ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ความเป็นไปได้ในการป้องกันและชะลอการเกิดภัยพิบัติ
    ก่อนอื่นเราต้องทราบเหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติ ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ก่อน โดยขอแยกออกเป็นสองประเด็น
    ประเด็นแรก
    สาเหตุการเกิดภัยพิบัติทางด้านวิทยาศาสตร์
    1.เกิดจากความขาดความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งใช้ทรัพยากรของโลกอย่างทำลายล้างให้หมดไป ตามแนวคิดของทุนนิยม ที่มุ่งที่ผลกำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว ไม่สนใจ ผลสืบเนื่องจากการพัฒนาอุตสาหกรรม ที่สร้างก๊าซเรือนกระจก อันเป็นต้นเหตุของก๊าซเรือนกระจก
    2.การตัดไม้ทำลายป่า การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ การสร้างบ้านเรือนกีดขวางทางน้ำ ทางลม ไม่สอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ ก่อให้เกิด ปัญหาโลกร้อน น้ำท่วม สภาพอากาศแปรเปลี่ยนไม่เป็นไปตามฤดูกาล
    ประเด็นที่สอง
    สาเหตุการเกิดภัยพิบัติ ทางด้านจิตนิยม จากการวิเคราะห์เรื่องกรรม และผลของกรรม
    1. เกิดจากพลังด้านลบ ด้านมืดของจิตใจ มนุษย์ ที่เสื่อมทรามลง ปราศจากศีลธรรม ความดี มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นแรงดึงดูดหายนะมาสู่โลกนี้
    2. แรงสะสมของความอาฆาตแค้น ของมนุษย์และสัตว์ต่างๆ ที่สะสม มาเป็นเวลานาน จากการเบียดเบียนกันบ้าง ความคับแค้นใจบ้าง ความไม่เป็นธรรมบ้าง มารวมตัวกันให้เกิดกรรมด้านปาณาติบาท
    3. อวิชชาของผู้นำประเทศที่มีอาวุธทำลายล้างสูงอยู่ในมือ มีมานะ ถือตัว ถือตน มุ่งเอาชนะกัน โดยไม่สนใจ ชาวโลก คนอื่น ที่จะต้องมารับผลกรรม รับความยากลำบาก จากการตัดสินใจของคนแค่ไม่เกินสิบคนบนโลก แต่ทำให้คนตาย เป็นพันล้านคน
    แม้ทราบเหตุแล้ว วิธี ชะลอหรือแก้ไขก็มีอยู่
    1.ทุกคนบนโลกต้องกลับความคิด ทั้งหมด ลด ละ เลิก ความเห็นแก่ตัว กลับมามองว่าภารกิจแห่งชีวิตคือการร่วมมือกันรักษาโลกใบนี้
    2.ทุกคนบนโลก หันกลับมาให้คุณค่าทางจิตใจ ให้เหนือกว่าวัตถุ ทำใจตนให้เป็นคนดี ตามคำสอนของศาสนาตนเอง
    3.ทุกคนบนโลกร่วมมือกันทำสมาธิเพื่อสันติภาพของโลกใบนี้
    4.ทุกคนบนโลกต้องดำเนินชีวิต อย่างตระหนักถึงการอยู่ร่วมกัน การแบ่งปันทรัพยากรกัน และมีจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรโลกอย่างรู้คุณค่า
    5.ทุกคนบนโลกในทุกประเทศ ต้องคัดเลือกผู้นำจากผู้ที่มีศีล มีธรรม มีความดี เห็นต่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
    6.ทุกคนบนโลก ต้องรู้จักประหยัด อนุรักษ์ ทุกสิ่งบนโลก ลดการใช้พลังงาน(ที่ไม่จำเป็น ) ลดขยะ ลดการบริโภคที่ฟุ่มเฟือย
    7.ทุกคนบนโลกต้องช่วยกันปลูกต้นไม้ ให้ได้วันละหนึ่งต้น ทุกวัน และทุกคน
    8.ทุกคนบนโลกต้องคิดได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ถูกบังคับให้ทำ ทั้งเจ็ดข้อนี้ และเริ่มที่ตัวเองเดียวนี้ ทันที
    ถ้าทำได้ โลกเราก็ยังมีหวัง ที่จะปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวง
    เหตุการณ์ทั้งหมด ได้ถูกเตือนผ่านเส้นการเดินทางของกาลเวลา ผ่านมาในรูปของคำทำนายต่างๆมานับร้อย นับพันปีแล้ว
    และก็ได้มีการเตือนมาสามสี่ครั้งในรอบ ยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ ที่จริง เรามีเวลาแก้ไขเหตุการณ์นี้ได้ตั้งหลายครั้ง
    แต่.............
    ไม่มีคนสนใจ และ ซ้ำยังหัวเราะเยาะ บ้าง
    มองว่าเป็นเรื่องของคนอื่นบ้าง
    ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ไม่ใช่หน้าที่ของเรา
    ที่จริงแล้ว ทุกๆคน ล้วนแต่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้ กิน อยู่ ด้วยกัน
    ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ที่ทุกคนบนโลกต้องเผชิญกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้อย่างกล้าหาญ และร่วมกันแก้ไขสถานะการณ์ ด้วยความสามัคคี
    อะไรที่ช่วยได้ทำได้ เราก็จงลงมือทำ ไม่ต้องเกี่ยงว่าเป็นหน้าที่ใคร อะไรที่เป็นความดี เราก็จงทำ อะไรที่ช่วยเหลือธรรมชาติได้ เราก็ลงมือทำ
    เป็นหน้าที่ของทุกๆคนบนโลกใบนี้ที่ต้องลงมือทำ นับจากนี้เป็นต้นไปครับ
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    <BIG minmax_bound="true">Recent Earthquakes - Last 8-30 Days </BIG>

    [​IMG]
    <!-- insert start -->[FONT=arial, helvetica]
    [SIZE=-1]You may need to reload this page for the latest list.[/SIZE]
    Current Time:<SCRIPT language=JavaScript minmax_bound="true"><!-- Hide scriptdocument.write (nowutc)// end JS hide --></SCRIPT> Tue, 30 Jan 2007 11:50:08 UTC
    [/FONT]

    เห็นชัดมากครับคุณคนานันท์
    ในช่วง 30 วันที่ผ่านมาเกิดแผ่นดินไหวไปตามขอบ plate ทั่วโลกทีเดียวครับ
     
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ดูจะหนักหน่อย(สีแดงๆ) แถบซีกตะวันออกนะครับ แถวญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย..ดูแล้วทางอ่าวไทยบ้านเราต้องระวังเป็นพิเศษ
     
  4. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    [​IMG]
     
  5. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ดัชนีความรุนแรงในไทยเดือนม.ค. ปี 50 ยังอยู่ระดับปานกลาง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 มกราคม 2550 11:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> “รามคำแหงโพล” เผยดัชนีความรุนแรงในสังคมไทยเดือนมกราคม 2550 มีค่าดัชนีระดับปานกลาง ส่วนที่มีความรุนแรงระดับประเทศมากที่สุด จากเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดใต้ และการวางระเบิดในกรุงเทพฯ ขณะที่ “สวนดุสิตโพล” อยากเห็นการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข รู้รักสามัคคี มีศูนย์รวมจิตใจอยู่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ศูนย์ประชามติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือรามคำแหงโพล สำรวจความเห็นจากประชาชนทุกภาคของประเทศจำนวน 4,915 คน เมื่อวันที่ 24-30 มกราคม 2550 ในหัวข้อ “ดัชนีวัดความรุงแรงในสังคมไทยเดือนมกราคม 2550” โดยวัดความรุนแรงทั้งในระดับครอบครัว ระดับชุมชน และระดับประเทศ ทั้งนี้ กำหนดค่าดัชนีสูงสุด 1 ต่ำสุด 0 ถ้าค่าดัชนีเข้าใกล้ 1 แสดงว่ามีความรุนแรงมากขึ้น ถ้าเข้าใกล้ 0 แสดงว่ามีความรุนแรงน้อยลง พบว่าความรุนแรงอันดับ 1 คือ การก่อการร้ายภายในประเทศไทย ค่าดัชนี 0.613 อันดับ 2 การทำร้ายเด็ก ค่าดัชนี 0.597 อันดับ 3 การทำร้ายผู้หญิง ค่าดัชนี 0.594 อันดับ 4 การทำร้ายผู้อื่นโดยเกิดจากเด็กและเยาวชน ค่าดัชนี 0.534 และอันดับ 5 การทำร้ายจิตใจซึ่งกันและกันภายในครอบครัว ค่าดัชนี 0.410

    โดยภาพรวมความรุนแรงในสังคมไทยเดือนมกราคม มีค่าดัชนี 0.457 ซึ่งจัดเป็นความรุนแรงระดับปานกลาง ส่วนที่มีความรุนแรงระดับประเทศมากที่สุด เนื่องจากเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการวางระเบิดในกรุงเทพฯ อันดับต่อมาคือการทำร้ายเด็กและสตรีซึ่งเกิดขึ้นในสังคมไทยมานานจนถึงปัจจุบัน ส่วนความรุนแรงในชุมชนเป็นการทำร้ายร่างกายมากกว่าการฆาตกรรม และความรุนแรงในครอบครัวมีลักษณะเป็นการทำร้ายจิตใจซึ่งกันและกันมากกว่าการทำร้ายร่างกาย ซึ่งดัชนีความรุนแรงดังกล่าว บ่งชี้ว่านโยบายสำคัญที่รัฐต้องให้ความสนใจเป็นอันดับแรก คือ การแก้ปัญหาการก่อการร้ายที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือเด็กและสตรีอย่างเต็มที่ มิฉะนั้นเด็กและผู้หญิงก็จะตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงอีกต่อไป

    ด้าน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สะท้อนความเห็นประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศถึงสภาพสังคมไทย ณ วันนี้ ทั้งในด้าน “ความไม่น่าอยู่” “ความน่าอยู่” และ “สังคมไทยในฝัน” เพื่อแสวงหาแนวทางในการที่จะช่วยกัน “พัฒนาจิตสำนึกพลเมือง เพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่” โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 3,783 คน ระหว่างวันที่ 22-30 มกราคม 2550 พบว่า สิ่งที่ทำให้สังคมไทยวันนี้ “ไม่น่าอยู่” คือความเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักพอของบุคคลบางกลุ่ม คิดเป็นร้อยละ 28.62 คนในชาติขาดความสามัคคี เกิดความแตกแยก ร้อยละ 24.20 สถานการณ์ความไม่สงบสุขของบ้านเมืองจากฐานอำนาจเก่า ร้อยละ 17.56 ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ร้อยละ 17.02 และสถานการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ร้อยละ 12.60

    ส่วนสิ่งที่ทำให้สังคมไทยวันนี้ “น่าอยู่” ร้อยละ 39.69 เห็นว่า รู้รักสามัคคีไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ร้อยละ 21.81 เอื้อเฟื่อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ รู้จักการให้อภัยซึ่งกันและกัน ร้อยละ 14.33 ให้การบริหารประเทศจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ขณะที่ลักษณะสังคมไทยในฝันตามความคิดเห็นของประชาชน พบว่าเกือบครึ่ง หรือร้อยละ 44.99 อยากเห็นการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข รู้รักสามัคคี โดยมีศูนย์รวมจิตใจอยู่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร้อยละ 26.29 อยากเห็นประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใส ช่วยเหลือแบ่งปัน มีน้ำใจโอบอ้อมอารี และร้อยละ 10.22 ให้พึงพอใจในสิ่งที่ตนมี ใช้ชีวิตพอเพียง เป็นต้น

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลกระทบและเป็นอันตรายต่อภูมิภาคเอเชียอย่างไร ?


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เกิดขึ้นแล้ว หลักฐานคือการละลายของธารน้ำแข็งและแผ่นน้ำแข็งในบริเวณขั้วโลก การฟอกขาวของปะการัง ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ระบบนิเวศที่เปลี่ยนแปลงไป และความแห้งแล้งที่ยาวนานและทวีความรุนแรงขึ้น รายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ประชากร 150,000 คน เสียชีวิตทุกปีจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยเหตุนี้เอง เราจำเป็นต้องเร่งลงมือกระทำการบางอย่างก่อนที่โลกของเราจะถูกทำลายจนเสียหายและมิอาจเยียวยาได้

    ภัยแล้งในประเทศไทยที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547 และ เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ส่งผลกระทบต่อประชากรกว่า 700,000 คน โดยเฉพาะเกษตรกร กรีนพีซเชื่อว่าอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้นและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นจุดเริ่มต้นของความแห้งแล้งที่รุนแรงที่สุดที่ส่งผลกระทบฟิลิปปินส์ ไทย และ กัมพูชา เมื่อไม่นานมานี้

    <O:p
    โลกของเราทุกวันนี้ร้อนขึ้นกว่าเมื่อ2,000 ปีที่แล้ว ในทศวรรษที่ 1990 เป็นทศวรรษที่ร้อนที่สุดของโลกและในศตวรรษที่ 1900 เป็นศตวรรษที่ร้อนที่สุดในรอบ 1,000 พันปี ปีที่ร้อนที่สุดทั้ง 7 ปี ล้วนเกิดขึ้นในทศวรรษนี้โดยที่ปี พ.ศ. 2541 เป็นปีที่ร้อนที่สุด หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงช่วงสิ้นศตวรรษ อุณหภูมิโลกจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าช่วงใดๆ ในรอบ 2 ล้านปีที่ผ่านมา

    ข้อมูลจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change,IPCC) ระบุว่า มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาระดับอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้อยู่ในระดับต่ำกว่าระดับ 2 องศาเซลเซียส เทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดตามมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    IPCC ระบุว่า มีหลักฐานใหม่และแน่นหนาที่ได้จากการสังเกตการณ์ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาพบว่าสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีสาเหตุสำคัญจากกิจกรรมของมนุษย์ กว่าหนึ่งศตวรรษที่มนุษย์พึ่งพาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานโดยที่ถ่านหินนั้นสกปรกที่สุด การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน จะปล่อยก๊าซที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนหลายชนิด เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ ยิ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกปล่อยเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากเท่าไร ก็เท่ากับเราเพิ่มผลกระทบจากภาวะเรือนกระจกให้กับโลกของเรามากขึ้นด้วยการกักเก็บความร้อนและเพิ่มอุณหภูมิในโลกให้สูงขึ้น สิ่งนี้เองทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงตามมากับระบบนิเวศของโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะมีผลกระทบต่อประเทศกำลังพัฒนามากที่สุด
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    มีหลักฐานชัดเจนที่ชี้ว่าปรากฎการณ์ธรรมชาติ เช่น พายุเฮอร์ริเคน อุทกภัย ภัยแล้งและคลื่นความร้อน ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น (และจะรุนแรงมากขึ้นและเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ) เพราะสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากข้อมูลของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติพบว่า มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสภาพอากาศที่รุนแรงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2503 จำนวนภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 7 เท่า คิดเป็นมูลค่าของความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1950 จาก 3,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี มาเป็น 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี ในทศวรรษที่ 1990 ตัวเลขของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติเพิ่มจาก 740 ล้านคนในทศวรรษที่ 1970 มาเป็น 2,000 ล้านคนในทศวรรษที่ 1990 และส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศยากจน ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น การละลายของธารน้ำแข็ง อุทกภัยครั้งใหญ่ ผลผลิตการเกษตรที่ลดต่ำลงและการเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ของสิ่งมีชีวิตบางชนิด และ ความสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เหล่านี้จะเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคต หากเราไม่หยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเสียแต่เนิ่นๆ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคืออะไร ?<O:p</O:p
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือการที่โลกของเราร้อนขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากกิจกรรมของมนุษย์ มันเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงที่สุดที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ และรัฐบาลทั่วโลกต่างเห็นพ้องว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำลาย และทำให้ระบบนิเวศทางธรรมชาติหลายแห่ง รวมทั้งชุมชนได้รับความเสียหาย<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อเราเอ่ยถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับโลก เรากำลังหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทั้งหมดทั่วโลก อัตราและความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกในระยะยาวจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นได้อย่างไร?<O:p</O:p
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดจากปริมาณความเข้มข้นของก๊าซบางชนิดในชั้นบรรยากาศที่เพิ่มมากขึ้น ก๊าซที่เก็บความร้อนเหล่านี้จะทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในชั้นบรรยากาศโลกเพราะมันจะดักจับความร้อนที่เพิ่มขึ้นในกระบวนการต่างๆ ก๊าซในกลุ่มนี้ที่มีอยู่ทั่วไปคือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ปล่อยออกมาจากระบวนการเผาไหม้ถ่านหิน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ จากโรงไฟฟ้า ยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรมและอื่นๆ รวมถึงการตัดไม้ทำลายป่าจำนวนมหาศาล
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อะไรคือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ?<O:p</O:p
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นมากกว่าเรื่องของความร้อน จากรายงานการประเมินครั้งที่ 3 ของ IPCC พบว่าอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในรูปแบบต่างๆ เช่น รูปแบบของลม จำนวน และ ชนิดของไอน้ำในอากาศ (ฝน ลม หิมะ น้ำแข็ง) รวมทั้งความถี่ของอากาศที่รุนแรงขึ้นซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังกล่าวอาจจะยังไม่เกิดขึ้น และ/หรืออาจจะทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐกิจตามมา ตัวอย่างผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้แก่
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1. ปริมาณน้ำจืดที่ลดลง - ภายในเวลา 50 ปี จำนวนของประชากรที่ขาดแคลนน้ำดื่มจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 5,000 ล้านคนจากทั้งหมด 8,000 ล้านคน
    <O:p</O:p

    2. ผลผลิตการเกษตรตกต่ำลง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2007
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    สรุปรวมสถานที่ปลอดภัย(เพิ่มเติม)
    โดยคุณคณานันท์
    ก่อนอื่น ต้องขอเรียนให้ทุกท่านได้ทราบก่อนว่า
    "การที่ท่านจะเป็นผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้นั้น ได้ถูกกำหนดมาโดยอำนาจของกฏแห่งกรรม "
    "การที่สถานที่แห่งหนึ่งเหมาะสมกับท่านแต่ก็อาจไม่เหมาะสมกับผู้อื่น "
    "แต่ละสถานที่ก็ยอม มีกฏ มีข้อวัตร มีแนวทางการปฏิบัติ ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นท่านก็ควรที่เลือกให้เหมาะสมกับตัวท่าน แต่แรก หรือไม่เช่นนั้นท่านก็ควรที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานที่เหล่านั้น"
    "ถ้าท่านถูกกำหนดมาให้รอดก็ย่อมมีที่ ที่เหมาะสมกับท่านอยู่แล้ว ขอให้ท่านอธิฐาน ด้วยใจมั่นที่จะพบสถานที่แห่งนั้น และรู้ได้ด้วยตัวเอง"

    สถานที่ที่เตรียมไว้เป็นที่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์ในการเกิดภัยพิบัตินี้ แบ่งออกได้เป็น

    1. สถานที่ส่วนบุคคล ที่ถูกเตรียมไว้เป็นเซฟเฮาส์ ของท่านผู้มีบารมีทั้งหลาย ที่เหล่านี้เป็นที่ส่วนตัว ไม่เปิดรับบุคคลภายนอก และในบางแห่งก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย (เนื่องจากอาจจะไม่มีบารมี พระ บารมีธรรมคุ้มครอง)
    2.สถานที่ส่วนบุคคล ที่เป็นสถานที่ประกอบธุรกิจ อยู่ในภาวะปรกติ แต่ท่านเจ้าของ ท่านได้ทราบ ในเรื่องภัยพิบัติ และมีใจอันเป็นกุศลที่ปรับสถานที่รองรับ ช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากเมื่อถึงเวลา ส่วนใหญ่ จะอยู่ในรูป รีสอร์ท บ้าง โฮมสเตย์บ้าง ส่วนใหญ่ท่านเจ้าของจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรม มีญาณมีฌาน และมีจิตเมตตา และบารมีครูบาอาจารย์คุ้มครองอยู่
    3.สถานที่เปิด เช่นวัด หรือธรรมสถาน ต่างๆ ขอแยกออกเป็น สองประเภท -ประเภทที่พระหรือท่านผู้ดูแลสถานที่นั้น ท่านได้ทราบว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นและได้จัดเตรียมสถานที่ไว้บ้างแล้ว ( ที่เหล่านี้ เป็นจุดที่พวกเราจะเข้าไปช่วยได้อย่างค่อนข้างเต็มที่) -ประเภทที่ท่านผู้ดูแลสถานที่ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่แรก แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ท่านก็ได้ ให้การช่วยเหลือด้วยเมตตา ไปตามสถานการณ์
    ที่แนะนำให้เราไปอยู่ ไปช่วยก็คือ ประเภทที่หนึ่งครับ เพราะง่ายกว่า สะดวกกว่าในการชี้แจงกับท่านเจ้าของสถานที่
    4. สถานที่เปิด เช่น โรงเรียน ศูนย์ราชการ สนามกีฬา และค่ายทหาร ที่เมื่อถึงเวลา ถ้าจุดใด ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่เสียหายก็จะถูกปรับใช้เพื่อการบรรเทาทุกข์ครับ ที่ประเภทนี้ ยังอันตรายเนื่องจากไม่มีบารมีพระคุ้มครองอยู่เต็มที่ และ ผู้ที่มาอยู่รวมกันก็ไม่มีศีล มีธรรม ในการอยู่ร่วมกัน อาจมีปัญหาในภายหลังตามมา

    ดังนั้นจุดที่ผมอยากจะเน้นก็คือ

    จุดที่เป็น วัด และ สถานที่ปฏิบัติธรรม เป็นสำคัญ ซึ่งจุดสังเกตุว่าที่ใดในที่เหล่านั้นเป็นที่ปลอดภัยก็คือ (จากที่พระท่านบอกมาในสมาธิ)
    -เป็นที่ตั้ง ที่สถิตย์ของ พระธาตุ พระบรมธาตุ หรือรอยพระบาทอย่างใดอย่างหนึ่ง
    -มีพระอริยสงฆ์ หรือพระสุปฏิปันโน ท่านอยู่เป็นมิ่งขวัญ แผ่ บารมีคุ้มครองอยู่
    -ในข้อแรกนั้น ท่านมีข้อแม้ว่า หากไม่มีพระอริยเจ้าอยู่ ก็ขอให้มีพระที่ท่านเป็นสัมมาทิษฐิ มีความเคารพในพระรัตนไตร เป็นปรกติ ดูแลสถานที่นั้น ที่นั้นจึงจะปลอดภัย
    สำหรับ รายชื่อสถานที่เหล่านี้ ให้ดูในหนังสือรวมพระบรมธาตุ ของกลุ่มรักษ์พระธาตุ และหนังสือตามรอยพระบาทของหลวงพี่ชัยวัฒน์ แห่งวัดท่าซุงที่ท่านได้รวบรวมไว้จนถึงเล่มสามแล้ว และที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ มีรอยพระบาท หลายรอยที่พึ่งปรากฏขึ้น ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ (ที่พระท่านบอก ก็คือ การประทับรอยพระบาทนั้น พระพุทธเจ้าท่านต้องอธิฐานจิตกำกับด้วยทุกครั้งไป และการประทับรอยพระบาท ที่นั้นต้องมีเหตุมีปัจจัยที่สมควรแก่การ)
    -เป็นสถานที่ที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญอยู่ สำหรับในเรื่องนี้ มีเรื่องราวยืนยันในหลายเหตุการณ์ในช่วงของการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่ผ่านมา เช่น
    ในฐานทัพ เรือทับละมุ จ.พังงา มีทหารเรือที่รอดตาย เพราะกอดอยู่ที่เท้าของอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร และปรากฏว่าน้ำทะเลแหวกออกเป็นที่อัศจรรย์และทหารผู้นั้นรอดตายได้เห็นกับตา มีนายทหารอีกท่านที่อยู่บนหลังคาของบ้านพัก เห็นเป็นพยานด้วยอีกท่านหนึ่ง
    บริเวณวัด โบสถ์และมัสยิด หลายแห่งใน อินโดนีเซีย และศรีลังกา น้ำทะเลได้แหวกออกเช่นกัน โดยคนที่มาอาศัยใน สถานที่ทางศาสนาเหล่านี้ล้วนรอดชีวิต กันอย่างน่าอัศจรรย์
    จากกรณีเหล่านี้จึงขอให้ท่าน ทั้งหลายได้เน้น สถานที่หลบภัยที่เป็นพุทธสถาน ธรรมสถานเป้นหลัก และตัวเลือกแรกๆ
    จากนั้นให้ท่านพิจารณาดูว่าสถานที่ที่ท่านได้เล็งอยู่นั้น สัปปายะเหมาะสมกับตัวท่านแค่ไหนอย่างไร โดยให้พิจารณาจาก
    -สถานที่นั้นปฏิบัติธรรมในสายที่ท่านนับถือหรือไม่ มีวาสนาบารมีผูกพันกับสถานที่แห่งนั้นหรือไม่ สังเกตุได้ว่าเมื่อไปถึงที่แห่งนั้นแล้ว ใจของท่านเย็น เบาสบาย มีความสุข คล้ายกับได้กลับมายังบ้านที่ได้จากกันมานาน
    -สถานที่นั้นมีข้อวัตรปฏิบัติ ที่ท่านปฏิบัติตามได้หรือไม่ หนักเกินกำลังแค่ไหน ท่านสามารถปรับตัว ปรับใจได้หรือไม่ ถ้าที่นั้น ต้องตื่นตีสาม ตีสี่ทุกวันไหวหรือไม่
    -สถานที่นั้น มีการทานเจ หรือทานปรกติ ตรงกับท่านหรือไม่
    -สถานที่นั้นมีที่พักที่อาศัยต้อนรับท่านได้หรือไม่ มีอาหาร มียารักษาโรค มีเครื่องนุ่งห่ม เพียงพอหรือไม่
    หลังจากพิจารณาได้เรียบร้อยแล้ว ก็พึง จัด พึงเตรียม ช่วยสถานที่เหล่านั้นในการรองรับผู้คนเมื่อเกิดภัยพิบัติเกิดขึ้น ทำความคุ้นเคย กับท่านเจ้าของหรือท่านที่ดูแลสถานที่นั้นๆ มีจุดใดที่ช่วย ที่ส่งเสริมให้ที่นั้นครบถ้วนบริบูรณ์ได้ก็จงพึงทำ
    แต่อย่างไรก็ตามวัตรปฏิบัติขั้นพื้นฐานสำหรับทุกๆสถานที่นั้นควรมีก็ได้แก่
    -มีความเคารพในพระรัตนไตรเป็นปรกติ
    -ศีลห้าเป็นปรกติ
    -เมตตาพรหมวิหารสี่เป็นปรกติ
    -สังคหวัตถุสี่การให้ การสงเคราะห์ ความช่วยเหลือกันมีน้ำจิตน้ำใจกันเป็นปรกติ
    -การส่งเสริมความดีของกันและกันเป็นปรกติ
    -ความไม่เพ่งโทษต่อกันเป็นปรกติ
    -การเจริญสมาธิ วิปัสนา กรรมฐานเป็นปรกติ
    เมื่อทุกสถานที่ทำได้ดังนี้ย่อมปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวงและอยู่กันอย่างสงบสุขร่มเย็นตราบจนปลอดภัย
    สถานที่ที่ได้รวบรวมไว้นี้ อาจยังไม่ครบถ้วนเนื่องจากมี สถานที่ปลอดภัยอีกเป็นจำนวนมาก
    <!-- / message --><!-- sig -->
    รายการปัจจัยที่ต้องเตรียมพร้อม ระยะเวลา 3-6 เดือน (ในช่วงเกิดภัยพิบัติ)

    1 ที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ เครื่องมือสื่อสาร และสิ่งจําเป็น

    1.1 ที่หลบภัยสงคราม เช่น วัด, ถ้ำ, หลุมหลบภัย ,ที่พักอาศัยทั้งชั่วคราว และที่มิดชิดพอที่จะป้องกัน ความแปรปรวนของสภาพอากาศที่รุนแรงได้ กันความหนาวเย็นได้
    1.2 ยานพาหนะ สําหรับลี้ภัย และอะไหล่ เช่น น้ำมันและถังน้ำมันสำรอง, น้ำมันเครื่อง, ใส้กรองอากาศ, ใส้กรองน้ำมันเครื่อง, ยางอะไหล่, ปั้มแบบใช้มือ ควรใช้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล เนื่องจากใช้น้ำมันพืชทดแทนได้
    1.3 วิทยุ และวิทยุสื่อสาร พร้อมแบตเตอรี่สํารอง และรายชื่อสถานีวิทยุหลัก และวิทยุชุมชน
    1.4 ไฟฉาย และถ่านไฟฉาย หรือตะเกียงน้ำมัน, เทียน, ไม้ขีดไฟ, ไฟแช๊ค ,เทียนพรรษา
    1.5 เครื่องมือช่าง เช่น เลื่อย, ค้อน, ไขควง, ตะปู
    1.6 ผ้าใบกันน้ำ, เชือก, เป้, กระเป๋า, ร่ม, เสื้อกันฝน
    1.7 หน้ากากกรองไอเสีย หรือสารพิษ, ถุงมือ ,แว่นตาสำหรับป้องกันฝุ่นละออง เชื้อโรค ลมพายุ
    1.8 รองเท้าหุ้มข้อ, รองเท้า Safety
    1.9 เครื่องปั่นไฟ ทั้งด้วยแรงกล พลังงานแสงอาทิตย์
    1.10 ของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่, ยาสีฟั น, แปรงสีฟัน, ผ้าอนามัย, ผ้าเช็ดตัว
    1.11 แผนที่, เข็มทิศ, GPS, กล้องส่องทางไกล
    1.12 หนังสือธรรมะ, ปฏิทิน, ดินสอ, ปากกา, นาฬิกาที่บอกวันที่ วัน เวลา, สมุดจดบันทึก
    1.13 รายชื่อสถานทีสําคัญ (แนะนําให้ซื้อแผนที่ที่มีรายชื่อสถานที่ต่างๆ)

    2 อาหาร

    2.1 ข้าวสาร ข้าวกล้อง
    2.2 อาหารแห้ง
    2.3 อาหารกระป๋อง
    2.4 กะปิ, น้ำปลา, พริก, เกลือ
    2.5 พันธุ์พืช เช่น ผักสวนครัว, พืชโตเร็ว, ปุ๋ย ,ปุ๋ยชีวภาพ ,สารไล่แมลงชีวภาพ
    2.6 น้ำสะอาด สําหรับดื่มกิน, ถังใส่น้ำ, กระติกน้ำ, เครื่องกรองน้ำ, สารเคมีฆ่าเชื้อในน้ำ เช่น ด่างทับทิม
    2.7 ภาชนะประกอบอาหาร เช่น ช้อน, จาน, หม้อ, หม้อนึ่งอาหาร
    2.8 เตาถ่านประสิทธิภาพสูง , เตาแก๊สหุงต้ม (อาจหา แก๊สในช่วงเวลานั้นไม่ได้)
    2.9 น้ำมันทอดอาหาร
    2.10 ถุงพลาสติก, ยางรัดของ ,ถุงซิปล็อคที่กันน้ำได้
    2.11 นมผง และอุปกรณ์ฆ่าเชื้อขวดนม สําหรับทารก, น้ำยาล้างขวดนม (ต้องระวังความสะอาดเป็นพิเศษ)
    2.12 น้ำยาล้างจาน

    3 ยารักษาโรค

    3.1 ยาสามัญประจําบ้าน เช่น ยาแก้หวัด, ยาแก้ปวด, ยาแก้ แพ้, ยาหม่อง, ยาฆ่าเชื้อรา, ยาดม, ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรอื่นๆ อาจอยู่ในรูปของสมุนไพรแคปซูล หรือยาลูกกลอนที่ประสานด้วยน้ำผึ้ง
    3.2 ยาและอุปกรณ์ทําแผล เช่น ยาแดง, ทิงเจอร์ไอโอดีน, ผ้าพันแผล, เทป, พลาสเตอร์, สําลี, แอลกอฮอล์
    3.3 ยากันยุง ชนิดจุดและชนิดทา, ไฟล่อแมลง (ให้ไปทางอื่น)
    3.4 ยาสําหรับผู้เป็นโรคประจําตัว
    3.5 วิตตามินรวม วิตตามินซี ซึ่งจะจำเป็นมาก เพราะการขาดสารอาหาร และขาดวิตตามินซีจาก ผักผลไม้สด

    4 เครื่องนุ่งห่ม

    4.1 ผ้าห่มกันหนาว, ที่นอน, ถุงนอน, มุ้ง, เต้น (ที่สามารถป้องกันแมลงได้ เนื่องจากเป็นพาหะของโรค)
    4.2 เสื้อกันหนาว
    4.3 เสื้อผ้าหนาๆ มากๆ ในกรณี ที่เกิด หิมะตกจาก ปรากฏการณ์ นิวเคลียร์วินเทอร์ ซึ่งมีอุณหภูมิระดับลบ
    4.4 ผงซักฟอก
    4.5 สารส้ม สําหรับทําให้น้ำตกตะกอน
    4.6 เครื่องกรองน้ำ ดิบ เพื่อใช้อุปโภค

    ส่วนนี้ เป็นคำแนะนำจากคุณลุงคนเชียงใหม่

    1.เตรียมเรื่องอุปกรณ์ส่วนตัว - เสื้อผ้าชุดที่ต้องใช้ยาวนาน1-2 ชุด(ทนทานในทุกสถานการณ์) - อุปกรณ์เครื่องนอน(ชนิดพกพาติดตัวเดินทาง) - เป้เครื่องหลังที่เหมาะสมกับของใช้และนำหนักที่เราแบกไหว (ต้องเพียงพอใส่ของให้มือว่างเป็นอิสระทั้งสองมือด้วย) - รองเท้า 2 คู่ รองเท้าชนิดหุ้มส้น กับรองเท้าแตะ(เลือกชนิดทนจริงๆด้วย) และใช้บ่อยๆจนเชื่อมั่นว่าสามารถใช้เดินทางกับเราได้จริง ไม่กลายเป็นอุปสรรค์ - ยาประจำตัว(ลือกชนิดมีฟร์อยหุ้มกันนำ)เพียงพอในระยะเกิน 3 เดือน - อุปกรณ์อื่นๆ เช่น มีด ไฟฉายอุปกรณ์ช่วยการดำรงชีวิตต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง - อาหารแห้งชนิดสามารถเดินทางต่อเนื่องกันได้ เกิน 7 วัน ซึ่งในเวบมีการให้ข้อมูลและประเมินสถานการณ์ไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ ขอได้ตรวจสอบและจัดเตรียมกันได้แล้ว อย่าลืมต้องกันหนาว มากๆได้ด้วยนะครับ

    <HR>
    2.ขอเตรียมตัวออกกำลังกันอย่างต่อเนื่อง ให้ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แนะนำให้มีการเดินพร้อมเป้สะพายหลังในน้ำหนักที่คิดว่าเราแบกได้ เดินเร็วอย่างต่อเนื่อง วันละ 1-2 ชั่วโมง ทุกวันครับ (ข้อนี้สำคัญมาก ยิ่งท่านที่อยู่ในเมืองที่ต้องย้ายเข้าไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย)

    <HR>
    3.ขอให้ฝึกเจริญมรณะสติ หรือปลงอสุภให้บ่อย เพราะจิตจะได้เข้มแข็งกับการเจอภาพที่น่ากลัวอย่างต่อเนื่อง (เหตุรุนแรงในระยะของการเตือนครั้งสุดท้าย ) รวมทั้งการฝึกฐานของจิตให้ก้าวหน้าต่อไปด้วย

    <HR>
    สำหรับในส่วนนี้เป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านต่างๆ จากคุณ คณานันท์

    การเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย


    1.ลด ละ เลิก เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด และการทำลายสุขภาพ ออกไปจากการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวกลางคืน ติดการพนัน การนอนดึก อดหลับอดนอน ติดเกม ติดบอล
    2.ไปตรวจเช็คสุขภาพเบื้องต้น สำหรับท่านที่ไม่เคยได้ตรวจมาก่อนเลย โดยฌฉพาะท่านที่อายุเกิน 35 ปีขึ้นไปสำหรับท่านที่ สุขภาพแข็งแรงมาก หรือเป็นนักกีฬา ถ้ามีโอกาสได้ตรวจเช็คความฟิตได้ยิ่งดี ควรไปทำฟัน ทำเลซิก หรือดูแลสุขภาพอื่นให้เรียบร้อย
    3.ระดับของสุขภาพเบื้องต้นจนถึงฟิตสุดๆมีดังนี้ -เจ็บป่วย บ่อย มีโรคประจำตัว -สุขภาพดูปรกติ แต่ทำอะไรมักเหนื่อยง่าย -สุขภาพภายนอกปรกติดี แต่มีโรคแอบแฝง -สุขภาพแข็งแรงเป็นปรกติ -สุขภาพ แข็งแรงมาก -สุขภาพแข็งแรงในระดับนักกีฬา -สุขภาพแข็งแรงในระดับนักกีฬามืออาชีพ
    อยากให้ปรับสภาพร่างกายให้ได้กันใน สามระดับสุดท้ายครับ
    4.การออกกำลังกายเพื่อการปรับสภาพร่างกาย สามารถทำได้ทุกๆคน ทุกระดับอายุ แต่การฝึกฝน ต้องทำไปตามกำลังตามสภาพ ตามประเภทที่เหมาะสม กับสภาพร่างกายของตนเอง
    ผมเคยพบคนแก่ อายุ75ปีที่ขี่จักรยานได้ เป็นร้อยกิโลเมตรต่อวัน
    เคยพบ ลุงอายุ 65 ปีที่ตีกอล์ฟมาตลอดชีวิตจน ต้องทำบายพาสหัวใจ แต่แกตัดสินใจ ไม่ทำแต่เอาเงินมาซื้อจักรยานมาขี่ ตอนที่ผมคุยกับแกเรื่องนี้ผมพบแกที่กระทุ่มแบน หลังที่ขี่จักรยานกลับกันมาจากจังหวัด ราชบุรี รวมระยะทาง เกือบสองร้อยกิโลเมตร ในสภาพที่แกหายจากโรคหัวใจแล้ว และออกกำลังกายได้ไม่ต่างจากคนหนุ่มๆ

    เคยได้พบกับน้องๆเด็กๆ นักกีฬาของโรงเรียน ที่ขี่จักรยาน ไปได้ 50 กิโลเมตร พอลงจากรถก็ล้ม วูบไปเฉยๆ โดยควบคุมตัวเองไม่ได้
    เคยได้ยินเรื่องราว ของนักกีฬาที่โดนมะเร็งกินทั้งร่างกาย ต้องตัดปอด อัณฐะ สมองบางส่วนทิ้ง แต่ใจสู้กลับมาออกกำลังกายจน กลับมาเป็นตำนานแห่งวงการกีฬาที่ไม่มีใครจะเอาชนะได้ตลอดกาล ในกีฬาที่ทรมานและเหนื่อยยากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
    เคยได้พบกับเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งแถวๆบ้านที่ขี่จักรยาน เหล็กคันถูกๆ ตามจักรยานเสือหมอบราคาเป็นแสนๆ จากกรุงเทพไป จนถึงเขาตะเกียบ ระยะทาง เกือบ 200 กิโลเมตร
    ที่เล่าให้ฟังข้างต้นนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบและเชื่อว่า สุขภาพที่ดีและแข็งแรงนั้น เริ่มที่ใจของเราเชื่อมั่นก่อนว่าเราจะสามารถมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงได้อย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ และการมีสุขภาพดีนั้นเราต้องฝึกฝนด้วยตัวเราเอง สุขภาพดีเราต้องทำเอง เริ่มเองที่ตัวเรา อวัยวะทุกส่วนในร่างกายนั้น ยิ่งใช้มาก ยิ่งแข็งแรง ส่วนที่ไม่ใช้ก็จะฝ่อ ลีบ ไม่มีเรี่ยวแรง การออกกำลังกายอาจเหนื่อยอาจเมื่ยในตอนต้น แต่ต่อไปก็จะสบายขึ้นเอง และรู้สึกดีกับตัวเองในความแข็งแรงแข็งแกร่งของร่างกายเรา เริ่มที่ตัวเองตั้งแต่วันนี้ครับ
    5.การออกกำลังกายเพื่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อนั้น จะช่วย สร้าง พลังงาน เผาผลาญไขมัน เรียกว่าการออกกำลังกายแบบอนาโรบิก
    สามารถฝึกโดยการยกน้ำหนัก การฝึกออกแรงต้านต่างๆ การวิดพื้น การดึงข้อ เน้นที่น้ำหนักที่ออกแรง จำนวนครั้ง จำนวนเซต
    6.การออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด หรือที่เรียกว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก
    สามารถฝึกได้โดยการเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือเครื่องออกกำลังแบบแอโรบิกต่างๆในยิม การเต้นแอโรบิกแบบต่างๆ เน้นที่ ระยะเวลาในการออกกำลังกาย และ ความเร็วในการเต้นของหัวใจของแต่ละคนเป็นหลัก
    7. การออกกำลังกายเพื่อความยืดหยุ่นของกระดูก เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ
    สามารถฝึกได้โดยการฝึกโยคะ มวยจีนบางสาย ฟิลาเต้ ยิมนาสติก และการฝึกในท่าสเตรทชิ่งเฉพาะส่วน เน้นที่การเหยียด การยืด การมีสมาธิ และการกำหนดลมหายใจ
    8.ถ้าฝึกได้ทั้งสามประเภทได้อย่างสมดุลจะดีมากๆ เริ่มจากน้อย จากเบา ไปก่อน จนร่างกายเริ่มปรับสภาพให้มีความแข็งแรงขึ้น จึงค่อย เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มปริมาณ เพิ่มจำนวนครั้ง จำนวนเซต เพิ่มเวลา ให้มากขึ้น โดยให้หนักขึ้นแต่ไม่หนักจนเกินไป ไม่ช้า เราก็จะแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆด้าน
    9.ฝึกทักษะทางร่างกายในการเอาตัวรอดไว้บ้างเช่น ศิลปะการป้องกันตัว การว่ายน้ำ การวิ่ง การขี่จักรยาน การปีนป่าย

    การเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจ

    1.การวางอุเบกขา
    2.ความมีเมตตา
    3.ความเสียสละ
    4.มรณานุสติ
    5.อสุภกรรมฐาน
    6.วิปัสนาญาณในความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง
    การเตรียมพร้อมทางด้านอุปกรณ์ ของใช้และปัจจัยสี่
    ขอแบ่งเป็น.
    เช็คลิสต์สำหรับคน คนเดียว

    สำหรับกรณี การเกิดภัยพิบัติรุนแรง ต้องอพยพไปสู่ที่ปลอดภัย

    1.เป้ ที่สามารถจุสิ่งของที่จำเป็นสำหรับเราได้ และเราสามารถแบกไหว น้ำหนักรวมไม่ควรเกิน ยี่สิบกิโลกรัม
    2.เต้นท์ ถุงนอน หรือเปล
    3.เสื้อผ้าที่แห้งง่าย บรรจุในถุงพลาสติกกันน้ำ
    4.มีดพับเอนกประสงค์ ช้อน ซ่อม จาน หม้อสนาม ถ้วยน้ำ
    5.อาหารแห้งที่ ทานได้เลย ไม่ต้องปรุงสำหรับ สามถึง เจ็ดวัน น้ำ ที่กรองน้ำขนาดเล็ก อาจใช้ผ้าทบๆกันหลายชั้น ยาฆ่าเชื้อ
    6.ของใช้ส่วนตัวตามความจำเป็น สบู่ ยาสีฟัน แชมพู กระดาษทิชชู่
    7.กระเป๋า ใส่เวชภัณฑ์ ที่มียาประจำตัว ยาทั่วไป อุปกรณ์ทำแผล การเย็บแผล ยาฆ่าเชื้อ ในถุงกันน้ำ
    8.เชือกที่รับน้ำหนักตัวเราได้ แผนที่ เข็มทิศ คู่มือ อุปกรณ์จุกจิก เช่น เข็มด้าย เข็มกลัด เชือกเส้นเล็ก
    9.ไม้ขีดไฟ ไฟแช็ค ไต้จุดไฟ เทียน ไฟฉาย น้ำมัน
    10.ยานพาหนะ รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ จักรยาน

    เช็คลิสต์ อุปกรณ์

    สำหรับรับมือกับ นิวเคลียร์วินเทอร์(ควรอยู่ในที่ปลอดภัยมีที่มุงบังมิดชิด) อุปกรณ์เหล่านี้หากไม่มีการเตรียมการณ์กันไว้ก่อนเฉพาะตัว เมื่อถึงเวลาจะลำบากมาก
    1.เสื้อหนาวหลายตัวที่รับกับความเย็นในระดับลบได้
    2.หน้ากากของสามเอ็ม เบอร์ N95
    3.ถุงมือ ถุงเท้า รองเท้าหนาๆ
    4.แว่นตาแบบปิดคลุม GOGGLE
    5.หมวกไหมพรม
    6.ผ้าโพกปิดจมูกปากอีกชั้นหนึ่ง


    เช็คลิสต์อุปกรณ์ สำหรับท่านที่อาศัยอยู่ในตึกสูง
    Emergency Pack
    ในกรณี แผ่นดินไหว และเกิดอัคคีภัยในอาคาร การวางระเบิดอาคาร

    1.กระเป๋า หรือเป้ที่หยิบฉวยง่ายอยู่ใกล้ตัว
    2.อาหารแห้ง และน้ำดื่มสำหรับ สามวัน โดย ค่อยๆทานทีละน้อย อย่าทานเป็นมื้อใหญ่ ทุกๆ สามสี่ชั่วโมง น้ำใช้จิบ
    3.ไฟฉาย มีดพก ไม้ขีดไฟ ไฟแช็ค เชือก นกหวีดไว้ขอความช่วยเหลือ
    4.กระเป๋าพยาบาล
    5.วิทยุสื่อสาร (ถ้ามี)
    6.ชุดประสบอัคคีภัย
    -แว่นตากันควันไฟ(ราคาตั้งแต่ 80-200-1000 บาท)
    -หน้ากากกันมลพิษ(จากควันไฟ ) ใช้ของ สามเอ็ม เบอร์ เอ็น 95(ราคา 90 บาท)
    -ถุงมือหนังกันความร้อน
    (80%ของผู้ประสบอัคคีภัย ตายจากการสูดควันไฟเข้าไป)
    (อุปกรณ์ข้างต้นสามารถใช้ป้องกันในกรณีเกิดการโจมตีด้วย อาวุธ เคมี ชีวภาพ และนิวเคลียร์ ได้ ในอัตรา 70-80%)
    7.ผ้าห่มหรือถุงนอนขนาดเล็ก
    8.ของใช้ส่วนตัว

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    วันนี้วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3

    วันนี้ตอนเย็นขับรถไปเห็นพระจันทร์สีแปลกๆ ไม่รู้ว่าคิดมากไปเองหรือเปล่า เลยจอดรถข้างทาง แล้วรีบถ่ายรูปมาดู (เผอิญขับไปตรงที่มืดพอควร)
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Moon1-1Feb.jpg
      Moon1-1Feb.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.6 KB
      เปิดดู:
      826
    • Moon2-1Feb.jpg
      Moon2-1Feb.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.9 KB
      เปิดดู:
      1,451
    • moon3-1feb.JPG
      moon3-1feb.JPG
      ขนาดไฟล์:
      10.3 KB
      เปิดดู:
      823
  9. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    ดาวอะไรที่อยู่ใกล้พระจันทร์ครับ
     
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ผลสรุปจากการประชุมนักวิทยาศาสตร์โลกจำนวน 2,500 คน
    ลงความเห็นในที่ประชุม สรุปเป็นเสียงเดียวกันหมด
    โดยใช้เวลาวิจัยนานถึง 6 ปี สรุปรายงานใจความสำคัญว่า

    - ภาวะโลกร้อน 90% เกิดจากน้ำมือมนุษย์
    - ภาวะขาดแคลนน้ำ ความแห้งแล้ง จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
    - แหล่งเพาะปลูกจะมีผลผลิตลดลง น้ำจืดจะขาดแคลนไม่พอเพียง
    - ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 18- 59 ซม (เกือบ 2 ฟุต) ไม่เกิน 20 ปี
    - พายุเฮอริเคน และไต้ฝุ่น จะรุนแรงขึ้น สร้างความเสียหายหนักกว่าที่ผ่านมา
    - นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้ายแล้วก่อนที่จะสายเกินไป
    - นี่ไม่ใช่การคาดการณ์ แต่จะเกิดขึ้นจริงๆ
    - และเพื่อให้ทุกๆประเทศหันมาใส่ใจกับปัญหาใหญ่ของโลกครั้งนี้
    - อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยสูงขึ้น อีกราว 1-2 องศา
    - ออสเตรเลียจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นอีก 6-5 องศา
    - เกาะในอินโดนีเซียจะจมหายไปถึง2000 เกาะ (จากทั้งหมดกว่า12,000 เกาะ)
    - หมู่เกาะเมอดีฟ ภายใน 20 ปีจมหายหมด
    - เทือกเขาคิรีมันเจโร ภูเขาน้ำแข็งจะละลายหายไปหมด
    - หมีขั้วโลกสูญพันธุ์จมน้ำตายหมด เพราะไม่มีน้ำแข็งให้เกาะอาศัย

    ข้อมูลจากข่าวล่าสุด Itv
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2007
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เมื่อคืนนี้พี่คนหนึ่งที่อยู่ที่แพร่ ก็เห็นดวงจันทร์สีแดงเหมือนกัน ถ่ายรูปไว้ด้วย แต่บอกว่ารูปไหวเลยไม่อยากเอามาลง รวมทั้งคุณ Mead ก็ PM มาบอกว่าเมื่อคืนนี้เห็นดวงจันทร์สีแดงเหมือนกัน
     
  12. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
  13. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    มีคนเคยบอกว่าถ้าดวงจันทร์สีแดงคล้ายเลือดให้ระวังจะต้องเกิดเรื่องไม่ดี ผมก็เคยประสบเหตุการณ์แบบนี้ ตอนอยู่ภาคใต้ มีการปะทะกับผู้ก่อการร้ายและต้องถอยร่นกลางคืน เพื่อหลบหนีการปิดล้อมของผู้ก่อการร้าย ไปจนถึงเที่ยงคืน
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตือน เรื่องโรคระบาด !!!
    โดยคุณคณานันท์

    [​IMG]

    ไข้หวัดนกของจริงมาแล้วครับเที่ยวนี้ การกวาดล้างระลอกแรกด้วยโรคระบาดที่ติดต่อกันได้ง่ายที่สุด ทางอากาศด้วยการหายใจ ถ้าเชื้อรุนแรงเต็มที่มีตายกันเป็นแสนครับ

    จึงขอนำความรู้เรื่องสุขภาพในการป้องกันตัวเราจากไข้หวัดนก โดยอิงการผสมผสานแพทย์ทางเลือกในแนวทางวิชาแพทย์สามแผน(แผนปัจจุบัน แผนโบราณสมุนไพร และการใช้พลังจิตพลังพุทธคุณประกอบกัน)ของอ.ชม ครับ

    ก่อนอื่นขอให้เข้าใจไว้ก่อนว่า ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาไข้หวัดได้นะครับ มีเพียงยาบรรเทาอาการของไข้หวัดเท่านั้น ดังนั้นเชื้อไข้หวัดนกที่มีการกลายพันธ์นั้นจึงหน้ากลัวอย่างยิ่ง และนอกจากนั้นยาปฏิชีวนะในปัจจุบันก็เจอเชื้อดื้อยาใช้ไม่ได้ผลแล้วครับ รวมทั้งยาทามิฟลูด้วย

    ดังนั้นการปฏิบัติตนจริงๆคงมีแค่ การป้องกันและลดปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อไม่ให้เป็นครับ อีกประการก็คือ การเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มีระดับของทีเซลล์สูงสุดเสมอ ผมขอเริ่มจากการป้องกันครับ

    การป้องกันและการลดปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ

    1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสทั้งทางตรงและทางอ้อม กับสัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงที่ป่วย ผู้ป่วย ในช่วงเวลานี้ ถ้าไม่จำเป็น

    2.งดการกินอาหารเนื้อสัตว์ทุกชนิดที่ปรุงไม่สุกเด็ดขาด

    3.งดการสูบบุหรี่เพราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง

    4.หลีกเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่ และผู้ที่ไอจาม เพราะทำให้เราป่วยได้ง่ายขึ้น และในละอองควันบุหรี่ยังเป็นที่ยึดเกาะในการกระจายตัวของเชื้อแบคทีเรียและไวรัสด้วย

    5.ล้างมือฟอกสบู่ให้เป็นนิสัย ทั้งเมื่ออยู่นอกบ้านที่ทำงานและก่อนกินอาหาร จะช่วยลดการติดเชื้อได้มาก

    6.ล้างตาและโพรงจมูกด้วยน้ำสะอาดเสมอทุกครั้งที่อาบน้ำจะช่วยลดการหมักหมมของเชื้อโรคได้

    7.เมื่อเข้าไปในเขตที่เรามีความรู้สึกว่ามีเชื้อโรค หรือรู้สึกสกปรก ให้เข้าลมละเอียดทันที ตามที่เคยฝึกมา จะช่วยลดการรับเชื้อและเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกายโดยอัตโนมัติ แต่ห้ามอัดลมปราณแบบแรงๆลึกๆหรือใช้กำลังเด็ดขาดเพราะเชื้อจะเร่งกระจายทั่วร่างอย่างรวดเร็ว ถ้ามีผ้าปิดจมูก ปากก็ให้ใส่ อย่ามัวอาย

    8.ถ้า เข้าภาวะที่ระบาดร้ายแรง จงอย่าออกไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น ใช้เครื่องฟอกอากาศ พลาสม่า หรือโอโซนอย่างอ่อน ทำความสะอาดอากาศในบ้าน ถ้าต้องออกไปใส่แว่น ปิดปาก จมูก

    9.ใช้จิตที่เป็นสมาธิเต็มกำลังของเรา อธิฐานขอบารมีพุทธคุณให้เป็นแสงลงมาคลุมคุ้มครอง ตัวเรา ทุกคนในครอบครัว อาณาบริเวณที่เราอธิฐานเขตป้องกันไว้ด้วยพลังจิต แล้วใช้จิตฟอกธาตุและมวลอากาศให้สะอาดบริสุทธ์ ปราศจากเชื้อโรค

    10.หมั่นทำความสะอาดบ้าน ประตู หน้าต่าง ไส้กรองอากาศ หน้ากากแอร์ อาจจะใช้นำสบู่อ่อนๆ แต่ที่ดีที่สุดก็คือ ยาฆ่าเชื้อเดทตอลผสมน้ำ ช่วยฆ่าเชื้อได้มาก

    ต่อไป เป็นการป้องกันโดยการเพิ่มและรักษาระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สูงอยู่เสมอครับ

    1.ไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายฝึกสร้างภูมิคุ้มกันขึ้น ลองติดต่อถามที่โรงพยาบาลเอกชน ขอเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่สุดเท่าที่จะใหม่ได้ เพราะปัจจุบันวัคซีนมีการอัพเดทใหม่ทุกปีครับ แต่ราคาค่าวัคซีนค่อนข้างสูงนะครับ ประมาณพันกว่าบาทต่อเข็ม บางรพ.ก็ไม่มี ต้องสั่งเท่านั้น อีกเทคนิคหนึ่งให้ไปบริจาคพลาสม่าที่กาชาด จะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายเร่งสร้างเกล็ดเลือดและเม็ดเลือดขาวทดแทนทำให้ร่างกายมี ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น และระหว่างที่ถ่ายพลาสม่า ให้ภาวนาทำสมาธิ บอกกับร่างกายให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาวให้มากขึ้น มีภูมิคุ้มกันในร่างกายสูงขึ้นๆ

    2.ทานวิตามิน และสมุนไพรเพื่อการป้องกันและรักษาสุขภาพ โดยมี
    วิตามิน ซี 500-2000 mg. ต่อวันโดยแบ่งเป็นเช้าและเย็น
    สมุนไพรฟ้าทะลายโจร กินทุกวันเพื่อป้องกัน วันละ 1แคปซูล 500มก.
    สมุนไพรผงกระเทียมสะกัด กินวันละ 1 แคปซูล 500 มก. ดีกว่าอย่างสดคือมีความเข้มข้นสูงกว่าและดูดซึมง่ายกว่า เนื่องจากเป็นผงสกัดครับ ลองดูของเวชพงษ์ครับ

    ถ้าหาได้ใช้สมุนไพร อิชินาเชีย เป็นสมุนไพร ตปท. แต่ปัจจุบันมีปลูกที่เชียงใหม่ มีงานวิจัยว่าช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันอย่างมีนัยสำคัญ ใช้ได้ผลดีมากๆครับ ผมยืนยันด้วยการใช้ด้วยตัวเองครับ

    3.รักษาระดับโปรตีนในร่างกายอย่าให้ลดลงต่ำ เพราะเมื่อร่างกายก่อนเพลียและขาดโปรตีน ร่างกายจะดึง โปรตีนจากระบบภูมิคุ้มกันมาใช้ทำให้มีอาการน้ำมูกไหล ตะครั่นตะคลอตัว ภูมิคุ้มกันลดลงและติดเชื้อ ไม่สบายในที่สุด

    4.การนั่งสมาธิช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันได้ โดยเฉพาะการกระตุ้นจักรที่บริเวณลำคอ อันเป็นที่ตั้งของต่อมไทรอยย์ซึ่งมีผลในการสร้างภูมิคุ้มกัน

    5.การใช้พลังจิตอธิฐานเสกยาก่อนกินจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาให้เพิ่มขึ้นได้ทั้งยาไทย ยาฝรั่ง และลดอาการผลข้างเคียงของยาที่อาจจะเกิดขึ้นให้ลดลงหรือไม่มี

    6.ถ้ารู้สึกเริ่มจะไม่สบายอย่านอนพักโดยไม่กินยาก่อน เพราะจะยิ่งซมไข้ และเป็นมากขึ้น ให้ทานอาหารเล็กน้อย ดื่มน้ำเยอะๆ ทานยาแก้ไข้ ฟ้าทะลายโจร วิตามินซี ทายาหม่อง ฟ้าทะลายโจร ที่ใต้จมูก คอ และอก แล้วจึงนอนหลับพัก เมื่อตื่นขึ้น ส่วนใหญ่จะหายไม่เป็นอะไรครับ

    7. มีสารอาหารชื่อ L-Glutamine ช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันและรักษามวลกล้ามเนื้อ ทานก่อนนอนวันละหนึ่งช้อนชา ไม่เป็นอันตรายอะไรครับทานเป็นประจำได้ทุกวัน หาข้อมูลได้จากหนังสืออาหารและสุขภาพ ของ อ.ศรีนวล เจียจันทร์พงศ์ ครับ ส่วนกลูตามีนหาได้ทีร้าน จีเอ็นซี
    ถ้าเริ่มป่วยหรือติดเชื้อให้ใช้การรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันตามปกติ เสริมด้วยการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร และวิตามินซีร่วมด้วย ทำสมาธิ ฟังเทศน์โพชชงค์ปริตร อธิฐานขอพลังพุทธคุณลงมารักษาและเสกยาทุกครั้ง ที่กิน จะทำให้หายป่วยและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เจริญวิปัสนามรณานุสติไว้เพื่อเป็น ธรรมโอสถ ถ้าอาการทรุดหนัก และเชื่อพระพุทธเจ้าให้ใช้ยาดองน้ำมูถเน่า ดูถ้าไม่มีทางเลือกอื่น

    ส่วนท่านที่เริ่มรู้สึกเช่นกันว่าการกวาดล้างรอบใหญ่ใกล้เข้ามาก็ขอให้ไปทำบุญปล่อยปลา ปล่อยสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่าเพื่อเป็นการทำบุญต่ออายุ ไว้ล่วงหน้าก่อนครับเพื่อความไม่ประมาท ขอให้ทุกคนปลอดภัยสุขภาพดีทุกคนนะครับ
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "รัตนสูตร"

    [​IMG]

    สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งเกิดอหิวาตกโรค ระบาดที่เมืองเวสาลี ในช่วงเวลานั้นเกิดภัยแล้ง ข้าวกล้าในไร่นาเกิดความเสียหายหนัก ผู้คนอดอยาก และล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวเมืองเวสาลีนำซากศพเหล่านั้นไปทิ้งไว้นอกเมือง ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า

     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    บทสวดรัตนสูตรภาษาบาลี
    จากพระไตรปิฎก
    โดยคุณศดานัน

    ขุทฺทกปาเฐ รตนสุตฺตํ
    (ขุ.ขุ.๒๕/๕)
    *************
    ๑.ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ
    ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข
    สพฺเพว ภูตา สุมนา ภวนฺตุ
    อโถปิ สกฺกจฺจ สุณนฺตุ ภาสิตํ
    ตสฺมา หิ ภูตา นิสาเมถ สพฺเพ
    เมตฺตํ กโรถ มานุสิยา ปชาย ฯ
    ทิวา จ รตฺโต จ หรนฺติ เย พลึ
    ตสฺมา หิ เน รกฺขถ อปฺปมตฺตา ฯ

    ๒.ยํ กิญฺจิ วิตฺตํ อิธ วา หุรํ วา
    สคฺเคสุ วา ยํ รตนํ ปณีตํ
    น โน สมํ อตฺถิ ตถาคเตน
    อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๓.ขยํ วิราคํ อมตํ ปณีตํ
    ยทชฺฌคา สกฺยมุนี สมาหิโต
    น เตน ธมฺเมน สมตฺถิ กิญฺจิ
    อิทมฺปิ ธมฺเม รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๔.ยมฺพุทฺธเสฏฺโฐ ปริวณฺณยี สุจึ
    สมาธิมานนฺตริกญฺญมาหุ
    สมาธินา เตน สโม น วิชฺชติ
    อิทมฺปิ ธมฺเม รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๕.เย ปุคฺคลา อฏฺฐสตํ ปสฏฺฐา
    จตฺตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนฺติ
    เต ทกฺขิเณยฺยา สุคตสฺส สาวกา
    เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ
    อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๖.เย สุปฺปยุตฺตา มนสา ทฬฺเหน
    นิกฺกามิโน โคตมสาสนมฺหิ
    เต ปตฺติปตฺตา อมตํ วิคยฺห
    ลทฺธา มุธา นิพฺพุตึ ภุญฺชมานา
    อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ ฯ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๗.ยถินฺทขีโล ปฐวึ สิโต สิยา
    จตุพฺภิ วาเตภิ อสมฺปกมฺปิโย
    ตถูปมํ สปฺปุริสํ วทามิ
    โย อริยสจฺจานิ อเวจฺจ ปสฺสติ
    อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๘.เย อริยสจฺจานิ วิภาวยนฺติ
    คมฺภีรญฺเญน สุเทสิตานิ
    กิญฺจาปิ เต โหนฺติ ภุสปฺปมตฺตา
    น เตภวํ อฏฺฐมาทิยนฺติ
    อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๙.สหาวสฺส ทสฺสนสมฺปทาย
    ตยสฺสุ ธมฺมา ชหิตา ภวนฺติ
    สกฺกายทิฏฺฐิวิจิกิจฺฉิญฺจ
    สีลพฺพตํ วาปิ ยทตฺถิ กิญฺจิ
    จตูหปาเยหิ จ วิปฺปมุตฺโต
    ฉ จาภิญญานานิ อภพฺโพ กาตุง(อํ)
    อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๑๐.กิญฺจาปิ โส กมฺมํ กโรติ ปาปกํ
    กาเยน วาจายุท เจตสา วา
    อภพฺโพ โส ตสฺส ปฏิจฺฉทาย
    อภพฺพตา ทิฏฺฐปทสฺส วุตฺตา
    อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๑๑.วนปฺปคุมฺเพ ยถา ผุสฺสิตคฺเค
    คิมฺหานมาเส ปฐมสฺมึ คิมฺเห
    ตถูปมํ ธมฺมวรํ อเทสยิ
    นิพฺพานคามึ ปรมํ หิตาย
    อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๑๒.วโร วรญฺญู วรโท วราหโร
    อนุตฺตโร ธมฺมวรํ อเทสยิ
    อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๑๓.ขีณํ ปุราณํ นวํ นตฺถิ สมฺภวํ
    วิรตฺตจิตฺตายติเก ภวสฺมึ
    เต ขีณพีชา อวิรุฬฺหิฉนฺทา
    นิพฺพนฺติ ธีรา ยถายมฺปทีโป
    อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ
    เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๑๔.ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ
    ภุมฺมานิ วา ยานิว อนฺตลิกฺเข
    ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ
    พุทฺธํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๑๕.ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ
    ภุมฺมานิ วา ยานิว อนฺตลิกฺเข
    ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ
    ธมฺมํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    ๑๖.ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ
    ภุมฺมานิ วา ยานิว อนฺตลิกฺเข
    ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ
    สงฺฆํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ ฯ

    รตนสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ฯ
    ถอดความรัตนสูตร ในขุททกปาฐะ จาก พระมหานพดล ปุญฺญสุวฑฺฒโก
    ( ขุ.ขุ.๒๕/๕ )
    **************

    ๑.ภูตเหล่าใด ประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมมเทวดา เหล่าใดประชุมกันแล้ว ในอากาศก็ดี ขอหมู่ภูตทั้งปวงจงเป็นผู้มีใจดีและจงฟังภาษิตโดยเคารพ
    ดูกรภูตทั้งปวง เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงตั้งใจฟัง ขอจงแผ่เมตตาจิตในหมู่มนุษย์
    มนุษย์เหล่าใด นำพลีกรรมไปทั้งกลางวันทั้งกลางคืน
    เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่ประมาทรักษามนุษย์เหล่านั้น

    ๒.ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น
    หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้น เสมอด้วยพระตถาคตไม่มีเลย พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้
    ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๓.พระศากยมุนีมีพระหฤทัยดำรงมั่น
    ได้บรรลุธรรมอันใดเป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สำรอกกิเลส เป็นอมฤตธรรม
    อันประณีต ธรรมชาติอะไรๆเสมอด้วยพระธรรมนั้นย่อมไม่มี ธรรมรัตนะ
    แม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๔.พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทรงสรรเสริญแล้วซึ่งสมาธิใด ว่าเป็นธรรมอันสะอาด
    บัณฑิตทั้งหลายกล่าวซึ่งสมาธิใด ว่าให้ผลในลำดับสมาธิ อื่นเสมอด้วยสมาธินั้น
    ย่อมไม่มี ธรรมรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
    ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๕.บุคคล ๘จำพวก ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว บุคคลเหล่านั้น
    ควรแก่ทักษิณาทาน เป็นสาวกของพระตถาคต ทานที่บุคคลถวายแล้ว
    ในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลมาก สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
    ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้


    ๖.พระอริยบุคคลเหล่าใด ในศาสนาของพระโคดมประกอบดีแล้ว [ด้วยกายประโยคและ
    วจีประโยคอันบริสุทธิ์] มีใจมั่นคง เป็นผู้ไม่มีความห่วงใย [ในกายและชีวิต]
    พระอริยบุคคลเหล่านั้น บรรลุอรหัตผลที่ควรบรรลุหยั่งลงสู่อมตนิพพาน
    ได้ซึ่งความดับกิเลสโดยเปล่า เสวยผลอยู่ สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
    ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๗.เสาเขื่อนที่ฝังลงดินไม่หวั่นไหวเพราะลมทั้งสี่ทิศ ฉันใด ผู้ใดพิจารณาเห็นอริยสัจทั้งหลาย
    เราเรียกผู้นั้นว่าเป็นสัตบุรุษ ผู้ไม่หวั่นไหวเพราะโลกธรรมมีอุปมาฉันนั้น สังฆรัตนะนี้
    เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๘.พระอริยบุคคลเหล่าใด ทำให้แจ้งซึ่งอริยสัจทั้งหลาย อันพระศาสดาทรง แสดงดีแล้ว
    ด้วยปัญญาอันลึกซึ้ง พระอริยบุคคลเหล่านั้น ยังเป็นผู้ประมาทอย่างแรงกล้าอยู่ก็จริง
    ถึงกระนั้น ท่านย่อมไม่ยึดถือเอาภพที่ ๘ สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
    ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดี จงมีแก่ เหล่านี้

    ๙.สักกายทิฏฐิและวิจิกิจฉา หรือแม้สีลัพพตปรามาสอันใดอันหนึ่งยังมีอยู่
    ธรรมเหล่านั้น อันพระอริยบุคคลนั้นละได้แล้ว พร้อมด้วยความถึงพร้อมแห่งการเห็น
    [นิพพาน] ทีเดียว อนึ่ง พระอริยบุคคลเป็นผู้พ้นแล้วจากอบายทั้ง ๔ ทั้งไม่ควร
    เพื่อจะทำอภิฐานทั้ง ๖ [คืออนันตริยกรรม ๕ และการเข้ารีด] สังฆรัตนะแม้นี้
    เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๑๐.พระอริยบุคคลนั้นยังทำบาปกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ ก็จริง ถึงกระนั้น
    ท่านไม่ควร เพื่อจะปกปิดบาปกรรมอันนั้น ความที่บุคคลผู้มีธรรมเครื่องถึงนิพพาน
    อันตนเห็นแล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อปกปิดบาปกรรมนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว
    สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีตด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๑๑.พุ่มไม้ในป่ามียอดอันบานแล้วในเดือนต้นในคิมหันตฤดู ฉันใด พระผู้มีพระภาค
    ได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐยิ่ง เป็นเครื่องให้ถึงนิพพาน เพื่อประโยชน์เกื้อกูล
    มีอุปมา ฉันนั้น พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้
    ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๑๒.พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐทรงทราบธรรมอันประเสริฐ ทรงประทานธรรมอันประเสริฐ
    ทรงนำมาซึ่งธรรมอันประเสริฐ ไม่มีผู้ยิ่งไปกว่า ได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ
    พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๑๓.พระอริยบุคคลเหล่าใดผู้มีจิตอันหน่ายแล้วในภพต่อไป มีกรรมเก่าสิ้นแล้ว ไม่มีกรรมใหม่
    เป็นเครื่องสมภพ พระอริยบุคคลเหล่านั้น มีพืชอันสิ้นแล้ว มีความพอใจไม่งอกงามแล้ว
    เป็นนักปราชญ์ ย่อมนิพพาน เหมือนประทีปอันดับไป ฉะนั้น สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ เหล่านี้

    ๑๔. ภูตเหล่าใดประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมมเทวดาเหล่าใดประชุมกันแล้ว
    ในอากาศก็ดี เราทั้งหลาย จงนมัสการพระพุทธเจ้า ผู้ไปแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายบูชาแล้ว ขอความสวัสดี จงมีแก่ เหล่านี้

    ๑๕.ภูตเหล่าใดประชุมกันแล้วในประเทศก็ดี หรือภุมมเทวดาเหล่าใดประชุมกันแล้ว
    ในอากาศก็ดี เราทั้งหลายจงนมัสการพระธรรม อันไปแล้วอย่างนั้น อันเทวดาและ
    มนุษย์บูชาแล้ว ขอความสวัสดี จงมีแก่ เหล่านี้

    ๑๖.ภูตเหล่าใดประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมมเทวดาเหล่าใดประชุมกันแล้ว
    ในอากาศก็ดี เราทั้งหลาย จงนมัสการพระสงฆ์ผู้ไปแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทวดาและ
    มนุษย์บูชาแล้ว ขอความสวัสดี จงมีแก่ เหล่านี้ ฯ

    จบรัตนสูตร ฯ

    <!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->
     
  17. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    Global warming: rise of 4.5 C if pollution doubles, says draft report
    [SIZE=-2]Category : Armageddon & Disasters - Posted : 30 Jan 2007[/SIZE]
    Earth's surface temperature could rise by 4.5 C (8.1 F) if carbon dioxide levels double over pre-industrial levels, but higher warming cannot be ruled out, according to a draft report under debate by the UN's top climate experts.

    [​IMG]
    ทำให้อุ่นทั่วโลก: ขึ้นของ4.5 Cเป็นสองเท่าของภาวะมลพิษกล่าวว่ารายงานฉบับร่าง
    [SIZE=-2]ชนิด: ความหายนะ&อาร์เมเกดด้อน ความหายนะที่ถูกจัดวาง: 30มกราคมปี2007[/SIZE] [SIZE=+0]
    ตามรายงานฉบับร่างข้างใต้ถกเถียงเนื่องจากผู้เชี่ยวชาญอากาศขององค์การสหประชาชาติสูงสุดอุณหภูมิผิวของโลกน่าจะคงจะเพิ่มขึ้น4.5Cถ้าระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทำเป็นสองเท่าข้างต้นระดับทางอุตสาหกรรมก่อนหน้าแต่ทำให้อุ่นที่สูงกว่าไม่สามารถกำจัด.
    [/SIZE]
     
  18. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    "I'm afraid the making of World War III is actually taking place in front of our eyes." Prince Hassan of Jordan - March 26, 2004
    Drawing on newly discovered Nostradamus manuscripts, a startling new view of the world is revealed. If you agree that signs like widespread terrorism, a volatile Middle East, and an economic depression could lead to World War III - then you will find this book truly eye-opening.
    Next, the years 2007 through 2012 are explained in precise detail. Referred to by Nostradamus as the Time of Troubles, this period is full of war, despair, and evil, but also of hope and promise. Use this book to enlighten yourself, your loved ones, your world, and your future.


    ''\ของจอร์แดน-วันที่26มีนาคมปี2004'การทำสงครามโลกIIIกำลังI\'mที่ดูเหมือนว่าน่าเสียดายที่จริงเกิดขึ้นก่อนตาของเรา.\'เจ้าชายฮัสสัน'' การสวมนอสตราดามุสที่ถูกพบสดๆร้อนๆต้นฉบับมุมมองใหม่ทำให้เกิดของโลกถูกเปิดเผย. ถ้าคุณเห็นด้วยSFเครื่องหมายชอบการก่อการร้ายแผ่ขยายทั่วไปตะวันออกกลางที่เปลี่ยนแปลงได้ง่ายและความสะเทือนใจเศรษฐกิจกำลังน่าจะคงจะผ่านสงครามโลกIII -ในเวลานั้นคุณจะพบeye-openingสำหรับหนังสือเล่มนี้อย่างเป็นจริง.


    ต่อไปปีจาก2007ถึง2012ถูกอธิบายในรายละเอียดที่ชัดแจ้ง. นอกจากนี้เพราะว่าถูกนอสตราดามุสแนะนำในฐานะเวลาของความกังวลช่วงระยะเวลาอันนี้เต็มไปด้วยสงครามหมดหวังและความชั่วร้ายความหวังและสัญญา. ใช้หนังสือเล่มนี้เพื่อชี้แนวทางคุณตนเอง1ที่ถูกรักของคุณโลกของคุณและอนาคตของคุณ.


    Translated by""""parsit@nectec.or.th
    <SCRIPT language=javascript1.1 src="http://hits.truehits.in.th/data/g0000012.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://tracker.truehits.in.th/func/th_donate_1.4.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://tracker.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.2>sv=1.2;ss=screen.width+'*'+screen.height;sc=(bn=='MSIE')?screen.colorDepth:screen.pixelDepth;if(sc==udf){sc='na';}</SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.3>sv=1.3; </SCRIPT>
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดพระธรรมกาย
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    [​IMG]
    การปฏิบัติธรรมร่วมกันทุกวันอาทิตย์ ณ วัดพระธรรมกาย

    วัดพระธรรมกาย ก่อตั้งเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513 สังกัดมหานิกายแห่งคณะสงฆ์ไทย ตั้งอยู่ ณ ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

    ปณิธานของวัด

    วัดพระธรรมกายได้ทุ่มเทจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้กับบุคลต่างๆ ทุกระดับการศึกษา ทุกวัย ทุกอาชีพ อีกทั้งส่งเสริมการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กับบุคลากรภายในวัด ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนาและเผ่าพันธุ์ ด้วยหวังที่จะจรรโลงคุณธรรมให้ดำรงอยู่คู่สังคมและโลกเราตราบนานเท่านาน

    วัดพระธรรมกายมีศาสนสถานที่มีสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เช่น การปฏิบัติธรรม, การอบรมศีลธรรม, การระลึกนึกถึงมหาปูชนียาจารย์ เป็นต้น

    วัดพระธรรมกาย เป็นวัดในพระพุทธศาสนา ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดโดยสมบูรณ์ ตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2522 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 96 ตอนที่ 15 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2522 โดยมี พระอธิการไชยบูลย์ ธมฺมชโย (ปัจจุบันเป็นที่ พระราชภาวนาวิสุทธิ์) เป็นเจ้าอาวาส และมีพระเผด็จ ทตฺตชีโว (ปัจจุบันเป็นที่ พระภาวนาวิริยคุณ) เป็นรองเจ้าอาวาส

    มูลนิธิธรรมกาย จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 เดิมใช้ชื่อว่า มูลนิธิธรรมประสิทธิ์ โดยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ณ กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2513 เมื่อสร้างวัดพระธรรมกายเสร็จได้ขอแก้ไขเอกสาร เปลี่ยนชื่อเป็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2007
  20. konsakol

    konsakol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +80
    ผมรักพระธรรมกาย เหตุการณ์ อัศจรรย์ ตะวันแก้ว คือของจริง ผมเป็นผู้หนึ่ง ในยุคนั้น หลวงพ่อมีบารมีสูง และจิตของท่านก็มีวาระเป็นอัศจรรย์...................ไชโยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...