ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ทั่วโลกเผชิญภัยธรรมชาติ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลายประเทศทั่วโลกยังคงเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเขื่อนจีนกั้นระดับน้ำที่เพิ่มสูงพังถล่มลงมา ขณะที่สหรัฐฯมีทั้งพายุทอร์นาโด และไฟป่า

    โดยในพื้นที่ภาคใต้ของจีนซึ่งเผชิญกับน้ำท่วมครั้งเลวร้ายมานานถึงสัปดาห์เต็มๆ ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เขื่อนฉ่างไคที่กั้นแม่น้ำฝูในมณฑลเจียงซีไม่สามารถทนแรงดันจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไหวได้พังถล่มลงมาเป็นบางส่วน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพชาวบ้านกว่า 40,000 คน ออกจากพื้นที่กลางดึก ขณะที่อีก 60,000 คน ยังช่วยออกมาไม่ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งซ่อมแซมบริเวณเขื่อนที่พังถล่มซึ่งใหญ่ถึง 400 เมตร เพราะหากปล่อยไว้อาจพังถล่มมากกว่านี้ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนถึง 145,000 คน ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมภาคใต้ของจีนพุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 175 คนแล้ว สูญหาย 107 คน มีการอพยพประชาชนหนีตายมากกว่า 1.7 ล้านคน

    ส่วนที่บราซิล เหตุน้ำท่วมครั้งรุนแรงทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 45 คน สูญหาย 1,000 คน ขณะที่มีผู้ไร้ที่อยู่และต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือนราว 100,000 คนที่รัฐอลาโกอาสและเปอร์นัมบูโก้ ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินและเร่งส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปในพื้นที่ประสบภัย รวมทั้งสร้างโรงพยาบาลสนามและศูนย์ประสบภัยชั่วคราวแล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ้ ลูลา ดาซิลวา ผู้นำบราซิล เตรียมเดินทางไปตรวจพื้นที่ประสบภัยและพบหารือกับผู้ว่าการของทั้งสองรัฐ

    และที่เมืองบิลลิ่งส์ รัฐมอนทาน่า ของสหรัฐฯ ก็เผชิญกับพายุทอร์นาโดพัดถล่ม สร้างความเสียหายให้กับศูนย์กีฬา อาคารธุรกิจหลายแห่ง รวมทั้งบาร์และกาสิโน ส่งผลให้ต้นไม้ เสาโทรศัพท์ และเสาไฟฟ้าหักโค่น นอกจากนี้ยังมีรายงานลูกเห็บตก และน้ำท่วมสูงถึง 2 ฟุต หลังพายุสิ้นสุด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งซ่อมแซมสายไฟและทำความสะอาดทั่วเมือง

    ขณะที่รัฐแอริโซนาเกิดไฟป่าอย่างน้อย 2 แห่งเผาผลาญหลายพื้นที่ที่เมืองแฟล็กสแต๊ฟ (Flagstaff) โดยทำลายพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 7,500 ไร่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงออกจากพื้นที่หลังจากไฟได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้เขตที่อยู่อาศัย นับเป็นเหตุไฟป่าครั้งที่ 2 ในรอบ 1 สัปดาห์

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เริ่มอีกแล้ว “ฮุนเซน” อ้างเตรียมเผชิญหน้าไทย สั่งหยุดเคลื่อนย้ายกำลังพล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 มิถุนายน 2553 01:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ภาพแฟ้มรอยเตอร์วันที่ 13 พ.ย.2552 ทหารกองพลน้อย 911 จากชายแดน จ.พระวิหาร นั่งบนหลังคารถบรรทุก ขณะเคลื่อนเข้าสู่ตัวเมืองเสียมราฐ นายกฯ กัมพูชาฮุนเซนประกาศถอนทหารครั้งนั้นโดยอ้างว่า สถานการณ์เป็นปกติ แต่ในเดือน ก.พ.ปีนี้ ผู้นำกัมพูชาได้ไปทำพิธีเปิดที่ตั้งกองพลน้อยใหม่ ขึ้นในจังหวัดดังกล่าวอีก 1 กองพล และ วันจันทร์ (21 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ประกาศว่า จะไม่มีการเคลื่อนย้ายทหารออกชายชายแดนไทยอีก

    ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุนเซน ประกาศในวันจันทร์ (21 มิ.ย.) ว่า กองทัพได้หยุดเคลื่อนทหารออกจากแนวชายแดนแล้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เนื่องจากประเทศต้องการทหาร ในการปกป้องอธิปไตย และ “ต่อสู้กับการรุกราน”

    นายกฯ กัมพูชา ระบุดังกล่าวระหว่างปราศรัยในพิธีชุมนุมรำลึกวันทหารผ่านศึก ที่จัดขึ้นในกรุงพนมเปญ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน ทั้งนี้ เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ดืมอัมปึล

    นักวิเคราะห์เชื่อว่า นรม.กัมพูชา พูดถึงสถานการณ์ที่ชายแดนไทย และ ทหารไทยที่รุกล้ำดินแดนกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ใกล้กับปราสาทพระวิหาร หนังสือพิมพ์ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลกล่าว

    “เราหยุดเคลื่อนย้ายทหาร ก็เพราะเราต้องการทหารไว้ป้องกันประเทศ.. เรามีความร่วมมือที่ดีกับลาวและเวียดนาม.. เราไม่ได้ส่งทหารไปที่ชายแดนกับสองประเทศนั้น” ดืมอัมปึล อ้างคำกล่าวของ นายกฯ ฮุนเซน

    ผู้นำกัมพูชา ยังกล่าวตัดพ้อว่า การเคลื่อนกำลังพลแต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณ แต่เมื่อขอการสนับสนุน ขอบริจาค กลับไม่มีผู้ใดช่วยเหลือ หลายคนบอกว่า กองทัพภักดีต่อนายกรัฐมนตรี จึงไม่ช่วย ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเรื่องของประเทศชาติ

    ดืมอัมปึล กล่าวว่า กัมพูชาได้ส่งทหารจำนวนมากเข้าไปยังชายแดนมาตั้งแต่ปี 2551 หลังจากขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกได้สำเร็จ (7 ก.ค.) และ กล่าวหาว่า ต่อมาวันที่ 15 ก.ค.ไทยได้ส่งทหาร “รุกรานกัมพูชา” โดยอ้างแผนที่ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ

    การปราศรัยเรื่องนี้ของ นรม.กัมพูชา ยังมีขึ้นในขณะที่วันครอบรอบปีที่ 2 การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก กำลังใกล้เข้ามา หลังจากวันที่ 6-7 ก.ค.ปีที่แล้ว มีการฉลองกันใหญ่โตทั้งในกรุงพนมเปญ และปราสาทที่ตั้งยู่บนยอดผา ชายแดนด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ของไทย

    การพูดถึงเรื่องนี้ยังมีขึ้นในขณะที่ พรรคสมรังสี ประกาศในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เจ้าหน้าที่ของพรรคจะเดินทางเข้าไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ชายแดนเวียดนามอย่างลับๆ ในช่วงเวลาข้างหน้านี้ หลังจากได้รับทราบจากราษฎรในพื้นที่ว่า เวียดนามปักหลักเขตแดนล้ำเข้าไปในที่นาของราษฎรกัมพูชา “นับสิบๆ แห่ง”

    ทั้งนี้ เพื่อให้มีหลักประกันว่า มีการปักหลักเขตแดนอย่างถูกต้อง และกัมพูชาไม่สูญเสียดินแดน

    นายยิมสุวรรณ (Yim Sovann) โฆษกของพรรคสมรังสี กล่าวว่า การเดินทางไปพิสูจน์หลักเขตแดนหลักที่ 170 ที่ชายแดน จ.ตะแกว (Takeo) เดือนที่แล้วไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากรัฐบาลขัดขวาง ต่อไปนี้จะดำเนินการในทางลับ

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000085620
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภัยแล้งวิกฤตชาติ ปฏิวัติข้าว แค่แก้ปัญหาปลายเหตุ

    [​IMG]

    [​IMG]
    ภัยแล้ง

    ช่วงนี้เรามักได้ยินข่าวเรื่องภัยแล้งอยู่บ่อย ๆ เพราะแม้ย่างเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาก็มีไม่มากนัก และก่อนหน้านี้หลายคนบอกว่าเมืองไทยมีเขื่อนจำนวนมาก น่าจะสามารถบรรเทาภัยแล้งได้ แต่ความคิดและประเด็นนี้เป็นต้องตกไป เมื่อแหล่งกักเก็บน้ำต่าง ๆ ในปีนี้มีปริมาณน้ำเหลือน้อยมาก น้อยกว่าปีที่ผ่านมาถึง 8% และยังระบายออกไปใช้งานได้น้อย ส่งผลให้ผู้คนได้รับผลกระทบจำนวนมาก

    โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกร ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของคนไทย กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้เลื่อนการทำนาปีออกไปก่อน จนกว่าจะมีฝนตกชุก เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังต้องพิจารณาวางแผน เรื่องการจัดสรรน้ำที่จะใช้ทำนาปรังในปีต่อไปด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่เก็บกักได้ในแต่ละเขื่อน ส่งผลให้การเพาะปลูกไม่สามารถทำได้ หรือหากทำได้ก็ได้ผลผลิตที่ไม่ดีเท่าที่ควร

    [​IMG]

    ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงชาวนาไทยอย่างมาก และได้ทรงกำชับให้ช่วยเหลือชาวนาอย่างเต็มที่ โดย ดร.สุเมธ ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า รัฐบาลควรเร่งวางระบบการบริหารจัดการน้ำ โดยถอดบทเรียนจากแนวทางพระราชดำริซึ่งมีทั่วประเทศ รวมทั้งเร่งโครงการสร้างระบบชลประทานอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง​

    อย่างไรก็ตาม เพราะปัญหาภัยแล้ง ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ จึงได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือทางกองบัญชาการกองทัพไทย ที่จะร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งมอบและรับคืนพื้นที่ป่าขอใช้ประโยชน์ของทางราชการทหารให้กับกรมป่าไม้ เพื่อนำไปฟื้นฟู และพัฒนาป่าต้นน้ำให้อุดมสมบูรณ์ต่อไป​

    ขณะที่ยังมีอีกหนึ่งความพยายามจาก ดร.วิลาส ซาโลกี หัวหน้าแผนกระบบเกษตรและวิศวกรรม วิทยาลัยสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรและการพัฒนา สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ที่ได้แนะนำระบบการปลูกข้าวน้ำน้อย หรือ SRI (System of Rice Intensification) ซึ่งเป็นเทคนิคปลูกข้าวรูปแบบใหม่ ที่ใช้ต้นกล้าน้อยลง ใช้น้ำน้อยลง แต่ให้ผลผลิตมากขึ้น เพื่อมาช่วยเหลือเกษตรกร อาชีพที่ได้รับผลกระทบต่อภัยแล้งมากที่สุด โดยเทคนิคการปลูกข้าวน้ำน้อย หรือ SRI นี้ เริ่มพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2526 ที่ประเทศมาดากัสกา ก่อนจะขยายไปใน 34 ประเทศทั่วโลก และในประเทศไทยได้เริ่มมีการพัฒนาการปลูกข้าวน้ำน้อยที่จังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว

    [​IMG]

    สำหรับการปลูกข้าวรูปแบบเดิมนั้น ชาวนาจะปล่อยให้ต้นกล้าอยู่ในแปลงจนมีอายุ 20-30 วัน แล้วจึงย้ายไปปักดำในนาข้าว แต่เทคนิคการปลูกข้าวน้ำน้อย จะย้ายกล้าอ่อนตั้งแต่อายุเพียง 8-12 วันเท่านั้น และปลูกข้าวแบบถี่ขึ้นโดยปักดำกอละ 1 ต้น เว้นระยะห่าง 10 นิ้ว ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้ข้าวแตกหน่อมากที่สุดถึง 40 ต้น ขณะที่เทคนิคแบบเดิมจะให้ข้าวแตกกอเพียง 25 ต้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่ต้องคอยผันน้ำเข้านาให้ต้นข้าวแช่ในน้ำด้วย เพราะการปลูกข้าวแบบใหม่จะปลูกไว้จนน้ำแห้งดินแตกระแหง จึงค่อยผันน้ำเข้าในนาข้าวอีกครั้ง เท่ากับว่า การทำนาแบบเดิมที่ใช้น้ำถึง 3-5 พันลิตรต่อข้าวเปลือก 1 กิโลกรัม แต่การทำนารูปแบบใหม่ใช้น้ำน้อยกว่าถึง 2 ใน 3 และยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวอีกด้วย เพราะจากปกติที่มักจะใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว 25-40 กิโลกรัมต่อไร่ ก็เหลือเพียง 200 กรัมต่อไร่ แถมยังได้ผลผลิตมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม จากที่มีการระบุไว้ในงานวิจัยว่า การปลูกข้าวน้ำน้อย สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวได้ถึง 2 เท่า แต่ตัวเลขผลผลิตอาจมีคลาดเคลื่อนบ้าง ตามสภาพภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ พันธุ์ข้าว ปุ๋ย และปัจจัยอื่น ๆ ที่แตกต่างกัน


    [​IMG]

    แน่นอนว่า เทคนิคการปลูกข้าวแบบน้ำน้อยนั้น เป็นหนึ่งในคำตอบที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรได้ แต่ทว่า ทางออกของปัญหาที่แท้จริงในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง คงไม่ใช่การเปลี่ยนเทคนิคการปลูกข้าวเพื่อเกษตรกรที่เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ หรือสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้น ๆ อีกสัก 100 เขื่อน ก็คงไม่ได้ช่วยให้พวกเรามีน้ำใช้มากขึ้นแต่อย่างใด อีกทั้งปัญหาภัยแล้งก็เป็นปัญหาที่พวกเราล้วนร่วมกันก่อขึ้น ดังนั้นทุกคนควรรับผิดชอบร่วมกัน และทางแก้ปัญหาภัยแล้งที่ดีที่สุด ควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ จากความร่วมมือร่วมใจของทุก ๆ คน ที่จะหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างจิตสำนึกช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ เลิกก่อปัญหาให้กับสภาพแวดล้อม รวมทั้งยังต้องช่วยกันพัฒนาต้นน้ำ ใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อรักษาความสิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุด​

    ... ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติ "ภัยแล้ง" ก็ยังคงเป็นผลตอบแทนที่ธรรมชาติส่งกลับคืนมา ให้มนุษย์ผู้รุกราน ต้องคอยแก้ไขปัญหานี้ต่อไปอย่างไม่รู้จบ ...

    [​IMG]

    โพสต์โดย surisa srikunsab

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก greenworld.or.th

    ที่มา http://hilight.kapook.com/view/49881
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1_4.jpg
      1_4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.4 KB
      เปิดดู:
      1,786
    • news_8_1.jpg
      news_8_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      172.1 KB
      เปิดดู:
      1,801
    • news_6_1.jpg
      news_6_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.7 KB
      เปิดดู:
      1,866
    • news_5_2.jpg
      news_5_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      2,000
    • news_4_4.jpg
      news_4_4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.9 KB
      เปิดดู:
      1,888
    • news_7_1.jpg
      news_7_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.1 KB
      เปิดดู:
      1,807
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2010
  4. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    เขมรเหิมล้ำไทย ตั้งหมู่บ้าน กินดินแดน 4 กิโลเมตร

    ใช้ยุทธการเดียวกับเวียดนามกลืนเขมรเลย คนไทยบริเวรชายแดนจิตใจโอบอ้อมอารีย์ รู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมฮุนเซ็น(ที่มีภรรยาเป็นเวียดนาม)
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ไข้เลือดออกระบาดหนักเชียงรายพ่นยาสกัดยุงลาย

    [​IMG]

    เชียงรายพ่นน้ำยาระบบฝอยละอองขนาดใหญ่ลงปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่หลายแห่ง ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก หลังพบระบาดหนักในชุมชนดอยมากที่สุด...

    เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 23 มิ.ย. 2553 นายสมพงษ์ กูลวงค์ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการสาธารณสุข กองสาธารณสุขเทศบาลนครเชียงราย ร่วมกับศูนย์ควบคุมโรคติดต่อฯ ชาวชุมชนน้ำลัด ชุมชนทวีรัตน์ ชุมชนบ้านดอย และชุมชนห้วยปลากั้ง เร่งดำเนินการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในชุมชน โดยจัดทีมเฉพาะกิจใช้เครื่องพ่นน้ำยาระบบฝอยละออง(ยูแอลวี)ขนาดใหญ่ลงปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงในเขตเทศบาลที่อยู่ใกล้ป่าละเมาะและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

    หลังจากที่มีรายงานถึงสถานะการณ์โรคไข้เลือดออกทั่วประเทศในปี 2553 มีจำนวนผู้ป่วยสะสมกว่า 8,000 คน ซึ่งมีอัตราการป่วย 13.42 ต่อประชากรแสนคน ในที่นี้มีผู้ป่วยที่เสียชีวิตแล้ว 13 ราย และทั้งหมดเป็นอัตราการป่วยที่เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ณ ช่วงเวลาเดียวกันถึงร้อยละ 69.94 โดยพบสูงมากในกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่วัยทำงาน ซึ่งหากไม่รีบดำเนินการป้องกันควบคุมโรคอย่างเร่งด่วนแล้ว เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนอาจก่อให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ของโรคไข้เลือดออกได้

    นางวรนุช ไพรหิรัญ หัวหน้าฝ่ายบริการสาธารณสุข กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลนครเชียงรายกล่าวว่าสถานะการณ์ไข้เลือดออกในพื้นที่ของเขตเทศบาลนครเชียงรายที่มีประชากรทั้งสิ้น 69,710 คน ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันนั้นพบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวทั้งสิ้น จำนวน 32 ราย โดยมีการระบาดหนักในชุมชนบ้านดอยมากที่สุด ทางเทศบาลนครเชียงราย จึงได้ร่วมกับศูนย์ควบคุมโรคติดต่อโดยแมลงที่ 10.3 เชียงราย และ ชาวชุมชนที่เป็นอาสาสมัครออก ทำการควบคุมการระบาดซ้ำของโรคไข้เลือดออกด้วยการจัดทีมเฉพาะกิจนำเครื่องพ่นเคมีระบบฝอยละออง (ยูแอลวี) ขนาดใหญ่ออกปฏิบัติการในการควบคุมการระบาดซ้ำของโรคไข้เลือดออกในชุมชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง

    โดยเฉพาะ อาทิ ชุมชนน้ำลัด ชุมชนทวีรัตน์ ชุมชนบ้านดอย และชุมชนห้วยปลากั้ง ครอบคลุมพื้นที่ 830 ครัวเรือนพร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย การทำลายภาชนะที่น้ำสามารถกักขังน้ำไว้ได้รวมทั้งการนำทรายกำจัดลูกน้ำออกแจกจ่ายให้ทุกครัวเรือนได้นำไปกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงตามชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาล ซึ่งการร่วมกันของชุมชนจะส่งผลให้ความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไปภายใต้การดูแลของเทศบาลนครเชียงรายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไปอีกด้วย

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2553

    โจรลักมิเตอร์น้ำป่วนชลบุรี คืนเดียวกวาดไป 80 ตัว

    [​IMG]

    ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก โจรลักมิเตอร์น้ำอาละวาดในพื้นที่เมืองชลบุรี คืนเดียวมีเหยื่อกว่า 80 ราย แต่ไม่รู้คนร้ายลงมือช่วงไหนและใช้พาหนะอะไร...

    เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. มีผู้ประกอบกิจการโรงกลึงและผู้พักอาศัยในอาคารพาณิชย์ เลขที่ 36/31-32 -37-38 -39-40-41- และ 44 ซอย 9 ม.2 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี รวม 8 ห้องเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.วินิจ ผันอากาศ สารวัตรเวร สภ.เมืองชลบุรี ว่า ถูกคนร้ายขโมยถอดมิเตอร์น้ำ เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายลงมือช่วงกลางคืนวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคนในบ้านนอนหลับ

    ผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยตัว กล่าวว่า ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกรณีมิเตอร์น้ำหายไว้แล้ว โดยทราบว่า มีบ้านย่านเขาน้อย ม.8 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ถูกขโมยมิเตอร์น้ำเช่นกัน รวมประมาณ 47 หลัง และย่าน ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี อีก 27 หลัง โดยไม่มีใครรู้ว่าคนร้ายใช้พาหนะอะไรและลงมือตอนไหน

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2553

    บิ๊กบังฟันธงผลประโยชน์หมื่นล้านต้นตอไฟใต้

    [​IMG]
    พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน

    "บิ๊กบัง" ระบุ ปัญหาไฟใต้ เกิดจากผลประโยชน์หมื่นล้าน ที่แอบแฝงอยู่ในพื้นที่ ชี้ บุคลากรระดับบริหาร ที่ส่งลงไปแก้ปัญหา ยังขาดแคลนคนมีความสามารถ...

    วันที่ 23 มิ.ย. 2553 พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีตประธาน คมช. ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคมาตุภูมิ เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมผู้ปกครอง และบรรยายพิเศษ เรื่องยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในแนวทางที่เป็นไปได้

    โดย พลเอกสนธิ ได้กล่าวว่า ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเงื่อนไขสำคัญหลายๆอย่าง นอกจากเรื่องของประวัติศาสตร์ เช่นเงื่อนไขจากเหตุการณ์ กบฏดุซงญอ ตากใบ และกรือเซะ ซึ่งเป็นเงื่อนไขส่วนหนึ่งที่เป็นประวัติศาสตร์ แต่เงื่อนไขที่สำคัญมากๆ คือ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกี่ยวกับข้าราชการที่ไปบรรจุอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการชั้นสอง แม้ว่ากระทั่งตนเองซึ่งจบจากโรงเรียนนายร้อย และจบจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เวลาจะไปบรรจุอยู่คนที่มีคะแนนอันดับต้นๆ ส่วนใหญ่จะเลือกบรรจุที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และในภาคอื่นๆ ส่วนคนที่มีคะแนนอันดับท้ายๆ ก็จะลงไปอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่ การทำให้บุคคลในระดับผู้บริหารมีปัญหา

    พลเอกสนธิ ยังได้กล่าวอีกว่า ปัญหาใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็คือ ปัญหาของผลประโยชน์ที่มีอยู่สูงมาก ซึ่งตนเองเคยได้นำปัญหาดังกล่าว รายงานต่อคณะรัฐมนตรีในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ทราบว่า ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีผลประโยชน์ “หมื่นล้าน” ซึ่งทุกคนใน ครม.ก็ตกใจและไม่เชื่อสิ่งที่ตนพูด ตนได้ถ่ายรูปไปให้ดูว่า มีท่อน้ำมันเถื่อนที่ลอดใต้แม่น้ำโกลก จากฝั่งประเทศมาเลเซีย มาขึ้นฝั่งประเทศไทยที่จังหวัดนราธิวาส

    ปัญหาก็คือ ปกติแล้วรถบรรทุกน้ำมัน จะต้องบรรทุกน้ำมันจากภาคกลางลงสู่ภาคใต้ แต่ในกรณีนี้กลับเป็นการบรรทุกน้ำมันเถื่อน จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นสู่ภาคกลาง เพราะฉะนั้นผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ น้ำมันเถื่อน การค้าของหนีภาษี หรือ การค้าของเถื่อน และยาเสพติด ล้วนแล้วแต่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งสิ้น รวมแล้วมีผลประโยชน์นับหมื่นล้านบาท ที่สำคัญคือ ผลประโยชน์จากสิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้จะสามารถแชร์กันได้หมดหรือไม่ สุดท้ายกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากสิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้ก็คือ กลุ่มของผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงทำให้กลุ่มเหล่านี้มีความแข็งแรงขึ้น


    ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2010
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สตูล-น้ำท่วมขยายวงกว้าง 4 อำเภอ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สตูล-น้ำท่วมขยายวงกว้าง 4 อำเภอขณะที่ 2 ตำบลใน อ.ละงูเฝ้าระวังน้ำป่าคืนนี้

    (23 มิ.ย.53)สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สตูล ขณะนี้เริ่มขยายวงกว้างไป 4 อำเภอคือ อ.ทุ่งหว้า อ.ละงู อ.ท่าแพ และ อ.ควนกาหลง โดย อ.ทุ่งหว้า น้ำท่วม 3 ตำบล คือ ต.นาทอน ต.ทุ่งหว้าและ ต.ป่าแก่บ่อหิน สภาพน้ำเริ่มลดระดับลงแต่สถานการณ์ยังไม่น่าวางใจเนื่องจากฝนยังคงตกลงมาต่อเนื่อง ชาวบ้านยังคงระหว่างน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนที่ อ.ละงู พื้นที่ประสบภัย 6 ตำบล 54 หมู่บ้าน ซึ่งที่หนักอยู่ที่ ต.น้ำผุด ม.4,10,11 และ ต.เขาขาวทั้ง 7 หมู่บ้าน โดยเฉพาะที่ ม.5 บ้านดาหลำ เส้นทางถูกตัดขาด ทางทหารหน่วยนพค.45 ได้นำเรือท้องแบนไปช่วยเหลือ 1 ลำเพื่อให้ราษฎรสามารถเข้า-ออกได้สะดวกขึ้น

    นอกจากนี้บริเวณเส้นทางถนนละงู-เขาขาวบริเวณเขาตกน้ำ เส้นทางถูกตัดขาด บริเวณ ม.1 บ้านสันติสุข เส้นทางถูกตัดขาดเช่นกัน รถขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ โดยนายพันธรัฐ จิช่อง ปลัดป้องกันอ.ละงู กล่าวว่า ขณะนี้อ.ละงูพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือที่พื้นที่บ้านดาหลำ ต.เขาขาวและ พื้นที่ต.ละงูซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำจาก อ.ทุ่งหว้า โดยเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากในคืนนี้

    ส่วนที่ อ.ควนกาหลง พื้นที่ประสบภัย 3 ตำบล คือ ต.ควนกาหลง ต.ทุ่งนุ้ย และ ต.อุไดเจริญ ความเสียหายอยู่ระหว่างสำรวจ และพื้นที่ อ.ท่าแพ ที่ ม.5 ต.ท่าแพและ ม.2 ต.ท่าเรือซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มและเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก

    อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สตูลขณะนี้ยังไม่น่าไว้วางใจเนื่องจากฝนตกต่อเนื่องระดับน้ำในคลองต่าง ๆ ทุกอำเภอมีระดับสูงจนเกือบล้นตลิ่งทางเจ้าหน้าที่มิสเตอร์เตือนภัยได้ประจำยังจุดต่าง ๆ เพื่อแจ้งเตือน และเตรียมอพยพคนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

    คองโก-รถไฟตกราง ดับ 60 ศพ

    [​IMG]

    [​IMG]

    เกิดเหตุรถไฟโดยสารตกรางแล้วพุ่งตกลงไปในเหวลึกใกล้กับเมืองยังกา ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐคองโก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน บาดเจ็บ 450 คน

    ขบวนรถไฟซึ่งเดินทางออกจากเมือง ปวงเต้-นัวร์ เมืองชายฝั่งทะเลมุ่งหน้าไปยังกรุงบราซาวีย์ ได้เกิดอุบัติเหตุตกรางและโบกี้พุ่งลงไปในแม่น้ำ 4 โบกี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน บาดเจ็บ 450 คน ในช่วงดึกของคืนวันจันทร์ ซึ่งเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่สามารถกู้ศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้บางส่วนแล้ว เชื่อว่าสาเหตุมาจากรถไฟแล่นเร็วเกินไป

    เส้นทางรถไฟสายนี้ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่อันตรายในคองโก เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2001 เกิดเหตุรถไฟชนประสานงากัน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน ส่วนใหญ่ถูกไฟคลอก และครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในปี 1991 ครั้งนั้นเป็นเหตุรถไฟโดยสารพุ่งชนรถไฟบรรทุกสินค้า มีผู้เสียชีวิตราว 100 คน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ลูกตีแม่วอนสังคม ยันไม่คิดทรพี ถูกถ่ายคลิปใส่ร้าย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สาวใหญ่ในคลิปวิดีโอทุบตีทารุณแม่โผล่วอนสังคมให้ความเป็นธรรม ยันไม่เคยคิดเป็นลูกทรพี แจงที่ต้องขู่หรือฉุดกระชากลากถู เพราะแม่ชอบเอาแต่ใจตัวเอง อ้างถูกญาติบางคนพยายามใส่ร้าย ถ่ายคลิปสร้างเรื่องให้เสียหาย..

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. นางอัญชัน ม่วงอ้น อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 10 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

    หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของสังคมกรณี มีคลิปฉาว ตบตี ทำร้ายร่างกายมารดาผู้บังเกิดเกล้า และรับว่าเป็นบุคคลที่ลากนางเฉลียว ม่วงอ้น อายุ 73 ปี ผู้เป็นมารดาขึ้นบันใด ตามคลิปฉาวที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ไม่มีลูกคนไหนที่จะคิดทำร้ายหรือตบตีพ่อแม่ ภาพที่ปรากฏในคลิป เป็นภาพที่ญาติฝ่ายแม่ ที่มีปัญหากันถ่ายไว้ และพยายามกล่าวหาว่า ตนเองกระทำความรุนแรงทำร้ายร่างกายมารดามาตลอด ในข้อเท็จจริง ตนเองมีครอบครัวแล้วแต่แยกทางกัน มีลูกสาว 1 คน แยกไปมีครอบครัวแล้ว ตนเองจึงได้ลาออกจากงาน มาดูแลมารดาที่ป่วยมีโรคประจำตัวหลายโรค อ่อนเพลีย ส่วนพี่ชายต้องไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ตลอดระยะเวลาที่ดูแลแม่มานานกว่า 20 ปี ไม่มีปัญหาอะไร แต่มารดา มีนิสัยชอบเอาแต่ใจตัวเอง ต้องการอะไรต้องได้ทันที โมโหร้าย ถ้าไม่ได้ดังใจ จะหยิบสิ่งของขว้างปาเข้าใส่ มีบางครั้งถึงขนาดสาดน้ำร้อนเข้ากลางหน้าอกจนพุพอง และยังใช้มีดปลายแหลมปาเข้าใส่อยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งยอมรับว่าบางครั้งก็เครียดที่อยู่ในสภาวะอย่างนั้น แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นหน้าที่ของลูกต้องปฏิบัติต่อแม่

    ส่วนภาพที่เห็นในคลิปขณะลากแม่ความจริงไม่ได้เป็นการทำร้ายร้างกายแต่อย่างไร

    เป็นภาพที่มารดาไม่ยอมขึ้นบ้านต้องใช้กำลังฉุดลากถูตามประสา และกำลังที่มีอยู่ ซึ่งแม่จะดื้อไม่ยอมขึ้นง่ายส่วนที่บอกว่าจับแม่โยนน้ำนั้น เป็นการขู่แม่เพราะท่านไม่ยอมอาบน้ำปล่อยจนตัวมีกลิ่นเหม็นไม่สะอาด จึงได้ขู่ทำให้ชาวบ้านและญาติบางคนที่พยายามใส่ร้าย ถ่ายคลิปสร้างเรื่องตนเองเสียหาย และยังบอกว่าในเวลากลางคืนตนเองทรมานทุบตีแม่ มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือนั้นยิ่งไม่เป็นความจริง ตามปกติแม่จะมีโรคปวดตามข้อ หลัง จะร้องครวญครางจนกว่าจะหลับ และล่าสุดมีการกล่าวหาว่าตนเองทำร้ายร่างกายแม่ ทุบตี จนต้องหามส่ง รพ.อุทัย ซึ่งความจริงแล้วแม่ป่วยเป็นโรคธารัสซีเมีย หรือ โรคโลหิตจาง จะอ่อนเพลียไม่มีแรง และเกิดล้มลงกระแทกขอบเตียงก่อนหามส่ง รพ.อุทัย จึงขอฝากวิงวอนให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย จากคลิปข่าวที่เห็น ไม่มีลูกคนไหนทำร้ายแม่ เป็นเรื่องของความขัดแย้งในเครือญาติพยายามถ่ายคลิปประจานตนเอง ซึ่งรับว่าเครียดมาก สำหรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานนั้น ตอนนี้ต้องการเพียงให้เข้าใจตนเองก็เพียงพอแล้ว เพราะครอบครัวรับผิดชอบดูแลเป็นอย่างดี เพียงแต่มารดาเป็นคนโมโหร้าย เอาใจตัวเองเท่านั้น

    นางเฉลียว ม่วงอ้น อายุ 73 ปี เปิดใจครั้งแรกและพูดสั้นๆว่า ถูกนางอัญชัน ลูกสาวทุบตีหลายครั้ง รับว่ากลัวลูกสาวคนนี้มาก

    ด้านนายแพทย์ เศกสรรค์ ชวนะดีเลิศ ผอ.รพ.อุทัย เปิดเผยอาการว่าของนางเฉลียวว่า ทาง รพ.รับตัวเข้ามารักษาใน รพ.เมื่อเช้าวานนี้ ด้วยอาการอ่อนเพลียที่เกิดจากโรคประจำตัว หลายโรค เท่าที่ดูการเฝ้าไข้ของลูกสาว พบว่าดูแลแม่เป็นอย่างใกล้ชิดเหมือนกับแม่ลูกทั่วไป ไม่สังเกตเห็นว่าลูกสาวมีพฤติกรรมโหดร้ายแต่อย่างใด ปฏิบัติกับแม่เป็นอย่างดีตั้งแต่เข้ามารักษาตัวใน รพ.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นายแพทย์ เศกสรรค์ ชวนะดีเลิศ ผอ.รพ.อุทัย บอกต่อว่าอาการของนางเฉลียวว่า

    นอกจากการรับตัวเข้ามารักษาด้วยโรคประจำตัวหลายโรคแล้ว ยังพบอาการผิดปกติที่บริเวณโหนกแก้มและเบ้าตามีร่องรอยเขียวช้ำ ทราบจากทางนางอัญชัน ลูกสาวที่มาเฝ้าอาการบอกว่าเกิดจากอุบัติเหตุ แต่ไม่มากนักสำหรับร่องรอยบาดเจ็บดังกล่าว แพทย์ได้ทำการรักษากับโรคโลหิตจาง จึงให้เลือดและน้ำเกลือเพื่อให้คนไข้แข็งแรง

    นายธวัช มโนนุเมธากุล ผอ.บ้านพักเด็กและครอบครัว หรือ ศูนย์ประชาบดี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    กล่าวถึงความช่วยเหลือครอบครัวของนางเฉลียวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาจาก ความเครียดและอาการทางจิต ของนางอัญชัน ลูกสาว ซึ่งทางศูนย์ประชาบดีจะต้องลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพสิ่งแวดล้อมว่าชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างไร แต่ทราบในเบื้องต้นว่าครอบครัวนี้ไม่มีปัญหาด้านเงินทอง ลูกชายมีงานทำดี ซึ่งมีความเป็นไปได้จะต้องประสานงานกับทาง รพ พระนครศรีอยุธยา นำจิตแพทย์มาทำการรักษาลูกสาวร่วมด้วย เพื่อให้ครอบครัวอยู่อย่างเป็นสุขทั้งแม่และลูก ทุกวันนี้นางเฉลียวยังหวาดระแวง เกรงว่าลูกสาวจะเข้ามาทำร้าย ซึ่งทราบจากปากของนางเฉลียงเองว่าถูกนางอัญชัน ลูกสาวทำร้ายร่างกายหลายครั้งจนเกิดอาการหวาดกลัว เมื่อเห็นหน้าลูกสาว การช่วยเหลือไม่ให้นางเฉลียวถูกลูกสาวทำร้ายอีกนั้น ทางศูนย์ประชาบดี ได้ประสานงานกับทาง รพ.อุทัย แล้วว่า เมื่อนางเฉลียวมีกำหนดออกจาก รพ. จะเดินทางมาพบกับนางอัญชัน และ นางเฉลียว ญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อทำบันทึกข้อตกลง ถ้ามีการทำร้ายร่างกายนางเฉลียวอีก ทางศูนย์ประชาบดีจะเอาเรื่องดำเนินคดีทันทีและพร้อมจะรับไปดูแล

    นางฉวีวรรณ เสถียรโชค หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพสาธารณสุขจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าหลังเยี่ยมดูอาการนางเฉลียว ม่วงอ้น แล้วพบว่ามีอาการเศร้าซึม

    เชื่องช้าตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำทางสาธารณสุขได้กำชับให้แพทย์ตรวจร่างกาย อย่างละเอียดเอกซเรย์และสแกนสมองมีเลือดคลั่งหรือเปล่าเจ้าหน้าที่จะคอยเฝ้า ระวังดูแลอย่างชิดส่วนนางอัญชัน ม่วงอ้น ลูกสาวนั้นดูแล้วก็เอาใจใส่แม่ดีคาดว่าอาจเกิดจากความเครียดจึงเกิดปัญหาทาง สุขภาพจิตทางสาธารณสุขจะดูแลคัดกรองทางโรคจิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

    นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปเยี่ยมนางเฉลียวที่รพงอุทัย เพื่อให้กำลังใจและนำสิ่งของพร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งช่วยเหลือเบื้องต้นและถาม อาการกับแพทย์อย่างห่วงใยอาการปลอดภัย

    ส่วนบรรยากาศที่บ้านของนางเฉลียวริม คลองบ้านสร้าง พบว่าถูกปิดใส่กุญแจ ตัวบ้านดูจะลึกลับบันใดและประตูเข้าบ้านมีผ้ายันต์ผืนขนาดใหญ่ปิดทับไว้ เพื่อนบ้านไม่มีใครเข้าไปยุ่งกับครอบครัวของนางเฉลียว เนื่องจากหวั่นเกรงว่านางอัญชัน จะมาเอาเรื่องด่าทอเป็นการเดือดร้อน เพื่อนบ้านทุกคนไม่อยากเข้าไปยุ่งมากนัก.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือนประชาชนพื้้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในภาคเหนือ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้...

    พยากรณ์อากาศประจำวัน


    ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2553 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ด้านรับลมมรสุมมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ในระยะนี้ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พบ 66 จุดอ่อนน้ำท่วมกรุง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>บช.น.สั่งกระชับพื้นที่ป้องกันปัญหาจราจร กำชับ จร.ออกใบสั่งให้ลงข้อมูลเข้คอมพ์

    เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.)

    พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. เรียกประชุมรองผู้กำกับ และสารวัตรจราจรทุกท้องที่ประจำเดือน มิ.ย. โดยมีวาระที่น่าสนใจ คือ การแก้ปัญหาจราจรบริเวณจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังบนผิวจราจร ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีทั้งสิ้น 81 จุด เป็นจุดที่ได้จากการสำรวจของ สน.ทุกท้องที่ 66 จุด ซึ่งจุดเสี่ยงน้ำท่วมเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการจราจรเป็นอย่างมาก ทำให้รถที่ขับผ่านต้องชะลอความเร็ว บางส่วนน้ำเข้าเครื่องยนต์จนจอดเสีย ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยจุดที่เป็นปัญหามาก ได้แก่ ซอยลาดพร้าว 122 หรือซอยมหาดไทย ถนนรามคำแหง บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ถนนรัชดาภิเษก อีกทั้งบนสะพานยกระดับพระราม 9 สะพานยกระดับรามคำแหง ยังมีปัญหาน้ำท่วมขังบนสะพานอีกด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

    พล.ต.ต.ภาณุ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกท้องที่ประสานกับ กทม.ในการขุดลอกท่อระบายน้ำ และท่อบนสะพานยกระดับให้เรียบร้อยตลอดเวลา

    นอกจากนี้ให้เจ้าหน้าที่จราจรออกประจำตามจุดเสี่ยงทันทีที่เกิดฝนตกหนักจนน้ำท่วมขัง เพื่ออำนวยความสะดวกจัดการจราจร นอกจากนี้ยังกำชับ สน.ท้องที่ให้แจ้งข้อมูลเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการจราจร เช่น โครงการก่อสร้างตามจุดต่าง ๆ งานรับปริญญา มาที่ บก.02 รวมถึงแจ้งประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่าง ๆ ให้ประชาชนทราบ เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการวางแผนการเดินทางได้ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่จราจรที่นำข้อมูลการออกใบสั่งใส่เข้าระบบคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้มีผลต่อการต่อทะเบียนรถ หากผู้กระทำผิด ไม่ยอมไปชำระค่าปรับให้ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อให้การออกใบสั่ง มีผลบังคับตามกฎหมายมากกว่าที่เป็นอยู่.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ททท.โหมลุยดึงตลาดจีน 1 ล้านคน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ททท. อาศัยจังหวะเงินหยวนแข็ง เตรียมหารือตัวแทนผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว กระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวจีน มั่นใจ ทำได้ตามเป้าหมาย 1 ล้านคน...

    นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

    เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับตัวแทนผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวของจีน เกี่ยวกับการเข้าไปสนับสนุนทำตลาด กำหนดเป้าหมายนำคนจีนมาเที่ยวไทย โดยอาศัยโอกาสที่ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ทำให้แพ็กเกจทัวร์ไทยราคาถูกลง ประกอบกับรัฐบาลยกเว้นค่าตรวจลงตรา คาดว่าจะกระตุ้นให้คนจีนกลับมาเที่ยวไทยได้ตามเป้าหมายปีนี้ที่ 1 ล้านคน

    ทั้งนี้ วันที่ 28 มิ.ย.-2 ก.ค.นี้ ททท.จะเรียกผู้อำนวยการสำนักงานในประเทศ 24 แห่ง และสำนักงานต่างประเทศ 35 แห่ง

    มาประชุมจัดทำแผนการดำเนินงานปี 54 โดยในส่วนของเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น เบื้องต้นคงอยู่ที่ 14.4 ล้านคน เท่ากับเป้าหมายปี 52 ที่เคยวางไว้ เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วุ่นวายในประเทศช่วงที่ผ่านมที่เกิดกับภาคท่องเที่ยวในระยะยาว ดังนั้น คงจะยังไม่กลับมาเร็วถึงขนาดทำได้ 15-16 ล้านคน

    ด้านนายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

    กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ยืนยันต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า หาก ศอฉ.ไม่ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อาจจะส่งผลกระทบให้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองล่าช้าออกไปกว่าที่คาดการณ์ไว้ ว่าการท่องเที่ยวจะใช้เวลาในการฟื้นตัวอย่างน้อยประมาณ 6 เดือน หรือ 2 ไตรมาส เนื่องจากการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหมือนเครื่องชี้ถึงความ ไม่ปลอดภัย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ทบทวนการมาท่องเที่ยวในไทย.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"> <tbody><tr><th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s
    </th> <th align="center">LAT
    deg
    </th> <th align="center">LON
    deg
    </th> <th align="center">DEPTH
    km
    </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 6.1 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/24 05:32:32 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -5.609 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 151.086 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 67.8 </td><td valign="top"> NEW BRITAIN REGION, PAPUA NEW GUINEA</td></tr></tbody> </table>


    10-degree Map Centered at 5°S,150°E

    Skip to earthquake lists [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]
     
  9. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    ไทยเจ๋ง! ผลิตข้าวไม่ต้องหุงได้สำเร็จ


    [​IMG]


    เรียบเรียง ข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ไทยเจ๋ง! ผลิตข้าวสารที่ไม่ต้องหุงก็ทานได้เลยได้สำเร็จ หลังจากก่อนหน้านี้ประเทศอินเดียได้เคยคิดค้นข้าวที่ไม่ต้องหุง จนประสบผลสำเร็จมาแล้ว

    โดยนางสำลี บุญญาวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัย ข้าวเชียงใหม่ สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว สามารถผลิตข้าวสารที่ไม่ต้องหุงได้สำเร็จ โดยใช้ข้าวเปลือกจาก 4 พันธุ์ คือ ขาวดอกมะลิ 105, กข39, ข้าวหลวงสันป่าตอง และขาหนี่ นำมาผ่านกระบวนการแปรรูป ใช้ไอน้ำนึ่งข้าวให้สุก เพื่อลดความชื้น และนำไปสีเป็นข้าวสาร เมื่อจะนำมาใช้บริโภคก็เพียงแค่นำข้าวสารไปแช่น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส หรือน้ำเดือด ใช้ตามอัตราข้าว 1 ส่วนต่อน้ำ 1 ส่วน หรือมากกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ควรเกิน 1.5 ส่วน ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ผู้บริโภคก็สามารถนำข้าวไปรับประทานได้ทันที หรือถ้าหากไม่มีน้ำร้อน ก็สามารถแช่ข้าวในอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสได้ ในเวลา 45 นาที ก็สามารถนำมารับประทานได้เหมือนข้าวที่หุงปกติ

    อย่างไรก็ตาม ข้าวที่หุงจากการแช่น้ำนี้ จะมีลักษณะร่วน ซึ่งผู้บริโภคอาจไม่คุ้นเคย ก็สามารถนำข้าวนี้ไปหุงด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าได้ โดยใช้อัตราข้าว 1 ส่วนต่อน้ำ 1.25 ส่วน ใช้เวลา 15 นาที ซึ่งจะได้ข้าวสุกที่มีความนุ่มเช่นเดียวกับข้าวสุกทั่วไป

    นางสำลี กล่าวต่อว่า ข้าวที่ไม่ต้องหุงนี้ เหมาะกับการพกพาติดตัว เมื่อจะเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เช่น นักเดินป่า นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่อยู่บนท้องถนนที่รถติดเป็นเวลานาน ๆ เพราะข้าวนี้ใช้อุปกรณ์หุงน้อยชิ้น และยังประหยัดพลังงานที่จะทำให้ข้าวสุกด้วย

    ขณะ ที่นายสกุล มูลคำ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การพัฒนาข้าวที่ ไม่ต้องหุง สืบเนื่องมาจากการที่ประเทศอินเดียสามารถคิดค้นขึ้นมาได้สำเร็จ อีกทั้งยังได้แนวความคิดมาจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่ต้องเดินป่า จะนำข้าวเปลือกมาแช่น้ำ นึ่ง ผึ่งแดดให้แห้ง แล้วนำไปตำเป็นข้าวสาร เมื่อต้องการนำมารับประทานก็จะนำข้าวมาใส่กระบอกไม้ เติมน้ำ เผาไฟจนสุก จึงเป็นที่มานำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวดังกล่าว


    อ่าน รายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    แผ่นดินทอง
     
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    มีใครสังเกตแบบนี้บ้าง

    ตอนภัยพิบัติมันเกิดที่ไหน ตอนนี้มันเกิดแบบ mix อ่ะ
    คือ แผ่นดินไหว + พายุ
    แผ่นดินไหว + น้ำท่วม
    พายุ + โีรคระบาด
    น้ำมันรั่ว แผ่นดินไหว พายุ
    เป็นต้น คิดได้แค่นี้ แต่จริงๆ มีอีก

    แบบว่ามันจะซ้ำๆ ที่เดียวหลายๆ อัน แบบเนี่ยะ
     
  11. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <table id="post3465664" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">[​IMG] วันนี้, 11:17 AM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เทวานิน<!-- google_ad_section_end --> [​IMG] <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3465664", true); </script>
    ผู้สนับสนุนเว็บ พลังจิต

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2007
    ข้อความ: 299
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 404
    ได้รับอนุโมทนา 2,134 ครั้ง ใน 308 โพส
    พลังการให้คะแนน: 121 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_3465664" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->ทำ บุญเรื่องน้ำมา 2 งาน ขอทุกท่านมีส่วนอนุโมทนาครับ<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->ผม เทวานินและแก๊งส์ลูกหมี

    ได้รวบรวมปัจจัยกับเพื่อนๆ ได้ช่วยงานพระศาสนา 2 งาน
    เกี่ยวกับ เรื่อง การขุดเจาะน้ำบาดาล
    ซึ่งนับวันเรื่องน้ำจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
    ดังนี้

    1.
    [​IMG] [​IMG] ประกาศบุญให้น้ำให้ชีวิตพระเณร กำลังขาดน้ำอย่างหนักเชิญร่วมเป็นเจ้าขุดเจาะน้ำบาดาล
    วันที่ 25 มิถุนายน 2553 โอนเงินจำนวน 6,000 บาท


    2.
    ขอร่วมขุดเจาะบ่อบาดาล วัดเขาพานทอง << น้ำกินน้ำใช้ต้องซื้อขึ้นเขามาวันละ 800 บาท>>
    วันที่ 25 มิถุนายน 2553 โอนเงินจำนวน 10,000 บาท


    ขอท่านทั้งหลายได้อนุโมทนาเสมือนได้ทำเองเถิด


    ที่มา: http://palungjit.org/showthread.php?t=245543&referrerid=193201




    ============================================================
    [​IMG]
    ร่วมบุญสร้างสมเด็จองค์ ปฐมปางจักรพรรดิ์ <st1:metricconverter productid="30 นิ้ว"></st1:metricconverter>30 นิ้วประดับเพชรและฐานประดับกระจก

    www.konmeungbua.com/forum/topic10282.html
    </td></tr></tbody></table>
     
  12. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ฝากธรรมหลวงปู่ชา ให้ฟังกันนะคะ

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1019710/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • dhamma005_2.mp3
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      1,927
  13. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 14:28 น. ข่าวสดออนไลน์


    ผลตรวจน้ำศักดิ์สิทธิ์จากบ่อดินวัดทุ่งเศรษฐีพบสารพิษอื้อ

    เตือนชาวบ้านอย่านำมาดื่ม สั่งห้ามวัดอย่านำมาแจกจ่าย

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>

    เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว จ.อุตรดิตถ์ รายงานว่า มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศทั้งในจังหวัดอุตรดิตถ์และต่างจังหวัดจำนวนมากแห่ไปหาเลขเด็ดจากวัตถุโบราณเครื่องใช้ประเภทภาชนะเครื่องปั้นดินเผา อาทิ หม้อดิน ไหดิน ขนาดใหญ่และเล็ก ฝาปิดหม้อดินเผาหลากหลายขนาด เตาเชิงกราน อาวุธปืนโบราณ ถาดใส่สิ่งของเนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อทองเหลืองและเนื้อเงิน พร้อมด้วยเครื่องลายครามจีน สมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งได้มีการพิสูจน์จากกรมศิลปากรสำนักศิลปากรที่ 6 จ.สุโขทัย แล้วว่าเป็นวัตถุโบราณที่มีอายุตั้งแต่ 200-400 ปีขึ้นไป อยู่ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อเนื่องถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการขุดค้นพบในบริเวณที่ดินสาธารณะบึงทุ่งกะโล่ บนเนื้อที่กว่า 7,500 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ หมู่ 7 บ้านห้วยบง หมู่ 6 บ้านหนองกลาย ต.ป่าเซ่า และพื้นที่บางส่วนของต.คุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ห่างจากถนนสายเอเซีย ที่ 11 พิษณุโลก-เด่นชัย ประมาณ 3 กิโลเมตร จำนวนเกือบ 10,00 ชิ้น ได้ถูกนำมาเก็บรักษาด้วยการใส่ตู้โชว์ที่วัดทุ่งเศรษฐี หมู่ 7 ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

    โดยก่อนหน้านี้ชาวบ้านในพื้นที่ป่าเซ่าและจากจังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย ได้เลขเด็ดจากวัตถุโบราณดังกล่าวและนำไปเสี่ยงโชคงวดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมาและถูกรางวัลกันเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีชาวบ้านแห่กันมาหาเลขเด็ดอีกมากมาย ทางวัดได้มีการนำน้ำที่เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งได้จากบ่อดินที่มีความกว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 1 เมตร อยู่ภายในบริเวณพื้นที่ที่มีการค้นพบวัตถุโบราณนำมาบรรจุใส่ถุงแล้วแจกจ่ายให้กับญาติโยมโดยอ้างว่า เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากบ่อที่มีการค้นพบวัตถุโบราณ ดื่มแล้วจะหายจากโรคร้ายได้หลายชนิด บางรายรับไว้ถึงกับแกะถุงดื่มทันทีเพราะเชื่อในสรรพคุณที่ชาวบ้านแจ้งไว้

    พระทองสุข สุภาจาโร พระลูกวัดป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ตนได้รับกิจนิมนต์ให้เข้ามาช่วยงานวัดทุ่งเศรษฐี ทั้งที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงและโรคลมบ้าหมู และได้ฉันน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้แทนน้ำดื่มทุกวัน เมื่อไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ตามที่นัด ปรากฏว่าไม่พบโรคดังกล่าว จึงทำเชื่อว่าน้ำที่ได้จากบ่อดินนั้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จริง

    นายไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและได้สั่งให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำน้ำดังกล่าวไปตรวจหาสารเคมีที่มีอยู่ภายในน้ำและเชื้อโรคที่คาดว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ปรากฏว่าศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ 9 จ.พิษณุโลก แจ้งผลการตรวจน้ำพบว่า ภายในน้ำดื่มมีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์จำนวน 3 อย่าง ประกอบด้วย สแต๊ปออเรียส เป็นเชื้อโรคที่ทำให้เกิดฝีหนองตามผิวหนัง หากมีผสมในอาหารจะทำให้อาหารนั้นเป็นพิษ ส่วนอีโคไลพบว่ามีอยู่ในน้ำมากถึง 23 ทั้งที่ควรมีแค่ 2.2 โคโลเวีย และโคลิฟอร์ม ซึ่งไม่ควรพบอยู่ภายในน้ำเลยแต่ก็มีพบ ทั้งอีโคไลและโคลิฟอร์มเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากของเสียในร่างกาย และเป็นเชื้อโรคที่ออกจากระบบขับถ่ายของมนุษย์ จึงไม่ควรนำมาอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ยังพบแร่ธาตุสนิมเหล็กจำนวนมากถึง 7.95 ทั้งที่ควรมีอยู่ในน้ำแค่ 0.3 โคโลเวีย จึงสั่งให้ทางวัดงดจำหน่ายหรือจ่ายแจกแก่ประชาชนทั่วไปที่เข้ามาร่วมทำบุญภายในวัด หากฝ่าฝืนจะต้องนำกฎหมายมาบังคับใช้

    เหมียวตามนายเดิน2ปี3พันก.ม.



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>ออเรนจ์นิวส์รายงานวันที่ 24 มิ.ย. ว่า แมวตัวผู้สีเทา ชื่อคาริม ของนางราวิลา ไฮโรวา ชาวอุซเบกิสถาน สร้างวีรกรรมฮือฮา เมื่อเดินทางตามนายของมันที่ย้ายบ้านไปอยู่ในรัสเซียด้วยระยะทางถึง 3,200 กิโลเมตร

    นางราวิลา วัย 52 ปี เล่าว่า ตอนย้ายบ้านจากเมืองกูลิสถานในอุซเบ กิสถานไม่ได้พาคาริมไปด้วย กลัวว่ามันจะไม่อยากจากที่เก่าของมันไป จึงขอให้เพื่อนบ้านช่วยเลี้ยงดูมันแทน โดยทิ้งเก้าอี้ตัวโปรดของมันพร้อมด้วยเบาะ และชามข้าวของมันไว้ ให้ แต่จากนั้นไม่กี่วันเพื่อนบ้านบอกว่า คาริมมันหายไปจากบ้านแล้ว ตอนนั้นตนเสียใจมาก กระทั่งสองปีผ่านไปนางราวิลาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง ที่เจ้าคาริมมานั่งรออยู่ที่หน้าประตูบ้านในเมืองลิสกา ในรัสเซีย ในสภาพหิวโซ ตัวผอมมาก ไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร แต่ดีใจมาก จนตอนนี้เลี้ยงมันจนแข็งแรงแล้ว

    หมี"คนุต"จิตป่วย-คนแห่ดูมากเกิน!



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>พีต้าชี้บรรดา "หมีขั้วโลก" ทั้งหมดที่อยู่ในกรงขังของสวนสัตว์ ประเทศเยอรมนี ต่างก็มีปัญหาทางจิต เพราะถูกกักขังและมีคนแห่มาชมล้นหลามอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเจ้า "คนุต" หมีขั้วโลกชื่อดังที่เป็นซูเปอร์สตาร์ในสวนสัตว์กรุงเบอร์ลิน ซึ่งปัจจุบันอายุได้ 3 ปีครึ่งแล้ว และพบว่ามีอาการหนักกว่าเพื่อน

    การศึกษาที่ใช้เวลาถึง 2 ปี ของกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ "พีต้า" นำโดยแฟรงก์ อับบรีชต์ เผยว่า คนุตและจิอันน่า หมีขั้วโลกตัวเมียที่สวนสัตว์เบอร์ลินจัดให้เป็นคู่กับคนุต แสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติออกมา บางครั้งใช้อุ้งเท้าทำท่าเลียนแบบคนที่มาถ่ายรูปมันด้วย

    "สวนสัตว์ในเยอรมนีมีหมีขั้วโลก 11 แห่ง รวมกัน 34 ตัว ในจำนวนนี้ 75-90% แสดงพฤติกรรมทางจิต อัตราการเกิดลดลง อัตราการตายของหมีเกิดใหม่สูงขึ้น หมีขั้วโลกมีอายุขัยราว 15-18 ปี แต่ในบรรดาหมีในสวนสัตว์มี 75% ที่ตายก่อนจะได้ฉลองอายุ 15 ปี"

    คนุตโด่งดังไปทั่วโลกเมื่อปี 2550 เพราะเป็นหมีหน้าตาน่าเอ็นดูและน่าสงสารที่แม่ไม่เลี้ยงจนพี่เลี้ยงต้องเอามาดูแล คนุตได้ลงปกนิตยสารแวนิตี้แฟร์ของสหรัฐ วันแรกที่เปิดให้ชมมีนักข่าวแห่มาทำข่าวถ่ายรูปนับร้อย สวนสัตว์ทำเงินได้หลายล้านยูโร


    จักรยานน้ำ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>นายลี เว่ยกั๊วะ ชาวเมืองหวู่ฮาน มณฑลหูเป่ย์ตอนกลางของจีน ปั่นจักรยานกลางน้ำในแม่น้ำฮันเจียง เหตุที่ขี่ในน้ำได้เพราะใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านติดขวดเปล่า 8 ขวดไว้ที่ใต้ล้อ ทำให้ลอยน้ำได้ และไม่สงวนลิขสิทธิ์ถ้าคนอื่นจะทำตาม (เอเชียนิวส์)







    วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 13:47:22 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->

    <CENTER>
    </CENTER>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เปิดแผนที่ 1,406แห่ง หมู่บ้านเสี่ยงแผ่นดินไหวทั่วไทย[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) ทำแผนที่หมู่บ้านเสี่ยงภัยต่อแผ่นดินไหวในประเทศไทยฉบับแรกแล้วเสร็จ โดยมีรายละเอียดครอบคลุม 22 จังหวัดในเขตภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ รวม 107 อำเภอ 308 ตำบล 1,406 หมู่บ้าน ที่อยู่ในแนวเขตรอยเลื่อนมีพลังของไทยทั้ง 13 รอยพาดผ่าน ทั้งนี้ แม้ว่าไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่ในบริเวณขอบเปลือกโลกที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวรุนแรงก็ตาม แต่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา และหลายครั้งการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศคนไทยก็ทำให้ต้องมาทบทวนและเตรียมพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศขึ้น ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ดังนั้น ทส.จึงได้ทำแผนที่เสี่ยงภัยในระดับหมู่บ้านขึ้น เพื่อส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ในการวางแผนลดผลกระทบในอนาคต รวมทั้งจะเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการนำภัยพิบัติ บรรจุในหลักสูตรการศึกษาเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้วย ซึ่งขณะนี้ในส่วนของ ทธ.เองก็เตรียมประเมินภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศไทยเป็นรายภาค โดยปี 2554 จะเริ่มในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคตะวันตก ภาคกลาง และใต้จะดำเนินการในปี 2555

    นายสุวิทย์ โคสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนแผนและประมวลผล ทธ. กล่าวว่า จากการจัดทำแผนที่หมู่บ้านเสี่ยงแผ่นดินไหวทั้ง 13 กลุ่มรอยเลื่อนมีพลัง พบว่ากลุ่มรอยเลื่อนแม่จัน ซึ่งพาดผ่านตั้งแต่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อ.แม่จัน อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย และต่อเนื่องไปถึงประเทศลาว รวมระยะทาง 155 กิโลเมตร มีความชัดเจนมากสามารถมองเห็นจากภาพถ่ายทางอากาศชัดเจน และเมื่อทำการขุดร่องสำรวจภาคสนาม พบหลักฐานในชั้นดินว่ามีการฉีกขาดมีรอยการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนเมื่อประมาณ 2 พันปีเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดมาแล้ว 6.5 ริคเตอร์ โดยในพื้นที่นี้ พบว่ามีหมู่บ้านอย่างน้อย 2-3 แห่งที่ตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อนและต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เช่น บ้านโป่งน้ำร้อน บ้านโป่งป่าแขม อ.แม่จัน จ.เชียงราย ส่วนใหญ่เป็นชาวเขา และลักษณะเป็นบ้านไม้ ที่ผ่านมา ทธ.แจ้งให้ อบต.รับทราบแล้ว

    "ยอมรับว่าการเปิดรายชื่อหมู่บ้านเสี่ยงแผ่นดินไหวครั้งนี้ มีการสำรวจในภาคสนามประมาณ 40% ของหมู่บ้านทั้งหมดมาแล้ว และไม่ต้องการให้ตื่นตกใจ เพียงแต่ต้องการให้ไม่ประมาทและมีการเตรียมความพร้อมมากกว่า เพราะถ้าจะประเมินสถานการณ์แล้วเรื่องดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากเป็นภัยใกล้ตัวมากกว่าแผ่นดินไหว แต่ก็ต้องให้ชาวบ้านรับรู้ เพราะหลายครั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จากลาว คนในเขตเชียงแสนก็รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน และมีบ้านเรือนและวัดเสียหาย เป็นต้น" นายสุวิทย์กล่าว


    ที่มา มติชนรายวัน ปีที่ 33 ฉบับที่ 11794


    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2010
  14. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    เทห์เวอร์ จักรยานน้ำ :cool: ฮิๆๆ
     
  15. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220




     
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    การอ่านกระทู้"ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่"

    ให้ได้กุศล

    ยามเป็นข่าวที่เกิดภัยพิบัติตามสถานที่ต่างๆนั้น เราก็เจริญเมตตา แผ่เมตตาจิตให้กับผู้ประสพทุกข์ประสพภัยเหล่านั้น

    แผ่บุญแผ่เมตตาปรับภพภูมิให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ด้วยจิตเมตตา

    เจริญวิปัสนาญาณให้จิตเราเห็นความไม่เที่ยงของชีวิต ของบ้านเมือง ที่แปรปรวน มีความเสื่อมความแตกดับไปในที่สุด

    น้อมนำเข้ามาสู่หัวใจของเรา เพื่อความไม่ประมาทในชีวิตเป็นมรณานุสติ จิตปล่อยวางจากความยึดมั่นถือมั่นในร่างกาย ทรัพย์สินทั้งหลาย

    อันเป็นการเจริญปัญญาทางธรรมให้จิตรอดพ้นจากภัยแห่งสัสารวัฏฏ์นี้ไปได้

    ในขณะเดียวกันในมิติทางโลก เราก็ใช้ปัญญาพิจารณาต่อไปว่า หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเรา ครอบครัวเรา บ้านเมืองเรา เราจะมีวิธีป้องกัน หลบหลีก แก้ไขสถานการณ์อย่างไร

    อันเป็นปัญญาทางโลกที่พาให้เราและครอบครัวรอดพ้นจากภัยพิบัติไปได้เช่นกัน

    พึงเจริญมุทิตาจิต กดอนุโมทนาบุญให้กับผู้โพสต์ที่ท่านเสียสละเวลานำข่าวสารมาแจ้งให้พวกเราได้ทราบด้วยเมตตาและปรารถนาดีไม่อยากให้เราประมาท อยากให้ทุกๆคนรอดจากภัยพิบัติกัน

    โมทนากับเมตตาและเจตนาดีของผู้โพสต์ไม่ใช่กดโมทนากับข่าวหายนะอย่างที่หลายคนเข้าใจผิดกัน

    และหากมีปรากฏความไม่เข้าใจ หรือกระแสจิตอันไม่เกิดกุศล

    ก็ยิ่งทำให้เราฝึกจิตให้เป็นอุเบกขารมณ์ พร้อมกับการเจริญเมตตาจิตอันเป็นปรมัตถ์บารมี นั่นคือ

    "การให้อภัย" ด้วยจิตอันกรุณาสงสารจากหัวใจเราอย่างแท้จริง

    เมื่อวางจิตถูก การเสพข่าวสารอันแม้เป็นข่าวร้าย ข่าวลบก็ไม่อาจทำให้จิตเราเศร้าหมอง

    กลับกลายเป็นการฝึกจิต ฝึกใจ ฝึกสติปัญญา ไปพร้อมๆกัน


    เวลามีน้อยทำทุกสิ่งให้เป็นกุศลครับ
     
  17. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    สถานการณ์น้ำท่วมจีนส่งผลต้องอพยพ ปชช.กว่า 2.4 ล้านคน

    จีน 25 มิ.ย.-สถานการณ์น้ำท่วมทางตอนใต้ของจีนส่งผลให้ประชาชนกว่า 2.4 ล้านคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

    อุทกภัยทางตอนใต้ของจีนส่งผลให้ประชาชนกว่า 2.4 ล้านคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปพักอาศัยอยู่ตามที่พักฉุกเฉิน ขณะที่เจ้าหน้าที่้ภัยในมณฑลเจียงซีพยายามซ่อมแซมรอยร้าวที่เขื่อน หลังจากที่มีฝนโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วม อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการซ่อมเขื่อนของเจ้าหน้าที่ต้องพบอุปสรรคทั้งระดับน้ำท่วมสูงและถนนได้รับความเสียหาย

    จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากอุทกภัยและแผ่นดินถล่มเนื่องจากฝนตกหนักทางตอนใต้ของจีน ไปแล้วอย่างน้อย 365 คน มูลค่าความเสียหายแล้วราว 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนที่มณฑลฝูเจี้ยนเจ้าหน้าที่้ภัยสามารถช่วยชีวิตวัยรุ่นคนหนึ่งจากใต้กองโคลนหลังเกิดแผ่นดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

    ผู้นำบราซิลตรวจพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม

    บราซิล 25 มิ.ย. - ผู้นำบราซิลตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 50 คน ขณะที่ชาวบ้านอีกกว่า 1 แสนคน ต้องละทิ้งบ้านเรือน

    ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา เดินทางไปตรวจสภาพพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในรัฐอลาโอกัสทางตะวันออกเฉียงเหนือ หลังสถานการณ์น้ำท่วมหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 คน สูญหาย 135 คน และอีกราว 1 แสน 2 หมื่นคน ต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือน ถนนหนทางได้รับความเสียหายเป็นระยะทางถึง 2,000 กิโลเมตร และสะพานพังชำรุดอย่างน้อย 80 แห่ง

    ด้านทางการท้องถิ่นกำลังเร่งจัดส่งอาหาร น้ำดื่ม และเวชภัณฑ์ให้แก่ผู้ประสบภัย ขณะที่ประธานาธิบดีซิลวาให้คำมั่นว่ารัฐบาลได้จัดสรรเงินจากกองทุนฉุกเฉินลงไปช่วยเหลือผู้ประสบในรัฐอลาโกอัส และเปอร์นัมบูโค แล้ว 154 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,900 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    ที่มา MCOT - NEWS
     
  18. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    คาดว่าพายุฝนจะกระหน่ำซ้ำพื้นที่น้ำท่วมในจีน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 24 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ของจีน เดินทางมายังมณฑลเจียงซีในวันนี้ เพื่อควบคุมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน สร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (208,000 ล้านบาท)

    สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า นายเวินเดินทางไปยังเมืองฝูโจวท่ามกลางฝนตกหนัก เพื่อตรวจดูสภาพพื้นที่ประสบภัยและให้กำลังใจหน่วย้ภัยและชาวบ้าน ประชาชนราว 100,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนตั้งแต่เมื่อต้นสัปดาห์หลังน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเขื่อนแตก คาดว่าพายุฝนจะกระหน่ำลงมาอีกในมณฑลกุ้ยโจว หูหนาน เจียงซี เจ้อเจียง ฝูเจี้ยน และเขตปกครองตนเองกว่างซีภายในอีก 2 วันนี้ ยิ่งส่งผลต่อปฏิบัติการช่วยเหลือซึ่งมีผู้อพยพออกจากบ้านเรือนรวม 2.4 ล้านคนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    เกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี

    จาการ์ตา 24 มิ.ย.-เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริคเตอร์ ใกล้ชายฝั่งของปาปัวนิวกินี แต่ไม่มีคำเตือนการเกิดคลื่นสึนามิ

    ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ รายงานว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นห่างจากเมืองแคนเดรียนบนเกาะนิว บริติช ไอแลนด์ ไปทางตะวันออก-ตะวันออกเฉียงเหนือ 185 กิโลเมตร และที่ระดับความลึก 67 กิโลเมตร เมื่อเวลา 12.32 น. ที่ผ่านมา

    เจ้าหน้าที่ในกรุงจาการ์ตา นครหลวงของอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 5,000 กิโลเมตรทางทิศตะวันตก กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหาย
    เกิดขึ้นบนแผ่นดินของอินโดนีเซีย.-สำนักข่าวไทย
     
  19. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    เฮอร์ริเคนเซเลียในแปซิฟิกทวีกำลังแรงขึ้นเป็นระดับ 3

    [​IMG]

    ไมอามี 24 มิ.ย.-เฮอร์ริเคน เซเลีย ซึ่งเป็นเฮอริเคนลูกแรกที่เกิดขึ้นในฝั่งแปซิฟิกในปีนี้ ทวีกำลังแรงขึ้นเข้าสู่ระดับ 3 จากทั้งหมด 5 ระดับ

    เฮอริเคนดังกล่าวมีความเร็วลมใกล้ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกรรโชกแรง ซึ่งเมื่อเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา อยู่ห่างจากเมืองคาโบ ซาน ลูคัส ซึ่งตั้งอยู่ปลายสุดทางใต้ของคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย ราว 1,180 กิโลเมตร ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะพัดเข้าสู่ชายฝั่ง

    เซเลียกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกห่างจากแผ่นดิน ด้วยความเร็วเดินทางประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะเคลื่อนตัวไปทางเหนือถึงตะวันตกเฉียงเหนือในไม่กี่วันข้างหน้า

    นอกเหนือจากเฮอริเคนเซเลีย ล่าสุดพายุโซนร้อนดาร์บี้ ก่อตัวขึ้นห่างไปทางตะวันออกของเฮอริเคนเซเลีย 1,500 กิโลเมตร ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าพายุลูกนี้จะทวีกำลังแรงขึ้นและจะเป็นเฮอร์ริเคนในวันนี้ มีเส้นทางมุ่งขึ้นเหนือตรงไปยังชายฝั่งตะวันตกของเม็กซิโกใกล้เมืองตากอากาศอาคาพูลโก .-สำนักข่าวไทย

    เกิดแผ่นดินไหวที่แคนาดาก่อนการประชุมกลุ่ม จี 20

    [​IMG]

    ออตตาวา 24 มิ.ย.-เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่กรุงออตตาวาและนครมอนทรีออลในแคนาดา ทำให้ประชาชนพากันแตกตื่นออกมายืนตามท้องถนน มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้นกับอาคารและถนนในรัฐควิเบก

    ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 5.0 ริคเตอร์เกิดขึ้นที่บริเวณรอยต่อของรัฐออนแทรีโอและควิเบกเมื่อเวลา 00.41 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย ศูนย์กลางอยู่ห่างจากกรุงออตตาวาไปทางทิศเหนือ 53 กิโลเมตร และเกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นในใจกลางนครหลวง รวมถึงในนครโทรอนโต ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่อาศัยมากที่สุดของแคนาดา และกำลังจะเป็นสถานที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่มประเทศพัฒนาและกำลังพัฒนาชั้นนำของโลก หรือกลุ่มจี 20 ในสุดสัปดาห์นี้

    แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกลถึงรัฐนิวยอร์กในสหรัฐ เมืองบัฟฟาโล และรัฐโอไฮโอ ผู้อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า กำแพงอาคารสำนักงานสั่นไหวเป็นเวลาหลายวินาที และเกิดรอยร้าวขึ้นที่อาคารปาร์เลียเมนทารี เพรส แกลเลอรี ในกรุงออตตาวา ส่วนบ้านเรือน และอาคารบางแห่งได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย

    ที่มา MCOT - NEWS
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table style="border-collapse: collapse;" align="center" border="1" bordercolor="#666666" cellpadding="3" cellspacing="0" width="600"><tbody><tr bgcolor="#cccc66"><td align="center" width="70" nowrap="nowrap">วันที่</td> <td align="center" width="60" nowrap="nowrap">เวลา</td> <td align="center" nowrap="nowrap">ขนาด</td> <td align="center" width="50" nowrap="nowrap">lat</td> <td align="center" width="50" nowrap="nowrap">long</td> <td align="center" width="120" nowrap="nowrap">บริเวณที่เกิด</td> <td align="center" nowrap="nowrap">ข้อมูล อื่นๆ</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">2553-06-25</td> <td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">21:39:34</td> <td align="center" valign="top">
    4.6
    </td> <td align="center" valign="top">21.920</td> <td align="center" valign="top">97.310</td> <td valign="top">ประเทศพม่า</td> <td valign="top"> - ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ. แม่ฮ่องสอน ประมาณ 280 กิโลเมตร</td></tr></tbody></table>
     

แชร์หน้านี้

Loading...