ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    รัฐสภาสหภาพยุโรปคว่ำบาตรอาวุธซาอุดิอาระเบีย สาเหตุไม่ยอมหยุดก่อสงครามในเยเมน

    [​IMG]

    -----------

    วันที่ 25 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัฐสภายุโรปรับมติห้ามจัดส่งอาวุธให้ประเทศซาอุดิอาระเบีย" (European Parliament Adopts Resolution on Arms Embargo Against Saudi Arabia) ส่วน RT news พาดหัวข่าวว่า "รัฐสภาอียูรับมติเรียกร้องให้ห้ามจัดส่งอาวุธให้ซาอุดิอาระเบียกรณีเยเมน" (EU Parliament adopts resolution calling for arms embargo against Saudi Arabia over Yemen)

    รัฐสภาแห่งสหภาพยุโรปได้รับร่างมติที่เรียกร้องให้มีการห้ามจัดส่งอาวุธ (arms embargo - คว่ำบาตรด้านอาวุธ) ไปให้ซาอุดิอาระเบียเกี่ยวกับปฏิบัตการในเยเมน นักการเมืองกลุ่ม Greens รายงานในเว็บไซต์ของตนเอง

    มติดังกล่าวได้เรียกร้องให้มีการห้ามอาวุธทั่วยุโรปต่อประเทศซาอุดิอาระเบีย จนกว่าจะมีการตรวจสอบการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศของซาอุดิอารเบียในเยเมน

    "การเรียกร้องให้สภายุโรปคว่ำบาตรด้านอาวุธต่อซาอุดิอาระเบียเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และได้สะท้อนให้เห็นถึงความยุ่งยากที่กำลังขยายตัวขึ้นในการทำสงครามในประเทศเยเมนโดยกองทัพซาอุดิอาระเบีย ซาอุดิอาระเบียเป็นลูกค้าซื้ออาวุธรายใหญ่ของอังกฤษและฝรั่งเศส และมีหลักฐานว่าอาวุธเหล่านั้นถูกนำไปใช้ในการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมดในเยเมน ซึ่่งทำให้มีพลเรือนหลายพันคนถูกสังหารตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในเดือนมีนาคม 2558" Alyn Smith โฆษกด้านกิจการต่างประเทศของกลุ่ม Greens/EFA ซึ่งทำให้ผ่านร่างมติฉบับแก้ไข กล่าวหลังมีการรับมติดังกล่าว

    Alyn Smith กล่าวต่ออีกว่า "มีมูลเหตุที่แท้จริงซึ่งทำให้เชื่อได้ว่า ระบบอาวุธที่ผลิตโดยอียูกำลังถูกส่งออกไปยังซาอุดิอาระเบีย" และได้เรียกร้องให้นาง Federica Mogherini ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศของอียูตรวจสอบว่าการคว่ำบาตรด้านอาวุธจะดำเนินการได้อย่างไร

    รายงานข่าวบอกว่า ซาอุดิอาระเบียได้วิ่งล็อบบี้ต่อสมาชิกรัฐสภาอียูเพื่อขัดขวางการคว่ำบาตรอาวุธ Abdulrahman al-Ahmed เอกอัครราชทูตของซาอุดิอาระเบียประจำกรุงบรัสเซลส์ได้ส่งจดหมายถึงสมาชิกรัฐสภายุโรปหลายคนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งสัญญาว่าจะไม่โหวตให้กับการแก้ไขร่างมติและปกป้องการแทรกแซงทางทหารของซาอุดิอาระเบียในประเทศเยเมน

    [เงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่างหรอกมั๊งครับคุณซาอุดิอาระเบีย นี่อียูเขากำลังหาทางช่วยไม่ให้ซาอุดิอาระเบียกลายเป็นประเทศล้มละลายเนื่องจากเกิดสงครามในประเทศของตนเอง ยังไม่เข้าใจอีกหรือ? ตอนนี้กองทัพเยเมนและนักรบฮูติบุกเข้าไปทำลายตำแหน่งทางทหารและฐานทัพของซาอุดิอาระเบียในแผ่นดินใหญ่ของซาอุดิอาระเบียได้หลายแห่งแล้วนะครับ

    แต่แปลกที่อียูเล่นเฉพาะซาอุดิอาระเบียเท่านั้น ยูเออี และประเทศอื่นๆที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรอาหรับในการรุกรานเยเมนในครั้งนี้กลับไม่ถูกแซงชั่นด้านอาวุธด้วยเลย มันจะได้ผลรึ? ซาอุดิอาระเบียก็อาจจะบอกว่า ไม่ซื้อจากอียูก็ได้ หันไปซื้อจากสหรัฐฯประเทศเดียวก็เหลือเฟือแล้ว เพราะว่าสหรัฐฯไม่ได้คว่ำบาตรอาวุธต่อซาอุดิอาระเบียด้วย - ผู้แปล]

    ในเอกสารดังกล่าวซึ่งได้รับโดยสำนักข่าว The Guardian ของอังกฤษรายงานว่า นาย al-Ahmed ได้ตำหนิอิหร่านถึงการแทรกแซงส่วนใหญ่ (ในเยเมน) และยืนยันว่า การดำเนินการของซาอุดิอาระเบียส่วนมากแล้วเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม (humanitarian aid.)

    [เออ… นี่แหละครับโลกของนักการเมือง แหลเข้าไว้ โกหกหน้าตาเฉยเข้าไว้ แหม… อยากจะให้ซาอุดิอาระเบียได้ลิ้มรสของ "การรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม" ด้วยการส่งเครื่องบินรบเข้าไปทิ้งระเบิดใส่ประเทศอื่น และส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปรุกรานประเทศอื่นแบบนั้นจากประเทศอื่นๆบ้างจัง หวังว่าซาอุดิอาระเบียคงจะไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแบบที่ว่านี้ จากอิหร่านนะครับ รอให้อิหร่านได้ Su-30MK จากรัสเซียซักฝูงก่อนเถอะ F-15C แต่ว่าตอนนี้อิหร่านก็มีเครื่องบินรบ MiG-29A/UB ของรัสเซียประจำการอยู่จำนวน 20 ลำ F-14 ของสหรัฐฯอีก 24 ลำ และอื่นๆ - ผู้แปล]

    Abdulrahman al-Ahmed ยังกล่าวต่ออีกว่า "การแทรกแซงของซาอุดิอาระเบียมีบางส่วนเพื่อตอบโต้ความกังวลของตะวันตกเกี่ยวกับผู้ก่อการรร้ายซึ่งมีฐานอยู่ในเยเมน ซึ่งรวมทั้งอัลเคด้า และไอซิสด้วย"

    [เขารู้กันทั่วโลกแล้วว่า ผู้ก่อการร้ายที่ซาอุดิเอ่ยชื่อมานั้นก็คือเด็กของซาอุดิอาระเบียเองนั่นแหละครับ แทบจะไม่มีข่าวว่าไอซิสและอัลเคด้าในเยเมนถล่มกองกำลังของพันธมิตรฝ่ายซาอุดิอาระเบียและของปธน.ฮาดี้เลยนะ - ผู้แปล]

    คณะกรรมการของยูเอ็นได้ทำการตรวจสอบการทิ้งระเบิดในเยเมน โดยได้รายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า "ได้มีการเปิดเผยว่าการโจมตีอย่างกว้างขวางและเป็นระบบโดยซาอุดิอาระเบียมุ่งเป้าหมายไปที่พลเรือน" [อันนี้ยูเอ็นกล่าวนะครับคุณซาอุดิอาระเบีย - ผู้แปล]

    ยูเอ็นรายงานว่า "การประมาณการแบบเดิม (conservative estimates)" ระบุว่ามีเด็กจำนวน 700 กว่าคนถูกสังหาร และ 1,000 กว่าคนได้รับบาดเจ็บนับตั้งแต่เริ่มมีการแทรกแซงโดยซาอุดิอาระเบียในเยเมน [ซาอุดิอาระเบียเรียกว่า "การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม" (แบบซาอุดิอาระเบีย) - ผู้แปล]

    กระทรวงสาธารณสุขของเยเมนรายงานว่า การทิ้งระเบิดจากกองกำลังพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบียได้สังหารประชาชนไปแล้วถึง 7,000 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 16,500 คน ซาอุดิอาระเบียถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากองค์กรต่างๆด้านสิทธิมนุษยชนในการฆ่าและทำให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศ การโหวตออกเสียงคว่ำบาตรอาวุธต่อซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้ มีผู้สนับสนุน 359 เสียง คัดค้าน 212 เสียง Sputnik news รายงาน

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    26/02/2559
    ----------
    European Parliament Adopts Resolution on Arms Embargo Against Saudi Arabia
    https://www.rt.com/news/333588-eu-parliament-saudi-embargo/
    Saudi Arabia - Content - The Greens | European Free Alliance
    Gulf States Launch Military Operation in Yemen
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2016
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    China Xinhua News

    [​IMG]

    นายกฯตุรกีลั่น!ไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย

    เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายอาห์เหม็ด ดาวูโตกลู นายกรัฐมนตรีของตุรกีได้แถลงการณ์ที่เมืองคอนยาของตุรกีว่า ตุรกีจะไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย หากถูกคุกคามความมั่นคงของประเทศ

    ดาวูโตกลูแสดงการต่อต้านกลุ่มกองกำลังชาวเคิร์ด YPG ซึ่งมีฐานอยู่ในซีเรีย โดยกล่าวว่า กลุ่มดังกล่าวเป็น “กลุ่มหัวรุนแรง” เหมือนกับ “กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส” แต่ตามข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียนั้นไม่ได้กำหนดให้กลุ่มนี้เป็น “กลุ่มก่อการร้าย”

    เขากล่าวว่า หากมีการคุกคามความมั่นคงของประเทศ ตุรกีจะออก “มาตรการความปลอดภัย” โดยไม่ขอการอนุญาตจากฝ่ายใดก่อน

    เขายังเรียกร้องให้กลุ่ม YPG และพรรคสหภาพประชาธิปไตยของชาวเคิร์ด (PYD) ห้ามสนับสนุนการก่อการร้ายใดๆในดินแดนของตุรกีอีกต่อไป

    กลุ่ม YPG ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธของพรรคสหภาพประชาธิปไตยของชาวเคิร์ด (PYD) ในซีเรีย ถูกรัฐบาลตุรกีประกาศว่าเป็นหนึ่งในเครือข่ายของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK)

    เมื่อตอนเย็นของวันที่ 17 ก.พ. เกิดเหตุคาร์บอมบ์โจมตีเมืองอังการา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 29 ราย บาดเจ็บอีก 60 ราย หลังจากนั้นดาวูโตกลูก็เผยถึงผลการสืบสวนสอบสวนว่า เป็นการกระทำของกลุ่ม YPG, PYD และ PKK

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รัสเซีย และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในซีเรียได้บรรลุในข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งจะมีผลในวันที่ 27 ก.พ. นี้เอง
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิเคราะห์ชี้ การยุติสงครามในซีเรียเป็นข้ออ้างของอเมริกาเพื่อติดอาวุธให้กับกลุ่มก่อการร้าย โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 26, 2016

    [​IMG]

    รถบรรทุกสภาเสี้ยววงเดือนแดงส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก Ghouta ในเขตชานเมืองของเมืองดามัสกัส

    Presstv – มาร์คเกล็น นักวิเคราะห์การเมืองชี้ การหยุดยิงในซีเรียเป็นข้ออ้างของอเมริกาเพื่อติดอาวุธให้กับกลุ่มก่อการร้ายอีกครั้ง

    มาร์คเกล็น นักวิเคราะห์การเมืองให้สัมภาษณ์กับเพรสทีวี ว่า เหตุผลเดียวที่อเมริกาเสนอความคิดให้หยุดยิง (ในซีเรีย) ก็เพื่อให้ตนเองเข้าไปมีบทบาทในการสร้างความสงบสุขต่อเหตุการณ์รุนแรงและเหตุปะทะที่เกิดขึ้น

    มาร์คเกล็น ชี้ว่าทุกความพยายามทั้งหมดที่ได้ทำขึ้นมาภายใต้การยุติสงครามนั้นเป็นจุดเริ่มต้นให้อเมริกามีการติดอาวุธและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองกำลังก่อการร้ายในซีเรียซึ่งด้วยอาวุธของสหรัฐอเมริกานี้บรรดากลุ่มก่อการร้ายจะทำหน้าที่ในฐานะกองกำลังชั่วคราวของสหรัฐอเมริกาในการปฏิบัติการในซีเรีย

    อเมริกาและรัสเซียได้ร่างข้อตกลกหยุดยิงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งมีกำหนดที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันศุกร์นี้

    จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอเมริกาได้เผยในวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมกับแสดงการปกป้องในความพยายามของวอชิงตันที่จะหยุดยิงในซีเรีย แต่ขณะเดียวกันเขายังเตือนว่าถ้ากระบวนการของความพยายามที่จะนำความสงบสุขนี้ล้มเหลว วอชิงตันก็ได้วางแผนสำรองสำหรับเป็นทางเลือกใหม่นั้นคือการย่อยสลายซีเรีย

    แคร์รี่ ได้พูดในประการชุมคณะวุฒิสภาคณะกรรมการความสัมพันธ์ต่างประเทศอเมริกา ว่า ในการดำเนินการประเด็นนี้จะได้รับการยืนยันอีกครั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

    มาร์คเกล็น กล่าวย้ำในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ว่า อเมริกามีความพยายามอย่างมาก ที่จะใช้รูปแบบของการสร้างความแตกแยกผ่านเผ่าพันธุ์และนิกายในการย่อยสลายซีเรีย

    เขากล่าวว่า แผน B (ทดแทน) ในความเป็นจริงแล้วเป็นจุดเริ่มต้นของแผน A (แผนหลักอันดับแรก) ซึ่งเเคร์รี่ได้เคยกล่าวซ้ำมาแล้ว ว่า อเมริกาไม่อาจละเลยและนิ่งเฉยในทุกสถานการณ์อันมีเป้าหมายหลักคือล้มระบอบบาชาร์ อัลอัสซาด ประธานาธิบดีที่ถูกต้องตามกฎหมายของซีเรียเป็นอันขาด

    มาร์คเกล็น กล่าวว่า แผนการย่อยสลายซีเรียได้กำหนดวางมาตั้งนานแล้ว และทฤษฎีนี้ไม่เพียงแต่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางการเมืองในระยะยาวแต่เป็นหนึ่งในเป้าหมายทางการเมืองระยะยาวของอิสราเอลอีกด้วย

    ในขณะเดียวกันบาชาร์ อัลอัสซาดได้กล่าวว่า ตราบใดที่ผู้ก่อการร้ายไม่ได้ใช้การหยุดยิงไปสู่เป้าหมายของพวกเขา และบรรดาผู้สนับสนุนก่อการร้ายไม่ติดอาวุธให้กับพวกเขาอีก เราก็จะให้การสนับสนุนการหยุดยิงในซีเรีย

    ดามัสกัสกล่าวหาว่าอเมริกาและพันธมิตรในภูมิภาครวมทั้งซาอุดีอาระเบีย ตุรกีและกาตาร์เป็นผู้จัดหาเงินทุนและสนับสนุนอาวุธให้กับกลุ่มก่อการร้าย


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    นักวิเคราะห์ชี้ การยุติสงครามในซีเรียเป็นข้ออ้างของอเมริกาเพื่อติดอาวุธให้กับกลุ่มก่
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    กรุงวอชิงตันเสียงแตกฝ่ายหนึ่งบอกว่ารัสเซียเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่งต่อสหรัฐฯ แต่อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าไม่ใช่ เอาไงก็แน่ครับ นี่อาจจะเป็นผลข้างเคียงของการพี้มากเกินไปก็ได้ ว่าไหมครับท่านโอบาม่า?

    [​IMG]

    -----------

    มาดูนโยบายต่างประเทศที่น่ามึนงงของรัฐบาลสหรัฐฯบ้างนะครับ วันที่ 26 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "คุกคามหรือไม่คุกคามฉันกันแน่? ก.ต่างประเทศและเพนตากอนแตกคอกันกรณีมองว่ารัสเซียเป็นศัตรูหรือว่าหุ้นส่วนกันแน่" (Threat me, threat me not? State Dept, Pentagon split on whether Russia is enemy or partner)

    ในขณะที่การเจรจาหยุดยิงในซีเรียระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียกำลังปรากฎรูปขึ้นมา นายจอห์ แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯก็ได้แสดงทัศนคติที่ (ดูเหมือนว่าจะ) อบอุ่นต่อกรุงมอสโคว์ โดยเน้นย้ำถึงเป้าหมายร่วมกันและความร่วมมือ แต่ดูเหมือนว่าเพนตากอนจะอ่านคู่มือคนละเล่มกัน ซึ่งเรียกรัสเซียว่าเป็นศัตรู (ของสหรัฐอเมริกา)

    เมื่อวันพฤหัสบดีนี้ กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯได้ชี้แจงต่อสภาคองเกรสซึ่งพยายามที่จะของบประมาณจำนวน 5 หมื่นล้านเหรียญให้กับกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งเรียกมันว่า "ราคาขั้นต่ำ" (the minimum price) สำหรับการเป็นผู้นำของอเมริกาในปีหน้า

    ในการให้ปากคำครั้งที่สี่ของแคร์รี่ในสัปดาห์นี้ แคร์รี่ได้ชี้ให้เห็นถึงกรอบข้อตกลงของสหรัฐฯ "ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน" ทั่วโลก และยังเน้นถึงความจำเป็นที่จะรักษาความเข้มแข็งด้านความปลอดภัยของประเทศและปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาเอาไว้ด้วย

    ในส่วนที่เกี่ยวกับความท้าทายระดับนานาชาติของกรุงวอชิงตันนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตัวของลัทธินิยมความรุนแรงของอิสลาม (radical Islamic extremism) คองเกรสได้นายแคร์รี่ว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่ที่ว่า "รัสเซียเป็นภัยคุกคามมากกว่าพวกจีฮาดิสต์"?

    "ถ้าคุณต้องการให้ผมยกเรื่องนี้ขึ้นมาไว้บนโต๊ะ (/ต้องการให้พูดถึงเรื่องนี้) ภัยคุกคามอันดับต้นต่อสหรัฐฯในวันนี้ ในแง่ของชีวิตประจำวัน และเสถียรภาพของโลก มันก็คือลัทธินิยมความรุนแรงสุดโต่ง (it is violent extremism.) ลัทธิหัวรุนแรงสุดโต่งทางศาสนาและความรุนแรง..." แคร์รี่เริ่มตอบคำถาม แต่แคร์รี่ก็ถูกนาย Dana Rohrabacher (R-California) สมาชิกวุฒิสภาพูดแทรกขึ้นมา ซึ่งพูดออกมาว่า รมว.ต่างประเทศ "ไม่สามารถ" ที่พูดว่า "อิสลามหัวรุนแรง (radical Islamic)" ได้ เมื่ออ้างถึงขบวนการก่อการร้าย

    เริ่มต้นจากการแสดงความคิดเห็นของประธานาธิบดีบารัค โอบามาเมื่อเดือนกันยายน 2557 เมื่อโอบามาพูดว่า รัสเซียเป็นภัยคุกคามมากกว่าขบวนการก่อการร้ายไอซิส สหรัฐฯได้ประกาศอยู่บ่อยครั้งว่ากรุงมอสโคว์เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศอเมริกา

    "สิ่งที่กระทรวงกลาโหมและประเทศอื่นๆพร่ำพูดก็คือว่า พวกเขามองว่าการดำเนินการต่างๆที่รัสเซียกำลังกระทำอยู่นี้ ซึ่งแสดงถึงความท้าทาย - ยกตัวอย่างเช่น สิ่งที่เกิดขึ้นในไคร์เมีย และสิ่งทีเกิดขึ้นในภูมิภาคดอนบาสส์ (Donbass - แคว้นโดเน็ทส์กและลูฮานส์กในยูเครนตะวันออก) สิ่งที่เกิดขึ้นกับการสนับสนุนพวกแบ่งแยกดินแดน กระบวนการระยะยาวทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในการปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์ก - ได้รับการตีความโดยระดับแนวหน้าว่าเป็นภัยคุกคาม" แคร์รี่อธิบาย

    ในขณะที่กำลังออกทัวร์ใน Capitol Hill สัปดาห์นี้ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯได้พยายามที่จะชักเกลี้ยกล่อมให้บรรดาส.ส. (เชื่อใน) ความร่วมมือที่สำคัญและบทบาทที่สำคัญของรัสเซียในปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าขัดกันกับวาทกรรมต่อต้านรัสเซียที่รัฐบาลของโอบาม่าใช้อยู่บ่อยๆ

    ในขณะที่นายแคร์รี่กำลังแสดงความคิดเห็นต่อความสัมพันธ์ในการสร้างความร่วมมือกับรัสเซียต่อคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศ (ของสหรัฐฯ) อยู่นั้น พล.อ.Philip M. Breedlove ก็พูดกับคณะกรรมาธิการด้านการบริการอาวุธของสภาคองเกรสว่า "รัสเซียเลือกที่จะเป็นศัตรูและเป็นภัยคุกคามในระยะยาว" (Russia has chosen to be an adversary and poses a long-term existential threat.)

    [รัสเซียก็คงจะงงเช่นกันว่า รัสเซียไปพูดว่าเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯตั้งแต่เมื่อไร? พี่แกพูดเองเออเองทั้งนั้น แล้วก็กล่าวหาว่าคนอื่นพูด ปูตินเคยพูดว่านาโต้เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย แค่นั้น - ผู้แปล]

    หัวใจของเรื่องนี้มันอยู่ตรงนี้ครับ... รายงานข่าวบอกว่า ในขณะที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯกำลังมองหางบประมาณจำนวน 5 หมื่นล้านเหรียญฯ เนื่องจากสหรัฐฯ "กำลังพยายามที่จะร่วมมือกับรัสเซีบย" ในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายไอซิส ทางเพนตากอนก็แสวงหางบประมาณจำนวน $5.827 แสนล้านเหรียญเพื่อเผชิญหน้ากับรัสเซียและจีน ซึ่งเป็น "คู่แข่งที่เข้มแข็งมากที่สุด" (most stressing competitors) ของอเมริกา ตามคำพูดของนายแอชตัน คาร์เตอร์ รมว.กลาโหมของสหรัฐฯ

    "ในการเผชิญหน้ากับรัสเซียและจีนนั้น การทำงานร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วน จะเป็นการสกัดกั้นรัสเซียในปัจจุบัน และเตรียมการเพื่อต่อสู้ และเอาชนะหากมีความจำเป็น" Breedlove ผู้บัญชาการของกองกำลังสหรัฐฯประจำยุโรปกล่าว [ฟังคำพูดของนายพลสหรัฐฯผู้รักสันติ ไม่ชอบสงคราม โลกสวย สิครับ - ผู้แปล]

    อย่างไรก็ตาม Rohrabacher สมาชิกสภาคองเกรส ก็ได้กล่าวว่าเรื่องนี้ฟังดูเหมือนว่าจะแพ้ซะแล้ว (this sounds like a non-starter)

    "ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า การเพิ่มงบประมาณในกองทัพของพวกเราที่ขยายออกไปในยุโรป ก็เพราะว่าปัจจุบันนี้พวกเรามีรถถังในยุโรปเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะถูกนำไปในการกระทำที่ไม่เป็นมิตรโดยรัสเซียด้วย ดังนั้น ผมจึงต้องการที่จะออกจากวงจรนี้ดีๆ ซึ่งเป็นวงจรที่พวกเรากำลังมองหาสิ่งต่างๆที่พวกเขากำลังทำตัวไม่เป็นมิตร และอะไรทำนองนี้"

    [เมื่อต้นสัปดาห์นี้นิตยสาร Forbes ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวอเมริกกันเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อสหรัฐฯมีการจัดอันดับจากมากไปหาน้อยดังนี้

    1.) ขบวนการก่อการร้ายสากล 79%
    2.) การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน 75%
    3.) การก่อการร้ายในโลกไซเบอร์ 73%
    4.) การแพร่ระบาดของเชื้อโรคทั่วโลก 63%
    5.) ความขัดแย้งในซีเรีย 58%
    6.) แสนยานุภาพทางทหารของเกาหลีเหนือ 58%
    7.) คลื่นผู้ลี้ภัยที่ทะลักเข้าไปในยุโรปและอเมริกาเหนือ 52%
    8.) ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 50%
    9.) ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ 45%
    10.) แสนยานุภาพทางทหารของจีน 41%
    11.) มหาอำนาจด้านเศรษฐกิจของจีน 41%
    12.) แสนยานุภาพด้านทหารของรัสเซีย 39%

    อะไรฟร๊ะ! คนอเมริกันกลัวเกาหลีเหนือมากว่ากลัวจีนกับรัสเซียซะอีก? Sputnik news พาดหัวข่าวนี้ว่า "สรุปว่าไม่ใช่รัสเซีย: ชาวอเมริกันเชื่อว่าขบวนการก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามอันดับต้นต่อสหรัฐฯ" (Not Russia, After All: Americans Believe Terrorism is Primary Threat for US) จบนะครับคุณเพนตากอน จะหากินกับงบประมาณกลาโหมก็ใช้มุกอื่นบ้างเถอะครับ รู้สึกว่ามุกให้รัสเซียและจีนเป็นผู้ร้ายนี่เริ่มฝืดในสายตาของประชาชนชาวอเมริกันบ้างแล้วนะครับ ถ้ายังอยากจะเล่นมุกนี้ต่อไปก็ต้องเพิ่มงบ "propaganda" ให้มากกว่านี้

    และล่าสุด Sputnik news ก็รายงานข่าวว่า รองรมว.กลาโหมของสหรัฐฯประกาศว่าสหรัฐฯจะทำการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป Minuteman III ในวันศุกร์นี้ ไม่มีรายงานข่าวว่า เกาหลีเหนือ รัสเซีย จีน หรืออิหร่านจะตกใจกลัวหรือแสดงอาการโวยวายแบบที่สหรัฐฯได้ยินข่าวเกาหลีเหนือปล่อยจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรโดยกระพือข่าวว่าอาจจะเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลก็ได้ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้เลย - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    26/02/2559
    ----------
    https://www.rt.com/usa/333675-russia-pentagon-enemy-kerry/
    Not Russia, After All: Americans Believe Terrorism is Primary Threat for US
    Americans Cite Cyberterrorism Among Top Three Threats to U.S.
    US to Test Intercontinental Ballistic Missile - Deputy Defense Secretary
    https://www.youtube.com/watch?v=4Jpmz6WOYsM
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    จอห์น แคร์รี่เสนอแผนบีถ้าข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียล้มเหลว รัสเซียบอกว่าไม่มีแผนบงแผนบีอะไรทั้งนั้นมีแผนเดียวคือแผนเอ

    [​IMG]

    -----------

    มาติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับซีเรียต่อนะครับ จอห์น แคร์รี่เสนอแผนบีถ้าข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียล้มเหลว รัสเซียบอกว่าไม่มีแผนบงแผนบีอะไรทั้งนั้นมีแผนเดียวคือแผนเอ ถ้าฝ่ายไหนไม่ยอมหยุดยิง รัสเซียและสหรัฐฯจะร่วมมือกันบอมบ์ฝ่ายนั้นทันที ตุรกีบอกข้อตกลงหยุดยิงไม่ได้ครอบคุมถึงชาวเคิร์ด YPG ที่ตุรกีกำลังยิงถล่มข้ามชายแดน โอบาม่าบอกมีแต่การหยุดยิงเท่านั้นที่จะหยุดสงครามตัวแทนในภูมิภาคได้ ปูตินเตือนสติสหรัฐฯว่าข้อตกลงหยุดยิงไม่ได้คุ้มครองขบวนการก่อการร้ายในซีเรียนะ สำหรับผู้ที่ไม่ชอบอ่านยาวๆก็ประมาณนี้แหละ แต่ถ้าชอบแบบมันส์ๆ แนะนำให้อ่านให้จบนะครับ

    วันที่ 24 RT news พาดหัวข่าวว่า "บทบาทของรัสเซียมีส่วนสำคัญต่อการหยุดยิงในซีเรีย แต่สหรัฐฯบอกว่ามีแผนบี - แคร์รี่กล่าว" (Russia role vital to Syrian truce, but US has ‘Plan B’ – Kerry)

    สหรัฐฯกำลังหารือกันเกี่ยวกับทางเลือก "Plan B" หากการหยุดยิงในซีเรียและกระบวนการทางการเมืองล้มเหลว นายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯแจงต่อคณะกรรมธิการวุฒิสภาของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกันก็ยกย่องบทบาทที่สำคัญของกรุงมอสโคว์ในการทำให้บรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย

    "ขณะนี้มีการหารือกันอย่างมีนัยสำตัญเกี่ยวกับแผนบี ในกรณีที่พวกเราไม่ประสบความสำเร็จที่โต๊ะ [เจรจา]" แคร์รี่กล่าวก่อนเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

    รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯถูกท้าทายโดยวุฒิสมาชิกหลายคนเกี่ยวกับข้อตกลงการหยุดยิง ซึ่งมีกำหนดการมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศซีเรียในเที่ยงคืนวันเสาร์ (22.00 น. วันศุกร์ตามเวลาสากล) การหยุดการสู้รบกันซึ่งเสนอโดยประธานาธิบดีของรัสเซียและสหรัฐฯ ได้ครอบคุมถึงทุกฝ่ายที่มีความขัดแย้งกันในซีเรียที่แสดงความมุ่งมั่นของตน [ยกเว้นขบวนการก่อการร้ายต่างๆ - ผู้แปล]

    ตามแผนการนี้ ฝ่ายที่ตกลงปฏิบัติตามเงื่อนไขจะต้องงดเว้นจากการโจมตีฝ่ายอื่นๆในความขัดแย้งด้วยอาวุธ ซึ่งรวมทั้งจรวด ปืนครก ขีปนาวุธนำวิถีทำสำหรับทำลายรถถังด้วย

    กลุ่มก่อการร้ายต่างๆเช่น พวกไอซิส และอัล-นุสราฟรอนท์ หรือกลุ่มอื่นๆตามที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิง ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ควรจะทำการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ที่มีความต้องการโดยทันที

    [พูดถึงเรื่องการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ประชาชนในซีเรีย มีอยู่ข่าวหนึ่งขอเล่าแทรกดังนี้นะครับ]

    [พูดถึงเรื่องการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ประชาชนในซีเรีย มีอยู่ข่าวหนึ่งขอเล่าแทรกดังนี้นะครับ วันที่ 25 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Oops! ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของยูเอ็นตกไปในเขตที่พวกดาอิชควบคุมในจังหวัด Deir ez-Zor ของซีเรีย" (Oops! UN Aid to Deir ez-Zor Lands in Daesh-Controlled Territory)

    ในวันเดียวกันนี้ Sputnik news ก็พาดหัวข่าวอีกว่า "องค์กรยูเอ็นยืนยันว่าได้หย่อนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมดที่จะส่งไปให้ซีเรียผิดเป้าหมาย" (UN Agency Confirms All Syria Aid Airdrops Missed Target)

    ฮิ้ววววว! ไม่ผิดหรอกครับ เขารู้กันทั้งนั้นแหละว่ายูเอ็นอุ้มพวกผู้ก่อการร้าย ตั้งใจส่งความช่วยเหลือไปให้พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสที่กำลังถูกปิดล้อมโดยกองทัพซีเรียในพื้นที่จังหวัด Deir ez-Zor ทางตะวันออกของซีเรียก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องทำเป็นเขินอายหรอกครับ

    ก็ขนาดเอาขบวนรถทัวร์เข้าไปรบกลุ่มก่อการร้ายออกจากพื้นที่แพ้สงครามก็ยังเคยทำมาแล้วอย่างน้อยสองครั้ง เพียงแค่การส่งข้าวส่งน้ำทางอากาศไปให้พวกผู้ก่อการร้ายหลังจากที่ถูกกองทัพซีเรียและนักรบชาวเคิร์ดตัดเส้นทางลำเลียงจากตุรกีจะเป็นไรไปเล่า ภารกิจบรรลุเป้าหมาย - ผู้แปล]

    กลับมาที่สภาคองเกรสของสหรัฐฯกันต่อนะครับ.... "ผมจะไม่รับรองแผนนี้ ผมจะไม่บอกว่ากระบวนการนี้จะได้ผลแน่นอน เพราะว่าผมไม่รู้ แต่ผมรู้ว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพยายามที่จะยุติสงครามนี้ และนี่เป็นเพียงทางเลือกเดียวที่เหมาะสมสำหรับพวกเรา หากว่าพวกเราต้องการที่จะแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการเมืองอย่างจริงจัง" แคร์รี่กล่าวถึงข้อตกลงที่มีสหรัฐฯและรัสเซียเป็นโบกเกอร์ โดยเน้นย้ำว่า "มันอาจจะสายเกินไปที่จะที่จะรักษาซีเรียไว้ทั้งหมด หากว่าพวกเรารอคอยนานเกินไป"

    [นั่นไง! แผน B ของแคร์รี่หละ แพล็มออกมาแล้วครับ "แบ่งแยกและปกครอง" นี่เป็นคำพูดของสหรัฐฯฝ่ายเดียวเท่านั้นนะครับ รัสเซียยังไม่ตกลงอะไรกับแคร์รี่ในส่วนนี้นะ อย่าเพิ่งเหมารวมว่าสหรัฐฯกับรัสเซียจะร่วมมือกันแบ่งเค้กซีเรียคนละครึ่งหละ - ผู้แปล]

    เหล่าวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯต่างก็พากันคาดเดาถึงความมุ่งมั่นของรัสเซียในข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งทั้งพรรคเดโมแครทและรีพับลิกันได้เน้นหนักไปที่การสนับสนุนของกรุงมอสโคว์ต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาดของซีเรีย และกล่่าวหารัฐบาลรัสเซียว่าละเมิดข้อตกลงก่อนหน้านี้

    "สำหรับผมแล้ว สิ่งเดียวที่รัสเซียมีความคงเส้นคงวาด้วยก็คือ ความล้มเหลวที่จะรักษาคำพูด" วุฒิสมาชิก John Barrasso (R-Wyoming) ประธานคณะกรรมาธิการกล่าว

    [เฮ้ออออ บางครั้งคนเหล่านี้ก็บ่นเหมือนเด็กๆอ่ะนะครับ สุดยอดแชมป์ของการตระบัดสัตย์นั้นต้องยกให้นักการเมืองและสื่อฯสหรัฐฯอยู่แล้ว อันนี้รัสเซียคงไม่สามารถโค่นแชมป์ได้หรอกครับ เช่นโอบาม่าเคยพูดว่าจะไม่ส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย และอิรัค ส่วนกลาโหมของสหรัฐฯก็ออกประกาศว่าจะส่งเข้าไปพร้อมทั้งวิ่งล็อบบี้ประเทศพันธมิตรให้ส่งเข้าไปด้วย และสหรัฐฯก็ส่งกองกำลังบางส่วนของตนเองเข้าไปทั้งในอิรัคและซีเรียด้วย ล่าสุดก็ออกมาบอกว่าสหรัฐฯยอมเปิดเผยตำแหน่งของทหารของตนเองในซีเรีย ไม่งั้นโดนรัสเซียบอมบ์ทางอากาศดับดิ้นชีวาวายในซีเรียแน่ ท่านประธานคณะกรรมาธิการจำไม่ได้หรือ? - ผู้แปล]

    "ผมเพียงแค่หวังว่ามันจะไม่ใช่ 'ข้อตกลงแบบพิงเชือกชก' (a rope-a-dope deal) หรอกนะ" วุฒิสมาชิก Barbara Boxer พรรคเดโมแครทจากรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าว

    [เขาไม่ได้หมายถึงใครที่ว่าเป็น "ข้อตกลงแบบพิงเชือกชก" (พิงเชือกเอาแรง) ไม่ได้ระบุว่าสหรัฐฯหรือรัสเซีย "rope-a-dope" เป็นสำนวนเปรียบเทียบเหมือนนักมวยที่อาศัยเชือกเวทีเป็นที่พักเอาแรงในขณะเดียวกันก็ตั้งการ์ดป้องกันตัวเองจากคู่ต่อสู้ ประมาณว่าขอยืมกำลังจากเชือกเวทีสักพักก่อน

    พอคู่ต่อสู้ระดมยิงหมดเข้าใส่ฝ่ายที่ rope-a-dope จนหมดแรงแล้ว คราวนี้ก็สวนกลับเต็มๆ โป้ง! จอดสนิท เหมือกับที่มูฮัมมัด อาลีใช้แทคติกพิงเชือกชกในตอนที่ขึ้นชกกับจอร์จ โฟร์แมน ในยกที่ 8 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1974 ปรากฎว่าฝ่ายจอร์จ โฟร์แมนอยากจะใช้แทคติกแบบนั้นบ้าง

    แต่เนื่องจากถูก Muhammad Ali แย่งเชือกไปแล้ว แกก็เลยขอยืมพลังจากพื้นเวทีแทน พอรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่ากรรมการให้ Muhammad Ali ชนะน็อคไปแล้ว สงสัยว่า George Foreman จะนอนนับดาวลูกไก่บนพื้นเวทีนานไปหน่อย ดังนั้น ฝ่ายที่กำลังพยายามจะใช้แทคติก rope-a-dope แบบมูฮัมมัด อาลีนี่น่าจะเป็นสหรัฐฯมากกว่ามั๊งครับ คริๆ - ผู้แปล]

    อ่านข่าวต่อ... แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับสหรัฐฯในหลายประเด็น แต่รัสเซียก็มีบทบาทที่สำคัญในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย แคร์รี่เน้นย้ำ

    "หากปราศจากความร่วมมือจากรัสเซีย ผมไม่มั่นใจว่าพวกเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่พวกเรามีอยู่ในตอนนี้ได้หรือไม่ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ได้ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไป ในหลังๆมานี้ รัสเซียได้ส่งคณะทูตพิเศษเข้าไปในซีเรียเพื่อหารือกับฝ่ายรัฐบาลอัสซาด และทำให้มั่นใจว่าพวกเขามีข้อตกลงกันในการเดินหน้ากระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งรวมทั้งยกย่องการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วย" แคร์รี่กล่าว

    รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯยังได้กล่าวถึงความร่วมมือในวงกว้างของรัสเซียในที่ประชุมเกี่ยวกับซีเรียในกรุงเวียนนาด้วย ซึ่ง "อาจจะไม่เกิดขึ้น หากปราศจากการเข้าร่วมของรัสเซีย" รวมทั้งทีมเวิร์คของกรุงมอสโคว์ในการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านด้วย

    เมื่อถูกกดดันให้พูดถึงว่าอะไรจะเป็น "ผลลัพธ์" ที่อาจจะเป็นไปได้ ที่แคร์รี่สนับสนุนรัสเซีย "หากว่ารัสเซียละเมิดข้อตกลงหยุดยิง" แคร์รี่ตอบโต้ว่า "นี่เป็นช่วงเวลาที่จะพยายามดูว่าพวกเราจะสามารถทำงานนี้ได้หรือไม่" [ทำไมถึงไม่สงสัยว่าสหรัฐฯจะละเมิดข้อตกลงบ้างนะ? - ผู้แปล]

    แคร์รี่กล่าวต่ออีกว่า "ไม่ใช่การหาหนทางที่จะพูดถึงความล้มเหลวล่วงหน้า และเริ่มพูดคุยถึงข้อเสียทั้งหมดในสิ่งที่พวกเราอาจจะทำหลังจากนั้น" [แปลว่าอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ว่ามันจะพัง - ผู้แปล]

    แคร์รี่กล่าวว่ามันอาจจะใช้เวลาถึงหนึ่งหรือสองเดือนก่อนที่สหรัฐฯจะดูว่าประเทศต่างๆในภูมิภาคจริงจังกับการเปลี่ยนถ่ายอำนาจทางการเมืองในซีเรียหรือไม่ และว่ารัฐบาลซีเรียมีความมุ่งมั่นหรือไม่ด้วย

    [นี่แหละคือปัญหาใหญ่อย่างหนึ่ง "…ประเทศต่างๆในภูมิภาคจริงจังกับการเปลี่ยนถ่ายอำนาจทางการเมืองในซีเรียหรือไม่..." ประเทศต่างๆเหล่านั้นมาแส่อะไรกับกิจการภายในทางการเมืองของซีเรียด้วย เขาจะเลือกตั้ง จะมีรัฐบาลใหม่มันเกี่ยวกับอะไรกับซาอุดิอาระเบีย และตุรกี หรือประเทศอื่นๆด้วย ทำไมถึงไม่ให้ประชาชนชาวซีเรียตัดสินใจเอง ถ้าซีเรียบอกว่าอยากให้ซาอุดิอาระเบียจัดการเลือกตั้งบ้าง ซาอุดิอาระเบียจะยอมรับได้ไหม? ถ้าซีเรียบอกว่าการเลือกตั้งหรือการเปลี่ยนถ่ายอำนาจทางการเมืองของตุรกีจะต้องให้ซีเรียมีส่วนร่วมด้วย Erdogan จะยอมรับได้ไหม? หรือแม้กระทั่งของสหรัฐฯเองก็เถอะ - ผู้แปล]

    "การพิสูจน์จะมีขึ้นในการดำเนินการต่างๆที่จะมาถึงในไม่กี่วันนี้ พวกเราก็จะได้รู้ในหนึ่งหรือสองเดือนว่ากระบวนการเปลี่ยนถ่ายเป็นเรื่องที่จริงจังหรือไม่... [ปธน.บาชาร์] อัสซาดเองก็กำลังจะทำการตัดสินใจที่แท้จริงบางอย่างเกี่ยวกับรูปแบบของกระบวนการ [แต่งตั้ง] รัฐบาลเปลี่ยนผ่านที่เป็นจริง ถ้าไม่มี... แน่นอนว่าทางเลือกแผนบีก็จะได้รับการพิจารณา" แคร์รี่กล่าว

    [อ่ะฮ้าาาา หลังจากสหรัฐฯและรัสเซียทำข้อตกลงกัน ปธน.อัสซาดก็ได้ทำการตัดสินใจทันทีว่า ให้มีการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศขึ้นในวันที่ 13 เม.ย.59 ที่จะถึงนี้ นั่นแหละแผนบีของอัสซาดหละ คริๆ - ผู้แปล]

    แม้ว่าแคร์รี่จะเอ่ยถึง "Plan B" ถึงสองครั้ง แต่แคร์รี่ก็เลี่ยงที่จะระบุอย่างชัดเจนว่าทางเลือกที่กรุงวอชิงตันกำลังพิจารณาอยู่นั้นคืออะไร

    คราวนี้มาดูท่าทีจากฝั่งรัสเซียบ้าง น้าหนวด Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวในการแถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า "ปัจจุบันนี้รัสเซียมุ่งความสนใจไปที่ 'Plan A' ในการจัดการกับสถานการณ์ในซีเรีย"

    Dmitry Peskov กล่าวต่ออีกว่า "พวกเราคิดว่าความสำคัญอันดับต้นของพวกเราก็คือการหารือและทำงานให้เป็นไปตามแผนการ ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากประธานาธิบดีทั้งสองท่าน [จากปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน และปธน.บารัค โอบาม่า]"

    สุดท้าย RT รายงานว่า ประธานาธิบดีอัสซาดได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาขึ้นในวันที่ 13 เมษายนนี้ เกือบจะเป็นเวลา 4 ปีหลังการลงคะแนนออกเสียงก่อนหน้านี้ในปี 2012 คำประกาศของประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาด เกิดขึ้นติดๆกันหลังจากที่มีการประกาศแถลงการณ์ร่วมกันระหว่างปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน และปธน.บารัค โอบาม่า เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย

    [ล่าสุดรายงานข่าวบอกว่ากรุงดามัสกัสเงียบสงบในช่วงเช้าของวันเสาร์หลังข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียมีผลบังคับใช้ตอนเที่ยงคืน และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็มีมติเป็นเอกฉันท์ในการรับมติการหยุดยิงในซีเรียด้วย ส่วนซาอุดิอาระเบียได้ส่งเครื่องบินรบ F-15 จำนวน 4 ลำเข้าไปยังฐานทัพอากาศ Incirlik ของตุรกีที่นาโต้ใช้งานอยู่ใกล้ชายพรมแดนซีเรียเรียบร้อย ก็รอรู้ต่อไปว่าซาอุดิอาระเบียจะกล้าส่ง F-15 ของตนเองเข้าซ่าในน่านฟ้าของซีเรียหรือไม่? ติดตามต่อต่อไป... - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    26/02/2559
    ----------
    https://www.rt.com/usa/333419-kerry-plan-ceasefire-syria/
    Oops! UN Aid to Deir ez-Zor Lands in Daesh-Controlled Territory
    UN Agency Confirms All Syria Aid Airdrops Missed Target
    US Weighs Plan to ‘Carve’ Syria if Diplomatic Effort Fails - Kerry
    Situation in Damascus ‘Calm’ After Start of Syria Ceasefire
    https://www.youtube.com/watch?v=k6m4ONkgkYc
    https://www.youtube.com/watch?v=jDCMdq_Fa6c
    https://www.youtube.com/watch?v=c2e9XWZsLeE
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2016
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    #1 เขตปลอดภัย (safe zone)ในซีเรีย

    อีแร้งต้องการส่งทหาร 15,000-30,000นายไปปกป้องเขตปลอดภัยที่ทางตอนเหนือของซีเรีย

    รัสเซียบอกเมินเสียเถอะ

    นายJohn Kerryส่งสัญญานนี้ให้สภาคอนเกรซได้รับทราบระหว่างการให้ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการในวิกฤติซีเรียในช่วงวันพุธที่ผ่านมา นอกจากเรื่องหยุดยิงในซีเรียแล้ว เขาบอกว่าจำเป็นต้องมีเขตปลอดภัยเพื่อปกป้องพลเรือนชาวซีเรียจากภัยสงคราม และสหรัฐอาจจะต้องส่งทหาร15,000-30,000นายไปประจำการที่นั้น
    Kerry: 30,000 US Troops Needed for “Safe Zone” in Syria » Alex Jones' Infowars: There's a war on for your mind!

    นายKerryมีห่วงชาวซีเรียด้วยหรือ? สงครามซีเรียตั้งแต่ปี 2011ที่ก่อโดยสหรัฐ ตุรกีและซาอุเป็นหลักเพื่อล้มรัฐบาลอัสซาดทำให้ชาวซีเรียตายไปแล้วเกือบ300,000คนและก่อให้เกิดปัญหาผู้อพยพชาวซีเรียนับล้านคน

    มาตอนนี้พอรู้สึกว่าจะเสียท่ารัสเซียและรัฐบาลซีเรียในสงครามซีเรีย สหรัฐจึงพยายามเสนอแผนหยุดยิง ซึ่งเริ่มมีผลในวันนี้รวมทั้งแผนการสร้างเขตปลอดภัยทางตอนเหนือของซีเรีย

    ในแผนหยุดยิง พวกนักรบ100กลุ่ม หรือนักรบร้อยพ่อพันแม่ตกลงที่จะหยุดยิงเป็นเวลา2สัปดาห์เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาแผนสันติภาพ รวมทั้งให้มีองค์กรอิสระเข้าไปให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ชาวซีเรียที่ติดกับดักสงคราม แต่การหยุดยิงนี้ไม่ครอบคลุมพวกอัล นุสราและพวกไอซิสหรือองค์กรก่อการร้ายอื่นๆที่ยูเอ็นกำหนด

    เอาเข้าจริงแล้ว สหรัฐเป็นกังวลว่าทหารสหรัฐที่ปฏิบัติการในซีเรียด้วยการให้การฝึกพวกนักรบก่อการร้ายต่างๆโดยความร่วมมือของตุรกีจะโดนรัสเซียถล่ม ซึ่งจะมีผลทำให้สหรัฐและรัสเซียรบกันทางทหาร

    อีกประการหนึ่ง สหรัฐกลัวว่าพวกนักรบต่างๆรวมทั้งไอซิสจะโดนรัสเซียจัดการเรียบจึงต้องเสนอเขตปลอดภัยอย่างน้อยให้พวกนักรบมีที่ได้พอหายใจ

    นี้คือแผนบี (Plan B)เพื่อปกป้องพวกตัวเองของJohn Kerryในขณะที่สหรัฐกำลังเพลี้ยงพล้ำรัสเซียในซีเรีย ที่สำคัญKerryบอกกับสภาสหรัฐว่าถ้าหากว่าแผนหยุดยิงหรือการเจรจาแผนสันติภาพล้มเหลว ซีเรียควรจะถูกแบ่งแยกออกเป็นชิ้นส่วนเพื่อยุติความขัดแข้งหรือสงคราม

    ตุรกีต้องการเขตปลอดภัยที่จะกินพื้นที่ลึกลงไปทางตอนเหนือของซีเรียจากชายแดนตุรกีประมาณ25กิโลเมตร และมีความยาวตามชายแดน98กิโลเมตร (พื้นที่สีฟ้าตามรูปภาพประกอบ) เพื่อว่าชาวซีเรียอพยพจะได้ถูกส่งกลับมาอยู่บริเวณนี้และจะได้รับการการันตีว่าจะไม่มีภัยจากสงคราม สหรัฐหรือกองทัพนานาชาติจะส่งทหารมาปกป้อง

    ทางรัสเซียรู้แกวเหมือนกันว่าเขตปลอดภัยที่เสนอมา โดยที่นางแมร์เกิ้ลของเยอรมัน และนายทรัมป์ที่กำลังจะเป็นประธานาธิบดีให้การสนับสนุนน่าจะเป็นการให้ที่พักพิงกับทหารสหรัฐ ตุรกีและพวกนักรบไอซิสได้รักการปกป้องจากการถล่มทางอากาศของกองทัพรัสเซีย

    รัสเซียไม่เอาด้วยกับแผนบีนี้ ถึงแม้จะมีการเจรจาหยุดยิงก็ตาม แต่กองทัพรัสเซียจะเดินหน้าถล่มพวกไอซิสและอัล นุสรา ซึ่งเป็นกองกำลังหลักที่ก่อสงครามซีเรียในช่วงที่ผ่านมาให้สิ้นซาก

    ผู้มีหน้าที่เจรจาสันติภาพก็เจรจาไป ผู้มีหน้าที่ทำสงครามก็ทำสงครามไป

    thanong
    27/2/2016

    #2 ปูตินซื้อทองลูกเดียว

    รัสเซียได้รายได้จากการขายน้ำมัน แม้ว่าจะได้ดอลล่าร์ลดลงเพราะว่าราคาน้ำมันตก แต่ก็เอาดอลล่าร์นั้นไปซื้อทองเป็นการใหญ่

    สื่อเยอรมันDie Welt รายงานว่า รัสเซียไม่ได้ซื้อทองตามปกติ แต่กว้านซื้อทองอย่างเป็นกอบเป็นกำ ถือว่ารัสเซียกำลังโจมตีดอลล่าร์อย่างเงียบๆ

    ทำให้รัสเซียมีทองคำสำรองเพิ่มเป็นเกือบ1,400ตันแล้ว

    อย่างไรก็ตามตัวเลขที่เป็นทางการนี้เชื่อถือไม่ได้ เพราะว่าเอาเข้าจริงแล้วรัสเซียน่าจะมีทองคำสำรองสูงกว่านี้มาก

    จีนอีกประเทศที่กว้านซื้อทองคำไม่หยุด ด้วยการทิ้งดอลล่าร์และเปลี่ยนมาเป็นทองคำแทน

    นอกจากจะเผชิญหน้ากันทางสงครามเย็น รัสเซีย+จีนก็กำลังก่อสงครามการเงินกับสหรัฐ ด้วยการทิ้งดอลล่าร์เพื่อเก็บทองคำแทน

    ระบบการเงินโลกที่มีดอลล่าร์เป็นศูนย์กลางกำลังเข้าสู่จุดอับ เนื่องมาจากนโยบายดอกเบี้ยติดลบของบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้ดอกเบี้ยพันธบัตรติดลบไปด้วย และฐานะของแบงค์จะง่อนแง่นมีโอกาสเกิดวิกฤติการเงินที่รุนแรงมากอีกรอบ ทำให้สหรัฐออกฤทธิ์ดิ้นสุดขีดเวลานี้
    Against the Dollar? What Russia’s Increase of Bullion Reserves Could Mean

    thanong
    27/2/2016

    #3 แรงกดดันของตลาดจะบีบให้ดอกเบี้ยขึ้น

    นายMartin Armstrongแห่งarmstrongeconomics.com เขียนรายงานว่าตลาดการเงินจะสร้างแรงกดดันตามธรรมชาติให้ดอกเบี้ยขึ้น แม้ว่าธนาคารกลางของประเทศต่างๆพยายามกดดอกเบี้ยลงให้ติดลบ

    ถ้าตลาดการเงินสามารถส่งพลังบีบให้ดอกเบี้ยขึ้นได้ หมายความว่าธนาคารกลางจะพ่ายแพ้ต่อพลังของตลาด เมื่อธนาคารกลางพ่ายแพ้ต่อกลไกตลาดที่แท้จริง ระบบการเงินจะล่มจมอย่างสมบูรณ์

    นายอาร์มสตรองบอกว่า แรงดอกเบี้ยขาขึ้นจะเริ่มมีพลังส่งในปี2017 และจะขึ้นต่อเนื่องถึงปี2020

    สาเหตุที่ดอกเบี้ยต้องขึ้นเป็นเพราะว่าคนเริ่มเห็นว่าพันธบัตรรัฐบาลเป็นความเสี่ยง จึงโยกเงินที่ลงในทรัพย์สินของรัฐบาลไปยังทรัพย์สินของเอกชนแทน ตลาดการเงินจะไม่ซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือหนี้ของรัฐบาลที่ไม่มีวันชดใช้คืนได้อีกต่อไป เพราะเล็งเห็นว่าหนี้รัฐบาลกำลังจะระเบิดออกมา

    ธนาคารกลาง (ญี่ปุ่น อีซีบี สวีเดน เดนมาร์ก สวิส)กดดอกเบี้ยลงติดลบ เพื่อเร่งให้แบงค์ปล่อยกู้ แต่เอาเข้าจริงแล้วส่วนหนึ่งเพื่อประคองหนี้รัฐบาล ด้วยเหตุนี้นักลงทุนจึงจะโยกเงินจากพันธบัตรรัฐบาลเข้าตลาดหุ้น เพราะว่าการถือพนัธบัตรที่ดอกเบี้ยติดลบ หมายความว่าเมื่อถือจนครบอายุพันธบัตรจะขาดทุน แต่ที่ผ่านมาจำใจต้องถือเพราะเกรงว่าเอาเงินไปปาร์คกับแบงค์มากๆ ถ้าแบงค์ล้มอาจจะไม่ได้เงินคืน และการลงทุนในทรัพย์สินอื่นๆมีความเสี่ยงเพราะว่าตลาดการเงินช่วงนี้ผันผวนมากจับต้นชนปลายไม่ถูก

    ถ้าลงทุนในหุ้นไม่กำไร หรือไม่ขาดทุน อย่างน้อยดีกว่าถือพันธบัตรรัฐบาลที่ดอกเบี้ยติดลบ ตอนนี้ตลาดพันธบัตรรัฐบาลที่ดอกเบี้ยติดลบมีปริมาณกว่า$8ล้านล้านไปแล้ว พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ10ปีติดลบไปแล้ว นักลงทุนที่ถือพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเท่ากับว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยให้รัฐบาลญี่ปุ่นแทนที่จะได้ดอกเบี้ย

    โลกมันกลับตาลปัตรไปแล้ว

    มีความเสี่ยงว่าถ้ารัฐบาลถังแตก อาจจะเปลี่ยนพันธบัตรอายุ90วันเป็นพันธบัตรอายุ10ปีก็ได้ เพื่อยืดอายุการชำระหนี้

    สภาพตลาดการเงินของดอกเบี้ยแบบนี้ แบงค์จะอยู่ไม่ได้ เพราะว่ามาร์จิ้นไม่มี คนจะไม่มั่นใจในแบงค์เพราะว่าพอร์ตของแบงค์ลงทุนในตลาดการเงินที่มีแต่กระดาษ เมื่อคนแห่งถอนเงินจากแบงค์ แบงค์ต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อให้คนฝากเงินต่อ จะเป็นอะไรที่สวนทางกันกับนโยบายดอกเบี้ยติดลบของธนาคารกลาง

    ธนาคารกลางอาจจะให้ดอกเบี้ยติดลบนานเท่าที่ธนาคารกลางช่วยเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลเอง แต่จะทำอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ ถึงจุดหนึ่งจะไม่มีนักลงทุนคนเข้ามาซื้อ (bid) พันธบัตรรัฐบาลที่เอาออกมาประมูลเพื่อก่อหนี้ เมื่อไม่มีิbidจากนักลงทุน กลไกตลาดจะพัง ดอกเบี้ยจะขึ้นโดยธรรมชาติ ระบบการเงินจะล่มสลาย เพราะว่าไม่สามารถรับแรงกดดันของดอกเบี้ยขาขึ้นได้

    นักลงทุนจะโยกเงินเข้าทอง หรือทรัพย์สินที่จับต้องได้แต่ต้องสามารถออกตัวได้เร็ว

    เกมโอเวอร์
    https://www.armstrongeconomics.com/...s/who-will-raise-rates-the-market-or-the-fed/

    thanong
    27/2/2016

    https://m.facebook.com/ThanongFanclub/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดาวเคราะห์ที่แปลกประหลาดถูกถ่ายภาพได้เหนือท้องฟ้า Marbella ประเทศสเปน วัตถุประหลาดกำลังเข้าใกล้โลก วาติกันรู้ว่าจะเป็นอะไรต่อจากนี้

    [​IMG]

    วิดีโอได้ถูกเผยแพร่ออกมา โดยอ้างว่าเพื่อแสดงให้เห็นดาวเคราะห์ดวงอื่นควบคู่ไปกับดวงอาทิตย์ของเรา

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/ hu7Y_wiZD5c " frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    มันทำให้เกิดคำถามที่ได้รับการสงสัยมาเป็นเวลานาน ว่าดาวเคราะห์ดังกล่าวเป็น Nibiru หรือ Planet X ที่กำลังเข้าใกล้โลกหรือไม่?

    เห็นได้ชัดว่าวาติกันได้ใช้เงินนับล้านยูโรไปกับกล้องโทรทรรศน์ท ซึ่งเรียกกันว่าคุณจะเชื่อ
    "LUCIFER"ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาติดตามบางสิ่งบางอย่างขนาดใหญ่ที่พวกเขาเชื่อว่าอยู่ใกล้โลก


    นาซาได้ยอมรับ ... พวกเขาเชื่อว่าดาวแคระสีน้ำตาลอาจจะอยู่ในวงโคจรเป็นวงกลมอย่างหยาบๆกับดวงอาทิตย์ของเรา
    Lions Ground ได้อัปโหลดวิดีโอที่ยอดเยี่ยมของเขาและในขณะที่เขาอธิบายว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงและเขาก็แสดงให้เห็นว่าผู้ชมเพียงวิธีที่เขาจับปรากฏการณ์ที่เขากล่าวต่อไปด้านล่าง ...


    ภาพใหม่อีกครั้งสำหรับ Nibiru หรือ Planet X ซึ่งติดกับดวงอาทิตย์ของเรา ติดอยู่ในกล้องที่ถ่ายภาพใน Marbella
    เป็นไปได้มากที่สุดดาวเคราะห์นิบิรุ หรือดาวเคราะห์-X


    https://m.youtube.com/watch?v=hu7Y_wiZD5c

    ข่าวจากThe Big Wobble : Is a strange planet filmed above Marbella, Spain the strange object approaching Earth the Vatican is known to be following?
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประชาชนอิรักกว่า “ล้านคน” ออกมาชุมนุมตอบสนองการเรียกร้องของ “มุกตาดา ซาดร์” โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 27, 2016

    [​IMG]

    เพรสทีวี – เจ้าหน้าที่อิรักเผยว่า ประชาชนชาวอิรักราวหนึ่งล้านออกมาชุมนุมแถววงเวียน อัตตะรีร ใจกลางกรุงแบกแดดตามคำเรียกร้องของมุกตาดา ซอดร์

    สำนักข่าว อัลซูมารียะห์ ได้รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (26) มุกตาดา ซาดร์ ได้ออกมาปรากฏตัวพร้อมกับมวลชนที่ออกมาชุมนุมอีกครั้งหนึ่งเพื่อวิพากษ์วิจารณ์เหล่านักการเมืองของประเทศอิรัก โดยกล่าวว่า รัฐบาลอิรักไม่ได้ให้ความสนใจกับประชาชนในชาติของตนเองโดยปล่อยให้ประชาชนต่อสู้กับความกลัว ความตาย และความหิวโหยโดยลำพัง

    เมื่อเดือนที่ผ่านมา มุกตาดา ซอดร์ ได้กล่าวกับ ฮัยดัร อัลอิบาดี นายกรัฐมนตรีอิรักโดยยื่นคำขาดให้ทำการปฏิรูป และกล่าวว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบวิกฤติทางการเงินที่เกิดขึ้น และการประท้วงครั้งนี้คือเสียงของประชาชนที่ถูกหลงลืมและประชาชนมุสลิมนิกายซุนนีที่ถูกกดขี่ และเราไม่เห็นด้วยกับขบวนการใดหรือบุคคลใดก็แล้วแต่ที่ก่อความเสียหาย

    ซอดร์ซึ่งมีสมาชิกพรรคในรัฐสภาถึง 34 ที่นั่งได้ย้ำอีกว่า รัฐบาลปัจจุบันไม่ใช่ตัวแทนแท้จริงของประชาชนเหล่านี้ ดังนั้น อิบาดี ต้องปฏิรูปเพื่อประชาชน

    เขาได้กล่าวกับผู้ชุมนุมว่า พวกท่านจะต้องตะโกนขึ้นให้เสียงพวกท่านดังขึ้นเพื่อให้บรรดาผู้ทำผิดและก่อความเสียหายได้เกรงกลัวต่อพวกท่าน

    บางแหล่งข่าวบอกว่า การชุมนุมครั้งนี้มีผู้ร่วมชุมนุมเกือบหนึ่งล้านคน และส่วนมากเดินทางมาจากเมืองต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้สนับสนุนมุกตาดา ซาดร์ ผู้ชุมนุมเหล่านี้ได้เดินทางมายังกรุงแบกแดดเมื่อคืนที่ผ่านมาเพื่อเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้

    ซาดร์ได้เรียกร้องความต้องการต่างๆโดยหลีกเลี่ยงจากคำขวัญหรือสโลแกนที่มุ่งเน้นไปยังการแบ่งพรรคแบ่งพวกหรือเชื้อชาติ มุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิม ซุนนี่หรือชีอะฮ์ และถ้าหากรัฐบาลยังไม่ดำเนินการปฏิรูปตามคำเรียกร้องของประชาชนเขาจะประกาศลาออกจากเวทีการเมือง

    ซาดร์ เชื่อว่า โครงการปฏิรูปของเขานั้นตรงกับความคิดเห็นของบรรดาผู้รู้ศาสนาและประชาชนในอิรักและเชื่อว่าการปฏิเสธการปฏิรูปนั้นคือการทรยศต่อประเทศชาติ

    ฮัยดัร อัลอิบาดี รัฐมนตรีอิรักเคยสัญญาว่าจะดำเนินการปฏิรูปเมื่อหกเดือนที่ผ่านมาตามความสามารถและทักษะที่รัฐบาลมี


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    ประชาชนอิรักกว่า “ล้านคน” ออกมาชุมนุมตอบสนองการเรียกร้องของ “มุกตาดา ซาดร์” | abnewstoday
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    สถานการณ์ในซีเรียและระหว่างประเทศหลังเริ่มหยุดยิงวันแรก

    [​IMG]

    -----------

    1.) วันที่ 27 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "กบฏซีเรียเกือบ 100 กลุ่มลงนามในข้อตกลงหยุดยิง" (Nearly 100 Rebel Groups Sign Up to Syrian Ceasefire Deal)

    คณะกรรมการเจรจาระดับสูงฝ่ายค้านซีเรีย (HNC) กล่าวเมื่อวันศุกร์นี้ว่ามีกลุ่มกบฏเกือบ 100 กลุ่มได้ร่วมตกตงในข้อตกลงหยุดยิงของสหรัฐฯและรัสเซียเมื่อเร็วๆนี้

    "HNC ยืนยันการยอมรับระหว่างกองกำลังปลดปล่อยซีเรีย (กบฏ) และฝ่ายค้านติดอาวุธเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงการหยุดยิงชั่วคราวซึ่งเริ่มต้นขึ้นในตอนเที่ยงคืนของวันที่ 27 กุมภาพันธ์เป็นเวลาสองสัปดาห์" HNC กล่าวในแถลงการณ์

    "ได้มีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวหลังจากการเจรจาต่อรองกับกลุ่มฝ่ายค้านจำนวน 97 กลุ่ม" คณะกรรมการ HNC กล่าวโดยไม่ระบุชื่อของกองกำลังกบฏใดๆ

    นอกจากนี้ Sputnik ยังรายงานอีกว่ากลาโหมของรัสเซียแจ้งว่า ได้มีการหยุดสู้รบกันในพื้นที่ 34 แห่งที่มีประชากรอยู่อาศัยในซีเรีย และกองทัพรัสเซียก็ได้ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปให้ประชาชนชาวซีเรียในพื้นที่จังหวัด Homs และ Latakia จำนวน 2.5 ตันในซีเรียด้วย

    2.) วันเดียวกันนี้ Sputnik news ก็พาดหัวข่าวอีกว่า "รัสเซียได้มีการเจรจากับตัวแทนกลุ่มติดอาวุธ 49 กลุ่มในซีเรีย" (Russia Holds Talks With 49 Armed Groups Representatives in Syria)

    เจ้าหน้าที่ได้จัดให้มีการเจรจากับตัวแทนของกลุ่มติดอาวุธ 49 กลุ่มที่ศูนย์ปรองดองในฐานทัพอากาศ Hmeymim ของรัสเซียในซีเรีย ประธานศูนย์กล่าวเมื่อวันเสาร์นี้

    พล.ท. Sergei Kuralenko กล่าวว่า "กำลังมีการดำเนินการฟื้นฟูสันติภาพในซีเรียอยู่ตลอดเวลา ได้มีการจัดให้มีการแจ้งเตือนถึงความเป็นไปได้ของการหยุดยิงทั่วประเทศซีเรีย เจ้าหน้าที่ที่ฐานทัพอากาศ Hmeymim ได้คุยกับตัวแทนของกลุ่มติดอาวุธจำนวน 49 กลุ่ม"

    3.) วันที่ 27 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เครื่องบินรบของรัสเซียยุติการโจมติทางอากาศใส่กลุ่มก่อการร้ายเนื่องจากการหยุดยิงในซีเรีย" (Russian Jets End Airstrikes on Militants Due to Syrian Ceasefire)

    พล.ท.Sergei Rudskoi ประธานเสนาธิการในกองทัพรัสเซียกล่าวว่า ในตอนเที่ยงคืน กองทัพอากาศของรัสเซียได้หยุดการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มติดอาวุธอื่นที่สนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย

    "สหพันธรัฐรัสเซียได้ยุติการโจมตีโดยสิ้นเชิงใน 'เขตสีเขียว' (green zone) ซึ่งหมายถึงพื้นที่และกลุ่มติดอาวุธที่ยอมปฏิบัติตามการหยุดยิงร่วมมกัน [ในซีเรีย]"

    Rudskoi กล่าวต่ออีกว่า "เพื่อให้เป็นไปตามมติของยูเอ็นในการสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ และเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดใดๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างการโจมตีทางอากาศ อากาศยานของรัสเซีย ซึ่งรวมทั้งอากาศยานบินระยะไกลด้วย จะไม่ปฏิบัติภารกิจใดๆในวันนี้ วันที่ 27 กุมภาพันธ์"

    การหยุดสู้รบไม่ได้บังคับใช้กับกลุ่มก่อการร้ายที่มีรายชื่อ (ตามที่ยูเอ็นกำหนด) ในซีเรีย ซึ่งรวมทั้งดาอิช และอัลนุสราฟรอนท์ ซึ่งเป็นสาขาของกลุ่มอัลเคด้าด้วย

    4.) วันที่ 27 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียส่งข้อเสนอไปให้สหรัฐฯเพื่อสร้างความมั่นใจในการหยุดยิงในซีเรีย - ฝ่ายเสนาธิการกล่าว" (Russia Sends to US Proposals on Ensuring Ceasefire in Syria - General Staff)

    "เมื่อวานนี้พวกเราได้ส่งข้อเสนอไปยังฝ่ายสหรัฐฯ ตามเงื่อนไขมาตรฐานและกระบวนการที่จำเป็นเพื่อสร้างความมั่นใจในการหยุดสู้รบกัน" พล.ท. Sergei Rudskoi กล่าว

    5.) วันที่ 27 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียได้แจ้งตำแหน่งของกลุ่มก่อการร้าย 6,000 คนที่ตกลงตามหยุดยิง (ไปให้สหรัฐฯ)" (Russia Provides Locations of 6,000 Militants Who've Agreed to the Ceasefire)

    พล.ท. Sergei Rudskoi ประธานคณะกรรมการผู้ปฏิบัติภารกิจหลักจากฝ่ายเสนาธิการของกองทัพรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียได้มอบรายชื่อของกลุ่มติดอาวุธจำนวน 6,000 กว่าคนและที่ตั้งอีก 74 แห่งซึ่งยอมรับในข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียไปให้สหรัฐฯ

    "รายชื่อของกลุ่มติดอาวุธทั้งหมด 6,111 คนที่ยอมรับการหยุดยิง ซึ่งรวมทั้งรายชื่อเมืองและพื้นที่อีก 74 แห่งพร้อมกับพิกัดทางภูมิศาสตร์ที่แน่นอนที่ควรตัดออกจากการโจมตีทางอากาศได้ถูกจัดส่งไปให้คณะผู้แทนของสหรัฐฯ" Lt. Gen. Sergei Rudskoi กล่าวกับผู้สื่อข่าว

    [นั่นคือท่าทีของกองทัพรัสเซียที่มีต่อข้อตกลงหยุดยิง อันที่จริงแล้ว ข้อตกลงนี้กำหนดให้มีการหยุดยิงระหว่างฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มกบฏฝ่ายค้านซีเรียเท่านั้น ไม่รวมถึงกลุ่มก่อการร้ายต่างๆด้วย แต่เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ และเพื่อเป็นการป้องกันว่ารัสเซียไม่รักษาคำพูดหรือฉวยโอกาสถล่มกลุ่มติดอาวุธต่างๆในซีเรียแม้จะอยู่ในช่วงของการหยุดยิงก็ตาม

    ดังนั้นรัสเซียจึงแสดงสปิริตที่ไม่สามารถหาได้จากฝ่ายสหรัฐฯออกมาให้ดูซะเลย พร้อมกับพิสูจน์ด้วยการแจ้งรายชื่อของกลุ่มติดอาวุธและพิกัดบอกตำแหน่งของกลุ่มติดอาวุธต่างๆที่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงไปให้สหรัฐฯด้วย เมื่อสหรัฐฯทราบแล้วจะทำอย่างไรนั้นก็เรื่องของสหรัฐฯ คราวนี้มาดูความเคลื่อนไหวจากฝั่งผู้ก่อการร้ายและสหรัฐฯบ้างนะครับ - ผู้แปล]

    6.) วันที่ 27 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "พันธมิตรของกลุ่มก่อการร้ายนุสราฟรอนท์ยิงใส่พื้นที่สำหรับอยู่อาศัยในกรุงดามัสกัส - แหล่งข่าวทางทหารกล่าว" (Nusra Front Ally Fires At Damascus Residential Areas – Military Source)

    รายงานข่าวบอกว่าผู้ก่อการร้าย Jaysh Al-Islam ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายอัลนุสราฟรอนท์ได้ยิงปืนครกหลายลูกใส่พื้นที่ที่อยู่อาศัยของประชาชนในกรุงดามัสกัสในซีเรียเมื่อวันเสาร์นี้ แหล่งข่าวทางทหารในพื้นที่กล่าวกับสำนักข่าว RIA Novosti

    [รายงานข่าวบอกว่าทำให้มีประชาชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวอีกว่าแม้จะอยู่ในช่วงเวลาการหยุดยิง แต่ก็มีการก่อการร้ายด้วยการใช้ระเบิดฆ่าตัวตายมุ่งเป้าโจมตีประชาชนทั่วไปในจังหวัด Homs ด้วย - ผู้แปล]

    7.) วันที่ 27 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "การโจมตีทางอากาศโดยกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯในจังหวัด Raqqa ได้สังหารผู้คนไปสองครอบครัว" (US-Led Coalition Airstrike Kills Two Families in Raqqa)

    [กรรม! นี่ขนาดรัสเซียก็ยังหยุดโจมตีทางอากาศไปแล้วนะ สหรัฐฯไม่คิดจะหยุดบ้างหรือไงครับ? ก็บอกแล้วไงว่า สปิริตแบบนั้นไม่สามารถหาได้จากฝั่งสหรัฐฯ คำพูดและการกระทำของฝั่งนั้นมักจะตรงกันข้ามเสมอ - ผู้แปล]

    รายงานข่าวบอกว่า มีครอบครัวชาวซีเรียสองครอบครัวในจังหวัด Raqqa ถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศโดยกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ สื่อฯภาษาอาระบิก (Al Jazeera) รายงานเมื่อวันเสาร์นี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมือง Tell Abyad

    [เมือง Tell Abyad อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเมือง Raqqa ซึ่งถูกขบวนการก่อการร้ายไอซิสยึดคอรง เมืองนี้อยู่ติดกับชายแดนของตุรกี มีการแย่งชิงพื้นที่ไปมาระหว่างไอซิสกับนักรบชาวเคิร์ด YPG - ผู้แปล]

    8.) วันที่ 27 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "กลุ่มก่อการร้ายไอซิสโจมตีที่อยู่อาศัยของชาวเคิร์ดระหว่างการหยุดยิง" (Islamic State attacks Syrian Kurdish settlements amid proclaimed ceasefire)

    รายงานข่าวบอกว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิส (/ดาอิช) ได้โจมตีเมือง Tell Abyad และเมือง Suluk ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังชาวเคิร์ด YPG (ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558) Redur Xelil โฆษกของ YPG และฝ่ายรักษาความปลอดภัยของตุรกีกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส

    ในขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยของตุรกียืนยันว่า กลุ่มจีฮาดิสต์ได้ทำการโจมตีแนวรบทั้งสองแห่ง โดยกล่าวว่าได้ยินเสียงปืนและระเบิดเกิดขึ้นที่เมือง Akcakale ตามแนวชายแดนของตุรกีเป็นเวลาหลายชั่วโมง รอยเตอร์สรายงาน แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องบินรบซึ่งอ้างว่าเป็นของกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯได้โจมตีใส่ตำแหน่งของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสด้วย

    กองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯรายงานว่า ได้ทำการโจมตทางอากาศ 10 ครั้งเมื่อวันเสาร์นี้ เพื่อหยุดยั้งการโจมตีจากกลุ่มก่อการร้ายไอซิส กลุ่มสังเกตการด้านมนุษยธรรมในซีเรียกล่าว อ้างโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส แหล่งข่าวกล่าวว่ามีผู้ก่อการร้ายอย่างน้อย 45 คนและนักรบชาวเคิร์ดราว 20 คนถูกสังหารในเหตุการณ์ดังกล่าว การปะทะกันในครั้งนี้ทำให้นักข่าวจาก REN TV ของรัสเซียติดอยู่ในเมือง Kobani ใกล้เคียงกันซึ่งอยู่ในการครอบครองของฝ่ายเคิร์ด รายงานข่าวบอกว่ามีการสู้รบกันที่เมือง Tell Abyad ประมาณ 15 จุด

    9.) คราวนี้มาดูสงครามน้ำลายระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียบ้างนะครับ วันที่ 27 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "นายโทเนอร์ควรจะลดเสียงลงหน่อยนะ: โฆษกหญิงก.ต่างประเทศของรัสเซียตำเตียนโวหารที่ 'รุนแรง' ของสหรัฐฯเกี่ยกับการหยุดยิงในซีเรีย" (Toner should tone it down: Russian FM spokeswoman decries ‘harsh’ US rhetoric on Syria truce)

    Maria Zakharova โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียได้ตอบโต้ต่อการแสดงความคิดเห็นของรองโฆษกก.ต่างประเทศของสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ที่เรียกร้องให้รัสเซีย "หากทำอะไรไม่ได้แล้วก็ควรจะหุบปากซะ" (put up or shut up) เกี่ยวกับการหยุดยิงในซีเรีย ซึ่งเรียกว่าเป็นการหยาบคายและน่าขยะแขยง (rude and offensive)

    [จริงหรือเปล่าครับคุณโทเนอร์? ที่ว่าสหรัฐฯ "rude and offensive" หนะ? คำพูดที่ว่า "put up or shut up" นายโทเนอร์น่าจะบอกตัวเองมากว่ามั๊ง เท่าที่ตามข่าวมานี้ยังไม่เห็นว่ารัสเซียจะกล่าวหาหรือให้ร้ายสหรัฐฯตรงไหนเลย มีแต่สภาคองเกรสและบรรดาโฆษกของสหรัฐฯเท่านั้นที่ออกมาโวยวายและสาดโคลนใส่รัสเซียตลอด - ผู้แปล]

    รายงานข่าวบอกว่า นายมาร์ค โทเนอร์ได้แสดงความคิดเห็นเมื่อวันศุกร์นี้ว่า "กรุงวอชิงตันได้รับการรับประกันจากกรุงมอสโคว์ว่าพร้อมที่จะหยุดทิ้งระเบิดใส่กลุ่มที่เรียกว่า 'ฝ่ายค้านสายกลาง' (moderate opposition หมายถึง "กลาง" ระหว่างผู้ก่อการร้ายกับพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯหรือเปล่า? - ผู้ปล) เนื่องจากเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการบรรลุข้อตกลงการหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่ายที่ได้ตกลงร่วมกันเมื่อต้นสัปดาห์นี้"

    "ผมไม่ทราบวิธีการที่จะทำให้มันขึ้นมากไปกว่าการกว่าวว่า: มันเป็นช่วงเวลาสำหรัฐทำให้มันดีขึ้นหรือไม่ก็หุบปากไปซะ (It’s put up or shut up time)" นายโทเนอร์บอกกับตัวเอง เอ้ย... ไม่ใช่ครับ ขออภัยพิมพ์ผิด เขาบอกกับผู้สื่อข่าว โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า มันเป็นเวลาสำหรับรัสเซียที่จะแสดงให้เห็นผ่านการกระทำ มากกว่าคำพูด (…to demonstrate through actions, rather than words) ซึ่งรัสเซียมีความมุ่งมั่นต่อแผนหยุดยิงในซีเรีย

    [แต่จากรายงานดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า สหรัฐฯไม่มีความมุ่งมั่นดังกล่าวเลย และฝ่ายที่ไม่หยุดยิงก็คือสหรัฐฯนั่นแหละ ข้อตกลงดังกล่าวเพียงแค่ต้องการให้รัสเซียและฝ่ายรัฐบาลซีเรียหยุดยิงเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้สหรัฐฯและกลุ่มก่อการร้ายต่างๆหยุดยิงเลย เอ… ใครกันนะที่ "ควรจะแสดงให้เห็นผ่านการกระทำ มากกว่าคำพู" หนะ? โทเนอร์จำได้อ๊ะเปล่า? - ผู้แปล]

    โฆษกหญิงก.ต่างประเทศของรัสเซียจึงสั่งสอนนายโทเนอร์รองโฆษกก.ต่างประเทศของสหรัฐฯว่า "นายมาร์คนั่นแหละที่ควรจะออกคำสั่งกับเพื่อนร่วมงานของตนเองให้หุบปากซะจะดีกว่า หากว่าสไตล์การเล่นสำนวนแบบนั้นเป็นเรื่องปรติทั่วไปในทางการทูตของพวกอเมริกัน" Zakharova ตอบโต้ในเฟซบุคเมื่อวันเสาร์นี้

    [อูยยยยยส์ งานนี้นักการทูตของสหรัฐฯถูกสอนมวยกลับบ้างแล้วครับท่าน ฝีมือมันต่างกันนะน้องเอ๋ย มิน่าหละมาร์ค โทเนอร์ถึงเป็นได้แค่รองโฆษกเท่านั้น คริๆ - ผู้แปล]

    "วันนี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้สรุปข่าวเกี่ยวกับการเริ่มดำเนินการหยุดยิงในซีเรีย ซึ่งได้อธิบายอย่างชัดเจนและแจ่มแจ้งแล้ว อาจจะสำหรับคุณ [มาร์ค] ด้วย ผู้ที่ล้มเหลวในการตอบคำถามเกี่ยวกับการเข้าไปยึดครองโดยสหรัฐฯในแผนที่ที่มีการกำหนดให้เป็นเขตสงบศึก ซึ่งจัดทำขึ้นโดยรัสเซีย" Zakharova กล่าวโดยอ้างถึงความล้มเหลวของนายโฆษกมาร์ค โทเนอร์ต่อการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนที่ที่รัสเซียเสนอให้กรุงวอชิงตันที่เกี่ยวกับรายละเอียดของสถานการณ์การสู้รบในซีเรีย

    "ดังนั้น นะคุณมาร์ค จนกว่ารัสเซียจะไม่ shut up คุณยังมีโอกาสที่จะค้นหาว่าจริงๆแล้วมันกำลังเกิดอะไรขึ้นในซีเรียกันแน่" Zakharova กล่าวสรุป

    เจ้ Zakharova ยังไม่หายฉุนนายมาร์ค โทเนอร์ จึงจัดอีกยกให้ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Russia-24 ของรัสเซียว่า "อะไรคือคำพูดที่หยาบกระด้างจากฝั่งอเมริกาที่พูดกับพวกเรา ประการแรกนะคะ แน่นอนว่าพวกเขาป่าวร้องโดยขาดความหมายใดๆทั้งนั้น (Firstly, of course, they proclaim a lack of any sense) และประการที่สองนะคะ ขาดมรรยาทที่ดีด้วยค่ะ (and secondly, a lack of good manners [แปลว่า "ถ่อย" โทเนอร์เข้าใจไหมครับ? - ผู้แปล]) แต่เหนือสิ่งอื่นใด คำพูดที่โผงผาง (rants) แบบนั้นแสดงให้รู้ว่าฝ่ายอเมริกันไม่ได้มีข้อโต้แย้งอื่นๆเลย"

    [ฮิ้ววววว ก.ต่างประเทศของสหรัฐฯถูกก.ต่างประเทศรัสเซียซัดกลับหน้าหงายเลย พวกนี้ชินกับการชิงกล่าวหาฝ่ายอื่นมาจนเป็นนิสัย ทำได้กับเฉพาะประเทศที่เล็กๆ แต่พอเจอกับรัสเซียหรือจีน เขาไม่ยอมหละสิคราวนี้ มีการสวนกลับหมัดต่อหมัด จึงทำให้โลกได้รับรู้ความจริงเกี่ยวส.ด.ของนักการเมืองสหรัฐฯมากขึ้น ขอบคุณนะครับคุณโฆษกหญิง Zakharova น่ารักที่ซู้ดดดด - ผู้แปล]

    10.) ไปดูฝั่งตุรกีบ้างไหมครับ? สักนิดนะ วันที่ 26 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "กรุงอังการาไม่มีแผนการที่จะมีปฏิบัติทางทหารภาคพื้นดินในซีเรีย" (Ankara Not Planning Ground Troop Operations in Syria)

    นาย Ibrahim Kalin โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีของตุรกีกล่าวว่า "พวกเรา (ตุรกี) ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว [กล่าวเมื่อไร? เห็นออกมาขู่รายวันว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียอยู่บ่อยๆไม่ใช่รึ?] และผมก็จะพูดย้ำอีกครั้งว่า พวกเราจะไม่พูดถึงการเตรียมการของพวกเราเกี่ยวกับปฏิบัติการภาคพื้นดิน [ในซีเรีย] พวกเรารักที่จะทำงานร่วมกันกับสมาชิกต่างๆในกองกำลังพันธมิตรนานาชาติ ดังนั้น ปฏิบัติการภาคพื้นดินแต่เพียงฝ่ายเดียวจากฝ่ายของพวกเราหรือร่วมมือกับซาอุดิอาระเบียจะไม่มีการกล่าวถึงอีก"

    นาย Ibrahim Kalin กล่าวต่ออีกว่า "สถานการณ์ในซีเรียไม่ได้รุนแรงพอที่จะต้องการการดำเนินการภาคพื้นดินโดยกองทัพของตุรกี ซาอุดิอาระเบีย หรือสหรัฐฯ แต่ปฏิบัติการทางอากาศตลอดปีที่ผ่านมา และอีกครึ่งปีหลังไม่ได้นำมาซึ่งผลที่ดีเท่าไรนัก"

    [ก่อนหน้านนี้ ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศว่าพร้อมที่จะส่งหน่วยรบพิเศษของตนเองเข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ และวันที่ 27 ก.พ.59 สำนักข่าว FNA ของอิหร่านซึ่งอ้างข่าวจากหนังสือพิมพ์ Sada ภาษาอาระบิกว่า Mohammad al-Ajami เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพของซาดิอาระเบียเสียชีวิตจากการซ้อมรบทางภาคเหนือของซาอุดิอาระเบียภายใต้ปฏิบัติการ "Northern Thunder" ซึ่งมีทหารจำนวน 150,000 นายจาก 20 ประเทศเข้าร่วมด้วย นี่ขนาดยังไม่ได้รบกันจริงๆเลยนะ แค่ซ้อม แต่ก็ตายจริงซะแล้ว น่าเป็นห่วงเหมือนกันนะครับคุณซาอุดิอาระเบีย

    คำพูดของตุรกีนั้น ต้องฟังหูไว้หูเหมือนกันของสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบีย และต้องหารด้วยสองเสมอ เขาบอกว่าจะไม่พูดถึงการส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ส่งเข้าไป หรือหยุดการโจมตีภาคพื้นดินโดยการยิงปืนใหญ่จากพรมแดนฝั่งตุรกีเข้าไปในดินแดนของฝั่งซีเรียใส่ชาวเคิร์ดที่อยู่ใกล้พรมแดนตุรกี - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    28/02/2559
    ----------
    https://www.rt.com/news/333810-russia-stops-airstrikes-syria/
    Nearly 100 Rebel Groups Sign Up to Syrian Ceasefire Deal
    Russian MoD Says Fighting in 34 Population Areas in Syria Stopped
    Russia Holds Talks With 49 Armed Groups Representatives in Syria
    Russian Jets End Airstrikes on Militants Due to Syrian Ceasefire
    Russia Sends to US Proposals on Ensuring Ceasefire in Syria - General Staff
    Russia Provides Locations of 6,000 Militants Who've Agreed to the Ceasefire
    Over 34 Towns in Central Syria’s Hama Province Observe Ceasefire
    Nusra Front Ally Fires At Damascus Residential Areas – Military Source
    US-Led Coalition Airstrike Kills Two Families in Raqqa
    Ankara Not Planning Ground Troop Operations in Syria
    https://www.rt.com/news/333849-isis-attacks-syrian-kurds/
    https://www.rt.com/news/333848-zakharova-toner-syria-truce/
    Farsnews
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2016
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Richard Whitt

    Inside News Update : The South China Sea

    [​IMG]

    เมื่อทาสผู้ซื่อสัตย์ นำพาประเทศ "เข้าสู่ขอบเหวแห่งสงคราม”

    “ข้อตกลงเพิ่มพูนความร่วมมือด้านกลาโหม” (Enhanced Defence Cooperation Agreement (EDCA)

    Philippines seeks patrols with US amid sea dispute with China

    ฟิลิปปินส์เสนอที่ตั้งทางทหาร 8 แห่งให้สหรัฐใช้งาน

    รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐและของฟิลิปปินส์ ได้พบปะหารือกันไปแล้วที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นการประชุมระดับนี้ครั้งที่ 2 ในรอบระยะเวลากว่า 3 ปี เพื่ออภิปรายปรึกษากันในประเด็นทางเศรษฐกิจการค้าและความมั่นคง โดยจุดโฟกัสสำคัญที่สุดอยู่ที่เรื่องทะเลจีนใต้

    “เรากำลังเสนอแนะว่า ประเทศของพวกเราทั้งสองสามารถที่จะออกตรวจการณ์อาณาบริเวณดังกล่าวนี้ร่วมกัน” โฆษกกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ ปีเตอร์ พอล กัลเวซ (Peter Paul Galvez) บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่กรุงมะนิลา

    พร้อมกับย้ำว่าฟิลิปปินส์กับสหรัฐ “มีความจำเป็นที่จะต้องปรากฏตัวแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันมากยิ่งขึ้นในทะเลจีนใต้”

    ฟิลิปปินส์เสนอที่ตั้งทางทหาร 8 แห่งให้สหรัฐใช้งาน

    ก่อนหน้านี้ พันเอก เรสติตูโต ปาดิญา (Colonel Restituto Padilla) โฆษกผู้หนึ่งของกองทัพฟิลิปปินส์ แถลงว่า ฟิลิปปินส์ได้ยื่นเสนอที่ตั้งทหารรวม 8 แห่งให้สหรัฐพิจารณา เพื่อการสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ สำหรับการเก็บอุปกรณ์และสัมภาระทั้งหลาย ภายใต้ข้อตกลงความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศฉบับใหม่ ที่ศาลสูงสุดฟิลิปปินส์เพิ่งตัดสินว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และมีผลบังคับใช้

    จีนกับฟิลิปปินส์ (รวมทั้ง บรูไน , มาเลเซีย , เวียดนาม และไต้หวันด้วย) มีความขัดแย้งกันมานาน สืบเนื่องจากการประกาศอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกันเหนือดินแดนต่าง ๆ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญมากของโลก รวมทั้งมีทรัพยากรการประมงอันอุดมสมบูรณ์ ตลอดจนคาดหมายกันว่ามีทรัพยากรแร่ธาตุต่าง ๆ อันมีค่าอยู่ใต้ทะเล

    จีนนั้นอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่แทบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ และระยะหลายปีหลัง ๆ มานี้ก็ดำเนินนโยบายยืนกรานแข็งกร้าวในเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ชาติที่พิพาทอยู่กับจีนรู้สึกขุ่นเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิลิปปินส์และเวียดนาม ทั้งนี้ยุทธวิธีของฟิลิปปินส์ก็คือ การหาทางสานสัมพันธ์ด้านกลาโหมกับสหรัฐให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

    ในเดือนเมษายน ปี ค.ศ.2012 ภายหลังเรือของจีนกับเรือของฟิลิปปินส์เกิดการเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด ที่บริเวณเกาะปะการังกลางทะเลจีนใต้แห่งหนึ่ง ในที่สุดเรือของฝ่ายจีนก็ได้ใช้กำลังเข้าควบคุมเกาะปะการังดังกล่าวเอาไว้ เกาะปะการังแห่งนี้อยู่ห่างเพียง 220 Kilometre จากเกาะลูซอน (Luzon) ที่เป็นเกาะใหญ่เกาะสำคัญที่สุดของฟิลิปปินส์

    ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ของฟิลิปปินส์ จึงผลักดันให้เจรจาจัดทำข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมฉบับใหม่กับสหรัฐ ซึ่งจะช่วยเหลือปรับปรุงสมรรถนะทางการทหารของฟิลิปปินส์ และดึงให้สหรัฐเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น

    ไม่กี่วันก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เดินทางมาเยือนฟิลิปปินส์ในปี ค.ศ. 2014 ประเทศทั้งสองก็ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งมีชื่อว่า “ข้อตกลงเพิ่มพูนความร่วมมือด้านกลาโหม” (Enhanced Defence Cooperation Agreement (EDCA)

    EDCA มีอายุบังคับใช้ 10 ปี และมีสาระสำคัญอนุญาตให้สหรัฐเพิ่มการปรากฏตัวทางทหารในฟิลิปปินส์ ซึ่งเคยเป็นอดีตอาณานิคมของตนในช่วงตั้งแต่ปี ค.ศ.1898 จนถึงปี ค.ศ.1946 โดยที่วอชิงตันจะจัดส่งเรือรบและเครื่องบินทหารหมุนเวียนเข้าไป

    ด้วยเหตุผลข้ออ้างว่าเพื่อการปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมและด้านความมั่นคงทางทะเล อีกทั้งจะมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เพื่อใช้ในการเก็บอุปกรณ์และสัมภาระ เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติการของกองทหารอเมริกัน

    อย่างไรก็ตาม ข้อตกลง EDCA ยังไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้ในทันที เนื่องจากมีสมาชิกรัฐสภาและนักเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่งยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุด กล่าวหาว่าข้อตกลงฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการสมยอมยกอำนาจอธิปไตยของฟิลิปปินส์ให้แก่มหาอำนาจต่างชาติ

    * คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดของฟิลิปปินส์มีคำตัดสินด้วยคะแนนเสียง 10 ต่อ 4 ว่า ข้อตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้ *

    ขณะที่มีนักเคลื่อนไหวผู้ต่อต้านอเมริกันจำนวนหลายสิบคน จัดการชุมนุมประท้วงที่บริเวณนอกด้านศาล เพื่อประณามข้อตกลงฉบับดังกล่าว ซึ่งพวกเขากล่าวหาว่าจะทำให้ฟิลิปปินส์กลายเป็น “ฐานเพื่อการเปิดปฏิบัติการเข้าแทรกแซงทางทหารของสหรัฐต่อภูมิภาคแถบนี้”

    “EDCA ไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ” ธีโอดอร์ เต (Theodore Te) โฆษกของศาลสูงสุดประกาศคำตัดสิน “ข้อตกลงฉบับนี้ยังคงสอดคล้องกับกฎหมายและสนธิสัญญาฉบับต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้ว โดยที่ EDCA มีวัตถุประสงค์ที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและสนธิสัญญาเหล่านี้”

    ฟิลิปปินส์เคยเป็นที่ตั้งของฐานทัพทางทหารขนาดใหญ่ที่สุดในต่างแดนของสหรัฐรวม 2 แห่ง

    1. ฐานทัพอากาศคลาร์ก (Clark Air Base is a former United States Air Force base on Luzon Island in the Philippines)

    2. ฐานทัพเรืออ่าวซูบิก (Naval Base Subic Bay was a major ship-repair, supply, and rest and recreation facility of the Spanish Navy and subsequently the United States Navy located in Olongapo, Zambales, Philippines.)

    อยู่ยาวนานหลายสิบปี จวบจนกระทั่งถึงปี ค.ศ.1992 เมื่อวุฒิสภาฟิลิปปินส์ลงมติให้ยุติสัญญาเช่าฉบับดังกล่าว สืบเนื่องจากกระแสต่อต้านอเมริกันอันแรงกล้าในฟิลิปปินส์เวลานั้น

    สำหรับข้อตกลงฉบับใหม่นี้ ไม่ได้เป็นการมอบอำนาจให้สหรัฐกลับคืนไปใช้ฐานทัพเก่าเหล่านั้น

    โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ พันเอก ปาดิโญ ซึ่งแถลงต่อผู้สื่อข่าวภายหลังการพิพากษาตัดสินของศาลสูงสุดบอกว่า “รายชื่อ (สถานที่ทางทหาร 8 แห่ง) นี้ จัดเตรียมกันมาตั้งแต่หลายเดือนก่อน เมื่อตอนที่พวกเรามีการปรึกษาหารือกันก่อนหน้านี้ (แล้วต้องชะงักไปเนื่องจากต้องรอคำตัดสินของศาลสูงสุด)”

    เขาแจกแจงว่าสถานที่ซึ่งเสนอให้สหรัฐพิจารณานั้นประกอบด้วย สนามบินทางทหาร 5 แห่ง สถานีทางนาวี 2 แห่ง นอกจากนั้นแล้วยังมีค่ายฝึกในป่าอีกแห่งหนึ่งด้วย

    “สถานที่เหล่านี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่ออนุมัติต่อไป ขณะที่ทางเราก็จะต้องจัดการประชุมหารือขั้นสุดท้ายในเรื่องพื้นที่เหล่านี้เช่นกัน” เขากล่าวโดยที่ไม่ให้ระบุกำหนดเวลาว่า จะมีการตัดสินใจเด็ดขาดในเรื่องนี้เมื่อใด

    มีรายงานว่าสถานที่ทางทหารเหล่านี้มีอยู่ 3 แห่งตั้งอยู่บนเกาะลูซอน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศและเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงมะนิลาด้วย โดยที่ 1 ใน 3 แห่งนี้ได้แก่สนามบินคลาร์ก (Clark airfield) ซึ่งเคยเป็นฐานทัพอากาศสำคัญของสหรัฐ

    นอกจากนั้นยังมีสถานที่ทางทหารของกองทัพอากาศ 1 แห่งและกองทัพเรือ 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะปาลาวัน (Palawan) ที่เป็นเกาะทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฟิลิปปินส์ และพื้นที่เปิดโล่งออกสู่ทะเลจีนใต้

    ในกรุงวอชิงตัน รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐ แสดงปฏิกิริยาต่อคำพิพากษาของศาลสูงสุดฟิลิปปินส์คราวนี้ โดยเรียกว่าเป็น “คำตัดสินที่สำคัญมาก”

    ขณะที่เขากับรัฐมนตรีกลาโหม แอช คาร์เตอร์ ของสหรัฐเริ่มต้นการพูดจาหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมของฝ่ายฟิลิปปินส์ ในประเด็นต่าง ๆ ทางด้านความมั่นคงและทางด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ และข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก The Trans-Pacific Partnership (TPP)

    ส่วนทางด้านสำนักข่าวซินหวาของทางการจีน กล่าวในบทวิจารณ์ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษชิ้นหนึ่งว่า ข้อตกลง EDCA มีแต่ทำให้ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ยกระดับเพิ่มความรุนแรง และ “สามารถผลักดันสถานการณ์ให้ย่ำแย่เลวร้าย เข้าสู่ขอบเหวแห่งสงคราม”

    “ข้อตกลงนี้จัดทำขึ้นมาอย่างไร้เหตุผลความชอบธรรมรองรับ เนื่องจากจีน ซึ่งยึดมั่นอยู่กับนโยบายกลาโหมที่มุ่งในเรื่องการป้องกัน ไม่เคยเลยที่จะใช้อำนาจบังคับประเทศใด ๆ ในประเด็นปัญหาเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ ”

    Credit : Philippines seeks patrols with US amid sea dispute with China – Asia Times

    Credit : Philippines asks US to hold joint naval patrols in South China Sea - Business Insider

    Credit : Philippines seeks patrols with US amid China sea tension | Fulton News

    Credit : Philippines Urges Patrols With US Amid Sea Dispute With China

    Credit : Philippines urges patrols with U.S. amid sea dispute with China

    Credit : Philippines seeks patrols with US amid China sea tension

    Credit : PH urges patrols with US amid sea dispute with China | minibalita

    Credit : https://tiananmenstremendousachievements.wordpress.com/tag/philippines/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ว่าด้วยเรื่องไก่งวงลิ้นสองแฉก Erdogan ประกาศไม่รับอำาจศาลรัฐธรรมนูญ (คุ้นๆกับบางกลุ่มแถวนี้บ้างไหมเอ่ย?)

    [​IMG]

    -----------
    วันที่ 28 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "ปธน.แอร์โดกันกล่าวว่า: ผมไม่เคารพการพิจารณาคดีของศาลที่ปล่อยให้พวกนักข่าวเป็นอิสระ" (Erdogan: 'I don’t respect court ruling to free Cumhuriyet journalists') [อ้าววว! นึกว่าประเทศตุรกีหนึ่งในสมาชิกของนาโต้ปกครองด้วยระบอบประชาธิไตยซะอีกนะนี่? - ผู้แปล]
    ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan กล่าวว่าตนไม่ต้องการที่จะ "เคารพ" ต่อการวินิจฉัยของศาลเกี่ยวกับการปล่อยตัวนักข่าวจากสำนักข่าว Cumhuriyet ซึ่งถูกคุมขังหลังเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการขส่งอาวุธของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง (ของตุรกี) เข้าไปในซีเรีย
    ปธน. Erdogan กล่าวว่า "ผมจะไม่แสดงความคิดเห็นต่อการตัดสินคดีของศาล (I will remain silent on the decision the court has given.)" [แน่ใจนะครับคุณ Erdogan? - ผูแปล]
    และปธน. Edogan ก็กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันเสาร์นี้ต่ออีกว่า "แต่ผมจะไม่ยอมรับมัน ผมต้องการพูดให้ชัดเจนไปเลย ผมไม่ยอมรับ หรือไม่เคารพการพิจารณาตัดสินดังกล่าว เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่จะต้องทำเกี่ยวกับเสรีภาพของสื่อฯ นี่เป็นเรื่องของการเป็นสายลับ (/สอดแนม)" (But I don't need to accept it, I want to make that clear. I don't obey or respect the decision,” Erdogan told reporters on Sunday. “This has nothing to do with press freedom. This is a case of spying.)
    [อ้าว! ก็ไหนบอกว่าจะไม่แสดงความคิดเห็นไง แล้วแมวที่ไหนพูดหละนั่น? โฮ่ๆ… เพิ่งจะรู้นะนี่ว่าประธานาธิบดีของประเทศตุรกีที่มาจากการเลือกตั้งใหญ่กว่าศาลรัฐธรรมนูญของประเทศตนเองด้วย ถ้าอย่างนั้นแล้วตุรกีจะมีศาลไว้ทำไมหละครับ? Erdogan ก็สั่งให้ยุบศาลทั่วประเทศทิ้งทั้งหมด แล้วก็ประกาศเป็นจอมเผด็จการอย่างเป็นทางการซะก็สิ้นเรื่องแล้ว - ผู้แปล]
    นาย Can Dundar บก.ของสำนักข่าว Cumhuriyet และ Erdem Gul ได้รับการปล่อยตัวจากคุก Silivri ใกล้เมืองอิสตัลบูลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักข่าวทั้่งสองคนซึ่งถูกทางการของตุรกีจับติดคุกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ได้พบกับครอบครัวและบรรดาผู้ให้การสนับสนุน
    ทั้งสองได้รับการปล่อยตัวหลังศาลรัฐธรรมนูญของตุรกีวินิจฉัยว่า "สิทธิต่างๆในเรื่องของเสรีภาพและความปลอดภัย และ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพของสื่อฯของทั้งสองคนได้ถูกละเมิด" การพิจารณาตัดสินได้รับการรับรองโดยสมาชิกของศาล (รัฐธรรมนูญ) จำนวน 12 ท่าน และอีก 3 ท่านไม่เห็นด้วย สื่อฯตุรกีรายงาน
    หนังสือพิมพ์ Cumhuriyet ของตุรกีรายงานข่าวว่าขบวนรถของตุรกีที่คาดว่าถูกโจมตีจากการโจมตีทางอากาศในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกีกำลังขนอาวุธไปให้กับองค์กรก่อการร้ายในซีเรีย
    หนังสือพิมพ์ยังได้เผยแพร่หลักฐานที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพตุรกีและพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสที่ดำเนินการตามแนวชายแดนซีเรีย-ตุรีกด้วย
    + กรุงอังการาสั่งปิดทีวีอิสระระหว่างการสัมภาษณ์กับนักข่าวของ Cumhuriyet โดยอ้างว่า "เป็นการโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย"
    -----------
    กรุงอังการาได้สั่งให้ปิดสถานีโทรทัศน์อิสระของตุรกีในระหว่างที่กำลังออกอากาศการสัมภาษณ์สดกับ Dundar และ Gul เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวอ้างว่า นั่นเป็นการตัดสินใจทางการเมืองอย่างเห็นได้ชัด
    Ramazan Dinç อัยการของรัฐได้เรียกร้องให้ Turksat ซึ่งให้บริการดาวเทียมของตุรกียุติการออกอากาศของ IMC TV ซึ่งเป็นสถานีโทรศัทน์ที่เผยแพร่ทั่วประเทศ สื่อฯท้องถิ่นรายงาน เหตุผลอย่างเป็นทางการในการดึงปลั๊กของสถานีโทรศัทน์ดังกล่าวก็คือ "เป็นการโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย" (terrorist propaganda) ของกลุ่มเคิร์ด PKK และสหภาพชุมชนชาวเคิร์ด (KCK)
    "ในตุรกีนั้น ทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับมุมมองของเจ้าหน้าที่โยนลงไปในถุงขบวนการก่อการร้าย... นี่เป็นการตัดสินใจทางการเมืองอย่างชัดเจน อัยการไม่มีสิทธิ์ทางกฎหมายที่จะแสวงหาการปิดช่องโทรทัศน์ของพวกเราซึ่งอยู่บนข้อกล่่าวหาดังกล่าว" Eyup Burc ผู้ประสานงานทั่วไปของสถานีโทรทัศน์กล่าว อ้างโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส Eyup Burc ปฏิเสธการเชื่อมโยงใดๆระหว่างสถานีโทรทัศน์กับผู้ก่อการร้าย
    IMC TV โพสต์ข้อความในเฟซบุคว่า ขณะนี้สามารถดูได้เฉพาะช่องดาวเทียมเท่านั้น "สถานการณ์ของเสรีภาพของสื่อฯและเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็นในตุรกีเป็นเรื่องที่น่าอนาถใจ (miserable)" Faruk Eren ผู้ประสานงานของ IMC News กล่าว อ้างโดยสำนักข่าว Today’s Zaman
    รางานข่าวบอกว่าการออกอากาศได้ยุติลงในระหว่างที่กำลังมีการสัมภาษณ์ Dundar และ Gul "นี่เป็นการจงใจที่จะส่งข้อความไปยังสื่อฯ: ที่อาจจะเผยแพร่ (ข่าวของ) Can Dundar และ Erdem Gul เนื่องจากประชาชนโวยวาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะลามือ" Burc กล่าว
    IMC TV ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อิสตัสบูล ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 ได้เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างเคิร์ด-ตุรกีอยู่บ่อยๆ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รายงานข่าวอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเมือง Silvan ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กของกลุ่มโปร-เคิร์ดถูกปฏิบัติ ซึ่งได้กลายเป็นจุดสนใจ (ของคนทั่วไป) หลังกองทัพตุรกีเริ่มปฏิบัติการ
    [สรุปคุณ Erdogan ซึ่งปัจจุบันนี้ดำรงค์ตำแหน่ง "ประธานาธิบดี" ของประเทศตุรกีประกาศว่า "ไม่รับอำนาจศาล" ที่วินิจฉัยให้สื่อฯตุรกีมีเสรีภาพในการทำข่าวเผยแพร่ความจริงสู่ประชาชน เพราะว่าสื่อฯตุรกีบางรายที่ไม่ยอมทำตัวเป็นขี้ข้าของ Erdogan เปิดเผยข้อมูลและหลักฐานที่แสดงว่ารัฐบาลและกองทัพของตุรกีมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้าย ความอัปยศนี้ Erdogan นำมาให้กับประเทศตุรกีเอง คนที่บ่อนทำลายเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของประเทศตุรกีก็คือนาย Erdogan นั่นแหละ
    ถ้าหมอนี่ย้ายไปอยู่ที่ดูไบเมื่อไร ชายเร่ร่อนคนนั้นคงจะดีใจไม่น้อยและไม่เหงาอีกต่อไป เพราะมีนิสัยและพฤติกรรมคล้ายกันเข้าไปทุกทีหละ โดยเฉพาะส่วนที่ไม่ชอบรับการตัดสินของศาล - ผู้แปล]
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    29/02/2559

    ภาพ Turkish President Tayyip Erdogan จาก © Murad Sezer / Reuters

    ----------
    https://www.rt.com/news/333881-turkey-channel-terrorist-charges/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของสหรัฐมีการพบปะลับกับแกนนำของไอซิสในอิรัก โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 29, 2016

    [​IMG]

    irna – แหล่งข่าวความมั่นคงของอิรักเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (วันเสาร์) ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของสหรัฐได้มีการพบกันแบบลับๆ กับแกนนำของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสจำนวนหนึ่งในเมืองเฮตและกะบีซาห์ อิรัก เพื่อหารือในแผนการความร่วมมือระหว่างทั้งสอง

    แหล่งข่าว อัลมะอ์ลูมะห์ อิรัก เผยว่า นายพลของสหรัฐจำนวนหนึ่งได้มีการพบปะกับแกนนำของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในฐานเอนนุลอัลซาด ทางภาคเหนือของแอนบาริก

    เขากล่าวเสริมว่า วัตถุประสงค์หลักของการพบปะครั้งนี้เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือด้านความปลอดภัยให้กับแกนนำไอซิสในช่วงเวลาที่จะมีการปฏิบัติการยึดคืนเมืองโมซูลและนัยนาวาจากไอซิส และการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานการฟื้นฟูอิรักในด้านต่างๆ

    แหล่งข่าวที่ไม่เผยนาม ระบุว่า การจัดฉากของอเมริกาในการแทรกแซงอิรักจะไม่มีวันสิ้นสุดแม้ว่าจะสามารถกำจัดและทำลายไอซิสให้หมดก็ตาม ซึ่งควรที่จะขับไล่ทหารอเมริกาให้ทั้งหมดให้ออกไปจากอิรักไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม

    เขากล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้ก็มีการพบปะระหว่างทั้งสองฝ่ายมาแล้ว


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของสหรัฐมีการพบปะลับกับแกนนำของไอซิสในอิรัก | abnewstoday
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    51 บริษัท จาก 20 ประเทศ “ขายอาวุธ” ให้ไอซิส
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 29, 2016

    [​IMG]

    irna – แหล่งข่าว อัลบาบะห์ อาหรับ เผยวันนี้ว่า 51 บริษัท จาก 20 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งตุรกี บราซิลและอเมริกา ได้ส่งอาวุธที่ตนเองผลิตซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางทหารจำนวน 700 กว่าชนิดได้ส่งมอบให้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

    การศึกษาวิจัยครั้งนี้จัดทำโดยสถาบันการตรวจสอบวิจัยด้านอาวุธตามคำขอของสหภาพยุโรปว่า บริษัทเหล่านี้ได้ผลิตขายระเบิดและอุปกรณ์ทางทหาร และชิ้นส่วนที่จำเป็นในการสร้างอุปกรณ์ระเบิดให้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

    เจมส์ เบแวน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถาบันการตรวจสอบวิจัยด้านอาวุธเผยว่า ผลของการวิจัยแสดงให้เห็นว่า 13 บริษัทของตุรกีเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการขายอาวุธให้กลุ่มก่อการร้ายไอซิส รองจากนั้นเป็นอินเดียที่มี 7 บริษัทในการขายอาวุธให้กับไอซิส

    ผลของการวิจัยแสดงให้เห็นอีกว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิสในอิรักและซีเรียได้รับอาวุธและสินค้าเชิงกลยุทธ์ที่สามารถหาง่ายและจากคนในท้องถิ่นเหล่านี้มาใช้ในการปฏิบัติการ

    ผลการวิจัยระบุว่า ชิ้นส่วนประกอบวัตถุระเบิดเนื่องจากไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจึงทำให้ได้มาด้วยง่ายดายและด้วยราคาถูกซึ่งหลังจากสั่งซื้อแล้วจะสามารถรับของภายในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งเดือน

    สถาบันการตรวจสอบวิจัยด้านอาวุธเผยว่า รัฐบาลตุรกีได้ปฏิเสธความร่วมมือในการวิจัยกับองค์กรนี้ โดยที่เจ้าหน้าหน้ารัฐของตุรกีไม่มีการตอบคำถามใดๆที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยครั้งนี้

    ตามแหล่งข่าวดังกล่าวเปิดเผยว่า สถาบันแห่งนี้ได้รับข้อมูลจากชาวเคิร์ดในซีเรีย ตำรวจอิรักและกองกำลังรักษาความปลอดภัยของชาเคิรด์ที่อยู่ในแนวหน้าของการต่อสู้ในรอบเมือง Rabia คอร์คุก โมซูล ติคริตและเมือง Kobani ซีเรีย

    บราซิล โรมาเนีย รัสเซีย อินเดีย จีน สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรียและสาธารณรัฐเช็กเป็นหนึ่งในประเทศที่มีรายชื่ออยู่ในการวิจัยครั้งนี้ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ขายอาวุธให้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

    รายงานระบุว่า อาวุธส่วนใหญ่ที่ตกอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสที่ซื้อโดยซาอุดิอาระเบียจากโครเอเชียโดยจะลำเลียงและลักลอบนำเข้าผ่านชายแดนที่ติดกับจอร์แดนและซีเรีย


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    51 บริษัท จาก 20 ประเทศ “ขายอาวุธ” ให้ไอซิส | abnewstoday
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ เยือนอิสราเอลอย่างลับๆ
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 29, 2016

    [​IMG]

    isna – อ้างจาก Sputnik รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียพร้อมกับ คอลิด อัลฮะมีดาน หัวหน้าสืบราชการลับซาอุดิอาระเบียได้เดินทางไปอิสราเอลอย่างลับๆ

    Sputnik เผยว่า มีการเปิดเผยสาส์นแห่งการปฏิบัติการของซาอุดิอาระเบียกับอิสราเอล กรณีที่อาจจะเกิดการปฏิบัติการที่อันตรายต่อซีเรียและเลบานอน หลังจากการพบปะแบบลับๆ ระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดิอาระเบียกับเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลและหัวหน้ามอสสาด อีกทั้ง อัลญุบัยร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียได้มีการพบปะกับ เบนยามิน เนทันยาฮุ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลอีกด้วย

    Sputnik เผยว่า สิ่งที่ชัดเจนที่สุดในการเจรจาพูดคุยของอัลญุบัยร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้ คือการเรียกร้องให้เทลอาวีฟส่งทหารอิสราเอลเข้าไปแทรกแซงทางทหารโดยตรงในภาคใต้ของซีเรีย หากซาอุฯส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าซีเรียเพื่อเป็นการกดดันรัฐบาลซีเรียอีกช่องทางหนึ่ง

    Financial Times อังกฤษ เผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ซาอุดิอาระเบียได้วางแผนในการโจมตีซีเรียภาคพื้นดินซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากตุรกี

    ขณะที่แหล่งข่าวความมั่นคงของฝรั่งเศสเผย โดยอ้างจาก Thomas Cantaluppi นักข่าวฝรั่งเศสในเว็บไซด์ Pars Media ว่า หากตุรกีและซาอุดิอาระเบียมีการดำเนินการภัยคุกคามและการแทรกแซงทางทหารในซีเรีย ดามัสกัสและพันธมิตรก็ได้เตรียมพร้อมในการรับมือในครั้งนี้ ซึ่งภัยคุมคามนี้เกิดจากความร่วมมือและการประสานงานของอังการา ริยาดและเทลอาวีฟ


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ เยือนอิสราเอลอย่างลับๆ | abnewstoday
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/Z34lKAAiB6I" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    แหม… นึกว่าจะมีแต่ที่ตุรกีเท่านั้น สหรัฐฯก็เอาด้วย แต่งานนี้ศาลและตำรวจของสหรัฐฯจับมือกันบอกว่า ประชาชนไม่มีสิทธิ์ถ่ายคลิปตำรวจ ฮิ้วววว "เสรีภาพแบบอเมริกา" ครับท่าน โอบาม่าจัดให้
    -----------------
    https://www.youtube.com/watch?v=Z34lKAAiB6I
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ว่านิวยอร์กเตือนสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ Wed, 2016-02-10 16:30

    เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุรั่วไหลของน้ำที่มีไอโซโทปกัมมันตภาพรังสี 'ทริเทียม' ไหลลงสู่น้ำใต้ดินของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ถึงแม้ว่าทางโรงงานเองจะเปิดเผยว่าไม่มีการรั่วไหลออกไปภายนอก แต่ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กก็สั่งตรวจเข้มว่ามีโอกาสส่งผลกระทบใดๆ บ้าง

    ที่มาของภาพประกอบ: วิกิพีเดีย

    10 ก.พ. 2559 แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กออกประกาศเตือนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าเกิดการรั่วไหลของน้ำที่ปนเปื้อน 'ทริเทียม' (Tritium) จากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์อินเดียนพอยต์ ลงสู่แหล่งน้ำใต้ดินในโรงงานนั้นซึ่งอยู่ใกล้กับตลิ่งของแม่น้ำฮัดสันห่างออกไปทางเหนือของเมืองนิวยอร์กซิตี้ 25 ไมล์

    ด้านบรรษัทเอนเทอร์จีคอร์ปฯ เจ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้เปิดเผยว่ามีระดับกัมมันตภาพรังสีสูงมากจากบ่อตรวจสอบน้ำใต้ดิน 3 แห่ง โดยมีอยู่บ่อหนึ่งที่มีระดับกัมมันตภาพรังสีเพิ่มสูงขึ้นมากถึงเกือบร้อยละ 65,000 คือจาก 12,300 พิโคคูรีต่อลิตร เป็นมากกว่า 8,000,000 พิโคคูรีต่อลิตร (คูรีเป็นหน่วยวัดกัมมันตภาพรังสี)

    ถึงแม้ว่ารายงานของโรงไฟฟ้าจะระบุว่าการปนเปื้อนดังกล่าวไม่หลุดออกไปในสภาพแวดล้อมภายนอกและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาวะของประชาชนโดยทันทีแต่คูโอโมก็บอกว่าเรื่องการรั่วไหลดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และสั่งให้กรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในทุกส่วนเพื่อชี้วัดว่าการรั่วไหลกินขอบเขตแค่ไหน มีโอกาสที่สารปนเปื้อนจะคงอยู่นานเท่าใด และมีโอกาสสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของผู้คนได้อย่างไรบ้าง

    ทริเทียมเป็นไอโซโทปชนิดหนึ่งของอะตอมไฮโดรเจน จากข้อมูลของคณะกรรมการควบคุมนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ระบุว่าทริเทียมมีความสามารถแบบเดียวกับไฮโดรเจนธรรมดาคือสามารถจับกับอ็อกซิเจนจนกลายเป็นน้ำได้ทำให้เกิดน้ำที่เป็นกัมมันตภาพรังสีเรียกว่า 'ทริเทรต วอเตอร์' ซึ่งมีคุณสมบัติทางเคมีเหมือนกับน้ำธรรมดาและทริเทียมไม่สามารถกรองออกจากน้ำได้

    คูโอโมส่งจดหมายถึงกรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระบุว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์รั่วไหลของน้ำกัมมันตภาพรังสีที่อินเดียนพอยต์และไม่ใช่ครั้งแรกที่อินเดียนพอยต์ทำผิดพลาดในการปฏิบัติการในเรื่องสำคัญทำให้อินเดียนพอยต์ไม่สามารถดำเนินการในรูปแบบที่จะสามารถปกป้องสุขภาวะของประชาชนและสิ่งแวดล้อมต่อไปได้

    สำนักข่าวเดอะการ์เดียนระบุว่าก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดกรณีการรั่วไหลของทริเทียมหลายครั้งแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ครั้งล่าสุดนี้มีระดับความรุนแรงมากที่สุด โดยที่แม้ว่าทริเทียมจะไม่สามารถทะลุผ่านผิวหนังได้แต่ก็มีการพิจารณาว่าเป็นสารที่สร้างความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง


    เรียบเรียงจาก

    Radioactive Leak at Indian Point Nuclear Plant, Revolution News, 07-02-2016 http://revolution-news.com/radioactive-leak-at-new-yorks-indian-point-nuclear-plant/

    NY Governor Sounds Warning After Radioactive Water Leaks from Indian Point Nuclear Plant, Common Dreams, 07-02-2016 NY Governor Sounds Warning After Radioactive Water Leaks from Indian Point Nuclear Plant | Common Dreams | Breaking News & Views for the Progressive Community

    New York investigates radioactive leak in groundwater near city, The Guardian, 06-02-2016 New York investigates radioactive leak in groundwater near city | US news | The Guardian


    ข้อมูลเพิ่มเติมจาก

    https://en.wikipedia.org/wiki/Tritium

    คัดลอกบทความจาก ผู้ว่านิวยอร์กเตือนสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ | ประชาไท
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/A6uGBDKbpaE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ปอกเปลือก ทรราช

    หญิงสวมชุดดำถือหัวของเด็กเดินไปมาแถวสถานีรถไฟแห่งหนึ่งในกรุงมอสโคว์
    --------
    ** GRAPHIC: คลิปผู้หญิงสวมชุดดำถือหัวของเด็กที่ถูกตัดขาดออกมาเดินโชว์พร้อมกับตะโกนคำว่า "Allahu Akbar" ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในกรุงมอสโคว์ LifeNews รายงานว่าเหยื่อเป็นเด็กผู้หญิง ชื่อ Nastya M. หลังจากถูกฆาตกรรม ก็พบหญิงต้องสงสัยคนดังกล่าวถือศีรษะของเด็กคนนั้นไปเดินโชว์อยู่แถวสถานีรถไฟ และตะโกนว่าเธอเป็นคนฆ่าเด็กคนดังกล่าว เมื่อต้นเดือนนี้มีรายงานข่าวบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบร่างของเด็กคนหนึ่งในขณะดับเพลิงที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนี่งในกรุงมอสโคว์ น่าจะอายุราว 3-4 ขวบ Interfax รายงาน ทางตำรวจได้ควบคุมตัวของหญิงคนดังกล่าวไว้แล้ว สื่อฯรัสเซียรายงาน ก่อนหน้านี้ทางสถานีรถไฟที่เกิดเหตุได้ปิดในบริการ เนื่องจากหญิงคนดังกล่าวประกาศว่าจะระเบิดฆ่าตัวตาย
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    29/02/2559
    ----------
    https://www.rt.com/news/333928-woman-severed-head-metro/
    Woman Holding Severed Child's Head Detained in Moscow (VIDEO 18+)
    https://www.youtube.com/watch?v=XifmV24hPJQ
    https://www.youtube.com/watch?v=G3ePwGBRdQs
    https://www.youtube.com/watch?v=NCPNgjmxC18
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เราพูด ความจริง

    [​IMG]

    การรั่วไหลของ สารกัมมันตภาพรังสี จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่นิวยอร์ค อาจมีความรุนแรงมากกว่า ฟูกูชิม่า ซะอีก
    โดยล่าสุดพบว่า ความเข้มข้นของสารพิษที่รั่วไหลออกมานั้น สูงกว่ามาตรฐานถึง 65,000%

    =========================
    เรื่องนี้เคยเขียนเมื่อเดือนก่อนแล้วรอบนึง
    ก่อนที่ C จะลบเพจออกจากระบบ
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    China Xinhua News

    [​IMG]

    รัสเซียประณามการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายในอิรัก
    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมารัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียได้ประณามเหตุวางระเบิดติดต่อกันของกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามในตลาดที่มีผู้คนคับคั่งในกรุงแบกแดดของอิรัก
    ในแถลงการณ์ของรัฐมนตรีกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวของกลุ่มหัวรุนแรงเป็นไปเพื่อปลุกระดมความขัดแย้งของผู้ที่อยู่คนละนิกายในอิรักและตั้งใจจะบ่อนทำลายความพยายามที่นำไปสู่การปรองดองแห่งชาติ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายสากล
    "การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในกรุงแบกแดดที่ได้เกิดขึ้นอีกครั้งได้ทำให้เรายิ่งรู้ว่าเราจำเป็นจะต้องสู้กับกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติอย่างไม่ลดราวาศอก ไม่ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ที่อิรัก ซีเรียหรือประเทศใดๆก็ตาม ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ" รัฐมนตรีกล่าว
    จากรายงานครั้งล่าสุดของทางการอิรัก มีผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ตลาด Mreidy ในเมือง Sadr แล้วเป็นจำนวน 53 ราย และบาดเจ็บอีก 117 ราย โดยกลุ่มไอเอสได้ออกมาอ้างว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดสองลูกดังกล่าว
    และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัด Diyala ทางภาคตะวันออกของอิรักทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย และบาดเจ็บอีก 41 ราย
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,372
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เด็กเลี้ยงอูฐ: ซาอุดิอาระเบียประกาศว่าจะเข้าร่วมกองกำลังภาคพื้นดินกับพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯในการรุกรานซีเรียอีกครั้งหลังจากปฏิเสธเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์

    [​IMG]

    -----------

    มาดูพฤติกรรมของ "เด็กเลี้ยงอูฐ" กันบ้างนะครับ วันที่ 4 ก.พ.59 โฆษกกองทัพซาอุดิอาระเบียได้ยืนยันว่า กรุงริยาดห์กำลังเตรียมตัวที่จะเข้าร่วมปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อเข้าร่วมกับพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯในการต่อสู้ขบวนการก่อการ้ายไอซิสในซีเรีย หากได้รับการรับรองจากสหรัฐฯ ต่อมาสหัฐฯก็ออกมาประกาศว่า โอ้… สหรัฐฯยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้อูฐมาขี่รบในซีเรีย Sputnik news รายงาน

    วันที่ 16 ก.พ.59 Ahmed Asiri เจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหมของซาอุดิอาระเบียกล่าวกับสำนักข่าว Sputnik news ว่า "จะไม่มีปฏิบัติการภาคพื้นดินใดๆจากราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียในตุรกี (เพื่อปฏิบัตการในซีเรีย)" [ก่อหน้านั้นก็มีข่าวว่าซาอุดิอาระเบียจะส่งหน่วยรบพิเศษของตนเองเข้าไปในซีเรียด้วย - ผู้แปล]

    วันเดียวกันนี้ ที่ปรึกษาของกลาโหมซาอุดิอาระเบียก็ออกมากล่าวว่า "ปัจจุบันนี้หน่วยรบภาคพื้นดินทั้งหมดของพวกเราปฏิบัติการอยู่ตามแนวชายแดนของราชอาณาจักรเท่านั้น กองทัพของพวกเราไม่ได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการภาคพื้นดินในเยเมน มีแต่ที่ปรึกษาทางทหารเท่านั้นที่อยู่ที่นั่น แคมเปญจ์ภาคพื้นดินทั้งหมดดำเนินการโดยทหารเยเมนด้วยการสนับสนุนทางอากาศจากกองกำลังพันธมิตร (อาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบียว)" พลจัตวา Ahmed Asiri กล่าวกับสำนักข่าว RIA Novosti

    [โอ้! แล้วที่กองทัพเยเมนและนักรบฮูติถ่ายคลิปศพของทหารซาอุดิอาระเบีย และที่ถูกจับเป็นได้จำนวนมากอยู่บ่อยๆในเยเมนนั้นคืออะไรเอ่ย? ที่ปรึกษาทางทหารแต่จับอาวุธมาต่อสู้กับกองทัพเยเมนในแผ่นดินเยเมนนี่นะ? - ผู้แปล]

    ล่าสุดวันที่ 1 มี.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "พวกเราจะเข้าร่วมด้วย: กองทัพซาอุดิอาระเบียยอมรับว่าคิดจะเข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯในการรุกรานภาคพื้นดินในซีเรีย" (‘We will participate’: Saudi military admits US coalition mulling ground invasion in Syria)

    ซาอุดิอาระเบียยอมรับว่า พันธมิตรต่อต้านไอซิสนำโดยสหรัฐฯได้หารือ "ทางด้านการเมือง" ร่วมกันเกี่ยวกับการดำเนินการทางกองทัพภาคพื้นดินที่อาจจะเป็นไปได้ในซีเรีย แถลงการของกรุงริยาดห์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากกรุงดามัสกัสว่าเป็นการไม่สร้างสรรค์และเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยในภูมิภาค

    ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ส พลจัตวา Ahmed Asseri ที่ปรึกษาของกลาโหมซาอุดิอาระเบียยืนยันว่า รัฐมนตรีกลาโหมจากกองกำลังพันธมิตรต่อต้านไอซิสกำลังถกเถียงกันในการวางกองกำลังภาคพื้นดินบนแผ่นดินซีเรียระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีในกรุงบรัสเซลส์เมื่อเดือนที่ผ่านมา

    "ได้มีการหารือกันในกรุงบรัสเซลส์เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา การหารือกันจัดขึ้นในระดับการเมือง ไม่มีการพูดถึงรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในภารกิจทางทหาร" Asseri กล่าว

    นายพล Asseri เน้นย้ำว่า หากมีการตัดสินใจ ซาอุดิอาระเบียก็จะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วมในกองกำลัง - ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ซีเรียได้ออกมาเตือนหลายครั้งแล้ว

    นายพล Asseri ยอมรับว่ากรุงริยาดห์กำลังทำงานในการดำเนินการทางทหารที่อาจจะเป็นไปได้ในการรุกรานซีเรีย "เมื่อมีการจัดตั้ง และได้มีการตัดสินใจว่ามีกองทัพจำนวนเท่าไรและพวกเขาจะไปอย่างไร และจะไปที่ไหน พวกเราก็จะเข้าร่วมในที่นั่นด้วย" Asseri กล่าว

    "พวกเราจำเป็นต้องหารือกันอย่างกว้างขวางในระดับทหารกับผู้เชี่ยวชาญทางทหารทั้งหลาย เพื่อทำให้มั่นใจว่าพวกเรามีแผนการ" นายพล Asseri เน้นย้ำ และกล่าวอีกว่าสำหรับตอนนี้ กองทัพอากาศของซาอุดิอาระเบียพร้อมที่จะโจมตีเป้าหมายของไอซิสจากฐานทัพอากาศ Incirlik ของตุรกีแล้ว ซึ่งเป็นสถานที่ที่เครื่องบินรบของซาอุดิอาระเบียสี่ลำประจำการอยู่

    [ครับ S-400 และระบบป้องกันภัยทางอากาศอื่นๆของรัสเซียในซีเรียก็พร้อมแล้วเหมือนกัน ถ้าจะให้สวยนะ ซาอุดิอาระเบียก็ชวนเครื่องบินรบของตุรกีเข้าร่วมด้วยเลยสิครับ จะได้ไม่เหงาตอนโหม่งโลกอ่ะ - ผู้แปล]

    ทางกรุงวอชิงตันก็ได้ยืนยันความตั้งใจของซาอุดิอาระเบียที่ต้องการจะทำการโจมตีทางอากาศในซีเรียด้วย นาย John Kirby โฆษกก.ต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวว่า "สหรัฐฯยินดีต้อนรับการมีส่วนร่วมของราชอาณาจักร แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องปรึกษาหารือกันอีกมากในแง่ของสิ่งที่พวกเขาจะทำ พวกเขาจะจัดทัพอย่างไร พวกเขาจะได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรให้เดินหน้าได้อย่างไร ดังนั้นจึงยังมีการบ้านอีกจำนวนมากที่จะต้องจัดการซะก่อน"

    ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากกลาโหมของสหรัฐฯก็กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า กรุงวอชิงตันจะยังคงให้การสนับสนุนกองกำลังต่างๆภาคพื้นดินในซีเรีย (อ้างว่า) เพื่อต่อสู้ผู้ก่อการร้ายไอซิส

    "พวกเราจะเดินหน้าให้การสนับสนุนแพ็กเกจอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบผู้นำต่างๆและหน่วยต่างๆของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาสามารถผลักดันเข้าไปในดินแดนและยังคงควบคุมเอาไว้ได้ ในเรื่องของนโยบายนั้น พวกเราจะไม่แสดงความคิดเห็นหรือคาดการณ์เกี่ยวกับปฏิบัติการในอนาคตที่อาจจะเป็นไปได้"

    [สรุป แม้ว่าจะมีการทำข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียแล้วก็ตาม แต่สหรัฐฯยังยืนยันว่าจะสนับสนุนอาวุธให้กับฝ่ายค้านซีเรียและอาจจะรวมถึงพวกผู้ก่อการร้ายด้วยต่อไป ส่วนตุรกีก็ถือโอกาสช่วงนี้ขยับรถถังและกองทัพของตนเองเข้าไปในชายแดนของซีเรียด้วย อ้างว่าเพื่อโจมตีไอซิส แต่เป้าหมายก็คือที่อยู่อาศัยของชาวเคิร์ดในซีเรีย ตอนนี้ฝ่ายซีเรียและรัสเซียยังไม่ตอบโต้กองทัพของตุรกี เหมือนกับว่ากำลังรอให้ทางตุรกีหลวมตัวรุกเข้าไปในดินแดนของซีเรียมากกว่านี้ก่อน แล้วค่อยจัดการในยกเดียวไปเลย - ผู้แปล]

    วันที่ 29 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ติดเบ็ด: ความง่อนแง่นทางการเมืองของตุรกีในซีเรีย" (On the Hook: Turkish Political Flop in Syria)

    ในการตอบโต้ต่อการแสดงความคิดเห็นของาย Josh Earnest โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯที่ว่า "รัสเซียและประธานาธิบดีปูตินกำลังฮุ๊บเหยื่อติดเบ็ด (are on the hook)" ในการหยุดยิงในซีเรีย เว็บไซต์ Al-Monitor ในสหรัฐฯซึ่งรายงานข่าวเกี่ยวกับตะวันออกกลางตั้งข้อสังเกตว่า มันไม่ใช่รัสเซียหรอก แต่เป็นตุรกีต่างหากที่กำลังงับเบ็ดอยู่ในที่นั่นในปัจจุบันนี้

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    01/03/2559
    ----------
    https://www.rt.com/news/334048-saudi-syria-ground-invasion/
    Saudi Arabia Denies Deployment of Ground Troops Outside Kingdom at Present
    Riyadh Denies Presence of Troops in Turkey for Possible Operations in Syria
    Saudi Arabia Declares Its Ground Forces Ready to Invade Syria
    https://www.rt.com/news/333995-turkey-military-isis-syria/
    Moscow Disturbed Over Military Preparations Along Syria's Borders
    On the Hook: Turkish Political Flop in Syria
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...