ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** ล.ลิง ****

ลิง...
ยังคงเฝ้า สถานที่สำคัญ ยุคพุทธกาล
เพื่อเตือนความทรงจำมนุษย์ ....ให้ค้นหาความจริงในศาสนา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สถานที่ ตำนาน นิทาน กับ ศาสนาพุทธ ****

ฤษี...มีมาก่อน พระโคดม
ฤษี....เลี้ยงเด็กหญิงวี แถวลำพูน
ฤษี...ส่งหญิงวีกับผู้เลี้ยงดู มาแถวลพบุรี
เจ้าชายรามราช....กับเจ้าหญิงจามเทวี
เมืองเหนือล่มจมหาย...เพราะคนขาดสัจจะ
เมืองเหนือล่ม....หลักฐานมากมาย
ฤษี....สร้างเมืองใหม่
ตามเจ้าหญิง....กลับขึ้นเหนือ
เจ้าชายราม....หายไปไหน ไม่ชัดเจน
พระนางจามเทวี...ปกครองเมืองใหม่
บำรุง....ศาสนาของตถาคต

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ภูเขา เกาะ ถ้ำ กับ ศาสนา ****

ภูเขาในไทย หลายลูก...มีถ้ำใหญ่
ถ้ำใหญ่....เป็นสถานที่สำคัญ ทางศาสนา
พระพุทธเจ้า...เสด็จผ่าน พัก
ใช้เป็นสถานที่...สอนสัจจะทำ
ซากอิฐโบราณ....เมืองเก่าแก่ มีอยู่ทั่วไทย
ชื่อเมืองโบราณ...ซ่อนอยู่เต็มเมืองไทย
อดีต...น้ำทะเลสูงกว่าปัจจุบัน
ซากเมืองเก่าแก่....อยู่ตามชายฝั่งทะเลโบราณ
ปากแม่น้ำสายใหญ่...โคลนเลนทับถม
เมืองหลวงปัจจุบัน...คือก้นทะเล
ตั้งบนโคลนเลน...ที่น้ำทะเลลดลง
ครั้งหนึ่งในอดีต....แม่น้ำจากหิมาลัย
พุ่งเข้าซัดทางเหนือ...ทิ้งซากต้นไม้กลายเป็นหินที่ตาก
ปัจจุบัน....ความจริงถูกทอดทิ้ง
ล.ลิงนั่งเฝ้า พุทธสถาน...ผ่านไปวันๆ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

พระนารายณ์ กับ พระอิศวร เป็นใคร ในพุทธประวัติ มีพูดถึงที่มาและหน้าที่หรือไม่

พระนารายณ์​

พระศิวะหรือพระอิศวร​

ผมอ่านพุทธประวัติให้ลูกฟังก่อนนอน เมื่ออ่านถึงตอนที่พระพุทธเจ้าปราบเท้าพกาพรหม ก็อธิบายที่มาได้ว่าเป็นใครมาอย่างไรถึงได้เกิดเป็นพรหม แต่กับพระนารายณ์ และ พระอิศวร นี่ไม่ยักรู้ว่าเป็นใคร คงไม่ใช่เป็นพรหม น่าจะเป็นเทวดาหรือเปล่า เป็นตำแหน่งเหมือนท้าวสักกะเทวราชหรือไม่ แล้วมีเกิดมีตาย ด้วยหรือเปล่า เพราะว่าตามคติพราหม์ ฮินดู เทพทั้งสององค์นี้จะไม่ตาย... พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึงเทพทั้งสององค์นี้หรือเปล่า แล้วเทพทั้งสององค์นี้นับถึงพุทธศาสนาหรือไม่ รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อยครับ

จากคุณ : <!--MsgFrom=0-->ฤษีข้ามน้ำ - [ <!--MsgTime=0-->24 ก.พ. 52 13:43:34 <!--MsgIP=0-->]

พระอิศวร พระพรหม พระนารายณ์ เป็นชื่อที่ไทยเรียกโดยได้รับอิทธิพลมาจากเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งก็มีเค้าโครงมาจากเรื่องรามายณะของอินเดีย รามายณะก็มาจากปางหนึ่งในสิบของพระวิษณุ ซึ่งก็รวมเอาพระพทุธเจ้าไปเป็นหนึ่งในสิบปางนั้นด้วย เป็นความเชื่อที่ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาแล้วปรับแต่งจนกลมกลืนกันไป

แต่ก็ต้องแยกจากกันด้วยนะครับ ว่าอะไรของพุทธ อะไรของพราหมณ์ อย่างท้วผกาพรหมนี่ของพุทธ เพราะว่า พราหมณ์มีพระพรหมแค่องค์เดียว แต่ของไทยนี่มีหลายชั้น หลายองค์ ตำนานเพลงสาธุการที่ท่านที่ 2 กล่าวไว้ก็เช่นกัน เนื้อเรื่องกลับไปพ้องกับเรื่องราวของท้าวผกาพรหมซะได้ ในศาสนาพุทธถ้าจะกล่าวก็กล่าวถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตอนที่โปรดพระพุทธมารดาและกล่าวถึงพระอินทร์ ( พระอินทร์ไทยนี่ดี พระอินทร์พราหมณ์นี่ไม่ค่อยดีครับ )

ถ้าอยากได้แบบชัดเจน คงต้องปรึกษาห้องสมุดครับ รับรองเพียบครับ <!--MsgFile=5-->

จากคุณ : <!--MsgFrom=5-->[[Joachim]] - [ <!--MsgTime=5-->24 ก.พ. 52 21:03:20 <!--MsgIP=5-->]

ในศาสนาฮินดูเชื่อว่า

พระศิวะหรือพระอิศวร : เทพผู้ทำลายและสร้างโลก

• ในครั้งแรกสุด พระพรหมได้เป็นผู้สร้างโลกและสร้างจักรวาลขึ้นมา แต่ก็ได้เกิดปัญหามากมายขึ้นบนโลกมนุษย์ พระศิวะจึงได้ทำลายโลก พอในเวลาต่อมาพระศิวะ ก็ได้มีการสร้างโลกขึ้นมาใหม่ โดยสร้างพระนารายณ์ขึ้นมาเป็นผู้ดูแลรักษาด้วย
• ลักษณะของพระศิวะ มี 1 เศียร 4 กร 3 พระเนตร ซึ่งพระเนตรส่วนที่ 3 นั้นจะอยู่กึ่งกลางหน้าผาก จะทรงนุ่งหนังกวาง แล้วยังมีสร้อยสังวาลเป็นงู ส่วนพระหัตถ์ทรงตรีสูร ทรงโคนนทิเป็นพาหนะ ให้สังเกตดูหากได้พบรูปปั้นโคนนทิ อยู่บริเวณทางเดินที่จะต้องเข้ามายังปราสาท หรือมีรูปโคนนทิอยู่ในปราสาท นั่นหมายถึงว่าได้มีการสร้างปราสาทแห่งนั้นเพื่ออุทิศแด่พระศิวะ
• นอกจากนี้ พระศิวะยังสามารถกำหนดโชคชะตาของมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกโดยวิธีการร่ายรำที่มีชื่อเรียกว่า “ศิวนาฏราช” โดยเฉพาะที่สำคัญคือ ถ้าหากมีการร่ายรำด้วยความอ่อนช้อย ก็จะช่วยให้บรรดาเหล่ามนุษย์โลกอยู่เย็นเป็นสุข

พระวิษณุหรือพระนารายณ์ : เทพผู้รักษาคุ้มครองโลก

• คำว่า “พระนารายณ์” หมายถึง ผู้ที่ได้เคลื่อนไหวอยู่ในน้ำ คือกำลังบรรทมอยู่เหนือหลังพญานาคราช ชาวฮินดูที่นับถือไวษณพนิกาย จะเชื่อถือว่า พระวิษณุหรือพระนารายณ์นั้นจะต้องเป็นเทพสูงสุด หลักฐานตามคัมภีร์พราหมณ์ปุราณะ ได้กล่าวไว้ว่า พระศิวะได้ทรงสร้างโลกขึ้นมา แต่งานที่จะรักษาโลกให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขเป็นเรื่องที่ยากกว่า ดังนั้นพระศิวะจึงสร้างพระวิษณุ ให้มาเป็นผู้ช่วยรักษา ในช่วงเวลาที่สร้างโลกอยู่นั้น พระนารายณ์ก็จะอวตาร เพื่อจะลงมาช่วยปราบยุคเข็ญในโลกเป็นจำนวนมากถึง 10 ครั้ง ได้แก่ อวตารเป็น ปลา เต่า หมูป่า นรสิงห์ พราหมณ์ถือขวานเพชร พราหมณ์เตี้ย พระราม พระกฤษณะ พระพุทธเจ้า และบุรุษที่ชือกัลกี
• ลัษณะของพระวิษณุ มี 4 กร ทรงถือคฑา สังข์ จักร และดอกบัว มีพาหนะเป็นครุฑ

ที่มา http://www.oceansmile.com/KHM/Tamnanthep.htm

หมายเหตุ

เรื่องพระนารายณ์ กับพระอิศวร ในศาสนาฮินดู ว่าเป็นใครในศาสนาพุทธนั้น ผมมาลองวิเคราะห์ และเทียบเคียงดูตามหน้าที่ของมหาเทพทั้งสองพระองค์ ตามที่มีบอกเอาไว้ในทั้งสองศาสนาแล้ว ก็พอจะสรุปได้ว่า

- พระนารายณ์ ก็คือท้าวสันดุสิตเทวราช ของสวรรค์ชั้นดุสิตา
- พระอิศวร ก็คือท้าวสักกะเทวราช หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่าพระอินทร์ นั่นเอง

ทั้งพระนารายณ์และพระอิศวร ก็เป็นเพียงชื่อตำแหน่ง ที่มีวาระต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เหมือนตำแหน่งประธานาธิปดี หรือนายกรัฐมนตรี ในโลกมนุษย์นี้ครับ

พระนารายณ์ เทพผู้รักษาคุ้มครองโลก ก็หมายถึงพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีมากเป็นอันดับหนึ่ง ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่อไป ต่อจากพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้นั่นเอง ในปัจจุบันนี้ผู้ที่รักษาตำแหน่งพระนารายณ์ ก็คือพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์

ในทางศาสนาฮินดู กล่าวถึงพระนารายณ์อวตาร 10 ปาง ที่ลงมาปราบอธรรมในโลกมนุษย์ ให้กลับคืนสู่สันติสุขนั้น ความจริงก็คือการลงมาสร้างบารมีของพระมหาโพธิสัตว์ ในอดีตจนถึงพระมหาโพธิสัตว์องค์ปัจจุบันนี้นั่นเอง

พระอิศวร เทพผู้สามารถกำหนดโชคชะตาของมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลก ก็หมายถึงพระอินทร์ มหาเทพผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในพุทธศาสนาได้กล่าวถึงหน้าที่ของพระอินทร์ว่า ท่านคอยควบคุมดูแลความเป็นไปของมวลมนุษย์ในโลกนี้ โดยผ่านทางท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 และคอยช่วยเหลือดูแลคนดีมีศีลธรรม

ที่กำลังประสบกับความทุกข์เดือดร้อน ให้กลับมีความสุขพ้นจากเรื่องเดือดร้อนเหล่านั้น เช่นตอนที่พระเวสสันดรต้องถูกเนรเทศให้ต้องไปอยู่ป่า พระอินทร์ก็มีหน้าที่ต้องมาคอยให้ความช่วยเหลือ พระเวสสันดรและพระนางมัทรี ให้พ้นจากภัยอันตรายต่างๆ และยังสามารถให้พร 8 ประการกับพระโพธิสัตว์ที่กำลังสร้างบารมีได้อีกด้วย

ทั้งหมดนี้ผมวิเคราะห์เอาจาก ข้อมูลทั้งหมดที่ผมได้รวบรวม หามาได้ทั้งหมดนะครับ จะจริงเท็จอย่างไร ท่านผู้อ่านต้องใช้สติปัญญาของท่านไตร่ตรองดูเอาเองนะครับ ว่ามีเหตุผลที่ควรแก่การเชื่อถือมากน้อยเพียงไร หรือไม่ก็ควรไปถามกับครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพนับถือ ว่าเรื่องที่ผมวิเคราะห์มานี้ถูกต้องหรือไม่ ครับผม

***********************************************************​

 

ความหมายของคำว่า "ใต้เท้า" ​

​

คำว่า "ใต้เท้า" นี่ หมายถึงใต้เท้าใคร? ใต้เท้าเรา หรือใต้เท้าเขา?

ถ้าใต้เท้าเรา ทำไมเราต้องไปกดหัวเขามาอยู่ใต้เท้าเรา?
ถ้าใต้เท้าเขา ทำไมเราต้องเอาหัวเราไปมุดอยู่ใต้เท้าเขา? <!--MsgFile=0-->

จากคุณ : <!--MsgFrom=0-->เท้าใครเท้ามัน - <!--MsgTime=0-->20 ม.ค. 52 13:59:58

..เราอยู่ใต้เท้าเขาสิครับ...
แบบว่ายกย่องเทิดทูนมากจนยอมให้สูงกว่าหัวเรา

จากคุณ : <!--MsgFrom=1-->jingjoeja - <!--MsgTime=1-->20 ม.ค. 52 14:07:07

แนวคิดเดียวกับ "ฝ่าบาท/ฝ่าพระบาท" น่ะครับ
คือเป็นการให้เกียรติว่า เราอยู่ต่ำกว่า ไม่พึงพูดคุยกับท่านโดยตรง
จึงต้องพูดกับ ฝ้าเท้า หรือ ใต้เท้า เขาแทน

ทีนี้เลยสงสัยขึ้นมาอีกคำ คือ คำว่า "ผม" หรือ "กระผม"

ว่า มาจากแนวคิดเดียวกันไหม คือ เอา "ผม" (ซึ่งอยู่สูงสุดของผู้น้อย)
ไปพูดกับ "เท้า" ของคนที่อยู่สูงกว่า

ปล. เลยแปลพวกสรรพนามเหล่านี้ให้ฝรั่งฟัง ฮากันกลิ้ง <!--MsgFile=2-->

จากคุณ : <!--MsgFrom=2-->บุญชิตฯ - 20 ม.ค. 52 14:27:11

ทำไมต้อง "ฝ่าพระบาท - เกล้ากระหม่อม"

ในหนังสือ นิรุกติศาสตร์ ของเสฐียรโกเศศ กล่าวว่า เวลาเราพูดกับผู้มีบรรดาศักดิ์สูง เราอ้างสิ่งสูงสุดในตัวเรามาใช้ คือ เกล้าผม แสดงว่าเดิมเราเกล้าผม เวลานี้เราเติมกระลงไปในระหว่าง เป็นเกล้ากระผม ก็จะต้องสันนิษฐานว่าที่เราเติมกระลงไป ในเมื่อยังหาเหตุอื่นไม่ได้ เป็นเพราะได้แนวเทียบมาจากคำอื่นในคำที่มีกระ เกล้ากระผม ยาวนักเลยถูกตัดคำหน้าออก คงเหลือแต่กระผม

โดยเหตุที่เราถือหัวเป็นของสูง ถือตีนเป็นของต่ำ เมื่อเรากราบทูลเจ้านาย ตามธรรมเนียมเราต้องเอาของสูงในตัวเรามาอ้างใช้ต่างตัวเรา แต่เมื่ออ้างถึงพระองค์ท่าน เราไม่อาจเอื้อมไปถึงที่สูง จึงใช้อ้างที่ต่ำแทนพระองค์ท่าน เลยทำให้ความหมายกลับกัน ดูมันกลับกันไป จึงทำให้บางคนใช้แนวเทียบผิด เรียกกลับกัน เช่น "ฝ่าบาทนำภรรยาเฝ้าเกล้ากระหม่อม" "ฝ่าบาทดูหนังสือที่เกล้าฯ(คือเจ้า)แต่งไว้"

***************************************************

สวัสดีครับ คุณ บุญชิต

คำว่า "กระผม" ผมคิดว่าน่าจะเลื่อนลงมาจาก "เกล้ากระหม่อม"
มาเป็น "เกล้ากระผม" เลื่อนลงมาเป็น "กระผม" และเลื่อนลงมาเป็น "ผม" ตามลำดับ

คำว่า "ผม" ของเราจะแทนว่า "แฮร์" ในภาษาอังกฤษ คงได้กระมังครับ <!--MsgFile=8-->

จากคุณ : <!--MsgFrom=8-->กัมม์ - <!--MsgTime=8-->20 ม.ค. 52 17:11:28

ที่มา http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K7439053/K7439053.html<!--MsgIP=8-->

หมายเหตุ

สาเหตุที่ผมต้องหยิบยกเอาเรื่องนี้มาโพสต์ ก็เพราะเห็นว่าเด็กสมัยนี้ ได้ยิน สรรพนามเหล่านี้ กันจนชินหูในหนังย้อนยุคต่างๆที่สร้างกันขึ้นมา ทั้งทางภาพยนต์ และทางจอทีวี คงนึกขำอยู่ในใจว่า ทำไมคนรุ่นเก่าจึงต้องเรียกกันอย่างนั้น รวมทั้งพวกฝรั่งมังค่า ที่ยังไม่เข้าใจในภาษาไทยดีนัก ก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน

ผมจึงได้นำที่มาที่ไป และความหมายที่แท้จริง ของสรรพนามที่นำมาใช้เรียกกันแบบนั้นว่าเจตนาจริงๆ เขาต้องการสื่อความหมายอย่างไร จะได้นำไปอธิบายให้ลูกหลานและชาวต่างประเทศได้รับฟัง เขาจะได้เข้าใจความหมายอย่างถูกต้องครับ

*************************************************
​

<!--MsgIP=0-->

 

ขอร้องละ ถ้าไม่รู้จริง อย่าเอาพุทธมาปนกับพรามณ์ ท่านโพสไปโพสมา ดูเหมือนพระพุทธเจ้าเราไปอยู่ในนารายณ์10ปาง นี่มันทำลายกันชัดๆ

หลักการของพระพุทธศาสนา นิพพานคือจุดสูงสุด พระพุทธเจ้าจึงเป็นสุดยอดมนุษย์ สูงกว่าเทพเจ้าใดๆ

ท่านบอกว่าเหล่าเทพเจ้าชั้นสูงคือ ปวงเหล่าโพธิสัตว์ ผมรับได้

 

ช้างต้น พลายบุญเลิศ เดินทางถึงลำปางเรียบร้อยแล้ว​

​

ลำปาง 15 มี.ค.- ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปางดูแล

 

ท่านทั้งหลายมาเล่นเกมส์กับผมมั๊ย?

ผมอยากจะรู้ว่าใครจะสัมผัสญาณแห่งองค์พระแม่ธรณีได้

ว่ามา ...

 

คุณ f12345 เข้าใจเจตนาของผมผิดไปแล้วครับ

ที่ผมนำเรื่องพระนารายณ์ และพระอิศวรในศาสนาฮินดู มาเปรียบเทียบกับศาสนาพุทธ ก็เพื่อต้องการจะชี้ให้เห็นว่า การสร้างบารมีของเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลายในอดีตนั้น ท่านต้องลงมาเกิดในโลกมนุษย์นี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็เพื่อต่อสู้กับความเชื่อผิดๆ ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิของเหล่ามนุษย์ทั้งหลายในแต่ละยุคแต่ละสมัย ให้กลับมาเป็นสัมมาทิฏฐินั้น ล้วนเป็นเรื่องจริงที่มีบันทึกเอาไว้ ในแต่ละศาสนา

ไม่ว่าจะเป็นพระเยซู พระโมฮัมหมัด พระศิวะ พระนารายณ์ ฯลฯ ความจริงแล้วก็คือพระโพธิสัตว์ในศาสนาพุทธของเรานั่นเอง ที่ท่านต้องลงมาเกิดเพื่อยกระดับจิตใจที่ตกต่ำของคนในแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้น ให้กลับมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้องของศิลธรรมอันดีงาม ดังจะเห็นว่าทุกศาสนานั้นล้วนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ประพฤติปฏิบัติตัวอยู่ในศีลธรรมอันดีทั้งสิ้น รวมทั้งห้ามกระทำสิ่งที่เป็นบาปอกุศลทั้งปวง

เรื่องพระนารายณ์ 10 ปาง ที่รวมเอาพระพุทธเจ้าของเรา เข้าเป็นปางที่ 9 ของพระนารายณ์นั้น ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิที่เขาต้องการจะลบล้างพระพุทธศาสนา ให้หมดไปจากประเทศอินเดียของศาสนาฮินดู ซึ่งเขาก็ได้ทำสำเร็จไปแล้วนั้น มันก็เป็นเรื่องความคิดความเชื่อของเขาที่ได้กระทำกันไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ลบล้างความจริงเรื่องของพระโพธิสัตว์ ที่ได้จุติลงมาสร้างบารมีในแต่ละยุคแต่ละสมัยไปได้ เพราะความจริงก็คือความจริงอยู่นั่นเอง

ผมจึงอยากจะให้ทุกท่านที่อ่านบทความนี้ ได้เข้าใจในความเป็นจริงที่ว่า พระนารายณ์ 10 ปาง ความจริงก็คือพระมหาโพธิสัตว์ของชาวพุทธ ที่ลงมาเกิดเพื่อปราบเหล่ามิจฉาทิฏฐิทั้งหลายให้หมดไปจากโลกนี้ พระสมณโคดมก็คือพระนารายณ์ในชาติที่เกิดเป็นพระรามเพื่อมาปราบทศกรรณฐ์ พระศรีอาริยเมตไตรยก็คือพระนารายณ์ในชาติที่เกิดมาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เพื่อมาปราบมิจฉาทิฏฐิของคนในยุคสมัยของเรานี้นั่นเอง

เปลี่ยนทัศนะคติมุมมองของเราเสียใหม่ เปิดใจให้กว้างเพื่อรับฟังทุกความคิดเห็น แล้วเราก็จะเข้าในความจริงของทุกความคิดเห็น ทุกความเชื่อที่แตกต่างกันนั้น ล้วนมาจากจุดกำเนิดเดียวกันทั้งสิ้น แต่มาถูกมานะทิฏฐิของแต่ละคนเข้าครอบงำ จึงถูกแบ่งแยกออกมาเป็นหลายความคิด หลายความเชื่อ หลายลัทธิ หลายศาสนาไปในที่สุด .....

 

ไม่เห็นด้วยครับ

ในพระไตรปิฎกไม่มีการกล่าวถึงเรื่อง พระสมณโคดมก็คือพระนารายณ์ในชาติที่เกิดเป็นพระราม แน่นอนครับ

จริงๆคุณก็เข้าใจถูกแล้วที่เรื่องที่พระสมณโคดมเข้ามาเกียวข้องกับคือพระนารายณ์
นั้นมาจากแผนกลืนศาสนาพุทธของศาสนาพราหมณ์


เห็นว่าเป็นความพยายามรวมศาสนาหรือเปรียบเทียบศาสนา
ที่จะทำให้ผู้ปฎิบัติโดยเฉพาะผู้เริ่มต้นมีความสับสนเข้าใจผิดๆ

ยืนยันตามคุณ f12345 เราพิจรณาว่าพระนารายณ์ท่านบำเพ็ญบุญบารมีอะไรบ้าง
และเทียบได้กับพุทธภูมิชั้นไหน อย่าเพิ่มเลยครับ

 

ศพ 3 ทหารกล้าเหยื่อโจรใต้ถึงบ้านเกิด จ.ลำปาง



ลำปาง 14 มี.ค.- ศพทหาร 3 นาย ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ถึงบ้านเกิดที่ จ.ลำปางแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง

ช่วงค่ำที่ผ่านมา ศพของจ่าสิบเอกดำ วาดเขียน จ่าสิบตรีศักดิ์อุดม ยิ้มเกษ และพลทหารพงษ์ธร ใจตาบุตร ได้ถูกลำเลียงด้วยเครื่องบิน ถึงบ้านเกิดที่ จ.ลำปาง โดยมีพิธีต้อนรับอยางสมเกียรติ จากทหารกองเกียรติยศ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติพี่น้อง

สำหรับทหารทั้ง 3 นาย เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดรักษาความปลอดภัยให้ครู ที่ ต.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และได้ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คนซุ่มยิง โดยผลจากการเสียสละ ทหารทั้ง 3 นายจะได้รับความช่วยเหลือ และเลื่อนยศตามระเบียบของทางกองทัพต่อไป.- สำนักข่าวไทย

2009-03-14 21:57:09


อ่านเเล้วก็เหมือนเดิมๆ เเละรับไม่ได้เลย จะต้องให้มีคนตายอีกซักเท่าไร
ทำไม ชีวิตคนในบ้านเรานี่ไม่ค่ากันเลยหรือไง...ลำบากเเค่ไหน กว่าเเม่จะตั้งท้อง
อุ้มท้อง เเละออกลูก เลี้ยงดู
ได้เห็นข่าวที่ไรก็ต้องเศร้า...มองดูเหมือนเป็นเเค่เหยื่อ...ยังไงขอให้ไปสู่สุคตินะคะ
ทหารกล้าทั้งสาม
งานนี้อีกเเล้วขอต่อว่า คนก่อปัญหา เเละที่สำคัญคนที่รู้ว่ามันปราบได้ เเต่ไม่ปราบ


ตอนมีข่าวตำรวจ ทหารเสียชีวิตไหม่ๆ..ข่าวดัง
ผ่านๆไป...ข่าวเริ่มเเผ่วว
นานอีกหน่อย..คงลืมม เห้อ ถ้าเป็น ตปท คงเดินขบวนไปเเล้วเเต่นี่เมืองไทย กรูไม่เดือนร้อนกรูไม่สน
จะทำไงกันดี จะปล่อยไปยังงี้เรื่อยๆหรือ

 

ฤาอเมริกาใกล้ล่มสลาย?



ไม่ว่าเคยยิ่งใหญ่ปานใด “มหาอาณาจักร” ใหญ่ๆของโลก ล้วนเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา “สหรัฐอเมริกา” มหาอำนาจหมายเลข 1 ยุคนี้ ก็คงไม่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ เพียงแต่จะเป็นเมื่อไหร่เท่านั้น<o>
</o><o></o>
ผู้สันทัดกรณีหลายคนชี้ว่าสหรัฐฯจะล่มหรือสูญเสียตำแหน่ง “เจ้าโลก” ภายในศตวรรษที่ 21 นี้ แต่มีน้อยคนที่กล้า “ฟันธง” ว่าจะเกิดขึ้นในไม่กี่ปีนี้ และหนึ่งในนั้นคือนาย อิกอร์ พานาริน

พานารินเป็นอธิการบดีวิทยาลัยการทูตแห่งกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เคยเป็นโฆษกสำนักงานอวกาศรัสเซียและนักวิเคราะห์มือดีของ “เคจีบี” หรือ หน่วยข่าวกรองรัสเซียในอดีต เป็นองค์ ปาฐกออกทีวีช่องต่างๆ ในรัสเซียเป็นประจำ นับเป็นนักวิชาการที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของรัสเซียยุคนี้


สัปดาห์ ที่แล้ว พานารินขึ้นปาฐกถาที่วิทยาลัยการทูตในกรุงมอสโก มีนักศึกษา ศาสตราจารย์ นักการทูต และสื่อฯเข้าฟังจำนวนมาก เขาทำเอาผู้คนฮือฮา เมื่อกล้าชี้ว่าสหรัฐฯจะล่มสลายแตกออกเป็น 6 ภูมิภาคปกครองตนเองภายในปี 2554 หรือ 2 ปีข้างหน้า ดีไม่ดีอาจเป็นปีหน้านี่เอง และรัฐอลาสกา ซึ่งสหรัฐฯซื้อมาจากรัสเซียจะกลับคืนสู่อ้อมอกรัสเซียอีกครั้ง<o>


</o> พา นารินระบุสหรัฐฯกำลังเผชิญวิกฤติรุมเร้ารอบด้านซึ่งเป็นปัจจัยนำไปสู่การล่ม สลาย ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจ-การเงินครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี ตลาดหุ้นก็ล้มระเนระนาด จนรัฐบาลต้องเข้าโอบอุ้มภาคธนาคารและอุตสาหกรรมต่างๆ นอก จากนี้ ศีลธรรม-จริยธรรมของชาวอเมริกันก็เสื่อมอย่างหนัก เห็นได้จากเกิดเหตุยิงสังหารหมู่ในสถานศึกษาบ่อยครั้ง จำนวนนักโทษในคุกและคนรักร่วมเพศก็ทวีขึ้นทุกวันจนน่าตกใจ<o>


</o> เขายังชี้ว่า “จีน” และ “รัสเซีย” ซึ่งจะสามารถฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ได้ดีกว่าจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและผงาดขึ้นมาเป็นอภิมหาอำนาจ “เสาเอก” ของ โลกแทนที่สหรัฐฯ ทั้ง 2 ประเทศจึงควรร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ถ้าเป็นไปได้ควรร่วมกันตั้งเงินสกุลใหม่ขึ้นมาแทนเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ<o>


</o> ทฤษฎีแบบสุดโต่งของพานารินสอดคล้องกับแนวคิดของนายกฯ วลาดิเมียร์ ปูติน อดีตประธา-นาธิบดีผู้ยังทรงอิทธิพลสูงสุดของรัสเซีย ผู้เคยเปรียบสหรัฐฯว่าคล้ายกับ “จักรวรรดิไรค์ที่ 3” ของนาซีเยอรมนี และโทษว่าสหรัฐฯเป็นต้นเหตุวิกฤติเศรษฐกิจ-การเงินโลก...ฉุดดึงให้รัสเซียเกิดวิกฤติไปด้วย<o>


</o> แต่ เหล่านักวิชาการอีกขั้วไม่เชื่อในแนวคิดนี้ เพราะเห็นว่ารากฐานเศรษฐกิจ-สังคมของสหรัฐฯ แข็งแกร่งพอ คงไม่ล่มสลายในอนาคตอันใกล้แน่ รัสเซียเองต่างหากที่มีความเสี่ยงยิ่งกว่า ถ้าต้านทานวิกฤติรอบนี้ไม่ไหวอาจถึงขั้นพังพาบรอบ 2 หลังสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 2534<o>


</o> บางคนตั้งข้อสงสัยว่าพานารินอาจแกล้ง“ตีวัวกระทบคราด” ทำนายถึงการล่มสลายของรัสเซียเองมากกว่า แต่ไม่กล้าพูดตรงๆ จึงเฉไฉว่าเป็นสหรัฐอเมริกา<o>


</o> ใครถูกใครมั่วอย่างไร...เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์!!!<o>


</o> บวร โทศรีแก้ว

ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=international04&content=126759

 

จาก เล่ม ๖๐ อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ ความท้ายชาดกนี้ว่า..

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะ ในเวลาจบสัจจะ กุฎุมพีดำรงในโสดาปัตติผล ทรงประชุมชาดกว่า

พระทสรถมหาราช ครั้งนั้นได้มาเป็น สุทโธทนมหาราช
พระมารดา ได้มาเป็น พระมหามายา
สีดา ได้มาเป็น มารดาของราหุล
เจ้าภรตะ ได้มาเป็น อานนท์
เจ้าลักขณ์ ได้มาเป็น สารีบุตร
บริษัทได้มาเป็น พุทธบริษัท
รามบัณฑิต ได้มาเป็น เราตถาคต

เนื้อความเต็มๆ ในอรรถกถา อ่านได้ที่ลิ้งค์ข้างนี้ครับ
http://www.84000.org/tipitaka/attha/jataka.php?i=271564

พระรามคืออดีตชาติของพระสมณโคดม แน่นอนครับ เพราะมีหลักฐานยืนยันอยู่ในพระไตรปิฏก แต่พระนารายณ์เป็นเพียงชื่อเรียกของมหาเทพผู้รักษาคุ้มครองโลก ผมจึงตั้งสมมุติฐานว่า พระโพธิสัตว์ผู้มีบารมีมากที่สุด ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในขณะนั้น ก็คือพระรามซึ่งเป็นอดีตชาติของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ว่าเป็นองค์พระนารายณ์ จึงไม่ได้ผิดความหมาย มหาเทพผู้รักษาคุ้มครองโลกแต่ประการใด

เพราะพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีจิตมุ่งมั่นในการสร้างบารมี มุ่งที่จะสร้างสันติสุขให้กับชาวโลก และท้ายที่สุดก็เพื่อจะช่วยรื้อสัตว์ขนสัตว์ให้พ้นไปจากวัฏฏะสงสารนี้ครับ การที่บุคคลคนหนึ่งถูกเรียกชื่อแตกต่างกันไป ในแต่ละยุคแต่ละสมัย ถูกเรียกชื่อแตกต่างกันไปในแต่ละความเชื่อของศาสนา ก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นตัวตนของบุคคลท่านนั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด

พระโพธิสัตว์ผู้มีบารมีมากที่สุดในขณะนั้น จะถูกเรียกว่าพระนารายณ์บ้าง พระรามบ้าง เจ้าชายสิทธัตถะบ้าง ก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นพระโพธิสัตว์ของท่านเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด หรืออย่างพระอินทร์ก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปหลายชื่อ เช่น ท้าวมฆวาณ ท้าวปุรินททะ ท้าวสักกะ ท้าววาสะ ท้าวสหัสสักขะ ท้าวสุชัมบดี ท้าวโกสีย์ อมรินทร์เป็นต้น ก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นพระอินทร์ของท่านเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด

***************************************************
พระอินทร์ในทางพุทธศาสนา และอินทราในศาสนาฮินดูต่างกันอย่างไร ?

พระอินทร์ เป็นชื่อของเทวดาในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาพุทธ โดยมีตำแหน่งเทวาธิบดี เป็นประมุขแห่งเทวดาทั้งปวง มีหน้าที่ปกครองสวรรค์และอภิบาลโลก ถือกำเนิดขึ้นในสมัยฤคเวท ต่อมาในสมัยที่ตรีมูรติอุบัติขึ้น พระอินทร์ก็ถูกลดบทบาทลง กระทั่งกลายเป็นเทวดาชั้นรองจากตรีมูรติในปัจจุบัน(ตรีมูรติคือพระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม)

ในทางพุทธศาสนานั้นพระอินทร์มีชาติกำเนิด ณ หมู่บ้านมจลคาม แคว้นมคธ มีมาณพคนหนึ่งชื่อว่า มฆมาณพ มีใจใฝ่ให้ทาน รักษาศีลอยู่เสมอ ทั้งยังชอบแผ้วถางทาง ทำงานสาธารณประโยชน์ต่างๆ และมีพรรคพวกเข้าร่วมทำด้วยรวม33คนเมื่อจุติจากโลกได้ไปเกิดบนสวรรค์ทั้งหมด มฆมาณพ ได้เป็นพระอินทร์ปกครอง ณ ชั้นดาวดึงส์แปลว่า 33 และเป็นประมุขแห่งเทวดาทั้งมวล มีหน้าที่ปกครองสวรรค์และอภิบาลโลกมนุษย์และพุทธศาสนาให้ดำรงครบ 5,000ปี (ในยุคศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)

ดังจะเห็นได้จากอดีตชาติของพระพุทธเจ้า ในชาดกต่างๆมักจะมีพระอินทร์เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็เคยเกิดเป็นพระอินทร์อยู่หลายชาติ ชาติที่เกิดเป็นพระเวสสันดร ก็มีพระอินทร์คอยช่วยเหลือในยามลำบาก(ด้วยอำนาจแห่งบุญบารมี)เมื่อมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย พระอินทร์องค์นั้นก็มาเกิดเป็นพระอนุรุทธเถระ อริยสาวกอีกองค์หนึ่ง จะเห็นได้ว่าในทางพุทธศาสนานั้น พระอินทร์เมื่อหมดอายุขัยของตนตามที่บุญบารมี ที่ได้สร้างไว้แล้วก็ต้องจุติไปเป็นอื่น และมีพระอินทร์องค์ใหม่เกิดมาทำหน้าที่แทนไม่มีความจีรังยั่งยืน

พระอินทร์มีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น ท้าวมฆวาณ ท้าวปุรินททะ ท้าวสักกะ ท้าววาสะ ท้าวสหัสสักขะ ท้าวสุชัมบดี ท้าวโกสีย์ อมรินทร์เป็นต้น มีกายสีเขียว มีชายา4พระองค์คือ พระนางสุธรรมา สุจิตตรา สุนันทาและสุชาดา มีนางสนมมากถึง 24 ล้านองค์ ใช้วัชระ(สายฟ้า)เป็นอาวุธ มีช้างเอราวัณเป็นพาหนะ ปกติจะมีอายุยืนยาวเป็นพันปีทิพย์ จากพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่า หนึ่งวันกับหนึ่งคืนบนดาวดึงส์นั้น เท่ากับหนึ่งร้อยปีในโลกมนุษย์ครับท่าน

โพสต์โดยคุณ chan s

ที่มา http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20080916104252AAPOJmb

พระนารายณ์ 10 ปาง ตามความเชื่อเดิมของชาวฮินดู

ปางที่ 1 วราหาวตาร (อวตารเป็นหมูเผือกเขี้ยวเพชร)
ปางที่ 2 กูรมาวตาร (อวตารเป็นเต่าทอง)
ปางที่ 3 มัตสยาวตาร (อวตารเป็นปลากรายทอง)
ปางที่ 4 นรสิงหาวตาร (อวตารเป็นครึ่งสิงห์)
ปางที่ 5 วามนาวตาร หรือ ทวิชาวตาร (อวตารเป็นพราหมณ์เตี้ย)
ปางที่ 6 มหิงสาวตาร (อวตารเป็นมหิงสา หรือควาย)
ปางที่ 7 อัปสราวตาร (อวตารเป็นนางฟ้า)
ปางที่ 8 รามาวตาร (อวตารเป็นมนุษย์ชื่อพระราม)
ปางที่ 9 กฤษณาวตาร (อวตารเป็นพระกฤษณะ)
ปางที่ 10 กัลกยาวตาร (อวตารเป็นมนุษย์เรียกว่า วีรบุรุษขี่ม้าขาว)

ที่มา http://th.wikipedia.org

 

*** จะเกิดอะไรต่อไป ****

ถ้า...ความจริงในศาสนาพุทธ ปรากฏขึ้นมาว่า....
พระพุทธเจ้า ....มีแต่ตัด มีแต่ลด ไม่มีเพิ่ม
พระพุทธเจ้า...ใช้ หลักความจริง คือ สัจจะธรรม
....ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน...
พระพุทธเจ้า....ไม่ใช้ ความเห็น
พระพุทธเจ้า...ไม่ใช้ วัตถุ
พระพุทธเจ้า....ไม่ใช้ พิธีกรรม
พระพุทธเจ้า...ใช้การปฏิบัติต่อจิตวิญญาณ ด้วยการตัดลดนิสัย
พระพุทธเจ้า....ใช้ สัจจะในการตัดนิสัย เรียก สัจจะทำ
พระพุทธเจ้า...สอนให้พระสาวกปฏิบัติตนด้วย สัจจะ เป็นประจำทุกวัน เพื่อขจัดนิสัยให้หมดสิ้น

แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นในสังคมไทยปัจจุบัน
ที่ยังเห็นว่า วัตถุพิธีกรรมเป็นที่พึ่ง
ทั้งที่ พระพุทธเจ้า... สอนให้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเอง
คือ เกิดเป็นมนุษย์ สุดท้ายต้องพึ่งผลการกระทำที่ทำไปแล้ว

เราชาวพุทธ...ยังไม่ได้เอาสัจจะธรรม มาตัดลดนิสัยกันเลย
เราทุกคน ....ปรารถนาที่จะพ้นทุกข์
เราควรที่จะ....ศึกษาวิธีตัดลดนิสัย ที่พระพุทธเจ้าทำได้จริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ประกาศเตือนภัย
"พายุฤดูร้อนในประเทศไทยตอนบน"


​

ฉบับที่ 12 (49/2552) ลงวันที่ 15 มีนาคม 2552​

บริเวณความกดอากาศสูง ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้

จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายภัย จากลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ส่วนภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น

ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเฉพาะเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในขณะที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง ในช่วงวันที่ 15-16 มีนาคม 2552 ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2552
ออกประกาศ เวลา 11.00 น.​

<CENTER>สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร </CENTER>
ที่มา http://www.tmd.go.th/list_warning.php

 

*** ระวัง ****

การทำบุญ แต่ได้บาป
คิดว่าจะได้บุญ กลับได้บาปติดตัว
ไม่ได้ห้ามใคร แต่ให้พิจารณาผลของการกระทำ
เราต้องมองให้ไกล มองให้กว้าง
การกระทำของเรานั้น จะส่งผลอะไร ต่อใคร ต่อใคร ต่อใครบ้าง
แล้วผลที่เกิด มันจะดี หรือไม่ดีกันแน่
มันอาจจะดี แค่ที่เราเห็นก็ได้ ...ต้องพิจารณาให้ดี
เพราะ การกระทำมันไม่ตาย....กลายเป็นตัวกระทำ ติดตัวเราไปแสนนาน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ถึงที่สุด ****

การตัดลดนิสัยตนเอง...คือ บุญที่สุดแล้ว
ขอให้พิจารณา....มันจริงไหม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ไปเอามาจากไหน เจ้าลิงน้อยตกมันส์เอ๊ย

ตกลงเอ็งเป็นชาวพุทธหรือเปล่าเนี่ย !

 

*** ชาติเก่าก่อน หลังปรินิพพาน ****

มี ผู้ไม่เอา สัจจะคำสอนพระพุทธเจ้า อยู่มาก
เพราะ ยังติดในวัตถุพิธีกรรม จึงเสียผลประโยชน์ที่เคยได้รับ
ผลการกระทำ จึงขัดกับสัจจะคำสอนของพระพุทธเจ้า
จึงมีตัวกระทำที่คอยต่อต้านศาสนาโดยไม่เจตนา ติดตัว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สัจจะทำเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ****

บ้านเมือง สังคม...ไปไม่รอด
เพราะ ขาดสัจจะทำ....ไม่มีตัวกระทำในการตัดนิสัยได้จริง
ราคะ โทสะ โมหะ กิเลส ตัญหากามคุณ มานะชั่ว... จึงเต็มบ้านเมือง
ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่เกิด....เพราะ ขาดสัจจะ ขาดตัวทำได้จริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "