ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    รถไฟมรณะฝรั่งเศสโมเดลลามไปที่เยอรมัน: เกิดการยิงกันที่สถานีรถไฟหลักในเมือง Darmstadt ประเทศเยอรมัน

    [​IMG]

    ------------
    วันนี้สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานว่า มีการยิงกันหลายนัดในสถานีรถไฟในเมือง Darmstadt รัฐ Hesse ทางตะวันตกเฉียงใต้ประเทศเยอรมันนี อ้างรายงานจากสื่อฯท้องถิ่น เกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รับบาดเจ็บด้วย รายงานข่าวบอกว่ามีการอพยพผู้คนออกจากสถานีดังกล่าว
    รายงานข่าวจากสถานีโทรทัศน์ Hessenschau TV ของเยอรมันบอกว่าผู้ต้องสงสัยมีอายุระหว่าง 20-30 ปี ถูกควบคุมตัว แรงจูงใจไม่ชัดเจน ผู้ต้องสงสัยคุกคามเจ้าหน้าที่รถไฟและผู้โดยสารรายอื่นๆด้วยอาวุธมีด ส่วนตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ขา (ข่าวไม่ได้บอกว่าได้รับบาดเจ็บจากอะไร) เกิดความตื่นตระหนกโกลาหนในช่วงที่เกิดเหตุ รถไฟทุกขบวนหยุดวิ่ง และยังไม่ชัดเจนว่าจะกลับให้บริการตามปรกติได้เมื่อไร
    เมือง Darmstadt มีประชากรราว 150,000 คน สถานีรถไฟกลาง (Hautpbahnhof) ของเมืองถือว่าเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีความคุกคักมากที่สุดซึ่งมีผู้โดยสารถึง 35,000 คน และมีขบวนรถไฟถึง 220 เที่ยวต่อวัน
    จบข่าว... ข่าวแบบนี้เยอรมันจะไม่ปล่อยรายละเอียดมามากจนกว่าจะสืบสวนให้รู้แน่ชัดซะก่อน เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ส.ค.58 ที่ผ่านมาก็พึ่งจะเกิดเหตุกราดยิงในขบวนรถไฟในฝรั่งเศส ทั้งทางเยอรมันและฝรั่งเศสรีบออกมาบอกว่าไม่ใช่การก่อการร้าย แต่ผู้ต้องหาต้องการจะปล้นผู้โดยสาร ฮึ่ม… ก็ว่ากันไป ห่างกันเพียงแต่สัปดาห์กว่า ก็เกิดเหตุยิงกันที่สถานีรถไฟในเยอรมันขึ้นมาจนได้ มันยังไงกันหละนี่อียู?
    The Eyes
    01/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Francois Lenoir

    ----------
    Shots fired at Darmstadt main rail station in Germany as man 'threatens passengers with knife' — RT News
    France Train Gunman Denies Terror Links
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    พิษสงครามแซงชั่นทางเศรษฐกิจกำลังลามไปทั่วยุโรป เกษตรกรรายย่อยชาวเยอรมันรวมตัวกันในกรุงเบอร์ลินประท้วงราคานมตกต่ำ, สหรัฐฯยุให้ยูเครนเลิกใช้แก๊สรัสเซียหันไปใช้พลังงานชีวภาพของสหรัฐฯแทน

    [​IMG]

    ------------
    วันนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า สมาคมเกษตกรรายเล็กรวมตัวกันประท้วงราคาผลิตภัณฑ์นมตกต่ำใกล้กับกระทรวงอาหารและการเกษตรในกรุงเบอร์ลิน ผู้ประท้วงบอกว่าราคาในตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต และมีการลดลงเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาถึงระดับที่พบครั้งล่าสุดในปี 2009 เมื่อยุโรปได้เผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่
    สัปดาห์ที่ผ่านมา โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปได้แถลงข่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ (ราคา) ผลิตภัณฑ์นมในสหภาพยุโรปจะลดลงในช่วงที่มีสินค้ามากกว่าความต้องการและจากการที่รัสเซียสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากกลุ่มประเทศสมาชิกอียู
    เฮ้อ… รัฐบาลต่างๆของอียูก็ยังดื้อรั้นเล่นเกมแซงชั่นกับรัสเซียต่อไปอีกตามบัญชาการจากจักรวรรดิเฮเก ไม่ทำตามคำสั่งก็ไม่ได้ เพราะไม่อยากให้เหตุร้ายต่างๆเกิดขึ้นในประเทศของตัวเองบ่อยๆ ถ้าทำเกษตรกรของอียูก็เดือดร้อน เศรษฐกิจตกต่ำ ลามไปทั่วโลก อียูจะทำอย่างไรดีหละที่นี้?
    ดูเหมือนว่าเกมแซงชั่นนี้จะติดลมบนซะแล้วสิ... งานนี้รัสเซียก็ไม่ยอมตกเป็นผู้ถูกกระทำอีกต่อไปซะด้วย ล่าสุดสำนักข่าว Sputnik รายงานว่า Roman Kvitko บิ๊กบอสของบริษัท Gazprom Neft ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 4 ของรัสเซีย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Gazprom ของรัสเซียกล่าวว่า "เราคาดว่าจะมีการประเมินการฟ้องร้องดำเนินคดีในปี 2016 เราหวังว่าเป็นการตัดสินใจที่ยุติธรรมและเป็นกลาง" ฟ้องร้องใครหรือ? ก็อียูสิครับท่าน
    ในวันเดียวกันนี้ (1 ก.ย.58) ก็มีรายงานข่าวออกมาว่าสหภาพยุโรปจะยูเทิร์นท่าทีของตนที่มีต่อรัสเซีย ตามคำพูดของ Anna Liatsou ประธานสภาธุรกิจกรีซ-ยูเรเซีย Anna Liatsou กล่าวว่า "สหภาพยุโรปจะทบทวนนโยบายแซงชั่นที่มีต่อรัสเซียและมุ่งความสนใจไปที่ความร่วมมือกันแทนในเร็วๆนี้ (เร็วๆที่ว่าก็คงจะหลังปีใหม่ 2016 โน่นแหละเพราะการแซงชั่นรอบล่าสุดหมดอายุในช่วงนั้นพอดี)"
    งานนี้ก็ไม่รู้ว่าทางอียูส่งกรีซออกมาพูดแบบโยนหินถามทางเพื่อขอดูไพ่จากปูตินหรือเปล่านะ? หรือว่ากรีซออกมาพูดเอง แต่สไตล์ของปูตินนั้นดูที่การกระทำมากกว่าคำพูดของลิ้นไม่มีกระดูกจากพวกตะวันตกและจักรวรรดิเฮเกที่พร้อมจะพลิกลิ้นได้เสมอ ดูอย่างกรณีของเรือ Mistral เป็นต้น
    ในภาวะที่ยูเครนกับรัสเซียมีความตึงเครียดกันนี้ ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่ยูเครนไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ก็คือเรื่องพลังงาน โดยเฉพาะแก๊สที่จะต้องพึ่งพาจากรัสเซีย ประจวบเหมาะที่สุดดูเหมือนว่ามีมือที่มองไม่เห็นกำลังยุให้ยูเครนเลิกซื้อแก๊สจากรัสเซีย แล้วยูเครนก็หันไปถามไอ้โม่งว่า อ้าวแล้วจะให้ยูเครนเอาแก๊สที่ไหนมาใช้ในฤดูหนาวที่จะถึงนี้หละ?
    ก็มีรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ Boston Herald ออกมาว่าบริษัท บริษัทในบอสตันของสหรัฐฯกำลังมีแผนจะสร้างโรงงานผลิตพลังงานชีวภาพ 20 แห่งทั่วยูเครนเพื่อช่วยเหลือประเทศยูเครนให้ลดการพึ่งพาแก๊สจากรัสเซีย (และกันมาพึ่งพาแบบผูกขาดจาก biofuel ของสหรัฐฯแทน ฮ่าๆๆ เจริญหละยูเครนเอ๋ย... อ้อ… นึกอะไรออกแล้ว เรากำลังจะมีตลาดใหม่สำหรับระบายข้าวเน่าออกไปได้แล้วสินี่ ขายให้ยูเครนเอาไปทำพลังงานชีวภาพไง ซื้อมาในราคาตันละ 15,000 ส่งออกตันละ 2,000 - 3,000 ดีป๊ะ?)
    The Eyes
    01/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Vladimir Sergeev

    ----------
    German Farmers Protest Against Low Dairy Prices in Berlin
    Gazprom Neft Expects Sanctions Lawsuit Against EU to be Assessed in 2016
    EU to Drop Sanction Policy, Revive Cooperation With Russia
    https://www.iisd.org/g…/biofuel-subsidies/biofuels-what-cost
    http://www.ft.com/intl/cms/s/0/22bbd5ba-975f-11e4-be9d-00144feabdc0.html
    Alternative Fuels Data Center: Fuel Prices
    Today in Energy - Daily Prices - Prices - U.S. Energy Information Administration (EIA)
    https://www.youtube.com/watch?v=ez3deyUo8IA
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    You wanna play a dangerous game? Umm… then let's do it! ปูตินบอกว่าจะดัมพ์ดอลล่าร์ทิ้ง, ยูเครนประกาศยุติความร่วมมือทางกองทัพรัสเซีย, รัสเซียบอก ดี… งั้นห้ามไม่ให้บริษัทของยูเครนเข้าประกอบกิจการในไคร์เมียแม้จะได้รับใบอนุญาตก่อนผนวกไคร์เมียเข้ากับรัสเซียแล้วก็ตาม มันส์ครับท่าน

    [​IMG]

    ------------
    1.) โพสต์นี้จะเล่ารวบกัน 3 ข่าวนะครับ ข่าวแรก RT news พาดหัวข่าวว่า "Putin says dump dollar" (ปูตินกล่าวว่าจะเทดอลล่าร์ทิ้ง) อูยยยยส์ โปรอเมริกาจะทำใจได้หรือนี่ "เสรีภาพ ประชาธิปไตย ปูตินทำอย่างนี้ได้ไง?" ก็นี่แหละเสรีภาพและอธิปไตยของรัสเซียและประเทศอื่นๆที่ไม่ยอมก้มหัวให้จักรวรรดิเฮเกหละ
    รายงานข่าวบอกว่า ปธน.วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซียได้ร่างกฎหมายขึ้นมาฉบับหนึ่ง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัด (eliminate) เงินดอลล่าร์ของสหรัฐฯ และเงินยูโรออกจากการค้าระหว่างประเทศในกลุ่ม CIS (เครือรัฐเอกราชที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต Commonwealth of Independent States) RT เขียนเอาไว้ว่านี่เป็นการสร้างตลาดการเงินเพียงแห่งเดียวระหว่าง รัสเซีย อาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีสถาน ทาจีกิสถาน และประเทศอื่นๆจากอดีตสหภาพโซเวียต
    แถลงการณ์จากกรุงเครมลินกล่าวว่า "[กฎหมาย] ฉบับนี้จะช่วยขยายการใช้สกุลเงินหลักของประเทศต่างๆในการชำระเงินเพื่อการค้าและการให้บริการด้านการเงินในต่างประเทศ และเป็นการสร้างปัจจัยพื้นฐานให้กับสภาพคล่องในตลาดสกุลเงินภายในประเทศได้มากขึ้น" (ว้าววว! แนวคิดของปูตินช่างแตกต่างจากแนวคิดและการดำเนินการของฝ่ายมหาอำนาจอย่างจักรวรรดิเฮเกที่ต้องการให้เงินดอลล่าร์ของตนเองเป็นสกุลเงินของของโลกกันคนละขั้วเลยอ่ะ นี่สิประชาธิปไตยที่แท้จริงทุกสกุลเงินมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ทำไมต้องยกอภิสิทธิ์ให้สกุลเงินเดียวอยู่เหนือสกุลเงินอื่นๆทั่วโลกด้วย นี่เศรษฐกิจการเงินระหว่างประเทศแนวใหม่สไตล์รัสเซียเลยนะนี่)
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า กฎหมายฉบับนี้ยังจะช่วยอำนวนความสะดวกให้กับการค้าและช่วยให้บรรลุความมั่นคงในเศรษฐกิจมหภาคด้วย (แหล่ม) ภายใต้กรอบความร่วมมือของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EEU) ประเทศต่างๆได้ร่วมกันถกเถียงถึงความเป็นไปได้ของใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าขายระหว่างกัน (switching to national currencies) ตามข้อตกลงระหว่างรัสเซีย เบลารุส อาร์เมเนีย และคาซัคสถานนั้น จะมีการถ่ายโอนพันธกรณีในการชำระเงินด้วยสกุลเงินแห่งขาติของประเทศต่างๆ ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นในปี 2025-2030 (ที่จะถึงนี้)
    ปัจจุบัน 50 เปอร์เซ็นต์ของการซื้อขายใน EEU ใช้เงินดอลล่าร์และเงินยูโร ซึ่งเป็นการเพิ่มการพึ่งพาอาศัยกันของสหภาพในกลุ่มประเทศเหล่านี้ให้ออกสกุลเงินเหล่านั้น นอกจาก CIS และ EEU แล้ว รัสเซียและจีนได้พยายามที่จะลดการครอบงำ (/อิทธิพล) ของเงินดอลล่าร์ลงเช่นกัน (ได้เวลาเชือดดอลล่าร์ทิ้งแล้ว ไม่ต้องรีบ สไตล์ปูตินก็คือค่อยๆเชือดทิ้งไปทีละนิดๆ ไม่ให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมมาก)
    2.) ข่าวที่สองวันที่ 31 ส.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ยูเครนระงับข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงกับรัสเซีย" (Ukraine Terminates Deal With Russia on Defense Industry Cooperation) (หุ่นเชิดของจักรวรรดิเฮเกก็เป็นอย่างนี้แล) รายงานข่าวบอกว่ากรุงเคียฟได้ยุติข้อตกลงในความร่วมมือด้านเทคนิควิทยาศาสตร์กับรัสเซีย ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ที่มีการลงนามร่วมกันตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 1993 (เมื่อวันก่อนยูเครนพึ่งจะขนเครื่องยนต์เฮลิค็อปเตอร์ของตนเองไปจัดแสดงในงานแอร์โชว์ MAKS-2015 ที่รัสเซียเองนะ วันนี้เก็บของกลับบ้านแล้วบอกว่าเลิก ไม่ร่วมมือกับรัสเซียอีกแล้ว พิลึกแท้!)
    3.) ข่าวที่สาม เมื่อยูเครนกล้าที่จะเล่นเกมอันตรายทุบหม้อข้าวตัวเองแบบนี้ งั้นรัสเซียก็จัดให้ วันต่อมา (1 ก.ย.58) Sputnik พาดหัวข่าวว่า "บริษัทสัญชาติยูเครนถูกปฏิเสธไม่ได้เข้าถึงความมั่งคั่งในแผ่นดินย่อยของรัสเซียในทะเลดำ" (Ukrainian Companies Denied Access to Russia’s Subsoil Wealth in Black Sea) ซวยแล้วไหมหละยูเครน... หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ
    รายงานข่าวจากฝั่งรัสเซียบอกว่า วันอังคารนี้รัฐบาลรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ว่า "บริษัทต่างๆที่ยูเครนออกใบอนุญาตให้ก่อนที่จะมีการรวมแหลมไคร์เมียเข้ากับรัสเซีย จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงแหล่งทรัพยากรพลังงานใต้ทะเลดำและทะเลอาซอฟอีกต่อไป หากพบว่ามีกิจกรรมเช่นนั้นเกิดขึ้น จะถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัสเซีย" (ไม่รู้ว่ามีบริษัทต่างชาติกี่แห่งที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในทะเลดำและทะเล Azov จากรัฐบาลยูเครนและไคร์เมียก่อนหน้านี้ งานนี้คงจะมีใครถูกหวยรัปทานไปหลายรายแน่ๆ อยากรู้ไหมว่างานนี้ใครจะโดนหางเลขบ้าง? งั้นอ่านต่อนะครับ มันส์ คริๆ)
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ก่อนที่จะรวมไคร์เมียเข้ากับรัสเซียอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2014 นั้น บริษัท Chornomornaftogaz ซึ่งเป็นของรัฐของยูเครนมีแหล่งไฮโดรคาบอน (hydrocarbon) จำนวน 17 แห่ง รวมทั้งแหล่งแก๊สธรรมชาติอีก 11 แห่ง และแหล่ง gas condensate 4 แห่ง บ่อน้ำมันดิบ 2 แห่ง แท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งอีก 13 แห่งทั้งในทะเลดำและทะเลอาซอฟ
    ในบรรดาบริษัทต่างชาติหลายบริษัทที่สนใจในสินทรัพย์ hydrocarbon นอกชายฝั่งของไคร์เมียก็มีบริษัท ExxonMobil (ของสหรัฐฯ), Royal Dutch Shell (ของเนเธอแลนด์และอังกฤษ) และ Petrom (ของโรมาเนีย) รวมอยู่ด้วย
    Chornomornaftohaz ของยูเครน มีผลประโยชน์ 100% ในการออกใบอนุญาตนอกชายฝั่งทั้ง 5 แห่งซึ่งประกอบด้วย Vostochno-Kazantipskoe ในทะเลอาซอฟ, และ Odesskoe, Bezymiannoe, Subbotina และ Palasa ในทะเลดำ
    จบเห่เลยยูเครน... นี่ไม่ใช่การอายัด แต่เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะยึดทรัพยากรณ์เหล่านั้นมาเป็นของรัสเซียเพราะว่าอาณาเขตเหล่านั้นได้ตกเป็นของรัสเซียไปแล้ว บริษัทต่างชาติที่สูญเสียผลประโยชน์ในครั้งนี้ก็ไปฟ้องร้องค่าเสียหายเอาจากรัฐบาลยูเครนหุ่นเชิดของจักรวรรดิเฮเกก็แล้วกัน มิน่าหละว่าทำไมสหรัฐฯ นาโต้และยูเครนถึงรีบจัดซ้อมรบขึ้นมาในทะเลดำ
    The Eyes
    01/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Taras Litvinenko

    ----------
    Putin says dump dollar — RT Business
    Ukrainian Companies Denied Access to Russia’s Subsoil Wealth in Black Sea
    Ukraine Terminates Deal With Russia on Defense Industry Cooperation
    US-Ukraine Drills to Aggravate Donbass Conflict, Provoke Russia - Lawmaker
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts&pnref=story

    "ต้องด่า FED ที่ทำให้ตลาดหุ้นพัง ไม่ใช่จีน" - รอน พอล อดีตวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯกล่าว (Ron Paul: Blame the Fed, Not China for Market Crash)

    [​IMG]

    [​IMG]

    --------------
    เมื่อวานนี้อ่านเจอบทความหนึ่งของนักการเมืองผู้มีวิสัยทัศน์ของสหรัฐฯที่ Sputnki นำมาลงข่าว เห็นว่าน่าสนใจมาก จึงขอแปลมาให้แฟนเพจได้อ่านบ้าง เป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ไปที่มาของสาเหตุการที่ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงระนาวเมื่อสัปดาห์ก่อน ในมุมมองของนาย Ron Pual ซึ่งเป็นคุณหมอ นักเขียน นักการเมืองชาวอเมริกัน เป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกัน อดีตผู้แข่งขันลงสมัครประธานาธิบดีของสหรัฐฯ 2 สมัย ปัจจุบันอายุ 80 ปี
    สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียเกริ่นนำว่า "การที่ตลาดหุ้นพังเป็นครั้งประวัติศาสตร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ได้มีสาเหตุมาจากจีน แต่มีสาเหตุมาจากธนาคารกลางของสหรัฐฯ (US Federal Reserve) ตามความเห็นของ Ron Paul อดีตวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ"
    ในคอลัมน์ (FEATURED ARTICLES) ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์ของของเขา (The Ron Paul Institute for Peace and Prosperity - สถาบัน Ron Paul เพื่อสันติและความเจริญรุ่งเรือง) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Paul ได้ตำหนิความผิดพลาดเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินที่มีข้อบกพร่องของเฟด และไม่ใช่เพราะการลดค่าเงินหยวนของจีนเมื่อเร็วๆนี้ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าว
    อดีตวุฒิสมาชิกจากรัฐเท็กซัสกล่าวว่า "นโยบายเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯเป็นการบิดเบือนเศรษฐกิจ (distort the economy) สร้างฟองสบู่ขึ้นมา ซึ่งในทางกลับกันก็ได้ทำให้ตลาดหุ้นเฟื่องฟูด้วย และสร้างภาพลวงตาของความร่ำรวยออกไปอย่างกว้างขวาง ฟองสบู่ได้เกิดระเบิดขึ้นอย่างหลีเลี่ยงไม่ได้ ตลาดพัง และเศรษฐกิจจมลงสู่ภาวะถดถอย"
    Paul กล่าวต่ออีกว่า "การเพิ่มจำนวนสมาชิกนิติบัญญัติของอเมริกา ถือว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่ถูกต้องเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในระบบการเงินของสหรัฐฯด้วยการบังคับให้เฟดปฏิบัติตามนโยบายการเงินที่อยู่บนกฎระเบียดต่างๆ"
    "การบังคับให้เฟดปฏิบัติตามกฎระเบียบไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่าการให้อำนาจแก่ธนาคารกลางลับเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ย เป็นสูตรสำหรับ (แก้ไข) ความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยต่างๆเป็นราคาของเงิน ( Interest rates are the price of money) และก็เหมือนกับราคาของสิ่่งอื่นๆทั้งหมด ซึ่งควรจะมีการกำหนดโดยตลาด ไม่ใช่โดยธนาคารกลางและแน่นอนว่าไม่ใช่โดยสภาคองเกรส คองเกรสควรจะเริ่มทำการฟื้นฟูระบบการเงินในตลาดเสรีมากกว่า" พอลกล่าว
    อดีตผู้สมัครแข่งขันประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า "ขั้นตอนแรกก็คือผ่านการตรวจสอบและกฎหมายเกี่ยวกับเฟด เพื่อให้ประชาชนสามารถเรียนรู้ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเฟดได้ในที่สุด สภาคองเกรสควรจะผ่านร่างกฎหมายที่รับประกันได้ว่าประชาชนใดๆสามารถที่ใช้สกุลเงินต่างๆเป็นทางเลือกที่ปราศจากการคุกคามจากรัฐบาล" (รอน พอลนี่แกเป็นนักเสรีนิยมเต็มตัวจริงๆ)
    "เมื่อฟองสบู่ระเบิดออกมาและชนเข้ากับภาวะถดถอย สภาคองเกรสและเฟดควรละเว้นจากการพยายาม 'กระตุ้น' เศรษฐกิจผ่านการเพิ่มการใช้เงิน อนุมัติเงินช่วยเหลือ และการทำให้เงินเฟ้อ หนทางเดียวที่เศรษฐกิจจะฟื้นฟูกลับมาได้ดังเดิมอีกครั้งก็คือสภาคองเกรสและเฟดปล่อยให้ภาวะถอถอย (recession) ทางเศรษฐกิจวิ่งไปจนถึงที่สุด"
    กลยุทธ์นี้จีนนำมาแล้วในช่วงที่ตลาดหุ้นจีนตกรอบที่สามแล้วก็ต่อด้วยวิกฤต Black Moday จีนครั้งนี้จีนบอกชัดเลยว่าจะไม่แทรกแซงตลาดหุ้น หมายถึงไม่อุดเงินเข้าไปอุ้มเหมือนกับสองครั้งแรกอีก มันอยากร่วงก็ปล่อยให้มันร่วงไป เพราะมันลุกลามไปทั่วโลก จะให้จีนแก้ไขคนเดียวได้ไง ถึงทำไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา เหมือนกับสร้างทำนบกั้นน้ำหวังสกัดซึนามิอย่างนั้นหรือไม่ได้ผลหรอก เมื่อสหรัฐฯเห็นว่างานนี้จีนไม่หลงกลอีกแล้ว ก.พาณิชย์ของสหรัฐฯก็ออกมาประกาศว่า อ่ะฮ้าาา ช่วงไตรมาสที่สองนี้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ซะอีก แค่นี้... ตลาดหุ้นในสหรัฐฯกลับมาเป็นบวกทันที และตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกก็ดีขึ้นตามไปด้วยรวมทั้งจีนด้วย ต่อมาราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 5 วันติดๆ มันผิดปรกติไปหรือเปล่า? เมื่อคืนนี้ชะแว็บไปชาร์ตราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯจากเว็บไซต์ของบีบีซีอินเตอร์ดู เริ่มปักหัวดิ่งลงมาแล้วครับ วันนี้ขอดูอีกรอบ เพราะเมื่อคืนนี้อาจจะสายตามัวฟ่าฟางก็ได้ อ้าว! ดิ่งจริงๆอ่ะ จากที่ขึ้นไปถึง 48.3 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในวันที่ 31 ส.ค. วันนี้ตกลงมาอยู่ที่ 44.49 เหรียญต่อบาร์เรลซะงั้น ก็บอกแล้วว่ามันผิดปรกติ มีบางคนกำลังเล่นกลอยู่แน่ๆ อาการขึ้นแบบผิดปรกติแบบนี้ ฝืนธรรมชาติขึ้นต่อไปได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็ตก และมันก็ต๊ก! จริงๆด้วยสิครับท่าน
    กลับมาที่ลุงพอลต่อนะครับ พอลกล่าวต่ออีกว่า "ไม่เพียงแต่จีนไม่ควรจะถูกตำหนิเนื่องจากหุ้นตกเท่านั้น แต่กรุงปักกิ่งได้ซื้อพันธบัตรจากกระทรวงการคลังของสหรัฐฯเอาไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ช่วยให้ประเทศสหรัฐฯอเมริกาเลื่อนวันชำระบัญชีออกไปได้ (postpone the day of reckoning)" (เอิ่มมมม… ดูเหมือนว่างานนี้ประชาธิปไตยจักรวรรดิเฮเกจะได้รับความกรุณาจากคอมมิวนิสต์จีนให้ลอดพ้นจากหายนะที่ตัวเองสร้างขึ้นมานะครับ โปรอเมริกาเซ็งอีกอ่ะดิ.... คริๆ)
    รอน พอล ซัดเฟดอีกว่า "เหตุผลหลักที่ประเทศต่างๆ เช่นจีน มีความกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือด้านการเงินให้กับหนี้สินของพวกเราก็คือ สถานสกุลเงินสำรองของโลกของดอลล่าร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าความกังวลต่อการขาดความรับผิดชอบ (irresponsibility) ทางด้านการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ และความไม่พอใจในนโยบายต่างประเทศของพวกราจะเป็นสาเหตุให้สกุลเงินอื่น (หรือหลายสกุล) เข้าไปแทนที่เงินดอลล่าร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินสำรองทั่วโลก หากว่าสิ่งนี้เกิดขึ้น สหรัฐฯจะเผชิญกับวิกฤตดอลล่าร์ครั้งใหญ่หลวง (แน่ๆ)"
    ท่านรอน พอลไม่ต้องกังวลครับ มันจะเกิดขึ้นแน่ๆ ถ้าท่านติดตามอ่านเพจ "ปอกเปลือก ทรราช" อยู่ประจำท่านก็จะเห็นข่าวที่เกี่ยวกับจีนและรัสเซียและพันธมิตรกำลังสร้างตลาดใหม่ๆขึ้นมาโดยไม่ใช้เงินดอลล่าร์สหรัฐฯเป็นสกุลเงินกลางในการค้าขายระหว่างประเทศในกลุ่มใหม่เช่น SCO, EEU, CIS และ BRICS ต่อไปก็จะเป็น EEU+ASEAN หละครับ เพจนี้นำข่าวแบบนี้มาลงให้อ่านอยู่เรื่อยๆ เมื่อวานนี้ก็พึ่งจะเล่าให้ฟังไปแล้วหนึ่งข่าว เล่นเอาโปรอเมริกาหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปเลย คริๆ
    รอน พอลกล่าวต่ออีกว่า "ยิ่งกว่านั้น ชาวอเมริกันหลายคนเชื่อโดยผิดๆ (many Americans falsely believe) ว่าพวกเขาจะต้องเสียสละเสรีภาพ (liberties) ต่างๆของพวกเขาเพื่อที่จะได้รับความมั่นคงทางเศรษฐกิจและส่วนบุคคล" (ว้าววว! เล่นกันขนาดนั้นเลยหรือจักรวรรดิเฮเก)
    สุดท้ายอดีตวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯก็กล่าวว่า "ท้ายที่สุดแล้ว สหรัฐฯก็จะต้องละทิ้งรัฐรัฐสงคราม (warfare state) สวัสดิการ (welfare state) และระบบกฤษฎีกาทางการเงิน ที่เติมเชื้อเพลิงให้กับความเติบโตของสัตว์ทะเลตัวมหึมา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้น เพราะว่าแนวความคิดของเสรีภาพจะได้รับชัยชนะ ไม่ใช่เพราะว่าวิกฤตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ทำให้รัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่น" (ก็เมื่อนักการเมืองระดับอาวุโสของสหรัฐฯออกมาพูดอย่างนี้แล้ว ก็สงสัยสิว่า ตกลงแล้วในสหรัฐฯนี่มีเสรีภาพตามคำโฆษณาชวนเชื่ออยู่จริงๆหรือ?)
    The Eyes
    02/09/2558

    ภาพจาก BBC - Homepage

    ----------
    Ron Paul: Blame the Fed, Not China for Market Crash
    The Ron Paul Institute for Peace and Prosperity : Blame the Federal Reserve, Not China, for Stock Market Crash
    BBC NEWS | Business | Market Data | Commodities | LIFFE Ice Euro Exchange ICEEUR | West Texas Intermediate Crude Oil Future WBS
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts&pnref=story
    ·
    ช่วงที่กำลังรอข่าวต่อไป ก็คั่นเวลาด้วยคลิปข่าวสงคราม ดูกองทัพเยเมนและนักรบฮูติถล่ม รถหุ้มเกราะและรถถังของยูเออีและซาอุดิอาระเบียไปพลางๆก่อนนะครับ มี 3 คลิป คลิปนี้เมื่อวันที่ 25 ส.ค.58
    https://www.youtube.com/watch?v=wSltbBaTD-8#t

    ส่วนคลิปนี้ฝั่งเยเมนถล่มรถถังของซาอุดิฯด้วยขีปนาวุธต่อต้านรถถังสมัยโซเวียต อีกจุดหนึ่ง วันที่ 28 ส.ค.58 แหล่ม! แล้วก็นักรบฮูติเปิดฉากโจมตีฐานที่มั่น (ป้อม) ทหารของซาอุดิฯในตอนหัวค่ำ ตกกลางคืนก็ลอบเข้าไปวางระเบิด เช้าตรู่ก็กดระเบิดบิ๊กกะบึ้ม เพื่อบันทึกวีดีโอ
    https://www.youtube.com/watch?v=3BFdjHybKqA

    ส่วนคลิปนี้เมื่อวันที่ 29 ส.ค.58 กองกำลังเยเมนซุ่มโจมตีกองทัพซาอุดิฯที่พยายามทำถนนรุกเข้าไปในเยเมน แต่เจอฮูติเข้าไป เละไม่เป็นท่าเลย
    https://www.youtube.com/watch?v=o4Mmid0lKcY
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts&pnref=story

    สิงหาเดือด: ตำรวจสหรัฐฯถูกยิง 6 นาย ประชาชนถูกตำรวจสังหาร 103 นายในสหรัฐฯ กรรม! ประเทศประชาธิปไตย (ปลอม?) เป็นแบบนี้หรือนี่?

    [​IMG]

    --------------
    ข่าวนี่น่าสนใจอีกแล้วครับท่าน... เมื่อวันที่ 1 ก.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "August heat: 6 cops shot, 103 people killed by police in US" โป๊ะเชะ! อะไรจะขนาดนั้น?
    รายงานข่าวบอกว่า ความเชื่อถือระหว่างตำรวจกับประชาชนกำลังดำดิ่งลง เมื่อมีการใช้กองกำลังที่ร้ายแรงซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามกันเป็นอย่างมาก และการปฏิบัติที่โหดร้่ายต่อผู้ต้องสงสัยตกเป็นข่าวยอดฮือฮา (ประชาชน) มีความกังวลต่อเจ้าหน้าที่ (ตำรวจ) เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในการโจมตีผู้ต้องสงสัย ยอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นในเดือนสิงหาคมแต่งแต้มภาพให้เห็นถึงความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก (นั่นแหละสหรัฐฯในวันนี้หละ อย่าบอกนะว่าการนำเสนอข่าวที่เป็นความจริงในแง่มุมหนึ่งของสหรัฐฯแบบนี้เป็นการต่อต้านสหรัฐฯอีก กรรม!)
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ไม่มีองค์กรตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐฯติดตามจำนวนพลเรือนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังหารเลย หนังสือพิมพ์กระแสหลักสองสำนัก The Washington Post กับ The Guardian ได้เก็บบันทึกตัวเลขที่ตำรวจยิง (ประชาชน) ในปี 2015 อยู่ที่ 82 และ 99 รายในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาตามลำดับ ส่วนโครงการ "Killed by Police" (ฆ่าโดยตำรวจ) ซึ่งเริ่มโครงการในเดือนพฤษภาคมปี 2013 ได้เก็บบันทึกเหตุการณ์การเสียชีวิตของพลเรือนโดยฝีมือของตำรวจไว้ทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับวิธีการ (หมายถึงวิธีการที่ตำรวจสหรัฐฯใช้และทำให้พลเรือเสียชีิวิต) ตัวเลขจากการติดตามของโครงการนี้บอกว่ามีพลเรือนเสียชีวิตอยู่ที่ 103 รายในเดือนสิงหาคม และมีถึง 791 รายหรือมากกว่านี้ในปี 2015 (แค่ 8 เดือนเองนะ ต้องมอบรางวัลแชมป์โลกในการสังหารพลเรือนให้กับตร.สหรัฐฯหรือเปล่านี่?)
    ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตได้ลดลงต่ำกว่า 125 รายเมื่อเทียบกับบันทึกในเดือนกรกฎาคม (ปรากฎว่า) จำนวนของตำรวจที่ถูกผู้ต้องสงสัยสังหารได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (the number of police killed by suspects has risen sharply) - จาก 1 รายในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเป็น 6 รายในเดือนสิงหาคม ตามข้อมูลจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรได้บอกเอาไว้ว่าการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
    ส่วนรายละเอียดที่เหลือต่อจานี้ยาวอ่ะ เอาแค่นี้ก็พอนะครับ ก็สรุปว่าอาชญากรรมในสหรัฐฯมีมาก ทั้งจากผู้ต้องสงสัยและจากฝีมือของตร.เอง มีองค์กรไหนออกมาเรียกร้องหาความยุติธรรมบ้างไหม? จะมีก็แต่กลุ่มคนผิวสีนั่นแหละ
    The Eyes
    03/09/2558

    ภาพจาก Police in an armored car confront protesters gathered after the shooting of Mansur Ball-Bey in St. Louis, Missouri, August 19, 2015. © Kenny Bahr / Reuters

    ----------
    August heat: 6 cops shot, 103 people killed by police in US — RT USA
    Killed By Police - 2015
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts&pnref=story

    ทำไมต่างประเทศถึงกำลังเรียกทองคำคืนจากธนาคารกลางของสหรัฐฯ? กรรม! หละสิครับคราวนี้ ซวยแล้วอเมริกาเอ๋ย

    [​IMG]

    --------------
    เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Why Are Foreign Countries Repatriating Gold From US Federal Reserve?" (แปลตามชื่อโพสต์ข้างต้นนั่นหละครับ) ไม่ใช่เรื่องเล่นๆซะแล้วสิงานนี้
    รายงานข่าวกล่าวว่า ธนาคารกลางของต่างประเทศหลายแห่งได้กลับมาถอนทองคำสำรองของตนเองออกจากธนาคารกลางของสหรัฐฯ (US Federal Reserve - FED) ตามรายงานล่าสุดของเฟด การส่งทองคำคืนได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นปี 2014 ในช่วงเวลานั้น ได้มีการถอนยอดรวมทั้งหมดของทองคำจริงจำนวน 250 ตันออกจากธนาคารกลางของสหรัฐฯ ทองคำสำรองที่ฝากไว้ลดลงไปที่ 5,950 ตัน เป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 20 ปี
    รายงานจาก Vesti.ru บอกว่า "ครั้งล่าสุดสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้ได้เกิดขึ้นก่อนเกิดวิกฤตทางการเงินในปี 2008 และธนาคารกลางของต่างประเทศได้ถอนทองคำออกไปเกือบ 400 ตัน จึงสรุปได้ว่าการถอนทองคำในปัจจุบันนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2014 และปีนี้ก็จะเป็นวิกฤตครั้งใหม่เกิดขึ้นอีก ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย"
    ต่างประเทศมีความพยายามอย่างยิ่งในครั้งแรกที่จะให้มีการส่งทองคำสำรองของตน (ที่เก็บไว้ที่สหรัฐฯ) ได้เริ่มต้นเป็นครั้งแรกในปี 2012 ในช่วงเวลานั้น ประเทศเยอรมันนีได้พยายามที่ถอนทองคำของตนกลับ แต่ก็ถูกปฏิเสธที่จะให้มีการตรวจสอบ และ (เยอรมัน) ได้รับทองคำกลับคืนไปเพียงกระจึ๋งเดี่ยว (only a small portion) เท่านั้นจากที่วางแผนเอาไว้ที่ 700 ตัน (เฮ้อ… มีงี้ด้วยอ่ะ เจ้าของทองคำไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของตนเองได้ ตกลงว่าจักรวรรดิเฮเกมีทองคำสำรองอยู่จริงหรือเปล่านี่? เห็นคุยนักคุยหนาว่ามีทองคำสำรองมากที่สุดในโลก เพราะหลอกให้ประเทศต่างๆเอาไปฝากไว้แล้วก็บอกว่าเป็นทองคำสำรองของตัวเองหรือเปล่า? มันน่าสงสัยอยู่นะ พอใช้ทองคำหมดแล้วก็หันไปใช้น้ำมันเป็นสินทรัพย์ในการค้ำประกันพิมพ์ธนบัตรและกำหนดมูลค่าเงินดอลล่าร์ของตัวเองแทน ในขณะที่จีนและรัสเซียและประเทศอื่นๆยังใช้ทองคำเป็นทุนสำรองในการพิมพ์ธนบัตรอยู่)
    ในบทความ (ของ Vesti.ru ?) กล่าวเอาไว้ว่า "ท่ามกลางวิกฤต (เศรษฐกิจ) ทั่วโลก อย่างต่อเนื่อง ความไว้วางใจธนาคารกลางของสหรัฐก็กำลังลดลง บทบาททางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ (ภูมิรัฐศาสตร์) ของสหรัฐฯได้ปรากฎอย่างเห็นได้ชัดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การประกาศใดๆของเฟดที่ตั้งใจว่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทำลายเสถียรภาพ (destabilization) ในตลาดทางการเงินและคอมโมดิตี้ทั่วโลก" (ว้าวว! เขาจะทำอย่างนั้นเพื่ออะไร? ทำลายตลาดการเงินทั่วโลกเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย แล้วจักรวรรดิเฮเกจะเดินหมากอย่างไรต่อไป?)
    นอกจากนี้แล้วเฟดยังสามารถสร้างความกดดันให้กับระบบการเงินของยุโรและกลุ่มประเทศอื่นๆในยุโรปได้อีกด้วย (อัยย๊ะ! ก็ไหนว่าเป็นพันธมิตรกันกับยุโรปไง แล้วทำไมเพื่อถึงทำกับเพื่อนได้หละนี่?) บางที แม้ว่าเหล่าพันธมิตรของสหรัฐฯแอบต้องการที่จะกำจัดอำนาจของเฟดออกไปและกำลังมองหาหนทางใหม่ๆเพื่อที่จะกระทำเช่นนั้น การถอนทองคำออกไปเมื่อเร็วๆนี้อาจจะเป็นก้าวย่างที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายก็ได้ (เยสสสสส! เสียใจด้วยนะครับโปรอเมริกาเอ๋ย แม้กระทั่งอียูมหามิตรของจักรวรรดิเฮเกก็ยังไม่ไว้ใจพี่เบิ้มอันธพาลอีกแล้วอ่ะ)
    ในจดหมายเปิดผนึกของ Keith Neumeyer ประธาน บริษัทมหาชน First Mining Finance ที่ส่งถึงหน่วยงานกำกับดูแลอนุพันธ์ของสินค้าโภคภัณฑ์ ที่เรียกว่า CFTC (Commodities Futures Trade Commission) ของสหรัฐฯได้เน้นย้ำว่า "การกระทำของผู้ผลิตตัวจริงในโลกและผู้ซื้อไม่ได้ถูกกำหนดโดยปฏิบัติการต่างการในตลาดการเงิน ที่มีการดำเนินการแต่เพียงบนกระดาษเท่านั้น"
    ในบทความได้กล่าวเอาไว้ว่า "จีนได้เพิ่มปริมาณทองคำสำรองถึง 600 ตัน ไม่มีเหตุผลอันควรที่พูดถึงว่ามีความต้องการทองคำต่ำลง (อย่างที่นาย Warren Buffett พยายามออกมากล่อมนักธรุกิจหน้าใหม่ว่าให้ทิ้งทองคำซะ หันไปหาน้ำมันกับดอลล่าร์ของสหรัฐฯดีกว่า ส่วนตัวเองก็จะแอบซ้อนซื้อไว้เยอะเอง - อันนี้เคยอ่านเจอพอจะจำได้ประมาณนี้แหละ) ภายใต้สถานการณ์นี้ราคาทองคำก็จะสูงขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับไม่เป็นเช่นนั้น" (เพราะอะไร? ฮ่าๆๆ ต้องถามเฮียสีกับเฮียปูตินแล้วหละครับ ทั้งสองท่านอาจจะบอกว่า ก็ตอนนี้ยังหว่านซื้อทองคำสำรองได้ไม่มากพอเลยอ่ะ เขาเก็บเข้าไว้ในคลังมากกว่านี้ก่อน แล้วค่อยปล่อยราคาให้กระจายไปเลย ตอนไหนหรือ? ก็ตอนจะเชือดดอลล่าร์นั่นแหละครับ คริๆ อันนี้แอ็ดมินมโนเล่นๆนะครับ ฮ่าๆๆ)
    กลายเป็นว่าในขณะที่ราคาในตลาดระบุว่าทองคำไม่มีท่าทีว่าจะดี ลูกค้าที่แท้จริงก็ยังพากันแห่ซื้อทองคำในปริมาณที่มาก (แปลกดีไหมหละ? บางคนออกมาปล่อยข่าวว่าทองคำหนะไม่ดีหรอก อย่าไปเก็บไว้มากเลย เอามาเก็บไว้ที่สหรัฐฯให้สหรัฐฯผลาญดีกว่า แต่ลูกค้าทั่วไปกลับไม่คิดอย่างนั้น ปากอาจจะพูดเป็นนกแก้วนกขุนทองตามสหรัฐฯ แต่รับซื้อหมด ฮ่าๆๆ)
    พูดถึงเรื่องทองคำ มีอีกข่าวหนึ่งจะนำมาเล่าให้ฟังครับ เป็นข่าวจากฝั่งจีน เมื่อวันที่ 1 ก.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว People's Daily Online ของจีนพาดหัวข่าวว่า "China's identified gold resource ranks world's second" (จีนถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีทรัพยากรทองคำมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก) ว้าววว!
    รายงานข่าวบอกว่า เป็นเวลามากกว่าสิบปีในการพัฒนา ตลาดทองคำของจีนได้กลายเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก ในปัจจุบันนี้ จีนมีทรัพยากรทองคำถึง 9,816 ตัน อันอันดับที่สองของโลก ตามรายงานฟอรั่มเกี่ยวกับทองและเหมืองแร่ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ในปี 2014 จีนผลิตทองคำออกมาถึง 451.80 ตัน และยังคงเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 8 การบริโภค (การซื้อขาย) ทองคำมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นถึง 886.09 ตันในปี 2014 (อัยย๊ะ! อยู่อันดับที่เท่าไรไม่รู้สินี่? แล้วอย่างนี้โปรอเมริกาจะไม่ออกมาชักดิ้นชักงออ้างเรื่องเผด็จการกับประชาธิปไตยอีกรึ? คริๆ)
    จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยโดยธนาคารกลางของจีนเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า จีนถือทองคำแท่งเอาไว้ถึง 1,677 ตันเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม คิดเป็น 1.7% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และเป็นอันดับที่ 5 ในแง่ของทุนสำรองที่เป็นทองคำ ซึ่งตามหลังสหรัฐฯ เยอรมัน อิตาลี และฝรั่งเศส
    รายงานจาก bloomberg เมื่อวันที่ 17 ก.ค.58 บอกว่าจีนเพิ่มปริมาณทองคำสำรองเป็น 53.31 million troy ounces หรือประมาณ 1,658 metric tons ในขณะที่สหรัฐฯมีอยู่ 8,133.5 tons (แต่ตรวจสอบไม่ได้ ก็จึงไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่ นี่แหละคือปัญหา) ข้อมูลจาก World Gold Council บอกว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ จีนมีทองคำสำรองอยู่ที่ 1,054.1 ตัน (อันดับท่ี 7) สหรัฐฯมี 8,133.5 ตัน อันดับที่ 1 ณ เดือนก.ค.58 ก็มีเท่าเดิมไม่เพิ่มขึ้นเลย แล้วถ้าประเทศต่างๆถอนออกไปจะเหลือเท่าไรหละนี่? (อ้อของไทยเราอยู่อันดับที่ 26 มีทองคำสำรองอยู่ที่ 152.4 ตัน มาเลเซียที่บอกว่ากำลังจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และพึ่งจะมีการประท้วงการคอรัปชั่นของผู้นำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีทองคำสำรองอยู่ 35.8 ตันอยู่อันดับที่ 51 เดี๋ยวหาประเทศลาวให้พี่น้องชาวลาวที่เป็นแฟนเพจก่อนนะครับ อ้อ… เจอแล้วลาวอยู่อันดับที่ 70 มีสำรองอยู่ 8.9 ตันคิดเป็น 31.4% ของทุนสำรองระหว่างประเทศสูงกว่าเมียนม่าร์และกลุ่มประเทศบอลติกในยุโรปตะวันออกอีกนะ ฮ่ะ… แคนาดามีอยู่ 3 ตัน ตลกหละ จากทั้งหมด 100 ประเทศ)
    ป.ล.ในภาพที่เป็นกราฟทองคำสำรองของ 10 ประเทศนั้นตอนนี้จีนแซงรัสเซียขึ้นมาเป็นที่ 5 รัสเซียเปลี่ยนไปอยู่อันดับที่ 6
    The Eyes
    03/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Vitaliy Bezrukih

    ----------
    Why Are Foreign Countries Repatriating Gold From US Federal Reserve?
    http://en.people.cn/n/2015/0901/c90000-8944468.html
    https://www.google.com/url?sa=t&rct...FS.pdf&usg=AFQjCNHVadUWPXHENeFIep5dov8ilBCNFQ
    Top 10 Countries with the Largest Gold Reserves | Gold Reserve by Country
    • Countries with largest gold reserves 2015 | Statistic
    China Ends Mystery of Gold Hoard to Top Russia’s Holdings - Bloomberg Business
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts&pnref=story

    จีนเทขายพันธบัตรสหรัฐฯทิ้งเพื่อแบ็คอัพเงินหยวน เอาแล้วไงยุทธศาสตร์ฆ่าดอลล่าร์มาอีกยกแล้วครับท่าน

    [​IMG]

    --------------
    เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "China Sells Major Part of US Gov’t Bonds to Back Up Yuan" ว้าวววว! ซวยแล้วจักรวรรดิเฮเก นั่งไม่ติดหละสิ เหงื่อตกซิบๆเลยสิงานนี้
    Sputnik อ้างรายงานจากสำนักข่าว DWN ของเยอรมัน (ข่าวแบบนี้ในยามนี้เยอรมันชอบ คริๆ) ว่า "ในระยะเวลาเพียงแค่สองสัปดาห์ จีนได้หั่นการถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐฯลงซึ่งมีมูลค่าราว $100,000,000,000 (ประมาณ 3.55 ล้านล้านบาท ไม่ใช่น้อยๆนะนั่นหนะ) กรุงปักกิ่งมีความชอบธรรมในการดำเนินมาตรการนี้เพื่อสนับสนุนเงินหยวน อย่างไรก็ตามการดำเนินการในครั้งนี้ยังสามารถมองได้ว่าเป็นการ (ส่งสัญญาณ) เตือนที่ชัดเจนไปยังสหรัฐอเมริกา" (เยสสสส! เลิฟเฮียสีจังเลย อุเหม่… แล้วโปรอเมริกาจะออกมาดิ้นว่าคอมมิวนิสต์รังแกประชาธิปไตยอีกหรือเปล่าหละนี่? คริๆ อ่ะขอนิดนึงครับ โปรอเมริกาอย่างอนแอ็ดมินเลยนะครับ อ่านต่อเหอะนะ กำลังหนุกเลยนี่ แบบว่าอ่านไปกัดฟันไปด้วยอ่ะ ฮี่ๆๆ)
    DWN รายงานว่า จีนได้ลดการถือครองสินทรัพย์ของสหรัฐฯลงอย่างมโหฬาร (massively reduced) ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งได้แจ้งให้รัฐบาลของสหรัฐฯทราบเกี่ยวกับการขายพันธบัตรในครั้งนี้ แต่ยังไม่ได้ระบุถึงขอบเขต (จำนวน) ที่แน่นอนเกี่ยวกับการจำหน่ายในครั้งนี้ (ก็ประมาณว่า สหรัฐฯจะหาเรื่องจีนต่อไปอีกไหม? ถ้ายังจะเล่นเกมสงครามการเงินและเศรษฐกิจกับจีนต่อ งั้นจีนก็จะตอบโต้บ้างหละนะ ไหนวันก่อนเห็นมีใครออกมาบอกว่าจะแซงชั่นจีนไม่ใช่รึ? มาดิคราวนี้ จีนจะสวนกลับให้ดู ฮี่ๆ)
    สำนักข่าว Bloomberg อ้างถึงแหล่งข่าวภายในโดยรายงานว่าธนาคารกลางของจีนได้ขายพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐฯทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ภายในช่วงเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางของจีนยังได้ลดการถือครองสกุลเงินแลกเปลี่ยนต่างประเทศสำรองของจีนถึง 315,000,000,000 ดอลลล่าร์สหรัฐฯ (ก็ไม่มากไม่มายอะไรครับแค่ประมาณ 11.18 ล้านล้านบาทเอง งานนี้รัฐบาลสหรัฐกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่เหงื่อตกซิบๆแน่ เล่นกับใครไม่เล่น)
    รายงานบอกว่าขั้นตอนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ตลาดการเงินของจีนมีเสถียรภาพ (หมายความว่าไง? ถ้าจีนถือครองดอลล่าร์สหรัฐฯมากๆ จะทำให้ตลาดการเงินของจีนไม่มีเสถียรภาพอย่างนั้นรึ? แหม… แอ็ดมินก็แปลตรงเกินไป เขาอุตส่าห์พูดแบบรักษาน้ำใจสหรัฐฯแล้วนะนี่ ฮ่าๆๆ)
    รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา จีนได้เริ่มลดค่าเงินหยวนและได้เทขายพันธบัตรของสหรัฐฯเพื่อสนับสนุนการปรับลดค่าเงินหยวน Bloomberg อ้างคำพูดของตัวแทนจากกลุ่มธนาคาร Citigroup Inc ในฮ่องกงว่า "ธนาคารกลางจะแทรกแซงในตลาดการแลกเปลี่ยนงานตราต่างประเทศบ่อยครั้งขึ้นในช่วงเวลาสามเดือนข้างหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าสกุลเงินหยวน (ของจีน) มีเสถียรภาพ" (นั่นคือเหตุผลแบบสุภาพในทางเศรษฐศาสตร์ แต่ถ้าเป็นทางการเมืองระหว่างประเทศก็จะมองอีกแบบหนึ่ง แบบไหนรึ? ก็เชือดดอลล่าร์ไงครับท่าน)
    รายงานข่าวยังย้ำหัวตะปูต่อไปอีกว่า "ในขณะเดียวกันนโยบายสกุลเงินของจีนกำลังกลายเป็นปัญหาสำหรับสหรัฐฯเพ่ิมมากขึ้นเรื่อยๆ การเทขายพันธบัตรของสหรัฐฯครั้งใหญ่ในหนนี้ อาจจะลดผลกำไรจากการซื้อขายสินทรัพย์ในสหรัฐฯอย่างมีนัยสำคัญ"
    Zero Hedge เขียนเอาไว้ว่า "โปรดจงจำไว้ในที่นี้เลยว่า ขอบคุณสำหรับการคุกคามของการปรับขึ้นอัตรา (ดอกเบี้ย) ของเฟดที่ปรากฎให้เห็นลางๆ และปัจจัยอื่นๆซึ่งรวมถึงการพุ่งอย่างพรวดพราดของราคาคอมโมดิตี้และความเสี่ยงทางการเมืองแบบแปลกๆ EM currencies (Emerging Market Currencies สกุลเงินในตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่) กำลังร่วงอย่างอิสระ ซึ่งหมายความว่า มันไม่ได้มีแต่จีนเท่านั้นที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการชำระบัญชีในสินทรัพย์ของสหรัฐฯ" (แปลว่าอะไรครับ? ก็น่าจะประมาณว่ากลุ่มประเทศ EM ซึ่งรวมทั้งจีนและรัสเซียด้วยกำลังพากันเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯทิ้งกันนะสิครับ)
    แล้วสหรัฐฯจะว่าอย่างไรบ้างหรือไม่ที่มีบางประเทศกล้าแข็งข้อต่ออาญาสิทธิ์ของจักรวรรดิเฮเกอย่างนี้? พี่เบิ้มยังเสพติดอำนาจการแซงชั่นไม่หายครับ ล่าสุดสำนักข่าว RT news ของรัสเซียก็พาดหัวข่าวว่า "New sanctions: US targets scores of Russian, Chinese, Syrian firms over Iran" (การแซงชั่นรอบใหม่: สหรัฐฯมุ่งเป้าไปที่การทำคะแนนเหนือบริษัทของรัสเซีย จีน ซีเรีย และอิหร่าน)
    รายงานข่าวบอกว่า "สหรัฐฯเตรียมที่จะกำหนดบทลงโทษจำนวนมากต่อบริษัทของรัสเซีย จีน ซีเรีย ซูดาน และอิหร่านหลายบริษัท ซึ่งคิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมต่างๆซึ่งตามความเห็นของกรุงวอชิงตัน เป็นการต่อต้านกฎหมายการไม่แพร่ขยาย (อาวุธนิวเคลียร์) ที่สหรัฐฯดำเนินต่ออิหร่านและซีเรีย" (กรรม! นี่เขายังไม่ตื่นจากฝันหรอกหรือนี่? ยังคิดว่าตัวเองเป็นจ้าวโลกอยู่อีกหรือไง? ตอนนี้โลกเขาได้แบ่งขั้วอำนาจกันอย่างชัดเจนแล้ว ที่สหรัฐฯกำลังพังนี้ไม่ใช่เพราะคนอื่นไปทำ แต่เป็นเพราะสหรัฐฯทำตัวเองทั้งนั้น ตามที่คุณรอน พอลได้เขียนวิจารณ์เอาไว้นั่นแหละ)
    The Eyes
    03/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Edgar Su

    ----------
    China Sells Major Part of US Gov’t Bonds to Back Up Yuan
    New sanctions: US targets scores of Russian, Chinese, Syrian firms over Iran — RT News
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts&pnref=story

    งานนี้ไม่ธรรมดาซะแล้วครับท่าน ใครเตรียมป่วนงาน V-Day ได้เจอดีแน่... เฮียสีส่งเรือรบ 5 ลำเฉียดชายฝั่งอลาสก้า

    [​IMG]

    --------------
    จากสงครามเงิน สงครามแซงชั่น และสงครามเศรษฐกิจ ต่อไปก็เป็น... ซักตั้งจะเป็นไรไปเล่า อยากจะแหย่หนวดมันกรดีนักใช่ไหม? วันนี้ (3 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik พาดหัวข่าวว่า "เรือรบของจีนแล่นเข้าใกล้ชายฝั่งอลาสก้าเป็นครั้งแรก" (ว้าวว! งานนี้เฮียสีแน่มาก)
    ในรายงานครั้งแรกเจ้าหน้าที่จากเพนตากอนของสหรัฐฯรายงานในวันพุธว่า มีเรือรบของจีนจำนวน 5 ลำถูกตรวจพบนอกชายฝั่งอลาสก้า ทางเพนตากอนกำลังจับตาดูเรือจู่โจมจำนวนสามลำของจีน เรือสนับสนุนหนึ่งลำ และเรือสะเทินน้ำสะเทินบกอีกหนึ่งลำ ซึ่งได้เข้าถึงทะเลแบริ่ง (Bering Sea) เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
    ทางเจ้าหน้าที่ (เพนตากอน) ปฏิเสธที่จะบอกว่าเรือรบของจีนเข้าใกล้ชายฝั่งของอเมริกามากขนาดไหน แต่เน้นย้ำว่า เรือรบของจีนยังอยู่ในน่านน้ำสากล (แล้วอยู่ใต้น้ำหละไม่สงกะสัยกันบ้างรึ? หรือว่าสหรัฐฯหาไม่เจอเหมือนกับกรณีของเรือดำน้ำเกาหลีเหนือ 50 ลำที่ทั้งสหรัฐฯและเกาหลีใต้ก็บอกไม่ได้ว่าอยู่ตำแหน่งไหนเมื่อเร็วๆนี้)
    เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯกล่าวกับหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ว่า "นี่จะเป็นครั้งแรกในบริเวณใกล้เคียงของหมู่เกาะ Aleutian Islands ผมไม่คิดว่าพวกเราควรจะกำหนดลักษณะใดๆที่พวกเขากำลังกระทำว่าเป็นการคุกคาม" (เอ้ยยย! มันผิดปรกติของสหรัฐฯอยู่นะ ถ้ามีใครเฉียดเข้าใกล้อาณาเขตของเขา เขาจะรีบออกมาโวยวายทันทีนิ แต่งานนี้บอกว่าจีนไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯซะงั้น เป็นไปได้ไง? ขนาดอิหร่านกับเกาหลีเหนืออยู่คนซีกโลกพี่แกยังบอกว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของจักรวรรดิเฮเกเลย แต่งานนี้มาแปลกอ่ะ โดนปูตินเทดอลล่าร์ทิ้ง โดนเฮียเสียเทขายพันธบัตรทิ้งเป็นจำนวนมาถึงกับเบลอเลยรึ?)
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า เหตุการณ์นี้พึ่งเกิดขึ้นเพียงหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะมีการขบวนพาเหรดของทหารขนาดใหญ่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง ซึ่งหมายถึงการแสดงรำลึกครบรอบ 70 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขบวนพาเหรดจะมีการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์นานาชนิดรุ่นใหม่ๆของจีนเป็นจำนวนมาก (นั่นไง อย่างที่คาดเอาไว้ในตอนต้นเป๊ะเลยไหมหละ)
    เจ้าหน้าที่เพนตาก้อนแนะนำว่า อาจจะมีหลายวิธีในการตีความการแสดงออกของกองทัพเรือจีนในพื้นที่ดังกล่าวในครั้งนี้ (อ้อ… ได้ยินข่าวว่าช่วงนี้นายโอบาม่าไปปราศัยเกี่ยวกับเรื่องสภาพแวดล้อมเรื่องดินฟ้าอากาศที่อลาสก้าอยู่นิ นั่นคือข้ออ้างบังหน้า แต่จริงๆก็คือเพื่อแข่งขันการเจาะน้ำแข็งแย่งทรัพยากรใต้ทะเลกับรัสเซียตะหาก งานนี้โอบามามีอาการเหงื่อตกแน่แม้จะอยู่ที่ขั้วโลกเหนือก็ตาม ฮี่ๆๆ)
    เจ้าหน้าที่ของเพนตากอนกล่าวกับ The Wall Street Journal ของสหรัฐฯว่า "มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ตรงๆ แต่นั่นแสดงให้เห็นว่าบางคนสนใจในพื้นที่อาร์ติก" (เห็นมะ ปากก็บอกว่าไปเรื่องสิ่งแวดล้อม กลัวน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือจะละลายทั่วโลก แต่จริงๆแล้วเรื่องน้ำมันกับก๊าซใต้ชั้นน้ำแข็งตะหากหละ)
    รายงานข่าวบอกว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างที่ประธานาธิบดีบารัคโอบาม่าไปเยี่ยมรัฐอลาสก้าพอดี จุดประสงค์ก็เพื่อเน้นผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน เนื่องจากน้ำแข็งในทะเลลละลายเร็วมาก มีประเทศต่างๆที่กำลังอ้างกรรมสิทธิ์ในอาร์คติกที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังงาน ประเทศสหรัฐฯ แคนาดา นอร์เวย์ รัสเซีย และเดนมาร์ก ทั้งหมดนี้ต่างก็อ้างกรรมสิทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น (อุ๊… สงสัยแอ็ดมินไม่ต้องแปลข่าวแล้วหละมั๊งนี่ พูดอะไรไป Sputnik ก็พูดตามหมดเลยอ่ะ อันนี้ไม่ได้อ่านก่อนนะขอรับ แปลสดเลย บังเอิญว่าการวิเคราะห์ของแอ็ดมินไปตรงกับที่ข่าวเขาเขียนไว้พอดี)
    กรุงปักกิ่งเป็นหนึ่งในชาติสมาชิกของสภาอาร์คติก (Arctic Council) การดำเนินการในครั้งนี้อาจจะมองได้ว่าเป็นปฏิกิริยาทางตรรกะต่อกองทัพเรือของสหรัฐฯที่ปรากฎมาขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกก็ได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลจีนใต้ ทางกรุงวอชิงตันพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่ามีความกังวลใจเกี่ยวกับการสร้างเกาะเทียมของจีนในหมู่เกาะ Spratly ในขณะที่รัฐบาลจีนได้ให้ความมั่นใจกับสหรัฐฯว่า การก่อสร้างเหล่านั้นจะนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นหลัก (ฮ่าๆๆ สุดยอดวาทะทางการทูตของจีนเลยงานนี้ เอากะเฮียสีสิครับท่าน) ส่วนเพนตากอนก็จัดซ้อมรบทางทหารร่วมกับพันธมิตรของตนในภูมิภาคใกล้น่านน้ำของจีนเช่นกัน (แต่ไม่ได้บอกว่าเพื่อมนุษยธรรมหรือไม่ มุกนี้จีนเอาไปแล้ว สงวนลิขสิทธิ์ด้วย So, don't copy me!)
    รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า กองทัพจีนพึ่งจะเสร็จสิ้นภาระกิจซ้อมรบร่วมกับรัสเซียเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลแบริ่งไปทางตะวันตกราว 2,000 ไมล์ กระทรวงกลาโหมของจีนไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับกรณีเรือรบของจีนเข้าใกล้อลาสก้าในครั้งนี้ (คงจะวุ่นอยู่กับการจัดงาน V-Day และคอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองเป็นจำนวนมากด้วย)
    ป.ล. สำนักข่าวซินหัวถ่ายทอดสด V-Day parade ทางอินเตอร์เน็ทเป็นภาษาอังกฤษด้วย ดูจากลิ้งค์ที่สอง
    The Eyes
    03/09/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Xinhua, Gan Jun

    ----------
    Chinese Warships Maneuver Near Alaska Coast for First Time Ever
    Live: China holds V-Day parade - Xinhua | English.news.cn
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อดีตนักรบไอซิสแฉ ประสบการณ์ภายใต้การปกครองของกลุ่มตักฟีรี
    กลุ่มตักฟีรี ตามที่มีการยืนยันจากกลุ่ม International Rights (สิทธิสากล) ได้ดำเนินการสรรหา และฝึกฝนแนวร่วมรุ่นเยาว์ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการก่อการร้ายหัวรุนแรง ตามอุดมการณ์แบบวาฮาบีตักฟีรี โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 2, 2015

    [​IMG]

    เพรสทีวี – เด็กหนุ่มชาวอิรัก ที่สามารถหนีออกมาจากด้ามปีนของกลุ่มก่อการร้ายดาอิช เผยถึงประสบการณ์ครั้งที่เขาเคยอยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มตักฟีรี

    “พวกเขานำผมไปฝึกในเมือง Tikrit ของอิรักประมาณเดือนหนึ่ง ผมค่อยๆ เรียนรู้การใช้อาวุธจากที่นั่น” โมฮ์หมัด ฟะฮ์มี วัย 16 ปี บอกกับ นักข่าวจากสำนักข่าว Press TV

    ฟะฮ์มี จำต้องระเบิดสะพานหนึ่งในจังหวัดซาลาฮุดดีนของอิรัก เมื่อเขามอบหมายตนอย่างไร้ทางเลือกให้กับกลุ่มดาอิช

    “พวกเขาบังคับให้ผมกระทำสิ่งต่างๆ ที่ผมไม่ได้ทำ ผมจึงลงทะเบียนเป็นมือวางระเบิด”

    เด็กหนุ่มกล่าวเสริม

    เจ้าหน้าที่ตำรวจจากอิรักบอกว่า เด็กได้เคยอาศัยอยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มก่อการร้ายดาอิชมาอย่างน้อย หนึ่งปี

    “เป็นเพราะอาการบาดเจ็บ ผมจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่ได้เข้าร่วมโจมตี ไม่ได้ทำอะไรเลย” เด็กหนุ่มผู้สำนึกผิดกล่าว และเสริมว่า “พวกเขาบังคับให้ผมปฏิบัติการจู่โจมเป้าหมายด้วยรถบรรทุก”

    “พวกเขาผลักผมเขาไปในรถบรรทุก” กล่าว พลางอ้างถึงคำพูดของทหารดาอิช ซึ่งได้กล่างกับเขาว่า “จงไปตาย สวรรค์กำลังรอนายอยู่”

    “ผมอยากจะถามเขากลับว่า ถ้าหากสวรรค์อยู่ตรงนั้น แล้วทำไมเขาจึงไม่ไปหามันเอง ทำไมต้องเป็นเรา” เขากล่าว

    ชัยคฺ คาลิด อะวาด อัล-ชาบานี หัวหน้าเผ่าจากจังหวัด อัล อันบาร์, อิรัก กล่าวในเดือน กรกฎาคมว่า กลุ่มตักฟีรี กำลังพยายามหลอกล่อเด็กๆ เยาวชนประจำท้องถิ่นให้เข้าร่วมขบวนการของพวกมัน เช่น ให้กลายเป็นมือวางระเบิด

    หัวหน้าเผ่ากล่าวเสริมว่า กลุ่มก่อการร้ายได้จัดตั้ง ค่ายสำหรับฝึกฝนเยาวชนให้กลายเป็นผู้ก่อการร้าย แล้วในจังหวัด รักกะฮ์ ประเทศซีเรีย และ เขต ฮีต ในจังหวัด อันบาร์ ของประเทศอิรัก

    ชัยคฺชาวอิรักผู้นี้ได้ให้ข้อมูลว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายกำลังล้างสมองเยาวชนในค่าย และฝึกฝนพวกเขาให้รู้วิธีการวางระเบิด โจมตีจุดตรวจ และพลเมือง

    นายกรัฐมนตรีของอิรัก นาย ฮัยดัร อัล-อาบาดี กล่าวในเดือนมิถุนายนว่า กลุ่มตักฟีรีได้ “ดำเนินการสรรหาเยาวชน (เพื่อปฏิบัติการก่อการร้าย) อย่างเป็นเรื่องเป็นราวแล้วกว่าใน 100 ประเทศทั่วโลก” และเสริมว่า “การใช้ประโยชน์จากเยาวชนให้เป็นเครื่องมือเพื่อใช้การเข่นฆ่า เป็นอาชญากรรมที่เลวทรามต่ำช้าที่สุด”


    คลิ๊กชมคลิปการให้สัมภาษณ์จากเพรสทีวี PressTV - Homepage

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    อดีตนักรบไอซิสแฉ ประสบการณ์ภายใต้การปกครองของกลุ่มตักฟีรี | abnewstoday
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อิสราเอล รื้อทำลายอาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์อีก 15 หลัง
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 1, 2015

    [​IMG]
    @(แฟ้มภาพ เด็กน้อยชาวปาเลสไตน์นั่งร่ำไห้บนอาคารซากปรักพังหัก หลังทหารอิสราเอลรื้อทำลายบ้าน”

    เพรสทีวี – กองกำลังทหารของรัฐเถื่อนอิสราเอล ได้บุกรื้อทำลายอาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์เพิ่มอีก 15 หลัง ณ. หมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กับ รามุลลอฮ์ เขตเวสตแบงก์

    ตามรายงานเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นและผู้เห็นเหตุการณ์ว่า เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2558 มีทหารอิสราเอลจำนวนหนึ่งอาศัยรถแทร็กเตอร์บุกรื้อทำลายอาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ 15 หลัง ในหมู่บ้านอัลญุบอะห์ ซึ่งติดกับเมืองรามุลลอฮ์ เขตเวสตแบงก์

    เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นเผยว่า การบุกรื้อทำลายอาคารบ้านเรือนดังกล่าว ทำให้พลเมืองชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคน

    ตามรายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 17 -18 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ทหารอิสราเอลได้บุกรื้อทำลายอาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์เชื้อสายบาดาวีย์ ในเขตเวสต์แบงก์ จำนวน 40 หลังคาเรือน ทำให้พลเมืองชาวปาเลสไตน์ดังกล่าว จำนวน 130 คน ไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็ก ประมาณ 80 คน

    การรื้อทำลายอาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

    นับจากต้นปี 2011 จนถึงวันนี้ จากการที่อิสราเอลบุกรื้อทำลายอาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ ทำให้พลเมืองปาเลสไตน์ต้องไร้ที่อยู่อาศัยมาแล้ว จำนวน 46,000 กว่าคน

    [​IMG]
    @(แฟ้มภาพ ชีวิตของครอบครัวชาวปาเลสไตน์หลังจากที่อาคารบ้านเรือนถูกอิสราเอลรื้อทำลาย)

    การรื้อทำลายอาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ เป็นหนึ่งในนโยบายของอิสราเอลในการบีบบังคับให้ชาวปาเลสไตน์หนีอพยพออกจาแผ่นดินและดินแดนของตนเอง

    ขณะเดียวกันพลเมืองอิสราเอล แห่เข้าไปพักอาศัยในหมู่บ้านที่ทางการอิสราเอลสร้างขึ้นมาโดยไม่ชอบธรรม นับแสนคน หลังจากที่บุกยึดแผ่นดินปาเลสไตน์ตั้งแต่ปี 1967

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    อิสราเอล รื้อทำลายอาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์อีก 15 หลัง | abnewstoday
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    เอาอีกแล้วไง... เรือบรรทุกผู้อพยพผิดกฎหมายราว 70-100 คนล่มที่มาเลเซีย เสียชีวิต 14 ราย

    [​IMG]

    --------------
    วันนี้สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งโดยเฉพาะสื่อฯกระแสหลักของตะวันตกประโคมข่าวนี้กันน่าดู รายงานข่าวจากฝั่งรัสเซียบอกว่า เรือบรรทุกผู้อพยพ/แรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางราว 100 คนล่มที่รัฐ Selangor ชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย เวลา 10.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายการเดินเรือของมาเลเซีย (Malaysian Maritime Enforcement Agency - MMEA) ได้ส่งทีมกู้ภัยเข้าไปในที่เกิดเหตุ
    สื่อฯรัสเซียรายงานว่า เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ได้ประสบกับวิกฤตผู้อพยพในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มีผู้อพยพจำนวนหลายพันคนที่เดินทางซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายเข้าไปสู่มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆในภูมิภาค หลังจากที่ไทยเริ่มปฏิบัติต่ต้านขบวนการค้ามนุษย์
    ส่วนรอยเตอร์พาดหัวข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 รายเนื่องจากบรรทุกผู้อพยพเกินน้ำหนักจนทำให้เรือพลิกคว่ำในมาเลเซีย รอยเตอร์สบอกว่าเรือที่จมในครั้งนี้เป็นเรือไม้ เชื่อว่าบรรทุกผู้อพยพยผิดกฎหมายชาวอินโดนีเซียหลายสิบคน (คาดว่าประมาณ 70 คน) ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง 13 ราย เรือลำดังกล่าวออกเดินทางจากอำเภอ Sabak Bernam ในรัฐ Selangor ทางตะวันตกของมาเลเซียมุ่งหน้าสู่ Sumatra ในอิโดนีเซียซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน
    ทางเจ้าหน้าที่ MMEA ของมาเลเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อฯว่า "หากพวกเขาเป็นผู้อพยพถูกกฎหมาย พวกเขาจะไม่หนี (ออกนอกประเทศ) ด้วยวิธีแบบนั้น" พอถูกถามกลับว่า "พวกเขาเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายใช่หรือไม่?" เจ้าหน้าที่ MMEA ของมาเลเซียตอบว่า "เรือจมเนื่องจากบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป และสภาพอากาศแย่" (การตอบคำถามในลักษณะนี้ ถ้าพูดแบบภาษาโลกสวยก็จะบอกว่า ถามส้ม ตอบแอปเบิล หรือ ถามมะพร้าว ตอบสับปะรด) ส่วนสำนักข่าว AP ก็รายงานคล้ายกับของรอยเตอร์ส บีบีซีก็อ้างจาก AP
    เอ… เมื่อเร็วๆนี้ ก.ต่างประเทศของสหรัฐฯพึ่งจะเลื่อนอันดับเป็นเทียร์ 2 ให้กับมาเลเซียเองนะ ทำไมมีปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นได้หละนี่ ก่อนหน้านี้ (เมื่อเร็วๆนี้) ก็พึ่งจะมีข่าวใหญ่อีกข่าวหนึ่งเกี่ยวกับผู้อพยพเช่นกัน บอกว่าเจอร่างผู้เสียชีวิตนิรนามหลายร่าง (น่าจะสิบกว่าราย?) ในชายแดนฝั่งมาเลเซียที่อยู่ติดกับไทย (ย้ำ พบที่ฝั่งมาเลเซีย ไม่ใช่ฝั่งไทย) วันนี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับผู้อพยพผิดกฎหมายอีกหละ แต่สื่อฯของตะวันตกยังไม่เล่นมุกขบวนการค้ามนุษย์ในกรณีนี้ เหมือนกำลังรอสัญญาณอะไรบางอย่าง ถ้ามาเลเซียรู้ว่าได้เทียร์ 2 แล้วจะมีแต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น คงจะไม่อยากได้เทียร์ 2 จากสหรัฐฯอีกแล้วหละ (?) เริ่มจะเฉียดใกล้ไทยเราเข้ามาทุกทีแล้วนะนี่ ระวังให้ดีหน่อยนะครับ ทร.ไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    The Eyes
    03/09/2558

    ภาพจาก Rescuers carry a body recovered from a capsized boat believed to be carrying illegal migrants, at a jetty in Hutan Melintang, near Teluk Intan, Malaysia September 3, 2015.
    REUTERS/ THE NEW STRAITS TIMES PRESS/S. RAVALE

    ----------
    Boat With 100 Migrants on Board Сapsizes Off Malaysia
    At least 14 killed as boat overloaded with migrants capsizes off Malaysia | Reuters
    Boat Carrying Migrant Workers Capsizes off Malaysia; 14 Dead - ABC News
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    ปุกาศ! กองทัพสหรัฐฯทำขีปนาวุธหล่นหายจากฮ. Apache ใจกลางมหานครนิวยอร์ค ใครพบเห็นช่วยส่งกลับที (กรรม!), ผู้ว่าฯนิวยอร์คเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต (เอาเข้าปะ อเมริกา)

    [​IMG]

    --------------
    โพสต์นี้มีสองข่าวเกี่ยวกับนิวยอร์คที่จะเล่าให้ฟังนะครับ ข่าวแรก สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าววันนี้ (3 ก.ย.58) ว่า "กองทัพถึงชาวนิวยอร์ค: เราทำมิสไซล์หาย พวกคุณช่วยเราหาหน่อยได้ไหมครับ?" (Army to New Yorkers: We Lost a Missile, Can You Help Us Find It?) (โอยยยย จะฮาหรือจะร้องไห้ดีหละนี่? มีมุกแปลกๆ มาเล่นเรื่อยๆเลยนะอเมริกานี่)
    รายงานข่าวบอกว่า กองทัพสหรัฐฯกำลังขอให้ผู้อยู่อาศัยในเขต Upstate New York ของมลรัฐนิวยอร์คช่วยกันมองหาขีปนาวุธที่หล่นตุ๊บจากเครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์ในขณะที่กำลังบินอยู่เหนือพื้นที่ในวันศุกร์ที่ผ่านมา
    ขีปนาวุธสำหรับฝึกซ้อมไม่ก่อให้เกิดการระเบิด (non-explosive training missile พูดปลอบใจชาวเมืองหรือเปล่า? ถ้าหาเจอแล้วต้องพิสูจน์ถึงจะรู้ว่าระเบิดได้จริงหรือไม่ ถ้ามันไม่ใช่วัตถุระเบิดที่เป็นอันตรายแล้วจะหาทำไมหละ?) ยาว 5 ฟุต (เกือบ 2 เมตร) น้ำหนัก 100 ปอนด์ (ก็ประมาณ 45.35 กก.) ถูกสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะคล้ายกับขีปนาวุธ Hellfire ("ไฟจากขุมนรก" ว่าวววว! นี่ชื่อขีปนาวุธของอเมริกานครับ)
    รายงานข่าวอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ทางกองทัพว่า "เฮลิค็อปเตอร์ได้ทำขีนปนาวุธหล่นหายไป บางทีอาจจะเป็นช่วงเช้าของวันศุกร์ระหว่างที่บินจาก Fort Drum ใน Jefferson County (นิวยอร์ค) ไปยัง New Windsor, Orange County (ในนิวยอร์คเช่นกัน)"
    โฆษกของกองทัพกล่าวว่า "กองทัพสหรัฐฯได้พยายามค้นหาขีปนาวุธที่หายไป ด้วยการส่งฮ.Apache หลายลำบินย้อนเส้นทางกลับไปยังจุดเริ่มต้นที่ Fort Drum ใน Upstate New York"
    รายงานข่าวบอกว่าขีปนาวุธที่หายไปนั้นเป็นขีปนาวุธสำหรับฝึกซ้อมชื่อ "M36 Captive Flight Training Missile" (สื่อฯสหรัฐบางสำนักบอกว่ามันเป็นแค่ขีปนาวุธดัมมี่เอง ไม่ต้องกลัว) ไม่เป็นอันตรายต่อประชาชน เนื่องจากมันจะไม่ระเบิดหรือขับเคลื่อนได้ เจ้าหน้าที่จาก Fort Drum ยืนยัน มันถูกนำไปติดตั้งเข้ากับเฮลิค็อปเตอร์เพื่อทดลองถ่วงน้ำหนักของขีปนาวุธในระหว่างบินเท่านั้น (ครับจะพยายามเชื่อครับ) ข่าวยังบอกอีกว่ากองทัพไม่รู้เหมือนกันว่าขีปนาวุธดังกล่าวหลุดออกจากเฮลิค็อปเตอร์ได้อย่างไร เนื่องจากมันไม่สามารถทิ้งลงหรือยิงออกไปจากช็อปเปอร์ได้อย่างขีปนาวุธ Hellfire จริง (นั่นนะสิ มันหลุดและหล่นหายไปได้อย่างไรหละครับ อ่ะ… สมมุติว่าไอ้ที่หล่นหายไปนั้นมันเป็นของจริงขึ้นมามันจะไม่ยุ่งกันใหญ่หรือครับ? และถ้าบังเอิญมันไปหล่นตุ๊บที่หน้าทำเนียบขาวจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?)
    ข่าวที่สอง เมื่อวานนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวอีกว่า "ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์คได้เรียกร้องให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยในนิวยอร์คเตรียมความพร้อมสำหรับภัยพิบัติในอนาคต" (New York Governor Urges Residents to Prepare for Future Disasters) (มันเกิดอะไรขึ้นในสหรัฐอเมริกาในยามนี้หละนี่?)
    นาย Andrew Cuomo ผู้ว่าฯ นิวยอร์คออกแถลงการณ์ว่า "ประชาชนชาวอเมริกันในนิวยอร์คได้รับการร้องขอให้สร้างแผนฉุกเฉินที่พวกเขาสามารถใช้งานได้ในเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติหรือโดยฝีมือของมนุษย์"
    ผู้ว่าฯ Andrew Cuomo กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้ว่า "เมื่อถูกโจมตีด้วยภัยพิบัติ พวกเราชาวนิยอร์คจะต้องเตรียมตัวและพร้อมที่จะตอบสนอง โดยการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าและใช้ขั้นตอนด้านความปลอดภัยง่ายๆซักสองสามขั้นตอน พวกเราทุกคนสามารถที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสภาวะอากาศและเหตุฉุกเฉินต่างๆที่คาดเดาไม่ได้" ในปี 2012 นิวยอร์คเคยประสบมหันตภัยจากพายุเฮอริเคนแซนดี้ (Hurricane Sandy) มาแล้ว ซึ่งส่งผลให้ประชาชนราว 8 ล้านคนในพื้นที่ขนาดพลังงานไฟฟ้า มีประชาชนราว 20,000 อพยพไปอยู่ในที่หลบภัย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 71 ราย ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมภัยพิบัติของสหรัฐฯ (US Centers for Disease Control)
    The Eyes
    03/09/2558

    ภาพจาก © Fort Drum

    ----------
    Army to New Yorkers: We Lost a Missile, Can You Help Us Find It?
    New York Governor Urges Residents to Prepare for Future Disasters
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    อ้าว! ก็ไหนว่าสหรัฐฯแซงชั่นรัสเซียอยู่ไง แล้วทำไมจักรวรรดิเฮเกถึงไปเปิดโรงงานผลิตเครื่องยนต์ฟอร์ดที่รัสเซียหละนี่?

    [​IMG]

    --------------
    ขอเล่าข่าวก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยเม้าท์ตบท้ายกันทีหลัง วันนี้ (3 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "โรงงานผลิตเครื่องยนต์ฟอร์ดแห่งใหม่เริ่มเดินสายผลิตในรัสเซีย" (New Ford Engine Factory Starts Production in Russia) อุ๊แม้จ้าววววว! คุณพี่โอบาม่าลืมไปแล้วหรือว่าอเมริกากำลังแซงชั่นรัสเซียอยู่นะ เข้าไปตั้งโรงงานในรัสเซียได้ไงอ่ะ? (เอ่อ… แบบว่า เรื่องมันยาวอ่ะ อ้อแบบว่าเรื่องมันจั๊บจ๊อนนนนด้วยอ่ะ ฮ่าๆๆ)
    รายงานข่าวอย่างเป็นทางการบอกว่า บริษัท Ford จะกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์จากต่างประเทศรายแรกที่เริ่มผลิตเครื่องยนต์ของตนเองในรัสเซีย ซึ่งพึ่งจะเปิดโรงงานเดินเครื่องผลิตเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ในสาธารณรัฐตาตาร์สถาน (Republic of Tatarstan) ในรัสเซีย (ฮึ่ม! เป็นบริษัทต่างชาติเจ้าแรกด้วย อียูโดนหลอกรับประทานไปซะแล้วงานนี้ เสียโง่ให้จักรวรรดิเฮเกฉวยโอกาสเข้าไปตีตลาดรถยนต์ในรัสเซียช่วงที่ยุให้อียูต่อต้านรัสเซีย แต่อีกด้านหนึ่งสหรัฐฯก็แอบย่องเข้าไปลงทุนในรัสเซียซะงั้น อียูนะอียูตื่นหรือยังก็ไม่รู้สินี่)
    อ่านข่าวต่อนะครับ... บริษัท Ford Sollers เป็นบริษัทร่วมทุนกันระหว่างบริษัท Ford Motor Company (ของสหรัฐฯ) และบริษัท Sellers ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ของรัสเซียได้ประกาสเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า "โรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งใหม่นี้มีมูลค่า $275 million (ประมาณ 9.76 พันล้านบาท) จะเริ่มการผลิตในวันพฤหัสบดีในสาธารณรับตาตาร์สถาน"
    แถลงการณ์จากบริษัทร่วมทุน Ford Sellers กล่าวว่า "ศักยภาพของโรงงานตามที่ได้วางแผนเอาไว้ในตอนแรกจะสามารถผลิตเครื่องยนต์ได้ปีละ 105,000 เครื่อง ในอนาคตอาจจะเพิ่มเป็น 200,000 เครื่องต่อปี"
    บริษัทฟอร์ด เซลเลอร์ส มีฐานการผลิตด้วยกันทั้งหมด 3 แห่งในรัสเซีย: ที่เมือง Vsevolozhsk เขต Leningrad Oblast ใกล้กับเมือง St. Petersburg อีกแห่งหนึ่งอยู่ที่เมือง Naberezhnye Chelny และ Yelabuga ในตาตาร์สถาน (Tatarstan) การเปิดโรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งใหม่นี้จะทำให้ Ford กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากต่างประเทศรายแรกที่ผลิตเครื่องยนต์ในรัสเซีย และผลก็คือบริษัทฯจะสามารถผลิตเครื่องยนต์ในประเทศให้กับรถยนต์ฟอร์ดได้ถึง 30% ที่มีโรงงานอยู่ในรัสเซีย
    บริษัท Ford Sollers อธิบายว่า "เป็นครั้งแรกที่จะมีการผลิตเครื่องยนต์แบบสายพานขนาด 1.6 ลิตร เครื่องยนต์เบนซินรุ่น Ti-VCT Sigmaซึ่งมีสามรุ่นคือ ขนาด 85 แรงม้า, 105 แรงม้า, และ 125 แรงม้า"
    + จักรวรรดิเฮเกโมนีแอบร่วมกิจการกับ EEU ในที่ภาพภายนอกบอกว่าต่อต้าน EEU แสบเข้าทรวงไหมหละครับท่าน?
    --------------
    ที่มันแสบก็คือตรงนี้ครับ... รายงานข่าวบอกว่า การพัฒนาโรงงาน (ของฟอร์ดในครั้งนี้) เป็นไปตามกฎหมายที่ออกโดยสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasian Economic Union - EEU) ในเดือนพฤษภาคม 2014 ด้วย ซึ่งกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และจัดจำหน่ายโดยไม่ต้องเสียภาษีพิเศษเพิ่มเติมในเขตแดนของ EEU ซึ่งมีการกำหนดระดับการเสียภาษีท้องถิ่นในการผลิตขั้นต่ำไว้ที่ 30% และจะเพิ่มเป็น 50% ในเดือนกรกฎาคม 2018 เป็นต้นไป
    โรงงานของฟอร์ดเซลเลอร์ตั้งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ Alabuga ในสาธารณรัฐตาตาร์สถาน ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย สร้างขึ้นในปี 2006
    ในบรรดาเงื่อนไขที่เป็นที่ชื่นชอบที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ Alabuga เสนอให้กับนักลงทุนก็คือภาษีท้องถิ่นที่ต่ำ ซึ่งกำหนดโดยสาธารณรัฐตาตาร์สถาน (13.5%) จากผลกำไรของบริษัท และได้รับการยกเว้นภาษีจากการขนส่ง บริษัทอื่นๆที่เป็นของต่างชาติซึ่งเข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้เช่น Rockwool (ของอังกฤษ), 3M (สหรัฐฯ), Armstrong (สหรัฐฯ), Air Liquide (ฝรั่งเศส), Preiss-Daimler (เยอรมันนี), RRDonnelley (สหรัฐฯ), Saint-Gobain (ฝรั่งเศส) และอื่นๆ และนิตยสาร Forbes และ Ernst&Young ได้ยกย่องว่าเขตอุตสาหกรรมแห่่งนี้เป็นภูมิภาคที่มีเงื่อนไขทางธุรกิจที่ดีที่สุดในรัสเซีย (ปะ… พวกที่พากันดาหน้าออกมาแซงชั่นรัสเซียก่อนหน้านี้ ต่างก็ไปลงทุนในรัสเซียด้วยกันทั้งนั้น)
    อ้าว… สหรัฐฯเข้าไปประกอบกิจการในเขต EEU และได้รับอานิสงส์จากมาตรการยกเว้นทางภาษีในกลุ่มประเทศ EEU ได้อย่างไรหละนี่? ก็ไหนว่าต่อต้าน EEU ที่นำโดยรัสเซียไม่ใช่รึ แบบนี้ไม่เข้าทำนองที่ว่า "เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง" หรอกท่าน? ทำไงได้อ่ะ เงินทั้งนั้น ในช่วงที่กำลังถังแตกอย่างนี้แม้ใครจะว่ากลืนน้ำลายตัวเองก็ยอม แต่ไม่ค่อยลงข่าวดังในสื่อฯกระแสหลักของตนเองนะ
    The Eyes
    03/09/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ Karen BLEIER

    ----------
    New Ford Engine Factory Starts Production in Russia
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ฝรั่งเศสอีกแล้วครับท่าน... เกษตรกรฝรั่งเศสขับรถแท็กเตอร์ปิดถนนประท้วงในกรุงปารีส, รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังจะถูกฟ้องข้อหาจ้างงานอย่างผิดกฎหมาย

    [​IMG]

    --------------
    วันที่ 3 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียอ้างรายงานจากหนังสือพิมพ์ Le Monde สื่อฯท้องถิ่นของฝรั่งเศสว่า มีเกษตรกรชาวฝรั่งเศสขับรถแท็กเตอร์สำหรับทำการเกษตรจำนวน 1,300 กว่าคันทะลักเข้าปิดกั้นถนนสายต่างๆในกรุงปารีสเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อประท้วงราคาอาหารตกต่ำ และได้เรียกร้องให้มีการปรับราคาที่เป็นธรรมรวมถึงการปฏิรูปทางการเมืองด้วย
    กลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้รัฐบาลขยายแผนการให้ความช่วยเหลือตามที่ได้ประกาศไว้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการอนุมัติการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินจำนวน 600 ล้านยูโร ($670 million หรือประมาณ 23,785 ล้านบาท) แก่เกษตรกรไปแล้ว
    เกษตรกรได้พากันออกมาประท้วงทั่วประเทศฝรั่งเศสในช่วงฤดูร้อนนี้ เพื่อดึงดูดความสนใจไปที่ราคาอาหารที่ตกต่ำซึ่งกำลังถูกซ้ำเติมด้วยสินค้านำเข้าที่มีราคาถูกกว่า ทางการฝรั่งเศสได้ตระหนักดีว่าผลจากการที่รัสเซียสั่งห้ามนำเข้าอาหารตลอด 1 ปีจากอียูซึ่งเป็นการตอบโต้มาตรการแซงชั่นที่ตะวันตกกระทำต่อรัสเซียก่อน ได้ส่งผลลบต่อตลาดอาหารของฝรั่งเศส จะมีการประชุมฉุกเฉินในกลุ่มเกษตรกรอียูในวันจันทร์นี้
    ข่าวที่สอง ในวันเดียวกันนี้ Sputnik รายงานข่าวอีกว่า รัฐบาลฝั่งเศสจะเพิ่มเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรถึง 3 พันล้านยูโร ($3.3 billion ประมาณ 117,150 ล้านบาท) เป็นระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการแก้ไขวิกฤตปัญหาในปัจจุบันในภาคเกษตรกรรม นาย Manuel Valls นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสกล่าว
    ข่าวที่สาม เกี่ยวกับฝรั่งเศสอีกนั่นแหละ Sputnik พาดหัวข่าวว่า "รัฐบาลฝรั่งเศสอาจจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหามีการจ้างงานอย่างผิดกฎหมาย" (French Govt Could Be Sued for Billions Over Allegedly Hiring Illegal Staff) มีเรื่องน่าอายอย่างนี้เกิดขึ้นในประเทศที่ชอบออกมาเรียกร้องเรื่องเสรีภาพและความชอบธรรมทางกฎหมายกับประเทศอื่นด้วย กรรม!
    มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาโดยรายงานอย่างเป็นทางการจากสื่อฯของฝรั่งเศสว่า พบว่ากระทรวงต่างๆในรัฐบาลฝรั่งเศสได้มีการจ้างพนักงานชั่วคราว (casual workers) อย่างผิดกฎหมายตามอำเภอใจถึง 48,650 อัตราเป็นประจำ (on a regular basis) ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานไม่ให้ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ของลูกจ้างเช่น ความคุ้มครองด้านประกันสังคม (ฮื่มมมม! นักสิทธิมนุษยชนหายโปรตะวันตกหายไปไหนหมด? ทีกับประเทศไทยหละพากันเรียงหน้าออกมาเต้นเหยงๆบอกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นในอียูที่บอกว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว กลับเงียบกริ๊บ สื่อฯกระแสหลักก็เงียบ ต้องให้สื่อฯรัสเซียช่วยแฉ "ปอกเปลือก ทรราช" ก็ช่วยประจานอีก คริๆ)
    รายงานบอกว่า เมื่อปีที่ผ่านมาพบว่ากระทรวงยุติธรรมของฝรั่งเศสเป็นผู้กระทำผิด (ซะเอง) ที่เลวร้ายที่สุด (worst offender) ที่รับผิดชอบต่อการว่าจ้างพนักงานชั่วคราวถึง 40,500 อัตรา (ถ้าเขากล้าเล่นกรณีนี้กับประเทศมหาอำนาจอย่างนั้นได้ และเมื่อเขาแก้ไขปัญหาได้แล้ว เขาก็จะหันมาเล่นงานประเทศที่ไม่ยอมก้มหัวให้เขาในประเด็นเดียวกันนี้แหละ ไทยเราเองก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีครับ)
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า มีการตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่างานนี้รัฐบาลฝรั่งเศสอาจจะถูกฟ้องที่มีมูลค่าราว 500 ล้านยูโรก็ได้ ($560,000,000 ประมาณ 19,880 ล้านบาท จิ๊บๆ) หากมีการนำเรื่องนี้ขึ้นสู่การพิจารณาคดีในศาล อย่างไรก็ตามมีบางคนคาดการณ์เอาไว้ว่าค่าชดเชยอาจจะพุ่งถึงหลายหลายหมื่นล้านยูโรก็ได้
    ทำไงหละที่นี้? ทางลัดก็ต้องยอมความกัน แบบหยวนๆ อย่าฟ้องร้องดำเนินคดีกันเลยนะคนงานชั่วคราวทั้งหลาย เดี๋ยวจะแอบเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้ หรืออาจจะหาทางบรรจุให้ คดีแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วที่เยอรมันนี แต่ไม่ใช่เรื่องของคนงานชั่วคราว แต่เป็นกรณีของผู้นำเยอรมันนีถูกหน่วยงานของสหรัฐฯดักฟังโทรศัพท์ที่กระฉ่อนไปทั่วโลกนั่นแหละ จนอัยการของเยอรมันนีต้องออกมาสอบสวนคดีและมีการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายกฯเยอรมันนีคนปัจจุบันด้วย แต่หลังจากที่เยอรมันบอกว่ายอมซื้อขีปนาวุธแพทริออตตกรุ่นของสหรัฐฯในการประชุม G7 ที่เยอรมันเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มือที่มองไม่เห็นก็เสกให้คดีนี้หายวับไปเลย แล้วจู่ๆอัยการเยอรมันก็ออกมาบอกว่าไม่มีหลักฐานที่เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าผู้นำเยอรมันถูกดักฟังทางโทรศัพท์ดังนั้นจึงยกเลิการสอบสวน ซะงั้น ง่ายมะ? และแล้วเรื่องนั้นก็เงียบหายไปจากสื่อฯกระแสหลักของสหรัฐฯและตะวันตก แต่มีกรณีของญี่ปุ่นเกิดขึ้นมาแทน ไม่รู้ว่าโอบาม่ากับอาเบะไปคุยกันอีท่าไหน จู่ๆเรื่องนักการเมืองและบริษัทของญี่ปุ่นที่ถูกสหรัฐฯดักฟังตามที่ตกเป็นข่าวก็เงียบไปอีกแล้ว วันนี้ไม่ใช่เรื่องดักฟังที่ฝรั่งเศสแต่เป็นเรื่องอื้อฉาวการจ้างงานอย่างผิดกฎหมายแทน ดูซิว่างานนี้ตะวันตกเขาจะเสกเรื่องนี้ให้หายไปอีกครั้งได้อย่างไร
    The Eyes
    03/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Charles Platiau

    ----------
    French Farmers Stage Tractor Protest in Paris
    France’s Aid Package for Farmers to Reach $3.3 Bln Over 3 Years
    French Govt Could Be Sued for Billions Over Allegedly Hiring Illegal Staff
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    อินโดนีเซียตัดสินใจซื้อเครื่องบินรบ Sukhoi Su-35 (G.4++) จากรัสเซีย

    [​IMG]

    --------------
    วันที่ 3 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่ารมว.กลาโหมของอินโดนีเซียได้ตัดสินใจซื้อเครื่องบินรบ
    Sukhoi Su-35 ซึ่งเป็นรุ่นที่ 4++ ของรัสเซีย 1 ฝูงบิน (ไม่ได้ระบุจำนวน) เพื่อนำไปแทน F-5 Tiger ของสหรัฐฯ "จะมีการลงนามในสัญญาการซื้อขายระหว่างรัสเซียกับอินโดนีเซียในเดือนกันยายนนี้ กรุงจาการ์ต้าจะซื้อเครื่องบินรบ Su-35 ในหลายขั้นตอนด้วยกันซึ่งขึ้นอยู่กับศักยภาพทางการเงินของประเทศ คราวนี้เราก็มีเครื่องบินรบทั้งที่ผลิตในสหรัฐฯ จีน และรัสเซียแล้ว" รมว.กลาโหมของอินโดนีเซียกล่าว
    รายงานข่าวบอกว่าในปี 2007 อินโดนีเซียและรัสเซียได้ลงนามร่วมกันในสัญญาที่มีมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทางอินโดนีเซียได้ซื้อยุทโธปกรณ์ไปจากรัสเซียซึ่งถึงเครื่องบินรบ Sukhoi (ข่าวไม่ได้บอกว่าเป็นรุ่นไหน เช็กดูจากวิกิฯข้อมูลเกี่ยวกับกองทัพอากาศของอินโดนีเซียพบว่ามี Su-27 และ Su-30 ด้วย) และเฮลิค็อปเตอร์ Mi-35 ด้วย (อ้อ… อินโดนีเซียยังมี F-16 ของสหรัฐฯ 8 ลำ, Hawk 200 ของอังกฤษ 14 ลำ และ EMB 314 ของบราซิลอีก 8 ลำด้วย)
    The Eyes
    04/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Grigoriy Sisoev

    ----------
    Indonesia Decides to Buy Advanced Russian Su-35 Jets
    https://en.wikipedia.org/wiki/Sukhoi_Su-35
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีนประกาศในพิธีสวนสนามงานวัน V-Day ว่าจีนจะลดจำนวนกำลังพลลง 300,000 นายเพื่อสันติภาพ สหรัฐฯได้ยินหรือเปล่า?

    [​IMG]

    --------------
    รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวานนี้ในงานพิธีระดับชาติวัน V-Day รำลึกครบรอบ 70 ปีสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนประกาศว่า "จีนจะมุ่งมั่นในการพัฒนาสันติภาพ และข้าพเจ้าขอประกาศไว้ในที่นี้เลยว่าลดขนาดกองทัพของตนลงจำนวน 300,000 อัตรา" (ตู้มมมม! เล่นเอาจักรวรรดิเฮเกที่กำลังเตรียมจะออกแถลงการณ์กระหน่ำจีนว่าก้าวร้าว ชอบรุกรานเพื่อนบ้านอย่างที่เคยพูดอยู่บ่อยรับมุกไม่ทันเลย คาดไม่ถึงสิว่าเฮียสีจะมามุกสันติภาพ ของสหรัฐฯลดแค่ 40,000 นาย เพราะไม่มีงบประมาณอุดหนุน แต่ของจีนบอกเลยว่างานลดกระหน่ำเกทับไปเลย 300,000 โอบาม่าบอกว่าตานี้ขอหมอบครับท่าน)
    การตัดลดจำนวนกำลังพลในกองทัพของจีนในครั้งนี้คิดเป็น 13% จากจำนวนทั้งหมดในกองทัพจีน 2.3 ล้านนาย ก็เหลืออยู่ 2 ล้าน สหรัฐฯมีกำลังพลประจำการอยู่ราว 1.4 ล้านนาย กองหนุนอีก 1.1 ล้าน รัสเซียมี 766,055 นาย กองหนุนอีก 2,485,000 นาย ส่วนของจีนยังมีกองหนุนอีก 2.3 ล้าน ฮ่าๆๆ นี่ขนาดเฮียสีบอกว่าลดไปตั้ง 3 แสนนายแล้วนะครับ และที่ลดไปนั้นก็น่าจะปรับไปเป็นทหารกองหนุนนั่นแหละครับก็จะได้กำลังสำรองเป็น 2.6 ล้าน
    ศาสตราจารย์ Rana Mitter ด้านประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Oxford ของอังกฤษที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมในงานพาเหรดในครั้งนี้ได้แสดงความคิดเห็นต่อการกล่าวสุนทรพจน์ของปธน.สี จิ้นผิงว่า "จีนได้แสดงตัวเองในแสงสว่างใหม่ คำพูดที่มีความสำคัญมากที่สุดซึ่งหยุดทุกอย่างไว้ที่เกิดขึ้นในจุตรัสเทียนอันเหมินในวันนี้ก็คือ 'สันติภาพ' และจีนได้ชี้ไปยังจุดเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยสันติสุขทั้งหมด"
    มีศาสตราจารย์ออกมาพูดสนับสนุนแนวความคิดของผู้นำจีนในครั้งนี้หลายคนมาก แปลให้ฟังท่านเดียวจากอังกฤษก็พอนะครับ ส่วนภาพประกอบในโพสต์นี้ก็เก็บมาจาก Sputnik news ของรัสเซีย เห็นได้ชัดว่าวันนี้ ผู้นำเกาหลีใต้ (ผู้หญิงชุดเหลือง) ดูจะมีความสุขมากเป็นพิเศษกว่าใครๆ รวมทั้งเฮียปูตินด้วย อ้าว… ทำไมประชาธิปไตยรัสเซียและประชาธิปไตยเกาหลีใต้ถึงหันไปจับมือกับคอมมิวนิสต์จีนหละนี่ โปรอเมริกางงอ่ะดิ? ฮ่าๆๆ
    The Eyes
    03/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Damir Sagolj

    ----------
    Walk the Walk: China Backs Up Talk of Peace With Substantive Military Cuts
    China Military Cuts Demonstrate Commitment to Peace
    Massive Military Parade in Beijing (VIDEO)
    Russian President Putin Arrives at Victory Parade in Beijing
    China Celebrates 70th Anniversary of WWII's End With Lavish Military Parade
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    สหรัฐฯประกาศไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพ พูดให้ชัดก็คือสหรัฐอเมริกาไม่รับผู้ลี้ภัยชาวตะวันออกลางที่ทะลักเข้าไปในยุโรปเข้าไปในประเทศของตนเอง อ้าววว! ทำไมพูดแมวๆ อย่างนี้หละนี่? ทีกรณีของไทยไม่เห็นพูดอย่างนี้เลย มนุษยธรรมที่ออกมาเรียกร้องเอาจากไทยครั้งนั้น ตอนนี้ของสหรัฐฯมันหายไปไหนหมด?

    [​IMG]

    --------------
    วันที่ 3 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "US Immigration Policy to Remain Unchanged Amid Europe Refugee Crisis" (นโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพของสหรัฐฯจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงท่ามกลางวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรป)
    นาย Josh Earnest โฆษกทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์กับสื่อฯเมื่อวานนี้ว่า "กรุงวอชิงตันไม่ได้วางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆเพื่ออนุญาตให้ผู้ลี้ภัยจากตะวันออกกลางซึ่งตอนนี้รวมกันเป็นฝูง (swarming) อยู่ในยุโรปเข้ามาในประเทศสหรัฐฯ" (งานนี้สหรัฐฯเรียกผู้อพยพว่าเป็นฝูงเหมือนผู้อพยพเหล่านั้นไม่ใช่คน?)
    Josh Earnest ยังได้กล่าวอีกว่า "พวกเรา (สหรัฐฯ) กำลังดำเนินการเพื่อมีส่วนร่วมกับอียูในการหารือเกี่ยวกับขึ้นตอนต่อไปที่เป็นประโยชน์ในเรื่องนี้ แต่ผมไม่ได้ตระหนักถึงการดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายใดๆที่เกี่ยวกับผู้อพยพจากภูมิภาคนั้นของโลกให้เข้ามาในประเทศสหรัฐฯเลย"
    โฆษกทำเนียบขาวกล่าวเพิ่มเติมว่า "ประเทศสหรัฐฯอาจจะมุ่งประเด็นไปที่การให้การสนับสนุนและความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคจากหน่วยป้องกันชายฝั่ง (US Coast Guard) ของสหรัฐฯ เช่นเดียวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน ยุโรปมีศักยภาพในการจัดการกับปัญหานี้อยู่แล้ว และสหรัฐฯก็จะยืน (ดูเฉยๆ) เคียงข้างหุ้นส่วนชาวยุโรปของพวกเรา มีให้ให้การสนับสนุนหลายรูปแบบ ละสหรัฐฯได้เตรียมพร้อมที่เสนอการให้การสนับสนุนเหล่านั้นแก่พันธมิตรชาวยุโรปอยู่แล้ว"
    ฮ่าๆๆ... เอากะจักรวรรดิเฮเกดิ งานนี้พี่แกรีบออกตัวทันทีว่า เขาเอาตัวรอดก่อนนะเฟ้ยยยย นิสัย… ทีกรณีของไทยหละก็รีบออกมากดดันให้ไทยรับผู้อพยพชาวโรงฮิงญาเชียวนะอ้างเรื่องมนุษยธรรม แต่พอเห็นว่ายุโรปเจอกับวิกฤตปัญหาผู้อพยพที่ตัวเองกับยุโรปไปก่อปัญหาสงครามในบ้านเขาไว้ และมีขบวนการค้ามนุษย์หากินกับผู้อพยพด้วย (อันนี้ของจริงลงข่าวให้อ่านหลายรอบแล้ว ยุโรปยอมรับเองว่ามีการค้ามนุษย์เกี่ยวข้องด้วย พวกโปรอเมริกไม่ต้องมาแถนะ) ก็รีบออกตัวทันทีเลยว่า งานนี้สหรัฐฯไม่ต้อนรับผู้อพยพ หรือจะเรียกว่าผู้ลี้ภัยก็แล้วแต่เพราะว่าโฆษกเองก็ดูจะสับสนอยู่เหมือนกัน แยกไม่ออกแล้วว่าจะเรียกว่าเป็นผู้อพยพหรือผู้ลี้ภัยดี พี่แกก็เลยเหมารวมไปเลยว่าไม่เอาทั้งสองนั่นแหละ อย่าส่งมาให้สหรัฐฯเด็ดขาด ให้ยุโรปรับวิกฤตไปตามลำพังก็แล้วกัน แหม… พอเพื่อนมีภัยแล้วถีบหัวส่งยังกล้าไปเรียกเขาว่าเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรของตัวเองอยู่อีกนะพวกปากหวานก้นเปรี้ยวเอ้ยยยย
    ที่แย่ก็คือสหัฐฯดันก็อปปี้นโยบายหรือยุทธศาสตร์ของไทยไปใช้นี่สิ เห็นรัฐบาลไทยส่งกองทัพเรือออกไปสกัดไม่ให้เรือผู้อพยพผิดกฎหมายเข้ามาในน่านน้ำไทยได้ แต่เราก็ไม่ไร้มนุษยธรรม เราให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร น้ำดื่มและซ่อมเรือให้ เติมน้ำมันให้ จะไปไหนต่อก็ไป แต่ไม่ใช่ประเทศไทย สหรัฐฯก็เอาบ้างบอกว่าจะใช้ยามชายฝั่ง และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินการอียู แต่จะไม่ยอมรับผู้อพยพผิดกฎหมายเหล่านี้เด็ดขาด กรรม!
    The Eyes
    03/09/2558
    ----------
    US Immigration Policy to Remain Unchanged Amid Europe Refugee Crisis
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    อุ๊ยโย๋... เรือวิจัยงานด้านวิทยาศาสตร์ของรัสเซียเฉียดเข้าใกล้ฐานทัพเรือดำน้ำของสหรัฐฯ เล่นเอาเพนตากอนสติแตก แต่พอเรือรบของจีน 5 ลำปรากฎใกล้อลาสกา เพนตาก้อนบอกว่าชิวๆ ไม่น่าต๊กกะใจแม้จะพึ่งปรากฎเป็นครั้งแรกก็ตาม ฮ่าๆๆ (ข่าวบันเทิงครับท่านผู้อ่าน)

    [​IMG]

    -----------
    มีเรื่องมาเมาท์สู่กันฟังรอบดึกอีกแล้วครับท่าน เมื่อวานนี้ (5 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Russian Vessel Near US Submarine Base Sparks Pentagon Frenzy" แปลว่า "เรือรัสเซียเฉียดเข้าใกล้ฐานทัพเรือดำน้ำของสหรัฐฯ จุดประกายอาการสติแตกของเพนตาก้อน" (ฮ่าๆๆ อ้อ… ตามพาดหัวสื่อฯรัสเซียเขาแหย่สหรัฐฯเล่นครับ ไม่ได้บอกว่าเป็นเรืออะไรอ่ะ ต้องอ่านในเนื้อข่าวถึงจะรู้)
    รายงานข่าวบอกว่าเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กองทัพเรือของรัสเซียได้ขนานนามเรือ (christened ใช้ศัพท์สูงซะด้วย) (ว่า Yantar) ซึ่งเป็นเรืองานวิจัยด้านมหาสมุทรวิทยา (oceanographic research) ลำล่าสุด ซึ่งสร้างขึ้นมาสำหรับปฏิบัติการในงานวิจัยในเขตทะเลลึกและกู้ภัย ปัจจุบันนี้ยังคงดำเนินภารกิจอยู่ในมหาสมุทรแอ็ทแลนติก
    Alexei Burilichev หัวหน้าของหน่วยวิจัยน้ำลึกประจำกระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า "เรือ Yantar ติดตั้งด้วยขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ประมาณหนึ่งโหล (อู๊! ไม่ใช่ครับ แกล้งพูดให้โปรอเมริกาตกใจเล่นอ่ะ คริๆ)" เอาจริงหละนะคราวนี้ Alexei Burilichev กล่าวว่า "เรือ Yantar ได้มีการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์งานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีความซับซ้อนมากๆ (เป็นอะไรที่เพนตาก้อนและโปรอเมริกาไม่อาจจะเข้าใจได้โดยง่าย - อันนี้แอ็ดมินเพิ่มให้เองนะครับ) ไม่สามารถหาความซับซ้อนแบบนี้ได้จากที่ไหนอีกแล้ว" (ว้าววว แสดงว่าซับซ้อนจริงๆอ่ะ นี่แหละมั๊งถึงทำให้เพนตากอนรู้สึก frenzy ได้ขนาดนั้นอ่ะ พจนานุกรมได้นิยามความหมายของคำว่า "frenzy" เอาไว้ว่า: ขึ้งเครียด, ทำให้เป็นบ้า, ทำให้ขาดสติ, ความบ้าคลั่ง, ตื่นเต้น, บ้าระห่ำแบบขาดสติ, อาการบ้าคลั่ง ว้าววว! สื่อฯรัสเซียเล่นแรงอ่ะ)
    แต่ว่าจุดประสงค์ของเรือ Yantar ก็คือรักสงบสันติภาพ (peaceful) การปรากฎตัวในครั้งนี้ทำให้กองทัพของสหรัฐฯปรับระดับการแจ้งเตือนภัยอยู่ในระดับสูง (high-alert) เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกลาโหม (ของสหรัฐฯ) กล่าวกับสำนักข่าว Fox News (ของสหรัฐฯอีกนั่นแหละ) ว่า "สหรัฐฯได้จับตาดูเรือลำนี้มาตั้งแต่ถูกตรวจจับได้โดยดาวเทียมในมหาสมุทรแอ็ตแลนติกเหนือ เชื่อว่ามันอาจจะเป็นเรือสายลับ (spy ship) ก็ได้" (ฮิ้วววว ป๊อดซะแล้วหรือ? นี่แค่เรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์เองนะ)
    คราวนี้เจ้าเรือวิจัยลำนั้นก็เข้าใกล้จุดหมายในคิวบา เจ้าหน้าที่ (กลาโหมของสหรัฐฯ) ได้แสดงออกถึงความหวาดวิตก (panic) ต่อข้อเท็จจริงที่ว่าเรือ Yantar (ของรัสเซีย) อยู่ห่างจากฐานทัพเรือดำน้ำของสหรัฐฯในอ่าว Kings Bay เพียง 300 ไมล์ที่เมือง St. Marys เขต Camden County ในมลรัฐจอร์เจียเท่านั้น แต่คุณพระช่วย โชคดีที่เรือวิจัยของรัสเซียยังอยู่ในน่านน้ำสากล และเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือตามปรกติไปยังคิวบา
    นาวาโท (Lieutenant Colonel) Tom Crosson จากเพนตากอนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียว่า "ผมสามารถยืนยันได้ว่า พวกเรา (สหรัฐฯ) ให้ความระแวดระวังกับเรือของรัสเซียที่ปฏิบัติการอยู่ในน่านน้ำสากล ทางชายฝั่งทิศตะวันออกของสหรัฐ พวกเรา [กลาโหมของสหรัฐฯ] จะไม่หาเรือเรื่องนี้กับรัสเซีย" (ฮ่าๆ… เอากะอเมริกาดิ กำลังจะบอกว่า ให้รัสเซียเป็นฝ่ายมาขอหารือกับอเมริกาก่อนว่างั้นเถอะ ก็เรือรัสเซียเขาอยู่ในน่านน้ำสากล และเขากำลังจะมุ่งหน้าไปยังคิวบา ก็ว่าจะแวะไปทานแฮมเบอร์เกอร์ที่ฐานทัพเรือดำน้ำของสหรัฐฯใน Kings Bay ซะหน่อย พวกก็รีบปิดร้านหนีซะนี่ เป็นเอามากซะจริงๆ)
    งานนี้สื่อฯรัสเซียเกาะติดข่าวนี้มาก ตามไปดูอีกซิว่าจะมีสำนักข่าวอื่นๆของจักรวรรดิเฮเกเล่นข่าวนี้อย่างไรบ้าง และแล้วรายงานข่าวจากสำนักข่าว Free Beacon ของสหรัฐฯอีกนั่นแหละก็รายงานว่า เจ้าหน้าที่เพนตาก้อนเชื่อว่าอุปกรณ์งานวิจัยที่ติดตั้งอยู่บนเรือ (Yantar) ของรัสเซียนั้นใช้เพื่อสอดแนม (surveil) การเซ็นเซอร์ในก้นทะเล และอาจจะกำลังตัดสายเคเบิ้ลโทรคมนาคมใต้น้ำด้วยก็ได้ (เอากะสื่อฯและเจ้าหน้าที่กลาโหมของอเมริกาดิ... จะเอาฮาไปถึงไหนครับท่าน เดี๋ยวพวกตลกคาเฟ่เขาก็ตกงานกันหมดพอดีหละ เห็นใจเขาบ้างเหอะอย่าไปแย่งอาชีพของพวกเขาเลยครับ)
    Steffan Watkins นักวิเคราะห์ด้านข่าวกรองที่จับตาดูการเคลื่อนไหวเรือของรัสเซียกล่าวกับสำนักข่าว Free Beacon ว่า "ดูเหมือนว่ามีโอกาสเป็นอย่างมากที่พวกเขา (รัสเซีย) อาจจะใช้เซ็นเซอร์ใต้น้ำของพวกเขาเพื่อแสดงตำแหน่งการป้องกันเพื่อเตรียมการสำหรับปฏิบัติการต่างๆในอนาคต และเพื่อหลีกเลี่ยง อำพราง หรือทำลายเซ็นเซอร์" (พี่ก็เกินไปหละ คิดว่าคนอื่นเขาจะมีพฤติกรรมที่คล้ายกับพวกตัวเองหรือไง ไปหายาทานหรือไม่ก็ไปพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอจะได้ไม่ฟุ้งซ่านอีกนะ)
    รายงานข่าวบอกว่า ไม่มีการอ้างเหตุผลชี้ชัดสนับสนุนการกล่าวอ้างดังกล่าว และเจ้าหน้าที่หลายคนก็ไม่ได้ชี้ให้เห็นว่ามีสายเคเบิลใดๆถูกตัดขาดจริง (หากมีเหตุการณ์ทำนองนั้นเกิดขึ้นจริง) แน่นอนว่าเพนตากอนอาจจะแจ้งให้ทราบถึงความเสียหายในทันที (เกรงว่าจะมีปฏิบัติการ false flag ขึ้นมาแล้วโวยวายว่าเป็นฝีมือของฝ่ายตรงข้ามนะสิครับ)
    ข้อสงสัยดูเหมือนว่าจะอยู่ข้อเท็จจริงที่ว่าเรือ Yantar บรรทุกอุปกรณ์ที่สามารถตัดสายเคเบิ้ลเอาไว้ด้วย (มีดอีโต้ที่เอาไว้หั่นปลา สำหรับทำอาหารในห้องครัว 1 อัน คริๆ) แต่สำนักข่าว Free Beacon ก็ชี้ออกมาว่า อุปกรณ์เหล่านี้ใช้สำหรับกู้ภัยเรือดำน้ำในกรณีที่เกี่ยวพันติดขัดกับสิ่งกีดขวางใต้น้ำ (เช่นสายเคเบิ้ลของสหรัฐฯเป็นต้น ฮ่าๆๆ ไม่ใช่ เขาหมายถึงพวก อวนประมงเก่า หรือสาหร่ายทะเลที่เรือดำน้ำขนาดเล็ดใช้สำหรับวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไปสะดุดเกี่ยวพันเข้าจนไม่สามารถขยับเครื่องได้อีกหนะ)
    เมื่อสำนักข่าว Fox News ถามว่าสหรัฐฯได้ใช้เรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อดำเนินภารกิจลาดตระเวนสอบสอดแนมแอบแฝงบ้างหรือไม่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกลาโหมที่ไม่ประสงค์ออกนามได้ให้คำตอบที่น่าสนใจดังนี้
    "แน่นอนพวกเราทำ (Of course we do) (ฮ่าๆ… เอากะอเมริกาสิครับ) คุณคิดว่าเรือมหาสมุทรวิทยาทั้งหมดเหล่านั้นกำลังทำอะไร ศึกษาปลาวาฬอยู่หรือไง?" (ฮิ้ววว!)
    และสุดท้าย Lieutenant Crosson ก็กล่าวว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯจะยังคงเฝ้าจับตาดูเรือ Yantar ต่อไปเนื่องจากเรือลำดังกล่าวยังคงดำเนินภารกิจต่อไป (เช่นกัน) อย่างก็ตาม Crosson ยอมรับว่า สหรัฐฯได้ตระหนักถึงเสรีภาพในอธิปไตยของชาติต่างๆที่จะสำรวจน่านน้ำสากล ซึ่งรวมถึงการเยือนประเทศต่างๆที่พวกเขาได้ทำข้อตกลงร่วมกันไว้
    จบไปอีกหนึ่งดราม่า... อเมริกาจัดให้ครับผม
    The Eyes
    05/09/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ VICTORIA AROCHO

    ----------
    Russian Vessel Near US Submarine Base Sparks Pentagon Frenzy
    Chinese warships turn back after sighting off Alaska coast as Obama visits state — RT USA
    https://www.rt.com/news/314386-amber-spy-ship-atlantic/
     

แชร์หน้านี้

Loading...