บาตรสังคโลกใบเดียวในประเทศไทย

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 18 มีนาคม 2012.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    บาตรสังคโลกใบเดียวในประเทศไทย

    B453979D54C543D585D4DB8F838CC9FF.jpg

    ผู้เขียนไปสุพรรณบุรีหลายครั้ง เพิ่งหาโอกาสชมพิพิธภัณฑ์วัดสุวรรณภูมิ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่าน มา

    โดย...สมาน สุดโต


    ของที่เป็นไฮไลต์ในที่แห่งนี้คือ บาตรสังคโลก ยุคสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 18-19 เป็นบาตรสังคโลกใบเดียวในประเทศไทย (หรืออาจเป็นใบเดียวในโลกก็ได้) สมบัติวัดสุวรรณภูมิ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริมหาเถระ) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 วัดสุวรรณภูมิ ในพิพิธภัณฑ์มีของโบราณที่ทรงคุณค่าอีกจำนวนมากตั้งท้าทายสายตาผู้ชมอยู่ในชั้นที่ 1 และ 2 ของอาคารทรงไทยแห่งนี้

    [​IMG]

    ผู้ที่ต้องการชมต้องแจ้งความจำนงกับเจ้าอาวาสหรือผู้ที่ถือกุญแจ เพราะจะเปิดให้ชมเมื่อมีผู้ขอร้องและเป็นหมู่เป็นคณะเท่านั้น

    ผู้ที่เป็นเจ้าของบาตรคนแรก คือ หลวงพ่อเปลื้อง หรือพระเทพวุฒาจารย์ (เปลื้อง คงฺคสุวณฺโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุวรรณภูมิ และอดีตเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ประวัติการได้บาตรใบนี้น่าสนใจมาก เริ่มจากเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 284285) มีสตรีผู้หนึ่งนำมาขายให้หลวงพ่อเปลื้อง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสุวรรณภูมิ (ท่านเป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2481) ในราคา 20 บาท (ยี่สิบบาท) เมื่อหลวงพ่อเปลื้องรับไว้ได้เพิ่มให้อีก 20 บาท พร้อมกับบอกหญิงคนนั้น (ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครจนถึงบัดนี้) ว่าอยากได้คืนเมื่อไรก็มาไถ่เอาไป แต่ก็ไม่มีใครมาขอไถ่เอาไป

    ต่อมาในปี พ.ศ. 2505 บาตรใบนี้ต้องถูกพรากจากวัดสุวรรณภูมิไปอยู่ในมือของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี และภริยา ซึ่งจอมพลสฤษดิ์และท่านผู้หญิงวิจิตรา (ภริยา) ธนะรัชต์ นำขันสาครใบค่อนข้างใหญ่ ทำด้วยทองเหลือง จารึกนามท่านทั้งสองว่า ถวายวัดสุวรรณภูมิ พ.ศ. 2505

    มีคำถามว่าทำไมจึงไปอยู่ในการครอบครองของจอมพลผ้าคะม้าแดงท่านนี้ ผู้เล่าเรื่องได้ดีที่สุดคือ พัฒน์ บุณยรัตพันธุ์ ซึ่งเป็น ผวจ.สุพรรณบุรี อยู่ในช่วงนั้น ข้อมูลของผู้ว่าฯ พัฒน์อยู่ในหนังสือ 60 ปี บรรหาร ศิลปอาชา 2535 หน้า 44 ตอน คนดีศรีสุพรรณ ท่านผู้ว่าฯ พัฒน์ เล่าว่า เป็นผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี พ.ศ. 2500-2509 ได้ทำการปราบโจรผู้ร้าย พัฒนาบ้านเมืองต่างๆ มากมาย เมื่อบ้านเมืองสงบมีสันติสุข แต่ก็ไม่ได้รู้จัก บรรหาร ศิลปอาชา มาก เพราะท่านผู้นี้มาทำมาหากินในกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้ว แต่ที่ไปเกี่ยวข้องกับบาตรสังคโลก ท่านบอกว่าประทับใจมาก

    เรื่องเดิมมีว่า เมื่อจ.สุพรรณบุรี (ก็คือผมนั่นแหละ อวดตัวเสียหน่อย) ร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรม สร้างศาลจังหวัดสุพรรณบุรีขึ้นใหม่เป็นแห่งแรกที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมาวางศิลาฤกษ์ และ ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี มาทำพิธีเปิดศาล ตอนกลางคืนมีละครของกรมศิลปากรฉลอง เป็นที่เลื่องลือมากจนผู้พิพากษาหัวหน้าศาลถูกย้ายเพราะร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัด ใกล้ชิดมากเกินไป กระทรวงยุติธรรมเกรงว่าจะเสียความยุติธรรมในการพิจารณาคดี (ซึ่งผมโกรธมาก) ถือว่าสบประมาทผมจนผมปฏิญาณว่า เรื่องของศาลต่อไปจะเกี่ยวข้องช่วยเหลือให้น้อยที่สุด ทั้งๆ ที่ผมกับหัวหน้าศาลจับมือสัญญาก่อนทำงานร่วมกันแล้วว่า “กินกันได้ข้าวปลา นกกระทาไม่ให้” “คนรักกัน ไม่ขอของรักกัน” “ราชการอันเป็นที่รัก จะให้ใครมาขอให้เสียงาน เสียราชการไม่ได้” และผมไม่เคยขอร้องศาลเรื่องใดๆ เลยจนนิดเดียว ทั้งที่ชอบพอกับผู้พิพากษาทุกคน ท่านผู้ว่าฯ พัฒน์ เล่าว่าเป็นความผิดของท่านเองที่อยากจะอวดของดีเมืองสุพรรณบุรี จึงไปขอยืมบาตรสังคโลกของหลวงพ่อเปลื้อง (พระราชสุพรรณาภรณ์ สมณศักดิ์ขณะนั้น) เจ้าอาวาสวัดสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นของเก่าหาค่ามิได้เอามาตั้งเป็นบาตรน้ำมนต์ที่อาสน์สงฆ์ ในปะรำพิธีทางพระพุทธศาสนาเมื่อวันเปิดศาล ซ้ำคุยอวด ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ถึงบาตรสังคโลกนี้ อันมีคุณค่าทางโบราณวัตถุมาก ต่อหน้าท่านผู้หญิงของท่านเสียอีกด้วย

    [​IMG]

    หลังจากนั้นไม่ถึง 1 เดือน ก็มีท่านนายพลกองทัพบกคนหนึ่ง (ซึ่งเป็นชาวสุพรรณบุรี) มาพบหลวงพ่อเปลื้อง หลวงพ่อให้คนมาเรียกตัวผมไปร่วมพบด้วย ท่านนายพลบอกว่า ท่านมีความสนใจบาตรสังคโลกของวัดสุวรรณภูมิมาก ต้องการนำไปให้เจ้านายท่านนายพลผู้เป็นทูตเตรียมขันลงหิน (ทองเหลือง) ทำแบบขันสาครใบใหญ่มาผาติกรรมด้วยแล้ว 1 ใบ หลวงพ่อเปลื้องท่านพูดกับท่านนายพลนั้นต่อหน้าผมว่า สิ่งของโบราณวัตถุที่วัดนี้ทั้งสิ้นที่ท่านสะสมไว้นั้น เมื่อท่านมรณะแล้วก็ยกให้เป็นของสงฆ์วัดสุวรรณภูมินี้ทั้งสิ้น เมื่อท่านนายพลต้องการท่านก็ไม่ขัดข้องอะไร ส่วนผม ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แต่ทำตาปริบๆ พูดไม่ออก

    ผู้ว่าฯ พัฒน์ได้เล่าต่อไปว่า ต่อมาเมื่อ ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สิ้นบุญแล้ว เกิดวิกฤตการณ์ถูกริบทรัพย์ ท่านผู้ว่าฯ จึงร้องเรียนไปยังคณะกรรมการจัดการยึดทรัพย์ ขอคืนบาตรสังคโลกของวัดสุวรรณภูมิคืน ใบนี้คณะกรรมการฯ เรียกผู้ว่าฯ ไปดูของ เห็นบาตรสังคโลกตั้งอยู่ในที่บูชาพระโต๊ะหมู่ภายในบ้านของ ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ที่ถนนประดิพัทธ์ กทม. ผมก็ชี้ให้คณะกรรมการทุกท่านทราบว่า บาตรนี้เป็นของวัดสุวรรณภูมิ คณะกรรมการฯ ให้มาขอหนังสือยืนยันขอคืนจากท่านเจ้าอาวาสเจ้าของบาตร ถ้ามีหนังสือไปเขารับปากจะคืนให้ทันที

    ท่านผู้ว่าฯ มาพบหลวงพ่อเปลื้องขอหนังสือท่านเพื่อจะไปเอาบาตรคืน หลวงพ่อพูดกับผู้ว่าฯ “เราเป็นพระเป็นเจ้า พูดให้เขาไปแล้วจะไปกลับคำว่าไม่ได้ ให้ขอคืนมาได้อย่างไร”

    ผู้ว่าฯ พัฒน์ บอกว่า ผมขนลุก ก้มลงกราบท่าน เลื่อมใสในปฏิปทาของท่านจนสุดใจ เป็นอันตัดใจไม่คิดถึงบาตรใบนี้อีกต่อไป ภายหลังทางการเอาบาตรใบนี้ออกขายทอดตลาด ผมไม่ทราบว่าใครบอกคุณบรรหาร ศิลปอาชา ท่านไปประมูลซื้อมาในราคา 6 หมื่น หรือ 8 หมื่นบาท ผมไม่แน่ใจแล้วนำบาตรใบนี้กลับมาถวายหลวงพ่อเปลื้องอีกที บาตรนี้จึงกลับคืนมาสู่วัดสุวรรณภูมิ เป็นสมบัติของชาวสุพรรณบุรีอีกวาระหนึ่ง โดยคุณบรรหารไปประมูลสู้กับนักค้าของเก่าได้มาในราคา 6 หมื่นบาท นำมาถวายวัดสุวรรณภูมิเมื่อ พ.ศ. 2512
    ส่วนประวัติหลวงพ่อเปลื้อง หรือพระเทพวุฒาจารย์ (หลวงพ่อเปลื้อง คงฺคสุวณฺโณ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี วัดสุวรรณภูมิ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ท่านมีชีวิตอยู่ระหว่างวันที่ 4 พ.ค. 2426–24 ก.ค. 2527 มรณภาพเมื่อสิริอายุ 101 ปี พรรษา 64 เป็นเจ้าอาวาสมาตั้งแต่ พ.ศ. 2481 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี 21 ปี

    ความสามารถท่านเป็นที่เลื่องลือ เช่น การทำแท่นเสาธงในขวดได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผู้ที่เห็นแล้วตั้งคำถามต่างๆ นานา ว่าทำได้อย่างไร

    ท่านสะสมของโบราณชนิดหาค่ามิได้อีกมากมาย เช่น ชุดเบญจรงค์ พระพุทธรูปโบราณ หลายยุคหลายสมัย เครื่องกังไส ชุดสังคโลก และชุดป้านน้ำชา ชุดเชี่ยนหมาก และอื่นๆ อีกมาก ที่มีให้ดูได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แห่งเดียว
    วัดสุวรรณภูมิหาไม่ยาก ตั้งอยู่ที่ถนนพระพันวษา กลางเมืองสุพรรณบุรีครับ


    -------------
    บาตรสังคโลกใบเดียวในประเทศไทย - โพสต์ทูเดย์ ข่าวธรรมะ-จิตใจ
     
  2. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ขอถามนะครับ ถามแบบคนไม่รู้ เพราะไม่รู้จริงๆ... คือถ้าใช้งานนานกว่านี้ บาตรจะแตกไหมครับ เพราะดูจากลายงาแล้ว ไม่น่าจะทนนะครับ
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ลายงาเกิดเฉพาะน้ำที่เครือบอยู่ข้างนอกตรงเนื้อผิวเท่านั้นหละครับ....
     
  4. 2151

    2151 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +22
    สมบัติของชาติ ต้องให้อยู่คู่กับแผ่นดินไทย ทุกวันนี้ของมีค่าเหล่านี้ไปอยู่เมืองนอกเป็นจำนวนมาก เพราะคนไทยเราเห็นแก่เงินเล็กๆน้อยๆ
     
  5. Buddha_bless

    Buddha_bless เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2011
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +464
    ลายงาสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ เอาออกมาจากเตาใหม่ๆเลยครับ

    เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างสารเคลือบผิว กับอากาศ ไม่แตกหรอกครับ คงทน คุณภาพสูง
     
  6. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    อ่านจบแล้วรู้สึกปราบปลื้มใจยิ่ง ที่สมบัติของชาติยังคงอยู่กับแผ่นดินไทย ขออนุุุโมทนากับความดีของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนในการรักษาสมบัติของชาติให้คงอยู่กับแผ่นดินไทยตลอดไป...สาธุ........
     
  7. ๒ อัฐ

    ๒ อัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +140
    อนุโมทนาในสมบัติของชาติครับ ให้คู่กับชาติและพระศาสนาต่อไปครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  8. ks vspc

    ks vspc Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +37
    กราบอนุโมทนาแด่ผู้เห็นความสำคัญ ของคู่บ้านเมืองด้วยครับ

    เพราะยุคสมัยนี้ มีแต่พวกโลภมากเห็นแก่เงิน มักจะขายชาติขายบ้านเมือง

    ปล.ไม่มีความเกี่ยวข้องเรื่องการเมือง
     
  9. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,550
    เวรกรรมสนองคนเอาไป ละโมภไม่เข้าเรื่อง ของพระของเจ้าก็จะเอา โดนริบทรัพย์สินสมควรแล้ว แล้วตายไปจะไปอยู่ไหนเนี่ย
     
  10. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656

แชร์หน้านี้

Loading...