บรรยากาศงานวิทยาศาสตร์ทางจิต ครั้งที่ 11 (9-10/12/49)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย MOUNTAIN, 10 ธันวาคม 2006.

  1. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    จิตวิญญาณและตัวตนอันแท้จริง ของ คุณ นักเดินทาง
    กลับมาแล้วครับ หลังจากที่เงียบหายไปเสียนาน
    ผมเฝ้ารออยู่นาน เขากลับมาเป็นผู้ให้
    และเป็นผู้แนะนำ คอยช่วยเหลือ ทุกท่าน
    ที่มีความต้องการให้ช่วยเหลือ นั่นแหละครับคือตัวเขา
    ตัวจริง เสียง(ภาษาหนังสือ)จริง

    โมทนาสาธุครับ
     
  2. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    พี่เม้ายอผมซะ ผมไม่มีดีขนาดนั้นหรอกครับ
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    หมายถึงที่บู๊ทของทีมงานสมิงเหล็กป่ะครับ ถ้าใช่ก็ ผมเอง อิอิ
     
  4. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
  5. P_POP

    P_POP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +198
    ไปมาเมื่อวันเสาร์ 11.00 ห้องบรรยาย 1 รายการ UFO ตามที่บอก
    ตบท้ายรายการ พิธีกรถามถึงว่าปีนี้ จะมีการนั่งเชิญ UFO เย็นค่ำวันใดไหม
    อ.เทพพนมตอบว่าไม่มีเวลาเพราะติดเป็นประธานงานแต่งงานทั้ง 2 วัน
    ให้นั่งดูฝึกเองที่บ้านใครบ้านมัน
    ก็ดีครับไม่ต้องย้อนไปมาเปลืองน้ำมัน
    วันอาทิตย์นั่งชมดาวที่บ้านครับ ทุ่มนึงก็เห็นดาววิ่ง 1 อัน
    แค่ดาววิ่งตามเคยครับ ยังไม่ก้าวหน้ากว่านี้เลย
     
  6. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    <TABLE height=182 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=center bgColor=#ffffff border=1><TBODY><TR><TD width="100%" height=90><TABLE height=140 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=100 height=90>[​IMG]</TD><TD width=394 height=90><TABLE height=138 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=399 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ccccff>
    อ.ทิพย์


    </TD><TR><TD align=middle bgColor=#ffffcc>ตรวจดูดวงชะตา หาเจ้ากรรมนายเวร ด้วยตาที่ 3</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=90><TABLE height=10 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="100%">
    ความเป็นมา

    เมื่อครั้งยังเด็ก ในตอนเด็กตัวอาจารย์เอง ยังไม่มีอะไรที่จะบ่งบอกว่า มีเรื่องพิเศษเกี่ยวกับการรู้ การเห็นในเรื่องของอดีตหรืออนาคต แต่ด้วยความที่เกิดในครอบครัว ที่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งตอนนั้น อาศัยอยู่ คลองบางเวก เป็นชาว สวนธรรมดา คุณยายชอบไปวัด ชอบไปทำบุญตลอด หากไม่ได้ไปที่วัด ก็จะ ใส่บาตรตอนเช้า โดยจะมีพระพายเรือมาบิณฑบาตทุกเช้า ตอนนั้นอาจารย์ยังเด็กอยู่ ก็จะเป็นคน ไปนิมนต์พระ ไว้ก่อน ส่วนคุณยายก็จะตามออกมาพร้อมกับของที่เราจะใส่บาตร ส่วนวันพระคุณยายจะเดินทาง

    ไปทำบุญที่วัด ซึ่งก็จะเป็นอย่างนี้ตลอด โตมาก็จะดำเนินชีวิตอยู่อย่างนี้ อาจารย์เองก็ชอบที่จะทำบุญ ไปวัดกับคุณยายเสมอ

    ผจญวิบากกรรม

    จนกระทั่งอายุได้ 19 ปี ก็ได้แต่งงาน พออายุได้ 20 ปี อาจารย์ก็คลอดลูกคนแรก เป็นลูกชาย ช่วงระหว่างนั้น ชีวิตก็ไม่ได้มีอะไร ยังคงปฏิบัติธรรมกับคุณยายเสมอ ส่วนหน้าที่ของการเป็นแม่บ้าน ก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่อง เมื่อเราโตขึ้นการปฏิบัติธรรมก็มากขึ้น ต่อมาอีก 8 ปี ก็คลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง สามีเขาก็ทำงานรับราชการไป เราเองก็ทำอาชีพค้าขายไป ชีวิตอาจารย์ก็

    จะดำเนินไปเช่นนี้ จนกระทั่งมาถึงจุดที่เริ่มจะไม่เป็นปกติ คือ เมื่อลูกชายคนเล็กอายุได้ 3 ขวบ อาจารย์ก็เริ่มป่วย ทั้งๆที่ก็ยังไม่แก่ รู้สึกตัวเองว่าหายใจไม่สะดวก จึงไปหาหมอ หมอตรวจแล้วก็บอกว่า หัวใจเต้นผิดปกติ คือเต้นเร็วและรัว การรักษาไม่ต้องผ่าตัด แต่ให้พักผ่อนเยอะๆ และให้ยามาทาน หมอสมัยใหม่ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย

    ในระหว่างที่ป่วยอยู่นั้นก็รักษาตัวเองด้วยการทานยามาเรื่อยๆ แล้วก็จะไปหาหมอตลอดไม่เคยขาด แต่ ในความรู้สึกของตัวเองคิดว่าไม่เห็นว่าอาการจะดีขึ้นเลย ก็ทำให้เกิดวิตกกังวล เพราะกลัวตายมาก เราห่วง ลูกด้วย เพราะยังเด็กอยู่ ในระหว่างที่เราป่วยเป็นโรคหัวใจ เราก็คิดว่าเราเป็นโรคประสาทด้วย เพราะ จะวิตกกังวลมากจึงไปหาคุณหมอ ที่โรงพยาบาล คุณหมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไรหรอกนะ อาการอย่างนี้ เดี๋ยวมันก็จะค่อยๆ หายไป ระหว่างนั้นเราก็ไม่วางใจ ก็เลยไปหาหมอโรงพยาบาลอื่นๆ อีก อาการก็ยังเหมือนเดิม แต่อยู่ๆ เราก็เริ่มมีความรู้สึกว่า เราเบื่อเนื้อสัตว์ คือตอนนั้นเราจะทานเนื้อสัตว์ไม่ได้เลย

    เริ่มเข้าสู่การปฏิบัติธรรม

    และในปีเดียวกันนั้นก็ได้อ่าน หนังสือโลกทิพย์ คือเพื่อนได้ นำหนังสือโลกทิพย์มาให้อ่าน จะว่าไปแล้ว หนังสือโลกทิพย์ก็เป็นหนังสือที่จุดประกายในเรื่องของการปฏิบัติของอาจารย์เลยนะ

    พอดีเล่มนั้นจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับ ประวัติของหลวงปู่มั่น อาจารย์ก็ได้อ่านประวัติและการปฏิบัติของท่าน อ่านแล้วมีความรู้สึกเหมือนกับว่า เสียดายที่เรามีบุญไม่ถึง ถ้าเรามีบุญสักนิดนึงเราคงได้ไปกราบท่าน ก็รู้สึกเสียดายและเสียใจมากเลย จากนั้นเราก็ลองนั่งปฏิบัติดูตามที่หลวงปู่สอน ลองภาวนาดู ก็รู้สึกว่าการปฏิบัติ ที่เราทำอยู่นี่เริ่มเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น คือตั้งแต่ตอนเด็กๆ นี่เราก็จะนั่งตามคุณยาย คุณยายพาเราทำเราก็ทำตาม เมื่อปฏิบัติธรรมอาการป่วยเริ่มเบาบาง

    จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง คืออาจารย์นี่เป็นนักเรียนของโรงเรียน สตรีอัปสรสวรรค์ จะอยู่ติดกับ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ก็จะได้กราบ หลวงปู่สด ตลอด ระหว่างนั้นเราก็ไปกราบหลวงปู่ ไปนั่งสมาธิกับหลวงปู่ที่วัด ซึ่งท่านก็ได้มรณะไปแล้ว เราก็ได้ไปอยู่ปฏิบัติกับแม่ชี ก็ปฏิบัติมาเรื่อยๆ เราก็มาสังเกตถึงการเจ็บการป่วย ของเรา ก็รู้สึกว่ามันดีขึ้น เมื่อรู้สึกว่าเราปฏิบัติอย่างนี้แล้วมันดีขึ้น เราก็ไปพบคุณหมออีก

    ครั้งหนึ่ง คุณหมอก็ได้บอกกับพยาบาลว่าให้พาเราไปพบกับหมอจิตเวชนะ คุณหมอก็พูดแบบนี้ คือตอน อาจารย์คุยกับหมอนี่เมื่อเรามีอาการอย่างไรก็พูดไป เมื่อหมอฟังแล้วก็ลงความเห็นว่าให้เราไปพบจิตเวช อาจารย์ก็พูด ขึ้นมาเลยว่า อุ๊ย...เราไม่ได้บ้านะจะให้เราไปพบทำไมจิตเวชนี่

    คุณหมอหัวเราะชอบใจ แล้ว ก็บอกว่า เออ...นี่แหละใช่เลย

    จากนั้นอาจารย์ก็ลุกออกมา แล้วเอาใบนัดที่ได้จากหมอมาฉีกทิ้ง แล้วก็บอกกับตัวเองว่า เราจะไม่มาหาหมออีก เราจะรักษาด้วยตัวของเราเอง เพราะหากเราไปพบจิตเวช ก็ยิ่งจะไปกันใหญ่

    เรียนปฏิบัติกับหลวงพ่อจรัญ

    พอหลังจากวันนั้นเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว เราก็เลยมาฝักใฝ่ในทางธรรมอย่างต่อเนื่องเลย ซึ่งการที่เราจะเน้น ในเรื่องของการปฏิบัตินี้ ไม่ว่าจะเป็นสามีเอง หรือลูกๆ รวมถึงญาติพี่น้องต่างก็สนับสนุนและเห็นด้วย หมดทุกคนเลย เมื่อทุกอย่างไม่มีปัญหา อาจารย์ก็เลยเดินทางไปหา หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ไปปฏิบัติกับท่าน ซึ่งในสมัยนั้นวัดอัพวันยังไม่เหมือนปัจจุบันนี้นะ มีแค่ศาลาเล็กๆ แล้วก็จะมีกุฏิ กรรมฐาน ซึ่งปลูกขึ้นในลักษณะเหมือนกรงนกขุนทองเลย แล้วสมัยนั้น คุณยายสุ่น ยังมีชีวิตอยู่ก็ไปปฏิบัติกับท่าน ตอนนั้น ปฏิบัติอย่างมากก็ไม่เกิน 15 คน อาจารย์ไปปฏิบัติทีนึงก็ 9 วันบ้าง 15 วันบ้าง ก็จะไปปฏิบัติ อยู่กับ ยายสุ่น นั่นแหละ หลวงพ่อก็จะลงมาสอน สอนแบบชนิดที่ว่าติวเข้ม กันเลยนะ ซึ่งการได้ไปปฏิบัติกับหลวงพ่อ นี่เป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าดีมาก พอไปปฏิบัติกับหลวงพ่อแล้วก็จะกลับมาอยู่บ้าน พออยู่บ้านสักพักหนึ่ง ก็ไปปฏิบัติกับ หลวงพ่อ ชีวิตก็จะเป็นอยู่อย่าง นี้ ก็จะเวียนวนบ้านกับวัดวัดกับบ้านอยู่อย่างนี้ตลอด

    จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นจะรับหนังสือโลกทิพย์เสมอ รับทุกเดือนเลย ก็มีอยู่ฉบับหนึ่ง ที่ลงเรื่องของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พอได้อ่านแล้วก็ชอบมากเลย หลวงพ่อนี่ท่านสามารถท่องเที่ยวไปได้ทั้ง นรก สวรรค์ เป็นอะไรที่เราชอบมากเลย แล้วเราก็มาสงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่า ทำไมท่านถึงชื่ออย่างนี้นะ มีอยู่วันหนึ่ง ก็เลยเล่าให้สามีฟัง สามีก็บอกว่า ถ้าอยากจะไปก็ไปได้นะ สามีก็ว่าอย่างนี้ เราก็มาคิดว่า แหม หลวงพ่ออยู่ไกลถึงจังหวัดอุทัยธานี เราจะเดินทางไปก็ไม่สะดวก

    ถอดกายทิพย์พบหลวงพ่อฤาษี

    ต่อมามีอยู่วันหนึ่ง อาจารย์ก็ขึ้นไปที่ห้องพระแล้วก็นั่งปฏิบัติตามปกติ ก็นั่งภาวนาไป ภาวนาไปเรื่อยๆ แล้วก็รู้สึกว่าตัวเรานี้แปลกอัศจรรย์มากเลย คือมันจะรู้สึกว่าเบามาก จนสามารถที่จะเลื่อนออกจากกาย ที่นั่งภาวนาอยู่ได้ มันแปลกนะคะมันเหมือนเรานี่ถอดตัวเราเองออกได้ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ในระหว่างนั้นเรา มีความรู้สึกว่าช่วงนั้นเราใช้เวลา เป็นชั่วโมง คือเราออกไปแล้วก็นั่งมองตัวเอง เราก็เห็นว่าตัวเรานั่งอยู่ แล้วเราก็สามารถที่จะเลื่อนขึ้นหรือเลื่อนลงก็ได้ เราก็กำหนดมันขึ้นลง ขึ้นลงอยู่อย่างนี้ จนกระทั่ง เห็นหน้าหลวงพ่อฤาษี คือเห็นหน้าท่านลอยอยู่เลย อาจารย์ก็แปลกใจมาก ในจิตเห็นว่าตัวเองได้เจอ หลวงพ่อฤาษีก็ดีใจมาก ก็เลยตะโกนเรียกหลวงพ่อๆ เลยตกตุ้บลงมาเลย ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าเหนื่อยมาก ระหว่างนั้นสามีก็ขึ้นมาดู ว่าทำไมเรานั่งนานจังเลย ก็เล่าให้ฟังว่าเราเจออะไร สามีก็บอก โอ๊ยต่อไปนี้ นั่งแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ อันตรายนะ เกิดออกไปแล้วไม่เข้ามาอยู่อย่างเก่าล่ะจะทำอย่างไร

    พอรุ่งขึ้นตอนเช้าแกออกไปทำงาน แล้วก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้หัวหน้าฟัง ซึ่งหัวหน้าแกก็เป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อฤาษี เขาก็บอกว่า ไม่ได้แล้วคุณ อย่างนี้ต้องพาภรรยาคุณไปหาหลวงพ่อฤาษีแล้ว อย่างนี้แสดงว่า ภรรยาคุณน่ะชอบทางฤทธิ์ เขาก็ว่าอย่างนี้นะอาจารย์ก็ไม่รู้เรื่องนะ สมัยนั้นเรื่องฤทธิ์ เรื่องอะไรก็ไม่รู้จัก ก็เลยมีความรู้สึกว่า เอาเถอะนะสักวันเราจะต้องไปกราบหลวงพ่อให้ได้ เดือนต่อมาก็อ่านในหนังสือโลกทิพย์อีก ก็เห็นข่าวประกาศว่าวันเสาร์ที่ 1 ของต้นเดือน หลวงพ่อจะมาที่บ้านของ พลเอกเสริม พอเห็นดังนั้น ก็ตั้งใจไว้เลยว่า ต้องไปให้ได้ พอถึงวันแล้วก็ว่าจะไปกับสามี พอดีสามีไม่ว่าง อาจารย์ก็ออกมาเรียก แท็กซี่ เขาก็ถามว่าจะไปไหน ถ้า ไปไกลเขาไปไม่ได้นะ เราก็บอกเขาว่าจะไปที่ซอยสายลม เขาก็บอกถ้าอย่างนั้นขึ้นมาเลย

    กราบหลวงพ่อฤาษีเป็นครั้งแรก

    พอมาถึงที่บ้านพลเอกเสริมเขาก็ไม่คิดเงิน และบอกว่าเขาก็จะมาที่นี่เหมือนกัน เมื่อคุณมาด้วยก็เท่ากับ ว่าเรามาเป็นเพื่อนกันนะ พอหลังจากนั้นแล้วอาจารย์ก็เข้าไปหาหลวงพ่อเลย พอเราเดินเข้าไปก็เห็น หลวงพ่อ นั่งอยู่ที่แคร่ แล้วก็มีลูกศิษย์นั่งอยู่เต็มไปหมด พอเดินเข้าไปทั้งๆ ที่อาจารย์เป็นผู้หญิงก็จะต้อง คลานเข้าไป กราบอย่างเรียบร้อย นี่ไม่เป็นอย่างนั้นนะคะ อาจารย์ไปถึงก็เดินอาดๆ เข้าไปหาหลวงพ่อเลย พอหลวงพ่อเห็น ท่านทัก เอ้าเฮ้ย...เป็นไง...มาแล้วเหรอ รออยู่ตั้งนาน ทำไมเพิ่งมา ท่านก็ว่านะ อาจารย์ก็เข้าไปหาท่าน รู้สึกท่านจะหยิบอะไรสักอย่าง มาเคาะที่บนหัวอาจารย์แล้วท่านก็หัวเราะใหญ่เลย อาจารย์ก็กราบท่านรู้สึกปีติมาก ท่านก็บอกว่าให้มาเรียนนะ หลังจากนั้นก็ไปเรียนกับท่านไป ฝึกมโนมยิทธิ ก็เรียนอยู่กับท่าน นานหลายเดือนเหมือนกันนะ ก็เรียนกับท่าน อยู่อย่างนั้น มีความรู้สึกว่าเรารักหลวงพ่อ มาก ศรัทธามาก หลัง จากเรียนแล้วกลับไปอยู่ที่บ้านก็มีความรู้สึกว่า จิตเราจะนิ่งอยู่ตลอดเวลา ก็มาปฏิบัติเองบ้างอยู่ที่บ้าน

    เจ้าแม่กวนอิมเมตตารักษาอาการป่วย

    จากนั้นอยู่มาวันหนึ่ง ในการที่เราปฏิบัติก็มีความรู้สึกว่าเราเห็น เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า เป็นการเห็น หรือฝัน ตอนที่เห็นนั้นเห็นว่าท่านกำลังหยิบกิ่งไม้มากิ่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้ว่ามันคือกิ่งอะไร ตอนนี้เรา รู้แล้วว่าเขาเรียกว่า กิ่งหลิว ท่านก็เอามาประพรมให้ที่หัวเรา ก็จะมีน้ำออกมา ก็รู้สึกว่าเย็น ท่านก็บอกว่า หายแล้วนะ ไม่ป่วยแล้วนะ เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยนี่หายสักที หายๆ จากนั้นมาในความรู้สึกเรา ก็รู้สึกว่าหายป่วย เราไม่เจ็บไม่ป่วย อีกเลย ไม่ต้องทานยา ไม่ไปหาหมอ ไม่ไปตรวจตามที่หมอนัด และตั้งใจว่า จะไม่ไปหาหมออีกเลย ก็ไม่ได้ไปจริงๆ

    เริ่มมีสัมผัสนึกรู้พิเศษ

    จนกระทั่งอยู่มาอยู่มา อาจารย์ว่าอาจารย์เพี้ยนหรือเปล่าก็ไม่ทราบ มันมีความรู้สึกเหมือนกับมันรู้ขึ้นมา รู้ขึ้นมา ซึ่งมันรู้ขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่ทราบ ตอนนั้นเดินไปตลาดเห็นคนเขาเลือกซื้อลอตเตอรี่กันใหญ่เลย คนนั้นก็ ซื้อตัวนั้นตัวนี้ พอเราเดินไปถึงเราก็บอกว่า ไม่ต้องไปเลือกหรอกนะ ไอ้ที่เลือกๆ กันน่ะมันไม่ออกหรอก เขาก็ถามว่า แล้วมันจะออก อะไรล่ะ

    ก็บอกเขาว่า ที่มันจะออกน่ะคือ 35 ก็บอกเขาไปอย่างนั้น ปรากฏว่างวดนั้นหวยออก 35 จริงๆ

    ที่รู้ที่เห็นเพราะบารมีสะสม

    แล้วมันก็แปลกนะ อย่างคนที่เราไม่ได้เจอกันนานพอเจอกันเราเข้าไปจับมือเขา เราก็สามารถที่จะ รู้เรื่อง ของเขา ก็เป็นเรื่องของความแปลก ชนิดที่เรียกว่าแปลกมากๆ อย่างใครไปใครมานี่เราก็สามารถ จะรู้ขึ้นมา จนทุกวันนี้ก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่า เรารู้จากอะไรแต่ท่านผู้รู้ก็บอกว่าที่เรารู้นี่เพราะเรามี ญาณ ที่ได้จาก การปฏิบัติ หรือจากญาณที่เราได้ปฏิบัติมาเมื่อในอดีตชาติ และในปัจจุบันนี้ด้วยก็เลยมาผสมกัน ทำให้เกิดญาณรู้ในตรงนี้ขึ้นมา

    เคยมีเพื่อนคนหนึ่งเขาพาลูกศิษย์มาหา เพื่อให้เราดูซิว่าเขา เป็นอย่างไร เมื่อเราดูแล้ว บางเรื่องบางราว ที่มันเป็นความลับของเขา เรากลับไปรู้เรื่องของเขา พอเพื่อนคนนี้เขาเห็นว่าเรารู้ เขาก็ถามว่า ทำไมล่ะ ในเมื่อรู้ว่าตัวเองรู้เรื่องราวต่างๆ ได้ทำไมไม่เปิดเผยตัวไปเลย จะมาเก็บเรื่องนี้ไว้ทำไม

    ใช้พลังจักรวาลและการพยากรณ์ผสมผสานกัน
    ซึ่งในปัจจุบันนี้เราก็ได้มาเรียนวิชาพลังจักรวาล ก็จะใช้วิชาพลังจักรวาลนี้รักษาคนป่วยเราไม่ ได้เน้นในเรื่อง การพยากรณ์แต่ว่า มันก็จะเกี่ยวเนื่องกัน เพราะว่าคนป่วยแต่ละคนเขาป่วยในเรื่อง ของโรคภัยไข้เจ็บป่วย ในเรื่องของ โรคในปัจจุบัน แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นเรื่องของกรรมในอดีต กรรมนั่นแหละ ทำให้เขาต้องมาเป็น มันจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันกับการพยากรณ์ จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนคนนี้ก็เลยบอก ว่า อาจารย์ออกมานั่งพยากรณ์เถอะนะ คนไหนที่เขามีทุกข์มีร้อน เขาจะได้มาปรึกษาอาจารย์ จะได้ ช่วยผ่อนคลายทุกข์เขาไปได้บ้าง

    ก็เลยตกลงว่าจะพยากรณ์ เขาก็เลยเอาอาจารย์มาลงในหนังสือโลกทิพย์ เป็นคอลัมน์เล็กๆ การพยากรณ์ 2 ปีแรกนี่ อาจารย์ไม่ได้คิดค่าครูหรือค่าอะไรเลย คือพยากรณ์เอาบุญ คือใครมีทุกข์อะไร ต้องการให้เรา ตรวจดู เราก็จะตรวจให้ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ นี่ก็คือเรื่องราวของอาจารย์จากอดีตถึงปัจจุบันก็จะมีอยู่ประมาณนี้

    เรื่องการปฏิบัติของอาจารย์ เป็นอย่างไรบ้าง?

    ทุกวันนี้สำหรับเรื่องการปฏิบัติของอาจารย์นี่เรียกได้ว่าไม่ต้องภาวนาเลย พอนั่งปุ๊บก็ได้เลย อย่างเมื่อก่อน อาจารย์จะติดพุทโธนะ ก็ไปมาหลายอาจารย์นะ แต่จะติดมากเลยคือพุทโธ คือพอภาวนาพุทโธ แล้วเราก็มีความรู้สึกว่าใช่เลย รู้สึกว่าอบอุ่นและเชื่อมั่นในตรงนั้น แล้วเราก็รู้สึกว่าจิตเราจะรับในตรงนี้ได้ไว้ แต่อย่างอื่นนี่ก็ได้ อย่างเราไปปฏิบัติอย่างอื่นก็ได้แต่เรารู้สึกว่ามันจะช้า ปัจจุบันนี้เราจะนั่งไปโดยที่ไม่ได้ภาวนา นั่งปุ๊บเราก็จะดูลมหายใจเข้า ออก กำหนดลมหายใจ

    เรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับการพยากรณ์เป็นอย่างไรบ้าง?

    ก็จะมีอยู่รายหนึ่งที่เล่าไปแล้วว่าเพื่อนพามานะคะ คือรู้สึกจะเป็นช่วงประมาณสัก 2 ทุ่ม เพื่อนโทรมาหา บอกอาจารย์อย่า พึ่งเข้าบ้านนะ เดี๋ยวจะพาลูกศิษย์ มาหา ซึ่งลูกศิษย์คนนี้เขาทุกข์มาก เพราะว่าแฟนของเขาเสีย เขาจะพามาหา คือวันนั้นเขาพากันไปที่อื่นมาก็หลายที่แล้วนะ แล้วก็มาหาเราเป็นที่สุดท้าย ในระหว่างที่ด ูที่สัมผัสเขาได้ เขาก็กำลังเสียใจอยู่ แต่เราก็ต้องบอกเขาไปว่าอย่างไร เสียแฟนเขา ก็ต้องเสีย เพราะว่าเขาหมดอายุ
    ขัยแล้ว แต่เขาจะหมดในเดือนพฤศจิกายน แต่แฟนเขาเสียก่อนคือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พอเดือนมีนาคม คนนี้ก็มาดูกับอาจารย์ เขาก็ถามว่าต่ออายุได้ไหมอาจารย์ ก็บอกต่อไม่ได้ ถ้ารู้ตัวล่วงหน้าอาจจะทำบุญกุศล ก็อาจจะยืดไปได้บ้าง แต่จะให้ต่ออายุนี่มันไม่ได้ และนี่เขาก็ไปตามวาระของเขา ส่วนสาเหตุที่เขาไปก่อนเวลาตั้ง 5-6 เดือนนั้นก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องของกรรม ซึ่งมันเป็นความลับของเขามากเลยแล้วเราก็ไปรู้ ตอนนั้น ก็ต้องเชิญทุกคนที่อยู่ในนั้นออกไปก่อน แล้วก็หันมาถามเขาว่า อาจารย์จำเป็นต้องถามนะว่าหนูเคยเกี่ยวข้อง กับการทำแท้งมาก่อนหรือเปล่า เพราะเขายังเด็กยังสาวอยู่มาก เขาก็บอกว่า เคยค่ะอาจารย์

    อาจารย์ก็ถามว่า 2 ครั้งใช่ไหม

    เขาก็บอก ค่ะ

    อาจารย์ก็บอกเขาไปว่า ถึงแม้เราจะเต็มใจทำก็ตาม ผู้ชายเขาก็ได้สนับสนุนให้เราทำ กรรมตรงนี้มัน ก็เป็นผลด้วย

    เขาก็บอก ใช่ค่ะ ตอนนั้นเรายังไม่พร้อมแล้วแฟนก็เป็นคนพาไปทำ

    เราก็บอกเขาไปว่า ต่อนี้ไปอย่าทำอีกนะคะลูก แล้วห้ามเด็ดขาดไม่ต้องไปบอกใครว่า เราเคยเป็นอย่างไร มาก่อน ให้รู้กันแค่หนูกับอาจารย์เท่านั้น กับคนที่เขาพามาวันนี้ก็ไม่ต้องเล่า ให้เก็บเป็นความลับ ในเมื่อเขา ตายไปแล้วก็ให้ตายไปกับเขา ส่วนในเกณฑ์ดวงชะตาของหนูอย่างไรเสียอีกไม่นานก็ต้องเจอคู่ครอง เขาก็บอก ยังไงเขาก็ไม่มีใหม่ ไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว

    พอหลังจากนั้นมา ทั้งๆ ที่เขาก็รับปากว่าจะไม่บอกใคร แต่พอออกมาตอนกลับเขาก็เล่าให้คนที่พามาฟัง เขาเล่าว่าอาจารย์ ทักเขาแบบนี้ ซึ่งไม่เคยมีใครรู้มาก่อน เพื่อนอาจารย์เขาก็มาบอกกับอาจารย์ว่า ถ้าแบบนี้ จะอยู่เฉยไม่ได้แล้วนะ เปิดตัวเถอะ นี่ก็เป็นประเด็นหนึ่ง

    ช่วยคลายทุกข์ให้อดีตทหารพม่า

    อีกต่อมาที่เราประทับใจมาก คือ เรื่องของคนป่วยที่มารักษากับเรา เราก็สงสัยว่าทำไมคนป่วย คนนี้รักษาไป ก็อาการดีขึ้น จากนั้นไม่นานก็มีโรคอีกแล้ว เดี๋ยวโรคนั่นโรคนี่ ก็เลยสัมผัสในอดีตชาติของเขา ก็ได้รู้ว่า เขาเป็นพวกของพม่า ยกทัพมาต่อสู้กับคนไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา แล้วก็ทำกรรมไว้เยอะมากทั้งฆ่าคนและสัตว์ ซึ่งถือเป็นกรรมมหาศาล ที่จะติดตามตัวเขามาตลอด แต่ในเวลาเดียวกันในชาตินี้เขาก็ทำ บุญมาก แล้วเราเอง ก็แนะนำให้เขาทำบุญมากๆ ซึ่งเขาก็จะทำตาม และทำตลอด จนกระทั่งอาจารย์ก็ได้แนะนำให้เขาไปอยุธยา ให้ไปจุดธูปบอกกล่าวปลดปล่อยวิญญาณ อธิษฐานว่าบุญกุศลที่ได้ทำมา ขออุทิศส่วนกุศลไปในอดีตชาต ิในครั้งนั้น ซึ่งในครั้งนั้นอาจารย์ก็ไปด้วย ปรากฏว่าพอเขาจุดธูปแล้วก็ร้องไห้ใหญ่เลย ครอบครัวเขา ที่ไปด้วยกันเห็นเข้าก็ตกใจ เป็นไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ ตรงนี้อาจารย์ก็รู้สึกปลื้มใจ ที่ได้แนะนำเขา ให้เขาเดินไปในทางที่ถูกต้อง เวรกรรมที่ตามเขามาก็จะได้ลดหย่อนลง เราก็ดีใจและปลื้มใจ

    สุดท้าย

    แล้วก็มีอีกหลายเรื่อง อย่าง บางคนที่เขามาหาเรา เมื่อสัมผัสดูแล้วเขามี เทพ มีอะไรอย่างนี้ สมควรที่เราจะเคารพบูชากราบไหว้ แต่ไม่เคยแนะนำให้ไปรับขันนะคะ แต่จะแนะนำว่าให้หมั่นปฏิบัติ ถ้ามีสิ่งที่ดีๆ ลงมาอยู่ด้วยจริง ถ้าเราปฏิบัติไปเดี๋ยวสิ่งดีๆ ก็จะบังเกิด เราจะไม่แนะนำให้เขาเสียเงินเสียทอง จะเน้นที่สุดคือการทำบุญ สวดมนต์ และที่สำคัญให้เขานั่งสมาธิ อย่างบางคนที่เขามาอาจจะมี พลังแฝง วิญญาณเร่ร่อน สัมภเวสี เกาะเขามา ถ้าเราตรวจเจอเราก็จะบอก ให้เขาทำบุญ และแผ่เมตตา แล้วให้น้อมนำบุญที่เราได้ทำมาทั้งจากในอดีตปัจจุบัน ให้นำมาอุทิศให้เขา แล้วก็แผ่เมตตาให้เขาไปก็จะดีแก่ตัวเขาเอง

    ปัจจุบันนี้อาจารย์จะเน้นที่การพยากรณ์ในช่วง 10.00 - 14.00 น. ส่วนช่วงบ่าย ก็จะเป็นช่วง รักษาคนป่วยด้วยวิชาพลัง จักรวาล สำหรับวิธีการพยากรณ์อาจารย์ก็จะให้เขียนลายมือให้ดูก่อน จากนั้นก็จะ บอกเขาไปตามที่เราสัมผัสได้เป็นเรื่องที่น่าแปลก และอธิบายไม่ได้ว่าเรารู้ได้อย่างไร แต่เมื่อถามเขาว่า เป็นอย่างไรบ้างจากที่พยากรณ์ให้ เขาก็ประเมินให้เราว่าใช่ถูกต้อง

    นี่ก็เป็นเรื่องราวของ อ.ทิพย์ ผู้ที่มีสัมผัสพิเศษในการรู้เรื่องราว ต่างๆ ของผู้ที่ต้องการ ให้อาจารย์พยากรณ์ให้ สำหรับท่านที่ต้อง การปรึกษาปัญหาชีวิตกับอ.ทิพย์ท่านนี้ ติดต่อได้ที่ , 08-9796-3708 (เวลา 09.00-12.00 น.) หรือที่ชมรมปฏิบัติธรรมโลกทิพย์ ทุกวันเสาร์ตลอดทั้งวัน สนใจ มาพิสูจน์กันได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2006
  7. ธรรมจักร

    ธรรมจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,151
    มีใครรู้บ้างว่าค่าดูหมออ.ทิพยเท่าไหร่ครับ
     
  8. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    ถ้าไปดูที่ชมรมโลกทิพย์ ท่านละ 200.-(เฉพาะวันเสาร์)
    ที่ท่าน้ำศิริราช ท่านละ 300.- (อยู่ในร้าน โอนมสด ครับ ร้านหันหน้าออกแม่น้ำเจ้าพระยา)

    ตอนนี้ย้ายเข้ามาด้านในแล้วครับ เดินไปตรงที่จ่ายค่าลงเรือ
    มองขวาก็จะเห็นบูธ อ.ทิพย์ครับ(15/8/50)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2007
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772

    ที่ท่าน้ำศิริราช 300 บาทครับ
     
  10. pupatcharee

    pupatcharee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +99
    ไปหาอ.มาเเล้วอ.เก่งมากตรงมาก เมตตาสูง อ.ยังให้กำลังใจในการปฏิบัติอีกเราเลยกลับมาทำใหญ่เลยหลังจากไม่ค่อยได้ทำมานาน
     
  11. aonwit01

    aonwit01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    681
    ค่าพลัง:
    +1,025
    อยากไป อยากไป ปีหน้าต้องไปให้ด้าย แล้วเจอกันนะฮะ (ถ้าเจอผีดิบตัวสีดำในงาน นั่นแหละผม TT)
     
  12. pupatcharee

    pupatcharee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +99
    อ.ทิพย์ ยังเมตตาเล่าเรื่องหลวงปู่ใหญ่ เทพโลกอุดร ว่ามีจริงอาจารย์พบตัวจริงๆขณะปฏิบัติอยู่กับหลวงพ่อจรัญ ท่านเมตตามาสอนปกิบัติ กับหลวงพ่อจรัญ สมัยก่อน เราก็ดีใจมากที่ได้ยินกับหูเพราะรักเเละบูชาหลวงปู่ใหญ่มาก
     
  13. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    หลังปีใหม่นี้ มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
    โดยเฉพาะที่อยู่ของบู๊ธ และเวลา
    จะเป็นดังนี้

    อังคาร-ศุกร์ 13.00 - 18.00 น
    อาคารตรินีตี้ 1 บู๊ธ หมายเลข 56
    สุดซอย ละลายทรัพย์ ข้างธนาคารกรุงเทพ สีลม กทม

    (อาคาร ตรินีตี้ 2 บู๊ธ 15 เดิม นั้นเจ้าของตึก ทุบทิ้ง จะสร้างใหม่ เป็นศูนย์อาหาร แบบ มาบุญครอง จึงต้องย้าย อีกครั้ง)

    เสาร์-อาทิตย์ 9.00- 18.00 น
    ล๊อค หมายเลข 052 ข้าง ร้านภูฟ้า
    เชิงสะพานลอยรถข้ามขาลง หน้า อตก (ตลาดของกิน เกรด เอ)
    .บนสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน กำแพงเพชร ออกประตู 1

    ขบวนรถไฟฟ้าใต้ดินยาว เวลาจอด
    ส่วนหัวขบวน จะอยู่ในสวนตลาดนัด จตุจักร
    ส่วนท้ายขบวน จะอยู่นอก จตุจักร ตรงข้ามตลาดสด อตก
    ปัจจุบันกำลังพัฒนา ส่วนนี้เป็นตลาด เครื่องแต่งบ้าน
    และเฟอร์นิเจอร์เก่า ให้พวกสร้างหนังไทยเก่า มาซื้อเอา
    ไป ประกอบฉาก ถ่ายหนังย้อนยุค

    สวัสดีปีใหม่...... ครับ

    The Third Eyes
     
  14. adisorno

    adisorno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2006
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +104
    อยากทราบครับ

    อยากติดต่อคุณหมอ มล. เพื่อบูชาดวงแก้วที่ทำจากหินธรรมชาติ มิทราบว่าจะมีทางมั้ยครับ พี่เมาท์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PIC_0079.JPG
      PIC_0079.JPG
      ขนาดไฟล์:
      175.4 KB
      เปิดดู:
      68
  15. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    คุณadisorno ครับ
    โทร ติดต่อสอบถาม อาจารย์หม่อม ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาจิต ชมรมสมาธิธรรม
    หมายเลข 0-2580-3559

    สถาบันจะมีการบรรยายทุกเดือน เรื่อง พลังเมตตาธรรมบำบัด คริสตัลโอสถ
    ให้บริการผดุงสุขภาพ บรรเทาอาการเจ็บป่วยแก่ทุกท่านฟรี ทุกวันพุธและเสาร์
    ศึกษาค้นคว้าทดลอง สรรค์สร้างอุปกรณ์ทรงพลัง เพื่อใช้ผดุงสุขภาพ จำหน่ายในราคาญาติธรรม

    สถานที่ตั้งของสถาบันวิจัย
    ประชานิเวศน์ 1 เลขที่ 32/1 ถ.เทศบาลรังรักษ์ใต้ จตุจักร กทม.10900
     
  16. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    crystal นี่ช่วยเรื่องสมาธิได้ดีเลยครับ ผมลองใช้แล้วได้ผลดี
     
  17. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    เห็นอ.ตาที่สามเข้ามา ขอสวัสดีปีใหม่อาจารย์นะคะ กราบขอบพระคุณสำหรับกำลังใจและพลังที่อ.มอบให้ช่วงที่เป็นมะเร็ง บุญกุศลที่อ.ตาที่สามได้ให้กับตัวกลมๆและเพื่อนร่วมโลกทั้งหลาย ขอบุญนั้นนำส่งนิพพานในเร็ววัน ผ่านไปบูธจตุจักร หรือที่งานวิทยาศาสตร์คนเยอะมาก แต่ยังดีที่ได้เจออาจารย์ค่ะ ล่าสุดที่ตรวจอาร่ากับอ. ก่อนงานวิทยาศาสตร์นี่ สีตรงกับที่ถ่ายกับบูธโลกทิพย์ค่ะ แต่คนถ่ายในงานแปลไม่เป็น เห็นอาจารย์ร่าเริงแข็งแรงก็ดีใจค่ะ

    จากในรูปกับการมองภายนอกห่างๆ บางคนอาจเล็งว่า ไม่น่าเชื่อถือ โม้ ยกแขน คนอะไรวัดพลังอย่างกะกำลังภายในได้ นี่เพราะ อ.ตาที่สามไม่เก๊กค่ะ ไม่ใส่สูท สนุกขำๆ ทำให้คิดถึงท่านจี้กง ใจดี อีกอย่างชอบที่อ.บอกว่า ความขลังของพระเครื่องไม่ใช่ที่ราคา

    Merry X'mas & Happy New Year ทุกท่านนะคะ คิดสุขได้สุขค่ะ
     
  18. WCH

    WCH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +154
    ขอบคุณครับ
     
  19. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    วันที่ 24 ธค. 49
    มีงานใหญ่ที่ สำนักปฏิบัติธรรม หลวงปู่ เทพ โลกอุดร ใกล้ เมืองพล
    มี คุณแม่ ชีพราหมณ์ มณีจันทร์ป็นแม่งาน
    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่นานนัก
    หลวงปู่โลกเทพอุดร ได้ผ่านร่าง คุณแม่มณีจันทร์มาตลอด
    เพื่อสอนธรรม และ การวิปัสสนา

    ได้มีผู้คนที่ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่โลกเทพอุดรมากมายนับพัน
    จึงได้มีการรวบรวม กำลังเงินกำลังทรัพย์ ได้ มากพอ
    จึงได้สร้างศาลาเพื่อการปฏิบัติธรรม และ อาคารประกอบต่างๆ
    จนสำเร็จเรียบร้อย

    ในวันที่ 24 ธค.2549
    จึงเป็นวันจัดงานส่งมอบศาลาและอาคารประกอบให้แก่หลวงปู่โลกเทพอุดร
    มีผู้คนมานับพันมาร่วมงาน อันยิ่งใหญ่
    ผมเองก็ไป เพราะ เป็นศิษย์ของหลวงปู่เช่นกัน
    งานศักดิ์สิทธิมาก หลวงปู่ได้มาบอกกล่าว
    บอกเตือน เรื่อง ภัยและอนาคต
    ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนับจากนี้
    บอกให้ทุกคนที่เป็นศิษย์ และมีความเชื่อมั่นในเรื่อง บุญและกรรม
    จงเร่งปฏิบัติธรรม เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
    จึงขอฝากบอกมาบนเวบนี้
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    ขอบพระคุณค่ะ อาจารย์ตาที่สาม อีกไม่กี่วันเลยเหรอคะ ต้องรีบไปฟื้นฟูพลังซะแล้ว มัวแต่กิน พลังจักระเดินติดที่พุงนี่แหละ แหะๆ

    คุณkananunเขาเตรียมกลุ่มพร้อมรับภัย ใครจะดูลาดเลา หรือเข้ากลุ่มก็เชิญนะคะ ประชาสัมพันธ์อีก ยิ่งเยอะยิ่งดี กระจายความร่วมมือไปทุกๆพื้นที่
     

แชร์หน้านี้

Loading...