น้ำท่วมกทมครั้งใหญ่ อาจเป็นเพราะเวรกรรมประเทศ

ประเทศไม่เคยมีเวรมีกรรม มีแต่คนที่สร้างเวรกรรม ดีชั่วคละเคล้ากันไป

แผ่นดินและผืนน้ำจะยังคงอยู่ แต่คนยากจะยืนหยัด

ความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ เป็นเงื่อนไขแห่งนานาภัย

ความเมตตา กรุณา เป็นเกราะชลอภัยที่ดี

เมื่อคนส่วนมากสร้างกรรมชั่ว(ความเห็นแก่ตัว) จึงเหนี่ยวนำน้ำจากฟากฟ้า จากผิวดินให้ไหลนอง น้ำทำตามหน้าที่ ที่พึงกระทำตามกฏอุตุนิยาม

แม้มีคนคอยควบคุมน้ำ จากระบบเขื่อน คลอง แม่น้ำ แต่คนก็คือคนไม่อาจมั่นใจได้ในประสิทธิภาพ และน้ำไม่เคยพ่ายแพ้มนุษย์มาก่อน การจะอยู่กับน้ำให้เสียหายน้อยที่สุด ควรคล้อยตาม อย่าบังคับขัดขืนให้มาก

 

ค่ะ รับฟัง โมทนาในการปฏิบัติของท่านด้วย

 

พวกมันทำพิธีลบหลู่พระแม่ธรณี .. พระแม่คงคาท่านเลยมาชำระล้างให้

 

อีกตัวอย่างที่ทำให้ประเทศมีกรรม จิตใจเครียดแค้น ไม่ปล่อยวาง คงเป็นกรรมของประเทศกระมังที่ประเทศอาจต้องแตกเป็นสองหรือสามแผ่นดิน ถ้าหากทุกฝ่ายังคงเป็นอย่างนี้ ขอภาวนาบุญให้ทุกคน ทุกฝ่ายเข้าใจ และรักกันเข้าไว้น่ะค่ะ

 

คนประเภทนี้ มีเยอะ ครับ

แค้นกันข้ามชาติ แค้นไม่ลืมหูลืมตา แค้นลืมตาย ลืมความหายนะของชาติ

 

น้ำท่วมฉับพลันทางตอนเหนือของอิตาลี่ หรือน้ำท่วมต่างๆ ทั่วโลกอีกหลายที่
แผ่นดินไหวอีก ผมว่ามันไม่น่าเกี่ยวกับผู้นำของประเทศเขานะครับ อย่าโยงไปเลย
ถ้าอย่างนั้น ผมว่ามันเป็นกรรมของมนุษย์ทั้งโลกนี้มากกว่า ที่ไม่รู้จักพัฒนาด้านจิตใจ
ให้เท่ากับวัตถุ ทำลายโลกนี้ตลอดเวลา สุดท้ายธรรมชาติเลยจัดสมดุลให้ใหม่
ถ้ามนุษย์สุญพันธ์ไป โลกนี้จะได้สงบสุขเสียที

 

ใช่ครับ เมื่ออยู่ต่างแดน แล้ว ก็ แล้วไปเถอะ

เลิกมาแก้แค้น ปลุกปั่น ยึดบ้านยึดเมืองอีกเลย

ไม่ต้องมาแก้แค้นแก้ไขอะไรอีกเลยนะ

อยู่สงบๆ เถอะนะ

ปล่อยวางซะบ้างนะ อิๆๆๆ

 

แล้วคุณล่ะครับ...ยังมีอคติอยู่ในใจหรือว่าปล่อยวางแล้วกันแน่

 

กระทู้การเมืองนี่หว่าแสรดๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ขอยืมคอมเมนต์ท้ายเว็บไทยโพสต์ จากผู้ใช้นาม Torsak Tor
เมื่อเธอบอกว่า...จะขึ้นค่าแรง แรงงานก็ตกงานทันที
เมื่อเธอบอกว่า...รถคันแรก อุตสาหกรรมยานยนต์จมน้ำทันที
เมื่อเธอบอกว่า...บ้านหลังแรก คนหลายหมื่นไม่มีบ้านจะอยู่
เมื่อเธอบอกว่า...จะเปิดจำนำข้าว นาแทบทุกนา...จมอยู่บาดาล
เมื่อเธอบอกว่า...จะแจก Tablet เด็ก ป.1 ท่านศาสดา JOB ก็จากไปอย่างไม่หวนกลับ
เมื่อเธอบอกว่า...ลาก่อนน้ำท่วม...เราได้น้ำท่วม (บนป้ายหาเสียงของเธอ)
..................................
555555555555!!!!!!

 

เมื่อก่อนเคยอยู่ในวังวน สับสน แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในวัฏจักร ของความเกลียดชัง เคียดแค้น อยู่วงนอกแล้วรู้สึกว่าดีกว่าค่ะ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปเติมเชื้อไฟให้กับประเทศ แค่นี้ก็บอบช้ำเจียนตาย ไม่ว่าจะจน รวย สวย หล่อ ใต้ เหนือ ออก ตก ต่างก็เป็นคนไทย แล้วจะเค่นฆ่ากัน เอาชนะกันไปจนตายเหรอค่ะ ถ้าทุกคนให้อภัย คิดบวก เชื่อว่าประเทศไทยยังคงเป็นไทย แต่หากยังคงแตกแยก สักวันมันคงเป็นจิกซอที่ขาดหายไป

 

เมืองไทยเป็นแบบนี้ เพราะมีคนไม่ดีปกครองประเทศ โกงกิน คอรัปชั่น สารพัดค่ะ

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านคงโดนเผาจนร้อน พระแม่คงคาเลยบีบน้ำมวยผม
มาดับความร้อนให้

 

ผมว่าเกิดจากธรรมชาติมากกว่าครับ......แต่ถ้าเกิดจากการกระทำของคนก็ต้องเริ่มที่เมืองไทยเกิดสึนามิ สมัยนั้นใครเป็นรัฐบาล น้ำท่วมใหญ่ปีนี้ใครเป็นรัฐบาล

 

เมืองไทยก็ยิงประชาชนด้วยสไนเปอร์ เพื่อยุติการชุมนุมของคนเสื้อแดง เห็นคนตายที่วัดปทุม และตามซอกตึกต่างๆ ตอนนี้เมืองไทยกำลังเจอเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะกทม ที่่น้ำไหลมาทุกทิศ ทุกทาง

หรือนี่คือวิบากรรมที่เมืองไทยต้องชดใช้กรรม[/QUOTE]

แล้วทำไมคุณถึุงคิดว่าเป็นเพราะเหตุนี้คะ ไม่คิดว่าเป็นเพราะอย่างอื่นหรอ...เช่น..เอ่อ ภัยธรรมชาติ เพราะเราทำร้ายธรรมชาติมากเกินไปทำนองนี้ >>

 

คนมีปัญญาไม่ควรยุให้ฝ่ายอธรรมมาจูบปากกับฝ่ายธรรมะโลกมันจะยุ่งเหยิงไปกันใหญ่ อีกอย่างบุญคงไม่ทำงานมั่วส่งเสริมให้ ดี/ชั่ว มามั่วรักกันหรอกจ้ะ(คนจะพ้นทุกข์ได้ต้องไม่ติดทั้งดีทั้งชั่ว)....มึนตึบ

 

ก็จริงครับ เห็นด้วย

ดี กับ ชั่ว มาผสมกันมิได้

บุญ กับ บาป มาผสมกันมิได้

เทพ กับ มาร หรือ โจร กับ ตำรวจ

หรือ อะไร หลายๆ อย่าง เหมือนน้ำ กับ ไฟ

จะมาผสม ประนีประนอม นั้นเป็นไป ไม่ได้เลย

 

ขอโทษด้วยครับที่ทำให้คุณNumtrnไม่พอใจ จริงๆเรื่องพวกนี้มันเป็นสิ่งที่ละเอียดต่อสภาวะอารมณ์ของผู้ที่ประสบภัย จึงทำให้เกิดความขุ่นเคือง ต้องขออภัยอย่างยิ่งครับ
คำว่าดูดวงในความหมายของคนทั่วไป คือศาสตร์แขนงหนึ่งซึ่งอ้างอิงจากธรรมชาติ คือการโคจรของดวงดาวแล้วนำมาตีความหมายตามการโคจรนั้นๆ เพื่อทำนายเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น แต่คำว่าดวงในความหมายของผม พูดกันตามตรงคือบุญบารมีเขาไม่พอ แต่เขาชนะด้วยอำนาจทางวัตถุและสิ่งที่เขาเหยียบย่ำกันมา การจะดูดวงในความหมายอย่างหลังนี้ต้องอาศัยการฝึกจิตให้เกิดญาน อย่างในทางพระพุทธศาสนากล่าว คือ ญานที่ล่วงรู้ในกรรมและการเป็นไปของสรรพสัตว์ จะรู้ได้อย่างไร เพราะทุกชีวิตบนโลกใบนี้ล้วนอยู่ภายใต้กฏของธรรมชาติ กรรมนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เพราะมนุษย์ผู้เป็นธรรมชาติส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ได้กระทำให้เกิดการไม่สมดุลกันของธรรมชาติ กระทำกรรมดี เป็นบวก กระทำกรรมไม่ดีเป็นลบ เมื่อรวมกับประชากรทั้งโลก จึงทำให้เกิดการเสียสมดุล ธรรมชาติจึงต้องทำการปรับสมดุลโดยหลักของธรรมชาติ ซึ่งบางท่านเรียกว่าการชำระล้าง ซึ่งโลกใบนี้ก็เคยถูกการชำระล้างมาแล้ว ภัยพิบัติไม่ใช่พึ่งเคยเกิดมาครั้งเดียว ดังนั้นเมื่อผู้ฝึกจิตท่านใดก็ตามที่สามารถเชื่อมจิตเข้ากับธรรมชาติได้ และกลายเป็นสิ่งเดียวกันก็จะพบสัญญานบอกเหตุในธรรมชาติได้ จะพบกระแสแห่งบุญและกรรมที่คอยส่งผลให้แก่ทุกสรรพสัตว์ในโลกใบนี้ จุดไหนในโลกใบนี้ใกล้จะเกิดเหตุ มีคนตาย หรือคนเกิด จะเกิดภัยต่างๆในโลกใบนี้ เป็นต้น โลกใบนี้ไม่ใช่ 1+1 = 2 อาจจะบวกกันแล้วติดลบ อาทิบางคนอาจมีทรัพย์เงินทองมากมาย มีความรู้สูง แต่ไปทำธุรกิจแล้วกลับพังครืน เพราะเขาไม่รู้เรื่องของกระแสกรรมที่เข้ามาตัดรอนในวิถีธุรกิจของเขา หรือบางคนอาจทำงานด้วยเงินทุนเพียงไม่กี่พันบาทแต่ยิ่งทำกลับยิ่งสำเร็จรำรวย และเขาก็ไม่รู้ถึงกระแสบุญที่เข้ามาหนุนนำในวิถีของเขา ผู้ที่่รู้นั้นต้องฝึกจิตเพื่อให้เกิดญานในการรู้แจ้งเพื่อเข้าถึงหลักของกรรมจึงจะเข้าใจ ผมไม่อยู่ข้างเหลืองหรือแดงเพราะไม่ยุ่งเรื่องการเมือง เพราะไม่ว่าข้างไหนเมื่อทำผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก ผู้ตัดสินนั้นเขาคอยอยู่ ตอนมีสังขารห่อหุ้มจิตจะหลบจะหนี ต่อให้ฆ่าคนตาย แต่ถ้าตัวเองมีเงินทองและอำนาจ สมุนและบริวารมากมายอยู่ การที่เขาจะรับผลกรรมนั้นทำได้อยาก เพราะอำนาจแห่งเงินทอง และวัตถุคอยขวางกั้นอยู่จึงเข้าถึงได้อยาก ต่อเมื่อเขาหมดซึ่งอำนาจและเงินทองเขาอาจต้องรับผลแห่งกรรมนั้น และเมื่อใดที่เขาไม่มีสังขารห่อหุ้มจิตเมื่อนั้นเขาจะเข้าสู่การตัดสินในโลกแห่งจิตวิญญานโดยไม่มีสิ่งใดจะมาถ่วงตราชั่งนั้นได้ นอกจากบุญและบาปที่ได้กระทำเมื่อยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ต้องการไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใดแต่ต้องการให้เราฝ่าฟันมันไปให้ได้และเตรียมพร้อมที่เผชิญกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งทุกอย่างอาจจะเกิดหรือไม่ก็ได้ เพราะ 1+1 ไม่เท่า 2 ทุกอย่างบนโลกวัตถุนั้นอาจใช่แต่ในส่วนของกรรมที่เราเข้าไปไม่ถึงอาจมีผลบางอย่างเข้ามาด้วย สุดท้ายผมต้องขอโทษในสิ่งที่เขียนไปทั้งหมดอย่าให้พวกเราเกิดกรรมที่ไม่ดีต่อกันเลยเพราะทุกคนเกิดมาต้องพบกับความทุกข์ในโลกเหมือนกัน ผมก็เคยถูกน้ำท่วมไม่มีที่จะอยู่เช่นกัน ประสพความทุกข์เข็ญในความเป็นมนุษย์เหมือนกัน จึงได้ใฝ่หาหลักธรรม เพื่อให้เข้าใจหลักของกรรมที่ส่งผลต่อตนเอง เพื่อที่จะให้อยู่กับมันได้โดยให้ทุกข์น้อยที่สุด ขอให้ทุกอย่างที่เลวร้ายจงผ่านพ้นไปให้เร็วที่สุดครับ

 

ตามคำพยากรณ์บอกว่าจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ คนทุกคนจะมาสามัคคีกัน ไม่แบ่งแยกสี แต่ขณะนี้เราคิดว่าภัยพิบัติครั้งนี้ยังไม่ใหญ่หรอกนะ เพราะการแจกของช่วยเหลือยังแบ่งแยกสีอยู่เลย สงสัยจะต้องหนักกว่านี่ที่เรียกว่าไม่มีสีใด พวกใดมาแจก เพราะทุกคนต่างต้องเอาตัวรอดกันเอง จริงม๊ะ อยากให้ทุกคนคิดว่าครั้งนี้คือการฝึกซ้อมไว้เพื่อตั้งรับสำหรับคนที่ไม่เชื่อ จะได้เชื่อพวกเรากันบ้างบางคนเกิดมา 80 ปีไม่เคยต้องมาอยู่ศูนย์อพยพตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่าเป็นอย่างไรทรัพย์สมบัติเป็นของนอกกายน้ำท่วมครั้งนี้ตู้ ของทั้งหลายพังยับเงินเลิกสะสมแล้วตอนนี้หันมาสะสมบุญ นั่งสมาธิดีกว่าจิตใจสบายดี

 

ใช่ครับ เกิดภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้ได้ข้อคิดหลายอย่าง ทรัพย์สินเงินทองของต่างๆ เราชอบสะสมกัน แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญในการสะสมบุญกุศลเท่าที่ควร หลายรายซื้อรถมาด้วยราคาแสนแพง แล้วต้องมาจมน้ำ เอาไปจอดที่อื่นโดนชน โดนขโมยรถ โดนทุบรถขโมยของ บ้านจมน้ำโดนโจรเข้าไปลักทรัพย์สิน เกิดความเสียหาย ยากลำบากไปทั่ว เกิดมาไม่เคยเจอภัยพิบัติใกล้ตัวอย่างนี้มาก่อน ก็ได้เจอแล้ว และภัยจะมีอีกเพื่อล้างคนไม่ดีให้ตายไป