น้องใหม่! ประสบการณ์ใช้,โชว์,แชร์...@_@

เหรียญกลมพระพุทธชินราชหลังพระนเรศวร รุ่น 100 ปี พิษณุโลกพิทยาคม (ร.ร.ชาย) เนื้อกะไหล่ทองหน้าเงิน สวยมากครับ พิธีเยี่ยม หายากครับ

พิธียิ่งใหญ่ พิธีมหาจักรพรรดิ์ครั้งที่ 3 รุ่นอนุสรณ์ 100 ปี โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม วาระในการจัดสร้างก็เนื่องในโอกาส ครบรอบ100 ปี ร.ร.ที่เก่าเเก่ที่สุดใน จ.พิษณุโลก

คณะผู้สร้างได้รวบรวม ฉนวนมวลสารของรุ่น 2515 ทั้งหมดที่เหลืออยู่ตามบุคคลต่างๆ ได้นำมารวมไว้ในรุ่นนี้ เเละสมเด็จญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชทรงจารเเผ่นยันต์ ทอง ทองแดง นาก ของรุ่นนี้ด้วยตัวเอง เริ่มพิธีตั้งแต่ 29 ก.ค. 2541 ซึ่งถือเป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรเสด็จขึ้นครองราช จนถึง 3 พ.ค 2542

ณ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวังจันทน์ จ.พิษณุโลก พิธีพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ และเป็นเหรียญจากเมืองพิษณุโลก ดินแดนถิ่นกำเนิดของสมเด็จพระนเรศวร ที่ไปดังและมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด จากทหารที่นำติดตัวไปปฏิบัติภารกิจที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้

 

พระเครื่อง - วัตถุมงคล เก็บบูชาไว้สวยๆๆ มาลงโชว์ แชร์ กันค่ะ
1. สมเด็จผงน้ำมันปรกโพธิ์ฐานผ้าทิพพย์ หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท สภาพชำรุดกะเทาะมุมนิดนึง เห็นเนื้อใน...

 

2. พระสังกัจายน์เนื้อผงใบลาน หลวงพ่อกวย มีกริ่งเสียงดังไพเราะ.. ..มีจารที่ก้นด้วย

 

3. เบี้ยแก้ หลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว พกติดตัวไว้ สำหรับแก้ดวงตก ดวงซวย เสริมบุญบารมีโชคลาภวาสนา กันโดนของ กันคุณไสย และอวิชาต่างๆ หลวงปู่เจือ ปิยสีโล” พระเกจิอาจารย์ แห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี จ.นครปฐมเป็นผู้สืบทอดมหาพุทธาคม สายตรงสำนักวัดกลางบางแก้ว โดยเฉพาะวิชาการจัดสร้างเบี้ยแก้ อันเป็นสุดยอดวิชาของหลวงปู่บุญ และหลวงปู่เพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว
นะเมตตามหาราชา อะเมตตามหาเสนา อุเมตตาจะมหาชนา สัพพะสิเนหา จะปะชิตา สัพพสยังจะมหาลาภัง ราชาโกธังวินิสสันติ สัพพะโกธังวินัสสันติ
ใช้ดีทุกด้าน เป็นเบี้ยแก้ที่ยอมรับ และโด่งดังที่สุดของประเทศไทย

 

4. ตะกรุดลายมือหลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน
ดอกนี้เป็นตะกรุด ลงยันต์ยันต์ใหญ หายาก!!! สุดๆๆๆตะกรุดลายมือหลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เป็นเครื่องรางที่หายาก!!! อีกอย่างของท่านค่ะเพราะทำออกมาไม่มากนัก ตัวจริงต้องจบที่ลายมือของหลวงพ่อทุกดอกค่ะ หลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ท่านคือสุดยอดเกจิอาจารย์แห่งเมืองสองแคว พิษณุโลก พุทธคุณสูงด้านทุกด้าน คงกระพันชาตรีเป็นเลิศ (((หลวงพ่อพันธ์ ชาตะ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๔๓๖ มรณะ เมื่อ ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๘ สิริอายุได้ ๘๒ ปี))) """หลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน ท่านคือเทพเจ้าแห่งเมืองสองแคว พิษณุโลก เหนียวเข้าถึงกระดูกขนาดขวานยังบิ่น แมลงวันไม่ได้กินเลือดค่ะ"""

 

5. ซองยาหอมสว่างอารมณ์ ตราฤาษีทรงม้า นายห้างฮวด แห่งตลาดสามชุก ได้สูตรยาหอมจากหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ไปปรุงจำหน่ายและขออนุญาตหลวงพ่อมุ่ย พิมพ์รูปหลวงพ่อมุ่ย ด้านหน้าซอง วันที่นายห้างเอายาไปแจกที่วัด ชาวบ้านใช้ยาแล้วทิ้งห่อยาที่มีรูปหลวงพ่อ ตกอยู่ตามพื้นมีคนเหยียบย่ำ ซองยาหอมรุ่นต่อมาจึงได้นำรูปหลวงพ่อออก คงเหลือไว้แต่ตราฤาษีทรงม้าจนมาถึงปัจจุบันครับ ซองยาหอมนี้มีประสบการณ์ ทางด้านเมตตาและคงกระพันมาแล้ว
ซองยาหอม ตราฤาษีทรงม้า ซึ่งหน้าซองเป็นรูปท่านถือพัดหนุมาน ซึ่งเจ้าของโรงงานได้ทำขึ้นเมื่อราวปี 2497 และถือเป็นวัตถุมงคลหายากชิ้นหนึ่งของหลวงพ่อ
ซองยาหอมฤาษีทรงม้า หน้าซองรูปหลวงพ่อมุ่ย ถือพัดหนุมาน ถ่ายประมาณปี 2497 โดยเจ้าของโรงงานยาหอม ขออนุุญาตหลวงพ่อและให้ท่านปลุกเสกเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนและการค้า จนดังเป็นที่รู้จักมาจนทุกวันนี้ พุทธคุณดี เด่นด้านเมตตา ค้าขายเจริญรุ่งเรือง หายากมากแบบที่ยังไม่ได้ใช้ มียาอยู่
เจ้าของโรงงานยาหอมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อมุ่ย มีคนในสุพรรณบุรีบอกว่า เมื่อบรรจุยาหอมลงในซองแล้ว ได้นำไปให้หลวงพ่อมุ่ย ลงคาถาอีกที ไม่รู้จริงเท็จประการใด แต่ซองยาหอมแบบนี้ เค้าเล่นหาเก็บกันมาก หายากมากแล้วเสียด้วย ยิ่งมียาซองเดิมยิ่งหายากมาก ใช้สูตรยาของหลวงพ่อมุ่ย
ซองยาหอมที่มีรูปหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ โดยเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นลูกศิษย์ได้ขออนุญาตหลวงพ่อมุ่ยนำสูตรยาหอมของท่านมาผลิตขายและขอใช้รูปของท่านติดหน้าซองยา ท่านอนุญาตให้ทำ แต่พอผลิตออกมาแล้ว ชาวสุพรรณไม่พอใจและเห็นว่าไม่สมควร จึงเลิกผลิต ตอนเปิดบริษัทได้นิมนต์ท่านไปทำพิธี พร้อมกับมีกระดาษยันต์ที่แจกมาในซองยาด้วย แต่พอมีเสียงทักท้วง รุ่นต่อมาจึงเปลี่ยนรูปหน้าซองเป็นพระฤาษีทรงม้าและกระดาษยันต์ก็ไม่ได้แจกออกมา คงมีแต่ซองยาชุดแรกเท่านั้นที่ออกสู่ตลาด เข้าใจว่าคงจะได้รับการปลุกเสก เพราะเคยมีคนพกซองยาแล้วบังเอิญถูกคู่อริยิง แต่ยิงไม่ออก ทั้งเนื้อทั้งตัว มีแต่ซองยารูปหลวงพ่อมุ่ยเพียงอย่างเดียว จึงทำให้กลายเป็นของหายาก

 

6. แหวนธงชาติยุคแรก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี

 

7. พระรอดมือโต ลพ.กวย เนื้อดินผสมผง มือโตๆ

 

8. สมเด็จหูบายศรี ลพ.กวย เนื้อดินผสมผง หลังฝังพลอยแดง

 

9. พระขุนแผนไข่ผ่าซีก หลวงพ่อดี วัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี

 

10. ตะกรุดสาริกาดอกทอง หลวงปู่เชิญ เทพนภา เจ้าตำรับตะกรุดสาริกาดอกทอง ที่โด่งดัง เป็นเครื่องรางด้านเมตตามหาเสน่ห์ ของหลวงปู่เชิญ เทพนภา มีท่านที่บูชาไปแล้วเห็นผลหลวงปู่ฯบอกด้วยว่าตะกรุดสาลิกาดอกทองนั้น เป็นวิชาของนางไม้จากต้นดอกทองมาเข้าฝันบอกวิชาทำตะกรุดนี้ให้ฆราวาสซึ่งเป็นอาจารย์ของฆราวาสที่หลวงลุงหนั่นไปเรียนมาและหลวงปู่ได้ไปเรียนตรงด้วย และท่านยืนยันว่าตะกรุดสาริกาทองต้นตำรับนั้นม้วนรวมสามดอกอยู่ในน้ำมันหอม ที่แยกเป็นสามดอกนั้นประยุกต์ทีหลังให้คนทั่วไปคาดเอว ส่วนที่อยู่ในน้ำมันหอมนั้นให้เฉพาะศิษย์พิเศษใกล้ชิดจริงๆเท่านั้น จอมพลสฤษฏ์ได้ไปตอนยังไม่ได้เป็นนายกดูเหมือนจะเป็นพันโท
ท่านบอกว่าแรงมากถือเป็นที่สุดของวิชา ถ้าไม่รักชอบใครอย่าไปมองเขาด้วยสายตาพิศวาส เดี๋ยวเขาจะตามมา
สวยมากๆๆ

 

11. รูปหลวงพ่อกวย อัดจากฟิล์มต้น แจกในงานวันไหว้ครู

 

12. เหรียญ 9 สังฆราช 9 มหาราช วัดเทพากร ธนบุรี กรุงเทพฯ ปี 14-15
เหรียญดี พิธีใหญ่ ราคาเบาๆ เกจิอาจารย์ดังๆ ในสมัยนั้นร่วมปลุกเสกหลายท่าน เช่น หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทองหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช หลวงพ่อ แดง วัดภูเขาหลัก ครูบาวัง วัดบ้านเด่น หลวงพ่อ จวน วัดหนองสุ่ม หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง ฯลฯ

 

น้องใหม่! ประสบการณ์ใช้,โชว์,แชร์ 2...@_@

1. พระพุทธชราช เนื้อชินเงิน รุ่นประทานพร ปี2547 พิษณุโลก
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ " พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์ลงน้ำรัก ปิดทอง
ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปีพุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์และพระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรคโลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา
พระพุทธชินราชใบเสมา รุ่นประทานพร เนื้อชินเงินหรือเนื้อปรอทขาว จัดสร้างขึ้นในปี 2547 ข้างหลังด้านล่างตอกโค้ด นะ ขนาดองค์พระ สูง 4.0 ซม. กว้าง 2.5 ซม.ครับ สำหรับองค์นี้เป็นผิวปรอทขาว
พุทธคุณ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย
สภาพ สวย

 

ทุกรายการสามารถเข้าดูรายละเอียด หรือบูชาได้ที่เว็ปบอร์ด หรือสามารถติดต่อสอบถามที่ 061-561-2231 หรือ ไอดีไลน์ jacktheripper1980

 

2. หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2505 หลังเตารีด พิมพ์เอ เนื้อนวโลหะ

 

ทุกรายการสามารถเข้าดูรายละเอียด หรือบูชาได้ที่เว็ปบอร์ด หรือสามารถติดต่อสอบถามที่ 061-561-2231 หรือ ไอดีไลน์ jacktheripper1980

 

3. สังกัจจายน์ ลพ. กวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
สังกัจจายน์ ลพ. กวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท ต้องมีกริ่งเสียงดังไพเราะ..

 

4. พระกรุซุ้มกอ กำแพงฯ
พระกำแพงซุ้มกอ เป็นพระ 1 ใน 5 ของ พระชุดเบญจภาคี ที่เป็นที่หมายปองของทุกคนเมื่อเข้ามาสู่วงการพระเครื่อง อันประกอบด้วย พระสมเด็จ วัดระฆัง ธนบุรี พระรอด กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูน พระซุ้มกอ กรุทุ่งเศรษฐี จ.กำแพงเพชร พระผงสุพรรณ กรุวัดศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี และพระนางพญา กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก
พระซุ้มกอ เป็นพระเนื้อดินเผา อย่างละเอียด องค์พระมีขนาดกะทัดรัด และมีความงดงามในทุกมุมมอง ลักษณะขององค์พระ ตัดขอบบนโค้งเหมือนอักษรตัว ก.ไก่ อันเป็นที่มาของชื่อ พระซุ้มกอ มี ๔ พิมพ์ใหญ่ๆ คือ พิมพ์ใหญ่ มีกนก และไม่มีกนก พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก และ พิมพ์ขนมเปี๊ยะ (มีปีกลักษณะกลมๆ) ** พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ มีจุดเด่น คือ ซอกแขนลึกมาก ผิดจากพิมพ์อื่นๆ ที่ซอกแขนมักจะตื้น พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่
องค์นี้เป็นเนื้อแดงจัดจ้าน สวยๆๆ เก่าได้ที่

 

5.นางพญา พิมพ์อกนูนใหญ่ สร้างในยุคขององค์พระวิสุทธิกษัตรีย์ ไม่ทราบที่
พระนางพญามีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครคือ ใช้ตอกมุงหลังคาตัดด้านข้างทั้งสามด้าน อาจมีบางท่านสงสัยว่าทำไมจึงใช้ตอกตัด ทั้งๆที่ในสมัยนั้นก็มีมีดใช้แล้ว นั่นเป็นเคล็ดลับของพระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้น ที่ต้องการตอกและตรึงเวทมนต์คาถาให้อยู่คู่กับพระนางพญาตลอดไป ไม่ต้องการให้ (ขอม) หรือใครมาแกล้งทำให้เสื่อมหรือคลายความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ไปได้

พระนางพญา กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก ( แท้ ) ด้านข้างทั้งสามด้าน ต้องมีรอยตอกตัดแยกองค์พระออกจากกันชัดเจน ฝีมือมนุษย์ไม่สามารถทำเทียมเลียนแบบความเก่าแก่ตามธรรมชาติได้ โดยเฉพาะเนื้อพระต้องแข็งและแกร่งเหมือนหิน หรือฟอสซิล ( Fossil )

การสร้างพระเครื่องแต่ละครั้งครูบาอาจารย์จะนิยมสร้างตามจำนวนพระธรรมขันธ์คือ 84.000 องค์เสมอ

การจัดสร้างพระพิมพ์แต่ละครั้ง จะมีแม่พิมพ์หลายอัน แม่พิมพ์แต่ละอันพิมพ์ได้ครั้งละ 3 องค์ คือพิมพ์ออกมาติดกันสามองค์ แล้วนำมาตัดแยกออกด้วยตอกมุงหลังคา เนื่องจากในขณะนั้น อยู่ในระหว่างศึกสงคราม ต้องทำกันอย่างรีบร้อน ทำให้ส่วนต่างๆขององค์พระมีการผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่สภาพโดยรวม ยังคงอยู่ในสภาพเดิมๆ พระในแม่พิมพ์เดียวกันทั้งสามองค์ จะไม่เหมือนกันเลย สภาพของดินที่นำมาสร้างพระ ก็มีส่วนทำให้การพิมพ์พระเครื่องนั้น คลาดเคลื่อน ผิดเพี้ยนไป เนื่องจากในขณะที่พิมพ์พระลงไปในแม่พิมพ์ใหม่ๆ ดินยังสดและชื้น แต่พอนำไปเผาไฟก็มีการหดตัวตามธรรมชาติ ทำให้รูปทรงต่างๆขององค์พระผิดเพี้ยนไป เช่นเบี้ยวไปบ้าง งอไปบ้าง แอ่นไปบ้าง มีเศษดินตกหล่นไปเป็นส่วนเกินบ้าง ขึ้นอยู่ที่อุณหภูมิของไฟที่เผา

เนื้อดินที่นำมาสร้างพระเครื่องแต่ละยุคแต่ละสมัย ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ถึงแม้จะไปนำดินในที่เดียวกันกับดินที่สร้างพระเครื่อง เมื่อหลายร้อยปี มา สร้างใหม่อีกครั้ง เนื้อดินก็แตกต่างกันไปแล้ว ฝีมือมนุษย์ไม่สามารถทำเทียมเลียน แบบธรรมชาติที่ผ่านกาลเวลามานานๆได้ ฉะนั้นการสังเกตพระเครื่องเนื้อดินเผาว่า ใหม่หรือเก่า ก็ดูได้จากสีและเนื้อดินที่นำมาสร้าง

หากท่านใดดูความแตกต่างระหว่างของเก่ากับของใหม่ ดินเผาเก่ากับดินเผาใหม่ไม่ออก ก็อย่าไปหวังว่า จะได้พระเครื่องแท้ของเก่าจริงๆไว้ครอบครอง การดูรูปทรงขององค์พระและดูตำหนิอย่างหนึ่งอย่างใดตายตัว จึงไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาตัดสินว่า เป็นพระแท้หรือไม่แท้ พระในแม่พิมพ์เดียวกันทั้งสามองค์ ก็ไม่เหมือนกัน แกะออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน โดยบุคคลคนเดี่ยวกัน เวลาต่างกันไม่กี่นาที ก็ไม่เหมือนกันแล้ว การสร้างพระเครื่องจากแม่พิมพ์หลายอัน ทำโดยบุคคลหลายคน จะมีตำหนิเหมือนกัน ที่เดียวกันย่อมเป็นไปไม่ได้

ปกตินักนิยมสะสมของเก่าทั่วไป จะอนุรักษ์ล่องลอยความเก่าแก่ทางธรรมชาติ ไว้ให้อยู่ในสภาพเดิมๆ จะไม่ทำลายหลักฐานความเก่าแก่ตามกาล เวลาที่ผ่านมาทิ้งไปโดยเด็ดขาด ถ้าเป็นพระเครื่องก็ยิ่งจะรักษาสภาพ ความเก่าแก่ไว้เป็นหลักฐานในการสร้าง ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปทำลายทิ้ง การเชื่อเหตุผลทางธรรมชาติ ย่อมดีกว่าเชื่อเหตุผลจากบุคคล เพราะธรรมชาติไม่เคยโกหกหลอกลวงใคร