บันทึกกรรมของฉัน

เรื่องเล่ามหาราชาอินเดียกักขังมหาราณีให้ตั้งครรภ์ 13 ท้อง ในปราสาท ออกมาไม่ได้…

เรื่องนี้มีอยู่ว่า มหาราชาแห่งอินเดียรบชนะไปทั่วทั้งแคว้นจนกระทั่งเหล่าวิญญาณต้องหลบไปอยู่ในตัวของเด็กทารกแรกเกิดเพื่อไม่ให้มหาราชาแห่งอินเดีย ตามฆ่าทิ้งได้ ซึ่งมหารานีเองก็ทราบว่าเราวิญญาณหลบไปอยู่ในตัวทารกแรกเกิด จึงห้ามพระสวามี ไม่ให้ฆ่าเด็กแรกเกิด แต่มหาราชาไม่ทรงฟัง

มหารานีเสียพระทัยมากที่มหาราชาฆ่าเด็กแรกเกิดก็ไม่เว้น จึงทรงไม่ให้พระสวามีแตะเนื้อต้องตัว มหาราชาโกรธมาก จึงขังพระนางไว้ในปราสาท และให้ตั้งครรภ์ทั้งหมด 13 ท้อง โดยออกมาจากปราสาทไม่ได้ และเมื่อพระนางสิ้นพระชนม์ มหาราชาเสียพระทัยมาก จึงสร้างอนุสรณ์แห่งความรักดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้

 

มาทานของว่างกันค่ะ…

กล้วยหอมราดโยเกิร์ตรสสตรอเบอร์รี่โรยอัลมอนต์บด wow…

 

ผู้รับบริจาคอย่างเดียว…ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เลย

เชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนต้องเคยมีคำถามในใจว่า ทำไมคนเหล่านี้ นั่งรอความช่วยเหลืออย่างเดียว งอมืองอเท้า รอรับบริจาคและความช่วยเหลืออย่างเดียว ทำไมไม่หาอะไรทำ? วันนี้มีคำตอบมาเฉลยค่ะ

เมื่อถึงสภาวะ หมดบุญ เพื่อนๆจะทำอะไรไม่ขึ้นเลยสักอย่าง ค้าขายไม่ได้ ขายของไม่ออกสักชิ้นเลยล่ะค่ะ แม้จะขยันขันแข็งสักเท่าไร ก็ไม่สามารถประกอบกิจการการค้าได้เลย หรือจะทำธุรกิจอะไรก็ไม่ได้เลยค่ะ จะขาดโอกาสและมืดแปดด้านไปหมดทุกหนทาง หากใครอยู่ในสภาพหมดบุญ มีทางเดียวคือต้องเติมบุญค่ะ มีทางออกทางเดียว

หากไม่สามารถเติมบุญได้ก็จะหมดบุญลงไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดจะกลายเป็นผู้รอรับบริจาคทั้งหลาย เฉกเช่นคนในแอฟริกา ที่อดอยากหิวโหย ฉะนั้น หากเจอคนเหล่านี้ อย่าคิดว่าเป็นปัญหาสังคม เพราะวันหนึ่ง เราอาจเป็นเหมือนเขาได้หากหมดบุญ ฉะนั้น ให้ช่วยเหลือเขา อย่างเข้าอกเข้าใจนะคะเพราะวันหนึ่ง เราอาจเป็นอย่างเขาได้ค่ะหากประมาท

 

มื้อนี้ตบะแตก…

ขนมปังโฮลวีตกรอบๆ ราดหมูหยองนมข้นหวาน สูตรของฉันเองค่ะ ไม่ได้ทานนานมากเลยค่ะ ตบะแตกเลยค่ะเพื่อนๆ มาทานด้วยกันค่ะ

 

ทำบุญกับผี VS ทำบุญกับคน

อันนี้เห็นมาเยอะแล้ว พวกเราชอบทำบุญกับผี เพราะเห็นผลเร็วทันตา ผีมาช่วยแก้ดวงชะตา เช่น ทำให้การค้าขายราบรื่นขึ้น ไม่สะดุด ในขณะที่การทำบุญกับคนนั้น เห็นผลช้า หรือแทบจะไม่เห็นผลเลย

ก่อนอื่นเพื่อนๆ ต้องเข้าใจก่อนว่า กฎของแรงดึงดูดคือ give = take ฉะนั้น การเป็นผู้ให้ ยิ่งไม่หวังผลตอบแทนใดๆแล้วล่ะก็ ผลที่ได้รับ ย่อมมากมายมหาศาล อาจจะตอบสนองช้าเพราะทำบุญกับคน ก็ต้องอาศัยเวลา เพราะเป็นสิ่งที่ยั่งยืน และการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์นั้น เพื่อนมนุษย์สามารถไปช่วยคนอื่นๆต่อกันได้ ทำให้เกิดผลบุญเพิ่มขึ้นเท่าตัวเพิ่มขึ้นไปอีก

ฉะนั้นหากเทียบกับการทำบุญช่วยเหลือวิญญาณแล้วนับว่าได้ผลช้ากว่าแต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าด้วยประการฉะนี้ค่ะ

 

ชีวิตนรกในค่ายกักกันของเด็กหญิง…

เด็กหญิงชาวโรฮิงญาจะถูกข่มขืนค่ะเพื่อนสมาชิก และให้กำเนิดชีวิตน้อยๆต่อไปในสภาพที่ทุลักทุเลมากเนื่องจากวัยยังไม่พร้อมจะเป็นแม่และขาดความพร้อมในทุกๆด้าน แรกเริ่มเราก็สงสัยทำไมมีภาพเด็กหญิงทั้งหลายอุ้มทารกค่ะ ที่แท้เด็กหญิงถูกข่มขืนในค่ายกักกัน การบริจาคไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ใครก็ได้ช่วยเด็กหญิงเหล่านี้ด้วยเถิดค่ะ

 

พระเจ้า ฉันกำลังคลั่ง ทำไมโลกใบนี้สร้างผู้ชายขึ้นมาให้ทำร้ายเด็กและสตรีเช่นนี้ ฉันเกลียดผู้ชายที่สุด ที่เยเมนเด็กหญิงอายุ 8 ขวบมดลูกแตกเสียชีวิตเพราะต้องเข้าหอกับผู้ชายวัย 40 ในคืนแต่งงาน
บัดซบ

 

21 พ.ย. 67
Page 229 หมวดความสุข 15 Happiness
ขอแปะหน่อย ยังอ่านไม่จบ

 

เอาเงินไปบริจาคช่วยเด็กยากจนต่างศาสนา เทียบกับ เอาเงินไปทำสังฆทาน อย่างไรดีกว่ากัน?

บางคนสงสัย พระมีพร้อมแล้ว คนพุทธแย่งกันไปทำบุญทำสังฆทาน พระไม่ขาดแคลน สมควรทำบุญช่วยเด็กยากจนต่างศาสนา ดีกว่าเพราะยังได้ใช้ประโยชน์มากกว่าเอาเงินไปให้พระที่ไม่ขาดแคลนปัจจัย อันนี้ขอตอบว่า การทำบุญเปรียบเสมือน การออกกำลังกายส่วนต่างๆของร่างกายที่แตกต่างกัน เช่นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อต้นแขน และการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อต้นขา ล้วนมีประโยชน์ที่แตกต่างกัน แต่ร่างกายได้ประโยชน์ทั้งสองส่วน ร่างกายจะดำเนินไปได้โดยปกติสุข ไม่มีการแบ่งแยกว่า ความแข็งแรงอวัยวะนี้มาจากประสาทส่วนใด มาจากพลังกายหรือพลังใจ ฉะนั้น ศาสนาก็ไม่แบ่งแยกบุญเช่นกัน เพราะบุญอยู่ที่ใจ ใจเป็นความแข็งแกร่งของร่างกาย เป็นพลังจิตอย่างหนึ่ง ฉะนั้นการทำบุญไม่ว่าจะทำทางไหนแล้ว ล้วนแล้วเกิดประโยชน์ ต่อเราทั้งสิ้นด้วยประการฉะนี้

 

แล้วที่กล่าวว่า ทำบุญกับผู้มีศีล ได้บุญเยอะกว่า ผู้ไม่มีศีลล่ะ ? ฉะนั้น สมควรทำสังฆทานดีกว่าบริจาคเด็กยากไร้ต่างศาสนาที่ไม่มีศีลเลย ?

ขอตอบว่า
การที่ผู้มีศีลจะอยู่ในสภาวะขาดแคลนปัจจัยหรือจำเป็นต้องใช้ปัจจัยจริงๆนั้น มีโอกาสน้อยกว่า การที่จะเจอเด็กยากไร้ต่างศาสนาขาดแคลนปัจจัย ฉะนั้น จึงได้กล่าวว่าทำบุญกับผู้มีศีลได้บุญเยอะกว่า และตามพระธรรมคำสั่งสอนกล่าวว่า ผู้มีศีลนั้นบริสุทธิ์กว่า ทานนั้นจึงบริสุทธิ์กว่า นี่คือที่มาของคำสอนตามหลักศาสนา

ฉะนั้นต้องดูว่าทานมีองค์ประกอบอะไรบ้างคือ
1.เจตนาของผู้ให้
2.เจตนาของผู้รับ
3.สภาวะของผู้ให้
4.สภาวะของผู้รับ
5.ปัจจัย หรือทานที่ให้
ว่าทานนั้นบริสุทธิ์ในระดับใด มิใช่ดูเพียงศีลของผู้รับอย่างเดียวค่ะ

 

เลิกทำบุญ แก้เคล็ดกันได้แล้ว

เลิกทำบุญ หวังผล กันได้แล้ว

ตื่น ตื่น

มาดูโลกรอบตัวสิ