ติดตามสถานะการณ์

นัศรุลเลาะฮ์ ชี้ อิสราเอลพยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองซีเรียเพื่อบ่อนทำลายกลุ่มต่อต้านไซออนิสต์ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 18, 2016



presstv – ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ กล่าวว่า อิสราเอลพยายามที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบอบการปกครองซีเรียเพื่อบ่อนทำลายกลุ่มต่อต้านไซออนิสต์

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 ก.พ.) ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ ได้กล่าวปราศรัยเนื่องในวันคล้ายครบรอบการเป็นชะฮีดของ อิมาด มุฆนียะห์ เชค รอเฆบ ฮัรบ์ และซัยยิด อับบาส มูซาวี ผู้นำและแกนนำระดับสูงของฮิซบุลเลาะฮ์ โดยกล่าวย้ำว่า อิสราเอลถือว่าอิหร่าน กลุ่มปกป้องมาตุภูมิในปาเลสไตน์และเลบานอนเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา

ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ กล่าวเสริมว่า อิสราเอลเชื่อว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับสองโอกาส โอกาสแรกคือสร้างความสัมพันธ์และเป็นพันธมิตรกับ “รัฐอาหรับสุหนี่” โดยใช้ประโยชน์จากประเด็นการต่อต้านอิหร่านและอีกโอกาสหนึ่งคือเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในซีเรีย

ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ กล่าวว่า อิสราเอลถือว่า อิหร่านคือภัยคุกคามเบอร์หนึ่ง ส่วนกลุ่มต่อต้าานไซออนิสต์ในปาเลสไตน์และเลบานอนเป็นภัยคุกคามรองลงมาสำหรับพวกเขา

เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ กล่าวว่า อิสราเอลได้พยายามที่จะแสดงตัวเองว่าเป็นมิตรกับสังคมสุหนี่ในเลบานอน อีกทั้งแนะนำตัวเองว่าเป็นมิตรกับพี่น้องชาวคริสต์ในเลบานอนและปาเลสไตน์ และในวันนี้อิสราเอลถือว่าตนเองเป็นพันธมิตรและผู้พิทักษ์ชาวสุหนี่

นัศรุลเลาะฮ์ ได้กล่าวถึงรัฐบาลชาติอาหรับ ว่า พวกคุณยอมรับใครบางคนเป็นมิตรในขณะที่พวกเขาได้ยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ที่มีชาวสุหนี่อาศัยอยู่กระนั้นหรือ ? พวกคุณยังสามารถที่จะเป็นเป็นมิตรกับระบอบยิวไซออนิสต์ที่ได้ก่ออาชญากรรมอันน่ากลัวต่อสังคมสุหนี่อีกหรือ ?

ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ ย้ำว่า พวกคุณมีความอิสระที่จะพิจารณาและมองว่าอิหร่านเป็นศัตรู แต่ไฉนพวกคุณจึงพิจารณาและมองว่าอิสราเอลเป็นมิตรและพันธมิตรด้วย ? ปัญหานี้จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

ซัยยิด ฮะซัน กล่าวเสริมว่า อิสราเอลถือว่าการปรากฏตัวของอัลกออิดะห์ในซีเรียนั้นมันอันตรายน้อยกว่าระบอบการปกครองของอัสซาด

เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ กล่าวว่า อิสราเอล ซาอุดีอาระเบียและตุรกีมีความเห็นพ้องต้องกันว่าพวกเขาไม่อนุญาตให้ปัญหาวิกฤตซีเรียได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจาและบนเส้นทางที่บาชาร์อัลอัสซาดยังคงอยู่ในอำนาจ แม้ว่าฝ่ายกบฏสายกลางซีเรียจะมีส่วนร่วมในรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติก็ตาม ด้วยเหตุนี้ซาอุดิอาระเบีย เติร์ก (ตุรกี)และอิสราเอลจึงพยายามทำให้การเจรจาต่อรองเป็นอัมพาต พวกเขาได้วางเงื่อนไขข้อตกลงและนำเสนอข้อเรียกร้องที่สูงเกินถึงขั้นที่ว่าแม้แต่อเมริกาเองก็ไม่สามารถที่จะวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาได้

เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ ได้ชี้ถึงการสมรู้ร่วมคิดของอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบียและตุรกีที่มีต่อซีเรียว่า พวกเขาต้องการย่อยสลายให้ซีเรียเป็นสี่ประเทศ ประเทศซุหนี่ ประเทศอาลาวี ประเทศ Druze และประเทศเคิร์ด

ซัยยิด นัศรุลเลาะฮ์ กล่าวเสริมว่า แม้ว่าอิสราเอลล้มเหลวในการย่อยสลายซีเรียเพราะกองทัพซีเรียและพันธมิตรกำลังต่อสู้ในลัตตาเกีย ในภาคเหนือลาอาเลปโป ในภาคใต้ของ Daraa Hasaka และ DEEZ-Zor ดังนั้นหมายความว่าการตัดสินใจแห่งชาติในซีเรียเป็นการปฏิเสธและไม่ยอมรับการย่อยสลายประเทศโดยปริยาย

ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ ได้กล่าวสรุปผลลัพธ์ในคำปราศรัย ว่า แผนในการสร้างอานาจักรออตโตมันนิยมครั้งใหม่ของตุรกีนั้นล้มเหลวและแผนการสมรู้ร่วมคิดของซาอุดิอาระเบียที่มีต่อซีเรียก็ล้มเหลวเช่นกัน

เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ กล่าวเสริมว่า ความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องของซาอุดีอาระเบียและตุรกีก่อให้เกิดความคิดในการส่งกองกำลังภาคพื้นดินภายใต้ร่มธงของพันธมิตรระหว่างประเทศและข้ออ้างเพื่อต่อสู้กับไอซิส


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

นัศรุลเลาะฮ์ ชี้ อิสราเอลพยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองซีเรียเพื่อบ่อนทำลายกลุ่มต่อต้านไ

 

เด็กนักเรียนตุรกีจะเข้าร่วมการเดินขบวนเพื่อฉลองวันเกิดของErdoğan ข่าววันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016 โดยTODAYSZAMAN.COM



เด็กนักเรียน มากกว่า 2,000 คน ใน อังการา เมืองหลวงของตุรกี จะมีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองสำหรับวันเกิดของประธานาธิบดี Tayyip Erdoğan ในเดือนมีนาคม

ซึ่งมาจากสำเนาเอกสารอย่างเป็นทางการ ที่ได้รับการส่งมาจาก คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอ Etimesgut ของอังการา ที่ได้ส่งให้กับโรงเรียนในเขตอำเภอ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองวันเกิดของประธานาธิบดีตุรกี ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ โดยมีจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมรวมทั้งสิ้น 2,023 คน

ตามเอกสารคำสั่ง โดยคณะกรรมการที่Aşmak için Eşitlik จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อเป้าหมายของตุรกีสำหรับ ปี 2023 ซึ่งจะครบรอบร้อยปีของสาธารณรัฐตุรกี
การแจ้งเตือน ขอให้คณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรอกแบบฟอร์มที่แนบมาเพื่อให้ผู้จัดการโรงเรียน ครู และนักเรียนเข้าร่วมงานได้รับสิทธิการลา
แต่ไม่มีการแถลงการณ์ยืนยันสำหรับแผนการจัดงานเฉลิมฉลองวันเกิดอย่างเป็นทางการสำหรับErdoğan

ประธานาธิบดีและอดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางสำหรับสิ่งที่นักวิจารณ์เห็นว่ามีแนวโน้มเผด็จการ จะมีอายุ 62 ปีในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้

Turkish school kids told to attend march to celebrate Erdoğan’s birthday

 

ปอกเปลือก ทรราช

อิตาลีบอกให้นาโต้รีบไปคุยกับรัสเซียเดี๋ยวนี้ไม่งั้นจะเสียใจภายหลัง, ตุรกีขู่สหรัฐฯว่าจะเสียใจที่เลือกเคิร์ด, รัสเซียฟ้องยูเอ็นกรณีตุรกีเตรียมบุกซีเรีย



----------

1.) มาติดตามสถานการณ์ระหว่างนาโต้กับรัสเซียและในตะวันออกกลางกันต่อนะครับ วันที่ 18 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "อิตาลีถึงนาโต้: ไปคุยกับรัสเซียเดี๋ยวนี้เลย หรือจะเสียใจในภายหลัง" (Italy to NATO: Talk to Russia Now, or Regret it Later)

นาง Roberta Pinotti รมว.กลาโหมของอิตาลีแสดงความคิดเห็นต่อความสัมพันธ์ระหว่างนาโต้กับรัสเซียโดยเรียกร้องให้ฝ่ายพันธมิตรทบทวนนโยบายของตน

"หลักการของนาโต้คำนึงถึงนโยบายของการบรรลุข้อตกลงและการเจรจา พวกเราเดิมพันในด้านการป้องปราม (deterrence) ขณะนี้ ในที่สุดมันก็ถึงเวลาสำหรับการเจรจาแล้ว ไม่มิฉะนั้นพวกเราเองนั่นและที่จะพบกับความเสียใจ" รมว.กลาโหมของอิตาลีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ La Republica

นาง Roberta Pinotti ตั้งข้อสังเกตว่า ต้องให้เยอรมันเป็นคนแรกที่เป็นฝ่ายเรียกร้องให้มีการเริ่มต้นการเจรจาต่อรองระหว่างนาโต้กับรัสเซียอีกครั้ง ซึ่งเรียกว่าเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม

นอกจากนี้แล้ว นาง Roberta Pinotti ยังได้แสดงความยินดีกับผลของการประชุมกันเมื่อเร็วๆนี้ระหว่างนาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียและนาย John Kerry รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯด้วย

ทั้งสองคนได้หารือกันรอบนอกในการประชุมด้านความปลอดภัยที่มิวนิค (Munich Security Conference) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการไม่เพิ่มการมีส่วนร่วมทางทหารเข้าไปในความขัดแย้งในซีเรีย

[โดยรวมของข่าวนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับนาโต้และรัสเซียก็ประมาณนี้แหละ ลึกๆแล้วอิตาลีไม่ได้ต้องการงัดข้อกับรัสเซีย แต่เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของนาโต้ จึงขัดคำสั่งของสหรัฐฯซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่ของนาโต้และเสียงส่วนมากจากมหาอำนาจในยุโรปไม่ได้ สไตล์ของสหรัฐฯและนาโต้ก็คือถ้าคิดว่าตัวเองกำลังถือไพ่ที่เหนือกว่า จ้างให้ก็ไม่มีทางเรียกร้องให้มีการเจรจา แต่หลังจากที่พบว่าฝ่ายของตัวเองตกเป็นรอง

คราวนี้ก็จะขอเจรจากับรัสเซียหละ รัสเซียก็บอกว่า ไม่มีปัญหาครับ พร้อมที่จะเจรจาอยู่แล้ว และได้เสนอให้มีการเจรจามาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าไปในซีเรียแล้วด้วย นาโต้ไม่ฟังเอง เมื่อนาโต้ต้องการเจรจารัสเซียก็จะเจรจาด้วย แต่ในขณะเดียวกัน รัสเซียก็จะเดินหน้าถล่มพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรียต่อไปด้วยนะครับ - ผู้แปล]

2.) ข่าวที่สองเกี่ยวกับตุรกีและสหรัฐฯกรณีชาวเคิร์ด YPG ในซีเรีย วันที่ 18 ก.พ.59 พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯจะเสียใจที่สนับสนุนชาวเคิร์ดซีเรีย แต่มันก็จะสายเกินไป" (‘US Will Regret Its Support of the Syrian Kurds, but It Will Be Too Late’)

[อุบ๊ะ! ทำไมถึงมีแต่คนบอกว่า สหรัฐฯและนาโต้จะ "เสียใจ" จังเลยนี่? ลางไม่ค่อยจะดีซะหละมั๊งครับท่านโอบาม่า? คริๆ - ผู้แปล]

เอกอัครราชทูตของตุรกีประจำกรุงวอชิงตันได้เรียกการสับสนุนของสหรัฐฯที่มีต่อชาวเคิร์ดซีเรียว่า "เป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่" (a big strategic mistake) เชิงข่มขู่ โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯจะเสียใจ (regret) (ในภายหลัง?) แต่มันก็จะสายเกินไป

[ว้าวววว! นี่ตุรกีกล้าให้ทูตของตนเองออกมาขู่สหรัฐฯในประเทศสหรัฐฯเองเลยนะนี่ อย่ายอมนะครับท่านโอบาม่า ลูกพี่ใหญ่ของนาโต้และมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลกจะยอมให้ตุรกีมาหยามแบบนี้ได้ไง ฮี่ๆๆๆ ขอเสี้ยมหน่อยครับ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่านาย Serdar Kilic เอกอัครราชทูตของตุรกีประจำกรุงวอชิงตันได้ประนามการที่สหรัฐฯสนับสนุนชาวเคิร์ดซีเรีย โดยเรียกมันว่า "เป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่" (a big strategic mistake)

เจ้าหน้าที่ทางการทูตยังได้กล่ามเพิ่มเติมเชิงข่มขู่อีกว่า "แล้วคุณจะเสียใจ (ในภายหลัง) แต่มันก็จะสายเกินไปซะแล้ว"

"รัฐบาลของนายโอบาม่าได้ทำให้ตุรกีซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ และพรรคสหภาพประชาธิปไตย (PYD) ชาวเคิร์ดมีความเท่าเทียมกัน - พันธมิตร และองค์กรก่อการร้าย" นาย Serdar Kilic กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิพม์ The Washington Post ของสหรัฐฯ

ตุรกีได้ยิงจรวดถล่มตำแหน่งของชาวเคิร์ด YPG ภายในซีเรียติดต่อกันถึง 4 วันโดยกล่าวอ้างว่ากลุ่มดังกล่าวคุกคามความปลอดภัยของตุรกี

[เคิร์ด YPG เป็นกำลังสำคัญทางภาคพื้นดินในการปราบปราบขบวนการก่อการร้ายไอซิสและกลุ่มอื่นในซีเรีย ตุรกีบอกว่าเป็นภัยคุกคามต่อตนเอง อ้าว… ไอซิสไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อตุรกีแล้วหรือนี่? - ผู้แปล]

เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯซึ่งรวมทั้งนายโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีของสหรัฐฯด้วยได้ประนามการโจมตีของตุรกีต่อชาวเคิร์ด ในขณะเดียวกัน ตุรกีก็ต้องการที่จะสร้างเขตปลอดภัย (a secure zone) 10 กิโลเมตรในซีเรีย ซึ่งจะกินพื้นที่ไปถึงเมือง Azaz (ในจังหวัด Aleppo ของซีเรียด้วย) สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน

[พูดง่ายๆชัดๆก็คือ ตุรกีต้องการที่จะยึดดินแดนของซีเรียจากชายแดนของตนเองเข้าไปในซีเรียอีก 10 กิโลเมตร เพราะว่าเมือง Azaz มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มาก มาถึงจุดนี้แล้วยังมีใครคิดว่าสงครามในซีเรียเป็นปัญหาภายในของซีเรียเองระหว่างฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน-ฝ่ายผู้ก่อการร้ายอยู่อีกหรือไม่? มันเป็นสงครามระหว่างประเทศที่ตุรกีและซาอุดิอาระเบียสหรัฐฯ และนาโต้ ต้องการที่จะยึดดินแดนของซีเรีย โดยอาศัยไอซิสเป็นเครื่องมือต่างหากหละ - ผู้แปล]

นาย Yalcin Akdogan รองนายกรัฐมนตรีของตุรกีกล่าวว่า ดังนั้นกรุงอังการาต้องการที่จะป้องกันความพยายามที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางด้านภูมิศาสตร์ในพื้นที่ตรงนั้น (…thus Ankara wants "to prevent attempts to change the demographic structure of the area.)

[ด้วยการพยายามขยายพื้นที่ของตุรกีเข้าไปในซีเรียอีก 10 กิโลเมตรนี่นะ? กรรม! อ้อ… ถ้าปล่อยให้เมือง Azaz เป็นของซีเรียต่อไป เรียกว่าเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์? แต่ถ้ายกให้ตุรกีไม่เรียกว่าเปลี่ยนแปลง? ตรรกะของคนขี้โกง เขาพูดเอาแต่ได้แบบหน้าด้านๆ พูดดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ แบบนี้แหละ

เกี่ยวกับกรณีตุรกียิงถล่มชาวเคิร์ดในซีเรีย ในขณะที่สหรัฐฯทำได้แคเพียงบอกว่า อย่าทำเลยตุรกี พอแล้ว ไม่ดีนะลูกไม่เอา... นาโต้หุบปากเงียบ อียูกล้อมแกล้ม ขืนพูดมาก Erdogan จะปล่อยขบวนผู้อพยพเข้าไปในอียูอีกเป็นล้านคน ดังนั้นอียูจึงพูดไม่ออกซักคำ โทษใคร? "รัสเซีย" อีกแล้วครับท่าน ปูตินบอกว่าก็เป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ไม่ยาก คราวนี้มาดูว่ารัสเซียจะเดินเกมอย่างไรนะครับ - ผู้แปล]

3.) วันที่ 19 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียประเดิมด้วยการเรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นกรณีตุรกีวางแผนจะส่งกองทัพเข้าไปทางเหนือของซีเรีย" (Russia to initiate UN Security Council meeting over Turkey’s plans to send troops to northern Syria)

การประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในครั้งนี้เป็นไปตามคำเรียกร้องของรัสเซียเมื่อวันศุกร์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการของตุรกีที่จะมีปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรีย กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียกล่าว

กรุงมอสโคว์กล่าวว่า "การดำเนินการของตุรกีในภูมิภาคกำลังคุกคามอธิปไตยของซีเรีย ต้องตั้งโต๊ะเจรจาหาข้อยุติโดยการเรียกร้องให้มีการป้องกัน"

กรุงมอสโคว์รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับการขยายความตึงเครียดตามแนวชายแดนซีเรีย-ตุรกี และ "แผนการที่ได้ประกาศออกมาของตุรกีที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปทางภาคเหนือของซีเรียด้วย" Maria Zakharova โฆษกก.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวเมื่อวันศุกร์นี้ โดยกล่าวต่ออีกว่า "สถานการณ์ในภูมิภาคกำลังน่าเป็นห่วง เนื่องจากขบวนการก่อการร้ายไอซิส กำลังเข้าไปในซีเรีย และสร้างฐานผู้ก่อการร้ายอยู่ที่นั่น"

"มันเป็นการบั่นทอนความพยายามที่จะเปิดการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการเมืองในสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย รัสเซียมีแผนที่จะเรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคง (แห่งสหประชาชาติ) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์นี้" โฆษกก.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าว

ร่างมติจะรวมถึงการเรียกร้องให้ "ยุติการดำเนินการใดๆ ที่บ่อนทอนอธิปไตย (undermine the sovereignty ) และบูรณภาพแห่งดินแดน (territorial integrity) ของซีเรีย ซึ่งมีความขัดแย้งกับมติที่ 2254 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งรวมทั้ง [การแทรกแซง] การเริ่มกระบวนการสันติภาพซีเรียด้วย"

RT รายงานต่ออีกว่า เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้รับมติที่ 2254 อย่างเป็นเอกฉันท์ [ถ้าจำไม่ผิดร่างมติฉบับนี้น่าจะเสนอโดยรัสเซียและสหรัฐฯนะ - ผู้แปล] ซึ่งรับรองโรดแม็ปสำหรับกระบวนการสันติภาพในกระเทศในตะวันออกกลาง เอกสารดังกล่าวรับรองโดยสมาชิกของกลุ่มสนับสนุนซีเรียระดับนานาชาติ (International Syria Support Group - ISSG) ที่ระบุไว้ว่าให้มีการหยุดยิงทั่วประเทศ เพื่อเริ่มกระบวนการทางการเมือง

[แล้วมีฝ่ายไหนหยุดยิงไหมหละ? ถามพวกผู้ก่อการร้ายซิว่า ไอซิสยินดีที่จะปฏิบัติตามมติที่ 2254 ของ UHSC หรือไม่? ตุรกีและซาอุดิอาระเบียรวมทั้งสหรัฐฯและตะวันตกด้วย หยุดให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่กลุ่มต่างๆในซีเรียแล้วหรือยัง? ถ้ายัง แล้วรัสเซียและกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียทำไมจะต้องหยุดยิงด้วยทั้งๆที่ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม ทั้งที่สงครามกลางเมืองดำเนินมาตั้ง 4 ปีกว่าก่อนที่รัสเซียจะเข้าไป ทำไมถึงไม่หยุดยิง

ก็เห็นผู้นำของสหรัฐฯออกมาบอกว่าจะต้องโค่นล้มอัสซาดให้ได้ จะต้องฝึกพวกกบฏฝ่ายค้านซีเรียต่อไป ดีนะที่โอบาม่าไม่เผลอหลุดออกมาว่า อัสซาดและปูตินจะต้องยกประเทศซีเรียให้ไอซิสซะ ไม่งั้นก็จะมีชะตากรรมเหมือนซัดดัมและกัดดาฟี่ แล้วไง อิรัคและลิเบียทุกวันนี้สิ สงบหรือยังครับท่านโอบาม่า? แย่ยิ่งกว่าเดิมอีก - ผู้แปล]

4.) ในขณะที่รัสเซียกำลังเดินเกมโดยเล่นตามกติกาเกมการทูตในเวทีนานาชาติอยู่นั้น ในขณะเดียวกันรัสเซียก็เสริมกำลังทางกองทัพเข้าไปในซีเรียด้วย ประมาณว่าเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นได้

วันที่ 18 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เรือลาดตระเวน Zeleny Dol ติดตั้งขีปนาวุธของรัสเซียเดินทางไปถึงท่าเรือ Tartus แล้ว" (Russian Missile Corvette Zeleny Dol Arrives at Syrian Port of Tartus)

รายงานข่าวบอกว่าเรือ Zeleny Dol ของรัสเซียได้เดินทางไปถึงท่าเรือ Tartus ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของซีเรียในทะเลเมดิเตอร์เรเนีย

"The Zeleny Dol ได้เดินทางไปถึงเมือง Tartus เมื่อวานนี้ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ และจะได้รับการสับเปลี่ยนกำลังกับเรือรบ Serpukhov" Adm. Alexander Vitko กล่าว

เรือ Zeleny Dol และ Serpukhov ทั้งสองลำเป็นเรือลาดตระเวน Buyan-class ออกแบบโดย Zelenodolsk Design Bureau ขีปนาวุธที่ติดตั้งให้กับเรือรุ่นนี้ก็คือ ขีปนาวุธต่อต้าน (/ทำลาย) เรือรบ Kalibr (SS-N-27) ปืนกลขนาด 100 มม. และ 30 มม. รวมทั้งขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ Igla-1M ด้วย

อ้อ… กรณีที่นายกรัฐมนตรี Angela Merkel ของเยอรมันออกมาประสานเสียงกับกรุงอังการาที่เสนอให้มีการกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าซีเรียบางส่วนนั้น ล่าสุดน้าหนวด Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีของรัสเซียออกมากล่าวว่า การกำหนดเขต No-Fly-Zone เหนือน่านฟ้าของจังหวัด Aleppo นั้นแทบจะไม่ส่งผลใดๆต่อการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายเลย [แปลว่า รัสเซียคัดค้านแนวคิดดังกล่าว จบนะครับ Erdogan และคุณป้าแมร์เกิล - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
20/02/2559
----------
Italy to NATO: Talk to Russia Now, or Regret it Later
‘US Will Regret Its Support of the Syrian Kurds, but It Will Be Too Late’
https://www.rt.com/news/333012-unsc-turkey-troops-syria/
Russian Missile Corvette Zeleny Dol Arrives at Syrian Port of Tartus
Moscow Against 'No-Fly Zone' Over Syria's Aleppo

 

ปอกเปลือก ทรราช



รายงานข่าวเบื้องต้นบอกว่าทางการตุรกีสั่งเผาชาวเคิร์ดจำนวน 150 คนทั้งเป็นในเมือง Cizre จังหวัด Şırnak ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี

ภาพจาก รอยเตอร์

-------------
https://www.youtube.com/watch?v=FE1KaZVEUUE
https://www.rt.com/news/332951-kurds-burned-alive-turkey/

 

ปอกเปลือก ทรราช


<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/vOP2fvrs_HY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ตัวอย่างของผู้นำรัสเซียเวลาให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆเข้าชี้แจงหรือรายงานผลการดำเนินงานต่อประธานาธิบดี เขาก็จะถ่ายทอดให้ประชาชนของเขาและลงข่าวทั่วประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการดำเนินงานของรัฐบาลมีความโปร่งใส ถามตอบกันต่อหน้าสื่อฯเดี๋ยวนั้นเลย ใครพูดอะไรเสนออะไร ประชาชนได้รับรู้ทั้งประเทศ สุดยอดไหมครับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ หลายครั้งมากๆ เท่าที่ติดตามดู นั่นแหละเทคนิคในการบริหารงานสไตล์ปูตินเขาหละ
-------------------
https://www.youtube.com/watch?v=vOP2fvrs_HY

 

เราว่าตรรกกะในความคิดของergondo ประธานาธิบดีตุรกี ถ้าสถานะการณ์ของตัวเขาอยู่ในช่วงวิกฤต ความคิดลึกๆ ในใจของเขาจะเป็นยังไง

"ข้ายอมทรยศคนทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศข้า"

ไม่มีใครทายออกแน่นอน ผลสุดท้ายจะลงเอยเช่นไร แต่ผมว่าจบไม่สวยแน่นอน



ภาพ หน้ากาก โจโฉ

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/WnuzIsOP6lE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

https://www.youtube.com/watch?v=WnuzIsOP6lE

เมื่อผู้ก่อการร้ายไอซิสเจอกับจรวดทำลายรถถัง 9M113 Konkurs (AT-5 Spandrel) ของรัสเซียโดยกองทัพซีเรีย
----------

คำเตือน! คลิปนี้ค่อนข้างโหด คนขวัญอ่อน โลกสวย จิตตก โปรอเมริกา โปรไอซิส ไม่ควรดู โดยเฉพาะท่านโอบาม่าและแอร์โดกัน เพราะว่า "มันตะเตือนใจ"

ในคลิปนี้เป็นการใช้จรวดทำลายรถถัง 9M113 Konkurs ของรัสเซียซึ่งนาโต้ตั้งชื่อให้ว่า "AT-5 Spandrel" ผลิตขึ้นในสมัยสหภาพโซเวียต (1974) ยังมีใช้จนถึงปัจจุบันนี้ โดยกองทัพซีเรียยิงเข้าใส่เป้าหมายของผู้ก่อการร้าย (ไม่ใช่รถหรือพาหนะแต่เป็นเป้านิ่งเช่นบังเกอร์หรือที่กำบังบนภาคพื้นดินหรือตัวอาคาร) สถานที่ในการสู้รบอยู่บนภูเขาเขตเมือง Kinsabba จังหวัด Latakia ประเทศซีเรีย น่าจะวันที่ 18 หรือ 19 ก.พ.59 เมื่อพวกกบฏฝ่ายค้านของซีเรียและกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสและกลุ่มต่างๆสามารถใช้จรวดทำลายรถถัง TOW ของสหรัฐฯในการโจมตีกองทัพของซีเรียได้ แล้วทำไมกองทัพซีเรียจะใช้อาวุธประเภทเดียวกันจากค่ายรัสเซียบ้างไม่ได้ ผลงานเป็นเช่นไร ดูในคลิปเอาเองนะครับ เตือนอีกครั้ง "GRAPHIC" (ภาพหวาดเสียว)

ส่วนคลิปอื่นๆในคอมเม้นท์ของโพสต์นี้ เกี่ยวกับทั้งในซีเรียและเยเมน ดุๆทั้งนั้น ถ้าใจไม่ถึงก็ไม่ต้องดู ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ และใช้วิจารณญาณในการรับชม ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง แต่เป็นความรู้ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในอีกมุมหนึ่งของโลกใบนี้ ซึ่งข่าวเหล่านี้จะไม่สามารถหาดูได้จากสื่อฯกระแสหลักทั่วไป

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
20/02/2559
----------
https://www.youtube.com/watch?v=WnuzIsOP6lE

 

กองกำลังชาวเคิร์ดค้นพบอุโมงค์ ความยาว 600 เมตร ในชายแดนซีเรีย-ตุรกี ซึ่งใช้ในการขนส่วอาวุธจาก ตุรกี #Turkey เพื่อ ไอซิสDaesh

Kurdish forces discovered 600m Tunnel in the Syrian-Turkish border used to transfer weapons from #Turkey to Daesh

 

"โลกนี้ล้วนเป็นมายาสมมุติ อย่าได้ลุ่มหลงอยู่เลย จงใช้ปัญญาของเจ้า ไตร่ตรองดู"



ช่วงนี้เราจะเห็นมีผู้ออกมาวิจารณ์สงฆ์กันเป็นจำนวนมาก ถ้าถามว่าบาปไหม ก็คงจะบาป แต่ก็ต้องดูที่เจตนาด้วยน่ะครับว่าทำไปเพื่ออะไร ถ้าทำไปเพื่อรักษาพระพุทธศาสนาให้ห่างไกลจากมลทิน อันเป็นกิเลส โดยมิได้มีเตนามุ่งร้ายพระพุทธศาสนา หรือสงฆ์ที่ปฏบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็ไม่ถือว่าเป็นบาปน่ะครับ และถ้าสงฆ์ผู้นั้นกระทำผิด จนเชื่อได้ว่าขาดจากการเป็นสงฆ์ โดยกระทำผิดตามพุทธบัญญัติแล้ว ก็ถือว่าไม่บาปน่ะครับ เพราะบุคคลนั้นไม่ได้ถือว่าเป็นสงฆ์แล้ว แต่เป็นผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำลายศาสนา

และบางครั้ง อาจจะมีผู้กล่าวว่าการไปกล่าวหาผู้ที่ได้ชื่อว่าครองศีล 227ข้อ เป็นบาป ซึ่งข้อนี้ ก็ต้องถามก่อนว่า อะไรคือศีล
ศีล คือ แนวปฏิบัติอันดีงามเพื่อให้ไปสู่การบรรลุธรรม เมื่อได้ปฏิบัติศีลอันดีงาม เมื่อเจิญสมาธิก็จะมีความก้าวหน้าได้อย่างง่ายดาย ไม่ติดขัด เพราะเมื่อจิตสะอาด ปัญญาย่อมเกิด แต่ศีลไม่ใช่เครื่องมือที่จะนำมาใช้แบ่งชนชั้นแต่อย่างไร เช่นนำไปใช้ในทำนองว่าผู้มี ศีลสูงกว่าจะเหนือกว่าผู้มีศีลต่ำกว่า และเราจะรู้ได้ยังไงว่าใครมีศีลสูงกว่าหรือต่ำกว่า ดูจากสิ่งใดกันหรือ ผู้ครองศีล227 ข้อตามที่เราทราบ คือสงฆ์ แต่เมื่อทุศีล ขาดจากความเป็นสงฆ์ตามพระวินัยแล้วยังได้ชื่อว่าเป็นผู้มีศีล 227 ข้ออยู่ได้หรือครับ
ผู้ที่ถือพรตเป็นนักบวชก็ต้องปฏิบัติตามพุทธบัญัติอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่เช่นนั้นจะถือว่าผิดต่อความเป็นพรหมจรรย์ ผิดต่อความเป็นสมณะ ผิดต่อพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงบำเพ็ญบารมีนับชาติไม่ถ้วน เพื่อค้นพบหลักธรรมที่จะนำมาสั่งสอนให้เวไนยสัตว์หลุดพ้นจากกิเลส และเมื่อกระทำบาปแก่พรหมจรรย์แล้ว ก็ย่อมเป็นผู้ทำได้รับการตำหนิติเตียนจากผู้อื่นเป็นเรื่องธรรมดา

"จงเป็นตะเกียงของตัวเอง จงตื่นอยู่เสมอ และจงเดินไปตามเส้นทางของหลักธรรมที่เรียนรู้" 

ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร

โลกนี้ล้วนเป็นมายาสมมุติ อย่าได้ลุ่มหลงอยู่เลย จงใช้ปัญญาของเจ้า ไตร่ตรองดู

เค้ามูลปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร
จากวันนั้นย้อนหลังขึ้นไปกว่า ๒๕๐๐ปีมาแล้ว ณ เชิงเขาคิชฌกูฎ กรุงราชคฤห์ ครานั้นองค์พระศากยมุนีพุทธเจ้ากำลังทรงเข้าสู่สมาธิที่ชื่อว่า "คัมภีราวสมาธิ"ท่ามกลางบรรดาพระโพธิสัตต์และพระอรหันต์สาวกจำนวนมากอยู่นั้นเป็นขณะเดียวกันกับที่ พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตต์ ได้ดำริขึ้นว่า ขันธ์ทั้ง ๕ เป็นความว่างเปล่าอยู่แล้วตามธรรมชาติ ดังนั้น พระอรหันต์สาวกองค์หนึ่งซึ่งมีนามว่า "ท่านสารีบุตร" จึงได้ปรารภขอให้องค์พระมหาโพธิสัตต์อวโลกิเตศวรจงแสดงธรรมเรื่อง "ความว่าง สุญญตา" ให้แก่บรรดาพุทธบริษัทที่ชุมนุมอยู่ ณ ที่นั้นด้วย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีกำเนิดแห่งพระสูตรเลื่องชื่อซึ่งมีความหมาย "พระสูตรที่ว่าด้วยปัญญาเป็นส่วนสำคัญที่จะพาไปให้ถึงฝั่ง(พระนิพพาน)"


ใจความสำคัญปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตต์ เมื่อทรงได้บำเพ็ญปัญญาบารมีจนบรรลุถึงโลกุตรธรรมอันลึกซึ้งแล้ว ก็พิจารณาเล็งเห็นว่าที่แท้จริงแล้วขันธ์ ๕ นั้นเป็นสูญ (สูญญตาหรืออนัตตาหรือความว่าง) และเมื่อสามารถมองเห็นว่าขันธ์ ๕ เป็นสูญแล้ว จักช่วยให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง


“ท่านสารีบุตร รูปไม่ต่างจากความสูญ ความสูญไม่ต่างไปจากรูป

รูปก็คือความสูญ ความสูญก็คือรูปนั้นเอง

เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เป็นความสูญเช่นเดียวกัน

ท่านสารีบุตร ธรรมทั้งปวงมีความสูญเป็นลักษณะ
ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่หย่อ

น ไม่เต็มอย่างนี้

เพราะฉะนั้นแหละ ในความสูญจึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (อายตนะภายใน ๖ อย่าง)
ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ (อายตนะภายนอก ๖ อย่าง)
ไม่มีวิญญาณ (ความรู้สึกรับรู้ได้) ในอายตนะภายในทั้ง ๖ ด้วย
(จักษุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ และมโนวิญญาณ)
ไม่มีวิชา ไม่มีอวิชา ไม่มีความสิ้นไปแห่งวิชชาและอวิชชา
จนถึงไม่มีความแก่ความตาย และไม่มีสิ้นไปแห่งความแก่ความตาย

ไม่มีทุกข์ สมัทัย นิโรธ มรรค ไม่มีญาณ (ปัญญา)
ไม่มีการบรรลุถึงซึ่งปัญญา และไม่มีอะไรที่ต้องบรรลุอยู่ต่อไป

พระโพธิสัตต์ เมื่อได้ทรงบำเพ็ญปัญญาบารมีแล้ว เป็นผู้ถึงความเป็นผู้มีจิตที่เหลืออยู่ต่อไปแล้ว
จึงเป็นผู้มีความเห็นถูกต้องชอบธรรม (สัมมาทิฐิ) และกระทำกิจทั้งปวงอย่างถูกต้องโดยเสมอ
ในที่สุดก็บรรลุถึงพระนิพพาน บรรดาปวงพระพุทธเจ้าทุกๆองค์มีทั้งอดีตกาล ปัจจุบันกาล และอนาคตกาล
ล้วนต่างได้เคยบำเพ็ญปัญญาบารมีมาด้วยกันแล้วทุกๆพระองค์
และเมื่อได้บำเพ็ญคุณธรรมนี้แล้วจึงได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ

ดังนั้นควรได้ทราบว่าปัญญาบารมีนี้เป็นมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมนต์ที่ไม่อาจมีมนต์บทใดมาเทียบเคียงได้
เป็นมนต์ที่สามารถขจัดทุกข์ภัยทั้งปวง และนำพาไปสู่แดนนิพพานได้แน่นอน จึงไม่ควรจะมีความกงขาใดๆต่อไปเลย

ดังนั้นควรหมั่นสวดภาวนามนต์บทนี้ ด้วยเหตุนี้แล...จงไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น

ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิงไปสู่ความเป็นผู้รู้ไปสู่ความสงบสันติเบิกบานเกษมศานต์เถิด”






ป รั ช ญ า ป า ร มิ ต า ห ฤ ทั ย สู ต ร
( พระสูตรว่าด้วยปัญญาอันเป็นหัวใจพาไปถึงฝั่งพระนิพพาน )

อายาวะโลกิติซัวรา โบดิสัตจัว กรรมบิรัม ปรัชญาปารมิตาจารัม จารา มาโน
วียาวะโลกิติสมา ปัญจะ สกันดา อะสัตตัสจา ซัวปาวะสูญนิยะ ปาสัตติสมา
อีฮา สารีบุทรา รูปังสูญญะ สูญนิยะตา อีวารูปา
รูปานา เวทะสูญนิยะตา สูญญา นายะนา เวทะ ซารูปัง
ยารูปัง สา สูญนิยะตะยา สูญนียะตา ซารูปัง
อีวา วีดานา สังญาสัง สการา วียานัม
อีฮา สารีบุทรา ซาวาดามา สูญนิยะตะ ลักษาณา
อานุภานา อานิรูตา อะมะระ อะวิมะลา อานุนา อาปาริปุนา
ทัสมาต สารีบุทรา สูญนิยะตายะ นารูปัง นาวิยานา นาสังญานา สังสการานา วียานัม
นา จักษุ โสตรา กรรณนา ชิวหา กายา มะนา ซานะรูปัง
สัพพะ กันดา รัสสัส สปัตตะ วียา ดามา
นาจักษุ ดาตุ ยาวะนา มะโนวีนยะนัม ดาตุ นาวิดียา นาวิดียา เจียโย
ยาวัดนา จาระมา ระนัม นะจาระมา ระนัม เจียโย
นาตุขา สมุดา นิโรดา มาคา นายะนัม นาประติ
นาอะบิส สะมะยัง ตัสมาตนะ ปรัตติถา โพธิสัตวะนัม
ปรัชญา ปารมิตา อาสริดะ วิหะรัชชะ จิตตา อะวะระนา
จิตตา อะวะระนา จิตตา อะวะระนา นัสติ ตวะนะ ทรัสโส
วิปาริยะซา อาติกันดา นิสทรา เนียวานัม
ทรียาวะ เรียววะ สิทธะ สาวา บุดดา ปรัชญา ปารมิตา
อาสวิชชะ อะนุตตะระ สัมยัก สัมโบดิม อะบิ สัมโบดา
ทัสมาต เนียทาวียา ปรัชญา ปารมิตา มหามันทรา
มหาวิทยะ มันทรา อะนุตตะระ มันตรา อสมา สมาธิ มันทรา
สาวา ตุขา ปรัชสา มานา สังญา อามิ เจียจัว
ปรัชญา ปารมิตา มุขา มันทรา ตะติติยะ
"คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โบดิซัวฮา"

คำแปล ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผู้ประกอบด้วยโลกุตรปัญญาอันลึกซึ้ง
ได้มองเห็นว่า โดยธรรมชาติแท้แล้ว ขันธ์ทั้งห้านั้นว่างเปล่า
และด้วยเหตุที่เห็นเช่นนั้น จึงได้ก้าวล่วง พ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้
สารีบุตร รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่าง ก็ไม่ต่างไปจากรูป
รูปคือความว่างนั่นเอง และความว่างก็คือรูปนั่นเอง
เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็เป็นดังนี้ด้วย
สารีบุตร ธรรมทั้งหลาย มีธรรมชาติแห่งความว่าง ไม่ได้เกิดขึ้นและไม่ได้ดับลง
ไม่ได้สะอาดและไม่ได้สกปรก ไม่ได้เพิ่มขึ้นไม่ได้ลดลง

ดังนั้น ในความว่างจึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา หรือสัญญา ไม่มีสังขาร หรือวิญญาณ
ไม่มีตาหรือหู ไม่มีจมูกหรือลิ้น ไม่มีกายหรือจิต ไม่มีรูปหรือเสียง ไม่มีกลิ่นหรือรส
ไม่มีโผฏฐัพพะหรือธรรมารมณ์ ไม่มีโลกแห่งผัสสะ หรือวิญญาณ
ไม่มีอวิชชา และไม่มีความดับลงแห่งอวิชชา ไม่มีความแก่และความตาย
และไม่มีความดับลงซึ่งความแก่ และความตาย ไม่มีความทุกข์
และไม่มีต้นเหตุแห่งความทุกข์ ไม่มีความดับลงแห่งความทุกข์
และไม่มีมรรคทางให้ถึง ซึ่งความดับลงแห่งความทุกข์
ไม่มีการประจักษ์แจ้งและไม่มีการลุถึง เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องลุถึง

พระโพธิสัตว์ผู้วางใจในโลกุตรปัญญา จะมีจิตที่เป็นอิสระจากอุปสรรคสิ่งกีดกั้น
เพราะจิตของพระองค์เป็นอิสระจาก อุปสรรคสิ่งกีดกั้น
พระองค์จึงไม่มีความกลัวใดๆ ก้าวล่วงพ้นไปจากมายาหรือสิ่งลวงตา
ลุถึงพระนิพพานได้ในที่สุด พระพุทธในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ผู้ทรงวางใจในโลกุตรปัญญา ได้ประจักษ์แจ้งแล้วซึ่งภาวะอันตื่นขึ้น
อันเป็นภาวะที่สมบูรณ์และไม่มีใดอื่นยิ่ง ดังนั้น จงรู้ได้เถิดว่า โลกุตรปัญญา
เป็นมหามนต์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นมนต์แห่งความรู้อันยิ่งใหญ่
เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นยิ่งกว่า เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นใดมาเทียบได้ซึ่งจะตัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวง
นี่เป็นสัจจะ เป็นอิสระจากความเท็จทั้งมวล ดังนั้น จงท่องมนต์แห่งโลกุตรปัญญา
คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิ สวาหา
ไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิง ลุถึง การรู้แจ้ง ความเบิกบาน

อานิสงส์จากการสวดมนต์ภาวนา ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร

1. เพื่อเพิ่มพูนสติปํญญาให้สามารถเห็นแจ้งในธรรมะ
2. เพื่อการบรรลุภาวะการเป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรม
3. เพื่อการตรัสรู้และการบรรลุนิพพานโลกธาตุในที่สุด

สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เดินทางเสี่ยงต่ออันตราย หรือ เผชิญภาวะฉุกเฉิน
และ ต้องการตั้งสติขจัดความตื่นกลัวออกไปโดยเร็ว ควรบริกรรม โดยใช้บทสวดมนต์ย่อว่า

"คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิสวาหา"

ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ท่านหลวงจีนเฮียงจั๋ง (พระถังซำจั๋ง) ท่านกล่าวว่า
ท่านสวดบทนี้เมื่อท่านอยู่ในภาวะคับขันในการเดินทางข้ามทะเลทราย
ท่านเชื่อว่าทำให้มีสติตั้งมั่น เกิดปํญญา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง


ขอบคุณแหล่งข้อมูล: https://sites.google.com/site/snimnon/khea-mul-prachya-par-mi-ta-hvthay-sutr

 

ปอกเปลือก ทรราช

โอบาม่ากลับลำหันมาว้ากในเคิร์ดห้ามขยายพื้นที่ในซีเรียสงสัยถูกแอร์โดกันบีบไข่มาแน่ๆ, นาโต้ขู่ตุรกีว่าจะไม่สนับสนุนกรุงอังการากรณีขัดแย้งกับรัสเซีย (พูดจริงอ๊ะเปล่า?)


----------

1.) วันที่ 20 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "โอบาม่าโทรหา Erdogan สนับสุนตุรกีต่อต้านรัฐบาลซีเรียและเคิร์ด PKK" (Obama Backs Turkey Against Syrian Government, PKK in Call to Erdogan)

ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าได้เตือนกองกำลังปกป้องประชาชนชาวเคิร์ด (YPG) ไม่ให้ยึดพื้นที่เพิ่มขึ้นในดินแดนของซีเรีย และสัญญาว่าจะสนับสนุนตุรกีต่อต้านกองโจรพรรคคนงานชาวเคิร์ด (PKK) ในการคุยกันทางโทรศัพท์กับปธน. Recep Tayyip Erdogan ของตุรกีเมื่อวันศุกร์นี้ ทำเนียบขาวกล่าว

[หือ… วันก่อนกรุงวอชิงตันยังบอกว่าสนับสนุนทั้งเคิร์ดและตุรกีอยู่เลยนะ ไหงวันนี้ท่านโอบาม่าถึงได้ออกมาพูดแบบนี้หละนี่? แค่ Erdogan ขู่ว่าแล้วสหรัฐฯจะเสียใจที่เลือกเคิร์ด แค่นี้ก็อ่อนซะแล้วครับท่านโอบาม่า? - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า ปธน.โอบาม่า ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของสหรัฐฯต่อความปลอดภัยแห่งชาติของตุรกีในฐานะพันธมิตรนาโต้ และจะกระชับความร่วมมือกันในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายทุกรูปแบบ ซึ่งรวมทั้งพวกเคิร์ด PKK และดาอิชด้วย แถลงการณ์กล่าว

"ประธานาธิบดีโอบาม่า ได้เน้นย้ำว่า กองกำลังชาวเคิร์ด YPG ไม่ควรที่จะแสวงหาประโยชน์จากสถานการณ์ในพื้นที่เพื่อยึดดินแดนเพิ่มขึ้น และได้เรียกร้องให้ตุรกีแสดงการยับยั้งการชั่งใจโดยการหยุดยิงปืนใหญ่โจมตีพื้นที่ดังกล่าวด้วย" ทำเนียบขาวอ่านแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์นี้

โอบามายังได้แสดงความกังวลต่อ Erdogan เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางทหารของซีเรียในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียด้วย และได้เรียกร้องให้ยุติการดำเนินการที่จะเป็นการขยายความตึงเครียดกับตุรกีและกับกองกำลังที่อ้างว่าเป็นฝ่ายค้านสายกลางในภาคเหนือของซีเรียโดยเร่งด่วย แถลงการกล่าวต่อ

แถลงการกล่าวต่ออีกว่า "ประธานาธิบดีได้ประนามและแสดงความเสียใจอย่างสุดซื้งสำหรับการโจมตีจากผู้ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ในกรุงอังการา ซึ่งได้ทำให้บุคคลากรทางกองทัพและพลเรือนได้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บด้วย และการโจมตีจากผู้ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ต่อขบวนคอนวอยของกองทัพตุรกีในจังหวัด Diyarbakir ด้วย"

[สหรัฐฯและตะวันตกเป็นฝ่ายที่สนับสนุนอาวุธและฝึกซ้อมทหารให้กับกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียและอิรัคและพวกกบฏซีเรียมานานแล้ว พอหลังจากที่ชาวเคิร์ด YPG ในซีเรียสามารถต่อสู้และปราบปรามพวกผู้ก่อการร้ายในภาคเหนือของซีเรียได้ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกผู้ก่อการร้ายเข้าไปยึดพื้นที่คืน ชาวเคิร์ดซึ่งตอนนี้หันมาร่วมมือกับกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซีย ก็จำเป็นต้องขยายพื้นที่ออกไป

เพราะว่ากองกำลังของฝ่ายรัฐบาลซีเรียยังเข้าไม่ถึงพื้นที่ใกล้ชายแดนของตุรกีเนื่องจามีกลุ่มก่อการร้ายขวางเอาไว้ จึงให้ YPG โจมตีจากทางเหนือลงมา ส่วนกองทัพซีเรียก็โจมตีจากทางใต้ขึ้นไป เมื่อผู้ก่อการร้ายถูกถล่มหนักจากทั้งสองด้าน Erdogan กลับนั่งไม่ติดเป็นเดือดเป็นร้อนแทนผู้ก่อการร้ายซะงั้นจึงได้ยิงถล่มชาวเคิร์ด YPG และห้ามไม่ให้เคิร์ด YPG ยึดเมือง Azaz จากผู้ก่อการร้าย แต่ในที่สุด YPG ก็ยึดได้แล้ว

พอสหรัฐฯเห็นว่าเคิร์ด YPG หันมาร่วมมือกับอัสซาดและรัสเซียมากขึ้นแทนที่จะเป็นเด็กทีของสหรัฐฯเหมือนที่แล้วมา ก็ยิ่งสร้างความกังวลใจให้กับโอบาม่าว่าอาจจะคุมเคิร์ดไม่อยู่แล้ว จึงรีบออกมาเตือนเคิร์ดว่าห้ามไม่ให้ยึดพื้นที่ในซีเรียเพิ่มเติม เฮ้อ… สหรัฐฯจะเอาอะไรไปห้ามหรือไปข่มขู่ชาวเคิร์ดหละครับ?

เพราะว่าที่แล้วมาจนถึงปัจจุบันนี้เห็นได้ชัดว่าสหรัฐฯไม่สามารถปกป้องและคุ้มครองชาวเคิร์ดจากการโจมตีโดยตุรกีได้เลย แต่รัสเซียช่วยได้ เคิร์ดก็หันมาหาปูตินและอัสซาดแทนสิ สหรัฐฯและตะวันตกลงทุนไปกับเคิร์ด YPG ในซีเรียเป็นจำนวนมาก จู่ๆจะให้ปูตินคว้าพุงปลาไปกินต่อหน้าต่อตานี่ คงจะทำใจยากสักนิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็น่าเห็นใจอยู่นะ เกมมันคนละชั่นกันครับท่านโอบาม่า

อ้อ… กรณีผู้ก่อเหตุโจมตีด้วยการก่อการร้ายในตุรกีทั้งในวันที่ 17 และ 18 ที่ผ่านมานี้ กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง TAK ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของเคิร์ด PKK ออกมายอมรับว่าเป็นฝีมือของตนเอง เพื่อเป็นการแก้แค้นกรณีที่กองทัพตุรกีกระทำต่อเคิร์ด PKK ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ไม่เกี่ยวกับเคิร์ด YPG ในซีเรียนะครับ - ผู้แปล]

2.) นั่นคือการเดินเกมด้านหนึ่งของสหรัฐฯกรณีตุรกีกับเคิร์ดซึ่งดูเหมือนว่าสหรัฐฯกำลังปรอบใจ Erdogan ว่าสหรัฐฯเข้าข้างตุรกีอยู่นะ คราวนี้มาดูการเดินเกมอีกด้านหนึ่งของสหรัฐฯเกี่ยวกับตุรกี-รัสเซียบ้าง วันที่ 20 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "นาโต้เตือนตุรกีว่า จะไม่สนับสนุนกรุงอังการาในความขัดแย้งกับรัสเซีย" (NATO Warns Turkey It Won’t Support Ankara in Conflict With Russia)

[อัยย๊ะ! ไหงกลายเป็นหนังคนละม้วนเฉยเลย ฮ่าๆๆ ตุรกีเขาชอบแบบนี้แหละครับ แบบพลิกไปพลิกมา ไม่คงเส้นคงวาแบบนี้ เพราะว่า Erdogan ก็เล่นมุกแบบนี้อยู่บ่อยๆ ก็เหมาะสมกันดีแล้ว สงสัยจบมาจากสถาบันเดียวกัน สำนักอะไรครับแอ็ดมิน? "สถาบันตอแหลศึกษา!" - ผู้แปล]

Sputnik news รายงานว่า ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างตุรกีและรัสเซียกำลังขยายตัวออกไป นาโต้ได้เตือนกรุงอังการาว่า นาโต้จะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามที่ก่อโดยรัฐบาลตุรกี

[กรรม! หัวเดียวกระเทียมลีบ กลีบเดียวกระเทียมโทน ไหงนาโต้ถีบหัวส่งซะงั้นหละครับ ก็ไหนว่าเป็นพันธมิตรกันจะร่วมหัวจมท้ายด้วยกันในยามที่มิตรมีภัย แล้วไฉนวันนี้นาโต้ถึงได้เหมือนจะหงอให้รัสเซียซะหละ? - ผู้แปล]

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ตุรกีได้ยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตกในขณะที่กำลังบินอยู่ในน่านฟ้าของซีเรีย (ซึ่งตุรกีอ้างว่ารัสเซียละเมิดน่านฟ้าของตุรกีนาน 17 วินาที) ในขณะที่หลายฝ่ายหวั่นกลัวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะผลักทั้งสองประเทศเข้าสู่สงคราม มีการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างกรุงมอสโคว์และกรุงอังการาจะยังคงเย็นยะเยือกก็ตาม

เนื่องจากกรุงอังการาได้ผลักให้มีการส่งกองกำลังภาคพื้นดินข้ามชายแดนของตนเองเข้าไป (ในซีเรีย) เพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มีความชอบธรรมของประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาดแห่งซีเรีย รัฐบาลตุรกีก็กำลังข่มขู่โลกด้วยสงครามอีกครั้ง

"กองทัพของทั้งสองประเทศกำลังพร้อมที่จะสู้รบกันอย่างรุนแรงตามพรมแดนตุรกี-ซีเรีย ในบางกรณีนั้นอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น" หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของนาโต้กล่าวกับนิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมัน

ดูเหมือนว่าความก้าวร้าวบางส่วนของกรุงอังการาจะอยู่บนสมมุติฐานที่ว่า ความขัดแย้งควรจะปะทุขึ้น ตุรกีจะได้รับการสนับสนุนจากเหล่าพันธมิตรนาโต้ ตามมาตราที่ 5 ของสนธิสัญญานาโต้ ที่บอกว่ามาตรการการป้องกันร่วมกันจะถูกเรียกใช้หากว่ารัฐสมาชิกถูกโจมตี

แต่เหล่าผู้นำกลุ่มประเทศยุโรปได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ยุโรปไม่มีผลประโยชน์ในการมีส่วนร่วมในสงครามที่สร้างขึ้นมาโดยตุรกี

"นาโต้ไม่สามารถที่จะยอมให้ตัวเองถูกดึงเข้าไปสู่การขยายทางทหารกับรัสเซียเนื่องจากผลของความตึงเครียดเมื่อเร็วๆนี้ระหว่างรัสเซียและตุรกีได้" Jean Asselborn รมว.ต่างประเทศของลักเซมเบิร์กกลาวกับนิตยสาร Der Spiegel

ตามมาตราที่ 5 นั้น Asselborn ได้เน้นย้ำว่า "การรับประกันจะใช้ได้เฉพาะกรณีที่รัฐสมาชิกถูกโจมตีอย่างชัดเจนแล้วเท่านั้น" เยอรมันก็เห็นด้วย

"พวกเราจะไม่ยอมจ่ายให้กับสงครามที่เริ่มโดยตุรกี" นักการทูตของเยอรมันกล่าวโดยไม่ประสงค์จะออกนาม

เมื่อเร็วๆนี้ เหล่าผู้นำกลุ่มประเทศสมาชิกนาโต้ได้แสดงการเตือนในทำนองเดียวกันนี้ หลังจากที่ตุรกีได้ยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตกเมื่อปีที่แล้ว

"พวกเราจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ เหตุการณ์เช่นนั้น ซึ่งจะเป็นอุบัติเหตุที่จะขยายออกไปนอกเหนือการควบคุม" Jens Stoltenberg เลขาธิการของนาโต้กล่าวในช่วงเวลานั้น "ผมคิดว่าผมได้แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่า พวกเรากำลังเรียกร้องให้มีความสงบและไม่ขยายออกไป นี่เป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรง"

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Francois Hollande ของฝรั่งเศสได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องป้องกันความขัดแย้งระหว่างกรุงมอสโคว์และกรุงอังการา

"มีความเสี่ยงเกี่ยวกับสงครามระหว่างตุรกีและรัสเซีย" ปธน.ออลลองด์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Inter ของฝรั่งเศส

[เดี๋ยวขอไปเช็ดคูราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก่อนนะครับว่าขึ้นหรือลง ถ้าพุ่งปี๊ดขึ้นแสดงว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดสงคราม (รัสเซีย-ตุรกี) แต่ถ้าไม่ขึ้นก็ยังสบายใจได้ แอ่นแอ้นนนนน.... ลดลงครับผม WTI ของสหรัฐฯลดลง 2.6% BRENT ของอังกฤษลดลง 3.4% เมื่อเทียบกับราคาของวันก่อน - ผู้แปล]

รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ในขณะที่ตุรกีกำลังเรียกร้องให้ขยายความรุนแรงในซีเรียออกไป รัสเซียก็ได้เรียกร้องให้มีการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อแสดงความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น

"สถานการณ์กำลังมีความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความตึงเครียดตามแนวชายแดนซีเรีย-ตุรกี และแผนการของตุรกีที่ประกาศว่าจะส่งกองทัพเข้าไปในซีเรีย" ก.ต่างประเทศของรัสเซียอ่านแถลงการณ์

[แล้วผลการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและร่างมติที่เสนอโดยรัสเซียเป็นอย่างไรบ้าง? ถ้าสนใจก็โปรดติดตามในตอนต่อไปนะครับ เพราะว่าโพสต์นี้ยาวมากแล้ว ขอแบ่งเป็นสองตอนนะครับผม - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
20/02/2559
----------
Obama Backs Turkey Against Syrian Government, PKK in Call to Erdogan
NATO Warns Turkey It Won’t Support Ankara in Conflict With Russia

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯและฝรั่งเศสโดดขวางร่างมติของรัสเซียที่ยื่นต่อ UNSC เกี่ยวกับการละเมิดอธิปไตยของซีเรีย, สหรัฐฯยอมเปิดเผยตำแหน่งทหารของตนเองในซีเรียต่อรัสเซีย ไม่งั้นเละแน่



----------

1.) 19 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯและฝรั่งเศสกล่าวว่าร่างมติของรัสเซียเกี่ยวกับอธิปไตยของซีเรียหมดอนาคต" (US, France say Russia’s draft resolution on Syrian sovereignty has ‘no future’) [กรรม! หมดอนาคตของใครครับ? ของสหรัฐฯและพันธมิตรใช่ป๊ะ? ฮ่าๆๆ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่าร่างมติของรัสเซียซึ่งประนามแผนการใดๆสำหรับการแทรกแซงด้วยกองกำลังต่างชาติและเตือนการละเมิดอธิปไตยของซีเรียได้ถูกเอกอัครราชทูตของสหรัฐฯและฝรั่งเศสปฏิเสธ เนื่องจาก "ไม่มีอนาคต" ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเบื้องหน้า

แม้ว่าจะมีการคัดค้านจากสมาชิกของ UNSC บางประเทศก็ตาม แต่ Vladimir Safronkov รองผู้แทนสมาชิกถาวรประจำยูเอ็นของรัสเซียได้กล่าวกับ RTว่ายังมีปฏิกิริยาที่ "เป็นบวก" (positive) ต่อข้อเสนอของรัสเซียอยู่บ้าง

"ผมได้บอกกับบรรดาหุ้นส่วนชาวตะวันตกของพวกเราว่า ทุกอย่างที่รวมอยู่ในร่างมติฉบับนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาได้ออกเสียง ประกาศ และย้ำหลายครั้งหลายคราไปก่อนหน้านี้ รัสเซียจะเดินหน้ากดดันด้วยการเจรจาต่อรองเกี่ยวกับร่างมติในความหวังที่ว่า มติดังกล่าวจะได้รับการยอมรับในเร็วๆนี้" Safronkov กล่าวกับสำนักข่าว RT

เจ้าหน้าที่ทางการทูตของรัสเซียกล่าวต่ออีกว่า "ร่างมติฉบับดังกล่าวสะท้อนถึงหลักการที่สำคัญตามกฎบัตรของสหประชาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่กลายเป็นบรรทัดฐานในธรรมชาติ เนื่องจากพวกเราทุกคนกำลังทำงานอย่างเต็มที่ในพารามิเตอร์ของการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการเมืองในซีเรีย"

เจ้าหน้าที่ทางการทูตของรัสเซียได้เน้นย้ำว่า "นอกเสียจากว่าจะมีการยอมรับเอกสารดังกล่าวเท่านั้น การบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างถาวรก็จะเป็นเรื่องที่ยากมาก"

ไหนมาดูซิว่าทำไมสหรัฐฯและฝรั่งเศสถึงได้คัดค้านร่างมติฉบับนี้?.... รายงานข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า ร่างมติที่เสนอโดยกรุงมอสโคว์ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ง "วาทกรรมเชิงยั่วยุ และแถลงการณ์ที่จะทำให้เกิดความโกรธเคืองกัน (provocative rhetoric and inflammatory statements)" ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในของซีเรียต่อไป แทนที่จะสนับสนุนการยุติปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตของสหรัฐฯและฝรั่งเศสประจำยูเอ็นได้กล่าวว่า ร่างมติของรัสเซียไม่มีอนาคตเบื้องหน้าของการประชุมลับในวาระต่อไป รอยเตอร์สรายงาน Francois Delattre จากฝรั่งเศสยังได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า รัสเซียเป้นฝ่ายสนับสนุนการขยายทางทหารที่เป็นอันตราย ซึ่งอาจจะอยู่นอกเหนือการควบคุมได้โดยง่าย AFP รายงาน

ในขณะเดียวกัน Samantha Power จากสหรัฐฯก็ได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งโดยการกล่าวหากรุงมอสโคว์ว่า พยายามที่จะ "เบือนความสนใจของทั่วโลก (distract the world)" ด้วยมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

รายงานข่าวบอกอีกว่า อังกฤษ ยูเครน สเปน และนิวซีแลนด์ [พวกนี้แก๊งเดียวกันทั้งนั้น - ผู้แปล] ได้ปฏิเสธร่างมติของรัสเซียด้วย แหล่งข่าวทางการทูตกล่าวกับสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซีย

[ร่างมติฉบับนี้เรียกร้องให้นานาชาติเคารพในอธิปไตยของซีเรีย เนื่องจากตุรกี ซาอุดิอาระเบียและอีกหลายประเทศซึ่งรวมทั้งสหรัฐอเมริกาด้วยออกมาขู่ว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองเข้าไปในซีเรีย แม้ว่ารัฐบาลของซีเรียจะไม่อนุญาตก็ตาม การเคารพอธิปไตยของเจ้าของบ้านมันไม่ดีอย่างไรหรือครับท่านโอบาม่า?

ในจุดนี้รัสเซียและอิหร่านได้เปรียบกว่ากองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ เนื่องจากได้รับเชิญจากรัฐบาลซีเรียโดยตรง ไม่ถือว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของซีเรียเลย แต่สหรัฐฯและพรรคพวกไม่มีบัตรเชิญตรงนี้ก็ยังพยายามหน้าด้านที่จะเข้าไปในดินแดนของประเทศอื่นให้ได้ เนื่องจากเคยทำมาแล้วบ่อยๆ จึงติดนิสัยเดิมมาด้วย

ถ้ารัสเซียบอกว่าการส่งกองกำลังใดๆเข้าไปในซีเรียโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้าน ถือว่าผิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะตุรกีที่กระสันจะส่งกองทัพของตนเองเข้าไปช่วยลูกน้องไอซิสในซีเรียและยึดดินแดนของซีเรียให้ ก็จะฝันสลายทันที และยิ่งกว่านั้นก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯและพรรคพวกนาโต้และไม่ใช่นาโต้ที่จ้องจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองเข้าในซีเรียด้วย หากว่า UNSC รับมติดังกล่าว ก็เท่ากับเป็นการปิดประตูตายให้กับฝั่งสหรัฐฯและพันธมิตรในการที่จะเข้าไปในซีเรียทันที

ดังนั้นสหรัฐฯ ฝรั่งเศสที่จ้องจะเข้าไปอยู่แล้วจึงกระโดดออกมาคัดค้านอย่างเต็มที่ และก็ตัวเองนั่นแหละที่บิดประเด็น แต่ด้วยความฉลาดแกมโกงของพวกขี้โกงจึงรีบชิ่งกล่าวหารัสเซียก่อน แทนที่จะดูที่สาระสำคัญของร่างมติดังกล่าวว่าเป็นไปเพื่อสันติภาพในซีเรียจริงหรือไม่ สหรัฐฯและพันธมิตรส่องเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดถล่มซีเรีย อ้างว่าเพื่อปราบปรามผู้ก่อการร้าย สนับสนุนอาวุธให้กับกลุ่มฝ่ายค้านเพื่อให้เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรียอ้างว่าเพื่อโค่นล้มจอมเผด็จการอัสซาดที่มาจากเลือกตั้งของประชาชนชาวซีเรีย มองว่าเป็นความชอบธรรม

แต่พอรัสเซียส่งเครื่องบินรบเข้าไปบอมบ์ไอซิสตามคำเชิญของรัฐบาลซีเรียบ้าง สหรัฐฯและตะวันตกบอกว่า รัสเซียกำลังให้สถานการณ์แย่ยิ่งกว่าเดิม กรรม! ทั้งๆที่หลังจากที่รัสเซียเข้าไปแล้ว กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียสามารถยึดคืนพื้นที่จากพวกผู้ก่อการร้ายได้เป็นจำนวนมากนี่นะ? ถ้าไม่่ใช่สองมาตรฐาน จะเรียกว่าสหรัฐฯและตะวันตกได้อย่างไร? "คำพูดของสหรัฐฯและตะวันตกย่อมถูกต้องเสมอ" นั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังพยายามจะบอกให้พวกขี้ข้าทางความคิดรับฟังแต่โดยดี

แล้วรัสเซียไม่รู้หรือว่าการเสนอร่างแบบนี้จะถูกคัดค้านและตีตกไปในที่สุด? รู้สิครับ ทำไมจะไม่รู้หละ อ้าว… ก็เมื่อรู้แล้วทำไมถึงยังต้องเสียเวลาเสนออยู่หละ? รัสเซียพยายามเล่นตามกฎและกติกาที่สหรัฐฯ ตะวันตกและนานาชาติเขียนขึ้นมา แต่การเล่นตามกติกาของรัสเซียกลับถูกจักรวรรดิเฮเกและพรรคพวกประท้วงว่าไม่ถูกต้อง ก็จะก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาในสายตาของชาวโลกว่า อ้าวแล้วจะมีกติกาสากลเอาไว้ทำแป๊ะอะไรหละ ในเมื่อมีกฎกติกาแล้วคุณไม่ยอมทำตามกฎกติกา?

ตรงนี้ ในด้านภาพพจน์และความชอบธรรม รัสเซียกินขาดอีกแล้ว รัสเซียเสนอแนวทางไม่ให้มีการขยายความตึงเครียดและป้องกันสงครามระหว่างตุรกีและซีเรียซึ่งมีรัสเซียหนุน หรือสงครามระหว่างตุรกี-รัสเซียในสนามรบซีเรีย แต่สหรัฐฯและพันธมิตรกลับไม่เห็นด้วยกับแผนที่เป็นรูปธรรมซะงั้น งานในส่วนนี้ของรัสเซียถือว่าจบแล้ว แค่ยิ้มร่ากลับบ้านและเดินหน้าถล่มไอซิสในซีเรียต่อไป สหรัฐฯและนาโต้อยากจะส่งใครเข้ามาในสนามรบในซีเรียเพื่อลองของบ้างก็เชิญ เดี๋ยวรัสเซียจัดให้ เพราะถือว่าได้เสนอแนวทางเพื่อป้องกันปัญหาไปแล้ว แต่พวกคุณไม่ยอมรับเอง - ผู้แปล]

2.) แล้วรัสเซียจะทำอย่างไรต่อหละคราวนี้? นี่เลยครับท่าน วันที่ 20 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียมีแผนสับเปลี่ยนกำลังถาวรของเรือรบคอร์เวตติดขีปนาวุธครูสในทะเลเมติเตอร์เรเนีย" (Russia plans permanent rotation of cruise missile carrying corvettes in Mediterranean)

รายงานข่าวบอกว่า เรือคอร์เวตของรัสเซียซึ่งตั้งขีปนาวุธ Kalibr cruise missile (3M-54 Kalibr) ซึ่งสามารถเจาะการป้องกันที่ซับซ้อนทางอากาศและโจมตีเป้าหมายที่ความเร็วระดับซับโซนิกในระยะทางประมาณ 2,000 กิโลเมตรได้ จะเข้าประจำการอย่างถาวรในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ผู้บังคับบัญชาจากกองทัพเรือรัสเซียกล่าว

เรือรบจากกองเรือทะเลดำจะยังคงเข้าเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มกองทัพเรือของรัสเซียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีภารกิจเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการต่อต้านผู้ก่อการร้ายในซีเรีย ผู้บัญชาการ Admiral Alexander Vitko กล่าว

[ก็ไม่มีอะไรมาก รัสเซียแค่อยากจะแจ้งให้สหรัฐฯและนาโต้ทราบว่า ต่อจากนี้ไป จะมีเรือรบติดขีปนาวุธ 3M-54 Kalibr ของรัสเซียหมุนเวียนกับเข้าประจำการถาวรอยู่ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนะครับ อย่าได้ทะเล่อทะล่าเข้ามาในรัสมีทำการโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นอันขาด เดี๋ยวชะตาจะขาดไปด้วย คริๆ - ผู้แปล]

3.) และแล้ว วันที่ 20 ก.พ.59 Sputnik news ก็พาดหัวข่าวว่า "คิดถึงฉันมากมาย (หละสิ?): เพนตากอนยอมแจ้งตำแหน่งของกองทัพสหรัฐฯในซีเรียให้รัสเซียทราบ" (Miss Me (by) Much: Pentagon Informs Russia About US Troops in Syria)

[ฮึ!!!!… เป็นได้อย่างไร? ก็ไหนก่อนหน้านี้หวงนักหนา รัสเซียขอให้แจ้งให้ทราบก็ปฏิเสธ ไหงคราวนี้ถึงยอมบอกหละนี่? เกิดอะไรขึ้นหรือครับท่านโอบาม่า? ตอนนี้สนามรบมันแคบเข้ามาทุกทีแล้วใช่ไหมครับ เหลือไม่กี่จุดเท่านั้นที่รัสเซียจะเล่นเกมแมวจับหนูต่อไป ไม่น่ารีบเปิดเผยตัวเองเร็วเลยนะ รัสเซียกำลังจะใช้ Kalibr cruise missile ช่วยหาตำแหน่งของทหารสหรัฐฯในซีเรียซะหน่อย ว้าาาาา ไม่หนุกเลย คริๆ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า การเปิดเผยอยู่นอกเหนือขอบเขตของบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่มีอยู่ซึ่งได้ลงนามร่วมกันระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียเมื่อเดือนตุลาคม (2558) เพื่อควบคุมโปรโตคอลด้านความปลอดภัยสำหรับเครื่องบินรบของแต่ละฝ่ายในภูมิภาค

"พวกเราได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ทางด้านภูมิศาสตร์ที่พวกเราได้ขอให้พวกเขาอยู่ภายนอกเขตเนื่องจากความเสี่ยงต่อกองทัพของสหรัฐฯ" Peter Cook โฆษกกลาโหมของสหรัฐฯกล่าวกลับผู้สื่อข่าว Military Times ของสหรัฐฯรายงาน

"นี่เป็นขั้นตอนที่พวกเรากำหนดขึ้นเพื่อพยายามรักษาความปลอดภัยให้กับพวกเขาในสถานการณ์ที่อันตราย และนี่เป็นคำร้องขอที่พวกเราได้ยื่นต่อฝั่งรัสเซียที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของบันทึกความเข้าใจ... จนถึงจุดนี้ [รัสเซีย] ได้ยกย่องคำร้องขอนี้" Peter Cook

[ฮี่ๆๆ… เริ่มปอดอ่ะดิ หมดท่าเลยครับท่านโอบาม่า นึกว่าจะแข็งได้นานสักเท่าไร พอจวนเจียนขึ้นมาก็บอกว่า ผมอยู่ตรงนี้ครับ อย่าทิ้งระเบิดใส่พวกผมนะครับ ผมยังอยากจะกลับไปหาลูกเมีย แต่เพนตากอนยังไม่ยอมให้กลับ - ผู้แปล]

4.) ปิดท้ายด้วยพระเอกของเราครับ [อุ้ย! เรียก "พระเอก" เลยหรือ แล้วโปรอเมริกาจะไม่ออกมาชักดิ้นชักงออีกหรือนี่? คริๆ] วันที่ 20 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "กองทัพรัสเซียในซีเรียสมควรได้รับการยกย่องอย่างย่ิง - ปูตินกล่าว" (Russian Forces in Syria Deserve Highest Praise - Putin)

ผู้บัญชาการสูงสุด (The supreme commander) ตั้งข้อสังเกตว่า "ภารกิจต่างๆของนักบินจากกองทัพอากาศและอวกาศของรัสเซีย (Russian Air and Space Forces) รวมทั้งของลูกเรือและทหารของพวกเราด้วย สมควรได้รับการยกย่องอย่างสูงที่สุด"

"พวกเขากำลังช่วยเหลือกองทัพซีเรีย และกองทัพอื่นๆในการต่อสู้กับพวกผู้ก่อการร้ายในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงมากๆ ช่วยปกป้องพลเรือนจากความรุนแรงและสงคราม" ปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินกล่าว

ผู้นำรัสเซียได้เน้นย้ำว่า "ด้วยการต่อสู้ในประเทศในตะวันออกกลางนี้ ทหารของพวกเราและเจ้าหน้าที่กำลังปกป้องผลประโยชน์ของสหพันธรัฐรัสเซีย โดยการทำลายกลุ่มก่อการร้ายที่เอ่ยชื่อประเทศของพวกเราอย่างเปิดเผยว่าเป็นศัตรูของพวกเขา และไม่ได้หลบซ่อนแผนการณ์ใดๆของพวกเขาที่จะขยาย (อิทธิพล) ซึ่งรวมทั้งดินแดนของรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ด้วย"

[เอ๊ะ… ปูตินหมายถึงใครนะที่ว่าเอ่ยชื่อของรัสเซียอย่างเปิดเผยว่าเป็นศัตรู.... หนะ? ท่านโอบาม่าและ Erdogan พอจะบอกได้ไหมครับ? - ผู้แปล]

"รัสเซียแสวงหาการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งผ่านวิธีทางการเมืองและการทูตเสมอ พวกเราได้เน้นย้ำอยู่บ่อยๆว่าสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์ต่างๆในต่างประเทศ ช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงด้วย" ปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินกล่าว

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
21/02/2559
----------
https://www.rt.com/news/333042-syria-sovereignty-un-resolution/
'No Future': West Slams Russia’s UNSC Resolution Aiming at Peace
Russia Regrets UNSC Failure to Support Resolution on Syria Sovereignty
https://www.rt.com/news/333057-kalibr-missile-corvette-mediterranean/
Miss Me (by) Much: Pentagon Informs Russia About US Troops in Syria
https://www.rt.com/news/333099-russia-pentagon-data-exchange/
Russian Forces in Syria Deserve Highest Praise - Putin

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข่าวบันเทิง... อังกฤษยิงขีปนาวุธ Brimstone อากาศสู่ภาคพื้นไป 9 ลูกยังไม่ได้สังหารผู้ก่อการร้ายไอซิสซักราย ฮิ้วววว!



----------

มีเรื่องหนุกๆมาเม้าท์ให้ฟังอีกแล้วครับท่าน วันที่ 19 ก.พ. 59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ขีปนาวุธรุ่นพิเศษของอังกฤษไม่ได้สังหารผู้ก่อการร้ายดาอิชซักราย" (Britain's 'Unique' Missiles Have Killed No Daesh Militants) ส่วน RT news พาดหัวข่าวว่า "ขีปนาวุปบริมสโตนของอังกฤษที่ยิงในซีเรียยังไม่ได้สังหารผู้ก่อการร้ายซักรายเลย กลาโหมเปิดเผย" (British Brimstone missiles in Syria are yet to kill any terrorists, MoD reveals)

[กรรม! แล้วเขาเอาไปยิงที่ไหนหละนั่น อย่าบอกนะว่าเป้าหมายคือฐานทัพและกองทัพซีเรีย หรือโรงพยาบาล และบ้านเรือนประชาชนในซีเรีย? - ผู้แปล]

RT รายงานว่าขีปนาวุธ Brimstone ภาคอากาศสู่ภาคพื้นที่มีความซับซ้อนสูงของอังกฤษไม่ได้ฆ่าผู้ก่อการร้ายในซีเรียเลยจนถึงบัดนี้ แม้ว่าจะยิงไปแล้วอย่างน้อย 9 ลูก ขีปนาวุธแต่ละลูกจะใช้เทคโนโลยีการนำวิถีด้วยเรดาร์และเลเซอร์ซึ่งมีราคาถึง 100,000 ปอนด์ (ประมาณ 5,140,000 บาทต่อลูก)

[มันซับซ้อนเกินไปหรือเปล่าครับท่าน มันก็เลยหาผู้ก่อการร้ายไม่เจอ? สู้จรวดทำลายรถถังของรัสเซียก็ไม่ได้ ราคาประมาณ 13,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 461,500 บาทต่อลูก ส่วนเครื่องยิงก็ประมาณ 115,000 เหรียญสหัฐฯ ประมาณ 4 ล้านกว่าบาท ยิงทีไรเข้าเป๊ะ - ผู้แปล]

หนังสือพิมพ์ The Huffington Post UK ได้ยื่นคำร้องตามกฎหมายเสรีภาพของสื่อฯ (FOI) ต่อกระทรวงกลาโหมของอังกฤษ และเปิดเผยว่าขีปนาวุธ Brimstone ที่โอ้อวดนักหนานักหนาว่ามีความแม่นยำมากยังไม่ได้สังหารผู้ก่อการร้ายซักรายเลย

มีการบันทึกเอาไว้ว่าได้มีการใช้ขีปนาวุธ Brimstone เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มกราคม หนังสือพิมพ์ The Independent ของอังกฤษรายงาน โดยมีเป้าหมายไปที่ขบวนรถเสบียงของผู้ก่อการร้ายในเมือง Raqqa จนกระทั่งถึงสิ้นเดือนมกราคม ได้ใช้ขีปนาวุธชนิดนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 9 ลูก

"พวกเรากำลังมีบทบาทที่สำคัญในแคมเปญจ์ที่จะต้องใช้เวลาและความอดทน การใช้อาวุธให้ตรงกับแต่ละสถานการณ์ เครื่องบินรบของกองทัพอากาศอังกฤษได้โจมตีผู้ก่อการร้ายอาอิชไปแล้วเกือบ 600 ครั้ง" โฆษกกลาโหมของอังกฤษกล่าว โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า "กองทัพอากาศของอังกฤษได้ขับไล่พวกไอซิสออกไปจากเมือง Sinjar และ Ramadi ในอิรัค และทำให้ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของพวกไอซิสในซีเรียอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก"

[จ้า "…ต้องใช้เวลาและความอดทน..." แล้วสหรัฐฯ ฝรั่งเศส รัสเซีย อิหร่าน ซีเรียเขาไม่อดทนหรือ? แต่ฝั่งรัสเซียและกองทัพซีเรียเขาเด็ดหัวพวกผู้ก่อการร้ายได้มากแล้วนะครับ และที่ว่า 600 ครั้งนี่ มีผู้ก่อการร้ายตายไปกี่รายครับท่าน?

"…และทำให้ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของพวกไอซิสในซีเรียอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก" ขี้แมวนี่! ถ้ารัสเซียไม่เข้าไปจะมีความก้าวหน้าถึงขนาดนี้รึ? สหรัฐฯและพันธมิตรรวมทั้งอังกฤษด้วยโจมตีซีเรียเป็นเวลาปีกว่า ที่เสียหายหนะคือบ้านเรือนประชาชนและสถานที่ราชการของฝ่ายรัฐบาล ใครๆเขาก็รู้ว่ายิ่งสหรัฐฯพันธมิตรปราบไอซิสในซีเรียและอิรัคนานเท่าไร พวกไอซิสก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ยังจะกล้าโม้ต่อสื่อฯอีกหรือนี่? อย่างหนาครับท่าน - ผู้แปล]

ตามข้อมูลของกลาโหมอังกฤษบอกว่า ระหว่างวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2559 การโจมตีทางอากาศของกองทัพอากาศอังกฤษในซีเรียได้จัดการทำให้กำลังพลของไอซิสหมดสิ้นไปจำนวน 7 คน มีพวกหัวรุนแรง 2 คนถูกสังหารด้วยระเบิด Paveway IV นำวิถีด้วยเลเซอร์ (ลูกละ $20,000 ประมาณ 710,000 บาท) และอีกห้าคนถูกสังหารด้วยขีปนาวุธ Hellfire ของสหรัฐฯ (ไอ้ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าส่งผิดไปที่คิวบานั่นแหละครับ และล่าสุดคิวบาก็ไม่อยากได้เทคโนโลยีของสหรัฐฯและก็ยินดีส่งกลับคืนให้สหรัฐฯแล้วด้วย ลูกละ $70,000 ประมาณ 2.4 ล้านบาท) ซึ่งยิงจากโดรนสังหาร Reaper

ก่อนการเริ่มแคมเปญจ์ในซีเรีย นาย David Cameron นายกรัฐมนตรีของอังกฤษได้ยกย่องขีปนาวุธ Brimstone ว่าเป็นเครื่องมือ "สำหรับพิฆาตแม่ทัพ (หรือทำลายจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญก่อน)" (cut off the head of the snake) ในเมือง Raqqa ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของพวกผู้ก่อการร้าย [หน้าตาอย่างนายคาเมรอน ไม่น่าจะใช้สำนวนแบบนี้เป็นนะ แกไปจำมาจากหนังเรื่องไหนหรือว่าเสธ.ท่านไหนสอนให้แกพูดคำนี้ - ผู้แปล]

Sir Gerland Howarth ส.ส.ของอังกฤษกล่าวว่า ขีปนาวุธ Brimstone แสดงถึง "ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างพวกเรากับหุ้นส่วนพันธมิตรอื่นๆ" โดยแง้มว่า ไม่ว่าสหรัฐฯหรือฝรั่งเศสก็ไม่มีขีปนาวุธแบบนี้ที่จะจัดการกับพวกจีฮาดิสต์ ส่วนรัฐมนตรี David Jones จากพรรคอนุรักษ์นิยม กล่าวเพียงว่ามันเป็นอาวุธที่ "ไม่ซ้ำใคร" (unique)

[จ๊ะ! ที่คนอื่นเขาไม่มีอาจจะมีหลายเหตุผลก็ได้นะ เช่นเป็นเพราะว่าเขาไม่อยากได้หรือเปล่าครับท่าน? คริๆ แปลแค่นี้พอหละ ขืนแปลมากกว่านี้เดี๋ยว Brimstone ของอังกฤษจะขายไม่ออก ตอนนี้เขากำลังประเหลาะขายให้ซาอุดิอาระเบียอยู่ครับ - ผู้แปล]

อ้อ… อีกนิดนึงนะครับ ในรายงานข่าวยังบอกอีกว่า กองทัพอากาศของอังกฤษสามารถใช้ขีปนาวุธ Brimstone นี้ได้เฉพาะกับเครื่องบินรบ Tornado รุ่นเก่าเท่านั้น ซึ่งสามารถติดตั้งทั้งขีปนาวุธ Brimstone และระเบิด Paveway ได้ ส่วนเครื่องบินรบ Typhoons รุ่นใหม่ๆ นั้นจะใช้สำหรับทิ้งระเบิด Paveway เท่านั้นและไม่ได้ปรับแต่งให้สามารถยิงขีปนาวุธ Brimstone ได้ ส่วนอากาศยานไร้คนขับ Reaper ของอังกฤษที่ซื้อมาจากกรุงวอชิงตันก็ใช้เฉพาะขีปนาวุธ Hellfire ของอเมริกัน และระเบิดเท่านั้น [จบเลย คาเมรอนเอ๋ย น่าเศร้าอ่ะ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
21/02/2559
----------
https://www.rt.com/news/332970-brimstone-missiles-syria-jihadists/
Britain's 'Unique' Missiles Have Killed No Daesh Militants

 

ีอุปกรณ์กัมมันตรังสที่น่าหวาดกลัวที่ถูกขโมยโดย ISIS ได้ถูกพบบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ในอิรัก เวลาที่เผยแพร่: 21 กุมภาพันธ์ 2016


อุปกรณ์การถ่ายภาพรังสีแกมมาอุตสาหกรรม© ir100.com

สแกนเนอร (เครื่องฉายรังส-กัมมันตรังสี) ที่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันของอิรักที่ถูกขโมยเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน เมื่อปีที่แล้วได้ถูกนำส่งคืน หลังจากที่ขโมยได้ล้มเหลวที่จะนำไปใช้และตัดสินใจที่จะทิ้งมันแทน

อุปกรณ์ดังกล่าวถูกนำมาใช้ในการทดสอบความสมบูรณ์ของท่อ ด้วยฉายรังสีแกมมา ที่มีอยู่ถึง 10 กรัมของ Ir-192, ไอโซโทปของอิริเดียม, มันถูกพบว่าได้มีการนำมาวางติดกับสถานีบริการน้ำมันใน Zubair เมืองในจังหวัดบาสรา และยังคงอยู่ในสภาพเดิม

"มีผู้เดินผ่านในบริเวณนั้นและยพบอุปกรณ์กัมมันตรังสีถูกทิ้งใน Zubair และได้แจ้งให้กองกำลังความมั่นคงทราบทันทีซึ่งได้มีการส่งกำลังร่มกับทีมการป้องกันรังสีพิเศษและอุปกรณ์ดึง" Jabbar al-Saidi หัวหน้าของแผงด้านความปลอดภัยในท้องที่สภาจังหวัดกล่าวได้ไว้

หลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นเราสามารถยืนยันได้ว่าอุปกรณยังคงอยู่ในสภาพเดิท และไม่มีความกังวลอย่างยิ่งของรังสี

สถานีน้ำมันที่พบอุปกรณ์ดังกล่าวอยู่จากสถานที่จัดเก็บประมาณ 50 กม. เป็นของ บริษัทบริการน้ำมันและก๊าซ สหรัฐ, Weatherford, ซึ่งมันได้ถูกจารกรรมไป3 เดือนแล้ว เวเธอจากที่ที่มันได้รับการดำเนินการที่ผ่านมาสามเดือน

"หลังจากที่ล้มเหลวที่จะนำมันออกไปจากเมืองผู้กระทำผิดจึงตัดสินใจที่จะทิ้ง. ผมขอยืนยันว่ามันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่เราจะจับกุมผู้ที่ขโมยอุปกรณ์กัมมันตรังสี" Jabbar al-Saidi ผู้แสดงความเห็นก่อนหน้านี้ซึ่งมีความกังวลก็กล่าวว่า อาจจะพบว่ามันได้ตกอยู่ในมือของผู้ก่อการร้ายรัฐอิสลาม

จากการที่ได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ ได้บอกว่า การจารกรรม "ไมการการพังตัวล๊อก ไม่มีการทุบประตู และไม่หลักฐานอะไรเลยในสถานที่ ซึ่งบอกได้ว่าอุปกรณ์ถูกขโมยจากบุคคลภายใน


https://www.rt.com/news/333198-radioactive-iridium-iraq-isis/

 

จากข่าวที่ 10 นายพลกองทัพซาอุฯ ยื่นจดหมายแก่ “มกุฎราชกุมาร” คัดค้านส่งทหารภาคพื้นดินเข้าซีเรียทำให้ข้อสงสัยที่ว่าซาอุและพันธมิตรได้ร่วมกันซ้อมรบภายใต้ชื่อปฏิบัติการ northern thunder สายฟ้าทิศเหนือนี้ อาจจะมีเจตนาที่จะรุกรานซีเรียเพราะการรวมกองทัพในลักษณะกองกำลัฝผสมจากชาติต่างๆจำเป็นต้องมีการซ้อมรบเพื่อให้กองกำลังต่างๆสามารถปฏิบัติการณ์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ไม่เกิดการยิงกันตาย หรือปฏิบัติภารกิจไม่สอดคล้องกันในสมรภูมิจนเกิดการตายเป็นจำนวนมากหรือมีความปราชัยเกิดขึ้น ก็ต้องมาดูว่าขุนพลปกป้องบัลลังก์ซาอุจะคัดค้านสำเร็จหรือเปล่าน่ะครับ แต่ทำแบบนี้จะยิ่ง
ราดน้ำมันลงบนกองไฟในใจ “มกุฎราชกุมาร”และรัฐมนตรีมหาดไทยซาอุฯ
ให้เปลวไฟแห่งความชิงชังและอหังการจะยิ่งรุกทวีความรุนแรงเพิ่มยิ่งขึ้นจงเตรียมเข้าสู่มหาสงครามให้พร้อม เมืาอเกิดขึ้นจะได้ลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า มหาสงครามอาจจะเริ่มในอีกไม่นานอาจกินเวลาหลายปี และจะรุนแรงขึ้นเรื่อยและจะค่อยๆขยายสมรภูมิรบออกไปเรื่อย..


10 นายพลกองทัพซาอุฯ ยื่นจดหมายแก่ “มกุฎราชกุมาร” คัดค้านส่งทหารภาคพื้นดินเข้าซีเรีย
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ -
ก.พ. 21, 2016



Farsnews – 10 นายพลระดับสูงแห่งกองทัพซาอุฯยื่นจดหมายแก่ “มกุฎราชกุมาร”และรัฐมนตรีมหาดไทยซาอุฯ พร้อมกับย้ำว่า การส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าซีเรียจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติและจะนำไปสู่ผลกระทบที่เป็นอันตราย

10 นายพลของกองทัพซาอุฯได้ลงนามในจดหมายที่ส่งให้กับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย พร้อมกับคัดค้านการส่งกองกำลังทหารภาคพื้นดินไปยังซีเรียและเตือนบรรดาผู้นำทางการเมืองซาอุดีอาระเบียให้ละเว้นจากการกระทำที่ยั่วยุอันที่จะก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ

NTHNEWS และหลายเว็บไซด์ในเยเมนได้รายงานเนื้อหาจดหมายดังกล่าวเมื่อวันพุธที่ 17 ก.พ. กรณีที่ 10 นายพลระดับสูงแห่งกองทัพซาอุฯเขียนถึงเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ มกุฎราชกุมารและรัฐมนตรีมหาดไทยซาอุฯผ่านสื่อโลกออนไลน์ โดยเนื้อหาบางส่วนในนั้นชี้ถึงความปราชัยของการแทรกแซงทางทหารของซาอุดิอาระเบียในเยเมน หรือที่รู้จักในนามพันธมิตรชาติอาหรับในการโจมตีเยเมน และมีเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งทหารภาคพื้นดินเข้าซีเรียที่เป็นเนื้อหาของจดหมายดังกล่าว

ส่วนหนึ่งในเนื้อหาของจดหมายดังกล่าวที่มีการเซ็นและลงนามของ 10 นายพลระดับสูงแห่งกองทัพและราชวงศ์ซาอุฯ เขียนว่า พึงทราบว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในกองกำลังติดอาวุธของซาอุดีอาระเบีย มีความยึดมั่นต่อศาสนา พระมหากษัตริย์และมาตุภูมิ และเป้าหมายของการปฏิบัติการพายุแกร่งยังไม่บรรลุในขณะที่สามารถความอ่อนล้าให้กองกำลังภาคพื้นดินและได้สร้างสถานการณ์ที่ซับซ้อนในภูมิภาค

13941129000198_PhotoL

ขณะที่รัฐบาล ผ่ายถ้อยแถลงของนายพล อาเหม็ด อัลอัซซิรี โฆษกกองทัพซาอุฯ กล่าวย้ำว่าเราตัดสินใจอย่างแน่วแน่และจะไม่มีการทบทวนการตัดสินใจใดๆอีกที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินไปยังซีเรีย

นายพลระดับสูงแห่งกองทัพซาอุฯยังเขียนในจดหมายดังกล่าวอีกว่า การส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าซีเรียจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติและจะนำไปสู่ผลกระทบที่เป็นอันตราย

ช่วงท้ายของจดหมายเป็นการลงนามของบรรดานายพลทั้งสิบนายให้มีการพิจารณาไตร่ตรองและทบทวนการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง

รายชื่อผู้ลงนาม

พลเอก อับดุลเลาะห์ บิน อาลี บิน อับดุลเลาะห์ อัลนัมล์
พลเอก ศอและห์ บิน อาลี บิน มุฮัมมัด อัลมะห์ยา
พลเอก อาลี บิน มุฮัมมัด บิน อาลี อัลคอลีฟะห์
พลตรี มาริอ์ บิน ฮาซัน บิน อาลี อัลชะห์รอนี
พลตรี อับดุลรอฮ์มาน บิน อับดุลเลาะห์ บิน ฮัมด์ อัลมุรชิด
พลตรี อัสอัด บิน อับดุลอาซิส อัลซุเฮร์
พลตรี มาญิด บิน ฏ็อลฮาบ บิน ฮัมด์อัลอุตัยบี
พลตรี นาเศร บิน อับดุลอาซิส บิน อับดุลเลาะห์ อัลอุรฟัจ์
พลโท อูน บิน อาลี บิน อะห์มัด อัลชัมรานี
พลโท อาลี บิน ฮาลวาน บิน ญัรวาน อัลอัชญาอี อัลรุวัยลี

ประเด็นที่น่าสนใจในจดหมายฉบับนี้เขียนถึงมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียและละเลยไม่ให้ความสำคัญถึงโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่เป็นผู้บังคับบังชาของพวกเขา ซึ่งสิ่งนี้ที่แสดงให้นายพลแหงกองทัพซาอุดิอาระเบียไม่ปฏิบัติตามกลยุทธ์ทางทหารของรัฐมนตรีหนุ่มอย่างที่เขากล่าวอ้างอีกทั้งคัดค้านอย่างรุนแรงกับการเปิดตัวและทำสงครามกับชาติอาหรับ

เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

10 นายพลกองทัพซาอุฯ ยื่นจดหมายแก่ “มกุฎราชกุมาร” คัดค้านส่งทหารภาคพื้นดินเข้าซีเรีย | abnewstoda

 

ปอกเปลือก ทรราช
ตุรกีขู่สหรัฐฯให้ช่วยต่อต้านกองกำลังชาวเคิร์ด YPG และกล่าวว่าตุรกีมีสิทธิ์ที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียหรือที่ไหนๆก็ได้เพื่อปกป้องตนเองจากผู้ก่อการร้าย, กรุงดามัสกัสตอบกลับว่าซีเรียจะมองว่ากองทัพของซาอุดิอาระเบียและตุรกีเป็นพวกผู้ก่อการร้ายทันทีหากรุกรานซีเรีย



-------------

1.) มาดูความร้อนแรงระหว่างตุรกีกับซีเรียต่อนะครับ หลังจากที่เกิดการลอบโจมตีด้วยคาร์บอมบ์จากผู้ก่อการร้ายเคิร์ด TAK ในตุรกีระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ก็เกิดเหตุการณ์คาร์บอมบ์ขึ้นหลายแห่งในกรุงดามัสกัสทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 180 กว่าคน ไอซิสประกาศว่าเป็นฝีมือของตนเอง [ไม่รู้ว่าเป็นการเอาคืนจากลูกพี่ไอซิสหรือไม่ - ผู้แปล]

วันที่ 21 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ไม่มี 'ถ้าหรือแต่ใดๆทั้งนั้น': ตุรกีเรียกร้องให้สหรัฐฯสนับสนุนการต่อต้านกองกำลังเคิร์ด YPG" ('No Ifs or Buts': Turkey Demands US Support Against Kurdish YPG)

ประวัติศาสตร์ได้สอนให้เห็นตัวอย่างที่เหล่าพันธมิตรแปรไปเป็นศัตรูมาแล้วมากมาย ปัจจุบันนี้ เวทีการเมืองระหว่างประเทศกำลังง่อนแง่น (vagarious) เนื่องจากหลายประเทศใช้เทคนิคต่างๆเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนหรือเพื่อแสดงพลังอำนาจ

เห็นได้ชัดว่ากลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดซีเรียกำลังตอกลิ้มลงระหว่าง (drive a wedge) พันธมิตรนาโต้ และตุรกีก็เรียกร้องให้รัฐบาลโอบาม่าออกเสียงสนับสนุนประเทศตุรกีอย่างเด็ดขาดเพื่อต่อสู้กองกำลังชาวเคิร์ด YPG ในซีเรียซึ่งได้กำลังได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์นี้

นาย Ahmet Davutoglu นายกรัฐมนตรีของตุรกีกล่าวในการแถลงข่าวว่า ตุรกีกำลังกระชับความปลอดภัยทั่วประเทศ หลังจากเกิดการโจมตีในกรุงอังการาเมื่อเร็วๆนี้

"สิ่งเดียวที่พวกเราคาดหวังจากพันธมิตรสหรัฐของพวกเราก็คือให้การสนับสนุนตุรกีโดยไม่มี 'ถ้า' หรือ 'แต่' ใดๆทั้งนั้น (ไม่มีข้อแม้หรือเงื่อนไขใดๆทั้งนั้น)" Davutoglu กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมด้านความมั่นคงยาวถึงห้าชั่วโมง

หลังจากที่นาย Davutoglu เพิ่งจะยื่นคำขาดให้สหรัฐฯไปหยกๆผ่านผู้สื่อข่าวว่า "ไม่มีถ้าหรือแต่ใดๆทั้งนั้น..." นาย Davutoglu ก็กล่าวต่ออีกว่า "แต่ (If) ชีวิตชาวตุรกีทั้ง 28 คนถูกอ้างผ่านการโจมตีของพวกผู้ก่อการร้ายในครั้งเดียว พวกเราก็สามารถที่คาดหวังให้พวกเขากล่าวว่าภัยคุกคามใดๆต่อตุรกีก็คือภัยคุกคามต่อพวกเขาด้วยเท่านั้น"

[หมอนี่เพิ่งจะบอกไม่ให้คนอื่นพูดคำว่า "แต่" ในประโยคก่อนหน้านั้น ในประโยคต่อมาเขากลับใช้คำนั้นซะเอง (It's a Turkish style.) ถ้าตุรกีบอกว่าซีเรีย อิหร่าน และรัสเซียเป็นภัยคุกคามต่อตุรกี สหรัฐฯและนาโต้ก็ต้องมองว่าประเทศเหล่านั้นเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯและนาโต้ด้วยหละสิ ซึี่งในความเป็นจริงแม้ว่าตุรกีจะไม่พูดแบบนั้นทั้งสหรัฐฯและนาโต้ก็แสดงออกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว แล้วประเทศอื่นมีสิทธิ์ที่จะมองว่าตุรกีเป็นภัยคุกคามต่อประเทศนั้นๆบ้างหรือไม่? - ผู้แปล]

2.) ต่อมาถึงคราวปธน. Erdogan ออกโรงบ้าง วันที่ 21 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "ตุรกีมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการในซีเรีย หรือที่ไหนๆเพื่อปกป้องตนเองจากพวกผู้ก่อการร้าย - ปธน. Erdogan กล่าว" (Turkey has right to conduct ops in Syria, elsewhere to protect itself from terrorists – Erdogan) [รวมทั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและซาอุดิอาระเบียด้วยหรือเปล่าครับท่านประธานาธิบดี? - ผู้แปล]

"ตุรกีมีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะดำเนินการในซีเรีย และที่อื่นๆ ที่องค์กรผู้ก่อการร้ายมีเครือข่ายเกี่ยวกับการต่อสู้ภัยคุกคามที่ตุรกีกำลังเผชิญ" Erdogan กล่าวอ้างโดยหนังสือพิมพ์ Hurriyet ของตุรกี [นั่นแหละข้ออ้างในการหาเรื่องละเมิดอธิปไตยของซีเรียเขาหละ - ผู้แปล]

Erdogan ยืนยันว่า "จุดยืนของตุรกีไม่มีอะไรที่จะทำเกี่ยวกับสิทธิ์เหนืออธิปไตยของประเทศอื่นๆที่ไม่สามารถควบคุมบูรณภาพแห่งอธิปไตยของพวกเขาได้ โดยเด็ดขาด (Ankara’s stance has absolutely nothing to do with the sovereignty rights of the states that can’t take control of their territorial integrity.) ในทางตรงกันข้าม สิ่งนี้จะต้องกระทำโดยเจตนาที่ตุรกีแสดงออกเพื่อปกป้องสิทธิ์เหนืออธิปไตยของตนเอง"

[อ้อ… คราวนี้ Erdogan บอกว่าไม่แคร์อธิปไตยของประเทศอื่นๆ ซึ่งตัวเองกำลังมีส่วนในการทำลาย โดยอ้างการปกป้องอธิปไตยของประเทศตนเองว่างั้นเถอะ ถ้าประเทศต่างๆพากันอ้างเหตุผลสั่วๆแบบนี้ ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดสงครามทุกหย่อมหญ้าทั่วโลกแล้วหละ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า ปธน.ของตุรกีได้ใช้แพลทฟอร์มที่คาดไม่ถึงในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องสงคราม เมื่อวันเสาร์นี้ Erdogan ได้ไปร่วมฉลองงานรวมจังหวัด Gaziantep ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีในรายชื่อ "เครือข่ายเมืองที่สร้างสรรค์ของ UNESCO" (UNESCO’s Creative Cities Network) ในประเภทการทำอาหาร (gastronomy category)

[ประเทศไหนที่ให้ตุรกีเข้าร่วมแก๊งด้วยคงจะเริ่มหนาวๆร้อนๆขึ้นมาบ้างแน่ๆ ไม่รู้ว่างานนี้จะมีไอซิสตามไปร่วมฉลองด้วยหรือไม่? เมื่อดูจากแผนที่ใน google แล้วพบว่าเมืองดังกล่าวอยู่ไม่ห่างจากชายแดนตุรกี-ซีเรียเลย ใกล้ๆกับเมือง Aleppo ของซีเรียนั่นแหละ จากใจกลางเมือง Gaziantep มายังเมือง Azaz ของซีเรียที่ตุรกีอยากได้เพียงแค่ 71 กม.เท่านั้น ว่าแล้วไง! - ผู้แปล]

ปธน. Erdogan ได้เตือนว่า รัฐบาลของเขาจะปฏิบัติต่อท่าทีต่างๆเพื่อป้องกันสิทธิ์ [ในการป้องกันตนเอง] ของประเทศของตนโดยตรง จากการเริ่มต้นต่อต้านตุรกีทั้งประเทศ - ไม่ว่ามันจะมาจากที่ไหนก็คาม

"ไม่มีใครสามารถที่จะมีสิทธิ์ห้ามไม่ให้ตุรกีป้องกันตนเองในการเผชิญหน้ากับการก่อการร้ายที่มีตุรกีเป็นเป้าหมายได้ พวกเขาไม่สามารถขัดขวางไม่ให้ [ตุรกี] ทำอย่างนั้นได้" Erdogan กล่าว [โอบาม่าได้ยินเสียงคำรามของไก่งวงไหมครับ ว้า… เทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าผ่านไปแล้วอ่ะ - ผู้แปล]

ปธน. Erdogan กล่าวต่ออีกว่า "ในความพยายามที่จะปกป้องตนเอง ตุรกีจะปฏิบัติต่อทุกคน ที่คัดค้านในฐานะเป็นผู้ก่อการร้ายคนหนึ่ง และปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมต้องการให้มีการรับทราบเรื่องนี้ในทิศทางนี้"

[ว้าวววว เรื่องของเรื่องก็คือ สหรัฐฯและตะวันตกสนับสนุนกองกำลังชาวเคิร์ด YPG ในซีเรีย และตุรกีประกาศว่า YPG เป็นองค์กรก่อการร้าย ในขณะที่สหรัฐฯบอกว่าไม่ใช่ ตุรกีบอกว่า ผู้ที่ให้การสนับสนุนเคิร์ด YPG ก็เป็นผู้ก่อการร้ายเช่นกัน อัยย๊ะ! งั้นในสายตาของ Erdogan ท่านโอบาม่าและเพนตาก้อนก็กลายเป็นผู้ก่อการร้ายไปแล้วสิครับ? - ผู้แปล]

ปธน. Erdogan ยังได้พูดกระแทกแดกดันประเทศต่างๆที่วิพากษ์วิจารณ์กรุงอังการาเกี่ยวกับการรุกรานอิรัคและซีเรีย โดยเรียกประเทศเหล่านั้นว่า "มีเลศนัย" (disingenuous/มีวาระแอบแฝง) เนื่องจาก แสดงธรรมเกี่ยวกับความอดทนและและมีความกล้าหาญ (due to preaching only patience and resoluteness) ให้กับตุรกีเท่านั้น แต่ในลักษณะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนั้น พวกเขากำลังโจมตีตัวเอง

[นั่นแหละโวหารของนักการเมืองหละครับ ไม่น่าเชื่อว่าหมอนี่จะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ ตุรกีส่งกองกำลังของตนเองเข้าไปในอิรัคอ้างว่าเพื่อฝึกทหารให้กับชาวเคิร์ดและปกป้องชาวเคิร์ดเช่นเดียวกับสหรัฐฯ ตุรกีขู่ว่าจะส่งกองทัพภาคพื้นดินของตนเองเข้าไปในซีเรียอ้างว่าเพื่อแก้แค้นชาวเคิร์ดและเป็นการป้องกันตนเอง ตรรกะอะไรของเขานี่? - ผู้แปล]

3.) คราวนี้หันมาดูฝั่งซีเรียบ้าง วันที่ 21 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ซีเรียจะมองว่ากองทัพของซาอุดิอาระเบียและตุรกีเป็นผู้ก่อการร้าย หาเริ่มการรุกราน" (Syria to View Saudi, Turkish Troops as Terrorists if Invasion Launched)

ปธน.บาชาร์ อัสซาดของซีเรียกล่าวว่า ถ้าซาอุดิอาระเบียและตุรกีส่งกองทัพของพวกเขาเข้ามาในซีเรีย ทางการของกรุงดามัสกัสจะปฏิบัติต่อพวกเขาในฐาน "ผู้ก่อการร้าย" (…the Damascus authorities will treat them as terrorists.) [อูยยยยยส์ Erdogan ได้ยินหรือเปล่าครับ? โปรดฟังอีกครั้ง "ในฐานะผู้ก่อการร้าย!" - ผู้แปล]

"หากว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมา พวกเราก็จะปฏิบัติต่อพวกเขาในฐานะผู้ก่อการร้าย พวกเราจะปกป้องประเทศของพวกเรา ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะแทรกแซงในซีเรียได้ - ไม่ว่าจะมาจากด้านการเมือง หรือมาจากมุมมองด้านการทหาร กรณีนี้จะเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และสำหรับพวกเราแล้ว ซึ่งรวมทั้งพลเมืองของซีเรียด้วย ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือ (สู้โว้ยยยย!) ก็คือปกป้องแผ่นดินแม่ของพวกเรา" ปธน.อัสซาดกล่าวกับหนังสือพิมพ์ El Pais ของฝรั่งเศส

ปธน.อัสซาดยังได้เน้นย้ำอีกว่า "ตุรกีได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ต่างๆในซีเรียตั้งแต่เริ่มต้น และได้ส่งพวกผู้ก่อการร้ายเข้ามาในประเทศนี้"

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
22/02/2559
----------
'No Ifs or Buts': Turkey Demands US Support Against Kurdish YPG
https://www.rt.com/news/333149-turkey-demands-unconditional-us-support/
https://www.rt.com/news/333181-damascus-blasts-suicide-car/
https://www.rt.com/news/333179-erdogan-terror-operations-syria/
Daesh Claims Responsibility for Multiple Deadly South Damascus Blasts
Turkey 'Has Right to Operations in Syria or Anywhere Else' – Erdogan
Syria to View Saudi, Turkish Troops as Terrorists if Invasion Launched

 

ร่วมช่วยกันตรวจสอบ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ฉบับที่... พ.ศ. ...เข้าที่ประชุม กำหนด เวลา 09.30 น. พฤหัสฯ 25 ก.พ.นี้ ผมเชื่อว่าข้าราชการกระทรวงพลังงานมีศักดิ์ศรี ไม่หาประโยชน์ส่วนตัวครับ

ได้ฤกษ์! กฤษฎีกานัดตีความร่าง พ.ร.บ.ปิโตเลียมฯ 25 ก.พ.นี้ จับตา! ใช้คณะที่ 5 มี “คุรุจิต-อารีพงศ์” หรือไม่ โดย MGR Online 21 กุมภาพันธ์ 2559 15:42 น. (แก้ไขล่าสุด 21 กุมภาพันธ์ 2559 15:49 น.)

ได้ฤกษ์! กฤษฎีกานัดพิจารณาตีความ หลังบรรจุร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ฉบับที่... พ.ศ. ...เข้าที่ประชุม กำหนด เวลา 09.30 น. พฤหัสฯ 25 ก.พ.นี้ ยังอุบใช้คณะกฎษฎีกาคณะไหนพิจารณา หลังภาคประชาชนยื่นหนังสือจี้ถามความถือหน้าถึงสองครั้ง จับตาใช้คณะที่ 5 มี “คุรุจิต-อารีพงศ์” หรือไม่
       
       วันนี้ (21 ก.พ.) มีรายงานว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เผยแพร่วาระการประชุมของคณะกรรมการกฤษฎีกาประจำวัน โดยพบว่าใน เวลา 09.30 น.วันที่ 25 ก.พ.นี้ มีการบรรจุร่างพระราชบัญญัติ (ร่าง พ.ร.บ.) ปิโตรเลียม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เข้าพิจารณาเป็นวาระแรก มีนายโกมล จิรชัยสุทธิกุล กรรมการร่างกฎหมายประจำ (นักกฎหมายกฤษฎีกาทรงคุณวุฒิ) เป็นเลขานุการ รวมถึงผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายเทคโนโลยีและการพลังงาน จากจำนวน 4 วาระ ที่ห้องสมภพ โหตระกิตย์ ชั้น 4 อาคารคณะกรรมการกฤษฎีกา 1 ถ.พระอาทิตย์ กทม.
       
       ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ได้ยื่นหนังสือเรียกร้อง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรก 22 ธ.ค. 2558 เรียกร้องให้พิจารณาทบทวน ให้เกิดความโปร่งใส และเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปทบทวน และปรับปรุงร่างกฎหมายใหม่ เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันจากนั้นจึงยกร่างกฎหมายใหม่มาเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบอีกครั้งก่อนเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
       
       “คปพ.เรียกร้องให้เรียกร้อง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยความคืบหน้าในการตีความกฎหมายดังกล่าว และขอทราบว่าผลการตีความดังกล่าวนั้น ได้แจ้งผลต่อกระทรวงพลังงานแล้วหรือไม่ และเมื่อใด”
       
       ครั้งที่ 2 คปพ.ได้ยื่นหนังสือถึงนายกัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2559 เรียกร้องให้มีคำสั่งและนโยบายมิให้บุคคลในสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อนเข้ามาพิจารณาทบทวนพระราชบัญญัติปิโตรเลียมของกระทรวงพลังงาน
       
       ทั้งนี้ กลุ่มเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลง ผู้ที่คาดว่าจะมาเป็นผู้พิจารณาตีความร่างกฎมายฉบับดังกล่าว ที่คาดว่าจะเป็น คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะที่ 5 เป็นผู้พิจารณาทบทวนร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียม ที่นำเสนอโดยกระทรวงพลังงานตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ารายชื่อผู้ เป็นคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะที่ 5 นั้นมีรายชื่อดังต่อไปนี้ นายวัฒนา รัตนวิจิตร ประธานกรรมการ, น.ส.สุคนธ์ กาญจนาลัย กรรมการ, นายมนู เลียวไพโรจน์ กรรมการ, นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ กรรมการ, นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช กรรมการ, นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ กรรมการ, นายอัครวิทย์ สุมาวงศ์ กรรมการ, นายเกริก วณิกกุล กรรมการ, นายคุรุจิต นาครทรรพ กรรมการ และนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม กรรมการ
       
       “โดยเฉพาะคณะกรรมการกฤษฎีกาบางท่าน นายคุรุจิต นาครทรรพ ยังคงดำรงตำแหน่งและรับผลประโยชน์ในกิจการธุรกิจพลังงานที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน คือ กรรมการและประธานกรรมการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ยังคงดำรงตำแหน่งและรับผลประโยชน์ในกิจการธุรกิจพลังงานที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน คือเป็นกรรมการ ประธานกรรมการกำหนดค่าตอบแทน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)”หนังสือถึง นายกัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2559 ระบุ

 

ซาอุฯ ประกาศชัด ต้องจัดหาจรวดต่อต้านอากาศยานให้ฝ่ายกบฏในซีเรีย. โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 21, 2016



AFP – รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียเผยว่า กำลังวางแผนในการจัดหาจรวดต่อต้านอากาศยานแบบพื้นสู่อากาศให้กับนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรีย

อะเดล อัลจูเบร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า กำลังวางแผนในการจัดหาจรวดต่อต้านอากาศยานแบบพื้นสู่อากาศให้กับนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรีย (นักรบสายกลาง) เพื่อสามารถต่อสู้และทำลายการโจมตีทางอากาศจากรัฐบาลซีเรีย

ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่กองกำลังของรัฐบาลซีเรียมีการโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายที่มีการเคลื่อนไหวในซีเรียอย่างหนัก

อะเดล อัลจูเบร์ ยังได้ตอกย้ำคำเรียกร้องของซาอุดิอาระเบียที่มีต่อ บัชชาร์ อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ให้ก้าวลงจากอำนาจเพื่อเป็นทางออกสำหรับการแก้ไขปัญหาการเมืองในซีเรีย

เขากล่าวเสริมว่า อีกทางออกหนึ่งคือ สงครามจะยังคงดำเนินการต่อไปและซีเรียจะต้องปราชัยและพ่ายแพ้

ซาอุดิอาระเบียเป็นชาติที่เป็นศัตรูกับรัฐบาลซีเรียและเป็นผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย

ก่อนหน้านี้ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศแล้วว่า หากกลุ่มพันธมิตรอาหรับ ซึ่งภายใต้การปฏิบัติโจมตีไอซิสในซีเรียผ่านการเห็นชอบของอเมริกาแล้ว เราก็จะส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปยังซีเรียในทันที

เขาให้สัมภาษณ์กับ Der Spiegel นิตยสารรายสัปดาห์ของเยอรมนี ว่า ริยาดมีความพร้อมที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนไปยังซีเรีย ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรอาหรับต่อต้านไอซิส

ขณะที่ วาลิด มุอัลลิม รัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย กล่าวว่า การแทรกแซงใดๆในดินแดนของซีเรียโดยปราศจากการอนุญาตจากรัฐบาลซีเรีย ถือเป็นการรุกรานและเป็นการละเมิดอธิปไตยของซีเรียและเราจะยืนหยัดต่อสู้ให้ถึงที่สุด

รัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย ประกาศกร้าว ว่า ผู้ก่อการ้ายทุกคนที่เข้ามาในแผ่นดินซีเรีย เราจะส่งศพของพวกเขากลับคืนไปยังประเทศของเขาอย่างแน่นอน

Der Spiegel ยังถามรมว.ต่างประเทศซาอุฯ เกี่ยวกับความคล้ายคลึงกันระหว่างกลุ่มอัลตร้าอนุรักษ์นิยมอิสลามที่ได้รับการฝึกฝนในประเทศของเขาและอุดมการณ์ทางศาสนาอิสลามของไอซิส

อะเดล อัลจูเบร์ กล่าวว่า ไอซิส เป็นองค์กรมุสลิม เหมือนกับองค์กรคลู คลักซ์ แคลน (Ku Klux Klan) ในอเมริกาที่เป็นคริสเตียน เขาอ้างถึงองค์กรเหยียดสีผิวในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ดําเนินการโดยคนอเมริกันผิวขาว

abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

ซาอุฯ ประกาศชัด ต้องจัดหาจรวดต่อต้านอากาศยานให้ฝ่ายกบฏในซีเรีย | abnewstoday

 

วิกฤตการณ์การเงินไอซิสและวิธีการหารายได้
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 21, 2016



presstv – กลุ่มก่อการร้าย “ไอซิส” กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตของการขาดแคลนเงินสดในเขตพื้นที่ครอบครอง มีการลดค่าจ้างของพนักงานของพวกเขาและมีการเก็บภาษีจากประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว

ก่อนหน้านี้กลุ่มก่อการร้ายสุดโต่งไอซิสมีการโอ้อวดศักยภาพของตนในการสร้างสกุลเงินของตนเอง แต่หลังจากที่พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องในสงครามในอิรัก และการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องทำให้ได้รับความเสียหายและสูญเสียนับล้านดอลลาร์ และในวันนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตการเงินอย่างรุนแรงสำหรับการจ่ายค่าตอบแทนให้กับสมาชิกของตนเองและค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ

ตามรายงานระบุว่า ไอซิสจะใช้วิธีการดึงดูดสมาชิกด้วยการให้คำมั่นว่าจะจ่ายค่าตอบแทนค่าจ้างที่ดีอีกทั้งให้สวัสดิการต่างๆ เช่น ให้เงินเลี้ยงดูลูกหลานของสมาชิกแ ละส่งคู่บ่าวสาวไปฮันนีมูน ทว่าในเวลานี้ไม่สามารถที่ออกค่าใช้จ่ายแม้แต่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า บุคคลที่ได้หลบหนีออกจากเขตพื้นที่ยึดครองไอซิส กำลังตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบากอย่างยิ่งเนื่องจากไม่มีแม้แต่สิ่งจำเป็นในปัจจัยพื้นฐานของการใช้ชีวิต

รายงานชิ้นนี้ทำขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการสัมภาษณ์บุคคลจำนวนหนึ่ง และครอบครัวที่อยู่ในเมืองรักกา เขตพื้นที่ยึดครองของไอซิสและบุคคลที่ผู้อยู่ในเมืองโมซูล และอ้างอิงจากบรรดาผู้สังเกตการณ์ว่า ตอนนี้ไอซิสกำลังมองหาแหล่งทางเลือกใหม่สำหรับการจัดหาเงินทุนเพื่อทดแทนการขาดดุลงบประมาณจากประเทศอื่นๆ เช่น ลิเบีย

ตามคำบอกเล่าของผู้ที่หลบหนีออกจากเมืองรักกา ว่า ในเมืองนี้ถือเป็นฐานที่มั่นหลักของผู้ก่อการร้ายในซีเรีย ซึ่งนับจากเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาได้มีการปรับลดค่าจ้างเหลือครึ่งหนึ่ง ไฟฟ้าบางส่วนถูกตัดและมีการขึ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์พื้นฐาน

อีกคนหนึ่งที่หลบหนีจากเมืองรักกา ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ในเมือง “ฆอซีย อัยนาตอบ” ตุรกี ซึ่งมีการติดต่อสัมพันธ์กับญาติพี่น้องในเมืองรักกาอยู่ ได้เล่าว่า ไม่เพียงแต่ค่าจ้างของผู้ปฏิบัติการโจมตีภาคสนามและการก่อการร้ายที่ปรับลดลงเท่านั้น ค่าจ้างของสมาชิกคนอื่นๆ เช่น พนักงานเทศบาลก็ถูกปรับลดเงินเดือนเหลือแค่ครึ่งหนึ่งด้วย

ในรายงานยังได้ชี้ถึงการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญในด้านการก่อการร้าย ว่า นอกเหนือจากที่แกนนำไอซิสได้ประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว พวกเขายังจำเป็นที่จะต้องหาแหล่งทุนเพื่อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ในสนามรบมาทดแทนอาวุธที่หายไปและเพื่อเป็นค่าจ้างให้กองกำลังในภาคสนาม ซึ่งงบประมาณนี้มีประมาณสองในสามของงบประมาณที่ได้รับในจัดสรรให้กับกลุ่มนี้

ตามคำบอกเล่าของนักเคลื่อนไหวในเมืองรักกา ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อจริง แต่ใช้นามแฝงว่า “อบู อะหมัด” เล่าว่า ขณะนี้มีการใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อขาย แม้แต่การเก็บภาษีและจ่ายค่าไฟค่าน้ำก็จะต้องจ่ายเป็นเงินดอลลาร์

ตามรายงานข้างต้นชี้ให้เห็นว่า สาเหตุของการปรับลดงบประมาณของไอซิสนอกเหนือไปจากความล้มเหลวและความพ่ายแพ้ในภาคสนามแล้ว เกิดจากราคาน้ำมันที่ปรับลด – ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของกลุ่มนี้- แหล่งกักเก็บน้ำมันและโครงสร้างสำคัญได้รับความเสียหายและเส้นทางการลำเลียงน้ำมันของกลุ่มไอซิสก็ถูกตัดขาดเนื่องจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย
ปฏิบัติการของกองทัพซีเรียเพื่อยึดคืนเมืองอาเลปโปทำให้ไอซิสถูกกดดันอย่างหนัก

ผู้อาศัยในเมืองอัลบาบ เผยว่า ได้ยินเจ้าหน้าที่ของไอซิสพูดว่า การโจมตีทางอากาศต่อโรงกลั่นน้ำมันของไอซิสในซีเรียและอิรัก การตัดเส้นทางหลักของไอซิสในการขนย้ายอาวุธและแหล่งที่มาของรายได้นั้นได้ส่งผลกระทบต่อเราอย่างหนัก

ชายผู้หนึ่งที่อาศัยในเมือง อัลบาบ ที่ไม่ต้องการเอ่ยชื่อจริงของเขา แต่ใช้นามแฝง “อุซามะห์” ซึ่งปัจจุบันครอบครัวของเขายังอยู่ในเมืองอัลบาบ เผยว่า พลเมืองอัลบาบได้หลบหนีออกจากเมืองดังกล่าวจำนวนมากเนื่องจากไม่อาจทนรับกับกฎเกณฑ์ของกลุ่มก่อการร้ายสุดโต่งเหล่านี้ได้

อุซามะห์ ได้ชี้ถึงสถานภาพบรรดาผู้ก่อการร้ายว่า พวกคุณสามารถเห็นและสัมผัสถึงความอ่อนล้าของพวกเขา และกำลังใจในการทำงานของพวกเขาที่ลดลง

ชาวเมืองรักกาอีกคนที่ได้หลบหนีอาศัยมาอยู่ในตุรกี เล่าว่า เส้นทางที่จะเข้าถึงเมืองโมซูล ถูกตัดขาดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าแพงมาก ราคาก๊าซ ขึ้นร้อยละ 25 เนื้อขึ้นราคาร้อยละ 70 และน้ำตาลขึ้นราคาเป็นสองเท่า
ในอิรัก ในเขตพื้นที่ยึดคืนกลับมาจากไอซิสได้สำเร็จ ซึ่งในเดือนกันยายนที่ผ่านมารัฐบาลกรุงแบกแดดได้ตัดเงินเดือนพนักงานของรัฐที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมของผู้ก่อการร้าย

รัฐบาลแบกแดดเผยว่า ไอซิสได้เงินจากการชำระภาษีในเขตพื้นที่ดังกล่าวประมาณร้อยละ 20 ถึงร้อยละ 50 ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ของรัฐได้มีการประมาณการว่ารายได้ของไอซิสได้หายไปประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน
ตามที่รัฐได้ตัดเงินเดือนของเจ้าหน้าที่รัฐและไอซิสได้สูญเสียแหล่งที่มาของรายได้จากสิ่งนี้ และอีกด้านหนึ่งพันธมิตรตะวันตกภายใต้การนำของอเมริกาได้มีการโจมตีคลังอาวุธต่างๆ ของไอซิส ทำให้วอชิงตันมองว่าความร่ำรวยและความมั่นคงของไอซิสเริ่มสั่นคลอน

ผู้อาศัยในเมืองฟาลูชาห์ อิรัก ท่านหนึ่ง เผยว่า ช่วงที่ผ่านมากลุ่มก่อการร้ายไอซิสมีรายได้ 400 ดอลลาร์ ต่อเดือน แต่วันนี้ไม่มีรายได้แม้แต่หนึ่งดอลลาร์ และมีการลดมืออาหารเหลือแค่สองมือต่อวัน

อีกคนหนึ่งไม่ต้องการเผยชื่อจริงเนื่องจากความกลัวที่จะเกิดอันตรายต่อชีวิต เล่าว่า พลเมืองดังกล่าวสามารถที่จะหนีออกจากพื้นที่ได้ แต่ต้องจ่ายเงินจำนวน 1,000 ดอลลาร์

ครอบครัวหนึ่งในเมืองฟาลูชาห์อิรัก เผยกับสำนักข่าวเอพี ว่า ไอซิสแจ้งให้กับประชาชนในเมืองว่า หากต้องการให้ญาติพี่น้องออกจากเรือนจำ ต้องจ่ายเงินจำนวน 500 ดอลลาร์ และการรับเงินเช่นนี้เป็นการชดเชยรายได้และงบประมาณที่ขาดหายไป

พลเมืองโมซูล เล่าว่า พลเมืองที่ไม่ยอมเคารพและปฏิบัติการคำสั่งในการสวมชุดเสื้อผ้าตามไอซิสกำหนดแทนที่จะมีการลงโทษและเฆี่ยนตีกลับใช้มาตรการปรับแทน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า มาตรการเหล่านี้เป็นการแสดงถึงปฏิกิริยาของปัญหาการขาดงบประมาณของไอซิส


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่


วิกฤตการณ์การเงินไอซิสและวิธีการหารายได้ | abnewstoday

 

ทำไมไอซิส ไม่บุกโจมตีอิสราเอล ???
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 20, 2015



อดีตรัฐมนตรีจอร์แดน เผย กลุ่มก่อการร้ายไอซิส ไม่มีวันบุกโจมตีอิสราเอล แนวทางเดียวในการถอนรากถอนโคนไอซิส คือการส่งกองกำลังร่วมอีรัก-ซีเรีย เพื่อปราบปรามไอซิสให้สิ้นซาก

อัลอาลัม – มัมดูห์ อัลอิบาดีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจอร์แดน ได้กล่าวในการประชุมสัมมนา “ไอซิส” ว่า ยิวไซออนิสต์ และกลุ่มก่อการร้าย คือเหรียญสองด้าน ไอซิสจะไม่มีวันโจมตีอิสราเอลเป็นอันขาด และอเมริกาเองก็ไม่มีวันทำอะไรไอซิสได้

เขากล่าวเสริมว่า ไอซิส คือแหล่งบ่มเพาะเชื้อร้ายสำหรับมนุษย์ชาติ การโจมตีทางอากาศและสื่อไม่สามารถปราบไอซิสให้สิ้นซากได้ แนวทางเดียวในการถอนรากถอนโคนไอซิส คือการส่งกองกำลังร่วมอีรัก-ซีเรีย เพื่อปราบปรามไอซิสให้สิ้นซาก แต่ก็ต้องได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนที่เพียงพอและสัจจริงจากชาติอาหรับและนานาชาติด้วย

มัมดูห์ อัลอิบาดีย์ กล่าวในการประชุมสัมมนาครั้งนี้ โดยมีนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองจอร์แดน จำนวน 200 กว่าคนเข้าร่วมว่า ไอซิส กำลังก้าวไปตามวิถีของทัศนะกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ที่มีชื่อว่า อบูบักร์ อัลนาญี ผู้เขียนหนังสือ “ความปรารถนาแห่งชีวิตป่าเถื่อน” โดยในบทหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ กล่าวย้ำว่า การข่มขู่อย่างต่อเนื่องและการก่อการร้ายจะสามารถก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้

เขากล่าวย้ำว่า กลยุทธ์ของไอซิส ในการบริหารความป่าเถื่อน คือ การเผยตัวตนแห่งความป่าเถื่อนของกองกำลังของตนออกมา เพื่อให้กองกำลังเหล่านี้สามารถแสดงความป่าเถื่อนในการปฏิบัติการสร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในความนึกคิดของศัตรู พวกเขาถือเอาความสุดโต่งและรุนแรงเป็นบรรทัดฐาน อาทิเช่น หากต้องการทำลายอาคารบ้านเรือน จะต้องทิ้งระเบิดทำลายให้มันพังทลายเป็นจุณ ขณะเดียวกัน หากจะมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันก็จะเรียกค่าไถ่ และหากไม่ยอมปฏิบัติตาม ก็จะทำการฆ่าสังหารในรูปลักษณะที่โหดร้ายและป่าเถื่อนที่สุด เพื่อสร้างความหวาดกลัวและหวาดผวาในหัวใจของบรรดาศัตรู

อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งทายในความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับไอซิสในสองรูปแบบ ทั้งทางทหารและความคิด ว่า นอกจากใช้ยุทธ์วิธีทางทหารแล้ว ก็ต้องออกกฎสั่งห้ามและดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับบุคคลที่ใช้สถานที่สาธารณะในการเผยแพร่ความคิดของไอซิส ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การต่อสู้ทางความคิด เป็นยุทธ์ศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้และปราบปรามกับกลุ่มก่อการร้ายโดยเฉพาะกลุ่มไอซิส


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

ทำไมไอซิส ไม่บุกโจมตีอิสราเอล ??? | abnewstoday

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯและรัสเซียบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียมีผลเที่ยงคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้, ปธน.อัสซาดประกาศกำหนดเลือกตั้งส.ส. 13 เม.ย.59



-----------

วันที่ 22 ก.พ.59 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียและสหรัฐฯได้ตกลงร่วมกันในการหยุดยิงในซีเรีย" (Russia and US Agree on Steps to Stop Fighting in Syria) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียได้กล่าวว่า ข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียเป็น "ขั้นตอนที่แท้จริงที่จะสามารถหยุดการหลั่งเลือดได้"

ส่วน RT news พาดหัวข่าวว่า "การหยุดยิงในซีเรียจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้" (Ceasefire in Syria to commence at midnight on Feb. 27 – Russia & US)

RT news รายงานว่า สหรัฐฯและรัสเซียได้ยอมรับ "เงื่อนไขในการสิ้นสุดการทำสงครามในซีเรีย" (Terms for a Cessation of Hostilities in Syria) และได้มีการยื่นข้อเสนอว่า การหยุดยิงจะเริ่มขึ้นในวันเสาร์เวลาเที่ยงคืนตามเวลาในกรุงดามัสกัส กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ เช่นพวกไอซิสและอัลนุสรา ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง

ตามแถลงการณ์นั้นบอกว่า "การหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้กับ [ทุก] ฝ่ายที่มีความขัดแย้งในซีเรียซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเพื่อยอมรับเงื่อนไขในข้อตกลง โดยไม่รวมขบวนการก่อการร้ายไอซิส อัล-นุสราฟรอนท์และองค์กรก่อการร้ายอื่นๆที่ระบุโดยคณะมันตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ"

แผนการหยุดยิงยังได้กำหนดเอาไว้ด้วยว่า ฝ่ายต่างๆควรจะระบุ "ความมุ่งมั่นของฝ่ายตนเพื่อและการยอมรับเงื่อนไขต่างๆสำหรับการสิ้นสุดสงคราม (for the cessation of hostilities)" โดยไม่ช้ากว่าเวลา 12.00 น. (ตามเวลาในกรุงดามัสกัส) ในวันที่ 26 [ขึ้นวันใหม่ของวันที่ 27 พอดี - ผู้แปล]

ในแง่ของเวลามาตรฐานสากล (GMT) นั้น การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี ณ เวลา 22.00 น. และทุกภาคส่วนก็ควรที่จะออกเสียงสนับสนุนข้อตกลง ณ เวลา 10.00 น.ด้วย

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้คุยโทรศัทพ์กับประธานาธิบดีบารัค โอบามา และผู้นำทั้งสองคนก็ยินดีกับแผนการดังกล่าวด้วย

ปูตินได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการโจมตีเป้าหมายผู้การร้ายว่าจะยังคงดำเนินต่อไป "สำหรับพวกไอซิส อัลนุสราฟรอนท์ และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ - ตามที่คณะมนตรีความมั่นคงกำหนด - พวกเขาอยู่นอกเหนือการหยุดยิงโดยประการทั้งปวง การโจมตีใส่พวกนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป" ปูตินกล่าว

กรุงมอสโคว์และกรุงวอชิงตันกำลังทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดว่ากลุ่มไหนจะไม่ตกเป็นเป้าหมาย "นี่เป็นโอกาสที่แท้จริงเพื่อหยุดการหลั่งเลือดในซีเรีย (This is a real chance to stop the bloodshed in Syria.)" ปูตินกล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์

"รัสเซียจะซักซ้อมอิทธิพลของตนเองในกรุงดามัสกัส และคาดหวังที่จะเห็นความพยายามเช่นเดียวกนนี้จากสหรัฐฯในส่วนที่เกี่ยวกับกองกำลังฝ่ายค้านและเหล่าพันธมิตรด้วย" ปูตินกล่าว

ตามแถลงการณ์ร่วมกันนั้น รัสเซียและสหรัฐฯกำลังก่อตั้งส่วนด่วนในการติดต่อสื่อสารกัน และคณะทำงานก็เป็นไปได้ที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน หลังการยุติการสู้รบมีบังคับใช้

เอกสารข้อตกลงร่วมกันยังได้ประกาศถึงการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อการหยุดยิงของกลุ่มประเทศผู้สนับสนุนซีเรียนานาชาติ (International Syria Support Group (ISSG) Ceasefire Task Force) ภายใต้การอุปถัมภ์ของยูเอ็น หน่วยงานนี้จะมีภารกิจในการระบุเขตแดนที่ยึดโดยผู้ก่อการร้าย สร้างความมั่นใจทางการสื่อสารระหว่างฝ่ายต่างๆเพื่อ "ลดการขยายความตึงเครียดอย่างรวดเร็ว (rapidly de-escalate tensions)" และรายงานพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้อง (กับข้อตกลง) ไม่ว่าจากฝ่ายใดทั้งนั้น

Riad Hija ผู้ประสานงานจากคณะกรรมาธิการเจรจาต่อรองสูงสุด (Supreme Negotiations Committee) - หนึ่งในกองกำลังของกลุ่มฝ่ายค้านซีเรียซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยตุรกีและซาอุดิอาระเบีย - ยังคงยืนยันว่าได้บรรลุข้อตกลงชั่วคราว (provisional/เฉพาะกาล) โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะ "เป็นไปตามการรับประกันระดับนานาชาติ (according to international guarantees)"

รายงานข่าวบอกว่า นาย Josh Earnest โฆษกทำเนียบขาวได้ยืนยันว่า ทำเนียบขาวได้ทำการติดต่อกับทำเนียบเครมลิมเมื่อวันจันทร์นี้ "นี่เป็นช่วงเวลาของโอกาส และพวกเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายจะใช้ประโยชน์จากมัน" Josh Earnest กล่าว อย่างไรก็ตาม Josh Earnest ยังได้เตือนอีกว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากที่จะดำเนินการได้"

[ในขณะที่รัสเซียส่งสัญญาณว่าพร้อมจะหยุดยิงกับฝ่ายค้านของซีเรีย สหรัฐฯก็ยังไม่วายทิ้งส.ด.เดิม ด้านหนึ่งบอกว่ายินดีปฏิบัติตามข้อตกลง แต่อีกด้านหนึ่งส่งระดับกระจอกออกมาขู่ประมาณว่าในทางปฏิบัติแล้วอาจจะเป็นไปได้ยาก ก็แสดงว่าสหรัฐฯไม่ได้ต้องการที่จะให้มีการหยุดยิงจริงๆเลย แถมยังพูดแบบสองแง่สามง่ามอีกว่า ให้ทุกฝ่ายรีบฉกฉวยโอกาสในช่วงนี้เอาไว้ ซึ่งสามารถตีความได้ทั้งในแง่บวกและแง่ลบฃ

ในแง่บวกก็คือให้รีบหันมาร่วมมือกันหยุดยิง ในแง่ลบก็คือเสี้ยมต่อว่า ก่อนหน้านี้ใครที่บอกว่าอยากจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองเข้าไปในซีเรียหนะ ให้รีบๆเข้านะ เดี๋ยวจะหมดโอกาสซะก่อน และอาจจะมีบางฝ่ายตีความไปว่าสหรัฐฯกำลังส่งสัญญาณบอกว่าให้รีบสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและกำลังพลเข้าไปในซีเรียโดยเร็วในช่วงที่มีการประกาศหยุดยิงที่แหละเหมาะที่สุด เอาไว้เตรียมเปิดศึกรอบใหม่ก็ได้

และหน่วยเฉพาะกิจที่ว่านี้ ก็จะทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดเขตแดนซึ่่งฉากหน้าบอกว่าเพื่อระบุว่าพื้นที่ตรงไหนถูกผู้ก่อการร้ายยึดและไม่ได้ยึดแล้ว ก็คล้ายๆกับการทำหน้าที่ของ OSCE ในพื้นที่ขัดแย้งของยูเครนตะวันออกในตอนนี้นั่นเอง

แผนการหยุดยิงในซีเรียในครั้งนี้ เป็นไอเดียของฝ่ายรัสเซียที่เสนอในที่ประชุมด้านความปลอดภัยที่มิวนิกเมื่อเร็วๆนี้ ในสนามรบนั้นกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียได้เปรียบอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องขอหยุดให้มีการหยุดยิงก็สามารถเอาชนะข้าศึกได้อย่างแน่นอน

แต่รัสเซียเลือกที่จะใช้แผนนี้ ซึ่งในอีกมุมหนึ่งก็ทำให้มองได้ว่า รัสเซียกำลังพยายามให้นานาชาติช่วยเป็นพยายานว่ามีพื้นที่ตรงไหนบ้างที่นานาชาติ (ยูเอ็น) ยังถือว่าอยู่ในการครอบครองของฝ่ายผู้ก่อการร้ายตามที่มีรายชื่อในแบล็กลิสต์ของยูเอ็น เมื่อมีการกำหนดพื้นที่อย่างชัดเจน รัสเซียก็จะถล่มได้อย่างไม่อั้น และสหรัฐฯหรือพันธมิตรตะวันตกก็จะไม่สามารถกล่าวอ้างหรือกล่าวหาว่าเครื่องบินรบของรัสเซียมุ่งเป้าโจมตีแต่ฝ่ายค้านซีเรีย ไม่ได้มุ่งเป้าโจมตีพวกผู้ก่อการร้าย

เมื่อสถานการณ์ออกมาในรูปนี้แล้ว ฝ่ายตุรกีและซาอุดิอาระเบียจะว่าอย่างไรบ้างหละนี่? ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับท่าทีของตุรกี คิดว่า Erdogan น่าจะโกรธโอบาม่าจนตัวสั่นแล้วหละมั๊ง - ผู้แปล]

ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่สื่อฯต่างๆเริ่มทะยอยเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและพวกกบฏซีเรียโดยสหรัฐฯและรัสเซีย Sputnik news ก็พาดหัวข่าวใหม่อีกว่า "ปธน.อัสซาดมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งรัฐสภาขึ้นมาในวันที่ 13 เมษายนนี้" (Assad Orders April 13 Parliamentary Elections) [สงกรานต์พอดี - ผู้แปล]

"ประธานาธิบดีอัสซาดได้ออกกฤษฎีกาหมายเลข 63 ซึ่งได้กำหนดให้วันพุธที่ 13 เมษายน 2559 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร" กฎษฎีกาเผยแพร่บัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียของประธานาธิบดีซีเรีย

[พลิกล็อคอีกแล้วครับท่าน เกินคาดกับการเดินเกมของปูตินและอัสซาด ในข้อตกลงการเจรจาสันติภาพที่กรุงเวียนนาระดับนานาชาติ (ไม่มีฝ่ายรัฐบาลของซีเรียรวมอยู่ด้วย) เกี่ยวกับวิกฤตปัญหาของซีเรียนั้น นานาชาติโดยเฉพาะฝ่ายสหรัฐฯและพันธมิตรได้กำหนดให้มีรัฐบาลเปลี่ยนถ่ายภายใน 18 เดือน

สงครามกลางเมืองยังไม่สิ้นสุดเลย แต่คาดว่าจะหยุดยิงในวันที่ 27 ก.พ.59 นี้ตามข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย อัสซาดเห็นว่าทางสหรัฐฯและตะวันตกจะรอนานเกินไป ไม่ต้องลำบากให้รอถึง 18 เดือนก็ได้ อีกเดือนกว่าๆข้างหน้า ก็ให้เลือกมีการจัดการเลือกตั้งส.ส.ในซีเรียกันเลย

งานนี้โอบาม่าและตะวันตกอึ้งแน่ๆ ดูซิว่าสหรัฐฯและตะวันตกชอบอ้างประชาธิปไตย จะคัดค้านและคว่ำการเลือกตั้งของซีเรียในครั้งนี้อีกหรือไม่? ถ้าสหรัฐฯยังทำแบบเดิมอีก ก็แสดงว่าที่พูดมาว่าสหรัฐฯและตะวันตกส่งเสริมประชาธิปไตยทั่วโลกนั้น ขี้ห้กทั้งเพ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
23/02/2559
----------
Russia and US Agree on Steps to Stop Fighting in Syria
Breakthrough: US, Russia Agree on Syria Ceasefire Starting February 27
https://www.rt.com/news/333275-russia-us-syria-ceasefire/
Assad Orders April 13 Parliamentary Elections