ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

​

 

ผึ้งที่ทำรังที่หลวงเงินไหลมาเทมาที่วัดท่าซุง เป็นผึ้งหลวงหรือเปล่า ตออนี้ มี 2 รังแย้ว... ^^

 

*** พิจารณา ****

รากฐานของ ศีล ... คือ สัจจะ
เมื่อ มนุษย์เรา ขาดสัจจะ .... ศีลก็ไม่เกิด ไม่บริสุทธิ์
ศีล...หมายถึง การทำได้เป็นปกติ
อรหันต์....คือ ผู้ทำได้ใกล้เอื้อม
คือ ขจัดนิสัยจนหมดสิ้น

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

นักวิทยาศาสตร์เตือนน้ำทะเลอาจสูงขึ้นกว่าที่คาด 2 เท่า ​

​

เดนมาร์ก 11 มี.ค. - นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าระดับน้ำทะเลอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2550 รายงานของคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ได้ทำนายว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้น 7-23 นิ้ว เมื่อถึงช่วงสิ้นสุดศตวรรษนี้ แต่ล่าสุด คณะนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่ร่วมประชุมกันเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก ระบุว่า สถานการณ์อาจรุนแรงกว่านั้นมาก เนื่องจากข้อมูลด้านภูมิอากาศล่าสุดที่รวบรวมมาได้ชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ระดับน้ำทะเลอาจเพิ่มสูงเกิน 39 นิ้ว หรือ 1 เมตร เนื่องมาจากภูเขาน้ำแข็งและธารน้ำแข็งขั้วโลกละลาย แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจากภาวะเรือนกระจกส่งผลกระทบรุนแรงกว่าที่คาดไว้ และพื้นที่ใกล้ชายฝั่งที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 1 ใน 10 ของประชากรทั้งโลกจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

2009-03-11 03:06:40

ระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นมากกว่าที่คาด​

​

โคเปนเฮเกน 11 มี.ค.- นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นมากกว่าที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) คาดการณ์ไว้เนื่องจากตัวเลขของยูเอ็นไม่ได้พิจารณาถึงปัจจัยเรื่องแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วขึ้นกว่าเดิม

นักวิทยาศาสตร์เตือนในการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์กว่า รายงานการประเมินฉบับที่ 4 ปี 2550 ของคณะทำงานระหว่างประเทศของยูเอ็นว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (ไอพีซีซี) คาดการณ์ว่า ระดับน้ำทะเลโลกจะสูงขึ้นสูงสุด 59 เซนติเมตร ขณะที่พวกเขาคาดว่าจะสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 1 เมตรภายในปี 2643 หลายล้านคนเสี่ยงตกอยู่ในอันตรายเพราะมีผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลราว 600 ล้านคน หรือร้อยละ 10 ของประชากรโลก

ศ.คอนราด สเตฟเฟน มหาวิทยาลัยโคโลราโดในสหรัฐ ผู้ศึกษาเรื่องน้ำแข็งขั้วโลกเหนือมานานกว่า 35 ปี เผยว่า น้ำแข็งที่กรีนแลนด์ละลายเร็วขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ต้องเร่งรับมือโดยทันที ด้าน ดร.จอห์น เชิร์ช จากศูนย์วิจัยอากาศและสภาพอากาศออสเตรเลียเสริมว่า ผลการวิจัยล่าสุดชี้ว่านับตั้งแต่ปี 2536 เป็นต้นมาระดับน้ำทะเลสูงขึ้นปีละ 3 มิลลิเมตร สูงกว่าระดับเฉลี่ยของคริสตศตวรรษที่ 20

ส่วน ศ.อีริค ริกน็อต นักวิจัยอาวุโสในห้องทดลองปฏิบัติการขับเคลื่อนเครื่องบินไอพ่นของนาซาตั้งข้อสังเกตว่า แผ่นน้ำแข็งที่กรีนแลนด์และขั้วโลกใต้ละลายเร็วขึ้นจนทำให้ขณะนี้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเร็วกว่าและมากกว่าที่คาดแล้ว ขณะที่ ศ.สเตฟาน แรมสตอร์ฟ์ จากสถาบันวิจัยผลกระทบสภาพอากาศพอทสดัมในเยอรมนีชี้ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้คาดได้ว่าระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะโลกร้อนขึ้น.-สำนักข่าวไทย

2009-03-11 11:52:05

พบไวรัสหวัดนกพันธุ์อันตรายในเป็ดป่าที่เยอรมนี​

​

บรัสเซลส์ 11 มีค. - คณะกรรมาธิการยุโรป แถลงว่า เจ้าหน้าที่เยอรมนีพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น1 ในเป็ดป่าที่ถูกยิงช่วงฤดูล่าสัตว์ในรัฐบาวาเรีย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พบในรอบปีกว่าที่ผ่านมา

องค์การอนามัยโลกระบุว่า มีผู้เสียชีวิตราว 250 คนจากการติดเชื้อไข้หวัดนกนับตั้งแต่ปี 2546 โดยส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการสัมผัสกับสัตว์ปีกป่วย ซึ่งเชื้อหวัดนกที่พบครั้งหลังสุดในยุโรปคือที่ฟาร์มในรัฐแซกโซนีใกล้พรมแดนโปแลนด์เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน สำหรับการพบสัตว์ติดเชื้อล่าสุดมาจากการสุ่มตัวอย่างจากเป็ดและห่านป่า 35 ตัวในช่วงฤดูล่าสัตว์ และพบว่ามีเป็ดป่าตัวหนึ่งติดเชื้อดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

2009-03-11 11:28:58

อินโดนีเซีย-เกาหลีใต้จะพัฒนาพลังงานสาหร่ายทะเล​

​

จาการ์ตา 11 มี.ค.

 

พี่เกษมครับ อยากให้พี่กระเกษมร่วมเชิญพี่น้องทุกท่านทำสมาธิหมู่หน้าคอมครับผมอยากให้พี่เป็นคนเชิญทุกๆวันให้พี่นัดเวลาเหมาะสมด้วยครับที่บ้าน หน้าคอมของท่าน เอาตามเวลาที่พี่เห็นสมควรครับช่วงนี้เพื่อลดภาวะตึงเครียดหลายๆอย่างลงได้บ้างครับ

 

*** หลักสัจจะธรรม & การหลุดพ้นทุกข์ ****

หลักสัจจะธรรม คือ หลักธรรมเที่ยง ... ที่ปักไว้อย่างมั่นคง
มีแก่นสาร คือ...."ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน"

หาก เราพิจารณา...จะพบว่า
ผลตอบแทนของตัวกระทำ ก็คือ.... กรรม ที่เป็นของใครของมัน
ไม่ว่าจะเจตนา หรือไม่เจตนา....ก็เกิดเป็นตัวกระทำ ขึ้นมา
อุบัติเหตุ โรคภัย...เป็นตัวอย่างของ กรรมที่ไม่เจตนาให้เกิด
แต่ มันเป็นผลจาก....การกระทำที่ไปเบียดเบียนผู้อื่น โดยไม่เจตนา

เมื่อ พระพุทธเจ้า ... ค้นพบ หลักสัจจะธรรม ที่มีอยู่ในธรรมชาติแล้ว
จึงได้ค้นคว้าหา....หนทางหลุดพ้นทุกข์
พบว่า...

 

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6677 ข่าวสดรายวัน


ปืนลดโลกร้อน



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพนี้คือแบบจำลองปืนอวกาศยักษ์หรือ "ไจแอนต์ สเปซ กัน" ที่สร้างโดยนายท็อด ทอเดสชีนี่ ซึ่งอาจช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วยการยิงแสงสะท้อนกลับไปสู่อวกาศ

[FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]

ไปหามาป้องกันตัวเองช่วงภัยพิบัตินะค่ะ



โอดิสซี่เจรจารบ.อังกฤษ กู้ซากเรืออับปางพร้อมทองค่า5หมื่นล้าน



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อปีที่แล้วบริษัทโอดิสซี่มารีนโอเพอเรชันของสหรัฐ พบซากเรือ เอชเอ็มเอสวิกตอรีของ กองทัพเรืออังกฤษที่อับปางลงจากการชนหินโสโครกที่บริเวณช่องแคบอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1744 การอับปางครั้งนั้นทำให้มีทหารเสียชีวิต 1,100 นาย ทองมูลค่ามหาศาลปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ยังจมหายไปกับเรือด้วย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

นายเกรก สเต็มม์ ผู้บริหารโอดิสซี่ฯ กล่าวว่า "เรากำลังเจรจากับรัฐบาลอังกฤษเรื่องความร่วมมือในการกู้ซาก เรือเอชเอ็มเอสวิกตอรี ซึ่งนับว่า เป็นการอับปางครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติ ศาสตร์ สำหรับบริเวณที่พบซากเรือมีขนาด 70x200 ฟุต เราได้ใช้หุ่นยนต์บังคับด้วยรีโมตคอนโทรลไปสำรวจใต้น้ำ พร้อมกับถ่ายรูปและวิดีโอที่มีความละเอียดสูงเก็บไว้เป็นข้อมูล"

โอดิสซี่ฯ มั่นใจว่าซากเรือที่พบเป็นเอชเอ็มเอสวิกตอรี เพราะพบปืนใหญ่ซึ่งทำมาจากทองเหลืองจำนวน 31 กระบอก จากทั้งหมด 110 กระบอก ก่อนเกิดเหตุเรือลำนี้เดินทางออกจากกรุงลิสบอน ประเทศอังกฤษ และขนเหรียญทองคำกว่า 100,000 เหรียญมาด้วย

บริเวณที่เรืออับปางอยู่ห่างจากชายฝั่งอังกฤษ 25-40 ไมล์ นับว่าอยู่ในเขตของทะเลนานาชาติ ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมอังกฤษ แถลงว่า ถ้าซากเรือเป็นของกองทัพอังกฤษจริง เรือลำนี้ก็ยังเป็นของอังกฤษอยู่ และบุคคลใดๆ ก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ถ้ารัฐบาลไม่ยินยอม

[FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width="100%" bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>คาด6นักท่องเที่ยวจมสิมิลันเสียชีวิตคาซากเรือ

ญาติออสเตรียรุดยืนยันศพ เผยเป็นทันตแพทย์

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 มี.ค. น.ส.นงนิตย์ เต็งมณีวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ททท.ภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ได้อำนวยความสะดวกโดยการนำ นางบาบาร่า นอร์เต้ ผู้ช่วยกงสุลออสเตรียประจำ จ.ภูเก็ต สามีและญาติของเหยื่อสาวชาวออสเตรียที่เสียชีวิตจากกรณีเรือล่มกลางทะเลอันดามัน โดยเดินทางไปยังโรงพยาบาลวชิรภูเก็ต เพื่อขอดูศพหญิงสาวชาวยุโรปซึ่งเก็บรักษาศพอยู่ในห้องเย็น หลังจากเจ้าหน้าที่นำศพออกมาให้ดูรวมถึงจาการตรวจทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตอาทิ แหวนและนาฬิกา ทำให้ได้รับการยืนยันว่าศพหญิงสาวเคราะห์ร้ายรายนี้ เป็นศพของนาง เจ็ตซิงเกอร์ กาบริเอลล์ อายุ 52 ปี ชาวออสเตรีย ซึ่งเป็นทันตแพทย์หญิง
น.ส.นงนิตย์ เต็งมณีวรรณ ผช.ผอ.ททท.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ทางกงสุลออสเตรียที่ภูเก็ตและสานมาว่าทางญาติมีความประสงค์จะจัดพิธีศพที่ภูเก็ตตามประเพณีศพของไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานติดต่อวัดที่จะใช้เป็นสถานที่ฌาปนกิจศพอีกครั้งโดยทาง ททท.ภูเก็ตจะร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดพิธีเพื่อเป็นการแสดงความอาลัยต่อการสูญเสียนักท่องเที่ยวขณะมาเที่ยวที่ประเทศไทย นอกจากนี้ในช่วงเย็นวันนี้ยังได้รับการประสานจากทางสถานทูตญี่ปุ่นว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตและบิดาของเหยื่ออีกรายที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจะเดินทางมายังภูเก็ตพร้อมนำผลตรวจดีเอ็นเอของบิดามารอการตรวจสอบยืนยันกับดีเอ็นเอของผู้ตาย กรณีที่เจ้าหน้าที่งมศพขึ้นมาได้เนื่องจากเกรงว่าสภาพศพเหยื่อมีสภาพที่เน่าเปื่อยจนจำใบหน้าไม่ได้
ส่วนความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายจากกรณีเรือโชคสมบูรณ์ 19 ของบริษัทไดว์ เอเชีย จำกัด ซึ่งอัปปางกลางทะเลอันดามันเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่ง พ.ต.อ.อนันต์ ห่วงสายทอง ผกก. 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ กล่าวถึงการค้นหาผู้สูญหาย ว่า การค้นหาในวันนี้ (11มีค.) เป็นวันที่สามแล้ว โดยในส่วนของตำรวจน้ำได้นำเรือออกไปค้นหาร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 อย่างต่อเนื่อง และยังคงใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจในระยะรัศมีวงกว้างประมาณ 10 ไมล์ทะเลด้วย พร้อมกันนี้ก็ได้มีการเก็บหลักฐานต่างๆ ที่พบไว้ทั้งหมด ด้านการค้นหาใต้ทะเลซึ่งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (10 มีค.) ทางบริษัทเจ้าของเรือได้ส่งนักประดาน้ำชาวต่างประเทศที่มีความชำนาญเฉพาะในการดำน้ำลึกออกไปดำน้ำค้นหายังจุดที่สงสัยว่าจะเรือลำที่เกิดเหตุจมอยู่ แต่ยังไม่พบอะไร เนื่องจากไม่ทราบจุดที่แน่นอนประกอบกับใต้ทะเลมืดมาก นอกจากนี้ทางทัพเรือภาคที่ 3 ยังได้นำเรือหลวงพฤหัสออกค้นหาโดยใช้เครื่องโซน่า ซึ่งพบจุดที่สงสัยว่าน่าจะเป็นจุดที่เรือจมแล้วแต่ก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าใช่หรือไม่
พ.ต.ท.วัลลพ พวงผกา สารวัตรสถานีตำรวจน้ำภูเก็ต กล่าวว่า เบื้องต้นพบเพียงสิ่งของที่หลุดมาจากเรือ เช่น ถังอ๊อกซิเจน เป็นต้น แต่ไม่พบซากเรือซึ่งคงจะต้องมีการค้นหาต่อไป เนื่องจากจุดที่เรือจมระดับน้ำลึกถึง 71 เมตร การค้นหาจึงทำได้ยากลำบาก ดังนั้นในการดำลงไปสำรวจต้องใช้นักดำน้ำที่มีความชำนาญเฉพาะที่มีเทคนิคอีกระดับ เพราะค่อนข้างมีอันตรายถึงชีวิต โดยมนุษย์กบที่ดำน้ำปกติจะอยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 31 เมตร ทั้งนี้จะต้องปรึกษากับทางบริษัทเจ้าของเรือว่าจะดำเนินการอย่างไร แม้ว่าทางบริษัทได้ส่งนักดำน้ำที่มีความชำนาญไปแล้ว แต่ก็ค่อนข้างเสี่ยงมาก อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วัลลพ กล่าวถึงการกู้ซากเรือว่า คงเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง เพราะขณะนี้เน้นเรื่องของการค้นหาผู้ที่สูญหาย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะติดอยู่ในเรือ และจะนำออกมาได้อย่างไร เนื่องจากเรือลำดังกล่าวมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และจมในระดับความลึกมาก ซึ่งคิดว่าในส่วนของเมืองไทยยังไม่สามารถที่จะทำได้ แต่คงต้องรอมาหารือกันอีกครั้ง

</TD><TD vAlign=top align=left>




</TD><TD vAlign=top align=left width=300>

<!-- begin ad tag--><SCRIPT language=JavaScript src="http://ad.doubleclick.net/adj/ewit.khaosod/Home;sz=300x250;ord=1236759846?" type=text/javascript></SCRIPT><!-- Template Id = 1 Template Name = Banner Creative (Flash) --><!-- Copyright 2002 DoubleClick Inc., All rights reserved. --><SCRIPT src="http://m1.2mdn.net/879366/flashwrite_1_2.js"></SCRIPT><OBJECT id=FLASH_AD height=250 width=300 classid=clsid27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























<EMBED src="http://www.matichon.co.th/banner/ewit/online300x250_1.swf?clickTag=http%3A%2F%2Fad.doubleclick.net%2Fclick%253Bh%3Dv8%2F37ed%2F3%2F0%2F%252a%2Fe%253B155497372%253B0-0%253B0%253B20918057%253B4307-300%2F250%253B29864804%2F29882681%2F1%253B%253B%257Esscs%253D%253fhttp%3A%2F%2Fwww.matichon.co.th%2Fkhaosod%2F" quality=high wmode=opaque swLiveConnect=TRUE WIDTH="300" HEIGHT="250" bgcolor=# TYPE="application/x-shockwave-flash" AllowScriptAccess="never"></EMBED></OBJECT><NOSCRIPT></NOSCRIPT><NOSCRIPT></NOSCRIPT><!-- End ad tag -->





​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/corner_line_right.gif> </TD></TR><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></P>

 

แนะนำ การนัดหมายทำสมาธิหมู่ เวลา 19.30-22.30 กิจกรรมดีๆของชาวเวบพลังจิต ( 1234567891011)

กิจกรรมการร่วมทำสมาธิหมู่เพื่อลดความรุนแรงจากภัยพิบัติ ของสมาชิกเว็บพลังจิตมีอยู่แล้วครับ ตามลิ้งค์ข้างบนนี้ครับ

สงสัยคุณ ragpon คงเข้ามาดูแต่กระทู้นี้กระทู้เดียว ความจริงในห้องภัยพิบัติและการเตรียมการ นอกจากกระทู้นี้แล้ว ก็ยังมีกระทู้ดีๆ อีกมากมายที่เป็นกิจกรรมของทางกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดทำขึ้นมาอีกหลายกิจกรรมครับ ขอเชิญเข้ามาอ่านดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

ภัยพิบัติและการเตรียมการ

เกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเกิดขึ้นโดยมนุษย์ มีทั้งทางแนววิทยาศาสตร์และพุทธศาสตร์ มีการรวมตัวของกลุ่มสมาชิกเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เพื่อเตรียมการล่วงหน้า ช่วยคนเมื่อภัยพิบัติต่างๆ มาถึง

 

แต่ละคน ข้อมูลสุดยอดจริงๆครับ
ถ้าว่างๆจะอ่านๆๆๆๆๆ และจะโพสดู เผื่อมีคนสนใจ กับข้อมูลที่ยังไม่เคยเปิดเผยมาก่อน
แต่คงไม่พิมพ์ล่ะครับ เพราะข้อมุลเยอะ อาจต้องสแกนเอา แต่ผมทำไม่เปน คงต้องให้พี่ๆที่ทำงานเขาสแกนให้ แต่เขาก้อไม่ว่างเลย ค่อยหาเวลาเหมาะๆคับ อิอิ

 

ไข้เลือดออกคร่าชีวิตประชาชนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ​

​

สิงคโปร์ 11 มี.ค.-องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เปิดเผยว่า ไข้เลือดออกระบาดหนักขึ้นในเขตเอเชีย แปซิฟิก โดยเมื่อปีที่แล้วได้คร่าชีวิตประชาชนมากกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า

นายชูศักดิ์ ประสิทธิสุข ผู้เชี่ยวชาญโรคไข้เลือดออกขององค์การอนามัยโลก กล่าวในการประชุมผู้เชี่ยวชาญโรคไข้เลือดออกแห่งเอเชีย ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า ในกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และเกาหลีเหนือ มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ในปีที่แล้ว 3,255 ราย ต่างจากในปี 2546 ซึ่งมีเพียง 1,202 ราย โรคนี้เป็นปัญหาสำคัญด้านการสาธารณสุขของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และแปซิฟิกด้านตะวันตก ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา

ไข้เลือดออกเป็นโรคในเขตร้อนที่แพร่ระบาดมากที่สุด รองจากไข้มาลาเรีย โรคนี้มียุงเป็นพาหะ ผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีอาการเป็นไข้ ปวดหัว กล้ามเนื้ออ่อนแรงและเจ็บบริเวณข้อต่อ ซึ่งสามารถนำไปสู่อาการเลือดไหลไม่หยุดและเสียชีวิต

นายชูศักดิ์ ระบุว่า ความถี่ของการระบาดมีเพิ่มขึ้นและมีการวิวัฒนาการทางระบาดวิทยาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เขาบอกว่าความพยายามป้องกันและควบคุมโรคนี้ถูกจำกัดจากการขาดเจตนารมณ์ทางการเมืองที่มั่นคงชัดเจน อีกทั้งมีทรัพยากรไม่เพียงพอและขาดความร่วมมือ ทั้งนี้ คาดว่ามีประชากรโลกประมาณ 2,500 ล้านคน ที่เสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออก ในจำนวนนี้มีอยู่ถึง 1,800 ล้านคน ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

องค์การอนามัยโลกได้พัฒนาแผนยุทธศาสตร์ไข้เลือดออกเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อป้องกันและควบคุมภัยคุกคามจากโรคนี้ที่เพิ่มขึ้น.- สำนักข่าวไทย

2009-03-11 17:09:31

ประชาชนในริยาดเร่งทำความสะอาดหลังเผชิญพายุทราย​

​

ริยาด 11 มี.ค.

 

" ใกล้ระเบิดแล้ว "​

<O</O></SPAN>
<O</O​

ใครที่คิดว่าการเมืองเริ่มดีขึ้นแล้ว...สงบลงแล้ว...คิดผิดถนัด เพราะการเมืองนับจากนี้ไปกำลังระอุขึ้นเรื่อยๆ รอวันปะทุและพร้อม “ใกล้ระเบิดแล้ว” ทุกเมื่อ...การรวมพลของคนสีแดงครั้งใหญ่คงจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้...ในช่วงนี้กำลังใช้แผน “เผาป่า...พังเมือง” อยู่คิดว่าคงไม่นานนี้จะมีการ “ทิ้งทวน” ครั้งใหญ่เกิดขึ้น(หอกหักไปแล้วจึงเหลือแต่ทวน) คิดว่าจะเป็นขั้นแตกหัก

ไม่รู้ว่าฝ่ายรัฐบาลจะหัก...หรือฝ่ายตรงข้ามจะหัก...เทวดาเท่านั้นที่จะรู้บังเอิญหมอนิดไม่ใช่เทวดา...แต่ก็ขอให้กำลังใจทั้งสองฝ่ายเดี๋ยวจะหาว่าลำเอียง ประเทศไทยยังต้องอ่วมต่อเนื่องจากเรื่องการเมือง...มีบางคนคิดว่าถ้ากูเข้าบ้านไม่ได้...กูก็จะเผาให้เสียหายวายป่วนไปทั้งเมือง...แต่ผมไม่รู้ว่าใครคิดเพราะผมอยู่ห่างไกลจากคนคิดหลายพัน..หลายหมื่นไมล์จึงไม่เห็นหน้าได้ยินแต่...แว่วเสียงซึง...ลั่นปฐพี
<O</O
หากจะพูดกันตรงๆต้องบอกว่า...รูปหล่อบ่มิไก๊...เหนื่อย...และจะเหนื่อยยิ่งขึ้นถ้ายังยิ้มอย่างเดียวโดยไม่มองคนในพรรค “คนหนึ่ง” จะสร้างปัญหา และถ้าไม่รีบหาทางแก้ไขปรับปรุงโดยด่วนท่านนายกจะต้องเจอศึกหนักหลายด้าน...ท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านยังจำได้ไหม...ผมได้พบกับท่านในงานๆหนึ่งแถวถนนนวมินทร์...ผมได้นั่งคุยกับท่านและได้บอกว่าจะมีบุคคลหนึ่งในพรรคของท่าน “มีปัญหา” ...

ผมพูดไว้ตั้งแต่ท่านยังไม่ได้เป็น “นายก” คิดว่าท่านคงจะจำได้ และมีหลายคนในพรรคของท่านได้มาหาผมที่บ้าน ผมก็ได้บอกไปเช่นเดียวกันกับที่ได้บอกกับท่าน...ทุกคนพยักหน้ารับแต่ใบ้รับประทาน บอกว่าพูดไม่ได้...หากไม่รีบแก้ไข “พังครับ” รัฐบาลนี้...แต่คิดว่าท่านนายกก็คงจะหนักใจจนใบ้กินเช่นกัน...ผมเคยเขียนลงในเวบนี้...รูปร่างใบหน้าเป็น “อภิสิทธิ์” ใจเป็นสองสัญชาติ “พม่ากับเขมร” .. เหมือนกาแฟทรีอินวันเลยเน๊อะ...

ท่านนายกควรจะจับเข่าคุยกับพรรคร่วมกตัญญู ที่วิ่งไปฝั่งโน้นทีฝั่งนี้ที เหมือนอีแร้งบินว่อนหาซากศพและพร้อมจะรุมทึ้งทันที บอกรถร่วมกตัญญูว่ารับประทานเบาๆหน่อย “อย่าบุ่มบ่ามจนน่าเกลียด” ...ทั้งกระทรวงคมนาคม...และการท่องเที่ยว(รับประทานไม่ยั้ง) กระทรวงอื่นๆก็เช่นกัน...สงสารประเทศไทยและประชาชนคนไทยด้วย(หวังยาก) ชาตินี้คงหมดหวัง...ทำใจเถอะบรรดา “บันไดของนักการเมือง” ทั้งหลาย
<O</O
เรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น จะโทษรัฐบาลนี้ก็ไม่ถูกเพราะรัฐบาลนี้ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจพัง...แต่มันซวยที่ดันมาเป็นรัฐบาลตอนที่เศรษฐกิจโลกทรุดทุกประเทศ หนำซ้ำเงินในคลังก็แห้งมาจากรัฐบาลชุดก่อน ประเทศไทยยังไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้ภายในปีสองปีนี้ต่อให้ “เจ้ามูลเมือง” 10 เจ้าก็แก้ไม่ได้อย่าคุยขอร้อง...ความจริงเจ้ามูลโชคดีมากที่มีภารกิจไปต่างแดนในตอนที่เศรษฐกิจพังพอดีไม่ต้องมารับหน้า...

แต่ถ้าอยู่ก็คงจะเลหลังขายไฟฟ้า , ประปา และทุกอย่างที่อยู่ในประเทศไทยเพราะเขาช้อบ...ชอบ...ประเทศอเมริกาเองก็ยังไม่มีทางกู้เศรษฐกิจได้...ประเทศจีนโชคดีที่มีเงินคงคลังเก็บอยู่มาก...แต่สินค้าที่ผลิตออกมาก็ไม่รู้จะขายใคร...คนตกงานก็มียี่สิบกว่าล้านคน ประเทศสิงคโปร์ยิ่งอ่วมหนัก(นายหน้าเจ๊ง) นี่เป็นเพียงบางส่วนบางประเทศที่ยกมาให้เห็นภาพ...

รัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องคิดให้รอบคอบเรื่องการกู้เงิน...กู้มาใครรวย...รับรองประชาชนคงต้องนำเมนูเด็ดของท่านอดีตนายกสมัคร สุนทรเวช มาปรุงอาหารทุกมื้อ...นั่นคือ ซี่โครงไก่ต้มฟัก...ซัดทุกมื้อซดทุกวันคิดว่าเป็น “ซุปไก่” ก็แล้วกันบำรุงร่างกาย บำรุงสมองที่...มึนตื้บ
<O</O
สาวกันให้หมดไส้หมดพุงซะเรื่องผู้ใหญ่ให้เด็กดื่มน้ำนมเน่า...ที่ผู้เฒ่าชอบแย่งนมเด็กกิน...ทำดีได้ดีทำชั่วต้องเอาให้เข็ด... เรื่องรถเมล์ 4,000 คันระวังไว้ด้วยเดี๋ยวจะเป็น “เรื่องเด็ด” ถนนปลอดฝุ่นคงยัดแทนนุ่นฝุ่นถึงจะหมด...เมืองไทยมีดีผู้คน...7 สีทีวีเพื่อคุณ... “สีเหลือง” ต้นแบบมีคนแอบรัก... “สีแดง” แสบสันต์พร้อมกระหน่ำตามราคา...

“สีขาว” บ่อท่าไร้ปัญญาทำเป็นผู้ดี... “สีน้ำเงิน” น้องใหม่ว่านอนสอนง่ายถ้าจ่าย “เงิน” มา... “สีเขียว” ยักท่าดูน่าเกรงขามจนคนจับตา(มอง)... “สีเทา” เขาเงียบแต่ก็พร้อมเสียบ “สีกากี” เปลี่ยนได้ถ้าได้นายใหม่ก็พร้อม..... เจ็ดสีพอดีประเทศไทยนี้ประหลาดนักหนา...บางสีไม่ดีดูไม่น่ารัก...โปรดตอบมาครับ...ว่าสีอะไร? (กรุณาอย่าคิดตอบว่า...สีทนได้นะครับ)
<O</O
อย่าประมาท! ลุยอีกครั้ง ตั้งรับให้ดีก็แล้วกันศึกครั้งใหม่ใหญ่หลวง...ได้เสียกันทีเดียว ผมไม่ทราบว่าหากถึงขั้น...สีเขียว...ต้องออกโรงแล้วต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่และจะเข้าทางใครบางคนหรือไม่...ต้องระวังจุดนี้ไว้ด้วย...แต่คิดว่าสุดท้ายแล้วอาจจะได้ฟังเพลง... “ตาอินกะตานา”...หากรัฐบาลย่ามใจเกินไป
<O</O
ท่านผู้นำอย่าลืมว่าปีนี้ดวงของท่านยังไม่ราบรื่นและบรรดารัฐมนตรีหลายคนก็ดวงไม่ดีจำนวนมาก...อย่าประมาทเป็นอันขาดจะเชื่อหรือไม่นั้นเป็นสิทธิ์ของท่าน ผมไม่ได้บังคับให้เชื่อผม...แต่ปลายเดือนมีนาคมติดต่อเมษายน...ฝ่ายตรงข้ามจะรุกหนักในช่วงแรก...และต้องระวังหากเดือนที่กล่าวมาฝ่ายตรงข้ามยังไม่สามารถพิชิตได้..ให้ระวังอีกช่วงในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม...ระวังมากๆ

เพราะไม่ใช่มีเฉพาะเสื้อแดงธรรมดา...ผมเคยเขียนเป็นปริศนาไว้หลายเดือนก่อน...ต่อมาผมได้แย้มๆว่า... “ผู้ที่มีอาวุธอ่านแล้วจะเข้าใจ”...จะรู้ทันทีว่าผมหมายถึงอะไร? ...มันมาแล้ว!...กำลังเตรียมการ...ชำนาญอาวุธ...คุ้นเคยกับป่า...?! แต่เป็นคนธรรมดา...ที่ไม่ธรรมดา...ไม่รู้ว่าผู้อ่านเข้าใจที่ผมเปรียบไว้ว่าอาจจะได้ยินเพลง... “ตาอินกะตานา” หรือไม่ หากเป็นผู้ที่มีอายุหน่อยคงจะเคยได้ฟังเพลงนี้มาแล้ว...โอกาสที่จะ “ยุบสภา” หรือมีเหตุแทรกซ้อนก็เกิดขึ้นได้
<O</O
โปรดฟังอีกครั้ง...ท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ...มีสีแดงธรรมดา... กับ “แดง” พิเศษแดงเก่าแก่...ผมไม่อยากจะเขียนต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น? รุนแรงขนาดไหน? *ถ้าจนตรอกแล้วเป็นไงเป็นกัน* “พ” ยังทรงอิทธิพลอยู่ถึงจะไม่มีข่าวเลยก็ตาม ยิ่งเงียบยิ่งน่ากลัว ขอย้อนกลับไปที่บอกว่า “หากเดือนที่กล่าวมาฯลฯนั้น” มันน่าจะปิดฉากแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าจะมีภาคสองในเดือนสิงหา-ตุลา...แต่อาจจะมีเรื่องอื่นเกิดขึ้นมาในเดือนสิงหา-ตุลาก็เป็นไปได้...

แต่ถ้าเดือนเมษายนยังไม่จบละก็อาการน่าเป็นห่วง? เพราะเดือนสิงหา-ตุลาเป็นเดือนและธาตุที่เป็นอริกับนายกมาก...ควรหาทางป้องกันและแก้ไขไว้ด้วยอย่าประมาท...ผมเขียนบทความนี้ไว้พร้อมกับบทความเดินหาเรื่อง...หาเลือด...ในวันเดียวกันแต่เพิ่งจะนำมาลงวันนี้เพราะผมจะต้องไปต่างจังหวัด เกรงว่าจะไม่มีเวลาเขียนหลายวัน แต่ได้มีผู้สื่อข่าวได้โทรมาถามผมๆได้ตอบไปบ้างแล้ว แต่คงจะไม่ได้ลงละเอียดเท่าไหร่...ผมเขียนบทความนี้ด้วยความไม่สบายใจ...ไม่อยากให้เกิดเหตุในบ้านเมือง..หากไม่ป้องกัน "เสียหาย” แน่ๆ แต่จะเป็นฝ่ายไหนผมไม่ขอบอก...ไม่พูด...ไม่เขียน...คอยดูเองก็แล้วกัน

แต่ถ้ารีบตัดไฟแต่ต้นลมเหตุมันก็อาจจะเบาลงได้บ้าง บทความต่อไป...แก๊งค์..ยกที่ 5 (ยกสุดท้ายหรือเปล่า?) กำลังเขียนอยู่แต่ยังไม่เสร็จ ผมเขียนให้อ่านสนุกๆเป็นการคลายเครียด...โปรดอย่าคิดเป็นอื่น...และผมได้เจอ “ท่าใหม่” แล้วอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี อำเภอท่าใหม่ มีเกี๊ยวกุ้ง...ก๋วยเตี๋ยวตำลึงอร่อยมาก หมู่นี้ผมเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยมากจึงสับสนต้องขอโทษที่ท่านตั้งหน้าตั้งตารอ “ท่าใหม่” จากผม...สุดท้ายคงเหมือนเดิม

ด้วยความเคารพ<O</O
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)<O</O
12 มีนาคม 2552

ที่มา http://www.mornid.com/home.php

 

ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีทรัพยากรมาก เป็นแหล่งอารยธรรม วัฒนธรรมอันงดงาม พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง แต่มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าไม่มีข้อนี้ ประเทศไทยคงเจริญรุ่งเรือง ไร้ความวุ่นวาย ถามว่าข้อเสียนั้นคือ ?

 

*** กรรมที่ไม่ต้อนรับโลกุตตระธรรม ****

เป็นเพราะ...ไม่เอาสัจจะ คนจึงขาดสัจจะ
บ้านเมือง...จึงไม่มีสัจจะทำ
ไม่มีตัวกระทำทางศาสนา มารองรับ
โกงมาก กินมาก ...เขาก็กำลังพิจารณา
จะมีการลงโทษ กันนิดหน่อย
ดินฟ้าอากาศ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ก็ต้องทำให้ข้อเสียดังกล่าวหายไป ด้วยสร้างจิตสำนึกให้คนไทยกลับมามีคุณธรรม มีจิตสำนึกเสียสละเพื่อส่วนรวม คิดถึงความเจริญของประเทศชาติเป็นสำคัญ

ที่สำคัญก็คือ ส่งเสริมให้คนดีได้มีโอกาสมาทำงานให้ส่วนรวม
และเข้ามาพัฒนาประเทศชาติ

อีกประเด็นก็คือเราต้องมีความสามัคคีกัน ละทิษฐิการเอาชนะคะคานอย่างไร้เหตุผล ใช้โวหารหรือข้อกฏหมายมาเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างกัน ให้ มุ่งเอาประโยชน์ส่วนรวมเอาธรรมมะความถูกต้องเป็นเครื่องตัดสิน เป็นเครื่องยอมรับกัน ประเทศไทยก็จะเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้

 

*** สัจจะความจริง ****

โลกุตตระธรรม....ย่อการปฏิบัติจนเหลือเป็น "สัจจะ"

ข้อสังเกต
ความจริง ...ย่อมมีเหตุผล อย่างต่อเนื่อง
ความเห็น....ย่อมขาดเหตุผล จนมุมจนตรอกในท้ายสุด
ธรรมเที่ยง...ย่อมส่งผลกับการขจัดกิเลสนิสัย ได้จริง
ธรรมไม่เที่ยง....อาจไม่ส่งผลกับการขจัดกิเลสนิสัยเลย
พระพุทธเจ้า มุ่งหลุดพ้นทุกข์...จึงสอนให้ตัด ลด ทอนลง ไม่ใช่เพิ่ม สะสม
ถ้า ธรรมนั้นเป็นความจริง...ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น จะสามารถหลุดพ้นทุกข์ได้จริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.3 ริกเตอร์ที่คอสตาริกา ​

​

ซาน โฮเซ่ 12 มี.ค.-เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงหลายครั้ง ที่ประเทศคอสตาริกา ในอเมริกากลาง แต่มีรายงานว่าสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยและไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ศูนย์สังเกตการณ์แผ่นดินไหวของคอสตาริกา เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวครั้งแรกวัดความรุนแรงได้ 6.3 ริคเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.24 น.ตามเวลาประเทศไทย มีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 กิโลเมตรและห่างจากเมืองหลวงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 175 กิโลเมตร ส่วนแผ่นดินไหวครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในอีกเกือบ 4 ชั่วโมงต่อมา วัดความรุนแรงได้ 5.9 ริคเตอร์

สถานีวิทยุรายงานว่าแผ่นดินไหวทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตเมืองหลวงและที่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลาง แต่มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย แตกต่างจากที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 23 คนสูญหาย 7 คน และสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ.-สำนักข่าวไทย

2009-03-12 07:37:43

เครื่องบินขนโคเคนตกทางตอนเหนือของฮอนดูรัส นักบินเสียชีวิต​

​

ฮอนดูรัส 12 มี.ค. - เครื่องบินขนโคเคนหลายร้อยกิโลกรัมตกทางตอนเหนือของฮอนดูรัส ส่งผลให้นักบินเสียชีวิตทันที

เหตุเครื่องบินโดยสารขนาด 2 เครื่องยนต์ ซึ่งจดทะเบียนในเวเนซุเอลาลำหนึ่ง ตกทางตอนเหนือของฮอนดูรัส เจ้าหน้าที่พบโคเคนกว่า 100 กิโลกรัม แต่คาดว่า ก่อนที่เครื่องบินลำนี้จะถูกเพลิงไหม้หลังตกกระแทกพื้นมีโคเคนซุกซ่อนอยู่ในเครื่องบินลำนี้อย่างน้อย 500 กิโลกรัม นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบร่างของนักบินอยู่ในซากเครื่องบินด้วย

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินลำนี้ตก เนื่องจากถูกยิงขณะนักบินพยายามหลบหนีการไล่ล่าของฝูงเฮลิคอปเตอร์ ที่มีเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐร่วมปฏิบัติการด้วย แต่ข่าวบางกระแสระบุว่าเป็นอุบัติเหตุ.-สำนักข่าวไทย

2009-03-12 10:09:54

หนุ่มมะกันคลั่งลั่นปืนยิงสังหารหมู่ดับ 10 บาดเจ็บอีก 6 คน​

​

สหรัฐ 12 มี.ค. - หนุ่มสติแตกเมืองแซมซัน รัฐแอละแบมา สังหารพ่อแม่ญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนบ้านแบบไม่เลือกหน้า ก่อนหนีการไล่ล่าของตำรวจแล้วยิงชาวบ้าน ยิงตำรวจ ก่อนจบชีวิตตนเอง

หนุ่มสติแตกรายนี้ คือ นายไมเคิล เคนเนธ แมคเลนดอน สังหารผู้คนไปทั้งสิ้น 10 คน และบาดเจ็บอีก 6 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นภรรยาและบุตรสาว 2 คน ของนายจอช มายเออร์ ผู้ช่วยนายอำเภอเมืองแซมซัน ที่ไล่ตามล่านายแซมซันหลังก่อเหตุด้วย โดยทั้งแม่และลูกเคราะห์ร้ายนี้บังเอิญมาเยี่ยมบ้านญาติของนายแมคเลนดอน ขณะก่อเหตุ เด็กน้อยวัย 4 เดือน เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในบ้านหลังนี้ โดยได้รับบาดเจ็บที่ขา ผู้ที่เสียชีวิตในบ้านหลังนี้ คือ มารดาของมือปืนกับญาติอีก 4 คน

ตำรวจเผยว่า จากการสอบสวนพบว่า นายแมคเลนดอนเริ่มก่อเหตุด้วยการเผาบ้านของมารดาในเมืองคินส์ตัน หลังจากนั้นได้ขับรถเป็นระยะทางกว่า 10 ไมล์ มายังเมืองแซมซัน ซึ่งอยู่ในเขตเจนีวา เปิดฉากยิงไม่เลือกหน้าที่บ้านญาติ หลังจากนั้นก็ได้ขับรถเข้าเมือง สุ่มยิงผู้คนที่เดินไปมาเสียชีวิตอีก 3 คน คนหนึ่งเป็นสตรีถูกยิงตายขณะเดินออกมาจากปั๊มน้ำมัน อีกคนเป็นชายถูกยิงตายขณะขับรถผ่านมา และชายอีกคนถูกยิงตายเช่นกันขณะกำลังวิ่งหนี

ตำรวจไล่ตามนายแมคเลนดอนจนไปจนมุมโรงงานเหล็ก ที่นายแมคเลนดอนเคยทำงานอยู่ หลังจากนั้นได้ลงจากรถมาลั่นกระสุนใส่ตำรวจด้วยปืนกลมือ ทำให้หัวหน้าตำรวจเจนีวา แฟรงกี้ ลินด์เซย์ ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นมือปืนสติแตกผู้นี้ก็เดินเข้าไปในโรงงาน แล้วลั่นกระสุนปลิดชีพตนเอง ตำรวจระบุว่า การก่อเหตุของนายแมคเลนดอนครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแอละแบมา. -สำนักข่าวไทย

2009-03-12 07:19:53

เหยื่อกราดยิง ร.ร.เยอรมนีตายเพิ่มเป็น 16 คนแล้ว ​

​

เยอรมนี 12 มี.ค. - ผู้นำเยอรมนีแสดงความเสียใจ และตกตะลึงต่อเหตุกราดยิงในโรงเรียนทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี ขณะที่จำนวนเหยื่อผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 16 คนแล้ว

ตำรวจบอกว่า มีเด็กนักเรียนเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน จากเหตุคนร้ายกราดยิงในโรงเรียนเทคนิคอัลแบร์ทฟิลล์ ในเมืองวินเนินเดิน ใกล้เมืองชตุทท์การ์ท ทำให้จำนวนเหยื่อผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 16 คน เป็นเด็กนักเรียน 10 คน ครู 3 คน และบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอีก 3 คน ที่ถูกมือปืนสังหารระหว่างหลบหนี มือปืนซึ่งทราบชื่อว่านายทิม เครตช์เมอร์ ที่เคยเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนที่เกิดเหตุ กราดยิงเด็กนักเรียนภายในห้องเรียน 2 ห้อง และจี้ชิงรถยนต์หลบหนีพร้อมกับตัวประกัน ต่อมาปล่อยตัวประกันเป็นอิสระ ก่อนถูกตำรวจไล่ตามจนพบที่เมืองเวินด์ลิงเกน ห่างออกไป 40 กิโลเมตร คนร้ายได้สังหารคนเดินถนนเสียชีวิตไป 2 คน และยิงต่อสู้กับตำรวจ ก่อนจะถูกยิงเสียชีวิต ส่วนตำรวจบาดเจ็บสาหัส 2 นาย จากการตรวสอบที่บ้านของมือปืน พบอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ 16 กระบอก

นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล กล่าวแสดงวามเสียใจและตกตะลึงต่อเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นวันแห่งความเศร้าสลดของชาวเยอรมันทั้งประเทศ. -สำนักข่าวไทย

2009-03-12 04:08:06

สหรัฐยินดีที่ฝรั่งเศสกลับเข้าร่วมกองบัญชาการนาโต​

​

วอชิงตัน 12 มี.ค. - สหรัฐแสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของฝรั่งเศสว่าจะกลับเข้าร่วมบัญชาการกองกำลังนาโต หลังจากถอนตัวมานานถึง 43 ปี ตั้งแต่สมัยของอดีตประธานาธิบดีชาร์ลส เดอ โกล

นายเจฟฟ์ มอร์เรล โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เผยว่า แม้ที่ผ่านมาฝรั่งเศสร่วมรบอย่างกล้าหาญกับนาโตในอัฟกานิสถาน แต่สหรัฐก็รู้สึกยินดีที่จะได้ฝรั่งเศสกลับสู่โครงสร้างการบังคับบัญชาของนาโตซึ่งฝรั่งเศสเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และว่าสหรัฐจะหาทางร่วมมือกับนาโตอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในอนาคต

แถลงการณ์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ประกาศว่าฝรั่งเศสจะกลับเข้าร่วมในโครงสร้างการบังคับบัญชาของนาโตอย่างเต็มตัว หลังจากที่ถอนตัวไปเมื่อกว่า 40 ปีก่อน ด้วยเหตุผลต้องการอิสระและไม่ต้องการร่วมรับผิดชอบกับสงครามหรือความขัดแย้งที่ฝรั่งเศสไม่ได้เป็นผู้ก่อ.-สำนักข่าวไทย

2009-03-12 09:49:27

บิล เกตส์ ผงาดขึ้นครองอันดับ 1 บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกอีกครั้ง​

​

สหรัฐฯ 12 มี.ค. - บิล เกตส์ ผงาดขึ้นมาครองอันดับ 1 บุคคลที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกอีกครั้ง แต่มหาเศรษฐีหลายคนก็ต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากไปกับวิกฤตการเงินโลก

จากการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกของนิตยสาร ฟอร์บส ระบุว่า บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ กลับมาครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลกอีกครั้ง โดยมี ทรัพย์สินถึง 40,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.4 ล้านล้านบาท เกตส์ ยังเขี่ย นายวอเรน บัฟเฟต มหาเศรษฐีนักลงทุนลงไปอยู่อันดับ 2 โดยมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 37,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.3 ล้านล้านบาท ส่วนผู้ที่ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลก คือ นายคาร์ลอส สลิม เจ้าพ่อด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของเม็กซิโก

ฟอร์บส ระบุด้วยว่า บุคคลที่ร่ำรวยมากที่สุดของโลกทั้ง 3 คน มีทรัพย์สินลดลงจากเดิมรวมกันถึง 68 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นผลพวงมาจากพิษวิกฤตการเงินโลก.-สำนักข่าวไทย

2009-03-12 09:37:58

ที่มา http://news.mcot.net

 

*** ทุกข์ ****

มีเงินมาก....ก็ทุกข์มาก
มีทรัพย์มาก...ก็ทุกข์มาก
มีอำนาจมาก....ก็ทุกข์มาก
วันนี้อาจจะสุข ...วันหน้าไม่แน่ ใช้ชีวิตไม่ประมาท
พยายามตัดลดนิสัย...อารมณ์จะน้อยลง ทุกข์จะน้อยลง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** นิสัย ****

พยายามตัดลดนิสัยตนเอง... ทุกวันๆ
"ตัวทะยานอยาก" .... จะครองบ้าน ครองเมือง
มันจะพาให้ทำลาย...ชีวิต และ ตัวเราเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

หลายจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งทุกอำเภอ​

​

ภูมิภาค 11 มี.ค. - สถานการณ์ภัยแล้งทวีความรุนแรงมากขึ้น หลายจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งครอบคลุมทุกอำเภอ

เช่นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งครอบคลุมทั้ง 9 อำเภอ ใน 44 ตำบล 292 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วจำนวนมาก ซึ่งจังหวัดเร่งแจกจ่ายน้ำ ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ส่วนในเขตชลประทานเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริหารจัดการน้ำพื้นที่การเกษตรอย่างทั่วถึง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแย่งชิงน้ำ

เช่นเดียวกับที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบพื้นที่การเกษตรทั้งสวนและนาข้าวเสียหายทั้ง 18 อำภอ และสานการณ์ภัยแล้งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 18 แห่ง และเขื่อนลำปาว ก็เหลือน้อยลงไม่ถึงร้อยละ 50 พร้อมกำชับให้ใช้น้ำอย่างประหยัด

ส่วนที่จังหวัดพิษณุโลก ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก ได้ปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำ รถผลิตน้ำดื่ม เครื่องสูบน้ำอัดอากาศ เป่าล้างบ่อบาดาล เครื่องจักกลหนักในการขุดสระ และลอกคูคลอง รวมทั้งรถเคลื่อนที่เร็ว เพื่อออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการดูแลช่วยเหลือราษฏรผู้ประสบภัยแล้ง โดยประชาชนสามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลข ปภ. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

2009-03-11 10:05:27

ชุมพรแล้งหนัก 8 อำเภอ ผู้ว่าฯ สั่งตั้งศูนย์ทุกพื้นที่​

​

ชุมพร 11 มี.ค.- นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่า เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งลุกลามแล้ว 8 อำเภอ 59 ตำบล 538 หมู่บ้าน 34,354 ครัวเรือน และประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยเฉพาะอำเภอทุ่งตะโกเป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังกำชับให้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจทุกอำเภอ/ตำบล เพื่อการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องและทั่วถึง ซึ่งที่ผ่านมาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจกน้ำไปแล้วกว่า 118 เที่ยว กว่า 7 ล้านลิตร นอกจากนี้ ยังได้จัดหาภาชนะสำหรับรองรับน้ำและซ่อมแซมภาชนะรองรับน้ำที่ชำรุด เพื่อให้สามารถใช้เก็บน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคไว้ใช้ในหน้าแล้ง ตลอดจนได้ปรับปรุงล้างบ่อบาดาล ขุดลอกลำห้วย ลำคลอง เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ.-สำนักข่าวไทย

2009-03-11 15:47:02

หนองบัวลำภูรายงานภัยแล้ง มท.เสียหายกว่า 60 ล้านบาท​

​

หนองบัวลำภู 11 มี.ค.- นายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เปิดเผยปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รายงานข้อมูลล่าสุด (11 มี.ค.) ว่า

มีพื้นที่ประสบภัยครอบคลุมแล้วทั้ง 6 อำเภอ 58 ตำบล 682 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 216,295 คน พื้นที่การเกษตร 32,683 ไร่ ปศุสัตว์ สาธารณูปโภคและบ่อบาดาลอีกนับพันบ่อ โดยพื้นที่เดือดร้อนมากที่สุดคือ อ.เมือง นอกจากนี้ แหล่งกักเก็บน้ำเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ 121 แห่ง โดยเฉพาะฝายต้นน้ำ อ.โนนสัง เสียหายมากถึง 99 แห่ง ประเมินมูลค่า 63 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบแล้ว. -สำนักข่าวไทย

2009-03-11 18:12:26

หนุนกำลังทหารดับไฟป่าเหนือลดฝุ่นหมอก​

​

เชียงใหม่ 11 มี.ค.- กองทัพภาค 3 จัดชุดเฉพาะกิจกว่าพันนาย เข้าดับไฟป่าแก้ปัญหาหมอกควันไฟปกคลุมภาคเหนือ ล่าสุดพบจุดความร้อนกว่า 200 จุด หวั่นกระทบท่องเที่ยวสงกรานต์

พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กองกำลังผาเมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อเช้าที่ผ่านมา (11 มี.ค.) เพื่อเร่งแก้ปัญหาหมอกควันไฟปกคลุมอย่างหนาแน่นทั่วภาคเหนือ โดยสั่งให้จัดกำลังทหารชุดเฉพาะกิจ 112 ชุด กว่า 1,149 นาย พร้อมทั้งเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนการตรวจสอบและดับไฟป่าตามภูเขาสูง โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และแม่ฮ่องสอน ที่พบปัญหาไฟป่าเกิดขึ้นมาก เกรงว่าจะกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะขณะนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์

โดยวันนี้ ตรวจพบจุดความร้อน หรือฮอตสปอต ในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 200 จุด และบ่ายวันนี้จะส่งกำลังทหารเข้าไปดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ถึง 3 จุด ในป่าบ้านปางแดง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สำหรับค่ามลพิษบริเวณสถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราช ตัวเมืองเชียงใหม่ วัดได้ 185 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร.-สำนักข่าวไทย

2009-03-11 13:16:12

ชุดปฏิบัติการทัพบกนำ ฮ.เข้าคุมไฟป่าเชียงใหม่​

​

ภูมิภาค 11 มี.ค.- แม่ทัพภาคที่ 3 ห่วงปัญหาไฟป่าภาคเหนือ 4 จังหวัด ตั้งหน่วยเฉพาะกิจร่วมปฏิบัติการ ล่าสุดส่งกำลังพลบินขึ้นทางอากาศเสริมทีมดับไฟป่าที่เชียงใหม่ ส่วน จ.ตาก พบไฟป่าหลายจุดเสียหายกว่าพันไร่

พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยถึงการประชุมร่วมกับหลายหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่ทวีความรุนแรงว่า ได้ตั้งหน่วยดับไฟ 122 ชุด กำลังทหาร 1,194 นาย จากกองกำลังผาเมืองและกองกำลังนเรศวรที่พร้อมเข้าปฏิบัติการทันทีเมื่อเกิดปัญหาไฟป่า เพราะสถานการณ์ขณะนี้น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และแม่ฮ่องสอน ซึ่งวันนี้กำลังทหารจากหน่วยเฉพาะกิจควบคุมไฟป่าและหมอกควันกองกำลังผาเมือง พร้อมนักบินและนักวิทยุสื่อสารขึ้นเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ เข้าปฏิบัติการควบคุมไฟป่าที่บ้านห้วยน้ำริน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อช่วยกองกำลังทหารม้าที่ 4 และชาวบ้านที่ยังคงดับไฟป่าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เพราะเกิดไฟป่าหลายจุด จึงต้องส่งหน่วยลาดตระเวณระยะไกลเคลื่อนที่เร็ว 2 ชุดปฏิบัติการส่งลงทางดิ่งเข้าร่วมดับไฟคู่ขนานกับกรมทหารม้าที่ 4 เนื่องจากเป็นพื้นที่ยากลำบากในการเดินทางเข้าพื้นที่

ด้าน พ.อ.ทรงธรรม สิทธิพงศ์ รอง ผบ.ฉก.ร. 4 จ.ตาก ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสถานการณ์ไฟป่าในเขตพื้นที่ อ.แม่สอด แม่ระมาด และ พบพระ จ.ตาก ขณะเดียวกัน ยังจัดชุดปฏิบัติการดับไฟป่าจากหน่วย ฉก.ร. 4 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าอำเภอแม่สอด เตรียมพร้อมเข้าจุดเกิดเหตุ เพื่อควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการสำรวจทางอากาศพบว่าเกิดไฟป่าขึ้นหลายจุดในพื้นที่ใกล้เขาศาลพะวอ เขตอุทยานแห่งชาติพาเจริญ พื้นที่เสียหายแล้วกว่า 1,000 ไร่ และเกิดหมอกควันปกคลุมหนาทึบไปทั่วบริเวณ ซึ่ง พ.อ.ทรงธรรม ประสานชุดดับไฟป่าภาคพื้นดินเดินเท้าเข้าปฏิบัติการดับไฟป่าและจัดทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันการลุกลาม

รอง ผบ.ฉก.ร. 4 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 3 ตั้งหน่วยเฉพาะกิจควบคุมไฟป่าและหมอกควันขึ้นที่จังหวัดพิษณุโลก และให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 รับผิดชอบดูแลควบคุมไฟป่าในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนจังหวัดตาก โดยมีการจัดเตรียมกำลังพลชุดปฏิบัติการดับไฟป่า เข้าปฏิบัติการในพื้นที่และให้การสนับสนุนทุกส่วนราชการในพื้นที่เมื่อได้รับการร้องขอ.- สำนักข่าวไทย

2009-03-11 17:14:04

เลื่อนเที่ยวบินเชียงใหม-แม่ฮ่องสอนเจออุปสรรคควันไฟป่า​

​

แม่ฮ่องสอน 12 มี.ค.- ควันไฟป่าปกคลุมแม่ฮ่องสอนหนาแน่น การบินไทยเลื่อนอีกเที่ยวบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ด้าน สสจ.แม่ฮ่องสอน จ่ายหน้ากากอนามัยปิดจมูกทั้ง 9 อำเภอ หลังพบผู้ป่วยทางเดินหายใจเข้ามารักษาจำนวนมาก

นายพรชัย ต้นสายเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนยังคงมีไฟไหม้ป่าเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งปีนี้เกิดไฟป่าขึ้นแล้ว 161 ครั้ง พื้นที่เสียหายเกือบ 3,000 ไร่ ทำให้เกิดปัญหาหมอกควันไฟปกคลุมหลายพื้นที่ ระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กต่ำกว่า 10 ไมครอน สูงเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยวันนี้ (12 มี.ค.) วัดได้ 245.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

นายพีรัตน์ เรืองสุกใส หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า เวลา 12.30 น วันนี้ ทัศนวิสัยที่มองเห็นเพียง 2,000 เมตร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศเลื่อนเที่ยวบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน อย่างไม่มีกำหนด หลังจากวานนี้ (11 มี.ค.) การบินไทยยกเลิกเที่ยวบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ทั้ง 3 เที่ยวบิน เนื่องจากควันไฟปกคลุมสนามบินแม่ฮ่องสอน

ด้าน นพ.สุเมธ องค์วรรณดี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีควันไฟป่าปกคลุมในพื้นที่อย่างหนาแน่น ค่าฝุ่นละอองส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนเจ็บป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งพบว่าต้นเดือนกุมภาพันธ์ - 8 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ามารักษาตามโรงพยาบาลกว่า 6,000 ราย สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนแจกหน้ากากอนามัย 90,000 ชิ้น ให้กับสาธารณสุข 7 อำเภอ เพื่อให้ประชาชนสวมป้องกันการสูดหมอกควันไฟ.-สำนักข่าวไทย

2009-03-12 14:09:11

พบอีก 4 เหยื่อเรือล่มภูเก็ต เตรียมกู้ร่างพรุ่งนี้​

​

ภูเก็ต 11 มี.ค.- พ.ต.ท.วัลลพ พวงผกา สารวัตรสถานีตำรวจน้ำภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการค้นหานักท่องเที่ยวที่สูญหายจากเหตุเรือล่ม ในฝั่งทะเลอันดามัน ห่างจากหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ประมาณ 12 ไมล์ เมื่อ 3 วันก่อน และยังมีผู้สูญหายอีก 6 คน ว่า ขณะนี้ยังคงมีการสนธิกำลัง ทั้งตำรวจน้ำ และทหารเรือ รวมทั้งบริษัทเจ้าของเรือโชคสมบูรณ์ 19 ลำเกิดเหตุ เข้าค้นหาซากเรือ และผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้พบจุดเกิดเหตุ และชี้เป้าให้นักประดาน้ำลงไปค้นหา เบื้องต้น พบซากเรือโชคสมบูรณ์ 19 และพบศพผู้สูญหายอยู่ภายในห้องพักเรืออีก 4 คน คาดว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย และสวิสเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถกู้ร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้ โดยเจ้าหน้าที่วางแผนจะเร่งดำเนินการในเวลา 08.00 น. พรุ่งนี้.- สำนักข่าวไทย

2009-03-11 18:24:05

กู้แล้ว 4 ศพ เรือล่มทะเลอันดามัน-พบเพิ่มศพที่ 6​

​

ภูเก็ต 12 มี.ค.- พ.ต.ท.วัลลพ พวงผกา สารวัตรสถานีตำรวจน้ำภูเก็ต เปิดเผยถึงเรือโชคสมบูรณ์ 19 ล่มกลางทะเล ห่างจากหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ประมาณ 12 ไมล์ทะเล เมื่อคืนวันที่ 8 มี.ค. มีผู้สูญหาย 7 ราย ว่า

หลังจากเจ้าหน้าที่พบ 4 ศพ ติดอยู่ภายในลำเรือ เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) รวมเป็น 5 ศพ โดยศพแรกพบลอยอยู่กลางทะเลหลังเกิดเหตุ 1 วัน และวันนี้ เจ้าหน้าที่ระดมทีมเข้าไปกู้ศพทั้ง 4 ได้แล้ว อยู่ระหว่างลำเลียงขึ้นเรือ ต.814 เพื่อกลับมายังฝั่ง ปรากฏว่า นักประดาน้ำพบศพเพิ่มอีกรายอยู่ภายในเรือ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นศพชาวไทย หรือชาวญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่นำขึ้นสู่ผิวน้ำเรียบร้อยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-03-12 13:33:18

ระเบิดทหารชุดคุ้มครองครูนราฯ เจ็บ 4 นาย​

​

นราธิวาส 12 มี.ค. - ทหารชุดคุ้มครองครูนราธิวาส ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดบาดเจ็บ 4 นาย แม้เจ้าหน้าที่วางกำลังป้องกันเข้ม เพราะใกล้วันครบรอบวันสถาปนากลุ่มก่อการร้ายบีอาร์เอ็น

ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบบริเวณต้นไม้ริมถนนทางเข้าหมู่บ้านตาเซะ ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หลังคนร้ายนำกล่องเหล็กหนัก 5 กก. วางซ่อนในพงหญ้าริมทาง เมื่อชุดทหาร 8 นาย ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากฐานที่ตั้งในวัดโฆษิตาราม เพื่อปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครู โรงเรียนบ้านปะดาดอ และโรงเรียนบ้านแฆแบ๊ะ คนร้ายจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แรงระเบิดทำให้ทหารบาดเจ็บเล็กน้อย 4 นาย ริมถนนเป็นหลุมลึก 2 ฟุต กว้าง 4 ฟุต

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์ หลังประกาศข่มขู่ว่าจะก่อเหตุร้ายในวันครบรอบวันสถาปนากลุ่มโจรก่อการร้ายบีอาร์เอ็น. - สำนักข่าวไทย

2009-03-12 14:11:43

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: gray 1px solid; BORDER-LEFT: gray 1px solid" align=middle width="100%" colSpan=3>[SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย[/SIZE]

[SIZE=+1]"พายุฤดูร้อนในประเทศไทยตอนบน" [/SIZE]​

​

ฉบับที่ 2 (39/2552) ลงวันที่ 12 มีนาคม 2552

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-BOTTOM: 10px; BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" align=middle width="100%" colSpan=3><DD>

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยในพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 13-15 มีนาคม 2552 ​

</DD>

<DD>

​

<DD>

โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในวันถัดไป (14 มี.ค.) จึงขอให้ประชาชนในบริเวณที่กล่าวมา ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
​

<DD>

​

<DD>

โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งหรือใต้ต้นไม้สูงเด่น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งงดใช้เครื่องมือสื่อสารหรือวัตถุที่อาจเป็นสื่อไฟฟ้า ในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง ​

</DD></TD></TR></TBODY></TABLE>​

ที่มา http://www.tmd.go.th/list_warning.php