ทำสมาธิ ๙ นาที ทุกวัน "ชีวิตดีขึ้นอย่างอัศจรรย์"

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Followdream, 28 สิงหาคม 2012.

  1. Followdream

    Followdream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +12,444
    สัพพะปาปัสสะ อะกะระนัง
    การไม่ทำชั่วช้าสรรพสิ่งบัดสี
    กุศล ละโส จะสัมปทา
    ทำแต่ดีให้ปรากฎ ก่อกุศลให้สมสร้าง
    สะจิตตะ ปะริโย ทะปะนัง
    ทำจิตใจให้มันว่างมโนในใสผ่อง

    สามอย่างนี้พระพุทธเจ้าสอนบอกตลอดกาล

    สร้างโบสถ์ศาลาเป็นร้อยพันหลัง บุญกุศลไม่มากเท่าทำจิตใจให้สะอาด
    การบวชไม่จำเป็นต้องที่วัด บวชได้ที่ใจเรา อยากได้บุญได้กุศลทำเอาเอง
    ตัวใครตัวมันไม่เกี่ยวกันเริ่ม ๒ ทุ่ม ถึง ๒.๕๘ นาที ทำน้อยๆค่อยๆสะสม
    เวลาตายจะรู้แจ้งดอกเราท่าน


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2013
  2. Followdream

    Followdream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +12,444
    พลังสมาธิ จะได้มาไม่ใช่ง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครไม่เคย
    ฝึกสมาธิมาก่อน ตั้งแต่ยังสุขภาพแข็งแรง ครั้นรอให้เจ็บป่วยแล้ว
    ค่อยมาฝึกสมาธิ นั่นนับเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง เพราะยามที่คนเราเจ็บป่วย
    ย่อมต้องมีความเจ็บปวดไม่สบาย ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เวทนาเหล่านี้
    เป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้เกิดสมาธิ จึงต้องอาศัยวิธีอื่น ๆ ต่อไป ดังนี้คือ


    วิธีที่หนึ่ง ใช้คำว่า "โอม" คำนี้มาจากคำว่า "อุ" "อะ" "มะ" กล่าวคือ "อุ"
    ได้แก่ อุตตมธรรม คือธรรมะของพระพุทธเจ้า "อะ" คืออรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า "มะ"
    คือมหาสังฆะ คือพระสงฆ์ ให้ใช้วิธีหายใจยาวให้ท้องพองเต็มที่ แล้วเปล่งเสียง "โอม"
    ขณะที่เปล่งเสียงใช้จิตกำหนดที่ระหว่างคิ้ว ถ้าทำไปแล้วจะเห็นรังสีหรือออร่าของตัวเอง
    เป็นการตรวจสอบออร่าของตัวเองด้วย ถ้าเห็นสีม่วง สีคราม สีน้ำเงินแก่ สีเขียว ส้ม แดง
    ก็แสดงว่าสุขภาพไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเห็นเป็นสีเทา ก็แสดงได้ว่าตนกำลังเจ็บป่วยอยู่
    หรือเป็นโรคอยู่แต่กำลังจะหาย แต่ถ้าเห็นเป็นสีดำแสดงว่าท่านอาจกำลังจะมีภัย
    หรือเจ้าตัวมีโรคทางใจ มีราคะ โทสะ โมหะ ก็จะมีสีดำเช่นกัน

    วิธีใช้เสียงโอม ให้เริ่มจากการใช้เสียงสูงก่อน ร้องให้ยาวที่สุด
    ตามด้วยเสียงโอมที่ต่ำลงทีละน้อย ต่ำลงๆ จนไม่อาจจะเปล่งได้
    เสียงสั่นสะเทือนที่ถูกเปล่งจากสูงมาหาต่ำ จะช่วยสร้างกระตุ้น
    จักระต่างๆ ในตัว มีผลในการรักษาโรคภัยเจ็บ


    วิธีที่สอง เป็นวิธีของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ให้ใช้สวดบทอิติปิโส
    ว่าให้ได้ ๙ จบชั่วอึดใจหนึ่ง คือใช้บทพุทธคุณบทเดียว คิดดูก็แล้วกัน
    ว่าใครที่ตามที่สามารถว่าถึง ๙ จบภายในลมหายใจเดียว ย่อมทั้งท่องบทสวดนั้น
    ได้คล่องมาก และต้องมีลมหายใจยาวมากด้วย เวลาสวดก็ใช้เสียงสูงกลางต่ำ
    ให้เพลินไป เวลาหัดแรกๆ ก็อาจไม่ถึง ๙ จบ ก็ไม่เป็นไร นานๆ ก็ได้เอง


    วิธีที่สาม เป็นวิธีแบบโยคะ หรือปราณยาม คือ :
    - หายใจเข้ายาวๆ นับในใจ ๕
    - จากนั้นอดกลั้นลมหายใจยาวเป็นสองเท่าของลมหายใจเข้า นับในใจ ๑๐
    - แล้วหายใจออกนับในใจ ๕
    - จากนั้นปล่อยให้ว่าง นับในใจอีก ๕
    เริ่มหัดจาก ๕, ๑๐, ๕, ๕ แล้วเพิ่มเป็น ๖, ๑๒, ๖, ๖ ต่อไปเพิ่มเป็น
    ๗, ๑๔, ๗, ๗ จนถึง ๑๐, ๒๐, ๑๐, ๑๐ ด้วยการฝึกเช่นนี้ลมหายใจ
    จะยาวขึ้นๆ เกิดการฟอกล้างลมปราณ สารพิษจากตัวด้วย แถมยังเป็น
    บาทฐานในการฝึกอานาปานสติภาวนาอีกต่างหาก


    วิธีที่สี่ เป็นวิธีของ น.พ.แอนดรูว์ ไวล์ เขียนใน Spontaneous Healing
    กล่าวถึงการกระตุ้นร่างกายให้รักษาตัวเอง โดยสนใจเป็นพิเศษทำอย่างไร
    ให้เราเข้าสมาธิได้ ได้ใช้นักศึกษาทดลองวิธีต่างๆ แล้วสรุปว่า "ถ้าใครอยากจะเข้าสมาธิ
    หรือเข้าฌานได้ จะต้องฝึกลมหายใจให้ยาว คือ ๑ นาทีหายใจได้ ๖ ครั้ง"
    ฝึกจนกระทั่งในภาวะปกติก็เป็นแบบนี้ ถ้าใครฝึกได้อย่างนี้ เมื่อไหร่
    จะเข้าฌานก็จะเข้าฌานได้ง่าย ให้เกิดปีติ เกิดสุขขึ้นในระหว่างเข้าถึงอัปปนาสมาธิ
    หรือถ้าใครฝึกลมหายใจยาว แม้จะเข้าฌานยังไม่ได้ก็จะมีสุขภาพดี จะไม่มีโรคปวดหัว
    ไมเกรน นอนไม่หลับ ความดันสูง ความดันต่ำ หรือระบบย่อยอาหารทั้งหลาย


    วิธีที่ห้า เป็นวิธีที่โบราณอาจารย์ของไทยฝึกสอนกันมา คือให้ดำน้ำทำตะกรุด
    จะมีรูปแบบของตะกรุดแล้วแต่อาจารย์ท่านไหน จะแนะให้ลูกศิษย์เขียนตะกรุด
    โดยใช้ทีแรกเป็นแผ่นทองเหลือง ต่อมาให้สูงขึ้นเป็นเงิน เป็นนาก และเป็นทองคำ
    เมื่อเริ่มเขียนจรดเหล็กจานลง ก็ให้เขียนให้เสร็จแล้วก็ม้วนมาให้อาจารย์ดู
    อาจารย์เพียงแต่ดูก็จะรู้ว่าลูกศิษย์มีสมาธิขนาดไหน

    พระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสไว้ว่า คนตาย คนเข้าสมาธิ คนดำน้ำ และคนอยู่ในท้องแม่
    อยู่ในสภาวะที่ไม่หายใจ แต่การจะทำได้ ไม่ใช่จู่ๆ ก็ทำได้ โดยพยายาม
    อดลมหายใจเอง ถ้าร่างกายไม่พร้อม การอดกลั้นลักษณะนั้นก็เป็นการทรมานตัวเอง
    ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ทรงเห็นด้วย แต่ถ้าฝึกลมหายใจไปแต่ละขั้นตอน
    สุดท้ายก็ฝึกนั้นจะทำให้เรามีอินทรีย์แกร่งกล้า สามารถทำได้เอง
    เพราะมีความพร้อมที่เข้าสมาธิ จิตจะตกวูบเข้าสู่ฌานจิต


    วิธีที่หก คือ การสวดมนต์ เป็นวิธีสำคัญมากที่คนไทยเรามีมาแต่โบราณ
    แท้จริงการสวดมนต์ให้ถูกต้องจะได้บุญถึง ๑๐ ประการ การสวดให้ดี
    ต้องสวดให้ออกเสียง ไม่ใช่สวดอ้อมแอ้ม สวดให้ดีต้องออกเสียง
    ยิ่งดังยิ่งดี เป็นพลัง vibration เป็นการสั่นสะเทือนแบบขัดเกลา
    การสวดมนต์จะช่วยให้ได้ประโยชน์ทั้งสามประการ โดยเฉพาะสวดไปๆ
    จะเกิดการขัดเกลา เกิดการน้อมรับ ซึมซับ ธรรมะซึมเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
    มีตัวอย่างมากมายสวดไปแล้ว เกิดผุดรู้ ผุดเห็น สามารถบรรลุตามพลังบารมี
    ที่ตัวได้บำเพ็ญมา เกิดการปฏิบัติตามมรรคแปดโดยไม่รู้ตัว


    เหล่านี้ท่านประมวลมาเป็นวิธีลัดไปสู่ฌานจิต ซึ่งเป็นจุดที่กายและจิต
    สัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียว และเกิดการบำบัดรักษาตนเองของผู้เจ็บป่วย



    [​IMG]
     
  3. Followdream

    Followdream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +12,444
    [​IMG]
     
  4. ทองเนื้อ9

    ทองเนื้อ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +4,263
    อนุโมทนา สาธุแก่ท่านเจ้าของกระทู้ครับ

    [​IMG]
     
  5. Jiten

    Jiten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +189
    อนุโมทนา สาธุ กับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยที่ได้รวบรวมข้อมูลดีๆมากๆๆในการทำสมาธิมาไว้ ณ ที่แห่งนี้ ถ้าท่านใดที่ผ่านมาแวะอ่านนะคะแล้วนำๆปปฏิบัติค่ะจะได้ผลมากมายมหัศจรรย์แต่ต้องใช้เวลาค่ะ เป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติดีทุกท่าน ปฏิบัติดีกันให้มากๆเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อเมืองไทยเมืองพระพุทธศาสนา จะทำให้สังคมไทยมีความปลอดภัยค่ะ

    ปฏิบัติงาม จิตใจงาม คนงาม สังคมงาม
    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมค่ะ
    อนุโมทนา สาธุ อนุโมทามิ
     
  6. Followdream

    Followdream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +12,444
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...