ประสบการณ์ตายแล้วฟื้นของ Betty J.Eadie สู่หนังสือ "อานุภาพรัก" (Embraced by the Light)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 24 ธันวาคม 2011.

  1. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    เรายังอยู่ในการโอบล้อมด้วยรังสีแสง และพระเยซูก็ทรงแย้มพระสรวลให้ฉัน
    รู้สึกว่าพระองค์ทรงอนุญาตอะไรสักอย่าง พระองค์ทรงผินพระพักตร์ไปทางซ้าย
    และทรงแนะนำให้ฉันรู้จักกันสตรี 2 นางที่มาปรากฏกายขึ้น
    และนางที่ 3 ก็ปรากฏขึ้นอีกทางด้านเบื้องพระปฤษฎางค์ (หลัง) เพียงชั่วครู่
    แต่คนหลังนี้ดูคล้ายๆว่ากำลังจะไปทำธุระและเพียงแค่แวะมาครู่เดียว
    พระเยซูทรงมีพระบัญชาให้สตรี 2 นางแรกเข้ามาเป็นเพื่อนพาฉันไปต่อ
    ฉันรู้สึกสัมผัสได้ว่าทั้งสองมีความผาสุกที่ได้มาอยู่กับฉัน
    พอมองหน้าเธอเต็มตาก็จำทั้งคู่ได้ทันทีว่าเป็นเพื่อนฉันมาก่อน
    เป็น 2 คนในหมู่มิตรสนิทก่อนที่ฉันได้มาเกิด และความตื่นเต้น
    ทั้งของเธอและของฉันในการที่เราได้มาอยู่ด้วยกันอีกนี้ก็มีมากมาย
    ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย

    ขณะที่พระเยซูทรงกำลังจะปล่อยให้ฉันอยู่กับ 2 สหายนี้
    ฉันรู้สึกได้ถึงพระอารมณ์ขันของพระองค์อีก
    และดูเหมือนพระองค์ทรงกระซิบเข้ามาในจิตฉันว่า
    “ไปเรียนอีกหลายๆอย่าง”
    ซึ่งฉันเข้าใจได้ว่าทรงประทานอนุญาตให้มีอิสระที่จะพบเห็นทุกสิ่งอย่างตามต้องการ
    ฉันรู้สึกใจเต้นว่ามีอะไรอีกมากมายให้เรียนรู้ (และก็มีอีกมากมายจริงๆเสียด้วย)

    พระเยซูทรงจากไปแล้ว และสหายทั้งสองก็เข้ามากอดฉันไว้
    ความรักห้อมล้อมเราทุกคนไว้ ทุกคนได้รับทั่วกัน ทุกคนมีความสุข
    และถึงแม้ว่ารัศมีและพลังของทั้งสองนั้นจะแตกต่างกันอย่างลิบลับกับของพระคริสต์เจ้า
    แต่ความรักของเธอก็ไม่มีเงื่อนไขด้วย ทั้งคู่รักฉันอย่างหมดหัวใจ


    ความทรงจำที่ทั้งคู่พาฉันไปเที่ยวนั้นถูกลบออกไปบางส่วน
    ฉันจึงจำได้เพียงว่าได้รับการพาเข้าไปในห้องกว้างที่มีคนกำลังทำงานอยู่
    แต่ก็จำไม่ได้เลยว่ามาถึงห้องนั้นได้อย่างไร
    หรือภายนอกของตึกมีลักษณะเป็นอย่างไร
    ห้องนั้นงดงาม ผนังทำด้วยวัสดุบางอย่างคล้ายๆจะเป็นหินอ่อนบางเฉียบ
    ซึ่งแสงทะลุผ่านเข้ามาได้ และจากหลายๆจุดก็สามารถ
    มองทะลุผ่านออกไปข้างนอกได้ด้วย
    ก่อให้เกิดรูปเงาสะท้อนต่างๆที่แปลกตาสวยงาม
     
  2. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    พอเราเข้าไปใกล้คนที่ทำงานกันอยู่
    จึงได้เห็นว่าพวกเขากำลังทอผ้าด้วยกี่กระตุก
    หน้าตาดูโบราณเครื่องใหญ่หลายเครื่อง
    ความรู้สึกแรกของฉันคือ โลกจิตวิญญาณนี้ “ช่างเก่าคร่ำครึ”
    ที่ยังใช้กี่ทอผ้ากระตุกด้วยมืออยู่ โดยรอบๆกี่กระตุกพวกนั้น
    มีจิตวิญญาณทั้งชายและหญิงยืนรายล้อมกัน
    และก็พากันหันมายิ้มต้อนรับ ดูพวกเขาดีใจที่ได้พบฉัน
    และได้เปิดทางถอยจากกี่เครื่องหนึ่งเพื่อให้ฉันได้เข้าไปดูใกล้ๆ
    ดูท่าทางพวกเขากระตือรือร้นกันทีจะให้ฉันได้เห็นผลงานจากน้ำมือเขา
    ฉันจึงเดินเข้าไปใกล้ๆและหยิบผ้าชิ้นหนึ่งที่พวกเขากำลังทออยู่ขึ้นมาดู
    ลักษณะของผ้าดูเหมือนผสมกันระหว่างใยแก้วกับน้ำตาลสายไหม
    ซึ่งวูบวาบระยิบระยับราวกับจะเต้นได้เหมือนดั่งมีชีวิต
    เวลาฉันพลิกผ้ากลับไปกลับมา

    สิ่งที่เห็นนั้นแลดูน่าประหลาด ผ้านั้นจะดูทึบแสงจากด้านหนึ่ง
    แต่พอกลับไปอีกด้าน ฉันกลับสามารถมองทะลุผ่านไปได้เลย
    การที่ใสแจ๋วจากด้านหนึ่งและทึบแสงจากอีกด้าน
    ซึ่งคล้ายกับกระจกสองด้านที่ติดฟิล์มกรองแสงไว้ด้านหนึ่งนี้
    ต้องมีวัตถุประสงค์อย่างแน่นอน
    แต่ไม่มีใครบอกว่าวัตถุประสงค์นั้นคืออะไร
    พวกที่ทำงานอยู่อธิบายว่าผ้านั้นจะนำไปตัดชุด
    ให้แก่ผู้ที่เพิ่งมาจากโลกมนุษย์ใหม่ๆ
    แลดูพวกเขาชื่นชมกับผลงานนั้นอย่างเห็นได้ชัด
    และก็ชื่นชมที่ฉันรู้ถึงบุญคุณที่ได้รับอนุญาตให้มาเห็นสิ่งเหล่านี้



    แล้วฉันกับสหายทั้งสองก็ออกมาจากห้องทอผ้า
    และไปต่อยังห้องอื่นๆอีกหลายห้อง ซึ่งได้พบเห็นสิ่งอัศจรรย์
    และผู้คนพิเศษๆต่างๆ แต่ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้รำลึกได้ถึง
    รายละเอียดอีกหลายๆอย่างได้ในตอนนี้
    จึงจำได้แต่เพียงเป็นความรู้สึกของการเดินทางเป็นวันๆ
    หรือสัปดาห์ๆโดยไม่เบื่อหน่ายเลย
    ฉันแปลกใจที่พบว่าผู้คนที่เห็นในโลกนั้นชอบที่จะทำงาน
    ด้วยมือกันเสียจริง (หมายถึงผู้ที่อยากจะทำ)
    พวกเขาสนุกกับการสร้างเครื่องมือต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
    ทั้งในภพภูมินั้น และในโลกมนุษย์นี้ ฉันเห็นเครื่องจักรใหญ่
    เครื่องหนึ่ง คล้ายๆเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่วิจิตรพิสดาร
    และทรงพลังกว่า พวกที่ทำงานอยู่ที่เครื่องนี้ก็เช่นกันที่เต็มใจ
    ให้ฉันได้ดูงานที่เขาทำ ก็เป็นอีกครั้งที่ฉันได้เข้าใจว่า
    ทุกสรรพสิ่งที่มีความสำคัญต้องสร้างขึ้นในมิติของจิตก่อน
    แล้วจึงมาสร้างในโลกวัตถุต่อมา

    ฉันไม่เคยมีความรู้มาก่อนเลยจริงๆว่าเครื่องนี้คือเครื่องอะไร
     
  3. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    ทั้งสองสหายพาฉันไปที่ห้องต่อไปที่ใหญ่โตมีลักษณะคล้ายห้องสมุด
    เมื่อมองไปรอบๆแลดูว่าเป็นสถานที่เก็บรักษาความรู้
    แต่มองไม่เห็นหนังสือสักเล่ม แล้วทันใดนั้น
    ฉันก็สังเกตว่าความคิดต่างๆหลั่งไหลมาในใจ
    ความรู้พรั่งพรูเข้ามาในเรื่องราวที่ฉันไม่เคยคิดถึงมานานแล้ว
    หรือบางเรื่องก็ไม่เคยคิดเลยสักนิด
    แล้วฉันจึงตระหนักว่านี่เองคือห้องสมุดแห่งจิตใจ
    เพียงแค่คำนึงถึงหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งเท่านั้น
    ความรู้ทั้งหมดที่เกี่ยวกับหัวข้อนั้นก็หลั่งไหลเข้ามา
    คล้ายกับตอนที่อยู่กับพระเยซูคริสต์

    ฉันสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับใครก็ตามในประวัติศาสตร์มนุษย์
    หรือแม้แต่เกี่ยวกับโลกของจิตวิญญาณก็ได้
    โดยจะมีรายละเอียดอย่างเพียบพร้อม

    ไม่มีความรู้ใดๆถูกปิดบังไว้ และทุกๆความคิดทุกๆประโยค
    ทุกๆส่วนย่อยของข้อมูลก็ชัดเจน กระจ่างแจ้งถ่องแท้
    จนไม่มีทางจะเข้าใจพลาดได้เลย
    ไม่มีความเข้าใจผิดใดๆเลยโดยสิ้นเชิงเมื่ออยู่ในห้องนี้
    ประวัติศาสตร์ก็บริสุทธิ์เป็นไปตามที่เกิดขึ้นจริง
    เข้าใจอย่างครบถ้วนรอบด้าน ไม่เพียงแต่ฉันที่เข้าใจว่า
    คนเขาทำอะไร แต่เข้าใจด้วยว่าทำไมเขาจึงทำเช่นนั้น
    และไปเกิดผลกระทบอย่างไรกับความเป็นจริงที่คนอื่นๆรับรู้ด้วย
    ฉันเข้าใจความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องเรื่องนั้นได้จากทุกแง่มุม
    จากทุกมุมมองที่น่าเป็นไปได้ และทั้งหมดนี้ได้ประกอบกัน
    เป็นภาพที่ครบถ้วนสมบูรณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์หรือบุคคล
    หรือหลักการ อย่างที่เป็นไปไม่ได้ว่าตอนเป็นมนุษย์
    จะสามารถเข้าใจได้อย่างนั้น


    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มากกว่าขบวนการทางความคิด
    ฉันสามารถจะรู้สึกถึงความรู้สึกของคน
    ขณะที่เขากระทำการใดๆก็ตามด้วย
    ได้เข้าใจถึงความเจ็บปวดหรือความชื่นบานหรือความตื่นเต้น
    ของเขา เพราะฉันสามารถเข้าถึงจิตใจเหมือนเป็นตัวเขาเอง
    แต่ความรู้บางส่วนก็ถูกดึงกลับไปจากความทรงจำของฉันแล้ว
    แม้ว่าไม่ทั้งหมด ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่าง
    และบุคคลบางคนในประวัติศาสตร์ของเรา
    บางส่วนที่สำคัญสำหรับฉันจะต้องเข้าใจก็ยังคงเหลือไว้ให้


    ฉันยังอยากได้ประสบการณ์มากขึ้นอีก
    ในภพภูมิที่แสนมหัศจรรย์และเหลือเชื่อนี้
    และเพื่อนผู้พาเที่ยวทั้งคู่ก็ยินดีจะคอยช่วยเหลือต่อไป
    ทั้งคู่มีความปิติเป็นที่สุดที่จะให้ความสุขสันต์แก่ฉัน
    จึงกระวีกระวาดพาฉันออกไปข้างนอก
    เพื่อเข้าไปยังสวนสวรรค์

    จบตอนค่ะ--
     
  4. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    หน้า 60 - 63 The Garden สวนสวรรค์


    เราเดินออกไปข้างนอกตึกเข้าสู่เขตสวนสวรรค์นั้น
    ภาพทิวเขาสลับหุบเขางดงามตระการตาก็ปรากฏขึ้น
    แซมด้วยแม่น้ำหลายๆสายอยู่ในระยะไกลๆ
    เพื่อนทั้งสองจากไปแล้ว ปล่อยให้ฉันเดินต่อไปเองตามลำพัง
    คงเป็นเพราะอยากให้ฉันดื่มด่ำกับความงดงามน่ารื่นรมย์
    ของสวนนี้ได้เต็มที่โดยไม่ต้องเกรงใจใครนั่นเอง

    สวนนี้เพียบพร้อมไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ และพันธุ์ไม้ต่างๆ
    ที่เหมาะเจาะลงตัวไม่ขาดไม่เกินราวกับว่าถูกบรรจงจัด
    ให้มีลักษณะนั้นและอยู่ตรงที่นั้นอย่างพอดิบพอดี
    ฉันเหยียบย่างอยู่บนหญ้าสักพักหนึ่ง หญ้าที่นี่เขียวขจี
    สดแน่นและเย็นสบาย รู้สึกเหมือนว่ามีชีวิตชีวา
    อยู่ข้างใต้เท้าของฉันเลย
    แต่สิ่งที่ฉันอัศจรรย์ใจมากที่สุดมากกว่าอะไรทั้งหมดในสวน
    ก็คือสารพัดสีสดจัดจ้าอย่างที่ไม่เคยปรากฏในโลกของเราเลย

    เวลาที่แสงส่องกระทบกับวัตถุใดๆที่นี่ แสงที่สะท้อนออกมา
    จะมีลักษณะพิเศษคือเป็นสีเดียวแต่สามารถไล่ระดับความอ่อนแก่
    ของสีได้เป็นพันๆระดับ ในโลกของจิตวิญญาณนั้นแสงที่เห็น
    ไม่ได้ส่องกระทบมาจากภายนอกเสมอไป
    แต่สามารถเปล่งออกมาจากภายในและดูราวกับมีชีวิต
    สามารถเปล่งสีสันออกมาได้เป็นล้านหรือพันล้านระดับเลย
     
  5. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    ยกตัวอย่างเช่น ดอกไม้ที่นี่ก็จะมีสีที่เจิดจ้าและเรืองรอง
    จนดูราวกับไม่มีรูปร่างแน่นอน เนื่องจากรัศมีของพรรณไม้
    แต่ละต้นแผ่ประกายออกมาโดยรอบอย่างเจิดจ้า
    จึงทำให้ยากที่จะบอกได้แน่ชัดว่าแต่ละดอก แต่ละใบ แต่ละต้น
    จริงๆแล้วเริ่มและสิ้นสุดลงตรงไหน เห็นได้ชัดเจนว่า
    แต่ละส่วนของต้นไม้นั้นโดยเฉพาะในแต่ละอณูย่อยที่สุดนั้น
    ก็ยังประกอบขึ้นด้วยขุมปัญญาของตัวเองเป็นเอกเทศ
    นี่เป็นคำพูดที่ดีที่สุดที่ฉันจะสามารถบรรยายได้แล้ว
    แม้ในส่วนที่เล็กจิ๋วสุดทุกๆส่วนก็ยังมีชีวิตของตัวเอง
    อย่างพร้อมสรรพ ทำให้สามารถจะเรียงตัวใหม่เข้ากับธาตุอื่นๆได้ทุกเมื่อ
    เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งใหม่ๆได้เสมอ

    ธาตุเดียวกันซึ่งกำลังอยู่ในดอกไม้ขณะนี้
    อาจจะกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งอื่นในเวลาถัดมาก็ได้
    และมีชีวิตชีวาเสมอดังเดิมด้วยซ้ำ
    อณูนี้ไม่มีจิตวิญญาณอย่างพวกเราก็จริง
    แต่ก็มีขุมปัญญาและโครงสร้างที่พร้อมจะตอบสนอง
    ต่อพระประสงค์ของพระเจ้า
    และสนองต่อกฏต่างๆของจักรวาลได้เช่นกัน
    ทั้งหมดนี้ปรากฏชัดเจนมากขณะที่ฉันดูการสร้างสรรค์ก่อกำเนิดขึ้นที่นั่น
    และชัดเป็นพิเศษจากที่กำลังเกิดในดอกไม้พวกนี้



    ในบริเวณสวนไม่ไกลจากที่ฉันอยู่เท่าไรนักก็มีสายน้ำสวยงาม
    ไหลผ่านเข้ามา ซึ่งสามารถดึงดูดฉันเข้าไปใกล้ในทันที
    ฉันได้เห็นต้นน้ำของแม่น้ำสายนี้ว่ามาจากน้ำตกใหญ่
    ที่น้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ที่สุด และแม่น้ำก็ไหลไปสิ้นสุดที่สระน้ำ
    น้ำที่นั่นเป็นประกายแวววับด้วยความกระจ่างใสและมีชีวิต
     
  6. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    [FONT=&quot]ชีวิต...ในน้ำก็มีชีวิตเช่นกัน น้ำแต่ละหยดที่ไหลรินมาจากน้ำตกนั้น
    มีขุมปัญญาและวัตถุประสงค์ของตัวเอง เสียงที่ลอยมาจากน้ำตกนั้น
    เป็นทำนองเสนาะไพเราะยิ่งนัก กังวานใสน่าอภิรมย์ไปทั่วทั้งสวน
    และสุดท้ายก็สอดประสานรวมเข้ากับเสียงเสนาะอื่นๆ
    อีกหลายต่อหลายเสียงซึ่งตอนนี้ฉันก็จำได้แค่เลือนรางเท่านั้น

    เสียงเพลงนั้นเกิดมาจากในน้ำแต่ละหยดนั่นเอง
    จากขุมปัญญาที่มีอยู่ในทุกหยด
    ซึ่งต่างก็สรรค์สร้างเสียงสูงต่ำและทำนองของตัวเอง
    ซึ่งไปผสมผสานรับกันอย่างดีกับเสียงอื่นๆและทำนองเพลง
    ที่อยู่โดยรอบ หยดน้ำทั้งหลายนั้นกำลังขับลำนำสดุดีพระเป็นเจ้า
    ที่ทรงประทานชีวิตและความสุขมาให้ เสียงทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น
    ช่างกลมกลืนไพเราะเสนาะโสตเกินกว่าความสามารถของ
    วงดุริยางค์หรือคีตกวีใดๆในโลกมนุษย์จะสามารถสร้างสรรค์ได้
    ถ้าจะเปรียบไปแล้ว ดนตรีที่เป็นเลิศที่สุดของมนุษย์
    ก็เหมือนแค่เสียงเด็กเล่นตีกลองสังกะสีเท่านั้นเอง
    เราไม่มีทางจะประมาณได้เลยถึงความอลังการ
    และพลานุภาพของดนตรีที่นั่น
    ยิ่งจะเริ่มสร้างให้ได้แบบนั้นด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

    ขณะที่ฉันเดินไปใกล้น้ำมากขึ้นก็มีความคิดแวบเข้ามาว่า
    นี่อาจจะเป็น “น้ำศักดิ์สิทธิ์” ที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์ก็ได้
    จึงอยากจะลงไปอาบชำระกายในนั้น[/FONT]
     
  7. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    พอเข้าไปใกล้จะถึง
    ฉันก็เกิดสังเกตเห็นว่าใกล้ๆตัวมีดอกกุหลาบดอกหนึ่ง

    เหมือนจะโดดเด่นออกมาจากดอกไม้อื่นๆจึงได้แวะชื่นชมดูก่อน
    กุหลาบดอกนั้นช่างงดงามจับจิตจับใจอย่างน่าพิศวง
    ในจำนวนดอกไม้ทั้งหมดในบริเวณนั้นไม่มีดอกไหน
    จับใจฉันเท่ากับดอกนี้
    มันกำลังไกวตัวเบาๆไปตามเสียงดนตรีแผ่วๆและร้องเพลง
    สดุดีพระผู้เป็นเจ้าด้วยท่วงทำนองหวานใสแบบเฉพาะของตัวเอง


    ฉันรู้เลยว่ากุหลาบดอกนี้จะสามารถเจริญเติบโตให้เห็นได้จริงๆ
    ขณะที่มันค่อยๆโตขึ้นต่อหน้าต่อตานั้น
    จิตวิญญาณฉันรู้สึกถูกเร้าไปด้วย
    จนอยากเข้าไปสัมผัสถึงชีวิตมัน
    เข้าไปข้างใน และรับรู้ถึงจิตวิญญาณของมันจริงๆ
    พอความคิดนี้แล่นเข้ามา
    ฉันเหมือนจะมองทะลุเข้าไปในตัวดอกไม้นั้นได้เลย
    ราวกับว่าสายตาของฉัน
    สามารถขยายให้เห็นได้แบบกล้องจุลทรรศน์
    ทำให้ฉันมองทะลุทะลวงไปถึงส่วนที่ลึกที่สุด
    ของกุหลาบดอกนั้นได้แจ่มแจ้ง


    แต่ที่จริงแล้วประสบการณ์นี้มากยิ่งกว่าแค่การมองเห็นเท่านั้น
    ฉันรู้สึกว่ากุหลาบดอกนั้นได้ห่อหุ้มตัวฉันอยู่ด้วย
    เหมือนกับว่าฉันเข้าไปอยู่ข้างในแล้ว
    และเป็นส่วนหนึ่งของดอกกุหลาบนั้นจริงๆ
    ฉันเกิดประสบการณ์เหมือนว่าตัวเองได้เป็นดอกไม้นั้น
    รู้สึกได้ว่ากุหลาบนั้นกำลังไกวตัวเอนไปมาตามเสียงเพลง
    ของเหล่าดอกไม้อื่นๆ

    ขณะเดียวกันก็สร้างสรรค์เสียงเพลงของตัวเอง
    ด้วยท่วงทำนองเพลงที่กลมกลืนอย่างไม่มีที่ติไปกับดนตรี
    ของดอกกุหลาบอื่นๆนับพันที่กำลังร่วมขับประสานไปด้วยกัน


    ฉันได้เข้าใจถึงเสียงดนตรีของกุหลาบดอกที่ฉันอยู่นั้น
    มีที่มาจากแต่ละส่วนกัน
    กลีบดอกแต่ละกลีบทำเสียงสูงหรือต่ำเฉพาะตัวต่างๆกัน
    แล้วขุมปัญญาที่อยู่ในแต่ละกลีบดอกนั้นก็ทำการแต่งเติม
    ให้เป็นท่วงทำนองอันไพเราะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นอีกที
    โดยทุกๆส่วนต่างก็ร่วมใจกันบรรเลง
    สร้างให้เกิดผลรวมอย่างเดียวกัน
    คือความสุขสันต์หรรษา

    ความปิติสุขของฉันเต็มล้นขึ้นมาอีกครั้ง
    ฉันรับรู้ได้ถึงพระเจ้าที่อยู่ในทุกพืชพันธุ์ และที่อยู่ในตัวฉัน
    สัมผัสได้ถึงความรักของพระองค์ที่หลั่งไหลมาสู่เรา

    เราทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวกัน!


    ฉันจะไม่มีวันลืมประสบการณ์ที่เคยได้เป็นกุหลาบ
    ดอกนั้นอย่างแน่นอน
    ประสบการณ์ครั้งเดียวนั้นจะว่าไป
    ก็เหมือนแสงดวงเล็กๆเท่านั้น
    ถ้าเทียบกับความปิติสุขในการที่ฉันได้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน
    กับสิ่งอื่นๆทุกๆสิ่งซึ่งเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก
    และมีอยู่เสมอในโลกของจิตวิญญาณ
    แต่ทว่าฉันก็ยังรู้สึกว่าการเป็นดอกกุหลาบนั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน
    จนอยากจะทะนุถนอมรำลึกไว้ตลอดไป


    จบตอนค่ะ--
     
  8. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    หน้า 64 – 67 Greeting Party – ผู้มาต้อนรับ


    มีกลุ่มจิตวิญญาณระดับสูงกลุ่มหนึ่งเข้ามาที่ในสวนนั้น
    ซึ่งตอนนี้ดวงจิตหลายดวงอยู่ในอาภรณ์แบบเสื้อคลุมยาว
    สีนุ่มๆจางๆ บางทีสีสันอ่อนโยนนั้นอาจเป็นเครื่องสะท้อนถึง
    อารมณ์จิตใจ บรรยากาศของสถานที่นี้และของโอกาสนี้ก็ได้นะ
    เหล่าดวงจิตวิญญาณนั้นก็มาห้อมล้อมฉันไว้
    ฉันรู้สึกคล้ายเป็นการมาชุมนุมกัน
    เพื่อฉลองการสำเร็จการศึกษาให้ฉัน
    อย่างนั้นแหละ
    ฉันคงได้ตายลงแล้ว
    (หรือจะเรียกว่าสำเร็จการศึกษาแล้ว
    ตามคำที่พวกเขาใช้เรียกกันก็ได้)
    และพวกเขาจึงมาต้อนรับ
    ดวงหน้าแต่ละดวงเปล่งปลั่งไปด้วยความยินดี

    ประหนึ่งว่ากำลังพลอยยินดีไปกับเด็กซึ่งมีความสุขกับ
    การเพิ่งได้ลิ้มรสชาติที่อร่อยเลิศเป็นครั้งแรก

    ฉันรู้ขึ้นมาว่าเคยได้รู้จักพวกเขาทั้งหมดมาตลอดแล้ว
    ตั้งแต่ก่อนไปเกิดเป็นมนุษย์เสียอีก
    เลยวิ่งเข้าไปหา ไปกอด ไปหอมแก้มทักทายทีละคน
    อีกทั้งเทพผู้คอยดูแลทั้ง 3 องค์ หรือที่ฉันเรียกว่า
    พระที่รักทั้งสามก็กลับมาอยู่ตรงนั้นด้วยอีกครั้ง
    ฉันจึงได้หอมแก้มทั้ง 3 ท่านด้วยเช่นกัน

    พอฉันเปิดรับรู้ถึงจิตใจส่วนลึกของดวงจิตวิญญาณแต่ละดวงนั้น
    ฉันตระหนักเลยว่าที่พวกเขามา
    ก็เพื่อคอยให้กำลังใจช่วยเหลือฉัน
    ตอนนี้เพื่อนผู้พาเที่ยวทั้งสองซึ่งยังคงทำหน้าที่
    เป็นเทวดาผู้นำทางให้ฉันต่อไปก็บอกว่า
    ฉันได้ตายลงก่อนถึงวาระอันควร
    เวลานี้จึงไม่ใช่งานฉลองสำเร็จการศึกษาจริงๆ
    แต่เป็นการแสดงให้เห็นล่วงหน้าว่าตอนที่กลับมา
    เมื่อถึงวาระอันควรจริงๆนั้นฉันจะได้รับอะไรบ้าง
    พวกเขาดีใจมากที่ได้มาพบฉันได้มาคอยให้กำลังใจ
    แต่ก็รู้ว่าอย่างไรเสียฉันก็ต้องกลับไปโลกมนุษย์อีก
    จากนั้นก็ได้อธิบายให้ฉันฟังเกี่ยวกับการตาย
     
  9. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    สองผู้นำทางเล่าว่าเมื่อเรา “ตาย” ลงนั้น
    ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าประสบการณ์ของการเปลี่ยน
    จากสภาวะหนึ่งไปสู่อีกสภาวะหนึ่งเท่านั้นเอง
    ตัวจิตวิญญาณของเราจะแยกออกจากร่างกาย
    และเคลื่อนเข้าสู่มิติของจิตวิญญาณ

    ถ้าเป็นการตายที่เจ็บปวดสะเทือนขวัญ
    จิตวิญญาณก็จะออกไปจากร่างของเราอย่างรวดเร็ว
    บางทีก็ออกไปก่อนจะสิ้นใจตายด้วยซ้ำ
    ตัวอย่างเช่น คนที่ประสบอุบัติเหตุหรือไฟไหม้
    จิตวิญญาณของเขาอาจจะถูกดึงออกไปจากร่างเสียก่อน
    ที่เขาจะได้รับรู้ความเจ็บปวดมากๆ
    ร่างกายนั้นอาจจะดูเหมือนมีชีวิตอยู่อีกสักพักก็จริง
    แต่วิญญาณได้ออกจากร่างไปสู่สภาวะที่สงบแล้ว

    ตอนที่ตายนั้น เราได้รับสิทธิให้เลือกได้ว่าจะวนเวียนอยู่บนโลกนี้
    เพื่อรอจนกว่าร่างกายจะได้รับการฝัง หรือจะเลือกอย่างฉัน
    ที่จะเคลื่อนต่อไปสู่มิติของจิตวิญญาณในระดับที่เหมาะสมกัน
    กับพัฒนาการของจิตเราในขณะนั้นก็ได้

    ฉันเข้าใจดีว่ามิติของจิตวิญญาณมีหลายระดับตามพัฒนาการของจิต
    และเราก็จะไปที่ระดับขั้นที่เรารู้สึกเหมาะสมคุ้นเคยที่สุดเสมอ
    วิญญาณส่วนใหญ่มักเลือกที่จะวนเวียนอยู่บนโลกเพียงช่วงสั้นๆ
    เพื่อคอยปลอบใจคนที่เขารัก ญาติพี่น้องคนในครอบครัว
    ที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นต่างหากที่กลับเผชิญความโทมนัส
    มากเสียยิ่งกว่าคนที่จากไป บางครั้งวิญญาณจึงเลือก
    ที่จะวนเวียนอยู่นานขึ้นถ้าบุคคลที่รักนั้นจมอยู่ในความท้อแท้
    สิ้นหวัง วิญญาณจะอยู่ต่อเพื่อคอยช่วยเหลือให้
    จิตวิญญาณของบุคคลที่รักนั้นได้รับการเยียวยาจนทุเลาขึ้น


    มีใครบอกฉันด้วยว่าคำสวดภาวนาของคนเรานั้นจะให้ผลดี
    ต่อทั้งวิญญาณผู้จากไปและต่อทั้งพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่
    ไปพร้อมๆกันด้วย หากไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดที่เรา
    เกิดกลัววิญญาณของคนที่จากไป หรือหากเราเชื่อว่า
    วิญญาณเขามีความยุ่งยากในช่วงการเปลี่ยนแปลงสภาวะ
    หรือไม่ต้องการจะจากไป เราก็สามารถสวดขอพรแทนพวกเขา
    เพื่อขอให้เบื้องบนช่วยประทานพรให้แก่วิญญาณเขาก็ได้
     
  10. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    เทวดาผู้นำทางบอกฉันว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่พวกเราควรมีความรู้
    เกี่ยวกับจิตวิญญาณไว้บ้างตั้งแต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
    ยิ่งมีความรู้ทางด้านนี้มากเท่าไรตั้งแต่ยังอยู่บนโลกนี้
    ก็จะทำให้เรายิ่งก้าวไกลและรวดเร็วขึ้นอีกเมื่ออยู่ในโลกของจิตวิญญาณ
    ด้วยความที่วิญญาณบางดวงขาดแคลนความรู้
    หรือไม่มีความเชื่อด้านจิตวิญญาณเอาเสียเลย
    เขาจึงต้องวนเวียนติดอยู่หรือเสมือนกับถูกจองจำ
    อยู่บนโลกของกายหยาบ
    บางคนที่ตายไปอย่างไม่มีพระในหัวใจเลย
    หรือบางคนที่พันธนาการตัวเองอยู่กับโลกนี้เพราะความโลภ
    เพราะกิเลสทางกาย หรือเพราะยังมีสิ่งผูกพันทางโลกที่ต้องทำ ไม่ว่าแบบใดก็ตามก็ล้วนยากที่จะก้าวต่อไป
    และก็จะกลายเป็นวิญญาณสัมภเวสีที่ติดอยู่ในโลก
    พวกนี้มักขาดศรัทธาและขาดพลังที่จะทำให้เอื้อมไปเชื่อมต่อกับ
    พลังงานและแสงทิพย์ที่คอยช่วยดึงไปสู่พระเจ้าอีกต่อหนึ่ง
    ในบางกรณีพวกนี้ถึงขนาดไม่รู้เลยว่า
    พลังงานและแสงทิพย์นั้นมีอยู่จริง
    วิญญาณเหล่านี้จะอยู่บนโลกจนกว่าจะเรียนรู้ที่จะยอมรับได้
    ถึงพลังงานยิ่งใหญ่ซึ่งอยู่รอบๆตัว และเมื่อนั้นพวกเขาจึงจะ
    ยอมปลดปล่อยตัวเองจากโลกมนุษย์

    เมื่อตอนที่ฉันอยู่ในกลุ่มก้อนดำๆก่อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่แสงทิพย์นั้น
    ฉันก็ได้รู้สึกสัมผัสถึงวิญญาณพวกอาลัยอาวรณ์พวกนี้อยู่ด้วย
    ซึ่งเขาจะพำนักอยู่ในกลุ่มก้อนดำๆนั้นนานเท่าไหร่ก็ได้
    ตามที่ต้องการเพื่อซึมซับรับเอาความรักความอบอุ่น
    ซึ่งมีอิทธิพลช่วยเยียวยาจิตวิญญาณ
    แต่ท้ายที่สุดเขาก็จะได้เรียนรู้ที่จะก้าวต่อไป
    เพื่อไปรับความอบอุ่นและความมั่นคงปลอดภัยของพระผู้เป็นเจ้า
    ซึ่งยิ่งใหญ่มหาศาลกว่ามากนัก


    อย่างไรก็ดีในจำนวนความรู้ทั้งหมดที่ฉันได้รับมานี้
    ไม่มีเรื่องไหนจะสำคัญไปกว่าการได้รู้จักพระเยซูคริสต์
    ฉันได้รับทราบว่าพระเยซูคริสต์เป็นประตูเชื่อมให้พวกเราทุกคน
    ได้กลับมาที่นี่ เป็นประตูเดียวเท่านั้นที่เราจะสามารถใช้
    ผ่านกลับมาได้ ไม่ว่าเราจะเรียนรู้ถึงพระเยซูคริสต์ในขณะมีชีวิตอยู่
    หรือขณะที่เป็นวิญญาณไปแล้วก็ตาม
    ที่สุดก็คือเราต้องยอมรับ และรับความรักของพระองค์ให้ได้

    พวกเพื่อนๆทั้งหลายที่ยืนห้อมล้อมฉันอยู่ในสวนนั้น
    ล้วนมีความรักให้ฉันอย่างเต็มเปี่ยม
    เขาตระหนักดีว่าฉันยังไม่อยากกลับมาโลกมนุษย์
    แต่อยากจะได้เห็นอะไรมากกว่านี้
    ดังนั้นด้วยความปรารถนาดีที่จะทำให้ฉันมีความสุข
    พวกเขาจึงพาไปดู เพิ่มเติม มากขึ้นอีก


    จบตอนค่ะ--
     
  11. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    __ขอบคุณ_คุณIsreal..มากๆจ้า..ที่แบ่งปันสิ่งดีๆ(f)(f)(f)
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ อ่านทีไรก็ซาบซึ้งใจทุกทีเลยครับ
    มันไม่มีความรู้สึกแบ่งแยกว่าเป็นศาสนาเขา-ศาสนาเราแต่อย่างใดเลย

    ขอแนะนำให้ทุกๆคนที่กำลังอยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณอ่านกันนะครับ

    .............................................................................
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขยันจริงๆเลยค่ะ คุณ Isreal นับถือ นับถือ...

    ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้เกินบรรยายค่ะ
    ขอบคุณนะคะ คุณ Isreal

    [​IMG]
     
  14. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    ขอน้อมรับคำขอบคุณจากเพื่อนๆด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ
    จริงๆแล้วต้องขอบคุณคุณชยุตมากกว่าที่กรุณาจัดหาต้นฉบับมาให้
    ทำให้เราได้มีโอกาสได้พิมพ์และอ่านไปในตัวด้วย

    พอได้รู้สึกนึกคิดไปตามตัวหนังสือ มันเกิดความรู้สึกเต็มอิ่มจริงๆ

    และรู้สึกว่าอยากจะแบ่งปันกับเพื่อนๆจริงๆ และเรายิ่งให้เราก็ยิ่งได้รับ
    ความรู้สึกที่ได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้เรามี "ที่ยืนเล็กๆ"
    ที่ทำให้เรายังรู้สึกสงบสุขอยู่ได้ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย

    และที่เราดีใจมากๆคือเรา "ได้ทำประโยชน์แก่ผู้อื่น"

    ตามคำแนะนำของหนังสือบ้างแล้วไม่มากก็น้อย

    และขอบคุณเพื่อนๆทุกคนด้วยนะคะ
    ที่ร่วมเดินบนเส้นทางสายนี้ไปด้วยกัน

    ;aa53

    MAY LOVE BE WITH YOU
    ขอความรักจงสถิตย์อยู่กับท่านค่ะ




     
  15. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    หน้า 68 – 70 Many Worlds หลายภพ หลายโลก


    ความทรงจำของฉันถูกดึงกลับไปที่กาลเวลา
    ซึ่งยิ่งนานไกลกว่าที่เคยเป็นมา
    ย้อนกลับไปไกลก่อนยุคสร้างโลกด้วยซ้ำ
    เลยไปถึงตอนที่เป็นนิรันดรของนิรันดร
    ฉันจำได้แล้วว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงสร้างโลกต่างๆ
    ตลอดจนกาแล็กซีหมู่ดาวทั้งหลาย
    และอีกหลายภพหลายภูมิที่ความเข้าใจของเราไม่มีทางไปถึง
    และฉันก็อยากเห็นทั้งหมดนั้น
    พอความปรารถนานี้ขึ้นมา ความคิดก็ให้พลังแก่ฉันทันที
    ทำให้มีดวงจิตคู่ใหม่มาพาฉันลอยออกไปจากสวนนั้น
    ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็ทำหน้าที่เป็นเทวดาผู้นำทางองค์ใหม่ของฉันด้วย

    กายทิพย์ของเราลอยห่างออกไปจากเพื่อนๆที่ในสวน
    และเข้าไปสู่ความมืดมิดของอวกาศ
    เราลอยเร็วขึ้นเรื่อยๆ ฉันรู้สึกเบิกบานใจ
    กับการได้ล่องลอยในครั้งนี้มาก

    จะทำอะไรก็ได้ตามที่อยาก ไปที่ไหนก็ได้ตามที่ใจปรารถนา
    จะลอยอย่างเร็วๆก็เร็วได้อย่างเหลือเชื่อหรือจะลอยช้าๆก็ได้
    ฉันรักความอิสระเสรีนี้จริงๆ
    ฉันลอยเข้าสู่อวกาศอันกว้างใหญ่ไพศาล

    และรู้ว่าอวกาศนั้นไม่ใช่ความว่างเปล่าหรอกนะ
    ที่แท้กลับเต็มไปด้วยความรักและแสงสว่าง
    ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของพระจิตของพระเป็นเจ้า
    ที่เราสามารถสัมผัสรับรู้ได้

    ฉันได้ยินเสียงนุ่มนวลไพเราะ
    ซึ่งถึงจะแผ่วเบาเหมือนอยู่ห่างๆ
    แต่ก็อ่อนโยนจนฉันรู้สึกเป็นสุข
    เสียงนั้นมีระดับเสียงเดียว
    คล้ายๆเสียงโน้ตดนตรีตัวหนึ่ง
    แต่เป็นเสียงของจักรวาล
    และเหมือนว่าซึมแทรกอยู่ในอวกาศรอบตัวฉันเลย
    แล้วก็ยังมีอีกเสียงตามติดมาด้วย
    แต่เป็นระดับเสียงที่ต่างกัน

    อีกไม่นานฉันจึงสังเกตว่า
    มีเสียงอื่นๆคล้ายๆกับทำนองขับลำนำ

    เป็นเพลงแห่งจักรวาลอันไพศาล
    ที่คอยปลอบโยนทำให้ฉันรู้สึกสบาย

    ระดับเสียงต่างๆนั้นก่อให้เกิด
    แรงสั่นสะเทือนเบาๆขึ้นเป็นระลอก

    และเมื่อมากระทบฉันเบาๆ
    ฉันรู้ทันทีว่าระลอกความสั่นสะเทือน

    ของเสียงบางเสียงมีพลังในการรักษาเยียวยาอยู่ในตัวเอง
    ฉันรู้ว่าอะไรก็ตามที่ถูกสัมผัสด้วยเสียงนั้น
    ย่อมได้รับการรักษาเยียวยาไปในตัว
    เหมือนเป็นยาชโลมรักษาจิตวิญญาณ
    เป็นเสียงของความรักที่นำมาซ่อมแซมวิญญาณที่แตกสลาย

    แต่ 2 ผู้นำทางที่ไปด้วยนั้นบอกว่า
    ไม่ใช่ระดับเสียงทุกเสียง

    ที่จะมีคุณสมบัติสำหรับเยียวยาได้เสมอไป
    บางเสียงกลับก่อให้เกิดความปั่นป่วนทางอารมณ์
    ที่ไม่ดีขึ้นภายในตัวเราก็ได้
    ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าขณะที่ฉันมีชีวิตอยู่บนโลกนั้น
    ซาตานมารร้ายได้ใช้เสียงชนิดไม่ดีนี้เองใส่ไว้ในดนตรี
    ที่ทำให้ฉันเกิดป่วยเจ็บทั้งทางจิตใจและทางกาย
     
  16. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    รายละเอียดของสิ่งที่ฉันได้ไปประสบพบเห็นต่อจากตรงนั้น
    บางส่วนได้ถูกลบออกไปจากความทรงจำของฉัน
    แต่ก็ยังเหลือเป็นความประทับใจหลายอย่าง

    ฉันรู้สึกว่าได้ไปเที่ยวชมสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างสรรค์ไว้มากมาย
    จนราวกับว่าใช้เวลาเป็นอาทิตย์ๆหรือเป็นเดือนๆด้วยซ้ำ
    ขณะที่เดินทางอยู่นั้นฉันรู้สึกได้ตลอดว่ายังอยู่ใน
    ความรักความเมตตาของพระเจ้า
    ฉันรู้สึกเหมือนว่าได้ “กลับ” มาอยู่ที่บ้านเกิด
    และก็ได้ทำอะไรได้อย่างเป็นธรรมชาติของตัวเอง
    จริงๆฉันได้เดินทางไปในอีกหลายๆภพภูมิทั้งในโลก
    ที่เหมือนโลกมนุษย์แต่สวยงามกว่าและเพียบพร้อมไปด้วย
    คนที่มีเมตตาและสติปัญญาสูง

    ราทุกคนล้วนเป็นลูกๆของพระเจ้า
    และพระองค์ก็ทรงอยู่ในทุกอณูของอวกาศที่ใหญ่มหึมานี้
    ให้พวกเราไม่รู้สึกว่างเปล่า
    ฉันเดินทางไปไกลสุดคณานับ
    และรู้ว่าดวงดาวทั้งหลายที่ฉันเห็นนั้นไม่ได้อยู่ในวิสัย
    ที่จะมองเห็นได้จากโลกมนุษย์


    พอฉันเห็นกาแล็กซีหมู่ดาวต่างๆปุ๊บ
    ก็สามารถไปถึงได้อย่างง่ายดายด้วยความเร็วเกือบจะในทันที
    ได้ไปเยี่ยมชมดินแดนและพบกับชาวโลกอื่น
    ซึ่งล้วนก็เป็นลูกของพระเจ้าเช่นเดียวกับเราทั้งนั้น
    พวกเขาทั้งหมดก็เป็นพี่หรือน้องของเราในทางจิตวิญญาณ
    ทั้งหมดที่ไปพบเห็นนี้ก็เป็นการย้อนรำลึกถึงอดีต
    หรือเรียกว่าเป็นการกลับตื่นอีกครั้ง

    ฉันรู้ดีว่าได้เคยไปในสถานที่เหล่านั้นมาก่อนแล้ว


    ต่อมาอีกนาน เมื่อฉันกลับมาสู่ชีวิตในกายเนื้อแล้ว
    เวลาที่ฉันจำรายละเอียดต่างๆของประสบการณ์เหล่านี้ไม่ได้
    ฉันเคยรู้สึกเหมือนกันว่าถูกโกง
    แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักถึงได้รู้ว่าการลืมนี้เป็นสิ่งที่จำเป็น
    เพื่อประโยชน์ของตัวฉันเอง
    ถ้าฉันยังจำความงดงามและโลกที่สมบูรณ์แบบ
    อย่างที่ไปได้เห็นมานั้นแล้วละก็
    ฉันคงต้องมีชีวิตที่เหลืออยู่อย่างอึดอัดคับใจ
    ไม่มีความสุขไปตลอด
    ซึ่งจะบั่นทอนการปฏิบัติภารกิจที่พระเจ้ามอบหมาย
    ให้มาทำในชีวิตนี้

    ความรู้สึกถูกโกงนี้จึงแปรเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกยำเกรง
    และสำนึกในบุญคุณอย่างลึกซึ้งที่ได้ไปมีประสบการณ์เช่นนั้น
    พระเจ้าทรงไม่ต้องให้ฉันได้เห็นถึงภพภูมิอื่นๆก็ได้
    และก็ไม่ต้องให้ฉันจำอะไรเกี่ยวกับพระองค์ไว้เลยก็ได้
    แต่ด้วยพระกรุณา พระองค์จึงทรงได้ให้ฉันมากมาย
    ฉันได้ไปเห็นภพภูมิอื่นๆซึ่งกล้องโทรทัศน์ใดๆ
    ที่ทรงพลังที่สุดในโลกของเรานี้ก็ไม่มีทางจะส่องไปเห็นได้
    และได้รู้ว่า ณ ที่นั้นมีความรักความเมตตาที่แท้จริงสถิตอยู่


    จบตอนค่ะ--
     
  17. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    หน้า 71 – 77 Selection a Body เลือกร่างมาเกิด


    ฉันได้กลับไปที่สวนสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง
    และก็พบกับเหล่าพี่เลี้ยงที่พาฉันเที่ยวตั้งแต่ตอนแรกๆด้วย
    ฉันได้ไปเห็นว่าในภพภูมิอื่นๆที่ไปเยี่ยมมานั้น
    ผู้คนเขาต่างกำลังพัฒนาก้าวหน้าทางจิตวิญญาณขึ้น
    ในวิถีทางที่จะกลับไปสู่สภาวะเดียวกัน
    เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระบิดาเจ้า
    จึงเกิดอยากรู้อยากเห็นถึงพัฒนาการของพวกเรา
    บนโลกมนุษย์ขึ้นมาบ้างสิ

    เราเติบโตขึ้นมากันอย่างไรนะ

    พวกพี่เลี้ยงชอบใจที่ฉันถามอย่างนั้น
    จึงได้พาฉันไปยังสถานที่ซึ่งดวงวิญญาณทั้งหลาย
    มาเตรียมตัวกันสำหรับการกลับมาเกิดในโลกมนุษย์
    วิญญาณพวกนั้นเป็นผู้ใหญ่ทั้งสิ้น
    จะว่าไปตลอดทั้งประสบการณ์ที่ฉันพบมาทั้งหมดนี้
    ก็ไม่เคยเห็นวิญญาณเด็กๆเลยสักครั้ง
    ฉันได้เห็นถึงความใจจดจ่อของดวงวิญญาณเหล่านี้
    ที่รอจะได้กลับมาเกิด
    พวกเขามองว่า
    การมาใช้ชีวิตในโลกมนุษย์นี้
    ก็เหมือนมาเข้าโรงเรียนที่จะได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากมาย
    เพื่อจะได้พัฒนาคุณสมบัติบางอย่างที่เขายังขาดอยู่

    มีใครบอกฉันด้วยว่าพวกเราทุกคนนั้นล้วนเป็น
    ผู้ตั้งความปรารถนา เองที่จะมาเกิดเป็นมนุษย์
    และก็เรานั่นแหละที่เป็นผู้เลือกว่าตัวเองจะมีจุดอ่อนด้วยใดบ้าง
    เพื่อมาเรียนรู้และก็เลือกที่จะมาพบเหตุการณ์ทุกข์ยากอย่างไรบ้าง
    ในชีวิตเพื่อให้ได้เติบโตพัฒนาขึ้นอีก
    ฉันยังได้เข้าใจอีกด้วยว่าบางครั้งจุดอ่อนด้อยที่เรามีนั้น
    ก็จะเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเองในเวลาต่อมา
    นอกจากนี้พระเจ้าก็ทรงประทานพรสวรรค์
    และความสามารถพิเศษมาด้วยตามที่สมควร
    เราไม่ควรเลยที่จะมาเปรียบเทียบความสามารถ
    หรือข้อด้อยของตัวเราเองกับคนอื่นๆ
    คนเราแต่ละคนก็ได้มีสิ่งที่จำเป็นแล้วสำหรับตัวเอง
    ทุกคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตน
    จิตวิญญาณไม่จำเป็นต้องมีข้อด้อย
    หรือพรสวรรค์เท่าเทียมกันไปหมด
     
  18. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    พื้นที่ตรงหน้าและข้างล่างฉันนั้นเกิดม้วนตัวออกจากกัน
    เป็นช่องเหมือนเป็นหน้าต่างที่กำลังเปิดออก
    และเผยให้ฉันได้เห็นโลกเรา
    เห็นทั้งโลกที่เป็นวัตถุและ
    โลกที่เป็นพลังงานวิญญาณไปพร้อมกัน
    และยังเห็นว่าวิญญาณที่มีธรรมะสูงส่งบางดวง
    ซึ่งก็เป็นลูกของพระเจ้า
    บนสวรรค์เช่นกัน
    ก็ไม่เลือกที่จะมาเกิดแต่เลือกที่จะคงสภาพ

    เป็นจิตวิญญาณอยู่กับพระเจ้า
    และทำหน้าที่เป็นเทพผู้พิทักษ์

    คอยปกปักรักษามนุษย์ในโลก

    ฉันยังเข้าใจด้วยว่ามีเทพอีกหลายประเภท
    รวมทั้งประเภทที่เรียกว่า “เทพแห่งสงคราม”
    ซึ่งวัตถุประสงค์ของการทำหน้าที่ก็คือ
    เพื่อต่อสู้กับซาตานมารร้าย

    และเหล่าบริวารแทนพวกเรา

    ถึงแม้ว่าเราแต่ละคนก็มีดวงจิตวิญญาณผู้คอยคุ้มครอง
    หรือมีเทพผู้พิทักษ์ประจำตัวกันอยู่แล้วก็ตาม
    แต่ก็มีหลายๆครั้งที่จำเป็นต้องได้เหล่าเทพแห่งสงคราม
    เข้ามาช่วยปกป้องด้วย
    และเทพเหล่านั้นก็พร้อมเสมอที่จะมาช่วยอยู่แล้ว
    เพียงแค่เราอธิษฐานเท่านั้น

    เทพประเภทนี้จะมีร่างใหญ่โตกำยำล่ำสันมาก
    แต่สีหน้าบ่งบอกถึงการุณยธรรมอย่างล้นเหลือ
    เป็นดวงจิตที่สูงส่งยิ่งนัก
    เพียงแค่มองเห็นฉันก็รู้ว่าเป็นการเปล่าประโยชน์แท้
    ที่ใครจะคิดไปต่อกรด้วย
    การแต่งกายของท่านเป็นแบบนักรบจริงๆ
    มีศิราภรณ์และเสื้อเกราะ
    การเคลื่อนไหวว่องไวกว่าเทพยดาอื่นๆ
    แต่สิ่งที่ทำให้ท่านดูโดดเด่นชัดเจนยิ่งกว่า
    อะไรทั้งหมดก็คงเป็นเพราะรัศมีแห่งความมั่นใจ

    ที่เปล่งออกมาโดยรอบนั่นเอง

    ท่านมีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมในความสามารถของตัวเอง
    สิ่งชั่วร้ายใดๆก็ไม่ทำให้หวาดหวั่นได้เลยและท่านก็รู้แก่ใจดี
    ทันใดนั้นท่านต่างรีบออกไปเพื่อปฏิบัติภารกิจบางอย่าง
    (ซึ่งฉันก็ไม่ทราบว่าคืออะไร)
    ฉันเกิดความซาบซึ้งในความเอื้ออาทร
    ที่ปรากฏอยู่ในสีหน้าท่าทาง
    ท่านเข้าใจดีว่าภารกิจนี้มีความสำคัญเพียงใด
    ท่านรู้ และฉันก็รู้เช่นกัน ว่าท่านจะยังไม่กลับมา
    จนกว่าภารกิจนี้จะสำเร็จลุล่วงด้วยดี

    ซาตานมารร้ายปรารถนาอย่างยิ่งที่จะได้เราไปเป็นพวก
    และบางครั้งถ้าซาตานมุ่งเป้ามาที่พวกเราคนใดก็ตาม
    คนคนนั้นก็จำเป็นจะต้องได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ
    ที่จริงแล้วพวกเราทุกคนก็ได้รับการปกปักรักษา
    อยู่ในตัวเองอยู่แล้วด้วยความเป็นจริงที่ว่า
    ซาตานไม่สามารถอ่านความคิดของเราได้
    แต่อย่างไรก็ตามซาตานสามารถจะอ่านความรู้สึก
    จากสีหน้าท่าทางของเราแทนได้
    ซึ่งก็เกือบจะเท่ากับอ่านความคิดของเราอยู่ดี

    รังสีออร่าที่เป็นพลังงานรอบตัวเราหรือสีหน้าของเรา

    เป็นเครื่องฉายให้รู้ไปถึงความรู้สึกและอารมณ์
    ที่อยู่ในจิตวิญญาณของเรา
    พระเจ้าทรงเห็น เทพยดาก็เห็น
    และซาตานมารร้ายก็เห็นได้ด้วย
    แม้แต่มนุษย์คนใดที่รับความรู้สึกได้ไวๆ
    ก็ยังสามารถเห็นได้เช่นกัน
    เราคุ้มกันตัวเราเองได้โดยการควบคุมความคิดของเรา
    และเปิดตัวเองให้รับปัญญาแห่งพระคริสต์
    (หรือพุทธปัญญา – ผู้แปล)
    มาสู่ชีวิตเราเต็มที่ เมื่อเราทำเช่นนั้นแสงแห่งปัญญา
    ก็จะเปล่งปลั่งไปจนทั่วตัวและฉายออกมาให้เห็นได้จริงๆ
    ในสีหน้าและรังสีออร่ารอบๆตัวเรา
     
  19. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    พอฉันเข้าใจเรื่องนี้แล้ว
    ฉันก็ได้กลับไปเห็นถึงกลุ่มดวงวิญญาณที่กำลังรอจะมาเกิด
    วิญญาณบางดวงกำลังลอยตัวอยู่เหนือคนที่มีชีวิต
    ฉันเห็นวิญญาณผู้ชายดวงหนึ่งกำลังพยายามจับคู่
    ให้มนุษย์ชายและหญิงคู่หนึ่งที่บนโลก
    ซึ่งก็คือพ่อแม่ในอนาคตของเขานั่นเอง
    เรียกว่ากำลังเล่นบทกามเทพ
    และก็กำลังประสบความยุ่งยากอยู่พอควร

    ดูเหมือนทั้งชายและหญิงคู่นั้นต้องการจะไปคนละทาง
    และด้วยความไม่รู้ตัวเลยกลายเป็นไม่ให้ความร่วมมือ
    วิญญาณชายดวงนี้จึงกำลังจัดการสอน
    คอยกระซิบบอกบท และพยายามชักจูง
    ให้คนทั้งคู่มาพบกัน
    วิญญาณดวงอื่นๆก็เลยพลอยเป็นห่วงไปด้วย
    เมื่อเห็นว่าชักเริ่มยุ่งยาก จึงระดมกำลังมาช่วยด้วย
    โดยวิญญาณหลายๆดวงก็พยายามจะ “ต้อน”
    ให้สองหนุ่มสาวมาลงเอยกันให้ได้


    พี่เลี้ยงของฉันบอกว่าในโลกของจิตวิญญาณนั้น
    เราจะมีวิญญาณบางดวงที่ผูกพันกันมาฉันท์พี่น้อง
    ซึ่งเราจะรู้สึกสนิทสนมใกล้ชิดเป็นพิเศษ
    เราจึงตกลงกันกับวิญญาณเหล่านี้
    ให้ไปเกิดเป็นครอบครัวเดียวกัน
    หรือเป็นเพื่อนกันในโลกมนุษย์ด้วย
    ความผูกพันทางจิตวิญญาณนั้น
    เป็นผลมาจากความรักที่เรามีต่อกัน
    ซึ่งค่อยๆพัฒนามาตลอดเวลา
    ที่อยู่ด้วยกันนานนับนิรันดรกาล

    ก่อนมาเกิดนั้นเราได้เลือกให้วิญญาณบางดวง
    ที่สนิทมาเกิดพร้อมกันอีกในโลกนี้
    เพราะว่ามีงานที่ต้องมาทำด้วยกัน
    บ้างก็ต้องการมารวมตัวกันโดยมีจุดมุ่งหมาย
    เพื่อการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างให้กับโลก
    ซึ่งเราจะสามารถบรรลุจุดประสงค์ได้ดี
    ถ้ามีสถานการณ์บางอย่างมาประกอบด้วย
    โดยที่พ่อแม่หรือคนอื่นที่เราเลือกสรรมาแล้ว
    จะเป็นผู้ก่อให้เกิดสถานการณ์นั้นขึ้น
    ส่วนพวกเราบางคนก็ต้องการเกิดมา
    เพื่อจะเสริมวิถีทางของโลกที่มีอยู่แล้ว
    ให้แข็งแรงขึ้นและปูทางใหม่ๆเพิ่มบ้าง
    สำหรับคนอื่นๆที่จะตามมาทีหลัง
    เราเข้าใจดีว่าเราต่างก็จะมีอิทธิพล
    ต่อกันและกันในชาตินี้
    รวมทั้งรู้แล้วว่าจะได้รับถ่ายทอดคุณสมบัติ
    ทั้งด้านสรีระและพฤติกรรมต่างๆมาทางครอบครัว
    เรารู้ถึงลักษณะทางพันธุกรรมที่กายเนื้อจะได้รับมา
    และรู้ถึงว่ารูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ
    จะมีลักษณะเฉพาะเป็นอย่างไรบ้าง
    ทุกอย่างเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องการให้เป็น
    และจำเป็นจะต้องให้เป็นอย่างนั้นเสียด้วย
     
  20. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    เราเข้าใจดีว่าความทรงจำต่างๆ
    จะถูกบรรจุเอาไว้ในเซลล์ต่างๆที่จะเป็นร่างกายใหม่ของเรา
    ซึ่งแนวคิดนี้เป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับฉัน
    ฉันมารู้ว่าทุกความคิดและประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาในชีวิต
    ได้ถูกบันทึกไว้ในจิตใต้สำนึกของเราแล้ว
    อีกทั้งบันทึกไว้ทุกๆเซลล์ของเราด้วย
    ดังนั้นในแต่ละเซลล์ไม่เพียงแต่มีลักษณะ
    ทางพันธุกรรมประทับอยู่เท่านั้น
    ยังจารึกถึงทุกๆประสบการณ์ที่เคยผ่านเข้ามา

    ต่อจากนั้นฉันยังเข้าใจด้วยว่า
    ความทรงจำทั้งหลายเหล่านี้
    ก็จะถ่ายทอดต่อไปสู่ลูกๆหลานๆ
    โดยผ่านทางรหัสพันธุกรรม
    ความทรงจำที่ส่งต่อมาอย่างนี้นี่เองจึงอธิบายที่มา
    ของลักษณะบางอย่างในครอบครัวที่ถูกสืบทอดต่อๆกันมา
    เช่น แนวโน้มที่ชอบคิดอะไรง่าย ความกลัว ความเข้มแข็ง
    และอื่นๆอีกมากมาย

    ฉันยังเรียนรู้ด้วยว่าในโลกนี้เราไม่ได้มีชีวิตหลายภพซ้อนกันอยู่
    เวลาที่คล้ายกับว่าเรา “ระลึก” อดีตชาติได้นั้น
    แท้จริงก็คือเรากำลังดึงความทรงจำที่บรรจุอยู่ในเซลล์เหล่านี้
    ขึ้นมาต่างหาก


    ฉันเห็นว่าก่อนมาเกิดนั้นพวกเราต่างก็เข้าใจกันดี
    ถึงความท้าทายต่างๆที่จะมาประสบจากการมีกายเนื้อ
    ที่สลับซับซ้อนอย่างมาก
    แต่เราก็มั่นใจที่จะยอมรับสภาพ
    ของความซับซ้อนท้าทายเหล่านี้

    เราก็ได้รับคุณสมบัติทางจิตวิญญาณหรือธรรมะต่างๆ
    ติดตัวมาด้วยเท่าที่เราจำเป็นจะต้องใช้
    เพื่อบรรลุภารกิจของเรา
    ซึ่งคุณสมบัติหลายๆประการก็เป็นการออกแบบมาเป็นพิเศษ
    สำหรับความจำเป็นของเรา พ่อแม่ของเราก็มีความเข้าใจ
    ด้านธรรมะในแบบของท่าน ซึ่งบางอย่างก็อาจถ่ายทอดมาถึงเรา
    และเราก็คอยดูว่าท่านใช้หลักเหล่านั้นอย่างไร
    ระหว่างที่เราโตขึ้นก็อาจได้รับหลักธรรมะอื่นๆเพิ่มเติมขึ้นด้วย
    จนถึงขณะนี้เราก็มีหลักความเข้าใจธรรมะในแบบของเราเอง
    โดยเฉพาะ ซึ่งเราก็สามารถเลือกได้ว่าจะเรียนรู้ต่อไป
    ว่าจะใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไรหรือว่าจะเลือกไม่ใช้เลยก็ได้
    ไม่ว่าเราจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตามเราก็ยังจะได้รับหลักธรรมะใหม่ๆ
    ได้อีกเรื่อยๆ เพื่อให้เราได้ใช้คลี่คลายสถานการณ์
    ทั้งเก่าและใหม่ของตัวเอง ทางเลือกมีให้เราตลอดเวลา

    ฉันได้เห็นว่าเรามีหลักธรรมะที่พอเหมาะกับตัวเอง
    ไว้คอยช่วยอยู่เสมอ แม้ว่าเราอาจจะไม่ทันนึกถึง
    หรือไม่คิดว่าใช้เป็นก็ตาม เราจึงต้องหันกลับมา
    มองเข้าไปในตัวเอง จำเป็นต้องเชื่อใจ
    ในความสามารถที่เรามีอยู่
    หลักธรรมะข้อที่เหมาะสมกับเรารอเราอยู่ข้างในเสมอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...