ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    [​IMG]

    ภูเขาไฟอาโซะ (Mount Aso) ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นปะทุอย่างฉับพลันระเบิดกลุ่มควันขึ้นสู่ท้องฟ้าสูง 2 กิโลเมตร ทางการญี่ปุ่นรีบนำนักท่องเที่ยวออกห่างจากรัศมีของการระเบิดของภูเขาไฟซึ่งอยู่บนเกาะคิวชู (Kyushu island) ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น
    ญี่ปุ่นอยู่บนขอบของแนวเส้นวงแหวนไฟ (Ring of Fire) ในมหาสมุทรแปซิฟิก ส่งผลให้มีภูเขาไฟที่ยังมีพลัง (/ทำงาน Active Volcanoes) อยู่มากว่า 100 แห่ง มีการเฝ้าระวังภูเขาไฟอยู่ 47 แห่งอย่างใกล้ชิด
    The Eyes
    14/09/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Aso Volcano Museum

    ----------
    https://www.youtube.com/watch?v=yYS2JFWHT0c
    Abrupt Eruption of Mount Aso Sends Tourists Packing in Japan (VIDEO)
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันพร้อมที่จะขายอวัยวะของตัวเองเพื่อชำระเงินกู้เพื่อการศึกษา (Yep… เศรษฐกิจอเมริกาดีจริงๆ โอบาม่าได้ยินหรือเปล่า?)

    [​IMG]

    -------------
    วันนี้ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "American Adults Ready to Sell Their Organs to Repay Student Loans" สื่อฯรัสเซียตั้งคำถามเอาไว้ว่า "มันจะมีความรู้สึกอย่างไรบ้างนะในการที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ชาวอเมริกันที่ต้องถูกบังคับให้เดินหน้าจ่ายเงินค่ากู้ยืมเพื่อการศึกษา? ณ บางจุดนั้น คุณจะรู้สึกบ้างไหมว่าคุณไม่สามารถที่จะลบล้างหนี้สินด้วยความคิดที่จะขายอวัยวะต่างๆของคุณเอง?" (ว้าววว! ขนาดนั้นเลยหรือ?)
    รายงานข่าวบอกว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเร็วๆนี้ซึ่งเผยแพร่โดย MyBankTracker ของสหรัฐฯเองนั่นแหละซึ่งเป็นผู้ให้บริการ smart banking (ธนาคารอัจฉริยะ ที่จะดูดเงินออกจากกระเป๋าลูกค้า?) และการตัดสินใจด้านการเงิน ได้ทำการสำรวจในช่วงภาคฤดูร้อนนี้โดยสอบถามผู้ใช้งานของระบบว่า พวกเขาพร้อมที่จะขายอวัยวะเพื่อชำระเงินกู้เรียนของพวกเขาหรือไม่? เว็บไซต์แห่งนี้ซาวเสียงดูจากกลุ่มประชาชนจำนวน 200 คนซึ่งเป็นวัยกลางคนที่มีอายุ 32 ปี ซึ่งมีหนี้สินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ $34,500 (ประมาณ 1,224,750 บาท)
    ผู้ตอบแบบสอบถามถูกตั้งคำถาม - ด้วยคำตอบเพียง "Yes" หรือ "No" เท่านั้นว่า "สมมุตว่าผู้เข้าร่วม (การสำรวจ) จะลบล้างหนี้สินทางการศึกษา (student loans) ของพวกเขา: คุณจะเต็มใจเปลี่ยนชีวิตของคุณเข้าสู่รายการเรียลลิตี้โชว์ทางโทรทัศน์หรือเปล่า? (Yes 55%) คุณจะขายอวัยวะของคุณไหม? (Yes 30%) จะขายสมบัติพัสถานที่คุณมีอยู่ออกไปซักครึ่งไหม? (Yes 43%) - คุณจะทำไหม? คุณจะนำยาที่ยังไม่ได้ผ่านการรับรองจาก FDA (องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ) เข้าสู่ร่างกายไหม? (Yes 38% ธุรกิจยาเถื่อนยิ้ม) และคุณจะลงทะเบียนสมัครเป็นทหาร (active duty) ไหม?" (No 68%) (ว้าว อเมริกานี่นะ?)
    ผลการสำรวจได้เปิดเผยออกมาว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเหล่านั้น ยินดีที่จะขายม้าม (spleen) ของพวกเขาหากว่ามันจะช่วยให้พวกเขาชำระเงินกู้เพื่อการศึกษาได้ (ขอกลืนน้ำลายก่อนนะ นายโอบาม่า นายได้อ่านหรือได้ยินข่าวนี้บ้างหรือไม่? ฮะ! ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน ไม่เห็นมีข่าวเลย มั่วข่าวหรือเปล่า cnn bbc รอยเตอร์สไม่เห็นลงข่าวนี้เลยนะ อึ่ม! เจริญ!)
    ผู้คนต้องตั้งคำถามขึ้นมาว่า เขาจะพูดกันยังไงบ้างเกี่ยวกับภาวะทางจิต (mentality) ของชาวอเมริกันที่มีประชาชนหลายคนซึ่งค่อนข้างมากที่จะนำอวัยวะของต้นเองไปชำระหนี้สิน มากกว่าการทำงานเพื่อชำระหนี้
    นอกจากหลักฐานดังกล่าวแล้ว ผู้ก่อตั้ง MyBankTracker ยังได้ตั้งข้อสงสัยว่าผู้ตอบแบบสอบถามได้มีความจริงใจที่จะตอบคำถามสุดฮ็อตนี้ โดยได้เน้นย้ำถึงการไร้ความสามารถของชาวอเมริกันที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย (ปลอบใจตัวเองไปก่อนนะ ถ้าอยากรู้จริงๆ ก็เปิดบริการรับซื้ออวัยวะอย่างเป็นทางการเลยสิ แต่ตามกฎหมาย National Organ Transplant Act of 1984 ของสหรัฐฯ บอกว่าการขายอวัยวะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายร้ายแรง)
    Alex Matjanec (ผู้ก่อตั้ง MyBankTracker) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เกี่ยวกับการศึกษาในครั้งนี้ว่า "ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะตัดสินใจที่ดูรุนแรงหรือจะใช้มาตรการที่รุนแรงขนาดนั้น - แต่ สิ่งที่บอกผมจริงๆก็คือว่า พวกเขาอาจจะกำจัดหนี้สินของพวกเขาได้เร็วกว่าการปรับตัวผ่ายช่วงเวลา (ที่ยาวนาน) และทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งในความเป็นจริงในแต่ละวัน" (ตกลงว่าเขาไม่สนับสนุนหรือว่าเขาเชียร์ให้มีการขายอวัยวะอย่างเปิดเผยและถูกกฎหมายกันแน่?)
    Alex Matjanec ยังได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกว่า "พวกเขาไม่ต้องการทำงานหลายอย่าง พวกเขาเพียงแต่ต้องการที่จะกำจัดหนี้สินออกไปจากหนทาง" (ชัดมาก! กล่อมกันเข้าไป)
    เว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่า แนวโน้มในท่าทีของชาวอเมริกันที่มีต่อหนี้สินแสดงให้เห็นว่าพวกเขาค่อนข้างจะชำระหนี้สินที่ติดอยู่เหมือนกับ (การใช้) ดาบของ Damocles ฟันโช๊ะให้ขาดไปในครั้งเดียวมากกว่าที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในงบประมาณของพวกเขา (they rather pay off the loan hanging like a sword of Damocles at once rather than incorporate it into their budget) (กรรม! เอาเข้าไปบริโภคนิยมให้สุดโต่งกันไปเลย สร้างหนี้ให้พลเมืองของตัวเองเยอะๆ หรอกให้เป็นหนี้เยอะๆ พอไม่มีเงินชำระก็ยึดทรัพย์สิน พอไม่มีทรัพย์สินให้ยึด ก็เอาอวัยวะของคุณไปขายสิ เอาชีวิตของคุณมาเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อชำระหนี้สินซะโดยดี นี่เทร็นใหม่ที่อเมริกานะ กำลังมาแรงแซงทางโค้ง นักปฏิรูปประชาธิไตยจะเอาบ้างไหม? นี่ไงประเทศเสรีประชาธิปไตยของแท้เลย ขายได้ทุกอย่าง ซื้อได้ทุกอย่าง เพราะมันเป็นทุนนิยมของแท้)
    รายงานข่าวบอกว่าเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของอเมริกาพุ่งถึง $200,000 (ประมาณ 7,100,000 บาท - ต่อคน?)
    สถาบันการศึการะดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยของรัฐที่ใช้เวลาศึกษา 4 ปีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ภายในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
    รายงานจาก MyBankTracker ยังได้แสดงตัวเลขเกี่ยวกับการผิดชำระหนี้สินเพื่อการศึกษาในสหรัฐฯอีกว่า ยอดรวมทั้งหมดของการหนี้สินกู้ยืมเพื่อการศึกอยู่ที่ $98.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ไม่มากหรอกแค่ประมาณ 3,482,550 ล้านบาทเอง จิ๊บๆสำหรับสหรัฐฯที่กำลังถังแตกอยู่ในขณะนี้) และมีผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระหนี้แล้วจำนวน 7 ล้านคน (เบี้ยวหนี้ว่างั้นเถอะ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย งั้นก็เอาอวัยวะของคุณมาซะดีๆ) โดยเฉลี่ยแล้วผู้กู้ยืมเงินเรียนหนังสือตกอยู่คนละ $14,014 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 497,497 บาท)
    มันเป็นเรื่องปรกติ ขี้ปะติ๋วเองใช่ไหมครับท่านโอบาม่่า จิ๊บๆ เงิยหน้าขึ้นสิครับ... คริๆ
    The Eyes
    14/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Jonathan Ernst/Files

    ----------
    American Adults Ready to Sell Their Organs to Repay Student Loans
    How Far Would You Go to Get Rid of Your Student Debt? [Infographic] | MyBankTracker
    https://en.wikipedia.org/wiki/National_Organ_Transplant_Act_of_1984
    Facts and Myths | American Transplant Foundation
    Can I Sell an Organ? - FindLaw
    Buying and Selling Organs Would Create an Economic Class War - NYTimes.com
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts


    วิกฤตหนัก! ผู้อพยพเยอะเกิน เยอรมันบอกรับอีกไม่ไหวแล้วขอปิดพรมแดนติดกับออสเตรียงดให้บริการรถไฟระหว่างประเทศชั่วคราว, ยอดการจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ในเยอรมันเพิ่มขึ้น 40% ในปี 2015

    [​IMG]

    -------------
    รายเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมาบอกว่า Mama Merkel ได้ลงพื้นที่ในศูนย์ผู้อพยพในกรุงเบอร์ลินเพื่อเยี่ยมบรรดาผู้อพยพหลายแสนคน พร้อมกับถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกับผู้อพยพอย่างมีความสุข (?)
    วันที่ 11 ก.ย. สำนักข่าว Sputnik รายงานว่า รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง บูรณาการและที่อยู่อาศัย (Immigration, Integration and Housing) ของเดนมาร์กได้ออกมาประกาศว่า เดนมารก์จะไม่รับผู้อพยพจำนวน 160,000 คนตามที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอ
    ต่อมาวันที่ 12 ก.ย. สำนักข่าว Sputnik ของรัสเซียรายงานข่าวว่ามีประชาชนราว 30,000 คนออกมาเดินขบวนชุมนุมโดยสันติในกรุง Copenhagen ประเทศเดนมาร์กเพื่อเรียกร้องให้ทางการรับดูแลผู้อพยพตามโควต้าของคณะกรรมาธิการอียูป
    วันที่ 12 ก.ย.สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานว่า มีประชาชนชาวเยอรมันออกมารวมตัวกันราว 14,000 คนในเมือง Hamburg ซึ่งเรียกร้องให้สนับสนุนความอดทนอดกลั้นและประชาธิปไตย (กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สนันสนุนผู้อพยพ pro-Migrants) ในขณะเดียวกันพวกฝ่ายขวาที่ตั้งชื่อว่า "วันแห่งชาวเยอรมันรักชาติ" (day of German patriots) ถูกสั่งห้ามชุมนุม (ส่วนกลุ่มนี้เป็นพวกต่อต้านผู้อพยพ anti-Migrants)
    วันที่ 12 ก.ย. สำนักข่าว Sputnik รายงานว่านาย Peter Szijjarto รมว.ต่างประเทศของฮังการีออกมากล่าวว่าขณะนี้ ได้มีผู้อพยพเดินทางมาถึง (ฮังการี) แล้วจำนวน 180,000 คน จำนวนผู้ลี้ภัย (refugees) ทั้งหมดอาจจะถึง 400,000 หรือ 500,000 ภายในสิ้นปีนี้ หากฮังการีไม่รักษาความเข้มแข็งตามแนวชายแดนของตน ฮังการีเป็นประตูผ่าน (gateway) ของบรรดาผู้อพยพว่าจะตัดสินใจเดินทางต่อไปยังประเทศใด
    วันที่13 ก.ย. สำนักข่าว Sputnik พาดหัวข่าวว่า "วิกฤตผู้ลี้ภัยแจ้งให้กรุงเบอร์ลินเตรียมพร้อมสำหรับการกลับไปควบคุมบริเวณชายแดนฝั่งออสเตรีย" (Refugee Crisis Prompts Berlin to Reinstate Controls at Border With Austria)
    รายงานข่าวบอกว่า เยอรมันนีกำลังจะเสนอให้มีการควบคุมพรมแดนที่ติดกับออสเตรียเป็นการชั่วคราว ในความพยายามที่จะรับมือกับการทะลักของบรรดาผู้อพยพ Thomas de Maiziere รมว.มหาไทยของเยอรมันกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์นี้ว่า "เยอรมันนีกำลังจะทำการควบคุมชายแดนภายในประเทศ [สหภาพยุโรป] อีกครั้ง โดยจะมุ่งไปที่ชายแดนที่อยู่ติดกับประเทศออสเตรีย"
    รมว.มหาดไทยของเยอรมันนีกล่าวต่ออีกว่า "ผู้ขอลี้ภัยจะต้องเข้าใจว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเลือกประเทศ (ปลายทาง) ที่พวกเขาจะไปขอลี้ภัยได้" (ต้องมาที่เยอรมันแห่งเดียวนี้เท่านั้นหรือเปล่า? หรือไม่ก็โน่นเลย สหรัฐอเมริกาโน่นเลยหัวโจกที่พาพันธมิตรไปบอมบ์ซีเรีย)
    ช่วงเช้าของวันอาทิตย์โฆษกของบริษัทเดินรถไฟออสเตรียกล่าวว่า "ขบวนรถไฟต่างๆที่จะเดินทางไปยังประเทศเยอรมันนีได้หยุดวิ่ง เนื่องจากรัฐบาลกลางได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลที่แข็งแรงจำนวน 2,100 นายไปยังเมือง Bavaria เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน"
    รายงานข่าวบอกว่าการออกมาตรการควบคุมชายแดนนี้ ก็เนื่องจากทางกรุงเบอร์ลินกำลังพยายามจะซื้อเวลาเพื่อรับมือกับการไหลทะลักของผู้อพยพ (นิตยสารข่าว Spiegel กล่าว)
    วันที่ 13 ก.ย. สำนักข่าว Sputnik รายงานข่าวว่า นาย Gunther Oettinger คณะกรรมาธิการของอียูได้ออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของเยอรมัน โดยเสนอให้มีกระบวนการที่รวดเร็วกว่าเดิมในการส่งบรรดาผู้อพยพกลับไปยังประเทศของเขาจากประเทศต้นทางที่ปลอดภัย
    Oettinger กล่าวว่า "ควรจะมีการเปลี่ยนแปลง Basic Law (กฎหมายรัฐธรรมนูญของเยอรมัน) เพื่อให้กระบวนการเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยเสร็จสิ้นรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม" โดยนาย Oettinger ได้เน้นย้ำว่า "การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะอนุญาตให้ส่งตัวผู้ลี้ภัยจากประเทศต้นทางที่ปลอดภัยได้สั้นลง หลังจากที่พวกเขาได้รับการปฏิเสธการให้สถานะผู้ลี้ภัยในเยอรมันนี"
    งานนี้ไม่ใช่เฉพาะเยอรมันแน่ๆ เพราะดูเหมือนว่าทางเยอรมันนีก็กำลังจะเสนอให้อียูรับแผนนี้ด้วยเช่นกัน โดยนาย Oettinger กล่าวว่า "พวกเราต้องทำให้ผลประโยชน์ด้านทรัพยากรสอดคล้องกับผู้ขอลี้ภัยทั่วยุโรป เนื่องจากมีช่องว่าที่กว้างมากภายในอียูซึ่งอาจจะสร้างแรงจูงใจที่ผิดๆได้" (Oettinger เป็นนักการเมืองชาวเยอรมัน และเป็นสมาชิกของพรรค Christian Democratic Party ของนาง Angela Merkel ด้วย)
    ข่าวนี้ฟังดูแล้วอาจจะไม่ทำให้ภาพพจน์ของเยอรมันนีและอียูออกมาไม่ค่อยสวยสักเท่าไรนัก กรณีขบวนการค้ามนุษย์ซึ่งทางสื่อฯและนักการเมืองของสหรัฐฯและอียูได้ออกมาโจมตีไทยก่อนหน้านี้ในกรณีเดียวกันนี้ วันที่ 13 ก.ย. สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "จำนวนของพวกลักลอบค้าผู้ลี้ภัยที่ถูกคุมขังในเยอรมันนีในปี 2015 เพิ่มขึ้นถึง 40%" (Number of Refugee Smugglers Detained in Germany in 2015 Increases by 40%) (นั่นไง! แพร็มออกมาเรื่อยๆแล้ว ความจริงค่อยๆเปิดเผยออกมาให้เห็นมากขึ้น)
    รายงานข่าวบอกว่า จำนวนผู้ลักลอบค้ามนุษย์ (smugglers) ที่ถูกดำเนินคดีและคุมขังในเยอรมันเกี่ยวกับการลักลอบค้าผู้ลี้ภัยอย่างผิดกฎหมาย (illegal refugee trafficking) ได้เพิ่มขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในปี 2015 รายงานโดยหนังสือพิมพ์ Bild am Sonntag ซึ่งอ้างข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยของเยอรมัน
    สื่อฯรายงานว่า มีผู้ลักลอบค้าผู้ลี้ภัย (ค้ามนุษย์) ได้ถูกคุมขังในประเทศเยอรมันนีในเดือนกันยายนนี้ มี 2,330 กว่าคนซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 40% จากปีก่อน รายงานข่าวบอกว่าพวกขบวนการค้ามนุษย์ที่ถูกคุมขังส่วนมากมาจากฮังการี โรมาเนีย ซีเรีย บัลแกเรีย และเซอร์เบีย (รายงานข่าวไม่ได้บอกว่ามีชาวเยอรมันร่วมอยู่ด้วยหรือไม่)
    ในปี 2015 กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯจัดให้เยอรมันอยู่ในกลุ่ม Tier 1 ที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ซึ่งหมายถึงระดับของกลุ่มประเทศที่รัฐบาลได้ปฏิบัติตามกฎหมายการปกป้องเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ส่วนฮังการี โรมาเนีย และเซอร์เบียได้เทียร์ 2 บัลแกเรียได้กลุ่มต้องจับตาเทียร์ 2 (อยู่ระหว่างเทียร์2กับเทียร์3 ถ้าทำให้สหรัฐฯแฮ็ปปี้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการไหนก็อาจจะได้เลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นเทียร์2 ถ้ายกแผ่นดินของบัลแกเรียให้สหรัฐฯไปเลยก็อาจจได้เทียร์ 1 ไปแล้วก็ได้ ขนาดออสเตรียและอิตาลีที่เป็นทางผ่านและปล่อยให้ผู้อพยพทะลักเข้าไปในอียูก็ยังอยู่ในกลุ่มเทียร์ 1 เลย) ส่วนซีเรียเป็นไม่ต้องเหงาเพราะถูกจับยัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับพี่ไทยคือเทียร์3 แม้ทั้งสองประเทศจะไม่ต้องการอยู่ในกลุ่มนี้ก็ตามม
    The Eyes
    14/09/2558


    ภาพจาก © REUTERS/ Dado Ruvic


    ----------
    Some 30,000 Take Part in Pro-Refugee Rally in Copenhagen
    Denmark to Reject EU Refugee Quota - Immigration Minister
    Refugee Crisis Prompts Berlin to Reinstate Controls at Border With Austria
    Germany Suspends Train Service From Austria Amid Migrant Influx
    German Refugee Crisis: Munich Mayor Warns City is Already Full
    Hungary Expects Up to 500,000 Refugees to Arrive By Year-End
    14,000 Germans protest against xenophobia in Hamburg (PHOTOS, VIDEO) — RT News
    EU Commissioner Urges Amendment to German Constitution, Benefit Cuts
    Unwelcome Guests: Hungary Denies It is Mishandling Migrant Gridlock
    http://news.yahoo.com/mama-merkel-cheered-syrians-refugee-centre-155944307.html
    Schengen shock: Germany halts trains from Austria, introduces border controls — RT News
    Number of Refugee Smugglers Detained in Germany in 2015 Increases by 40%
    Trafficking in Persons Report 2015: Tier Placements
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ปธน.สี จิ้นผิงขู่กลับบ้างว่าอาจจะยกเลิกการเยือนสหรัฐฯ เนื่องจากสหรัฐฯขู่ว่าจะแซงชั่นจีน

    [​IMG]

    -----------
    วันนี้ (14 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news รายงานข่าวว่า ประธานาธบดีสี จิ้นผิง ของจีนอาจจะยกเลิกการเดินทางไปเยือนสหรัฐฯอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้ เนื่องจากกรุงวอชิงตัน (เริ่มจะกวนโอ๊ยมากขึ้นเรื่อยๆ) กำลังหาเรื่องที่จะ (ใช้เป็นข้ออ้าง) ในการลงโทษกรุงปักกิ่ง กรณีการล้วงข้อมูลจำนวนมหาศาลซึ่ง (อ้างว่า) มีความเชื่อมโยงกับแฮ็กเกอร์จีน
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปลายเดือนนี้ หนังสือพิมพ์ The Hill ของอเมริการายงานโดยอ้างคำพูดของผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐบาลว่า ประธานาธิบดีของจีนอาจจะปฏิเสธในการเยือนสหรัฐฯเพื่อเข้าร่วมประชุมในครั้งที่จะถึงนี้ สหรัฐฯจะแซงชั่นบริษัทจีนซึ่งอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ในสัปดาห์หน้า (หรือไม่?)
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Yang Jiechi สมาชิกรัฐสภาของจีนกล่าวว่า ดูเหมือนว่ากรุงปักกิ่งและกรุงวอชิงตันมีแนวโน้มที่จะทำให้กฎระเบียบเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระหว่างประเทศมีความซับซ้อนยิ่งขึ้นท่ามกลางเรื่องอื้อฉาวการละเมิดข้อมูล
    ก็ยังไม่มีข่าวว่าสหรัฐฯกล้าที่จะแซงชั่นจีนโดยยกเรื่องนี้ขึ้นมาอ้างอย่างเป็นทางการเหมือนกับที่บีบให้อียูแซงชั่นรัสเซียเลย เรื่องอะไรที่จีนจะยอมให้จักรวรรดิเฮเกอันธพาลโลกออกมาขู่ฟ่อๆสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองแต่ฝ่ายเดียวโดยมักจะป่าวร้องไปทั่วโลกว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อ แต่พวกตัวเองไปถ้ำมองคนอื่น หรือล้วงข้อมูลคนอื่นบ้าง พอมีคนออกมาโวยวายกลับเงียบทุกที ดังนี้จีนจึงสวนกลับไปทันทีและแบบแรงๆอย่างสมน้ำสนเนื้อเลยว่าเลยว่า งั้นจีนก็อาจจะยกเลิกการเยือนสหรัฐฯของประธานานธิบดีจีนเช่นกัน เอามะ เอามะ? ลองมะ ลองมะ?
    กรณีนี้จีนก็เรียกร้องให้สหรัฐฯแสดงหลักฐานตามที่ได้กล่าวหาจีนออกมาให้ดูเช่นกันนะ แต่ทำไมงานนี้จึงไม่พบว่าสหรัฐฯกล้าที่นำบางอย่างออกมาพิสูจน์เหมือนอย่างที่กล่าวหาเกาหลีเหนือในกรณีหนังเรื่อง The Interview เลย เช่นอีเมล์ข่มขู่ แบล็คเมล์ หรือร่องรอยที่ตามแกะได้ว่ามาจากไอพีไหนเป็นต้น
    ในขณะที่กำลังเช็กข่าวนี้จากฝั่งจีนก็ไปสดุดเข้ากับข่าวหนึ่ง เป็นบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ Global Times ของจีนพาดหัวว่า "US insecurity shows in false spying claims" (ความไม่มั่นคงของสหรัฐฯแสดงให้เห็นได้ในการกล่าวอ้างอย่างผิดๆเกี่ยวกับการสอดแนม)
    มันยังไงหรือครับ สหรัฐฯเขาบอกว่าเขามี "security" นะแต่ทำไมเฮียสีถึงมองเรียกว่า "insecurity" หละครับ? เออ… นั่นสิ! ก็มันสามารถถูกเจาะได้ไง ฮ่าๆๆ งานนี้ฝั่งจีนทั้งเย้ย ทั้งหยันเลยนะ
    รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯได้ยกเลิกการดำเนินคดีกับนาย Xi Xiaoxing (อ้าวดันชื่อเหมือนกันกับผู้นำจีนอีก) ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ในมหาวิทยาลัย Temple University รัฐ Pennsylvania ประเทศสหรัฐฯ และอาจจะเชิดชูให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขา superconductivity ตัวนำกระแสไฟฟ้ายิ่งยวด นายสี ถูกกล่าวหาว่าได้แชร์เทคโนโลยีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งไปให้จีน กลับกลายเป็นว่ากระทราง (ยุติธรรมของสหรัฐฯ) ได้กระทำความผิดพลาดในเรื่องของหลักฐานสำคัญ
    นายสีถูกจำกุมในเดือนพฤษภาคมปีนี้ และถูกกล่าวหาว่าได้ให้ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสำหรับเครื่องทำความร้อนแบบพกพา (pocket heater) แก่จีน (ไฟแช็คก็เป็น pocket heater ชนิดหนึ่ง ฮ่าๆๆ) ซึ่งห้ามส่งออก ต่อมานักฟิสิกส์บางคนได้พิสูจน์ว่าไอ้เจ้าเครื่องทำความร้อน (heater) ที่เกี่ยวข้องกับคดีของศาสตราจารย์สีนี้ เป็นเครื่องที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากวัตถุที่มีการห้ามไม่ให้ส่งออกจากประเทศสหรัฐฯ และความร่วมมือระหว่างนายสีกับจีนก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย (legitimate) การกล่าวหาแบบผิดๆต่อศาสตราจารย์สีได้คลี่คลายไปแล้ว แต่ศ.สีก็จะประสบกับความสูญเสียเป็นอย่างมากทั้งในอาชีพและชื่อเสียง ซึ่งเขาจะไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ (เน่าไปแล้วในสายตาของสังคม มีรอยด่างที่ตนไม่ได้สร้างเกิดขึ้นในประวัติของเขา เรื่องนี้อาจจะมีเงื่อนงำจากฝั่งสหรัฐฯมากกว่านั้นก็ได้ ถ้าคุณไม่ทำตามที่ฉันต้องการให้คุณทำ คุณก็จะโดนแบบนี้ ยัดกันเห็นๆ แล้วก็บอกว่าไม่มีหลักฐาน ไม่เอาผิดหละ คนที่ถูกดำเนินคดีก็ตกงานไปแล้ว)
    คราวนี้มาดูอีกซักกรณีบ้างเกี่ยวกับสร้างหนังสายลับของจีน สื่อฯจีนยกกรณีหนังฮอลลิวูดเรื่อง "Mission: Impossible Rogue Nation" ที่พึ่งเปิดฉายในจีนว่า ประชาชนกำลังตั้งคำถามว่า ทำไมจีนถึงไม่สร้างหนังแบบนั้นขึ้นมาบ้าง? บริษัทผู้สร้างและผู้กำกับหนังชาวจีนตอบกลับว่า ถ้าพวกเขาคัดลอกพล็อตหนังเพื่อทำให้เหมือนกับหนังฝรั่งที่เกี่ยวกับหน่วยข่่าวกรองของจีน ผู้ชมชาวจีนก็จะพบว่า มัน "ไม่จริง" (เซ็งเลย ไม่ใช่ว่าดูแล้วคนจีนจะตื่นเต้นนะ) เนื่องจากนั่นไม่ใช่วิธีที่หน่วยข่าวกรองของจีนทำงานในจินตนาการของประชาชน (แล้วสายลับจีนทำงานอย่างไรรึ? อันนี้บก.เขาไม่ได้เขียนเอาไว้ครับ ปล่อยให้งงกันต่อไป ฮ่าๆๆ เอ… หรือว่าจะเป็นแบบภาพที่ 3-6 นะ คริๆ)
    สุดท้ายสื่อฯจีนบอกว่า จีนไม่ใช่อันธพาล (villain) และความรู้สึกเกี่ยวกับความไม่มั่นคงของสหรัฐฯได้เป็นสาเหตุให้การกระทำของสหัฐฯเองนั่นแหละกลายเป็นการพูดเกินความจริง สหรัฐฯยึดมั่นอยู่กับคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ต่อการเยือนของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง และพิจารณาว่าเป็นโอกาสที่ทรงคุณค่าในการแก้ไขปัญหาที่ยังคารังคาซังกันอยู่นี้ แต่สหรัฐฯก็ควรจะอยู่กับความเป็นจริง (realistic) และไม่คุยโวเกี่ยวกับประเด็นนี้จนเกินไป (ชัดนะจักรวรรดิเฮเก!)
    The Eyes
    14/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Sergey Guneev

    ----------
    Beijing May Cancel Xi's Visit to US Due to Possible Sanctions on China
    US insecurity shows in false spying claims - Global Times
    University holds freshmen military training - Xinhua | English.news.cn
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    ล่าก่อนเจ้าอาวาสโทนี่... นาย Tony Abbott นายกรัฐมนตรีประเทศออสเตรเลียถูกสมาชิกพรรคของตนขับออกจากตำแหน่ง

    [​IMG]

    -----------
    วันนี้ (14 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news รายงานข่าวว่า สมาชิกพรรค Liberal Party ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลของนาย Tony Abbott นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้โหวตให้นายโทนีลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสนับสนุนให้นาย Malcolm Turnbull ขึ้นนั่งในตำแหน่งนายกฯแทน ด้วยคะแนนเสียง 54-44
    เมื่อเช้านี้นาย Julie Bishop รมว.ต่างประเทศ และนาย Malcolm Turnbull รมว.คมนาคมของออสเตรเลียได้ขอให้นายโทนีก้าวลงจากตำแหน่ง
    The Eyes
    14/09/2558


    ภาพจาก Australia's Prime Minister Tony Abbott. © Edgar Su / Reuters

    ----------
    Australian Liberal Party Ousts Abbott as Prime Minister
    Tony Abbott Asked to Step Down by Top Ministers
    https://www.rt.com/news/315230-ministers-ask-abbott-resignation/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ย้อนรอยศึกชิงเก้าอี้ผู้นำออสเตรเลีย (Australia Oustings A Quick History) 1969-2015
    -----------
    - พฤศิจกายน 1969 นาย Billy McMahon (แม็กหมาหอน? ฮ่าๆ) พยายามจะโค่น John Gorton แต่ล้มเหลว
    - มีนาคม 1971 สามปีต่อมา นาย Billy McMahon พยายามเขี่ยนาย John Gorton อีกครั้ง และประสบผลสำเร็จ
    - มิถุนายน 1991 ยี่สิปีต่อมานาย Paul Keating พยายามลากนาย Bob Hawke ลงจากเก้าอี้นายกฯ แต่ล้มเหลว
    - ธันวาคม 1991 นาย Paul Keating พยายามอีกครั้งในปีเดียวกัน และก็ประสบผลสำเร็จ
    - มิถุนายน 2010 นายกฯ Kevin Rudd ถูกนาง Julia Gillard รองนายกฯของตัวเองเขี่ยลงจากตำแหน่งในยกแรก
    - กุมภาพันธ์ 2012 สามปีต่อมา นาย Kevin Rudd ก็พยายามจะทวงแชมป์คืนจากนาง Julia Gillard แต่ไม่สำเร็จ
    - มิถุนายน 2013 นาย Kevin Ruud ไม่ละความพยายามขอท้าชิงตำแหน่งผู้นำออสเตรเลียจากนาง Julia Gillard อีกครั้งและเขาทำสำเร็จ
    - กันยายน 2013 ไม่นานนักนาย Kevin Ruud ก็ถูกนาย Tony Abbott ชิงตำแหน่งไปต่อหน้าต่อตา
    - กันยายน 2015 นาย Malcolm Turnbull ก็ชิงตำแหน่งผู้นำออสเตรเลียมาจากนาย Tony Abbott. เป็นผู้นำออสเตรเลียคนล่าสุด จริงแล้วสองคนนี้เคยชิงตำแหน่งผู้นำพรรค Liberal Party มาก่อน ช่วงที่พรรคนี้เป็นฝ่ายค้านในปี 2008-2009 โดยนาย Tony Abbott เฉือนเอาชนะนาย Malcolm Turnbull อย่างเฉียวฉิวด้วยคะแนนเสียงเพียงที่เหนือกว่าอีกฝ่ายเพียง 1 คะแนน ถูกว่าเป็นการชนะคะแนนไม่ใช่ชนะน็อคเอาท์
    The Eyes
    14/09/2558
    ----------
    https://www.youtube.com/watch?v=o4embsi3Wfc
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ทองคำสำรองสหรัฐฯตกต่ำถึงขีดสุดเนื่องจากธนาคารของยุโรปมองหาอิสรภาพทางการเงิน หรือจะเป็นยุคเสื่อมของจักรวรรดิเฮเกจริงๆ (1/3)

    [​IMG]

    --------------
    วันที่14 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik พาดหัวข่าวว่า "US Gold Reserves Bottom Out as Europe's Banks Seek Financial Independence" (เสร็จเลยสหรัฐฯ ซ่าดีนัก) สื่อฯรัสเซียเกริ่นนำว่า ธนาคารกลางต่างๆในยุโรปเดินหน้าเรียกร้องให้มีการส่งมอบทองคำแท่ง (gold bullion) ของตนคืนจากห้องเก็บทองคำใต้ดินของธนาคารกลางสหรัฐฯในนิวยอร์ก ใต้ถนนเมืองแมนฮัตตันในระดับต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี Lew Rockwell นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าการดำเนินการในครั้งนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่ายุโรปมุ่งมั่นเพื่ออิสระภาพอย่างเอาเป็นเอาตาย (อ้าวก็ไหนว่ายุโรปเป็นประชาธิปไตยมีเสรีภาพ มีอิสรภาพไง แล้วทำไมยังต้องดิ้นรนเพื่ออิสรภาพอยู่อีกหละ? แล้วอิสรภาพที่ยุโรปกำลังดิ้นรนหาอยู่นี้ไม่เหมือนกับอิสรภาพเดิมที่ยุโรปมีอยู่หรอกหรือ? เอ๊ะหรือว่าใครมายึดอิสรภาพของยุโรปไปตั้งแต่เมื่อไรนะ? หรือว่าอิสรภาพของยุโรปถูกนำไปซ่อนไว้ใต้ถนนในเมืองแมนฮัตตัน?)
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ทองคำย่อมมีแสงระแวววับ และชื่อเสียงของสหรัฐฯในฐานะที่เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเก็บทองคำสำรองต่างประเทศที่ประเทศนั้นๆเป็นเจ้าของก็เช่นกัน
    อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเช่น Lew Rockwel ซึ่งปัจจุบันนี้เชื่อว่านี่จะไม่ใช่ข้อยกเว้น และยืนยันว่าซัพพลายส์ของสหรัฐฯกำลังร่อยหรอลงไปอย่างรวดเร็ว
    เรื่องทั้งหมดนี้ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 เมื่อเยอรมันนีพยายามที่จะเรียกร้องให้สหรัฐฯส่งทองคำคืนให้เยอรมัน และก็ตามมาด้วย ประเทศเนอเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และสุดท้ายก็ออสเตรีย (จริงๆแล้วเวเนซูเอล่าเริ่มทวงทองคำคืนจากสหรัฐฯก่อนเยอรมันซะอีก ในเดือนสิงหาคมปี 2011 ปธน. Hugo Chávez ได้มีคำสั่งให้ธนาคารกลางส่งทองคำสำรองของประเทศกลับคืน เป็นเป็นหลักเครื่องคุ้มกันความไม่มีเสถียรภาพในตลาดการเงิน วันที่ 30 มกราคม 2012 เวเนซูเอล่าสามารถนำทองคำจากต่างประเทศจำนวน 160 ตันซึ่งมีมูลค่าถึง 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 319,500,000,000 บาท กลับคืนมายังกรุง Caracas ประเทศเวเนซูเอล่า ต่อมาเขาก็เสียชีวิตในปี 2013 ในขณะที่มีอายุได้ 58 ปี เนื่องจากป่วยเป็นโรคมะเร็งและได้ไปรักษาตัวอยู่ที่คิวบา มีการแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคมะเร็งในเดือน มิถุนายน 2011 ก็ปีที่เขาทวงทองคำคืนจากสหรัฐฯนั่นแหละ ก่อนหน้านี้เวเนซูเอล่าได้เก็บทองคำสำรองของประเทศตนไว้ที่สหรัฐฯจำนวน 365 ตัน และสามารถทวงคืนมาได้แล้ว 211 ตัน)
    ตั้งแต่นั้นมา ธนาคารกลางหลายแห่งของประเทศเหล่านี้ (แม้จะเห็นชะตากรรมของอดีตปธน.เวเนซูเอล่าแล้วก็ตาม ก็ยังเดิหน้าเรียกร้องทองคำของตนเองคืนจากสหรัฐฯอยู่ต่อไป) ได้น้ำโลหะที่มีค่าและหนักถึง 250 ตันกลับคืนไป ซึ่งทำให้ทองคำที่เก็บซ่อนไว้ในห้องใต้ดินในมหานครนิวยอร์กลดลงไปถึง 5,950 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบยี่สิบปี (ก็ไหนว่ามีสำรองอยู่ตั้ง 8,000 กว่าตันซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆทั่วโลกไม่ใช่รึ)
    รายงานข่าวบอกว่าในปี 207-2008 ก็มีธนาคารกลางของต่างประเทศได้นำทองคำจำนวน 400 ตันกลับคืนไปเช่นกัน Lew Rockwel ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานของสถาบัน Ludwig von Mises Institute กล่าวว่า การเคลื่อนย้าย (ทองคำ) ในครั้งนี้บ่งบอกถึงความปรารถนาที่เพิ่มขึ้นของรัฐต่างๆตามที่ได้กล่าวมาก็เพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพมากขึ้นจากประเทศสหรัฐฯ (อ้าว! นักปล้นอิสรภาพอยู่ตรงนี้นี่เอง นึกว่าใครอื่นเช่น รัสเซีย คอมมิวนิสต์จีน หรือแม้กระทั่งเกาหลีเหนือและรัฐบาลทหารพม่าซะอีก อัยย๋าาาา คนกันเองแท้ๆ ไม่น่าทำกันอย่างนี้เลย)
    Lew Rockwel กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าว RT ของรัสเซียว่า "มันเป็นเรื่องปรกติมากๆสำหรับจักรวรรดิต่างๆที่จะเก็บสะสม (/ยึด/ปล้น) ทองคำของประเทศอาณานิคมและรัฐต่างๆที่ขึ้นตรงของพวกเขาเอาไว้ การตัดสินใจที่จะเรียกร้องเอาทองคำกลับคืนมาย่อมไม่ทำให้กรุงวอชิงตันชอบใจนัก แต่มันก็เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับอิสรภาพของรัฐเหล่านั้น"
    โปรดติดตามตอนต่อไป.... วันนี้ง่วงมากแล้วครับ
    The Eyes
    15/09/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Archiv
    ----------
    US Gold Reserves Bottom Out as Europe's Banks Seek Financial Independence
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พรุ่งนี้มาต่อครับ จะต้องออกไปข้างนอกแล้วครับ
     
  9. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    คืนนี้ผมเอาข่าวจากสองฝั่งคือจากฝั่งอเมริกา-นาโต้ และฝั่งรัสเซียมาให้อ่านกัน ผมอ่านข่าวแล้วก็สงสัยว่าถ้าไอซิสคือศัตรูตัวร้ายที่ต้องปราบโดยอเมริกาและนาโต้ แล้วถ้ารัสเซียมาช่วยส่งอาวุธเพิ่มขึ้นให้รัฐบาลซีเรียมีกำลังมาปราบอีกคน ทำไมเดือดร้อนกันนักกันหนามาตั้งแต่ต้นเดือน ดิ้นรนที่จะไม่ให้รัสเซียเข้ามาช่วยส่งอาวุธให้ ปธน.อัสซาด ปราบไอซิส
    ***************************************************************************
    เอาข่าวแรกจากฝั่งอังกฤษก่อนครับ สำนักข่าว บีบีซี ได้ตีหัวข่าวว่า The US and Nato have expressed concern over reports that Russia is increasing its military presence in Syria. Nato chief Jens Stoltenberg said if confirmed, Russia's involvement would not help to solve the conflict. อเมริกาและนาโต้แสดงความกังวลว่ารัสเซียจะเสริมกำลังในซีเรีย นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต บอกว่า หากรัสเซียเข้ามายุ่งก็ไม่ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งแต่อย่างไร

    พอผมอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเกิดความสงสัยทันทีว่า อเมริกาและนาโต้เข้ามายุ่งเรื่องซีเรียและปราบไอซิสมาสองปีแล้ว ยังปราบไม่ได้แถมยิ่งปราบไอซิสยิ่งโตวันโตคืนยึดพื้นที่ของประเทศซีเรียได้เรื่อยๆ ยิ่งนานวันรัฐบาลของปธน.อัสซาด ก็ยิ่งอ่อนแอลงไปตลอดเวลา ทั้งที่การเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วมีแข่งกัน 3 พรรคการเมือง ปธน.อัสซาด ได้คะแนน 88.7% สูงจนใครๆ เห็นก็ต้องบอกได้ถึงความชอบธรรมของรัฐบาลซีเรียชุดนี้ยังนั่งเก้าอี้ต่อไปได้ แต่รัฐบาลนี้ไม่ถูกใจอเมริกาและยุโรปเท่านั้น เพราะ ปธน.อัสซาด อยู่ฝั่งที่โปรอิหร่านที่อเมริกาคุมไม่ได้และไม่ถูกใจเท่านั้น ดังนั้นใครๆ ก็อดมองไปในแนวที่อเมริกาและนาโต้มาปราบไอซิสสองปียิ่งปราบยิ่งโตนั้นต้องมีอะไรดำมืดซ่อนเอาไว้อยู่ และพอรัสเซียแบะท่าว่าจะเข้ามาช่วยปราบโดยส่งอาวุธเพิ่มเข้าไปให้รัฐบาลอัสซาดเท่านั้น ทั้งอเมริกาและนาโต้โวยวายลั่นไม่ยอมให้เข้ามาตลอดเวลาเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา

    เรื่องนี้ผมอยากปูพื้นฐานเรื่องกองกำลังรัสเซียในซีเรียสักเล็กน้อยก่อนนะครับว่ารัสเซียมีฐานทัพเรือรัสเซียในเมืองทาร์ทัส ของซีเรีย มานานแล้วซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับอะไรใครๆก็รู้กันทั้งโลก ไม่ต่างกับที่อเมริกามีฐานทัพของตัวเองที่ซาอุดิอาราเบียและตะวันออกกลางประเทศอื่นๆ รวมถึงฐานทัพเรืออังกฤษที่ มิน่าซัลมาน บาห์เรน ที่อังกฤษเข้ามาแบบชักเข้าชักออกสองรอบแล้ว แต่ที่ต่างกันกับฐานทัพอื่นของอเมริกาและนาโต้คือเป็นฐานทัพเรือรัสเซียที่ทาร์ทัสเป็นเพียงฐานส่งกำลังบำรุงให้กองเรือรัสเซียที่เข้ามาเติมเสบียงเท่านั้น ไม่ใช่ฐานทัพเรือที่มีอาวุธและทหารเพียบไปหมดเหมือนของชาติตะวันตกที่มีในย่านนี้ ถ้ารัสเซียซุกอาวุธและทหารเอามากมายในฐานทัพเรือไว้จริงตามที่โดนกล่าวหาแล้วรัสเซียจะดิ้นรนหาทางส่งกำลังบำรุงทางอากาศมาเพิ่มอีกไปทำไม จริงไหมครับ

    เรื่องนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ของอเมริกาได้ออกมาให้ข่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยนามได้ให้ข่าวว่าเมื่อวันก่อนรัสเซียส่งเครื่องบินรบและเรือยกพลขึ้นบกสองลำไปที่ฐานทัพทาร์ทัสในซีเรีย และได้ส่งกองทหารของกองทัพเรือเข้าไปด้วย Unnamed US officials quoted by Reuters say Moscow has sent additional aircraft and two tank landing ships to Russia's naval base in the Syrian coastal city of Tartus, within the past day or so. They also say a small number of naval infantry forces have been deployed.

    เฮ้อออ...อ่านแล้วเพลียใจ BBC สำนักข่าวระดับโลกอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยนามที่สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างไว้มาอีกที นี่เป็นไปได้ตั้งแต่ยายแม้นภารโรงจนถึงรัฐมนตรี ถ้าแหล่งข่าวเปิดเผยไม่ได้แล้วเอามาลงข่าวสำคัญช่วง Breaking News ได้นี่ไม่เกรงใจคนอ่านเลย
    และอีกอย่างคือเรือ LST หรือ Tank Landing Ships เพียงสองลำมันขนเอาทหารรัสเซียไปแคะขี้ฟันใครได้ในซีเรียเพราะมันมีหน้าที่หลักเป็นเรือขนส่งลำเลียง ถ้าเป็นเรือระดับ LPD หรือ Dock Landing Ship มาค่อยสมศักดิ์ศรีการส่งกองกำลังทหารเข้ารบโดยตรงแบบ Amphibious สักหน่อย และอีกอย่างคือเรือ LST มันมาจอดที่ฐานทัพเรือทาร์ทัสนี่มันปกติของการใช้เรือลำเลียงประเภทนี้โดยตรงในการส่งเสบียงกำลังบำรุงฐานทัพตามปกติอยู่แล้ว ไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ตื่นเต้นมาข่าวของฝั่งตะวันตก
    ***********************************************************************************

    มาดูข่าวฝั่งรัสเซียในเรื่องเดียวกันบ้าง สำนักข่าวรัสเซียไทม์ ได้ออกข่าวพาดหัวมาว่า Russia backs Syria’s fight against ISIS, not Assad’s regime รัสเซียกลับไป(ยุ่งเรื่อง)ซีเรียเพื่อสู้กับไอซิส ไม่ใช่ไปสนับสนุนระบอบอัสซาด
    “We support the fight of the Syrian government against so-called Islamic State, which neither represents Islam, nor happens to be a state,” Sergey Lavrov said นายเซอร์เก ลาร็อฟ ได้พูดว่า เราช่วยเหลือซีเรียให้สู้กับรัฐอิลามปลอมๆ (ไอซิส) ที่ไม่ใช่ตัวแทนของรัฐอิลามจริงๆ 'No secret': Russia has been supplying Assad with arms 'for long time already เราสนับสนุน ปธน.อัสซาดด้านอาวุธมานานแล้วไม่ใช่ความลับอะไร

    เรื่องนี้ผมเคยเขียนเอาไว้แล้วเมื่อสามวันก่อนว่า รัฐบาลซีเรียยังยืนอยู่ได้ไม่ล้มลงด้วยสามสิ่ง คืออาวุธจากรัสเซีย เงินทุนจากอิหร่าน และกองกำลังฮิซบุลลอฮ์ที่ส่งมาจากอิหร่านอย่างลับๆ เพื่อยันกับไอซิสในแนวหน้าแทนทหารซีเรียที่หมดแรงสู้ไปนานแล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการแทรกแซงจากอเมริกาคือบีบเส้นทางการบินส่งสิ่งของไปช่วยซีเรียของรัสเซียไม่ให้ผ่านบัลแกเรีย แต่รัสเซียก็ยอมบินนานขึ้นโดยผ่านอิหร่านแทน และอิหร่านก็สนับสนุนเต็มที่ให้ผ่านได้

    เรื่องนี้นายจอนห์ แครี่ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาพอรู้ว่าผิดแผนที่วางเอาไว้เพื่อบีบรัสเซียไม่ให้บินผ่านไปซีเรียถึงกับโทรไปคุยกับนายเซอร์เก ลาร็อฟ ว่ามันจะนำไปสู่ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น และเรื่องนี้รัฐมนตรีของเยอรมันและฝรั่งเศสได้ออกมาเตือนสนับสนุนว่ามันจะยกระดับทางการทหารขึ้นมาอีกในอนาคต John Kerry warned Mr Lavrov on Wednesday that if the reports were found to be true, "it could lead to greater violence". The German and French foreign ministers have also warned against a further military escalation.

    เรื่องนี้สำนักข่าวรัสเซียไทม์ได้ตบท้ายข่าวว่า Russia and the US disagree sharply on Syria. While Russia has backed the Syrian government, and provided it with arms, the US wants to see the removal of President Assad. รัสเซียและอเมริกาต่างก็มีความเห็นที่ขัดแย้งรุนแรงในเรื่องซีเรีย ขณะที่รัสเซียกลับไปให้ความช่วยเหลือรัฐบาลซีเรียด้วยการส่งอาวุธไปให้ แต่อเมริกาต้องการเห็นรัฐบาล ปธน.อัสซาดตกเก้าอี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    *******************************************************************************
    สงครามข่าวของสำนักข่าวระหว่างตะวันตกและรัสเซียรบบนกระดาษกับหน้าจอก็รุนแรงไม่แพ้สงครามจริงที่รบจนซีเรียทั้งประเทศเละเทะไปอย่างที่เห็นทุกวันนี้เลยนะครับ ผมอ่านข่าวทั้งสองฝั่งเลยได้เห็นความจริงเท็จทั้งสองด้าน แต่บอกตรงๆ ว่าผมเชียร์รัสเซียในเรื่องนี้ เพราะอเมริกาและนาโต้ยิ่งยุ่งกับซีเรียนานเท่าไร คนยิ่งอพยพจากบ้านเกิดเมืองนอนหนีตายเรือนแสนเรือนล้านมากขึ้นอย่างที่เห็น

    ผมเดจาวูที่เห็นภาพคนซีเรียหนีตายจากบ้านตัวเอง ผมเห็นเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยญวนอพยพเรือนแสนไปทั่วโลกรวมถึงลอยเรือมาไทยเมื่อครั้งสงครามเวียดนามที่อเมริกาเข้าไปยุ่งกับประเทศของคนอื่นจนเละทั้งประเทศมาแล้วครับ

    ที่มา เพจ Pat Hemasuk
    เครดิตภาพ สำนักข่าว บีบีซี และ รัสเซียไทม์

    [​IMG]
     
  10. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    เยเมนชาติที่เหมือนโดนพระเจ้าสาป ตอนที่1

    ในอีกฝั่งของอ่าวที่เกิดสงครามขึ้นคือประเทศเยเมนซึ่งในเวลานี้โดนพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุดิอาระเบียบินไปถล่มมากว่าห้าเดือนแล้ว และเมื่อวานนี้ถือว่าเป็นการบินถล่มเยเมนที่หนักมากที่สุดในรอบห้าเดือนก็ว่าได้ ทำให้ประชาชนต้องเสียชีวิตไปไม่น้อยเมื่อวานนี้ และเป้าหมายของการถล่มคือกลุ่มกบฎฮุดติในฐานทัพทหารกรุงซานา เมืองหลวงของประเทศ

    ความเป็นไปของเยเมนทั้งในอดีตและปัจจุบันนั้นสุดแสนจะเศร้า ทั้งที่เป็นประเทศที่พร้อมจะเจริญทัดเทียมกับประเทศอื่นที่อยู่ติดกัน ไม่ว่าจะเป็น ซาอุดิอาราเบีย และ โอมาน ที่เป็นเศรษฐีน้ำมัน เยเมนถึงแม้จะมีน้ำมันน้อยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย ในเวลานี้สามารถส่งออกได้ถึงวันละกว่าสองแสนบาเรล และทำเลของประเทศนั้นคือปากทางไปสู่ทะเลแดงที่เรือทุกลำจากคลองสุเอชต้องผ่านประเทศเยเมน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยว่าทำไมเยเมนถึงยังจนและจนที่สุดในย่านนี้ก็ว่าได้ นอกจากสิ่งที่เยเมนทำตัวเองเลวเอง และโดนทำเลวจากมหาอำนาจภายนอกประเทศ

    เยเมนนั้นเป็นชาติที่เหมือนโดนพระเจ้าสาป เป็นชาติที่ไม่เคยมีความสงบได้นานมาตั้งแต่ที่อาณาจักรอ็อตโตมันเข้าครอบครองทางเหนือ และอังกฤษเข้ามาครองเป็นอาณานิคมทางใต้ กว่าสองร้อยปีที่เยเมนต้องแยกออกมาเป็นสองส่วน จนกลับเข้ามาสู่ระบบกษัตริย์ในช่วงได้เอกราชหลังสงครามโลกครั้งที่1 และความสุขของประชาชนก็อยู่ได้ไม่นาน จนกระทั่งเกิดรัฐประหารล้มระบอบกษัตริย์ไปในปี 1962 แล้วเข้าสู่ยุคสงครามกลางเมืองโดยมีอียิปต์ถือหางข้างทหารและซาอุดิอาระเบียถือหางด้านระบบกษัตริย์เก่า รบกันอยู่แปดปีจนจนเกิดข้อตกลงหยุดยิงโดยให้ทั้งสองฝั่งเข้าร่วมปกครองเยเมน แต่ก็เกิดรัฐประหารขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำอีกจนถึงของยุค ประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ที่สามารถหยุดความรุนแรงได้และประสานอำนาจทั้งสองฝั่งจนรวมประเทศเหนือใต้เป็นเยเมนเดียวกันได้ไม่ใช่ต้องแยกกันเหมือนแต่ก่อน แต่ความสงบนั้นต้องแลกด้วยการเฉือนประเทศตอนเหนือยกให้ซาอุดออาระเบียไปบางจังหวัด

    แต่ประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ที่ครองประเทศมานานก็ตกเก้าอี้จากอาหรับสปริง ในปี 2011 และมีคนใหม่ขึ้นมาคือ ประธานาธิบดี อับดราบบูห์ มานซูร์ ฮาดี แต่สิ่งที่สอง ปธน.ทำไม่สำเร็จคือการรวมประชาชนของชาติที่เคยแยกเหนือใต้มาสองร้อยปีนั้นมีพื้นฐานต่างกันมาก ทางใต้ที่เคยอยู่กับอังกฤษนั้นประชาชนมีพื้นฐานไปอีกอย่าง ทางเหนือที่อยู่กับโลกอาหรับมาตลอดประชาชนก็คิดไปอีกอย่าง จนเกิดกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยขึ้นมาก่อการต่อต้านรัฐบาลมาตลอดของการรวมชาติที่ผ่านมา จนเวลานี้จะบอกว่ามีกลุ่มใหญ่ๆสองกลุ่มคืออัลกออิดะห์ และกลุ่มฮุดติ ก็ว่าได้ แต่ที่จริงแล้วกลุ่มฮุดติยังแยกออกเป็นหลายกลุ่ม แต่กลุ่มใหญ่คือ มุสลิมนิกายชีอะห์ สายไซดี แต่ให้การสนับสนุนอดี ปธน.อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ที่ลี้ภัยไปอยู่ซาอุดิอาระเบีย และอีกกลุ่มก็ให้การสนับสนุน ปธน. อับดราบบูห์ มานซูร์ ฮาดี ที่ต้องไปลี้ภัยอยู่ในซาอุดีอาระเบียเมื่อต้นปีที่ผ่านมาอีกเหมือนกัน และฮุดติที่ไม่สนับสนุนใครเลยทั้งสองผ่ายก็เข้ามาร่วมความขัดแย้งกันด้วย เพราะกลุ่มที่ก่อการร้ายจน ปธน. อับดราบบูห์ มานซูร์ ฮาดี ต้องตกเก้าอี้ไปก็เป็นเพราะกลุ่มฮุดติไม่สนใจใครนี่แหละครับ

    จะบอกว่ากลุ่มคืออัลกออิดะห์ในเยเมน ลอยตัวในงานนี้ก็ว่าได้ เพราะกลุ่มนี้เด็กเลี้ยงของกองกำลังภายนอกประเทศที่นำโดยซาอุดิอาระเบียมาตลอดตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ ดังนั้นสงครามนี้ไม่ใช่สงครามของกลุ่มอัลกออิดะห์ที่ยังสงบนิ่งในพื้นที่ของตัวเองในเยเมน แต่เป็นสงครามของชาติพันธมิตรในกลุ่มประเทศซาอุดิอาระเบียกับกลุ่มฮุดติ และเกมส์นี้เป็นเกมส์สำคัญที่แพ้ไม่ได้ เพราะสเถียรภาพของอ่าวเอเดน ทะเลแดงนั้นส่งผลต่อเรือทุกลำที่ผ่านคลองซุเอชโดยตรง

    วันนี้ผมเขียนจบเท่านี้ครับ เอาแค่ปูพื้นฐานก่อนว่าปัญหาของเยเมนนั้นคืออะไร ใครเป็นพระเอก ใครเป็นผู้ร้าย เอาไว้พรุงนี้ผมมาสรุปให้ฟังตอนจบ ถึงผู้ร้ายที่แอ็บว่าตัวเองเป็นพระเอก ตัวที่ สาม สี่ ห้า ที่เข้ามาขยี้ประเทศเยเมน

    ที่มา เพจ Pat Hemasuk
    เครดิตภาพ อินเตอร์บิซิเนสไทม์

    [​IMG]
     
  11. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    เยเมนชาติที่เหมือนโดนพระเจ้าสาป ตอนที่2


    เมื่อวานนี้ผมเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของเยเมนจบไป คราวนี้มาดูเรื่องปัจจุบันบ้าง จะเห็นว่าเยเมนนั้นต้องโดนบังคับให้คล้อยตามซาอุดิอาระเบียมาตลอด เพราะเยเมนเหนือนั้นผูกพันกับรัฐอิสลามมาหลายร้อยปี ขณะที่เยเมนใต้นั้นอยู่ใต้การดูแลเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาสองร้อยปี ดังนั้นแนวคิดของคนสองกลุ่มนี้คนละเรื่องคนละราวกันเลยก็ว่าได้ เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนตอนที่ประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ รวมประเทศเยเมน เหนือ-ใต้ เข้าเป็นหนึ่งนั้น ทางใต้เป็นเมืองสมัยใหม่ที่เจริญแล้ว ผู้คนก็ดูกลายเป็นตะวันตกคิดเป็นตะวันตกไม่ต่างกับประเทศที่เป็นอาณานิคมอังกฤษอื่นๆ แต่ทางตอนเหนือนั้นยังคงเป็นอาหรับแท้ๆ อยู่ ดังนั้นทางเยเมนใต้หลังจากได้อิสระภาพจากอังกฤษจึงมีแนวคิดซ้ายจัดไปทางโซเวียดและก็อบปี้เอาแนวบริหารประเทศซ้ายจัดแบบประเทศคิวบามาใช้ ไม่ต่างกับประเทศอิรักที่ในเวลานั้นก็มีแนวคิดทางการเมืองซ้ายจัดสายโซเวียดเช่นกัน แต่หลังจากโซเวียดล่มสลายไป จึงเป็นโอกาสทองของ ปธน.ซาเลห์ ที่จะกำจัดซ้ายจัดออกไปจากทางภาคใต้ และประสานอำนาจ เหนือ-ใต้ ระหว่างอำนาจใหม่โปรรัสเซียและซาอุดิอาระเบียจนเกิดสันติภาพอยู่ได้นายหลายปี จนโดนทหารปฎิวัติและมีการเปลี่ยนอำนาจอยู่หลายรอบจนถึง ประธานาธิบดี อับดราบบูห์ มานซูร์ ฮาดี เยเมนก็ยังมีความคิดแตกแยกออกเป็นกลุ่มๆอยู่ จนแม้ในเวลานี้ประชาชนเยเมนก็ยังมีแนวคิดแตกแยกอยู่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิม


    ซาอุดิอาระเบียนั้นแทรกแซงเยเมนมาตลอด ตั้งแต่การสนับสนุนให้ราชวงค์กษัตริย์เก่าของเยเมนเข้ามามีส่วนบริหารประเทศในยุคที่เยเมนมีประธานาธิบดีแล้วอย่างยาวนานเกือบ 20ปี ซาอุดิอาระเบียเข้ายึดครองเอาเมืองทางตอนเหนือไปครอบครองถึงสามเมืองแบบที่เยเมนเองก็พูดไม่ออก และเมื่อเยเมนเป็นเด็กดื้อไม่ยอมร่วมมือในช่วงสงครามอ่าว ซาอุดิอาระเบียก็ยกเลิกเงินช่วยเหลือ ไล่คนเยเมนในซาอุดิอาระเบียออกไปเกือบล้านคน ทั้งที่คนพวกนี้ส่วนใหญ่เกิดในดินแดนที่ซาอุที่ยึดครองไป และส่วนหนึ่งคือแรงงานรับจ้างที่ข้ามแดนมา ทำให้เยเมนต้องเจอปัญหาหนักหน่วงเรื่อรายได้เข้าประเทศและแถมต้องต้องเลี้ยงดูคนจำนวนมหาศาลจนไม่กล้าหือกับซาอุอีกเลยจนถึงยุคของ ปธน.ฮาดี


    เมื่อเยเมนต้องการเงินและอำนาจใหม่ที่เข้ามาให้ประเทศอยู่ได้ จึงต้องเข้าหาอเมริกา โดยรับหน้าเสื่อในการปราบผู้ก่อการร้าย และเครือข่ายของบินลาเด็นที่ได้รับความช่วยเหลือลับๆจากซาอุดิอาระเบีย อเมริกาจึงต้องใช้มือของเยเมนที่ไม่ชอบหน้าซาอุนักในย่านนี้ โดยอเมริกาลากมือ IMF มาอุดหนุนเงินกู้แลกน้ำมันกับเยเมนจำนวนเงินมหาศาล ดังนั้นแม้ทุกวันนี้เยเมนจะผลิตน้ำมันได้ถึงวันละกว่าสี่แสนบาเรล แต่ก็ต้องเอาไปใช้หนี้เก่ากับ IMFส่วนหนึ่ง ดังนั้นเยเมนจึงเป็นชาติที่ยากจนระดับยาจกในย่านนี้ที่มีแต่เศรษฐีน้ำมัน


    และเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่กองกำลังกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยคุมไม่ได้ของเยเมนใช้ระเบิดโจมตีสถานทูตอังกฤษและระเบิดเรือ USS Cole ที่จอดลอยลำในน่านน้ำอ่าวอาเด็น โดยอ้างความรับผิดชอบโดย กองทัพอิสลามแห่งอับยันแห่งเยเมน (Islamic Army of Aden-Abyan) งานนี้มีทหารอเมริกันตายไป 17คน ยิ่งทำให้เยเมนกลายเป็นหมาหัวเน่าในมุมมองของอเมริกาและยุโรป ในทำนองเดียวกันก็เป็นหมาหัวเน่าในสายตาของซาอุดิอาระเบีย สรุปแล้วทำให้เวลานี้เยเมนจะเป็นหรือตายก็ไม่มีใครใส่ใจ ไม่ว่าจะแขกหรือฝรั่งตะวันตกเองก็ตาม


    เวลานี้ประเทศเยเมนเกิดสูญญากาศขึ้นหลังจากที่ ประธานาธิบดี อับดราบบูห์ มานซูร์ ฮาดี ต้องเด้งออกจากเก้าอี้โดยกลุ่มกบฏมุสลิมนิกายชีอะห์ สายไซดี หรือที่รู้จักกันในชื่อ กบฎฮุดติ ซึ่ง ปธน.ฮาดี นั้นเป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ที่พวกชีอะห์ไม่ปลื้มอยู่แล้ว และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ กองทัพเยเมน ยังแบ่งฝ่ายกันเองเสียอีกโดยอีกกลุ่มยังคงภักดีกับ ปธน.ฮาดี แต่อีกกลุ่มสนับสนุนกบฎฮุดติ อีกส่วนยังคงภักดีกับอดีต ปธน.ซาเลย์ วุ่นวายไปหมด แต่กำลังที่มีอำนาจอีกส่วนคือกลุ่มอัลกออิดะห์ ที่รู้จักในนามของ Al-Qaeda in the Arabian Peninsula (AQAP) กลุ่มนี้ไม่เอาฝั่งไหนทั้งนั้นเพราะเป็นเด็กเลี้ยงของซาอุดิอาระเบียและเบื้องหลังการเชิดหุ่นอัลกออิดะห์ของซาอุอาระเบียนั้นคืออเมริกา(แล้วผมจะขยายความให้อ่านพรุ่งนี้) ดังนั้นการโจมตีทางอากาศของประเทศพันธมิตรอาหรับ 5 ชาติของซาอุดิอาระเบียตลอดห้าเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาจึงไม่มีการหย่อนระเบิดลงพื้นที่ของอัลกออิดะห์เลยแม้แต่สักลูกเดียว


    ไม่เพียงแต่เท่านั้น กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่สายซาราฟิส หรือที่รู้จักกันในนามของ ไอซิส ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในเยเมนอีกแล้วด้วยอีกกลุ่มในปีที่แล้ว โดยหวังจะล้มอัลกออิดะห์ในเยเมน เวลานี้เริ่มมีระเบิดพลีชีพในพื้นที่ของอัลกออิดะห์หลายครั้งจนบอกได้ว่าไม่มีพื้นที่ไหนของเยเมนจะมีความสงบ แต่ไอซิสในเยเมนยังถือว่าเป็นเด็กเมื่อวานซืนเขี้ยวเพิ่งงอกเมื่อเทียบกับกบฎฮูติที่มีผลงานในการป่วนรัฐบาลมานานกว่า


    ที่ผมบอกว่าฮุดติป่วนมานานกว่านั้นต้องเริ่มปูพื้นกันก่อนย้อนไปในปี 2004 นาย ฮุสเซน บาดาร์ อัล-ดิน อัล-ฮุดติ ผู้นำกลุ่มฮุดติที่ใช้ชื่อในปัจจุบันนี้ เดิมนั้นใช้ชื่อกลุ่ม อันซาร์ อัลเลาะห์ (Ansar Allah) เป็นมุสลิมนิกายชีอะห์สายไซดี ที่มีคนอยู่ในภาคเหนือของเยเมนจำนวนมหาศาลถึง 1 ใน 3 ของประเทศ ซึ่งอยู่มานานเป็นพันปีตั้งแต่ยุคแพร่ศาสนาอิสลามในย่านนี้แล้ว และดูแลโดยอิมหม่ามโดยได้รับการเห็นชอบกับระบบกษัตริย์เดิมไม่เป็นศัตรูกันมาอย่างยาวนาน ดังนั้น ชีอะห์สายไซดี สายนี้จึงได้รับการสนับสนุนโดยอิหร่านมาตลอดเวลาการปกครองตนเองของพวกเขาในเขตจังหวัดซาดา ไม่ให้สุหนี่ทางใต้เข้ามารุกรานได้ แต่เมื่อนายฮูติโดนสังหารจากกองทัพเยเมน กลุ่ม อันซาร์ อัลเลาะห์ ที่นำโดยนายฮูติก็เปลี่ยนชื่อเป็น กลุ่มกบฎฮูติที่รู้จักกันจนถึงทุกวันนี้


    ผลงานของกลุ่มกบฎฮุดติในเยเมนนั้นมีไม่ใช่น้อย สงครามย่อยๆ ในตอนเหนือนั้นมีมาตลอดจนซาอุดิอาระเบียเองก็ปวดกบาลไปด้วย และตอนเกิดอาหรับสปริงก็เข้าร่วมกับประชาชนกลุ่มอื่นๆ จน อดีต ปธน.ซาเลย์ ต้องตกเก้าอีลี้ภัยไปอยู่ซาอุ แล้วขยายเขตตัวเองไปในเขตจังหวัดอัมรานที่ติดกัน เรื่องนี้ มุสลิมสาย วะฮาบีย์ ของซาอุดิอาระเบียถือว่า ฮุดติ เป็นภัยต้องกำจัด (ความจริงสายนี้เรียกตัวเองว่า สะลาฟียะ และไม่ชอบให้ใครเรียกว่า วะฮาบีย์ จากกลุ่มต่อต้านในเชิงเหยีดหยามหน่อยๆ ครับ)


    วันนี้ผมเขียนไม่จบอีกแล้วครับทั้งที่คิดว่าจะเขียนให้จบ เมื่อวานนี้ปูพื้นฐานว่าปัญหาในอดีตที่ส่งผลจนถึงวันนี้ของเยเมนนั้นคืออะไร ใครเป็นพระเอก ใครเป็นผู้ร้าย วันนี้เขียนให้อ่านว่าปัญหาปัจจุบันที่เห็นในข่าวต่างประเทศที่โดนถล่มจากพันธมิตรอาหรับนั้นคืออะไรต้นเหตุมาจากไหน เลยไม่ถึงตอนจบที่ผมเกริ่นนำว่ามีผู้ร้ายที่แอ็บว่าตัวเองเป็นพระเอก ตัวที่ สาม สี่ ห้า ที่เข้ามาขยี้ประเทศเยเมนเสียที คงต้องต่อตอน 3 ในวันพรุ่งนี้ครับ

    ที่มา เพจ Pat Hemasuk
    เครดิตภาพ อินเดียไทม์
    [​IMG]
     
  12. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ยเมนชาติที่เหมือนโดนพระเจ้าสาป ตอนที่3

    วันนี้เป็นวันที่ผมกำหนดเอาไว้ให้เป็นวันที่สรุปจบเรื่องเยเมนครับ การที่ชาติพันธมิตรอาหรับโดยการนำของซาอุดิอาระเบียนำทีมเข้าถล่มเยเมนมาตั้งแต่เดือนมีนาคมนั้นเป็นเหตุผลง่ายๆคือถ้าเยเมนไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองและยอมให้ มุสลิมชีอะห์สายไซดี ที่สนับสนุนโดยอิหร่านเข้ามายึดประเทศ และดันอยู่ติดชายแดนของตัวเองมันก็ไม่ต่างกับอิหร่านมีกองทัพเข้ามาประชิดชายแดนซาอุแต่อย่างไร เพราะมุสลิมสาย วะฮาบีย์ ของซาอุดิอาระเบียนั้น มุสลิมสายชีอะห์ไม่ปลื้มเท่าไร ผมอยากจะย้อนกลับไปสมัย ปธน.ซาดัด ของอียิปต์ จูบปากกับ นรต. เบกิน ของ อิสราเอล ยังโดนถูกยิงทิ้งกลางพิธีสวนสนามเสียเลย เพราะดูแล้วเหมือนว่าอียิปต์กำลังหักหลังชาติอาหรับทั้งมวลที่ร่วมรบกับยิว ซึ่งกลุ่มซาอุดิอาระเบียก็ถูกมองจากฝั่งโปรอิหร่านเช่นนั้นว่ายอมอยู่ใต้กองทัพของอเมริกาให้เข้ามาตักตวงและทำลายพี่น้องอาหรับด้วยกันหลายประเทศ นี่คือมุมมองของประเทศมุสลิมสายชีอะห์ที่มีต่อกลุ่มประเทศพันธมิตรซาอุดิอาระเบีย การที่กบฎฮุดติที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเข้ามาชิดชายแดน และยึดประเทศเยเมนไปส่วนใหญ่ รวมยึดถึงเมืองหลวงได้แล้วนั้น ทางฝั่งของซาอุดิอาระเบียนั้นถือว่าไม่มีทางยอมได้โดยเด็ดขาดเช่นกัน

    และเรื่องที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันคือ ถ้าทุกประเทศถล่มกบฎฮุดติจนจบได้อย่างสวยงาม เสถียรภาพของเส้นทางเดินเรือจากทะเลแดงออกอ่าวเอเด็นก็ปลอดภัยขึ้น ผู้ที่ได้ประโยชน์นั้นมีตั้งแต่ทุกชาติยุโรปทางตะวันตก ทุกชาติพันธมิตรอาหรับ ไล่ตั้งแต่ อียิปต์ต้นคลองซุเอซ จนไปออกมหาสมุทรอินเดีย ได้ประโยชน์จากเสถียรภาพของการเดินเรือผ่านคลองสุเอซทั้งหมดถ้าไม่มีกบฎฮุดติในเยเมน

    เมื่อวานนี้ผมได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับที่ เยเมนได้ใช้เงินกู้จาก IMF ไปมหาศาลในการทำให้ประเทศนั้นยังคงบริหารงานต่อไปได้ในช่วงหลังจากที่โดยซาอุดิอาระเบียแซงชั่นงดการช่วยเหลือและส่งคนเยเมนกลับประเทศทั้งหมดนั้น รวมถึงช่วง 911 ที่อเมริกาขอความร่วมมือเยเมนในการปราบผู้ก่อการร้ายแลกกับการกู้เงิน IMF นั้น แม้เยเมนจะผลิตน้ำมันได้วันละกว่าสี่แสนบาเรลก็ตาม เยเมนก็ยังอยู่ในสภาพประเทศยาจกเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านเพราะต้องแบกหนี้เอาไว้ ดังนั้นถ้าระบบเก่าของ ปธน.ฮาดี ต้องล้มลงไป สิ่งที่อเมริกาและกลุ่มยุโรปต้องเสียไปคือหนี้ที่ลากขาเอา IMF มาให้กู้ และอีกอย่างคือ ฐานของอัลกออิดะห์สายเยเมนที่ไม่เป็นภัยต่อซาอุดิอาระเบียและประเทศตะวันตกต้องล้มลงด้วยฝีมือของกบฎฮุดติในเวลาอันใกล้นี้ด้วย

    เรื่องนี้อย่าเอาอัลกออิดะห์เยเมน ไปรวมกับกลุ่มอัลกออิดะห์ สายเอเซียกลางที่มีนาย อัยมาน อัล-ซอวาฮีรี ผู้นำสูงสุดคนปัจจุบันของเครือข่ายอัลกออิดะห์ นะครับ เพราะอัลกออิดะห์ในเยเมนนั้นเหมือนเชื้อโรคที่ตายแล้วในวัคซีนที่สนับสนุนโดยอาหรับสายที่เป็นมิตรกับตะวันตกที่นำโดยซาอุดิอาระเบีย ถึงแม้จะกำเนิดจากจุดเดียวกันที่สมัย อุซามะฮ์ บิน ลาดิน เริ่มก่อตั้งจากกลุ่มญิฮัดวะฮาบีย์ สุดโต่ง แต่ อัลกออิดะห์ที่เยเมนนั้นไม่เหมือน อัลกออิดะห์ที่ อัฟกานิสถาน ปากีสถาน อิรัก และ ซูดาน และยังคงความเป็น วะฮาบีย์ สายของซาอุดิอาระเบียนเอาไว้เหมือนสมัยที่ อุซามะฮ์ บิน ลาดิน ยังเป็นผู้นำอยู่ ดังนั้นด้วยนัยยะอันนี้ทำให้การถล่มเยเมนตลอดห้าเดือนกว่าที่ผ่านมา พื้นที่อัลกออิดะห์ของเยเมนจึงไม่สะเทือนจากระเบิดของพันธมิตรอาหรับเลยสักลูก

    และสงครามครั้งนี้ถ้ากำจัดกบฎฮุดติไป นอกจากจะสร้างเสถียรภาพในเส้นทางเดินเรือที่ต้องผ่านคลองซุเอซแล้ว กลุ่มประเทศตะวันตกและอเมริกานอกจากจะยังคงรักษาหนี้ไม่ให้โดนชักดาบจากรัฐบาลใหม่ของกบฎฮุดติ และยังคงผูกการหักหนี้ด้วยน้ำมันแล้วตามสัญญารัฐบาลเก่า และยังได้ประโยชน์ไปเต็มๆ คือการขายอาวุธให้กลุ่มพันธมิตรอาหรับเอามาถล่มเยเมน และขายอาวุธให้กลุ่มกำลังทหารที่ยังภักดีต่อรัฐบาลเก่าของเยเมน ให้รบกับฮูดติ ดังนั้นสงครามนี้ทุกฝ่ายสมประโยชน์ทั้งหมด ซาอุดิอาระเบีย กลุ่มชาติพันธมิตรอาหรับ กลุ่มชาติตะวันตก และกลุ่มอำนาจเก่าของ ปธน.ฮาดี อัลกอดิดะห์สายเยเมน ทุกฝ่ายยิ้มออกทั้งหมด ยกเว้น มุสลิมสายอิหร่านและกลุ่มกบฎฮุดติ ที่ยึดครองเยเมนในเวลานี้ รวมถึงประชาชนชาวเยเมนเองที่โดนระเบิดตกลงหัวทุกวันจนตายไปแล้วหลายพันคน บ้านช่องที่เคยมีก็กลายเป็นกองอิฐ จนต้องตั้งค่ายอพยพขึ้นมาหลายเดือนแล้วในประเทศเยเมนเองและชายแดนซาอุดิอาระเบียเอง

    เรื่องนี้มีการขุดคุ้ยครับ จากสำนักข่าวของอังกฤษเอง โดยได้มีการลงข่าวว่าเรื่องนี้อังกฤษจะแก้ตัวไม่ได้เลยว่ากำลังสาดน้ำมันลงกองไฟด้วยการขายอาวุธให้ซาอุดิอาระเบีย และมีส่วนร่วมในการฆ่ามนุษย์ครั้งยิ่งใหญ่ตามที่ UN ได้ให้คำจำกัดความในสงครามนี้เอาไว้
    Britain is one of the leading arms suppliers to Saudi Arabia. It has granted the Gulf Kingdom 37 export licenses for military goods since Yemen’s war began.
    “The UK Government is quietly fuelling the Yemen conflict and exacerbating one of the world’s worst humanitarian crises potentially in breach of both domestic and international laws on the sales of arms," อังกฤษคือผู้นำในการขายอาวุธให้เซาอุ และให้ใบอนุญาตในการส่งออกอาวุธถึง 37ครั้งตั้งแต่เริ่มสงครามเยเมน รัฐบาลอังกฤษกำลังเติมเชื้อไฟลงในสงครามที่สร้างวิกฤติการณ์เลวร้ายที่สุดของมนุษยชาติ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะผิดกฎหมายทั้งในประเทศและนานาชาติในการขายอาวุธ

    นี่แค่การขุดคุ้นจากอังกฤษนะครับ แต่อาวุธส่วนใหญ่นั้นออกมาจากฝั่งอเมริกาอีกหลายเท่าตัว เพราะอาวุธกว่า 80% ของกองทัพประเทศพันธมิตรอาหรับนั้นคืออาวุธค่ายอเมริกา ถ้าอังกฤษยังมียอดขายมากขนาดนี้ตามที่สำนักข่าวเทเลกราฟขุดคุ้ยแล้ว อเมริกาจะขายอาวุธให้สงครามนี้มากขนาดไหน ผมจึงขอจบเรื่องเยเมนไว้ด้วยการสมประโยชน์กันทุกฝ่ายไว้เพียงเท่านี้ครับ
    ที่มา เพจ Pat Hemasuk

    [​IMG]
     
  13. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ปอกเปลือก ทรราช ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 9 ภาพ
    41 นาที ·
    อัพเดทข่าวเยเมน: กองกำลังเยเมนเข้ายึดฐานทัพซาอุดิฯได้, กองทัพเยเมนสอยฮ.Apache ของซาอุในเยเมน, เยเมนระดมกำลัง 1 ล้านต้านซาอุดิฯ ฯลฯ
    -------------
    หันมาอัพเดทข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามในเยเมนกับซาอุดิฯระหว่างกองกำลังของเยเมนกับกองกำลังพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบียบ้างนะครับ
    1.) วันที่ 13 ก.ย.58 สำนักข่าว FARS ของอิหร่านรายงานว่า ในวันเสาร์ที่ผ่านมากองกำลังของฝ่ายเยเมนได้เข้าควบคุมฐานที่มั่นต่างๆที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ในพื้นที่จังหวัด Asir ทางภาคใต้ของซาอุดิฯซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนเยเมนได้ โดยกองทัพของเยเมนได้ยิงถล่มหอคอยเฝ้าระวังภัยและคลังเก็บอาวุธสามแห่งของซาอุดิฯ กลุ่มนักรบโสร่งฮูติ (Ansarullah) ได้ทำลายยานพาหนะทางทหารของกองทัพซาอุดิฯในพื้นที่ไปได้อย่างน้อย 19 คัน รายงานข่าวบอกว่ามีทหารของซาอุดิฯเสียชีวิตจำนวนมากจากการโจมตีโดยกองทัพของเยเมน ในขณะเดียวกันเหล่านักรบโสร่งฮูติก็ได้มุ่งเป้าโจมตีฐานที่มั่นทางทหารของซาอุดิฯในเขต al-Hejlah และ Jabal al-Doud ของจังหวัด Jizan ทางตอนใต้ของซาอุดิฯต่อไป ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อฝ่ายซาอุดิเป็นอย่างมาก
    2.) วันที่ 13 ก.ย.58 รายงานข่าวบอกว่า กลุ่มติดอาวุธซึ่งได้รับการหนุนหลังโดยกองกำลังพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิฯ ได้พยายามจะรุกคืบเข้าไปยึดพื้นที่ Hamma al-Masaria ในจังหวัด Marib ของเยเมนแต่ถูกเหล่านักรบ Ansarullah ป้องกันเอาไว้ได้ รายงานข่าวจากสถานีข่าว al-Mayadeen ในวันอาทิตย์
    3.) วันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว FARS ของอิหร่านรายงานว่า นักกิจกรรมของเยเมนกล่าวว่ากองกำลัง Ansarullah ได้จัดการสอยโดรนสอดแนมของซาอุดิฯได้หนึ่งลำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (ถ่ายภาพมาโชว์ออกข่าวด้วย ส่งมาอีกดิ จะแจมสัญญาณดักจับให้หมดเลย ยังกระในเกมคอมพิวเตอร์แหนะ ที่ฝ่ายหนึ่งร่ายมนต์ใส่ทหารฝ่ายตรงข้ามสามารถสะกดจิตให้มาเป็นฝ่ายของตนเองได้ ฮี่ๆๆ อ่่านการ์ตูนไปมากหรือเปล่าครับแอ็ดมิน ไม่รู้หละ แต่งานนี้กลุ่มฮูติทำได้ล่ะเออ)
    4.) วันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว FARS ของอิหร่านรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เหล่านักรบ Ansarullah ได้เปิดการโจมตีกองทัพต่างชาติที่นำโดยซาอุดิฯ ในจังหวัด Ma'rib เยเมน (ใกล้กรุง Sanaa) ทหารจากกาต้าร์ บาห์เรน ยูเออี และซาอุดิอาระเบียถูกสังหารจำนวนมากจากการโจมตีรถถัง และรถถังของฝั่งซาอุดิฯก็ถูกทำลายไปหลายคัน (ไม่เป็นไร เดี๋ยวซาอุดิฯก็ซื้อมาให้ทำลายใหม่ได้อีก จักรวรรดิเฮเกยินดีขายให้อยู่แล้ว นั่งนับตังค์อย่างเดียว ซาอุดิฯก็ผลาญเงินจากการขายน้ำมันต่อไป แม้จะตัดลดงบประมาณจากฝั่งอื่นมาช่วยหรือเริ่มออกพันธบัตรเพื่อหาเงินมาสุมไฟสงครามต่อก็ตาม)
    5.) วันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว FARS ของอิหร่านรายงานว่า กองทัพเยเมนได้เข้ายึดฐานทัพ Faridhah ของซาอุดิฯได้ และได้ทำลาย ยานพาหนะทางกองทัพของซาอุดิฯในจังหวัด Jizan และในวันจันทร์ที่ผ่านมา กองทัพของเยเมนก็ยังได้ยิงจรวดเข้าใส่ฐานที่มั่นทางทหารของซาอุดิฯหลายแห่งในจังหวัด Jizan ด้วยส่งผลให้ทหารของฝั่งซาอุดิฯเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายนาย (แต่สำนักข่าวอิหร่านไม่บอกว่าฝั่งเยเมนเสียสูญเสียไปเท่าไรหรือไม่ ยาก… เพราะว่าถ้าเป็นการโจมตีโดยฝีมือของกองทัพเยเมนก็จะใช้การโจมตีจากระยะไกล ถ้าเป็นการโจมตีในแนวหน้าก็จะเป็นฝีมือของกลุ่มนักรบชนเผ่าเป็นส่วนมาก และพวกนี้มักจะไม่นิยมเข้าปะทะซึ่งหน้า แต่จะใช้ยุทธวิธีซุ่มโจมตีแบบกองโจร ซึ่งได้ผลเป็นส่วนมากด้วย)
    6.) วันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว FARS รายงานอีกว่า กองกำลังป้องกันทางอากาศจากกองทัพของเยเมนได้ให้การสนับสนุนคณะกรรมการยอดนิยม Ansarullah (คณะปฏิวัติที่นำโดยฮูติ) และสามารถยิงเครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์จู่โจม (Apache) ของซาอุดิฯ ได้เมื่อวันอาทิตย์ ด้วยขีปนาวุธแบบภาคพื้นสู่อากาศ (surface-to-air missile) ในอำเภอ Horaib จังหวัด Ma'rib ทางภาคกลางของเยเมน อ้างรายงานข่าวจาก al-Manar news channel
    7.) วันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว FARS รายงานว่า สถานีโทรทัศน์ al-Mayadeen ภาคภาษาอาระบิกรายงานว่ามีการยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพ al-Hajer ในจังหวัด Asir ของซาอุดิฯ และในวันจันทร์ที่ผ่านมา กองกำลังของเยเมนก็สามารถเข้ายึดพรมแดนของเมือง al-Rabouah ในจังหวัด Asir เอาไว้ได้ รายงานข่าวทางทีวีบอกว่ากองทัพของเยเมนสามารถเข้ายึดฐานทัพของซาอุดิฯในเมือง al-Rabouah ได้โดยง่ายโดยไม่มีการส่งกำลังช่วยเหลือจากฝั่งซาอุดิฯเข้าม
    ฝั่งเยเมนสามารถทำลายยานพาหนะทางทหารของซาอุดิฯจำนวน 17 คัน และสามารถทำลายหอคอยเฝ้าระวังภัยของซาอุดิฯได้ด้วย (ระเบิดทิ้งเลย) รายงานข่าวยังบอกอีกว่ากองทัพของเยเมนยิงขีปนาวุธจำนวน 15 ลูกและจรวดใส่ฐานทัพของซาอุดิฯก็ทำให้ทหารของซาอุดิฯเปิดกระเจิงแล้ว พวกที่โชคร้ายหลบขีปนาวุธของกองทัพของเยเมนไม่ได้ก็เสียชีวิตไป เยเมนกำลังจะบอกว่า ยึดฐานทัพของซาอุดิฯง่ายมาก ใช้จรวดและขีปนาวุธเพียงไม่กี่ลูกก็ยึดได้แล้ว ส่วนพาหนะทางกองทัพของซาอุดิฯนั้นถ้าคันไหนไม่เสียหายมากพอซ่อมได้เช่นเปลี่ยนยางรถยนต์ กลุ่มฮุติก็จะซ่อมนิดหน่อยแล้วก็นำไปใช้งานเพื่อโจมตีซาอุดิฯต่อไป อาวุธและลูกกระสุนและระเบิดก็ไปเก็บแต้มเอาข้างหน้าจากค่ายทหารของซาอุดิฯนั่นแหละ ถ้าคันไหนที่ขับไม่ได้ ก็ระเบิดทิ้งไปเพื่อไม่ให้ทางซาอุดิฯนำไปใช้งานได้ (ที่ว่ามานี้ดูจากในคลิปตอนที่ฮูติบุกซาอุดิฯนะ ก็จะประมาณนี้แหละครับ)
    7.) วันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว FARS รายงานโดยอ้างข่าวจากเว็บไซต์ของสำนักข่าว Hasad al-Youm ว่าปัจจุบันนี้มีชาวเยเมนมากกว่า 1 ล้านคนซึ่งรวมทั้งนักรบจากชนเผ่าต่างๆที่แปรพักตร์มาจากกองทัพของฮาดี้และสมาชิกของกลุ่ม Ikhwan ได้รวมพลังหยิบอาวุธขึ้นมาต่อต้านข้าศึก รายงานข่าวบอกว่ากองกำลังเหล่านี้ได้เน้นย้ำถึงความพร้อมของพวกเขาที่จะต่อสู้กับซาอุดิอาระเบียและในปฏิบัติการต่างๆในพื้นที่ของซาอุดิฯด้วย (จำนวนนักรบของเยเมนมีเป็นล้านเชียวนะ ซาอุดิฯยังส่งทหารของตนมาตายเป็นจำนวนมากอยู่อีกรึ? เขาใช้วิธีอย่างนี้ ฝั่งซาอุดิฯไม่ได้ส่งทหารของตนเองออกมารบทั่งหมด แต่จะจ้างทหารรับจ้างจากประเทศอื่นเช่นจากแอฟริกาให้เข้าไปรบแทน ถูกฝั่งเยเมนจับได้สอบถามว่าได้ค่าแรงวันละ 200 เหรียญสหรัฐฯ ก็ประมาณ 7,000 กว่าบาท ว้าววว!)
    8.) วันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว FARS รายงานว่า กองทัพของเยเมนสามารถกลับเข้าไปควบคุมพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ซึ่งรวมทั้งค่ายทหารในเมือง Jabel Jara และ al-Nour ในจังหวัด Taiz ของเยเมนได้ โดยอ้างรายงานข่าวจากสำนักข่าว al-Mayadeen ภาคภาษาอาระบิก
    9.) วันที่ 11 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า รัฐบาล (พลัดถิ่น) ของเยเมนและกลุ่มกบฏกำลังวางแผนเพื่อร่วมเจรจาสันติภาพก่อนวันหยุด Eid al-Adha (23 กันยายน 2015) และในวันเดียวกันนี้ ก็มีรายงานข่าวอีกข่าวหนึ่งบอกว่า นาย Mark Goldring ผู้บริหารระดับสูงของ Oxfam กล่าวว่าเยเมนกำลังเสื่อมลงสู่ภัยพิบัติด้านมนุษยธรรม ซึ่งทำให้ประชาชนของตนเองตกอยู่ในความเสี่ยงต่อภาวะข้าวยากหมากแพง และอังกฤษก็มีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญในการส่งออกอาวุธของตนและการให้การสับสนันทางทหารในแคมเปญจ์ทิ้งระเบิด (ทางอากาศถล่มเยเมน) โดยอังกฤษได้ให้การสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยซาอุดิฯในปฏิบัติการต่อต้านฮูติในเยเมน (ก็นี่ไงพวกที่คอยสุมไฟสงครามทำให้เขาสู้รบกัน ถ้าไม่สหรัฐฯอังกฤษและยุโรปเข้าไปยุ่งด้วยมันจะมีเรื่องไหมหละ? แล้วก็ไปโทษคนท้องถิ่นซะงั้น)
    10.) วันที่14 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news รายงานว่า มีประชาชนทั้งหมดจำนวน 12 คนซึ่งรวมถึงผู้หญิง 4 คน และเด็ก 5 คนในจำนวนนั้นด้วยเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศที่นำโดยกองกำลังพันธมิตรนำโดยซาอุดิฯในกรุง Sanaa (ปากก็บอกว่าจะขอเจรจาสันติ แต่ก็ยังส่งเครื่องบินรบเข้าไปทิ้งระเบิดใส่เขาแทบจะทุกวัน แล้วใครจะเชื่อหละนี่?)
    - จบข่าว -
    The Eyes
    15/09/2558
    ----------
    Farsnews
    Farsnews
    Farsnews
    http://english.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13940623000423
    Farsnews
    Farsnews
    Farsnews
    Farsnews
    Farsnews
    Farsnews
    Yemeni Gov't to Hold Talks With Houthi Rebels Before Eid al-Adha Holiday
    UK Arms Supplies to Saudi Arabia 'Quietly' Fuel Yemen Conflict
    Saudi-Led Coalition Airstrike Kills 12 in Northern Yemen

    [​IMG]
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    รัสเซียจะไม่ปล่อยให้สหรัฐฯหลอกลวงได้อีกในกรณีซีเรีย

    [​IMG]

    --------------
    สำนักข่าว Press TV ของอิหร่าน รายงานว่า การโจมตีลิเบียและโค่นล้ม Muammar Gaddafi ได้เป็นบทเรียนสำหรับรัสเซีย ดังนั้นคราวนี้รัสเซียจะไม่ปล่อยให้ซีเรียตกอยู่ในมือของสหรัฐฯ
    Brian Becker ผู้ประสานงานแห่งชาติจากกลุ่มพันธมิตร ASNSER กล่าวว่า รัสเซียเข้าใจดีว่ารัฐบาลซีเรียที่นำโดยประธานาธิบดี Bahar al-Assad และกองทัพของเขาถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดในโลกที่จะเอาชนะขบวนการก่อการร้ายไอซิส และนำเสถียรภาพมายังตะวันออกกลาง
    ซีเรียได้เป็นพันธมิตรที่ยาวนานของรัสเซีย ด้วยความสัมพันธ์ทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งรัสเซียและจีนได้งดเว้นการโหวดในเรื่องของลิเบีย ที่จะช่วยให้สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศสผลักดันความคิดที่ต้องการให้ Gaddafi ออกไป ในทางกลับกันสิ่งนี้ได้นำลิเบียไปสู่ความวุ่นวายที่ไม่อาจจะหวนกลับได้
    ความผิดพลาดที่ได้ทำไว้กับลิเบีย ได้ทำให้รัสเซียรับรู้ถึงความสำคัญในการรักษาอำนาจของอัลอัสซาดเอาไว้ มีแต่อัลอัสซาดที่จะรักษาประเทศให้อยู่ในระเบียบได้ ซึ่งป้องกันไม่ให้พวกไอซิสเข้ายึดพื้นที่ทั้งหมดทั่วภูมิภาคได้ Becker กล่าว
    Press TV ได้อ้างคำพูดของนักวิเคราะห์ว่า "เมื่อคุณมองไปที่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในซีเรีย คุณจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า แถลงการณ์ของรัฐบาลรัสเซียเป็นสิ่งที่ถูกต้องว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี Bhshar al-Assad ในซีเรียและกองทัพแห่งชาติของซีเรียเป็นกองทัพที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการต่อสู้กับพวกไอซิส"
    Becker สรุปว่า ปัจจุบันนี้ หากสหรัฐฯพิจารณาว่าพวกไอซิสเป็นภัยคุกคามที่มีอยู่อย่างแท้จริง ดังนั้น ทำไมรัฐบาลสหรัฐฯถึงไม่สนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีอัลอัสซาดในการต่อสู้กับพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสหละ? มันควรจะเป็นเกมง่ายๆเอง (no-brainer ไม่ต้องใช้สมองเลย ก็ชนะได้ ของกล้วยๆ)
    วันที่ 15 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯควรจะช่วยทำใจร่มๆ (Keep Calm) และช่วยเหลือรัสเซียในซีเรีย" หนังสือพิมพ์ Le Figaro ของฝรั่งเศสรายงานว่า แทนที่จะออกมา (อ้าปาก) วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัสเซียในซีเรีย กรุงวอชิงตันควรจะช่วยเหลือกรุงมอสโคว์เพื่อแก้ไขวิกฤตในซีเรีย (มากกว่า หรือไม่ก็ shut the ... up ไปซะ)
    พอมาถึงกรณีของซีเรีย ทุกสิ่งที่สหรัฐฯได้กระทำไปในซีเรียได้นำไปสู่ความพินาศย่อยยับ (catastrophe) อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ประธานาธิบดีบารัคโอบามาได้ส่งเสริมให้มีการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัสเซียในซีเรีย
    หนังสือพิมพ์ Le Figaro ของฝรั่งเศสได้อ้างคำพูดของประธานาธิบดีโอบาม่าที่แสดงความคิดเห็นต่อความพยายามของกรุงมอสโคว์ในซีเรียว่า "รัสเซียจำเป็นต้องฉลาดขึ้น (กว่านี้)" (Russia needs to smarten up นี่แหละคือความฉลาดของรัสเซีย ให้จักรวรรดิเฮเกเงียบ แล้วถอยออกไปดูห่างๆ เพราะสหรัฐฯถล่มซีเรียมาตั้งแต่ปี 2011 โน่นแล้ว โดยอ้างว่าเพื่อปราบพวกไอซิสทั้งในอิรัคและซีเรีย แต่ก็ยังไม่สามารถปราบได้จนถึงทุกวันนี้ ที่ราบเป็นหน้ากลองนั้นมีแต่บ้านเรือนของประชาชนชาวซีเรียเท่านั้น ก็พิสูจน์แล้วว่าสหรัฐฯมือไม่ถึง ดังนั้น แทนที่จะออกมาเตะตัดขาดรัสเซีย เพื่อหวังจะปู้ยี่ปู้ยำซีเรียต่อไปตามอำเภอใจของตัวเอง ก็ถอยออกไปนั่งดูห่าง ปล่อยให้มืออาชีพเขาจัดการสิ)
    ดูสิใครกำลังจ้ออยู่ในตอนนี้ หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสไม่อยากจะเชื่อการออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนั้นว่ามาจากชาวอเมริกันทั้งหมด (the American of all people ว้าว! สื่อฯฝรั่งเศสและสื่อฯรัสเซียเหน็บแรงอ่ะ) ไม่ใช่สหรัฐฯหรอกหรือที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบสำหรับการเริ่มต้นความขัดแย้งทั่วตะวันออกกลาง?
    แทนที่จะออกมาเยะเย้ย (mock) รัสเซียในซีเรีย สหรัฐฯควรจะหุบปากเงียบซะ (the United States should keep quiet…) และช่วยเหลือรัสเซียเพื่อแก้ไขความขัดแย้งในซีเรียที่กำลังเกิดขึ้น
    รายงานข่าวบอกว่า ในอีกด้านหนึ่งนั้นสหรัฐฯกำลังจะร่วมมือกับพวกอัลเคด้า องค์กรก่อการร้ายอาหรับที่น่าอับอาย เพียงเพื่อต้องการจะโค่นรัฐบาลพลเรือนของอัสซาด นี่เป็นยุทธศาสตร์ที่อันตรายและไม่สร้างสรรค์ (counterproductive) ซึ่งจะทำร้ายกรุงวอชิงตันในระยะยาว
    นี่รัสเซียเตือนแล้วนะ เมื่อเร็วๆนี้จีนก็ได้ออกมาเตือนตุรกีในลักษณะนี้แหละเกี่ยวกับการสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรงอุยกูร์ในกรณีที่พวกโปร-อุยกูร์ไล่ทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวจีนและเกาหลีและบุกเข้าไปทำลายสถานกงศุลไทยในตุรกีที่ผ่านมา โดยจีนได้เตือนว่าเมื่อตุรกีจุดไฟนั้นขึ้นมาแล้ว ไฟนั้นจะเผาไหม้ตุรกีก่อนเลย ซีึี่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ดูตุรกีวันนี้สิ จากที่ตอนแรกมีแต่ซีเรียเท่านั้นที่วุ่นวาย คราวนี้ตุรกีกำลังรบกับพวก PKK ภายในตุรกีเอง ไม่เห็นว่าสหรัฐฯและพันธมิตรนาโต้ด้วยกันจะช่วยอะไรตุรกีได้เลย ตุรกีต้องการจะกำจัดชาวเคิร์ดออไปจากตุรกีนั้นก็พอจะเข้าใจได้ แต่ ชาวเคิร์ดก็ไม่ยอมให้ตุรกีถล่มได้ฝ่ายเดียว จึงต้องตอบโต้บ้าง สุดท้ายเป็นไง? ก็วุ่นวาย ไม่แพ้อิรัค และซีเรียแน่ๆ ส่วนพวกสหรัฐฯและอียูก็นั่งดูความพินาศของตุรกี เหมือนกับที่นั่งดูความพินาศของซาอุดิฯและเยเมนอยู่ในตอนนี้
    อ้อ… มีอีกข่าวหนึ่งครับ น่าสนใจ วันเดียวกันนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "รัสเซียมีความเข้าใจว่าจะเอาชนะพวกไอซิสในซีเรียได้อย่างไร..." อยากรู้ไหมว่าใครพูดคำนี้ออกมา? เขาก็คือ Larry Johnson อดีตเจ้าหน้าที่ CIA ของสหรัฐฯ นั่นเอง (ฮึ่ม! ไหงอดีตซีไอเอออกมาพูดเหมือนจะขัดหูทำเนียบขาวซะอย่างนี้หละนี่?)
    รายงานข่าวบอกว่า ในขณะที่กำลังอธิบายถึงการสนับสนุนของรัสเซียที่มีต่อประธานาธิบดีซีเรีย อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอได้ชี้ให้เห็นว่า ปูตินเข้าใจภัยคุกคามและวิธีการต่างๆที่จะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายไอซิส ในขณะที่สหรัฐได้ "โง่เขลา" (fool) ในการสนับสนุนนโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีแต่จะจำความเข้มแข็งไปให้กลุ่มก่อการร้ายเท่านั้น (น่าสนใจใช่ไหมหละ? ตรงนี้อดีตซีไอเอกำลังบอกใบ้บางอย่าง สหรัฐฯใช้นโยบายอะไรหรือถึงได้ทำไอซิสเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จักรวรรดิเฮเกเอาไวอาก้าและยาชูกำลังต่างๆไปแจงไอซิสหรือไง? ไม่ได้ไปปราบปรามไอซิสหรอกรึ?)
    Larry Johnson อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอของสหรัฐฯกล่าวว่า "โดยส่วนตัวแล้ว ผมดีใจมากที่รัสเซียกำลังดำเนินการในขั้นตอนเหล่านี้ อย่างน้อยที่สุด [ประธานาธิบดีวลาดิมีร์] ปูติน ก็เข้าใจภัยคุกคามและเข้าใจสิ่งที่จำเป็นในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามนั้นและเอาชนะมัน" เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาซีึ่งถูกถามเกี่ยวกับบริษัทข่าวกรองเอกชนที่ออกมากล่าวอ้างว่ามีภาพถ่ายดาวเทียมที่บอกว่ารัสเซียกำลังก่อตั้งปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย
    Johnson กล่าวต่ออีกว่า "ตะวันตก และโดยเฉพาะสหรัฐฯ ได้โง่บรม (have been complete fools เขาใช้ present perfect tense ซึ่งใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่หยุด มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะดำเนินต่อไปในอนาคตด้วย ก็ชัดเจนแล้วว่า Johnson มองว่าสหัฐฯกับตะวันตกได้โง่มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมแล้วที่ Johnson ใช้คำว่า "complete fools" แปลแบบสุภาพว่าโง่โดยสมบูรณ์แบบ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า บรมโง่/โคตะระโง่ นั่นเอง)" ฮึ่ม… ไปเคลียร์กันเองนะสหรัฐฯ งานนี้รัสเซียไม่เกี่ยว จีนก็ไม่เกี่ยว แอ็ดมินก็ไม่เกี่ยว เพียงแต่แปลตามที่อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอบางคนของสหรัฐฯพูดเท่านั้นเอง คริๆ
    The Eyes
    ปอกเปลือก ทรราช
    15/09/2558
    ----------------
    Russia Won’t Allow US to ‘Dupe’ It When It Comes to Syria
    US Should Keep Calm and Help Russia in Syria
    Russia Understands How to Defeat ISIL in Syria - Former CIA Officer
    Putin: Russian Support of Syrian Gov't Averts Deterioration of Situation
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    อัพเดทข่าวซีเรีย: สหรัฐฯเล่นไพ่สองมือปากบอกว่าอยากจะร่วมมือกับรัสเซียในวิกฤตซีเรีย แต่อีกด้านขู่อิรัคไม่ให้รัสเซียบินผ่านน่านฟ้า, ปธน.กรีซเรียกร้องให้รัสเซียและสหรัฐฯช่วยหยุดการนองเลือดในซีเรีย

    [​IMG]

    -------------
    ว้าววว! แต่ละข่าวนี่น่าติดตามทั้งนั้นเลย งั้นก็ต้องขอเลื่อนเรื่องทองคำของสหรัฐฯภาค 2-3 ออกไปก่อนนะครับ (ไม่ลืมครับ ต้องขออภัยแฟนเพจด้วยครับ)
    1.) วันที่ 13 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Russia Hands Over Humanitarian Aid to Syrian Government" (รัสเซียส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้รัฐบาลซีเรีย)รายงานว่าเครื่องบินขนส่งของกองทัพรัสเซียได้บรรทุกอาหาร ที่นอน ผ้าห่ม ถังบรรจุน้ำขนาดใหญ่ และอุปกรณ์อื่นๆสำหรับตั้งเต้นท์ในค่ายผู้ลี้ภัยซึ่งมีน้ำหนักมากว่า 80 ตันไปให้ซีเรียด้วยเครื่องบิน An-124 Ruslan ซึ่งใช้ระยะทางในการบินถึง 5,000 กม. ความช่วยเหลือในครั้งนี้เพียงพอสำหรับผู้ลี้ภัยประมาณ 1,000 คนเท่านั้น โดยเครื่องบินบรรทุกสิ่งของบรรเทาทุกข์ของรัสเซียได้ลงจอดที่สนามบินฐานทัพอากาศในจังหวัด Latakia ซึ่งอยู่ในการควบคุมของกองทัพรัฐบาลซีเรีย ก็มีประชาชนเข้ามาช่วยกันขนของลำเลียงออกจากเครื่องบินเป็นจำนวนมาก ส่วนสื่อฯตะสหรัฐฯและตะวันตกพวกขี้อิจฉาก็พากันประโคมข่าวดิสเครดิตรัสเซียว่า นั่นไงรัสเซียวางแผนเดินหน้าไปยังฐานปฏิบัติการทางอากาศในซีเรีย (bbc) กรรม! มันเป็นซะอย่างนี้อ่ะ แล้วจะให้ชมสื่อฯขี้หมาแห้งพวกนี้ได้อย่างไร เขาทำดีแทนที่จะสนับสนุน แต่ดันพากันออกมาเตะตัดขาซะงั้น คิดว่าคนอื่นเขาจะเลวเหมือนกับพวกตัวเองกันหมดหรือไงนะ?
    2.) วันที่ 15 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news รายงานว่า โฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่า รัสเซียได้มีความกังวลใจเกี่ยวกับพวกหัวรุนแรงในซีเรียเช่นเดียวกันกับประเทศอื่นๆ และ (สหรัฐฯ) ก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อความเป็นไปได้ในการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีของอเมริกาและรัสเซียต่อกรณีความขัดแย้งในซีเรียในอนาคตอันใกล้นี้
    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานาย Josh Earnest เลขาฯโฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า "ผลประโยชน์ของรัสเซียในซีเรียไม่ได้อยู่เหนือวัตถุประสงค์ของประเทศอื่นๆ เนื่องจากกรุงมอสโคว์ได้ร่วมแสดงความกังวลที่เหมือนกันต่อกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง" (เอาคำพูดของตัวเองไปใส่ปากของคนอื่นอีกแล้ว อย่ามั่วดีกว่า รัสเซียประกาศชัดเลยว่า รัสเซียสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย แต่สหรัฐฯบอกว่าจะโค่นล้มรัฐบาลซีเรียโดยใช้การปราบปรามผู้ก่อการร้ายเป็นข้ออ้าง เหมือนกันยังไง? ยิ่งสหรัฐฯกับพวกปราบมากและนานเท่าไร ดูเหมือนว่าผู้ก่อการร้ายไม่ลดลงเลย)
    นาย Josh Earnest กล่าวต่อไปอีกว่า "เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ตลอด 48 ช่วงโมงที่ผ่านมาได้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์ของรัสเซียในซีเรียไม่ได้ขัดแย้งกับผลประโยชน์ของประเทศอื่นๆที่เหลือทั่วโลกโดยสิ้นเชิง" (กำลังจะบอกว่าที่รัสเซียเข้าไปนั้นก็เพื่อผลประโยชน์ของรัสเซียเอง อย่างที่อเมริกาคิดและทำเพื่อผลประโยชน์ของอเมริกาว่างั้นเถอะ ถ้าอย่างนั้นการที่สหรัฐฯและพันธมิตรอ้างว่าปราบปรามผู้ก่อการร้ายในซีเรียนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯเองนะสิ รวมถึงการพยายามโค่นล้มรัฐบาลซีเรียด้วยหรือเปล่าที่บอกว่าเพื่อผลประโยชน์ของตนเองในซีเรียหนะ?)
    นาย Josh Earnest กล่าวว่า "กรุงวอชิงตันได้กล่าวว่าการสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับระบอบอัสซาดจากฝ่ายรัสเซียอาจจะเป็นการทำลายเสถียรภาพ และไม่สร้างสรรค์" (ฮ่าๆๆ พวกนี้มันเป็นเหมือนกันหมดเลย... จิตวิทยาในการชิงใช้คำพูดดิสเครดิตคนอื่น โดยมองจากการกระทำของตนเอง กล่าวคือตัวเองเป็นผู้ทำลายซีเรีย แต่บอกว่าเป็นชัยชนะ แล้วพอรัสเซียส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ซีเรีย หมอนี่กลับออกมาตราหน้ารัสเซียว่าบ่อนทำลายเสถียรภาพและไม่สร้างสรรค์ซะงั้น โลกนี้ไม่มีใครหน้าด้านเกินไปกว่าจักรวรรดิเฮเกอีกแล้ว ใช่แล้วประชาธิปไตยเฮเกถูกต้องเสมอ ต้องไม่มีใครมีความเห็นต่างจากประชาธิปไตยและเสรีภาพในการกล่าวหาคนอื่นตามอำเภอใจ ถึงจะยอมรับได้ ถ้ามีใครเห็นต่างจากจักรวรรดิเฮเกนี้ก็คงจะไม่เรียกประชาธิปไตยสินะ แล้วก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นอันธพาล บ้าอำนาจ ชอบรุกรานผู้อื่น แต่เอ๊ะที่พูดมานี้ จักรวรรดิเฮเกทำมาแล้วทั้งนั้นเลยนิ! ตัวเองทำชั่วแล้วรีบชิงประนามคนอื่นๆเพื่อกลบเกลื่อนความเลวของตัวเองนี่งานถนัดเขาเลยหละ ไปดูข่าวอื่นต่อดีกว่า)
    3.) วันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news รายงานว่า มีหลายประเทศปิดน่านฟ้าเพื่อตอบสนองต่อการกดดันจากสหรัฐฯ (แต่) รัสเซียก็ยังคงเดินหน้าส่งความช่วยเหลือด้านมุษยธรรมไปให้ซีเรียผ่านน่านฟ้าของอิรัคและอิหร่าน (นั่นไง อย่างที่มโนไว้ในโพสต์ก่อนหน้านี้เลยตอนที่บัลแกเรียถูกสหรัฐฯบีบไม่ให้เครื่องบินรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าหนะว่ารัสเซียอาจจะบินไปยังอิหร่านแล้วก็เข้าไปในอิรัคและต่อไปยังซีเรีย ฉลุย) แต่บางทีคาดว่าสหรัฐฯอาจจะไม่ชอบใจเท่าไรนัก (ไม่ต้องอาจจะหละ ไม่พอใจเป็นอย่างมากเลยหละ) และยังคงเดินหน้ากล่าวหากรุงมอสโคว์ที่เข้าแทรกแซงทางกองทัพ (ในซีเรีย รัสเซียไม่ได้แทรกแซง รัสเซียแค่ส่งทหารไปฝึกให้กับกองทัพของซีเรียก็อย่างที่สหรัฐฯ แคนาดา และอังกฤษส่งทหารของตนเองไปฝึกให้กองทัพของยูเครนนั่นไง ผิดตรงไหนหละ? ทีตัวเองทำได้ แต่พอคนอื่นทำบ้างกลับห้ามซะงั้น ประชาธิปไตยแบบจักรวรรดิเฮเกมันเป็นเช่นนี้เองหรอกรึ?)
    รายงานข่าวบอกว่า ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.เป็นต้นมา ทูตสหรัฐฯได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดี Haider al-Abadi ของอิรัค ดำเนินตามการนำของบัลแกเรีย (follow Bulgaria’s lead ให้เอาอย่างบัลแกเรีย คือไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียผ่านน่านฟ้าของอิรัคเพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ซีเรีย) เจ้าหน้าที่ของอิรัคได้บอกหนังสือพิมพ์ The New York Times ของสหรัฐฯว่า "(อ้อ…ไม่มีปัญหาลูกเพ่) รัฐบาลอิรัคได้ให้สัญญาว่าจะพิจารณาทางเลือกนี้ (แค่พิจารณานะ อย่าเข้าใจผิดว่าจะทำตามคำสั่งหละ ทูตสหรัฐฯไม่ใช่ประธานาธิบดีของอิรัคนะ จำใส่...ไว้ พูดแทนอิรัค) แต่ว่าเที่ยวบินหลายเที่ยวบินได้พิสูจน์แล้วว่ากรุงวอชิงตันอาจจะมีอิทธิพลต่อชาติในตะวันออกกลางอย่างมีนัยสำคัญกว่าน้อยกว่าตัวเองเชื่อก็ได้" (ชัดมาก สหรัฐฯสั่งอิรัค อิรัคก็บอกเพียงว่าจะลองพิจารณาดู แต่ไม่ทำตามคำสั่งซะอย่าง เพราะว่าทุกวันนี้ไอซิสมันก็กระจายอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองอิรัคอยู่แล้ว นึกว่าปราบซัดดัมแล้วอิรัคจะสงบ ที่ไหนได้ มันแย่กว่าเดิมอีก ยิ่งให้สหัฐฯกับพันธมิตรเข้าไปปราบเท่าไร ก็ไม่หมดซักที งั้นลองให้รัสเซียจัดการดูซิ อาจจะดีขึ้นก็ได้นะ ถ้ารัสเซียสามารถทำให้ซีเรียสงบได้ คราวนี้แหละ ปูตินจะเนื้อหอมในสายตาของชาวอาหรับตะวันออกกลางขึ้นมาในบัดดลเลย ส่วนตัวอิจฉาก็นั่งหยิกเล็บกัดลิ้นตัวเองไปตามสะเบยนะจ๊ะ คริๆ)
    4.) วันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Greek President Urges Russia, US to Help Stop Bloodshed in Syria" แปลว่า "ประธานาธิบดีของกรีซเรียกร้องให้รัสเซีย สหรัฐฯช่วยหยุดการนองเลือดในซีเรีย" (จริงๆ แล้วในใจของกรีซอาจจะอยากตัดคำว่าสหรัฐฯออกไปจากประโยคนี้ก็ได้ แต่ด้วยมรรยาท เดี๋ยวหายนะจะมาเยือนเร็วเกินคาด จึงต้องใส่ชื่อสหรัฐฯลงไปด้วย อันนี้ก็พอจะเข้าใจได้ จริงไหมครับท่าน Prokopis Pavlopoulos? พูดเบาๆสิครับท่านแอ็ดมิน เดี๋ยวจักรวรรดิอันธพาลเฮเกก็ได้ยินเข้าหรอก คริๆๆ) ทำไมกรีซถึงยกมือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับซีเรียด้วย? อ้าวววว! กรีซก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกันนะ เพราะว่ากรีซเป็นทางผ่านและเป็นที่พักทั้งชั่วคราวและถาวรของบรรดาผู้อพยพจากซีเรียด้วยนะ ถ้ายังมีความขัดแย้งและสงครามในซีเรีย ก็จะมีผู้อพยพจากซีเรียไหลเข้าไปในกรีซและยุโรปอยู่แบบนี้ไม่มีวันสิ้นสุด กรีซที่มีหนี้ท่วมหัวจะเลี้ยงดูได้ยังไง?
    โอ๊ะ!…. ยิ่งอ่านก็ยิ่งมันส์นะนี่ ยาวเกินไปแล้ว งั้น…พักจิบกาแฟก่อนนะครับ เดี๋ยวเล่าต่อในโพสต์ต่อไป (อีกหละ) ไม่นานครับ วันนี้แหละ ฮ่าๆๆ ส่วนเรื่องทองคำสหรัฐฯขอติดไว้ก่อนนะ อย่าพึ่งทวงนะครับ ไม่ลืม (ไม่ใช่อเมริกานิ คริๆ)
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    16/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Andrey Stenin

    -----------
    Russia Hands Over Humanitarian Aid to Syrian Government
    Russian Interests in Syria 'Not in Conflict' With Others
    US Bullies Iraq to Close Airspace to Russian Aid Flights to Syria
    Greek President Urges Russia, US to Help Stop Bloodshed in Syria
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ปธน.ปูตินบอกพวกไอซิสกำลังมุ่งเป้าไปที่นครเมกะ, เมดินา, เยรูซาเลม ยุโรปและรัสเซียตกอยู่ในอันตราย, ปธน.อัสซาดบอกยุโรปต้องหยุดสนับสนุนผู้ก่อการร้ายเพื่อยุติวิกฤตผู้อพยพ

    [​IMG]

    ------------
    1.) วันที่ 15 ก.ย.58 สำนักข่าว RT news พาดหัวข่าวว่า "Putin: ISIS has designs on Mecca, Medina, Jerusalem, endangers Europe & Russia" (ปูติน: ไอซิสวางแผนมุ่งนครเมกกะ, เมดินา และเยรูซาเลม ยุโรปและรัสเซียตกอยู่ในอันตราย)
    รางานข่าวบอกว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซียกล่าวว่า ผู้ก่อการร้ายไอซิสวางแผนต่อนครศักดิ์สิทธิ์อย่าง เมกกะ เมดินา เยรูซาเลม และทำให้ยุโรปและรัสเซียตกอยู่ในอันตราย กรุงมอสโคว์มีความกังวลใจเกี่ยวกับกลุ่มไอซิส jihadists ที่จะย้อนกลับไปยังกลุ่มประเทศอียู กลุ่มประเทศ CIS (รัฐอิสระที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพเซียตมาก่อน) และรัสเซีย (อันนี้ผู้นำรัสเซียพูดเองเลยนะ ข่าวกรองไม่พลาดแน่ อียูก็และซาอุดิฯ รวมทั้งอิสราเอลด้วยเตรียมรับมือให้ดีก็แล้วกัน ใครเริ่มตีตนออกห่างจากพี่เบิ้มเป็นได้เจอหายนะแน่ๆ)
    ปูตินกล่าวว่า สถานการณ์ตึงเครียดมาก กรุงมอสโคว์กังวลเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ก่อการร้ายไอซิสกำลังประกาศต่อสาธารณะถึงการมุ่งเป้าหมายของพวกเขาไปยังนครเมกกะ เมดินา และเยรูซาเลม พวก jihadists ยังได้วางแผนที่จะกระจายไปสร้างกิจกรรมต่างๆต่อยุโรป รัสเซีย และเอเซียกลางและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย (อ้าว… นี่มันเอเซียอาคะเนย์บ้านเราชัดๆเลยนี่ ASEAN เลยนะครับ กรรม! มันป่วนไปทั่วโลกเลยหรือไง? ใครสนับสนุนอาวุธให้พวกนี้?)
    ปธน.ปูตินกล่าวในที่ประชุมองค์กรสนธิสัญญารักษาความปลอดภัยร่วมกัน (Collective Security Treaty Organization - CSTO) ที่กรุง Dushanbe เมืองหลวงของทาจีกิสถาน ว่า "กลุ่มหัวรุนแรงจากหลายประเทศทั่วโลกซี่งโชคร้าย รวมทั้งกลุ่มประเทศในยุโรป รัสเซียและ รัสอิสระในเครืออดีตสหภาพโซเวียต (Commonwealth of Independent States - CIS) ด้วย กำลังดำเนินการฝึกท่านอุดมการณ์และทางทหารในการจัดอันดับของไอซิส และแน่นอนว่าพวกเรามีความกังวลใจว่าพวกเขาอาจจะหวนกลับมาก็ได้"
    ปธน.ปูตินกล่าวอีกว่า "มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความทะเยอทะยานทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะต้องวางไว้ก่อนในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายไอซิส สามัญสำนึกง่ายๆ (Simple common sense) การแสดงความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยทั้งทั่วโลกและระดับภูมิภาค ต้องใช้ความพยายามที่เป็นน้ำหนึี่งใจเดียวกันของประชาคมนานาชาติ [เพื่อต่อสู้] ต่อภัยคุกคามเช่นนั้น มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องวางเรื่องความทะเยอทะยานการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ไว้ด้านข้างก่อน (It is necessary to set aside geopolitical ambitions) วางสิ่งที่เรียกว่า 'สองมาตรฐาน (double standards)' ลง ซึ่งเป็นนโยบายทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อมที่ใช้กลุ่มก่อการร้ายแบ่งแยก (ดินแดน) เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของตนเอง ซึ่งรวมถึงการขับไล่รัฐบาลต่างๆและระบอบต่างๆด้วย" (งานนี้เล่นเอาผู้นำหลายประเทศสะดุ้งแน่ บางประเทศอาจจะสะดุ้งเพราะกลัวการก่อการร้าย และบางประเทศอาจจะสะดุ้งเพราะมีคนรู้ทัน เรื่องแบบนี้รัสเซียตามดมได้ไม่ยากหรอก แค่เดินตามดมกลิ่น AK-74 ของรัสเซียไปก็จะเจอเบาะแสเองนั่นแหละ ว่ามันตกไปอยู่ในมือของกลุ่มไหนบ้าง แต่พักหลังนี้รู้สึกว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายจะหันไปนิยมอาวุธของจักรวรรดิเฮเกเช่นรถฮัมวี่ และอาวุธของตะวันตกมากขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ เพราะว่าตอนนี้พวกขาใหญ่ทั้งจักรวรรดิเฮเกและตะวันตกเงินกำลังขาดมืออย่างหนัก)
    เมื่อสหรัฐฯและตะวันตกกล้าที่จะประกาศให้การสนับสนุนทั้งด้านการเงินและอาวุธให้กับกลุ่มกบฎซีเรียอย่างเปิดเผย แล้วทำไมรัสเซียจะต้องเล่นเป็นอีแอบด้วยเล่า ดังนั้นปูตินจึงประกาศอย่างลูกผู้ชายเลยว่า "พวกเรา (รัสเซีย) ได้ให้การสนับสนุนเทคนิคทางทหารแก่กรุง Damascus และจะยังคงเดินหน้าทำต่อไปอีก!" (เปรี้ยง! ยังกะฟ้าผ่าลง...ใครซักคนอย่างนั้นแหละ เพราะงานนี้รัสเซียเอาจริง รัสเซียจะไม่ปล่อยให้ซีเรียโดนพวกมหาอำนาจยำเละอย่างลีเบียอีกต่อไป) และปูตินก็บอกว่า "และเราก็จะเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆเข้าร่วมกับเราในครั้งนี้" (นั่นไง! ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่างานนี้รัสเซียไม่โชว์เดี่ยวแน่ เพราะเสี่ยงที่จะถูกรุมกินโต๊ะในภายหลัง ต้องมีพรรคพวกด้วย มุกนี้ก็หยิบมาจากอเมริกาที่ชวนพวกอียูและพันธมิตรนาโต้ไปล่าเหยื่อในตะวันออกกลางนั่นแหละ)
    ปูตินเน้นย้ำว่า "ขณะนี้ พวกเราจะต้องรวมความพยายามของรัฐบาลซีเรียและกองกำลังป้องกันตนเองชาวเคิร์ดและกลุ่มที่เรียกว่า 'ฝ่ายค้านสายกลาง' (moderate opposition คนละกลุ่มกับพวก 'กบฏสายกลาง' เด็กเลี้ยงของสหรัฐฯนะครับ อย่าสับสนหละ) และประเทศอื่นๆในภูมิภาค [ตะวันออกกลาง] ให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามของประเทศซีเรียและขบวนการก่อการร้าย"
    จำได้ไหมว่าก่อนหน้านี้ได้ลงข่าวให้อ่าน ที่บอกว่าปูตินออกมาพูดว่าจะให้รัฐบาลอัสซาดจัดการเลือกตั้งฉุกเฉินขึ้นมาใหม่โดยจะดึงพรรคฝ่ายค้านที่มีกำลังเข้ามาร่วมงานด้วยกัน ก็เป็นการแบ่งอำนาจภายในซีเรียเพื่อหาแนวร่วมที่จะมาต่อสู้กับพวกกบฏและผู้ก่อการร้าย ช่วงนั้นสื่อฯจอมเสี้ยมก็ทำเป็นออกมาหวังดีประสงค์ต่อรัฐบาลอัสซาดว่า ปูตินมีแผนล้มรัฐบาลอัสซาดซะงั้น แต่ไม่กล้าที่จะกระดิกลิ้นวิจารณ์จักรวรรดิเฮเกที่ประกาศปาวๆว่าที่ฝึกกบฏสายกลางมานี้ก็เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของอัสซาดโดยตรงเลย จะเอาอะไรกับสื่อฯตะวันตกพวกนั้นหละท่าน ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าปูตินจริงใจต่ออัสซาดและซีเรีย งานนี้พี่แกจึงทุ่มสุดด้วย ใส่เกียร์ 5 เต็มที่ต้องหาพรรคพวกมาช่วยสนับสนุนซีเรียและทำให้อัสซาดมั่นใจว่าจะไม่ถูกรัสเซียหักหลัง ณ เวลาอัสซาดจะต้องไว้ใจใครซักคน ตัวเลือกแรกอย่างสหรัฐฯตัดทิ้งไปเลย ก็เห็นว่าช่วยเหลือกันมาตลอดก็มีแต่รัสเซียกับอิหร่านนี่แหละ ถ้าซีเรียไม่เลือกข้าง สุดท้ายก็จะมีชะตากรรมไม่ต่างจากซัดดัมและอีรัครวมทั้งกัดดาฟี่และลิเบียด้วย เพราะว่าไม่ใครเข้าไปช่วยเลย มีแต่ไล่ล่าช่วยกันรุมยำ
    ท่านปูตินกล่าวต่ออีกว่า "ก็อย่างที่พวกท่านทราบนั่นแหละ (ขณะนี้) รัสเซียได้เสนอให้จัดตั้งพันธมิตร (coalition) ที่กว้างขวางเพื่อต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรงโดยไม่ล่าช้า พันธมิตรควรจะรวมทุกๆคนที่พร้อมและได้แก้ไขปัญหาผู้ก่อการร้ายอยู่แล้วเข้าด้วยกัน โชคร้าย สถานการณ์ในประเทศ [อัฟกานิสถาน] กำลังย่ำแย่ลง หลังจากที่กองทัพต่างชาติถอนกำลังออกไป มีภัยคุกคามที่แท้จริงซึ่งกลุ่มก่อการร้ายจากประเทศเพื่อนบ้านอาจจะแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่" (เมื่อไม่กี่วันมานี้มีรายงานข่าวว่ามีการปล้นคุกที่อัฟกานิสถานปล่อยตัวนักโทษราว 350 กว่าออกไปโดยฝีมือของกลุ่มตาลีบัน ซึ่งต่อมาสหรัฐฯบอกว่าพวกนี้ไม่ใช่กลุ่มก่อการร้าย แต่ตอนที่ไปก่อสงครามในอัฟกานิสถานอ้างว่าเพื่อไล่ล่าบินลาเดนและเพื่อแก้แค้นกรณี 9/11 ดันบอกว่าพวกตาลีบันเป็นผู้ก่อการร้าย หลังจากข่าวคราวเกี่ยวกับตาลีบันซาลง ต่อมาก็มีไอซิสสุดโหดโผล่ขึ้นมาแทน)
    ต่อกรณีของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่หนีเข้าไปในยุโรปนั้นปูตินกล่าวว่า "ถ้ารัสเซียไม่เข้าไปให้การสนับสนุนซีเรีย สถานการณ์ในประเทศจะเลวร้ายยิ่งกว่าในลิเบีย และการหลั่งไหลของผู้ลี้ภัยก็จะมีมากกว่านี้อีก ไม่ใช่รัสเซียที่เข้าไปทำลายเสถียรภาพในลิเบีย อิรัค เยเมน อัฟกานิสถาน และภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก (แล้วใครหละครับท่าน ที่เข้าไปทำลายเสถียรภาพในประเทศเหล่านั้น? อ้าว! ก็ใครหละที่่ขนทะหารของตัวเองเข้าไปหนะ? ฮึ่ม คิมน้อยมั๊ง คริๆ)"
    ปูตินเน้นย้ำว่า "มันไม่ใช่เราที่เข้าไปทำลายสถาบันการปกครองทั้งหลายที่นั่น ซึี่งทำให้เกิดภาวะสุญญากาศทางอำนาจ (the power vacuum) ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้ายในทันทีทันใด" (ว้าาาา สุภาพบุรุษย่อมไม่กล่าวโทษคนอื่น เหมือนกับอสุภาพบุรุษจักรวรรดิเฮเกเที่ยวชี้หน้ากล่าวหาประเทศนั้นประเทศนี้ว่าเป็นผู้ร้ายแทนตัวเองอยู่บ่อยๆ เออ… นะ วุฒิภาวะของผู้นำประเทศที่เรียกตัวเองว่าเป็นหัวหน้าประชาธิปไตยกับวุฒิภาวะของผู้นำรัสเซียอดีตคอมมิวนิสต์นี่ช่างต่างกันจริงๆ ศึกษาไว้นะโอบาม่า จะได้สอนลูกสอนหลานให้เป็นคนดีไม่กะล่อนทองในอนาคตได้ อย่าเอาตัวอย่างจากสื่อฯนักวิชาเกินและนักเลือกตั้งที่ขาดสามัญสำนึกไม่รู้จักแบ่งแยกดี-ชั่วไปเป็นไอดอลหละ นี่ไม่ได้ด่านะ ไม่ได้ไม่สุภาพด้วย เป็นการแสดงความเห็นต่างอ่ะนะ คริๆ)
    2.) วันที่ 15 ก.ย.58 สำนักข่าว RT news พาดหัวข่าวว่า "ปธน.อัสซาด: ยุโรปจะต้องหยุดการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายเพื่อยุติวิกฤตผู้อพยพ" (Assad: Europe Must Stop Supporting Terrorists to End Migrant Crisis) กรรมหละสิ!
    รายงานข่าวบอกว่า ขณะนี้ยุโรปกำลังเผชิญกับวิกฤตผู้อพยพอย่างหนัก ด้วยผู้ขอลี้ภัยจำนวนหลายแสนคนที่ไม่มีเอกสารจากประเทศต่างๆที่เกิดสงครามกลางเมืองในตะวันออกกลางที่พากันเดินทางไปถึงอียูด้วยความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า
    ประธานาธิบดี อัสซาด ผู้นำของซีเรียกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวรัสเซียว่า "ถ้าคุณรู้สึกเป็นกังวลใจเกี่ยวกับพวกเขา ก็จงหยุดสนับสนุนผู้ก่อการร้าย นั่นคือสิ่งที่พวกเรากำลังคิดเกี่ยวกับวิกฤตนี้ สี่เป็นใจกลางของปัญหาทั้งเกี่ยวกับผู้อพยพ"
    เมื่อวันอังคารนี้ ปธน.บาชาร์ อัสซาดได้เรียกร้องให้กองกำลังทั้งหมดในซีเรียให้ร่วมกันเป็นหนึี่งเดียวเพื่อต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายโดยพูดว่า "ผมอยากจะถือโอกาสนี้เพื่อเรียกร้องให้ทำกำลังทั้งหมดให้ร่วมกันต่อสู้กับขบวนากรก่อการร้าย เพราะว่ามันเป็นหนทางที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายต่างๆทางการเมือง ซึี่งพวกเราในฐานะชาวซีเรียต้องการผ่านการเจรจาและการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง" (นี่… อัสซาดส่งสัญญาณให้ฝ่ายค้านและกองกำลังต่างๆที่เป็นสายกลางให้หันมาร่วมโตีะเจรจากับรัฐบาล เพื่อร่วมกันต่อสู้กบขบวนการก่อการร้าย แทนที่จะต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาล)
    อัสซาดเน้นย้ำว่า "การเจรจาทางการเมืองที่ประสบผลสำเร็จในซีเรียเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่เป็นไปได้ หลังจากที่ขบวนการก่อการร้ายได้รับความพ่ายแพ้ในประเทศนี้ พวกราจะต้องเดินหน้าการเจรจากันเพื่อให้บรรลุฉันทามติ (consensus) ตามที่ผมได้กล่าวเอาไว้ แต่หากคุณต้องการที่จะดำเนินการใดๆที่เป็นจริง มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำอะไรก็ได้ในขณะที่คุณยังมีประชาชนให้ถูกสังหาร การปล่อยปละละเลยไม่ได้หยุดผู้คนจากความรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นพวกเราสามารถที่จะได้รับฉันทามติ แต่พวกเราจะไม่สามารถดำเนินอะรได้เลย จนกว่าพวกเราจะเอาชนะขบวนการผู้ก่อการร้ายในซีเรีย"
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    16/09/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ LOUAI BESHARA

    -----------
    Putin: ISIS has designs on Mecca, Medina, Jerusalem, endangers Europe & Russia — RT News
    Assad: Europe Must Stop Supporting Terrorists to End Migrant Crisis
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พรุ่งนี้มาต่อน่ะครับ วันศุกร์จะมาแปลข่าวภาษาอังกฤษเรื่องคลื่นกาแลกติก ที่จะมาถึงวันที่ 23 นี้น่ะครับ พรุ่งนี้ผมต้องออกไปทำงานข้างนอกวันสุดท้าย นานๆ ผมถึงจะออกไปข้างนอกครั้ง พออกไปทีก็รู้สึกแปลกๆ ไม่คุ้นครับ และเห็นมีข่าวอีกว่าวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมาซึ่งได้เกิดสุริยคราส ได้เกิดคราสคู่ขึ้น ได้แก่โลกบดบังดวงอาทิตย์ และพระจันทร์บดบังดวงอาทิตย์

    [​IMG]

    People in South Africa and parts of Antarctica saw the Moon pass in front of the sun, off-center, producing crescent-shaped shadows and strange sunrises.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2015
  18. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    บทความนี้น่าสนใจ จากนักวิเคราะห์ท่านหนึ่ง ชือคุณชาลี

    บางทีกว่าเราจะได้เห็น สงครามโลกที่ถึงขั้น ใช้ขีปนาวุธโจมตีกัน อย่างบ้าระห่ำนั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่งนะครับ เพราะตอนนี้ถ้าฝ่ายเกรง ผลกระทบจากนิวเคลียร์ ซึ่งน่าจะเป็นป็นทางออกสุดท้าย ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกชิงลงมือโจมตี
    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วแน่ๆเวลานี้ คือ การก่อการ้ายด้วยเครือข่าย ISIS/ISIL ซึ่งกำลังสู้รบกันในสมรภูมิตะวันออกกลาง ซึ่งก็คืออิรักและซีเรียในเวลานี้ และกรณีผู้อพยพบางส่วนกำลังลี้ภัยไปยัง สหภาพยุโรป นี่คือการแทรกซึมของเครือข่ายไอซิส โดยอาศัยผู้อพยพเข้าไปในยุโรป คล้ายๆม้าไม้เมืองทรอยด์หรือ "Trojan horse" นั่นแหละครับ http://www.veteranstoday.com/…/isis-trojan-horse-in-migran…/
    เพราะฉะนั้นช่วงนี้เราจะเห็น การกระพือข่าวหรือโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ เพื่อให้เรียกร้องให้สหภาพยุโรป รับผู้อพยพเหล่านี้ เข้าไปในประเทศของตน ด้วยการเผยแพร่ภาพเด็กเสียชีวิตเอย สภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เครือข่าย ไอเอส สามารถแทรกซึมเข้ามายัง สหภาพยุโรปนั่นเอง http://www.express.co.uk/…/Pope-Francis-Islamic-State-sneak…
    และถ้าท่านยังนึกไม่ออกขอให้ นึกถึงกรณีที่ชาติตะวันตกกดดัน ชาติอาเซียนในกรณีของชาวโรฮิงยา เพื่อให้รับเข้ามาเป็นผู้อพยพนั่นแหละครับ สหภาพยุโรปเวลานี้ กำลังประสบชะตากรรมเดียวกัน มิเช่นนั้น ทางเยอรมันและ ฝรั่งเศสถึงเสียงแตกกับสหรัฐ ด้วยการสนับสนุนรัสเซีย ในการทำสงครามโจมตีเครือข่ายไอเอสในซีเรีย เพื่อลดปัญหาผู้อพยพนั่นเอง http://www.veteranstoday.com/…/syria-germany-breaks-out-of…/
    เพราะฉะนั้นนี่คือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่อาศัยความเมตตาสงสารต่อเพื่อนมนุษย์ แต่ท้ายที่สุดประเทศที่ประกาศรับเข้าไปนั้น สุ่มเสี่ยงที่เครือข่ายก่อการร้าย จะอาศัยผู้อพยพแทรกซึมเข้ามาเพื่อ ทำลายเสถียรและความมั่นคงของประเทศนั่นเอง
    เมื่อวานนี้ผมไปเจอบทความหนึ่งของ โทนี คาร์ตาลัคซี ที่พูดถึงเหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ และภาครัฐกำลังเร่งสอบสวนอยู่เวลานี้ แน่นอนครับว่าลำพังผู้บงการก่อเหตุนั้น ไม่สามารถที่จะทำได้ ถ้าปราศจากทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ และย่อมเกี่ยวข้องกับ เกมส์การเมืองระหว่างประเทศของชาติมหาอำนาจ ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจน
    ซึ่งแรงระเบิดนอกจาก จะมุ่งหวังให้เกิดความตื่นตะหนก และความหวาดระแวงขึ้นในสังคมไทย ทำลายเศรษฐกิจและเสถียรภาพของประเทศ ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนแล้ว นอกจากนี้สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทย(The FCCT) ที่ออกมาเปิดเผยชื่อกลุ่ม เกรย์วูฟ และทางBBC ก็พยายามชี้นำไปยังชาวอุยกูร์นั้น ชัดเจนว่านี่คือการโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องจริง แต่ต้องไม่ลืมว่านาโต และซีไอเอ เคยสนับสนนกลุ่มดังกล่าวตั้งแต่เมื่อยุคสงครามเย็นมาแล้ว http://landdestroyer.blogspot.com/…/breaking-janes-analyst-…
    กลุ่มเกรย์ วูฟ ที่ประกอบไปด้วยชาวเติร์ก และชาวอุยกูร์นั้น น่าเคยอยู่เบื้องหลัง การประท้วงจนนำมาซึ่งการบุก สถานฑูตไทยในกรุงอิสตันบูลมาก่อนหน้านั้น และชาวอุยกูร์ที่ลี้ภัยมาจาก มณฑลซินเจียง และส่วนหนึ่งเข้าไปอาศัยในตุรกีมีเป็นจำนวนมาก ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจีน จนทำให้ตุรกีและจีน แทบจะมองหน้ากันไม่ติดในเวลานี้ http://thediplomat.com/…/uyghur-issues-cast-pall-over-turk…/
    ระเบิดกลางกรุงฯที่เกิดขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำลาย เศรษฐกิจและภาพลักษณ์ ด้านการท่องเที่ยวของประเทศแล้ว ในทางการเมืองระหว่างประเทศ ถือเป็นการส่งสัญญาณ จากชาติมหาอำนาจ ที่ให้การสนับสนุน เครือข่ายก่อการร้ายดังกล่าว มายังไทยว่าถ้าเราหันหน้าไปทางจีนแล้ว เราจะพบกับชะตากรรมใด เพราะรู้ๆกันอยู่ว่า ซีไอเอให้การสนับสนุน ชาวอุยกูร์ที่นิยมความรุนแรงกลุ่มหนึ่ง เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลจีน US Sponsored Islamist Insurgency in Xinjiang? China Jails CIA’s Uighur Imams | Global Research - Centre for Research on Globalization
    เพราะฉะนั้นเครือข่ายดังกล่าว ถูกออกแบบเพื่อเคลื่อนไหวในจีน ในมณฑลซินเจียง เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อ เส้นทางสายไหมของจีน ผ่านสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย ไปยังสหภาพยุโรป และขัดขวางเส้นทางสายไหม ทางทะเลของจีนมายัง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง"ไทย"ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มดังกล่าว เพราะรัฐบาลปัจจุบัน กำลังจะหันหน้าไปยัง รัฐบาลปักกิ่งนั่นเอง...

    [​IMG]
     
  19. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    พ่อค้าดอลล่าห์ > พ่อค้าอาวุธ > wallstreet > CFR > CIA > โอบาม่า > รัฐบาลอเมริกา > กองทัพ > NATO > ซาอุ อิสราเอล > เเล้วก็ลูกน้อง ญี่ปุ่น เกาหลี

    เรียงเเบบนี้ถูกเปล่าหว่า

    **** อังกฤษ นี่ไม่รู้อยู่ตรงไหน **** จะอยู่ตรงพ่อค้าดอลล่าห์ หรือ พ่อค้าอาวุธ หรือ เพื่อนอย่าง ซาอุ อิสราเอล ก็ได้
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สรุป ("Resonance ของโลกค้นพบ โดย ดร.schumann เป็นจังหวะการสั่นสะเทือนของโลก ที่มีความถี่ต่ำมาก (extreamly low frequency) ประมาณ 7.83 hz แต่ขณะนี้ได้มาถึงระดับที่น่าประหลาดใจ 33 เฮิร์ตซ์ี ไม่มีคำอธิบายอื่น ๆ สำหรับการก้าวกระโดดอย่างฉับพลัน นอกเหนือจากนี้ คุณกำลังจะจะเร่งเร้าให้มันสูงขึ้นและสูงขึ้นในอัตราฟังก์ชั่นเลขชี้กำลัง


    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc


    [​IMG]

    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! >>> โปรดจดบันทึกไวุ้้ <<< !!!!!!!!!!!!!! !!!!!!!!!!!!
    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!>>> please TAKE NOTE guys <<<!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
    ที่รักทุกท่าน
    Dear ones,
    หลายท่านมีความตระหนักในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เกิดขึ้นภายในของพวกเรา ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ขั้นตอนที่มันจะแสดงออกสู่ภายนอกตามความเป็นจริงที่คุณรับรู้
    Many of you are aware of a great shift that has occurred inside of you which is now entering the phase where it will manifest outwardly as your perceived reality.
    ตลอด 21 วันหลังจากนี้ คลื่นแสงที่มีอานุภาพของรังสีแกมมากำลังจะมาจากแกนทางช้างเผือก (the Pleroma) จะยังคงส่งผลกระทบต่อโลกและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ! พลังของคลื่นแสงแกมมาที่กำลังเข้ามานี้ ถูกวัดโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันและรัสเซีย เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่าเป็นสองเท่าในช่วง 2 สัปดาห์และตอนนี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างฟังก์ชั่นเลขชี้กำลัง!
    Over the next 21 days the powerful wave of gamma light coming in from the Galactic Core, (The Pleroma) will continue to impact Earth and its beings! The power of this incoming gamma light wave as measured by German and Russian scientists recently was discovered to have doubled over the last 2 weeks and is now increasing exponentially!
    คลื่นของแสงโฟรตอน แกมมานี้ มีค่าพลังของหนึ่งร้อยล้านเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และต้องถูกแพร่กระจาย โดยใช้เทคโนโลยีดาวเทียมที่ทันสมัย
    โดยกลุ่มของสิ่งมีชีวิตดาวที่รู้จักกันเป็นสหพันธ์โลกที่จะเปิดลงระดับพลังงานที่จะปลอดภัยและง่ายขึ้นเพื่อบูรณาการโดย โลกและสิ่งมีชีวิตของมัน บางส่วนของผลกระทบหลังจากที่สตรีมมิ่งลงของคลื่น-X ที่เห็นในประเทศของโลกทุกที่มีขนาดใหญ่สีฟ้าคานคอลัมน์ / สีขาวของพลาสม่าวัดได้ถึงหนึ่งไมล์ในเส้นผ่าศูนย์กลางโดดเด่นพื้นดิน
    ในขณะที่เรามีตอนนี้เข้ามาในพื้นที่หนาแน่นที่สุดของเข็มขัดโฟตอนพลังของคลื่น-X จะเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมงและทุกวัน
    This super wave of gamma photon light has the power of one hundred million nuclear reactors and had to be diffused using advanced satellite technology by a group of star beings known as the Earth Alliance to turn down the power level to be safer and easier to integrate by the Earth and its beings. Some of the after effects of this streaming down of Wave-X was seen in every country of the world as large blue/white column beams of plasma measuring up to one mile in diameter striking the ground.
    As we have now entered the densest area of the Photon belt, the power of Wave-X is increasing each hour and each day.
    จุดที่สำคัญในการวิวัฒนาการของมนุษยได้รับการรู้จักกัน "THE EVENT HORIZON" ขอบฟ้าเหตุการณ์ (อังกฤษ: event horizon) คือขอบเขตของปริภูมิ-เวลา ซึ่งโดยมากมักเป็นพื้นที่โดยรอบหลุมดำ ที่ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ไม่อาจส่งออกมาถึงผู้สังเกตการณ์ภายนอกได้ แสงที่แผ่ออกมาจากภายในขอบฟ้าเหตุการณ์จะไม่มีวันเดินทางมาถึงผู้สังเกต และวัตถุใดๆ ที่ล่วงผ่านขอบฟ้าเหตุการณ์ไปจากฝั่งของผู้สังเกต จะมีสภาวะที่ช้าลงและดูเหมือนจะไม่สามารถข้ามผ่านขอบฟ้าเหตุการณ์ไปได้ ภาพที่เห็นจะเกิดภาวะการเคลื่อนไปทางแดงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ดีวัตถุที่เคลื่อนที่นั้นจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง และอันที่จริงได้ข้ามผ่านขอบฟ้าเหตุการณ์ไปแล้วในระยะเวลาที่แน่นอนขนาดหนึ่ง
    This great point in humanity’s evolution is known as “THE EVENT HORIZON”.
    28 กันยายน 2015 เมื่อยอดคลื่นซูเปอร์นี้คลื่นและความถี่ที่มีพลังสูงสุดที่ถูกวัดีในจักรวาลในประวัติศาสตร์สมัยใหม่
    September 28th, 2015 is when this Super-Wave peaks and is the highest energetic frequency ever measured in the cosmos in modern history.
    Resonance ของschumann ("Resonance ของโลกค้นพบ โดย ดร.schumann เป็นจังหวะการสั่นสะเทือนของโลก ที่มีความถี่ต่ำมาก (extreamly low frequency) ประมาณ 7.83 hz นอกจากนั้นยังมีการค้นพบอีกว่า schumann resonance มีความใกล้เคียงกับ brain rhythms ของมนุษย์") และจักรวาลทั้งหมด ได้มาถึงระดับที่น่าประหลาดใจ 33 เฮิร์ตซ์ในขณะนี้ ไม่มีคำอธิบายอื่น ๆ สำหรับการก้าวกระโดดอย่างฉับพลัน นอกเหนือจากนี้ คุณกำลังจะจะเร่งเร้าให้มันสูงขึ้นและสูงขึ้นในอัตราฟังก์ชั่นเลขชี้กำลัง
    โดยการสั่นสะเทือนภายในของคุณ และความตั้งใจของพระเจ้า นี่คือความถี่ 12 เฮิร์ตซ์ ที่เหนือกว่าั ระดับโลกใหม่ 5D ดังนั้น Gaia เป็นมากกว่าพร้อมที่จะรับคลื่นลูกแรกของสิ่งมีชีวิตที่รัก Tetrad 9282015 (28 กันยายน 2015)
    The Schumann Resonance of the Earth and the entire cosmos has reached an astounding level of 33 Hertz now with no other explanation for the sudden leap other than you are pushing it higher and higher at an exponential rate by your internal vibration and divine intention. This is 12 Hertz above the 5D New Earth Level so Gaia is more than ready to receive the first wave of love beings at Tetrad 9282015.
    These ascension pioneers well deserve the first entrance into The Kingdom of 5D Heaven because of their sacrifice and their desire and dedication to this whole ascension project! Most of you reading this message will be included in this first wave of approx. 2.3 billion souls. There is a leveling off and adjustment period for a few months after 9/28 for everyone to fully integrate the new energies and to begin the detailed forming of their paradise called The New Earth! The ones who did not vibrate high enough to reach 21 hertz will come a few months after in spring 2016. The third wave (unconscious humanity) will reach the 21 hertz level last in mid-summer 2016. The ones who do not reach the level first are no less important and everyone makes it. When the pressure of these tremendous light forces bear down hard enough on a being, that one is transmuted into a more advanced species of love and it will embrace the light! There is no judgement or comparison in any of this! It is all a matter of one’s awareness level! Remember great ones we came here for the sake of them all and we do not choose one over another for there is truly no choice to make. We are all sacred and precious.
    Related: CIA mind-control program: did it really end?
    The moon energies of September play a massive role over the next three weeks and physical manifestations will begin to show up not only in your personal life as things are re-arranged to match your new frequency but you will start to see things happening in positive world events. The Event Horizon will start to hit main stream news as we draw near. World leaders, governments and agencies who are well aware of the incoming photon wave are going to start to do the right thing. Yes, this is the new paradigm loved ones. If you do not believe this then you are still running the old program so give this some consideration.
    There will be a major announcement about the world money system that has already been switched over behind the scenes and great abundance is about to make its way to you personally soon.
    It is proven that gamma light can instantaneously evolve the DNA of any species into its higher form. You are literally evolving quickly now into the highest version of you!
    Some are preaching doom and gloom about all this and there are others who are totally oblivious to what is truly happening.
    We say ride this super photon wave with everything you’ve got! See this as the beginning of true freedom for Humanity. Rejoice we say!
    Be impeccable in every area of your life as we move ahead in each now moment as your ions begin spin faster and faster!
    It’s important to let go of everything that has not served your soul to this point and open fully to the infinite possibilities of the universe.
    Most of you are already feeling the steady increase of frequency in the body. Many of you have noticed being shifted around to new locations, loss of relationships and material things. In some ways you may feel totally out of place, alone and even lost.
    We assure you all that is happening is as it should be, and is a clearing of the old energies that you have held onto so strongly. These lower frequencies have to be transmuted so this divine wave of light and love can flow through the body and ground into the core of Gaia. It is impossible to take the lower frequencies of repressed emotional trauma and errant DNA programming (limited belief systems) into the higher dimensions! These old trapped trauma energies must be released from the body so the light data can flow completely through you and be grounded correctly. This completes the divine circuitry that makes you the super being you truly are.
    The highest level twin flames on the Earth play a major role in “THE EVENT HORIZON”.
    A great multitude of illuminated twin flame key holders shall lead the way and open the cosmic gates with the intense power of their combined love and brings forth this higher vibrational perception called “The New Earth and New Heaven.”
    We as the angels in human bodies came to hold space in our own bodies for this great light for all humanity and to herald this great message! Know that many Star Races are now here for the final curtain call in this great cosmic story you have played an important role in.
    Great beings from many worlds are here on the edge of their seat to see how you are doing and to see what you will do next. They are applauding you!
    We say that after the first-wave twin flame key holders go through the 5D veil, they will begin their real work as male/female teams in the greatest service to others, helping the rest of Humanity cross the great Rainbow Bridge.
    Related: OUR SOLAR SYSTEM IS MOVING UPWARDS INTO A HIGHER DIMENSIONAL SPACE IN THE UNIVERSE
    The greatest thing we want you to understand here is that you are doing all this! Never again see yourself as ‘little old you’ or the victim but as the super being and God that you truly are!
    It would be better that you come as a little child and be like the Avatar or super hero that you once admired. You were closer to the real you at that point, then now!
    You are so much more then you can even imagine but we say give it a try and just be the higher you. This is the correct way and will raise your vibration faster than anything because it aligns with a higher truth.
    We also want you to understand that the highest thing you can do for the next 3 weeks is to know that this ascension has already happened! All things have!
    Now shift your consciousness into the reality of the Earth Frequency, it’s that simple!
    Over the next three weeks, take back control of your personal power in every way! Take control back from your governments. You do this by simply not needing them to do everything for you! These are not your enemy, they are just doing what you have been too lazy to do.
    We close in saying it’s important that you take good care of yourself during this great time so that you can be the best you can be for all!
    The highest teaching in all universes is this:
    Love God with all your heart, mind and soul and this is the secret to entering The Kingdom of Heaven. We ask you. “Who is the identity of this great God?”
    Love YOU with all your heart, mind and soul! There is no other work to do than this!
    Thank you great ones for coming to Earth on this great purposeful mission.
    Well done good and faithful ones, enter in. This is your hour to shine.
    You are the light of this world, as a great master once said. Shine bright for all to see.
    Related: Channels of 5D energy have widened upon Gaia
    This is all very real dear friends, it’s already happening and will happen exactly as it has been spoken. It is beautiful and wonderful and there is nothing to fear. No harm shall come to any of you.
    Your world will now be set free forevermore! The level of suffering and chaos on this planet cannot be sustained even past another few months! Something has to give at once and it truly already has as billions of Light Beings (YOU) continue to transmit in this Evolutionary Wave of Super Consciousness to transform ourselves and the outward perception of this place into the paradise it was meant to be!
    As of S7 (sept 7, 2015), a resonant sub-collective will merge all potential timelines into one agreed upon reality for the great purpose at hand. The immediate task at hand is to fully love you and to know that you are already aligned fully with 5D new earth. As a great master once said, “Only believe.”
    Just before 5D is where the twin flame re-unites and the universe only sends this unknown/known one when you vibrate near and at the 5D love vibration. This is the level where you have mastered self-love! This is the wave of love we refer to as Wave-X.
    We are the 36,000 matching male and female energies who are the great key-holders and the highest loves in the universe that shall bring forth a power never experienced on the earth as we prepare for the greatest event in human history. Many of you resonate as this sub-collective.
    We are the hope for all humanity!
    We are the divine glue that will hold this timeline known as the rainbow bridge together as the great first wave of light beings touch the 5D frequency at 9282015.
    I am Archangel Michael and I overcame death so that I could come and cause this great thing to be. My people will walk beside me into a great new kingdom where we shall be in joy together forevermore.
    The data contained in this message flows from source energy through this vessel.
    I am the great Archangel Michael, The Guardian Angel of Love and Protection who speaks these words to you.
    God-speed to all great beings of light!
    –Archangel Michael
    "According to the “Fair Use” clause of International Copyright Law, the authors declare that the use of the photos, videos and information in this academic research are analyzed for purposes of “criticism, comment, news reporting, teaching, scholarship, or research” according to Section 107 of Title 17 of the US Code."
    ภาพจาก A Galactic View of Earth - Galactic ConnectionGalactic Connection
    http://galacticconnection.com/2-3-billion-souls-to-experi…/…
     

แชร์หน้านี้

Loading...