นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (ที่สุดแห่งปี...รุ่นอภิญญาใหญ่)

การใช้ชนวนโลหะอาถรรพ์ตีมีด หากเปรียบเทียบ กับพระผง หรือพระเหรียญ ก็คงเหมือนผงพุทธคุณทำพระผง โลหะแผ่นจารหลอมทำเหรียญนั่นละครับ

ปัญหาสำคัญคือชนวนตีอาวุธ ต้องหาเหล็กอาถรรพ์นี่ละครับ หากมาจากวัดก็ผาติกรรม ให้เรียบร้อย หรือทำบุญอุทิศให้ผู้เคยร่วมสร้างกันมา โชคดีมีผู้เมตตามอบสนับสนุนมามาก กับที่รวบรวมมาเอง

เหล็กน้ำพี้ นี่ สรรพคุณก็ชัดเจน ตามคำร่ำลือ

โลหะต่าง ๆ ก่อนนำไปหลอม ได้นำเข้าพิธีไหว้ครู ณ วัดแห่งหนึ่ง แล้วไปหลอมผสมชนวน เหล็กน้ำพี้ที่อุตรดิตถ์เป็นแท่งมา รอการตีเป็น อาวุธตามต้องการ

 

..จากเคยสอบถาม ผู้รู้ทางเวทย์หลายท่าน แรก ๆ มักเข้าใจว่ามีดหมอ มักแค่เอาไว้ไล่ผี แต่จริง ๆ ผู้รู้ทางเวทย์ ได้เล่าวิธีใช้หลายอย่าง
- ไว้แหกโรค คือหากเป็นโรคภัย ปวดเมื่อย ปวดไม่ทราบสาเหตุ รักษาไม่หายขาด ก็นำมีด มาอาราธนา แล้ว ปัดตามจุดที่ปวดเมื่อย คือปัดขับไล่ออกไปให้หาย (ปัดออกไปให้พ้นจากร่างกาย)

- ไว้บูชา เป็นมหาอำนาจเสริมตบะบารมี

- อาราธนาทำน้ำมนต์ หรือทำพิธีกรรมต่าง ๆ

....ผมเคยเห็น หลวงปู่ประหยัดให้ศิษย์ ทำพิธี ถอนอาถรรพ์ที่ดิน ก่อนปลูกบ้าน คือ ขุดหลม ไว้ 5 จุด (4 ทิศ และตรงกลาง) จากนั้นนำดาบทำพิธี ตวัดสางดาบ ตรงหลุม เพื่อขับไล่อาถรรพ์ จากนั้นนำดินใหม่ ที่นำน้ำมนต์ ปะพรมแล้วลงไปในหลุม เป็นอันเสร็จพิธี...

 

น่าสนใจ
น่าติดตาม

 

น่าสนใจ
น่าติดตาม

 

ใจเย็น ๆ ครับ กว่าจะเสร็จ เรียบร้อยคงปลายตุลาคม หรือต้นพฤศจิกายนครับ งานนี้ยากกว่าทุกงานครับ

 

ภาพใบกริชที่ ตีเสร็จแล้ว ชุดนี้ทำเป็นแบบปากกา จะได้พกง่าย และแตกต่างจากที่พบ ทั่วไป...

ความยากตรงเป็นงานฝีมือ ต้องทำทีละชิ้น และอยู่ในการควบคุมของผู้รู้ทางนี้โดยเฉพาะครับ ซึ่งได้ทำตามที่ ผู้รู้แนะนำมาดังนี้

1. จากการเริ่มต้นก็ถวายสังฆทาน เพราะชนวนที่ได้รับมาจากหลายที่ จึงถวายสังฆทานชำระหนี้สงฆ์ต่างๆ

2. ชนวนที่นำมาก่อนตี ได้นำไปเข้าพิธีไหว้ครู

3. หลังตีเสร็จ ก็ได้นำไปเข้าพิธีหล่อพระพิราพ พิธีทางเทพฤาษี

4. หลังจากเสร็จเรียบร้อยทุกประการ นำไปอธิษฐานจิตเดี่ยว (ผู้รู้ย้ำไม่ใช่พระเครื่องที่จะนำตระเวนเสกหลายองค์ หลายที่ ต้องอธิษฐานจิตเดี่ยว โดยครูบาอาจารย์ผู้รู้ทางวิชา ตามความพอใจของท่าน ซึ่งยังไม่ทราบว่ากี่วัน กี่อาทิตย์ ห้ามไปเร่งเอาเด็ดขาด)

ซึ่งกว่าจะเสร็จสิ้นก็ใช้ระยะเวลาอีกพอสมควรครับ

 

การใช้ มีด หรือ อาวุธทางไสยศาสตร์ (ขอใช้คำนี้เพราะ เป็นเช่นนี้จริง ๆ ) มีหลักการใช้ปลีกย่อยมากมาย ขอยกตัวอย่างที่ผู้รู้วิชา ท่านได้เคยเล่าให้ฟัง ในชีวิตจริง

...ครั้งหนึ่ง ท่านได้ไปเผลอทานอาหารที่บ้าน ปรากฎว่า ปวดท้อง ก็พิจารณาตามวิชาท่าน ทราบว่าไปเผลอทานอาหารที่คนอื่นทานมาแล้ว พูดง่ายๆ ทานของเหลือ (ตามหลักคนถือวิชา ห้ามทานของเหลือ คำว่าเหลือ คือ เป็นของที่ทานเหลือในจานของผู้อื่น หากตักแบ่ง หรือบุฟเฟ่ต นี่ไม่ผิด)

ท่านจึงนำมีด มาอธิษฐาน แล้ว ยกขึ้นกำหนดจิต ภาวนา นะโม ....ตัส(พอถึงตรงนี้กลั้นหายใจ) .. สะ สับลงในอากาศ เช้ามา คนที่ท่านก่อนท่านร้องโอดโอยเลย สุดท้ายต้องมาขอขมา..

...หรือไปในป่าเพื่อหาของป่า หากเกิดอาเพศ เช่นมีลมแปลก ๆ หรือกลิ่นแปลก ๆ ก็นำมีด มา ทำเช่นเดิม ภาวนา นะโม ตัส(กลั้นหายใจ) สะ แล้ว ตวัดลงมา เป็นการเบิกทาง..

 

สรุป ชนวน ทั้งหมด ตามที่วงสีแดงในภาพครับ ที่ไม่วงไว้เป็นงานของท่านอื่น

จะเห็นว่าหลัก ๆ คือ ตะปูสังขวานร เหล็กช่อฟ้า และมีดาบ หอกโบราณ ด้วย

ชนวนมีมากจน ผสมเหล็กน้ำพี้ 20 % เหล็กใบเลื่อย 10 %

ชุดนี้ ตั้งใจแต่แรกทำกันเองครับ ทำเฉพาะในกลุ่มเพื่อนๆ ทำตามชนวนที่มี เรียกว่าจะสั่งเพิ่มจำนวนทีหลังยังไม่ได้เลย

มีที่ปรึกษาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทย์ หลังจากเสร็จ ก็ว่ากันเรื่องปลุกเสกอีกครั้ง เราไม่อิงกะแสว่าต้องเสกมาก เสกหลายเกจิ เน้น ไว้ใช้งานจริง

 

สวัสดี ครับ
รออ่าน และ ฟัง ประสพการณ์ดีๆอีกรอบ

ขอบคุณครับ

 

มวลสารทำ เทพอาวุธ อย่างหนึ่ง คือ เหล็กจากแกนกลางฉัตรยอดเจดีย์ครับ ยึดตาม ที่ขุนแผนตีดาบฟ้าฟื้น

เหล็กยอดพระเจดีย์มหาธาตุ ยอดประสาททวารามาประสม

แกนกลางฉัตรทำด้วยเหล็ก ความรู้จากช่างอย่างหนึ่ง เหล็ก จะผสมกับทองเหลือง ทองแดงไม่ได้นะครับ หากจะทำ มี 2 วิธีคือ

1.เผามีดให้ร้อนแล้วตีแปะลงไป
2. ใช้วิธีเชื่อมไปบนมีด

บางแห่งจึงใช้วิธีฝังชนวน คือ ฝังไว้ตรงโคนมีด ดังนั้น โปรดพิจารณาให้ดีนะครับ ที่ว่าชนวนมาก ๆ ผสมกันได้ไหม เหล็กก็ต้องผสมกับเหล็กครับ การผสมเหล็กหลายชนิด ช่างจะไปผสมกันที่อุตรดิตถ์ เพื่อผสมกับชนวนเหล็กน้ำพี้ด้วย


เป็นงานใช้ฆ้อนตีด้วยมือ

ชนวนอีกอย่างคือ เหล็กจากช่อฟ้า

 

ในภาพ เป็นการเทนวะโลหะ ลงตามลายมีด ซึ่งต้องใช้ความร้อนเชื่อม ถ้าเชื่อมไม่ดีจะทำให้พื้นผิวเสีย

อย่างที่ ได้กล่าวไปแล้ว เหล็กจะมีความทนทาน สูงกว่า ทองแดง ทองเหลือง หรือนวะโลหะ และไม่สามารถ หลอมรวมกันเป็นเนื้อเดียวกับโลหะอื่นดังกล่าวมาได้ ถึงได้ก็ไม่เกิน 3 %
หากจะทำ มี 2 วิธีคือ

1.เผามีดให้ร้อนแล้วตีแปะลงไป
2. ใช้วิธีเชื่อมไปบนมีด
3. ฝังชนวนโลหะอื่น (ชนวนอาจเป็นทองแดง ทองเหลือง นวะโลหะ) ฝังลงตรงโคนใบมีดเพื่อความสวยงาม

ในภาพ ใช้วิธีเทนวะโลหะลงบนลายใบมีดครับ ซึ่ง ทำได้แค่เล่มเดียวเพราะกลัวพื้นผิวมีดเสีย เพราะจุดหลอมเหลวสูง ถึงจะไม่เท่ากับเหล็กก็ตาม นับเป็น งานฝีมือที่สวยงาม มีดเล่มนี้เป็นของเจ้าภาพหลักในการตีเทพอาวุธครั้งนี้ครับ

 

สวัสดี ครับ...

ตามอ่าน เรื่องราวดีๆ ที่นำมาบอกเล่า ครับ

 

การบรรจุด้าม ใส่ปลอกปากกาสแตนเลส ทุกเล่ม จะบรรจุไม้มะขามตายพราย และผงมวลสารไปด้วย



ผงชนวนฉัตรเจดีย์ ตะไบผสมในมวลสารด้วย



ผสมกับผงพุทธคุณและประสานด้วยกาวอีพ็อกซี่

 

บอกกล่าวครูบาอาจารย์ตามสมควร

 

สาธุ...

 

รอ....ครับ.

 

บางท่านอาจมีคำถาม เหตุใด จึงต้องมีไม้มะขามตายพราย

ไม้มะขาม มีความเชื่อว่า ภูติผีปีศาจเกรงกลัว นิยมนำมาทำด้ามมีดหมอ

ตายพราย คือ ยืนต้นตาย ตายตามธรรมชาติ มีความเชื่อว่า ขลังกว่าปกติ

เหตุใด จึงทำเป็นแบบปากกา เพราะ พกพาง่ายครับ ในยุคปัจจุบันเราคงไม่สะดวกในการพกมีดหมอแบบ เล่มใหญ่ แม้ผมเองเคยมีแบบมีดปากกา เคยเผลอใส่เป้ นำขึ้นเครื่องบิน ผลปรากฎว่า นำขึ้นไปมาได้หลายครั้ง สอบถามเพื่อนที่ทำงานสนามบิน ทราบว่าเวลาเข้าเครื่อง scan เจ้าหน้าที่อาจเห็นเป็นปากกาเลยไม่สงสัย แต่ไม่แนะนำให้ พาไปแบบนี้อีก เพราะเวลาตรวจค้นจริง ๆ เจ้าหน้าที่จะไม่ให้นำขึ้นเครื่องบินไปด้วย ต้องทิ้งในถังขยะอย่างเดียวครับ



หมายเหตุ ในภาพใบกริชรมเขียวเพื่อป้องกันสนิมครับ ยิงโค้ดรูปกงจักร



ใบกริชเดิมเป็นแบบในภาพครับ

เราให้รมเขียวเพื่อป้องกันสนิม

 

โดยสรุป ณ ปัจจุบัน กริชได้เข้าพิธีมาแล้ว 2 พิธีคือ

เมื่อรวบรวมชนวนมวลสารทั้งหมด ได้นำเข้าพิธีไหว้ครู ต้นเดือนสิงหาคม 2560





หลังตีใบกริชขึ้นรูป ยังไม่ได้ประกอบด้าม ยิงเลเซอร์ ได้นำเข้าพิธีหล่อปู่ฤาษีเท่าคนจริง และอธิษฐานจิตพระพิราพ




เหลือ ขั้นตอนสุดท้าย คือรอ เสร็จเรียบร้อย นำเข้าพิธีปลุกเสก(เป็นเครื่องรางขอใช้คำว่าปลุกเสก) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดและหนักใจที่สุด .... เพราะเหตุใด...???

 

อักขระคาถาที่ลง ไม่ซ้ำแบบใครครับ ยิงโค้ดเลเซอร์รูปกงจักร

โดยสรุปชนวนมวลสารการตีกริชนี้ หลัก ๆ
1.เหล็กตะแกรงรองร่างตอนเผาพระอริยเจ้าท่านหนึ่ง (ขอสงวนนามเพื่อความเหมาะสม) ตามภาพที่ได้ลงไปแล้ว โดยเจ้าของตะแกรงไปผาติกรรมมา แล้วแบ่งมาให้เป็นชนวน

2.ตะปูตอกยึดทองจังโก๋พระธาตุ ตะปูสังขวานรจากอุโบสถเก่าอายุ 200 กว่าปี ที่รื้อถอนเพราะแผ่นดินไหว จาก จังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ

3.เหล็กจากช่อฟ้า ตอนซ่อมแซม

4. ขวานเหล็กโบราณ ยุคสัมฤทธิ์ ทวารวดี

5.เหล็กแกนกลางฉัตรเจดีย์ ตามภาพที่ได้ลงไปแล้ว

6.แร่กายสิทธิ์สุริยันราชา ทองปลาไหล ฯลฯ



ประมาณอาทิตย์หน้าจะมาเล่า ว่า ขั้นตอนสุดท้าย หนักใจที่สุดและยากที่สุดอย่างไร ...คือขั้นการเสกปิด...

 

ชนวนมวลสารทั้งหมดตามภาพที่วงไว้ครับ ที่ไม่ได้วง เป็นงานของท่านอื่น





หลังจากหลอมแล้วผสมเหล็กน้ำพี้ เหล็กใบเลื่อยแล้วก็เป็นดังภาพที่วงไว้ มีประกายแดง ๆ ชมพูอาจมาจากแร่สุริยันราชา