ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ระเบียบ โลกใหม่
    เคล็ดวิชาฉัตรเก้าชั้น ของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2015
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ระทึก! ไฟลุกสยอง ขบวนรถไฟบรรทุกน้ำมันตกราง ในสหรัฐฯ
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.พ. 2558 10:59

    [​IMG]

    ทางการสหรัฐฯ ต้องสั่งอพยพประชาชน หลังขบวนรถไฟบรรทุกน้ำมันตกราง ที่รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ตู้น้ำมันกว่า 10 ตู้ เกิดไฟไหม้ลุกโชน และมีตู้หนึ่งพุ่งตกลงในแม่น้ำจนเกิดน้ำมันรั่ว ไฟลุกท่วมเป็นบริเวณกว้าง

    เมื่อ 17 ก.พ. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดอุบัติเหตุสุดระทึก ขบวนรถไฟบรรทุกน้ำมันประสบเหตุตกราง ในรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 16 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้เกิดไฟไหม้รุนแรง และควันหนาทึบพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า จนทางการถึงกับต้องมีการสั่งอพยพประชาชนใน 2 เมือง คือ เอดีนา วิลเลจ และบูเมอร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ออกจากบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย

    สื่อท้องถิ่นในสหรัฐฯ รายงานว่า ขบวนรถไฟบรรทุกน้ำมันขบวนนี้ บรรทุกน้ำมันมาเป็นจำนวนมาก โดยเดินทางมาจากนอร์ธ ดาโกตา และจะมุ่งหน้าไปยังเมืองยอร์ก ทาวน์ รัฐเวอร์จิเนีย แต่ได้ประสบอุบัติเหตุตกรางเสียก่อน

    ระทึก! ไฟลุกสยอง ขบวนรถไฟบรรทุกน้ำมันตกราง ในสหรัฐฯ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หยุดยิงสั่นคลอน ทัพรบ.กบฏยูเครนลั่นไม่ยอมถอนอาวุธหนัก
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.พ. 2558 05:34

    [​IMG]

    @รถถังของกองทัพรัฐบาลยูเครน ที่เมืองดีบัลเซเว (ภาพ: REUTERS)

    กองทัพรัฐบาลยูเครนและนักรบกบฏแบ่งแยกดินแดนประกาศไม่ยอมถอนอาวุธหนักจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมถอน ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุที่กรุงมินสก์ไม่มีความคืบหน้า...

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การต่อสู้ในภาคตะวันออกของประเทศยูเครนยังคงดำเนินต่อไปแม้คำสั่งหยุดยิงตามข้อตกลงที่กรุงมินสก์จะมีผลบังคับใช้มานานกว่า 1 วันแล้วก็ตาม โดยกองทัพยูเครนระบุว่า กองกำลังฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักฝ่ายรัสเซีย โจมตีพวกเขาถึง 112 ครั้ง นับตั้งแต่ช่วงเช้าวันอาทิตย์ (15 ก.พ.) ส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองดีบัลเซเว ซึ่งมีการปะทะรุนแรงที่สุดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีทหารเสียชีวิต 5 นายในการต่อสู้ใกล้เมืองมาริอูปัลทางใต้ของประเทศ

    ทั้งนี้ ข้อตกลงที่กรุงมินสก์ซึ่งผู้นำ 4 ฝ่ายได้แก่ เยอรมนี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย และยูเครน บรรลุร่วมกันเมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า การหยุดยิงในวันที่ 15 ก.พ. เป็นเพียงก้าวแรก ซึ่งจะตามด้วยการถอนอาวุธหนักของทั้งฝ่ายกบฏและรัฐบาลตั้งแต่วันจันทร์ และเสร็จสิ้นกระบวนการภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อสร้างเขตกันชนกว้าง 50-140 กม.

    แต่นายวลาดิเมียร์ โคโนนอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดน ประกาศในวันจันทร์ว่า พวกเขาจะถอนอาวุธออกจากพื้นที่ปะทะ ตามข้อตกลงที่กรุงมินสก์ หากพวกเขาได้รับสัญญาณที่ชัดเจนว่า ฝ่ายรัฐบาลจะเริ่มทำอย่างเดียวกัน ขณะที่โฆษกกองทัพรัฐบาลก็อ้างว่า พวกเขาจะไม่ดำเนินการถอนอาวุธหนัก เพราะฝ่ายกบฏกำลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอยู่

    เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์จากองค์การสนับสนุนความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (ไอเอสซีอี) ระบุว่า พวกเขาพยายามเดินทางไปยังเมืองดีบัลเซวาซึ่งกำลังถูกฝ่ายกบฏปิดล้อมอยู่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ถูกนักรบฝ่ายกบฏปฏิเสธไม่ให้เข้าไป โดยฝ่ายกบฏอ้างว่า เมืองดีบัลเซเวถูกพวกเขาปิดล้อมแล้ว ดังนั้นจึงควรถือว่าเมืองแห่งนี้เป็นของพวกเขา

    นายกรัฐมนตรีอันเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี และประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ออกมาเรียกร้องให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏในยูเครนอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของโอเอสซีอี สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ในภาคตะวันออก ทั้งยังแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงด้วย

    อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อื่นๆ นอกจากที่เมืองดีบัลเซเวและเมืองมาริอูปัล เสียงของการต่อสู้เริ่มสงบลงหรือเงียบสนิทไปแล้ว

    หยุดยิงสั่นคลอน ทัพรบ.กบฏยูเครนลั่นไม่ยอมถอนอาวุธหนัก - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สองฝ่ายยูเครนปฏิเสธถอนอาวุธหนัก

    [​IMG]

    แผนสันติภาพในยูเครนสั่นคลอนอย่างหนักทั้งที่เริ่มมาได้เพียง 2 วัน หลังกองทัพรัฐบาลและกลุ่มกบฏปฏิเสธถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่สู้รบ ขณะที่รัสเซียลั่นตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดของยุโรปที่มีการเพิ่มชื่อรมช.กลาโหม 2 คน

    วันอังคาร 17 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 09:38 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ว่าหนึ่งในประเด็นสำคัญของแผนสันติภาพยูเครน ที่ผู้นำของทั้ง 4 ประเทศ คือเยอรมนี ฝรั่งเศส รัสเซีย และยูเครน เห็นพ้องกันระหว่างการประชุมที่กรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คือการที่กองทัพรัฐบาลและกลุ่มกบฏต้องถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง เพื่อก่อตั้งเขตกันชนเป็นระยะทางอย่างน้อย 50 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคาร ( 05.01 น. ตามเวลาในประเทศไทย )

    อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนและกลุ่มกบฏต่างปฏิเสธเคลื่อนย้ายอาวุธหนักออกจากพื้นที่เมื่อถึงเวลา และกล่าวหากันไปมาว่าเป็นผู้จุดชนวนการสู้รบในพื้นที่หลายแห่ง โดยเฉพาะที่เมืองเดบัลต์เซเว ชุมทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างเมืองโดเนตสก์กับเมืองลูฮันสก์ ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในภูมิภาคดอนบาสส์ ทางตะวันออกของประเทศ กระนั้นรายงานบางกระแสระบุว่า ทั้งสองฝ่ายพร้อมปฏิบัติตามข้อตกลง หากการเจรจาลับหลังระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงประสบความสำเร็จ

    ขณะที่น.ส.เจน ซากี โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงแสดงความกังวลอย่างยิ่ง ต่อสถานการณ์ที่กำลัง "เปราะบาง" อย่างหนักในยูเครน รัฐบาลวอชิงตันจึงขอเรียกร้องให้กลุ่มกบฏนิยมรัสเซียยุติการใช้ความรุนแรง และเปิดทางให้คณะผู้สังเกตการณ์ขององค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป ( โอเอสซีอี ) ลงพื้นที่โดยเร็ว

    ด้านสหภาพยุโรป ( อียู ) ประกาศเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่เมื่อวันจันทร์ โดยเพิ่มชื่อบุคคลใกล้ชิดประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เข้าทำเนียบรายชื่อผู้ถูกอายัดทรัพย์สินและห้ามเดินทางเข้าประเทศสมาชิกอียูเพิ่มอีกกว่า 20 คน ในจำนวนนี้รวมถึงรมช.กระทรวงกลาโหม 2 คน คือนายอนาโตลี อันโตนอฟ และนายอาร์คาดี บาคิน ฐานให้ความสนับสนุนการแทรกแซงทางทหารในยูเครน สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับรัฐบาลมอสโก ที่ยืนยันจะ "ตอบโต้" อย่างแน่นอน

    สองฝ่ายยูเครนปฏิเสธถอนอาวุธหนัก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ยูโรกรุ๊ปขีดเส้นตายหนี้กรีซหลังเจรจาล่ม

    [​IMG]

    ยูโรกรุ๊ปยื่นคำขาดให้กรีซส่งคำร้องขอต่อเวลาโครงการเงินกู้ภายในวันศุกร์นี้ แม้อีกฝ่ายยังแสดงท่าทีไม่ยินยอม หลังการเจรจาหาทางออกเรื่องภาระหนี้สินของรัฐบาลเอเธนส์จบลงด้วยความล้มเหลว

    วันอังคาร 17 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 08:55 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ว่านายเจอเริน ดิจส์เซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป หรือกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินยูโรเป็นสกุลหลัก 19 ประเทศ แถลงเมื่อวันจันทร์ หลังเสร็จสิ้นการประชุมฉุกเฉินหารือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของกรีซ ยื่นคำขาดให้รัฐบาลเอเธนส์ส่งเอกสารคำร้องต่อที่ประชุมภายในวันศุกร์ที่ 20 ก.พ.นี้ เพื่อขยายระยะเวลาการเข้าโครงการรับเงินช่วยเหลือ หลังข้อตกลงฉบับเก่าที่ใช้มานานเกือบ 5 ปี กำลังจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ.นี้

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การยื่นคำร้องต้องได้รับการลงนามจากรัฐบาลกลางของประเทศลูกหนี้ หมายความว่ายูโรกรุ๊ปและรัฐบาลกรีซอาจไม่เหลือเวลาประนีประนอมอีกต่อไป เนื่องจากนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ผู้นำรัฐบาลเอเธนส์ กล่าวมาตลอดตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าต้องการยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัด ที่เป็นข้อตกลงพื้นฐานของการเข้าโครงการรับเงินช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ในยุโรป ที่รวมตัวกันในนาม "ทรอยกา" ได้แก่ สหภาพยุโรป ( อียู ) ธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ )

    ด้านนายยานิส วารูฟาคิส รมว.กระทรวงการคลังกรีซ กล่าวแสดงความไม่พอใจมติของที่ประชุมยูโรกรุ๊ป ว่าไม่มีเหตุผลโดยสิ้นเชิง เนื่องจากเป็นข้อเสนอที่ทุกฝ่ายทราบดีอยู่แล้ว ว่ารัฐบาลเอเธนส์ไม่มีทางตอบรับ กระนั้นยารูฟาคิสแสดงความเชื่อมั่นว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงกับทรอยกาได้ แต่ภายใต้ "เงื่อนไขอื่น"

    อย่างไรก็ตาม นายโวล์ฟกัง ชอยเบลอ รมว.กระทรวงการคลังเยอรมนี ผู้มีส่วนสำคัญในการวางโครงสร้างมาตรการรัดเข็มขัดให้กับกรีซและอีกหลายประเทศ ไม่เชื่อว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงใดเกิดขึ้นอีก โดยให้เหตุผลว่า กรีซได้รับการยกเว้นมามากพอแล้ว จนถึงจุดที่ไม่มีเจ้าหนี้รายใดต้องการให้รัฐบาลเอเธนส์ยืมเงินอีกหากไม่มีสิ่งใดมาค้ำประกันความน่าเชื่อถือ

    กรีซเข้าร่วมโครงการของทรอยกาเมื่อปี 2553 ด้วยข้อตกลงเป็นวงเงินจำนวน 240,000 ล้านยูโร ( ราว 8.9 ล้านล้านบาท ) แต่ปัจจุบันภาระหนี้สินกลับงอกเงยขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ปัจจุบันภาระหนี้สินของกรีซอยู่ที่ราว 323,000 ล้านยูโร ( ราว 12 ล้านล้านบาท ) คิดเป็น 175.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี )

    ยูโรกรุ๊ปขีดเส้นตายหนี้กรีซหลังเจรจาล่ม | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นักดาราศาสตร์พบ'กลุ่มเมฆปริศนา'เหนือดาวอังคาร

    [​IMG]

    ทีมนักดาราศาสตร์สมัครเล่นจากสเปน เผยการค้นพบปรากฏการณ์กลุ่มเมฆ ที่ก่อตัวขึ้นในชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2555 ซึ่งทำให้ปริศนาเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศของดาวแดงดวงนี้ ยิ่งลึกลับมากขึ้นไปอีก

    วันอังคาร 17 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 01:06 น.
    สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ว่า ทีมนักดาราศาสตร์ที่นำโดย นายอกุสติน ซานเชซ-ลาเวกา จากมหาวิทยาลัยแห่งแคว้นบาสก์ ในเมืองบิลเบา ทางตอนเหนือของสเปน ตีพิมพ์ผลงานในวารสารวิทยาศาสตร์ 'เนเจอร์ จีโอไซแอนซ์' เผยแพร่การค้นพบกลุ่มเมฆปริศนา ในชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร

    การค้นพบครั้งแรก เกิดขึ้นระหว่างการสังเกตการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างกลางวันและกลางคืนของดาวอังคาร เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2555 โดยส่วนหนึ่งของเปลวที่มีลักษณะคล้ายควัน เริ่มเปลี่ยนรูปทรง กลายเป็นกลุ่มก้อนที่ยื่นออกมา ก่อนจะรวมตัวกันเป็นลักษณะแท่ง ซึ่งกินระยะเวลาราว 10 ชั่วโมง และคงอยู่ในสภาพนั้นประมาณ 11 วัน จากนั้นปรากฏการณ์ในลักษณะคล้ายกันก็เกิดขึ้นอีก เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2555 และคงอยู่เป็นเวลา 10 วัน มันขยายตัวออกไปกินบริเวณกว้างระหว่าง 500 - 1,000 กิโลเมตร ในทิศทางตะวันออก-ตะวันตก และเหนือ-ใต้ โดยเกิดในระดับความสูงที่ 200 - 250 กิโลเมตร ในบริเวณเหนือพื้นที่สูงที่ขรุขระทางตอนใต้ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า เทรา ชิมเมเรีย

    จากการศึกษาดาวอังคาร พบว่า มันมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของน้ำ และการเกิดภูเขาไฟระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจนำไปสู่การก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตได้ ในอดีตที่ผ่านมา มีการตรวจสอบพบกลุ่มเมฆฝุ่นหรือผลึกน้ำแข็ง เกิดขึ้นเหนือดาวอังคารบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่เคยมีครั้งใดใหญ่เท่านี้ และส่วนใหญ่มักเกินที่ระดับความสูงไม่เกิน 100 กิโลเมตร งานวิจัยระบุว่า กลุ่มเมฆดังกล่าว อาจประกอบไปด้วยอนุภาคของน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์

    แต่อีกหนึ่งความเป็นไปได้คือ มันอาจเป็นเพียงแสงออโรรา หรือปรากฏการณ์แสงเหนือ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นบนโลก จากการปะทะกันของอนุภาคสุริยะและสนามแม่เหล็กโลก โดยจากการตรวจสอบของยานสำรวจอวกาศในอดีตพบว่า ในบริเวณเทรา ชิมเมเรีย ปรากฏมีแนวสนามแม่เหล็กที่มีกำลังรุนแรงอยู่ ซึ่งหากสิ่งที่ค้นพบเป็นแสงออโรราจริง มันจะมีความสว่างกว่าแสงออโรราที่เกิดบนโลกถึง 1,000 เท่า แต่อย่างไรก็ตาม นักวิจัยชี้ว่า ความน่าจะเป็นทั้ง 2 ประการนี้ ยังขัดกับความเข้าใจที่เรามีเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศส่วนบนของดาวอังคาร.

    ขอบคุณภาพจาก Science news and science jobs from New Scientist - New Scientist

    นักดาราศาสตร์พบ'กลุ่มเมฆปริศนา'เหนือดาวอังคาร | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พบอุโมงค์ลับใต้ดิน2.5กม.ทางตอนเหนือของอียิปต์

    [​IMG]

    เจ้าหน้าที่อียิปต์พบอุโมงค์ลับใต้ดิน ที่กลุ่มก่อการร้ายใช้ลักลอบขนอาวุธและแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่คาบสมุทรไซไน ความยาว 2.5 กิโลเมตร นับเป็นอุโมงค์ใต้ดินที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยพบมาในเขตนี้

    วันอังคาร 17 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 00:58 น.
    เว็บไซต์ข่าว อัล-บาวาบา รายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ว่า กองทัพอียิปต์ค้นพบอุโมงค์ใต้ดินยาว 2.5 กิโลเมตร ที่ยังมีการใช้งานอยู่ ในเขตชามัลซินา หรือนอร์ทไซไน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ติดพรมแดนอิสราเอล หลังการบุกเข้าจับกุมและกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย และขบวนการลักลอบขนอาวุธที่แทรกซึมเข้ามาในพื้นที่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นอุโมงค์ใต้ดินที่ยาวที่สุดในนอร์ทไซไนเท่าที่เคยพบมา

    รัฐบาลมีแผนจะจัดตั้งเขตกันชนความยาว 5 กิโลเมตร ตลอดแนวพรมแดนเมืองราฟาห์ที่ติดกับฉนวนกาซาของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งจะต้องทำลายอุโมงค์ลับทั้งหมด และเวนคืนพื้นที่จากประชาชนที่อาศัยในบริเวณนั้นด้วย โดยรัฐจะจ่ายชดเชยค่าบ้านและค่าที่ดินให้ แต่หากใครที่มีทางลับเชื่อมต่ออุโมงค์ภายในบ้าน จะไม่ได้เงินชดเชยในส่วนนี้ โดยก่อนหน้านี้แผนการจัดตั้งเขตกันชนกำหนดระยะทางไว้เพียง 1 กิโลเมตร แต่หลังมีการค้นพบอุโมงค์ลับความยาว 1.7 กิโลเมตร เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางการจึงขยายแผนออกไปเป็น 5 กิโลเมตร.

    พบอุโมงค์ลับใต้ดิน2.5กม.ทางตอนเหนือของอียิปต์ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คอนแทคเลนส์อัจฉริยะแค่ขยิบตาก็ซูมได้

    [​IMG]

    นักวิจัยชาวสวิส ประดิษฐ์คอนแทคเลนส์ที่สามารถเพิ่มความชัดเจนของภาพ ย่อและขยายภาพได้เพียงแค่ใช้การขยิบตา

    วันอังคาร 17 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 03:57 น.
    สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองซานโฮเซ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ว่า นายเอริค เทรมเบลย์ จากสถาบันเอโคเล โพลีเทคนิค เฟเดอลาเร เดอ โลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ในการประชุมเชิงวิชาการประจำปี ของสมาคมอเมริกันเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ (เอเอเอเอส) เผยโฉมคอนแทคเลนส์ที่สามารถเพิ่มความชัดและขยายภาพได้ด้วยการขยิบตา

    คอนแทคเลนส์นี้ มีความหนา 1.55 มิลลิเมตร ในตัวเลนส์จะมีกล้องโทรทัศน์หักเหแสงที่มีความบางมาก ซึ่งสามารถตอบสนองต่อการขยิบตาของผู้สวมใส่ ไม่ใช่เพียงการกระพริบตา สามารถเปลี่ยนจากการใช้งานปกติไปสู่คุณสมบัติพิเศษได้อย่างง่ายดาย โดยการขยิบตาขวาเพื่อเริ่มใช้งาน และขยิบตาซ้ายเพื่อปิดระบบการทำงาน และแม้เลนส์จะเป็นประเภทสเคลอรัล หรือเลนส์ปิดตาขาว ที่มีขนาดใหญ่และแข็งกว่าคอนแทคเลนส์ทั่วไป แต่ก็ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้

    เทรมเบลย์ เผยว่า สิ่งประดิษฐ์นี้ยังอยู่ในขั้นพัฒนา ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะสามารถนำมาใช้กับผู้ที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม (เอเอ็มดี) จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยกำลังขยาย 2.8 เท่า จะทำให้ผู้ป่วยอ่านหนังสือได้สะดวกขึ้น และสามารถระบุใบหน้าผู้คนและสิ่งของได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นักวิจัยยังคิดค้นการทำช่องระบายอากาศขนาดประมาณ 0.1 มิลลิเมตร เพื่อให้ดวงตาได้รับออกซิเจนได้ดีขึ้นด้วย

    โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุน จากหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศของสหรัฐ (ดาร์ปา) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) เพื่อเสริมศักยภาพในการมองเห็นของทหารในการปฏิบัติภารกิจ

    ทั้งนี้ ยังมีสิ่งประดิษฐ์น่าสนใจอีกมากมายที่ถูกนำเสนอในงานนี้ หนึ่งในนั้นคือแว่นตาที่ติดตั้งกล้อง เพื่อช่วยเหลือคนตาบอดหรือผู้ที่มีปัญหาทางการมองเห็น ซึ่งกล้องจะรับภาพและส่งไปยังจอประสาทตา ผ่านเส้นประสาทจำนวนมากที่ถูกกระตุ้นด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งเส้นประสาทจะเปลี่ยนแสงให้เป็นกระแสไฟฟ้า จากนั้นจึงส่งตรงไปยังสมองเพื่อให้เกิดเป็นภาพในการรับรู้ของผู้ป่วย.

    ขอบคุณภาพจาก News about Silicon Valley Companies, Technology Innovations, and Other Cool Stuff | Tech Times

    คอนแทคเลนส์อัจฉริยะแค่ขยิบตาก็ซูมได้ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แคสเปอร์สกีแฉ "เอ็นเอสเอ" ค้นพบวิธีซ่อน “สปายแวร์” ลงในฮาร์ดไดรฟ์ที่ผลิตโดยบ.ไอทียักษ์ใหญ่ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2558 14:02 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ค้นพบวิธีที่จะซ่อนซอฟต์แวร์สอดแนมเอาไว้ในฮาร์ดไดรฟ์ที่ผลิตโดยบริษัทไอทีชั้นนำ เช่น เวสเทิร์น ดิจิทัล, ซีเกต, โตชิบา ฯลฯ ซึ่งนวัตกรรมนี้จะช่วยให้หน่วยข่าวกรองสามารถจับตาและจารกรรมข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อ นักวิจัยรัสเซียและอดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทางไซเบอร์เผย

    เทคโนโลยีซึ่งถูกเสาะแสวงหาและเก็บงำไว้อย่างมิดชิดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสอดแนมที่ถูกตีแผ่โดยห้องปฏิบัติการ แคสเปอร์สกี แล็บ ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสซึ่งมีฐานอยู่ในกรุงมอสโก และเคยเปิดโปงแผนจารกรรมไซเบอร์ในโลกตะวันตกมาแล้วหลายครั้ง

    แคสเปอร์สกี ระบุว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใน 30 ประเทศกำลังตกเป็นเหยื่อโปรแกรมสอดแนมไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอิหร่าน, รัสเซีย, ปากีสถาน, อัฟกานิสถาน, จีน, มาลี, ซีเรีย, เยเมน และแอลจีเรีย กลุ่มที่ตกเป็นเป้าหมายมีทั้งรัฐบาล, หน่วยงานทางทหาร, บริษัทโทรคมนาคม, ธนาคาร, บริษัทพลังงาน, นักวิจัยนิวเคลียร์, สื่อมวลชน และนักเคลื่อนไหวมุสลิม

    บริษัทด้านความปลอดภัยแห่งนี้ปฏิเสธที่จะเอ่ยชื่อประเทศที่อยู่เบื้องหลังโครงการ แต่กล่าวเป็นนัยๆว่ามีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับไวรัส “สตักซ์เน็ต” (Stuxnet) ซึ่งเป็นอาวุธไซเบอร์ที่ เอ็นเอสเอ เคยใช้โจมตีโรงเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านมาแล้ว

    อดีตพนักงานเอ็นเอสเอคนหนึ่งยืนยันกับรอยเตอร์ว่า บทวิเคราะห์ของ แคสเปอร์สกี ถูกต้องทุกประการ และในปัจจุบันบุคลากรของเอ็นเอสเอก็ให้ความสำคัญกับโปรแกรมสอดแนมเหล่านี้ไม่น้อยไปกว่าสตักซ์เน็ต

    อดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านความมั่นคงอีกรายยืนยันเช่นกันว่า เอ็นเอสเอคิดค้นเทคนิคที่จะซุกซ่อนสปายแวร์เอาไว้ในฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์ แต่เขาไม่ทราบว่าเป้าหมายของการสอดแนมคืออะไร

    วานี ไวน์ส โฆษกหญิงของเอ็นเอสเอ แถลงว่า ทางหน่วยงานได้รับทราบข้อมูลที่ แคสเปอร์สกี อ้างแล้ว แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ

    รายละเอียดทางเทคนิคของงานวิจัยที่ แคสเปอร์สกี เผยแพร่เมื่อวานนี้(16) อาจช่วยให้องค์กรที่ตกเป็นเหยื่อสามารถตรวจพบโปรแกรมสอดแนม ซึ่งบางโปรแกรมนั้นถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2001

    รายงานของ แคสเปอร์สกี คาดว่าจะยิ่งทำให้ เอ็นเอสเอ ตกที่นั่งลำบาก หลังจากที่หน่วยข่าวกรองแห่งนี้เคยถูกอดีตพนักงานสัญญาจ้าง เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เปิดโปงโครงการสอดแนมจนสหรัฐฯ ต้องหมางใจกับพันธมิตรหลายประเทศมาแล้ว และยังส่งผลทำให้ผลิตภัณฑ์ไอทีของอเมริกามียอดขายลดลงในต่างประเทศด้วย

    ข้อมูลเกี่ยวกับกลวิธีสอดแนมใหม่ๆ ยังอาจจุดกระแสต่อต้านเทคโนโลยีตะวันตก โดยเฉพาะในจีนซึ่งกำลังมีการร่างกฎหมายบังคับให้บริษัทที่จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีแก่ธนาคารของจีนต้องส่งมอบรหัสซอฟต์แวร์เพื่อให้ปักกิ่งตรวจสอบได้

    ปีเตอร์ สไวร์ หนึ่งในคณะที่ปรึกษาด้านข่าวกรองและเทคโนโลยีการสื่อสารของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ชี้ว่า รายงานของ แคสเปอร์สกี เป็นสัญญาณเตือนให้สหรัฐฯ ต้องคำนึงถึงผลเสียในด้านการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ช่องโหว่ในระบบซอฟต์แวร์เพื่อสืบข่าวกรอง

    “การทำเช่นนั้นอาจกระทบถึงผลประโยชน์ในด้านอื่นๆ ของสหรัฐฯ” สไวร์ ระบุ

    แคสเปอร์สกี ชี้ว่า เอ็นเอสเอค้นพบวิธีที่จะซุกซ่อนโปรแกรมสอดแนมลงใน “เฟิร์มแวร์” (firmware) ซึ่งจะเริ่มทำงานทุกครั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกเปิด

    ดิสก์ ไดรฟ์ เฟิร์มแวร์ ถือเป็นองค์ประกอบในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่สำคัญมากเป็นอันดับ 2 ในสายตาของเหล่าแฮกเกอร์ เป็นรองก็แต่เพียง ไบออส (Basic Input Output System - BIOS) ซึ่งจะถูกอ่านอัตโนมัติทุกครั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มต้นการทำงาน (boot-up)

    คอสติน ไรอู นักวิจัยอาวุโสของแคสเปอร์สกี ให้สัมภาษณ์ว่า แม้หัวหน้าหน่วยสอดแนมจะสามารถควบคุม ขโมย หรือล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตกเป็นเหยื่อนับพันๆ เครื่อง แต่ในทางปฏิบัติพวกเขาจะสร้างระบบควบคุมทางไกลเพื่อเล่นงานบุคคลหรือองค์กรต่างชาติที่เป็นเป้าหมายหลักๆ เท่านั้น

    จากที่ แคสเปอร์สกี ได้ทดลองสร้างโปรแกรมเลียนแบบขึ้นมา พบว่าโปรแกรมเหล่านี้สามารถทำงานร่วมกับดิสก์ไดรฟ์ที่ผลิตโดยบริษัทไอทีชั้นนำนับสิบแห่ง ไม่ว่าจะเป็น เวสเทิร์น ดิจิทัล คอร์ป, ซีเกต เทคโนโลยีส์, โตชิบา คอร์ป, ไอบีเอ็ม, ไมครอน เทคโนโลยี และ ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์

    จากการสอบถามไปยังบริษัทไอทีที่ถูกอ้างถึง ทั้ง เวสเทิร์น ดิจิทัล, ซีเกต และไมครอน ระบุว่าพวกเขาไม่ทราบอะไรเลยเกี่ยวกับโปรแกรมสอดแนมเหล่านี้ ในขณะที่โตชิบาและซัมซุงยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็น

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “เหยื่อกามพระคาทอลิก” ทั่วทวีปอเมริการ้องให้เอาผิดบาทหลวงชำเราเด็กแบบ “ฆราวาส” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2558 14:05 น. (แก้ไขล่าสุด 17 กุมภาพันธ์ 2558 14:08 น.)

    [​IMG]
    ---
    @โฆเซ บาร์บา (ซ้าย) และการ์โลส ลุยซ์ (กลาง) ชายสองคนซึ่งเคยตกเป็นเหยื่อของนักบวชคาทอลิก เมื่อครั้งยังเยาว์วัย อ่านจดหมายร้องเรียนให้วาติกันนำตัวนักบวชชำเราเด็กเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแบบฆราวาส ระหว่างการแถลงข่าว ณ กรุงเม็กซิโกซิตีพร้อมกับอดีตบาทหลวงชาวแดนจังโก้ อัลเบร์โต อาธี (ขวา) เมื่อวันจันทร์ (16 ก.พ.)
    ---
    เอเอฟพี - เหยื่อผู้เสียหายที่เคยถูกนักบวชคาทอลิกล่วงละเมิดทางเพศทั่วทวีปอเมริกาวานนี้ (16 ก.พ.) รวมพลังกันเรียกร้องให้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประทานอนุญาตให้นำตัวพวกชอบชำเราเด็ก และคนบาปที่แฝงตัวในคราบนักบุญเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแบบฆราวาส

    เหยื่อกามนักบวชจากหลากหลายประเทศ นับตั้งแต่สหรัฐฯ ไปถึงอาร์เจนตินา ชิลี เม็กซิโก และชาติได้ออกจดหมายเปิดผนึกในกรุงเม็กซิโกซิตี เพื่อร้องเรียนไปยังประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกชาวอาร์เจนตินาพระองค์นี้ว่า “แค่การกล่าวประณามยังไม่เพียงพอ”

    จดหมายฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การนำตัวคนผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของฆราวาส และการปฏิรูปคริสตจักรเท่านั้นที่จะยุติ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เด็กชายและเด็กหญิงหลายพันคนที่เสียสละตัวเอง เพื่อไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นกรณีอื้อฉาว และเพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ ตลอดจนชื่อเสียงของตัวแทนคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกในโลกนี้”

    เหยื่อเหล่านี้ชี้ว่า การที่โป๊ปฟรานซิสตรัสเตือนถึงพฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศของบรรดานักบวชเมื่อเร็วๆ นี้ทั้ง “กำกวมและขัดแย้ง” เพราะไม่ได้ช่วยนำคนบาปเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการแห่งสัจจะและความยุติธรรม”

    ผู้เป็นตัวแทนอ่านจดหมายฉบับดังกล่าวคือ โฆเซ บาร์บา ซึ่งเคยตกเป็นเหยื่อกามของคุณพ่อ มาร์กเซียล มาเซียล ผู้ก่อตั้งกลุ่มทหารของพระคริสตเจ้า (The Legion of Christ) และมรณภาพไปเมื่อปี 2008

    สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเรียกร้องให้ใช้นโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์” (zero tolerance) ต่อพวกนักบวชที่กระทำชำเราเด็ก นับตั้งแต่พระองค์ทรงได้รับเลือกเป็นประมุขคาทอลิกเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2013

    พระองค์ทรงวิงวอนให้เหยื่อให้อภัยผู้ที่ล่วงเกิน พร้อมประทานคำมั่นว่าจะต่อสู้กับพวกมีรสนิยมชำเราเด็ก และก่อตั้งคณะกรรมาธิการคุ้มครองเด็กแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกขึ้นมา

    ในเดือนนี้ พระองค์ทรงส่งสาสน์ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงไปยังบิชอป (หัวหน้าบาทหลวง) เพื่อเตือนนักบวชนิกายโรมันคาทอลิกไม่ให้พยายามปกปิดกรณีการล่วงละเมิดทางเพศ

    นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงแทรกแซงคดีต่างๆ อย่างคดีนักบวช 10 รูปในสเปน ถูกกล่าวหาว่ากระทำชำเราเด็กผู้ช่วยทำพิธีในโบสถ์

    แม้ว่าโป๊ปฟรานซิสทรงแสดงความรู้สึก “เจ็บปวดอย่างอย่างรุนแรง” พร้อมทั้งรับสั่งให้คริตจักรโรมันคาทอลิกสืบสวนคดีดังกล่าว แต่ศาลแดนกระทิงดุก็ยกฟ้องนักบวช 9 ใน 10 คนจากข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ โดยให้เหตุผลว่า โจทก์ฟ้องร้องเอาผิดกับนักบวชเหล่านี้ช้าเกินการ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผวา! ชาวออสซี 9 รายป่วยเป็น “ตับอักเสบ” หลังกิน “เบอร์รีแช่แข็ง” นำเข้าจากจีน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2558 11:15 น. (แก้ไขล่าสุด 17 กุมภาพันธ์ 2558 12:24 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - กระแสหวาดกลัวเชื้อโรคปนเปื้อนในอาหารลุกลามในแดนจิงโจ้อีกครั้ง เมื่อมีชาวออสเตรเลีย 9 รายล้มป่วยด้วยโรคไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) หลังรับประทานผลเบอร์รีแช่แข็งที่นำเข้าจากจีน

    บริษัท แพตตีส์ ฟูดส์ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าได้แถลงขออภัยวันนี้ (17 ก.พ.) พร้อมประกาศเรียกคืนผลิตภัณฑ์ 4 ชนิด รวมถึงมิกซ์เบอร์รียี่ห้อครีเอทีฟ กูร์เมต์ (Creative Gourmet) และราสป์เบอร์รียี่ห้อนานนาส์ (Nanna’s) หลังจากพบผู้บริโภคล้มป่วยในรัฐวิกตอเรีย ควีนส์แลนด์ และนิวเซาท์เวลส์

    ผลไม้แช่แข็งซึ่งแบ่งบรรจุในจีนเหล่านี้ถูกกระจายออกไปจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำทั่วออสเตรเลีย

    ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อตับอักเสบเอทุกรายล้วนเกิดจากการรับประทานผลเบอร์รีแช่แข็งยี่ห้อนานนาส์ ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ถูกเรียกคืนเพียงเพื่อป้องกันความเสี่ยง

    โรสแมรี เลสเตอร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรียซึ่งเป็นรัฐที่พบผู้ป่วย 3 ราย ระบุว่า “การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอพบได้ไม่บ่อยนัก และผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะเคยเดินทางไปยังประเทศที่ไวรัสแพร่ระบาดอยู่... อย่างไรก็ตาม จุดเชื่อมโยงระหว่างกรณีการติดเชื้อครั้งนี้มีเพียงผลิตภัณฑ์เบอร์รีแช่แข็ง ไม่ได้เกิดจากการเดินทางไปต่างประเทศ หรือรับประทานอาหารจากภัตตาคารที่มีการปนเปื้อน”

    ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ไวรัสในผลเบอร์รีอาจมีต้นตอมาจากสุขอนามัยที่ไม่ดีของแรงงานชาวจีน หรือไม่ก็ปนเปื้อนมากับน้ำประปาในจีน

    “ในสถานการณ์เช่นนี้ ต้นเหตุน่าจะอยู่ที่ความสะอาดของแหล่งผลิตสินค้า” เอ็นโซ ปาลอมโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสวินเบิร์นกล่าว

    “ไวรัสตับอักเสบเอจะติดต่อผ่านเส้นทางที่เรียกว่า ‘อุจจาระ-ช่องปาก’ ไวรัสจะปนเปื้อนมากับอุจจาระของผู้ป่วย จากนั้นจึงแพร่กระจายต่อไปในอาหารหรือน้ำ... อาจเป็นเพราะคนงานจีนไม่ได้ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสผลเบอร์รี หรือมาจากน้ำประปาที่ใช้ล้างผลเบอร์รีก็เป็นได้”

    ไวรัสตับอักเสบเอจะส่งผลทำลายตับ ทำให้มีอาการปวดในช่องท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และดีซ่าน เชื้อมีระยะเวลาฟักตัวนานสุด 50 วัน

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข้อตกลงหยุดยิง “ยูเครน” ทำท่าร่อแร่ กบฏ-รบ.ยังทำศึกชิงศูนย์คมนาคม
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2558 21:35 น. (แก้ไขล่าสุด 17 กุมภาพันธ์ 2558 12:04 น.)

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/PwlXg6xbBTY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนทำท่าว่าจะถูกฉีกทิ้งในวันจันทร์ (16 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการบังคับใช้ เมื่อทั้งรัฐบาลกรุงเคียฟและฝ่ายกบฏโปรรัสเซียต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าไม่ได้ยุติการสู้รบจริง และดังนั้นต่างจะยังไม่ยอมถอนอาวุธหนักออกมาจากแนวรบตามที่ได้ให้สัญญาไว้

    “ในขณะนี้อย่ามาตั้งคำถามว่าเราจะถอนอาวุธหนักออกมาหรือไม่” ในเมื่อพวกกบฎยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง วลาดืย์สลาฟ เซเลซนิออฟ โฆษกของกองทัพรัฐบาลยูเครนบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี

    ขณะที่ เอดูอาร์ด บาซูรน ผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกกระทรวงกลาโหมของฝ่ายกบฎในจังหวัดโดเนตสก์ซึ่งประกาศตนเป็นสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ ก็บอกกับสำนักข่าวของฝ่ายกบฎว่า “การถอนอาวุธยุทโธปกรณ์จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่ออยู่ในเงื่อนไขอันชัดเจนแน่นอนหลายๆ ประการ โดยที่เงื่อนไขข้อหนึ่งก็คือจะต้องมีการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์”

    ภายใต้แผนการสันติภาพที่ตกลงกันในสัปดาห์ที่แล้วโดยมีเยอรมนีกับฝรั่งเศสเป็นคนกลางนั้น หลังจากกองทัพยูเครนและฝ่ายกบฎหยุดยิงกัน “อย่างรอบด้าน” เป็นเวลา 2 วันแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะต้องถอนอาวุธหนักอย่างเช่นปืนใหญ่และระบบจรวดให้ห่างจากแนวรบ เพื่อให้เกิดพื้นที่กันชนระหว่างกองกำลังของทั้งสองฝ่าย โดยการถอนอาวุธดังกล่าวให้เริ่มต้นตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 05.00 น.วันอังคาร เวลาเมืองไทย)

    ต่อจากนั้น ขั้นตอนอื่นๆ เป็นต้นว่า การแลกเปลี่ยนเชลยศึก และการเจรจากันเพื่อเพิ่มอำนาจปกครองตนเองให้แก่พื้นที่ซึ่งอยู่ในความควบคุมของฝ่ายกบฏ จึงจะติดตามมา

    อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าละเมิดการหยุดยิง โดยที่ ปัฟโล คลิมคิน รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวระหว่างไปเยือนบัลแกเรียในวันจันทร์ว่า “กองทัพยูเครนปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ทว่าโชคร้ายเหลือเกินสิ่งที่เราได้รับการตอบสนองก็คือ … มีการโจมตีจากพวกก่อการร้ายในโดเนตสก์และลูฮันสก์ถึง 112 ครั้งในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา”

    จุดสำคัญที่สุดซึ่งยังมีการสู้รบกันอย่างดุเดือด ได้แก่เมืองเดบัลต์เซเบ ซึ่งเป็นศูนย์คมนาคมทางรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างโดเนตสก์ กับ ลูฮันสก์

    [​IMG]
    ---
    @สมาชิกกองกำลังฝ่ายกบฎยูเครนตะวันออก ออกมาเก็บรวบรวมชิ้นส่วนของรถถังกองทัพยูเครนที่ถูกทำลายเสียหาย ที่ตำบลวูห์เลฮีร์สก์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเดบัลต์เซเบ ไปทางตะวันตกราว 10ก.ม. เมื่อวันจันทร์ (16) มีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายยังคงสู้รบกันเพื่อชิงเดบัลต์เซเบ ถึงแม้ข้อตกลงหยุดยิงบังคับใช้มาเป็นวันที่สองแล้ว
    ---
    นักข่าวกับช่างภาพของเอเอฟพี และคณะตรวจสอบขององค์การความมั่นคงและความมั่นคงในยุโรป (โอเอสซีอี) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เดบัลต์เซเบ ต่างรายงานว่าบริเวณนั้นมีการยิงต่อสู้กัน พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในเมืองนี้ได้ เพราะการรบยังคงดุเดือดระหว่างทหารรัฐบาลหลายพันคนซึ่งอยู่ในเมือง กับพวกกบฏที่ปิดล้อมเมืองเอาไว้เกือบรอบแล้ว

    นาตาเลีย คาราบูตา เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งของเทศบาลซึ่งหลบหนีออกมาจากเดบัลต์เซเบระบุว่า ภายในเมืองยังมีพลเรือนราว 5,000 คนติดอยู่ โดยที่แทบไม่มีอาหารและน้ำแล้ว

    เธอเล่าว่า ขณะที่ในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันแรกของการหยุดยิง สถานการณ์สงบเงียบ แต่พอถึงวันจันทร์ การสู้รบก็ปะทุขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยมีเสียงปืนเสียงระเบิดดังก้องไม่ขาดสาย

    ทางฝ่ายกบฏก็แถลงกล่าวหากองทหารยูเครนว่า ได้ยิงเข้าใส่สนามบินเมืองโดเนตสก์ ในขณะที่พวกเขากำลังพานักหนังสือพิมพ์ชมรอบบริเวณ แต่ไม่มีรายงานการบาดเจ็บล้มตายใดๆ

    นอกจากนั้น ฝ่ายรัฐบาลเคียฟแถลงว่า ตั้งแต่การหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับ มีทหารของตนถูกสังหารไป 5 คนและบาดเจ็บอีก 25 คนในเมืองชืย์โรคิน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองมาริวโพล อันเป็นเมืองท่าสำคัญที่ยังอยู่ในมือฝ่ายรัฐบาล

    ขณะที่ความตึงเครียดในพื้นที่สมรภูมิสู้รบเพิ่มสูงขึ้นเช่นนี้ ทางด้านสหภาพยุโรป (อียู) ก็ได้เปิดการรุกในแนวรบทางการทูต โดยประกาศเพิ่มชื่อรัฐมนตรีช่วยกลาโหมของรัสเซีย 2 คน ได้แก่ อนาโตลี อันโตนอฟ กับ อาร์คาดี บาคิน เข้าอยู่ในบัญชีดำรายชื่อผู้ที่จะถูกห้ามเดินทางเข้าอียูรวมทั้งถูกอายัดทรัพย์สินซึ่งมีอยู่ในสหภาพยุโรป โดยบุคคลทั้ง 2 ถูกอียูกล่าวหาว่ามีส่วนรับผิดชอบในการส่งทหารและยุทธสัมภาระของรัสเซียเข้าไปสนับสนุนพวกกบฎยูเครนตะวันออก

    นอกจากนั้น ผู้ที่ถูกใส่ชื่อในบัญชีดำเพิ่มขึ้นใหม่นี้ยังประกอบด้วย สมาชิกรัฐสภารัสเซีย 2 คน และชาวยูเครน 14 คนซึ่งถูกกล่าวหาว่าทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือฝ่ายการเมืองของพวกกบฎ ตลอดจนหน่วยงานอีก 9 หน่วยงาน โดยที่มาตรการลงโทษคราวนี้ทางอียูได้ตกลงเห็นชอบกันตั้งแต่เดือนที่แล้ว ทว่ายังไม่ประกาศออกมาขณะที่เยอรมนีกับฝรั่งเศสพยายามหาทางให้เกิดการหยุดยิงในยูเครน

    ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ออกคำแถลงประณามความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของอียูว่า “ทำสิ่งที่ขัดกันเองและไม่มีเหตุผล” พร้อมกับบอกว่าจะทำการตอบโต้อย่างสมน้ำสมเนื้อ


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจรจาหนี้กรีซล่มไม่เป็นท่า! ยุโรปขีดเส้นตายเอเธนส์ขยายโปรแกรมกู้ยืม
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2558 05:38 น. (แก้ไขล่าสุด 17 กุมภาพันธ์ 2558 12:16 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เหล่าคณะรัฐมนตรียูโรโซนวันจันทร์ (16 ก.พ.) ขีดเส้นตายให้กรีซยื่นข้อร้องขอขยายโครงการกู้ยืม หลังการเจรจาอันเคร่งเครียดแก้วิกฤตหนี้พังครืนลง เมื่อเอเธนส์บอกว่าข้อเสนอให้ขยายรับเงินช่วยเหลือนานาชาติออกไปอีก 6 เดือน “เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” เหตุเผชิญหน้าที่เสี่ยงผลักให้กรีซโบกมือลายูโรโซน

    อย่างไรก็ตาม แม้เผชิญหน้ากันอย่างเผ็ดร้อน แต่นายยานิส วารูฟาคิส รัฐมนตรีคลังกรีซ ยังเชื่อว่าสองฝ่ายที่เห็นต่างๆ จะบรรลุข้อตกลงกู้ยืมฉบับใหม่ภายในอีก 2 วันข้างหน้านี้ ด้วยมีความเป็นไปได้ที่จะมีการนัดประชุมชี้ชะตาอีกรอบในวันศุกร์นี้ (20 ก.พ.) “ผมไม่สงสัยเลยว่าจะบรรลข้อตกลงได้ในท้ายที่สุด” เขากล่าวหลังจากการหารือสิ้นสุดแล้วทั้งที่เพิ่งพูดคุยกันไม่กี่ชั่วโมง

    กระนั้นนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป บอกว่า กรีซมีเวลาแค่ภายในสัปดาห์นี้ในการยื่นคำร้องขอขยายโปรแกรมช่วยเหลือ ที่จะหมดอายุลงในช่วงสิ้นเดือนนี้ ท้าทายเอเธนส์ให้ยอมผ่อนปรนจุดยืนที่แข็งกร้าวของตนเอง

    แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลกรีซปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้ยึดมั่นข้อตกลงกู้ยืมปัจจุบัน โดยบอกว่ามันไร้สาระและกล่าวหาดิจเซลโบลม ยัดไส้ข้อเสนอนาทีสุดท้ายที่ตัวเขาเองก็รู้ดีว่าทางการเอเธนส์จะปฏิเสธ “คำยืนกรานของคนบางคนที่เรียกร้องให้รัฐบาลใหม่กรีซปฏิบัติตามข้อตกลงกู้ยืมเป็นเรื่องไร้สาระและไม่สามารถยอมรับได้”

    รัฐบาลซ้ายจัดของนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส พยายามให้ได้รับการยินยอมลบล้างเงื่อนไขต่างๆ ในข้อตกลงกู้ยืมเงิน 240,000 ล้านยูโร ซึ่งพวกเขาบอกว่ามันก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจกรีซหลังบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดมานานหลายปี แต่คู่หู 18 ชาติพันธมิตรยูโรโซน ซึ่งนำโดยเยอรมนี ยืนกรานว่าการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขรัดเข็มขัดใดๆ ต้องกระทำภายในโปรแกรมในปัจจุบัน

    ซีปราส ก้าวขึ้นสู่อำนาจเมื่อเดือนที่แล้ว จากคำสัญญาระหว่างหาเสียงเลือกตั้งว่าจะฉีกข้อตกลงกู้ยืม แต่จะยังคงเป็นหนึ่งใน 19 สมาชิกชิกยูโรโซนต่อไป ซึ่งเพื่อให้เป็นไปตามคำมั่นดังกล่าว เขาต้องการให้ยูโรโซนละทิ้งข้อตกลงที่มีอยู่ในปัจจุบันและตอบตกลงให้เงินกู้ระยะสั้นเพื่อซื้อเวลาสำหรับบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่ ที่ผนวกเงื่อนไขรัดเข็มขัดเบาบางกว่าเดิม “ผมไม่มีข้อสงสัยเลยว่าในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า ยุโรปจะร่วมมือกันเพื่อให้เราสามารถทำงานอย่างแท้จริง (ในการเดินหน้าโปรแกรมใหม่” วารูฟาคิสกล่าว

    อย่างไรก็ตาม พันธมิตรอียูของกรีซ โมโหของเอเธนส์อาจเบี้ยวคำสัญญา และเรียกร้องให้ขยายโปรแกรมรับความช่วยเหลือที่มีอยู่ในปัจจุบัน แล้วจากนั้นค่อยมาพูดคุยกันเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาในอนาคต “ถ้าเจ้าหน้าที่กรีซต้องการเลือกเส้นทางนั้น การประชุมที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ (20 ก.พ.) จะเป็นการยืนยันการตัดสินใจของพวกเขา” สเปนกล่าว

    ด้าน ปิแอร์ มอสโควิชี คณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจแห่งยูโร ก็เรียกร้องให้กรีซ กัดฟันทน ยอมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “มันสำคัญยิ่งที่รัฐบาลกรีซต้องขอขยายโปรแกรมช่วยเหลือ ในนั้นรวมถึงพื้นฐานทางกฎหมายที่จะช่วยให้เราสามารถทำงานได้”

    ทว่า นายปานอส กัมเมนอส หัวหน้าพรรคอินดิเพนเดนท์กรีก ในรัฐบาลผสมของนายซีปราส ย้ำที่เอเธนส์ว่า ประเทศของเขาจะไม่ร้องขอขยายการกู้ยืม “เราจะไม่ร้องขอขยายรับความช่วยเหลือใดๆ เรามีอาณัติจากประชาชนว่าให้เดินหน้ายกเลิก ชาวกรีซร่วมใจกันพูดว่าไม่ เราจะไม่หักหลังพวกเขา”

    เมื่อครั้งเจอวิกฤตหนี้ครั้งเลวร้ายในปี 2011-2012 มีความเป็นไปได้ที่กรีซอาจไม่เหลือเงินสดในมือ จุดชนวนความตื่นตระหนกไปทั่วตลาดต่างๆ ทั่วโลก และเหตุทางตันในวันจันทร์ (16 ก.พ.) ก็กระพือความกังวลขึ้นมาอีกรอบว่ากรีซอาจหมดเงินสดภายในไม่กี่สัปดาห์

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    อินเดียอาจจะเปลี่ยนใจไม่สั่งซื้อเครื่องบินรบ Rafale fighter jets ของฝรั่งเศสแล้วหันมาซื้อ Sukhoi Su-30 ของรัสเซียแทน
    ---------------
    การเจรจามาราธอนเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายเครื่องบินรบรุ่น Rafale fighter jets ระหว่างอินเดียกับฝรั่งเศสที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีดูเหมือนว่าใกล้จะได้ข้อยุติแล้ว เนื่องจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วรัฐบาลอินเดียมีนโยบายเพิ่มศักยภาพให้กับกองทัพอากาศของตนเองจึงเปิดประมูลซื้อเครื่องบินรบจากประเทศต่างๆ ดูเหมือนว่ารัฐบาลอินเดียในสมัยนั้นจะชอบใจเครื่องบินรบของฝรั่งเศสเป็นพิเศษมากกว่าของรัสเซียที่เคยซื้อมาตลอด แต่การเจรจาต่อรองเรื่องราคาและเงื่อนไขต่างๆก็มีปัญหามาตลอด ล่าสุดทางฝรั่งเศสบอกราคามาว่า $20 billion (ประมาณ 6.5 แสนล้านบาท) จนป่านนี้ทางอินเดียก็ยังไม่ตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องบินรบของฝรั่งเศสซะที เพราะอยากได้ราคาที่ถูกกว่านี้ ซึ่งทางฝรั่งเศสก็ไม่ยอม ตอนนั้น (2012) ทางรัสเซียเสนอขาย MiG-35 แข่งกับ Rafale fighter jets ของฝรั่งเศส ให้กับอินเดียแต่ก็แพ้ฝรั่งเศส
    ล่าสุดมีข่าวออกมาว่าทางอินเดียอาจจะยกเลิกการสั่งซื่อเครื่องบินรบของฝรั่งเศสก็ได้ งานนี้ทำให้ทางรัสเซียเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง โดยทางอินเดียเริ่มจะหันมาให้ความสนใจเครื่องบินรบของรัสเซียรุ่น SU-30 แทน อันที่จริงอินเดียก็มี MiG-21 สมัยโซเวียตอยู่แล้วแต่เนื่องจากใช้งานมานานจึงจำเป็นต้องปลดประจำการโดยจะหาเครื่องบินรบรุ่นใหม่เข้ามาประจำการแทนประมาณ 126 ลำ
    จริงๆ แล้วอินเดียกับรัสเซียได้มีโครงการพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นใหม่ล่าสุดร่วมกันอยู่แล้วคือรุ่น Sukhoi T-50 (ซุคฮอย T-50) ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งกับ F-35 ของสหรัฐฯและ J-20 ของจีนก็ว่าได้ แต่เนื่องจาก Sukhoi T-50 ยังไม่ผ่านมาตรฐานการผลิตเชิงพาณิชย์และอาจจะมีราคาแพงเกินไปทางอินเดียจึงไม่ตัดสินใจสั่งซื่อรุ่น Sukhoi T-50 จากรัสเซีย แต่ทางรัสเซียบอกว่าจะส่ง Sukhoi T-50 เข้าประจำการในกองทัพอากาศภายในปีนี้
    ฝ่ายอเมริกาก็อยากจะขายเครื่องบินรบรุ่น F/A-18 Super Hornet และรุ่น F-16 Falcon ให้กับอินเดียเช่นกัน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้จึงเห็นนายโอบามาเดินทางไปกินโรตีถึงประเทศอินเดียเลยทีเดียว แต่ทางรัฐบาลอินเดียก็ยังไม่ตกปากรับคำในเรื่องนี้ สาเหตุก็เนื่องจากอินเดียมีข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องชายแดนกับปากีสถานที่เป็นพันธมิตรของอเมริกาอยู่นั่นเอง ถ้าเกิดว่าอินเดียใช้เครื่องบินรบสัญชาติอเมริกาไปต่อสู้กับปากีสถานขึ้นมาก็อาจจะทำให้ทางอเมริกาไม่พอใจเอาก็ได้ และอาจจะกดรีโมทสั่งให้เครื่องบินรบที่อินเดียซื้อมาจากอเมริกาไม่สามารถใช้งานได้ก็ได้ นี่คือความกังวลของอินเดียที่มีต่อสหรัฐฯเกี่ยวกับกรณีนี้
    ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่อินเดียกำลังจะยกเลิกการสั่งซื้อเครื่องบินรบจากฝรั่งเศสนั้นก็คืออินเดียได้เห็นตัวอย่างจากกรณีที่การสั่งซื้อเรือรบสำหรับบรรทุกเครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์ Mistral ของรัสเซียจากฝรั่งเศสแล้ว ซึ่งทางรัสเซียได้สั่งซื้อเรือ Mistral จากฝรั่งเศสจำนวน 2 ลำและจ่ายเงินไปให้หมดแล้ว แต่จนป่านนี้ทางรัสเซียก็ยังไม่ได้รับเรือ Mistral จากฝรั่งเศสซักลำเลย ซึ่ง 1 ในสองลำนั้นสร้างเสร็จแล้วแต่ทางฝรั่งเศสอ้างว่าติดปัญหาเรื่องวิกฤตยูเครนจึงยังไม่ส่งมอบเรือ Mistral ให้กับทางรัสเซีย อินเดียก็มองว่าถ้าเกิดว่าในอนาคตชาติพันธมิตรของฝรั่งเศสมีปัญหาทะเลาะกับอินเดียขึ้นมาแล้วฝรั่งเศสมันเบี้ยวไม่ยอมส่งมอบเครื่องบินรบให้อินเดียจะทำอย่างไรหละนี่
    อีกตัวอย่างหนึ่งก็เคยประจักษ์ให้เห็นมาแล้วในสมัยสงครามอีรัคซึ่งซัดดัมได้ซื้อเครื่องบินรบของฝรั่งเศสมาไว้ใช้งาน แต่พอถึงเวลาจะใช้งานในศึกสงครามจริงๆ ที่จะต้องต่อสู้กับกองทัพอเมริกาและพันธมิตรกลับกลายเป็นว่าเครื่องบินรบของอีรัคสัญชาติฝรั่งเศสกลับใช้งานไม่ได้เอาดื้อๆซะอย่างนั้น ขืนเป็นอย่างสองกรณีที่ว่ามานี้มีหวังกองทัพอากาศของอินเดียเสร็จข้าศึกแน่ๆ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าทางอินเดียจะหันมาสั่งซื้อ SU-30 ของรัสเซียแทน Rafale fighter jets ของฝรั่งเศส เพราะอย่างน้อยก็พิสูจน์แล้วว่าทางอินเดียกับรัสเซียต่างก็มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในหลายๆด้านมาโดยตลอด
    ยิ่งกว่านั้นเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับอินเดียในการตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องบินรบของรัสเซียให้เร็วขึ้น ทางรัสเซียก็มีปฏิบัติการซ้อมรบทางอากาศ ด้วยเครื่องบินรบรุ่น Su-34, MiG-29SMT, MiG-31BM และ various Su-27 โชว์ซะเลย อีกนัยหนึ่งก็เพื่อแสดงให้ชาติอียูและนาโต้ได้เห็นถึงศักยภาพทางกองทัพอากาศของรัสเซียไปในตัวด้วย ในการที่อียูกำลังจะตัดสินใจแซงชั่นรัสเซียรอบใหม่ รวมทั้งปฏิบัติการซ้อมรบภาคพื้นดินจากฐานทัพไม่ต่ำกว่า 30 แห่งทั่วรัสเซียด้วย งานนี้ทางอียูจึงทำได้แค่เพิ่มรายชื่อนักการเมืองและระดับหัวหน้ากลุ่มกบฎนิยมรัสเซียในยูเครนตะวันออกเข้าในแบล็คลิสต์เท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการกดดันรัสเซียและกลุ่มกบฎแบ่งนิยมรัสเซียให้หยุดยิงนั่นเอง แต่ที่น่าแปลกก็คือไม่มีมาตรการใดๆ กดดันฝั่งยูเครนออกมาจากอียูเกี่ยวกับการหยุดยิงนี้เลย
    The Eyes
    ---------------
    17/08/2558
    http://www.themoscowtimes.com/…/russia-angles-t…/516023.html
    http://rt.com/news/232739-india-denied-rafale-contract/
    http://rt.com/news/222131-rafale-deal-under-question/
    India Scraps Rafale Fighter Deal With France, Eyes Russian Alternative / Sputnik International
    Russia Ready to Supply Su-30 Fighters to India if French Rafales Deal Folds / Sputnik International
    France Must Deliver Mistral to Russia – French Ex-Foreign Minister / Sputnik International
    Su-34s, MiGs Begin Combat Exercises Over European Russia, Lake Ladoga / Sputnik International
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    กลุ่มติดอาวุธ DPR นิยมรัสเซียจับเชลยศึกยูเครนเพิ่มได้อีกที่หมู่บ้าน chernukhino ในเขต Debaltseve
    ---------------
    แม้ว่าจะมีการตกลงหยุดยิงกันแล้ว แต่สถานการณ์การสู้รบในพื้นที่เมือง Debaltseve (โดเนทส์ก) ก็ยังฟัดกันไม่ลืมหูลืมตา แต่ดูเหมือนว่าใกล้จะจบลงแล้ว เพราะฝ่ายติดอาวุธนิยมรัสเซียสามารถล้อมกรอบทหารยูเครนมาได้เป็นอาทิตย์แล้ว และสถานการณ์ของทหารยูเครนที่ติดอยู่ในวงล้อมของกลุ่มกบฎตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด เพราะฝ่ายที่ล้อมไว้ระดมยิงจรวดและลูกปืนใหญ่ถล่มเข้าสู่ตรงกลางที่ทหารยูเครนติดอยู่จากทุกทิศทาง และรุกคืบประชิดเข้าไปได้เรื่อยๆ ฝ่ายทหารยูเครนมีสองทางให้เลือกคือสู้ตายหรือยอมแพ้
    ล่าสุดฝั่ง DPR รายงานว่าสามารถยึดรถถังของทหารยูเครนเหล่านั้นได้เพิ่มขึ้นอีก และสามารถจับตัวทหารยูเครนมาเป็นเชลยศึกเพิ่มอีกด้วยที่หมู่บ้าน chernukhino ในเขต Debaltseve โดยหัวหน้ากลุ่ม DPR พร้อมด้วยนักข่าวท้องถิ่นได้ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์เชลยศึกเหล่านั้นด้วยตัวเองว่าทำไมถึงยังไม่หยุดยิง ทหารยูเครนที่ถูกจับได้ตอบว่าไม่เคยได้รับคำสั่งให้หยุดยิงจากใครเลย จึงสู้ยิบตาเพื่อเอาตัวรอด อ้าว! แสดงว่าการติดต่อสื่อสารระหว่างทหารยูเครนมีปัญหานะสินี่ ขนาดประธานาธิบดีของยูเครนออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์แล้วนะ และหน่วยเหนือก็มีคำสั่งว่าให้หยุดยิงได้แล้วแต่ทำทหารกลุ่มนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งอยู่ ก็จะได้รับคำสั่งได้อย่างไรเล่า ก็โดนล้อมกรอบไว้ซะขนาดนั้น หรือไม่จะไม่มีอุปกรณ์ในการสื่อสารก็ได้
    ทาง DPR บอกว่าไม่รู้หละ ถ้ายังไม่ยอมจำนนก็จะโดนถล่มเละแน่ๆ ก่อนหน้านี้กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียได้ประกาศให้ชาวบ้านที่ยังติดอยู่ในเขตสู้รบในเมือง Debaltseve ให้อพยพออกจากพื้นที่ไปเรียบร้อยแล้ว โดยทางกองกำลัง DPR ได้ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในการอพยพไปยังที่ปลอดภัยด้วย
    The Eyes
    ---------------
    17/08/2558
    https://www.youtube.com/watch?v=FpJYzfxigs8
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ‘โอบามา’ เงิบ! ศาลรบ.กลาง สั่ง ‘เบรก’ ชั่วคราวแผนคุ้มครองคนเข้าเมืองผิด ก.ม.
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.พ. 2558 16:38

    [​IMG]

    รัฐบาลประธานาธิบดีโอบามา หงายเก๋ง...ศาลรัฐบาลกลาง ในรัฐเทกซัส มีคำสั่ง ‘เบรก’ ชั่วคราวแผนคุ้มครองคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย หลังถูกต่อต้านอย่างหนักจากพรรคฝ่ายค้าน รีพับลิกัน ไม่พอใจดำเนินการที่จะแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองเพียงฝ่ายเดียว

    สื่อต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ว่า ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในเมืองบราวส์วิลล์ รัฐเทกซัส มีคำสั่งระงับแผนของรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ที่เสนอให้มีการคุ้มครองคนเข้าเมืองผิดกฎหมายหลายล้านคน ไม่ต้องถูกเนรเทศกลับบ้านเกิด

    ข่าวแจ้งว่า ผู้พิพากษา แอนดรูว์ เอส.เฮเนน แห่งศาลรัฐบาลกลางในเมืองบราว์สวิลล์ รัฐเทกซัส ได้มีคำสั่ง ระงับแผนดังกล่าวของรัฐบาลประธานาธิบดีโอบามา และได้มีการนำมาโพสต์ลงในเว็บไซต์ของสื่อท้องถิ่นในสหรัฐฯเมื่อคืนวันที่ 16 ก.พ. (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังจากทางการรัฐเทกซัส รวมทั้งคณะอัยการรัฐเทกซัสและผู้ว่าการรัฐต่างๆ สังกัดพรรครีพับลิกัน อีก 25 คนได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง

    อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายรัฐบาลโอบามายังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ในเรื่องนี้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ มีกำหนดจะเปิดรับคำร้องของคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อขอรับการคุ้มครองภายใต้โครงการดังกล่าวของรัฐบาลโอบามาในวันพุธที่ 18 ก.พ.นี้

    ทั้งนี้ โครงการคุ้มครองคนเข้าเมืองผิดกฎหมายของรัฐบาลโอบามา ที่จะอนุญาตให้คนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ราว 4.4 ล้านคน ซึ่งมีบุตรเป็นพลเมืองอเมริกัน หรือมีบุตรที่ได้รับสิทธิพำนักถาวรในสหรัฐฯ สามารถจะพำนักอยู่ในสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราวต่อไปนั้น ได้ถูกขัดขวางจากสมาชิกสภาของพรรครีพับลิกัน อย่างรุนแรง เนื่องจากเห็นว่าการออกมาประกาศ ‘ยกเครื่อง’ กฎหมายระบบคนเข้าเมืองครั้งใหญ่ดังกล่าวของประธานาธิบดีโอบามา เมื่อเดือน พ.ย.57 เป็นการใช้อำนาจนอกเหนืออำนาจของประธานาธิบดีตามที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานาธิบดีโอบามายังดำเนินการเรื่องนี้แต่เพียงฝ่ายเดียว ที่จะต้องการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง

    ‘โอบามา’ เงิบ! ศาลรบ.กลาง สั่ง ‘เบรก’ ชั่วคราวแผนคุ้มครองคนเข้าเมืองผิด ก.ม. - ข่าวไทยรัฐออน
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เร่งเอาผิด!! ลากเรือน้ำมันเข้าฝั่ง ทำอ่าวประจวบฯเสียหายหนัก
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.พ. 2558 21:02

    [​IMG]

    ประมงประจวบฯ ร้อง งุบงิบลากเรือน้ำมันเฮนรี่เข้าฝั่งกลางดึก ทำลายแนวปะการังเทียม เครื่องมือประมงพื้นบ้าน คราบน้ำมันลอยหน้าหาด รองปลัด ทส. แนะชาวบ้านแจ้งความเอาผิด พร้อมส่ง ร.ล.นราธิวาส ตรวจสอบ ลั่นเร่งกู้ซาก หวั่นปัญหาบานปลาย

    จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ "เฮนรี่" จมหน้าอ่าวประจวบ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากฝั่ง 18 ไมล์ทะเล เมื่อเย็นวันที่ 15 ก.พ. และมีการลากเข้าหาฝั่ง ห่างจากหน้าหาดเพียง 1 ไมล์ทะเลโดยพลการ เมื่อคืนที่ผ่านมา จนทำให้เกิดคราบน้ำมันไหลเป็นแนวยาว ส่งกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรงที่บริเวณหน้าหาด ที่สำคัญระหว่างเส้นทางน้ำ ซากเรือได้ทำลายแนวปะการังเทียม และอุปกรณ์หาปลาของเรือประมงพื้นบ้านจำนวนมาก ก่อนถูกลากไปไว้กลางทะเล ห่างจากฝั่ง 3 ไมล์ทะเล เพื่อเลี่ยงการต่อต้านจากชาวบ้านนั้น

    วันที่ 17 ก.พ. นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยว่า หลังจากร่วมประชุมกับทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พลังงานจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนชาวประมงอ่าวคั่นกระได เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้ข้อสรุปว่า เบื้องต้นได้ประสานงานไปยัง น.ท.พิพัฒน์ การจันดา ผู้บังคับการเรือรบหลวงนราธิวาส ให้ช่วยระงับเรืออวนลากทั้ง 3 ลำ ห้ามไม่ให้เคลื่อนย้ายเรือน้ำมันเฮนรี่ เพื่อรอการตรวจสอบผลกระทบจากการลากเข้าฝั่ง รวมถึงคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ในทะเล จากนั้นต้องเร่งกู้เรือขึ้นโดยเร็ว เพื่อป้องกันผลกระทบในระยะยาว

    "การเคลื่อนย้ายเรือน้ำมันเฮนรี่โดยพลการ ถือเป็นการทำผิดกฎหมาย ฉะนั้น ขอให้ชาวประมงพื้นบ้านทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ เครื่องมือทำมาหากินเสียหายจากการลากจูงเรือเข้าฝั่ง เข้าแจ้งความที่ สภ.อ่าวน้อย เพื่อดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหายกับเจ้าของเรือต่อไป" รองปลัด ทส. ระบุ

    ด้านนายจิรศักดิ์ มีฤทธิ์ ชาวประมงพื้นบ้านคั่นกระได กล่าวว่า เครื่องมือประมงของชาวบ้านจำนวนมากได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่านับแสนบาท หลายคนกังวลว่าเจ้าของเรือจะไม่รับผิดชอบ เพราะจากการพูดคุยกับเรืออวนลาก ที่เข้ามาดำเนินการลากเรือน้ำมันเฮนรี่เข้าฝั่ง ได้พูดจาบ่ายเบี่ยงปัดความรับผิดชอบ ทั้งนี้ ชาวบ้านได้รวมกลุ่มกันเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว

    "สิ่งที่ชาวบ้านกังวลมากที่สุด คือ ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม จากกรณีน้ำมันดีเซลรั่วไหลลงสู่ทะเล ที่จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนน้ำมันที่รั่วไหลออกมาได้ว่า มีปริมาณเท่าไรกันแน่" นายจิรศักดิ์ กล่าว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือน้ำมันเฮนรี่ เป็นเรือที่จดทะเบียน โดยยื่นขออนุญาตจำหน่ายน้ำมัน ที่ความจุ 3.5 แสนลิตร ขนาดเรือยาว 22 เมตร น้ำหนัก 78.73 ตันกรอส เจ้าของเป็นคน จ.เพชรบุรี

    เร่งเอาผิด!! ลากเรือน้ำมันเข้าฝั่ง ทำอ่าวประจวบฯเสียหายหนัก - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คนอุบลฯ งงสภาพอากาศ! ทั้งฝนตก-หมอกหนา-ฟ้าหลัว
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.พ. 2558 16:20

    [​IMG]

    ชาวบ้านที่อุบลฯ ต้องผจญกับสภาพอากาศปลายฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน ที่มีหมอกลงทั้งเช้าและเย็น ฟ้าหลัวตลอดทั้งวัน แถมยังมีฝนฟ้าคะนองอีก อุตุฯ ชี้ เป็นเพราะมีความชื้นจากทะเลมาปะทะกับมวลอากาศร้อนในพื้นที่...

    เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ก.พ. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศในพื้นที่จ.อุบลราชธานี ในช่วง 2-3 วันมานี้ มีหมอกหนาในช่วงเช้าและเย็น ขณะที่ตอนกลางวันจะมีฟ้าหลัวตลอดทั้งวัน คล้ายกับมีหมอกควัน สร้างความแปลกใจให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

    จากการสอบถาม นางจงกลณี มาลีรัตน์ นักอุตุนิยมวิทยาปฏิบัติการ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ลักษณะสภาพอากาศดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มาปะทะกับมวลอากาศร้อนในพื้นที่ช่วงกลางวัน

    ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้าและตอนเย็น ทั้งยังเสี่ยงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

    ทั้งนี้ ขอฝากเตือนประชาชนที่ใช้ยานพาหนะบนท้องถนน โปรดใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ยวดยาน เพราะฟ้าหลัวอาจเป็นอุปสรรคต่อทัศนวิสัยในการมอง และโดยเฉพาะเกษตรกรที่กำลังจะเพาะปลูกพืชในช่วงนี้ ให้ชะลอการปลูกไปก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำฝนยังไม่เพียงพอ

    อีกทั้งเกษตรกรที่ตากข้าว หรือมันสำปะหลังในที่โล่ง ควรเตรียมความพร้อมเก็บผลผลิต เนื่องจากฝนมีโอกาสตกได้ตลอดทั้งวัน คาดว่าในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จะมีสภาพอากาศมีหมอกในตอนเช้าและเย็น ฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และฝนฟ้าคะนอง ไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์.

    คนอุบลฯ งงสภาพอากาศ! ทั้งฝนตก-หมอกหนา-ฟ้าหลัว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พายุหลงฤดู ถล่ม 'นครพนม' เสียหายหนัก บ้านพังกว่า 500 หลัง!
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.พ. 2558 17:38

    [​IMG]

    พ่อเมืองนครพนมลงพื้นที่ช่วยเหลือเร่งด่วน หลังพายุหนักสุดรอบ 50 ปี พัดถล่ม 4 ตำบล 2 อำเภอ พังยับ ยันชดเชยให้แน่รายละไม่เกิน 3.3 หมื่นบาท สุดรันทด ยายวัย 75 ปี อาศัยกับลูกพิการ บ้านปลิวไปกับพายุไร้ที่อยู่

    จากกรณี พายุหลงฤดูพัดถล่ม 2 อำเภอ หนักสุด 4 ตำบล ที่ จ.นครพนม จนฝ่ายปกครองต้องระดมเจ้าหน้าที่ทหาร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าสำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือเก็บกู้ซากบ้านเรือนที่หักพัง เพื่อบรรเทาทุกข์นั้น

    วันที่ 17 ก.พ. นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.นครพนม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ประเมินความเสียหายพบว่า ต.นาคำ ได้รับผลกระทบ 9 หมู่บ้าน จำนวน 100 ครัวเรือน วัด 2 แห่ง โรงเรียน 2 แห่ง บาดเจ็บ 5 ราย ต.ท่าบ่อสงคราม ได้รับผลกระทบ 6 หมู่บ้าน 23 ครัวเรือน ต.บ้านข่า ได้รับผลกระทบ จำนวน 5 หมู่บ้าน รวม 23 ครัวเรือน และ ต.ศรีสงคราม ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 หมู่บ้าน รวม 100 ครัวเรือน รวมพื้นที่ 4 ตำบล ได้รับผลกระทบรวม 405 ครัวเรือน นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่ รวมถึงเสาไฟฟ้าจำนวนมากหักโค่นที่ต้องเร่งซ่อมแซม นับเป็นภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรง และสร้างความเสียหายมากที่สุดในรอบ 50 ปี

    นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับครอบครัว นางสัมมา ไกยเทียม อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 5 บ้านนาคำ ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ที่อาศัยอยู่กับลูกชายพิการและไม่สมประกอบเพียง 2 คน ฐานะยากจน แต่ต้องมาถูกภัยธรรมชาติซ้ำเติมชีวิต บ้านเรือนพังเสียหายเกือบทั้งหมดจนไม่มีที่พักอาศัย ตนได้ประสานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องให้เข้าไปช่วยเหลือซ่อมแซมเร่งด่วน พร้อมมอบเงินเยียวยาเบื้องต้นแล้ว

    "ขณะนี้ จังหวัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือทุกด้าน โดยบ้านเรือนที่พังเสียหายจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละไม่เกิน 33,000 บาท และหากงบจากท้องถิ่นไม่เพียงพอ ทางจังหวัดจะจัดสรรงบประมาณเข้าไปสนับสนุนเพิ่มเติม ทั้งนี้ ฝากเตือนประชาชนในพื้นที่ ให้เฝ้าระวังพายุฝนที่จะเกิดขึ้นในช่วงนี้ หากพบว่ารุนแรง ขอให้รีบหลบเข้าที่ปลอดภัย และตรวจสอบซ่อมแซมบ้านเรือนก่อนพายุเกิด เพื่อป้องกันความเสียหาย" ผวจ.นครพนม ระบุ

    พายุหลงฤดู ถล่ม 'นครพนม' เสียหายหนัก บ้านพังกว่า 500 หลัง! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พายุถล่มขอนแก่น ฝาบ้านปลิวขึ้นหลังคา พังกว่า 200 หลัง!
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.พ. 2558 18:13

    [​IMG]

    ชาวบ้านที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ถูกหวยแจ็กพอต เจอพายุฤดูร้อนทั้งลมทั้งฝนพัดกระหน่ำตั้งแต่ต้นฤดู คนอายุ 60 ปี บอกเกิดมายังไม่เคยเจอพายุรุนแรงขนาดนี้ ขนาดฝาบ้านหลุดไปหล่นใส่หลังคาบ้านเพื่อนบ้าน เสียหายรวมกว่า 200 หลังคาเรือน...

    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ก.พ. 58 เจ้าหน้าที่ อบต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น พร้อมผู้นำชุมชนในพื้นที่ได้ออกสำรวจความเสียหาย จากภัยธรรมชาติพายุฤดูร้อน ที่มีทั้งฝนและลมแรงพัดกระหน่ำ เมื่อช่วงคืนวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา


    โดยนายเกรียงศักดิ์ น้อยมณี เจ้าหน้าที่ อบต.บ้านเหล่า กล่าวว่า คืนที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนกระหน่ำ ประมาณ 3 ชั่วโมง พัดบ้านเรือนราษฎรใน ต.บ้านเหล่า ได้รับความเสียหายหลายหมู่บ้าน รวมแล้วมีบ้านพังกว่า 200 หลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านแดงใหญ่ บ้านเรือนราษฎรถูกลมพัดพังไปจำนวน 100 หลัง บ้านหนองชาด 70 หลัง และบ้านเขื่อนอีก 50 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านบางหลังถูกลมพัดหอบเอาหลังคา และฝาบ้านหลุดไปทั้งแผง ปลิวไปตกใส่บ้านหลังอื่นพังไปด้วย

    "ที่บ้านเขื่อน เสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้หักลงมา ทำให้สายไฟไปพาดหลังคาบ้านได้รับความเสียหาย แล้วไฟฟ้าก็ดับสนิทหมดทั้งหมู่บ้าน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท" นายกรียงศักดิ์ กล่าว

    ขณะที่ นางอรุณ พรมสอน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/2 ชาวบ้านเขื่อน ต.บ้านเหล่า กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมา เพิ่งเคยเจอเหตุการณ์พายุพัดรุนแรงอย่างนี้ครั้งแรกในชีวิต มีทั้งเสียงฟ้าร้อง ลมแรง และฝนตกลงมาอย่างหนัก ประมาณ 3 ชั่วโมง ตนได้ยินเสียงดังโครมบนหลังคาบ้าน จนกระทั่งเช้าจึงรู้ว่าฝาบ้านของเพื่อนบ้านปลิวมาตกใส่หลังคาบ้านตัวเอง

    ส่วนนายทองลวน โคตรธนา อายุ 59 ปี ชาวบ้านแดงใหญ่ บอกว่า ก่อนเกิดพายุ เห็นท้องฟ้าเป็นสีแดงและมืด สลับกับมีลมพายุแรงมาก จึงบอกภรรยาให้รีบเก็บข้าวของ แต่ไม่นาน แรงลมได้พัดเอาเสาโครงบ้านที่กำลังจะก่อสร้างหักโค่นลงต่อหน้าต่อตา เสียหายไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท

    ด้าน พ.ต.อ.โผนชัย ครองยุทธ ผกก.สภ.บ้านฝาง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านฝาง รับแจ้งเหตุพายุพัดบ้านเรือนประชาชน จากศูนย์วิทยุ 191 ในช่วงเวลา 22.00 น. เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านแดงใหญ่ หมู่ 12 หมู่ 6 และหมู่ 14 พบบ้านถูกพายุพัดหลังคาปลิวไป 100 กว่าหลังคาเรือน มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไปโรงพยาบาลรักษาบาดแผลแล้วกลับบ้านได้ ไม่มีผู้เสียชีวิต เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ลงพื้นร่วมกับ ชรบ. และผู้นำชุมชน ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง.

    พายุถล่มขอนแก่น ฝาบ้านปลิวขึ้นหลังคา พังกว่า 200 หลัง! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...