ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช
จีนสอนมวยจอร์จ โซรอสคิดจะเล่นสงครามเงินตรากับจีนคิดผิดคิดใหม่ได้นะโซรอส (ตอนที่ 2)



-------------
มาต่อที่เรื่องโซรอสพ่อมดการเงินริจะบ่อนโค่นระบบการเงินของจีน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ กันนะครับ ในโพสต์ก่อนหน้านี้ได้นำบทความจากมุมมองของนักวิเคราะห์ด้านการเงินของจีนมาแปลให้อ่านกัน คราวนี้มาดูอีกมุมมองหนึ่งจากบทบรรณาธิการของ Global Times ของจีนกันบ้าง
วันที่ 28 ม.ค.59 Global Times พาดหัวข่าวว่า "โซรอสพลาดภาพมุมกว้างของจีน" (Soros misses the big picture of China)
George Soros นักลงทุนอภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกันได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนระหว่างงานประชุมที่ Davos เมื่อเร็วๆนี้ว่า "ฮาร์ดแลนดิ้ง เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน" (A hard landing is practically unavoidable.) โซรอสยังได้กล่าวอีกว่า ตนเองได้เดิมพันหุ้นของ S&P 500 กับเงินตราของเอเซีย (หลายสกุลเงิน) เมื่อตัดสินจากบริบทนี้ โดยปรกติแล้วประชาชนย่อมที่จะเชื่อว่าเขาพยายามที่จะทำการขายชอร์ตเงินหยวน (แน่ๆ)
[hard landing นี่ หมายถึงการพังคลืนหรือภาวะถดถอยของเศรษฐกิจอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน ที่เปรียบเหมือนการลงจอบแบบกระแทกพื้นอย่างแรงของเครื่องบิน ตรงข้ามกับ Soft landing ที่แปลว่าลงจอดแบบนุ่มนวล ทับศัพท์เลยก็ได้ง่ายดี - ผู้แปล]
นักวิเคราะห์ชาวจีนมองว่า โซรอสไม่ได้มีความรู้มากมายเกี่ยวกับจีนเลย เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงหรือบรรดาผู้มีอิทธิพลทางการเงินแล้ว หมอนี่มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านเศรษฐกิจของจีนน้อยมาก (ฮี่ๆ)
แต่โซรอสก็พูดราวกับว่าตนเองทักษยุทธในเศรษฐกิจของจีน (ซะงั้น) สื่อฯตะวันตกกำลังเป็นกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสถานการณ์ฮาร์ดแลนดิ้ง ในขณะที่โซรอสเชื่อว่า ฮาร์ดแลนดิ้งกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ - "ผมไม่ได้คาดหวังอะไร ผมกำลังสังเกตการณ์" ตามที่โซรอสกล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก [จริงเหรอโซรอส? ถ้าไม่คาดหวังแล้วคุณจะไปปั่นหุ้นจีนให้วุ่นวายทำไม? - ผู้แปล]
แวดวงทางการเงิน และแวดวงนักวิชาการได้มีความเข้าใจที่แตกต่างกันเกี่ยวกับว่า อะไรคือ "ฮาร์ดแลนดิ้ง" (hard landing) ในมุมมองของสาธารณชนทั่วไป มันคือวิกฤตทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (major economic crisis) ในขณะที่เหล่านักเศรษฐศาสตร์ได้ให้คำนิยามมันว่าเป็นการใช้ข้อมูลเชิงปริมาณ (by using quantitative data)
เศรษฐกิจจีนไม่ควรที่จะถูกมองว่ากำลังมีอาการฮาร์ดแลนดิ้ง แม้จะอยู่ภายใต้ศัพท์แสงทางการเงิน (financial terminology) ก็ตาม GDP ของจีนได้บันทึกอัตราการเติบโตอยู่ที่ 6.9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558 โดยต่ำกว่าปีก่อนหน้านั้นเพียง 0.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไม่มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีนในปี 2559 จะตกลงไปทั้งจุดเปอร์เซ็นต์เต็มจุดเลย (percentage point) มีแต่จะเลื่อนเข้าสู่ยุคที่จะมีการเติบโตที่ 5 เปอร์เซ็นต์ (เท่านั้น)
มีความเป็นไปได้สองประการด้วยกัน ประการแรก โซรอสแก่เกินไป (Soros is too old) [ฮี่ๆ ชอบอ่ะ Oopz! - ผู้แปล] บวกกับหมอนี่ไม่ได้เข้าใจประเทศจีนดีพอที่จะรู้ว่า ประเทศนี้กำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ "ความปรกติรอบใหม่" (new normal) ซึ่งกำหนดคุณลักษณะโดยโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการเฉือนกำลังผลิตส่วนเกินออกไป (slashing overcapacity)
[เห็นความละเอียดละออหรือเทคนิคในการใช้คำพูดของสื่อฯจีนไหมครับ เขาเลือกใช้คำว่า "new normal" ซึ่งเป็นการสะกัดการตีความไปว่าที่ผ่านมา "ไม่ปรกติ" นะสิ แต่เขาพยายามที่จะบอกว่า ที่ผ่านมานั้นเศรษฐกิจจีนก็ปรกติ แต่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ "ความปรกติรอบใหม่ (/ระดับใหม่)" ซู๊ดดดดดยอด - ผู้แปล]
หมอนั่นยังยึด GDP เป็นเครื่องวัดหลักทั้งหมด และคิดว่าการเติบโตของ GPD ที่ต่ำลดลงนั้นจะหมายถึงการล้มละลาย เขาอาจจะเพียงแค่กำลังมองหาไฟแก๊ซของสื่อฯด้วยคำพูดที่น่าตกใจ (shocking words)
ในอีกสถานการณ์หนึ่ง โซรอสอาจจะวางแผนที่จะทำชอร์ดเซล (/ขายชอร์ต) เงินหยวนของจีน เขาพยายามที่จะสร้างความกังวลให้เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจจีนที่ Davos
ศักยภาพของเขาต่ำเกินไปที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับจีนได้ เพื่อที่จะทำเงินจากการขายชอร์ตในจีนนั้น โซรอสจะต้องสร้างอาการ "กระต่ายตื่นตูม" (stampede) ให้กับเงินหยวนด้วยการลวงให้ประชาชนฉงนซะก่อน (bamboozling the public)
แต่โซรอสอาจจะกระทำความผิดซ้ำรอยชาวตะวันตกหลายคนที่ได้กระทำมาแล้ว - โดยประเมินจีนด้วยมาตรฐานตะวันตก พวกเขาแทบจะไม่เข้าใจความยิ่งใหญ่ของสังคมจีนและผลกระทบขนาดใหญ่ในระบบการเมืองของจีนกับอัตตลักษณ์ของจีนในเรื่องเศรษฐกิจเลยด้วยซ้ำ
คนจีนต่างก็ตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่าประเทศกำลังมีการปรับตัวเอง พวกเรามีความยุ่งยากอยู่หลายอย่างที่จะต้องแก้ไข แต่ก็เป็นการด่วนเกินไปที่จะกล่าวว่า เศรษฐกิจระดับประเทศของพวกเรากำลังหลุดลอยไปจากการควบคุม ด้วยเศรษฐกิจที่ซับซ้อนอย่างลึกซึ้งและศักยภาพการเมืองของจีน ประชาชนต่างก็มั่นใจในวิถีในอนาคตของประเทศ
เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากแนวโน้มของโลก แต่พวกเราก็สามารถที่จะบอกได้ว่าได้กำไรมากกว่า
แนวโน้มของการใช้จ่ายจะดีขึ้นปีต่อปี และภาคบริการก็กำลังโอบกอดยุคทอง จีนแสวงหาความเจริญรุ่งรุ่งเรืองร่วมกัน จะไม่สิ้นสุดอยู่ที่ "ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่" (Great Depression) แน่นอน
วันที่ 27 ม.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนว่า "จีนใกล้จะล้มละลายอย่างนั้นหรือ? อย่าได้พนันในเรื่องนี้เด็ดขาด!" (China's Impending Collapse? Don't Bet on It!)
การชะลอตัว (ทางเศรษฐกิจ) ของจีนได้ก่อให้เกิดคลื่นต่างๆทั่วโลก โดยมีหลายคนแนะนำว่าการล่มสลายทางเศรษฐกิจกำลังใกล้เข้ามาแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น และในความเป็นจริงแล้วนั้น "การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนมีลักษณะที่สมเหตุสมผลอย่างทั่วถึง และเป็นผลดีด้วย" Milton Ezratisenior นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันและนักยุทธศาสตร์ด้านการตลาดเขียนในนิตยสาร The National Interest ของสหรัฐฯ
[สาระสำคัญโดยย่อของข่าวนี้ก็ประมาณนี้แหละครับ เศรษฐกิจจีนถดถอยจริง แต่สถานการณ์แบบนี้ตอนนี้เกิดขึ้นกับทุกประเทศทั่วโลก ไม่ได้มีเฉพาะจีนเท่านั้น ส่วนสาเหตุมาจากอะไรนั้น หลายเรื่องด้วยกัน สะสมมาเรื่อย ตั้งแต่วิกฤตหนี้สิ้นของกรีซ ลามมาที่การทำสงครามแซงชั่นทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯร่วมกับพันธมิตรตะวันตกกับรัสเซีย ตามด้วยสงครามในตะวันออกกลาง วิกฤตผู้อพยพในยุโรป การยิงตลาดหุ้นของจีนอยู่เป็นระยะๆ ความกังวลเรื่องขบวนการก่อการร้าย ใครจะร่วมมือกับจีนและรัสเซียในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและอื่นๆ ตัวอิจฉาก็แยกเขี้ยวใส่ หาทางกลั่นแกล้งแสดงฤทธิ์เดชข่มขู่รายวัน แล้วจะให้เศรฐกิจโลกเดินหน้าอย่างหะหรูหะหราได้อย่างไร?
พอนานาชาติปลดล็อกอิหร่านออกจากการแซงชั่น ทุกประเทศมุ่งตรงไปลงทุนและทำการค้าร่วมกันกับอิหร่านเพื่อหาทางทำให้เศรษฐกิจของตนเองดีขึ้น แต่สหรัฐฯกลับเลือกที่จะแซงชั้่นรอบใหม่กับอิหร่านอีก และพยายามกดดันให้ประเทศอื่นร่วมมือกับตนเองด้วย ในขณะที่จีนเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนทั่วโลก สหรัฐฯก็ส่งตาเฒ่าโซรอสไป short sell เงินหยวนของจีนซะงั้น นี่… ก็เป็นซะแบบนี้อ่ะ แต่สุดท้ายจีนก็บอกว่า มันไม่ได้หนักหนาขนาดนั้น การสร้างความกังวลเหล่านั้นก็เพื่อปั่นหุ้นจีนให้ร่วงหนักลงกว่าเดิมเท่านั้นอง นกฟีนิกซ์กำลังจะฟื้นคืนชีพ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
29/01/2559
----------
Soros misses the big picture of China - Global Times
China's Impending Collapse? Don't Bet on It!

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข่าวบันเทิง: สหรัฐฯเริ่มปอดฯกลัวเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยไกลถล่มแผ่นดินใหญ่, เสรีภาพของสื่อฯ: นักการเมืองสหรัฐฯเสนอให้แบนสื่อฯรัสเซีย ฮิ้ววววว



-------------
หลังจากที่จบข่าวเศรษฐกิจไปสองโพสต์แล้ว ก็น่าจะได้เป็นเวลาของข่าวบันเทิงสไตล์คุณอายกันบ้างนะครับ ก็หนีไม่พ้นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศอีกนั่นแหละ เรื่องแรกระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ เรื่องที่สองระหว่างสหรัฐฯ (อีกแหละ) กับรัสเซีย
1.) วันที่ 29 ม.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "การทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือก็เพื่อแสดงศักยภาพในการกำหนดเป้าหมายมาที่แผ่นดินแม่ของสหรัฐฯ - วุฒิสมาชิกของสหรัฐฯกล่าว" (N. Korean Missile Test to Show Ability to Target US Mainland – US Senator)
รายงานข่าวบอกว่า เกาหลีเหนือเตรียมที่จะทำการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกลอีกลูก ท่านวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯกล่าวกับสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียว่า การทดลองดังกล่าวอาจจะหมายถึีงเพื่อแสดงให้สหรัฐฯเห็นว่ากรุงเปียงยางมีศักยภาพในการโจมตีแผ่นดินแม่ของสหรัฐฯก็ได้
[อูยส์ เริ่มปอดอ่ะดิ ก็ไหนก่อนหน้านี้ดูถูกคิมน้อยกันนักหนาไม่ใช่รึ นี่ขนาดคิมน้อยยังไม่ได้ทดลองขีปนาวุธพิสัยไกลเลย ยังดิ้นกันขนาดนี้ ถ้าคิมน้อยทดลองจริงๆแล้วจะเป็นอย่างไรกันบ้างหละนี่ พวกนี้เป็นอะไร? สื่อฯญี่ปุ่นเต้าข่าวขึ้นมา อเมริกาเต้นเป็นผีเข้า ตลก! - ผู้แปล]
เรื่องมีอยู่ว่า... เมื่อวันพุธนี้เอง เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลญี่ปุ่น (ไม่ประสงค์ออกนาม = ผีบอก) ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ภาพถ่ายทางดาวเทียมได้แสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนือกำลังจะทดลองขีปนาวุธบอลลิสติกพิสัยไกล (long-range ballistic missile) ในอีกไม่กี่วันนี้ หน่วยสอดแนมของญี่ปุ่นรายงานว่า มีการเตรียมการที่ได้รับการเปิดเผยในสถานที่ทดลองที่ชื่อว่า Tongchang-ri ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
หากเป็นความจริง นี่อาจจะเป็นการทดลองของเกาหลีเหนือที่มีขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2012 ก็ได้ และอาจจะส่งผลให้มีการแซงชั่นจากสหประชาชาติรอบใหม่ด้วย
แต่ดูเหมือนว่าการกีดกันด้านการเงินแทบจะป้องกันกรุงเปียงยางจากการฝักใฝ่ในเทคโนโลยีขีปนาวุธบอลลิสติกไม่ได้เลย นักการเมืองกล่าว วุฒิสมาชิก Cory Gardner ของสหรัฐฯกล่าวกับ Sputnik news ว่าการทดลองดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือมีศักยภาพในการยิงขีปนาวุธข้ามมหาสุทรแปซิฟิกได้ [ปรบมือให้คิมน้อยหน่อยครับ คริๆ - ผู้แปล]
"ในขณะที่ [พล.ร.อ. William Gortney ผู้บัญชาการกองเรือภาคเหนือของสหรัฐฯ] ได้กล่าวว่า [เกาหลีเหนือ] มีศักยภาพที่จะลดขนาด (หัวรบของขีปนาวุธ) ลง และมีความสามารถที่จะยิงไปถึงแผ่นดินแม่ของสหรัฐฯได้ เกาหลีเหนือยังไม่ได้ทดลองในระดับที่จะผ่านการพิสูจน์ได้ พวกเราคาดว่าเกาหลีเหนือจะเดินหน้าทำการทดลองเช่นนั้น"
[แปลว่า สหรัฐฯเชื่อว่า เกาหลีเหนือมีศักยภาพที่จะยิงขีปนาวุธพิสัยไกลไปถึงแผ่นดินแม่ของสหรัฐฯได้จริงๆ แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมายืนยันได้ - ผู้แปล]
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า กรุงวอชิงตันรู้สึกเป็นกังวลใจกับการปล่อย (ดาวเทียม) ขึ้นสู่อวกาศในอนาคตด้วย ในปี 2012 เกาหลีเหนือได้ปล่อยวัตถุเข้าสู่วงโคจรรอบโลก และสหรัฐฯก็แสดงความกังวลใจ (/ปอด) ว่า อาจจะมีการดำเนินโครงการดังกล่าวในไม่กี่สัปดาห์นี้
[ตอนนี้นะ ไม่ว่าคิมน้อยจะทำอะไร จะพัฒนาอะไร ทำเนียบขาวหวาดระแวงไปหมด เป็นอะไรครับท่านโอบาม่า? คิมน้อยห้ามผายลมเสียงดังเด็ดขาด เดี๋ยวทำเนียบขาวและกลาโหมจะตกใจ - ผู้แปล]
"แม้ว่าความกังวลใจของพวกเราคือสิ่งที่พวกเขาจะทำ space-launch (การปล่อยจรวด/ดาวเทียม/วัตถุขึ้นสู่อวกาศ) ก็ตาม แต่จริงแล้วมันเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่พัฒนา ICBMs (intercontinental ballistic missiles = ขีปนาวุธข้ามทวีป)" เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯกล่าวโดยไม่ประสงค์ออกนาม
รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันพฤหัสบดีนี้ นาย John Tefft เอกอัครราชทูตของสหรัฐฯประจำรัสเซียกล่าวว่ากรุงวอชิงตันคาดหวังถึงความร่วมมือระดับนานาชาติในการแก้ไขปัญหานี้
"ผมก็แค่ต้องการที่จะพูดถึงเรื่องหนึ่งในนโยบายต่างประเทศที่พวกเราพูดถึงกัน และพวกเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการดำเนินการประสานงานกัน ไม่ใช่เฉพาะรัสเซีย แต่กับจีนด้วย และนั่นก็คือการจัดการกับเกาหลีเหนือและการระเบิดของนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดนี้" John Tefft กล่าว
[อูยยยยส์ ก็คุณพี่เก่งไม่ใช่รึ? ทำไมถึงมาขอให้รัสเซียกับจีนช่วยจัดการกับปัญหาที่คุณพี่สร้างขึ้นมาเองกับเกาหลีเหนือซะหละ รัสเซียและจีนที่อยู่ติดกับเกาหลีเหนือเขาไม่เห็นจะเดือดร้อนเลยนี่ แต่ทำไมสหรัฐฯที่อยู่ตั้งไกลถึงได้หวาดกลัวได้หละครับ ไปทำกับเขาไว้เยอะก็เป็นอย่างนี้แหละ - ผู้แปล]
2.) คราวนี้มาดูอีกข่าวหนึ่งเกี่ยวกับโรค Russonbhobia ที่กำลังระบาดอยู่ในสภาคองเกรสและทำเนียบขาวกันบ้างนะครับ วันที่ 28 ม.ค.59 Spunik news พาดหัวข่าวว่า "คำสั่งให้ปิดปาก? อดีตประธานองค์กร Freedom House กำลังแสวงหาสงครามครูเสดต่อต้านสื่อฯรัสเซีย" (Gag Order? Former Head of Freedom House Seeks Crusade Against Russian Media)
นาย David Kramer ผอ.อาวุโสแห่งสถาบัน McCain Institute และอดีตประธานองค์กรทำเนียบเสรีภาพ (Freedom House) ได้เรียกร้องให้มีการออกมาตรการที่ก้าวร้าว (aggressive measures) เพิ่มมากขึ้นโดยมุ่งเป้าไปที่การสร้างภาพในแง่ลบให้กับสถานีโทรทัศน์สื่อฯของรัสเซียเช่น RT และ Sputnik [ว้าวววว! ส่งเสริมเสรีภาพกันเจงๆ ลวกเพ่! - ผู้แปล]
ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Veidas รายสัปดาห์ของประเทศลิธัวเนีย นาย David Kramer ได้เสนอให้มีการติดตามทรัพย์สินของบริษัทต่างๆที่เป็นสื่อฯของรัฐของรัสเซีย หรือสั่งแบนสื่อฯเหล่านั้นออกไปเลยก็ได้ ไม่ใช่เนื่องจากลักษณะการออกอากาศของสื่อฯเหล่านั้น แต่เพียงเพราะว่า สื่อฯรัสเซียเหล่านั้นได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย
[และพูดความจริง บอกเล่าเรื่องรายที่ไม่มีการบอกเล่าด้วย ความจริงอีกแง่หนึ่งที่ตรงไปตรงมาไม่สามารถหาได้จากสื่อฯกระแสหลักของสหรัฐฯและตะวันตก อ่ะนี่พูดจริงนะครับ จากประสบการณ์ที่แปลข่าวจากสื่อฯรัสเซียให้อ่านกันทุกวันอยู่นี่ ฮ่าๆๆ - ผู้แปล]
ส่วนอีกยุทธศาสตร์หนึ่งที่ก้าวร้าวลงมาบ้างซึ่งเสนอโดย นาย David Kramer นั้นก็คือการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนทางการเงินให้กับองค์กรสื่อฯที่ออกอากาศในรัสเซียและในยุโรปตะวันออก
[ทำยังกับว่าสหรัฐฯและอียูไม่ใช้เงินกับสื่อฯต่างๆทั่วโลกอย่างนั้นแหละ รัฐบาลสหรัฐฯนั่นแหละตัวดี RT ปอกเปลือกมาแล้วด้วย - ผู้แปล]
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นาย Kramer ยังได้กล่าวหาว่ารัสเซียรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ (full-scale) และว่ามีการส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียเพื่อต่อสู้กลุ่มฝ่ายค้านแทนที่จะเป็นกลุ่มดาอิชด้วย
[เอ่อ… ที่ประกาศเช้า-เย็นทั้งก่อนและหลังอาหารว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองและกดดันให้พันธมิตรส่งเข้าไปด้วยนั้นก็คือเจ้ากระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ไม่ใช่หรือครับคุณ Kramer คุณอย่าสองมาตรฐานสิครับ อย่าพูดความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียวสิ มันทำให้ประชาชนชาวอเมริกาไม่ฉลาดขึ้นเลยนะครับ รัสเซียก็ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย ยกเว้นหน่วยรบพิเศษที่ทำหน้าที่ฝึกซ้อมการใช้อาวุธและอุปกรณ์ต่างๆให้กับกองทัพซีเรีย และเพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สำคัญเช่นฐานทัพอากาศของรัสเซียเท่านั้น - ผู้แปล]
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า การให้บริการด้านการสื่อของ Sputnik ได้ชี้ให้เห็นว่า มาตรการที่เสนอโดยนาย Kramer นั้นได้ละเมิดหลักการที่สำคัญของยุโรปถึงสองประการ: เสรีภาพในการพูด และเสรีภาพของสื่อฯ เรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้ชายคนหนึ่งที่เคยเป็นถึงประธานขององค์กรทำเนียบเสรีภาพ (Freedom House ของสหรัฐฯ) ซึ่งเป็นปากเป็นเสียงให้กับแนวความคิดเหล่านี้ เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ในนามขององค์การที่ควรจะอุทิศให้กับการส่งเสริมหลักการต่างๆเกี่ยวกับเสรีภาพและประชาธิปไตยในโลกนี้
Sputnik เป็นองค์กรสื่อฯสากลที่ออกอากาศเป็นภาษาต่างประเทศถึง 30 กว่าภาษา และดำเนินการอย่างเคร่งครัดให้สอดคล้องกับกฎหมายที่ควบคุมกิจกรรมของสื่อฯ สื่อฯรัสเซียกล่าว
[เป็นอีกเรื่องหนึ่งเรื่องตลกรับประทานของนักการเมืองสหรัฐฯ ที่ฉากหน้าอ้างว่าส่งเสริมเสรีภาพของสื่อฯ แต่พอถูกสื่อฯรัสเซียแฉหนักเข้ากลับรับไม่ได้ คุณพี่ก็เลยหันไปใช้เสรีภาพของตนเองสั่งให้ประเทศอื่นๆปิดปากสื่อฯของรัสเซียซะเลย คำถามก็มีอยู่ว่า แล้วทำไมสหรัฐฯถึงไม่ทำซะเองหละครับ ไปยืมมือคนอื่นทำไม?
ง่ายๆ พวกนี้ถนัดเรื่องเสี้ยมให้ชาวบ้านเขาขัดแย้งกัน ถ้ารัฐบาลสหรัฐฯสั่งแบนสื่อฯรัสเซียเอง เสียงประนามจากทั่วโลกก็จะพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลสหรัฐฯ แต่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว ขอยืมดาบฆ่าคนซะหน่อย จึงยุให้ลิธัวเนียหนึ่งในกลุ่มประเทศบอลติกยุโรปตะวันออกเพื่อนบ้านของรัสเซีย แบนสื่อฯรัสเซีย เพื่อให้รัสเซียหันไปฉะกับลิธัวเนีย ตาอยู่ก็นั่งชมกิ้งหลีดกัดกัน กลยุทธยุให้รำตำให้รั่วนี่ไม่มีใครเกินสหรัฐฯหละสมัยนี้]
อ้อ… มีอีกข่าวหนึ่งที่น่าสนใจ วันที่ 21 ม.ค.59 Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (ของสหรัฐฯ) อ้างอิง Sputnik เป็นหนึ่งในสื่อฯชั้นนำในฐานะแหล่งข่าวที่มีประโยชน์" (Harvard Research Center Cites Sputnik Among Top Media as Useful News Source)
รายงานข่าวบอกว่าหน่วยงานย่อยของมหาวิทยาลัย Harvard ได้อ้างถึงสำนักข่าวสากล Sputnik ว่าเป็นแหล่งของบทความต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ ประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ควบคู่ไปกับสื่อฯช้ำนำทั่วโลก
สำนัก Belfer Center for Science and International Affairs แห่งมหาวิทยาลัย Harvard ได้เผยแพร่บทความที่ชื่อว่าว่า "ปริทัศน์รัสเซีย: แหล่งรวมข่าวที่มีประโยชน์จากความคิดริเริ่มของสหรัฐฯ-รัสเซียไปจนถึงการป้องกันขบวนการก่อการร้ายด้วยนิวเคลียร์" (Russia in Review: a digest of useful news from U.S.-Russia Initiative to Prevent Nuclear Terrorism for January 4-15, 2016)
รายงานข่าวบอกว่าในบทความดังกล่าว สำนักข่าว Sputnik ได้รับการพูดถึงระหว่างสื่อต่างประเทศอื่นๆ เล่น The Associated Press, Bloomberg, Reuters, The New York Times, The Wall Street Journal และอื่นๆด้วย
[เป็นเพราะอย่างนี้หรือเปล่า นักการเมืองของสหรัฐฯจึงเสี้ยมให้บางประเทศแบนสื่อฯรัสเซีย? เสรีภาพแต่เปลือกจริงๆนะครับคุณโอบาม่า - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
29/01/2559
----------
N. Korean Missile Test to Show Ability to Target US Mainland – US Senator
Gag Order? Former Head of Freedom House Seeks Crusade Against Russian Media
Harvard Research Center Cites Sputnik Among Top Media as Useful News Source
Russia in Review - Harvard - Belfer Center for Science and International Affairs

 

ปอกเปลือก ทรราช
Time to Change! เพียงแค่ก้าวแรกที่พญามังกรย่างเข้าไปใน IMF ก็ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งองค์กรได้ ชัยชนะครั้งแรกของจีนและพันธมิตรในการกดดันให้สหรัฐฯยอมคลายอำนาจและยอมปฏิรูป IMF



-------------
วันที่ 27 ม.ค.59 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund) หรือเรียกชื่อย่อที่ทราบกันทั่วไปว่า "IMF" ได้ประกาศแถลงการณ์ของการปฏิรูปองค์กร (Press Release No. 16/25 ) ครั้งใหม่ว่า "การปฏิรูปโควต้าและการกำกับดูแลครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะมีผลบังคับใช้" (Historic Quota and Governance Reforms Become Effective)
และในวันที่ 29 ม.ค.59 เว็บไซต์ของ IMF ก็เผยแพร่ข้อมูลผู้ถือหุ้นใน IMF ครั้งใหม่ภายใต้หัวข้อว่า "โควต้าและอำนาจออกเสียงของสมาชิกไอเอ็มเอฟ และบอร์ดผู้ว่าของไอเอ็มเอฟ" (IMF Members' Quotas and Voting Power, and IMF Board of Governors) ข้อมูลดังกล่าวแสดงรายชื่อประเทศต่างๆที่ถือหุ้นอยู่ใน IMF และสิทธิ์ออกเสียงคิดเป็นเปอร์เซนต์ เพื่อความหลายของมุมมองเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวภายในของ IMF ในครั้งนี้ ขอนำเอาข่าวจากสื่อฯจีนและรัสเซียมานำเสนอให้ผู้อ่านได้รับทราบดังนี้
วันที่ 29 ม.ค.59 เว็บไซต์ Global Times ของจีนพาดหัวข่าวในส่วนของ Business ว่า "สถานะใหม่ของจีนใน IMF ก็เพื่อทำให้เศรษฐกิจโลกมีความหลากหลาย" (China’s new status in IMF to diversify world economy)
[คำถามที่เกิดขึ้นมาทันทีหลังจากที่อ่านพาดหัวข่าวนี้ก็คือ แล้วที่ผ่านมา ไม่มีความหลากหลายหรือไงครับ? แนะนำให้อ่านต่อไปก็จะพบคำตอบว่า "มี" หรือ "ไม่มี" - ผู้แปล]
สื่อฯจีนเกริ่นนำว่า "ระบบการบริหารของ IMF ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อสะท้อานสถานะของจีน - ผู้เชี่ยวชาญ (Li Ruohan) กล่าว" (IMF governing system should be changed to reflect China’s status: expert)
[คำเรียกร้องนี้ไม่ได้ขัดกับนโยบาย "Change" ของท่านบารัค โอบาม่า ในการหาเสียงชิงตำแหน่งปธน.ของสหรัฐฯใช่ไหมครับท่านโอบาม่า? - ผู้แปล]
รายงานข่าวกล่าวว่า จีนได้กลายเป็นประเทศสมาชิกที่ใหญ่เป็นอันดับที่สาม ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อย่างเป็นทางการไปแล้ว การเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวนั้น จะทำให้เกิดความหลากหลายในการกำกับดูแลเศรษฐกิจทั่วโลกได้ และทำให้ประเทศจีนมีปากมีเสียงในการที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนเองได้มากขึ้นกว่าเดิม
"แม้ว่าความท้าทายครั้งใหม่นี้จะยังมีอยู่ข้างหน้า หลังจากที่จีนได้สถานใหม่ใน IMF การดำเนินการดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นว่า จีนมีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก เนื่องจากอิทธิพลของจีนกำลังเติบโต แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะเป็นขาลงก็ตาม" ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
ในแถลงการณ์ที่เปิดเผยเมื่อวันพุธนี้ IMF ได้ประกาศว่า โควต้าของจีนและการปฏิรูปการกำกับดูแลจะมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสบดี และว่า จะเป็นการ "ส่งเสริมปากเสียงและตัวแทนของเศรษฐกิจในกลุ่มมหาอำนาจเกิดใหม่และประเทศที่กำลังพัฒนาในสถาบันให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น" ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
"ดิฉันขอยกย่องสมาชิกของพวกเราที่ได้ให้สัตยาบันในการปฏิรูปครั้งประวัติศาสตร์นี้อย่างแท้จริง" Christine Lagarde กรรมการผู้จัดการของ IMF กล่าว Christine Lagarde ตั้งข้อสังเกตว่า "การมีผู้แทนเพิ่มมากขึ้น การที่ IMF มีความทันสมัยมากขึ้นจะเป็นเครื่องรับประกันว่า สถาบันสามารถที่จะสนองต่อความต้องการของประเทศสมาชิกได้ดีขึ้น"
Lagarde ยังได้แสดงการขอบคุณกับกระบวนการทางเศรษฐกิจของจีนระหว่างการคุยกันทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี Li Keqiang ของจีนเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ด้วย สำนักข่าว Xinhua ของจีนรายงาน
Lagarde ได้แสดงความเชื่อมั่นในการเติบโตที่มั่นคงของเศรษฐกิจจีนผ่านการดำเนินการมาตรการการปฏิรูปทางเศรษฐกิจด้วย
โควต้าหุ้นของจีนใน IMF จะเพิ่มขึ้นจาก 3.996 เปอร์เซ็นต์เป็น 6.394 เปอร์เซ็นต์ หลังการปฏิรูป IMF ในปี 2010 มีผลบังคับใช้ ซึ่งจะทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่สาม ต่อจากสหรัฐฯ (16.74%) และญี่ปุ่น (6.23%) ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ IMF
[ตรวจสอบมาแล้ว จริงอย่างที่สื่อฯจีนรายงาน สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองจากลิ้งค์อ้างอิงในตอนท้ายของบทความนี้ - ผู้แปล]
"เป็นการตอบรับที่โดดเด่นเกี่ยวกับอิทธิพลของจีนและการมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจทั่วโลก" Chen Fengying ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยของจีน (China Institutes of Contemporary International Relations) กล่าวกับสำนักข่าว Global Times
[แหมๆๆ... ได้ทีเอาใหญ่เชียว คุยน้อยๆหน่อยก็ได้ เดี๋ยวเลดี้ขี้อิจฉาแห่งจักรวรรดิเฮเกโมนี่ และสาวกจะไม่พอใจนะครับท่านผู้เชี่ยวชาญ คริๆ - ผู้แปล]
คราวนี้มาดูบทบาทของจีนและพันธมิตรใน IMF บ้างนะครับ...
+ บทบาทในการกำหนดการตัดสินใจ (Decision-making role)
----------
"ก่อนการปฏิรูป จีนได้ปฏิบัติตามนโยบายของกองทุนฯ ไม่ว่านโยบายเหล่านั้นจะยุติธรรมหรือไม่ก็ตาม อย่างไรก็ตามขณะนี้ จีนได้มีการป้องกัน (safeguard) ผลประโยชน์ของตนเองและสิทธิประโยช์ของประชาชนของตนเองได้ดีขึ้น ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้กำหนดการตัดสินใจรายใหญ่" Chen Fengying กล่าว
Chen Fengying กล่าวต่อไปอีกว่า "IMF จะได้เห็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากจีนและประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการปฏิรูปมีผลบังคับใช้ และเจ้าหน้าที่เหล่านั้นก็จะมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจในนโยบายทางเศรษฐกิจที่จะมีผลกระทบ และนั่นคือเรื่องที่สำคัญ"
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจีนเพิ่มการลงทุนใน IMF มากขึ้น แต่การที่จะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่และอย่างยุติธรรมก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากมือทั้งสองข้างของจีนขังคงถูกมัดเอาไว้ในประเด็นต่างๆมากมาย เพราะว่าระบบการบริหารของกองทุน IMF ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย Huang Wei ผู้อำนวยการของสถาบันเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก (Institute of World Economics and Politics) กล่วที่สถาบันสังคมศาสตร์ของจีน (Chinese Academy of Social Sciences)
ระบบการบริหารของ IMF ยังมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูป เพื่อให้มั่นใจว่าเสียงของจีนและกลุ่มประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจกเกิดใหม่ไม่ใช่เพียงแค่ได้ยินเท่านั้น แต่จะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมด้วย และการปฏิรูปต่างๆก็คาดหวังให้มีการเริ่มต้นจากการคัดเลือกประธาน IMF ที่มาจากกลุ่มประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจเกิดใหม่ด้วย แทนที่จะเลือกเฉพาะจากกลุ่มประเทศยุโรปเท่านั้น Huang กล่าว
[กลายเป็นว่า ประเทศที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย และประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายเรียกร้องความเสมอภาค สิทธิความเท่าเทียม และเสรีภาพจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่มักจะอวดอ้างตัวเองต่อชาวโลกว่ามีเสรีภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนด้านความเท่าเทียมกันซะอย่างนั้น เออ… โลกนี้มันช่างตระบัดดีแท้ เสรีภาพและความเท่าเทียมกันแบบสหรัฐฯและตะวันตก ก็คือเสรีภาพที่จะอยู่เหนือผู้อื่น ได้เปรียบ และเอาเปรียบผู้อื่นอย่างนั้นใช่ไหม? อย่าคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเสรีภาพและความเท่าเทียมนะครับ เกี่ยวโดยตรงเลยหละ แนะนำให้อ่านต่อไป แล้วจะพบคำตอบ - ผู้แปล]
+ กองทุนที่มีความหลากหลาย (Diverse fund)
----------
คราวนี้มาดูว่า กลุ่มเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างกลุ่ม BRICS กำลังแทรกตัวเข้าไปกินตับ IMF อย่างไรบ้าง... สื่อฯจีนกล่าวต่อไปอีกว่า ถือว่าเป็นครั้งแรกที่กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่สี่ประเทศ (บราซิล จีน อินเดีย และรัสเซีย) จะก้าวขึ้นมาอยู่ในกลุ่มสมาชิกที่ใหญ่ที่สุด 10 ประเทศของ IMF หลังการปฏิรูป และนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้นกองทุนฯกล่าว
การเพิ่มส่วนแบ่งของกลุ่มประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจเกิดใหม่ ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น (determination) ของ IMF ในการปรับปรุงประชาธิปไตย ความหลากหลาย และความยุติธรรมของตนเอง Huang กล่าว
Huang กล่าวต่อไปอีกว่า การปฏิรูปควรที่จะเปลี่ยนแปลงปรัชญาในการปกครอง (/บริหาร) ทางเศรษฐกิจของกองทุนฯด้วย ซึ่งตามประเพณีนั้นยึดตามคุณค่าของตะวันตก เป็นการดำเนินการที่มีนัยสำคัญและจำเป็นในการเปลี่ยนแปลบริบทของเศรษฐกิจทั่วโลก
สูตรในการกำหนดโควต้าในปัจจุบันนี้เป็นการเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ GDP (ถ่วงไว้ที่ 50 เปอร์เซ็นต์) การเปิดกว้าง (30 เปอร์เซ็นต์) ศักยภาพทางเศรษฐกิจ (15 เปอร์เซ็นต์) และทุนสำรองระหว่างประเทศ (5 เปอร์เซ็นต์)
การปฏิรูปจะยังไม่มีการให้สัตยาบัน จนกว่าสภาคองเกรสของสหรัฐฯจะอนุมัติ - ประเทศที่เป็นเจ้าของอำนาจในการออกเสียงเพียง 16.7 เปอร์เซ็นต์ - ในเดือนธันวาคม 2558
[นี่ไงที่ว่าเรื่องเสรีภาพและความเท่าเทียมแบบสหรัฐฯนั้นเป็นเพียงเรื่องตลก สหรัฐฯถือหุ้นใน IMF มากกว่าประเทศอื่นๆก็จริง แต่เมื่อคิดเป็นร้อยละแล้ว มีเพียง 16.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น กฎระเบียบต่างๆใน IMF สหรัฐฯได้เปรียบกว่าประเทศอื่นๆทั้งหมด เป็นความยุติธรรมที่ก่อให้เกิดคำถามขึ้นมา ถ้าอยากรู้ว่าสหรัฐฯได้เปรียบคนอื่นอย่างไรบ้าง อ่านต่อนะครับ - ผู้แปล]
คราวนี้หันไปดูข่าวจากสื่อฯฝั่งรัสเซียบ้างนะครับ วันที่ 28 ม.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "กลุ่ม BRICS มีปากมีเสียงใน IMF มากขึ้น" (BRICS gets greater say in IMF)
[RT ก็เกริ่นนำว่า BRICS กำลังเข้าไปมีบทบาทใน IMF ที่กุมบังเหียนโดยสหรัฐและตะวันตกมายาวนานตามที่สื่อฯจีนรายงานนั่นแหละ ดังนันจึงไม่ขอพูดซ้ำ มาดูข้อมูลต่อไปนี้เพิ่มเติมดีกว่านะครับ - ผู้แปล]
"การบังคับให้มีการปฏิรูปอย่างทั่วถึงเหล่านี้จะเป็นการส่งเสริมความน่าเชื่อถือ (credibility) ความมีประสิทธิภาพ (effectiveness) และความชอบธรรม (legitimacy) ของ IMF" แถลงการณ์ของ IMF กล่าว
ในแถลงการณ์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "การปฏิรูปได้แสดงให้เห็นถึงก้าวที่สำคัญต่อการสะท้อนที่ดีขึ้นในโครงสร้างการกำกับดูแลของสถาบันฯ ซึ่งได้เพิ่มบทบาทของตลาดเกิดใหม่แบบไดนามิกและกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาให้มากขึ้น"
รายงานข่าวจาก RT news บอกว่า การปฏิรูปของ IMF ในปี 2010 ได้เรียกร้องให้เพิ่มส่วนแบ่งในการออกเสียง (voting share) ของจีนจาก 3.8 เปอร์เซ็นต์เป็น 6 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สหรัฐฯอาจจะพบว่าส่วนแบ่งของตนเองถูกหั่นลงจาก 16.7% เป็น 16.5% และยังคงสงวนสิทธิ์ในการวีโต้ (คัดค้าน) ได้
การปฏิรูปดังหล่าวเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของปธน.โอบาม่าในการยังคงทำให้จีนแฮปปี้ และยังอยู่ในระบบของ Bretton Woods แต่ต้อนให้สภาคองเกรสจนตรอกเนื่องจากความกังวลของพรรครีพับลิกัน
สหรัฐฯเป็นสมาชิกที่ใหญ่ที่สุดของ IMF และเป็นเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ Veto ได้่ เนื่องจาก 15 เปอร์เซ็นต์เป็นส่วนแบ่งที่มีการบล็อกเอาไว้
แม้ว่าจะได้โควต้าเพิ่มขึ้น (แต่) กลุ่มประเทศสมาชิกของ BRICS ก็ยังมีส่วนแบ่งในการออกเสียงเพียงแค่ 14.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยังไม่เพียงพอสำหรับ (สิทธิ์ในการทำ) วีโต้
Sergey Storchak รองรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของรัสเซีย และผู้อำนวยการธนาคาร BRICS ฝ่ายรัสเซียกล่าวว่า กรุงมอสโคว์จะทำงานเพื่อให้ได้สิทธิ์วีโต้สำหรับกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเกิดใหม่ห้าประเทศให้ได้
[เห็นการเดินหมากของจีนและพันธมิตรหรือยังครับ? ก่อนหน้านี้สหรัฐฯและตะวันตกส่งนักวิชาการออกมาวิพากวิจารณ์กรณีที่เงินหยวนของจีนจะได้รับการรับรองในระบบตะกร้าเงินของ IMF ว่าจีนกำลังถูกพวกตะวันตกหลอกให้เข้าไปถูกเชือดในองค์กร IMF อย่าเข้าไปเลย ไม่ดีหรอก อยู่ข้างนอกแบบเดิมนั้นแหละดีแล้ว
พอจีนเหยียบเท้าข้างดียวเข้าไปในองค์กร IMF เท่านั้นแหละ กระเพื่อมกันทั้งองค์กรเลย รายละเอียดเรื่องการปฏิรูปภายในของ IMF นั้นมีเยอะมาก สามารถเข้าศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของ IMF โดยตรง แต่ที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ ส่วนแบ่งอิทธิพลของสหรัฐฯและตะวันตกกลุ่มมหาอำนาจเก่าใน IMF ลดลง ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสือรึ?
นั่นเป็นเพียงก้าวแรกของจีนเท่านั้น หลังจากที่จีนมีฐานะที่มั่นคงในตำแหน่งใน IMF แล้วก้าวต่อไปก็คือผลักดันพันธมิตรของตนเองให้มีอำนาจในการกำหนดนโยบายและการบริหารของ IMF ให้เพิ่มมากขึ้น และถ่วงดุลสหรัฐฯให้มากขึ้นด้วย มีที่ไหนหละ สหรัฐฯมีสิทธิ์คัดค้านได้เพียงผู้เดียว ประชาธิปไตยและเสรีภาพบ้าๆแบบนี้ก็มีในโลกด้วย
ในขณะที่จีนและพันธมิตรกำลังแทรกตัวเข้าไปมีบทบาทในเขตอิทธิพลของสหรัฐฯและตะวันตกมากขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มจีนและรัสเซียก็พัฒนาระบบใหม่ของตนเองขึ้นมารันควบคู่ไปกับระบบเก่าที่ควบคุมโดยสหรัฐฯพร้อมกันด้วย สหรัฐฯไม่มีส่วนแบ่งใน BRICS และ AIIB อียูบางประเทศไม่อยากสูญเสียโอกาสก็เข้าร่วมกับ AIIB ของจีนด้วย ตกลงว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายรุก ระหว่างสหรัฐฯกับจีนและพันธมิตร? - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
30/01/2559
----------
China’s new status in IMF to diversify world economy - Global Times
https://www.rt.com/business/330438-imf-quota-brics-russia-china/
Getting Greater Say: Russia Makes It Into Top 10 IMF Member States
http://www.imf.org/external/np/sec/pr/2016/pr1625a.htm
IMF Members' Quotas and Voting Power, and IMF Board of Governors
http://www.imf.org/external/pubs/ft/survey/so/2016/pol012716b.htm
Factsheet -- IMF Quotas

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียเรียกร้องให้สหรัฐฯชี้แจงกรณีกล่าวหาว่าปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซียคอร์รัปชั่น เอาหลักฐานมา อย่าสักแต่ผายลมใส่คนอื่นไปวันๆเท่านั้น!



-------------
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ BBC กระบอกเสียงของรัฐบาลอังกฤษ (และสหรัฐฯ) นำเสนอบทสัมภาษณ์ของนาย Adam Szubin ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการด้านข่าวกรองขบวนการก่อการร้ายแล้วด้านการเงินจากกระทรวงการคลังของสหรัฐฯในรายการ BBC Panorama ว่าประธานาธิบดีปูตินคอรัปชั่น โดยเว็บไซต์ของ BBC พาดหัวข่าวว่า "ปูตินคอร์รัปชั่น ก.คลังของสหรัฐฯกล่าว" ('Putin is corrupt' says US Treasury)
ส่วนน้าหนวด Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบเครมลินออกมาโต้กลับทันทีว่า คำพูดของ Adam Szubin เป็น "การแต่งนิยายขึ้นมาล้วนๆ" (Adam Szubin) ต่อมาวันที่ 26 ม.ค.59 หลังจากที่ถูกกรุงมอสโคว์จวกกลับไป BBC ก็พาดหัวข่าวว่า "รัสเซีย รายการพาโนรามาของบีบีซี: ทำเนียบเครมลินเรียกร้องให้มีการพิสูจน์การคอรัปชั่นของปูติน" (Russia BBC Panorama: Kremlin demands 'Putin corruption' proof)
[อย่าเข้าใจผิดว่ารัฐบาลรัสเซียเรียกร้องให้มีการพิสูจน์หรือตรวจสอบปูตินนะครับ บีบีซีพาดหัวกวนบาทาอย่างนี้เอง จริงๆแล้วหมายถึงรัสเซียเรียกร้องให้ BBC ตัวดีนั่นแหละพิสูจน์ด้วยการเอาหลักฐานตามที่มีการกล่าวหาปูตินออกมาชี้แจง มิฉะนั้นก็เท่ากับปากพล่อยกล่าวหาผู้อื่นโดยเลื่อนลอย ซึ่งก็เป็นงานถนัดของสื่อฯตะวันตกอยู่แล้ว ใช่ไหมครับบีบีซี? - ผู้แปล]
คราวนี้มาดูรายละเอียดจากสื่อฯฝั่งรัสเซียที่จวก BBC และนักการเมืองของสหรัฐฯกลับบ้างนะครับ วันที่ 26 ม.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "นิยายล้วนๆ: ทำเนียบเครมลินแสดงความคิดเห็นกรณีการตรวจสอบของ BBC เกี่ยวกับเงินของปูติน" (‘Pure fiction’: Kremlin comments on BBC’s probe about ‘Putin’s money’)
ทำเนียบเครมลินได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าประธานาธิบดีของรัสเซีย "คอร์รัปชั่น" และ "อำพราง" ความร่ำรวยที่แท้จริงของเขา ว่าเป็น "การแต่งนิยายขึ้นมาล้วนๆ" คำกล่าวหาทั้งสองข้อนี้มาจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของสหรัฐฯซึ่งอ้างในรายการสารคดีของ BBC
นาย Adam Szubin ซึ่งถูกเลือกโดย BBC ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบรายได้ของปูตินด้วยตัวเองของสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวได้กล่าวกับ Richard Bilton พิธีกรของ BBC ว่า "คาดว่าเขา (ปูติน) ได้รับเงินเดือนจากรัฐประมาณ $110,000 เหรียญต่อปี นั่นไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกต้องเกี่ยวกับความร่ำรวยของผู้ชายคนนี้ และเขาก็ได้ฝึกฝนและปฏิบัติมาเป็นเวลานานในแง่ของการอำพรางความร่ำรวยที่แท้จริงของเขา"
[โอบาม่าได้รับเงินเดือนจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯปีละ $400,000 รวมค่าอื่นๆอย่างเป็นทางการด้วย ก็ตกปีละ $519,979 เหรียญ ข้อมูลจากวิกิพีเดีย - ผู้แปล]
เมื่อ Richard Bilton ถามว่า "ปูตินคอรัปชั่นหรือไม่?" Szubin กล่าวตอบว่า "ในมุมมองของผมคือ ใช่" (In our view, yes)
[Szubin มีหลักฐานยืนยันคำพูดของตัวเองหรือไม่ในการให้สัมภาษณ์กับ BBC ที่ออกไปทั่วโลกแบบนั้น No! คำพูดของเขามีน้ำหนักอะไรน่าเชื่อถือได้บ้าง? อ่านต่อนะครับ - ผู้แปล]
นาย Szubin กล่าวต่ออีกว่า รัฐบาลสหรัฐฯรู้มาเป็นเวลา "หลายปีมากๆ" ว่า ปูติน "ทำให้เพื่อนๆของเขาร่ำรวย พวกพันธมิตรที่สนิทของเขา และแยกบรรดาผู้ที่เขาไม่มองในฐานะเพื่อนให้ใช้สินทรัพย์ของรัฐบาลออกไป ไม่ว่าจะเป็นความมั่งคั่งด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญาระหว่างรัฐกับประเทศอื่น เขาจะนำบุคคลเหล่านั้นไปหาผู้ที่เขาเชื่อว่าจะบริการเขา และตัดพวกที่ไม่บริการออกไป สำหรับผมแล้ว นั่นคือภาพของการคอร์รัปชั่น" โดยการหลีกเลี่ยงรายละเอียดใดๆที่จะใช้สนับสนุนคำพูดของเขา
ล่าสุดน้าหนวด Peskov โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียออกมากล่าวว่า "พวกเราได้พิจารณาเกี่ยวกับแถลงการณ์ต่างๆจากเพื่อนของพวกเราในทำเนียบขาวแล้วว่า ทั้งสองเรื่องจากมุมมองของหลักการปฏิบัติทั่วไปในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ พวกเราพิจารณาแถลงการณ์เหล่านี้ว่าเป็นเรื่องที่อุกอาจะและเป็นการดูถูก"
[เท่าที่อ่านมานี่ มีอะไรที่สามารถบ่งบอกได้เป็นชิ้นเป็นอันว่า ปูตินคอร์รัปชั่น บ้างหรือไม่? ไม่มีเลย การคอร์รัปชั่นในสายตาของนาย Szubin ก็คือผู้นำประเทศของประเทศหนึ่งมีเพื่อนฝูงที่ร่ำรวย การที่เพื่อนๆหรือคนที่รู้จักกับผู้นำบางประเทศมีความร่วมรวยขึ้นมา เป็นความผิดของผู้นำคนนั้นอย่างนั้นหรือ? ในฐานะผู้นำประเทศหากจะไปติดต่อธุรกิจต่างๆกับต่างประเทศ จะเชิญฝ่ายอริศัตรูหรือฝ่ายที่เป็นมิตรกันไปด้วย?
แม้กระทั่งคนที่ไม่เคยมีความคุ้นเคยกันมาก่อน หากคบกันแล้วไม่ขัดผลประโยชน์กันเอง ก็ย่อมจะเกิดความสนิทสนมและกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุดจนได้ ผิดตรงไหน? หรือว่าผู้นำของประเทศสหรัฐฯไม่กระทำในลักษณะที่ว่ามานี้เลย? หากพบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้เพื่อนฝูงอย่างไม่เป็นธรรม อันนั้นก็ต้องว่ากันตามกระบวนการทางกฎหมายของแต่ละประเทศ มีนักการเมืองคนไหนบ้างที่ไม่เอื้อประโยชน์ในกลุ่มของตนเอง?
สรุป การคอร์รัปชั่นในความหมายของนาย Szubin ก็คือการทำให้เพื่อนๆร่ำรวย ถ้าปูตินบอกว่าประชาชนทั้งประเทศเป็นเพื่อนของเขาโดยไม่ผิดกฎหมาย และเขาก็ทำให้จะทำให้ประชาชนทั้งประเทศร่ำรวย ก็อาจจะถูกมองว่าปูตินคอร์รัปชั่นอีกอย่างนั้นสิ - ผู้แปล]
[แล้วถ้าสหรัฐฯไม่ยอมอธิบายหละ จะเกิดอะไรขึ้น? ไม่ต้องจะหละครับ เกิดขึ้นแล้วครับ วันที่ 29 ม.ค.59 RT news รายงานข่าวว่า รัสเซียส่งเครื่องบินรบ Su-27 เข้าสะกัดกั้นเครื่องบินลาดตระเวนสอดแนม U.S. RC-135U ของสหรัฐฯเหนือน่านฟ้าทะเลดำ ซึ่งสหรัฐฯก็ออกมาโวยวายว่า เครื่องบินรบของรัสเซียปฏิบัติในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพต่อเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯที่อยู่ในน่านฟ้าสากลในทะเลดำ เพียงแค่เฉียดเข้าใกล้น่านฟ้าของรัสเซียเท่านั้นเอง แต่ยังไม่เป็นการละเมิดน่านฟ้าเลย
ก่อนหน้านี้ นาโต้นำโดยสหรัฐฯมักจะออกมาโวยวายว่า เครื่องบินของรัสเซียเข้าใกล้อาณาเขตของพวกตนเอง จึงได้ส่งฝูงบินรบขึ้นสะกัดเอาไว้ก่อน แต่รัสเซียก็ไม่ได้ทำการละเมิดน่านฟ้าของนาโต้เลย คราวนี้พอรัสเซียส่ง Su-27 ขึ้นสะกัดเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯแบบเดียวกับที่นาโต้เคยทำนั่นแหละ แต่ในระยะน่าจะประชิดมากว่า 20 ฟุต (6 เมตร) ลูกเรือของสหรัฐฯบน U.S. RC-135U อาจจะเยี่ยวปริก็ได้ จึงให้ลูกที่ในกลาโหมออกมาโวยวาย
ส่วนอิหร่าน พันธมิตรของรัสเซียก็ใช่ย่อย มีรายงานข่าวมาว่า อิหร่านส่งโดรนสอดแนมบินเหนือเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S Truman ของสหรัฐฯในอ่าวเปอร์เซีย ในขณะที่กองทัพเรือของอิหร่านกำลังซ้อมรบทางทะเลภายใต้ปฏิบัติการ Velayat-94 สหรัฐฯก็โวยวายอีกตามเคย อ้อ… งานนี้อิหร่านถ่ายคลิปมาอวดด้วยนะครับ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
30/01/2559
----------
https://www.rt.com/news/330114-putin-money-claims-corruption/
'Putin is corrupt' says US Treasury - BBC News
Russia BBC Panorama: Kremlin demands 'Putin corruption' proof - BBC News
'Unacceptable, Offensive': Kremlin Slams White House Rep for Putin Comments
TASS: Russian Politics & Diplomacy - Kremlin waits for explanation from US officials on corruption accusations against Putin
TASS: Russian Politics & Diplomacy - Kremlin calls claim of corruption against Putin "pure speculation and defamation"
https://www.rt.com/usa/330650-russian-us-aricraft-intercept/
Iranian Drone Films Alleged Flight Over US Aircraft Carrier in Persian Gulf
Iran's surveillance drone takes precise photo of US aircraft carrier - Mehr News Agency
https://www.youtube.com/watch?v=Rs-K3BYvcLQ

 

ปอกเปลือก ทรราช
มีเงื่อนงำ... สาเหตุของไข้ซิก้าอาจจะมาจากยุงตัดแต่งพันธุกรรมของอังกฤษก็ได้ - นักวิจารณ์กล่าว



---------------
เอาแล้วไงข้อมูลค่อยๆถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆแล้ว ใครกันแน่คือไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังการแพร่ระบาดของไข้ซิก้า (Zika) ในครั้งนี้ วันที่ 30 ม.ค.59 RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "ยุง GMO อาจจะเป็นสาเหตุของการระบาดไข้ซิก้า นักวิจารณ์กล่าว" (GMO mosquitoes could be cause of Zika outbreak, critics say)
รายงานข่าวบอกว่า เชื้อไวรัสติดต่อครั้งล่าสุทที่กำลังระบาดไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้หญิงได้เกิดความบกพร่องในการตั้งครรภ์ อาจจะมีสาเหตุมาจากการปรากฎตัวของยุงที่มีการตัดแต่งพันธุกรรม (genetically-modified mosquitoes - GMMs) ในประเทศบราซิลก็ได้
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยระดับนานาชาติได้ประชุมในเจนีวา เพื่อหารือการแพร่ระบาดและความเป็นไปได้ในการรักษาไวรัสซิก้า กำลังมีการตั้งคำถามหลายข้อว่า ยุง GMM (/GMO) ควรจะถูกตำหนิหรือไม่? [ใครเพาะพันธุ์ยุง GMO ขึ้นมา? คำตอบอยู่ในย่อหน้าถัดไปครับ - ผู้แปล]
ในกลางปี 2012 บริษัท Oxitec ซึ่งเป็นบริษัทที่ใช้วิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านชีววิทยา (biotech) ของอังกฤษ ได้ปล่อยแมลงยักษ์ออกมา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดประชากรของยุงในระดับกว้างซึ่งเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดไข้เลือดออก (dengue fever), ไวรัสซิก้า และโรคชิคุนกุนยา (chikungunya) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล
ในช่วงเวลานั้น ได้เกิดความกังวลขึ้นมาเกี่ยวกับการปล่อยยุง GMMs โดยปราศจากการศึกษาเพิ่มเติมถึงความเป็นเป็นไปได้ของผลข้างเคียง (side effects)
"มันเป็นวิธีการทดลองจริง ซึ่งยังไม่ได้ประสบผลสำเร็จ และอาจจะก่อให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดีก็ได้" Dr Helen Wallace ผู้อำนวนการของสถาบัน GeneWatch (Council for Responsible Genetics) กล่าวกับสำนักข่าว The Guardian ในปี 2012
มีการรายงานว่าเคสแรกของไข้ซิก้าในมนุษย์ในประเทศอเมริกาใต้เมื่อเดือนพฤษภาคม (ปีที่ผ่านมา) ซึ่งขณะนี้คิดว่ามีประชาชนที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเพิ่มสูงถึง 1.5 ล้านคน การวิพากษ์วิจารณ์ Oxitec ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นพื้นที่เดียวกันกับที่มีการปล่อยยุง GMM
นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด มีเด็กทารกที่เกิดมาพบว่ามีอาการผิดปรกติทางสมอง (microcephaly) ในปรเทศบราซิลแล้วจำนวน 4,000 กว่าราย จำนวนการเพิ่มขึ้นนี้อาจจะมาจากสาเหตุอื่นๆด้วย
ยุงลายสายพันธุ์ย่อยซึ่งสามารถเป็นพาหะของไวรัสซิก้าและไข้เลือดออกเป็นชนิดบริษัท Oxitec กำหนดเป้าหมายให้กับยุง GMM
จุดประสงค์ของโครงการดัดแปลพันธุกรรมยุงของบริษัท Oxitec ก็คือการปล่อยยุงลายตัวผู้เข้าไปในป่า และยุงเหล่านั้นก็จะแพร่ไวรัสไปยังยุงตัวเมียและลูกนที่เกิดตามมา
ลูกยุงเหล่านี้อาจจะตายก่อนที่จะวางไข่เนื่องจาก (ได้มีการเปลี่ยนแปลง) รหัสพันธุกรรมในยีนของยุงเหล่านั้น ตราบเท่าที่ยังไม่มีการเผยแพร่ยาปฏิชีวนะประเภทเททราไซคลีนออกมา ซึ่งจะเข้าไปลบล้างดีเอ็นเอของยุง GMM ฟังดูเหมือนบทในหนังฮอลลิวูด เรื่อง Jurassic Park ปี 1993 เลย
มีอัตราการอยู่รอดถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของยุง GMM เหล่านี้ซึ่งไม่เกี่ยวกับการใช้ยา tetracycline เลย มักจะมีการใช้ยาปฏิชีวนะชนิดนี้เพื่อรักษาสิวของวัยรุ่น ซึ่งสามารถพบได้ในธรรมชาติทั่วไปเป็นจำนวนมาก อยู่ตามผิวดิน ผิวน้ำ และอาหาร ซึ่งงานวิจัยบางชิ้นกล่าว่า อัตราการอยู่รอดของยุง GMM อาจจะมีความเป็นไปได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์
นักวิจารณ์ Oxitec ยังได้เสนอแนะด้วยว่า ในกรณีที่ไม่มีการศึกษาถึงผลกระทบต่อเนื่อง (knock-on effects) ที่อาจจะเป็นไปได้ในยุงกลายพันธุ์เหล่านี้ มันเป็นไปได้ที่ยุงเหล่านั้นซึ่งในความเป็นจริงแล้วจะเจริญเติบโตอยู่ในป่าที่มีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นกับยุง GMM ซึ่งผลที่ตามมาอาจจะเลวร้ายกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสซิก้าก็ได้
อย่างไรก็ตาม ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวยุง GMM ก่อนที่จะมีการปล่อยออกไปโดย Oxitec กลับไม่ได้รับคำตอบ
วันที่ 26 ม.ค. 59 RT news รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐฯในรัฐ Arkansas ได้ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิก้าหนึ่งราย และอีกเคสหนึ่งพบที่รัส Virginia อ้างข่าวจาก AP
วันที่ 27 ม.ค. 59 RT news รายงานอีกว่าพบบุคคลที่มีผลตรวจเป็นบวกเกี่ยวกับไวรัสซิก้าในประเทศเดนมาร์ก อ้างข่าวจากสื่อฯของเดนมาร์ก นอกจากนี้ยังพบว่ามีประชาชนติดเชื้อไวรัสซิก้าในประเทศ อิตาลี สเปน อังกฤษ และสวิทเซอร์แลนด์ด้วย
[ตอนนี้พบในฝรั่งเศสและเยอรมันแล้วด้วย (กรณีของฝรั่งเศสนั้นอ้างว่าติดมาจากที่อื่นหลังจากเดินทางกลับประเทศ ยังไม่มีการแพร่ระบาดในประเทศ เยอรมันก็อ้างแบบเดียวกันนี้) ทางองค์กรอนามัยโลก (WHO) โพสต์ข้องความในทวีตเตอร์ว่า ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวัคซีนรักษาไวรัสซิก้าเลย ก่อนหน้านี้ก็อีโบล่า เมิร์ส คราวนี้ก็ ซิก้า ต่อไปจะเป็นอะไรหละนี่? - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
31/01/2559
----------
https://www.rt.com/news/330728-gmo-mosquitoes-zika-virus/
https://www.rt.com/usa/330228-zika-virus-arkansas-first/
https://www.rt.com/news/330262-zika-virus-strikes-europe/
Genetically Modified Mosquitoes May Be Released in Florida
Release of GM mosquito Aedes aegypti OX513A (NRE(S)609-2/1/3) | EcoNexus
Germany Confirms 5 'Imported' Zika Virus Cases Over Four Months
5 Zika-Infected Travelers Return to Mainland France

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข่าวดี… ไข้ซิก้า ไม่ใช่ไข้ไป๊ป์ หรือไข้ก้นกรอง! เยอรมันพัฒนาการทดลองวัคซีนรักษาไข้ซิก้าขึ้นมาได้เป็นรายแรก



---------------
วันที่ 30 ม.ค.59 RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "First Zika medical test developed in Germany" (มีการทดลองยารักษาไวรัสซิก้าขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศเยอรมัน) ข่าวนี้สื่อฯรัสเซียเอามาจากสำนักข่าว Deutsche Welle (DW) ของเยอรมัน ตามไปดูที่ต้นฉบับเลยดีกว่าว่าเขาพูดว่าอย่างไรบ้าง วันที่ 30 ม.ค.59 DW พาดหัวข่าวว่า "การทดลองไข้ซิก้าครั้งแรกพัฒนาขึ้นในประเทศเยอรมัน" (First Zika test developed in Germany)
รายงานข่าวบอกว่า มีเพียงแค่หนึ่งในห้าคนที่ติดเชื้อไวรัสซิก้าแล้วเกิดอาการเป็นไข้ นั่นคือคำอวยพรและการสาบแช่งในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือผู้ที่กำลังวางแผนว่าจะตั้งครรถ์ในอนาคตอันใกล้ ผู้หญิงเหล่านั้นจะต้องประหลาดใจว่าร่างกายของพวกเธอติดเชื้อไวรัสหรือไม่
บริษัทเทคโนโลยีด้านชีวภาพที่มีชื่อว่า Genekam จากเมือง Duisburg ในเยอรมันตะวันตกได้พบวิธีการแก้ไขปัญหานี้ นักวิจัยหลายคนได้พัฒนาการทดลองที่เปิดเผยว่ามีเชื้อโรคซิก้าอยู่ในตัวอย่างเลือดหรือไม่ และมากแค่ไหน
เป็นการทดลองแบบทันที (real time) ซึ่งหมายถึงว่านำผลของการทดลองมาดูได้อย่างรวดเร็ว และเป็นครั้งแรกของการทดลองเกี่ยวกับไวรัสซิก้า
"การทดลของพวกเราจะตรวจสอบ DNA และการทำงานกับเคมีที่มีปฏิกิริยาต่อไวรัสซิก้าเท่านั้น" Sudhir Bhartia หนึ่งในนักพัฒนาร่วมของการทดลองกล่าวกับสำนักข่าว DW "เชื้อโรคที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ เช่น เข้าเลือดออก จะไม่แสดงผลลัพธ์ออกมา"
ได้มีการจัดส่งชุดรักษาชุดออกไปแล้ว กำลังเดินทางไปยังประเทศบราซิล โดยปรกติแล้วการทดลองในลักษณะนี้จะต้องผ่านการทดลองระยะยาว ก่อนที่จะได้รับอนุญาต แต่เนื่องจากว่า ไวรัสชนิดนี้กำลังแพร่ระบาดไปทั่วอเมริกาใต้อย่างรวดเร็ว ทางการจึงให้การยกเว้น
[จะหัวหรือก้อย มีผลข้างเคียงหรือไม่ บราซิลรับกรรมอีกแล้วครับท่าน ถ้าได้ผลก็โชคดีไป ถ้าไม่ได้ผลหรือหนักกว่าเดิม ไม่อยากจะคิด Brazil เป็นหนึ่งในชาติสมาชิกของกลุ่ม BRICS ที่ตั้งขึ้นมาแข่งกับสหรัฐฯและอียูโดยเฉพาะ กรรมจึงไปตกอยู่ที่ชาวบ้านของประเทศเหล่านั้น ภาวนาว่าขอให้ได้ผลนะครับ เอาใจช่วย พูดจริงนะนี่ - ผู้แปล]
อย่างไรก็ตาม บุคคลากรทางการแพทย์ทั่วไปจะไม่สามารถใช้ชุดคิทเหล่านี้เพื่อทำการตรวจสอบผู้ป่วยได้ "การทดลองจะต้องใช้บุคคลากรที่ผ่านการรับรอง (qualified) แล้วเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด" Bhartia นักไวรัสวิทยาเน้นย้ำ
นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมถึงมีการส่งห้องทดลองขนาดเล็กไปยังสถาบันและห้องแล็บต่างๆพร้อมกับองค์ความรู้ที่เพียงพอ (sufficient know-how) และอุปกรณ์ที่ถูกต้องด้วย อย่างน้อยที่สุดค่าใช้จ่ายก็อยู่ในระดับต่ำ คิดเป็นประมาณ 5 ยูโรต่อการทดลองหนึ่งครั้ง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับบ้านจากการไปพักผ่อนในอเมริกาใต้ ยังมีอีกช่องทางหนึ่งง่ายๆในการตรวจสอบเช่นกันซึ่งก็คือ "รอ" (wait) แน่นอน มันใช้เวลานาน [อย่าเพิ่งเซ็งนะครับท่าน ผู้ป่วยหรือผู้ที่คิดว่าตัวเองติดเชื้อหรือไม่อาจจะไม่ขำกับมุกนี้ แต่เขามีเหตุผลนะ ฟังดู - ผู้แปล]
"หากคุณไม่แสดงอาการป่วย (symptoms) ในช่วงระยะเวลาสามสัปดาห์หลังจากที่เดินทางกลับ ก็จะไม่มีการแสดงอาการให้เห็นอีกต่อไป" Christian Drosten จากสมาคมไวรัสวิทยากล่าวกับ DW "และสองสัปดาห์ต่อจากนั้น ไวรัสก็จะไม่ปรากฎในร่างการของคุณอีกต่อไป"
+ มีความเชื่อมโยงกันโดยตรงระหว่างไวรัสซิก้ากับโรคสมองเล็กหรือไม่?
----------
ต่อคำถามที่ว่า มีการเชื่อมโยงกันโดยตรงระหว่างไวรัสซิก้ากับโรคศีรษะเล็ก (microcephaly) หรือไม่? ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ว่า ไวรัสชนิดนี้กับอาการบกพร่องแต่กำเนิด (birth defects) มีความเกี่ยวข้องกัน แต่มีการเชื่อมโยงกันหรือไม่ ยังไม่ได้มีการพิสูจน์
"ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากที่พวกเรายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับไวรัสซิก้า ที่จะสามารถบอกได้ว่ามันเป็นสาเหตุของโรค microcephaly โดยตรงหรือไม่" Drosten เตือน
Drosten เชื่อว่า อาการบกพร่องโดยกำเนิดอาจจะเกิดขึ้นในเด็กที่มารดาเป็นโรคหัดเยอรมัน (rubella) มากกว่าในเด็กที่มารดาติดเชื้อไวรัสซิก้าระหว่างตั้งครรภ์
+ คำถามที่ยาก เกี่ยวกับกับด้านจริยธรรม (A difficult ethical question)
-----------
จนบัดนี้ (So far ไม่ใช่ฟูก คริๆ) กระทรวงสาธารณสุขของบราซิล ได้ทำการตรวจสอบผู้ที่คาดว่าจะเป็นโรคศีรษะเล็กถึง 700 กว่าเคส แน่นอน มีเด็กทารกจำนวน 270 คนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคศีรษะเล็ก ในจำนวน 462 เคสนั้น ไม่พบว่าเป็นโรคดังกล่าว และผู้เชี่ยวชาญก็สามารถค้นพบการติดเชื้อไวรัสซิก้าน้อยกว่า 10 รายในเคสที่มีผู้ป่วยเป็นโรคศีรษะเล็ก
"ผมคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะมีความสัมพันธ์ที่หละหลวมระหว่างไวรัสซิก้าและโรคศีรษะเล็ก" Drosten กล่าว
ยังไม่มีการศึกษาใดๆเกี่ยวกับว่ามีความน่าจะเป็นในระดับที่สูงขนาดไหนที่มารดาที่ติดเชื้อจะส่งผ่านไวรัสไปยังทารกที่ยังไม่ได้เกิด ผู้เชี่ยวชาญสามารถเข้าใจถึงความกังวลของสตรีที่ติดเชื้อไวรัสซิก้าในอเมริกาใต้ และสตรีที่ตั้งครรภ์ในปัจจุบัน
นักไวรัสวิทยากล่าวว่า "ความเสี่ยงด้านสุขภาพไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แค่ผู้หญิงเหล่านั้นมีช่วงเวลาที่ยากลำบากทางจิตวิทยา และแบกรับภาระเกี่ยวกับความกังวลด้านจริยธรรมด้วย"
หลังจากพิจารณาถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้แล้ว หนึ่งในทางเลือกสุดท้ายก็คือ กำจัดการตั้งครรภ์ (to terminate the pregnancy) แต่ไม่ว่าเด็กที่ยังไม่เกิดจากมารดาที่ติดเชื้อไวรัสซิก้าจะทุกข์ทรมานจากโรคศีรษะเล็กหรือไม่ ก็ไม่สามารถที่จะระบุได้ในระยะแรก (ของการตั้งครรภ์) - ขนาดเส้นรอบศีรษะขั้นสุดท้ายของทารกสามารถที่จะวัดได้ในช่วงระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์เท่านั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้หญิงจะต้องทำการตัดสินใจว่าจะแท้งลูกโดยไม่รู้ว่าเธอจะส่งผ่านไวรัสไปยังลูกที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นมาของเธอหรือไม่ และโดยที่ยังไม่ได้รู้ด้วยว่าจริงแล้วเด็กอาจจะพัฒนาไปเป็นโรคศีรษะเล็กหรือไม่
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
31/01/2559
----------
First Zika test developed in Germany | Sci-Tech | DW.COM | 30.01.2016
https://www.rt.com/news/330737-zika-virus-test-germany/
ศีรษะเล็ก Microcephaly - หาหมอ.com

 

ปอกเปลือก ทรราช
มามุกเดิมอีกแล้ว ตุรกีกล่าวหาว่าเครื่องบินรบ Su-34 ของรัสเซียละเมิดน่านฟ้าของตุรกีโดยไม่มีหลักฐาน นาโต้และสหรัฐฯผสมโรง รัสเซียปฏิเสธว่าก็แค่โฆษณาชวนเชื่อไร้หลักฐานยืนยัน



---------------
วันที่ 30 ม.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "ตุรกีกล่าวว่า Su-34 ละเมิดน่านฟ้า กรุงมอสโคว์แค่ยักไหล่ซึ่งหมายความว่า โฆษณาชวนเชื่อ" (Turkey says Su-34 violated airspace, Moscow shrugs off report as ‘propaganda’)
มาดูสงครามน้ำลายรอบใหม่ระหว่างตุรกีกับรัสเซียบ้างนะครับ รายงานข่าวบอกว่า กรุงมอสโคว์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของตุรกีที่ว่าเครื่องบินท้องระเบิด Su-34 ของรัสเซียละเมิดน่านฟ้าของตุรกีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า กรุงอังการาได้มีระบุดว่าเครื่องบินเจ็ทของประเทศไหนอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวตามที่พวกเขาชี้แจง
"ไม่มีการละเมิดน่านฟ้าของตุรกีในนลักษณะยุทธวิธีจากอากาศยานของรัสเซีย [ที่กำลังปฏิบัติภารกิจ] ในสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย แถลงการณ์จากฝั่งตุรกีเกี่ยวกับการบุกรุกทางอากาศ (air incursion) ตามที่มีการกล่าวหา โดยเครื่องบิน Su-34 ของรัสเซียนั้นเป็นโฆษณาชวนเชื่อที่ปราศจากการพิสูจน์ (roof-less propaganda)" General Iror Konashenkov โฆษกกลาโหมของรัสเซียกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์
Iror Konashenkov ได้เน้นย้ำว่า สถานีเรด้าร์ควบคุมน่านฟ้าที่ตุรกีมีนั้น สามารถระบุได้เพียงระดับความสูง (altitude) เส้นทางการบิน (flight line) และความเร็วของอากาศยานเท่านั้น แต่ไม่ใช่ลักษณะหรือความร่วมมือระหว่างรัฐ การที่จะระบุว่าประเทศไหนเป็นเจ้าของเครื่องบินเจ็ทจำเป็นต้องมีการติดต่อกันในระดับสายตา (visual contact) จากอากาศยานอีกลำหนึ่ง Konashenkov เน้นย้ำ โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่มีรายงานในส่วนของ visual contact เลย
โฆษกกลาโหมของรัสเซียได้ตำหนิการกล่าวอ้างที่ว่า นักบินของรัสเซียได้รับการแจ้งเตือนเป็นภาษาอังกฤษและรัสเซีย ผ่านเรด้าร์ตามที่มีการแต่งเรื่องขึ้นมา "โดยนักสร้างโฆษณาชวนเชื่อที่โง่เขลา ซึ่งดูหนังแอ็คชั่นของฮอลลิวูดมากเกินไป" [เจ็บเปล่าครับท่าน Erdogan? - ผู้แปล]
Konashenkov ยังได้เน้นย้ำอีกว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียในซีเรีย หรือสถานีเรด้าร์ควบคุมน่านฟ้าของซีเรีย ต่างก็ไม่ได้บันทุกว่ามีการละเมิดพรมแดนทางอากาศใดๆระหว่างซีเรียกับตุรกีเลย
+ ตุรกีเรียกทูตรัสเซียเข้าพบ (Turkey summons Russian envoy)
-----------
ในช่วงเช้าของวันเสาร์ ตุรกีได้เรียกเอกอัครราชทูตของรัสเซีย โดยกล่าวหาว่าเครื่องบินรบของรัสเซียได้ละเมิดน่านฟ้าของตน ตามที่กรุงอังการากล่าวนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวกับเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-34 ของรัสเซีย และเกิดขึ้นในวันศุกร์ มีการส่งคำเตือนหลายครั้งทั้งภาษารัสเซียและภาษาอังกฤษไปยังเครื่องบินรบของรัสเซีย ตามที่มีการกล่าวหา
"พวกเราขอเรียกร้องอย่างชัดเจนต่อสหพันธรัฐรัสเซียไม่ให้ละเมิดน่านฟ้าของตุรกี ซึ่งเป็นน่านฟ้าของนาโต้ด้วย" กระทรวงต่างประเทศของตุรกีกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์
แถลงการณ์กล่าวต่อไปอีกว่า "พวกเราขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ผลที่ตามมาที่ไม่พึงประสงค์ของพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบเช่นนั้น จะตกอยู่ที่สหพันธรัฐรัสเซียอย่างเต็มที่"
[เอาจริงเหรอครับคุณ Erdogan? ทุกคนเขาต้องการหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ว่าคำกล่าวอ้างหรือข้อกล่าวหาของฝ่ายตุรกีนั้นมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ไม่ใช่คำพูดลอยๆ เหมือนผายลมของพวกนักการเมืองที่ขาดความรับผิดชอบอย่างที่เคยสัญญาว่าจะยอมลาออกจากตำแหน่งหากพิสูจน์ได้ว่าตุรกีมีเอี่ยวกับการค้าน้ำมันเถื่อนไอซิส รัสเซียก็ขนหลักฐานต่างๆไปให้ดู ทั้งภาพนิ่งทั้งคลิปวิดีโอจากโดรน ทั้งภาพถ่ายจากดาวเทียมที่เห็นขบวนรถบรรทุกน้ำมันดิบวิ่งเข้าออกผ่านชายแดนตุรกี-ซีเรียหลายต่อหลายครั้ง ตุรกีก็ยังด้านปฏิเสธหน้าตาเฉย
การสร้างภาพให้ตัวเองดูเหมือนว่าเป็นผู้ถูกกระทำและแต่งเรื่องขึ้นมาแหกตาชาวโลกแบบนี้ มีแต่คำที่ขาดวิจารณญาณเท่านั้นที่จะเชื่อในคำพูดเช่นนั้นทันทีโดยปราศจากการแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมและขาดการไตร่ตรองว่า คำพูดลักษณะโวยวายแบบนั้นมีความเป็นเหตุเป็นผลน่าเชื่อถือหรือไม่ นี่หลักฐานไม่มีซักชิ้นซักอัน มีแต่คำพูดเท่านั้น น่าเชื่อถือตรงไหน? - ผู้แปล]
ก.ต่างประเทศของตุรกีกล่าวต่ออีกว่า ดูเหมือนว่าการละเมิด (น่านฟ้า) ตามที่มีการกล่าวหา เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า รัสเซียกำลังพยายามทำให้ความตึงเครียดที่มีอยู่แล้วขยายออกไป
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ปธน. Recep Tayyip Erdoga ของตุรกีได้ออกมาส่งเสียงว่า พร้อมที่จะพบกับปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ในการเกิดขึ้นของ "เหตุการณ์นี้" รอยเตอร์รายงาน
[อ่ะฮ้าาาาา! เห็นอะไรบ้างครับ บางอย่างเริ่มแพร็มออกมาให้เห็นแล้วว่า จุดประสงค์ในการแต่งนิทานเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร? - ผู้แปล]
ทูตของรัสเซียได้เข้าพบกระทรวงการต่างประเทศของตุรกีเรียบร้อยแล้ว สถานทูตของรัสเซียในกรุงอังการายืนยัน ไม่มีรายละเอียดใดๆนำเสนอในการประชุมเลย [กรรม! หลักฐานก็ไม่มี แล้วคุณกล่าวหาเขาได้อย่างไร? - ผูแปล]
คราวนี้ถึงบทที่นาโต้จะต้องเล่นบ้าง.... รายงานข่าวบอกว่า นาโต้ก็ได้มีปฏิกิริยาต่อรายงานดังกล่าวด้วยเช่นกัน Jens Stoltenberg เลขาธิการของนาโต้ได้ออกมาเรียกร้อง "เพื่อให้ (ทั้งสองฝ่าย) ใจเย็นๆ และลดความตึงเครียด"
Jens Stoltenberg ได้เรียกร้องให้รัสเซีย "แสดงความรับผิดชอบ และเคารพน่านฟ้าของนาโต้อย่างเต็มที่ ซึ่งรวมถึงการทำให้เกิดความมั่นใจว่า การละเมิดในลักษณะนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก"
[แหม… เข้ากันเป็นปีเป็นขลุ่ยอีกรอบ แต่ตอนที่มีหลักฐานว่าตุรกีละเมิดอธิปไตยของอิรัค โดยการส่งทหารและรถถังหลายคันเข้าไปในดินแดนของอิรัคในเขตเมือง Mozul เมื่อปลายปีที่ผ่านมาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอิรัค และทางการอิรัคก็ออกมาประนามด้วย ไม่เห็นนาโต้จะออกมาพูดแบบนี้กับตุรกีเลย อย่าสองมาตรฐานสิครับคุณนาโต้ มันทำให้คำพูดของคุณขาดความน่าเชื่อถือรู้หรือเปล่า? - ผู้แปล]
+ สหรัฐฯรับไม้ต่อจากตุรกีและนาโต้
----------
คราวนี้ก็ถึงบทของสหรัฐฯเล่นบ้าง วันที่ 31 ม.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "เพนตาก้อนยืนยันว่ารัสเซียละเมิดน่านฟ้าของตุรกี เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็นๆ" (Pentagon insists Russia violated Turkish airspace, calls for calm on both sides)
รายงานข่าวกล่าวว่า กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ "สามารถที่จะยืนยัน" (can confirm) ได้ว่า เครื่องบิน Su-34 (Fullback) Strike Fighter ของรัสเซียได้ละเมิดน่านฟ้าของตุรกีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โฆษกชองเพนตาก้อนกล่าวในแถลงการณ์ กรุงวอชิงตันยังได้เรียกร้องให้ทั้งกรุงมอสโคว์และกรุงอังการาดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการขยาย (ความตึงเครียด) ออกไป
"พวกเรากำลังรับทราบรายงาน และสามารถที่จะยืนยันได้ว่า เมื่อวานนี้เครื่องบินรบอีกลำหนึ่งของรัสเซีย ได้ละเมิดน่านฟ้าของตุรกี และนาโต้" Mark Wright โฆษกของเพนตาก้อนกล่าวกับสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียในแถลงการณ์ที่เขีียนเป็นลายมือเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ฉบับนั้นยังกล่าวต่ออีกว่า "พวกเราขอเรียกร้องให้รัสเซียเคารพน่านฟ้าของตุรกี และให้หยุดกิจกรรมต่างๆที่สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้การไร้เสถียรภาพในภูมิภาคมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น"
[ว่าไปนั่น! ไม่เคยได้ยินว่าเพนตาก้อนออกมาเตือนตุรกีที่ส่งเครื่องบินรบของตนเองละเมิดน่านฟ้าของกรีซปีละปันพันเที่ยวเลย หลักฐานอยู่ไหนครับคุณเพนตาก้อน? อย่าลืมสิว่า สหรัฐฯและพันธมิตรได้ละเมิดน่านฟ้าและอธิปไตยของซีเรียมาเป็นแรมปี ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าไปถล่มบ้านเรือนประชาชนในซีเรีย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรีย และจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย ตรงนี้เพนตาก้อนจะอ้างว่า เรื่องมัน "ซับซ้อน" อีกหรือเปล่าครับ?
สรุป ถ้าไม่สองมาตรฐานไม่ใช่สหรัฐฯ ข้าทำได้ คนอื่นห้ามทำ เพราะว่าข้าคือ The Exceptionalist (ผู้อยู่เหนือกฎ) กฎที่เขียนขึ้นมานั้นมีไว้ให้คนอื่นปฏิบัติ ยกเว้นตัวเองและพรรคพวกของตัวเอง - ผู้แปล]
หลังจากที่เข้าข้างนาโต้แล้ว เพนตาก้อนยังได้เน้นย้ำอีกว่า มันเป็นสิ่งสำคัญที่รัสเซียและตุรกี "จะต้องหันมาคุยกัน และดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันการขยายสถานการณ์ออกไป"
[ง่ายๆครับคุณเพนตาก้อน ถ้าอยากให้สถานการณ์สงบโดยเร็วก็คือให้สหรัฐฯและนาโต้ถอนทัพออกไปจากซีเรียและตะวันออกกลางให้หมด หยุดรับซื้อน้ำมันเถื่อนจากพวกไอซิส เลิกแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น เลิกส่งทูตไปเดินสายเสี้ยมให้ประชาชนของประเทศต่างๆเกิดความขัดแย้งภายใน ถ้าทำได้แบบนี้ สงครามในโลกนี้ก็จะลดน้อยลงไปได้เป็นอย่างมาก ทำได้ไหมครับ? ไม่ได้! - ผู้แปล]
Sputnik news รายงานว่า Leonid Kalashnikov รองประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศแห่งสภาดูม่าของรัสเซียได้ออกมายืนยันว่า ปธน. Erdogan กำลังใช้การกล่าวหาครั้งล่าสุดเพื่อเป็นความพยายามในการให้ได้คุยกับปธน.ปูติน "เป็นได้ชัดว่า Erdogan ไม่สามารถที่จะเข้าพบปูตินได้ ดังนั้น เขาจึงใช้ทุกโอกาส (เพื่อต้องการที่จะเข้าหาปูตินให้ได้)"
"ผมพิจารณาว่า ข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นความพยายามขี้ปะติ๋ว (a futile attempt) ที่จะแสดงให้เห็นถึงความสมเหตุสมผลในการแอบสอยเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-24 (ของรัสเซีย)" Franz Klintsevich รองประธานคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงแห่งสภาสูงของสหพันธรัฐรัสเซียกล่าวกับสำนักข่าวของรัสเซีย
[อ้อ… เสริมให้อีกนิดนะครับ หลังจากที่เครื่องบินทิ้งระเบิด Su-24 ของรัสเซียถูกเครื่องบินรบ F-16 ของตุรกียิงตกเมื่อวันที่ 24 พ.ย.58 นอกจากรัสเซียจะติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วย S-400 ที่มีรัศมีของเรด้าร์ครอบคลุมถึงพื้นที่บางส่วนของตุรกีด้วยแล้ว รัสเซียยังได้เสริมเขี้ยวเล็บให้กับฝูงบินในกองทัพอากาศรัสเซียที่ปฏิบัติภารกิจในซีเรียด้วยขีปนาวุธอากาศสู่อากาศด้วยนะครับ ไม่ได้สามารถทิ้งระเบิดอย่างเดียว แต่ยังสามารถป้องกันตนเองทางอากาศได้ด้วย และก็ยังมีฝูงบินรบอีกจำนวนหนึ่งคอยให้การคุ้มกันบินประกบควบคู่กันไปด้วย
คราวนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลอบแทงข้างหลังอีกต่อไป ถ้าเครื่องบินของฝ่ายตุรกีและนาโต้เข้าใกล้รัศมีที่กองทัพรัสเซียพิจารณาว่าเป็นอันตรายต่ออากาศยานของรัสเซียในซีเรีย รัสเซียก็จะยิงให้ร่วงทันที ดังนั้นจึงไม่มีข่าวว่าเครื่องบินรบของตุรกีเฉียดเข้าใกล้ชายแดนของซีเรียหรือเครื่องบินรบของรัสเซียในซีเรียอีกเลย
ล่าสุด Sputnik news รายงานโดยอ้างอิงข่าวจากหนังสือพิมพ์ Vatan ของตุรกีว่า นาย Mevlut Cavusoglu รมว.ต่างประเทศของตุรกีบอกว่าต้องการที่จะปรับความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับรัสเซียให้อยู่ในระดับปรกติ (We want to normalize relations with Russia…)
งานนี้เป็นการยืนยันคำพูดของฝ่ายรัสเซียได้เป็นอย่างดีว่า Erdogan กำลังหาทางเข้าพบปูติน ครั้นจะขอโทษหรือขอเข้าพบตรงๆ ก็เกรงว่าจะเสียหน้า ก็เลยแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาให้รัสเซียรับบทเป็นผู้ร้ายอีกครั้ง จากนั้นก็แสดงท่าทีว่าอยากจะคืนดีกัน นั่นแหละเกมการเมืองสไตล์นาโต้หละ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
01/02/2559
----------
Russian Defense Ministry Denies Violation of Turkish Airspace by Su-34
https://www.rt.com/news/330723-turkey-russia-jet-envoy/
https://www.rt.com/news/330755-russia-turkey-brawl-us/
Why Turkey Can Do Nothing About Russia's Alleged Airspace Violation
Su-34 Fullback: Russia's Hottest Bomber
New Turkish Airspace Violation Claim Excuse for Su-24 Downing – Lawmaker
Turkish Foreign Minister in Favor of Normalization of Relations With Russia

 

ปอกเปลือก ทรราช
สายลมเริ่มพัดโชยมาทางรัสเซีย... นายกฯรัฐบาวาเรียแห่งเยอรมันเตรียมบินไปเจรจากับปูติน



---------------
วันที่ 31 ม.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "นักการเมืองชาวเยอรมันจวกนายกฯรัฐบาวาเรียกรณีตัดสินใจไปเยือนปธน.ปูติน" (German Politicians Slam Bavarian PM Over Decision to Meet Putin)
หนังสือพิมพ์ Die Welt ของเยอรมันรายงานว่า แผนการของนาย Horst Seehofer นายกรัฐมนตรีของรัฐ Bavaria ประเทศเยอรมันนีที่จะไปพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในกรุงมอสโคว์ได้สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงขึ้นมาจากบรรดานักการเมืองชาวเยอรมัน
นักการเมืองชาวเยอรมันได้กล่าวหา Seehofer ว่า "มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับจอมเผด็จการรัสเซีย (solidarity with the Russian autocrat)" และได้เน้นย้ำว่า การถอนการแซงชั่นรัสเซียไม่อยู่ในคำถาม
ตัวอย่างเช่น สมาชิกของพันธมิตรฝ่ายรัฐบาลกล่าวว่า นาย Seehofer กำลังฝักใฝ่ยุทธศาสตร์ที่ตรงกันข้ามกับนโยบายของรัฐบาลกลาง
[เป็นประชาธิปไตยที่บอกว่าห้ามเห็นต่าง คิดต่าง จากรัฐบาลเสียงข้างมาก อ้าว… แล้วพวกคุณจะมีฝ่ายค้านไว้ทำแป๊ะอะไรหละครับท่าน? มันเป็นประชาธิปไตยแบบตะวันตกของจริงครับ - ผู้แปล]
"ในการถกเถียงกันเกี่ยวกับปัญหาผู้ลี้ภัย นาย Seehofer ได้แสดงจุดยืนของเขาที่ตรงกันข้ามกับจุดยืนของนายกรัฐมนตรี (Merkel) อย่างชัดเจน ผมหวังว่าเขาจะยกเลิกการเดินทางของเขา" นาย Roderich Kiesewetter ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศ และสมาชิกพรรค CDU (ของนางแองเจอล่า แมร์เคิล) กล่าว
"นโยบายด้านต่างประเทศถูกกำหนดโดยกรุงเบอร์ลิน ไม่ใช่เมืองมิวนิค (มิวนิคคือเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย)" นาย Niels Annen ผู้แทนอย่างเป็นทางการของกลุ่ม SPD ในรัฐสภาเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศกล่าวประสานเสียง [พูดอย่างนั้นเพื่ออะไรครับคุณ Niels Annen จะแยกเยอรมันตะวันออก-ตะวันตกอีกรอบ หรือเยอรมันเหนือ-เยอรมันใต้ อย่างนั้นหรือ?
ด้วยตรรกะเดียวกันนี้ งั้นก็ช่วยบอกทูตสหรัฐฯในประเทศไทย ให้หยุดเดินสายพบปะกับนักการเมืองพรรคต่างๆได้แล้ว ให้ฟังเสียงของรัฐบาลเท่านั้น แบบนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ ฟังขึ้นไหม? อ้อ… และก็ให้รัฐบาลของนายโอบาม่าและตะวันตกเชื่อฟังนโยบายต่างประเทศของซีเรียที่กำหนดโดยรัฐบาลของกรุงดามัสกัสนำโดยปธน.อัสซาดด้วย อย่าไปถือหางพวกฝ่ายค้านกบฎสายกลางอีก แบบนี้เป็นไงครับ? นี่มาตรฐานตะวันตกเลยนะนี่ รับได้ปะ? - ผู้แปล]
อ่านข่าวต่อนะครับ... นาย Seehoferได้ออกแถลงการณ์ที่สำคัญอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับนโยบาย "เปิดประตู" ('open doors' policy) ของนาง Merkel เกี่ยวกับผู้ลี้ภัย และยังได้ประกาศด้วยว่าเขาตั้งใจที่จยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมัน หากนาง Merkel ล้มเหลวในการฟื้นฟูระเบียบเกี่ยวกับเรื่องชายแดนของเยอรมัน
ก่อนหน้านี้ นาย Seehofer ถูกกล่าวหาโดยเพื่อนนักการเมืองของเขาว่ากำลังเล่นเกมตามปูติน หลังจากที่เขาได้เน้นย้ำถึงผลกระทบของการแซงชั่นต่อต้านรัสเซียเกี่ยวกับเศรษฐกิจของเยอรมัน
[เอาความจริงนะครับ คนที่ทำให้เศรษฐกิจของเยอรมันแย่ ไม่ใช่ Seehofer แต่เป็นฝ่ายรัฐบาลของเยอรมันและอียูเองนั่นแหละ ที่ยอมร่วมมือกับสหรัฐฯทำการแซงชั่นรัสเซีย กรณียูเครนก่อน จากนั้นก็ถูกรัสเซียแซงชั่นกลับบ้าง ก็พากันร้องจ๊ากกันทั้งประเทศ โดยเฉพาะภาคเกษตรกรของอียู โทษปูตินกับคนที่คัดค้านการแซงชั่นอีกหละสิ? - ผู้แปล]
ล่าสุดวันที่ 31 ม.ค.59 สำนักข่าว DW ภาคภาษาอังกฤษรายงานว่า นายกรัฐมนตรี แองเกอล่า แมร์เคิลรับปากว่าจะส่งผู้อพยพต่างชาติกลับประเทศหลังจากที่สงครามในซีเรียสิ้นสุด
[ปัญหาก็มีอยู่ว่า เมื่อไรหละสงครามในซีเรียถึงจะสิ้นสุด? เพราะว่าฝ่ายสหรัฐฯและพันธมิตรต้องการที่จะขับรัสเซียออกไปจากซีเรีย เนื่องจากรัสเซียเข้าไปช่วยฝ่ายรัฐบาลซีเรียปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายดาอิช สหรัฐฯและพันธมิตรบอมบ์ซีเรียมาเป็นแรมปี ก็ไม่สามารถปราบกลุ่มก่อการร้ายได้หมดเลย มีแต่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ มีความคืบหน้าหลังจากที่รัสเซียส่งกองทัพอากาศเข้าไปช่วยกองทัพซีเรียนี่เอง กองทัพเยอรมันทำอะไร? ส่งฝูงบินสอดแนมไปช่วยถ่ายรูปทางอากาศให้กองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ กล่าวคือนาโต้นั่นแหละ]
[อึ่มมมม! ขอเสริมนิดหน่อยนะครับ กรณีที่มีการกล่าวหาว่าปูตินเป็น จอมเผด็จการแห่งรัสเซีย! ปูตินเขาก็มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนชาวรัสเซียไม่ใช่รึ? พออยู่ครบตำแหน่งสองสมัยเขาก็ไม่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อต่ออายุให้ตัวเองยังคงครองตำแหน่งประธานาธิบดีของรัสเซียต่อไป เขาก็ให้ผู้สมัครคนอื่นภายในพรรคลงเลือกตั้งในนามของพรรคแทน ซึ่งก็คือนายกฯดมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitri Medvedev) และก็ชนะการเลือกตั้งขึ้นเป็นประธานาธบดีแทน
โดยแต่งตั้งให้ปูตินเป็นนายกฯรัฐมนตรี สลับตำแหน่งกันว่างั้นเถอะ หลังจากที่ปธน.ดมิทรี เมดเวฟ อยู่ครบวาระหนึ่งสมัย ก็ลาออกและเลือกตั้งใหม่ ปูตินก็ลงสมัครในนามของพรรคเดิม (United Russia) และก็เป็นสมัยที่ 4 ที่พรรคนี้ชนะด้วยเสียงข้างมากในการเลือกตั้งของรัสเซียติดต่อกัน ดังนั้นปูติน จึงก้าวขึ้นมาเป็นปธน.ของรัสเซียอีกรอบ ไม่มีชาวรัสเซียคนไหนบอกว่าผิดกฎหมายของรัสเซียเลยนิ แบบนี้เรียกว่าจอมเผด็จการรัสเซียว่างั้นเถอะ?
คราวนี้มาดูกรณีของสหรัฐฯบ้าง มีพรรคการเมืองอยู่แค่สองพรรค เปลี่ยนกันกินไปมา นายบุชผู้พ่อจากพรรครีพับลิกันได้เป็นปธน.คนที่ 41 ของสหรัฐฯ 1989-1993 ต่อจากนั้นก็มีนายบิล คลินตัน สามีของนางฮิลลารี่ คลินตันจากพรรคเดโมแครตชนะเลือกตั้งขึ้นมาเป็นปธน.คนที่42 ของสหรัฐฯสองสมัย ในการแข่งขันชิงตำแหน่งปธน.คนที่ 43 นายบุชผู้ลูกก็ชนะการเลือกตั้ง และในการแข่งขันปธน.คนที่ 44 ของสหรัฐฯพรรคเดโมแครทก็ส่งนางฮิลลารี่ชิงกับนายโอบาม่าพรรคเดียวกัน แต่นายโอบาม่าได้ชนะทั้งในฐานะเป็นตัวแทนของพรรคและชนะพรรครีพับลิกันด้วย
ในการแข่งขันชิงตำแหน่ง ปธน.คนที่ 45 ของสหรัฐฯ นางฮิลลารี่ คลินตันก็จะชิงลงแข่งขันด้วย ตอนนี้กำลังแข่งขันในการเป็นตัวแทนภายในพรรคของตนเองกับผู้สมัครรายอื่น ถ้านักการเมืองตะวันตกมองว่าการที่ผู้นำของรัสเซียเคยลงสมัครแล้วเป็นเผด็จการ แล้วกรณีของตระกูลคลินตันและตระกูลบุชหละ ไม่ยิ่งกว่าจอมเผด็จการหรอกรึ?
นี่ยังไม่รวมถึงบางตระกูลแถวนี้ ที่สามีได้เป็นนายกฯ แล้วก็มีน้อยเขยเป็นนายกฯ และมีน้องสายเป็นนายกฯอีกด้วยนะ อย่างนี้เข้าข่าย "จอมเผด็จการ" แบบที่นักการเมืองเยอรมันกล่าวหาผู้นำรัสเซียหรือไม่? อย่าสองมาตรฐานนะครับ อ้อ… ในอียูเองก็มีผู้นำหลายประเทศที่ครองตำแหน่งทางการเมืองติดต่อกันหลายสมัยที่มาจากการเลือกตั้งด้วยนะ เบลเยี่ยมก็เป็นหนึ่งในนั้น - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
01/02/2559
----------
German Politicians Slam Bavarian PM Over Decision to Meet Putin
Bavarian PM Threatens to Sue Berlin if Merkel Fails Control German Borders
Kritik an Treffen zwischen Horst Seehofer und Wladimir Putin - DIE WELT
Merkel expects most Syrian and Iraqi refugees to return home once conflict is over | News | DW.COM | 31.01.2016

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/QIj4rJEqSag" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
หน้าตาของทหารซาอุดิอาระเบียที่ถูกกองทัพเยเมนและนักรบฮูติจับเป็นได้ในการถล่มป้อมทหารของซาอุดิอาระเบียที่จังหวัด Jizan วันก่อน จับข้าศึกมาได้ ยังใจดีช่วยทำแผลให้ด้วยนะ นั่นแหละน้ำใจฮูติหละ ครั้งก่อนนี้ก็หาข้าวหาปลาให้กินด้วย
-------------
https://www.youtube.com/watch?v=QIj4rJEqSag
Captured Saudi Soldier from Dood military post

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/VKJfvl2EBs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/2vOoUsQq7Lc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
สภาพเมือง Rabo'ah City จังหวัด Asir ทางภาคใต้ของซาอุดิอาระเบีย หลังจากถูกโจมตีทางอากาศราว 350 ครั้งโดยฝีมือของซาอุดิอาระเบียเอง หลังจากที่ถูกฝ่ายเยเมนยึดได้หลายพื้นที่ กลายเป็นว่า ฝ่ายที่ทำลายบ้านเรือนประชาชนของซาอุดิอาระเบียก็คือกองทัพซาอุดิอาระเบียเองซะงั้น เป้าหมายการโจมตีส่วนใหญ่งกองทัพเยเมนและฮูติในดินแดนของซาอุดิอาระเบียมีแต่ฐานที่มั่นทางทหารของข้าศึกเท่านั้น (31 ม.ค.59)
-----------------
https://www.youtube.com/watch?v=-VKJfvl2EBs
https://www.youtube.com/watch?v=2vOoUsQq7Lc

 

ปอกเปลือก ทรราช
มนุษย์ GMO กำลังจะเกิดขึ้นบนโลกนี้แล้ว



------------
วันที่ 1 ก.พ. 59 RT news พาดหัวข่าว BREAKING NEWS ตะกี้นี่เองว่า "นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษได้รับอนุญาตให้ทำการดัดแปลงพันธุกรรมของตัวอ่อนมนุษย์ได้ - คณะกรรมการควบคุมฯกล่าว" (UK scientists allowed to genetically modify human embryos – regulator)
รายงานข่าวกล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์อังกฤษได้รับไปเขียวให้ทำการปรับเปลี่ยนทางพันธุกรรมของตัวอ่อนมนุษย์ได้เป็นครั้งแรก การทดลงต่างๆจะจัดขึ้นโดยสถาบัน Francis Crick ในกรุงลอนดอน และจะทำให้ตัวอ่อน (embryos) ในช่วงเจ็ดวันแรกหลังจากมีการปฏิสนธิแล้ว (fertilization หมายถึงหลังจากที่เชื้ออสุจิเข้าไปอยู่ในรังไข่ของฝ่ายหญิงเรียบร้อยแล้ว)
นักวิทยาศาสตร์หวังว่า การวิจัยจะให้คำอธิบายต่างๆที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างผิดปรกติในการแท้งบุตร (miscarriages) และมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการเริ่มต้นของชีวิตมนุษย์
ขณะนี้ องค์กร Human Fertilization and Embryology Authority (HFEA) ได้อนุญาตให้มีการทดลองแล้ว โดยจะสามารถเริ่มต้นได้ภายในไม่กี่เดือน
แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะได้รับอนุญาตตามกฎหมายเพื่อให้มีการปรับแต่งตัวอ่อนของมนุษย์ (แต่) นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ฝังตัวอ่อนเข้าไปใน (ร่างกาย) ของผู้หญิง
Dr. Kathy Niakan นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นผู้นำในโครงการนี้ กล่าวว่าเมื่อต้นปีนี้ ตนเองต้องการที่จะเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของเป็นหาทั่วไปเช่นการแท้งบุตร และการมีบุตรยาก (infertility)
"พวกเราต้องการที่จะเข้าใจยีนส์ที่จำเป็นสำหรับตัวอ่อนของมนุษย์ในการพัฒนาที่ประสบผลสำเร็จในด้านสุขภาพของเด็ก จริงๆ เหตุผลที่ว่าทำไม มันถึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ก็เพราะว่าการแท้งบุตรและการมีบุตรยากเป็นปัญหาพื้นฐานที่สุด แต่ก็ไม่ได้มีความเข้าใจในปัญหาเหล่านี้ที่แท้จริง" Dr. Kathy Niakan กล่าว
Paul Nurse ผู้อำนวนการสถาบัน Francis Crick กล่าวกับ BBC news ว่าการวิจัยจะทำให้นักวิทยาศาสตร์มีความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราความสำเร็จในการผสมเทียม (IVF) ได้มากขึ้น
[ปัญหาก็มีอยู่ว่า แล้วจะเอาตัวอ่อนของมนุษย์ที่มีการดัดแปลงพันธุกรรมเหล่านั้นไปไว้ในครรภ์ของใคร? หมายถึงสิ่งมีชีวิตเพศเมียที่ไม่ใช่มนุษย์หนะ หรือว่า X-men จะเกิดขึ้นจริงๆ? เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า พวกนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นจะไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรมมากไปกว่าที่เขาบอกว่าเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการแท้งลูกเท่านั้น เอ… พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ทำให้นึกถึงหนังฮอลลิวูดเรื่อง "Hitman Agent 47" (2015) ขึ้นมาทันทีเลยนะนี่ ครั้งที่แล้วก็ยุง GMO จากอังกฤษ คราวนี้ก็มนุษย์ GMO กำลังจะเกิดขึ้นที่อังกฤษอีกอย่างนั้นหรือ? - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
01/02/2559
----------
https://www.rt.com/uk/330841-genetically-modified-human-embryos/

 

ปอกเปลือก ทรราช
เอาแล้วไง Erdogan และโอบาม่าวอนดีนัก รัสเซียประกาศว่าจะส่งเครื่องบินรบ Su-35s G4++ ไปออกศึกในซีเรียด้วย



------------
วันก่อน ตุรกีออกออกมากล่าวหารัสเซียโดยปราศจากหลักฐานพิสูจน์ใดๆว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-34 ของรัสเซียละเมิดน่านฟ้าของตุรกี ตุรกี นาโต้ สหรัฐฯ ขอเตือนว่ารัสเซียอย่าทำอย่างนั้นอีก ผลที่จะตามมาอาจจะคาดไม่ถึงก็ได้ รัสเซียก็ออกมาปฏิเสธและบอกว่าเอาหลักฐานมาสิน้อง อย่าสักแต่ว่าผายลมทางปากเท่านั้น ใครกันแน่ที่จะคาดไม่ถึงหนะ อ่านข่าวนะครับว่ารัสเซียจะมีทีเด็ดอะไรไปสั่งสอนตุรกีและนาโต้บ้าง
วันที่ 1 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียเตรียมส่งเครื่องบินรบ Su-35s (นาโต้เรียกว่า Flanker-E) รุ่นล้ำยุคเข้าไปในซีเรีย" (Russia Prepares to Test Next-Generation Su-35S Fighters in Syria) สื่อฯรัสเซียเกริ่นนำว่า เครื่องบินหลากบทบาท Su-35s รุ่นใหม่ของรัสเซียจะผ่านการล้างบาป (baptism) ด้วยไฟในซีเรีย แหล่งข่าวทางทหารกล่าว [ว้าวววว งานนี้รัสเซียเอาจริงนะครับ - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่า รัสเซียกำลังเตรียมจะทำการทดลองเครื่องบินรบ Su-35S เน็กซ์เจนเนอเรชั่นเป็นครั้งแรกในการต่อสู้ในซีเรีย แหล่งข่าวทางทหารกล่าวกับหนังสือพิมพ์ของรัสเซีย
"กองเสธนาธิการทหารได้ตัดสินใจที่จะทำการทดลองภาคสนามให้กับเครื่องบินรบ Su-35s ใหม่เอี่ยมในซีเรีย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์" หนังสือพิมพ์ Kommersant กล่าว
ตามข้อมูลที่ได้รับโดยหนังสือพิมพ์ดังกล่าวนั้น เครื่องบินรบ (Su-35s) จำนวน 4 ลำได้การส่งมอบให้กับกองทัพอากาศของรัสเซียเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา เมื่อหลายวันก่อน ก็ได้มีการขนส่งเครื่องบินเหล่านั้นผ่านอิหร่านและอิรัคไปยังฐานทัพอากาศของรัสเซียที่สนามบิน Hmeymim ในจังหวัด Latakia ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
Su-35s เป็นรุ่น G4++ นักบินเดี่ยว ซึ่งได้รับการอัพเกรดมาจากเวอร์ชั่นของเครื่องบินรบหลากบทบาท Su-27 รัสเซียมีจุดประสงค์ในการพัฒนาฮาร์ดแวร์ทางกองทัพของตนเองให้มีความทันสมัยภายในปี 2020 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกเครื่องขยาดใหญ่ให้กับกองทัพของตนเอง
เครื่องบินรบรุ่นนี้มีคุณลักษณะโดดเด่นที่มีความสามารถในการควบคุมการบินที่ล้ำหน้า (supermaneuverability) และมีคุณสมบัติของอากาศยานรุ่นที่ 5 (5 generation / G5) ด้วย
ปัจจุบันนี้รัสเซียมี Su-35s ประจำการอยู่ 40 ลำ และสั่งเพิ่มอีก 50 ลำเมื่อต้นเดือนมกราคมปีนี้เอง (รุ่นที่ส่งเข้าไปในซีเรียนี้น่าจะเป็นรุ่นปรับปรุงล่าสุด) จีนได้สั่งซื้อ Su-35s จำนวน 24 ลำเมื่อปีที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เครื่องบินรบรุ่นนี้รัสเซีย โหด ดุ เหนือกว่า Rafale ของฝรั่งเศสที่กำลังเหินอยู่แถวตะวันออกกลางอยู่ในขณะนี้ และ Eurofighter 2000 ของอังกฤษ ซึ่งรวมทั้ง F-15, F-16 และ F-18 ของสหรัฐฯด้วย และ Su-35s ของรัสเซียยังสามารถที่จะต่อกรกับเครื่องบินรบรุ่นที่ 5 อย่าง F-35 และ F-22A ของสหรัฐฯได้อีกด้วย
[รูปทรง ปราดเปรียว สวยงามมาก ดูในคลิปในส่วนของคอมเมนท์นะครับ รัสเซียจะเอาเครื่องบินรบศักยภาพสูงขนาดนั้นไปปราบไอซิสกลางอากาศหรือไงครับ? เปล่าครับ เอาไว้เด็ดหัวพวกลูกพี่ไอซิสต่างหากหละ ทำเป็นอ้างว่าส่งเครื่องบินรบเข้าไปปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายดาอิชในซีเรีย วันไม่ดีคืนไม่ดีก็มีข่าวว่าเครื่องบินรบของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดโจมตีฐานทัพของกองทัพซีเรียซะงั้น วอนแล้วไหมหละ นกรู้ด้วยนะ คือไปโจมตีแถวภาคตะวันออกที่อยู่นอกรัสมีของระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 โน่น
เมื่อสัมปดาห์ก่อน ทางเพนตาก้อนออกมาเรียกร้องให้พันธมิตรของตนเองส่งกองกำลังเข้าไปรบในซีเรีย แต่ตัวเองกล้าๆกลัวๆ และสหรัฐฯและนาโต้ก็ปล่อยข่าวมาได้สักพักแล้วว่าจะส่งกองกำลังเข้าไปถล่ม (ทางอากาศ) ในลิเบียอีกรอบ ไม่รู้ว่าลับลวงพรางอีกหรือเปล่า? งานนี้รัสเซียไม่ยอมตกหลุมพรางแน่ เพื่อความปลอดภัย ปูตินจึงส่งฝูงบินรุ่นที่ทันสมัยที่สุด (รองจาก T-50 ที่ยังไม่ได้ผลิตอย่างเป็นทางการ) เข้าไปประจำการเสริมในซีเรียซะเลย ดูซิว่าใครจะร้องเจี๊ยก! บ้่าง - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
01/02/2559
----------
Russia Prepares to Test Next-Generation Su-35S Fighters in Syria
https://thedefencejournal.wordpress...-gets-ready-for-the-paris-air-show-in-france/
Su-35S overtakes American F-22 in terms ‘intellect’ | Russia Beyond the Headlines
https://en.wikipedia.org/wiki/Sukhoi_Su-35
Russia deploys Su-35 fighters to Syria | Defence blog
https://www.youtube.com/watch?v=4EmHoRGm4_w

 

ปอกเปลือก ทรราช
ตุรกียิงปืนใหญ่ข้ามชายแดนโจมตีใส่บ้านเรือประชาชนชาวซีเรียในจังหวัดลาตะเกียมีผู้เสียชีวิต ทำไมถึงทำอย่างนั้นหละครับคุณ Erdogan?



-------------
วันที่ 1 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ตุรกียังปืนใหญ่ถล่มจังหวัด Latakia รายงานข่าวบอกมีการสูญเสียชีวิต - กรุงดามัสกัส" (Turkish Artillery Shells Latakia Province, Casualties Reported - Damascus)
การยิงปืนใหญ่จากฝั่งตุรกีใส่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัด Latakia ทางภาคเหนือของซีเรียเมื่อวันจันทร์นี้ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตพลเรือน กระทรวงต่างประเทศของซีเรียกล่าว
เช้าวันจันทร์ สถานีโทรทัศน์ Al Mayadeen TV ของเลบานอนรายงานว่า มีทหารซีเรียถูกสังหาร และอีกห้านายได้รับบาดเจ็บจากการยิงปืนใหญ่ถล่มจากดินแดนของตุรกี
"ทางการตุรกีจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการยิงปืนใหญ่ใส่เมือง Jabal Oteira ในจังหวัดลาตะเกีย ซึ่งก่อให้เกิดการเสียชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ด้วย" กระทรวงต่างประเทศ (ของซีเรีย) ออกแถลงการณ์ อ้างโดยสำนักข่าว SANA ของซีเรีย
ในขณะเดียวกันทางกระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้กล่าวเมื่อวันจันทร์นี้ว่า รัสเซียได้รับคลิปวีดีโอที่พิสูจน์ว่าพื้นที่ที่มีพลเรือนชาวซีเรียอาศัยอยู่ ถูกโจมตีจากการยิงปืนใหญ่ถล่มจากฐานที่มั่นในชายแดนฝั่่งตุรกี
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียคาดหวังคำอธิบายจากนาโต้ เพนตาก้อน และกองทัพของตุรกี เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Igor Konashenkov โฆษกกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์ตอบโต้ในวันจันทร์
[ฝันไปเถอะว่า นาโต้ เพนตาก้อน และตุรกีจะอธิบาย พวกเดียวกันทั้งนั้น มีหลักฐานโต้งว่าตุรกีมีเอี่ยวกับการค้าน้ำมันเถื่อนกับพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส แต่นาโต้ก็ยังอมสากเฉยเลย มีแต่จะปรบมือให้กับตุรกีสิไม่ว่า - ผู้แปล]
โฆษกกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า ได้รับคลิปวีดีโอเมื่อเร็วๆนี้ จากฝ่ายเสนาธิการของกองทัพซีเรีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึง "อาวุธปืนใหญ่อัตตาจร (self-propelled heavy artillery weapons ) ที่ประจำการอยู่ในฐานที่มั่นของตุรกีอย่างน่าสงสัย" (https://www.youtube.com/watch?v=7ud1fc9madA)
[สถานการณ์เดียวกันนี้ ทางเว็บไซต์ของพวกกบฏฝ่ายค้านซีเรีย (FSA) ก็ลงข่าวแบบหนังคนละม้วนว่า รัสเซียและปธน.อัสซาดยิงปืนใหญ่ถล่มค่ายผู้ลี้ภัยในจังหวัด Latatkia ใกล้ชายแดนของตุรกีโดยอ้างคำพูดของ Ammar Ibrahim นักกิจกรรมที่แชร์คลิปวีดีโอออกมาในโซเชียลซึ่งมีภาพควันไฟเกิดขึ้นหลายจุด โดยกล่าวว่ามีประชาชนหลายคนได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่มีรายงานการเสียชีวิต
องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน (Observatory for Human Rights) ที่นั่งเทียนเขียนอยู่ที่กรุงลอนดอน หนึ่งในกระบอกเสียงขาประจำของกบฎฝ่ายค้านซีเรียและของพันธมิตรตะวันตกนำโดยสหรัฐฯได้กล่าวหากองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย และเรียกร้องให้ปธน.อัสซาดแสดงความรับผิดชอบ ส่วนสื่อฯอื่นๆก็พากันตำหนิรัสเซียที่กระทำในนามของรัฐบาลซีเรียเกี่ยวกับปฏิบัติการปราบปรามผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย Vice News (โปร-กบฎฝ่ายค้านซีเรีย) รายงาน
แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กรณีที่กองบัญชาการกลางกองทัพสหรัฐฯ (CENTCOM) เพิ่งจะออกมายอมรับว่าการโจมตีทางอากาศจากฝ่ายพันธมิตรนาโต้นำโดยสหรัฐฯในอิรัคและซีเรีย ได้ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตเช่นกัน หลังจากที่พยายามบ่ายเบี่ยงที่จะเปิดเผยข้อมูลมานาน RT news รายงาน
ก่อนหน้านี้เคยตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า เมื่อใดที่กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียรุกคืบเข้าไปใกล้ชายแดนของตุรกี ก็จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น กล่าวคือทางตุรกียิงปืนใหญ่หรือจรวดหรือปืนครกข้ามชายแดนเข้ามาในฝั่งซีเรียแทน จุดนี้ไม่ได้อยู่ในเขตของชาวเคิร์ด PYG ในซีเรีย เป็นอีกจุดหนึ่งที่อยู่ติดกับชายแดนของตุรกี และตอนนี้กองกำลังพันธมิตรฝ่ายซีเรียด้วยการสนับสนุนทางอากาศจากรัสเซียก็กำลังไล่ต้อนกลุ่มก่อการร้ายให้ถอยร่นไปยังชายแดนตุรกี-ซีเรียมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อลูกน้องโดนถล่มหนักเข้า ลูกพี่จะเอาเครื่องบินรบขึ้นบินไปช่วยก็ทำไม่ได้ เพราะว่าเจอยันตร์ S-400 ของรัสเซียสะกดไว้ จุดนี้อยู่ในรัศมีทำการของ S-400 ซะด้วย ซวยหนักเข้าไปอีกเมื่อรัสเซียส่งฝูงบินล้ำสมัย G4++ อย่าง Su-35s เข้าไปเสริมทัพให้กับกองทัพอากาศของรัสเซียในซีเรียด้วย
ส่วนการเจรจารระหว่างยูเอ็นกับฝ่ายค้านซีเรียที่มีซาอุดิอาระเบีย ตุรกี และสหรัฐฯหนุนหลังก็ทำท่าจะไปไม่รอด นั่นไม่ใช่จุดที่ฝ่ายรัสเซียจะกังวล เพราะว่าตอนนี้สถานการณ์ภาคพื้นดินนั้น ฝ่ายรัฐบาลและรัสเซียได้เปรียบเป็นอย่างมาก แถมได้เคิร์ดมาเป็นพันธมิตรด้วย กบฏฝ่ายค้านซีเรียและผู้ก่อการร้ายรวมทั้งผู้ที่ให้การสนับสนุนทั้งหลายจึงตกที่นั่งลำบาก - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
02/02/2559
----------
Turkish Artillery Shells Latakia Province, Casualties Reported - Damascus
Turkey Shells Civilian Homes on Syrian Border, Russian MoD Has Video Proof
https://www.rt.com/news/330858-turkey-shells-syrian-territory/
https://news.vice.com/article/russi...lling-syrian-refugee-camp-near-turkish-border
https://www.rt.com/news/330932-turkey-shelled-syria-border/
Farsnews
https://www.rt.com/usa/330664-centcom-syria-civilian-deaths/

 

ปอกเปลือก ทรราช
เอ่เอ๋... สหประชาชาติเรียกร้องให้ตุรกีตรวจสอบการยิงพลเรือนในตุรกี, ยูเครนประกาศจะส่งกองทัพไปฉะกับรัสเซียในสนามรบซีเรีย พูดจริงอ่ะ? งั้นก็ให้ไวครับเลยครับ รัสเซียรออยู่, สหรัฐฯขู่อีกรอบว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย และอิรัค


-------------
มาติดตามข่าวในตะวันออกกลางเกี่ยวกับซีเรียต่อนะครับ มีอยู่หลายข่าวที่น่าสนใจ เดี๋ยวจะเล่าแบบสรุปบ้างเป็นบางข่าวให้ฟังกันนะครับ
1.) เริ่มที่ข่าวนี้เลย วันที่ 1 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ช็อคสุดขีด!: ยูเอ็นเรียกร้องให้ตุรกีตรวจสอบการยิงพลเรือน" ('Extremely Shocking': UN Urges Turkey to Investigate Shooting of Civilians) ส่วน RT news พาดหัวข่าวว่า "ประธานด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นเรียกร้องให้ตุรกี 'ทำการตรวจสอบโดยฉับพลัน' ต่อกรณีการยิงประชาชนที่ไม่มีอาวุธในเมือง Cizre" (UN rights chief urges Turkey to 'promptly investigate' shooting of unarmed people in Cizre)
[แหม… กว่าจะงัดสากออกจากปากได้นะ ว่าแต่ว่าจะให้ใครตรวจสอบหรือครับท่านประธานสิทธิ์ฯยูเอ็น? ให้ทางการภายใต้การนำของ Erdogan ตรวจสอบการกระทำของตัวเองนี่นะ? ตกลหละครับ ร้อยทั้งร้อย Erdogan ก็จะบอกว่า ไม่มีการสูญเสียดังกล่าว ผู้ที่เสียชีวิตคือผู้ก่อการรร้าย แง๋มๆ นาโต้ถูกต้องเสมอ - ผู้แปล]
อ่านข่าวนะครับ รายงานข่าวบอกว่า ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้ตุรกีตรวจสอบการยิงประชาชนที่ไม่มีอาวุธ ตามที่มีคลิปปรากฎเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Zeid Ra'ad Al Hussein ได้เรียกคลิปวีดีโอดังว่า "ตกตะลึง" (shocking) และเรียกร้องให้ตุรกีดึงบังเหียนกองกำลังรักษาความปลอดภัยของตนเองให้ดี
"วันนี้ ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้ทางการตุรกีเคารพต่อสิทธิ์มนุษยชนขั้นพื้นฐานของพลเรือน ในปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยของตุรกี และให้มีการตรวจสอบโดยทันทีต่อการยิงปืนใส่กลุ่มประชาชนที่ไม่ติดอาวุธตามที่มีการกล่าวหา ในเมือง Cizre ภาคตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากมีคลิปวีดีโอที่น่าตกใจปรากฎออกมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา" Zeid กล่าวกับผู้สื่อฯข่าวเมื่อวันจันทร์
[ก็ทางการตุรกีเป็นฝ่ายออกคำสั่งให้ปราบปรามชาวเคิร์ดในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีเอง จะให้ทางการของตุรกีตรวจสอบนี่นะ คิดหรือว่าจะได้พบความจริง? ขนาดการค้าน้ำมันเถื่อนมีหลักฐานโต้งๆ พี่แกก็ยังปฏิเสธหน้าตาเฉย แล้วคิดหรือว่าตุรกีจะยอมรับเรื่องนี้? - ผู้แปล]
Zeid อ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มกราคมในเมือง Cizre ซึ่งมากลุ่มประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวน 10 คน - ซึ่งรวมทั้งนักการเมืองฝ่ายค้านอีกสองคนด้วย - ถูกยิงปืนโจมตีในขณะที่กำลังให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้
นาย Zeid กล่าวว่า คลิปวีดีโอที่มีการเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แสดงภาพชายคนหนึ่งและผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถือธงขาวและเข็นรถราก - อาจจะกำลังขนร่างผู้เสียชีวิต - ข้ามถนนในขณะที่กำลังถูกจับตามองจากยานพาหนะติดอาวุธของกองทัพ (ตุรกี)
"ในขณะที่พวกเขาข้ามไปยังถนนอีกฝั่งหนึ่งได้แล้ว ก็ปรากฎอย่างชัดเจนว่ามีห่ากระสุนปืนยิงตัด (ขบวน) ของพวกเขา" Zeid กล่าวในแถลงการณ์ Zeid ได้แสดงความกังวลใจว่า ตากล้อง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในการยิงในครั้งนี้ อาจจะถูกจับกุมภายใต้ "การจำกัดสิทธิ์ของสื่อฯ (/ควบคุมสื่อฯ)" (clampdown on media) ก็ได้ การถ่ายภาพที่โหดร้ายไม่ใช่อาชญากรรม แต่การยิงปืนใส่พลเรือนที่ไม่มีอาวุธ เป็นอาชญากรรมแน่นอน
รายงานข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า ศาลรัฐธรรมนูญของตุรกีได้ยืนยันเมื่อวันศุกร์นี้ว่า ได้มีคำสั่งให้ระงับบุคคลากรหน่วยพยาบาลไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ ซึ่งเป็นอันตรายมากที่จะเข้าถึงผู้ได้รับบาดเจ็บ Today's Zaman รายงาน ปธน. Tayyip Erdogan ของตุรกี ได้ออกมาปฏิเสธว่าเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ไม่ได้ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ โดยเรียกรายงานเหล่านั้นว่า "โกหกทั้งเพ"
องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของตุรกี (Turkish Human Rights Foundation - TİHV) รายงานว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 198 คน ซึ่งรวมทั้งเด็ก 39 คนด้วย ในพื้นที่การสู้รบภายใต้การประกาศเคอร์ฟิวตั้งแตเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
[ไม่แน่ใจว่าเคยลงคลิปนี้ให้ดูในเพจนี้หรือยัง แต่หลังจากที่คลิกเข้าไปดูตามลิ้งค์ที่ RT ได้ให้ไว้ ก็มีความรู้สึกว่าคลิปนี้เคยผ่านตามาแล้ว ให้ดูจากลิ้งค์อ้างอิงในตอนท้ายของข่าวนี้ สรุป… Erdogan ปฏิเสธดะ ไม่จริ๊งไม่จริง เอาอะไรที่ไหนมาพูด แหม… ดูในคลิปแล้ว เลือดอาบพื้นถนนเลยนะครับ เสียงปืนดังลั่น ฝูงคนพากันวิ่งหนีความตายหาที่หลบภัยกันจ้าละหวั่น หลักฐานทนโธ่บอกว่าเป็นเรื่องโกหกนี่นะ แล้วเรื่องจริงคืออะไรครับ? ก็เรื่องที่ Erdogan เป็นฮีโร่ในการโทรไปคุยกับชายคนหนึ่งที่กำลังจะกระโดดสะพานข้าตัวตายไง ยังกะหนังฮอลลิวูดแหนะ - ผู้แปล]
2.) คราวนี้มาดูข่าวที่สองกันบ้าง วันที่ 1 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ยูเครนกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย - รายงานข่าวกล่าว" (Ukraine Mulling Military Deployment to Syria – Reports)
[Seriously จริงอ่ะ? งั้นก็ให้ไวครับเลยครับ รัสเซียรออยู่ จะได้คิดทบต้นทบดอกจากศึกยูเครนตะวันออกในซีเรียนี้ซะเลย ว่าแต่ว่ายูเครนจะสังกัดฝ่ายไหนหละนั่น? ฝ่ายไอซิสหรือว่าฝ่ายต่อต้านไอซิสหละครับ? แต่ถ้าจะส่งกองกำลังเข้าไปก็จะต้องได้รับอนุญาตจากฝ่ายรัฐบาลซีเรียซะก่อนนะ ไม่งั้นเกิดอะไรขึ้นจะไม่สามารถเคลมประกันได้ย้อนหลังได้นะครับ - ผู้แปล]
กระทรวงกลาโหมของยูเครนกำลังพิจารณาเกี่ยวกับการส่งกองทัพของตนเองเข้าไปต่อสู้กลุ่มก่อการร้ายดาอิชในซเรีย ตามคำร้องขอจากประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก้ หนังสือพิมพ์ของอังกฤษอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนซึ่งกล่าวเมื่อวันอาทิตย์นี้
[ตามไปดูจากสำนักข่าวของอังกฤษจอมเต้าข่าวรายวัน เดี๋ยวจะหาว่าสื่อฯรัสเซียใส่ร้ายยูเครนและอังกฤษ แอ่นแอ๊นนนน! The Independent พาดหัวข่าวในวันที่ 1 ก.พ.59 ว่า "ยูเครนวางแผนเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ไอซิส ซึ่งหมายความว่ากองทัพอาจจะจบลงที่การต่อสู้กับรัสเซียในซีเรีย" (Ukraine plans to join fight against Isis means troops could come up against Russian forces in Syria) ว้าววว จริงด้วย ที่บอกว่าจริงนี้หมายถึง สื่อฯของอังกฤษลงข่าวนี้จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าข่าวที่ลงนั้นจริงหรือไม่ เชิญอ่านต่อนะครับ - ผู้แปล]
รายงานข่าวกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่การสนับสนุนทางทหารของยูเครนต่อกองกำลังพันธมิตรนานาชาตินำโดยสหรัฐฯ ที่กำลังมีปฏิบัติการอยู่ในตะวันออกลาง จะได้รับการหารือกันระหว่างที่นาย Ashton Carter รมว.กลาโหมของสหรัฐฯเดินทางไปเยือนยูเครนในสัปดาห์นนี้ The Independent กล่าว
"พวกเราได้เตรียมช่องทางของตัวเลือกต่างๆสำหรับการสนับสนุนของพวกเราในการต่อต้านไอซิส [ดาอิช] ซึ่งรวมทั้งในซีเรีย ซึ่งอาจจะรวมถึงกองทัพด้วย มันอาจจะมีผลทำให้เกิดการปะทะกันดับพวกรัสเซียก็ได้" สื่อฯอังกฤษอ้างคำพูดของแหล่งข่าว (ผีบอก ตามเคย)
[รัสเซียไม่ได้ส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองเข้าไปปฏิบัติการในซีเรีย มีแต่กองทัพอากาศเท่านั้น ส่วนหน่วยรักษาความปลอดภัยภาคพื้นดินนั้นประจำอยู่ที่ฐานทัพอากาศในจังหวัด Latakia ไม่ได้ไปสู้รบกับผู้ก่อการร้าย ยกเว้นตอนที่ส่งหน่วยรบพิเศษเข้าไปกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือนักบินจาก Su-24 หลังจากที่ถูกเครื่องบินรบของตุรกียิงตกในซีเรียและถูกปิดล้อมด้วยฝ่ายที่เรียกตัวเองว่ากบฏฝ่ายค้านซีเรีย สมุนของตุรกี
ถ้ายูเครนส่งกองทัพของตนเองเข้าไปในซีเรียจริง หลังจากที่ยังไม่เข็ดจากศึกดอนบาสส์เมื่อปลายปี 2014 ถึงต้นปี 2015 ที่ผ่านมา จะไปต่อสู้หรือปะทะกับกองทัพของรัสเซียได้อย่างไร ยูเครนจะยอมส่งฝูงบินรบของตนเองซึ่งซื้อมาจากรัสเซียไปต่อกรกับรัสเซียอย่างนั้นหรือ? คิดให้ดีนะ ขนาดสหรัฐฯยังต้องรีบขนเครื่องบินรบของตัวเองออกจากฐานทัพของตุรกีโดยด่วนเลยหลังจากที่รัสเซียติดตั้ง S-400 ในซีเรีย ถ้ายูเครนส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย ฝ่ายที่จะต่อสู้กับทหารยูเครนก็จะมีแต่ทหารซีเรียและอิหร่าน นักรบเฮชบอลเลาะห์ เท่านั้น ส่วนรัสเซียก็หย่อนระเบิดจากทางอากาศใส่แทน ไม่คุ้มนะครับท่านโปโรเชนโก้ Think twice! คิดผิดคิดใหม่ได้นะ - ผู้แปล]
3.) วันที่ 1 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "กระทรวงกลาโหมของยูเครนปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่ายูเครนวางแผนจะเข้าร่วมการต่อสู้ดาอิช" (Ukraine Defense Ministry Denies Claims of Plans to Join Fight Against Daesh)
"รายงานข่าวที่ปรากฎในสื่อฯบางฉบับ [ก็บอกไปสิว่า The Independent ของอังกฤษขี้แหล - ผู้แปล] เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมที่อาจจะเป็นไปได้ของกองทัพบกยูเครนตามที่มีการกล่าวหาเพื่อต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนข่าว (disinformation) และกำลังมีการทำสงครามไฮบริดกับยูเครน" กระทรวง (กลาโหมของยูเครน) กล่าวในแถลงการณ์ ปฏิเสธการมีส่วนร่วมใดของกองทัพในซีเรียหรืออิรัค - จบข่าว
[อะไร! หลังจากที่กลาโหมของรัสเซียออกมายืนยันว่า รัสเซียได้ส่งฝูงบินรบ Su-35s จำนวน 4 ลำเข้าไปในร่วมปฏิบัติการทางอากาศต่อต้านไอซิสเมื่อวานนี้ ทำไมรีบเปลี่ยนใจกันเร็วจังหละนี่? คิดถูกแล้วครับท่าน ปธน.โปโรเชนโก อย่ารนหาที่ดีกว่า หมายถึงว่าอย่าเสี่ยงดีกว่านะครับ - ผู้แปล]
4.) แถมให้อีกซักข่าวนะครับ... 2 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "ดูเหมือนว่ามีความจำเป็นที่สหรัฐฯและพันธมิตรต้องเพิ่มกองกำลังเพื่อต่อสู้ไอซิสมากขึ้น - ผู้บัญชาการกองทัพจากเพนตากอนกล่าว" (More US, coalition forces likely needed to fight ISIS – Pentagon commander)
ผู้บัญชาการระดับสูงในกองทัพสหรัฐฯที่ปฏิบัติการอยู่ในอิรัคและซีเรีย กล่าวว่า "มีความเป็นไปได้พอสมควร" (good potential) ที่กองกำลังของอเมริกาและพันธมิตรจะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิส [ครั้งที่สิบแล้วมั๊งที่เพนตาก้อน ออกมาพูดแบบนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คาร์เตอร์ได้ออกมาเรียกร้องให้พันธมิตรตะวันตกส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปตายแทนทหารสหรัฐฯ แต่ทางยุโรปไม่รับมุก ล่าสุดพี่แกก็เลยออกมาขู่ว่า ส่งไปเองก็ได้ฟระ! - ผู้แปล]
พล.ท.Sean MacFarland จากกองทัพบกของสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวในเพนตากอนเมื่อวันจันทร์นี้ว่า ตนเองกำลังสำรวจช่องทางเพื่อที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อกลุ่มก่อการร้ายไอซิส สำนักข่าว Associated Press รายงาน
"บางคนอาจจะเรียกร้องให้พวกเขาเร่งแคมเปญจ์ที่อาจจะอนุญาตทำให้พวกเราเพิ่มแรงกดดันต่อศัตรูก็ได้" MacFarland กล่าวผ่านการประชุมเทเลคอนเฟอร์เร้นซ์ (teleconference) "ไม่จำเป็นที่จะให้เหมือนกับการส่งกองกำลังภาคพื้นดินของอเมริกันเข้าไป มันอาจจะเป็นกองกำลังพันธมิตรภาคพื้นดินก็ได้ มันอาจจะเป็นศักยภาพที่ไม่จำเป็นต้องมีจำนวนของกองกำลังภาคพื้นดินอย่างมีนัยก็ได้"
[ก็ส่งโอบาม่า แคร์รี่ และคาร์เตอร์เข้าสิครับท่านนายพล ง่ายที่ซู๊ดดดดด พูดไปพูดมาก็เหมือนไม่ได้พูดอะไร เพราะว่าเอาแน่เอานอนอย่างชัดเจนไม่ได้ สหรัฐฯหนะอยากจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย แต่ไม่ใช่ของตนเอง เพราะว่าศึกนี้ไม่ใช่การต่อสู้กับซัดดัม หรือกัดดาฟี่ แต่เป็น "ปูติน" มันไม่ง่ายอย่างที่แล้วมานะสิครับ อ้อ… หรือว่าพี่แกกำลังหาทางยุให้โปโรเชนโก้ส่งทหารยูเครนเข้าไปลุยแทน แต่กลาโหมของยูเครนออกมาปฏิเสธแล้วนะ จ๊อบนี้ขอผ่านครับนาย ไม่ไหวจริงๆ ว่าแต่ว่า เมื่อไรจะส่งเงินกู้ IMF รอบใหม่มาให้น้องยูเครนอีกหละครับ? - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
02/02/2559
----------
https://www.rt.com/news/330873-turkey-kurds-shooting-un/
https://www.rt.com/news/329793-alleged-kurd-civilian-shooting/
http://sputniknews.com/europe/20160....farsnews.com/newstext.aspx?nn=13941112001885
https://www.youtube.com/watch?v=49fJlvjwbl4
'Extremely Shocking': UN Urges Turkey to Investigate Shooting of Civilians
https://www.rt.com/usa/330949-usa-coalition-forces-isis/
US Commander: More US, Coalition Forces Likely to Fight IS - ABC News

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/6B5Gw4CIANI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เต็มๆครับท่าน! กองทัพอากาศรัสเซียทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายกองบัญชาการของกลุ่มก่อการร้ายและคลังน้ำมันของไอซิสในซีเรีย ในพื้นที่จังหวัด Latakia และจังหวัด Hama เห็นไหมหละคุณ Erdogan ดันไปแหย่หมีดุเข้าให้ อยู่ดีไม่ว่าดีไปกล่าวหาใส่ร้ายเขาว่าโจมตีค่ายผู้ลี้ภัย ทั้งๆที่เป็นฝีมือของตุรกีแท้ๆ ลูกกระเป๋งของตัวเองในซีเรียก็เลยโดนบอมบ์ต่อหน้าต่อตาแบบนี้
-----------------
https://www.youtube.com/watch?v=6B5Gw4CIANI

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/Q0tFXqfW4RQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

กองทัพซีเรียส่งสไนเปอร์หญิงจากกองพัน al-Sotoro เข้าประจำการในเมือง Al-Qamishli ในจังหวัด al-Hasakah ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย ใกล้เขตชาวเคิร์ด สำหรับเด็ดหัวของขบวนการก่อการร้าย ฝ้นร้ายของสหรัฐฯและพันธมิตรรวมทั้งพวกกบฏสายกลางซีเรียที่ต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลด้วย
------------
https://www.youtube.com/watch?v=Q0tFXqfW4RQ

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯและญี่ปุ่นหน้าแตกยับ หลังจากที่กล่าวหาเกาหลีเหนือว่ากำลังจะทดลองขีปนาวุธพิศัยไกล เกาหลีเหนือชี้แจงต่อยูเอ็นว่า ไม่ใช่ขีปนาวุธ แต่เป็นการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรรอบโลก แผนในการขอเพิ่มงบประมาณกลาโหมของสหรัฐฯก็เลยแห้ว!



-------------
1.) วันที่ 2 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เพนตากอนขอเงินหลายพันล้าน (อ้าง) เพื่อสนับสนุนพันธมิตรนาโต้ในยุโรป - คาร์เตอร์กล่าว" (Pentagon Requests Billions to Support NATO Allies in Europe - Carter)
กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ จะระดมเงินทุนสี่เท่าเพื่อสนับสนุนกองทัพในยุโรปและจำขอเพิ่มงบประมาณจำนวน 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2560 เพื่อสนับสนุนพันธมิตรนาโต้ในภูมิภาพ นาย Ashton Carter รมว.กลาโหมของสหรัฐฯกล่วในงาน Economic Club กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวันอังคารนี้
[ใกล้จะหมดสมัยของโอบาม่าในการเป็นรัฐบาลแล้ว ต้องขยันหาข้ออ้างในการทำมาหากินให้เร็ว ไม่งั้นอด ว่าแต่ว่า สหรัฐฯจะไปหาเงินมาจากไหนหละครับ หนี้ท่วมหัวเลยนะนั่นหนะ? สหรัฐฯผู้รักสันติ กลับพยายามขยายศักยภาพทางกองทัพเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่เบื่อสงครามบ้างหรือครับคุณคาร์เตอร์ ไม่เบื่อกระสุน ไม่เบื่อลูกระเบิดบ้างรึ? ไม่สงสารประชาชนทั่วไปที่เสียชีวิตจากสงครามที่สหรัฐฯและพันธมิตรเป็นผู้ก่อในต่างประเทศบ้างหรือ? - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่า นอกจากนี้แล้ว คาร์เตอร์ยังได้ติดป้ายประกาศว่ารัสเซียเป็นหนึ่งในความท้าทายใหม่สูงสุดห้าอันดับสำหรับกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯด้วย ในรายชื่อดังกล่าวประกอบด้วย จีน เกาหลีเหนือ อิหร่าน และขบวนการก่อการร้ายไอซิส
[ตรงนี้ ในอีกมุมหนึ่งแสดงให้เห็นถึงอาการเหงื่อตก หวาดผวาของจักรรดิเฮเกเจ้าโลกที่กำลังจะเสื่อมอำนาจ สหรัฐฯกำลังกลัวจีน รัสเซีย อิหร่าน หรือแม้แต่คิมน้อยแห่งเกาหลีเหนือ ถ้าใครพัฒนาอะไรเกินหน้าเกินตาหรือดีกว่าสหรัฐฯ พี่แกก็จะมองว่าเป็นภัยคุกคามหรือความท้าทาย แล้วแต่จะเลือกใช้สำนวนโวหารหรือวาทกรรม ทันที - ผู้แปล]
"การลงทุนระยะสั้นในงบประมาณก็คือ พวกเราจะเสริมกำลังการวางตัวในยุโรปเพื่อสนับสนุนพันธมิตรนาโต้ได้อย่างไร... หลังจากที่ของบประมาณราว 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯไปเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ พวกเรากำลังจะเพิ่มขึ้นอีกสี่เท่า ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2017" คาร์เตอร์กล่าว
เจ้ากระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯอธิบายว่า "การเพิ่มงบประมาณจำนวนมากในกองทัพสหรัฐฯในยุโรปมีความจำเป็น ในการเผชิญหน้ากับความก้าวร้าวของรัสเซีย (…in the face of Russia’s aggression)"
[มุกนี้อีกแล้วครับท่าน ข้ออ้างในการเพิ่มงบประมาณทางกองทัพของสหรัฐฯและยุโรปด้วยการอ้าง "ความก้าวร้าว/การรุกราน จากรัสเซีย" ได้ผลทุกที หลายประเทศเคยทำสำเร็จมาแล้ว ขยาดลงทุนถ่ายภาพเรือลากจูงของเอกชนในช่วงเวลาพลบค่ำยังบอกว่าเป็นเรือดำน้ำของรัสเซีย ทำให้มีการระดมกองทัพเพื่อออกล่าเรือดำน้ำของรัสเซียที่มโนขึ้นมา หลังจากที่สภาผ่านงบประมาณกลาโหมก้อนโตให้แล้ว ก็ออกมาสารภาพว่า ภาพดังกล่าวไม่ใช่เรือดำน้ำของรัสซีย เป็นเรือพาณิชย์ของเอกชน ซะงั้น
ล่าสุดทางนอร์เวย์ก็อ้างว่าประเทศของตนเองจะเข้าสู่ภาวะสงครามในอีกไม่กี่ปี จะต้องรีบเพิ่มงบประมาณกลาโหม คราวนี้ก็ถึงคราวคาร์เตอร์ออกโรงอีก รัสเซียกับเกาหลีเหนือก้าวร้าว! อึ่มมมม มุกนี้ขลังครับ - ผู้แปล]
2.) คราวนี้มาดูกรณีของเกาหลีเหนือตามที่ได้ตั้งชื่อเรื่องนี้ไว้ข้างบนกันบ้างนะครับ วันที่ 2 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เป็นการละเมิดอย่างร้ายแรง: สหรัฐฯโวยวายแผนการปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนือ" ('Egregious Violation': US Slams North Korea’s Plans for 'Satellite Launch')
สหรัฐฯได้เตือนออกคำเตือนว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมที่จะทำการปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกล โดยไม่สนใจแถลงการณ์อย่างเป็นทางการที่เกาหลีเหนือยื่นต่อสหประชาชาติว่า การปล่อยจรวดดังกล่าวเกี่ยวกับดาวเทียมตามปรกติ
[เป็นอะไรครับสหรัฐฯ? เขาจะปล่อยดาวเทียม พวกคุณก็ลงข่าวตั้งแต่ไก่โห่โจมตีกล่าวหาใส่ร้ายเขาว่าเขาจะทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล ที่มีศักยภาพยิงไปถึงแผ่นดินแม่ของสหรัฐฯได้ เพื่อที่จะหาข้ออ้างในการเพิ่มงบกลาโหมนี่นะ ทางญี่ปุ่นก็รับมุกทำเป็นขนระบบป้องกันภัยทางอากาศ Pratriot ของสหรัฐฯไปติดตั้งข้างก.กลาโหมของญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว บ้ากันไปใหญ่แล้ว เขียนเสือให้ตัวเองกลัวซะงั้น เฮ้ออออ - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่า ภาพถ่ายทางอากาศได้ระบุว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมที่จะปล่อยจรวดในเวลาอันใกล้ภายในเดือนนี้ จากฐานการทดลองชื่อ Tongchang-ri การดำเนินการที่มีส่วนประกอบของจรวดในสถานที่ดังกล่าว ได้นำไปสู่การคาดการณ์ต่างๆนาๆอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเจตนาของกรุงเปียงยาง
เมื่อวันอังคารนี้ เกาหลีเหนือได้พยายามสยบข่าวลือด้วยการออกแถลงการณ์ต่อสหประชาชาติ
"พวกเราได้รับข้อมูลจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแห่งเกาหลี (DPRK) เกี่ยวกับการปล่อยดาวเทียม Kwangmyongsong เข้าสู่วงโคจรรอบโลก ระหว่างวันที่ 8-25 กุมภาพันธ์นี้" โฆษกหญิงกล่าวกับองค์กรทางทะเลระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (UN’s International Maritime Organization - IMO)
สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union) เป็นหน่วยงานย่อยของยูเอ็นได้รับแจ้งว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมจะปล่อยดาวเทียมเข้าสู่วงโคจร non-geostationary ซึ่งจะมีอายุการใช้งานเป็นเวลาสี่ปี - จบข่าว
[ไม่ยักกะรู้ว่ามหาอำนาจเจ้าโลกอย่างสหรัฐฯ และพันธมิตรอย่าง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ต่างก็พากันหวาดกลัวดาวเทียมของคิมน้อยกันขนาดนี้ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
03/02/2559
----------
Pentagon Requests Billions to Support NATO Allies in Europe - Carter
'Egregious Violation': US Slams North Korea’s Plans for 'Satellite Launch'

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียเตรียมทดลองระบบป้องกันภัยทางอากาศใหม่เอี่ยมลำยุคสุดๆด้วย S-500 Prometey ภายในปีนี้ แหล่ม! ที่ซีเรียหรือเปล่าครับท่านปูติน? คริๆ



-------------
มาดูข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอาวุธเกี่ยวกับการป้องกันประเทศบ้างนะครับ วันที่ 1 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียจะเริ่มการทดลองระบบขีปนาวุธ S-500 (55R6M Triumfator-M) ล้ำสมัยใหม่ถอดด้ามภายในปีนี้" (Russia’s Cutting-Edge S-500 Missile System to Begin Tests This Year)
ขีนปนาวุธต้นแบบชุดแรกในระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-500 ล้ำสมัยของรัสเซียใกล้จะสำเร็จแล้ว และจะทำการทดลองในปี 2016 นี้
[ว้าววว! ขนาด S-400 ที่ว่าเจ๋งสุดๆแล้ว เล่นเอาสหรัฐฯและนาโต้หงอยไปเลยยังผลิตไม่ทัน นี่จะทดลอง S-500 แล้วรึ? ส่วนเว็บไซต์ The National Interest ของสหรัฐฯพาดหัวว่า "เขตห้ามบิน: S-500 รุ่นล้ำสมัยของรัสเซีย จะทำการทดลองในปีนี้" (No-Fly Zone: Russia's Next-Gen S-500 to Start Tests This Year) - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่า ระบบนี้เป็นรุ่นใหม่ (new generation) มีศักยภาพในการทำลายเป้าหมายที่รุกรานทางอากาศ ซึ่งรวมทั้งขีปนาวุธข้ามทวีปและเป้าหมายใกล้อวกาศ (near space targets)
ระบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่ประกอบด้วยศักยภาพที่ดีที่สุดของระบบก่อนหน้า (S-400) เท่านั้น แต่ยังมีความเป็นไปได้ในการป้องกันน่านฟ้า ขีปนาวุธ และอวกาศแบบใหม่โดยสิ้นเชิง ตามคำพูดของ Viktor Murakhovski ที่ปรึกษาสภาคณะกรรมธิการอุตสาหรรมกองทัพ
บริษัทด้านการป้องกันประเทศ Almaz-Antei กำลังพัฒนาขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศพิสัยไกล S-500 ที่มีความซับซ้อนมาตั้งแต่ปี 2010
ระบบขีปนาวุธพิสัยไกลนี้ มีพิสัยการยิงถึง 600 กิโลเมตร (370 ไมล์) ระบบนี้ยังสามารถสะกัดขีปนาวุธบอลลิสติกได้พร้อมกันถึง 10 ลูกที่เดินทางด้วยความเร็ว 5 กิโลเมตรต่อวินาที
จุดประสงค์ทางเทคนิคประกอบด้วยการสร้างการป้องกันตนเองจากขีปนาวุธบอลลิสติกพิสัยกลาง และขีปนาวุธข้ามทวีป ที่มีความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนวิถีระหว่างการยิง
ระบบใหม่ที่ซับซ้อนนี้ ยังมีจุดมุ่งหมายที่การทำลายครูสมิสไซล์แบบไฮเปอร์โซนิค (hypersonic cruise missiles) และเป้าหมายอื่นๆทางอากาศที่มีความเร็วสูงกว่า 5 มัค และอากาศยานด้วย
พล.ท. Sergei Razygraev รองผู้บัญชาการฝ่ายป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียกล่าวก่อนหน้านี้ว่า S-500 สามารถยิงขีปนาวุธใกล้กับอวกาศได้ ดังนั้นมันจะกลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของระบบป้องกันขีปนาวุธยุทธศาสตร์ (นิวเคลียร์)
รายงานข่าวบอกว่า เมื่อเดือนมิถุนาย 2557 (2014) รัสเซียได้ประสบความสำเร็จในการทดลองระบบต่อต้านขีปนาวุธพิสัยไกล
ในตอนท้ายของบทความในเว็บไซต์ของนิตยสาร The National Interest กล่าวว่า อันที่จริงแล้ว อาวุธใหม่บางรุ่นเหล่านี้ เช่น S-500 มีศักยภาพที่จะทำให้เจ้าหน้าด้านความมั่นคงของสหรัฐฯเกิดความกังวลได้ว่า แม้ว่าเครื่องบินรบล่องหน (Stealth) ของสหรัฐฯ เช่น F-22, F-35 และ B-2 อาจจะมีปัญหาในการที่จะเอาชนะได้
[ฮี่ๆๆ… เริ่มรู้แล้วสินะว่าตอนนี้ใครเจ๋งกว่า S-500 ไม่ใช่ระบบขีปนาวุธที่มีไว้สำหรับรุกราน เป็นเทคโนโลยีสำหรับตั้งรับและป้องกันประเทศ ถ้าไม่มีใครยิงอะไรเข้าใส่รัสเซีย หรือแสดงท่าทีที่เป็นภัยต่ออธิปไตยของรัสเซีย รัสเซียจะไปยิงทำไมหละครับ ว่าแต่ว่า F-22, F-35 และ B-2 ของสหรัฐฯจะเข้าไปทำอะไรในรัศมีของ S-500 ของรัสเซียหรือ?
รุ่นนี้สร้างขึ้นมาเพื่อปราบเครื่องบิน Stealth G5 ของสหรัฐฯโดยเฉพาะ และรวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปทั้งบอลลิสติกและครูสมิสไซล์ด้วย จริงแล้วสหรัฐฯไม่จำเป็นต้องมีความกังวลเกี่ยวกับ S-500 ของรัสเซียเลย ยกเว้นเสียแต่ว่าสหรัฐฯต้องการที่จะโจมตีรัสเซียเท่านั้น
ในข่าวไม่ได้บอกว่างานนี้รัสเซียจะทำการทดลอง S-500 ที่ไหน ถ้าเป็นไปได้นะ น่าจะเอาไปตั้งไว้กลางประเทศซีเรียเลย โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกที่ S-400 ไปไม่ถึง รุ่นนี้จะสามารถครอบคลุมพื้นที่ของซีเรียได้ทั้งหมดเลย รวมทั้งพื้นที่บางส่วนแถวชายแดนของตุรีและอิรัคด้วย แอ็ดมินทดลองเอาภาพรัศมีการตรวจจับของระบบเรด้าร์ของ S-400 ที่สื่อฯรัสเซียทำเปรียบเทียบให้ดูซึ่งตั้งอยู่ที่ฐานทัพอากาศ Khmeimim ในจังหวัด Latakia ของซีเรียในปัจจุบันนี้ (ภาพที่3) จากภาพเก่าวงกลมสีแดงคือรัศมีการยิงของ S-400 (400 กม.) ส่วนวงกลมสีฟ้าคือรัศมีของเรด้าร์ (600 กม.) ที่ตรวจจับเป้าหมายทางอากาศได้
เนื่องจาก S-500 มีรัศมีในการทำลายเป้าหมายถึง 600 กม.จึงเท่ากับวงกลมสีฟ้าของ S-400 พอดี และเอามาประกบลงในแผนที่ของซีเรีย ก็จะพบว่ามันครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของซีเรียเลย (ภาพที่4) ถ้าติดตั้ง S-500 ในซีเรียโดยเฉพาะตรงกลางของปรเทศ สหรัฐฯ นาโต้ ตุรกีจะไม่มีโอกาสละเมิดน่านฟ้าของซีเรียได้เลย และที่น่าสนใจก็คือ รัศมีการยิงของ S-500 ยังได้ครอบคลุมไปถึงเมือง Mozul ของอิรัคด้วย ที่กลุ่มก่อการร้ายไอซิสและกองทัพของตุรกียึดอยู่ในขณะนี้ แหล่มสุดๆ แล้วแบบนี้จะไม่ทำให้จักรวรรดิเฮเกและพรรคพวกหวั่นวิตกได้อย่างไรหละครับ? - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
03/02/2559
----------
Russia’s Cutting-Edge S-500 Missile System to Begin Tests This Year
No-Fly Zone: Russia's Next-Gen S-500 to Start Tests This Year | The National Interest Blog
https://en.wikipedia.org/wiki/S-500_(missile_system)
Safe Skies: Russian Army Could Soon Receive Newest S-500 Air Defense System
https://www.rt.com/news/226003-russia-heavy-military-drone/
Newest S-400 System Deployed to Protect Skies Over Moscow
https://www.youtube.com/watch?v=8Na6pD10_KY

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/_7pW4DsCqgg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สหรัฐฯยืนยัน เป็นครั้งแรกว่า ไวรัสซิก้าสามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ เริ่มจะเหมือน HIV แล้วนะนี่
-------------
https://www.youtube.com/watch?v=_7pW4DsCqgg

 

ปอกเปลือก ทรราช



ไทยเคยตรวจพบว่ามีคนติดไวรัสซิก้าเป็นครั้งแรก ในปี 2012 โดยเฉลี่ยพบปีละ 5 เคส ในปี 2016 นี้เพิ่งจะพบเป็นรายแรก ก.สาธารณสุขยืนยัน Sputnik รายงาน

ภาพจาก © REUTERS/ Athit Perawongmetha

---------
Thailand Detected 1st Zika Case in 2012, No Outbreak Yet - Health Ministry

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯปี๊ดแตกหลังรัสเซียเพิ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯลงในแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศอีกห้าคน รู้แล้วใช่ไหมว่ารสชาติของการถูกแซงชั่นกลับมันเป็นเช่นไร?



-------------
วันที่ 2 ก.พ.59 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียดำเนินการแซงชั่นด้านการท่องเที่ยวต่ออดีตเจ้าหน้าของสหรัฐฯห้าคน" (Russia Imposes Travel Ban on Five Former US Officials)
กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียกล่าวเมื่อวันอังคารนี้ว่า รัสเซียได้เพิ่มรายชื่อของอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯห้าบุคคลลงในบัญชีห้ามเดินทางเข้าประเทศรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบโต้การขยายสิ่งที่กรุงวอชิงตันเรียกว่า "Magnitsky list"
"พวกเรากำลังเผยแพร่รายชื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายยุติธรรมของสหรัฐฯห้าคนที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางเข้าประเทศรัสเซีย ในการตอบโต้นโยบายต่อต้านรัสเซีย ที่ดำเนินการโดยกรุงวอชิงตัน" แถลงการณ์ของก.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าว
ในแบล็คลิสต์ของรัสเซียประกอบด้วย Alberto Gonzales ซึ่งเคยมีตำแหน่งเป็นอัยการสูงสุดของสหรัฐฯระหว่างปี 2005-2007, Douglas Feith อดีตปลัด.กลาโหมฝ่ายนโยบาย ระหว่างปี 2001-2005, John Rizzo อดีตรักษาการประธานที่ปรึกษาของซีไอเอ ในปี 2001-2002 และ 2004-2009, Jay Bybee อดีตผู้ช่วยอัยการสูงสุดในปี 2001-2003 และ William Haynes, II อดีตประธานที่ปรึกษาก.กลาโหมของสหรัฐฯในปี 2001-2008
"การตัดสินใจของรัฐบาลบารัค โอบาม่าในการขยายสิ่งที่เรียกว่า Magnitsky list ได้ก่อให้เกิดระเบิดลูกใหม่ขึ้นมาในความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี" แถลงการณ์กล่าว
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ รัฐบาลสหรัฐฯได้เพิ่มรายชื่อบุคคลชาวรัสเซียห้าคนลงในบัญชีการแซงชั่นตามกฎหมาย Magnitsky Act (ของสหรัฐฯ) ซึ่งอนุญาตให้กระทรวงการคลังของสหรัฐฯดำเนินการแซงชั่นเจ้าหน้าที่รัสเซียหลายสิบคนที่เชื่อว่ามีส่วนแสดงความรับผิดชอบ (/มีส่วนเกี่ยวข้อง) ต่อการเสียชีวิตของนาย Sergei Magnitsky ในสถานคุมขังก่อนการพิจารณาคดี (16 พฤศจิกายน 2009)
Magnitsky เป็นนักกฎหมายชาวรัสเซียที่กล่าวหาว่ามีการคอรัปชั่นจากเจ้าหน้าที่รัฐในระดับสูงของรัฐบาล Sergei Magnitsky เป็นนักกฎหมาย นักบัญชี ผู้ตรวจบัญชี และเป็นผู้ให้คำปรึกษาของกองทุนเพื่อการลงทุน Hermitage Capital Management ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงลอนดอน ถูกจับกุมในปี 2008 ในข้อหาต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้อกับการหลบเลี่ยงภาษี
ไม่ถึงหนึ่งปีต่อมา Magnitsky ก็ได้เสียชีวิตเนื่องจากหัวใจล้มเหลวในขณะที่ยังอยู่ในคุก ได้ปิดการสืบสวนอย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยทางการของรัสเซียให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรม
ต่อมารัฐบาลสหรัฐฯนำโดยนายบารัค โอบาม่า ก็ได้ออกกฎหมายที่เรียกว่า Magnitsky Act อ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน เพื่อเป็นการตอบโต้กฎหมายดังกล่าวของสหรัฐฯ รัสเซียจึงทำแบล็คลิสต์ขึ้นมาเองบ้าง ซึ่งได้รวมรายชื่อเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนษยชนต่างๆ รวมทั้งการก่อสร้าง และคงไว้ซึ่่งสถานกักกันที่อ่าวกวนตานาโมในคิวบาด้วย
[นักโทษที่ถูกจับไปกักขังและถูกทรมานจนเสียชีวิตหลายคนในคุกนอกประเทศตัวเองแห่งนี้ของสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนกับนักโทษทั่วไป เพราะสหรัฐฯมีกฎหมายพิเศษ อดีตผู้ต้องขังบางรายหลังจากที่ถูกมานานถึงสิบกว่าปีและได้รับการปล่อยตัวออกมา ทางการสหรัฐฯบอกว่าพวกเขาไม่ได้กระทำความผิดอะไรเลย
ตอนนี้รัฐบาลสหรัฐฯกำลังถูกกดดันให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทรมานนักโทษที่คุกลับ Guantanamo แต่เพนตากอนและซีไอเอก็อ้อยอิงพยายามปิดบังหลักฐานและขัดขวางไม่ให้มีการเปิดเผยข้อมูลเหล่านั้น สหรัฐฯกำลังจะบอกว่าเพราะข้าคือ The Exceptionalism ผู้อยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง
เรื่องนี้ (ความขัดแย้งระหว่างประเทศ) ใครเริ่มก่อน? คำตอบก็คือ "สหรัฐฯ!" เพื่ออะไร? เพื่อปกปิดเรื่องเน่าๆของตนเอง จึงรีบชี้มือประนามคนอื่นก่อน เพื่อเบนความสนใจออกจากเรื่องของตัวเองไปที่รัสเซียหรือประเทศอื่นแทน ทำให้เกิดภาพพจน์ที่ด้านลบต่อรัสเซียหรือประเทศเป้าหมาย ในขณะเดียวกันก็สร้างภาพว่าตัวเองเป็นผู้รักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน แบบกวนตานาโมนี่นะ? - ผู้แปล]
2.) มีหรือที่รัสเซียจะปล่อยให้สหรัฐฯและพรรคพวกชี้หน้าด่าแต่ฝ่ายเดียว รัสเซียจึงสวนหมัดกลับทันทีด้วยการออกบัญชีดำแบนอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯและนักการเมืองต่างบ้าง ซึ่งทำให้จักรวรรดิเฮเกโมนี่ (เจ้าโลก) เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก วันที่ 3 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "วุฒิสมาชิกแม็คเคนต้องการให้เพิ่มการแซงชั่นต่อต้านรัสเซียอีก หลังจากถูกแซงชั่นโดยกรุงมอสโคว์" (McCain Wants More Anti-Russian Measures After Being Sanctioned by Moscow) ฮิ้ววววววว ฮ่าๆๆ แม็คเคนของขึ้นอีกรอบครับท่าน
วุฒิสมาชิก John McCain อ้างว่า เขาภาคภูมิใจที่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อการแซงชั่นจากรัสเซีย "พวกเขา [ส.ส.ชาวรัสเซีย] ได้ทำการแซงชั่นผมไปเรียบร้อยแล้ว ผมเชื่อว่ามันเป็นเหรียญตราแห่งเกียรติยศ (a badge of honor) ผมเชื่อว่าจะมีการเพิ่มรายชื่อชาวรัสเซียลงในบัญชีการแซงชั่นมากกว่านี้" จอห์น แม็กแคนกล่าว
แม็กเคนกล่าวต่ออีกว่า "ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่พวกเราจะต้องส่งสารนี้ต่อไป... ว่าหากพวกคุณยังคงเดินหน้าประพฤติมิชอบ พวกเราก็จะเดินหน้าแซงชั่นต่อไป" ปัจจุบันนี้สหรัฐฯได้แซงชั่นพลเมืองชาวรัสเซียไปแล้ว 39 คน
[วันก่อนนายกรัฐมนตรีรัฐบาวาเรียประเทศเยอรมันส่งสัญญาณว่าจะเดินทางไปเยือนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินที่กรุงมอสโคว์ ไม่ทันไรนายกรัฐมนตรี Angela Merkel แห่งสหพันธรัฐเยอรมันนีก็ยกหูโทรศัพท์คุยกับปธน.ปูติน รายงานข่าวบอกว่าคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปรัฐธรรมนูญของยูเครน และการดำเนินการตามข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์กเกี่ยวกับปัญหายูเครนตะวันออก ทำไมถึงรีบยกหูโทรศัพท์คุยกันตอนที่นายกฯบาวาเรียกำลังจะไปเยือนรัสเซียหละนี่? ก่อนหน้านี้นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลเยอรมันออกมาตำหนิและคัดค้านการเดินทางไปเยือนรัสเซียของนายกฯรัฐบาวาเรียอยู่หยกๆ - ผู้แปล]
เกี่ยวกับเรื่องการแซงชั่นรัสเซีย RT new พาดหัวข่าวในวันที่ 3 ก.พ.58 ว่า "บางประเทศในยุโรปต้องการที่จะยกเลิกการแซงชั่นรัสเซีย แม็กเคนกล่าวว่าสหรัฐฯจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง" (Some European countries want Russian sanctions lifted, McCain says US to decide)
[ฮิ้วววววว อีกรอบครับท่าน เขาเรียกว่าอะไรหัวเน่านะ? คุณจะตัดสินใจหรือไม่ก็เป็นเรื่องของคุณ แต่รัสเซียและอียูเขาจะหันมาสวีทกันอีกรอบ มันหนักหัวโอบาม่ากับแม็กเคนนักหรือไงครับ? ไม่อยากเห็นความสามัคคีระหว่างอียูกับรัสเซียหรือ? การยกเลิกการแซงชั่นทางเศรษฐกิจ จะช่วยให้เศรษฐกิจของอียูและรัสเซียรวมทั้งเศรษฐกิจโลกดีขึ้นตามไปด้วย ไม่ดีอย่างไรครับท่านวุฒิสมาชิก? - ผู้แปล]
วุฒิสมาชิก John McCain กล่าวว่า สหรัฐฯจะตัดสินใจว่าเมื่อไรอียูจะยกเลิกการแซงชั่นรัสเซียเอง คาดว่าจะมีการนำเอาประเด็นการแซงชั่นมาหารือกันในสัปดาห์หน้าในเมืองมิวนิค เนื่องจากกลุ่มประเทศอียูหลายประเทศไม่แฮ็ปปี้กับข้อจำกัดที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น ["มิวนิค" คือเมืองหลวงของรัฐบาวาเรียทางใต้ของเยอรมันในปัจจุบันนี้ - ผู้แปล]
"ผมคิดว่า มีการสนทนากันหลายครั้งที่ชัดเจนอยู่แล้วในกลุ่มประเทศยุโรปเกี่ยวกับการยกเลิกการแซงชั่น... มีหลายประเทศที่กำลังมองหาสัญญาณทางออกในเรื่องนี้ ผมได้ยินเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้วว่า มีแรงกดดันมหาศาลในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศเยอรมัน ที่จะยกเลิกการแซงชั่น" วุฒิสมาชิกจอห์น แม็กเคนกล่าวกับสำนักข่าว Sputnik ของรัสเซีย
McCain กล่าว (/ขู่ฟ่อๆ) เพิ่มเติมว่า การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการยกเลิกการแซงชั่น (ต่อต้านรัสเซีย) ในบางระดับนั้นจะขึ้นอยู่กับผู้นำที่เป็นชาวอเมริกัน (…the final decision on sanctions relief "to some degree, will depend on American leadership.")
[เห็นได้ชัดว่า สหรัฐฯมองว่ายุโรปหรืออียูเป็นเพียงลูกกระเป๋งของสหรัฐฯเท่านั้น ไม่ใช่พันธมิตรที่มีสิทธิ์และเสรีภาพอย่างเท่าเทียมกัน อียูจะต้องรับคำสั่งจากจักรวรรดิเฮเกเท่านั้น ไม่งั้นก็อาจจะมีกรณีชาลี เอ็บโด หรือการโจมตีกรุงปารีสเกิดขึ้นอีกก็ได้ คิดให้ดีนะครับอียู - ผู้แปล]
McCain กล่าวอีกว่า "มันจะอยู่ในรูปแบบของการพูดเจื้อยแจ้วทีหลัง แต่จะมองไม่เห็น (It will be in the back-chatter, but it won't be visible…) มันจะไม่ปรากฎออกมาข้างนอกในที่ประชุม แต่จะมีการหารือกันเป็นอย่างมากระหว่างพวกยุโรปด้วยกัน"
[ฮ่าๆๆ... เริ่มหลอนแล้วสิที่ มโนไปโน่น ทำยังกับว่าตัวเองเคยทำพฤติกรรมอย่างนั้นมาก่อนอย่างนั้นแหละ ออดมาดิ้น อ้าว ออกมาดิ้น... คริๆ สหรัฐฯเริ่มแสดงอาการชักดิ้นชักงอออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับท่าน มิน่าหละ วันก่อนอีตาคาร์เตอร์ถึงออกมาขู่ว่าจะเพิ่มงบกลาโหมของสหรัฐฯในยุโรปถึงสี่เท่า หมายความว่าถ้าอียูแตกแถวสหรัฐฯก็จะส่งกองทัพของตนเองเข้าไปเพิ่มในยุโรปมากขึ้นกว่าเดิม - ผู้แปล]
3.) แล้วสหรัฐฯจะเดินเกมอย่างไรต่อ? ตรงนี้น่าสนใจครับ วันที่ 3 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวอีกว่า "ปูตินจะพบกับคิสซิงเกอร์อดีตรมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯในวันพุธนี้ - ทำเนียบเครมลินกล่าว" (Putin to Meet With Former US State Secretary Kissinger Wednesday - Kremlin)
รายงานข่าวบอกว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะพบกับนาย Henry Kissinger อดีตรมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯในกรุงมอสโคว์ในวันพุธนี้ นาย Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีของรัสเซียกล่าว
"การหารือกันจะจัดขึ้นภายในวันนนี้ เป็นความต่อเนื่องในการเจรจามิตรภาพระยะยาวระหว่างประธานาธิบดีปูติน กับเฮนรี่ คิสซิงเกอร์ ซึ่งจะจัดขึ้นในกรุงมอสโคว์ คุณก็รู้ว่าท่านปธน.ปูตินและคิสซิงเกอร์ได้มีความสัมพันธ์ระหว่างกันมายาวนานและทั้งสองท่านก็ได้พูดคุยกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการหารือประเด็นปัญหาการเมืองระดับโลกในปัจจุบันนี้ และแลกเปลี่ยนทัศนคติต่อกันในมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ที่จะพัฒนาไปในอนาคต" นาย Dmitry Peskov กล่าวกับผู้สื่อฯข่าว
รายงานข่าวบอกว่า อีกมุมหนึ่งสหรัฐฯก็ส่งนายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯคนปัจจุบันไปจัดประชุมหารือกับเหล่าพันธมิตรตะวันตกเกี่ยวกับการปราบปรามขบวนการก่อการร้ายดาอิช ที่อิตาลี่ Sputnik รายงาน
4.) วันที่ 3 ก.พ.59 Sputnik พาดหัวข่าวอีกว่า "เบื้องหลังการปิดประตูประชุมลับ: นางนูแลนด์ (/หนูดิน) แถลงข่าวเกี่ยวกับการเจรจากับรัสเซีย" (Behind Closed Doors: Nuland Briefs US Senators on Russia Talks)
นาง Victoria Nuland ผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯด้านกิจการยุโรปและยูเรเซีย กำลังพูดถึงการเจรจาเมื่อเร็วๆนี้กับเจ้าหน้าที่ของรัสเซียในการชี้แจงลับกับคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งวุฒสภาของสหรัฐฯ นาย Bob Corker ประธานคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งวุฒิสภาของสหรัฐฯกล่าว
[เนื่องจากเป็นการประชุมลับ จึงไม่ได้มีอะไรหลุดออกมามากนัก บอกแต่เพียงว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับยูเครน ซีเรีย ปัญหาผู้ลี้ภัย ขบวนการต่อต้านประชาธิปไตยเท่านั้น
ประเด็นที่่น่าสนใจก็คือ สหรัฐฯเล่นไพ่สองมือตลอด มือหนึ่งออกมาขู่ว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย ในขณะที่พันธมิตรของฝ่ายรัสเซียกำลังได้รับชัยชนะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในหลายสนามรบ สหรัฐฯยังคงเดินเดิมกล่าวหาและดิสเครดิตรัสเซียผ่านสื่อฯกระแสหลักของตนเองทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
อีกมือหนึ่งก็เดินเกมเจรจา ส่งคนนั้นคนนี้เข้ามากล่อมปนขู่รัสเซียอยู่เรื่อยๆ จอห์น แคร์รี่ และคณะเพิ่งจะเดินทางไปเยือนกรุงมอสโคว์มาเมื่อปลายปีที่ผ่ามนี้เอง จากนั้นก็ให้นางนูแลนด์รับช่วงต่อ ในขณะที่การเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับปัญหาซีเรียยังเดินหน้าต่อไป ควบคู่กับการเดินหน้าถล่มกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียจากฝ่ายรัสเซียเช่นกัน
สหรัฐฯก็งัดเอาอดีตนักการทูตที่คิดว่าเป็นมือฉมังของตนเองอย่าง เฮนรี่ คิสซิงเกอร์ออกมากล่อมปูติน ฝ่ายรัสเซียก็บอกว่า ไมว่าสหรัฐฯจะส่งใครมาคุยด้วยรัสเซียก็ยินดีคุยด้วยเสมอ แต่จุดยืนของรัสเซียไม่เปลี่ยนแปลง เพราะว่าล่าสุด นาย Sergey Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียประกาศเมื่อวันที่ 3 ก.พ.59 นี้ว่า "ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียจะยังคงเดินหน้าต่อไปจนกว่าพวกเราจะมีชัยชนะเหนือกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ: ซึ่งประกอบด้วย พวกดาอิช อัลนุสราฟรอนท์ เป็นต้น ผมยังไม่เห็นมีเหตุผลที่จะให้หยุดการโจมตีเลย" Sputnik รายงาน
นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียยังได้เรียกร้องให้มีการปิดชายแดนตุรกี-ซีเรียเพื่อสะกัดกั้นการลักลอบค้าของเถื่อนด้วย RT news รายงาน ซึ่งก็สอดคล้องกับท่าทีของสหรัฐฯที่ก่อนหน้านี้ได้เรียกร้องให้ตุรกีปิดพรมแดนของตนเองฝั่งซีเรียเช่นกัน แต่ตุรกีปฏิเสธ
และเมื่อวันที่ 2 ก.พ.59 ที่ผ่านมา Steven Warren โฆษกกองกำลังพันธมิตรต่อต้านขบวนการก่อการร้ายนำโดยสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Alsumaria ของอิรัคว่า "กองกำลังทางทหารของตุรกีในอิรัค ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ และสหรัฐฯก็ไม่ได้ให้ไฟเขียวแก่กรุงอังการาในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายในประเทศอิรัคเลย กองทัพของตุรกีที่อยู่ในอิรัคดำเนินตามภารกิจของตนเอง"
นี่เป็นครั้งที่สองที่สหรัฐฯออกมาปฏิเสธว่าตุรกีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ เพราะว่าตุรกีรุกรานอธิปไตยของอิรัค และส่งเครื่องบินรบของตนเองไปบอมบ์ชาวเคิร์ดในอิรัคอ้างว่าถล่มกลุ่มก่อการรร้าย แต่สหรัฐฯก็แบ่งรับแบ่งสู้เพราะว่าเป็นนาโต้ด้วยกันและตุรกีให้กองทัพสหรัฐฯใช้สนามบินเพื่อบินไปโจมตีซีเรีย อ้อ… ครั้งก่อนนี้รอยเตอร์สรายงานเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.58 ว่าสหรัฐฯบอกว่าตุรกีไม่ใช่ส่วนหนึ่งของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯมาแล้วอย่างน้อยก็หนึ่งหน
อ้อ… อีกนิดหนึ่งนะครับ วันที่ 3 ก.พ.59 Sputnik รายงานว่า กลุ่มติดอาวุธซีเรียในจังหวัด Aleppo ประกาศว่าจะหันมาร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ก่อนหน้านี้พวกนี้โจมตีฝ่ายรัฐบาล หลังจากที่ถูกกองทัพฝ่ายรัฐบาลรุกหนักโดยมีเครื่องบินรบของกองทัพอากาศรัสเซียช่วยโจมตีใส่จากทางอากาศด้วย จึงพากันถอยร่นเข้าป่า รายงานข่าวบอกว่าบางส่วนหลบหนีข้ามชายแดนเข้าไปในฝั่่งตุรกี บางส่วนก็ประกาศว่าจะไม่วางอาวุธแต่จะขอแปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายรัฐบาลแทน - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
04/02/2559
----------
Russia Imposes Travel Ban on Five Former US Officials
US Sanctions Two Russians for Post-Death Prosecution of Sergei Magnitsky
https://www.rt.com/usa/331111-sanctions-eu-mccain-usa/
Putin, Merkel Hold Phone Talk on Ukraine - Kremlin
McCain Wants More Anti-Russian Measures After Being Sanctioned by Moscow
Putin to Meet With Former US State Secretary Kissinger Wednesday - Kremlin
Behind Closed Doors: Nuland Briefs US Senators on Russia Talks
Russia to Operate in Syria Until Local Terrorist Groups Defeated - Lavrov
Key Members of Anti-Daesh Coalition Vow to Intensify Data Sharing on Terror
https://www.rt.com/news/331128-ceasefire-syria-lavrov-conditions/
Syrian Militants North of Aleppo Agree to Fight Alongside Gov't Forces
Turkey Not Part of US-Led Coalition in Iraq - Coalition Spokesman
Turkey's Iraq deployment not part of U.S.-led coalition: officials | Reuters