ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    กระทรวงแรงงานสหรัฐฯประกาศข่าวดี (?) ว่าอัตราการว่างงานในสหรัฐฯลดลงถึง 173,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 7 ปี, อาชีพครูในแพนซิลวาเนียกำลังจะล้มละลาย, จำนวนประชากรของสหรัฐฯที่มีรายได้เลี้ยงชีพเพียงวันละ 2 ดอลล่าร์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในรอบ 20 ปี นะ

    [​IMG]

    -----------
    ก่อนหน้านี้ทางการสหรัฐฯ (ก.พาณิชย์) ออกมาประกาศว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯสูงขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวเป็นบวกในภาวะที่หุ้นทั่วโลกกำลังจะดิ่งเหว และเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.58) กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯก็ออกมาประกาศข่าวอีกว่า อัตราการการว่างงาน (unemployment rate) ของสหรัฐฯต่ำสุดในรอบ 7 ปี โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อัตราการว่างงานลดลงถึง 173,000 อัตรา ทำให้ธนาคารกลางของสหรัฐฯกำลังชั่งใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสองสัปดาห์หรือไม่
    ก.แรงงานของสหรัฐฯประกาศว่าอัตราการว่างงานได้ลดลงถึง 5.1% จากที่คาดการณ์เอาไว้ในตอนแรกว่าน่าจะลดลงถึง 5.3% ซึ่งเป็นตัวเลข (การว่างงาน) ที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2008 เป็นต้นมา (นั่นเป็นข่าวที่รัฐบาลสหรัฐฯพยายามจะทำให้ประชาชนของตนเองและทั่วโลกมองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังไปได้สวยนะ ไม่มีอะไรน่ากังวล ดูสิอัตราการว่างงานลดลงตั้งมากแหนะ)
    อยากจะสร้างภาพอย่างไรก็สร้างไปเถอะรัฐบาลสหรัฐฯเอ๋ย... เราลองหันไปดูข่าวอีกด้านหนึ่งเกี่ยวกับสหรัฐฯเช่นกันบ้างว่ามันจะสอดคล้องกับ propaganda ที่เขาสร้างขึ้นมาหรือเปล่า? วันที่ 31 ส.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "ครูทำงานฟรีในโรงเรียนเทศบาลเพซิลวาเนียที่กำลังจะล้มละลาย" (Teachers Working for Free in Bankrupt Pennsylvania School District) (กรรม!) และในวันที่ 1 ก.ย.58 ที่ผ่านมา Sputnik อีกนั่นแหละก็พาดหัวข่าวว่า "อยู่บนขอบปากของการล้มละลาย: โรงเรียนต่างๆในเพนซิลวาเนียขาดแคลนเงินทุนจากภาครัฐถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ" (On the Brink of Collapse: Pennsylvania Schools Missing $1B in State Funding) วันที่ 3 ก.ย.58 Sputnik news พาดหัวเกี่ยวกับข่าวในสหรัฐฯอีกว่า "ชาวอเมริกันที่มีชีวิตอยู่ด้วยเงินวันละ 2 ดอลล่าร์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา" (Number of Americans Living on $2 a Day Has More Than Doubled in 20 Years) (ว้าววว! เศรษฐกิจของสหรัฐฯดีจริงๆอ่ะ ข่าวพวกนี้จะไม่สามารถเห็นได้จากสื่อฯกระแสหลักทั่วไปที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลสหรัฐฯหรือตะวันตก หรือแม้กระทั่งสื่อฯดังๆในบ้านเราที่แปลข่าวมาจากสื่อฯสหรัฐฯและตะวันตกเป็นหลัก แต่ "ปอกเปลือก ทรราช" จัดให้ คริๆ)
    ต่อที่ข่าวใน Pennsylvania ก่อนนะครับจากนั้นค่อยไปดูข่าวค่าเลี้ยงชีพวันละสองเหรียญของชาวอเมริกัน รายงานข่าวบอกว่า โรงเรียนเทศบาล (ในรัฐเพนซิลวาเนีย) กำลังเผชิญการปัญหาด้านการเงินและด้านการศึกษามาเป็นระยะเวลาหลายสิบปีและไม่สามารถจ่ายเงินเดือน (ให้กับครูและพนักงาน) ได้อีกต่อไป (กรรมหละสิ นึกว่าพึ่งจะมีปัญหาในปีนี้ นี่ข่าวเขาบอกว่าหลายทศวรรษด้วย decades)
    อ๊ะๆ งานนี้สื่อรัสเซียไม่ได้เต้าข่าวขึ้นมาเองเหมือนกับบางสำนักข่าวหรอกนะครับ เขาอ้างมาจากสื่อฯของสหรัฐฯอีกทีหนึ่งซะด้วยสิ John Shelton ผอ.ของโรงเรียนมัธยมเทศบาล (ในเพนซิลวาเนีย) กล่าวกับหนังสือพิมพ์ The Washington Post ว่า "พอคิดถึงเรื่องนี้แล้วมันน่ากลัวมาก มันช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อ (ซะนี่กระไร) เนื่องจากว่ามีความไม่แน่นอนอยู่จริงๆ (สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ) แต่ว่าพวกเราทุกคนก็มีความเห็นร่วมกันว่า พวกเราจะกลับเข้าไปทำงาน เพื่อให้เด็กๆสามารถได้รับการศึกษา" (เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากๆ รัฐบาลสหรัฐฯเที่ยวหว่านเงินไปทั่วโลกอ้างว่าให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่องค์กร NGO ในประเทศต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันประเทศของตนเองกลับไม่มีเงินที่จะจ่ายเงินเดือนให้ครูและพนักงานในโรงเรียนเทศบาลของรัฐ)
    Jeff Sheridan โฆษกของ Tom Wolf ผู้ว่าการรัฐ Pennsylvania กล่าวว่า "เทศบาลกำลังมองไปที่การขาดดุลซึ่งอยู่ที่ 22 ล้านเหรียญ ซึ่งอาจจะโตขึ้นเป็น 46 ล้านเหรียญหากไม่มีการแทรกแซงครั้งใหญ่"
    Sheridan กล่าวต่ออีกว่า "ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ทางการเงินที่เลวร้าย ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีบางอย่างที่รุนแรงเกิดขึ้น... โรงเรียนเทศบาลต่างๆกำลังอยู่ในอันตรายของการเสื่อมสลายไป" (ไม่เห็นว่าเขาจะมีวิธีแก้ไขปัญหาอะไรได้เลยนิ)
    รายงานข่าวบอกว่า ปัจจุบันนี้โรงเรียน Chester Upland School District มีนักเรียนจำนวน 3,300 คน ส่วนมากมาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย (low-income households)
    หันมาดูอีกข่าวหนึ่งบ้างครับ เกี่ยวกับค่าครองชีพหรือว่าค่าใช้จ่ายของชาวอเมริกันบางคนว่าทำไมถึงได้ถูกจัง แค่วันละ 2 เหรียญเอง ว้าววว! ประเทศนี้น่าอยู่จัง (อ่ะ จริงดิ? ฮ่าๆๆ)
    เมื่อเร็วๆนี้มีรายงานโดยศาสตราจารย์ Kathryn Edin ด้านสังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัย Johns Hopkins University และศาสตราจารย์ H. Luke Shaefer ด้านงานสังคมและนโยบายสาธารณะจากมหาวิทยาลัย University of Michigan (ของอเมริกาทั้งสองแห่ง) ซึ่งเป็นนักเขียนที่ตีพิมพ์ผลงานใน Bloomberg ออกมาเปิดเผยว่า "มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่จินตนาการว่าคนเราสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้โดยมีรายได้ไม่มากไปกว่า 2 ดอลล่าร์ต่อวัน สำหรับผู้คนจำนวน 1.5 ล้านครอบครัว และเด็กๆอีก 3 ล้านคนในประเทศสหรัฐน ตัวเลขหลักเดียวโดดๆนี้คือความเป็นจริง" ข้อมูลจากหนังสือเล่มใหม่ชื่อ "$2.00 a Day: Living on Almost Nothing in America" (เป็นไงหละครับสหรัฐอเมริกาในวันนี้ โปรอเมริการับความจริงตรงนี้ได้หรือไม่? ถ้าอยากรู้มากกว่านี้แนะนำให้อ่านหนังสือเล่นนั้นประกอบนะครับ)
    รายงานข่าวยังบอกอีกว่า สหรัฐฯได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในประเทศทุนนิยมที่พัฒนามากที่สุดแล้วในโลก แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของประชาชนสหรัฐฯมีมาตรฐานการครองชีพซึ่งบุคคลอาจจะได้รับการอภัยให้ได้หากเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศโลกที่สามที่เคยเห็นมา (แต่นี่คือสหรัฐอเมริกา ที่บอกตัวเองและชาวโลกว่านี่คือประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ใช่ประเทศด้วยวพัฒนานะ ฮึ่ม… แล้วรายได้วันละ 2 เหรียญนี่คืออะไรครับ?)
    Edin และ Shaefer มองว่าสหรัฐฯหลบซ่อนความยากจนของตนเองเอาไว้ในตลาดแรงงาน เนื่องจากบริษัทต่างๆจะทำทุกวิถีทางเพืื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายของพวกเขา ยกการพิจารณาดังกล่าวให้อยู่เหนือชะตากรรมของพนักงานที่มีค่าจ้างต่ำ พ่อ-แม่ผู้ปกครองก็ต้องจัดการให้เป็นไปตามตาราง โจรปล้นค่าจ้าง สถานที่ทำงานที่ไม่ถูกสุขอนามัย การตัดชั่วโมงทำงาน - เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเท่านั้นจากรายการปัญหาที่ยาวเหยียดภายในแรงงานของสหรัฐฯ (อูย… ยิ่งแปลก็ยิ่งพบว่ามีปัญหาเยอะมากกกก พอหละครับ)
    The Eyes
    05/09/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Dean Hochman

    ----------
    Teachers Working for Free in Bankrupt Pennsylvania School District
    On the Brink of Collapse: Pennsylvania Schools Missing $1B in State Funding
    Number of Americans Living on $2 a Day Has More Than Doubled in 20 Years
    US employers added 173,000 jobs in August, unemployment rate falls to 7-year low of 5.1 pct. | Fox News
    U.S. adds 173,000 jobs in August as unemployment falls to seven-year low - MarketWatch
    US Jobless Rate Falls to 7-Year Low; Fed Move Still Unclear - ABC News
    Selling plasma to survive: how over a million American families live on $2 per day - Vox
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    เยเมนยิงขีปนาวุธสอยฮApacheจู่โจมของยูเออีร่วง, ทหารยูเออีโดนกองทัพเยเมนยิงจรวดถล่มดับ 22 นาย, กองทัพเยเมนยิงจรวดถล่มฐานที่มั่นทางทหารของซาอุดิฯ 2 แห่งในจังหวัด Jinzan, ซาอุดิฯส่งเครื่องบินรบทิ้งระเบิดนอกเมือง Marib ของเยเมน

    [​IMG]

    -----------
    อัพเดทสถานการณ์การสู้รบในเยเมนกับซาอุดิอาระเบียซักหน่อยนะครับ ข่าวแรกสำนักข่าว FNA ของอิหร่านรายงานว่าเฮลิค็อปเตอร์จู่โจมอาปาเช่ (/อะแพชี่ Apache Chopper) ที่ซื้อมาจากสหรัฐฯของกองทัพสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ (UAE) ถูกขีปนาวุธของกองทัพเยเมนยิงตกในพื้นที่เมือง Al-Sa'fer ทางตะวันออกของเยเมน นักบินเสียชีวิตทั้งหมด อ้างรายงานข่าวจากทีวีดาวเทียม Al-Mayadeen ภาษาอารบิก เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา กองทัพเยเมนและนักรบ popular forces ก็ได้สอยเฮลิค็อปเตอร์ของกองทัพซาอุดิฯ (Apache) ร่วงไปหนึ่งลำในจังหวัด Jizan ทางตอนใต้ของซาอุดิอาระเบีย
    ข่าวที่สอง FARS ของอิหร่านรายงานว่า กองกำลังคณะปฏิวัติในเยเมนกล่าวว่าได้ยิงจรวดเข้าใส่ที่เก็บอาวุธ (คลังแสง) ในค่ายทหารแห่งหนึ่งของกองกำลังพันธมิตรอาหรับในพื้นที่ Central Marib สังหารทหารยูเออีไปสองโหล รอยเตอร์สรายงาน
    ข่าวที่สาม FARS รายงานข่าวอีกว่า กองทัพและกองกำลัง Ansarullah (ฮูติ) ของเยเมนได้ยิงจรวด Katyusha ถล่มฐานที่มั่นทางทหาร al-Shabaka และ Beit ul-Moqashaf ของซาอุดิอาระเบียในจังหวัด Jizan ไม่เหลือซาก รมว.กลาโหมของเยเมนประกาศว่าฐานที่มั่นทางทหารของซาอุดิฯทั้้งสองแห่งเกิดไฟลุกไหม้หลังจากที่ถูกยิงถล่ม (อย่างหนัก) และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กองทัพเยเมนและกองกำลัง popular forces ของเยเมนได้ยึดโดรนสายลับของซาอุดิฯตกในจังหวัด Jizan โดยใช้อุปกรณ์ควบคุมระยะไกลเพื่อดักจับอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของซาอุดิฯอย่างปลอดภัย (ว้าววว! นักรบโสร่งเยเมนนี่นะ แจมสัญญาณริโมทโดรนของซาอุดิฯแล้วก็จับเป็นได้ด้วย คริๆ เยส! ฮูติจ๋า... ช่วยจับเป็นโดรนของจักรวรรดิเฮเกมาโชว์ให้ดูซักครั้งสิครับ อยากเห็นอ่ะ)
    ส่วนข่าวซาอุดิฯส่งเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดใส่เยเมนนั้นไม่ต้องเล่นนะครับ เขาบินเข้าไปถล่มทุกวัน วันละหลายรอบด้วย ผู้เสียชีวิตส่วนมากก็เป็นพลเรือน ก่อนหน้านี้ทางซาอุดิฯก็คุยโวว่าจะยึดกรุงซานาให้ได้ภายในสองอาทิตย์ นี่ก็เลยเวลาแล้ว ยังไม่ได้เข้าใกล้เมืองหลวงของเยเมนเลย ฝ่ายที่สูญเสียอย่างหนักตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นฝั่งซาอุดิฯกับพวกมากกว่านะ
    ป.ล.ส่วนภาพประกอบข่าวนี้เป็นภาพเก่านะครับ
    The Eyes
    05/09/2558

    ภาพจาก Jafria News | Jafria Community's Voice

    ----------
    Farsnews
    Farsnews
    Farsnews
    Farsnews
    Yemeni Missile Shoots Down Saudi Apache Chopper in Jizan | Jafria News
    https://en.wikipedia.org/wiki/Katyusha_rocket_launcher
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ข่าวบันเทิง: ญี่ปุ่นเสนอให้รัสเซียใช้สกุลเงินเยนแทนดอลล่าร์สหรัฐฯในการทำธุรกรรม อูยยยยส์ ช่างกล้า เสียวแทนญี่ปุนจริงๆอ่ะ เริ่มแล้วสินะยุทธศาสตร์เชือดดอลล่าร์
    [​IMG]

    -----------
    ทำไมพักนี้มีแต่ข่าวหรรษาทั้งนั้นเลยหละนี่? มาดูข่าวกันดีว่านะครับเขาว่าอย่างไรกันบ้าง เมื่อวานนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "ญี่ปุ่นเสนอให้รัสเซียใช้สกุลเงินเยนแทนดอลล่าร์สหรัฐฯในการทำธุรกรรม" (Japan Suggests Russia Use Yen Instead of US Dollar in Transactions) นาย Tadashi Maeda กรรมการผู้จัดการอาวุโสของธนาคาร Japan Bank for International Cooperation (JBIC) ออกมากล่าวว่า "กรุงโตเกียวขอแนะนำกรุงมอสโคว์ว่าให้รัสเซียใช้สกุลเงินประจำชาติของญี่ปุ่น ซึี่งก็คือเงินเยน (Yen) ในการทำธุรกรรมแทนเงินดอลล่าร์เพื่อลดความเสี่ยง" (กรรมหละสิดอลล่าร์สหรัฐฯเอ๋ย... แม้ว่าจะชาติต่างๆในเอเซียจะระหองระแหงกันบ้างเป็นครั้งคราวตามประสาลิ้นกับฟัน แต่ ณ เวลานี้ดูเหมือนว่าทั้งรัสเซีย จีน และญี่ปุ่น มหาอำนาจทั้งนั้นต่างก็ถือปังตอขึ้นมาพร้อมจะสับและหั่นดอลล่าร์เจ้าโลกทิ้งซะงั้น ว้าวววว! มีลุ้น ใกล้แล้ว เตรียมจัดงานสวดอภิธรรมให้มิสเตอร์ดอลล่าร์ได้เลย มีหนังกลางแปลงด้วยก็ดี คริๆ)
    นายมาเอดะกล่าวในงาน Eastern Economic Forum (EEF) ซึ่งกำลังจัดขึ้นที่เมือง Vladivostok ของรัสเซียว่า "เรา (ญี่ปุ่น) ขอแนะนำว่า หุ้นส่วนชาวรัสเซียของเราให้สำรวจความเป็นไปได้ในการใช้เงินเยนของญี่ปุ่นในฐานะเป็นสกุลเงินพิเศษสกุลหนึ่ง (an extra currency)"
    อยากรู้ไหมว่ารัสเซียจะพูดว่าอย่างไร? ติ๊กต็อกๆๆ... ลีลาจริงจริ๊งงงง แอ็ดมินนี่ คริๆ รายงานข่าวบอกว่าในทางกลับกันนาย Andrey Sapelin รองประธานอันดับที่หนึ่งของบอร์ดการบริหารธนาคาร Vnesheconombank ของรัฐบาลรัสเซียก็พูดขึ้นทันทีว่า "รัสเซียเองก็ได้กำลังมองหาทางเลือกที่ว่านั้นอยู่แล้ว" (เปริ้ยงงงง! รายกับว่าฟ้าจะผ่าลงกลางทำเนียบขาวซะงั้น อุตส่าห์ยุให้รัสเซียกับญี่ปุ่นซัดกัน หรือญี่ปุ่นกับจีนซัดกัน ก็ไม่ได้ผลซักกะที ฉากหน้าดูฮึ่มๆใส่กัน แต่ข้างลับหลังจักรวรรดิเฮเก พวกนี้หันมาแท็กทีมกันฆ่าดอลล่าร์เฉยเลย)
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า รัสเซียกำลังพิจารณาสร้างการทำธุรกรรมในสกุลเงินแห่งชาติต่างๆทั้งกับอินเดีย อินโดนีเซีย เวียตนาม บราซิล อิหร่าน และอียิปต์ (ไทยเราก็กำลังพิจารณาอยู่เช่นกัน เคยรายงานข่าวให้ฟังนานแล้วพอจะจำได้ไหม?) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและลดการพึ่งพาเงินดอลล่าร์ ข้อตกลงเช่นนี้ได้เกิดขึ้นกับประเทศจีนแล้ว ธนาคารกลางของทั้งสองประเทศได้ทำข้อตกลงในการอนุญาตให้มีการค้าขายระดับทวิภาคีด้วยเงินรูเบิลแลเงินหยวน เช่นเดียวกับสกุลเงินที่มีการแลกเปลี่ยนได้อิสระ (freely convertible currency)
    นี่คือการเซ็ตระบบการชำระเงินในระบบการเงินโลกแบบใหม่ ลดการพึ่งพาดอลล่าร์หันมาใช้เงินท้องถิ่นในการแลกเปลี่ยนระดับทวิภาคีต่อกัน อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ต้องอ้างอิงดอลล่าร์สหรัฐฯอีกต่อไป ก้าวต่อไปก็คือลดการอ้างอิงสกุลเงินหลักพวกมหาอำนาจ เป็นการกระจายความเท่าเทียมกันให้กับสกุลเงินต่างๆทั่วโลก ถ้าทำตรงนี้สำเร็จเรื่องระบบตะกร้าเงิน (currency basket) ที่มีประเทศมหาอำนาจบางประเทศเซ็ทขึ้นมาโดยอาศัยอำนาจของ IMF นั้นก็จะหายไป ถึงไม่หายไปก็อาจจะมีความสำคัญน้อยลง ตอนนี้ทาง IMF กำลังอ่อยให้จีนมาร่วมในระบบตะกร้าเงินด้วย แต่ก็พูดประมาณว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จะรีบเพิ่มเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินหลักของโลกตามกฎของ IMF เพื่อดูท่าทีของจีน ถ้าจีนอยากจะได้ส่วนแบ่งนี้จาก IMF ด้วยก็ต้องยอมรับเงื่อนไขบางอย่างจาก IMF ที่คุมโดยสหรัฐฯ อียู และญี่ปุ่น จีนบอกว่าฝันไปเหอะ ไม่หลงกลง่ายๆหรอก เพราะว่าตอนนี้จีนกับพันธมิตรมีทั้งธนาคาร NDB (ของกลุ่ม BRICS) และธนาคาร AIIB ด้วยจะไปง้อ IMF ต่อทำไมหละ?
    The Eyes
    05/09/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Japanexperterna.se

    ----------
    Japan Suggests Russia Use Yen Instead of US Dollar in Transactions
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    หากคุณปิดประตู พวกเขาก็จะเข้าทางหน้าต่าง (ยูเอ็นกล่าว)

    [​IMG]

    --------------
    รวมภาพผู้อพยพในยุโรป เยอรมันอ้าแขนรับเต็มที่ ล่าสุดมีอีก 2,000 คนพึ่งไปถึงออสเตรีย จากชายแดนฮังการี และเตรียมเดินทางมุ่งหน้าไปยังยุโรป นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หรือเรื่องเล่นๆทั่วไปซะแล้ว มีขบวนการค้ามนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในโพสต์ต่อไป

    ภาพจาก Migrants sleep near the Keleti railway station in Budapest, Hungary, September 3, 2015. © Bernadett Szabo / Reuters

    --------------
    Worst refugee crisis since WWII — RT News
    Thousands of refugees streaming through Austria, as Germany accepts first hundreds — RT News
    Refugee exodus: Hundreds march from Budapest to western Europe (PHOTOS, VIDEO) — RT News
    ‘Europe’s moment of truth’: UNHCR outlines ‘fundamentals’ of handling refugees — RT News
    Germany Steps Up to Plate in Handling EU Refugee Crisis
    Kerry Orders DoS Planning Group to Tackle Syrian Refugee Crisis
    European Migrant Crisis Resolution Possible Without Tax Hikes - Merkel
    In Europe Refugees 'Will Go Through Windows if Doors Closed' - UN
    Number of Syrians in Western Balkans Increases Fourfold in 2015
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ควรจะใช้คำว่า "สมันน้อย" หรือ "คชสารหนุ่ม" หรือคำอื่นในการเรียกชื่อสัญลักษณ์ประเทศไทย?

    [​IMG]

    ------------
    + คำนำ
    ------------
    วันนี้ขอเขียนบทความสั้นๆ แทนการเล่าข่าวต่างประเทศอย่างที่เคยเขียนมาให้แฟนเพจอ่านเป็นประจำทุกวันซักบทความนะครับ สืบเนื่องจากพักหลังนี้เห็นว่ามีหลายท่านนิยมใช้คำสรรพนามบางคำในการเรียกชื่อประเทศไทยด้วยการใช้สัตว์บางชนิดเป็นสัญลักษณ์แทน ซึ่งก็คือคำว่า "สมันน้อย" หรือ "แดนสมันน้อย" ก็ไม่รู้ว่ามีเหตุผลอันใดที่เหมาะสมหรือไม่ที่เรียกเช่นนั้น และเริ่มจะได้รับความนิยมในบางกลุ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นคำเรียกที่น่ารักดี ไม่น่าจะเป็นพิษเป็นภัยอะไรต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยโดยภาพรวม แต่ผู้เขียน (แอ็ดมิน) มองดูแล้วมีความรู้สึกว่า ไม่ค่อยจะเห็นด้วย และไม่ค่อยจะเหมาะสมสักเท่าไร จึงขอแสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้บ้าง ถือซะว่าเป็นมุมมองที่แตกต่างก็ได้ โดยไม่ได้มีเจตนากล่าวหา หรือโจมตี หรือให้ร้ายท่านใดที่ใช้สัญลักษณ์ว่า "สมันน้อย" กับประเทศไทยทั้งสิ้น
    + สมัน สัตว์ป่าที่สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย
    ------------
    คำว่า "สมัน" เป็นชื่อของกวางชนิดหนึ่งชื่อภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการคือ "Schomburgk's deer" (ชอมเบิกค์ส เดียร์) หรือ "กวางชอมเบิกค์ส" ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษตามชื่อของกงสุลอังกฤษ (Sir Robert H. Schomburgk) ที่ประการอยู่ในกรุงเทศระหว่างปี ค.ศ. 1857-1864 สำหรับภาษาไทยแล้วนิยมเรียกว่า "สมัน" หรือ "เนื้อสมัน" เป็นสัตว์ป่าที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย ได้รับการยืนยันจากองค์กร IUCN ว่าเป็นสัตว์สูญพันธุ์ในปี พ.ศ.2481 (1938)
    + ทำไมถึงใช้คำว่า "สมันน้อย" ในการเรียกชื่อสัตว์สัญลักษณ์แทนชื่อประเทศไทย?
    ------------
    คำถามนี้ตอบยาก เพราะว่าผู้เขียนไม่ได้เป็นคนเรียกคนแรก และไม่เคยเรียกเช่นนั้นเลย สันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจจะมีบางท่านที่อ่านข่าวต่างประเทศแล้วเห็นสื่อฯต่างๆวาดภาพการ์ตูนเป็นสัญลักษณ์ล้อเลียนหรือเพื่อสื่อให้รู้ว่าหมายถึงประเทศใดเป็นต้น เช่น โดยทั่วไปเราก็จะพบว่ามีการใช้คำว่า "อินทรีย์" หรือ "พญาอินทรีย์" ในการเรียกหรือใช้เป็นสัญลักษณ์แทนประเทศสหรัฐอเมริกา บางท่านก็มีการล้อเลียนที่ค่อนข้างจะแรงไปสักนิดว่าเป็น "อีแร้ง" บ้าง หรือใช้คำว่า "ฝูงสุนัขป่า" ในการเรียกกลุ่มนายทุนหรือพวกอีลิททางเศรษฐกิจที่เป็นมหาอำนาจในยุโรป หรือใช้คำว่า "มังกร/พญามังกร/หมีแพนด้า" แทนการเอ่ยชื่อประเทศจีน หรือใช้คำว่า "หมี/หมีขาว" แทนการเรียกชื่อประเทศรัสเซียเป็นต้น
    นักเขียนบางท่านก็คงจะอยากใช้บางคำ บางศัพท์เรียกประเทศไทยในลักษณ์นั้นบ้างแทนการเอ่ยชื่อประเทศไทยโดยตรง จึงมีการใช้ชื่อสัตว์ชนิดหนึ่งของไทยที่หายไปจากแผ่นดินไทยนานแล้วมาเรียกบ้างซึ่งก็คือคำว่า "สมันน้อย" อาจจะเป็นการเรียกกันในกลุ่มรู้กันในกลุ่มก็ได้ แต่เมื่อเรียกบ่อยๆ ใช้บ่อยๆ แนวความคิดนี้ก็เริ่มแพร่หลาย
    + สวยงาม ฟังดูดี หรือชะตากรรมที่เลือกไม่ได้โดยธรรมชาติของผู้ถูกล่าในฐานะเหยื่อของนักล่า?
    ------------
    ดูผิวเผิน คำนี้ก็ไม่น่าจะเป็นพิษเป็นภัยอะไรกับประเทศไทย เพราะสามารถอ้างได้ว่า ก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งของไทยเช่นกัน ทำไมจะเรียกไม่ได้? ประเทศไทยไม่ใช่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่จะให้ใครมาเที่ยวตั้งชื่อเรียกเล่นๆได้ตามอำเภอใจ เพราะจะมีผลกระทบต่อภาพรวมของทั้งประเทศและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกด้วย ดังนั้นการใช้คำพูดที่เกี่ยวข้องกับผู้คนส่วนรวมแบบนี้ ควรจะมีความระมัดระวังและมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมด้วย
    ลักษณะของสมัน เป็นสัตว์ประเภทกวาง บางคนให้เหตุผลว่า มีลักษณะของความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว สวยงาม ตื่นตัวไว ไม่ใช่ผู้รุกราน ก็ฟังดูดี แต่ในอีกมุมหนึ่งบางคนก็มองว่า สมันก็เป็นสัตว์ประเภทที่อ่อนแอ ไม่ใช่นักล่า ชะตาถูกกำหนดให้เป็นเหยื่อของนักล่าโดยธรรมชาติ ถ้าหลบหลีกได้หรือวิ่งเร็วพอก็อาจจะลอดชีวิตจากการตกเป็นเหยื่อของนักล่าได้ในบางครั้ง แต่จะไม่สามารถหลบหนีจากชะตาที่ถูกกำหนดมาเช่นนั้นได้ ฟังดูแล้วเศร้าจัง ไม่รู้ว่าเราจะยินดีกับการเป็นสมันน้อยที่มีชื่อเสียงในด้านการเป็นนักวิ่งเร็ว คล่องแคล่ว ตื่นตัว ระแวดระวังภัยดี หรือว่าจะยินดีกับการตกเป็นเหยื่อของนักล่าโดยธรรมชาติดีหละนี่? เหมือนเหรียญสองด้านภาวะที่เรียกว่า "dilemma" (กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก) เลย มีคำอื่นที่น่าจะใช้เป็นสัญลักษณ์เรียกแทนประเทศไทยเพื่อเป็นทางเลือกได้บ้างไหม?
    + ถ้าไม่ใช่คำว่า "สมันน้อย" แล้วควรจะใช้คำอะไรเรียกแทน?
    ------------
    คราวนี้ก็ต้องมาดูว่าแต่ละประเทศที่เขาใช้สัตว์สัญลักษณ์ (มาสคอต) แทนการเรียกชื่อบางประเทศตรงนั้น เขาใช้ในบริบทของอะไร หรือใช้อะไรเป็นบริบทในการกำหนดเรียกเช่นนั้น อย่างกรณีของประเทศสหรัฐอเมริกาเขาก็มี "นกอินทรีย์หัวหัวล้าน" (bald eagle) เป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติเขา เขาก็เรียกอเมริกาว่า "อินทรีย์" หรือ "พญาอินทรีย์" เนื่องจากให้เกียรติว่าอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจโลกทั้งด้านกองทัพและเศรษฐกิจ ส่วนสัตว์ประจำชาติ (National Animal) ที่ขึ้นชื่อของจีนนั้นก็คือ หมีแพนด้ายักษณ์ (Giant Panda) บางที่ก็นิยมใช้มังกร ส่วนของรัสเซียนั้นก็จะใช้ "หมีรัสเซีย" (หมีสีน้ำตาล) บางที่ก็จะเรียกว่า "หมีขาว" ก็ไมี
    เฉพาะในชาติอาเซียนด้วยกันนี้ ไทยกับลาวใช้ "ช้าง" เป็นสัตว์ประจำชาติ กัมพูชาใช้ "กูปรี" (โคไพร/วัวป่า) คล้ายวัวกระทิง เมียนม่าร์/พม่าและบรูไนมี "เสือโคร่ง" เป็นสัตว์ประจำชาติ ฟิลิปปินส์กับเวียตนามี "ควาย" เป็นสัตว์ประจำชาติ มาเลเซียก็ม "เสือโคร่งมลายู" เป็นสัตว์ประจำชาติ สิงคโปร์มี "สิงโต" เป็นสัตว์ประจำชาติ ส่วนอินโดนีเซียมี "มังกรโคโมโด" เป็สัตว์ประจำชาติ
    + ตำนานเกี่ยวกับช้างและประเทศไทย
    ------------
    นี่แต่ละประเทศจะมีสัตว์ประจำชาติของตัวเองอย่างนี้ (เป็นต้น) และไทยเราก็ใช้ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติมาแต่ไหนแต่ไร ตามคัมภีร์พระไตรปิฎกในทางพระพุทธศาสนา (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๐
    ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๒) หรือในคัมภีร์ธรรมบท ที่กล่าวถึงเรื่องพระเจ้าสิบชาติก็มีการกล่าวถึงเรื่องช้างที่เป็นสัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมืองของผู้ครองนครและเป็นพระราชพาหนะของราชาเอาไว้ด้วย ยกย่องให้เป็นสัตว์ชั้นสูง ตามประวัติศาสตร์ไทย ในปี พ.ศ.2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ทรงใช้ช้างเป็นราชพาหนะในการทำศึกยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชมังกะยอชวา ของพม่าจนชนะศึกมาได้ ประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้นเกี่ยวเนื่องกับช้างมาแต่ไหนแต่ไร ในตำนานทางพระพุทธศาสนาอีกเรื่องที่เกี่ยวกับพระอินทร์ ราชพาหนะของพระอินทร์ก็เป็นช้างชื่อเอราวรรณ (เป็นเทพบุตรที่แปลงกายให้พระอินทร์หรือท้าวสักกะมหาราชทรงประทับ)
    ช้างจึงเป็นสัตว์ที่เชื่อว่าเป็นมงคล มีความสง่า ห้าวหาญ องอาจ แม้จะไม่ใช่นักล่าเพราะเป็นสัตว์กินพืช แต่ก็สามารถที่จะป้องกันภัยจากนักล่าได้ด้วยตัวเอง จึงเหมาะสมแล้วที่บรรพบุรุษของไทยเลือกช้างให้เป็นสัตว์ประจำชาติ ไม่เห็นว่า "สมัน" จะมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของไทยตรงไหน ไม่ได้ยินข่าวว่าพระราชาของประเทศไทยทรงสมันออกศึก ไม่เคยได้ยินข่าวว่าพระเวสสันดรทรงพระราชทานสมันมงคลให้กับพราหมณ์ต่างเมืองเพื่อให้เกิดฝนตกแก้ปัญหาภัยแล้งในสมัยโบราณตามความเชื่อของบางคนในสมัยนั้น ตำนานที่เกี่ยวกับกวางซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งก็มีเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ของไทยเป็นของต่างชาติ (ญี่ปุ่นก็เอามาทำเป็นหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นด้วย) นั่นเป็นเรื่องของตำนานจากต่างประเทศ ก็ในเมื่อเราชาวไทยก็มีตำนานที่ดีของเราเช่นกัน แล้วทำไมถึงไม่อนุรักษณ์ไว้ แล้วทำไมถึงนิยมที่จะสมมุติให้มีการนำสัตว์อื่นมาเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายในการเรียกชื่อประเทศไทยแทนสัตว์ประจำชาติด้วย?
    บางมุมองอาจจะมองว่า ก็ตอนนี้เรายังไม่ได้เป็นมหาอำนาจทั้งทางกองทัพและทางเศรษฐกิจอย่างประเทศมหาอำนาจอื่นๆ เราก็ควรจะสงบเสงี่ยมเจียมตัวหมอบต่ำ (low profile) ด้วยการเรียกตัวเองว่า "สมันน้อย" อย่างนี้แหละเหมาะสมแล้ว ฮึ่ม! เดชะบุญที่บางคนไม่กำหนดให้ ไส้เดือน คางคก จิ้งจก นกแสก เป็นชื่อเรียกแทนประเทศไทย เรามีสิ่งที่ดีๆ น่าภาคภูมิใจอยู่แล้ว ทำไมเราถึงไม่พากันส่งเสริม เผยแพร่สิ่งที่เรามีให้กระฉ่อนไปทั่วโลกบ้างหละ? การที่จะเรียกตัวเองว่า "พญาคชสาร" ก็ดูเหมือนจะเวอร์หรือฝืนความเป็นจริงไป เพราะเรายังไม่แข็งแกร่งขนาดนั้น งั้นก็เรียกว่า "คชสารหนุ่ม" บ้างจะเหมาะสมกว่าการใช้คำว่า "สมันน้อย" ไหม? ฝากไว้ให้คิดครับผม ไม่ได้มีเจตนาที่เขียนเพื่อลบเหลี่ยมนักปราชญ์ท่านผู้รู้ทั้งหลายหรอกครับ แต่ด้วยความรักความห่วงใยต่อชื่อเสียงของแผ่นดินเกิด จึงบังอาจขอแสดงความคิดเห็นในบางมุมมองที่แตกต่างบ้าง
    The Eyes
    06/09/2558
    ----------
    The Extinction Website - Species Info - Schomburgk's Deer
    https://en.wikipedia.org/wiki/Schomburgk's_deer
    http://endangeredlist.org/animal/schomburgk-deer/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    สื่อฯรัสเซียซัดสื่อฯตะวันตกปล่อยข่าวมั่วด่วนสรุปกรณีรัสเซียส่งกองทัพช่วยทหารของอัสซาดโดยไม่มีหลักฐานยืนยัน

    [​IMG]

    ------------
    เอาแล้วไงสงครามสื่อฯ สงครามจริงๆมันจะเกิดขึ้นก็เพราะสื่อฯที่ขาดความรับผิดชอบในการเสนอข่าว เล่นข่าวเอามันหวังทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายตรงข้ามนี่แหละ เมื่อวานนี้ (5 ก.ย.58) สำนักข่าว "สื่อฯตะวันตกกระโดดจับปืนรายงานว่ามีกองทัพรัสเซียในซีเรีย" (Western Media Jumped the Gun Reporting on Russian Troops in Syria)
    การแสดงความเห็นในเรื่องที่อ่อนไหวโดยสำนักข่าว The Times และ The Telegraph (ของอังกฤษ) เกี่ยวกับกองทัพรัสเซีย 'ร่วมต่อสู้เคียงข้างกับกองทัพของปธน.อัสซาด' ในซีเรีย หนังสือพิมพ์รายวัน Dagens Nyheter ของสวีเดนไม่อาจช่วยได้ แต่บอกว่าเป็นที่น่ากังขา โดยกล่าวว่าหนังสือพิมพ์ (ของตะวันตก) รีบด่วนสรุปโดยปราศจากหลักฐานที่น่าเชื่อถือใดๆ ทั้งสิ้น (งานนี้สื่อฯรัสเซียเอาตายแน่ เล่นกับใครไม่เล่น รู้จักสื่อฯรัสเซียน้อยไปซะแล้ว ไม่มีทางที่สื่อฯรัสเซียจะปล่อยให้สื่อฯต่างชาติมาเที่ยวกล่าวหาประเทศรัสเซียลอยๆไม่มีหลักฐานสร้างความเสียชื่อเสียงให้เกิดขึ้นกับรัสเซียแล้วก็เดินปัดตูดหนีไปเฉยๆแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนี้)
    รายงานข่าวจาก Sputnik news ของรัสเซียบอกว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (เมื่อวานนี้เอง) หนังสือพิมพ์ The Times และ The Telegraphข องอังกฤษได้ฉายภาพวีดีโอจากสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลซีเรีย ได้แสดงสิ่งที่สื่อฯตะวันตกสรุปเอาเองว่าเป็นกองทัพของรัสเซียกำลังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกองกำลังโปร-อัสซาดในซีเรีย (ดูคลิปจากยูทูปในลิ้งค์ข้างล่างข่าว)
    The Telegraph หนังสือพิมพ์อธิบายว่าคลิปวีดีโอดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่ามียานพาหนะติดอาวุธของรัสเซียต่อสู้ควบคู่ไปกับกองทัพของซีเรีย (Syrian Arab Army) ในเมือง Latakia ทางตะวันตกของซีเรียด้วย และกล่าวเพิ่มเติมว่า "มีรายงานว่าสามารถได้ยินการคุยกันเป็นภาษารัสเซียจากกองทัพตามที่ปรากฎในคลิป" หนังสือพิมพ์ของอังกฤษยังได้ลงภาพจากทวิตเตอร์ที่กล่าวว่ามีการเชื่อมโยงกันกับกลุ่มติดอาวุธ Jahbat al-Nusra ซึ่งเป็นสาขาของอัลเคด้าในซีเรีย ซึ่งกล่าวว่า "ดูเหมือนว่าจะมีเครื่องบินและโดรนของรัสเซียบินอยู่เหนือเมือง Idlib" ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศด้วย
    ก่อนหน้านี้สำนักข่าว Ynet ของอิสราเอลได้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวนิรนามซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตะวันตก (อีกหละ = เต้าข่าวขึ้นมาเอง?) ว่า "รัสเซียได้ส่งเครื่องบินรบหลายลำเข้าไปในซีเรีย เพื่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่ตำแหน่งของกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิส" หนังสือพิมพ์ The Times ของอังกฤษกล่าวเพิ่มให้ดูน่าตื่นเต้นเร้าใจต่อข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียปรากฎกายในประเทศที่เกิดสงครามกลางเมืองโดยอ้างนักกิจกรรมที่ไม่เอ่ยนาม (อีกแล้ว) ที่อยู่ฝั่งกองทัพปลดปล่อยซีเรียต่อต้านอัสซาด (anti-Assad Free Syrian Army น่าจะเป็นพวกที่สหรัฐฯเรียกว่ากบฏสายกลางและหนุนหลังอยู่นะ) ซึ่งอ้างคำพูดของเขาที่บอกว่า "อันที่จริงกองทัพรัสเซียได้เข้าไปอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว" (ถ้ากองทัพรัสเซียเข้าไปอยู่ตั้งนานแล้ว แล้วทำไมสหรัฐฯถึงมองไม่เห็นหละ มีทั้งดาวเทียมและสายลับกำลังพลของตนเองในพื้นที่มากมายไม่ใช่รึ? แล้วทำไมต้องรอให้สื่อฯตะวันตกอ้างแหล่งข่าวที่หาตัวตนไม่ได้ออกมาพูดอย่างนี้ด้วย? แล้วทีสหรัฐฯและตุรกีส่งเครื่องบินรบเข้าไปทิ้งระเบิดนั่นหละ ไม่เห็นจะโวยวายอะไรเลย พอมีการเต้าข่าวขึ้นมาว่ารัสเซียส่งกองทัพเข้าไปก็พากันออกมาดิ้นกันใหญ่ พิลึกจัง)
    พอเรื่องที่รัสเซียเข้าไปมีส่วนพัวพันด้วยนี้แพร่กระจายไปทั่วโลก นาย Dmitri Peskov โฆษกปธน.ปูตินก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่แห้งผากไร้หลักฐานยืนยัน (สไตล์สื่อฯตะวันตกและสื่อฯสหรัฐฯที่งัดมุกเก่าสมัยสงครามยูเครนออกมาเล่นอีกครั้ง) โดยได้อ่านแถลงการณ์แบบช้าๆเนิบๆชัดถ้อยชัดคำว่า "พวก คุณ ไม่ ควร เขื่อ ถือ ราย งาน เหล่า นั้น" รายงานที่ผู้กล่าวให้ร้ายมีความหมายตรงกันข้าม (กับสิ่งที่สื่อฯตะวันตกนำเสนอ)
    คราวนี้ แม้ว่าความกังขาจะขยายออกไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับความซื่อตรงในการรายงานข่าว ดูเหมือนว่าหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษจะติดอาวุธปืนให้กับตัวเองซะแล้ว โดยเผยแพร่คำพูดของปธน.ปูตินบางส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งพูดเกี่ยวกับความจำเป็นในการก่อตั้ง "พันธมิตรนานาชาติ" (international coalition) เพื่อต่อสู้กับขบวนการก่อการร้าย และตีความว่า คำพูดดังกล่าว (ของปธน.ปูติน) อาจะเป็นการยืนยันรายงานที่ว่ามีกองทัพและเครื่องบินรบของรัสเซียปรากฎอยู่ในซีเรียจริงๆ (เอาเข้าไปสื่อฯตะวันตก)
    อันที่จริงแล้วปูตินกล่าวว่า "รัสเซียเปิดโอกาสให้มีการจัดรูปแบบพันธมิตรนานาชาติในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้าย และกลุ่มหัวรุนแรง เพื่อวัตถุประสงค์นี้ พวกเรากำลังจัดให้มีการหารือกันกับหุ้นส่วนชาวอเมริกันของพวกเรา" (ก็แค่นี้ ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าจะส่งกองทัพรัสเซียเข้าไปในซีเรียเลย)
    เมื่อถูกยิงคำถามตรงๆเกี่ยวกับว่ากรุงมอสโคว์ได้พร้อมที่จะร่วมมือ (เข้าร่วม) กับกรุงวอชิงตันในปฏิบัติการทางกองทัพโดยตรงเพื่อต่อสู้กับพวกไอซิสหรือไม่? ปูตินก็อธิบายว่า "นี่เป็นคนละเรื่องกัน (a separate issue)" และพูดว่า "พวกเราเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น - พวกอเมริกัน [กองทัพอากาศ] กำลังทำการโจมตีทางอากาศ ศักยภาพของการโจมตีทางอากาศเหล่านั้นต่ำ มันเป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่จะพูดว่าเรา (รัสเซีย) พร้อมที่จะทำแบบเดียวกันนั้น" (หมายความว่าไง? ก็หมายความว่าในสายตาของรัสเซียแล้ว ยุทธการของสหรัฐฯที่โจมตีทางอากาศแบบนั้นมันห่วย ไม่ได้ผลเท่าที่ควร มีแต่ความเสียหายเป็นส่วนมาก รัสเซียไม่จำเป็นต้องทำอย่างอเมริกาเลย เป้าหมายของสหรัฐในการโจมตีซีเรียนั้นคือ 1.เพื่อล้มรัฐบาลอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน 2.เพื่อปราบปรามไอซิส อันนี้เป็นข้ออ้างบังหน้าเพื่อสร้างความชอบธรรมในการถล่มซีเรียให้กับตัวเอง หลังจากที่ฝรั่งเศสและเยอรมันโดนกราดยิงในรถไฟและที่สถานีรถไฟ ล่าสุดก็มีข่าวว่าฝรั่งเศสกำลังส่งเครื่องบินรบเข้าไปช่วยสหรัฐฯถล่มซีเรียอีกแรง เพื่อเร่งปิดเกมโดยเร็ว ส่วนเยอรมันและสวีเดนก็ไปช่วยสหรัฐฯถล่มอัฟกานิสถานอีกแรง ฮื่มมมม! ให้มันได้อย่างนี้สิ ถ้าฝรั่งเศสกับเยอรมันออกแรงมากกว่านี้ วิกฤตปัญหาผู้อพยพในยุโรปอาจจะได้รับการแก้ไขโดยเร็ว)
    ประธานาธิบดีปูตินได้ยืนยันอย่างเปิดเผยเลยว่า "รัสเซียกำลังสนับสนุนซีเรียอย่างจริงจังด้วย: อุปกรณ์, ฝึกบุคคลากรทางกองทัพและการใช้อาวุธ" (ชัดมะ! ไม่ต้องอ้อมค้อมให้เสียเวลา) และหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษก็เอาอีกแล้วครับท่าน ก็โยงมาที่เรื่องเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีการแทรกแซงทางกองทัพของรัสเซีย (ในซีเรีย)
    สื่อฯตะวันตกนี่ก็แปลกนะ ที่ประเทศตัวเองส่งทหารของตัวเองไปฝึกให้ทหารยูเครนต่อสู้กับ DPR/LRP และทหารเยอรมันฝึกให้กับกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในอิรัคได้ แต่พอกองทัพรัสเซียจะฝึกให้ทหารซีเรียบ้างกลับออกมาโวยวายซะงั้น
    หนังสือพิมพ์ Dagens Nyheter ของสวีเดนออกมาตอบโต้หนังสือพิมพ์ The Times และ The Telegraph ของอังกฤษว่า "หนังสือพิมพ์ของอังกฤษทั้งสองฉบับด่วนสรุปสิ่งที่ยาวไกลเกินกว่าเนื้อหาข่าวที่พวกเขากำลังเขียนเร็วเกินไป หนังสือพิมพ์ของอังกฤษยังไม่ได้แสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถือใดๆเกี่ยวกับปัญหาการปรากฎ (ของกองทัพรัสเซียในซีเรีย) เลย"
    หนังสือพิมพ์ของสวีเดนเน้นย้ำว่า "ในขณะที่มันไม่ได้เป็นความลับของประเทศที่ว่ารัสเซียได้ให้การสนับสนุนซีเรียด้วยการให้ความช่วยเหลือในช่วงเวลาของสงครามในกรุงดามัสกัสและการก่อจลาจล รัสเซียไม่ได้อะไรจาการส่งกองทัพจู่โจมเข้าไปในประเทศนั้น แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วรัฐบาลอัสซาดจะเป็นพันธมิตรที่สำคัญของรัสเซียในตะวันออกกลาง ไม่มีอะไรมากเป็นพิเศษที่จะเสนอว่าปูตินควรจะให้ความสนใจด้วยการส่งกองทัพหน่วยต่อสู้ภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียซึ่งกำลังอยู่บนเส้นทางของการล้มละลาย" (ไม่มีทางที่รัสเซียจะปล่อยให้ซีเรียเป็นอย่างลีเบีย สหรัฐฯกับพวกสามารถบุกได้แค่นี้แหละ ต่อไปซีเรียก็จะเอาคืนแบบกองทัพเยเมนและฮูติกำลังเอาคืนจากซาอุดิฯและพันธมิตรอยู่ในตอนนี้)
    คำถามก็มีอยู่ว่า อ้าว… แล้วภาพเครื่องบินรบกับโดรนที่มีการอ้างถึงนั่นหละ? จะเอาอะไรกับสื่อฯตะวันตกที่อ้างมาจากทวิตเตอร์และไม่ได้แหล่งข่าวที่แท้จริง หาใครพิสูจน์ไม่ได้หละครับ ไม่รู้ว่าถ่ายมาจากท้องฟ้าส่วนไหนของโลก หรือให้มิสเตอร์โฟโต้ช็อปช่วยแต่งให้ก็ได้นิ ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นภาพจริงเปล่า? แต่งานนี้ก็มีหลายคนหลงเชื่อไปแล้วตามสื่อฯจอมเสี้ยมของฝั่งตะวันตกและสหรัฐฯ
    จริงๆแล้วปูตินได้โทรคุยเรื่องการสร้างความร่วมมือในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายในซีเรียและตะวันออกกลางกับโอบาม่าด้วย และต่อมาสื่อฯรัสเซียก็รายงานข่าวว่าจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯก็ได้โทรไปหารมว.ต่างประเทศของรัสเซียเพื่อคุยเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการทั้งจากรัฐบาลของสหรัฐฯและรัสเซียว่ารัสเซียได้ส่งกองทัพและเครื่องบินรบของตนเองเข้าไปในซีเรีย มีแต่ข่าวลวงเท่านั้น อ้อ… ในระหว่างการสนทนาของรมว.ต่างประเทศทั้งสองท่านทางโทรศัพท์นั้น จอห์นแคร์รี่กล่าวว่า การที่กองทัพรัสเซียไปปรากฎในซีเรียตามที่มีการกล่าวหานั้น อาจจะเป็นสาเหตุให้มีการขยายความขัดแย้งภายในประเทศซีเรียออกไปอีก (ไม่รู้ว่าเป็นการให้คำแนะนำหรือข่มขู่กันแน่ ทางรัสเซียก็เลยนึกในใจว่า อ้อเหรอ? ลองดูซักยกไหมหละ? คริๆ อันนี้มโนเล่นๆนะครับ)
    The Eyes
    06/09/2558

    ภาพจาก © Photo: YouTube/NEWS ONLINE "MY PLANET"

    ----------
    Western Media Jumped the Gun Reporting on Russian Troops in Syria
    What Putin Said at Eastern Economic Forum Apart From Economics
    US and Russia Hold Talks on Possible Intl Anti-Terrorism Coalition - Putin
    Lavrov, Kerry Discuss Fight Against ISIL, Syrian Crisis
    Russia's Military Presence in Syria Could Further Escalate Conflict - Kerry
    https://www.youtube.com/watch?v=fkoy6Piyv9U
    France eyes strikes against ISIS in Syria – report — RT News
    Exposed: Germany and Sweden Help US With 'Kill Decisions' in Afghanistan
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เพียงวันเดียว! ทหารยูเออีเสียชีวิต 45 นาย บาห์เรน 5 นาย ในศึกโจมตีเยเมน
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 5, 2015

    [​IMG]

    ทหาร UAE ขณะโหลดจรวด ระหว่างการ ซ้อมรบ กับ กองทัพฝรั่งเศส ในทะเลทราย อาบูดาบี 22 พฤษภาคม ( แฟ้มภาพ/เอเอฟพี )
    MEE – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เผย ทหารของตนที่เข้าร่วมกับซาอุดีอาระเบียในการโจมตีเยเมน 45 นายเสียชีวิตในการระเบิดของคลังอาวุธซึ่งเป็นอุบัติเหตุวานนี้ (4) แต่ฝ่ายนักรบเฮาซีอ้างว่าเกิดจากการยิงจรวดของฝ่ายตน

    การเสียชีวิตของทหารพันธมิตรครั้งนี้นับเป็นวันที่สูญเสียมากที่สุดวันหนึ่ง ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการโจมตีในเดือนมีนาคม ด้านบาห์เรนก็กล่าวว่า ทหารประจำการชายแดนประเทศซาอุฯ-เยเมนของตน 5 นายก็เสียชีวิตในวันดังกล่าว

    รัฐบาลเยเมนกล่าวว่า อุบัติเหตุอันมาจากการระเบิดของคลังอาวุธที่ฐานทัพทหารในจังหวัดทางทิศตะวันออกของมาร์อิบ (Marib) เป็นเหตุในทหารยูเออีเสียชีวิต แต่นักรบเยเมนฝ่ายต้านกล่าวว่า พวกเขาได้ยิงจรวดเข้าไปจนก่อให้เกิดการระเบิดดังกล่าว

    รัฐบาลบาห์เรนกล่าวว่า ทหาร 5 นายถูกฆ่าตายในภาคใต้ของประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งพวกเขาถูกสั่งให้ประจำการอยู่เพื่อช่วยป้องกันพรมแดนติดกับเยเมน แต่ไมระบุว่าเป็นสถานที่ใด อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีเยเมนพลัดถิ่นระบุว่า ทหารบาห์เรนเสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดเดียวกันที่สังหารทหารยูเออี

    ชีคโมฮัมเหม็ด บิน ซายีด อัลนะห์ยาน มกุฎราชกุมารอาบูดาบีและและผู้บัญชาการกองทัพยูเออี เน้นย้ำในทวีตว่าประเทศของเขายังคง “ความมุ่งมั่น” จะยังคงสนับสนุนชาวเยเมนในการขจัด “ความอยุติธรรมและความก้าวร้าว”

    ยูเออีเป็นพันธมิตรตะวันตกมานานและเป็นพันธมิตรที่สำคัญของรัฐบาลซาอุในปฏิบัติการทางอากาศถล่มเยเมน ที่เริ่มต้นเมื่อเดือนมีนาคม


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    เพียงวันเดียว! ทหารยูเออีเสียชีวิต 45 นาย บาห์เรน 5 นาย ในศึกโจมตีเยเมน | abnewstoday
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สูญเสียหนัก! ทหารซาอุฯตายด้วย 10 นาย พร้อมทหารยูเออีและบาห์เรน ในศึกเยเมน โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 5, 2015

    [​IMG]

    โฆษกกองกำลังชาติพันธมิตรอาหรับในการโจมตีเยเมนภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบีย ออกมายอมรับแล้วว่า ทหารของซาอุดิอาระเบีย เสียชีวิต 10 นาย ในศึกโจมตีเยเมน

    สำนักข่าว farsnews ของอิหร่านและสื่อเยเมน รายงานตรงกันว่า นายพลอะห์มัด อะซีรี โฆษกชาติพันธมิตรอาหรับในการโจมตีเยเมน ออกมายอมรับแล้วว่า ทหารของซาอุดิอาระเบีย ก็เสียชีวิตด้วย 10 นาย ในเขตพื้นที่ “ศอฟีร”

    เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) หลังจากที่นักรบเฮาซียิงจรวดของฝ่ายตนใส่ฐานที่มั่นของทหารยูเออีและชาติพันธมิตรอาหรับในการโจมตีเยเมนทำให้ทหารยูเออีเสียชีวิต 45 นาย บาห์เรน 5 นาย

    ยูเออี ประกาศไว้อาลัย “สามวัน” ให้กับทหารที่เสียชีวิตในศึกโจมตีเยเมน

    บีบีซีรายงานว่า หลังจากที่ทหารของยูเออี เสียชีวิตจำนวน 45 นายในศึกโจมตีเยเมน ทางการยูเออีจึงประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลาสามวัน

    ศพของบรรดาทหารดังกล่าวจะถูกลำเลียงส่งยังอบูดาบี เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา

    รัฐมนตรีต่างประเทศยูเออี เผยว่า ทหารจำนวนดังกล่าว เสียชีวิตจากเหตุการณ์กลุ่มเฮาซี ยิงปืนครกใส่คลังแสง
    การส่งทหารดังกล่าวยังเยเมน เป็นหนึ่งในความช่วยเหลือของยูเออีให้กับกลุ่มพันธมิตรอาหรับในการโจมตีเยเมนภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบีย

    กองกำลังทหารพันธมิตร เป็นผู้ให้การสนับสนุน มันศูร ฮาดี รัฐบาลผลัดถิ่น จึงมีการกำลังโจมตีเยเมนอย่างต่อเนื่อง
    รายงานระบุว่า ยูเออี มีคามพยายามหนักที่จะให้มันศูร ฮาดี กลับผู้อำนาจปกครองอีกครั้ง จึงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยการส่งทหารนับพันคนในศึกโจมตีเยเมน

    นอกจากนั้นทหารบาห์เรน ก็ได้เสียชีวิต 5 นายด้วย

    ยูเอ็น เผยว่า นับจากเหตุการณ์โจมตีเยเมน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4500 กว่า ในจำนวนนั้นมีพลเรือนเสียชีวิต 2000 กว่าคน


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    สูญเสียหนัก! ทหารซาอุฯตายด้วย 10 นาย พร้อมทหารยูเออีและบาห์เรน ในศึกเยเมน | abnewstoday
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบดวงอาทิตย์ดวงที่สองที่กำลังเข้าใกล้โลกอย่างรวดเร็ว - โพสต์โดย: NOW8NEWS 25 สิงหาคม 2015
    Scientists Discover Second Sun Approaching Earth At A Rapid Pace – [Raw Video] 2 SUNS POSTED BY: NOW8NEWS AUGUST 25, 2015

    [​IMG]

    ข่าวช่อง 8 - 'ดวงอาทิตย์ดวงที่สอง ยังคงเป็นเรื่องที่งงงัน เนื่องจาก เว็บแคม ของหอสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ (กล้องวิดีโอที่ป้อนข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งภาพผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสามารถเข้ามาดูได้) พร้อมกับ ภาพถ่ายดาวเทียมขององค์การนาซ่าได้บันทึกเหตุการ์ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยปรากฏเห็นมาก่อน บุคลต่างๆได้จัภาพดวงอาทิตย์คู่นี้ที่สวยงามบนท้องฟ้าด้วยกล้องของตัวเองส่งไปยังสื่อทั่วประเทศ
    News 8 – A ‘second sun’ continues to baffle scientists as Astronomy Observatory WebCams, along with NASA’s own satellite photos, are recording this epic, never before seen occurrence. Several people have also captured this beautiful double sun in the sky with their own cameras, submitting them to media outlets across the country.

    [​IMG]

    https://youtu.be/XcMIWKvB9QU

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบดวงอาทิตย์ดวงที่สองที่กำลังเข้าใกล้โลกอย่างรวดเร็ว
    Scientists Discover Second Sun Approaching Earth At A Rapid Pace – [Raw Video]

    จนถึงขณะนี้นาซ่าได้ปฏิเสธที่จะแถลงการณ์แก่สาธารณชน เกี่ยวกับการมีอยู่ของ 'ดวงอาทิตย์ดวงที่สอง' ตอนนี้พวกเขาจะบอกว่ามันไม่มีอยู่ แต่แจ้งเพียงว่ามันไม่ใช่ภัยคุกคาม ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมนาซ่าต้องเตือนพนักงานของเขาให้เตรียมพร้อมกับความเป็นไปได้ที่มันจะชนโลก? เจ้าหน้าที่ัหอสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือได้หลุดรายงานที่ดูน่าหวาดกลัวออกมา
    Until now, NASA has denied in public statements that this ‘second sun’ exists. Now, they are saying it does exist, but poses no threat. If so, why is NASA warning their own staff to make preparations for a possible collision? The Pacific Northwest Regional Observatory employee leaked this bone chilling statement:

    'ดวงอาทิตย์ดวงที่สอง ที่พวกเขาเรียก' GTY421 ' กำลังเข้าใกล้โลกที่ความเร็วที่รวดเร็ว ประมาณ 345,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งความเร็วนี้ได้เพิ่มความเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับความเร็วในสัปดาห์สุดท้ายที่คำนวณไว้ ประมาณ 185,000 ไมล์ต่อชั่วโมง
    “This ‘second sun’ which they are calling ‘GTY421’, is approaching Earth at a rapid speed of 345,000 miles per hour. This is an increase compared to last week’s speed calculated at 185,000 miles per hour.

    นาซาสั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ บันทึกไว้จำแต่เพียงในบ้านเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับกรณีที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาต้องการที่จะปกปิดข้อมูลเหล่านี้จากสาธารณชน เพราะพวกเขากลัวความวุ่นวายโกลาหล หากข้อมูลนี้รั่วไหลออกมา ฉันได้นำข้อมูลนี้มาเผยแพร่ เพราะเห็นว่าผู้คนในโลกควรมีสิทธิที่จะได้รู้ว การประมาณการเวลาที่จะมาถึงของผลกระทบ - 28 กันยายน 2015 08:00-10:00 PST
    NASA has warned its employees in a confidential, in-house memo to prepare for the worst. They want to keep this information out of the hands of the public because they fear mass chaos if this information was leaked. I am coming forward with this information, because I think the world has the right to know. ETA of impact – September 28 between 8 AM and 10 AM PST.”

    ประชาชนหลายคนได้จับภาพดวงอาทิตย์คู่นี้ โดยการบันทึกลงไปไว้ในโทรศัพท์มือถือของพวกเขาตามที่ปรากฏในวิดีโอด้านล่าง
    Several people have captured this double sun with their cell phone recorders as shown in the video below.

    NASA has not released any public statement concerning the accusations of the observatory employee. We will keep you updated with any new developments.


    - See more at: Scientists Discover Second Sun Approaching Earth At A Rapid Pace - [Raw Video]


    Scientists Discover Second Sun Approaching Earth At A Rapid Pace - [Raw Video]
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ปูตินเสนอให้อัสซาดจับมือกับฝ่ายค้านที่เข้มแข็งจัดเลือกตั้งเร่งด่วน ร่วมมือกันปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย

    [​IMG]

    ----------
    เมื่อวันที่ 5 ก.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "ปูตินกล่าวว่าอัสซาดจะแชร์อำนาจกับฝ่ายค้านที่มีความเข้มแข็ง" (Putin Says Assad Willing to Share Power With 'Healthy Opposition')
    Sputnik เกริ่นนำว่า ในขณะที่สหรัฐฯเดินหน้าปฏิบัติการ (ทางกองทัพ) ในซีเรียหวังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดให้ได้ ปธน.ของซีเรียก็หันไปรับฟังคำแนะนำของรัสเซียและใช้การทูตเพื่อยุติวิกฤตในประเทศของเขา ปธน.ปูติให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่เมือง Vladivostok โดยกล่าวว่า "อัสซาดกำลังจะจัดเลือกให้มีการเลือกตั้งรัฐสภาเร่งด่วน (snap parliamentary elections) ขึ้นมา และแบ่งปันอำนาจกับฝ่ายค้านที่มีความเข้มแข็ง"
    สื่อฯรัสเซียแสดงความคิดเห็นว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาโดยใช้วิธีทางการเมืองต่อวิกฤตในซีเรียซึ่งรัสเซียได้ยืนยันมาตลอด ดูเหมือนว่าจะพัดปกคลุมการวิธีการใช้กองทัพที่นำโดยสหรัฐนและชาติพันธมิตรซะแล้ว
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินได้กล่าวว่า "ประธานาธิบดีอัสซาดมีความเข้าใจความจำเป็นในการแสวงหาวิถีทางทางการเมืองเพื่อแก้ไขวิกฤติทางทหารที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในซีเรียในขณะนี้"
    ผู้นำรัสเซียเน้นย้ำว่า "การต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายควรจะดำเนินการควบคู่ไปกับกระบวนการทางการเมือง เพื่อสันติภาพกับเข้าสู่ซีเรีย ประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียพร้อมแล้วสำหรับในการที่จะก้าวไปอย่างมั่นคงในทิศทางนี้ ประธานาธิบดีของซีเรียเห็นด้วย (กับข้อตกลง) ที่ว่าหนทางทั้งหมดก็จะไปบรรจบกันที่การเลือกตั้งสภาแต่เนิ่นๆ มีการทำข้อตกลงกันกับกลุ่มที่เรียกว่า 'healthy opposition' และนำพวกเขาเข้าร่วมรัฐบาลด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ขั้นตอนนี้เป็นการพัฒนาภายในของซีเรีย พวกเราไม่ได้แทรกแซงอะไรทั้งนั้น แต่ก็พร้อมที่อำนวยความสะดวกในการเจรจาภายในของซีเรียด้วย"
    รายงานข่าวบอกว่า กรุงมอสโคว์ยืนยันเสมอด้วยการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการทูตอย่างสันติต่อวิกฤตทางทหารที่กำลังเกิดขึ้นในซีเรีย ในขณะเดียวกัน กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯได้ยังเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มติดอาวุธไอซิสในเขตแดนของซีเรียโดยไม่มีสัญญาณว่าจะสำเร็จ (ได้เมื่อไร)
    ซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในปี 2011 รัฐบาลของซีเรียได้ต่อสู้กับกลุ่มกบฏติดอาวุธหลายกลุ่มซึ่งรวมทั้งองค์กรติดอาวุธต่างๆด้วย และรวมถึงกลุ่มติดอาวุธจากพวกไอซิสและกลุ่ม Nusra Front ด้วย (กลุ่มหลังนี่และที่เอาภาพเครื่องบินรบและโดรนที่บอกว่าเป็นของรัสเซียมาเผยแพร่ในโลกโซเชียล ผ่านบัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ชื่อ Green lemon แล้วสื่อฯอิสราเอล อังกฤษ และของสหรัฐฯก็เอาไปประโคมข่าวต่อ ว่ารัสเซียส่งกองทัพและเครื่องบินรบเข้าไปในซีเรียแล้ว แต่ในขณะที่สหรัฐฯกับตะวันตกรวมทั้งตุรกีส่งเข้าไปบอมซีเรียรายวัน นี้ไม่เห็นสื่อฯพวกจะออกมาโวยวายอย่างนี้เลย แต่ฝั่งรัสเซียก็ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว แต่สื่อฯตะวันตกก็ยังไม่หยุดเต้าข่าวนี้ กลุ่ม al-Nusra Front นี้เป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า สาขาซีเรีย บางครั้งจักรวรรดิเฮเกก็เรียกว่ากลุ่มกบฏสายกลาง เพราะเห็นว่าต่อต้านรัฐบาลอัสซาดดังนั้นจักรวรรดิเฮเกก็เลยให้ทั้งเงินทุน อาวุธ และฝึกทหารให้ด้วย อย่างออกหน้าออกตา) ข้อมูลจากยูเอ็นบอกว่าคาดว่ามีผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งในสงครามกลางเมืองในซีเรียไปแล้วถึง 230,000 คน จักรวรรดิเฮเกอาจจะบอกว่า อุ๊ยตัวเลขยังต่ำไป ต้องมากนี้อีก ดังนั้นจึงต้องขยันเปิดการโจมตีทางอากาสต่อไปอีก
    ไม่รู้ว่าฝรั่งเศสโดนมือที่มองไม่เห็นไปบีบไข่อีกท่าไหน ถึงออกมาบอกว่าจะส่งเครื่องบินรบเข้าไปโจมตีในซีเรียด้วย เมื่อวันที่ 5 ก.ย.58 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดี Francois Hollande ได้หารือกับสภาความมั่นคงเกี่ยวกับเรื่องการขยายปฏิบัติการ (ทางกองทัพ) ของฝรั่งเศสในฐานะเป็นส่วนหนึ่งกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธ (ไอซิสในซีเรีย) ตามรายงานข่าวท้องถิ่นของฝรั่งเศส (หนังสือพิมพ์ Le Monde)
    รายงานข่าวบอกว่า ปัจจุบันนี้ฝรั่งเศสได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเฉพาะในอิรัคเท่านั้น และสนับสนุนอาวุธให้กับฝ่ายค้านสายกลาง (moderate opposition) ในซีเรีย (แล้วพวกไอซิสเอาวุธมาจากไหนเยอะแยะ? ก็จากจักรวรรดิเฮเกกับพวกตะวันตกนี่แหละ)
    หนังสือพิมพ์ของฝรั่งเศสกล่าวว่า การที่ฝรั่งเศสดำเนินการปฏิบัติการโจมตีทางอากศแบบนี้ อาจจะทำให้มีคลื่นมนุษย์ผู้อพยพลี้ภัยชาวซีเรียไหลทะลักเข้าไปในยุโรปเพิ่มมากขึ้น ความล้มเหลวของกองกำลังพันธมิตรเพื่อที่จะลดความก้าวหน้า และมีความเป็นไปได้เกี่ยวกับการปรากฎตัวของกองทัพรัสเซีในซีเรียก็ได้ (เอาเข้าไป ก่อนหน้านี้ก็บอกว่าเจอทหารรัสเซียในยูเครนตะวันออก แต่หาหลักฐานไม่ได้ซักครั้ง คราวนี้ก็งัดมุกนี้มาเล่นอีกแล้ว แต่งานนี้ปูตินพูดชัดถ้อยชัดคำเลยว่าให้การสนับสนุนด้านอาวุธและฝึกกองทัพซีเรียจริง) สหรัฐฯฝึกและสนับสนุนพวกกบฎเพื่อไปล้มล้างรัฐบาลอัสซาด รัสเซียฝึกและสนับสนุนกองทัพของรัฐบาลซีเรียต่อสู้กับพวกกบฎและกลุ่มก่อการร้าย แน่่แหละสงครามตัวแทนของจริงระหว่างสหรัฐฯอียูกับรัสเซีย ส่วนเรื่องผู้ก่อการร้ายนั้น ก็แค่ข้ออ้างเพื่อหาความชอบธรรมในการทำสงครามถล่มซีเรียจากฝ่ายพันธมิตรเท่านั้น สภาคองเกรสเคยซักมาแล้วว่ามีอะไรเป็นเครื่องรับประกันได้ไหมว่าทั้งเงินทุนและอาวุธที่ส่งไปให้พวกที่รัฐบาลสหรัฐฯเรียกว่ากบฎสายกลางนั้นจะไม่ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส รัฐบาลจักรวรรดิเฮเกบอกว่า "แบะๆ ไม่รับประกันจ้า ที่อีรัคพี่ก็เห็นมาแล้วไม่ใช่หรือจ๊ะ" ทั้งรถฮัมวี่ ทั้งรถถัง ทั้งอาวุธหนักของสหรัฐฯตกอยู่ในมือของไอซิสทั้งนั้น
    และวันที่ 6 ก.ย.58 Sputnik news ก็รายงานอีกว่า รัฐสภาของอังกฤษกำลังจะออกเสียงว่าจะส่งเครื่องบินรบไปโจมตีทางอากาศในซีเรียหรือไม่ ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
    สำนักข่าว The Sunday Times รายงานว่า นาย David Cameron นายกรัฐมนตรีของอังกฤษบอกว่า "หวังว่าจะเกลี้ยกล่อมให้พรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษหนุนการโจมตีทางอากาศในซีเรีย จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยที่เข้าไปในยุโรปจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย" นายกฯอังกฤษเน้นย้ำและยืนยืนว่าเขาจะอนุมัติให้มีการโจมตีทางอากาศใส่ตำแหน่งของพวกไอซิสในซีเรียตามคำอนุมัติของรัฐสภา
    กรรม! ตอนแรกที่ไปก่อสงครามในบ้านเขาก็อ้างว่าเพื่อปราบปรามผู้ก่อการร้าย ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยสงครามอพยพเข้าไปในยุโรปหลายแสนคน ในขณะเดียวกันสหรัฐฯก็บอกว่าต้องการที่จะล้มล้างรัฐบาลอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ว่าจะเป็นประชาธิปไตยแต่เมื่อไม่รับคำสั่งหัวหน้าแก๊งประชาธิปไตยอย่างจักรวรรดิเฮเก งั้นจะเอาไว้ทำไม คราวนี้พอเกิดวิกฤตปัญหาผู้อพยพไหลเข้าไปในยุโรปเป็นจำนวนมา อังกฤษบอกว่าต้องไปก่อสงครามในซีเรียกอีกรอบ เพื่อไม่ให้มีผู้อพยพทะลักเข้าไปในยุโรป เอากะตรรกะของพวกตะวันตกสิ
    รัสเซียมีโอกาสที่จะเอาเครื่องบินรบและกองทัพของตัวเองออกไปรบต่างแดนในซีเรียไหม? ถ้าดูจากเหตุการณ์ในยูเครนตะวันออกนั้น ไม่มีหลักฐานว่ารัสเซียส่งกองกำลังของตนเองเข้าไปในยูเครนตะวันออกเพื่อช่วยเหลือ DPR/LPR แต่เรื่องอาวุธและเสบียงนั้น เต็มๆ ฮ่าๆๆ เฮียปูจัดให้ ส่วนกรณีสงครามที่ Abkhazia และ South Ossetia ในจอร์เจียนั้น อันนั้นปูตินจัดเต็มให้เลย สหรัฐฯและนาโต้หนุนจอร์เจีย รัสเซียหนุนกลุ่มโปร-รัสเซีย จัดหนักให้เพราะเป็นรัฐกันชนมีชายแดนอยู่ติดกับรัสเซีย งานนี้ต้องวัดใจปูตินว่าจะใช้โมเดลยูเครนตะวันออกหรือว่าจะใช้โมเดล Abkhazia และ South Ossetia ถ้าถูกบีบหนักอาจจะกลายเป็น Abkhazia โมเดลก็ได้ สหรัฐฯกับนาโต้กล้าเสี่ยงหรือ? และผู้อพยพจากซีเรียอีกเป็นล้านก็จะไหลเข้าไปในยุโรปด้วย อียูก็รับผิดชอบดูแลไป ส่วนจักรวรรดิเฮเกก็บอกว่าไม่รับ ไม่เอาตามระเบียบ
    อ้อ… แถมให้อีกข่าวหนึ่งครับ รายงานล่าสุดจาก Sputnik บอกว่ากรุงเอเธนปฏิเสธคำขอร้องจากสหรัฐฯเพื่อให้ปิดน่านฟ้าไม่ให้รัสเซียส่งความช่วยเหลือไปยังซีเรีย (เอากะจักรวรรดิเฮเกสิ)
    รายงานข่าวบอกว่า กรุงมอสโคว์ได้ร้องขอและได้รับอนุญาตจากกรุงเอเธน (ประเทศกรีซ) ให้มีปฏิบัติการส่งเครื่องบินขนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ซีเรีย (แบบเดียวกับที่ส่งไปให้ DPR/LPR ในยูเครนตะวันออกและในเยเมนนั่นแหละ อาจจะมีของแถมเล็กๆน้อยๆอย่างหัวปลีรุ่นใหม่และเครื่องปรุงอื่นๆให้กองทัพซีเรียเอาไปยำพวกกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงด้วยก็ได้ คริๆ) ระหว่างวันที่ 1-24 ก.ย.58 นี้ อ้างแหล่งข่าวทางการทูต
    รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กรุงเอเธนได้ "ปฏิเสธคำร้องขอจากสหรัฐฯ" โปรดฟังอีกครั้ง "ปฏิเสธ! คำร้องขอจากสหรัฐฯ" เพื่อให้ปิดน่านฟ้าของกรุงเอเธน (FIR Athen) เพื่อไม่ให้อากาศยานของรัสเซียส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ซีเรีย (เฮอะ! มีเรื่องพิลึกพิลั่นแบบนี้ด้วยหรือสหรัฐฯ เขาจะส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปช่วยเพื่อมนุษยร่วมโลกด้วยกันที่กำลังได้รับความเดือดร้อน คุณไปขัดขวางเขาทำไม? คุณมีมนุษยธรรมหรือเปล่านี่? ฮี่ๆๆ)
    รัฐบาลชั่วคราวของกรุงเอเธนบอกว่า ไม่สน! อเมริกาไม่ใช่บิดาของกรีซนะเฟ้ยยยย มีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งเหนืออธิปไตยกรีซอย่างนี้ กรีซคบกับอเมริกาได้ทำไมจะคบกับรัสเซียด้วยไม่ได้ กรีซเริ่มน่ารักขึ้นมาอีกแล้วครับท่าน ซีเรียปล่อยผู้อพยพเข้าไปในกรีซ กรีซก็ปล่อยต่อไปยังยุโรปกลางอีกต่อหนึ่ง กรีซเป็นแค่ทางผ่านพวกผู้อพยพเขาไม่อยากอยู่หรอกในประเทศที่เป็นหนี้มหาศาล เขาอยากไปอยู่ในเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษโน่น ยิ่งก่อสงครามในบ้านเขามาก เขาก็ยิ่งพากันหนีเข้าไปในยุโรปมากขึ้น โชคดีนะคาเมร่อน
    The Eyes
    07/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ SANA/Handout via Reuters

    ----------
    Putin Says Assad Willing to Share Power With 'Healthy Opposition'
    France Considering Expanding Anti-ISIL Airstrikes to Syria
    UK Parliament to Vote on Launching Airstrikes on ISIL in Syria Next Month
    Athens Denies US Request to Close Airspace for Russian Aid to Syria
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    สองม็อบรวมพลังต่อต้านรัฐบาลโมโดวาจุดมุ่งหมายเพื่อรวมมอลโดวาเข้ากับโรมาเนีย

    [​IMG]

    ----------
    เมื่อวันที่ 6 ก.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "เริ่มมีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลจำนวน 2 กลุ่มขึ้นในเมืองหลวงของประเทศมอลโดวา" (Two Anti-Government Protests Kick Off in Moldovan Capital) รายงานข่าวบอกว่ามีผู้ประท้วงหลายพันคนเดินขบวนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อต่อต้านรัฐบาลมอลโดวาโดยแยกเป็นสองกลุ่มในกรุง Chisinau เมืองหลวงของมอลโดวา รายงานข่าวโดยสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซีย
    กลุ่มเวทีพลเรือนเพื่อศักดิ์ศรีและความจริง (Civic platform Dignity and Truth - DA) กล่าวอ้างว่าการเดินขบวนของพวกเขาที่จตุรัสกลางเมืองหลวงมีผู้เข้าร่วมราว 10,000 คน
    ในขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงสามสี (tricolors) ชาวโรมาเนียซึ่งมีจำนวนมากกว่ากลุ่มที่ชูธงชาติมอลโดวา กล่าวว่าต้องการให้มอลโดวากลับไปรวมเข้ากับประเทศโรมาเนียหลังจากที่แยกเป็นเอกราชมาได้ถึง 25 ปี รายงานข่าวบอกว่าผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่แยกออกมาต่างหากอยู่ข้างนอกสถาบันการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ในเมือง Chisinau ได้เตรียมการก่อเหตุโจมตีราว 100 คนซึ่งดำเนินการโดย พรรค Our Home is Moldova (OHM) ฝ่ายคอมมิวนิสต์ กลุ่มผู้ประท้วงกล่าวหาว่ารัฐบาลคอรัปชั่นและเรียกร้องให้มีการก้าวลงจากตำแหน่ง
    ส่วนสำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว: ผู้ประท้วงจำนวนมากในมอลโดวาเรียกร้องให้มีรัฐบาลใหม่ ประธานาธิบดีคนใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่" (‘Today everything changes’: Huge protest in Moldova demands new government, president, constitution) (ว้าวววว อย่างแรกกับอย่างหลังนี่เริ่มจะเหมือนกับพี่ไทยเราแล้ว อะไร… มอลโดวาจะมีรัฐธรรมนูญใหม่อย่างไทยบ้างหละสิ)
    ปัจจุบันนี้รัฐบาลมอลโดวาเป็นรัฐบาลผสมของกลุ่มสายกลาง (a centrist coalition government) แต่ยังมีปัญหาในการรวมเข้ากับฝั่งโปร-ยุโรป อียูรับรองการแต่งตั้งนายกฯ Valeriu Strelet เมื่อเดือนกรกฎมาคมที่ผ่านมา แต่ได้ระงับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินทั้งหมด (กรรม!) จนกว่าประเทศมอลโดวาจะชะล้างผลของการฉ้อฉลในธนาคารให้ได้ซะก่อน โดยกล่าวว่าระบบการเงินของประเทศยังคงอึมครึม (opaque) และให้เห็นว่า การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและการต่อสู้กับการคอรัปชั่นเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
    ไม่งั้นอียูก็จะไม่ปล่อยเงินช่วยเหลือต่างๆให้มอลโดวา มาลูกไม้นี้อีกแล้วครับท่าน กรีซพึ่งจะโดนเล่นงานด้วยกลยุทธ์นี้ไปหยกๆ ใครที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งลูกพี่ใหญ่จากอียู แม้จะชนะการเลือกตั้งมาก็จะไม่รับการสนับสนุนด้านอื่นๆจากอียูแน่ ยังมีลูกเล่นอีกเยอะที่มหาอำนาจพวกนี้จะใช้เล่นงานกับประเทศเล็กๆ ที่คิดจะแข็งข้อและไม่รับคำสั่งแต่โดยดี
    ก็เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมากองทัพของมอลโดว่าพึ่งจะไปร่วมซ้อมรบกับนาโต้ที่ยูเครนมาเองภายใต้ปฏิบัติการ Sea Breeze 2015 วันนี้อียูกับงัดลูกไม้นี้มาดัดหลังรัฐบาลมอลโดวาซะแล้ว โทษฐานที่ยึกยักไม่กล้าลงมือเปิดศึกกับทรานส์นิสเทรียซะทีทั้งๆที่จักรวรรดิเฮเกอุตส่าห์ยุให้ยูเครนปิดเส้นทางการขนส่งเสบียงและอาวุธไปให้ทรานส์นิสเทรียตั้งนานแล้วนะ ยูเครนเข้าตีจากทางขวา ส่วนมอลโดวาก็เข้าตีจากทางซ้าย นี่ลูกพี่ใหญ่อุตส่าห์วางแผนให้แล้วรัฐบาลมอลโดวาก็ไม่ลงมือซักที ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็คงจะยึดทรานส์นิสเทรียซึ่งเป็นโปร-รัสเซียไปได้ตั้งนานแล้วหละครับ ขนาดสองรุมหนึ่งโดยมีสหรัฐฯและนาโต้พร้อมทั้งอียูเป็นแบ็คให้ก็ยังไม่กล้างัดกับทรานส์นิสเทรียลูกรักของเฮียปูตินเลย
    ก็เลยมามุกใหม่ งั้นปลุกม็อบล้มรัฐบาลหัวดื้อของมอลโดวาซะเลย งัดมุกเก่านี่แหละมาใช้ ที่มาเลเซียก็เกือบได้ผลมาแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ที่มาซิโดเนีย ที่นั่นหลายรอบมากโค่นรัฐบาลไม่ได้ซักทีใช้ข้อหาเดียกวันนี่แหละต่อต้านการคอรัปชั่น พวกที่หนุนหลังก็เป็นพวกอียู ซึ่งจุดมุ่งหมายที่แท้จริงก็คือเพื่อขัดขวางโครงการท่อแก๊สสาย Turkish Stream ของรัสเซียที่จะผ่านเข้าไปยังกลุ่มประเทศบัลข่านในยุโรป เพราะรัฐบาลของมาซิโดเนียเห็นดีเห็นงามกับโครงการนี้ แต่บางคนในอียูและสหรัฐฯไม่ชอบ และเมื่อเร็วๆนี้ก็มีการประท้วงขับไล่รัฐบาลที่เลบานอน อ้างเรื่องปัญหาขยะล้นเมืองบอกว่ามาจาการคอรัปชั่นของรัฐบาล ก็มีการขับไล่รัฐบาลเช่นกัน รูปแบบการเคลื่อนไหวคล้ายๆกันทั้งนั้นเลย
    The Eyes
    07/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Gennadyi Valukovski

    ----------
    Two Anti-Government Protests Kick Off in Moldovan Capital
    Moldovan Servicemen to Take Part in NATO Naval Drills in South Ukraine
    https://www.rt.com/news/314586-moldova-protest-government-resignation/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    อิสราเอลปฏิเสธรับผู้ลี้ภัยจากซีเรีย (เมื่อสหรัฐฯปฏิเสธได้ ทำไมอิสราเอลจะเล่นมุกนี้บ้างไม่ได้ มีมนุษยธรรมกันจริงๆ ฮิ้ววว)

    [​IMG]

    ----------
    เมื่อวานนี้สำนักข่าวตะวันตกหลายแห่งลงข่าวนี้กันยกใหญ่ The Telegraph จอมเสี้ยมของอังกฤษพาดหัวข่าวว่า "นายกรัฐมนตรีเบญจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลปฏิเสธการเรียกร้องให้รับผู้ลี้ภัย" (Israel prime minister Benjamin Netanyahu rejects calls to admit Syrian refugees) โปรดฟังอีกครั้ง "ไม่รับผู้ลี้ภัย ไม่ใช่ผู้อพยพผิดกฎหมาย" เป็นไงเล่าเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากอิสราเอล เยอรมันบอกว่ามาทางนี้เลยผู้อพยพทั้งหลาย เยอรมันนียินดีต้อนรับเสมอ แต่สหรัฐฯกับอิสราเอลบอกว่าไม่เอา อังกฤษทนแรงกดดันจากเพื่อนบ้านในอียูด้วยกันไม่ได้ อ้อมแอ้มออกมาบอกว่างั้นอังกฤษขอรับไว้ซัก 4 พันก็แล้วกัน โฆษกทำเนียบขาวเสียงแข็งเลยว่า "ไม่รับ" พอถูกกระแสโจมตีหนักเข้าก็ส่งโฆษก ก.ต่างประเทศออกมาบอกว่างั้นสหรัฐฯจะรับไว้ราว 1,500 คนละกัน แต่ไม่ได้บอกว่าจะรับเมื่อไรนะ
    รายงานข่าวบอกว่าบีบี้ได้ปฏิเสธการเรียกร้องจากส.ส.ฝ่ายค้านให้อิสราเอลรับผู้ลี้ภัยที่หนีตายจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย โดย (บีบี้) ให้เหตุผลว่าอาจจะเป็นการเปิดประตูให้กับพวกผู้ก่อการร้ายก็ได้ (กรรม! แล้วพากันไปก่อนสงครามในประเทศเขาทำไมหละ?) (UNHCR เงียบกริ๊บเลยงานนี้)
    รายงานข่าวจากอัลจาซีร่าบอกว่า "นายกฯเบญจามิน เนทันยาฮูได้ประกาศให้เริ่มการก่อสร้างรั้วตามแนวชายแดนติดกับจอร์แดน หลังจากที่มีการเรียกร้องให้กรุง Tel Aviv รับผู้ลี้ภัย"
    เนทันยาฮูกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า "จะไม่อนุญาตให้อิสราเอลจมอยู่ใต้คลื่นผู้อพยพผิดกฎหมายและเหล่านักกิจกรรมก่อการร้าย"
    เนทันยาฮูพูดในระหว่างการประชุมครม.ว่า "อิสราเอลไม่ใช่ไม่แยแสต่อโศกนาฎกรรมของมนุษย์ของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและอัฟกานิสถาน... (หากนั่นเป็นชาวยิวผิวขาวด้วยกันหรือเปล่า?) แต่อิสราเอลเป็นประเทศเล็กๆ มีขนาดเล็กมาก ปราศจากความลึกด้านประชากรหรือภูมิศาสตร์ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องควบคุมชายแดนของเรา" (เพราะว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เอาไว้เก็บอาวุธของสหรัฐฯหรือเปล่า จึงไม่มีที่รองรับผู้ลี้ภัยต่างชาติ จึงต้องก่อสงครามไล่ที่ในปาเลสไตน์แทน?)
    The Eyes
    07/09/2558

    ภาพจาก Menahem Kahana/Agence France-Presse — Getty Images

    ----------
    Israel prime minister Benjamin Netanyahu rejects calls to admit Syrian refugees - Telegraph
    Israel to build fence to keep refugees out - Al Jazeera English
    Lapid: Israel must beware of accepting refugees | The Times of Israel
    http://www.nytimes.com/2015/09/07/w...cts-calls-to-accept-syrian-refugees.html?_r=0
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    ขู่บึ้มสนามบินแอลเอ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ตำรวจบอกว่าไม่พบวัตถุระเบิด ฮึ่มมมมม!

    [​IMG]

    ------------
    วันนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสนามบินส่งทวิตเตอร์บอกว่า "มีการข่มขู่ว่าจะมีการก่อเหตุระเบิดที่สนามบิน Los Angeles Airport ในรัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่กลับกลายเป็นว่าไม่พบ (วัตถุระเบิด)" รายงานข่าววันอาทิตย์นี้ ตำรวจออกแถลงการณ์ว่า "มีการให้ผู้โดยสารกลับเข้าไปในพื้นที่ทั้งหมด (ตามปรกติ) ไม่มีภัยคุกคาม คาดว่าจะเกิดความล่าช้า (ของสายการบิน) ภัยคุกคามไม่มีมูลความจริง"
    รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อพยพผู้คนออกจากเทอร์มินอลหลายแห่งในสนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส หลังจากมีการข่มขู่ทางโทรศัพท์ด้วยการวางระเบิดต่อ FBI หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดได้รุดเข้าไปยังสนามบินตามรายงาน และมีการกำหนดพื้นที่ให้เป็นพื้นที่อันตรายและอพยพผู้คนออกหลังได้รับการโทรข่มขู่
    อเมริกากำลังจะเล่นอะไรกันอยู่หรือ? อ้อ… แคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งในรัฐที่อยู่ในแผนปฏิบัตการซ้อมรบทางกองทัพภายใต้ปฏิบัตการ Jade Helm 15 ด้วยนะ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ก.ค.-15 ก.ย.58 ไม่ได้บอกว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับ JH15 นะครับ แต่มองว่ามันแปลกๆอ่ะ
    The Eyes
    06/09/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Rennett Stowe

    ----------
    Bomb Threat at Los Angeles Airport ‘Unfounded’ – Police
    http://american3rdposition.com/wp-content/uploads/Jade-Helm-Martial-Law-WW3-Prep-Document-1.pdf
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ใครสมควรถูกด่ากรณีวิกฤตผู้อพยพในยุโรป (Who is to blame for migration crisis in Europe?)

    [​IMG]

    -------------
    เมื่อวานนี้ไปอ่านเจอบทความเรื่องหนึ่งจากสำนักข่าว TASS ของรัสเซียซึ่งพาดหัวว่า "Who is to blame for migration crisis in Europe?" (4 ก.ย.58 เขียนโดย Lyudmila ALEXANDROVA) เห็นว่าน่าสนใจ จะเป็นอย่างที่คิดเอาไว้หรือเปล่าหรือเหมือนกับที่อ่านมาจากที่อื่นๆหรือเปล่านะ คริๆ ก็ลองอ่านดู ว้าววว! ใช่เลยอ่ะ งั้นตัดสินใจแปลให้แฟนเพจได้อ่านบ้างดีกว่านะครับ
    กรุงมอสโคว์ วันที่ 4 กันยายน 2558 สำนักข่าว TASS รายงานว่า วิกฤตผู้อพยพที่ถาถมเข้าไปในยุโรป การร่วมมือกันรณรงค์หาความผิดพลาดกำลังดำเนินไป กลุ่มประเทศตะวันตกกำลังความรับผิดชอบเหล่านั้นในตะวันออกกลาง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้พวกเขาได้เปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตีหลายประเทศเพื่อทำให้ภูมิภาคทั้งหมดขาดสมดุล (ทางอำนาจ) ในขณะเดียวกันพวกเขากลับไม่กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหัวหน้าที่จะต้องรับผิดชอบต่อปฏิบัติการทางทหารเหล่านั้น กลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ถูกตำหนิเนื่องจากการหลั่งไหลของผู้อพยพไปยังประตูบ้านของเพื่อนบ้านชาวตะวันตก และความเชื่อมั่นในภาคประชาชนที่ต่อต้านอเมริกาก็มีเพิ่มมากขึ้น
    นาย David Cameron นายกรัฐมนตรีของอังกฤษกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้ว่า "ผมจะบอกว่าบุคคลที่จะต้องรับผิดชอบต่อฉากที่น่ากลัวเหล่านี้ซึ่งพวกเรากำลังดูอยู่นี้ บุคคลที่จะต้องรับผิดชอบมาที่สุดก็คือ ประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรีย และกลุ่มไอซิส และพวกแก๊งอาชญากรที่หากินอยู่กับการค้าขายที่น่าสยดสยองจากผู้คนเหล่านี้ และในขณะเดียวกันพวกเราจะต้องตอบโต้พวกนั้นให้หนัก"
    กรรม! นั่นแหละนิสัยผู้นำของเมืองผู้ดีในสมัยนี้ เขาไม่เคยโทษตัวเองกับพวกของตัวเองเลยแม้แต่น้อย พวกนี้จะฉลาดแกมโกงโยนความผิดไปให้คนอื่นเสมอ พวกนี้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามแรกว่าใครเป็นคนไปก่อปัญหาก่อสงครามในบ้านเขา? พอเกิดปัญหาจากความผิดพลาดในนโยบายต่างประเทศของตนเองที่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น พวกนี้ก็โยนความผิดไปให้รัฐบาลท้องถิ่นซะงั้น การขยันสร้างปัญหาใหม่โดยอ้างว่าเพื่อแกไขปัญหาเก่าดูเหมือนว่าจะเป็นงานถนัดของจักรวรรดิเฮเกและตะวันตก โดยไม่มองไปที่ตัวเองก็มีส่วนร่วมในต้นเหตุของปัญหาเหล่านั้น เมื่อไม่สามารถควบคุม บังคับ หรือโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดได้ เขาก็บอกว่าวิกฤตปัญหาผู้อพยพในยุโรปเกิดมาจากอัสซาดซะงั้น เพื่อที่จะถล่มซีเรียต่อไป เขาก็บอกว่าเราจะต้องเล่นให้หนักกว่านี้อีก (And we have to be as tough on them at the same time) แล้วถ้าผู้อพยพจากซีเรียหลั่งไหลเข้าไปในยุโรปมากกว่านั้นหละ? เขาจะโทษใครอีก
    อย่างเช่นกรณีของลีเบีย? ตอนนี้ลิเบียไม่มีผู้นำที่แข็งแกร่งอีกแล้ว แม้จะเป็นสมาชิกของ OPEC แต่ก็มีสภาพกลายเป็นประเทศที่ล้มละลายในทางพฤตินัยแล้ว หนึ่งในจุดมุ่งหมายหลักของจักรวรรดิเฮเกกับมหาอำนาจในตะวันตกก็เพื่อทำลาย OPEC ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมันทั่วโลก ถ้าทำให้โอเปกล่มสลายหรืออ่อนแอได้ ง่ายมากที่จักรวรรดิเฮเกและตะวันตกจะเข้าควบคุมกลไกราคาน้ำมันในตลาดโลกโดยเบ็ดเสร็จ อิรัคไปแล้ว ลิเบียไปแล้ว เล็งไปที่เวเนซูเอล่าที่หัวแข็งและบังอาจไปทวงทองคำคืนจากสหรัฐฯในปี 2012 เวเนซูเอล่าสามารถทวงทองคำคืนจากสหรัฐฯได้ถึง 160 ตันมีมูลค่าราว $9 billion หรือ 319,500 ล้านบาท จากทองคำทั้งหมด 365 ตันที่เก็บไว้ในต่างประเทศเช่น สหรัฐฯ, ยุโรป และแคนาดา ด้วยเหตุนี้สหรัฐฯจึงไม่พอใจผู้นำเวเนซูเอล่ามาก หาทางจะโค่นล้มให้ได้ ตอนนี้ก็กำลังยุให้ซาอุดิฯกับยูเอดีทำสงครามกับเยเมนผลาญเงินงบประมาณของประเทศเพื่อใช้ก่อสงคราม จนงบประมาณของซาอุดิฯขาดดุลต้องปล่อยกู้พันธบัตรเป็นจำนวนมาก และยังออกมาบอกว่าจะลดราคาน้ำมันที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯอีกด้วย แลกกับอาวุธเพื่อนำไปก่อสงครามกับเยเมนต่อ
    กลับมาที่บทความหลักจากทาสส์ต่อนะครับ... แต่ก็ยังมีมุมมองด้านอื่นอีก นาย Robert Fico นายกรัฐมนตรีของสโลวาเกียกล่าวว่า "ผมมีอยู่หนึ่งคำถามที่จะถาม: ใครที่ไปทิ้งระเบิดใส่ลิเบีย? ใครเพาะพันธุ์ปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาในแอฟริกาเหนือ?" (โอบาม่าตอบสิ! คาเมรอนตอบสิ! ไม่ต้องก้มหน้าดูรองเท้าตัวเองครับ เงยหน้าขึ้นมาตอบอย่ากล้าหาญเหมือนกับตอนที่กล่าวหาคนอื่นหน่อยสิ)
    รัสเซียเชื่อว่าวิกฤตปัญหาผู้อพยพในสหภาพยุโรปนั้นควรจะทุ่มไปที่สหรัฐฯเต็มๆเลย (should be put squarely on the United States) เนื่องจากนโยบายแบบเจ็บป่วยของสหรัฐฯในแอฟริกาและในตะวันออกกลาง รัสเซียได้เตือนอียูด้วยสายตาที่ยาวไกลมาตั้งนานแล้วว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขบวนผู้อพยพเพิ่มมากขึ้น แต่อียูกลับชอบที่จะเดินตามก้นในนโยบายของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อฯเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
    ปูตินกล่าวต่ออีกว่า "วิกฤติที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นสิ่งที่คาดเดาได้อย่างแน่นอน (absolutely predictable) ใครๆก็เดาออกถึงสิ่งที่พวกเขา (อียู) กำลังเซอร์ไพรส์อยู่ในขณะนี้ (ปูตินไม่ได้บอกว่าอียูโง่ที่เดาไม่ออกแต่คนอื่นมองออก นะ คริๆ) ผู้ลี้ภัยกำลังพากันหลบหนีเข้าในยุโรป ไม่ใช่มาจากปธน. Bashar Assad ที่ตะวันตกกำลังต่อสู้ แต่จากผู้ก่อการร้าายไอซิส ซึ่่งอัสซาดกำลังดิ้นรนต่อสู้อยู่ต่างหาก" และปูตินก็กล่าวว่า "ยุโรปปักนโยบายนี้อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า (/มืดบอด blindly) ด้วยกรอบการดำเนินงานที่เรียกว่าความเห็นของพันธมิตร เพียงเพื่อที่จะแบกรับความรุนแรงของผลกระทบเท่านั้น"
    รายงานข่าวบอกว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2015 มีผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กๆจำนวน 340,000 คนอพยพข้ามพรมแดนไปยังอียู มากเป็นสามเท่าของช่วงเวลาเดียวกันในปี 2014 ผู้ลี้ภัยส่วนมากมาจากอัฟกานิสถาน ซีเรีย ตูนีเซีย ลิเบีย อิรัค อียิปต์ ไนจีเรีย และโซมาเลีย (คำถามหนึ่งก็มีอยู่ว่า แล้วคนชราหละทำไมถึงไม่มาด้วย? หายไปไหนหมด? ทิ้งคนชราไว้ข้างหลังแล้วใครจะดูแลคนชราเหล่านั้น? เพราะจากภาพผู้อพยพส่วนมากที่เห็นตามสื่อฯต่างๆพวกว่าเป็นคนวัยรุ่น วัยกลางคนที่มีครอบครัวบ้าง แต่ไม่ค่อยมีสัมภาระมากเท่าไร ไม่เหมือนตอนอพยพหนีสงครามในยูเครนตะวันออก ที่มีทุกเพศทุกวัยขนข้าวของสัมภาระมากมายไปด้วย ถ้าเป็นที่ชายแดนเวเนซูเอลากับโคลอมเบียก็จะมีแบกตู้แบกที่นอนข้าวของเยอะมาก แต่ที่ยุโรปนี้แตกต่างกัน เหมือนไปแต่ตัวไปตายเอาดาบหน้าอย่างนั้นแหละ ลักษณะคล้ายกับผู้อพยพชาวโรฮิงญา ไม่มีสำนักข่าวไหนไปเจาะลึกว่าพวกนี้ขายสมบัติพัสถานให้ใคร แล้วก็พากันทิ้งถิ่นฐานไปอยู่ต่างแดนแบบผิดกฎหมายแบบนี้ น่าสนใจ)
    Fyodor Lukyanov ประธานสภาบริหารนโยบายต่างประเทศและด้านความมั่นคงของรัสเซียกล่าวกับสำนักข่าวทาสส์ว่า "ในขณะที่ชาวยุโรปพยายามที่จะทำความเข้าใจสาเหตุที่ฝังรากลึกของวิกฤตปัญหาผู้อพยพในครั้งนี้ มีแนวโน้มที่พวกเขาจะเก็บตัวเงียบเกี่ยวกับบทบาทของการเข้าแทรกแซงกิจการภายนอกของประเทศต่างๆในตะวันออกกลางทั้งหมด ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาเริ่มต้นจากอิรัค พวกเขา (ตะวันตก) ได้หมักหมมปัญหาเหล่านั้นเอาไว้และปล่อยให้มันเติบโตงอกงามขึ้นมา โดยธรรมชาติแล้ว ทุกวันนี้สาเหตุต่างๆ (ของปัญหา) สามารถที่จะมองย้อนกลับไปที่ซึ่งตะวันตกไม่แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งใดๆเลย" (ในมุมมองของรัสเซียนั้นมองว่า ก็สหรัฐฯกับตะวันตกนั่นแหละที่พากันสร้างปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาเอง จะไปโทษคนอื่นทำแป๊ะอะไรอีกหละ จริงป่ะโอบาม่า? จริงป่ะคาเมหลอน? เงยหน้าขึ้นสิครับ เศษตังค์หล่นหรือไง?)
    Lukyanov เน้นย้ำว่า "กลุ่มประเทศยุโรปมองว่าไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างวิกฤตปัญหานี้กับปฏิบัติการทางทหารในตะวันออกกลางที่เริ่มโดยสหรัฐฯ หากคำถามนี้ถูกทิ้งออกไป คำถามต่อไปก็อาจจะเป็นคำถามที่ว่า: แล้วคุณ [กับการวิพากษ์วิจารณ์ของคุณ] อยู่ที่ไหน? อิรัคกลายเป็นความขัดแย้งครั้งยิ่งใหญ่ และประเทศยุโรปบางประเทศก็ต่อต้านอย่างหนัก เนื่องจากนโยบายต่างๆของสหรัฐฯในลิเบียและในซีเรีย และหนุนหลังโดย 'อาหรับสปริง' ยุโรปก็ให้การสนับสนุน (นโยบายเหล่านั้น) และไม่สำคัญด้วยว่ามันจะแสดงออกถึงความจริงใจ (sincerely) หรือภายใต้แรงกดดันหรือสอดคล้องกับ (นโยบาย) ของตนเองหรือไม่ (แต่ยุโรปก็ร่วมหัวจมท้ายกับสหรัฐฯในการถล่มประเทศเหล่านั้น เพราะถือว่าตนเองเป็นมหาอำนาจโลก ใครจะทำไม? คราวนี้ยุโรปก็กำลังรับผลกรรมของตนที่ไปตามก้นสหรัฐฯ)"
    Nadezhda Arbatova หัวหน้าการศึกษาด้านการเมืองยุโรปแห่งสถาบันการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัสเซีย กล่าวกับสำนักข่าวทาสส์ในงานความสัมพันธ์ด้านเศรษฐิจโลกและระหว่างประเทศ IMEMO ว่า "ประเด็นที่ผมจะโต้เถียงกับนายคาเมรอนในกรณีนี้ก็คือ: จุด (เริ่มต้น) ของการเดินทางก็คืออัฟกานิสถาน และแรกเริ่มเดิมทีนั้นก็คือที่อิรัค ซึ่งจุดชนวนความวุ่นวายขึ้นมา อังกฤษเป็นพันธมิตรที่ซื่อสัตย์มากที่สุดของสหรัฐฯ (Britain is the United States’ most loyal ally) ดังนั้นคำถามนี้จึงไม่เคยเอ่ยถามถึงที่นั่นมาก่อนเลย แต่ประเทศต่างๆที่ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในปฏิบัติการทางกองทัพพากันแปลกใจว่าทำไมบัดนี้พวกเขาถึงต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบอย่างเท่าเทียมกันด้วย? นอกจากนี้แล้วพวกเขายังจดจำบทบาทของสหรัฐฯได้ดี" (เงยหน้าขึ้นสิคาเมหลอนกับโอบาม่า!)
    คนนี้เด็ดมาก! นาย Milos Zeman ปธน.ของสาธารณรัฐเช็กได้ตำหนิสหรัฐฯเต็มๆเกี่ยวกับวิกฤตผู้อพยพ ฮังการีก็กำลังสงสัยอยู่เหมือนกัน และ Jeremy Corbyn นักการเมืองจากพรรคแรงงานของอังกฤษซึ่งต่อต้านสหรัฐฯและต่อต้านนาโต้อย่างหนัก มองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
    Yevgeny Satanovsky ประธานสถาบันวิจัยตะวันออกกลางกล่าวว่า "ในอิรัคและลิเบียนั้นมันได้ผล แต่มันล้มเหลวในซีเรีย เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามที่เข้มแข็งจากยูเอ็น กรุงมอสโคว์ และกรุงปักกิ่งได้บล็อกความพยายามทั้งหมดที่จะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงในการโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ขณะนี้อังกฤษ เยมรมันนี และฝรั่งเศสกำลังวิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่ทำให้พวกเขาล้มเหลวจากการโค่นล้มเพื่อเอาใจตุรกี กาต้าร์ และซาอุดิอาระเบีย ตราบเท่าที่พวกเขาต้องการ" (นี่ก็พยายามโยนบาปไปให้กลุ่มประเทศอาหรับกับตุรกีรับแทนอีกแล้ว ก็พวกเดียวกันนั่นแหละที่ร่วมกันสร้างปัญหาขึ้นมา พอถูกด่าเข้าก็โยนไปให้เศรฐษีน้ำมันในตะวันออกกลางและตุรกีโน่น พวกนี้เป็นแค่เครื่องมือหรือหมากตัวหนึ่งของจักรวรรดิเฮเกเท่านั้น ยุโรปเองก็เช่นกันเพียงแต่ไม่กล้าที่จะออกมาตำหนิลูกพี่ใหญ่เท่านั้นเอง)
    Satanovsky กล่าวต่อว่า "ชาวยุโรปไม่มีอำนาจมากพอที่จะไปมีอิทธิพลเหนือสหรัฐฯ การวิพากษ์วิจารณ์พวกเขา (ยุโรป) ไม่มีประโยชน์อะไร มันอาจจะไม่ปลอดภัยหลังจากที่มีเรื่อง (อื้อฉาว) ในการดักฟังไปทั่วโลก ไม่มีใครรู้ว่ามีหลักฐานแบบประนีประนอมและข้อมูลประเภทไหนบ้างที่สหรัฐฯหนีบเอาไว้และอาจจะนำไปแฉให้โลกรู้ ซึ่งมันอาจจะทำให้นักการเมืองยุโรปบางคนรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาได้" (ฮ่าๆๆ กลัวโดนแบล็คเมล์ว่างั้นเถอะ ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องยอมทำตามคำสั่งของจักรวรรดิเฮเกแต่โดยดี)
    สุดท้าย ใต้บทความนี้สำนักข่าว TASS ของรัสเซียบอกว่า "TASS may not share the opinions of its contributors" แปลว่านั่นเป็นความเห็นส่วนบุคคล สำนักข่าว TASS ไม่ขอมีส่วนร่วมแสดงความรับผิดชอบใดๆ อย่ามาฟ้องฉันซะให้ยาก ถ้าจะฟ้องก็ให้ไปฟ้องเจ้าของบทความกับคนพูดโน่นเอาเองนะครับ
    เอาอีกซักคนนะ... คนนี้พลาดไม่ได้ สำนักข่าว RT ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "การที่ยุโรปต้องเผชิญกับภัยพิบัติเรื่องผู้อพยพในครั้งนี้มีสาเหตุมาจากสหรัฐฯนั่นแหละ - ปธน.นิโคลาส มาดูโร ผู้นำเวเนซูเอล่ากล่าว" (Europe has to deal with refugee disaster caused by US – Nicolas Maduro to RT) (ถูกต้องแล้วครับท่านมาดูโร่)
    ปธน. Nicolas Maduro ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RT ระหว่างการเยือนจีนในงานวัน V-Day ที่ผ่านมานี้ว่า "ยุโรปนั่นแหละที่กำลังเผชิญกับภัยพิบัติในครั้งนี้ที่มีสาเหตุมาจากสหรัฐฯ เพราะว่าตอนนี้ยุโรปกำลังรับผู้อพยพหลายหลายแสน และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร"
    ปธน. Nicolas Maduro กล่าวต่ออีกว่า "ด้วยการหลอกลวง พวกเขาได้รุกรานประเทศนั้น [อิรัค] ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรม - และก็ได้รื้อพื้นดินขึ้นมา ในความเป็นจริงแล้วปัจจุบันนี้อิรัคได้แตกจะจายเป็นพันๆชิ้นไปแล้ว และปกคลุมไปด้วยขบวนการก่อการร้ายในรูปแบบที่โหดร้ายทารุณ"
    ปธน. Nicolas Maduro ตั้งคำถามว่า "ใครบอมบ์ลิเบีย? (ตอบมาสิโอบาม่า ก้มหน้าทำไม?) ใครคร่าชีวิตชาวลิเบียไปมากกว่า 100,000 คน? คราวนี้ใครบอมบ์ซีเรีย? ใครให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ผู้ก่อการร้ายซึ่งปัจจุบันนี้กำลังหาทางทำลายมัน" โอบาม่าไม่ตอบ งั้นปธน.เวเนซูเอล่าตอบให้นะว่า "สหรัฐฯ เป็นสาเหตุของภัยพิบัติที่แท้จริง ความวุ่นวาย และคราวนี้สหรัฐก็ต้องการที่จะสร้างความวุ่นวายขึ้นในพื้นที่อื่นๆในโลก"
    ปิดท้ายด้วยพระเอกของเรา สำนักข่าว DW ของเยอรมันนีรายงานข่าวว่า "ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ตำหนิสหรัฐฯกรณีวิกฤตผู้อพยพในยุโรป ที่ไปกำหนดมาตรฐานต่างๆในตะวันออกกลางและในแอฟริกา ในขณะเดียวกันก็ล้มเหลวในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒธรรมและประเพณีของพวกเขา"
    The Eyes
    08/09/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Visar Kryeziu

    ----------
    TASS Experts opinions: Who is to blame for migration crisis in Europe?
    Europe has to deal with refugee disaster caused by US – Nicolas Maduro to RT — RT News
    Putin blames US for migrant crisis in Europe | Europe | DW.COM | 04.09.2015
    US-Inspired Arab Spring Turns Into Migrant Autumn in Europe
    Over 5,000 Migrants Cross Aegean Sea Into Greece Daily - Watchdog
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    [​IMG]

    เมื่อเกษตรกรชาวเบลเยี่ยมซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาสินค้าทางการเกษตรราคาตกต่ำพากันประท้วงและขับรถแทรกเตอร์ ดันกับตำรวจคุมฝูงชน ตำรวจสู้ไม่ไหวต้องเอารถฉีดน้ำมาสู้กับรถแทรกเตอร์แทน
    --------------
    https://www.youtube.com/watch?v=Tss7iYmoiRE

    นี่ก็เบลเยี่ยมอีกครับท่าน เกษตรกรผู้ประท้วงพากันปาไข่ใส่ตำรวจคุมฝูงชน ปัญหามาจากราคาไข่ตกต่ำ
    ---------------
    https://www.youtube.com/watch?v=rAvjq7IVJTo
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    พรรคฝ่ายซ้ายของเยอรมันโทษสหรัฐฯที่ทำลายเสถียรภาพในตะวันออกกลาง เรียกร้องให้สหรัฐฯย้ายฐานทัพออกจากเยอรมัน ฮ่าๆๆ

    [​IMG]

    -------------
    วันที่ 7 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik ของรัสเซียรายงานว่าโดยอ้างคำพูดของนักการเมืองฝ่ายค้านซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายว่า "แผนของนายกฯ Angela Merkel ผู้นำเยอรมันนีเพื่อแก้ไขวิกฤตผู้ลี้ภัยมีแต่จะทำร้ายผู้อพยพเท่านั้น โดยไม่ได้พูดถึงรากเหง้าของปัญหาแต่อย่างใด ซึ่งก็คือการทำลายเสถียรภาพในตะวันออกกลางโดยสหรัฐฯ" (เอาแล้ว งานนี้เยอรมันเริ่มกล้าที่จะโวยบ้างแล้ว ในขณะที่อังกฤษกับฝรั่งเศสยังก้มหน้าก้มตารับคำสั่งสหรัฐฯเพื่อเดินหน้าโจมตีซีเรียต่อไป)
    พรรค Christian Democratic Union และสังคมนิยม (Socialists) พันธมิตรของ Merkel ก็ออกมากระหน่ำค้อนย้ำหัวตะปูอีกว่าไม่มีมาตรการทั่วไปที่จะจัดการกับกลุ่มผู้อพยพที่เพิ่มขึ้น เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้อพยพราว 20,000 คนเดินทางไปถึงประเทศเยอรมัน ซึ่งรวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 800,000 คนแล้วในปี 2015 นี้
    ในเอกสารที่แถลงต่อรัฐสภาของเยอรมันเมื่อวันจันทร์นี้ พรรค Left Party ได้กล่าวหาสหรัฐฯและพันธมิตรนาโต้ว่าเป็นผู้ทำลายเสถียรภาพของประเทศต่างๆในตะวันออกกลาง โดยการเข้าแทรกแซงและเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองต่างๆ
    Dietmar Bartsch รองประธานของพรรคฝ่ายซ้ายในรัฐสภากล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันจันทร์นี้ว่า เขาไม่ได้เข้าข้างระบบการปกครองต่างๆในตะวันออกกลาง แต่เยอรมันและพันธมิตรควรจะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่จะไปสู่การโยกย้ายถิ่นฐานของประชาชน
    Dietmar Bartsch ได้ชี้ไปที่สงครามในซีเรียและอิรัคว่าได้ก่อให้เกิดภาวะสูญญากาศทางอำนาจขึ้นมาและบีบบังคับให้ผู้คนหลายแสนคนต้องหลบหนีการรุกรานของกองทัพไอซิส เมื่อเร็วๆนี้เยอรมันนีได้สนับสนุนอาวุธให้ซาอุดิอารเบีย ซึ่งกำลังทิ้งระเบิดใส่ตำแหน่งของกลุ่มกบฏในเยเมน
    Bartsch เน้นย้ำว่า "ผมสามารถบอกคุณได้ว่า การหลั่งไหลของผู้อพยพรอบใหม่จะมาจากเยเมน การส่งออกอาวุธในปัจจุบันนี้จะสร้างผู้อพยพขึ้นมาในวันพรุ่งนี้" (the next flow of refugees will come from Yemen. Today's arms exports create tomorrow's migrants)
    รายงานแสดงจุดยืนของฝ่ายซ้ายเยอรมันกล่าวว่า "ประเทศตะวันตกถูกชักนำโดยสหรัฐฯให้ทำลายเสถียรภาพภูมิภาคทั้งหมด โดยการอนุญาตให้มีการก่อตั้งองค์กรก่อการร้ายต่างๆขึ้นมา... แก๊งฆาตกรรมเช่นพวกไอซิส ได้รับการหนุนหลังทางอ้อมและได้รับการสนับสนุนด้วยอาวุธต่างๆและเงินทุนโดยประเทศที่เป็นพันธมิตรกับเยอรมันนี"
    (แฉกันเองแล้วครับท่าน เพราะเยอรมันสุดจะทนให้จักรวรรดิเฮเกจูงจมูกลงเหวอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงต้องออกมาส่งเสียงบ้าง แต่เยอรมันยังไม่มีแผนรองรับผู้อพยพจำนวนมากขนาดนั้น ว่าจะทำอย่างไรต่อไปหลังจากที่รับเข้ามาในประเทศของตัวเองแล้ว ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีของเยอรมันออกมาประกาศว่าจะไม่ขึ้นภาษีเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้อพยพ ประมาณว่าเยอรมันนีรวยอยู่แล้ว ตอนนี้ภาพของผู้นำเยอรมันก็เลยกลายเป็นแม่พระผู้ใจบุญสำหรับผู้อพยพต่างแทนทั้งหลาย นี่แหละทีเด็ดอย่างหนึ่งของนางหละ ถ้าคาเมรอนคิดจะแตกแถวถอนตัวออกจากอียูในอนาคต นางก็จะปล่อยคลื่นมนุษย์พวกนี้ให้ไหลทะลักเข้าไปสู่อังกฤษอย่างที่ฝรั่งเศสเล่นมาแล้วที่คาเลส์เมื่อเร็วๆนี้ และถ้าเยอรมันในฐานะผู้นำอียูโดยพฤตินัยซึ่งดูแล้วมีวุฒิภาวะมากกว่าประเทศอื่นสามารถยอมรับผู้อพยพได้เป็นจำนวนมากขนาดนั้น ก็แล้วถ้าเยอรมันและอียูจะร่วมมือกันบีบให้สหรัฐฯยอมรับผู้อพยพจำนวนมากอย่างนี้บ้างจะเป็นไรไป เห็นชอบยกเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมดีนักไม่ใช่หรือ? ถ้าเยอรมันรับไว้มากๆ แล้วก็ทยอยออกเอกสารรองรับสถานะให้เป็นผู้ลี้ภัยและออกหนังสือเดินทางให้ คราวนี้กลุ่มผู้อพยพเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะไปไหนก็ได้ ฝรั่งเศส อังกฤษ หรืออเมริกาก็ได้ เชือดนิ่มๆสไตล์ป้าแมร์)
    ส่วนพรรคฝ่ายซ้ายออกมากล่าวว่า "ได้มีการกำหนดแผนการของตัวเองขึ้นมา 10 จุด (10-point plan) เพื่อถอนรากถอนโคนของวิกฤตปัญหาผู้อพยพยที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ซึ่งรวมถึงการยุติการส่งออกอาวุธ ไม่เข้าร่วมในสงครามที่นำโดยนาโต้อีกต่อไป และย้ายฐานทัพของสหรัฐฯออกจากแผ่นดินเยอรมัน รวมทั้งเพิ่มการมีส่วนร่วมของเยอรมันในโครงการอาหารโลกสำหรับซีเรีย (World Food Program for Syria) จาก 1.62 แสนล้านยูโร ($180 billion) เป็น 5 แสนล้านยูโร ($558 billion)" ว้าววว ก็คนมันรวมอ่ะ จะบริจาคซะอย่าง เยอรมันกำลังเปลี่ยนเกมใหม่ ยังไม่กล้าจับมือกับรัสเซียแบบอบออกหน้าออกตา แต่ดูทิศทางแล้วไม่ขัดแย้งกับรัสเซีย วันหนึ่งเส้นทางอาจจะมาบรรจบกันได้ แต่คงจะต้องฝ่าฟันอุปสรรค์ขวักหนามดงระเบิดอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
    The Eyes
    08/09/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Glenn Pope

    ----------
    German Left Party Blames US for Destabilizing Middle East
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ข่าวบันเทิง: โอ้! Fox News ของสหรัฐฯโทษรัสเซียกรณีวิกฤตผู้อพยพในยุโรป สื่อรัสเซียบอกว่า เออ… สงสัยที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปนี่อเมริกาก็คงจะโทษรัสเซียอีกละสิ ฮ่าๆๆๆ เจ็บจี๊ดดดดด

    [​IMG]

    -------------
    ขอจัดข่าวเบาๆให้ซักข่าวก่อนนะครับ เป็นเรื่องของการกระแทกหมัดใส่ปากกันระหว่างสื่อฯสหรัฐฯจอมเกเรกับสื่อฯรัสเซียนักเลงเจ้าถิ่นที่ไม่ยอมให้ใครมาหยามประเทศตนเองได้ง่ายๆ มันต้องมีการสั่งสอนรู้สำนึกซะบ้่างว่าไผเป็นไผ วันนี้ (8 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียเกริ่นนำว่า "โอ้! ฟ็อกซ์นิวส์ (ฟ็อกซ์นะครับ ไม่ใช่สระอะ) พวกเราทุกคนรักวีดีโอตลกที่ไม่ได้ตั้งใจกับผู้เชี่ยวชาญที่ชอบออกมาพูดเกี่ยวกับส่วนล่างของร่างกายของคุณจังเลย" (ว้าววว มันเรื่องอะไรกันหละนี่?)
    Sputnik รายงานว่า มีอยู่อย่างหนึ่งที่สำนักข่าว F** News (ของอเมริกา) ได้เรียนรู้ที่จะทำให้ดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา - ซึ่งนั่นก็คือการตำหนิ (กล่าวโทษ) รัสเซียไปทุกเรื่องที่มีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ สงครามซีเรียระเบิดขึ้นมา - ก็รีบดาหน้าออกมาโทษชาวรัสเซียก่อนเลย, รัฐบาลสหรัฐฯจัดการให้มีการยึดอำนาจในยูเครน - แน่นอนพวกรัสเซียต้องอยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้, สถานีโทรทัศน์ช่องนั้นร้องกรี๊ดโวยวาย (the channel screams ภาษาชาวบ้านเรียกว่าแ*กปากร้อง) สื่อฯรัสเซียซัดหมัดเข้าใส่สื่อฯสหรัฐฯอีกว่า แล้วต่อไปอะไรอีกหละเอฟนิวส์ (What's next, Fox News?) บางทีชาวรัสเซียอาจจะเป็นคนเริ่มเผยแพร่เชื้อไวรัสอีโบล่า หรืออาจจะอยู่เบื้องหลังของการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ด้วยมั๊ง? (ฮ่าๆๆๆ)
    รายงานข่าวบอกว่าครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรแตกต่างเลย หลังจากที่เอฟนิสว์ของสหรัฐฯตัดสินใจที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรป KT McFarland นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงแห่งชาติได้รับเชิญให้เข้าไปพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้รีบด่วนตำหนิ... นั่นแหละถูกต้องแล้ว ไม่มีใครอื่นนอกเสียจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ก่อให้เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรป (ต่อไปอาจจะบอกว่าวิกฤตหนี้สินของกรีซ กับปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำในยุโรปก็มาจากปูตินอีกหละสิ ปัญหาไฟป่าและภัยแล้งที่แคลิฟอร์เนียก็คงจะโทษปูตินอีกด้วยมั๊ง?)
    สื่อฯรัสเซียตั้งคำถามว่า "ตรรกะอยู่ตรงไหน?" (Where is the logic?) เอ่อ… ไม่พบซักอย่างเลย ซึ่งก็เป็นเช่นนี้อยู่บ่อยๆกับสำนักข่าวเอฟนิวส์ของสหรัฐฯ ข้อเท็จจริงก็คือว่า รัสเซียได้พูดอยู่เสมอว่ารัสเซียต้องการที่จะยุติความขัดแย้งในซีเรีย กรุงมอสโคว์สนับสนุนประธานาธิบดี Bashar al-Assad ที่มาจากการเลือกตั้งโดยถูกต้องตามกฎหมาย และได้เตือนกลุ่มประเทศตะวันตกในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ซึ่งบางกลุ่มก็ไปจบลงด้วยการเข้าร่วมกลุ่มกับพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส ซึ่งในทางกลับกันก็ได้สร้างความวุ่นวายขึ้นมาในตะวันออกกลางซึ่งส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยไหลทะลักเข้าไปในยุโรป
    ไม่ว่า al-Assad จะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะมาพูดกันตรงนี้ ประเด็นก็คือว่าระหว่างที่เขาเป็นประธานาธิบดีก่อนที่จะเกิดสงครามกลางเมือง แทบจะไม่มีพวกผู้อพยพในซีเรียเลย เนื่องจากไม่มีสงคราม และไม่มีกลุ่มติดอาวุธไอซิสวิ่งกันขวักไขว่และเที่ยวตัดหัวผู้คนเป็นว่าเล่น (แล้วพวกนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรหละ? ไปถามซีไอเอสิครับ เงยหน้าขึ้นโอบาม่า อย่าก้มหน้า)
    ดังนั้น ถ้ารัสเซียให้การสนับสนุนปธน. al-Assad ซึ่งปกครองซีเรีย [ตีความได้ว่า: ก็จะไม่มีผู้อพยพชาวซีเรียพากันหนีเข้าไปในยุโรป] ดังนั้น ทำไมมันถึงเป็นความผิดของของปูติน ณ บัดนี้ซึ่งไอซิสเที่ยวสังหารหมู่ประชาชนในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นสาเหตุของวิกฤตผู้ลี้ภัยจำนวนมหึมาในภูมิภาคนั้นด้วย?
    สื่อฯรัสเซียสรุปว่า อันที่จริงแล้ว ตะวันตกนั่นหละ ซึ่งนำโดยสหรัฐฯที่เริ่มต้นความขัดแย้งต่างๆในซีเรียและลิเบีย ซึ่งนำมาซึ่งผู้ลี้ภัยหลายล้านคน เข้าใจไหม F** News บางทีอาจจะไม่ โอ้ งั้นก็ไม่เป็นไร (Got it, Fox News? Probably not. Oh well.) แหล่มมมมม
    The Eyes
    08/09/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Dieter Laskowski

    ----------
    Fox News Doesn’t Get it, Blames Russia for Refugee Crisis in EU
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

    เอาอีกแล้ว... โปโรเชนโก้คงละเมอมาพูดแน่ๆ... เสนอสามวิธีเพื่อหยุดสงครามในยูเครนหนึ่งในนั้นก็คือยกกองทัพเข้าถล่มกรุงมอสโคว์

    [​IMG]

    -------------
    เมื่อวานนี้ Suputnik news รายงานข่าวว่าปธน. Petro Poroshenko ผู้นำของยูเครนกล่าวว่าเขา "คัดค้านมาตรการที่รุนแรงใดๆ" และพิจารณาข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์กซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดเพื่อที่จะยุติสงคราม และนำภูมิภาค Donbass กลับเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของกรุงเคียฟ (ถาม DPR/LPR และปูตินหรือยังว่าจะยอมไหม?)
    ปธน.โปโรเชนโก้กล่าวในรายการโทรทัศน์ว่า "มีอยู่สามวิธีในการพัฒนาแก้ไขปัญหานี้ วิธีแรกก็คือปฏิบัติการทางกองทัพด้วยใช้กองทัพยูเครนเข้าไปปลดปล่อยภูมิภาคนั้น (ยูเครนตะวันออก) และยาตราทัพเข้าไปในกรุงมอสโคว์ (march on Moscow)" (ฮ่าๆๆ... จะพากองทัพนีโอนาซีของท่านไปทำอะไรที่กรุงมอสโคว์หรือครับท่านประธานาธิบดี จะไปขอวอดก้าปูตินดื่ม หรือจะไปเช็ดรองเท้าบูตให้กองทัพรัสเซียดี ผ่าน DPR/LPR ให้ได้ก่อนดีไหม?) (พักหลังนี่แกมีมุกเด็ดๆออกมาให้ฮาอยู่เรื่อยๆนะ อ่านข่าวแกทีไรอดขำไม่ได้ทุกที)
    แต่โปโรเชนโก้ก็บอกปัดวิธีแรกด้วยการให้เหตุผลว่า "มันบ้าบิ่นเสี่ยงเกินไป ประชาชนชาวยูเครนต่อต้านวิธีนี้ (it's a reckless adventure and Ukrainian people are against it)" (นั่นไง! ฮ่าๆๆ... นึกแล้วเชียว ตั้งแต่แกคบกับโอบาม่ามานี่ คำพูดคำจาชักเริ่มจะเหมือนกันเข้าไปทุกทีหละ น่าจะชวนโอบาม่าไปเปิดอเมริกา-เชนโกคาเฟ่ได้แล้วนะ)
    โปโรเชนโกกล่าวว่า "ทางเลือกที่สองก็คือ สร้างกำแพงกั้น และตัดพื้นที่ตรงนั้น (DPR/LPR) ทิ้งไปซะเลย เราสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยแม้จะไม่มีดอนบาสส์ หนทางนี้มีความเป็นไปได้ (ฮั่นแน่... เริ่มกล่อมประชาชนของตัวเองหละ) แต่ว่าในฐานะที่เป็นประธานาธิบดีของยูเครน ผมจะไม่ทำเช่นนั้น (แล้วพูดขึ้นมาทำไมหละครับ?) ผมจะไม่มอบที่ดินแม้เพียงเล็กน้อยของยูเครนให้กับผู้ใดเลย (จริงดิ? รู้สึกว่าตอนนี้ยูเครนทั้งประเทศกลายเป็นของอเมริกาไปโดยปริยายแล้วไม่ใช่รึ? ยกเว้น DPR/LPR) ผมจะต่อสู้เพื่อนำดอนบาสส์ซึ่งรวมทั้งไคร์เมียด้วยกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของกรุงเคียฟ (อีกครั้ง)"
    ฮึ่ม… แต่วันต่อมา (8 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik รายงานว่าท่าน Valentina Matvienko โฆษกสภาสูงของยูเครนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Izvestiya ว่า "ผมเชื่อว่ายูเครนเข้าใจแล้วว่าแหลมไคร์เมียจะไม่กลับคืนสู่ยูเครนอีก มันจะเป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงในสถานการณ์นี้ เนื่องจากมันเป็นความประสงค์ของประชาชนชาวไคร์เมียและเขตเซวาสโตโปล (Sevastopol)" ตามความคิดเห็นของ Matvienko นั้น ไคร์เมียได้ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างสมบูรณ์แล้ว
    อ้าวงั้นเรอะ โปโรเชนโก้ถาม งั้นก็ยังเหลืออีกทางเลือกหนึ่ง โปโรเชนโก้บอกว่า "วิธีที่สามก็คือวิธีที่มีการยอมรับกันมากที่สุด และวิธีนี้ก็คือ ข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์ก (Minsk agreements)" (นั่นไง... พูดไปพูดมาก็บอกว่ายอมรับข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์กนั่นเอง ซึ่งหนึ่งในข้อตกลงดังกล่าวบอกว่าจะต้องกระจายอำนาจและให้ DPR/LPR ปกครองตนเอง ลีลาจริงนะคุณโปโรเชนโก้ พับผ่าสิจอร์จ ก็โดนทั้งเยอรมันนีและฝรั่งเศสบีบไข่ซะขนาดนั้นจะไม่ยอมรับได้อย่างไรหละครับท่าน โอบาม่าได้ยินข้อแรกนี่ถึงกับสะดุ้งเลย ว้าววว! ลูกน้องฉันบ้าบิ่นได้ขนาดนั้นเลยหรือ จะยกทัพไปตีกรุงมอสโคว์นี่นะ ขนาดโอบาม่ายังไม่กล้าพูดอย่างนั้นเลยนะ ที่ไหนได้แผ่วตอนปลายซะงั้น)
    โปโรเชนโก้กล่าวว่า "นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะฟื้นฟูอธิปไตยเหนือภูมิภาคดอนบาสส์ และวิธีนี้เรียกว่า Minsk agreements ง่ายๆ เพียงแค่พวกเขาทำใจหยุดยิงกัน ถอนอาวุธหนักออกไป ปล่อยตัวเชลยศึก และให้หน่วยงาน OSCE เข้าไปติดตามสังเกตการ (แค่นี้ก็จบแล้ว)" (เออ… วันนี้แกกินยาอะไรมาผิดขวดหรือเปล่านี้?)
    โปโรเชนโก้กล่าวต่ออีกว่า "พวกเราควรจะพร้อมสำหรับการพัฒนาทุกๆด้าน ปัจจุบันนี้ผมกำลังพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นไปตามข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์กและฟื้นฟูการควบคุมเหนือดอนบาสส์" (วรรคแรกหนะชัดแล้วว่ายูเครนไม่สามารถเบี้ยว โดยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นจะโดนอียูเล่นงานหนัก เพราะทำให้อียูเสียคำพูดที่ได้ไปเจรจากับปูตินมาแล้ว ถ้ายูเครนพลิกลิ้นตามคำสั่งจักรวรรดิเฮเก ยูก็จะไม่ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอียูในอนาคตแน่ จะยกแผ่นดินยูเครนไปต่อเข้ากับสหรัฐฯหนะหรือ? เอาสิถ้าทำได้ ฮ่าๆๆ แต่ข้อความตอนหลังที่บอกว่าจะควบคุมดอนบาสส์นี้คงจะเป็นแค่ลิ้นนักการเมืองเท่านั้น เพราะมันขัดแย้งกับข้อความในตอนแรก ถ้าคุณปฏิบัติตามข้อตกลงกรุงมิ้นส์ก คุณก็จะควบคุมดอนบาสส์ไม่ได้ ถ้าคุณพยายามควบคุมดอนบาสส์ให้ได้ ก็แสดงว่าคุณผิดสัญญาและฝ่าฝืนข้อตกลง ตรรกะมันก็มีอยู่แค่นี้)
    The Eyes
    08/09/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ SERGEY BOBOK

    ----------
    'March on Moscow' Among Kiev’s Scenarios to End Donbass War
    Kiev Understands Impossibility of Regaining Crimea - Parliament Speaker
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

    รัสเซียเมินโอเปกชวนเข้าแก๊งเปโตรดอลล่าร์ด้วย

    [​IMG]

    -----------
    วันที่ 7 ก.ย.58 สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "OPEC says join the club, Russia not interested – Rosneft CEO" (โอเปกชวนรัสเซียเข้าร่วมสมาคมด้วย รัสเซียบอกไม่มีความสนใจ - CEO ของ Rosneft ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตน้ำมันของรัสเซียกล่าว) อัยย๊ะ! ซาอุดิฯมามุกนี้เลยหรือ?
    นาย Igor Sechin CEO ของบริษัท Rosneft ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตน้ำมันของรัสเซียกล่าว "รัสเซียไม่มีความสนใจที่จะเข้าร่วมในองค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันปิโตเลียม (OPEC) โอเปกได้สูญเสียอิทธิพลของตนในฐานะองค์กรที่กำกับดูแลตลาดหลักไปแล้ว ดังนั้นรัสเซียจึงไม่มีความสนใจที่จะเข้าร่วมด้วย"
    รายงานข่าวบอกว่า ไม่เหมือนกับกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปก อุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียถูกรัฐควบคุมน้อยกว่า และเนื่องจากลักษณะต่างๆทางสภาวะภูมิอากาศ รัสเซียไม่สามารถที่ปรับการผลิตน้ำมันได้อย่างรวดเร็ว (ว้าววว ได้ทีขี่แพะไล่เลยงานนี้ มันก็มีสาเหตุอยู่นะที่รัสเซียออกมาพูดอย่างนี้ ช่วงที่เงินรูเบิลของรัสเซียถูกโจมตีอย่างหนักและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงนั้น รัสเซียปรึกษากับโอเปก คุณโอเปกก็เล่นตัว วันนี้จะมาของ้อรัสเซีย ฝันไปเหอะ รู้นะคิดอะไรอยู่ เดี๋ยวจะเฉยให้ฟังในตอนท้ายนะครับ)
    นาย Igor Sechin กล่าวในงานประชุม FT commodities ที่ประเทศสิงคโปรว่า "รัฐบาลรัสเซีย ซึ่งเข้าใจถึงความแตกต่างในเงื่อนไขของการผลิตและสิทธิในทรัพย์สินดี ตกลงที่จะอยู่ในสถานะเป็นผู้สังเกตการณ์ในโอเปก แต่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบเด็ดขาด" Sechin ตำหนิโอเปกว่าไม่ผลิตน้ำมันตามโควต้าของตน
    นาย Igor Sechin กล่าวว่า "ปัจจุบันนี้กลุ่มประเทศโอเปกได้ผลิตน้ำมันเกินโควต้าของตน [30 ล้านบาร์เรลต่อวัน] จากการคาดการณ์ต่างๆ (พบว่าโอเปกผลิตน้ำมันอยู่ที่) 1.5 - 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หาผลิตตามโควต้า ดังนั้นตลาดน้ำมันทั่วโลกก็จะสมดุล ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาน้ำมันดิบ"
    CEO ของบริษัท Rosneft กล่าวอีกว่า "พอพูดเกี่ยวกับอิหร่านกลับสู่ตลาดโลกอีกครั้ง ก็มีการสร้างความหวาดกลัวจนเกินความจริง เนื่องจากอิหร่านมีความต้องการเงินหลายร้อยหลายพันล้านดอลล่าร์ เพื่อลงทุนในการเพิ่มปริมาณการผลิต"
    พอความหวาดกลัวว่าอิหร่านจะมาแย่งตลาด และปริมาณน้ำมันดิบจากอิหร่านจะทะลักเข้าสู่ตลาดด้วย ก็ยิ่งทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงไปอีก ก็เป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว เมื่อสินค้ามีมากกว่าความต้องการ ราคาก็ย่อมลดลง
    มาดูตรงนี้ดูกว่า "ทำไมจู่ๆโอเปก (นำโดยซาอุดิอาระเบีย) ถึงได้มาชวนรัสเซียเข้าร่วมแก๊งโอเปกด้วย? ทำไมถึงไม่ไปชวนสหรัฐฯโน่น?" การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กษัตริย์ซาอุดิฯไปพบกับผู้นำสหรัฐฯที่อเมริกา จึงผุดไอเดียนี้ออกมาหวังจะลากรัสเซียออกมายิงเป้านอกบ้านว่างั้นเถอะ ก็เมื่อซาอุดิฯด้านพอที่จะชวนรัสเซียเข้าไปเล่นเกมสกปรกอย่างนั้น แล้วทำไมรัสเซียจะต้องเกรงใจด้วย ก็พูดไปตรงๆประสาคนคอวอดก้าเลยว่า "ไม่สนใจวุ้ย!"
    ก็จะให้สนใจได้อย่างไรหละครับ ก็กลุ่มโอเปกเขาขายน้ำมันด้วยเงินดอลล่าร์ของสหรัฐฯ ส่วนรัสเซียกับจีนและพันธมิตรกำลังพากันทิ้งดอลล่าร์ แล้วจู่ๆซาอุดิฯจะชวนให้รัสเซียไปอุ้มดอลล่าร์สหรัฐฯที่กำลังจะตายนี่นะ? เอาอะไรมาคิดครับคุณโอเปกถึงคิดว่ารัสเซียจะรับมุกนี้?
    ในอดีตนั้นโอเปกซึ่งนำโดยซาอุดิฯได้ทำสงครามน้ำมันกันมาก่อนแล้ว ในปี 1973 โอเปกงดส่งน้ำมันให้สหรัฐฯเอาดื้อๆ (oil embargo) เนื่องจากไม่พอใจที่สหรัฐฯและตะวันตกในการสนับสนุนอิสราเอลในสงคราม Yom Kippur War (6-25 ตุลาคม 1973) ระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์ซึ่งมีซีเรียร่วมกับอียิปต์ด้วย ฝ่ายสนับสนุนอียิปต์และซีเรียก็มี อิรัค จอร์แดน ซาอุดิอาระเบีย อัลจีเรีย คิวบา โมร็อกโก ลิเบีย ตูนีเซีย และคูเวต ตอนนั้นพวกอาหรับร่วมมือกันดี แต่ปัจจุบันนี้ไม่รู้ถูกยุยงอิท่าไหนอาหรับแตกคอกันหันมาทะเลาะกันเองและซาอุดิฯกับพันธมิตรบางส่วนหันไปจับมือกับอิสราเอลมาเล่นงานอาหรับอย่างอิหร่าน เยเมน ซีเรีย ด้วยกันซะงั้น
    และในปี 1973 นั่นแหละสหรัฐฯโดนโอเปกเล่นงานซะสะบักสะบอม เพราะเกิดการขาดแคลนน้ำมันในประเทศ และสหรัฐฯเองก็เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักเช่นกัน เพื่อเป็นการส่งออกอาการเงินเฟ้อของตนสหรัฐฯ ประธานาธิบดี Richard Nixon ก็เลยกล่อมให้คิงซาอุดิฯ หันไปใช้เงินดอลล่าร์ในการซื้อขายน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปก ก็ไม่รู้ว่าโอเปกฉลาดหรือเปล่าดันไปตกปากรับคำกับสหรัฐฯหันไปใช้เงินดอลล่าร์ในการขายน้ำมันซะงั้น และศาสตราจารย์ทางเศรษฐศาสตร์ชื่อ Ibrahim Oweiss จากมหาวิทยาลัย Georgetown University ของสหรัฐฯก็ได้ให้กำเนิดศัพท์ petrodollar ขึ้นมาในสมัยนั้นซึ่งเป็นการเอาดอลล่าร์ ต่อมาในปี 2003 อิหร่านหันไปใช้เงินยูโรในการซื้อขายน้ำมัน และในปี 2005 เวเนซูเอล่าก็เอาอย่างอิหร่านบ้าง ก็เลยทำให้สหรัฐฯไม่พอใจทั้งอิหร่านและเวเนซูเอล่ามากๆ และนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นำไปสู่การแซงชั่นอิหร่านและหาเรื่องเวเนซูเอล่าโดยสหรัฐฯด้วยเช่นกัน
    ถ้าดึงรัสเซียเข้าร่วมแก๊งโอเปกได้ นอกจากหันไปใช้เงินดอลล่าและยูโรแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง? สหรัฐฯและอาหรับก็จะควบคุมรัสเซียได้ง่ายขึ้นนะสิครับ กะจะจับพญาหมีไปอยู่ในกรงอีเหนว่างั้นเถอะ ฮึ่มมมม! หมากตานี้ตื้นมาก ปูตินรู้ทันไม่รับมุกด้วย เสียใจด้วยนะสหรัฐฯเอ๋ย
    The Eyes
    08/09/2558
    ----------
    OPEC says join the club, Russia not interested – Rosneft CEO — RT Business
    https://www.iea.org/media/omrreports/fullissues/2015-08-12.pdf
    https://twitter.com/IEA/status/637957997768019972/photo/1?ref_src=twsrc
    https://en.wikipedia.org/wiki/Petrocurrency
    https://en.wikipedia.org/wiki/Petrodollar
    https://en.wikipedia.org/wiki/Yom_Kippur_War
    https://www.caseyresearch.com/articles/demise-petrodollar
    Why OPEC prefers dollars to euros « Swaminomics
    https://en.wikipedia.org/wiki/OPEC
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

    รัสเซียเตรียมส่งเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์พร้อมขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ร้อยกว่าลูกออกสู่ทะเล

    [​IMG]

    -----------------
    รายงานข่าวจากSputnik พาดหัวว่า "โยนหินออกมาจากอลาสก้า : เส้นทางสู่ฐาน Kamchatka ของเรือดำน้ำรัสเซีย อย่าว่าแต่คนอ่านๆแล้วงง คนเขียนเองก็ยังงงครับ ลองดูที่เนื้อข่าวดีกว่า
    เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดตั้งขีปนาวุธแนวดิ่ง (SSBN) Alexander Nevsky อยู่ในชั้น Borei -class ของรัสเซีย กำหนดที่จะเข้าร่วมกองทัพเรือรัสเซียภาคพื้นแปซิฟิก ตามคำกล่าวของผู้แทนกองทัพเรืออาวุโส จะเริ่มเดินทางในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2558 จากฐานทัพเรือภาคเหนือ เข้าสู่ฐานทัพภาคพื้นแปซิฟิก เพื่อทำหน้าที่ภารกิจปฏิบัติการสู้รบเป็นการถาวร โดยเข้าประจำการที่ Rybachiy ในคาบสมุทร Kamchatka
    ถ้าดูตามแผนที่จะอยู่ทางตะวันออกของรัสเซีย ด้านเหนือของญี่ปุ่น ฝั่งตรงกันข้ามคือประเทศแคนาดา อลาสก้าจะอยู่เยื้องไปทางด้านเหนือ ซีแอตเติลอยู่เยื้องไปทางด้านใต้ คาดว่าจะเดินทางถึง Kamchatka ในช่วง 10 วันแรกของเดือน ก.ย.58 ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศหรืออื่นๆ และจะมี Borei -class ตามมาสมทบอีก 1 ลำ คือ Vladimir Monomakh จะมาถึงในช่วงปลายปี 58ถึงต้นปี 59 ส่วนอีกลำชื่อว่า Yury Dolgoruky ประจำการอยู่ในกองทัพเรือภาคเหนือ -- เพิ่มเติม
    เรือดำน้ำในชั้น Borei -class สร้างออกมาเพื่อประจำการแทน Typhoon -class and Delta IV - class เว็บไซด์ทางการทหารชื่อดังอย่าง thediplomat กล่าวถึงโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐเขียนบันทึกให้กับสถาบันกองทัพเรือสหรัฐฯว่า " Borei ถูกสร้างขึ้นในแบบแนวทางที่แสดงให้เห็นถึงวิญญาณการเกิดใหม่ที่แท้จริงของเรือดำน้ำกองทัพเรือรัสเซีย " เป็นเรือดำน้ำขนาด 24,000 ตันเมื่ออยู่ใต้น้ำ
    - เรือถูกออกแบบให้มี ไฮโดรไดนามิกที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ลดเสียงบรอดแบนด์ การใช้ปั๊มเจ็ทขับเคลื่อนช่วยลดเสียงรบกวนและทำให้เรือดำน้ำที่มียุทธวิธีที่สูงขึ้น ความเร็ว เงียบและความคล่องแคล่วที่เพิ่มขึ้น จะทำให้เรือดำน้ำถูกตรวจพบยากขึ้น
    - ระยะปฏิบัติการไม่จำกัด (Range : Unlimited) ความอดทนต่อการอยู่ใต้น้ำ ถูกจำกัดด้วยปริมาณอาหารสำรอง แต่มากกว่า 1 ปี
    - ติดตั้งขีปนาวุธ BULAVA (RSM-56) ระยะยิง 8,300 - 10,000 กม. จำนวน 16 ลูก บรรจุหัวรบ 6-10 หัวรบ /ขีปนาวุธ 1 ลูก น้ำหนักหัวรบนิวเคลียร์ 100-150 กิโลตัน/หัวรบ เท่ากับ Borei 1 ลำบรรทุก หัวรบได้ 96 - 160 หัวรบ
    - สามารถบรรจุตอร์ปิโดชนิด Type 40 or 90R ที่เป็นระเบิดนิวเคลียร์น้ำลึก
    thediplomat ยังกล่าวต่อโดยอ้างคำพูดเชี่ยวชาญในการทำสงครามต่อต้านเรือดำน้ำที่สังเกตว่ารัสเซียเป็นประเทศเดียวในโลกที่สามารถสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่มีความสามารถในการหลบเลี่ยงการตรวจพบของสหรัฐ
    รัสเซียมีแผนการสร้าง Borei -class จำนวน 8 ลำ 3 ลำเข้าประจำการแล้ว 3 ลำอยู่ระหว่างการสร้าง 1 ในนี้จะประจำการ 2560 อีก 2ลำ จะเริ่มดำเนินการสร้างในปี 2558-59 กำหนดประจำการ 2563
    ไม่อยากจะคิดมากครับ แต่การเอาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งประจำการเมื่อ 2556 - 2557 ไปจ่อเอาไว้ตรงฝั่งตรงกันข้ามกับอลาสก้า อาจจะทำเอาใครบางคนหนาวจับขั้วหัวใจ หายกร่างไปเยอะ 555
    ขอบคุณผู้แปล: Noraseth Tuntasiri
    The Eyes
    09/09/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Thiago Isvamsinsk

    ----------
    A Stone's Throw Away From Alaska: Russian Sub en Route to Kamchatka Base
    Putin’s ‘Red October’: Russia’s Deadliest New Submarine | The Diplomat
    Bulava (RSM-56) - Missile ThreatRSM-56, SS-NX-30 | Missile Threat
    https://en.wikipedia.org/wiki/Borei-class_submarine
     

แชร์หน้านี้

Loading...