ติดตามสถานะการณ์

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 19 ก.พ.58 รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง วงเงิน 6,000 ล้านบาท
ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้องค์การสวนยางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง วงเงิน 6,000 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อยางแผ่นดิบและแผ่นดิบรมควัน วงเงิน 4,000 ล้านบาท วงเงินอีก 2,000 ล้านบาท อ.ส.ย.จะนำไปซื้อน้ำยางสดและยางก้อนถ้วยจากเกษตรกรเพื่อพยุงราคาให้สูงขึ้น นั้น
ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ได้พิจารณารายละเอียดการรับซื้อยางจากเกษตรกร 26,742 ราย และองค์กรเกษตรกร 1,028 แห่ง โดยให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) เป็นผู้รับซื้อจนกว่าจะปิดกรีด
โดยมี "ราคาเป้าหมาย" สำหรับฤดูเปิดกรีดหน้า คือ ยางแผ่นดิบจะอยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 65 บาท/กิโลกรัม และน้ำยางดิบ อยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนรายละเอียดและวิธีดำเนินการจะนำเข้าหารือในที่ประชุม กนย.
------------------------------------>
การดำเนินการใดๆ ในการช่วยเหลือเกษตรกร คงไม่อาจถูกใจทุกคน 100 % เพราะเงินช่วยเหลือนี้ต้องขึ้นกับสถานะการเงินการคลังของประเทศด้วย หากเรามีรายได้กองกลางเข้าหลวงมาก การช่วยเหลือก็ทำได้มากตามไปด้วย
การแก้ปัญหาที่หมักหมมสะสมมาต่อเนื่องยาวนานหลายปี ย่อมไม่อาจใช้นโยบายประชานิยมได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอีกจำนวนมาก ที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากรัฐในด้านต่างๆ เช่น การรักษาพยาบาล การเรียน ฯลฯ
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 18 ก.พ.58 รัสเซีย ติดตั้งระบบเรดาร์เตือนภัยมิสไซล์ รัศมีครอบคลุม 6,000 กม.
กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เร่งการก่อสร้างโครงการติดตั้งแผงเรดาร์ระบบเตือนเตือนภัยล่วงหน้า ป้องกันการโจมตีทางอากาศด้วยมิสไซล์ ในปีนี้ โดยระบบเรดาร์ดังกล่าวเป็นรุ่นใหม่ 2 รุ่นคือ Voronezh-M และ Voronezh-DM โดยจะติดตั้งแถวไซบีเรีย ของรัสเซีย
ระบบเรดาร์เตือนภัยมิสไซล์นี้มีรัศมีครอบคลุม 6,000 กม. สามารถตรวจจับการโจมตีทางอากาศด้วยอาวุธยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้รับเหมาในงานนี้ก็คือ สถาบันทางทหารของประเทศเบลารุส พันธมิตรของรัสเซียนั่นเอง
-------------------------------->
ผู้นำรัสเซียนี้ฉลาดจริงๆ แม้งานไหนเขาทำได้เอง แต่เขากลับให้งานนั้นกับประเทศพันธมิตร เพื่อแบ่งกัน เป็นหุ้นส่วนกัน ทำให้ได้ใจประเทศพันธมิตรแบบแน่นแฟ้น ถ้าเป็นอเมริกา จะไม่มีทางแบบนี้
เพราะส่วนตัวปลา พุงปลา ไข่ปลา อเมริกาขอกินก่อน ที่เหลือหัวปลา และหาปลา ประเทศพันธมิตร ค่อยมาแทะของเหลือเดนไป
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 18 ก.พ.58 กลุ่มอาชอฟในยูเครน คือ กลุ่ม IS ในซีเรีย อิรัก ลิเบีย
ที่เห็นนี้คือกลุ่มนักรบรับจ้างอาชอฟ เป็นกลุ่มพวกหัวรุนแรงกองกำลังผสมจากต่างชาติ ที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบบาลยูเครน พวกเขาได้รับการหนุนเงิน และอาวุธ เต็มอัตราศึก จากรัฐบาลอเมริกา และเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันสู้กับนักรบนิยมรัสเซีย แบบถึงพริกถึงขิงมาโดยตลอด
แกนนำกลุ่มอาชอฟ ประกาศแล้วว่าพวกเขาไม่สนใจหยุดยิงใดๆ ทั้งสิ้น จะรบต่อไป และประกาศว่าจะต้องเผาไคร์เมีย พร้อมทั้งผู้อาศัยอยู่ในนั้นทั้งหมด..อ้าว ไคร์เมียคือแคว้นหนึ่งของรัสเซียไปแล้ว ขืนทำแบบนี้ไม่มีโอกาสได้ทันหายใจด้วยซ้ำ
และกลุ่มนี้แหละที่บางส่วนหลบไปพักร้อนที่ลิเบีย แล้วฆ่าตัดคอแรงงานอีอียิปต์จำนวน 21 คน จนอียิปต์โจมตีทางอากาศลิเบีย อยู่ตอนนี้ เรียกว่าอเมริกาใช้งานกลุ่มอาชอฟคุ้มเลย ไปลิเบียสร้างผลงาน มายูเครน ก็สร้างผลงานอีก
คอยดูต่อไป ยูเครนจะคุมกลุ่มอาชอฟนี้ไม่อยู่ เพราะเป็นหนอนร้าย จะกลายเป็นกลุ่ม IS ในยูเครนต่อไป..แหลกแน่ยูเครนต่อไปนี้ ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

Jeerachart Jongsomchai



... "แผนลดประชากรโลก : ส่วนหนึ่งของการจัดระเบียโลกใหม่ของชนชั้นสูง ได้เริ่มขึ้นแล้ว"
... ผู้ที่ติดตามแนวคิด "สมคบคิด" ได้เปิดโปงว่าชนชั้นสูงของพวกอิลลูมินาติในรูปองค์กรย่อยต่างๆหรือรายบุคคลเคยออกข่าวในทำนองเพื่อต้องการลดประชากรโลกตามแนวคิดโบราณแบบ "เรือโนอาห์" ที่ต้องสละชีวิตเพื่อนมนุษย์ (เขาคงไม่คิดว่าพวกเราเป็นเพื่อน) ที่เหลือแล้วคัดเอาเฉพาะกลุ่มคนที่เขาคัดเลือกแล้วเพื่ออยู่รอดใสนโลกที่เริ่มจะร้อนลุ่ม
... โดยเขาเรียกพวกเรากลุ่มชนชั้นล่างๆและกลางว่าเป็นพวก "Useless eaters" ( น่าจะสื่อว่า พวกที่ "กินอาหารแบบไร้ประโยชน์" หรือ "กินข้าวไปแต่ไร้ประโยชน์" เชิงดูถูกเหยียดหยาม ) ซึ่งคำนี้ไม่ใช่พูดครั้งแรกจากปากของ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ หรือ Ted Turner, Thomas Malthus, หรือ Bertrand Russell แต่มาจาก "นาซี"
... ความคิดนี้ไม่ใช่ของใหม่มีมานานหลายแนว และไม่ใช่เพียงแค่ทฤษฎีเพราะในอดีตนั้น "อดอร์ฟ ฮิตเลอร์" เคยมีความคิดแบบนี้มาแล้ว สมัยนาซีเยอรมันที่มีโครงการ " T4 euthanasia" หรือ "การุณยฆาต" ในช่วงปี 1939 - 1941 มโนทัศน์หลักของนาซี คือ "แนวคิดความสะอาดเชื้อชาติ" ( หรือ การทำให้บุคคลตายโดยเจตนาด้วยวิธีการที่ไม่รุนแรงหรือวิธีการที่ทำให้ตายอย่างสะดวก ) ในตอนนั้นฮิตเลอร์ฆ่าคน 4 ประเภทคือ ป่วยจนรักษาไม่ได้, พิการทางกายและใจ, กังวัลทางอารมณ์ และคนแก่ชรา ตอนหลังมีเด็กด้วย
... ทั้งออกกฎหมายห้ามการสมรสระหว่างผู้ที่มิใช่ยิวกับเยอรมันเชื้อสายยิว และห้ามการจ้างสตรีมิใช่ยิวอายุต่ำกว่า 45 ปีในครัวเรือนยิว กฎหมายกีดกันผู้ที่ "มิใช่อารยัน" จากประโยชน์ของพลเมืองเยอรมัน
... ยิ่งกว่านั้ฮิตเลอร์ยังมีโครงการทดลองทางการแพทย์มากมายพยายามปรับปรุงชาติพันธุ์ให้เป็นเลิศกว่าทุกๆเผ่าพันธุ์เพื่อความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิไรช์ที่สาม ที่ใช้ผู้อยู่ในค่ายกักกันทั้ง ยิว โปแลนด์ รัสเซีย โรมัน หรือแม้แต่คนเยอรมันเองที่พิการก็ถูกนำมาทดลอง เช่นทดลองเอาสารบางอย่างใส่ให้กิน พยายามผ่าตัดอวัยวะ ปลูกถ่ายกระดูก กล้ามเนื้อ ระบบประสาท ขังในห้องเย็นจัด จับมัดเอาค้อนทุบไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ผลการทดลองจะนำไปสู่ความตายในที่สุด
... กลับมาสู่ปัจจุบันคนชั้นนำเหล่านั้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวยิว ที่บรรพบุรุษเสียชีวิตโดยน้ำมือของ "ฮิตเลอร์" ในสมัยสงครามโลกรั้งที่ 2 ก็กำลังจะมาทำแบบเดียวกันกับคนเชื้อชาติอื่นทั่วโลกในตอนนี้
... "วิธีการลดประชากรโลก" มีหลายวิธีที่ผู้ติดตามได้เอามาเปิดโปง เช่นการใช้วัคซีน ที่โครงการโอบาม่าแคร์ก็ถูกตั้งข้อสงสัย , สารเคมี หรือใส่ฟลูออไรด์ลงไปในน้ำแบบเดียวกับที่ฮิตเลอร์เคยทำมากก่อน การทำผ่านบริษัททาง "อุตสาหกรรมทางอาหารและเกษตร" ขนาดใหญ่เช่นมอนซานโต เช่นสาร Aspartame หรือผ่านอาหารตัดแต่งพันธุกรรม GMO หรือเกี่ยวกับวัคซีน
... หรือแม้แต่ "โรคระบาด" มีการเปิดเผยว่าโรคหลายอย่างล้วนมากจากห้องทดลอง ทั้งอีโบล่า ไข้หวัดหมู ซาร์ หรือแม้แต่โรคเอดส์ ที่ถูกเปิดโปงโดย Lyndon LaRouche นักการเมืองและนักเขียนชาวอเมริกาเอง ว่าเป็นโครงการที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์โลกวิธีหนึ่ง
... ในอดีตปี 1915 มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ก็เคยมีข่าวทำนองนี้กับคนอเมริกา 15 คนมาแล้วเพื่อควบคุมประชากรที่เป็นชนชั้นต่ำกว่า
... การทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเกิดภาวะ "อดอยาก" ก็ล้วนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่พวกเขาทำเพราะคนตายเพราะความอดอยากปีหนึ่งมีมากกว่า 40 ล้านคน )
... หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนสภาพอากาศทำให้เกิดภูเขาไฟระเบิดหรือสึนามิก็เป็นอีกวิธี เช่นโครงการ HAARP
... และอีกวิธีที่ได้ผลเร็วคือการฆ่าด้วย "สงครามนิวเคลียร์" ( และรวมถึง อาวุธเคมี ชีวภาพและยาพิษในระหว่างสงครามด้วย ) ที่ได้ผลเร็วและทันใจ ( ซึ่งตอนนี้เราก็เห็นได้ชัดว่ามีความพยายามที่จะจุดชนวน สงครามขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะ "สงครามศาสนา" ) เพราะมีการแย้งว่าทำไม่ลดประชากรแบบจีนในปี 1962 ที่เกิดประชากรเกิดเร็วและเยอะเกินไป overpopulation จนจีนออกนโยบายมีลูกคนเดียว แต่นั้นมันช้าเกินไปและทำไม่ได้กับทุกเชื้อชาติทุกประเทศทั่วโลก และที่สำคัญวิธีพวกนั้นธรรมดาไปไม่วิตถารพอตามแนวพวกเขา ( ผู้กำกับหนัง The Grey State ที่เพิ่งตายแบบปริศนาก็บอกว่าพวกนี้มีจิตใจที่ลึกลับโหดเหี้ยมไม่ปรกติ )
... "สาเหตุ" เขาอ้างเรื่อง "โลกร้อน" เป็นส่วนหนึ่งในข้ออ้างเพราะตอนนี้ทุนนิยมที่ไร้ขอบเขตกำลังทำลายเผาพลาญทรัพยากรในโลกที่มีขอบเขตอย่างมาก จนเร็ววันนี้โลกเราอาจจะอยู่ยากกว่าเดิม โดยภาพรวมพวกอิลิทต้องการที่ลดให้ได้เหลือประมาณ 500 - 2 พันล้านคน จากตอนนี้ที่มีตอนนี้ประมาณ 7.2 ล้านคน บ้างก็ว่าเขาต้องการสร้างหุ่นยนตร์มาแทนหรืออาจจะเป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์ใหม่ ( ที่ตัดแต่งสายพันธุ์หรือโครนนิ่งอะไรบางอย่าง ) ที่สามารถมอบความซื่อสัตย์แก่พวกเขานักปกครองตลอดไปได้ดีกว่าพวกชนชั้นล่างที่เริ่มจะรู้ทันแล้ว
... ในวันนี้ "การลดประชากรโลก" แบบแนวคิด "euthanasia" หรือ "การุณยฆาต" ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว ทั้งอาหาร โรคระบาด สงครามโลก ที่กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ที่คนส่วนใหญ่ที่ตายไปก็เป็นพวก "useless eaters" คนชั้นล่างไร้ประโยชน์อย่างเราๆท่านๆ ที่ในสายตาพวกเขาเป็นแค่ไวรัสร้ายมาทำลายโลกแห่งร่างกายแค่นั้นเอง ดังนั้นการฆ่าไวรัสออกไปบ้างหรือให้ไวรัสฆ่ากันเองแบบสงคราม ก็ไม่เสียหายอะไร แถมในประวัติศาสตร์แห่งอนาคตพวกเขาอาจจะได้ชื่อเสียงจากการเป็นผู้รักษาระดับดับประชากรที่เหมาะสมและเป็นวีรบุรูษในตำนานของโลกสืบไป
.
https://www.youtube.com/watch?v=1T-62uxbMBM
Depopulation conspiracy theory - RationalWiki
NWO Plans To Depopulate The Earth
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8…
http://theglobalelite.org/century-ago-rockefellers-funded-…/
Lyndon LaRouche - Wikipedia, the free encyclopedia
Nazi human experimentation - Wikipedia, the free encyclopedia

 

Jeerachart Jongsomchai ได้แชร์รูปภาพของ สนทนาไซ-ไฟ

... "Mark Boyle ชายผู้อยู่โดยไม่ใช้เงิน"


.
'"ชายผู้ใช้ชีวิตโดยปราศจากเงิน"

Mark Boyle เป็นคนไอริช เขาพยายามใช้ชีวิตโดยไม่มีรายได้ ไม่มีบัญชีธนาคาร ไม่มีการใช้จ่าย และต่อไปนี้คือบทสรุปที่เขาค้นพบ...

"หากมีใครบอกผมเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ในช่วงที่ผมกำลังจะเรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์กับบริหารธุรกิจว่าผมจะใช้ชีวิตโดยไม่ใช้เงินสักเพนนีเดียว ผมคงสำลักอาหารกล่องขำกลิ้งแน่ๆ ช่วงนั้นผมมีแผนชีวิตไว้ว่าต้องหางานดีๆทำ เก็บเงินให้ได้เยอะๆ แล้วก็ซื้อของที่เอาไว้อวดชาวบ้านว่าผมประสบความสำเร็จ

ผมทำอย่างนั้นอยู่พักนึง ผมได้งานที่เจ๋งมากๆ บริหารบริษัทอาหารออร์แกนิคขนาดใหญ่ ผมมีเรือยอร์ชและท่าจอดเรือด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะผมบังเอิญได้ดูวิดิโอของคานธี ผมก็คงยังใช้ชีวิตแบบเดิมอยู่ ตอนนี้กลายเป็นว่าช่วง 15 เดือนที่ผานมาผมไม่ได้รับหรือใช้จ่ายเงินแม้แต่เพนนีเดียวเลย

การเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตผมเกิดขึ้นในค่ำวันหนึ่ง ในขณะที่ผมกับเพื่อนกำลังถกปรัชญาแล้วก็พลางดื่มเหล้าไปด้วย ผมก็เกิดแรงบันดาลใจจากคำพูดของมหาตะมะว่า "หากอยากเปลี่ยนแปลงให้โลกเป็นแบบใด ให้เริ่มจากตัวเอง" ตอนนั้นผมไม่รู้สึกเลยว่ามันจะเปลี่ยนอะไรได้ ผมกับเพื่อนเริ่มพูดถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกแล้วคิดกันว่าจะถกเรื่องไหนดี ไม่ว่าจะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม การแย่งชิงทรัพยากร การทำฟาร์มแบบโรงงาน การใช้แรงงาน ที่เราคุยกันตอนนั้นไม่ใช่ว่าผมคิดว่าผมกับเพื่อนจะสามารถแก้ไขอะไรได้ เราเป็นแค่หยดน้ำเล็กๆสองหยดในมหาสมุทรที่สกปรกสุดขีด

แต่ค่ำวันนั้นผมก็คิดได้ว่าปัญหาทั้งหมดเชื่อมโยงถึงกันมากกว่าที่ผมเคยคิด ปัญหาทั้งหมดนี้มีต้นเหตุเดียวกัน ซึ่งต้นเหตุที่แท้จริงคือการที่เรามองไม่เห็นผลกระทบในการใช้จ่ายของเราที่มีต่อผู้คน สภาพแวดล้อมและสัตว์อื่นๆ

ระยะห่างระหว่างผู้บริโภคและผู้ถูกบริโภคมันห่างออกไปเรื่อยๆทุกที จนในที่สุดเราไม่ตระหนักถึงผลกระทบ ความเสียหาย และความทุกข์ที่ซ่อนอยู่ในกระบวนการผลิตสินค้าที่เราซื้อ

น้อยคนนักที่อยากจะทำร้ายผู้อื่น แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วพวกเขาได้สร้างความทุกข์ยากให้ผู้อื่นโดยตรง ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดระยะห่างนี่ก็คือ "เงิน" โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเงินตราองค์รวมที่หมุนเวียนไปมาอย่างมากมายบนโลกนี้

ลองดูตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเราปลูกพืชผักกินเอง เราคงไม่กินทิ้งกินขว้างอย่างที่เราทำกันทุกวันนี้ ถ้าเราทำโต๊ะ เก้าอี้ใช้เอง เราก็คงจะไม่โยนมันทิ้งทั้งๆที่มันยังใช้ได้ เพียงเพราะเราอยากจะตกแต่งบ้านใหม่ ถ้าเราต้องทำน้ำสะอาดเพื่อดื่มเอง เราก็คงไม่ขับถ่ายลงชักโครกหรอก

ดังนั้นผมอยากเห็นโลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ผมอยากให้เป็น ผมเลยต้องเลิกใช้เงิน ซึ่งผมใช้เวลาเตรียมการปีนึง ผมทำรายการขึ้นมาว่าผมต้องการอะไรบ้างเพื่อที่จะไม่อดตาย ผมชอบกิน ดังนั้นเอาไว้รายการสำคัญที่สุด การหาของกินฟรีๆมีกฏง่ายๆ 4 ข้อ หาของป่า ปลูกผักเอง แลกกับเพื่อนบ้าน ไม่ก็กินแมลงซึ่งมีเยอะแยะไปหมด

วันแรกของผม ผมเลี้ยงอาหาร 3 มื้อให้คน 150 คนด้วยอาหารที่เหลือกินและก็ทั้งที่หามาได้ ตลอดทั้งปีผมปลูกพืชผักและหาอาหารกินเอง ซึ่งผมเหลือทิ้งไม่เกิน 5% ของอาหารทั้งหมด ผมทำอาหารกลางแดดกลางฝนด้วยเตาฟืน

ถัดมาก็ที่พัก ผมได้รถคาราวานฟรีๆมาจากที่รีไซเคิล ผมจอดมันไว้ที่กลางสวนออร์แกนิคของผม ผมอยู่โดยไม่ใช้ไฟฟ้า ผมใช้ฟืนเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ที่พัก แล้วก็ทำปุ๋ยหมักจากของเสียผมเองเพื่อปลูกผัก

ผมอาบน้ำในแม่น้ำ ยาสีฟันก็ผสมมาจากแกนปลาหมึกล้างสะอาดกับเมล็ดใบยี่หร่า ก็พิลึกนิดหน่อยสำหรับมังสวิรัติอย่างผม ส่วนเวลาเช็ดก้นผมใช้หนังสือพิมพ์เก่าที่ได้ฟรีมาจากคนท้องถิ่น มีครั้งนึงผมเคยเช็ดก้นด้วยหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวผมเองด้วย มันไม่สนุกเลยที่ต้องใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ แต่ไม่นานก็ชิน เวลาไปไหนมาไหนก็ใช้จักรยานกับรถพ่วงเล็กๆ การปั่นวันละ 55 กม. มันดีกว่าไปฟิตเนสที่ผมเคยสมัครอีก ส่วนเรื่องแสงสว่างผมใช้เทียนจากไขผึ้ง

หลายคนหาว่าผมเป็นพวกต่อต้านทุนนิยม ส่วนตัวผมคิดว่าทุนนิยมมันมีข้อผิดพลาด มันคือการสร้างความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุดบนโลกที่มีขอบเขต ผมไม่ได้ต่อต้านอะไรทั้งนั้น ผมสนับสนุนธรรมชาติ ผมชอบสังคม ผมสนับสนุนความสุข และก็นี่แหละที่ผมไม่เข้าใจ...ถ้าลัทธิบริโภคนิยม การทำลายสิ่งแวดล้อมสามารถนำความสุขมาได้ มันก็คงมีเหตุผลที่คนเราจะยึดถือตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกความทุกข์ทั้งหลายเช่น ความเครียด อาชญากรรม การป่วยทางจิต โรคอ้วน การฆ่าตัวตาย ฯลฯ ล้วนเกี่ยวข้องกับเงินทั้งนั้น ซึ่งดูเหมือนมันไม่ได้ทำให้มีความสุขขึ้นเลย

น่าแปลกที่ผมพบว่าหนึ่งปีที่ปราศจากเงินนี้เป็นปีที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต ผมมีเพื่อนมากกว่าที่เคยมี ผมไม่เคยป่วยเลยและก็โคตรฟิต ผมค้นพบว่ามิตรภาพต่างหากที่ทำให้ผมรู้สึกมั่นคงและอุ่นใจ ไม่ใช่เงิน สิ่งที่โลกตะวันตกขาดแคลนและยากจนมากที่สุดก็คือเรื่องทางจิตใจ การเป็นอิสระที่แท้จริงคือการพึ่งพาซึ่งกันและกัน

แล้วพวกเราทั้งหมดจะใช้ชีวิตแบบนี้ทันทีได้มั้ย ไม่มีทาง มันจะเป็นหายนะใหญ่เลย พวกเราเสพย์ติดเงินตรา พลังงาน แล้วก็สร้างระบบที่ครอบงำโลกโดยมีพื้นฐานจากสองสิ่งนี้ไปแล้ว แต่ถ้าเราลองลดขนาดชุมชนลงไม่เกิน 150 คน แล้วเป็นสังคมพึ่งพาตนเอง ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ ตั้งแต่มีมนุษย์เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ 90% ของเวลาเผ่าพันธุ์เรา เราก็อยู่กับธรรมชาติ อยู่โดยไม่ใช้เงิน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่ใช้เงิน อาจเป็นเพราะว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่ห่างเหินธรรมชาติมากที่สุด

หลายคนชอบถามผมว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ทำให้ผมพลาดอะไรไปจากตอนที่ใช้ชีวิตอยู่กับเงินบ้าง ผมขาดความเครียด รถติด บัญชีธนาคาร ใบแจ้งหนี้ แล้วก็เบียร์รสชาดแปลกที่กินกับเพื่อน มันบอกว่าเบียร์จากธรรมชาติ แต่มันรสชาดพิลึกสุดๆไปเลย"

--------------------------------------

เป็นเรื่องที่น่าสนใจนะครับ มีแนวคิดปรัชญา วิพากย์สังคมและเศรษฐกิจซ่อนอยู่มากมาย แอดมินอยากให้ชาวเพจลองอ่านดูนะครับ บทความนี้แอดมินแปลเอง สารภาพว่าเข้าใจแค่ 95% และพยายามใช้สำนวนที่คนไทยเข้าใจได้ง่าย แต่พยายามรักษาใจความเดิมไว้ทั้งหมดครับ

สนทนาไซ-ไฟ แปลเรียบเรียง >> Source: http://beyondblindfold.com/the-man-who-lives-without-money.html'

 

Jeerachart Jongsomchai



... "จากฮิตเล่อร์ถึง ISIL : อเมริกาหนุนฮิตเล่อร์ป่วนยุโรป เพื่อโค่นอำนาจเก่า หวังเป็นมหาอำนาจใหม่แทน"
... ก่อนนั้นสมัยที่"อเมริกา" ได้เอกราชใหม่ๆและไม่ต้องการให้ "อำนาจเก่า Old World" ของยุโรปมายุ่งกับทวีปอเมริกาทั้งเหนือและใต้อเมริกา ต้องการอยู่โดดเดี่ยวไม่ยุ่งกับอำนาจเดิมและต้องการให้อเมริกาเป็นเอกราชจากยุโรปทั้งหมดนั้น อเมริกาต้องการอยู่แบบปัจเจกชน ตามแนวคิด "ลัทธิมอนโร" (Monroe Doctrine)
... แต่พอยุโรปเริ่มอ่อนแอและอเมริกาเรื่มเข้าสู่ยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมแบบเต็มตัวแนวคิด "ลัทธิมอนโร" ก็กลายเป็นกระดาษเก่าที่ไร้ค่าในถังขยะ อเมริกาจึงเริ่มแสวงหาอาณานิคมแทนโดยแอบซุ่มอยู่เงียบๆรอจังหวะที่เหมาะสม
... หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมันแพ้สงครามต้องลงนาม "สนธิสัญญาแวร์ซายล์"ที่ต้องเสียค่าปฎิกรรมสงครามอย่างหนักจนเกินจะรับไหว ประเทศตกต่ำประชาชนไม่มีจะกิน ค่าเงินตก เงินเฟ้อ "ฮิตเล่อร์" จึงเอานโยบายประชานิยมมาเอาใจชาวบ้านว่าจะพาเยอรมันหลุดพ้นความลำบากและไปสู่ความยื่งใหญ่อีกครั้งให้ได้ และก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 "อเมริกา" ก็ให้เยอรมันกู้เงินเพื่อไปพัฒนาประเทศ จ่ายหนี้ จนฮิตเล่อร์พาประเทศลืมตาอ้าปากได้
... และในที่สุดฮิตเล่อร์ก็กางปีกอหังการ์พาเยอรมันเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 แบบเต็มตัว ( เศรษฐกิจอเมริกาตกต่ำครั้งใหญ่ ปี 1929 มีผลต่อเยอรมันเต็มๆเพราะอเมริกาไม่มีเงินให้ยืม ทำให้ฮิตเล่อร์ต้องทำสงครามล้างหนี้ เป็น WW2 )
... โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังนั้นคือ "อเมริกา" ( วอลล์สตรีทหหรืออิลลูมินาติ ) ที่สนับสนุนทางการเงิน น้ำมัน ยานพาหนะ ทั้ง "General Motors, Ford, General Electric, DuPont" และบริษัทหลายๆบริษัทในวอลล์สตรีทต่างเดินพาเหรดดันหลังหนุนพรรคนาซีของ "ฮิตเล่อร์" ให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยมุ่งหวังให้ฮิตเล่อร์ป่วนปั่น "ยุโรป" โดยเฉพาะ อังกฤษและฝรั่งเศส ที่เป็นเจ้ามหาอำนาจอยู่ในตอนนั้นให้อ่อนแอลง ( นักวิเคราห์หลายคนบอกว่า อิตเล่อร์เป็นเหมือน "หุ่นเชิด" ของวอลล์สตรีทหรือ อิลลูมินาติ ) นายธนาคารใหญ่ทั้ง J.P. Morgan firm, Rockefeller Chase และ Warburg Manhattanต่างล้วนสนับสนุนเต็มที่
... ขณะที่ด้าน "น้ำมัน" ที่เป็นส่วนสำคัญในการต่อลมหายใจของสงครามนั้นก็ได้ "Standard Oil" จัดการให้โดยส่งมาทางเรือขึ้นท่าที่สเปนแล้วเดินท่อต่อไปฝรั่งเศสและเยอรมันในที่สุดที่มีทหารนาซีเยอรมันคุมเข้มตลอดเส้นการส่ง
... General Motorsและ Ford จัดหากว่า 90 % ของรถบรรทุกของนาซี, ส่วน IBM ก็ผลิตเครื่อง Tabulating ที่ประดิษฐ์โดย Hollerith คล้ายคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการสงคราม รวมทั้งในค่ายกักกันของนาซี
... เมื่อคนพร้อมเครื่องพร้อมเงินพร้อม สงครามที่มีฮิตเล่อร์เป็นวาทยากรจึงไปได้สวยโดยที่มีวอลล์สตรีทเป็นผู้อำนวยการวง ( รวมทั้ง "ทองนาซี" ก็หายไปแบบลึกลับ หลายข่าวก็ว่าส่วนใหญ่ถูกส่งถ่ายไปอเมริกา เจ้าของ "ผู้ลงทุนสงคราม" )
... แต่สุดท้ายตอนปลายสงคราม WW2 อเมริกา "ผู้เล่นไพ่สองหน้า" ก็ทิ้งฮิตเล่อร์เพื่อนรักให้อยู่เดียวดายและตายในบังเกอร์หลบภัยไร้แววผู้เคยเปี่ยมอำนาจ เมื่อหมดประโยชน์แล้วก็ต้องโดนทิ้งลงขยะ และอเมริกาก็เป็นผู้ร่วมชนะสงครามร่วมกับอังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย แต่อเมริกาเป็นประเทศเดียวในผู้ชนะที่ไม่บอบช้ำ ตามแผนการณ์ที่วางไว้อย่างดี และจากจุดนั้นอเมริกาก็เริ่มแสวงการเป็นมหาอำนาจใหม่และใหญ่ในโลกแต่ผู้เดียวตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
... กลับมาที่ปัจจุบันกรณี "ISIL" ก็เหมือนกันกับ "ฮิตเล่อร์" ในอดีต(ที่ไม่เคยหลอกเรา) ที่กำลังถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือแล้วเพื่ออ้างอุดมการณ์อะไรบางอย่างจากอเมริกา อิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย ที่ถ้าถึงวันหนึ่ง ที่ ISIL ได้ทำลายศ้ตรูที่เขา(อเมริกา)ต้องการให้ถูกกำจัดหมดแล้ว ( ในที่นี้คือ "ซีเรีย" อิรัก อิหร่าน ) วันนั้นเขาก็จะปล่อยให้"ISIL" ตายไป จากน้ำมือและอาวุธของเพื่อนอีกกลุ่มอย่าง "นาโต้" ที่เขาก็จะร่วมทำลาย ISIL เสียเองกับมือ
... กลอุบายแบบ "เล่นไพ่สองหน้า" ของอเมริกา ( หลังฉากคืออิลลูมินาติ ) นั้นก็เพื่อจะรักษาความเป็นประเทศมหาอำนาจเดี่ยวผู้เดียวในโลกตามแนวคิด "New World Order " ของพวกเขานั่นเอง
.
http://www.henrymakow.com/eight_indications_the_illumina.ht…
Page not found

 

Jeerachart Jongsomchai



... "เพิร์ลฮาร์เบอร์ : อเมริกายอมให้ญี่ปุ่นฆ่าทหารตายทั้งที่รู้ล่วงหน้า ตามแผนอิลลูมินาติ"
... ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 "อิลลูมินาติ" ต้องการเป็นใหญ่แทนขั้วอำนาจเดิมทั้งในยุโรปและเอเชียจึงต้องยอมให้ญี่ปุ่นบอมบ์ทำลายฐานทัพเรือที่ "เพิร์ลฮาร์เบอร์" เพื่อจะเป็นเหตุผลในการก้าวเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่กำลังได้เปรียบ
... . ในครั้งนั้น เครื่องบินทั้งหมด 188 ลำถูกทำลาย ทหารอเมริกาเสียชีวิต 2,403 และอีก 1,178 คนได้รับบาดเจ็บ ทั้งๆที่ประธานาธิบดีรุสเวลด์รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าญี่ปุ่นจะโจมตี แต่ยอมให้มีการตายเพื่อจะเข้าสู่สงครามแบบแนบเนียนและเป็นบันไดสู่มหาอำนาจใหม่และใหญ่แทนอังกฤษและฝรั่งเศส ตามแผนของพวกอิลลูมินาติ
... อเมริกาจึงทำการบีบให้ญี่ปุ่นโจมตีตนเองที่ฮาวาย โดยปี 1941รุสเวลด์ "งดส่งน้ำมัน" สิ่งจำเป็นยามสงครามที่ 80% ของญี่ปุ่นต้องนำเข้าจากอเมริกาไป ตามมาด้วยการ"ไม่ส่งเหล็ก" ที่สำคัญมากในการผลิตเครื่องจักรและรถถังเครื่องบินในสงคราม เพื่อจะบีบให้พี่ยุ่นไม่มีทางเลือกต้องโจมตีอเมริกาเพื่อบีบให้ขายน้ำมันและเหล็ก
... "จุดประสงค์" ในการให้บอบม์แบบทั้งๆที่รู้ เพราะก่อนนั้น ใน "ญี่ปุ่น" นั้น พวกอิลิทของญี่ปุ่นที่หัวอนุรักษ์ไม่ยอมพวกวอลล์สตรีทที่เป็นหน้าฉากของอิลลูมินาติของอเมริกา อเมริกาต้องการครอบครองให้ญี่ปุ่นเป็นลูกน้องเป็นพวกตัวเองให้ได้จึงวางแผนต้องการจะทิ้งระเบิดทำลายญี่ปุ่นให้เจ็บปวดอย่างหนัก ( ปรมาณู ) ... และอีกสาเหตุตอนนั้นกระแสคนอเมริกันที่ต่อต้านสงครามในอเมริกาสูงมาก ผู้คนไม่ต้องการร่วมสงครามโลก
... และก็สมหวังในวันที่ 7 ธันวาคม 1941 ตามเวลาอเมริกาญี่ปุ่นก็ส่งฝูงบินกามากาเซ่โจมตีสมใจตามแผนอิลลูมินาติ เครื่องบิน ทหารตายบาดเจ็บมากมาย เพื่อให้คนอเมริกาในประเทศโกรธเจ็บแค้นและเห็นด้วยในการลงมติในสภาให้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในที่สุด มีหลักฐานมากมายว่ามีการเตรียมกล้องและคนถ่ายล่วงหน้า เพื่อจะให้ได้ภาพวีดีโอการทำลายครั้งนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งกว่านั้นมีการย้ายเรือรบที่ดีที่สุดออกจากฐานทัพเรือไปก่อนล่วงหน้า ( เสียดาย )
... คล้ายๆกับเหตุการณ์ 11 กันยา 2001 ที่มีการจัดฉากสังเวยผู้คนและตึกแฝดเพื่อจะให้เกิดความโกรธ เกลียดและโยนบาปให้มุสลิม เพื่อจะได้หาเหตุในบุกยึดอัฟกานิสถานเพื่อทำท่อแก๊สและจัดระเบียบดุลอำนาจในตะวันออกกลางใหม่ ต้อง "จุดความโกรธและเกลียดให้คนส่วนใหญ่รับความรู้สึกให้ได้ก่อน" เหมือนตอนนี้ทั้งในฝรั่งเศสโดนระเบิด, จอร์แดนโดนเผา, ญี่ปุ่นโดนตัดคอ, เดนมาร์กก็โดนระเบิด เพื่อต้องการจุด "สงครามครูเสดใหม่"
... และจากหลังสงคราม WW2 เป็นต้นมา กลุ่มอิลิทชนชั้นสูงของ "ญี่ปุ่น"ก็ตกเป็นลูกสมุนชั้นดีของ"อิลลูมินาติ" อเมริกาตลอดมารวมเป็นหนึ่งในอิลลูมินาติสาขาเอเชียจนถึงวันนี้
.
http://www.henrymakow.com/eight_indications_the_illumina.ht…
Attack on Pearl Harbor - Wikipedia, the free encyclopedia
http://www.telegraph.co.uk/…/Pearl-Harbour-memo-shows-US-wa…

 

Jeerachart Jongsomchai



... "Aspartame : สารก่อมะเร็งในสมอง จากอาหาร แผนทำลายพลเมืองโลกของอิลลูมินาติ"
... "แอสปาร์แตม" หรือ "Aspartame" เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล (จัดเป็นวัตถุเจือปนอาหารชนิดหนึ่ง) ซึ่งไม่ให้พลังงาน ซึ่งมีองค์ประกอบหลักคือกรดอะมิโน 2 ตัวต่อกันได้แก่ กรดแอสปาร์ติก และ ฟีนิลอะลานีน
... แอสปาร์แตมมีความหวานกว่าน้ำตาลซูโครส (น้ำตาลทราย) ประมาณ 200 เท่า ในปัจจุบันผลิตออกจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในยี่ห้อสินค้าต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบในอาหารสำเร็จรูปและเครื่องดื่มกว่า 5000 ชนิด ที่วางขายทั่วโลก ... โดยเฉพาะ "อาหารเครื่องดื่มเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก" เช่นเครื่องดื่มสีดำแบบไดเอท แต่บางการวิจัยก็บอกว่าแม้จะไม่ทำให้อ้วนแต่จะทำให้หิวกระหายบ่อยๆ
... โดยโครงสร้างของ "แอสปาร์แตม" จะเปลี่ยนไปเมื่อโดนความร้อนและเมื่อเก็บไว้นาน จึงไม่ควรใช้แอสปาร์แตมปรุงอาหารร้อนๆและไม่ควรเก็บไว้นานๆ
... แม้ว่าสถาบันทางอาหารและสาธารณสุขในหลายประเทศได้รับรองและอนุญาตให้สารชนิดนี้ขายได้ในประเทศตนแต่ก็มีการเตือนไว้ด้วย และปัจจุบันนี้ก็ยังมีการโต้เถียงกันอยู่ไม่จบ ( คล้ายๆ GMO ที่ประเทศในยุโรปพยายามจะต่อต้านการบริโภคพืชตัดแต่งพันธุกรรมแต่อเมริกาก็พยายามจะผลักดันให้ทั่วโลกยอมรับและบีบบังคับประเทศต่างๆ ล่าสุด กฎหมาย TTIP ของอเมริกาที่ก็จะสอดไส้เรื่องนี้เข้าไปด้วย ในการเปิดการค้าเสรีกับอียู )
... หลังจากที่ "อายิโนะโมโต๊ะ" : ได้ซื้อกิจการเกี่ยวกับ แอสปาร์แตม มาจาก "มอนซานโต้" ในปี 2000 ก็ได้กลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ กินส่วนแบ่ง 40% ของโลก 14,000 เมตริกตันต่อปี และการบริโภคก็สูง 2%ทุกปี
... ปี 2008 "อายิโนะโมโต๊ะ" ได้ฟ้องร้อง Asda ซุปเปอร์มาร์เก็ตของอังกฤษ ที่ตั้งใจทำให้สินค้าของ "อายิโนะโมโต๊ะ" ที่มีส่วนผสมของ "แอสปาร์แตม" เสียหาย โดยมีบรรจุอยู่ในรายการสินค้าที่ไม่ให้วางขายในเครือข่ายร้านของ Asda และศาลชั้นต้นก็ตัดสินเข้าข้าง Asda ด้วย แต่ศาลอุทรธ์มาเปลี่ยนคำตัดสินทีหลัง ในตอนนั้น Asda ได้ยืนยันที่จะไม่ทำให้สินค้าของตน "น่ากลัว อันตราย" ต่อผู้บริโภค แต่สุดท้าย Asda ก็ได้เอาข้อความอ้างอิงเกี่ยวกับ "แอสปาร์แตม" ออกจากฉลากสินค้าของพวกเขา
... และในปี 2009 "อายิโนะโมโต๊ะ" ก็ได้ออกชื่อสินค้าใหม่ที่เป็นสารให้ความหวานโดยเปลี่ยนชื่อเป็น "AminoSweet"
... เวปไซต์ต่างประเทศได้กล่าวเตือนว่าสารนี้จะก่อให้เกิดผลกระทบกับร่างกายมากมายทั้ง "มะเร็งในสมอง" โรคซึมเศร้า ง่วงเหงาหาวนอน สับสน สูญเสียความทรงจำ เหน็บชา ชาตามแขนขา พูดไม่ชัด อยู่นิ่งไม่ได้ หงุดหงิดง่าย กังวล กร้าวร้าว บุคลิกเปลี่ยนแปลงง่าย นอนไม่หลับ
... "ทฤษฎีสมคบคิด" ( ที่หลายอย่างเป็นจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ) ได้ออกมาบอกว่า การใช้สารที่มีพิษร้ายในอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่ ที่มีผลประกบกับคนในภาพกว้างนั้นเป็นแผนหนึ่งของพวกอิลิท อย่างอิลลูมินาติ ในการจะครองครองโลกไปนานๆ ที่เป็นนโยบายของพวกเขาที่จะต้อง ครอบครองการเงิน ครอบครองการทหาร ครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ และครองครองความคิดคน ที่แผนหนึ่งคือ "การลดจำนวนประชากรโลก" โดยเฉพาะคนกลุ่มล่างๆที่เขามองว่าจำเป็นต้องเป็นผู้ถูกกำจัดก่อน ( คล้ายหนังเรื่องล่าสุด Kingsman ปีนี้ 2015 )
... ซึ่งสอดคล้องกับที่เฮนรี่ คิสซินเจอร์ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มอิลิทที่ชักใยรัฐบาลอเมริกันมาเป็นร้อยปี เคยบอกไว้ว่า "ถ้าควบคุมน้ำมันได้ ก็จะควบคุมประเทศต่างๆในโลกได้, ถ้าควบคุมอาหารได้ ก็จะควบคุมคน(ในโลก)ได้" ... "Control oil and you control the nations; control food and you control the people"
.
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8…
Aspartame - Wikipedia, the free encyclopedia
https://www.youtube.com/watch?v=Kt_ve3xCeBg
Talk:Henry Kissinger - Wikiquote

 

Jeerachart Jongsomchai



...... "ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาร์บอก : โอบาม่าวางแผนรัฐประหาร แต่ไม่สำเร็จ"
... ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาร์นาย Nicolas Maduro ได้ประกาศทางโทศทัศน์แห่งชาติเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2015 ของวันหฤหัสตอนเย็นที่ผ่านมา ... ว่ามีทหารบางกลุ่มพยายามจะก่อรัฐประหารขึ้นเพื่อจะโค่นล้มรัฐบาลของเขา โดยการนำของทหารอากาศที่เกษียณราชการคนหนึ่งเป็นแกนนำ ( ซึ่งข่าวแบบนี้สื่อตะวันตกกระแสหลักรับเงินอเมริกาไม่ออกข่าวเด็ดขาด )
... แต่แผนการของพวกกบฏได้ถูกสกัดไว้ได้โดยรัฐบาล โดยพวกเขามีแผนที่จะเอาเครื่องบินโจมตีอาคารของรัฐบาลและอีกหลายที่ โดยนอกจากอดีตนายพลทหารอากาศแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่เข้าร่วมอีก 11 คน นอกจากนั้นยังมีนักการเมืองฝ่ายค้านอีก 2 คนและนักธุรกิจอีกคนร่วมด้วย
... โดยรัฐบาลได้แสดงรูปถ่ายอาวุธและรายการอื่นๆที่เป็นหลักฐานในการก่อการให้สื่อมวลชนดูที่โชคดีที่ฝ่ายรัฐสกัดจับได้ทันเวลา โดนบอกว่าการก่อการครั้งนี้ได้รับการหนุนหลังโดย “อเมริกา” โดยมีหลักฐานการรับเงินและเอกสารการเข้าอเมริกาก่อนก่อการด้วย
... โดยกล่มผู้ก่อการได้วางแผนร่วมกับพวกประท้วงรัฐบาลที่จะครบรอบปีการประท้วงรัฐบาล โดยรัฐบาลบอกว่าแผนการของพวกเขานั้นรวมเอา “การโจมตีทางเศรษฐกิจ” ไว้ด้วยมีเป็นลำดับขั้นตอน เพื่อจะทำให้เศรษฐกิจของเวเนซุเอลาร์อ่อนแอลง ( ทำให้นึกถึงการประกาศลดราคาน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ที่ต้องการเล่นงาน “รัสเซีย” นั้น ก็กวาดหวังเอา "เวเนซุเอลาร์" ไปด้วย เพราะประเทศนี้ต่อต้านอเมริกามานาน และที่สำคัญขายน้ำมันโดยหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้ “ดอลล่าร์” ด้วย ที่ตรงนี้อเมริกาต้องตามเก็บเด็ดหัวทุกรายไป )
... โดยผู้ร่วมก่อการรายหนึ่งได้เปิดเผยว่าจะมีการใช้เครื่องบินรบขนาดเล็กในการโจมตีทำเนียบประธานาธิบดี, ที่ทำงานรัฐบาล, สำนักงานใหญ่ของหน่วยราชการลับทหาร, อาคารกระทรวงกลาโหม, กระทรวงยุติธรรม, อาคารฝ่ายบริหาร, กรมอัยการ และเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลด้วย
... “ไม่เป็นที่สงสัยเลยถ้าดูจากอดีตและประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ... เราต้องสามัคคีกันไว้ให้มากกว่าเดิม เราต้องไม่ยอมให้นายทุนกระฎุมพีล้มพวกเราได้” ประธานของสมัชชาแห่งชาติบอกไว้ ( ที่โดยส่วนใหญ่นายทุนรวยๆจะเชื่อมต่อกับอเมริกาเป็นทั้งนายหน้าและหุ้นส่วนเพื่อล้มประเทศที่มีรัฐบาลนิยมระบบสังคมนิยมมาตลอด )
... แต่ที่ทำให้ชื่นใจคือทหารของประเทศเวเนซุเอลาร์บอกว่าจะอยู่ข้างประชาชนอย่างแท้จริง
( ไม่เหมือนทหารบางประเทศที่หน้าฉากอ้างว่าอยู่ข้างประชาชนเล่นลิเกด่าอเมริกาแต่หลังโรงกลับเป็นพวกเดียวกัน )
... ประเทศแถวอเมริกากลางและใต้นั้นเข้าใจดีว่าประเทศพวกเขาถูกแทรกแทรงจากอเมริกามาโดยตลอดตั้งแต่อเมริกาประกาศตัวเป็นมหาอำนาจใหม่ แผนการแรกคือการทำให้อเมริกาเหนือ กลางและใต้ ตกอยู่ใต้อิทธิพลของอเมริกาทั้งหมดให้ได้เบ็ดเสร็จ เพื่อเป็นฐานอำนาจทางการเมือง ความมั่นคงทางทหาร และฐานเศรษฐกิจให้ได้ เช่นช่วงไม่กี่ปีมานี้อเมริกาได้แทรกแทรงไปหลายประเทศเช่น
... 2009 แทรกแทรงและล้มประธานาธิบดี Manuel Zelaya ของ “ฮอนดูรัส “แล้วตั้งรัฐบาลเผด็จการขึ้นมาแทนเขา,
... 2010 แทรกแทรง”ไฮติ” ทำเนียนหลังแผ่นดินไหวทำทีว่าจะไปช่วยแต่ไปล้มรัฐบาลด้วย หลังจากนั้นก็จัดการเลือกตั้งกำมะลอที่ล็อคผลไว้แล้ว,
... ปี 2010 พยายามจะล้มรัฐบาลของนายราฟาเอล คอร์เรล ของ “เอกวาดอร์” แต่ไม่สำเร็จ,
... ปี 2012 หนุนการล้มรัฐบาลของนาย Fernando Lugo ของ “ปารากวัย” โดยการไม่ไว้วางใจในสภา
... นอกจากนั้นยังไม่นับใน “ลิเบีย” ล้มกัดดาฟีในปี 2011, อียีปต์ปี 2013 ที่ยุและจ้างทหาร อับเดล ซีซี ล้ม “โมฮัมหมัด มอร์ซี่" ที่มาจากการเลือกตั้ง และไม่นับที่ส่ง CIA ร่วมกับ MI6 ไปล้มรัฐบาลใน "ยูเครน" เพื่อจะทำให้ยุโรปแตกแยก และทำลาย"รัสเซีย" แกนนำกลุ่ม BRICS
... ทั้งนี้ทั้งนั้นอเมริกาไม่ได้สนใจอย่างแท้จริงว่าต้องมาจากการเลือกตั้ง แค่หา “นายหน้า” หรือ”ผู้จัดการสาขา” ที่สามารถดูแลจัดการประเทศนั้นๆได้เด็ดขาดเบ็ตเสร็จและสามารถดูแลคุ้มครองจัดส่งผลประโยชน์ให้แก่เขาได้มากที่สุด แค่นั้นเอง
.
Venezuela Foils Obama's Coup Plot
Latin Post

 

Jeerachart Jongsomchai

... อีกสมาชิกประเทศล่าสุดของ CERN คือ "อิสราเอล"

 

Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ เตือนภัย พิบัติโลก



'19/2/2015 ผลศึกษาพบดาวแปลกปลอมโผล่เข้ามาในระบบสุริยจักรวาล

บีบีซรายงานวันที่ 18 ก.พ. ว่าคณะนักวิจัยนานาชาติค้นพบดาวแปลกปลอมดวงหนึ่งโคจรเข้ามาในระบบสุริยจักรวาล เมื่อ 70,000 ปีก่อน เป็นการเข้ามาใกล้ระบบสุริยจักรวาลในระยะห่าง 0.8 ล้านปีแสง ใกล้มากกว่ากาแล็กซี่ Proxima Centauri ที่เป็นเพื่อนบ้านกันในระยะห่าง 4.2 ล้านปีแสง ถึง 5 เท่า

ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสารดาราศาสตร์ Astrophysical Journal Letters ระบุว่าดาวดังกล่าวเป็นดาวแคระสีแดง มีชื่อว่าดาวโชลซ์ เดินทางผ่านภูมิภาคที่เรียกว่า Oort Cloud เข้ามาในระบบสุริยจักรวาล หรือ โซลาร์ ซิสเต็ม และไม่ได้มาดวงเดียวยังมีวัตถุขนาดเล็กสีน้ำตาล เดินทางมาด้วยกัน

เอริก มามาเจก นักดาราศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยร็อกเชสเตอร์ ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่ร่วมการศึกษาชิ้นนี้ กล่าวว่า ทีมงานมั่นใจร้อยละ 98 ว่าดาวดวงนี้ต้องผ่านบริเวณที่เรียกว่า อูร์ต คลาวด์ ซึ่งเป็นชายขอบจักรวาล ในบริเวณดังกล่าวนั้นเต็มไปด้วยดาวหาง ดาวเคราะห์น้อยหลายล้านล้านดวง ในจังหวะที่วงโคจรถูกรบกวน จึงทำให้ดาวเคราะห์น้อยมีแรงเหวี่ยงกระเด็นออกมา

ปัจจุบันดาวโชลซ์อยู่ห่างออกไป 20 ปีแสง ค่อนข้างใกล้ระบบสุริยจักรวาล มีแนวโน้มทั้งที่จะโคจรออกห่างไกลไปจากโลก หรือทั้งที่อาจจะเข้ามาชนในระบบสุริยจักรวาลก็เป็นได้

 

Pst Nong ได้แชร์โพสต์ของ บีบีซีไทย - BBC Thai

โอบามาลั่นไม่ได้ทำสงครามกับอิสลาม แต่สู้กับพวก “บิดเบือนอิสลาม”



ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐกล่าวกับผู้แทนจาก 60 ชาติในการประชุมสุดยอดว่าด้วยแนวคิดแบบสุดโต่ง ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลาสามวัน หลังเกิดเหตุโจมตีก่อการร้ายที่ฝรั่งเศสและเดนมาร์ก

ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า โลกต้องยืนหยัดเผชิญหน้ากับอุดมการณ์ที่ทำให้ผู้คนมีความคิดรุนแรงสุดโต่ง โดยพวกผู้นำกลุ่มอย่างรัฐอิสลามหรือไอเอส หรือกลุ่มอัลไคด้า ไม่ใช่ผู้นำทางศาสนาแต่เป็นผู้ก่อการร้าย และการไปเชื่อมโยงไอเอสหรืออัลไคด้าเข้ากับศาสนาอิสลาม ก็เท่ากับว่ายอมรับแผนการโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มเหล่านี้ไปโดยปริยาย

ผู้นำสหรัฐยังกล่าวว่า การเอาชนะการก่อการร้ายนั้น ทำไม่ได้ด้วยกำลังทหารเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ชุมชนมุสลิมด้วย โดยมีมุสลิมมากมายทั่วโลกที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงแบบไอเอส แต่ก็คล้อยตามกับแนวคิดที่ว่า อิสลามถูกทำให้เสื่อมลงด้วยค่านิยมตะวันตก ซึ่งแนวคิดแบบนี้ ทำให้หลายคนพร้อมที่จะยอมรับแนวคิดที่รุนแรงสุดโต่งได้มากขึ้น และขอเรียกร้องให้ผู้นำมุสลิมช่วยกันปฏิเสธแนวคิดที่ว่า โลกตะวันตกจะต้องมุ่งกดขี่อิสลามเสมอ

 

Pst Nong ผ่าน Nation Channel

เกิดเหตุระเบิดที่โรงกลั่นน้ำมันในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ส่วนสาเหตุกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน
เกิดเหตุระเบิดที่โรงกลั่นน้ำมันของเอ็กซ์ซอน โมบิล ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐ เมื่อเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่คนงานต้องเปิดระบบเผาแก๊สทิ้ง เพื่อเผาทำลายวัตถุดิบที่ติดไฟง่ายเพื่อความปลอดภัย
จุดที่เกิดระเบิดอยู่ในส่วนของโรงงานแปรรูปที่น้ำมันเบนซินเป็นสารประกอบ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงยังอยู่ระหว่างการสืบสวน ภาพที่ถ่ายโดยเฮลิคอปเตอร์ของสถานีข่าว ได้แสดงให้เห็นโครงสร้างความสูงเท่าตึกหลายชั้นได้รับความเสียหาย มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ส่วนคนงานที่เหลือได้รับคำสั่งให้กลับบ้าน

โรงกลั่นเอ็กซ์ซอนฯ ระเบิด - Nation TV

 

Pst Nong ผ่าน ASTV ผู้จัดการ Live



รอยเตอร์/เอเอฟพี - หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักในวันพุธ(18ก.พ.) ก่อความยุ่งเหยิงด้านการจราจรในเมืองอิสตันบูล ทำให้สนามบินหลักของตุรกีต้องปิดบริการชั่วคราวและเป็นต้นตอของอุบัติเหตุบนท้องถนนหลายร้อยครั้ง

https://www.youtube.com/watch?v=UZd2qGld2Us

https://www.youtube.com/watch?v=pop8S_ALzsE

ชาวอิสตันบูลตื่นนอนเช้าวันพุธ(18ก.พ.) มาพบว่าเมืองประวัติศาสตร์ที่แนวขอบฟ้าพบเห็นแต่หอคอยสุเหร่าและโดมมัสยิด ถูกบดบังไปด้วยหิมะ หลังจากหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ยังไม่ทีท่าบรรเทาลง
มีรายงานว่าชาวบ้านบางส่วนของเมืองที่มีประชากร 15 ล้านคน จำเป็นต้องเดินไปทำงาน หลังจากช่วง 2 วันที่ผ่านมา ในบางพื้นที่ของอิสตันบูล มีหิมะตกลงมาหนาถึง 60 เซนติเมตร
เตอร์กิชแอร์ไลน์ส สายการบินแห่งชาติของตุรกีต้องเลื่อนและยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวจากท่าอากาศยานนานาชาติอตาเติร์ก ศูนย์กลางการสัญจรทางอากาศของประเทศ เช่นเดียวกับที่สนามบินชาบิฮากอคเซน
เจ้าหน้าที่ต้องปิดสนามบินอตาเติร์กนานกว่า 2 ชั่วโมง สืบเนื่องจากทัศนวิสัยอันเลวร้ายและเพื่อเข้ากำจัดน้ำแข็งกับหิมะออกจากรันเวย์ อย่างไรก็ตามเวลานี้ท่าอากาศยานดังกล่าวกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง แม้ว่าต้องประสบปัญหาเดินทางล่าช้าหลายชั่วโมง
ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนตุรกีรายงานว่าเครื่องบินลำหนึ่งของสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ส เที่ยวจากเบรุต ลื่นไถลหลุดรันเวย์ เนื่องจากมีน้ำแข็งเกาะทางวิ่ง แต่ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บใดๆ
สภาพอากาศอันเลวร้ายยังส่งผลกระทบต่อสโมสรฟุตบอลเบซิคตัส ที่ติดแหง็กอยู่ในอิสตันบูล เพื่อรอให้สภาพอากาศปลอดโปร่งเพียงพอที่เครื่องบินเช่าเหมาลำของพวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังเมืองลิเวอร์พูล เพื่อทำศึกยูโรปาลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายกับ ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ ในวันพฤหัสบดี(19ก.พ.)
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา เบซิคตัสระบุบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่าทางสโมสรได้เปลี่ยนไปใช้สนามบินชาบิฮากอคเซน ที่อยู่ในฝั่งเอเชียแทน และท้ายที่สุดก็ออกบินไปยังอังกฤษแล้ว แม้ล่าช้าพอสมควรจากเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางในตอนเช้า
พายุหิมะยังทำให้ทางการต้องปิดเส้นทางการเดินเรือผ่านช่องแคบบอสฟอรัส หนึ่งในเส้นทางที่พลุกพล่านที่สุดในโลก ขณะที่เรือเฟอร์รีระหว่างเมืองก็ต้องงดให้บริการ
แต่ละปีจะมีเรือราว 10,000 ลำ บรรทุกสินค้าปิโตรเลียมราว 150 ล้านตันแล่นผ่านช่อบแคบแห่งนี้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พาณิชย์นาวีจำเป็นต้องปิดช่องแคบบอสฟอรัสอยู่เป็นประจำในช่วงหลายเดือนของฤดูหนาว สืบเนื่องจากทัศนวิสัยที่เลวร้าย ขณะที่หน่วยงานด้านการเดินเรือเปิดเผยวันพุธ(18ก.พ.)ว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันอย่างน้อย 13 ลำที่ลอยลำอยู่ตรงทางเข้าทั้งสองด้าน เพื่อรอเวลาแล่นเข้ามายังช่องแคบบอสฟอรัส
ด้านเทศบาลนครอินตันบูลเปิดเผยว่าแค่เฉพาะวันอังคาร(17ก.พ.) วันเดียว มีอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งมีต้นตอจากพายุหิมะมากกว่า 840 ครั้ง และในวันพุธ(18ก.พ.) ได้ออกคำสั่งว่ายานพาหนะที่ติดโซ่หิมะยางเท่านั้นถึงจะได้รับอนุญตให้สัญจรบนท้องถนน

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000020228

 

ยูเครนขอยูเอ็นช่วยหลังเสียเมืองสำคัญให้กบฏ

รัฐบาลยูเครนเรียกร้องยูเอ็นส่งทหารรักษาสันติภาพเข้ามาในภาคตะวันออกของประเทศ หลังเสียเมืองเดบัลต์เซเว ชุมทางรถไฟสำคัญในภูมิภาคให้กับกลุ่มกบฏและต้องถอนทหารออกนอกพื้นที่



วันพฤหัสบดี 19 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 08:22 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่าประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ผู้นำยูเครน แถลงเมื่อวันพุธ เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ในการส่งกองกำลังทหารรักษาสันติภาพเข้าไปประจำการที่ภูมิภาคดอนบาสส์ ทางตะวันออกของประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพและความปลอดภัยให้กับพลเรือน ในสถานการณ์ที่ข้อตกลงสันติภาพไม่ได้รับ "ความเคารพ"

ทั้งนี้ โปรโรเชนโกเผยด้วยว่า เคยเปรยประเด็นทหารรักษาสันติภาพกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ อลลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนี ระหว่างการประชุมพหุภาคี 4 ฝ่าย ที่กรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย ซึ่งการหารือดังกล่าวนำไปสู่การกำหนดแผนสันติภาพยูเครนฉบับใหม่ ที่สาระสำคัญคือการหยุดยิงตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 15 ก.พ. เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม ทหารยูเครนราว 2,500 นาย ทยอยถอนกำลังออกจากเมืองเดบัลต์เซเว ชุมทางรถไฟสำคัญของภูมิภาคดอนบาสส์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองโดเนตสก์กับเมืองลูฮันสก์ หลังพ่ายแพ้ให้กับกลุ่มกบฏนิยมรัสเซีย ซึ่งกองทัพยูเครนเผยสูญเสียทหารมากถึง 22 นาย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 150 นายในการต่อสู้ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มกบฏสามารถรุกคืบยืดพื้นที่ได้แล้วเกือบทั้งหมด

ขณะที่นายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ โทรศัพท์สายตรงไปหารือกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เพื่อ "กดดัน" ให้รัฐบาลมอสโกใช้อำนาจยับยั้งกลุ่มกบฏยูเครนไม่ให้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงมากไปกว่านี้ด้วย

ยูเครนขอยูเอ็นช่วยหลังเสียเมืองสำคัญให้กบฏ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

Hot Issue:เศรษฐีดัง“วอร์เร็น บัฟเฟตต์” ขายทิ้งหุ้นบริษัทพลังงานยักษ์ “เอ็กซอน โมบิล” เกือบ 1.3 แสนล้าน หลังราคาน้ำมันโลกดิ่งเหว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2558 08:35 น.



เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-วอร์เร็น บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชื่อดังและนักลงทุนชื่อก้องโลกชาวอเมริกัน ตัดสินใจขายทิ้งหุ้นมูลค่า 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 127,050 ล้านบาท) ที่เขาถือครองไว้ในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน “เอ็กซอน โมบิล” หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับร่วงลงมากกว่าครึ่งของระดับที่เคยเป็น

รายงานข่าวซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันพุธ (18 ก.พ.) ระบุว่า บัฟเฟตต์ ในวัย 84 ปีตัดสินใจขายทิ้งหุ้นจำนวน “41.1ล้านหุ้น” ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 127,050 ล้านบาท) ที่เขาถือครองไว้ในบริษัท “Exxon Mobil” แล้ว รวมถึงได้ขายทิ้งหุ้นจำนวน 471,994 หุ้นที่ถือครองไว้ในบริษัทน้ำมัน “โคโนโคฟิลลิปส์” ด้วยเช่นกัน

การตัดสินใจของบัฟเฟตต์ในการขายทิ้งหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานทั้ง 2 แห่งดังกล่าวถูกระบุว่า เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2014 ที่ผ่านมา และส่งผลให้ในเวลานี้บริษัท “เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์” ซึ่งเป็นแขนขาด้านการลงทุนของบัฟเฟตต์ไม่เหลือหุ้นในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ทั้งสองแม้แต่หุ้นเดียว

อย่างไรก็ดี รายงานข่าวระบุว่า บัฟเฟตต์ยังคงมิได้หันหลังให้กับการลงทุนในธุรกิจพลังงานเสียทีเดียว เนื่องจากเขายังคงถือครองหุ้นในบริษัทพลังงานอีกหลายแห่ง รวมถึงบริษัทซันคอร์ เอเนอร์จี และเนชันแนล ออยล์เวลล์ วาร์โค

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของบัฟเฟตต์มีขึ้นหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลก ประสบภาวะดิ่งเหวต่อเนื่องจากระดับสูงกว่า 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เหลือไม่ถึง 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม วอร์เร็น บัฟเฟตต์ ตกเป็นข่าวสูญเงินมหาศาลถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 64,665 ล้านบาท) ภายในระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมง หลังทำการประเมินการลงทุนที่ผิดพลาด ในหุ้นบริษัทดัง “ไอบีเอ็ม” และ “โค้ก” ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ที่ได้ชื่อว่า เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังราคาหุ้นของไอบีเอ็มปรับร่วงลงไปกว่า 13 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่หุ้นของโคคา-โคลาก็ปรับร่วงไป 0.15 เปอร์เซ็นต์

ขณะเดียวกันเมื่อ 17 ตุลาคมปีที่แล้ว วอร์เร็น บัฟเฟตต์เพิ่งตกเป็นข่าวว่าตัดสินใจขายทิ้งหุ้นของห้างค้าปลีกดังสัญชาติอังกฤษอย่าง “เทสโก้” ที่ถือครองไว้จำนวนมากกว่า “245 ล้านหุ้น” หลังจากที่บัฟเฟตต์เข้าซื้อหุ้นของเทสโก้สะสมไว้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา โดยเจ้าตัวระบุการตัดสินใจลงทุนในห้างค้าปลีกดังกล่าวถือเป็น “ความผิดพลาดอันใหญ่หลวง” และเป็น “การลงทุนที่โง่เขลา”

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000020289
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000020289

 

ปธน.ยูเครนร้องขอกองกำลังสันติภาพสังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2558 04:38 น.



เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครนเผยเมื่อวันพุธ(18ก.พ.) เรียกร้องขอกองกำลังรักษาสันติภาพภายใต้อาณัติของสหประชาชาติ เข้าสังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิงที่ขาดรุ่งริ่งทางภาคตะวันออกของประเทศ หลังกองกำลังรัฐบาลถูกถล่มอย่างหนัก จนต้องถอนร่นออกจากเมืองยุทธศาสตร์สำคัญ ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าฝ่ายกบฏนิยมรัสเซีย ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่นานานาชาติรับรอง

"รูปแบบดีที่สุดที่เราเห็นคือการรักษาความสงบเรียบร้อยจากสหภาพยุโรป เรามั่นใจว่ามันจะได้ผลอย่างที่สุดและเป็นการรับประกันด้านความปลลอดภัยได้เป็นอย่างดี" โปโรเชนโก กล่าวขณะเริ่มประชุมกับเหล่าผู้บัญชาการด้านความมั่นคง

โปโรเชนโก ยังแสดงความหวังว่าที่ประชุมจะมีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการสำหรับเชิญนานาชาติเข้าสังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิง "หลังจากตัดสินใจแล้ว เราจะเริ่มปรึกษาหารืออย่างเป็นทางการ ซึ่งจะช่วยให้เราบรรลุถึงสันติภาพ"

ประธานาธิบดียูเครน เผยว่าเขาได้หยิบยกประเด็นนี้หารือกับผู้นำเยอรมนี ฝรั่งเศสและรัสเซียอย่างคร่าวๆแล้ว ณ ที่ประชุมในกรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ได้มาซึ่งข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว

อย่างไรก็ตามข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าวดูเหมือนจะไม่เห็นผลตั้งแต่เริ่ม หลังจากมีการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างฝ่ายกบฏนิยมรัสเซียและกองกำลังรัฐบาลยูเครน ในการช่วงชิงเมืองยุทธศาสตร์สำคัญ "เดบัลต์เซเว"

มีรายงานว่าทหารยูเครนราว 2,500 คน ได้ล่าถอยออกจากเมืองเดบัลต์เซเว ในวันพุธ(18ก.พ.) นับเป็นความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดของกองกำลังรัฐบาล

เคียฟและสหรัฐฯ กล่าวหารัสเซีย ระดมทั้งอาวุธและทหารเป็นหัวหอกนำฝ่ายกบฏจู่โจมศูนย์กลางยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งแห่งนี้ แต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียที่ยืนกระต่ายขาเดียวว่า ไม่ได้มีส่วนร่วมในวิกฤตยูเครน ได้ประกาศขณะเยือนฮังการีในวันอังคาร(17ก.พ.)ว่า ความขัดแย้งยูเครนที่มีผู้สังเวยชีวิตแล้วกว่า 5,600 ราย ไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีการทางทหาร และเรียกร้องให้กองทหารยูเครนในเดบัลต์เซเวยอมถอนตัวออกไปตามที่ฝ่ายกบฎเปิดทางให้


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000020268

 

น้ำมันร่วงแรง หุ้นสหรัฐฯทรงตัว-ทองคำปิดลบจากรายงานที่ประชุมเฟด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2558 05:16 น.



เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันร่วงแรงในวันพุธ(18ก.พ.) จับตาข้อมูลคลังเชื้อเพลิงสำรองของสหัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวและทองคำปิดลบ หลังรายงานการประชุมเฟดชี้ธนาคารกลางแห่งนี้จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปอีกนาน

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กระทรวงพลังงานสหรัฐฯจะเผยแพร่รายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี(18ก.พ.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าสต๊อกจะสูงขึ้นอย่างมากอีกสัปดาห์ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คลังน้ำมันดิบสำรองของอเมริกา แตะระดับสูงสุดที่ไม่เคยพบเห็นในช่วงเวลานี้มานานกว่า 80 ปี

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(18ก.พ.) ฟื้นตัวจากแดนลบในช่วงต้นของการซื้อขาย ขึ้นมาปิดในกรอบแคบๆ หลังรายงานการประชุมเฟด(minutes) บ่งชี้ว่าธนาคารกลางอเมริกาจะรอต่อไปอีกนานพอดู ก่อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดาวโจนส์ ลดลง 17.73 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,029.85 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.66 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,099.68 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 7.10 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,906.36 จุด

รายงาน minutes ของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ประจำเดือนมกราคม เผยให้เห็นว่าสมาชิกจำนวนมากกังวลต่อความเคลื่อนไหวขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไปและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อุดอู้

"รายงาน minutes บ่งชี้โดยทั่วไปว่าบางทีอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำนานกว่าเดิม" อลัน สราอินกา หัวหน้าสายงานลงทุนของคอร์เนอร์สโตน เวลช์ แมนเนจเมนต์กล่าว

ปัจจัยนี้ฉุดให้ราคาทองคำในวันพุธ(18ก.พ.) ปิดลบพอสมควร และขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,200.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000020272

 

:'(

 

ปอกเปลือก ทรราช
ส.ส.ตุรกีปล่อยหมัดซัดปากกันกลางสภากรณีกฎหมายให้อำนาจรมว.ยุติธรรมมากกว่าฝ่ายศาล
---------------



อ่านเจอข่าวนี้ในหนังสือพิมพ์ออนไลน์แห่งหนึ่งของไทยโดยพาดหัวข่าวว่า "ส.ส.ตุรกีตะลุมบอนหามส่งโรงพยาบาล" ทำให้นึกถึงกรณีส.ส.ยูเครนซัดกันนอกสภาที่นำเสนอคลิปข่าวไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ.58 ที่ผ่านมา ก็อยากรู้ว่าคราวนี้ส.ส.ตุรกีเขาซัดปากซัดจมูกกันจนจมูกแตกหิ้วหักถึงกับต้องส่งเข้าโรงพยาบาลกันเรื่องอะไรกันแน่
สื่อฯของไทยฉบับดังกล่าวบอกว่าที่ส.ส.ฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลของตุรกีเขาต่อยกันนี้เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับหนึ่งร่างกฎหมายว่าด้วยการปราบปรามการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงที่ให้อำนาจตำรวจในการตรวจค้นและจับกุม และส.ส.ฝ่ายค้านมองว่าฝ่ายรัฐบาลกำลังสร้างรัฐตำรวจ นี่หนังสือพิมพ์ไทยแห่งหนึ่งพูดอย่างนี้ โดยอ้างแหล่งข่าวจากกรุงอังการาประเทศตุรกีเมื่อวันที่18ก.พ.อ้างสำนักข่าวโดกัน
บอกตรงๆเลยนะครับ ผมไม่ค่อยจะเชื่อสื่อฯไทยสักเท่าไรนะ บ่อยครั้งที่พบว่าเขานำเสนอข่าวไม่ครบ ไม่รอบด้านเหมือนไปเอาข่าวมาจากแหล่งเดียวโดยอาจจะเป็นแหล่งข่าวที่เป็นกระบอกเสียงของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาก็ได้ ข่าวต่างประเทศเขียนมาอย่างไร พี่แกก็แปลตามไปอย่างนั้นเลย
จึงลองไปเปรียบเทียบข่าวเดียวกันนี้จากแหล่งอื่นดูบ้างพบว่าอย่างน้อยก็มีอีก 2-3 สำนักข่าวที่มีข่าวตรงกันคือของฝั่งรัสเซียกับของอังกฤษ (และของฝรั่งเศส) โดยสรุปประเด็นข่าวจากทั้งสองสำนักนี้ได้ความว่า ที่เขาต่อยกันในสภานั้นเป็นเพราะร่างกฎหมายฉบับหนึ่งนั้นจริงครับ แต่ไม่เห็นมีส่วนไหนบอกว่าเป็นเรื่องของการจำกัดสิทธิ์ในการชุมนุมหรือปราบปรามการชุมนุมหรือเพิ่มอำนาจให้ตำรวจเพื่อสร้างรัฐตำรวจอย่างที่สื่อฯบางสำนักเอามาลงข่าวเลย
ความจริงนั้นก็คือ ร่างกฎหมายดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องคอรัปชั่นและการเพิ่มอำนาจให้กระทรวงยุติธรรม (Justice Ministry) มีอำนาจเหนือคณะตุลาการและอัยการสูงสุดของรัฐ (Supreme Board of Judges and Prosecutors (HSYK)) มีการดีเบทกันเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ในสภาของตุรกีนานถึง 20 ชั่วโมง และผลออกมาว่าสภาได้ผ่านร่างกฎหมายชนะขาดด้วยเสียง 210 ต่อ 28 เสียงไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยฝ่ายที่คัดค้านอ้างว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นการให้อำนาจฝ่ายรัฐบาลเหนือฝ่ายตุลาการเพื่อหลบหลีกกระบวนการยุติธรรมโดยศาล ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจระดับแนวหน้าและลูกชาย 3 คนของคณะรัฐมนตรีมีส่วนพัวพันกับคดีคอร์รัปชั่นอยู่ด้วย โดย 2 คนได้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว กฎหมายดังกล่าวให้อำนาจฝ่ายการเมืองเข้ามาควบคุมการตรวจสอบคดีคอร์รัปชั่นเหนือกระบวนการของศาลยุติธรรมในประเทศเขา นี่ข่าวมันเป็นอย่างนี้ครับ
ป.ล.คนที่จมูกแตกนั้นเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน ส่วนคนที่นิ้วหักเป็นฝ่ายรัฐบาล
The Eyes
19/02/2558
-------------
Turkish MPs brawl as Erdogan tightens grip on judiciary — RT News
http://www.theguardian.com/…/turkish-mps-brawl-parliament-e…
BBC News - Turkish MPs pass judicial reforms amid brawl
ส.ส.ตุรกีตะลุมบอนหามส่งโรงพยาบาล | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
https://www.youtube.com/watch?v=cBhltNpsNUI
https://www.youtube.com/watch?v=-y9YhvidOt0