ติดตามสถานะการณ์

ญี่ปุ่นสัญญาลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก20%



ญี่ปุ่น กลายเป็นชาติล่าสุดที่ประกาศจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 20 ก่อนการประชุมสุดยอดว่าด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในปลายปีนี้

วันพฤหัสบดี 9 เมษายน 2558 เวลา 18:21 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่9 เม.ย.ว่า ญี่ปุ่นจะให้คำมั่นสัญญาลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ20 จากที่ระดับของปี2556 ก่อนการประชุมสุดยอดของโลกว่าด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในปีนี้ แม้นโยบายพลังงานหลังเกิดวิกฤตฟูกูชิมะไม่แน่นอนก็ตาม

หนังสือพิมพ์รายวันนิคเคอิรายงานอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นที่ไม่ประสงค์ออกนามระบุว่ารัฐบาลโตเกียวน่าจะประกาศเป้าหมายใหม่ในการประชุมสุดยอดกลุ่มจี-7ที่เยอรมนีในเดือนมิ.ย.นี้ ขณะเดียวกัน สื่ออีกฉบับแจ้งว่าญี่ปุ่นจะกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่น้อยกว่าร้อยละ20ในปี2573 จากที่ระดับในปี2548 ทั้งนี้ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศผู้นำการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ยังไม่ได้ประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซอย่างชัดเจน

ขณะที่ โลกกำลังเดินหน้าไปสู่ข้อตกลงฉบับใหม่เพื่อต่อสู้กับปัญหาโลกร้อนในการประชุมคอป21ที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสในเดือนธ.ค. ปัจจุบันมี 33ประเทศ รวมทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป และรัสเซียที่กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ญี่ปุ่นสัญญาลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก20% | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ไต้หวันแล้งหนัก! ถึงขั้นงดจ่ายน้ำประปากรุงไทเป
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 เม.ย. 2558 14:33


@บริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนชิห์เหมิน บางพื้นที่น้ำแห้งขอด

ชาวไต้หวันในกรุงไทเป และหลายเมืองทางภาคเหนือ เจอภาวะแล้งจัด ฝนตกน้อยสุดในรอบ 70 ปี จนทางการต้องเริ่มหยุดจ่ายน้ำประปาให้แก่บ้านเรือนประชาชน

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ชาวไต้หวันต้องเผชิญกับภาวะแล้งจัด จนถึงขั้นทางการต้องใช้มาตรการ งดจ่ายน้ำประปา 2 วันต่อสัปดาห์ ในหลายเมืองทางภาคเหนือของไต้หวัน หลังจากปีนี้ มีฝนตกในไต้หวัน ปริมาณน้อยที่สุดในรอบเกือบ 70 ปี หรือตั้งแต่ปี 2490 จนทำให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนลดลงต่ำกว่าปกติมาก

สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะแห้งแล้ง จนทางการต้องงดจ่ายน้ำประปาสัปดาห์ละ 2 วันนั้น ได้แก่ กรุงไทเป เมืองหลวง, เมืองเต้าหยวน และเขตซินฉู ซึ่งเป็นเกาะทางภาคเหนือ

สื่อท้องถิ่นในไต้หวัน รายงานด้วยว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่เขื่อนชิห์เหมิน เหลืออยู่เพียงแค่ 24.56% ของความจุอ่างเก็บน้ำ ซึ่งถือเป็นปริมาณน้ำต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินการ เมื่อปี 2507 โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือได้รับคำแนะนำจากทางการให้ใช้ภาชนะรองน้ำเก็บไว้ สำหรับใช้ปรุงอาหาร ซักล้างและในห้องน้ำ ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมราว 1,400 แห่ง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นปิดโรงงาน

ไต้หวันแล้งหนัก! ถึงขั้นงดจ่ายน้ำประปากรุงไทเป - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

จัดหางานสมุทรสาคร ผูกคอดับ เขียนจม.ขอโทษ คาดเครียดงาน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 เม.ย. 2558 19:35



จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร ผูกคอดับคาห้องพัก ทิ้งจดหมายขอโทษ ไม่สามารถขับเคลื่อนงานได้ พนักงานขับรถไปพบในสภาพแขวนคอกับขาแอร์ด้านนอกห้อง ตร.ส่งศพชันสูตรหาสาเหตุ พร้อมตรวจสอบลายมือในจดหมาย...

เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 10 เม.ย. ร.ต.ท.สุรพล วิชิต ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิต ภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพ นายเกษม สุทธิรักษ์ อายุ 51 ปี จัดหางานจังหวัดสระแก้ว รักษาการจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร ผูกคอเสียชีวิตอยู่บริเวณขาแอร์ด้านนอกห้อง โดยใช้เข็มขัดผูกกับคอ ใกล้กันพบเก้าอี้แบบล้อเลื่อนล้มอยู่

จากการตรวจสภาพศพ พบว่าบริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง ภายในห้องพบกระดาษวางหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขียนว่า "ขอโทษทุกคน ผมอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถขับเคลื่อนงานของสำนักงานได้เลย เนื่องจากตัวเองไม่มีศักยภาพเพียงพอกับระบบราชการไทย ขอลาทุกคน (เกษม) 10 เมษายน 2558 09.45 น."

ด้านนายปัญญา บุญมีรอด อายุ 46 ปี พนักงานขับรถของสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า นายเกษมเพิ่งย้ายมารับตำแหน่งได้ประมาณเดือน พ.ย. 2557 ปกติจะขับรถไปทำงานเองเป็นประจำ และช่วงสายได้มาบอกจะกลับ กทม. โดยจะแวะไปรดน้ำดำหัวผู้ว่าฯ ก่อน และให้ตนรอที่สำนักงาน ซึ่งได้รออยู่นานจนถึงเที่ยงจึงโทรหา แต่ไม่รับ จึงไปดูที่อพาร์ตเมนต์ เห็นห้องไม่ได้ล็อก กระทั่งพบแขวนคอเสียชีวิตแล้ว

ขณะที่ นายบุญลือ ศาสตร์เพชร สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า เป็นเพื่อนกับผู้ตาย ช่วงหลังพบว่ามีความเครียดและมีโรคความดัน ซึ่งอาจจะเครียดจากเรื่องงานก็ได้ ที่มีการของบไปจำนวน 8 ล้าน ตั้งศูนย์บริการตรวจสัญชาติแรงงานต่างด้าวในระยะเวลา 3 เดือน แต่ทางกรมอนุมัติมาแค่ 2 ล้านบาท อาจทำให้เครียดเพราะงบประมาณอาจไม่เพียงพอต่อการบริหารงานก็ได้

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ผู้ตายอาจใช้เข็มขัดผูกไว้กับขาแอร์และเหยียบบนเก้าอี้ล้อเลื่อน ก่อนถีบออกจนร่างห้อยกับขาแอร์เสียชีวิต ส่วนสาเหตุคาดเครียดเรื่องงาน จึงเขียนจดหมายลาตายไว้ ทั้งนี้ จะต้องขอตรวจสอบกระดาษก่อนว่าเป็นลายมือของผู้ตายหรือไม่ ส่วนศพจะนำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการตายต่อไป.

จัดหางานสมุทรสาคร ผูกคอดับ เขียนจม.ขอโทษ คาดเครียดงาน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เตือน 22 จังหวัด ระวังพายุฤดูร้อน ช่วง 11-12 เม.ย.


โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 เม.ย. 2558 18:48



ศภช.ออกประกาศเตือน 22 จังหวัดภาคเหนือ-อีสาน-กลาง-ตะวันออก ระวังภัยพายุฤดูร้อน ช่วงระหว่างวันที่ 11-12 เม.ย.นี้...

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 58 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ออกประกาศระวังภัยพายฤดูร้อนในวันที่ 11-12 เม.ย. อาจเกิดพายุฤดูร้อนในบางพื้นที่ของภาคเหนือ ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ภาคกลาง จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวโปรดทราบ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ศภช.จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

เตือน 22 จังหวัด ระวังพายุฤดูร้อน ช่วง 11-12 เม.ย. - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

อนดล แซ่เล้า

อย่างกับในหนัง! เผยคลิปวินาทีระทึกพายุทรายถล่มซาอุฯ
updated: 09 เม.ย 2558 เวลา 16:02:00 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/5uGKxijNRdo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษ เปิดเผยคลิปเหตุการณ์พายุทรายถล่มกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายในคลิปเผยให้เห็นภาพพายุทรายลูกใหญ่ ขนาดมหึมาได้เคลื่อนตัวถล่มกรุงริยาด ดูแล้วน่าหวาดกลัวชวนขนลุก ดูคล้ายๆ กับหนังวันสิ้นโลกเลยทีเดียว

อย่างกับในหนัง! เผยคลิปวินาทีระทึกพายุทรายถล่มซาอุฯ : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

มะกันยุติแซงก์ชั่นอิหร่าน กดดันราคาน้ำมันดิ่งครึ่งปีหลัง
updated: 09 เม.ย 2558 เวลา 23:56:29 น.ประชาชาติธุรกิจออนไลน์



การบรรลุข้อตกลงขั้นต้นในเรื่องการถือครองอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านกับมหาอำนาจทั้ง 6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง เนื่องจากหลายฝ่ายคาดว่าการยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน อาจทำให้ซัพพลายในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ข้อตกลงที่ทั้ง 7 ฝ่าย บรรลุเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาระบุว่า อิหร่านจะยอมระงับโครงการสร้างอาวุธนิวเคลียร์เป็นเวลา 10-15 ปี และยินยอมให้ตัวแทนจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เข้าไปตรวจสอบกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ภายในอิหร่าน แลกเปลี่ยนกับการที่นานาชาติจะต้องยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยข้อตกลงดังกล่าวมีแนวโน้มจะได้ข้อสรุปชัดเจนภายใน 30 มิ.ย.นี้

ข้อตกลงระหว่างอิหร่านกับ 6 มหาอำนาจโลก ยังทำให้เกิดความกังวลต่อเสถียรภาพในตะวันออกกลาง โดย นายเบนจามิน เนตันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐในตะวันออกกลาง ได้ออกมาโจมตีท่าทีของประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐ อย่างหนัก เนื่องจากมองว่าข้อตกลงดังกล่าวนั้นไม่ได้ขจัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่สื่อหลายสำนักก็ประโคมข่าวว่า ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบันอ่อนข้อให้กับอิหร่านมากเกินไป และเป็นที่ทราบกันดีว่าอิหร่านให้ความช่วยเหลือปาเลสไตน์ตลอดมา

ด้านนายโอบามาได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทมส์ว่า การตัดสินใจครั้งนี้นั้นจะเปิดทางให้สหรัฐสามารถควบคุมเสถียรภาพในตะวันออกกลางได้ ผ่านการป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง และหากอิหร่านไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง สหรัฐยังมีทางเลือกอื่น นอกจากนี้ สหรัฐยังส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้ประเทศมุสลิมในตะวันออกกลางรับรู้แล้วว่า สหรัฐยังคงยืนเคียงข้างอิสราเอลหากมีชาติใดรังแก

อย่างไรก็ตาม ในตลาดน้ำมันดิบโลก เงื่อนไขของข้อตกลงที่จะยกเลิกการคว่ำบาตรต่ออิหร่านที่จะบรรลุในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ ได้ทำให้เกิดความกังวลต่อซัพพลายน้ำมันที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรียบร้อยแล้ว เห็นได้จากราคาน้ำมันดิบเบรนต์ และเวสต์เทกซัสที่ปรับตัวลงทันทีหลังมีการประกาศผลการเจรจา

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2553 ก่อนที่นานาชาติจะคว่ำบาตรทางการค้าต่ออิหร่าน ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโอเปกแห่งนี้ส่งออกน้ำมันดิบมากถึง 3.83 ล้านบาร์เรลต่อวัน และลดลงเหลือเพียงประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังมาตรการคว่ำบาตรครอบคลุมเพิ่มขึ้นในเรื่องการค้า โดย สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะเร่งเพิ่มกำลังการผลิตให้เข้าสู่จุดสูงสุดภายใน 3 เดือน ก่อนที่จะมีการยกเลิกการคว่ำบาตร

อย่างไรก็ตาม แนวทางของนักวิเคราะห์ในประเด็นดังกล่าวกลับสวนทางกับทิศทางของตลาด โดยนายอาร์คาดี ควอร์โควิช ผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียไม่เห็นว่าการยกเลิกการคว่ำบาตรทางการค้าต่ออิหร่านจะเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย แต่กลับกันน่าจะเปิดโอกาสให้บริษัทด้านพลังงานของรัสเซียสามารถเข้าไปทำข้อตกลงทางการค้ากับอิหร่านได้เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ และประเมินว่าราคาน้ำมันดิบในปีนี้ น่าจะทรงตัวอยู่ที่ราว 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่นายทากายูกิ โนงามิ เศรษฐกรอาวุโสจาก Japan Oil, Gas and Metals National Corporation (JOGMEC) ระบุ กับบลูมเบิร์กว่า ซัพพลายน้ำมันดิบจากอิหร่านไม่น่าเพิ่มขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ สอดคล้องกับความเห็นของนายไมค์ วิทท์เนอร์

นักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจเนอรัล ที่ระบุว่า "การยกเลิกการคว่ำบาตรทางการค้าต่ออิหร่าน น่าจะเป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป และอาจจะไม่ได้ส่งผลกับราคาน้ำมันโลกในช่วงครึ่งปีหลังในทันที" อาจทำให้มองภาพได้ว่า แนวโน้มในการยกเลิกการคว่ำบาตรต่ออิหร่านจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกตามกราฟรูปตัว U ให้เป็นตัว U ที่โค้งลึกลงกว่าเดิมเท่านั้น และยังต้องไม่ลืมความเป็นไปได้ที่ว่า อิหร่านยังต้องใช้เวลาและเงินทุนในการฟื้นคืนอุตสาหกรรมน้ำมันในประเทศที่ปิดตัวลงไปมากในช่วงที่มีการคว่ำบาตรด้วย

ในฐานะประเทศผู้นำเข้าน้ำมันอย่างไทยก็ได้แต่คาดหวังว่า ข้อตกลงระหว่างอิหร่านและมหาอำนาจในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ เพื่อให้แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจในภูมิภาคไปอีกระยะหนึ่ง



เรียบเรียงโดย ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat


มะกันยุติแซงก์ชั่นอิหร่าน กดดันราคาน้ำมันดิ่งครึ่งปีหลัง : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
มะกันยุติแซงก์ชั่นอิหร่าน กดดันราคาน้ำมันดิ่งครึ่งปีหลัง : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

'วิษณุ' เชื่อคำสั่ง คสช. ส่งทหารไปเสริม จะแก้ปัญหาทุจริตได้
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 เม.ย. 2558 16:10



"วิษณุ" แจง คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับ 4 ใช้กำลังทหารไปเสริม แก้ปัญหาเจ้าหน้าที่เกียร์ว่าง–ทุจริตได้ ระบุ ผู้มีอิทธิพลมักกลัวท็อปบูต ย้ำ เชิญนักวิชาการต่างชาติเล่าประสบการณ์ผ่านวิกฤติ ไม่ใช่มาร่างรัฐธรรมนูญให้...

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 9 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 4/2558 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะและประชาชนโดยส่วนรวมว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. เป็นการใช้อำนาจมาตรา 44 รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เพื่อแก้ปัญหาบางอย่างในทางบริหาร โดยปกติกฎหมายแต่ละฉบับ มีรัฐมนตรีที่รักษาการ สามารถแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการได้ แต่ระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาพบว่า การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย แต่ละฉบับลงไปปฏิบัติไม่ได้ผล เพราะกำลังเจ้าหน้าที่น้อย หย่อนประสิทธิภาพ หรือยังไม่เข้าใจเจตนา ความมุ่งหมายของกฎหมาย และของรัฐบาล จึงมีเสียงเรียกร้องจากทุกกระทรวงมาว่า ทำอย่างไรจะสามารถแต่งตั้งคนนอกกระทรวง มาเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อมาเสริมกำลังได้ แต่ปรากฏว่าติดปัญหา เพราะกฎหมายเหล่านี้มักเขียนว่า การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องเป็นการแต่งตั้งคนในกระทรวงนั้นๆ เท่านั้น แต่งตั้งคนนอกไม่ได้ จึงมีแนวคิดว่าจะแก้ไขกฎหมาย แต่หากไปแก้กฎหมายจะเป็นการถาวร เพราะจุดประสงค์ต้องการให้เป็นเพียง มาตรการชั่วคราว ในระหว่างการจัดระเบียบสังคมนี้ ถึงเวลาหนึ่งจะออกเป็น พ.ร.บ.เพื่อยกเลิก

รองนายกฯ กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีตามกฎหมาย จะเป็นผู้ร้องขอไปยัง รมว.กลาโหม ขอให้ตั้งทหารเข้ามาเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เสริม เมื่อพิจารณาแล้วจะเสนอหัวหน้า คสช. ออกคำสั่งแต่งตั้งทหาร เข้าไปเสริมกำลังของฝ่ายกระทรวง ทบวง กรม ในการที่จะปฏิบัติตาม พ.ร.บ.นั้นๆ ได้ อย่างไรก็ตาม โดยข้อเท็จจริงการตั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารลงไปประกบ เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้นๆ มีความระมัดระวัง จะเกียร์ว่าง จะทุจริต หรือจะไปบกพร่องเสียเองอย่างในอดีตไม่ได้ เพราะจะถูกประกบ มีการตรวจสอบจากทหาร ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเอง หากทำผิดกฎหมายจะถูกประกบโดยพลเรือนเช่นกัน เป็นการทำงานเหมือนคู่ขา ต่างคนต่างตรวจสอบ

"คงจะได้ดูว่า จากนี้ไปเมื่อเรามีกำลังทหารไปเสริมดูแลทุกอย่างจะดีขึ้นหรือไม่ ที่แล้วมามีปัญหา เวลาเจ้าหน้าที่ทำเองพวกบุกรุกไม่ยำเกรง แต่เมื่อมีการปรับกำลังเจ้าหน้าที่ทหารไปช่วยดู กลับดีขึ้น แปลกเหมือนกัน ผู้มีอิทธิพลมักกลัวทหารมากกว่าตำรวจ อาจจะเป็นเพราะนานๆ เขาลงไปที" นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการเชิญนักวิชาการต่างประเทศ เล่าประสบการณ์เรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญว่า เป็นสิ่งที่น่าลองดู เพราะก่อนหน้านี้มีข้อเสนอแนะมาว่า ทำไมไม่เอานักวิชาการต่างชาติมาอธิบาย แต่ไม่ได้ให้มาวิจารณ์รัฐธรรมนูญ เพียงแต่ต้องการให้มาบอกว่า บ้านเมืองเขามีวิกฤติและผ่านวิกฤติได้อย่างไร เราต้องการให้เขาแนะตรงนั้นมากกว่า ไม่ใช่มาสอนเรา และไม่ใช่มาร่างรัฐธรรมนูญให้ อย่างไรก็ตาม ที่จริงนักวิชาการที่เป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ จบการศึกษามาจากต่างประเทศทั้งนั้น อย่างกรณีตน เวลาไปเรียนจะไปเรียนในสิ่งที่เรียนมา แต่เรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังเก่าแก่ของเขา เราไม่ได้อินหรือรู้อย่างคนประเทศเขาเอง.

'วิษณุ' เชื่อคำสั่ง คสช. ส่งทหารไปเสริม จะแก้ปัญหาทุจริตได้ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

หน.คสช.ออกคำสั่งตาม ม.44 ให้ จนท.ทหารพิทักษ์ประโยชน์สาธารณะ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 เม.ย. 2558 22:40



หัวหน้า คสช.ฉบับ 4 ออกคำสั่ง ฉบับที่ 4/2558 โดยอาศัยอำนาจตาม รธน.ม.44 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวม

วันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔/๒๕๕๘ กำหนดมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวม กำหนดให้ รมว.กลาโหม มีอำนาจพิจารณามอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไปปฏิบัติการตามคําขอบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวม


คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔/๒๕๕๘

เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวม

โดยที่ปรากฏว่าในปัจจุบันยังคงมีการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่คุ้มครอง ประโยชน์สาธารณะและประชาชนโดยส่วนรวมเป็นจํานวนมาก และการบังคับใช้กฎหมายยังเป็นไป อย่างไม่เคร่งครัดและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ และก่อให้เกิดปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในเรื่องต่างๆ เช่น การบุกรุกที่สาธารณะ ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ การใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะกีดขวางทางจราจร ทําให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในการใช้ชีวิตประจําวัน เป็นต้น

จึงเป็นการสมควรที่จะกําหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับ ใช้กฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวมเป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย อาจขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร โดยแจ้งความประสงค์ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพิจารณามอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไปปฏิบัติการตามคําขอดังกล่าว ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจขอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคําสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอํานาจหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง หรือหลายฉบับ เพื่อประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมายนั้นให้เป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ

ข้อ ๒ ในการปฏิบัติการตามข้อ ๑ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายมีอํานาจหน้าที่ เช่นเดียวกับเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น รวมทั้งให้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ข้อ ๓ ให้เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และเจ้าพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายนั้น ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามกฎหมายนั้นๆ โดยเคร่งครัด และให้ดําเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการตามคําสั่งนี้ หากขัดขืนหรือไม่ให้ความร่วมมือ จนก่อให้เกิดความเสียหายในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทําความผิดวินัยร้ายแรง

ข้อ ๔ คําสั่งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

http://www.thairath.co.th/content/491953

 

ส่งชื่อขรก.ทุจริตให้นายกฯสั่งย้ายสัปดาห์นี้
การเมือง : ข่าวทั่วไป วันอังคารที่ 7 เมษายน 2558



‘ไพบูลย์’ยังไม่ส่งชื่อขรก.ทุจริตให้นายกฯ สั่งเลขาฯศอตช.เร่งรวบรวมรายชื่อคาดส่งให้นายกฯสั่งย้ายสัปดาห์นี้

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 7 เม.ย.2558 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงการที่ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) ส่งรายชื่อข้าราชการมากกว่า 100 รายชื่อ ที่เกี่ยวข้องจากการทุจริตให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการโยกย้ายว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้ส่งรายชื่อให้นายกฯพิจารณาดำเนินการแต่อย่างใด ยังไม่มี

คาดส่งให้นายกฯสั่งย้ายสัปดาห์นี้


แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่าพล.อ.ไพบูลย์ ได้สั่งการให้นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) รวบรวมรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามที่ ศอตช. ตรวจสอบพบ เพื่อส่งรายชื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ รับทราบและดำเนินการโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ โดยข้อมูลในส่วนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเป็นข้าราชการระดับซี 8 ขึ้นไป

ส่วนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะส่งรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่มิชอบในโครงการใหญ่หลายโครงการ อาทิ การประกาศพื้นที่ภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งเอื้อต่อการทุจริตงบประมาณทั้งภัยพิบัติแมลงระบาด ภัยแล้ง ภัยน้ำท่วมที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งใช้งบฉุกเฉินได้ครั้งละ 50 ล้านบาท โครงการจัดซื้อแผงโซลาร์เซลล์แพงเกินจริง การก่อสร้างสนามฟุตซอลของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และการจัดซื้อเครื่องสันทนาการและเครื่องออกกำลังกายของกรมพลศึกษา

ส่วนป.ป.ท.จะเสนอรายชื่อข้าราชการที่บอร์ดป.ป.ท.มีมติชี้มูลความผิดและส่งรายชื่อให้ต้นสังกัดดำเนินการลงโทษ แต่ต้นสังกัดไม่ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ ศอตช. จะนัดประชุมเพื่อพิจารณารวบรวมรายชื่อข้าราชการที่แต่ละหน่วยงานดำเนินการไว้ เพื่อรวบรวมส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

 

‘บิ๊กป๊อก’ ชี้ผวจ.เอี่ยว ทุจริตใน100รายชื่อ



‘บิ๊กป๊อก’ ชี้ ผวจ.เอี่ยว ทุจริตใน 100 รายชื่อ ให้เป็นไปตาม กม. ส่วนการโยกย้ายภายในกระทรวง ระบุ เป็นหน้าที่ปลัด มท.

วันพุธ 8 เมษายน 2558 เวลา 16:43 น.
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ซึ่งมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน เตรียมนำรายชื่อข้าราชการระดับต่าง ๆ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ประมาณ 100 รายชื่อที่ส่อทุจริตคอร์รัปชั่น เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ว่า เรื่องดังกล่าวเริ่มจากที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) หากป.ป.ช.ชี้มูลอย่างไรก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ตนยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว เห็นเพียงแต่ข่าวในหนังสือพิมพ์เท่านั้น

เมื่อถามว่า จะมีการพิจารณาโยกย้ายกลางปีในเดือน เม.ย.นี้ จะนำเรื่องดังกล่าวพิจารณาเลยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า หากทางกฎหมายสามารถทำได้ตนจะทำทันที ซึ่งก็ต้องรอให้มีการชี้มูลมาก่อน แล้วก็ทำตามกระบวนกฎหมาย เพราะเรื่องแบบนี้จะเอาตามความรู้สึกไม่ได้ นอกจากนี้เมื่อถามว่า เดือนเม.ย.จะมีการโยกย้ายชุดใหญ่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า ข่าวมาจากไหนและไม่ใช่หน้าที่ของตน ซึ่งการโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทยเป็นการพิจารณาของปลัดกระทรวง.

‘บิ๊กป๊อก’ ชี้ผวจ.เอี่ยว ทุจริตใน100รายชื่อ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

มจธ.เปิดตัว "กังหันลมแนวนอน ขนาด 1 กิโลวัตต์" รายแรกของไทย. updated: 08 เม.ย 2558 เวลา 15:20:54 น.



มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และบริษัท ตะวันออกซินเทค จำกัด เปิดตัว "กังหันลมแนวนอนขนาด 1 กิโลวัตต์" เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากความเร็วลมต่ำทดแทนการนำเข้ารายแรกของไทย
ปัจจุบันประเทศไทยได้ให้ความสำคัญและสนใจในการพัฒนาด้านพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นเพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องซื้อหาจากต่างประเทศที่นับวันมีราคาแพงขึ้นการผลิตพลังงานทดแทนอื่น ๆ และพลังงานลมเป็นพลังงานทางเลือกหนึ่งในการสนับสนุนพัฒนาให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศเทคโนโลยีกังหันลมจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้เขตเส้นศูนย์สูตรทำให้ได้รับแรงลมเฉลี่ยทั้งปีต่ำถึงปานกลาง ดังนั้นการที่จะพัฒนาพลังงานลมเพื่อใช้ประโยชน์จึงจำเป็นต้องศึกษารูปแบบกังหันลมผลิตไฟฟ้าให้มีความเหมาะสมกับความเร็วลมที่มีอยู่จึงเป็นที่มาของ"โครงการพัฒนาสร้างกังหันลมแนวนอนขนาด 1 กิโลวัตต์"
ผศ.นิธิ บุรณจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวท.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า โครงการพัฒนาสร้างกังหันลมแนวนอนขนาด 1 กิโลวัตต์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้านี้เป็นโครงการที่มหาวิทยาลัยโดย สวท. ร่วมกับบริษัท ตะวันออกซินเทค จำกัด ดำเนินการวิจัยและพัฒนาขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการทำวิจัยจากสำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร้อยละ 50 ของงบประมาณโครงการทั้งหมด เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ และด้วยแต่ละพื้นที่ที่มีความเร็วลมแตกต่างกันจึงเป็นข้อจำกัดของการใช้กังหันแนวตั้งที่อาจไม่เหaมาะสมกับพื้นที่ที่มีปริมาณของลมไม่มากและบนอาคารสูง
สำหรับการพัฒนากังหันลมแนวนอนนี้มีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 6 เมตร ออกแบบและสร้างโดยใช้กังหันลม ESCO Wind Turbine จึงมีคุณสมบัติพิเศษคือการออกแบบเหมาะสมกับสภาพลมในประเทศไทยที่มีความเร็วลมต่ำและลมแปรปรวน สามารถรับลมได้ทุกทิศทุกทาง ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรับลมจากด้านหน้าและหลัง วัสดุที่ใช้สามารถทนต่อสภาพการกัดกร่อนของกรดและไม่เป็นสนิม (Engineering Composite Polymer) และผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อสัตว์ปีก เช่น นก มีเสียงจากการหมุนของกังหันลมที่ต่ำ น้อยกว่า 20 db/5 meter เหมาะกับโรงเรือนปศุสัตว์ที่ปล่อยลมทิ้งและดาดฟ้าของตึกสูง สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งแนวคิดการออกแบบกังหันลมแนวนอนนี้เน้นการใช้งานบนพื้นราบของอาคารสูงเป็นหลัก โดยใช้พื้นที่ ติดตั้งเป็นแนวยาว สูงจากพื้นอาคาร 2-3 เมตร และวัตถุประสงค์อีกประเด็นหนึ่งคือออกแบบเพื่อนำไปใช้รับลม หมุนเวียนที่ปล่อยทิ้งมาจากโรงเรือนปศุสัตว์ ซึ่งจะสามารถติดตั้ง generator ได้ด้วย
ทั้งนี้ กังหันลมแนวนอนที่ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน ติดตั้งง่ายและสามารถขยายผลโดยการส่งเสริมให้มีการใช้ในครัวเรือน ชุมชนขนาดเล็ก ผู้ประกอบการ ครัวเรือน ฟาร์มกังหันลมที่ต้องการใช้พลังงานลม ในการผลิตไฟฟ้าใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของตนเอง เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในการจัดหาพลังงานให้กับประเทศ
มจธ.เปิดตัว "กังหันลมแนวนอน ขนาด 1 กิโลวัตต์" รายแรกของไทย : Prachachat Mobile

 

ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
เดือนเมย.58 นี้ มีปรากฏการณ์ดวงดาว ที่สำคัญๆหลายประการ (ตามบทความนี้) / ซึ่งผู้สนใจในโหรฯ ควรเฝ้าจับตามอง เพื่อเก็บข้อมูลไว้ สำหรับเหตุการณ์ของโลก และของบุคคล / ตามทัศนะส่วนตนแล้ว ปรากฎการณ์ตั้งแต่ "จันทรคราส" 4 เมย. จะมีผลร้ายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ร้ายแรงนัก (มีหลายๆท่าน ว่าจะรุนแรงหนัก) / แต่ช่วงที่น่ากลัว น่าจะเป็นช่วงดาวพลูโต วิกลคติหยุดนิ่ง เพื่อเดินถอยหลัง 17 เมย. / แต่ก็ยังเห็นว่า ถึงอย่างไร (ตามกฎเกณฑ์โหรฯ) ผลจะไม่รุนแรง "จนเกินไปนัก - เกินกว่าที่เป็น ในเวลานี้"!!! Samphand
พฤหัส-มฤตยูร่วมคราส
ฤดูคราสมีนา - เมษา 58 เป็นช่วงเวลาสำคัญยิ่งในทางโหราศาสตร์
เพราะมีปรากฏการณ์ดวงดาวที่สำคัญเกิดขึ้นหลายประการ แต่ที่สำคัญสุดคือคราส 2 ครั้งในช่วงนี้ ได้แก่สุริยคราส 20 มีนาและจันทรคราส 4 เมษา ล้วนเป็น “สรรพคราส” หรือ “คราสเต็มดวง”
คราสเต็มดวงที่เกิดต่อกันภายใน 15 วัน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ครั้งสุดท้ายที่เกิดคือเดือนพฤศจิกายน 2546 ได้แก่ จันทรคราสวันที่ 9 เวลา 8:12 น. ที่ 22 องศา 18 ลิปดาในราศีเมษ และสุริยคราสวันที่ 24 เวลา 5:58 น. ที่ 7 องศา 20 ลิปดาในราศีพิจิก
ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในอีก 18 ปีข้างหน้า คือ สุริยคราสวันที่ 31 มีนาคม 2576 เวลา 00:51 น. ที่ 16 องศา 2 ลิปดาในราศีมีน และจันทรคราสวันที่ 15 เมษายน 2576 เวลา 02:14 น. ที่ 0 องศา 50 ลิปดาในราศีเมษ
สรรพคราส 2 ครั้งภายใน 15 วัน คือ กฎเกณฑ์ในการทำนายสงคราม !
ผ่านสุริยคราส 20 มีนา (และเสาร์วิกลคติพักร์ 14 มีนา) เราพบว่า รัสเซียเตรียมพร้อมระดมสรรพกำลังเข้าสู่ภาวะสงคราม ขณะที่สหรัฐ-นาโต้-ชาติยุโรปตะวันออกก็สั่งสมอาวุธร้ายแรงและกำลังทหารอย่างผิดปกติ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือสงครามในตะวันออกกลาง นอกจากกลุ่ม ISIS - อิรัก - ซีเรียแล้ว เยเมนคือสมรภูมิใหม่ โดยมีคู่สงครามยักษ์ใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมวงด้วย
แน่ใจได้เลยว่า หลังจากจันทรคราส 4 เมษา สถานการณ์คงระอุดุเดือดยิ่งกว่านี้
สิ่งที่น่าสนใจคือ ไม่ใช่แค่จันทรคราสเต็มดวง แต่ยังเกิดปรากฏการณ์ดวงดาวที่สำคัญในเวลาใกล้ ๆ กันอีก 3 ประการ ได้แก่
(1) มฤตยูดับร่วมคราส
จันทรคราสเกิดค่ำวันที่ 4 อีก 2 วันต่อมา มฤตยูกุมอาทิตย์สนิท เกิดภาวะ “ดาวดับ (Combustion)” ตำแหน่งมฤตยูดับอยู่ที่ 22 องศา 23 ลิปดาในราศีมีน เล็งจุดจันทรคราส (ที่ 20 องศา 20 ลิปดาในราศีกันย์) สนิทพอดี
ลักษณะเช่นนี้คือ “มฤตยูดับร่วมคราส” พอดี ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก โหราศาสตร์ภารตะเรียกดาวดับร่วมคราสนี้ว่า “ครหจัณฑาล” ซึ่งให้โทษแต่สถานเดียว ยิ่งเป็นดาวใหญ่ ยิ่งให้โทษหนัก
ในอดีต คู่นี้เคยก่อให้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในไทย นั่นคือปฏิวัติทักษิณกันยายน 2549 โดยจันทรคราสวันที่ 8 กันยาที่ 21 องศา 3 ลิปดาในราศีกุมภ์ กุมมฤตยู (เพ็ญ) สนิทพอดี และทั้งคู่ทำมุม 90 สนิทกับอังคารเดิม (ทหาร / กองทัพ) ในดวงเมือง พอถึงวันที่ 19 ก็เกิดปฏิวัติ
แผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ที่นอกชายฝั่งตะวันออกในมหาสมุทรแปซิฟิกของญี่ปุ่น ใกล้เมืองเซนไดในเกาะฮอนชู และรวมถึงคลื่นซึนามิที่เข้าถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ก็เกิดจากอิทธิพลมฤตยู-จันทรคราสเช่นกัน
มฤตยูดับบอกถึงอุบัติเหตุ - อุบัติภัยต่าง ๆ มฤตยูอยู่มีน - ธาตุน้ำ พร้อมกับถูกจันทรคราสเล็งสนิท ระมัดระวังเภทภัยเกี่ยวกับน้ำให้มาก หรือภัยอันตรายใหญ่หลวงในดินแดนที่ใกล้น้ำ
(2) คราสกระตุ้นวัฏจักรมฤตยู-พลูโต
ในปัจจุบัน วัฏจักรมฤตยู-พลูโตอยู่ช่วงกึ่งกลางขาขึ้น (Waxing-square phase) ในจังหวะที่ 7 ซึ่งทำมุม 90 กันสนิทในวันที่ 17 มีนาคม 2558 ที่ 21 องศา 14 ลิปดาในราศีมีน-ธนู
จุดจันทรคราสเล็งมฤตยูและทำมุม 90 กับพลูโตสนิท เท่ากับคราสเป็นตัว Trigger ให้วัฏจักรนี้ปลดปล่อยพลังงานมากขึ้นไปอีก พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง (ความหมายของวัฏจักร) ยิ่งทบทวีคูณ
มฤตยูอยู่มีน มีนคือภพ 12 (วินาศ) ของดวงเมืองไทย อันหมายถึงสิ่งที่ปกปิดซ่อนเร้น ความลับ การกระทำในที่ลับ ฯลฯ เมื่อมฤตยูจรภพนี้และทำมุม 90 กับพลูโต เรื่องลึกลับทั้งหลายจึงถูกเปิดโปงออกมา
ภพที่ 12 (มีน) ยังหมายถึงวงการสาธารณสุข ภพที่ 9 (ธนู) คือวงการศาสนา ส่วนราศีกันย์ (ภพ 6) ที่ถูกมุมเล็งจากมฤตยูและมุม 90 จากพลูโต ก็คือวงการตำรวจ ไม่น่าแปลกใจที่เราเห็นการเปิดโปงทุจริต - ความขัดแย้ง - เรื่องลึกลับมากมายจาก 3 วงวิชาชีพนี้
สถานการณ์ในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ยูเครน-รัสเซีย ตะวันออกกลาง การเมืองไทย ฯลฯ ก็จะมีพลวัตสูงขึ้น อันนำไปสู่การตัดสินใจกระทำการบางอย่าง เช่น สงคราม ปรับครม. หรือเปิดโปงขบวนการใต้ดิน ฯลฯ เพื่อลดแรงกดดันและก้าวไปสู่ขั้นตอนต่อไปของวัฏจักร
(3) พฤหัสวิกลคติร่วมคราส
ปรากฏการณ์สำคัญอีกประการที่เกิดใกล้จันทรคราส คือ พฤหัสวิกลคติเสริด (Stationary-direct) หรือพฤหัสหยุดนิ่งเพื่อเดินหน้า (อีกครั้ง) ในวันที่ 8 เมษายน 2558 เวลา 23:02 น.
พฤหัสยกเข้าราศีกรกฎเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2557 เวลา 10:13 น. เดินหน้าเรื่อยมาจนถึงวันที่ 9 ธันวาคม จึงหยุดนิ่งเพื่อถอยหลัง (วิกลคติพักร์ / Stationary-retrograde) ที่ 28 องศา 34 ลิปดา จากนั้น ก็ถอยหลังเรื่อยมาจนหยุดนิ่งเพื่อเดินหน้าที่ 18 องศา 31 ลิปดาในราศีกรกฎ
พฤหัสวิกลคติใกล้วันคราส (หน้า 7 หลัง 7 วัน) ถือได้ว่า “พฤหัสวิกลคติร่วมคราส” คัมภีร์ “พฤหัสสังหิตา” ว่าไว้ ดาววิกลคติร่วมคราสเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องระมัดระวัง เพราะอิทธิพลดาวจะเพิ่มพูนและส่งผลรุนแรงมาก
ที่น่าสนใจคือ จุดวิกลคติทำมุม 120 องศากับจุดจันทรคราสสนิทพอดี มิหนำซ้ำ จันทร์สลับเรือนเกษตร์กับพฤหัสอีกด้วย ถือว่าพฤหัส-จันทรคราสสัมพันธ์กันถึง 3 ชั้น
พฤหัสคือการเติบโต (Growth) และการขยายตัว (Expansion) พฤหัสจะทำให้จันทรคราสมีพลังงานเพิ่มขึ้นมหาศาล พลังงานนี้เมื่อรวมเข้ากับปัจจัยที่ 1 และ 2 ย่อมก่อให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่อย่างแน่นอน
แต่เป็นเรื่องดีหรือร้ายล่ะ ? คำตอบคือเป็นได้ทั้ง 2 เรื่อง เรื่องร้ายได้แก่ สงคราม พิบัติภัยธรรมชาติ ฯลฯ เรื่องดีก็เช่น การเปิดโปง - การชำระสะสางเรื่องลึกลับ การทุจริต และขบวนการใต้ดินทั้งหลาย
แล้วในดวงชะตาบุคคล มีโอกาสเกิดเรื่องดี ๆ บ้างไหม ? มีโอกาส จันทรคราสครั้งนี้อาจส่งผลดี (อย่างคาดไม่ถึง) ต่อบางคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องแล้วแต่พื้นดวงกำเนิด (Natal Chart) เป็นสำคัญ
อันที่จริง ยังมีอีก 2 ปรากฏการณ์ที่ร่วมคราสด้วย นั่นคือ “พุธดับ” ในวันที่ 10 เมษายน 2558 เวลา 11:01 น. ที่ 25 องศา 54 ลิปดาในราศีมีน พุธอยู่มีน - เป็นนิจจ์ ให้โทษอยู่แล้ว เมื่อดับในข่าย +/- 7 วันของจันทรคราส ยิ่งให้โทษหนัก พุธดับทับราหูเดิมในดวงเมืองสนิทพอดี อย่าประมาทศัตรูลับของบ้านเมือง
อีกข้อคือพลูโตวิกลคติพักร์ (Stationary-retrograde) ในวันที่ 17 เมษายน 2558 เวลา 7:37 น. ที่ 21 องศา 28 ลิปดาในราศีธนู ทำมุม 90 กับจุดจันทรคราส-มฤตยูและทำมุม 150 กับพฤหัสสนิทพอดีจุดวิกลคติของพลูโตจะกระตุ้นพลังงานของจันทรคราส - วัฏจักรมฤตยู-พลูโต - พฤหัสเสริดขึ้นมาอีกครั้ง มีโอกาสสูงที่จะเกิดเหตุการณ์ใหญ่อีกชุดในช่วงนี้
อย่าเพิ่งสรุปหรือตัดความเป็นไปได้ใด ๆ จนกว่าจะสิ้นเดือนเมษา 58 ครับ
พฤหัส-มฤตยูร่วมคราส

 

ปอกเปลือก ทรราช
เบื้องหลังรัฐบาลสหรัฐฯสั่งห้ามอินเทลขายชิปคอมพิวเตอร์ให้จีน เกรงว่าจีนจะนำไปพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์



-----------
มาต่อที่ข่าวอเมริกาอีกซักข่าวนะครับ ข่าวนี้ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ข่าวดังในวงการไอทีเลยก็ว่าได้ เมื่อวานนี้สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งต่างก็พากันเล่นข่าวนี้ ก่อนที่จะเขียนบทความนี้ก็เช็คดูแล้วไม่ค่อยเห็นสื่อฯไทยเราเล่นข่าวนี้กันซักเท่าไรนัก จะเป็นเพราะอะไรนั้นก็ไม่อาจรู้ได้ เรื่องนั้นช่างเขาเหอะ ครั้นจะเล่นตามเนื้อข่าวมันก็จะเข้าทางอเมริกาอีก ก็ลองคิดเล่นๆดูหาสาเหตุความเป็นไปได้ที่แท้จริงในการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของรัฐบาลอเมริกาที่สั่งแบนการส่งออกชิปคอมพิวเตอร์ไปยังจีนว่าจริงๆแล้วต้องการอะไร หรือมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ มีเหตุผลบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลังนอกจากเรื่องนิวเคลียร์และการกลั่นแกล้งกีดกันขัดขวางความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนหรือไม่? มาลองวิเคราะห์บวกมโนเล่นๆดูกันนะครับ
เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.58) มีรายงานข่าวโดยพาดหัวข่าวประมาณว่า "สหรัฐฯสั่งแบนบริษัทอินเทลไม่ให้ส่งชิปประมวลผลคอมพิวเตอร์ไปยังจีนเกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์" ใจความหลักของข่าวก็อยู่ประมาณนี้แหละ คำถามก็เกิดขึ้นมาว่าเขาแบนชิปประเภทไหน? รุ่นอะไร? ห้ามทั้งหมดหรือว่าเฉพาะบางบริษัท/องค์กร/หน่วยงานของจีนเท่านั้น? คอมพิวเตอร์รุ่นไหนของจีนที่สหรัฐฯกลัวว่าจะถูกนำไปใช้ในงานพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์? แล้วสหรัฐฯห้ามประเทศอื่นด้วยหรือไม่? แล้วตัวเองห้ามด้วยหรือเปล่า? นี่ถ้าคิดตามกรอบของข่าวที่เขาลงก็จะคิดอยู่ได้ประมาณนี้ ถ้าคิด (วิเคราะห์หรือมโนเล่นๆ) นอกกรอบบ้างหละ? เช่นยอดการขายของอินเทลในช่วงที่ผ่านมากับช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง? หุ้นของอิเทลมีการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง? ประมาณการยอดขายล่วงหน้าของอินเทลกำหนดไว้ที่เท่าไรเพิ่มขึ้นหรือลดลง? นี่อย่างหลังนี้สื่อฯเขาไม่เอามาวิเคราะห์ประกอบข่าว เพราะเขาต้องการจะเล่นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศและเรื่องอาวุธสงครามกันเท่านั้น ก็อาจจะใช่ตามที่เขาให้เหตุผลหรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ถ้าเอาเรื่องการตลาดมาจับด้วยอาจจะทำให้เราถึงบางอ้อก็ได้ ลองฟังดูนะครับ...
เอาหละ... โม้มากหละเดี๋ยวหลายท่านจะเบื่อซะก่อน เข้าข่าวดีกว่านะครับ คืองี้... กรมการค้าของสหรัฐฯ (US Department of Commerce) ได้มีคำสั่งไปยังบริษัทอินเทล ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯว่าไม่ให้ส่งออกชิปคอมพิวเตอร์รุ่น "Xeon" และ "Xeon Phi" ไปยังบางหน่วยงานของประเทศจีน หากจะส่งออกต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯซะก่อน คำสั่งดังกล่าวได้ออกมาแล้วครั้งหนึ่งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา องค์กรใหญ่ๆของจีนที่ถูกห้ามขายชิปคอมพิวเตอร์ให้ก็มี National University of Defense Technology (NUDT), the National Supercomputing Center in Changsha (NSCC–CS), National Supercomputing Center in Guangzhou (NSCC–GZ) และ the National Supercomputing Center in Tianjin (NSCC–TJ) ทั้งหมดที่กล่าวมานี้อยู่ในประเทศจีน
ชิปคอมพิวเตอร์รุ่น Xeon นี้มันเป็นอย่างไรหรือ? ก็เป็นชิป CPU ของคอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุดจากค่ายอินเทล ส่วนมากใช้กับระบบ Server หรือ Workstation และในเครื่อง Mac Pro รุ่นล่าสุดของ Apple ด้วย มีตั้งแต่ 6-18 คอร์ แรงมาก แล้วก็แพงมากด้วย (ดูภาพเปรียบเทียบชิป CPU รุ่นต่างๆที่แนบมาประกอบ) สหรัฐฯอ้างว่าจีนจะเอาชิปตระกูล Xeon ไปสร้างซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ชื่อ "Tianhe-2" และ "Tianhe-1a" ซึ่งตอนนี้เจ้าตัว "Tianhe-2" ถือว่าเป็นสุดยอดคอมพิวเตอร์ที่เร็วและทรงพลังที่สุดในโลก เหนือกว่าของอเมริกาซะอีก ใช้ชิป Xeon และ Xeon Phi ด้วยกันทั้งหมด 48,000 ตัวในการประมวลผลต่างๆ สหรัฐฯอ้างว่าจีนจะใช้ Tianhe-2 ในการโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของจีน
ดังนั้นจึงสั่งห้ามไม่ให้ทางบริษัทอินเทลขายชิปดังกล่าวให้กับทางจีน (เฉพาะ 4 หน่วยงานเท่านั้น) ทางอินเทลบอกว่า ได้ขายชิปดังกล่าวไปให้จีนตั้งหลายล็อตแล้ว พึ่งมาห้ามเอาอะไรตอนนี้ ถ้ารัฐบาลออกมาห้ามอย่างนี้ อินเทลก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล แหม… มันมีช่องทางในการนำเข้าได้ตั้งหลายวิธี เช่นตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์นอมินีขึ้นมาบังหน้าซัก 4-5 บริษัท ให้บริษัทเหล่านี้ซื้อมาจากอินเทลหรือซื้อทางออนไลน์จากตัวแทนจำหน่ายอื่นๆก็ได้ แล้วค่อยส่งต่อมายังองค์กรที่ถูกห้าม ไม่เห็นจะยากเลย ดูอย่างโครงการโกงข้าวของรัฐบาลที่แล้วสิ ขนาดรัฐบาลจีนไม่รู้เรื่องด้วยเกี่ยวกับโครงการขายข้าวแบบ GtoG บริษัทต่างชาติไม่มีตัวตนเขาก็ยังเสกเพี้ยงขึ้นมาได้เลย ประสาอะไรกับข้อห้ามเพียงแค่นี้
คำสั่งนี้สั่งห้ามเฉพาะบางหน่วยงานในประเทศจีนเท่านั้น ไม่เห็นมีห้ามประเทศอื่นด้วย คงเป็นเพราะว่าสหรัฐฯไม่พอใจที่จีนไม่ให้เข้าร่วมในธนาคาร AIIB ด้วยหละมั๊งก็เลยออกอาการฟาดหัวฟาดหางฟาดงวงฟาดงาอย่างนั้น และอเมริกาก็รับไม่ได้ที่จู่ๆจีนก็พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์แซงหน้าอเมริกาซะอย่างนั้น แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลสหัฐฯก็จ้างให้อินเทลสร้างซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวใหม่ของตนขึ้นมาภายใต้งบประมาณ $200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6.5 พันล้านบาท) ชื่อ "Aurora" คุยว่าจะทำให้เจ๋งกว่าของจีนซะอีก แหนะ! ทีตัวเองทำได้ แต่ห้ามคนอื่นทำ ถ้าชิปคอมพิวเตอร์รุ่นนี้มันอันตรายจริงๆก็ต้องแบนทั้งหมดสิ อันนี้ไม่ แบนเฉพาะองค์กรด้านการวิจัยเทคโนโลยี่ของจีนเท่านั้น ไม่สนว่าเขาจะเอาไปใช้ในทางอื่นที่เป็นประโยชน์ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องนิวเคลียร์หรือไม่ก็ได้ แต่ก็หาข้ออ้างได้ตลอด ยกเว้นตัวเอง นี่แหละเขาถึงได้เรียกว่า American Exclusivism
พอเศรษฐกิจของอเมริกาตกต่ำ อัตราการสร้างงานใหม่ไม่เพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ก็หาทางจะหารายได้เพิ่มให้ประเทศตนเองด้วยการสร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ ล่าสุดเพนตาก้อนออกมาประกาศว่า สหรัฐฯพร้อมจะขายสุดยอดอาวุธที่ดีสุดให้กับเอเซีย อะไรหละคือสุดยอดอาวุธที่เขาหมายถึง ก็เครื่องบินรบสเตลธ์รุ่นที่5 F-35 นั่นไงครับ ที่ตอนนี้อัดงบเข้าไปเท่าไรก็ไม่พอ ยังไม่รู้ผีรู้คน คงเป็นเพราะดึงเงินจากยุโรปมาร่วมสร้างจนอียูกระเป๋าแห้งแล้วก็เลยอยากจะมาหาหุ้นส่วนในเอเซียเข้าร่วมด้วยว่างั้นเถอะ เป้าหมายก็คือเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นนั่นแหละ เขารู้ทันหรอกน่า แล้วทีอย่างนี้ไม่เห็นห้ามส่งออกเลยอ่ะ แต่กรณีชิปคอมพิวเตอร์กลับห้ามซะงั้น มันยังไงหละนี่
มาดูปูมหลังของอินเทลดีกว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.58 ที่ผ่านมา บริษัทอินเทลออกมาประกาศปรับลดยอดขายของตนลง โดยในไตรมาสแรกของปีนี้อินเทลคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ระหว่าง $12.5 billion ถึง $13.1 billion ซึ่งก่อนหน้านี้อินเทลได้ออกมาประกาศว่าคาดว่ารายได้ในไตรมาสแรกจะอยู่ที่ $13.2 billion ถึง $14.2 billion นั่นไง! ก็ขายของไม่ค่อยออกอ่ะ ก็ต้องปรับลดยอดขายล่วงหน้าลงสิ ปัญหามาจากอะไร? ง่ายๆ เศรษฐกิจฝืดคนไม่ค่อยซื้อคอมพิวเตอร์ใช้ ถ้าดูจากกราฟหุ้นของอินเทลที่แนบมาประกอบก็จะเห็นได้ชัดเลยว่า NASDAQ : INTC มันค่อยๆเลื่อนลงมาตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมาแล้ว
หนึ่งในเทคนิคการโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการในการบริโภคเพิ่มขึ้น (demand) ไม่จำเป็นต้องบอกว่าของตัวเองดีอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะสินค้านั้นๆเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปอยู่แล้ว แต่ทำอย่างไรถึงจะบู้สต์ความต้องการซื้อให้เพิ่มขึ้นในขณะที่ตลาดกำลังซบเซาอยู่อย่างนี้ ก็ใช้เทคนิคนี้แหละ ด้วยการสั่งห้ามขาย (ให้บางประเทศ) แต่ก็แง้มบางช่องทางเอาไว้ให้ระบายสินค้าออกได้ เพื่อกระตุ้นให้ความต้องการบริโภคในตลาดให้เพิ่มมากขึ้น งานนี้จีนจึงถูกยกขึ้นมาเป็นตัวละครหนึ่งของสหรัฐฯ คล้ายกับกรณีของการโปรโมทหนัง The Interview ที่ยกเอาเกาหลีเหนือมายำเล่นนั่นแหละ สามารถสร้างความเกลียดชังจากชาวโลกให้มีต่อเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้นได้ ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้คนอยากจะดูหนังเรื่องนั้นเพิ่มมากขึ้น สุดท้ายยอดขายถล่มทลาย แม้ไม่ต้องฉายในโรงหนังก็ตาม กรณีของจีนนี้ก็เช่นกัน จะเอาอะไรไปขู่อียูและประเทศอื่นๆเกี่ยวกับจีนดีหละ ตอนนี้กระแสความหวาดกลัวนิวเคลียร์ของอิหร่านกำลังมาแรง ก็เอาเรื่องนิวเคลียร์นี่แหละมาเล่นจีนต่อซะเลย เพื่อให้ผู้คนหวาดผวาจีน แต่สหรัฐฯสามารถผลิตอะไรที่ร้ายแรงยังไงก็ได้ ไม่เคยอออกกฎห้ามตัวเองอย่างที่ห้ามประเทศอื่นเลย
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การที่สหรัฐฯและอินเทลเล่นเกมนี้ ยิ่งจะเป็นการกระตุ้นให้จีนเร่งพัฒนาชิปคอมพิวเตอร์ของตนให้สามารถแข่งขันกับสหรัฐฯเร็วยิ่งขึ้นไปอีก และเพื่อให้หลุดพ้นจากการพึ่งพาเทคโนโลยีของสหรัฐฯโดยหันมาพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้นด้วย แม้ว่าเกมนี้จะได้ผลในระยะสั้นก็จริง แต่ในระยะยาวแล้ว หากประเทศอื่นสามารถพัฒนาชิปคอมพิวเตอร์ได้อย่างเท่าเทียมหรือเหนือกว่าของสหรัฐฯเชื่อเถอะว่า แผนนี้ของสหรัฐฯจะเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจของตนเองเข้าสู่จุดจบได้เร็วขึ้นไปอีก
The Eyes
11/04/2558
----------
No Deal: Intel Can’t Sell Chips to China Over US Nuclear Fears / Sputnik International
http://rt.com/usa/248657-commerce-restricts-intel-china/
http://www.pcworld.com/…/us-blocks-intel-from-selling-xeon-…
http://newsroom.intel.com/…/intel-lowers-first-quarter-reve…
http://www.nytimes.com/…/12/busin…/ap-us-intel-outlook.html…
http://www.bloomberg.com/…/intel-cuts-sales-forecast-on-low…
Intel Corporation - Stock Data
Intel’s new 18-core Haswell Xeon chips will try to preempt the ARM server onslaught | ExtremeTech
http://www.computerworld.com/…/us-issues-bogus-unenforceabl…
US govt bans Intel from selling chips to China's supercomputer boffins • The Register
Pentagon Promises to Deploy 'Best' US Weapons to Asia / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
การทารุณกรรมทางเพศในเด็กในอังกฤษเพิ่มขึ้น 60% แต่ตัวเลขการจับกุมดำเนินคดีลดลง 9%



-----------
พาไปเที่ยวอเมริกามาสองที่แล้ว คราวนี้ไปเที่ยวอังกฤษบ้างนะครับ เรื่องงามหน้าท้างน้านนนน... จากรายงานของของหนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาพบว่า ตัวเลขเกี่ยวกับการกระทำทารุณกรรมและการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กภายในประเทศอังกฤษเพ่ิมขึ้นเป็นสองเท่าจากเมื่อสี่ปีที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวได้จากการสำรวจข้อมูลในสถานีตำรวจ 40 แห่งในอังกฤษ ซึ่งพบว่าตัวเลขเกี่ยวกับคดีและรายงานต่อตำรวจเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กเพิ่มขึ้นจาก 5,557 รายถึง 8,892 รายในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ตัวเลขเกี่ยวกับการจับกุมผู้กระทำผิดลดลงจาก 3,511 เหลือเพียง 3,208 รายเท่านั้น การกระทำทารุณกรรมในเด็กดังกล่าวรวมถึง การฉวยโอกาสจากการแต่งตัวของเด็ก (grooming) การส่งเสริมการล่วงละเมิดทางเพศ (facilitating abuse) และการข่มขนเด็ก (child rape) ในประเทศอังกฤษด้วย
นาง Yvette Copper รมว.มหาดไทยของอังกฤษ (UK Home Secretary) กล่าวกับหนังสือพิมพ์ The Guardian ว่า "นี่เป็นเรื่องอื้อฉาวแห่งชาติ นี่ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาจากอดีตเท่านั้น มันเป็นปัญหาที่รัฐบาลควรจะเผชิญหน้าในขณะนี้"
จากตัวเลขดังกล่าวพบว่า อัตราที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนั้นมีรายงานมาจากเขต South Yorkshire ของอังกฤษ ตำรวจเมืองยอร์กเชียร์ได้เห็นคดีเหล่านี้เพิ่มขึ้นถึง 557% จาก 74 คดีในปี 2011 ถึง 501 คดีในปี 2014 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปิดเผยเรื่องอื้อฉาวขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมือง Rotherham (South Yorkshire, UK)
จากรายงานขององค์กรสังคมแห่งชาติเพื่อการป้องกันการทารุณกรรมเด็ก (National Society for the Prevention of Cruelty to Children) (NSPCC) พบว่า 1 ใน 20 คนของเด็กอังกฤษถูกทารุณกรรมทางเพศ จากสถิติเมื่อเร็วๆนี้ระหว่างปี 2012-2013 แสดงให้เห็นว่ามีรายงานคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กที่ได้รับรายงานและลงบันทึกไว้ถึง 23,000 คดี (แล้วที่ไม่มีการรายงานและไม่ได้ลงบันทึกไว้หละ?)
นี่ไงภาพอีกมุมหนึ่งในอังกฤษเมืองผู้ดีของแท้แน่นอน ฟังดูแล้วมันเศร้านะ ต่อไปทางยุโรปเขาก็จะเอาเรื่องแบบนี้แหละมาเล่นงานไทย หากเรายังไม่หาวิธีป้องกันภายในบ้านของพวกเราเอง
The Eyes
11/04/2558
----------
Child Sexual Abuses in UK Rise as Arrests Go Down / Sputnik International
http://www.theguardian.com/…/reported-child-sexual-abuse-ha…

 

ปอกเปลือก ทรราช



ความปั่นป่วนในอียู : สเปนประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล, อิตาลีเรียกร้องให้รัฐบาลเรียกทูตกลับจากยูเครน, การศึกษาพบว่ามีความเชื่อมโยงกันระหว่างอาหารฟรีกับมาตรการรัดเข็มขัดในอังกฤษ
-------------
+ สเปน
-------------
ต่อจากฝรั่งเศสลามมาที่สเปนมั่ง... เอาเข้าไปการประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดในอียู เศรษฐกิจในอียูตอนนี้บอกได้คำว่าเดียวว่าแย่สุดๆ ในขณะที่เศรษฐกิจของรัสเซียนั้นกำลังฟื้นตัวขึ้นมาทีละนิดๆแต่ของอียูกลับถอยหลังลงคลองซะงั้น ไปเชื่ออเมริกามากก็เป็นอย่างนี้แหละหนา ล่าสุดวันนี้ (10 เม.ย.58) ประชาชนชาวสเปนนำโดยพรรค Podemos ออกมาเดินประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลเป็นจำนวนมากในเมืองมาดริด (Mardid) เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ อัตราการว่างงานไม่ได้ลดลงเลย ตัวเลขจากสถาบันสถิติแห่งชาติของสเปนบอกว่าในไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้วอัตราการว่างงานของสเปนอยู่ที่ 23.67% และในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 23.7% สเปนเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) เป็นสมาชิกของนาโต้ สหรัฐฯชวนไปก่อสงครามที่ไหนแกก็ไป ล่าสุดก็ถูกสหรัฐฯใช้เป็นเครื่องมือยั่วยุรัสเซียนำเครื่องบินรบของตัวเองเข้าร่วมซ้อมรบในทะเลดำร่วมกับนาโต้ด้วย แต่เศรษฐกิจของสเปนนั้นก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากชาติอื่นๆในอียูแล้วตอนนี้ มีเงินก่อสงคราม แต่ไม่มีเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจหรือสร้างงานในประเทศของตนเอง เชื่ออเมริกามีแต่ลงเหวทั้งนั้น เพราะอย่างนี้นี่เองถึงพยายามออกมาเล่นเรื่องแรงงานเถื่อนในอุตสาหกรรมการประมงไทยอยู่บ่อยๆ เพราะไม่อยากให้สินค้าการประมงของไทยเข้าไปขายในอียูได้นี่เอง เนื่องจากกลัวว่าเงินตราของตนเองจะไหลออกนอกประเทศ กลัวว่าไทยจะรวยกว่ายุโรป ไม่เป็นไร ปล่อยให้พวกเขากินอาหารกระป๋องต่อไป เราก็ไปขายให้รัสเซียก็แล้วกัน
+ อิตาลี
-------------
มาดูฝั่งอิตาลีบ้าง ที่อิตาลีก็ไม่น้อยหน้าประเทศอื่นในอียู พรรคสถาปนาคอมมิวนิสต์อิตาลี (Italian Communist Refoundation Party) ออกมาเดินขบวนประท้วงยูเครนและเรียกร้องให้รัฐบาลอิตาลีเรียกเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำกรุงเคียฟกลับประเทศด่วน สืบเนื่องจากเมื่อเร็วๆนี้ทางรัฐสภาของยูเครนผ่านกฎหมายฉบับใหม่ที่เสนอโดยรัฐบาลสั่งห้ามแสดงสัญลักษณ์คอมมิวนิสต์โซเวียตและสัญลักษณ์นาซีในประเทศ ยูเครนเลือกที่จะใช้คำว่า "Soviet Communist" แทนที่จะใช้เพียงคำว่า "Communist" เท่านั้น เพราะอะไร? เพราะถ้าไปใช้คำว่า "Communist" เฉยๆมันก็จะไปกระทบความสัมพันธ์กับจีนด้วย ซึ่งตอนนี้จีนเข้าไปลงทุนในยูเครนไว้เยอะเหมือนกัน ในอดีตนั้นยูเครนก็เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต และโซเวียตนี่แหละที่ต่อต้านการรุกรานจากกองทัพนาซี แล้วก็สามารถรุกไล่นาซีเข้าไปจนถึงรังในเยอรมันได้ในที่สุด โซเวียตกับสหรัฐฯและชาติพันธมิตรอื่นๆร่วมมือกันปราบนาซีได้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
+ ยูเครน
-------------
สาเหตุที่รัฐบาลยูเครนออกกฎหมายฉบับนี้ก็มีที่ไปที่มาอยู่ จริงๆแล้วในรัฐบาลยูเครนก็แตกคอกันเหมือนกันมีอยู่สองค่ายใหญ่ๆ คือค่ายปธน.โปโรเชนโก้ กับค่ายนายกฯรัฐมนตรีของยูเครน (Arseniy Yatsenyuk) ตอนแรกที่จัดตั้งรัฐบาลใหม่ๆก็เหมือนจะร่วมมือกันดี แต่พักหลังมานี้เริ่มจะไม่ลงรอยกันแล้ว ทางอียูกดดันให้ยูเครนตรวจสอบการคอรัปชั่นและการเสียชีวิตของผู้คนในเหตุการณ์ไมดาน (ประท้วงเผาบ้านเผาเมืองในยูเครนเมื่อปี 2014) ในยูเครนซึ่งไม่มีความคืบหน้าใดๆ โปโรเชนโก้ก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการคอรัปชั่น เพื่อตรวจสอบฝ่ายผู้สนับสนุนนายกฯ ก็จับได้ในระดับปลาซิวประสร้อยพอจะตรวจสอบนายกฯ (สิงแว่น) เท่านั้นแหละ พี่แว่นก็ใช้อำนาจนายกฯสั่งปลดประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบซะเลย นั่นแหละนักการเมืองยูเครน สหรัฐฯซึ่งเป็นผู้ตั้งรัฐบาลนี้มากับมือก็เฉยๆ ไม่รู้ไม่ชี้
ฝ่ายนายกฯนี่จะแสวงหาพันธมิตรจากภายนอกประเทศ วิ่งเข้าหาอียู วันดีคืนดีพี่แว่นก็แอบไปพบกับผู้นำเยอรมันโดยไม่บอกให้ปธน.โปโรเชนโก้รู้ล่วงหน้าและไม่บอกด้วยว่าจะไปคุยกันเรื่องอะไร ไม่รู้ว่าไปตกลงอะไรกันไว้ แบบนี้มันก็ระแวงกันนะสิ ส่วนโปโรเชนโก้นั้นก็แสวงหาพันธมิตรจากภายในประเทศเข้ามาร่วมงานด้วย ใครหละ? ก็พวกนีโอนาซีฝ่ายขวานิยมความรุนแรงอย่างพวก Azov นั่นไง เมื่อมีการต่อต้านนาซีมากขึ้นเรื่อยๆจากฝั่งยุโรป โปโรเชนโก้ก็เลยทำให้กองกำลังอิสระที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลยูเครนเป็นกองทัพที่ถูกกฎหมาย (มีกฎหมายรองรับ) เพื่อให้ยกเลิกการใช้สัญลักษณ์นาซี และดึงพวกหัวหน้าแก๊งนีโอนาซีเหล่านั้นมาร่วมงานกับรัฐบาลด้วย แม้ว่าจะมีกฎหมายรับรอง แต่พวกนั้นก็ไม่ได้ขึ้นตรงต่อรัฐบาลอยู่ดี เพราะถ้าสังกัดกองทัพรัฐบาลเมื่อไรพวกนีโอนาซีก็จะหมดอำนาจในการต่อรองกับรัฐบาลทันที ดังนั้นกลุ่นนีโอนาซีก็ยังคงเป็นเอกเทศอยู่เช่นเดิม และกฎหมายใหม่ของยูเครนยังอนุญาตให้จัดตั้งบริษัททหารรับจ้างได้ด้วย นี่มันยิ่งกว่ามาเฟียซะอีกนะนี่ ก็ทำไงได้หละ ถ้าสหรัฐฯไม่ไฟเขียวให้ยูเครนจะทำอย่างนั้นได้รึ? สหรัฐฯเลี้ยงพวกนี้เอาไว้ใช้งานส่วนตัวแต่ใช้เงินจากภาษีของประชาชนชาวยูเครนเลี้ยงทหารรับจ้างพวกนี้เอาไว้ ชาวยูเครนตอนนี้ถูกปิดปากหมดหรือได้แต่มองดูตาปริบๆ พูดอะไรไม่ออก ขืนพูดออกมาเจอข้อหากบฎแน่
+ อังกฤษ
-------------
อังกฤษประเทศที่ใช้น้ำมันแพงที่สุดในโลก ซ่อนรูปมาตรการรัดเข็มขัดภายในประเทศ เห็นประเทศอื่นๆในอียูเขาออกมาประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล ไม่ใช่ว่าที่อังกฤษจะไม่มีการใช้มาตรการรัดเข็มขัดนะ มีเหมือนกัน แต่เขานี้ฉลาด ไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่น ก็ใช้วิธีออกโครงการ "อาหารฟรี" ให้ประชาชนแทน ใครได้รับความเดือดร้อนจากข้าวของแพงไม่มีเงินซื้ออาหารก็มารับอาหารฟรีจากจุดที่รัฐบาลจัดไว้ให้ คนเห็นก็ชอบ ก็ไม่ออกมาประท้วง เพราะถูกอำพรางด้วยแคมเปญจ์ free food ของรัฐบาลอังกฤษ ก็มีคนสงสัยว่าเจ้านโยบาย free food ของอังกฤษนี่มันน่าจะมีความเชื่อมโยงกันกับมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลหรือเปล่า? จึงไปทำการศึกษาและสำรวจดู นักวิจัยจากภาควิชาสังคมวิทยาของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ได้ออกมากล่าวหลังการศึกษาว่า "เรา… ได้ทำการวิเคราะ์ธนาคารอาหารที่ให้อาหารมากขึ้น เราพบว่ายิ่งมีการตัดลด (งบประมาณ) มากขึ้นเท่าไรและระดับการแซงชั่นมีมากขึ้นเท่าใด นั่นหมายถึงว่ารายได้ของพวกเขาก็จะถูกตัดออกไปตามระยะเวลามากขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น และยิ่งจะมีการแจกจ่ายอาหารเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย (แสบไหมหละรัฐบาลอังกฤษ) การเชื่อมโยงนี้บอกให้รู้ว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างมาตรการรัดเข็มขัดและประชาชนที่ไม่มีอาหารเพียงพอสำหรับบริโภคในครัวเรือนของพวกเขา" (แสดงให้รู้ว่าแม้จะเพิ่มปริมาณอาหารฟรีแต่ก็ไม่เพียงต่อปริมาณที่ต้องการเพราะว่าจำนวนของคนจนในอังกฤษเพิ่มมากขึ้นทุกวัน)
รัฐบาลอังกฤษประกาศนโยบายรัดเข็มขัดเป็นเวลา 5 ปี (ของฝรั่งเศสแค่ 3 ปี ของไทยไม่มีเลย แต่ไทยเราแนะนำให้ใช้จ่ายอย่างประหยัดและพอเพียง) ระหว่างปี 2010 ถึง 2018 โปรแกรมดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดการขาดดุลในงบประมาณของประเทศอังกฤษ กำหนดลดการใช้จ่ายในส่วนของสาธารณะลงให้มากที่สุด เพื่ออะไร? ก็เพื่อให้สามารถส่งเงินเข้านาโต้ได้ตามที่สหรัฐฯต้องการคือ 2% ของ GDP ไง และเพื่อเอาไปเพิ่มงบกลาโหมเอาไว้ไปทำสงครามร่วมกับสหรัฐฯในประเทศอื่นต่อไปอีก ในขณะที่อัตราผู้ไร้ที่พักในอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
The Eyes
10/04/2558
----------
Spain Anti-Austerity Party to Keep Gaining Support Ahead of Elections / Sputnik International
Italian Communists Scold 'Revisionist' Kiev for Equating Communism, Nazism / Sputnik International
Ukrainian Parliament Bans Communist, Nazi Symbols / Sputnik International
Mole Among Men: Ukraine’s Right Sector Leader Pawn of the United States / Sputnik International
Yatsenyuk to Meet Merkel During Visit to Berlin on April 1-2 / Sputnik International
Ukraine to Set Up Private Military Companies to Deal With 'War Syndrome' / Sputnik International
Embattled Ukrainian PM Fires Official Who Investigated Him for Corruption / Sputnik International
Ukraine’s Right Sector Ready to Be Transformed Into Army Assault Unit / Sputnik International

 

คพ. เปิดเผยคุณภาพน้ำพบ 11 แหล่งน้ำมีคุณภาพเสื่อมโทรม เตือนประชาชนระมัดระวังไม่ให้ปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย หรือสัมผัสกับบาดแผลภายนอก



นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2558 พบว่า แหล่งน้ำที่มีการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกสูง (ใช้แบคทีเรียกลุ่ม ฟีคอลโคลิฟอร์ม ในแหล่งน้ำที่มีค่ามากกว่า 4,000 หน่วย เป็นตัวชี้วัด) และไม่ควรนำน้ำนั้นมาใช้ในการเล่นสาดน้ำกัน ได้แก่

- แม่น้ำยม บริเวณ อ.เมือง จ.สุโขทัย (17,000 – 24,000 หน่วย)

- กว๊านพะเยา บริเวณ อ.เมือง จ.พะเยา (7,000 หน่วย)

- แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ (30,000 หน่วย)

- แม่น้ำเลย บริเวณ อ.เมือง จ.เลย (15,000 หน่วย)

- แม่น้ำลำปาว บริเวณ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ (16,000 หน่วย) อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ (5,400 หน่วย)

- แม่น้ำเสียว บริเวณ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด (24,000 หน่วย)

- แม่น้ำชุมพร บริเวณ อ.เมือง จ.ชุมพร (35,000 หน่วย)

- แม่น้ำปากพนัง บริเวณ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช (92,000 หน่วย)

- แม่น้ำตาปี บริเวณ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี (16,000 หน่วย)

- แม่น้ำปัตตานี บริเวณอ.เมือง จ.ปัตตานี (16,000 หน่วย)

- ทะเลหลวง บริเวณอ.ปากพะยูน จ.พัทลุง (24,000 หน่วย)

สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำในพื้นที่บริเวณคูเมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น นายวิเชียร กล่าวด้วยว่า จากการเก็บตัวอย่างคุณภาพน้ำรอบๆคูเมืองเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558 จำนวน 10 จุด พบว่า 8 จุดที่ตรวจเก็บตัวอย่างมีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ และอีก 2 จุด มีคุณภาพน้ำเสื่อมโทรม ได้แก่ ด้านทิศตะวันตก บริเวณหน้าโรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม และด้านทิศเหนือ บริเวณหน้าศูนยค์อมพิวเตอร์ ซิตี้ จ.เชียงใหม่ กล่าวคือ คุณภาพน้ำรอบคูเมืองเชียงใหม่สามารถใช้เล่นน่ำหรือสาดน้ำได้ตามปกติ แต่จะต้องระมัดระวังไม่ให้ปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย หรือสัมพัสกับบาดแผลภายนอกร่างกาย

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวอีกว่า หลักการสังเกตุสภาพน้ำ และบริเวณโดยรอบแหล่งน้ำเบื้องต้น ในกรณีประชาชนที่ไช้น้ำแม่น้ำ คลอง บึง มาเล่นสงกรานต์ ได้แก่ สีของน้ำตามธรรมชาติ ควรเป็น สีน้ำตาล หรือเขียวใส ไม่มีกลิ่นของน้ำ ที่ผิดปกติเช่น กลิ่นน้ำมัน กลิ่นเหม็นเน่า กลิ่นอาหาร หรือกลิ่นที่ทำก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียน และไม่พบสิ่งแปลกปลอมจากกิจกรรมของมนุษย์ ในน้ำ เช่น คราบน้ำมัน เศษอาหาร ขยะ หรือสิ่งเน่าเสียต่างๆ รวมถึงไม่พบสิ่งแวดล้อมโดยรอบแหล่งน้ำ เช่น มีท่อระบายน้ำทิ้งจากโรงงาน หรือชุมชน พืชน้ำและ ต้นไม้ริมตลิ่ง มีสภาพแห้งตาย และเหี่ยวเฉา

"ขอฝากถึงประชาชนให้มีความระวังระวังในการเล่นน้ำจากแหล่งน้ำผิวดินช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ และไม่ว่าจะใช้น้ำจากแหล่งใด ทั้งคนสาดน้ำและคนที่ถูกสาดน้ำ ควรพยายามระวังส่วนที่เป็นทางเข้าสู่ร่างกาย เช่น ตา หู จมูก ปาก โดยเฉพาะเมื่อเล่นน้ำเสร็จ ควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อยหรือขณะเล่นน้ำถ้าเกิดอาการผิดปกติของร่างกายเช่น ระคายเคืองผิวหนัง เกิดเม็ดผื่นคัน ควรหยุดเล่นทำความสะอาดบริเวณดังกล่าว และถ้าเป็นไปได้ให้ตรวจสอบน้ำนั้นว่ามาจากแหล่งใด มีอะไรผิดปกติหรือส่งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง"

ขอบคุณภาพจากทรูไลฟ์

คพ.เตือนเล่นน้ำสงกรานต์อย่างระวังหลังพบ 11แหล่งน้ำเสื่อมคุณภาพ

 

Rabeab Lokmai ได้แชร์โพสต์ของ Thairath



ต๋ำนานปี๋ใหม่เมือง อดีตคติ จาวล้านนาให้ความสำคัญกับปี๋ใหม่ ในลักษณะบุคลาธิษฐาน หมายถึงพระอาทิตย์ เป็นสุริยะเทพ และจากคัมภีร์สุริยยาตร์โดยถือว่าการล่องของสังขานต์ในแต่ละปีนั้น มีขุนสังขานต์เป็นตัวเอก และมีนางเทวดามารอรับขุนต์สังขานต์ มีความยิ่งใหญ่อลังการ และมีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันไป ตามวันเวลาที่สังขานต์ล่องในแต่ละปี เช่น สีเครื่องนุ่งทรง เครื่องประดับ การถือสิ่งของในแต่ละมือ อิริยาบถ พาหนะ ทิศการเสด็จ ฯลฯ และจะมีคำทำนายที่มีอิทธิพลต่อความการดำเนินชีวิต การครองเรือน การศึกสงคราม การทำมาหากิน การเพาะปลูกพืชพรรณธัญญาหาร ปริมาณน้ำฝน ของอุปโภคบริโภคถูกหรือแพง เป็นต้น ปัจจุบันทางการได้กำหนดประเพณีสงกรานต์โดยประกาศ ให้ “วันสังขานต์ล่อง”คือวันที่ 13 เมษายน “วันเนาว์”คือวันที่ 14 เมษายน “วันพญาวัน”หรือวันเถลิงศกคือวันที่ 15 เมษายน “วันปากปี๋” คือวันที 16 เมษายน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 เป็นต้นมา ซึ่งแตกต่างจากประเพณีเหง้าเดิม ที่กำหนดตามการเคลื่อนย้ายของดวงอาทิตย์จากราศีเมรุฯเข้าสู่ราศีเมษฯ ที่สืบทอดต่อมาจากบรรพบุรุษ วันสังขารล่อง วันสังขารล่อง หรือวันสังกรานต์ล่อง ปัจจุบันถือเอาวันที่ 13 เมษายน ของทุกปีเป็นวันสังขารล่อง เป็นวันแรกของกิจกรรมประเพณีปีใหม่เมือง หลังเที่ยงคืนวันที่ 12 เมษายน จะมีการจุดประทัด ยิงปืน เพื่อส่งสังขารหรือไล่สังขาร จะทำความสะอาดบ้านเรือน ทั้งบนเรือนและใต้ถุนบ้าน บางท้องถิ่นจะทำคานหามใส่ดอกไม้ ธูปเทียน ต้นดอก ต้นเทียน เรียกกันว่า “ต้นสังขาร” แล้วพากันแห่ขบวนเอาคานหามไปลอยน้ำเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ วันเน่าหรือวันเนาว์ วันเน่าหรือวันเนาว์ เป็นวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี เป็นวันที่สองของประเพณีปีใหม่เมือง ตามประเพณีแล้ววันนี้เป็น "วันดา" คือวันที่ต้องเตรียมสิ่งของต่างๆ เพื่อใช้ทำบุญในวันรุ่งขึ้น และตลอดทั้ง จะพากันไปขนทรายที่แม่น้ำ เข้าวัด เพื่อก่อเป็นเจดีย์ทรายคนล้านนามีความเชื่อเรื่องวันเน่าว่า ผู้ประสงค์จะปลูกเรือน ให้รีบตัดไม้ภายในวันนี้ เพราะเชื่อว่าไม้จะไม่เน่าและไม่มีมอดหรือปลวกมากิน ไม่ควรด่าทอ สาปแช่งหรือกล่าวคำร้ายต่อกัน ปากจะเน่าจะเหม็น เป็นอัปมงคลไปทั้งปี วันพญาวัน วันพญาวัน เป็นวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี วันที่สามของประเพณีปีใหม่เมือง ถือเป็นวันเถลิงศก เปลี่ยนศักราชเริ่มต้นปีใหม่ วันนี้มีการทำบุญทางศาสนาแต่เช้าตรู่ และอุทิศกุศลไปถึงญาติผู้ล่วงลับ หรือเรียกว่า “ตานขันข้าว” หลังจากนั้นนำตุงปักลงบนกองเจดีย์ทราย และคนเฒ่าคนแก่ก็อยู่ร่วมพิธีเวนทานเจดีย์ทราย ถวายช่อตุงปีใหม่ และฟังเทศนาธรรมอานิสงส์ปีใหม่ ช่วงบ่ายเป็นการรดน้ำดำหัว เพื่อขอขมาคนเฒ่าคนแก่ พ่อแม่ ครูอาจารย์ ไปสรงน้ำพระพุทธรูป เจดีย์ คนล้านนาจะทัดดอกไม้นามปี เพื่อให้เกิดความเป็นมงคลแก่ชีวิต นอกจากนี้ ยังนิยมเริ่มต้นเรียนศาสตร์ศิลป์ต่างๆ เป็นต้นว่า มนต์คาถา สักยันต์ หรือทำพิธีสืบชะตา ขึ้นบ้านใหม่ ไหว้ครู และในหลายพื้นที่ยังมีกิจกรรมแห่ไม้ค้ำศรี หรือไม้ค้ำโพธิ์ เพื่อสืบต่ออายุพระศาสนา และค้ำชูอุดหนุนให้แก่ชีวิตเจริญรุ่งเรือง วันปากปี วันปากปี เป็นวันที่ 16 เมษายน ของทุกปี วันที่สี่ของประเพณีปีใหม่ จัดว่าเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งในเทศกาลปีใหม่เมือง ถือเป็นวันแรกของปี วันนี้คนล้านนาจะมารวมตัวกันเพื่อทำบุญเสาใจบ้าน หรือส่งเคราะห์บ้าน สืบชะตาหมู่บ้าน และพากันไปขอขมา ดำหัว พระเถระผู้ใหญ่ตามวัดต่างๆ ดำหัวผู้อาวุโส ผู้นำชุมชน ในตอนค่ำของวันนี้จะมีการบูชาเทียน สืบชะตา ลดเคราะห์ รับโชค เพื่อให้เกิดความเป็นมงคลแก่ครอบครัว ความเชื่อบางประการ วันสังขานต์ล่องที่ตรงกับวันอาทิตย์ คนเกิดวันอังคารจะมีเคราะห์ คนเกิดวันศุกร์จะมีโชคลาภ ของเหลืองของขาวจะแพง ของแดงจะถูก ปีนี้ดำหัว(สระผมในวันสังกรานต์ล่อง)ให้หันหน้าไปทางตะวันตก จะอยู่ดีมีสุข วันเน่าหรือวันเนาว์ เป็นวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี เป็นวันที่สองของประเพณีปีใหม่เมือง ตามประเพณีแล้ววันนี้เป็น "วันดา" คือวันที่ต้องเตรียมสิ่งของต่างๆ เพื่อใช้ทำบุญในวันรุ่งขึ้น พญาวันมาในวันอาทิตย์วันที่ 15 เมษายน ยักษ์มาอยู่เฝ้าแผ่นดิน ห้ามทำการมงคลกรรม ควรทำลาบเป็นอาหาร เพราะทานลาบในวันนี้จะทำให้มีโชคลาภตลอดปี วันปากปี๋ วันที่ 16 เมษายน วันที่สี่ของประเพณีปีใหม่ ถือเป็นวันแรกของปี วันนี้คนล้านนาจะกินแกงขนุนกันทุกครอบครัวเน้อไผตี้เผยแผ่ส่งต่อจะถูกโหยรางวัลตี้หนึ่งสองใบ..บ่เจื้อก้อ ลองผ่อเต๊อะ

 

Jaroen Compeerapap

<iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/2ZTlzqqfddk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>



CERN Loses Control: Cern สูญเสียการควบคุม เจอพลังงานสีดำ (Dark Energy) เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558 ระหว่างเวลาสี่ทุ่ม 10:45 pm ถึงตี่หนึ่ง 01: 00 am ขณะอยู่ระหว่างการทดลองของ CERN ด้วยเครื่อง LHC พบพลังงานสีดำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ในระดับสูงจนเกินเครื่องวัดระดับพลังงาน ในภาพที่ CERN ออกเผยแพร่ผลการทดลองดังกล่าว สร้างความกังวลที่ปรากฏระดับพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่อาจควบคุมได้ (เส้นสีดำ จากจอมอนิเตอร์) จากการใช้พลังงานเครื่องเร่งอานุภาคขนาด 450 GeV โดยพบพลังงานมืดที่ว่านี้ ในรำแสงที่ 2 ซึ่งได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ในระดับขนาด 6.5 TeV นี่ขนาดยังไม่ได้ใช้พลังงานเร่งอานุภาคที่ตั้งเป้าไว้ขนาด 13 TeV ยังควบคุมพลังงานมืดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ไม่ได้ นี่ถ้ามีการทดลองต่อไปถึงขนาดที่ตั้งใจไว้ จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก เรากำลังอยู่กับความเสี่ยงที่เราไม่รู้จากอหังกา ที่จะค้นหาพลังงานมืด (Dark Energy) ให้ได้ มันก็แปลกดีนะ คนบางคนอยากหาพลังงานมืด หรือด้านมืด ๆ ในขณะที่คนอีกกลุ่มอีกพวกกลับค้นหาความสว่าง หรือ มันเป็นของคู่กันมาใกล้อวสาน ใกล้จบกันแล้ว คงมีอะไรให้เห็นที่ตื่นเต้นเร้าใจจากนี้แน่พี่น้อง ...

 

น้ำมันพุ่งสงสัยข้อตกลงอิหร่าน หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำบวก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2558 05:19 น.



เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวันศุกร์(10เม.ย.) พุ่งแรงในสัปดาห์แห่งความผัวผวน หลังเกิดข้อสงสัยต่อข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งจะเปิดทางเชื้อเพลิงเตหะรานกลับสู่ตลาด ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้นพอสมควร จากข่าว GE เตรียมขายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ทองคำปิดบวก แต่โดยรวมตลอดทั้งสัปดาห์ยังลดลงจากสัปดาห์ก่อน

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ ปิดที่ 51.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2.35 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 3 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันขยับลงใน 2 วันหลังสุดของการซื้อขายจากสัญญาณอุปทานล้นตลาดในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในวันศุกร์(10เม.ย.) หลังประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านและอยาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุด มีท่าทีกลับลำจากข้อตกลงที่เห็นพ้องระหว่างเจรจาโครงการนิวเคลียร์ของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

รูฮานี บอกว่ามาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกต่ออิหร่าน ซึ่งกัดเซาะการส่งออกน้ำมันของประเทศลงกว่าครึ่ง จะต้องยกเลิกเร็วที่สุดหลังจากได้ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์อย่างเป็นทางการ แต่ทางสหรัฐฯย้ำว่าการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร จะขึ้นอยู่กับขั้นตอนการตรวจสอบ โดยต้องการรอดูเสียก่อนว่าอิหร่านจะปฏิบัติตามข้อตกลงได้อย่างยั่งยืนหรือไม่

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(10เม.ย.) ขยับขึ้นพอสมควร และปิดฉากสัปดาห์ด้วยการปิดบวกอย่างกว้างขวาง ได้แรงหนุนจากข่าวจีอีเตรียมขายธุรกิจเสี่ยงและซื้อหุ้นคืน

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 98.92 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,057.65 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.88 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,102.06 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 21.41 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,995.98 จุด

หุ้นของเจเนอรัล อิเลคทริค(GE)เพิ่มขึ้นถึง 10.8 เปอร์เซนต์ ปิดที่ 28.51 ดอลลาร์ต่อหุ้น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 หลังมีข่าวเตรียมขายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และซื้อหุ้นคืนราว 50,000 ล้านดอลลาร์

ส่วนราคาทองคำเมื่อวันศุกร์(10เม.ย.) ขยับขึ้นแรง แต่โดยรวมตลอดทั้งสัปดาห์ ถือว่าปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ ท่ามกลางแรงกดดันของดอลลาร์ที่แข็งค่าและความคาดหมายว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยก่อนกำหนด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 11.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,204.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041955

 

Weekend Focus : ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านแค่การ “ซื้อเวลา”?
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2558 08:43 น.



แม้กรอบข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างมหาอำนาจทั้ง 6 กับอิหร่านจะถือเป็นพัฒนาการก้าวสำคัญในความพยายามของโลกตะวันตกที่จะจำกัดศักยภาพของเตหะรานไม่ให้ไปถึงขั้นครอบครองอาวุธทำลายล้างสูง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จครั้งนี้ได้สร้างรอยร้าวต่อสายใยมิตรภาพระหว่างสหรัฐฯ กับอิสราเอล ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นอาจเป็นแค่การ “ซื้อเวลา” ให้อิหร่านกลายเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ช้าลงเท่านั้น

ทำเนียบขาวพยายามโน้มน้าวให้สภาคองเกรสและนักวิจารณ์ทั้งหลายเชื่อมั่นในกรอบข้อตกลงเบื้องต้นที่มหาอำนาจ P5+1 ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส บวกเยอรมนี ทำร่วมกับเตหะรานเมื่อที่ 2 เม.ย. ว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่ข้อตกลงจำกัดศักยภาพนิวเคลียร์ของอิหร่านได้อย่างสมบูรณ์แบบ

กรอบข้อตกลงที่ว่านี้ยังไม่ได้เอ่ยถึงระยะเวลาหรือขอบเขตของการผ่อนคลายคว่ำบาตร และยังมีอีกหลายประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องตกลงให้สำเร็จก่อนสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายสำหรับการจัดทำข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์

หากเงื่อนไขที่มีการเปิดเผยออกมาสามารถปฏิบัติได้จริง จะทำให้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านถูกจำกัดขอบเขตไว้ราวๆ 10-15 ปี และนานาชาติก็จะมีกลไกตรวจสอบความเคลื่อนไหวของอิหร่านได้ทุกระยะ

กรอบข้อตกลงมีประเด็นสำคัญๆ ได้แก่

อิหร่านจะสามารถมีเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ได้แค่ราวๆ 6,000 เครื่องจากทั้งหมด 19,000 เครื่องในปัจจุบัน โดย 5,000 เครื่องจะใช้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่โรงงานนาตันซ์ (Natanz) และอีก 1,000 เครื่องที่โรงงานฟอร์โด เครื่องหมุนเหวี่ยงที่ใช้จะต้องเป็นรุ่น IR-1 ซึ่งเป็นรุ่นเก่า และต้องถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิดโดยทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)

- อิหร่านต้องลดการสะสมยูเรเนียมสมรรถนะต่ำจาก 10,000 กิโลกรัม ให้เหลือเพียงไม่เกิน 300 กิโลกรัม

- อิหร่านสามารถใช้โรงงานใต้ดินที่ฟอร์โดเป็นห้องวิจัยนิวเคลียร์ฟิสิกส์ แต่ห้ามมีวัสดุฟิสไซล์เป็นเวลาอย่างน้อย 15 ปี

- เจ้าหน้าที่นานาชาติไม่เพียงสามารถเข้าไปตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์แห่งใหญ่ๆ ของอิหร่านได้เท่านั้น แต่รวมถึงซัพพลายเออร์ และเหมืองแร่ยูเรเนียมที่อิหร่านใช้เป็นวัตถุดิบด้วย

- อิหร่านจะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ IAEA เข้าไปตรวจสอบสถานที่หรือกิจกรรมต้องสงสัยได้ทั่วประเทศ

- เตาปฏิกรณ์น้ำมวลหนักที่เมืองอารัค (Arak) ที่หลายฝ่ายเกรงว่าอิหร่านจะใช้ผลิตพลูโตเนียมเพื่อทำระเบิดนิวเคลียร์ จะต้องถูกปรับสภาพเสียใหม่เพื่อไม่ให้ใช้ผลิตพลูโตเนียมเกรดอาวุธได้อีก

เงื่อนไขและข้อจำกัดเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ในระยะเวลา 10-15 ปี โดยสิ่งที่อิหร่านจะได้ตอบแทนก็คือ

- สหรัฐฯและสหภาพยุโรปจะระงับมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ แต่ยังไม่กำหนดกรอบเวลาที่แน่ชัด

- อิหร่านไม่จำเป็นต้องปิดโรงงานนิวเคลียร์ทุกแห่งลงโดยสิ้นเชิง

- อิหร่านจะยังคงมีทรัพยากรเหลืออยู่มากพอที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ได้ต่อไป หลังจากที่ข้อตกลงสิ้นอายุ

ทั้งนี้ หากอิหร่านผิดสัญญา ผู้ตรวจสอบนานาชาติจะทราบล่วงหน้าได้อย่างน้อย 1 ปีก่อนที่เตหะรานจะผลิตอาวุธทำลายล้างสูงสำเร็จ ซึ่งเพียงพอต่อการป้องกันได้

ฝ่ายที่เป็นเดือดเป็นแค้นและไม่เห็นด้วยกับการประนีประนอมกับอิหร่านมากที่สุดเห็นจะไม่พ้นอิสราเอล โดยนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ถึงกับติเตียนว่าเป็น “ข้อตกลงเลวร้าย” เพราะเท่ากับปล่อยให้อิหร่านมีโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ต่อไป

เนทันยาฮู ยังเรียกร้องให้ P5+1 เพิ่มเงื่อนไขให้อิหร่านต้องยอมรับสถานะความเป็นรัฐของอิสราเอลลงในข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ด้วย โดยอ้างคำพูดนายพลอิหร่านผู้หนึ่งที่ออกมากล่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่า “การทำลายอิสราเอลให้สิ้นซากคือสิ่งที่รอมชอมกันไม่ได้”

“ผมเองก็ขอประกาศให้ทุกฝ่ายรับรู้เช่นกันว่า ความอยู่รอดของรัฐอิสราเอลเป็นสิ่งที่รอมชอมกันไม่ได้” ผู้นำยิวกล่าว

ต้นสัปดาห์นี้ สหรัฐฯ ออกมาประกาศท่าทีชัดเจนว่าจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านลงอย่างช้าๆ ตามเงื่อนไขข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ปฏิเสธเสียงเรียกร้องจากผู้นำยิว โดยให้สัมภาษณ์ต่อสถานีวิทยุสาธารณะแห่งชาติ (National Public Radio - NPR) ว่า “การจะทำข้อตกลงควบคุมอิหร่านไม่ให้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ โดยตั้งเงื่อนไขให้พวกเขาต้องยอมรับสถานะของอิสราเอลด้วยนั้น ไม่ต่างจากการพูดว่าเราไม่เซ็นสัญญาแน่ๆ จนกว่าระบอบการปกครองในอิหร่านจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง”

โอบามา ชี้ว่า การที่อิสราเอลพยายามนำ 2 เรื่องนี้มาโยงกันเป็นความคิดที่ “ผิดตั้งแต่ต้น”

อิหร่านได้ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลหลังเกิดการปฏิวัติอิสลามในปี 1979 และไม่ยอมรับสถานะความเป็นรัฐของอิสราเอลด้วย

อย่างไรก็ตาม โอบามา ก็พยายามปลอบขวัญผู้นำยิวโดยประกาศย้ำจุดยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับอิสราเอล และชี้ว่าหากความมั่นคงของอิสราเอลถูกทำลายลงจะถือเป็น “ความล้มเหลวระดับฐานราก” ของสหรัฐฯ ที่มีตนเป็นประธานาธิบดี

“สิ่งที่เราจะทำหลังจากบรรลุข้อตกลงก็คือ ส่งสารไปยังรัฐบาลอิหร่านและทั่วทั้งภูมิภาคว่า หากใครคิดร้ายต่ออิสราเอลก็ต้องเจอกับอเมริกา” ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศ

แม้จะมีกรอบเงื่อนไขที่น่าพอใจ แต่นักวิจารณ์ก็ยังไม่วายติติงว่า ข้อตกลงระหว่าง P5+1 กับอิหร่านไม่สามารถสกัดภัยคุกคามนิวเคลียร์ได้อย่างยั่งยืน เพราะอิหร่านไม่ได้ถูกบีบให้ล้มเลิกกิจกรรมนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิง ระหว่างนี้จึงเป็นเพียงการ “ซื้อเวลา” ให้อิหร่านกลายเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์รายใหม่ช้าไปอีก 10 กว่าปีเท่านั้น

โอบามา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว NPR News เมื่อวันอังคาร(7 เม.ย.) เกี่ยวกับสิ่งที่นักวิจารณ์เรียกว่าเป็น “ช่วงพักเบรก” ของกิจกรรมนิวเคลียร์อิหร่าน โดยชี้ว่าอิหร่านจะมีคลังยูเรเนียมสมรรถนะต่ำได้ไม่เกิน 300 กิโลกรัมตลอด 10 ปี ซึ่งไม่เพียงพอที่จะแปลงเป็นเชื้อเพลิงเกรดอาวุธได้ แต่อนาคตหลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ รุ่นต่อๆไปที่จะต้องจัดการ

แม้จะไม่ใช่การ “ตอกฝาโลง” อิหร่านอย่างที่หลายฝ่ายคาดหวัง แต่ข้อตกลงฉบับนี้ก็คงทำให้อิหร่านขยับเนื้อขยับตัวลำบากไปนานพอสมควร และเมื่อคำนึงถึงภัยคุกคามเฉพาะหน้าอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็นสงครามกลางเมืองซีเรียหรือการขยายอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) การพักเรื่องนิวเคลียร์อิหร่านไว้ก็นับว่าช่วยผ่อนคลายความกังวลให้แก่ฝ่ายตะวันตกได้ไม่น้อย

Weekend Focus :