ประมวลภาพและเหตุการณ์ "แก๊งค์เด็กอิสานและเด็กใต้" ถล่มบ้านยายผีป่า และไปวัดท่าซุง

ไม่แน่ๆ..

โหะๆ

 

อันนี้เป็น
..
...
วิหารพระวิสุทธิเทพ ครับ..

บริเวณรอบๆ จะมี..พระเจ้าพรหมมหาราช...สมเด็จเตี่ย(กรมหลวงชุมพรอุดมศักดิ์) ..พระยาโกษาธิบดี

 

พระเจ้าพรหมมหาราช





ถ้าจำไม่ผิดนี่ เป็น พระยาโกษาธิบดีเหล็ก(พี่ยีนบอกให้มาแก้ให้ถูกเมื่อกี้)





พี่ยีนกับพระเจ้าพรหมมหาราช

 

หลังจากนั้น

พวกเราก็ตรงดิ่งมาที่......มณฑปพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ...ซึ่งเป็นเวลา 9.00 น. พอดี ..เป็นเวลาเปิดพอดี

...แต่ก่อนจะเข้าไปข้างใน พวกเราก็ทำความสะอาดก่อนเล็กน้อยครับ

 

กวาดเสร็จแล้ว

..พวกเราก็เข้าไปข้างใน ได้ถวายธูปเทียนแพ(เจ้าหน้าที่เขาเตรียมไว้ให้)..และก็ถวายเครื่องสักการะบูชาองค์ปฐม 500 บาท (รวมเงินกันครับ) .. ท่านมารับเองเลย... กระแสบารมีท่านแรงมาก..แค่มองก็สัมผัสได้ว่าแรงครับ

...ตอนถวายเครื่องสักการะบูชา จะมีคำสวด เจ้าหน้าที่เขาจะเปิดเทป(หรือซีดีนี่แหละ)ให้เราสวดตาม สุดท้ายหลวงพ่อจะให้พรว่า รวย รวย นะลูกนะ รวย รวยจ๊ะ .. รวย รวย กันทุกคนนะ (ประมาณนี้นะผมจำไม่ได้ทุกคำ) .. ปีติมากเลย หลวงพ่อเมตตาจริงๆ ... เพื่อนผมบางคนที่ไปท่าซุงงวดที่สองกะผม มันบอกว่าอยากร้องไห้..ดีใจมาก

 

และก็มาที่

มณฑปพระศรีอาริย์

..............................................................................................

ประวัติการสร้าง พระศรีอาริยเมตไตรย :-

...พระพุทธบัญชา

....." ทีนี้จะมาพูดกันถึงด้านอานิสงส์ต่าง ๆ ที่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายทำ เฉพาะอย่างยิ่งกรรมบถ 10 กับศีล 5 พระศรีอารย์ ท่านเคยสั่งไว้ว่าเมื่อ วันที่ 16 มีนาคม 2535 วันนั้นตอนกลางคืนมันจะตาย... ล้างท้อง ! ตามธรรมดา "ล้างท้อง" ไม่มีอาการอย่างอื่นมาแทรก มันก็สบายนอนหลับ แต่วันนั้นแปลก พระออกไปหมด คนออกไปหมด เหลือคนเดียว !
.....เวลาประมาณทุ่มครึ่ง มีอาการเสียด ปวดท้องอย่างมาก อากาศก็ร้อนจัดมันก็บังคับให้ไปถ่าย...ไปเข้าส้วม เข้าก็ออกนิดหน่อย กลับมาอีกมันก็ปวดท้องอีก...ปวดมวนอีก. ! เดินอย่างนี้เกือบ 10 เที่ยว เดินก็เดินจะไม่ไหว
.....พอถึงเวลาสองทุ่มเศษ ก็มีความคิดในใจว่า ขึ้นชื่อว่าขันธ์ 5 มันมีความทุกข์อย่างนี้ เราอย่าสนใจอะไรกับขันธ์ 5 ในเมื่อขันธ์ 5 มันจะป่วย..ก็เชิญมันป่วย ขันธ์ 5 มันจะตาย...ก็เชิญมันตาย การป่วยการตายนี้...ใครช่วยไม่ได้ ใครจะแบ่งเบาภาระไม่ได้ จึงตัดสินใจเอนกายลงนอน....นอนแล้วใจนึกถึงพระ....ภาวนาตามปกติ...จิตจับ "นิพพาน" เป็นอารมณ์
.....หลังจากนั้นเมื่อไหว้พระเสร็๗ ก็ออกจากร่างกาย...ขอบคุณเทวดาที่ท่านอารักขา มีเทวดา นางฟ้า...มากท่านมายืนอารักขาใกล้ ๆ ขอบคุณท่านแล้วก็ไปที่ เทวสภา ที่นั่นมีเทวดามีพรหมประชุมกันเต็มหมด เมื่อไปคุยกับท่นาขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือในงานต่าง ๆ แล้วหลังจากนั้นก็ไปนิพพาน ไปเฝ้าองค์สมเด็จพระประทีปแก้วคือ "องค์ปัจจุบัน"
.....เมื่อไหว้ท่านแล้ว ท่านแนะนำรีบไปหา "องค์ปฐม" ประเดี๋ยวท่านจะมาที่วิมานของเธอ ไปวิมานของท่านก่อน ก็ไปวิมานของท่านก่อน แล้วไปถึงแล้วไหว้ท่านเสร็จ ท่านบอกไปวิมานของเธอ เพราะว่าพระพุทธเจ้าทุกองค์มาพร้อมที่นั่น แล้วก็กลับมาที่วิมาน
.....พอมาถึงวิมานเห็นพระพุทธเจ้าเต็มไปหมด ไม่รู้ว่ากี่แสนองค์ ท่านใหญ่สูงสวยงามมาก พระพุทธเจ้าสวยงามเหมือน ๆ กัน ความจริงตอนเย็นตอนก่อนที่จะป่วยก็มีความรู้สึกว่า เมื่อวานนี้ (15 มีนาคม 2535) เราหล่อ สมเด็จองค์ปฐม แล้ว ภารกิจยิ่งใหญ่ของเราใกล้จะหมด วิหารก็ใกล้จะเสร็จเหลือแต่เครื่องประดับและต่อไปก็ทางเดิน 100 ไร่ ก็ใกล้จะเสร็จ เข้าใจว่าว่าอย่างช้าอีก 4 ปีก็เสร็จ เราก็หมดภาระในการงาน เมื่อหมดภาระในการงาน เรื่องกังวลต่าง ๆ ก็ไม่มี
.....ความจริงถึงแม้จะมีงานก็ไม่มีกังวล ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหาเงินได้ก็ทำงานสร้างต่อไป หาเงินไม่ได้ก็เลิก มันจะไปค้างแค่ไหนก็ช่างมัน ก็ถือว่าไม่ใช่ภาระที่เราต้องเข้าไปผูกพัน ความรู้สึกตอนนี้มีอยู่ใกล้ ๆ จะภาวนา พอเข้าไปถึงวิมานแล้ว สมเด็จองค์ปฐม ทรงตรัสว่า "เธอคิดหรือว่างานที่เธอจะทำมันใกล้จะเสร็จ" ก็บอกว่า "มันน้อยแล้วครับ ช่างก็น้อยลง และงานก็เหลือน้อย" ท่านบอก "ยังไม่เสร็จ ! ฉันมีความต้องการให้หล่อ พระศรีอาริย์ " ถามว่า "หล่อทำไม?" ท่านก็เลยบอกว่า
....."ต้องหล่อ...เพราะเงินที่เขาทำบุญหล่อฉันมันเหลือ เวลานี้ยังมีญาติโยมส่งเงินมาอีก...หล่อองค์ปฐม" ท่านจึงสั่งให้สร้างมณฑปพระศรีอาริย์ ขึ้นในสถานที่ใกล้ ๆ มณฑปของท่าน ทำแบบเดียวกับ มณฑปหลวงพ่อปาน ท่านบอกว่า
....."ที่ตรงนั้น...ฉันดลใจเธอไม่ให้ปลูกต้นไม้ ฉันต้องการให้สร้าง มณฑปพระศรีอาริยเมตไตรย เพราะคนจำนวนมากที่มีบารมียังไม่เข้มข้น และคนจำนวนแสนที่ติดตามพระศรีอาริย์ ต้องการเป็นสาวกของท่าน ก็มาเกิดสมัยนี้เป็นแสน ทั้งพระศรีอาริย์ก็ฝากเธอไว้ว่า ให้ช่วยแนะนำให้เข้าใจตามเกณฑ์ ที่เขาเหล่านั้นจะเกิดทันท่าน" เลยถามว่าจะหล่อพระศรีอาริย์เป็นอย่างไร?
.....ท่านก็เรียกพระศรีอาริย์มา...พระศรีอาริย์ก็มา ในเมื่อพระศรีอาริย์มาแล้ว ก็ถามท่านว่าจะให้หล่อแบบไหน? แต่ความจริง พระศรีอาริย์สีสดสวยมาก เครื่องประดับแพรวพราวและสว่างเป็นพิเศษ...สวยจัด ! สีหลายสี..เครื่องประดับ แต่ว่าเวลาจะหล่อจริง ๆ ท่านยืนให้ดู


...รูปลักษณะที่จะหล่อ

.....ท่านบอก..หล่อเป็นรูปยืนครับ และเครื่องประดับทั้งหมดไม่ต้องการให้มีสี ต้องการเป็นแก้วใสอย่างเดียว ส่วนที่เป็นเนื้อให้เป็นเนื้อ...เนื้อของท่านก็เป็นเนื้อสีขาว จึงถามว่า
....."ถ้าจะเอาแก้วปิดก็เหมือนเครื่องประดับที่กางเกงจะทำอย่างไร?" ท่านบอก "ปิดทองก็ได้ ปิดแผ่นเงินก็ได้"
.....ถ้าปิดแผ่นเงินจะคล้ายคลึงเนื้อของท่นา ส่วนที่เป็นเครื่องแต่งกาย ให้ใช้กระจกเงาใส ท่านแสดงให้ดูท่ายืน มือขวาถือ "จักร" แต่ห้อยเฉยๆ ๆ มือซ้ายถือ "พระขรรค์" ก็ถามว่า "มีจักรมีพระขรรค์ทำไม?" ท่านบอก "ผมห้อยเฉย ๆ ไม่ใช่ท่าของนักรบ"
..... "จักร" ก็หมายถึง "ธรรมจักร" ก็หมายความว่า หากคนใดที่มีกิเลสหนามาก มีทิฏฐิมานะหนามาก ก็ต้องใช้จักรปราบปราม คือ "ธรรมจักร" คนใดที่มีกิเลสน้อยก็ให้ใช้ "พระขรรค์" เคาะหรือให้ถู หรือขูดก็หาย อย่างเทศน์พระสูตรก็ดี หรือชาดกก็ดี เลยถามว่า "จะให้หล่อเป็นพระหรือเป็นเทวดา?"
.....ท่านบอกว่า "เวลานี้ผมเป็นเทวดา..ให้หล่อเป็นรูปเทวดา อย่างเพิ่งหล่อเป็นรูปพระ" (เป็นอันยืนยันได้ว่า ขณะนี้ท่านยังเป็นเทวดา ยังมิได้จุติลงมาอย่างที่บางคนเข้าใจ ขอให้ระวังอุปาทาน) ก็ถามท่นาว่า "ถ้าคนต้องการไปเกิดในสมัยของท่านา จะต้องทำบุญอะไรไว้? " ท่านบอกว่า "คนของผม...ผมฝากท่านไว้แล้วนะ ให้แนะนำด้วย มีหลายแสนคน..คนที่จะเกิดในสมัยของผม"



...คำสอนพระศรีอาริย์

.....ถามว่า "แนะนำแล้วทุกอย่าง แต่ว่าไม่รู้ข้อเจาะจง ให้เจาะจงไปว่าทำบุญอย่างไร...จึงจะทันศาสนาพระศรีอาริย์?"
.....(นี่..สำหรับคนมี "บารมีอ่อน" นะ คนมี "บารมีเข้ม" ให้ตั้งใจไปนิพพานชาตินี้ ถ้าคน "บารมีอ่อน" ตั้งใจไปนิพพานชาติพระศรีอาริย์ หรือวางแผนไว้ 2 อย่างก็ได้ว่า ตั้งใจไปนิพพานชาตินี้ ถ้าพลาดชาตินี้ ขอให้ได้นิพพานสมัยพระศรีอาริย์ก็ได้)
.....ท่านบอกว่า "ให้ทุกคนที่ต้องการเกิดทันสมัยผม ให้รักษาศีล 5 เป็นปกติ รักษา กรรมบท 10 เป็นปกติทุกวัน ไม่คลาดเคลื่อนอย่างนี้เป็น อุคฏิตัญญู ไปเกิดในสมัยผมฟังเทศน์แค่หัวข้อเล็ก ๆ สั้น ๆ ก็บรรลุมรรคผลทันที
.....ถ้าบางท่นปฏิบัติอ่อนกว่านั้น รักษาได้ กรรมบท 10 เหมือนกัน ศีล 5 ก็ครบ แต่ว่าบางทีก็มีอาการเผลอเล็กน้อย อย่างนี้เป็น วิปจิตัญญู หมายความว่าไปเกิดสมัยผมเทศน์หัวข้อฟังไม่เข้าใจต้องอธิบายเล็กน้อยจึงบรรลุอรหันต์
.....บางท่านที่มีบารมีอ่อนกว่านั้น วันธรรมดา ๆ อาจจะบกพร่องบ้างเป็นของธรรมดา แต่สำหรับวันพระต้องรักษาให้ครบถ้วนทั้ง ศีล 5 และ กรรมบท 10 หมายความตามธรรมดา คนเรามีอาชีพต่างกัน บางคนปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร ก็ต้องฉีดยาฆ่าเพลี้ยฆ่าสัตว์ที่มารบกวนพืชพันธุ์ธัญญาหารบ้าง บางคนมีอาชีพไปในทางการประมง ต้องทำการประมงฆ่าปลาฆ่าสัตว์บ้าง
.....ถ้าอย่างนี้ถือว่าวันธรรมดาบกพร่องได้ และวันพระต้องครบถ้วนบริบูรณ์ อย่างนี้ถ้าเกิดในสมัยผม เขาเรียกว่า เนยยะ เทศน์ครั้งเดียวสองครั้งยังไม่มีผล ต้องฟังเทศน์หลาย ๆ หน สามารถเป็นพระอริยะได้"
.....เอาละ...บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ท่านทั้งหลายมานั่งอยู่กันที่ตรงนี้และฟังเทศน์แล้ว เรื่องของ พระศรีอาริยเมตไตรย ถ้าจะว่ากันไปก็คงไม่แตกต่างกับเรื่องขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าทุกท่านรักษา ศีล 5 ครบถ้วน กรรมบท 10 ครบถ้วน ที่มีบารมีเข้มข้นสามารถจะไปนิพพานได้ในชาตินี้ ถ้าบังเอิญชาตินี้พลาดไปนิพพาน ไปเกิดเป็นเทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี หรือพรหมก็ตาม อีกไม่นานนัก พระศรีอาริย์ก็ตรัส เราก็ฟังเทศน์จากพระศรีอาริย์ภายในไม่ช้าก็บรรลุอรหันต์สามารถไปนิพพานได้

 

ต่อมา

มาที่

พระมหาวิหาร 100 เมตร

ปล. อันนี้ฝั่งพระศพขององค์หลวงพ่อ

 

..
....
.....


ปล. อันนี้ฝั่งตรงข้ามพระศพของหลวงพ่อ เป็น ฝั่งขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม

....
...

 

อันนี้ภาพบริเวณหน้าทางเข้ามหาวิหาร 100 เมตร ครับ

...

.....
.

 

ทำสังฆทาน ที่มหาวิหาร 100 เมตร

**ชุดพิเศษ (สังเกตพระพุทธรูปองค์ใหญ่)
**ชุดเล็ก (สังเกตพระพุทธรูปองค์เล็ก)


ภูมิใจมากๆ โดยปรกติผมเป็นคนชอบถวายพระพุทธรูปอยู่แล้ว เป็นนิสัยเดิมมาหลายชาติ..และงวดนี้ก็ได้ทำที่วัดท่าซุง องค์ใหญ่ดี ผมชอบ..

ก็รวบรวมเงินกันในคณะพวกเราที่ไป ได้มา 2,500 บาท .. ก็เลยได้ชุดพิเศษ และชุดเล็ก

แต่ว่าก็ว่าเถอะ ผมจนไปเลย เหอะๆ

ปล. เงินบนองค์พระ ทั้งเงินเหรียญและเงินธนบัตร..เป็นเงินของคนที่เห็นแล้วเข้ามาร่วมทำบุญด้วย..ดีใจมากเลยว่า ได้ทำบุญกันหลายคน

 

ต่อไป

ก็ย้ายมาอีกฝั่งของวัด..มาไหว้รอยพระพุทธบาท..และปิดทองรอยพระพุทธบาท..




















สองภาพหลังนี้ไม่แน่ใจว่าสถานที่เดียวกันหรือเปล่า..เพราะว่า ตอนนั้นไม่ได้ไปด้วย แหะๆ

 

ภาพดูเพลินๆ

ปล. เอาใจเจ้าของกล้อง ต้องลงรูปเจ้าของกล้องเยอะๆ เหอะๆ

อิอิ...

 

หลังจากนั้น
...

พวกเราก็เดินทางจากวัดทาซุง-------------> บ้านยายผีป่า อ.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี


...ฮิ้ววววว

แบบว่า

..แบบว่า หลงทางนิดหน่อย

หลวงพี่เล็กเลยโทรมาบอกทางลัด...

แต่ก็แปลกใจว่า จาก อุทัยธานี ตอน 14.00 ไปถึง บ้านยายผีป่า 17.30 น. มันเป็นไปได้ไง แค่สามชั่วโมงครึ่ง ไอ้แรกๆ ไม่เท่าไหร่ จากอุทัย ถึง ลาดหญ้า จังหวัดกาญจน์ ..แต่จาก ลาดหญ้า มาถึงบ้านยาย นี่เร็วแปลกๆ..เอิ๊ก

หลวงพี่เล็กบอกยายไว้ว่า พวกเราจะมาถึงบ้านยายประมาณ 5 โมง - 6 โมง เย็น.. ตรงเผ็งเลย เหอ เหอ..

ถ้าปรกตินะ ต้องถึงประมาณ 19.00 น.หรือเกินมา 30 นาที

ถึงริวผิดปรกติ !!!

..........................................

ยายนัดบอกว่า ให้มารอที่ ทางเข้า น้ำพุร้อนหินดาด .. ก็รออยู่นั่นแป๊ปนึง ยายก็มา พร้อมกับเด็ก 4 คน นรกแตก หุหุ... นรกแตกจริง จริ๊งงงงงงงงงงงงงง...T_T

แหะ ๆ แต่พวกเราชอบ..หนุกหนานๆ

ยายให้พวกเรามากินข้าวที่ร้านอาหารตรง น้ำพุร้อนหินดาดครับ..อิอิ ยายเลี้ยงๆๆๆๆ


ปล. สังเกตดูหน้าตาแต่ละคน เพลียดจัดครับ..
โดยเฉพาะคนขับคือ พี่ ยีนเรา..ดูหน้าตาแกสิครับ ..กักๆๆ

 

ไว้..เดี๋ยวต่อไปจะเล่าถึงตอนสำคัญ

คือนอนที่ถ้ำทะลุ...มีเรื่องราวมากมายอยากบอก..รอสักครู่ ไม่เกิน หนึ่งวัน เหอะๆ

 

วิหารพระวิสุทธิเทพ - สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ชอบอ่ะ
สมเด็จพ่อองค์ปฐม - สว่าง สดใสมากๆเลย

ขอบคุณมากๆเลยน้องอ้น และทุกๆคนด้วยที่ทำให้ได้ดูรูปอ่ะ

ดูแล้วรู้สึกสว่างจ้า แสบตาเลยอ่ะ ... พูดจริงๆนะ

 

โพสรูปเขาตั้งเยอะ เขินนะเนี่ย ตัวเอง เดี๋ยวคนเขาหาว่าเราเป็นอะไรกัน อิอิ(555)

 

สุดยอด......

ต้องขอชม น้องอ้น... ขยันโพส และขยันพิมพ์จริงๆ... (โมทนาอย่างแรง)....


น้องยีน ก็ เจ๋ง..... เก็บภาพได้ สุดยอด ไม่นึกว่ารูปจะออกมาได้สวยงามขนาดนี้.....

ผิดความตั้งใจอยู่นิดหน่อย ที่กะว่า จะได้ มานั่งกรรมฐานอย่างเต็มที่... แต่ทางวัดได้งดมโนฯ ในช่วงสงกรานต์พอดี ... และด้วยความที่พวกเราหน้าใหม่กันทุกคน... เลย งงๆ เรื่องตารางเวลา พลาดโอกาสดีๆ ไปหลายอย่าง....


ใครไม่ตรงเวลา หลวงพ่อเล่นงานหนักเลยนะ.... ชาวคณะของเราถูกหมาเห่า... (เรียกว่าหมาด่าดีกว่า) กันซะยกใหญ่... หมาแต่ละตัวที่นี่ ขอบอกว่า ไม่ธรรมดา..... ตายเมื่อไหร่... จะเกิดเหตุการณ์

หมาชิงคนไปเกิด.... คนโดนเบียด ตกสวรรค์กันระนาวทีเดียวเชียวล่ะ อันนี้ขอยืนยัน...

สำหรับใครที่ตั้งใจไปฝึกกรรมฐานที่วัดท่าซุง ต้องเตรียมชุดขาว ไปให้เพียงพอ เลยนะครับ... อย่าหวังไปซื้อที่ตัวเมืองอุทัย... เพราะที่นั่น ไม่มีห้างฯ ให้เดิน...แถมร้านสะดวกซื้อก็หายากเต็มที...

ก็พยายามนำเรื่องราวที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น้องอ้นไม่ได้กล่าวถึงมาทยอยเล่าสู่กันฟัง....

 

เด็กติดยา - กุ้ย - โจรใต้ ตามลำดับ คร๊าบบบ...

 

(b-green)แว้กกกก!!! ไม่ใช่อย่างน้านๆ ผมไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ฮือๆๆ ผมเป็นคนดี เชื่อผมเหอะๆ

 

แอบดูหมาวัดท่าซุง
..

หมาวัดนี่มันดีนะ..มันไม่วิตกจริตเหมือนคนบางคน..มันฟังเทศน์หลวงพ่อได้ทุกวัน...จิตมันจับอารมณ์บุญ บารมี จากคำสอนพระ..
..ก็ไปสวรรค์

คนก็ลงนรกไปเถอะนะครับ..สมน้ำหน้า(เฮ้ย ตัวเองอย่าลงแล้วกัน)