าวว่า นักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล โครนิเคิลรายงานว่า ธนาคารกลางอินเดียจะซื้อทองคำจากไอเอ็มเอฟเพิ่มขึ้นอีก หลังจากเข้าซื้อไปแล้วในปริมาณ 200 ตัน มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อหลังจาก รัฐบาลทั่วโลกอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

นอกเหนือจากธนาคารกลางอินเดียแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ธนาคารกลางมอริเชียสได้ซื้อทองคำ 2 ตันจากไอเอ็มเอฟ มูลค่าประมาณ 71.7 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ธนาคารกลางศรีลังกายังวางแผนเข้าซื้อทองคำด้วย ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าจะมีธนาคารกลางแห่งอื่นๆเริ่มหันมากระจาย ความเสี่ยงด้วยการนำเม็ดเงินในทุนสำรองออกมาซื้อทองคำ สัญญาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนับตั้งแต่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยดัชนี U.S. Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลเงิน ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน

ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย.เนื่องในวัน Thanksgiving (วันขอบคุณพระเจ้า) และจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.นี้

สำหรับราคาทองคำในประเทศไทยวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 250 บาท โดยเมื่อเวลา 10.43 น. ราคาทองคำแท่ง 96.5% รับซื้อบาทละ 18,700 บาท ขายออก 18,800 บาท และราคาทองรูปพรรณ รับซื้อ 18,434.56 บาท ขายออก 19,200 บาท ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งที่ 2 ในรอบวัน และเป็นการทำนิวไฮครั้งใหม่

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

vichai2500 · 27 พฤศจิกายน 2009

Public release date: 25-Nov-2009
Contact: Rob Gutro
Robert.J.Gutro@nasa.gov
301-286-4044
NASA/Goddard Space Flight Center

NASA's Aqua satellite sees Nida explode into a category 5 Super Typhoon

ซุปเป้อร์ไต้ฝุ่น:boo:

Lazaza · 27 พฤศจิกายน 2009

บทความจาก "องค์อินทร์ - 97" ค่ะ

======================================

27 พ.ย. 52

จะหัวร่อ------หรือร้องไห้-----อย่างไรดี ?
เมื่อปฐพี-----เลื่อนลั่น-------ทุกวันวาน
มวลมนุษย์---ทำอย่างไง?----ถึงวันนั้น
ชีวิตยัง-------มีเหลือ--------เพื่อต่อลม

รีบเข้าเถิด-----รีบเร่ง---------ทำความดี
ให้มี(รัง)ษี----ป้องกัน--------สิ่งชั่วร้าย
หากมัวหลง----เมามัน--------สิ่งรอบกาย
ชีวิตไซร้------ไม่มีเหลือ------คู่แผ่นดิน

อีกสิ่งหนึ่ง-----ต้องรีบทำ------ช้าไม่ได้
กาลไม่ให้------เวลา--------_-นั้นไม่พอ
รีบติดต่อ-----_เข้ากลุ่ม--------มุ่งหลบหนี
จะเป็นเหนือ----อีสาน------_---ยิ่งเข้าที
ไม่มีที่---------ให้รีบบอก-------ตอบสารมา
เป็นพีเอ็ม------หรือตามนัด-----นัดสะดวก
ไม่โอ้อวด----_-มีที่ไป---------ซื้อแล้วนา
อย่าชักช้า------แจ้งเข้ามา------จะไปกัน

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 52 ท่านใดสนใจจะไปอยู่สายอีสานเหนือ
ฐานผาแบ่น อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย พบกันที่หน้าสถานีรถไฟ ดอนเมือง
หน้าห้องขายตั๋วฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ เวลา 10.00น.ถึง 11.00น.

องค์อินทร์ - 97
ทำการแทน

======================================

ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ

---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น

doodee1 · 27 พฤศจิกายน 2009

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6938 ข่าวสดรายวัน

ผู้ต้องหาฆ่าหมู่ปินส์มอบตัว-อารักขาเข้ม

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อ 26 พ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายอันดาล อัมปาตวน จูเนียร์ นายกเทศมนตรีเมืองอันซัย จังหวัดมากินดาเนา เกาะมินดาเนา ฟิลิปปินส์ ยอมมอบตัว ฐานต้องสงสัยสั่งฆ่าหมู่คนในตระกูลคู่แข่งทางการเมือง 57 ศพ แต่นายอันดาลปฏิเสธเสียงแข็งว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทหารไปยังเมืองเจเนอรัลซานโตส เพื่อส่งไปยังกรุงมะนิลาท่าม กลางการวางกำลังอารักขาเข้มงวด

ตระกูลนายอันดาลและตระกูลของนายอิสมาอีล มานกูดาดาตู รองนายกเทศมนตรีเมืองบูลัน ซึ่งตกเป็นเป้าสังหาร จัดเป็นพันธมิตรการเมืองของประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ทั้งคู่ แต่หลังเกิดคดีสังหารหมู่เมีย ญาติ และทีมงานของนายอิสมาอีล ทำให้นางอาร์โรโยต้องขับคนจากตระกูลอัมปาตวนออกจากพรรครัฐบาล เพื่อลดแรงกดดันจากสังคมที่เรียกร้องให้จับกุมผู้บงการมาลงโทษโดยเร็ว

"มุมไบ"รำลึก1ปีก่อการร้ายเขย่าโลก

เมื่อ 26 พ.ย. บีบีซีรายงานว่า ทางการนครมุมไบจัดงานรำลึกครบรอบ 1 ปี เหตุก่อการร้ายเขย่าโลก กลุ่มมือปืนกระหายเลือดนับสิบคนออกอาละวาดบุกยิงและวางระเบิดถล่มสถานที่หลายแห่งในมุมไบพร้อมๆ กัน เช่น สถานีรถไฟ ศูนย์ชุมชนชาวยิว และโรงแรมหรู 2 แห่ง มีผู้เสียชีวิต 174 ราย คนร้ายโดนวิสามัญตายทั้งหมด เหลือรอดชีวิต 1 คน นำไปสู่การขยายผลพบว่า กลุ่มลัชการ์ อี-ไทบา ในปากีสถานเป็นคนบงการ

รายงานแจ้งว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงความไร้ประสิทธิภาพในการรับมือผู้ก่อการร้าย ในงานรำลึกครั้งนี้ ตำรวจจึงจัดขบวนพาเหรดพร้อมกับแสดงศักยภาพยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ อาทิ เรือลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและรถดับเพลิงเคลื่อนที่เร็ว จัดซื้อด้วยงบประมาณกว่า 871 ล้านบาท และจัดตั้งหน่วยคอมมานโดต่อต้านการก่อการร้ายอีกด้วย ขณะที่ประชาชนพากันจุดเทียนและนำไปตั้งไว้ยังจุดเกิดเหตุ และขีดเขียนข้อความตามกำแพงไว้อาลัยผู้จากไป

คมชัดลึก : ปิดประชุม “เพศวิถีศึกษา” ครั้งที่ 2 พบปัญหาล่วงละเมิดทางเพศเป็นภัยครองเมือง ขนาดเพศที่ 3 ยังโดนแถมถี่ยิบ บี้รัฐเร่งแก้ข้อกฎหมาย เพิ่มโทษหนัก ขณะที่“นักวิชาการ” ชี้รัฐทำหน้าที่แค่ควบคุม แต่ไม่ให้ความรู้ เหตุสร้างปัญหาสารพัด
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ ในการประชุมเรื่อง “เพศวิถีศึกษากับเพศวิถีปฏิบัติในสังคมไทย ครั้งที่ 2” จัดโดยศูนย์ศึกษานโยบายสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ เครือข่ายความหลากหลายทางเพศ และ แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผศ.ดร.สุชาดา ทวีสิทธิ์ อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล กล่าวในวงเสวนาเรื่อง “ทิศทางการแก้ไขกฎหมายการล่วงละเมิดทางเพศ” ว่า ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเป็นภัยคุกคาม พบได้ทั้งที่ทำงาน สถานศึกษา บ้าน และสถานที่สาธารณะ และพบได้กับทุกคนทั้งเด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ แต่กฎหมายที่จะแก้ไขและจัดการปัญหาดังกล่าวในประเทศไทยยังไม่เข้มแข็งพอที่จะแก้ปัญหาได้
ผศ.ดร.สุชาดา กล่าวว่า เมื่อพิจารณากฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการคุกคามทางเพศของไทย พบว่า ยังไม่มีกฎหมายที่เหมาะสม เพื่อป้องกัน เยียวยาปัญหาการคุกคามทางเพศ แม้จะมีการตรากฎหมายเพื่อคุ้มครองระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ในเรื่องของการล่วงละเมิดทางเพศ แต่ยังไม่มีกฎหมายที่ป้องกันการล่วงละเมิดระหว่างลูกจ้าง หรือการถูกคุกคามในที่ทำงาน หรือ หน่วยงานดูแลการให้คำปรึกษา ร้องเรียน สำหรับหน่วยงานราชการมีโทษกรณีกระทำผิดหลายระดับแต่ไม่มีการระบุในกรณีการล่วงละเมิดทางเพศ เช่นเดียวกับในสถานศึกษา
ผศ.ดร.สุชาดา กล่าวว่า จากรายงานปัญหาการถูกล่วงละเมิดทางเพศในประเทศต่างๆได้พบปรากฎการณ์สำคัญ เช่น ในสหภาพยุโรปผู้หญิง 40%-50% แจ้งว่าถูกคุกคามทางเพศในที่ทำงาน การสำรวจในประเทศฮ่องกง พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่สัมภาษณ์ 25% เคยถูกคุกคามทางเพศและหนึ่งในสามเป็นผู้ชาย ซึ่งในจำนวนน้อยนี้กล้าจะรายงานเพียง 6.6% เพราะเกรงโดนล้อเลียน ในขณะที่ การสำรวจของคณะกรรมการโอกาสที่เท่าเทียมกันแห่งออสเตรเลียเมื่อปี 2547 นั้น พบว่า 18% ของกลุ่มตัวอย่างอายุ 18-64 ปี เคยถูกคุกคามทางเพศในที่ทำงาน โดยเป็นการคุกคามทางร่างกาย 62% แต่มีเพียง 32% ที่กล้าร้องเรียน และยังพบว่าผู้ชายที่มักถูกคุกคามมากที่สุด คือ กลุ่มรักเพศเดียวกัน ซึ่งแนวโน้มเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ
“ข้อเสนอคือ ต้องการให้ภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศ คือ อาจจะมีการร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ โดยเพิ่มความผิดอาญามากขึ้น จากเดิมที่มีโทษเพียงลหุโทษเท่านั้น หรือการปรับเพิ่มโทษในกฎหมายอาญา โดยจำเป็นต้องมีการศึกษาเพื่อนำมาแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศอย่างจริงจัง และไม่ได้ทำเฉพาะการถูกล่วงละเมิดในเพศหญิง แต่หมายความถึงทุกเพศ ทุกวัย”ผศ.ดร.สุชาดา กล่าว
น.ส.นัยนา สุภาพึ่ง ผู้อำนวยการมูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องส่วนตัว อย่างที่เคยเข้าใจ แต่เป็นเรื่องที่ภาครัฐและสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการควบคุมความประพฤติมากกว่าการคุ้มครอง สะท้อนให้เห็นว่าสังคมยังมีมุมมองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องไม่ดีที่ต้องควบคุมเอาไว้ ทำให้ประชาชนต้องเจอกับความไม่ปลอดภัยในเรื่องเพศ ซึ่งเกิดการต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะฐานความรู้ไม่เพียงพอ จนเกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยด้านต่างๆ ทั้งท้องก่อนวัย โรคทางเพศสัมพันธ์ การถูกกีดกันทางสังคมของผู้รักเพศเดียวกัน เช่น ไม่สามารถเข้าถึงบริการรัฐ การปิดโอกาสด้านอาชีพการงาน หรือ ความเสี่ยงติดเชื้อเอดส์ของผู้หญิงที่เป็นแม่บ้าน
“ยังมีข้อกฎหมายที่ควรปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้เกิดความเสมอภาคในคนทุกกลุ่ม เช่น ร่างกฎหมายส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาค ระหว่างเพศ ฉบับประชาชน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เกิดการยื่นคำขอคุ้มครองสิทธิแทนได้ เพราะผู้ถูกละเมิดส่วนใหญ่ยังไม่สามารถทำเรื่องขอคุ้มครองสิทธิให้ตัวเองได้ หรือกลัวว่าจะถูกตำหนิซ้ำซ้อน และถูกเพ่งเล็งจนใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้ รวมถึงการเยียวยา การชดเชยต่างๆแก่ผู้ถูกละเมิดสิทธิ”น.ส.นัยนา กล่าว
ไมได้มีแต่ ภัย7749 นะค่ะ
ซ้อมภัย 7749 ทำให้ประหยัดไฟโลกจะได้เย็น
คมชัดลึก :การไฟฟ้านครหลวงแจ้งให้ทราบ วันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2552 และวันที่ 1 ธันวาคม 2552 ไฟฟ้าดับหลายจุด
วันเสาร์ที่ 28 พ.ย.52
เวลา 08.00-15.30 น. บริเวณ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 63 จนสุดซอย
วันอาทิตย์ที่ 29 พ.ย.52
เวลา 08.00-15.30 น. ถ.กาญจนาภิเษก บริเวณ ซ.ร่วมพัฒนา ตั้งแต่บริเวณซอยแยก ซ.ร่วมพัฒนา จนสุดซอย
เวลา 08.00-17.00 น. ถ.สุขสวัสดิ์ (ฝั่งทิศใต้) ตั้งแต่สถานีไฟฟ้าย่อยคลองสรรพสามิต หมู่บ้านป้อมปราการ ถึงโรงงานหมวกกันน็อก ตรงข้ามวัดไตรมิตร ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์
เวลา 08.30-15.30 น. ปากซอยโรงไก่ ถึงแยก ถ.ราชพฤกษ์, ซ.เทเลคอม (ฉลองกรุง 29), ถ.ประดิษฐมนูธรรม จากแยกลาดพร้าว ถึงบริเวณหน้าแหลมทองการแพทย์

วันอังคารที่ 1 ธ.ค.52
เวลา 09.00-15.30 น. ถ.รามคำแหง ซ.ธารากร 166

27 พย. 2552 17:11 น.

doodee1 · 27 พฤศจิกายน 2009

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=419065
<DD>ตำรวจฮ่องกง เปิดเผยในวันนี้ว่า กำลังตามไล่ล่าผู้สร้างสรรเฟซบุ๊คกลุ่มที่สอง ที่กระตุ้นให้พวกวัยรุ่นคิดสั้นฆ่าตัวตาย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานปราบปรามอาชญากรรมด้านการพาณิชย์ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเครือข่ายของกลุ่ม ที่ใช้ชื่อว่า " ไอ แฮฟ ทู แพร็คไทส์ ซูอิไซด์ " และกำลังสืบสวนคดีที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องอยู่ 2 คดี เพียงแต่ยังไม่มีการจับกุมเกิดขึ้นเท่านั้น
<DD>ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า มีอีกกลุ่มหนึ่งปรากฎขึ้นเมื่อวันพุธ และมีคนเข้าไปประมาณเกือบ 100 คน และในเฟซบุ๊คอันใหม่นี้ ก็มีข้อความตัดพ้อในทำนองว่า ผู้ใหญ่ทำถูกไปหมด แต่เวลาเด็กทำบ้างจะถูกตัดสินว่าผิด เมื่อไม่ถูกยอมรับว่ามีตัวตนอยู่ในโลก แล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม
<DD>ตำรวจระบุว่า เฟซบุ๊คกลุ่มแรก คือ ไอ แฮฟ ทู แพร็คไทส์ ซูอิไซด์ ได้เรียกร้องให้สมาชิก 190 คน ฆ่าตัวตายพร้อมกันในวันที่ 21 ธันวาคม และถูกเชื่อมโยงกับคดีพยายามฆ่าตัวตายด้วย หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า ตำรวจได้ติดตามร่องรอยของผู้สร้างสรรเฟซบุ๊ค ไอ แฮฟ ทู แพร็คไทส์ ซูอิไซด์ แล้ว แต่แหล่งข่าวระบุว่า คนที่ทำเป็นเพียงวัยรุ่นคนหนึ่งที่ทำเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่สนใจ หลังจากตำรวจได้สอบสวนไปสู่กรณีที่เด็กชายวัยรุ่นอายุ 15 ปี พยายามจะกระโดดลงมาจากหลังคาโรงเรียน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และพบว่า เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มนี้ด้วย</DD>
คมชัดลึก :เพื่อไทยโวยโยง"ทักษิณ"ทำดูไบเจ๊ง ยันวิกฤติดูไบไม่กระทบ"ทักษิณ"เหตุทำธุรกิจแค่สัมปทานบ่อน้ำมันและไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย
(27พ.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่ากรณีดูไบเกิดปัญหาฟองสบู่แตก จนต้องขอเลื่อนการชำระหนี้ออกไป และส่งผลให้ตลาดหุ้นหลายแห่งทั่วโลกติดลบนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา ที่ไปลงทุนในดูไบอย่างแน่นอน เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีธุรกิจสัมปทานบ่อน้ำมันเพียงอย่างเดียว และเป็นธุรกิจที่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนธุรกิจอื่นๆ เช่น ด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีธุรกิจด้านนี้
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะดูไบได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และก่อนหน้านี้ดูไบพยายามวางแผนขยายประเทศ สร้างตึกรามบ้านช่องใหญ่โต ซึ่งเมื่อครั้งที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางไปเยี่ยมที่ดูไบนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พาเยี่ยมชมเมืองที่มีการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์มากมาย ซึ่งสุดท้ายธุรกิจเหล่านี้ก็ไม่มีกำลังชำระหนี้จนเกิดปัญหาขึ้นมา อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจประเภทนี้ เพราะเห็นว่ามีความเสี่ยง และได้ประเมินสถานการณ์มานานแล้ว
ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้าไปพำนักในดูไบ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงเป็นการพยายามโยงเรื่องเข้ามา เพื่อหวังผลทางการเมือง
ต่อข้อถามคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านที่ผ่านมา คตส.พยายามจับประเด็นโยงเงินทั้งหมด ทั้งก่อนและหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณเข้ารับตำแหน่ง ทั้งที่ความจริงควรมองเฉพาะประเด็นเงินที่ได้เพิ่มขึ้นมาหลังรับตำแหน่งนายกฯเท่านั้น
"เงินที่มีอยู่ก่อนไม่ได้ทุจริตเลย ทำไมมาเหมารวม ต้องไปลบออก " นายสุรพงษ์กล่าว

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=5&contentID=34367
ผู้นำสหรัฐ-จีนยันเข้าร่วมประชุมโลกร้อน
วันศุกร์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา 7:34 น
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของผู้นำสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กระหว่างวันที่ 7-18 ธ.ค.นี้ ขณะที่นักวิทยาศาสตร์เผยแพร่รายงานระบุว่า หากปล่อยให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเช่นนี้ต่อไป ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีก 2 เมตรสิ้นศตวรรษนี้

ประธานาธิบดีโอบามา ให้คำมั่นว่า สหรัฐจะดำเนินการเป็นลำดับขั้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าจะเริ่มต้นด้วยลดการปล่อยลงร้อยละ 17 จากระดับที่ปล่อยในปี 2548 ภายในปี 2563 ซึ่งสหรัฐจะมีข้อเสนอนี้ต่อ ที่ประชุมฯที่กรุงโคเปนเฮเกนในเดือนธ.ค. ประธานาธิบดีโอบามา จะเดินทางเข้าร่วมประชุมในวันที่ 9 ธ.ค. แต่จะไม่อยู่ร่วมในขั้นตอนการประชุมที่สำคัญ

ขณะที่ นายฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน จะเข้าร่วมการประชุมประเทศภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหประชาชาติ และว่าการเข้าร่วมการประชุมของนายเหวินจะแสดงให้เห็นบทบาทของจีนอย่างชัดเจนต่อประเด็นดังกล่าว และความสมัครใจในการร่วมมือกับประชาคมโลก

ด้านรัฐบาลเดนมาร์กเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย สำหรับการประชุมระหว่างวันที่ 7-18 ธ.ค.นี้ โดยมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน การประชุมดังกล่าวอาจมีผู้เข้าร่วมประมาณ 30,000 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ก่อกวน ด้วยการวางกำลังเจ้าหน้าที่มากเป็นประวัติการณ์

ส่วนนักวิทยาศาสตร์ 26 คน จาก 8 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐและอังกฤษ ได้เปิดเผยรายงานสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ระบุว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จาก กระบวนการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน ในปี 2551 เพิ่มขึ้นจากระดับในปี 2533 ถึง ร้อยละ 40 จึงเตือนว่า หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป อุณหภูมิทั่วโลก อาจร้อนขึ้น 2-7 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ ยังเผยด้วยว่า ธารน้ำแข็งในแถบขั้วโลกกำลังละลายลงรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาจนถึง 2551 ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 5 เซนติเมตร จึงคาดการณ์ว่า สิ้นศตวรรษนี้ระดับน้ำทะเลอาจเพิ่มขึ้นถึง 2 เมตร.

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

B1.JPG

B2.JPG

B3.JPG

B4.JPG

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

winny เป็นที่รู้จักกันดี

คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

ไฟล์ที่แนบมา:

dubai_towers.jpg

เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

ไฟล์ที่แนบมา:

specialreport_0932094222.jpg

แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

ไฟล์ที่แนบมา:

552000015590001.jpg

หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

doodee1 คนละพวก

doodee1 คนละพวก

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ไฟล์ที่แนบมา:

ไฟล์ที่แนบมา:

ไฟล์ที่แนบมา:

ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา