ทางที่ต้องเลือกเดินในจักรวาลแห่งความรัก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย กลายแก้ว, 6 มิถุนายน 2014.

  1. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634
    หากเราคิดกรุณาใครผู้ใดผู้หนึ่งให้สุดซึ้ง
    หยั่งให้ลึกลงก้นบึ้งหัวใจเราเถิดหนา
    อิสระ ไร้ตัวตน ไร้มายา
    เปรียบดังว่าเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล

    เกิดคลื่นกระแสนสั่นสะเทือนของความรัก
    สุขมาก ๆ ๆ ๆ ๆ มิได้มีสิ่งใดเปรียบเทียบได้
    บริสุทธิ์ อิสระ โล่ง โปร่ง สบาย
    เพราะเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2014
  2. lighter

    lighter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +100
    ประสบการณ์ผมด้วยอ่ะคับ:cool:
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    โลกร้อน ธรรมชาติ อากาศ วิปริตแปรปรวนมาก
    อันมีสาเหตุมาจากมนุษย์ เพราะเราเป็นแค่สรรพสิ่งหนึ่งในจักรวาล
    เราทุกคนมีหน้าที่ค้ำจุนความสมดุลให่แก่กัน เพื่อการอยู่ร่วมกัน
    เพื่อสร้างเสถียรภาพเป็นหนึ่งเดียวกันในการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นระบบ
    นี่คือ หน้าที่ความรับผิดชอบ ในการแสดงความรักทางพฤติกรรมด้านบวกให้แเก่ผู้อื่น
    เปรียบดั่งระบบสุริยะจักรวาล ดั่งดวงอาทิตย์ และดวงดาวทั้งหลาย
    ที่มีพลังบวก ที่เรียกว่า พลังอำนาจการเหนี่ยวรั้ง เพื่อยึดโยงใยให้อยู่ในระบบเดียวกัน
    หากการรู้สำนึกความรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ถูกต้องของการเป็นมนุษย์
    เป็นจริงขึ้นมาไม่ได้ในอนาคต ทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในจักรวาล
    ดำรงอยู่ในเอกภพใหญ่ จะเกิดความกลาหลวุ่นวาย
    เพราะขาดความสมดุลของพลังงาน อันเกิดจากพลังงานด้านลบของจิตมนุษย์
    ที่ไร้สำนึกต่อหน้าที่ อันล้วนพาความเสื่อมมาให้สังคมโลก
    ในลักษณะสงคราม ความเสื่อมสมดุลของโลกและจักวาล
    โดยแสดงมายาให้เห็นเป็นปรากฎการณ์ วิปริตทางธรรมชาติที่รุนแรงอยู่ในขณะนี้
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ทุกศาสนาสอนให้รู้จักความรัก ความเมตตา รักผู้อื่น รักให้เป็น จะช่วยได้
    แม้ตนเองอยากให้ผู้อื่นรัก แต่ตนเองกลับรักผู้อื่นไม่เป็น
    เพราะความคิดไม่ถูกต้อง มีมุมมองความคิดเห็นที่ผิดพลาด
    การคิดดี พูดดี ทำดี ต่อผู้อื่น ยากขึ้นทุกที
    ภาพรวมเหล่านี้คือ เป็นความเสื่อมของเผ่าพันธ์มนุษย์
    อันส่งผลกระทบรุนแรงของโลกและจักรวาล
    อันเกิดจากเสียสมดุลอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติ
    สร้างความหายนะให้แก่มนุษย์ ซึ่งเป็นผู้ทำลายระบบตัวเอง
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เงินตรามิใช่ความสุข ความสุขที่แท้จริงคือ ความอิสระของใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpeg
      images.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      3.9 KB
      เปิดดู:
      90
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2015
  6. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    จักรวาลคู่ขนาน โลกคู่ขนาน มิติคู่ขนาน
    คู่ อันหมายถึง 2 ขนาน อันหมายถึง ดำเนินไปพร้อมกัน
    โลกคู่ขนาน คือ โลก 2 มิติ ที่ดำเนินไปพร้อมกัน ทั้งทางมิติกายภาพ และมิติพลังงาน
    คนมีสองมิติ เรียกว่า มิติคู่ขนาน คือ มิติทางกายภาพ และมิติพลังงาน

    มิติทางกายภาพ คือ สิ่งที่สัมผัสรับรู้ได้ทางประสาทสัมผัสทั้งห้า
    มิติทางพลังงาน คือ สิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือ รับรู้ได้ทางระบบสัมผัส

    มิติกายภาพ คือ รูปธรรม กายมนุษย์
    มิติทางพลังงาน คือ อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด เป็นพลังงาน ที่สามารถส่งออกจาก
    ภายในมาสู่ภายนอกได้ เรียกว่า พลังความคิด พลังจิต เป็นส่วนของจิตวิญญาณ

    พลังจิต เมื่อเกิดขึ้นมา เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นใหม่ หรือพลังสร้างใหม่ ที่จะ
    เกิดขึ้นดำรงอยู่ในสนามพลังงาน เกิดขึ้นควบคู่พร้อมกันไปกับ มิติทางรูปธรรม
    หรือ มิติทางกายภาพ หรือ สังขารร่างกายมนุษย์

    เช่น การคิดถึงกัน พลังแห่งความคิดถึงจะวิ่งพุ่งตรงไปหาคนนั้น เขาอาจรับรู้ได้
    ทนไม่ไหวก็โทรหา หรือ เข้าไปหา

    ทำไมบางคนโกรธกัน คิดไม่ดีต่อกัน ถึงแม้ไม่แสดงออก แต่รู้สึกได้ลึก ๆ ในใจ

    ทำไมอยู่ใกล้คนฟุ้งซ่าน หรือคนโกรธ รู้สึกว่าคลื่นปั่นป่วน อึดอัด ร้อนไม่สบายใจ

    ทำไมรู้สึกโล่งสบาย มื่ออยู่ใกล้คนใจเย็น ใจดี หรือ คนใจสงบ

    ลักษณะนี้เป็นมิติคู่ขนาน ที่ต้องเกิดพร้อมกันเสมอ ทั้งมิติกายภาพและมิติพลังงาน

    มนุษย์จึงเป็นคนสองมิติ ที่ให้พลังงานแก่โลก เป็นผู้ค้ำจุนโลกให้เกิดความสมดุล
    อันจะทำให้เกิดความมั่นคงต่อทุกระบบ และเสถียรภาพของจักรวาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    โลกเป็นพลังงาน พลังงานทำให้โลกหมุน

    ความรู้เรื่องโลก ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยสำหรับเรา
    "เราคือโลก โลกคือเรา"
    แล้วเราเกี่ยวข้องกับโลกได้อย่างไร?

    โลกในยุคแรกเป็นของเหลวหนืดร้อน ถูกกระหน่ำชนด้วยอุกกาบาตตลอดเวลา
    องค์ประกอบซึ่งเป็นธาตุหนัก เช่น เหล็ก และนิเกิล จมตัวลงสู่แก่นกลางของโลก
    ขณะที่องค์ประกอบซึ่งเป็นธาตุเบา เช่น ซิลิกอน ลอยตัวขึ้นสู่เปลือกนอก
    ก๊าซต่างๆ เช่น ไฮโดรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ พยายามแทรกตัวออกจากพื้นผิว
    ก๊าซไฮโดรเจนถูกลมสุริยะจากดวงอาทิตย์ทำลายให้แตกเป็นประจุ
    ส่วนหนึ่งหลุดหนีออกสู่อวกาศ อีกส่วนหนึ่งรวมตัวกับออกซิเจนกลายเป็นไอน้ำ
    เมื่อโลกเย็นลง เปลือกนอกตกผลึกเป็นของแข็ง ไอน้ำในอากาศควบแน่นเกิดฝน
    น้ำฝนได้ละลายคาร์บอนไดออกไซด์ลงมาสะสมบนพื้นผิว เกิดทะเลและมหาสมุทร

    สองพันล้านปีต่อมาการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ได้นำคาร์บอนไดออกไซด์มาผ่าน
    การสังเคราะห์แสง เพื่อสร้างพลังงาน และให้ผลผลิตเป็นก๊าซออกซิเจน

    ก๊าซออกซิเจนที่ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศชั้นบน แตกตัวและรวมตัวเป็นก๊าซโอโซน
    ซึ่งช่วยป้องกันอันตรายจากรังสีอุลตราไวโอเล็ต ทำให้สิ่งมีชีวิตมากขึ้น
    และปริมาณของออกซิเจนมากขึ้นอีก

    ออกซิเจนจึงมีบทบาทสำคัญ ต่อการเปลี่ยนแปลงบนพื้นผิวโลกในเวลาต่อมา


    สนามแม่เหล็กโลก          

    แก่นโลกมีองค์ประกอบหลักเป็นเหล็ก แก่นโลกชั้นใน (Inner core) มีความกดดันสูง
    จึงมีสถานะเป็นของแข็ง ส่วนแก่นชั้นนอก (Outer core) มีความกดดันน้อยกว่าจึงมี
    สถานะเป็นของเหลวหนืด แก่นชั้นในมีอุณหภูมิสูงกว่าแก่นชั้นนอก
    พลังงานความร้อนจากแก่นชั้นใน จึงถ่ายเทขึ้นสู่แก่นชั้นนอกด้วยการพา
    ความร้อน(Convection) เหล็กหลอมละลายเคลื่อนที่หมุนวนอย่างช้าๆ
    ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า และเหนี่ยวนำให้เกิดสนามแม่เหล็กโลก
    (The Earth’s magnetic field)


    สนามแม่เหล็กโลกก็มิใช่เป็นรูปทรงกลม ....

    อิทธิพลของลมสุริยะทำให้ด้านที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มีความกว้างน้อยกว่า
    ด้านตรงข้ามดวงอาทิตย์ สนามแม่เหล็กโลกไม่ใช่สิ่งคงที่ แต่มีการเปลี่ยนแปลง
    ความเข้มและสลับขั้วเหนือ-ใต้ ทุกๆ หนึ่งหมื่นปี ในปัจจุบันสนามแม่เหล็กโลก
    อยู่ในช่วงที่มีกำลังอ่อน สนามแม่เหล็กโลกเป็นสิ่งที่จำเป็นที่เอื้ออำนวยในการดำรงชีวิต

    หากปราศจากสนามแม่เหล็กโลกแล้ว

    อนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์และอวกาศ จะพุ่งชนพื้นผิวโลก
    ทำให้สิ่งมีชีวิตไม่สามารถดำรงอยู่ได้

    จากการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โลกและดาราศาสตร์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ทำให้โลกเป็นสีเขียวด้วยมือเรา

    ธรรมชาติ แมกไม้ ใบหญ้า ป่าไม่ใหญ่ลำเนาไพร เป็นสีเขียวขจี
    แสดงว่า ณ สถานที่แห่งนั้น มีอากาศที่บริสุทธิ์ มีอ๊อกซิเจน
    จำนวนมาก มีโอโซนทำให้อากาศบริสุทธิ์ ทำให้อยู่แล้วรู้สึกสบายใจ

    โลกประกอบด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์มากเท่าไร ความปลอดภัยจากภัยพิบัติ
    ก็มีมากเท่านั้น

    ในใจกลางโลก มีธาตุอ๊อกซิเจนบริสุทธิ์ 100 % อยู่ มีสีเขียวดุจปลีกแมลงทับ
    อยู่ภายใต้พื้นดินลึกลงไปใต้ฝ่าเท้าของเรา

    สงสัยไหมหากเรายิ่งขุดลงไปใต้พื้นดิน หรือ อยูในถ้ำเรารู้สึกสบาย หายใจโล่ง
    ปลอดโปร่ง แต่ถ้าอยู่บนที่สูง เช่นเทือกเขา เราจะรู้สึกหายใจแน่น หรือ
    เกิดอาการติดขัด รู้สึกอึดอัด ก็เพราะอ๊อกซิเจนมีปริมาณน้อยกว่า เพราะ
    ยิ่งสูง ปริมาณอ๊อกซิเจนก็ยิ่งน้อย

    เพราะอย่างนั้น สัญลักษณ์การรักษ์โลก จึงเป็นสีเขียว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เหมือนรักประชาธิปไตย
    respect my vote
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ข้อความที่เขียนนี้นะคะ ขอให้ใช้บทกามามสูตรค่ะ
    เพราะผู้เขียนก็ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรเลยคะ
    แต่เพียงสนใจเรื่องจิต เรื่องพลังงาน ทั้ง ๆ ที่ตนเอง
    ก็ไม่มีพลังจิตอะไรเลย อาจจะเจอมาบ้างเล็ก ๆ น้อย
    อย่างเช่น

    -ทำไมเรารู้สึกว่าคน ๆ นี้ไม่ชอบเราเลยทั้ง ๆที่ไม่เคยคุยกัน

    -ทำไมคนนี้พูดกับเราดี แต่ความรู้สึกเราไม่ไว้ใจเขา

    -ทำไมรู้สึกว่าอยู่ดี ๆ ก็มีพลังงานเข้ามาร้อนจี๊ดที่กลางอก
    ในความรู้สึกบอกว่า มีคนคิดไม่ดีกับเรา
    พอดูไปสักพัก อยู่ดี ๆ ก็หายไปเอง

    -เวลาโกรธ ตัวเราร้อนลุ่ม กระวนกระวาย พอออกไปนอกบ้าน
    พยายามปรับสีหน้าแล้ว คนก็ไม่ค่อยทักทายอยากพูดด้วย
    หน้าตาดู ไม่สวย ไม่สดใส

    -เวลาเราฝึกเมตตาจิต รู้ว่ามีพลังอิ่มเอิบ มีความคิดที่ให้และเมตตา
    ปราถนาดีกับทุกคน พอออกนอกไปทำธุระ มีแต่คนยิ้มให้ คนรู้จัก
    ที่ไม่ค่อยได้คุยด้วย ก็เข้ามาทักทายก่อน รู้สึกว่าอยู่ด้วยใจเป็นสุข

    -สมัยก่อน หากอยู่อยู่ในที่ชุมชนแล้ว ผู้ที่เดือดร้อนเงิน หรือขอทาน
    ต้องตรงดิ่งมาขอกับเรา ทั้ง ๆ ที่คนเยอะมากมาย เขาตรงดิ่งมาเลย และ
    เป็นอย่างนี้หลายครั้ง แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีตังค์

    -มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีผู้หญิคนหนึ่ง เที่ยวขอเงินกับคนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง
    ไม่มีใครให้สักคนเลย เธอพยายามอ้อนวอนขอ แต่ก็ไม่มีใครให้
    เธอคงหิวมาก เราเห็นแล้วสงสาร จึซื้อลูกชินไปให้ และให้เงิน
    20 บาท เพียงแค่นั้น เธอข้ามากอดเราแน่นเลย แล้วร้องให้ดีใจ
    เรารับรู้ความรู้สึกได้ ตัวเรานี้เบาหวิวเลย และรู้ว่ามีกระแสพลังงาน
    พุ่งขึ้นสู่บนฟ้า

    แต่ถ้าโกรธใครมาก ๆ ตัวจะหนักมาก

    -ทำไมมีคลื่นกระแสสั่นสะเทือนแห่งความรัก เกิดขึ้นในตัวเรา
    ชนิดว่าไม่มีความสุข ในโลกใดเปรียบเทียบได
    ถ้าคุณรักกและเมตตาสงสารใครอย่างจริงใจ


    โดยเฉพาะศาสตร์ อภิปรัชญา เรื่องโลก จิต พลังงาน
    ที่เกี่ยวกับรวามคิด และจิตใจ ที่เกี่ยวกับโลก ที่เราเห็น
    กันอยู่กับจิตใจของคนเรา เทียบกับ ณ ปัจจุบัน และ ในอดีต
    และในสมัยพุทธกาล บางสมัยคนทำไมอายุยืนยาวนัก
    บางสมัยคนอายุสั้น ถ้าคนไม่มีศีลธรรมโลกจึงถูกทำลาย
    ด้วยดิน น้ำ ลม ไฟ ถ้าศึกษาจากชาดก

    จะสนใจเรื่องราวอย่างนี้เป็นอย่างมาก
    เฝ้าแต่พิจารณาหาเหตุผล ว่าเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
    และมีความสุขด้วย ก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน

    แป้นพิมพ์แท๊บแล๊บมีปัญหาเรื่องระบบสัมผัส
    พิมพ์ไปไม่ได้ดั่งใจเลยจริง ๆ คะ ตัวอักษรไม่ค่อยขึ้น
    ต้องแก้ไขตลอด พิมพ์แต่ละครั้งนานมาก ไม่ค่อยได้อรรถรสเลย

    จะค่อย ๆ หาข้อมูลมาให้และมีเหตุผล ประกอบด้วยคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2015
  11. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ชีวิตแห่งความเป็นพระอรหันต์ในพระพุทธศาสนา
    นับเป็นบรรดาธรรมเอกที่โลกต้องการ
    เพราะเป็นสิ่งเดียว ที่อาจนำสุขแท้จริง
    มาให้แก่โลกได้

    กระทำให้จิตมีอำนาจหนือโลก
    เพื่อไม่ต้องหมุนเวียนไปในกระแส
    แห่งความทุกข์ทรมานของโลก

    มีใจอิสระจากธรรมชาติฝ่ายข้างต่ำ
    ไม่ติดขัดดุจท้องห้ากลางหาว และสดชื่นให้ถึงที่สุด
    ที่ธรรมชาติของใจจะสดชื่นได้ คงที่และแน่นอน
    เพราะอยู่นอกอำนาจความชั่วในโลกดังกล่าว
    นี่เป็นวิธีการเดียว ที่จะนำความสุขมาสู่โลกแท้จริงได้

    โลกความจริงเป็นเช่นนี้ แต่มนุษย์ส่วนมากในโลก
    ไม่ยึดเอาความจริงนี้เป็นหลัก จึงดำเนินชีวิตขัดขวางต่อความจริงของโลก
    ได้รับความทุกข์ทรมานใจ โดยไม่รู้สึกอยู่เสมอ

    พุทธทาสภิกขุ
     
  12. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    พรหมวิหารสี่ บทแผ่เมตตาความปราถนาดีต่อทุกสรรพสิ่ง
    ในโลกและจักรวาลนี้ เพื่อเป็นการมอบความรักให้แก่ผู้อื่น
    อย่างจรืงใจ ทุกครั้งที่เราระลึกถึง ทำให้ใจเราสุขสงบได้
    คิดมอบความรักปราถนาดีทุกครั้งที่เรานึกถึง..เรากำลังให้

    ให้ตั้งจิตระลึกไว้ในใจว่า

    ♡ใจทั้งปวง.....สงบเย็นและเป็นสุขเถิด♡ ใจเกิดเมตตา

    ♡การกระทำของเราทั้งปวงนั้น ...ยังให้ใจทั้งปวงสงบเย็นและเป็นสุขเถิด ♡ ใจเกิดกรุณา

    ♡ใจที่สงบเย็นนั้น....ช่างประสริฐจริงหนอ♡ ใจเกิดมุฑิตา

    ♡ใจทั้งปวง....จงมีดวงตาเห็นธรรมเถิด♡ ใจเกิดอุเบกขา คือ ปล่อยวางเข้าใจ

    ทำเรื่อย ๆ บ่อย ๆ ระลึกไว้เสมอ ๆ ทำให้เราเกิดใจใส ๆ เมตตาขึ้นมาได้อย่างไม่รู้ตัว
    เพราะทำจนชินนิสัย ส่งผลมีอิทธิพลต่อจิตใจของเราได้คะ

    เรามามอบพลังงานความรักให้แก่โลกกันเถิดคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1-52.gif
      1-52.gif
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      104
    • image.jpeg
      image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      5.7 KB
      เปิดดู:
      98
    • 749229.jpeg
      749229.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      93.4 KB
      เปิดดู:
      88
  13. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/drSMZgnmJjk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
  14. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    พลังจิตที่แท้จริง คือ พลังจิตที่เข้มแข็งของจิตใจ
    ที่สามารถต่อสู้กับกิเลสได้

    พลังจิตที่นิ่งและสงบ เป็นพลังจิตที่แข็งแกร่ง

    พลังจิตที่แข็งแกร่ง คือ พลังจิตที่นิ่งและสงบ
    เป็นพลังจิตที่ป้องกันไม่ให้กิเลสจากผู้อื่น
    และสิ่งเร้าภายนอก มาจูงให้จิตใจไหลไปตามกิเลสได้

    การสร้างกรรม♥♥♥♥♥

    เชื่อไหม! คลื่นพลังงาน มีกระแสแรงดึงดูด

    หากเราจิตใจไม่สงบ ฟุ้งซ่าน ผู้ที่เป็นคู่กรณี หรือ
    บุคคลอื่นที่คอยกระตุ้น สร้างเงื่อนไขแห่งความโกรธให้กับเรา
    เมื่อความโกรธมีขึ้นในใจเขาแล้ว พลังงานความโกรธในตัวเขา
    ย่อมรวมตัวกัน จับตัวกันคลื่นพลังงานมืดดำ มีความหนาแน่นมากหรือน้อย
    ก็ขึ้นอยู่กำลังของความโกรธ คลื่นนี้มีแรงเหวี่ยงไปให่คู่กรณี
    ถ้าจิตของเราไม่มีสติเป็นเครื่องกั้น หรือไม่มีความสงบเป็นหลักเกาะ
    เราย่อมถูกกระแสแรงดึงดูดให้โกรธตาม ไม่อาจห้ามใจได้เลย
    การก่อกรรมให้แก่กัน จึงเริ่มจากตรงนี้.....

    เคยเจอคนโกรธกันไหม หากต่างคนต่างโต้ตอบกัน เรื่องก็ใหญ่และบานปลาย
    แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่โต้ตอบ เหมือนไม่มีแรงดึงแรงปะทะจากอีกฝ่าย พลังงานลบ
    ที่ส่งมาไม่มีแรงโต้กลับ เรื่องในเหตุการณ์นั้นก็หยุดได้อย่างง่ายดาย

    ตัวเราเองเป็นตัวกระตุ้นที่เป็นเงื่อนไขให้คนอื่น แสดงออกในทางที่ดี หรือ
    ในทางที่เลวร้ายก็ได้

    หรือเรียกว่าต้นเหตุของการสร้างกรรม เพื่ออยู่ในวงเวียนกรรม นั่นเอง


    การขออโหสิกรรม♡♡♡♡♡

    พลังงานเราสามารถส่งถึงกันได้

    เรื่องมีอยู่ว่า เรามีแมวอยู่ตัวหนึ่ง เขาเข้ามาพันแข้งขาเรา
    เราจะล้ม ด้วยความขาดสติก็เลยโมโหตีไปแรง ๆ 1 ครั้ง
    เขาคงเจ็บมาก และรับรู้ได้ในอารมณของเรา (เข้าใจว่าเป็นเช่นนั้น)
    พอเรารู้สึกได้ รู้สึกผิดและกลัวเวรกรรม เราก็เลยจะไปจับเขามา
    เพื่อให้กินอาหารที่เราให้ เขาวิ่งหนีไม่ยอมให้เราจับ
    เรารู้สึกไม่ดีและสำนึกผิด มองหน้าแมวตัวนั้นด้วยแววตาขอโทษ
    ออกมาจากใจจริง ระลึกอยู่ในใจอย่างนั้นอย่างสำนึกผิด
    แล้วใช้พลังความรักความเมตตาส่งไปให้ แล้วระลึกในใจ
    ปราถนาไม่เบียดเบียนเขา ทำไปด้วยความหลงไม่รู้
    ระลึกถึงความรักเมตตามอบให้เขา ด้วยหัวใจอ่อนโยนอย่างเต็มที่
    สักพักแมวตัวนั้นที่ยืนมองเราอยู่ ก็เดินเข้ามาหาเอง เหมือนได้เขารับรู้ได้
    เราก็เลยคิดว่า แมวตัวนั้นอโหสิกรรมให้แล้ว

    จิตเป็นเรื่องพลังงาน ที่เราทุกคนสามารถสังเกตุได้ ถ้าเรามีสติ
    เพราะเป็นเรื่องกี่ยวกับตัวเรา ที่ทุกคนก็สามารถรู้ได้ ก็เลยนำมาเล่าให้ฟังคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images-2.jpeg
      images-2.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      6.6 KB
      เปิดดู:
      92
  15. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    จิตส่งออกนอก มันอ่อนแรงนะ
    เปรียบเสมือนอะไรดีละ
    เปรียบเสมือนอากาศ หรือ ฝุ่นละอองที่ไหลออกไปจากนอกขวด
    แล้วกระจายฟุ้งไปทั่ว มันกระจายไปตามลมกระจัดกระจายไป
    คนละทิศคนละทาง มันไม่รวมตัวกัน มันก็อ่อนแรง
    ถ้าเราจะให้มันแข้มแข็ง เราต้องดูดมันมาไว้ข้างในเหมือนเดิม
    ให้มันรวมตัวกันเป็นก้อนมันจึงมีพลัง

    พลังจิตก็เหมือนกัน ....

    ส่งออกนอก จิตก็อ่อนแอ ตกเป็นทาสต่อสิ่งยั่วยุภายนอกได้ง่าย

    นำมาไว้ภายใน จิตก็เข้มแข็ง แข็งแกร่ง มีกำลังต่อสู้กับกิเลส

    เคยไหมนะ....

    ที่มองอะไรอยู่ เห็นแต่สิ่งที่มอง ไม่เห็นตัวเราว่าเรากำลังมอง
    แต่พอรู้สึกตัวนึกขึ้นมาได้ ก็มีการดึงกระแสแห่งจิตเข้ามาภายในตัวเรา
    เห็นทั้งตัวเรา และเห็นสิ่งภายนอกอย่างชัดเจนและแจ่มชัด
    ไม่พร่าเลือนรางเหมือนส่งจิตไปรับรู้ภายนอกแต่อย่างเดียว

    จิตภายในเปรียบ แสงสว่างแห่งปัญญา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • dfdf4d54.gif
      dfdf4d54.gif
      ขนาดไฟล์:
      47.1 KB
      เปิดดู:
      124
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ชีวิตนี้คืออะไร วศิน อินทสระ

    ในโลกนี้ไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรเลว
    ความรู้สึกของเราต่างหากที่เข้าไปจัดสรร
    ให้สิ่งนั้นดี สิ่งนี้เลว......
    อุเบกขาธรรม คือ การวางเอยในสิ่งทั้งปวง
    เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้มนุษย์
    ประสบสุขอันแท้จริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images-19.jpeg
      images-19.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      10.3 KB
      เปิดดู:
      96
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    คนที่เดือดร้อนอยู่เพราะพากันหันหลังให้กับธรรม
    เมื่อเขาทิ้งธรรม ธรรมก็ทิ้งเขา เมื่อโลกทิ้งธรรม ธรรมก็ทิ้งโลก
    การแก้ปัญหาโลกโดยหันหลังให้ธรรม โลกจึงวุ่นวายเดือดร้อน
    แล้วพากันแข่งขันสร้างวัตถุ ขึ้นมาแล้วสนองให้พอแก่ความต้องการนั้น
    ไม่มีทางแก้ปัญหาตกได้ แม้จะผลิตให้ล้นโลก ไม่สามารถจุตัณหาของคนได้
    มันเป็นวิธีการเมือนหยิบยื่นน้ำเค็มให้คนกระหายดื่ม ยิ่งดื่ม ยิ่งกระหาย
    ยิ่งดื่ม ยิ่งอยาก เหมือนป้อนเชื้อชนิดดีให้กับตัณหา
    ย่อมเจริญตามรูป เสียง กลิ่น รส อันประณีตบรรจง

    อันธรรมดาว่า ความกระหายคือ ตัณหานั้น
    ย่อมทำให้บุคคลดื่มด่ำล้ำลึกลงไปในกระแสคลื่นแห่งน้ำเค็ม คือ อารมณ์ต่าง ๆ
    แล้วลอยคออยู่ในกระแสนั้น เพราะอาศัยเครื่องล่อ คือ ความเพลิดเพลินในกามตัณหา
    ความทะเยอทะยาน ทรัพย์สมบัติ เสียงสรรเสริญเยินยอ ชื่อเสียงเกียรติคุณ
    ความเด่น ชัยชนะที่ตนปราถนา ความรัก อาหาร เสื้อผ้าอาภรณ์ที่ต้องใจ
    ที่อยู่อาศัยอันแสนหรู ความภาคภูมิทะนงในเชื้อชาติวงศ์
    ความหลงใหลในอารมณ์ปัจจุบัน และความดิ้นรนขนขวายเพื่อมีชีวิตอยู่
    และแล้วบาปทั้งหลายซึ้งหลงไหล ก็มาจากความดิ้นรนนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ดูก่อนวีรกะ! ธรรมเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในชีวิตมนุษย์
    ถ้ามนุษย์มีธรรม ของกินของใช้ในโลกนี้ก็เหลือเฟือแล้ว
    ไม่ต้องแย่งกันอยู่ ไม่ต้องแย่งกันกินด้วยซ้ำไป
    แต่เพราะพากันหันหลังให้ธรรม วิ่งบ่ายหน้าหาวัตถุกันมากขึ้น
    โดยไม่รู้จักว่าเท่าไรจึงจะพอนี่เอง โลกจึงร้อนระอุ แห้งเกรียม
    และทำท่าจะไหม้อยู่รอมร่อ

    วีรกะ ขอให้ธรรมเภรีได้กึกก้องขึ้นในดอกบัว คือ จิตของมหาชน
    เมื่อใดโลกประกอบด้วยธรรม ไม่ทิ้งธรรม ธรรมก็จะคุ้มครองโลกให้สงบสุข
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images-10.jpeg
      images-10.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      6.9 KB
      เปิดดู:
      89
  19. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เขมาเอย! เธอจงดูกายนี้เถิด มันอาดูร ไม่สะอาด เปื่อยเน่า ผุพัง
    ซึ่งคนส่วนใหญ่ชอบคิดถึง เป็นที่ปราถนาอย่างยิ่งของคนเขลา
    มันไม่มีความยั่งยืนเลย เขมาเอย! ร่างกายนี้เป็นเพียงนครกระดูก
    ที่มีเนื้อและเลือดเป็นเครื่องฉาบทา เป็นที่อาศัยของเพลิงทุกข์
    คือ ความแก่ และ ความตาย เป็นที่อาศัยของเพลิงกิเลส คือ
    การถือตน และการลบหลู่คุณของคนอื่น เป็นรังของโรค นานาชนิด
    มีความตายเป็นที่สุด เธอจงแสวงหาธรรมเพื่อเกาะเป็นที่พึ่งเถิด
    อย่าแสวงหาโกกิยารมย์เลย มันเหมือนยาพิษที่เคลือบด้วยน้ำตาล
    เพียงนิดน้อยเท่านั้น

    การยึดขันธ์ห้าว่าเป็นตัวเป็นตน โดยตัณหาขันธ์นั้นเป็นของเรา
    โดยมานะว่าเราเป็นขันธ์ห้า หรือ โดยทิฐิว่าขันธ์นั้นเป็นตัวตนของเรา
    นี่แหละ คือ บ่อเกิดแห่งความทุกข์ทรมาน ทั้งทางกาย และทางใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images-19.jpeg
      images-19.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      8.7 KB
      เปิดดู:
      94
  20. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เพื่อให้เรามองเห็นอัศจรรย์ของจิต และความเป็นไปได้ของโลกนี้
    สตรีส่วนใหญ่ ถือว่า ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของความรัก
    ตรงกันข้ามกับบุรุษที่มักจะถือว่า ความรักเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
    และผู้ชายเราก็มักจะโง่ในเรื่องนี้เอามาก ๆ เพราะไม่รู้กฎความจริงที่ว่า
    "เมื่อสตรีแสดงให้ชายเข้าใจว่าเธอรักเขา ซึ่งผู้ชายเข้าใจว่า
    เป็นเพียงเริ่มต้นเท่านั้น แต่ ความรักของสตรีได้สุกงอมและถึงที่สุดแล้ว


    หัวใจที่ถูกรัดรึงด้วยเชือก คือ ความรักนั้นมีอาการเหมือนเด็กหิว
    เขาต้องการและร่ำร้องให้ได้มาซึ่งอาหารที่พอบำบัดความหิวได้
    โดยไม่คำนึงถึงความมี ไม่มี หรือ เหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น


    ความรักย่อมเจือปนและแทรกแซงอยู่ด้วยความดิ้นรน
    เมื่อมีความรัก ยิ่งดิ้นรนกระวนกระวาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images-23.jpeg
      images-23.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      18.6 KB
      เปิดดู:
      92
    • images-21.jpeg
      images-21.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      9.8 KB
      เปิดดู:
      86

แชร์หน้านี้

Loading...