ทำไม พระอาจารย์สายหลวงปู่มั่นไม่สอนอภิญญา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ดับกิเลสทั้ง5, 10 ตุลาคม 2008.

  1. prospervitna

    prospervitna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +11
    ถ้าผมบอกว่า อภิญญา มีไว้เพื่อซ่อมแซมสังขาร กับ ใช้สุขทาง อภิญญาเพื่อให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วขณะที่เรายังมีชีวิต
    จะถูกมั้ยครับ

    (ขณะที่เรามีความสุขเวลาจะผ่านไปเร็วมาก ความสุขที่เป็นทิพย์บนโลกมนุษย์เวลาจะเร็วแค่ไหนกันคิดดูสิครับ•)

    *[สำหรับคนที่มีความทุกข์ เวลา 1 นาทีของเขานั้นช่างยาววว นานน เหลือเกินนน]*
     
  2. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ต้องขอโทษด้วยนะครับ

    แต่ผมไม่แน่ใจว่าสรุปแล้วเนื้อหาประเด็นของกระทู้นี้คืออะไรกันแน่
     
  3. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    ใครก็ตามที่สอนอภิญาญนั่นก็แสดงว่าไม่รู้จริง อภิญาญจะเกิดขึ้นเองก็ต่อเมื่อได้ฌาน1จนถึงฌาน4 และยังต้องรอระยะเวลาต่อไปอีกถึงจะได้อภิญาญ โดยที่ผู้ปฎิบัติเองไม่ต้องแสวงหาอภิญาญให้เมื่อย
     
  4. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    สาธุ สาธุ สาธุ


    เปิดจิต ก็เห็นใจ
     
  5. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    อุปมา เรื่องของผู้ฝึกสมาธิ


    ผู้สนใจสมาธิร้อยคน จะฝึกสมาธิหนึ่งคน

    ผู้ฝึกสมาธิร้อยคน จะได้อัปปนาสมาธิหนึ่งคน

    ผู้ได้อัปปนาสมาธิร้อยคน จะได้ฤทธิ์หนึ่งคน

    ผู้ได้ฤทธิ์ร้อยคน จะสนใจละกิเลสหนึ่งคน

    ผู้สนใจละกิเลสร้อยคน จะละกิเลสเบื้องต้นได้หนึ่งคน

    ผู้ละกิเลสเบื้องต้นได้ร้อยคน จะสนใจละกิเลสเบื้องสูงหนึ่งคน

    ผู้สนใจละกิเลสเบื้องสูงร้อยคน จะละกิเลสได้ทั้งหมดหนึ่งคน


    พ.ธรรมรังสี
     
  6. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กระทู้เก่ามากๆๆๆๆ


    แต่ขอบอกว่า จขกท . ...แล้วละครับ


    ที่พูดว่าไม่สอน ก็เพราะ เป็น พวกห่างไกล ครูบาอาจารย์ ละครับ

    แถม ยิ่งห่างไกล ครูบา อาจารย์ ในเมื่อ ตัวยังเป็น อุบาสก อุบาสิกา พระก็ต้องสอน ทาน ศีล ภาวนา เป็นพื้นฐาน ครับ



    แต่.............

    ถ้า ท่าน ไปบวชเป็นพระ แล้วไปอยู่ไกล้ ครูบา อาจารย์ นั้น

    ครูบา อาจารย์ ท่าน สอน อยู่แล้วครับ

    ตามระดับขั้นของ พระ รูปนั้น นั้น



    เอาว่าไม่อยากพูดมาก


    ครูบาอาจารย์ สายหลวงปู่มั่น สอนแน่ ครับ

    เพียงแต่ว่า คนธรรมดาทั่วๆไป อยู่วงนอกๆ

    ห่างไกล ครูบาอาจารย์ ก็ย่อมเข้าใจผิดๆ ว่า พระสายหลวงปู่มั่น ไม่ได้สอน นั้นเอง


    ลองอ่านหนังสือประวัติพระสายหลวงปู่มั่น ดูก็ได้ ถ้าสังเกตจริง จะเห็นว่า มีบางตอน ที่เขียนไว้ ว่า หลวงปู่มั่น สอน วิธี เอาไว้ครับ


    ปัจจุบันนี้ พระสายหลวงปู่มั่น ที่เป็น ครูบาอาจารย์ ก็ยังสอนอยู่นะครับ

    วิธีใช้ ฤทธิ์ วิธีใช้กำลัง สมาธิ วิธีใช้กำลัง จิต ต่างๆนาๆ ท่านสอนหมดละครับ

    ถ้าไม่ได้อยู่วงใน วงในพระกรรมฐาน ยังเป็น ชาวบ้าน หัวดำๆ ยิ่ง สมาธิ ยังทำไม่ได้ ก็ย่อมเข้าใจว่า ไม่ได้สอน นั้นเอง



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2012
  7. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +572
    - เหตุที่ลูกศิษย์สาย หลวงปู่มั่น ไม่ค่อยพูดถึงเรื่อง อภิญญา มากนะเพราะ พระพุทธเจ้า ก็ไม่ทรงสอน อภิญญา เช่นกัน แต่จะสอนและเน้นลงที่ ธาตุ 4 ขันธ์ 5 เป็นหลัก เพราะทุกคนมีเหมือนกัน ควรจะรู้แจ้งใน ธาตุ 4 ขันธ์ 5 จึงจะเข้าถึงแก่นแท้ของศาสนา ที่สำคัญ พระพุทธองค์ ทรงห้ามแสดงอภิญญาด้วย
     
  8. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    กระทู้นี้ ครบรอบสี่ปีไปเมื่อวันที่ 10เดือน10ที่ผ่านมานี้เอง
     
  9. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245
    เก่าจริงๆ กระทู้ แต่ก็น่าคิด

    ผมเข้าใจ ว่า พระท่าน สอน อภิญญาล้วนๆ

    สติปัฏฐาน 4 มุ่งตรง อภิญญา ข้อที่ 6 ว่าด้วย อาสวะขญาณ
    เป็นสุดยอดอภิญญา

    สังเกตุได้จากพระไตรปิฎก
    ไม่ว่าพระอรหันต์ ที่ท่านบรรลุ
    ไม่ว่าจะ บรรลุแล้ว มีคุณ แห่ง เตวิชโช
    ฉฬภิญโญ
    ปฏิสัมภิทา 4
    สุกขวิปัสโก

    ท่านล้วนเดินทางสายตรงที่มุ่งนิพพานคือทางสายเอก สติปัฏฐาน 4


    หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่พุธ

    ท่านจะเน้น สอนเดินกายคตาสติ อยู่บ่อยๆ หากบริกรรมแล้วจิตไปอยู่แต่สงบนิ่ง


    สังเกตุอีกอย่าง

    พระอานนท์ ท่านก็เดิน กายคตาสติ ว่าด้วยอาการ 32
    แต่พอบรรลุธรรม ท่านก็สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ ด้วยการดำดิน
    ไปโผล่ที่อาสนะ ในการสังคายนา

    สังเกตุไหมว่า หากเดินกายคตาสติ นั่นคือ เป็นการฝึก อิทธิ อภิญญาไปในตัว
     
  10. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245
    เพิ่มเติม ข้อสังเกตุอีกอย่าง

    หากบางท่าน เข้าใจว่า
    พระอรหันต์ที่บรรลุแล้วที่เป็นพระอรหันต์แบบสุขวิปัสโก

    หากเข้าใจว่า การปฏิบัติแบบสุขวิปัสโก คือ ปฏิบัติแบบง่ายๆ ไม่ลำบาก

    สังเกตุจากพระจักขุบาล หรือ พระมหาบาล

    ท่านปฏิบัติด้วยความยากลำบาก จนดวงตาแตก
    แต่ก็ได้ บรรลุอรหันต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 ตุลาคม 2012
  11. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ใช่ครับ การปฏิบัติสายสุกขวิปัสสโกยากมาก
    สายอภิญญา เป็นเหมือนเครื่องบินไอพ่น ยุ่งยากในขั้นตอนแรก
    แต่... ก็อย่างว่า บุคคลใด ได้ฌาน ท่านว่าไม่ห่างพระนิพพาน
    สายอภิญญานี่มีฌานเป็นกำลังใหญ่ อยู่ว่าจะขยับเมื่อไหร่เท่านั้น

    ที่ว่าหลงเตลิดเปิดเปิงในฤทธิ์... ดึงกลับมาได้เมื่อไหร่ก็ฉุดไม่อยู่เหมือนกันนะครับ
     
  12. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245
    (อ่านไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ชวนสังเกตุครับ)



    ปฏิปทาของการสิ้นอาสวะ ๔ แบบ
    ภิกษุทั้งหลาย !
    ปฏิปทา ๔ ประการ เหล่านี้ มีอยู่;
    คือ :-
    ปฏิบัติลำบาก รู้ได้ช้า ๑,
    ปฏิบัติลำบาก รู้ได้เร็ว ๑,


    ปฏิบัติสบาย รู้ได้ช้า ๑,
    ปฏิบัติสบาย รู้ได้เร็ว ๑.


    เข้าใจว่า อาจจะตรงกับ คุณของพระอรหันต์ 4 ประเภท

    และ มงคลขอนี้ ปุพเพกตปุญญตา

    ยกตัวอย่าง



    แบบปฏิบัติลำบาก รู้ได้เร็ว
    ภิกษุทั้งหลาย ! ในกรณีนี้ ภิกษุ
    เป็นผู้มีปกติ
    เห็นความไม่งามในกาย มีสัญญาว่า ปฏิกูลในอาหาร มี
    สัญญาในโลกทั้งปวง โดยความเป็นของไม่น่ายินดี
    เป็นผู้มีปกติตามเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง


    มรณสัญญาก็เป็นสิ่งที่เขาตั้งไว้ดีแล้วในภายใน
    .

    ภิกษุนั้นเข้าไปอาศัยธรรม เป็นกำลังของพระเสขะ


    ๕ ประการเหล่านี้อยู่




    คือ สัทธาพละ หิริพละ โอตตัปปพละ

    วิริยพละ ปัญญาพละ;


    แต่ อินทรีย์ ๕ ประการเหล่านี้

    ของเธอนั้น ปรากฏว่ามีประมาณยิ่ง


    คือ

    สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์.


    เพราะเหตุที่อินทรีย์ทั้งห้าเหล่านี้มีประมาณยิ่ง


    ภิกษุนั้นจึง บรรลุอนันตริยกิจ เพื่อความสิ้นอาสวะได้เร็ว :







    ภิกษุทั้งหลาย !

    นี้เรียกว่า




    ปฏิบัติลำบาก รู้ได้เร็ว.


    *****




    แบบปฏิบัติสบาย รู้ได้เร็ว

    ภิกษุทั้งหลาย ! ในกรณีนี้ ภิกษุ

    เพราะสงัด
    จากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย จึงบรรลุปฐมฌาน
    ทุติยฌาน... ตติยฌาน... จตุตถฌาน ...







    แล้วแลอยู่.


    ภิกษุนั้นเข้าไปอาศัยธรรม เป็นกำลังของพระเสขะ

    ๕ ประการเหล่านี้อยู่ คือ สัทธาพละ หิริพละ โอตตัปปพละ

    วิริยพละ ปัญญาพละ; แต่







    อินทรีย์ ๕ ประการเหล่านี้ของ

    เธอนั้น ปรากฏว่ามีประมาณยิ่ง


    คือ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์

    สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์.

    เพราะเหตุที่อินทรีย์ทั้งห้าเหล่านี้มีประมาณยิ่ง

    ภิกษุนั้นจึง บรรลุอนันตริยกิจเพื่อความสิ้นอาสวะได้เร็ว :
    ภิกษุทั้งหลาย !
    นี้เรียกว่า






    ปฏิบัติสบาย รู้ได้เร็ว.

    ภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านี้แล ปฏิปทา ๔ ประการ.



    จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๐๒-๒๐๔/๑๖๑-๑๖๒.


    <!-- google_ad_section_end -->​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 ตุลาคม 2012
  13. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245
    มีข้อสังเกตุ ในอรรถกถา ในมหาสติปัฏฐาน4


    ผมเข้าใจว่าก็ เหมาะสมกับ ปฎิปทา ของการสิ้นอาสวะ 4 แบบ


    ยกตัวอย่าง


    คำว่า มรรค เป็นเครื่องกำจัดกองทัพมาร
    และคำว่า สัมโพชฌงค์ ๗ โดยอรรถก็เป็นอันเดียวกัน
    ต่างกันแต่พยัญชนะเท่านั้น ฉันใด
    คำว่า เอกายนมรรค กับคำว่า สติปัฏฐาน ๔ โดยอรรถก็เป็นอันเดียวกัน
    ต่างกันแต่พยัญชนะเท่านั้นก็ฉันนั้น

    เพราะฉะนั้น

    บัณฑิตพึงทราบว่า เป็นเอกวจนะ ก็เพราะเป็นทางเดียว
    ด้วยอรรถว่าเป็นมรรค เป็นพหุวจนะ ก็เพราะมีสติมาก โดยความต่างแห่งอารมณ์.

    ถามว่า ก็เพราะเหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสสติปัฏฐานว่ามี ๔ ไม่หย่อนไม่ยิ่ง.

    ตอบว่า ก็เพราะจะทรงให้เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เวไนยสัตว์.

    แท้จริง ในจำพวกเวไนยสัตว์ที่เป็นตัณหาจริต ทิฏฐิจริต
    ผู้เป็นสมถยานิก (ผู้มีสมถะเป็นยาน) และวิปัสสนายานิก (ผู้มีวิปัสสนาเป็นยาน)
    ที่เป็นไปโดยส่วนทั้งสอง คือ ปัญญาอ่อนและปัญญากล้า


    กายานุปัสสนาสติปัฏฐานมีอารมณ์หยาบเป็นทางหมดจด
    สำหรับเวไนยสัตว์ผู้มีตัณหาจริต มีปัญญาอ่อน.


    เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานมีอารมณ์ละเอียด เป็นทางหมดจด
    สำหรับเวไนยสัตว์ผู้มีตัณหาจริต มีปัญญากล้า.


    จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานที่มีอารมณ์ไม่แยกออกมากนัก
    เป็นทางหมดจด สำหรับเวไนยสัตว์ผู้มีทิฏฐิจริต มีปัญญาอ่อน.


    ธัมมา<WBR>นุ<WBR>ปัสสนาสติปัฏฐานที่มีอารมณ์แยกออกมาก
    เป็นทางหมดจด สำหรับเวไนยสัตว์ผู้มีทิฏฐิจริต มีปัญญากล้า.



    อนึ่ง สติปัฏฐานข้อ ๑ ที่มีนิมิตอันจะพึงบรรลุได้โดยไม่ยาก
    เป็นทางหมดจด สำหรับเวไนยสัตว์ผู้เป็นสมถยานิก มีปัญญาอ่อน.


    สติปัฏฐานข้อที่ ๒ เพราะไม่ตั้งอยู่ในอารมณ์อย่างหยาบ
    จึงเป็นทางหมดจด สำหรับเวไนยสัตว์ผู้เป็นสมถยานิก มีปัญญากล้า.


    สติปัฏฐานข้อที่ ๓ มีอารมณ์ที่แยกออกไม่มากนัก
    เป็นทางหมดจด สำหรับเวไนยสัตว์ผู้เป็นวิปัสสนายานิก มีปัญญาอ่อน.


    สติปัฏฐานข้อที่ ๔ มีอารมณ์ที่แยกออกมาก
    เป็นทางหมดจด สำหรับเวไนยสัตว์ผู้เป็นวิปัสสนายานิก มีปัญญากล้า.

    เพราะเหตุดังนั้น จึงกล่าวว่า สติปัฏฐานมี ๔ เท่านั้น ไม่หย่อนไม่ยิ่ง.


    อ่านต่อที่นี่ http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10.0&i=273&p=1
     
  14. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    1 2 3 4นี้ ตายตัว หรือเปลี่ยนแปลง
    หมายถึงใครเป็นข้อ1ต้องข้อ1ตลอดไป หรือเปลี่ยนแปลงได้ เพราะเหตุใด
     
  15. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245
    วิเคราะห์ ตามความเข้าใจ
    เข้าใจว่า อยู่ที่ อินทรีย์ 5


    เข้าใจว่าไม่ตายตัว

    และขึ้นกับการ อบรมอินทรีย์ 5






     
  16. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    ผมก็เข้าใจว่าเปลี่ยนแปลง พิจารณาจากความไม่เที่ยงของ จริต
    เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆตามผลของการปฏิบัติ
    ส่วนใหญ่มีตัณหาจริตเป็นเริ่มต้น
    ปฏิบัติไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ถึงทิฐิจริต ปัญญากล้า

    ทิฐิ...มานะ...

    ***
     
  17. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245
    เคยฟังหลวงปู่พุธ ท่านเทสน์เหมือนกัน

    ท่านแนะวิธี สังเกตุ ของผู้ที่เคยสะสม วิปัสนามาแต่ปางก่อน

    อันนี้เข้าใจว่า วิปัสนามาแต่ปางก่อน
    คือ
    ผู้ที่มี อินทรีย์กล้า มาบ้างแล้วแต่ปางก่อน
     
  18. aroonoldman

    aroonoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +462
    เมื่อได้ปฏิบัติตามแนวมหาสติปัฏฐาน 4 คือ มีสติกำหนดรู้รูปนามที่เป็นปัจจุบัน โดยไม่ขาดสายตลอดกาล วิปัสสนาญาณ 16 ย่อมเกิดขึ้นได้
     
  19. joolong

    joolong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +283
    พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้เน้นสอนเรื่องอภิญญา ให้คนเหาะได้ มีหูทิพย์ตาทิพย์ครับ ท่านสอนให้ตัดกิเลสอาสวะ เป็นพระอริยะบุคคล เป็นหลักๆ ส่วนอภิญญา จะเกิดขึ้นเอง ตามบุญวาสนา อีกอย่างสุขวิปัสกโก ก็ต้องผ่านการฝึกสมาธิมาเหมือนกัน หมด แต่คนที่ได้อัปปนาสมาธิ ใช่ว่าจะได้อภิญญากันทุกคน
     
  20. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770

    พระสูตรนี้ผมเองก็เคยอ่านแล้วครับ
    แล้วท่านทราบหรือไม่ว่า อภิญญาสมาบัตินั้นอยู่ในปฏิปทาใด
     

แชร์หน้านี้

Loading...