ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวภัยพิบัติ
    04/05/20
    เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อ เกาะ ชวาตะวันตก ,อินโดนีเซีย.
    ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2020 ทำให้บ้านเรือน ปชช.จมน้ำ 21,888 แห่ง -ส่งผลกระทบต่อประชาชน 81,088 คน ,ในห้าตำบลของบันดุงตามรายงานการบรรเทาภัยพิบัติของชวาตะวันตก (BPBD)
    Image credit: BPBD
    New;

    #Java #Indonesia #Flood
    #Watchers

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #Dustdevil
    พายุฝุ่น ลมบ้าหมู ใกล้ Burning Man, แบล็คร็อค, เนวาดา, #US (01/04/2020)
    เครดิตโดย: Gary Sullivan

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Lightning Rising
    พายุไฟฟ้าที่รุนแรงเหนือ อิสตันบูล #ตุรกี (02/05/2020)
    CR:: Şimşek Videoları
    #Watchers

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #การปิดตัวของรูโหว่โอโซนบริเวณขั้วโลกเหนือ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการหยุดกิจกรรมของมนุษย์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่เกิดขึ้นเพราะกระแสลมวนอาร์กติก #PolarVortex
    ทีมนักวิทยาศาสตร์จากองค์กร Copernicus’ Atmospheric Monitoring Service (CAMS) ซึ่งทำหน้าที่ติดตามและตรวจสอบช่องโหว่ในชั้นโอโซนของของโลก ได้รายงานเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2020 ที่ผ่านมาว่า พบการปิดตัวของรูโหว่โอโซนบริเวณขั้วโลกเหนือ และได้ปิดตัวลงโดยสมบูรณ์ตลอดทั้งวงเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานข่าวว่า รูโหว่รูนี้ได้เพิ่มขนาดขึ้นอย่างน่ากังวล แต่อย่างไรก็ตามก็ถือได้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นผลดีต่อระบบภูมิอากาศของโลกอย่างมาก ทั้งในด้านทิศทางลมและการป้องกันรังสีรังสีอัลตราไวโอเล็ต (UV)
    แต่ที่น่าสนใจคือ CAMS ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รูโหว่ของโอโซนที่ปิดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการหยุดกิจกรรมของมนุษย์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้มลพิษทางอากาศลดลงแต่อย่างใด แต่เกิดขึ้นเพราะกระแสลมวนอาร์กติก (Polar Vortex) ที่มีพลังมากขึ้นจนประสานรูโหว่ให้ปิดสนิทต่างหาก
    และเราต้องไม่ลืมด้วยว่าการเกิดรูโหว่ของโอโซนตั้งแต่ในอดีตเกิดจากสารเคมีกลุ่มคลอรีนและโบรมีน ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะรู้จักกันในชื่อ CFCs (Chlorofluorocarbons) และมักจะถูกใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตโฟมและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ซึ่งเมื่อสารเหล่านี้ขึ้นไปอยู่ในชั้นสตราโทสเฟียร์จะก่อให้เกิดรูโหว่ในชั้นโอโซน และแม้ว่าประเทศชั้นนำทั่วโลกจะได้ร่วมลงนามงดการใช้และปลดปล่อยก๊าซ CFCs ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศในพิธีสารมอนทรีออลมาตั้งแต่ปี 1987 แต่ผลกระทบการเกิดรูโหว่ในชั้นโอโซนในแอนตาร์กติกก็ยังมีผลมาตลอดช่วง 35 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
    ดังนั้นแม้ว่าช่องโหว่ของชั้นโอโซนที่ใหญ่ที่สุดบริเวณขั้วโลกเหนือจะปิดตัวลงไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าช่องโหว่ของชั้นโอโซนทั้งหมดในโลกได้กลับมาอยู่ในภาวะปกติ เพราะโลกไม่ได้มีรูโหว่ของชั้นโอโซนแค่ช่องเดียวเท่านั้น และในปัจจุบันช่องโหว่ของชั้นโอโซนที่ทวีปแอนตาร์ติกหรือขั้วโลกใต้ แม้ว่าขนาดรูโหว่จะลดลงในรอบ 30 ปี แต่ก็ยังคงสภาพเปิดค้างอยู่ต่อไป ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์กันว่ารูโหว่ของโอโซนในบริเวณขั้วโลกใต้ นี้อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 30 ปี กว่าที่มันจะกลับสู่สภาพปิดสนิท
    เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หรือในช่วงที่ประเทศทั่วโลกสามารถรอดพ้นวิกฤติโควิด-19 และกลับมาดำเนินชีวิตได้ปรกติแล้วก็ตาม แต่เรายังจำเป็นต้องดำเนินชีวิตโดยลดกิจกรรมที่จะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และผลกระทบที่จะเกิดกับชั้นบรรยากาศต่อไปอีก เพราะผลกระทบที่มนุษย์ได้สร้างไว้ก่อนหน้านั้นมันยังคงส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อโลกใบนี้อยู่ และมีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อไปอีกหลายทศวรรษ

    Reference

    Vinijphat Kanyapong. (2020). ข่าวดีใหม่ล่าสุด! รูโหว่โอโซนที่ขั้วโลกเหนือปิดสนิทแล้วในรอบ 10 ปี. ข่าววิทยาการ. Beartai. Retrieved May 02, 2020 from https://www.beartai.com/news/covid-...yRffWROF4yh1gwC98DeEMOU#.XquHrhVrYug.facebook

    ที่มาของภาพประกอบ: Besthdwallpaper. Retrieved May 02, 2020 from https://www.besthdwallpaper.com/phuuekhaa/nature-khawolkehnuue--dt_th-10538.html

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #คาร์บอนในดินคืออะไร #SOC

    1.1 WHAT IS SOC ? : คาร์บอนในดินคืออะไร
    สารอินทรีย์ที่ตายแล้วจะถูกสัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ทำการย่อยสลาย และนำไปสู่กระบวนการดึงคาร์บอนลงสู่ดิน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการสะสมคาร์บอนในดิน โดยกระบวนการเปลี่ยนรูปสารอินทรีย์นี้ คือการเปลี่ยนแปลงทางเคมีชีวภาพที่ซับซ้อนของพืช ด้วยกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์ ซึ่งจะอยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ ของการสลายตัวของสารอินทรีย์ (Von Lützow et al., 2006; Paul, 2014) และเป็นข้อมูลสำคัญของการเชื่อมโยงเรื่องแร่ธาตุในดิน และการคงอยู่ของคาร์บอนในดิน หรือ SOC (Soil Organic Carbon) มานานหลายศตวรรษ หรืออาจเป็น 1,000 ปี (Schmidt et al., 2011)
    ทั้งนี้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จะถูกปล่อยกลับสู่ชั้นบรรยากาศเมื่อสารอินทรีย์ในดิน (SOM) รวมถึงแร่ธาตุในดินนั้นถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ และในส่วนของแร่ต่าง ๆ ในดินมักเกิดการสูญเสียคาร์บอนจากกระบวนการหลั่งกรดออกซาลิกของสิ่งมีชีวิตในดิน ออกมาละลายแร่ธาตุนั้น จึงทำให้เราสามารถเชื่อมโยงเรื่องของสารประกอบอินทรีย์กับแร่ต่าง ๆ ได้ (Keiluweit et al., 2015)
    ซึ่งท้ายที่สุดแล้วคาร์บอนก็จะถูกส่งออกไปบางส่วนจากดินไปยังแม่น้ำและมหาสมุทร เช่น คาร์บอนอินทรีย์ที่ละลายในน้ำ (DOC) หรือรวมไปกับตะกอนต่าง ๆ ที่เกิดจากการกัดเซาะเป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ควบคุมการสลายตัวของอินทรียวัตถุในดินนั้น คือ อุณหภูมิและน้ำ (ดังนั้นปัจจัยหลักคือภูมิอากาศ) ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเก็บรักษา C ในดินผ่านกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์

    1.2 SOC: A COMPONENT OF SOM : คาร์บอนในดินเป็นองค์ประกอบของสารอินทรีย์ในดิน
    สารอินทรีย์ในดิน หรือ SOM (Soil Organic Matter) มีความสำคัญต่อเสถียรภาพของโครงสร้างดิน การกักเก็บและการปล่อยธาตุอาหารของดิน ดังนั้นความสามารถในการอุ้มน้ำของดินจึงเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญ เพราะไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับผลผลิตทางการเกษตรเท่านั้น แต่ยังมีความเกี่ยวข้องกับการกักเก็บคาร์บอนในมิติของสิ่งแวดล้อมด้วย ทั้งนี้การสลายตัวของ SOM จะช่วยเสริมแร่ธาตุให้กับดิน และทำให้ดินมีความเหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืชด้วย (Van der Wal และ de Boer, 2017)
    ซึ่งแน่นอนว่าการเจริญเติบโตของพืชที่ดีขึ้นและการมีผลผลิตที่สูงขึ้น จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านอาหารของมนุษย์ ทั้งนี้ SOM สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ โดยอ้างอิงการย่อยสลายสารอินทรีย์อย่างสมบูรณ์ และรอบเวลาที่สารอินทรีย์ถูกกักเก็บอยู่ในดิน ดังนี้
    1.Active pools รอบเวลาการหมุนเวียนของสารอินทรีย์ใช้เวลาไม่กี่เดือนหรือไม่กี่ปี
    2.Passive pools รอบเวลาการหมุนเวียนของสารอินทรีย์ใช้เวลานานเป็น 1,000 ปี

    โดยองค์ประกอบคาร์บอนใน SOM มีประมาณ 55–60 เปอร์เซ็นต์โดยมวล ในดินหลายแห่งมีองค์ประกอบของ C เป็นส่วนใหญ่หรือทั้งหมด เราเรียกว่า “SOC” ยกเว้นในกรณีที่ C เกิดจากอนินทรีย์สาร (FAO และ ITPS, 2015) และในกรณีของ SOC ก็จะมีการแบ่งการกักเก็บคาร์บอนออกเป็นกลุ่มๆ ในลักษณะเดียวกัน ดังนี้
    1.Fast pool (labile or active pool) หลังจากมีคาร์บอนอินทรีย์สด หรือ Biomass ลงในดินแล้ว เกิดการย่อยสลายและมีสัดส่วนมวลชีวภาพตั้งต้นหายไปภายในเวลาอันสั้น คือ 1-2 ปี
    2.Intermediate pool คือองค์ประกอบออร์แกนิคคาร์บอนที่ผ่านกระบวนการการย่อยสลายของจุลินทรีย์ และมีความเสถียรโดยมีระยะเวลาหมุนเวียนในช่วง 10-100 ปี
    3.Slow pool (refractory or stable pool) คือ SOC ที่มีความเสถียรสูง โดยมีช่วงเวลาของการหมุนเวียนช้ามาก คือ มากกว่า 100 ปี จนถึง 1,000 ปี

    1.3 SOIL: A SOURCE AND SINK FOR CARBON-BASED GHGs : ดินสามารถเป็นได้ทั้งแหล่งกักเก็บและปล่อย GHG
    เมื่อพูด Carbon fluxes (การแลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจก) โดยดินสามารถเป็นได้ทั้งแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจก (Sink )หรือเป็นแหล่งปล่อย GHGs (Source) ก็ได้ ซึ่งการเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Source) คือ ดินปล่อยก๊าซ CO2 และก๊าซมีเทน (CH4) ออกมา ซึ่งก๊าซสองตัวนี้เป็นหนึ่งใน GHGs ที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมของมนุษย์มากที่สุด และนอกจากนี้ยังรวมถึงการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ด้วย ซึ่งมีศักยภาพในการทำให้โลกร้อนค่อนข้างสูง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาคการเกษตรและปศุสัตว์

    1.4 SOC SEQUESTRATION : กระบวนการสะสมคาร์บอนในดิน
    การสะสมคาร์บอนในดิน (SOC) เป็นกระบวนการที่คาร์บอนถูกตรึงจากบรรยากาศผ่านการสังเคราะห์แสงของพืช การเป็นเศษซากสารอินทรีย์ และกักเก็บไว้ในดิน โดยกระบวนการดึง CO2 มากักเก็บในรูปของ SOC นั้นเกี่ยวข้องกับกระบวนการสามขั้นตอนที่สำคัญ คือ
    1) กระบวนการดึง CO2 จากบรรยากาศ ด้วยกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช
    2) กระบวนการถ่ายโอนคาร์บอนจาก CO2 ไปเป็นชีวมวล (Biomass) เช่น เนื้อไม้ เป็นต้น
    3) กระบวนการถ่ายโอนคาร์บอนในรูปชีวมวลของพืช ไปยังดินโดยถูกเก็บไว้ในรูปของ SOC

    Reference

    Dr. Noppol Arunrat. (2020). Soil Organic Carbon for Food Security and Climate Change Adaptation and Mitigation.

    ที่มาของภาพประกอบ: Botanichka. Retrieved May 02, 2020 from https://www.botanichka.ru/article/pravilnoe-vyirashhivanie-rassadyi-kapustyi/

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีน - พายุลูกเห็บรุนแรงในเถาหยวน, หูหนาน วันที่4 พฤษภาคม

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐอเมริกา - พายุรุนแรงในเช้าวันนี้ในโทพีกา, แคนซัส, 4 พฤษภาคม



     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีน - มีรายงานหิมะตกหนักที่ Shuangyashan , เฮยหลงเจียง ในวันนี้ 4 พฤษภาคม

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูเครน - ข่าวน้ำท่วมในยูเครน ในเมืองเคียฟที่อยู่ภายใต้น้ำ เนื่องจากน้ำท่วม ที่เกิดจากฝนที่ตกลงมา ในวันที่4 พฤษภาคม

    หมายเหตุ: เพียงเพราะบางคนพูดภาษารัสเซีย ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลข่าวไม่ได้อยู่ในยูเครน มีคนรัสเซียอาศัยอยู่ในยูเครนเช่นเดียวกับในประเทศอื่น ๆ ของโลก

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูเครน - เมืองเคียฟ อันเป็นผลมาจากฝนตกหนักลูกเห็บตก ยังคงอยู่ใต้น้ำ ส่วนหนึ่งของถนน Kudryashov ใกล้กับสถานีรถไฟกลา งเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประเทศสหรัฐอเมริกา - จับภาพเหตุการณ์เมื่อคนงานก่อสร้างติดอยู่บนหลังคาในช่วงที่มีพายุอันตรายในบ่ายวันอาทิตย์ที่แนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี วันที่ 3 พฤษภาคม

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้นำโลกระดมทุน 2.6 แสนล้านบาท พัฒนาวัคซีน วิจัยการรักษาโควิด-19
    เกือบ 40 ประเทศทั่วโลกประกาศบริจาคเงินกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้ในการพัฒนาวัคซีนและวิจัยในด้านต่างๆ เพื่อต่อสู้กับไวรัสโควิด-19
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตะลึง ฝูงแกะนับร้อยบุกเมืองตุรกี หลังมนุษย์โดนล็อกดาวน์ช่วงโควิด (คลิป)
    ที่เมืองชายฝั่งทางเหนือ ของตุรกี ฝูงแกะนับร้อยตัวออกมาเดินตามถนนที่ว่างเปล่ายามค่ำคืน หลังจากมนุษย์ถูกคำสั่งล็อกดาวน์ของรัฐบาลทำให้ต้องอยู่แต่ในบ้าน
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Arcadia Economics
    Jim Willie : The Corona Truth The Govt Won't Tell You
    May 1, 2020

    *****โปรดใช้วิจารณญาน*****

    4:40....Jim Willie....ตอนนี้ผมมีฮีโร่คนใหม่แล้ว Robert Kennedy Jr. (หลานอดีตปธน.เคนเนดี้) ..ผมคิดว่าเขาได้รับ attack dog mission จากปธน.ทรัมพ์ให้ตามล่าตามล้างชื่อเสียงของบิล เกตส์ และมูลนิธิของเขา เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีโอกาสเข้าสภาได้ หรือปรากฏตัวต่อสาธารณชนได้ หรือแม้กระทั่งอยากหนีออกจากประเทศไปเลย

    ผมคิดว่าที่ผ่านมา โรเบิร์ต เคนเนดี้ จูเนียร์ ทำได้ดีมากแล้ว เขาทำได้เร็ว ..มีการเก็บประวัติการใช้วัคซีนของเกตส์ เช่นการทำให้ประชาชนอินเดียเกือบ 5 แสนคน ต้องเป็นอัมพาตจากโปลิโอ ซึ่งเกตส์เป็นผู้เสนอให้ฟรีต่อคนอินเดีย มีการเสนอสิ่งแลกเปลี่ยนจนคนยากจนจำนวนมากเข้าร่วมโครงการ ....ดูเหมือนเขาต้องการให้มีตัวอย่าง casualties จำนวนมาก เป็น living casualties ที่ไม่ตาย

    เคนเนดี้ยังตามเก็บประวัติในอีก 3-4 ประเทศในอัฟริกาตะวันตกที่บิล เกตส์เข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น เรื่องของอีโบล่าที่เริ่มจากวัคซีนของเกตส์โดยกลุ่มกาชาด ..เรื่องนี้ทำให้พวกผู้นำชนเผ่าในประเทศเหล่านั้นขับไล่กาชาดของเกตส์กับโซรอสออกจากประเทศ พอไม่มีกาชาดในประเทศ อีโบล่าก็พลอยหายไปด้วย

    เรื่องของวัคซีนนี้ถูกเปิดเผยออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ...นี่ไม่ใช่วัคซีนจริง ๆ มันแค่ถูกเรียกอย่างนั้นเอง มันเป็นค็อกเทลของไวรัสและสารพิษ มันทำสิ่งตรงข้ามกับวัคซีนทั่วไป แทนที่จะให้ภูมิคุ้มกัน มันกลับเข้าไปทำลายภูมิคุ้มกัน ทำให้เป็นง่อย หรือหมดสมรรถภาพการทำงานตลอดชีวิต

    ทรัมพ์กำลังพยายามกำจัดกฏหมายที่เหมือนเป็นเกราะป้องกันให้กับ Big Pharma ทั้งหลาย ที่ทำให้ไม่สามารถมีผู้ฟ้องร้องบริษัทเหล่านี้ได้สำเร็จในเรื่องใหญ่ ๆได้เลย ...เพิ่งมีสำเร็จได้ในกรณี autism .....ผมยังหวังให้โรเบิร์ต เคนเนดี้ ทำงานร่วมกับลูกพี่ลูกน้องอีกคน นั่นคือ จอห์น เคนเนดี้ จูเนียร์ (ลูกชายอดีตปธน.เคนเนดี้..ทีมีข่าวตกเครื่องบินเสียชีวิต แต่ก็มีข่าวลือว่าเขาคือ Q...ผู้แปล)

    11:10......Jim.....สิ่งที่เราต้องพิจารณาคือสถานการณ์เศรษฐกิจของโลกปัจจุบัน มันยากมากที่จะทำให้กลับไปเหมือนเดิม ไม่ง่ายที่จะ restart ...ผมอยากจะบอกว่า พวกเราต้องหยุดตายกันเสียก่อนถึงจะ reset ระบบได้ ฟังดูเหมือนพูดกระทบ

    ตอนนี้มีการสร้างตัวเลขหลอกที่มันอเมซิ่งมาก ผมได้รับรายงานตัวเลขแปลก ๆ จากผู้ที่เป็นสมาชิกของผม เกี่ยวกับเคสที่แตกต่างกันของผู้เสียชีวิตจากโคโรน่าไวรัส มีรายหนึ่งมีญาติเสียชีวิตจากโรคชรา แต่ก่อนตายมีเหงื่อออกบริเวณหน้าผาก จึงถูกประกาศว่าเป็นการตายจากโคโรน่า ครอบครัวจึงต้องถูกกัก 14 วัน ..อีกรายญาติเสียชีวิตจากโรคหัวใจ นาทีสุดท้ายก่อนตายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จึงถูกแจ้งว่า Corona Death ...อีกรายที่อเมซิ่งมากคือประสบอุบัติเหตุทางรถยนตร์ นาทีสุดท้ายก็มีเครื่องช่วยหายใจเหมือนกัน ก็ Corona Death อีก ...อีกรายใช้ยาเสพติดเกินขนาด ก็ใช่อีก ....ผมถึงได้พูดว่า เราต้องหยุดตายกันเสียก่อน เพราะพวกเขาพยายามทำให้การเสียชีวิตจากโรคระบาดเป็นเรื่องใหญ่จนเราไม่สามารถเริ่มสตาร์ทเศรษฐกิจใหม่อีกได้เลย จนกว่าจะมีการลดจำนวนผู้เสียชีวิตอีกอย่างมากเสียก่อน

    ผมได้ข่าวว่า มีการจ่ายถึง $4,600 ต่อรายของการเสียชีวิตที่มีการล้มเหลวของระบบการหายใจ ...ถ้ามีการใช้เครื่องช่วยหายใจก็จะได้ถึง $13,000 ...ถ้าประกาศไปเลยว่าเป็นการตายจากโคโรน่าไวรัส ก็จะถึง $39,000 ที่คือกฏของ Medicare ...ผมแน่ใจว่านี่เป็นเงินจาก Rockefeller Institute .......Medicaid เป็นระบบอาชญากรรมที่น่ากลัวมาก ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากสถาบัน Rockefeller ถึง $1.6 ล้านล้าน

    สรุปก็คือทุกโรคที่เกี่ยวกับระบบการหายใจ เช่นนิวมอเนีย วัณโรค ไข้หวัดใหญ่ หรือแม้แต่โคโรน่า ..การตายทั้งหมดที่เกี่ยวกับโรคปอดจะถูกขึ้นป้าย label รวมเป็น Corona Death ...เห็นได้ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับ pandemic เลย

    ถ้าเอาข้อมูลของ top ten blue states (รัฐที่มีผู้ว่าฯจากเดโมแครท) ที่มีประชากรประมาณ 130-150 ล้านคน มีผู้ป่วยโคโรน่ารวม 34,600 ราย ..แต่ใน top ten red states (ผู้ว่าฯจากรีพับลิกัน) มีแค่ 2,600 ราย ....ตัวเลขมันต่างกันมากจนเหลือเชื่อ นี่คือ medical fraud

    มหาวิทยาลัย Southern California มีการศึกษากรณีคนติดเชื้อ 300,000 ราย พบว่ามีอัตราการตาย 0.1% ซึ่งน้อยกว่าไข้หวัดธรรมดาซะอีก ..นี่เท่ากับว่าเรามีการชัตดาวน์เศรษฐกิจของโลก..เพียงเพราะว่าเราเผชิญกับสิ่งที่มัน deadly น้อยกว่าไข้หวัดธรรมดาเนี่ยนา

    ต้องให้ CNN และบรรดาสื่อทั้งหลายออกข่าวเป็นอัตราการตายที่ 6-7% จึงจะเป็นเหตุผลพอที่จะชัตดาวน์เศรษฐกิจได้ ......ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอาชญากรรมนี้ว่าอะไรดี ......แล้ว Fauci ตอนนี้หายไปไหน ไม่เห็นมาสิบกว่าวันแล้ว หรือถูกนำไปเก็บที่กวนตานาโมแล้ว

    CDC ตอนนี้ได้กลายเป็นบริษัทขายวัคซีนที่เน้นทำกำไรไปแล้ว แต่เป็นวัคซีนที่มีการเจือสารแปลกปลอม.....ผมหวังว่าทรัมพ์คงจะเข้ามาหยุดเรื่องนี้ซะที

    37:20....มาดูในเรื่อง big picture ...ในสามปีมานี้เราจะได้ยินเรื่อง dedollarization กันมาก หลายประเทศในโลกนี้พากันทิ้งเงินดอลล่าร์ ....จีนทิ้งลงไปในโครงการ Belt Road Initiative ของตนมาตลอด จนเมื่อปีที่แล้ว มีการใช้เงินถึง $1.3 ล้านล้านในโครงการนี้ .....มันมากพอเป็น critical mass (มวลวิกฤต) ทำให้การดั๊มพ์ทิ้งดอลล่าร์ที่กลายเป็นปรากฏการณ์มาตลอดสองปีมานี้ มันไปเขย่าฐานของพันธบัตรจนทำให้เราเห็นถึงการพังของตลาด repo เมื่อกันยายนที่ผ่านมา ...เมื่อธนาคารขาดสภาพคล่องจนอยาก redeem พันธบัตรในมือ ....ถ้าคุณได้เห็นปริมาณที่ว่ามากแล้วของตลาด repo คุณน่าจะต้องรู้ว่านั่นคือยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ....จำนวนมหาศาลที่อยู่ใต้นั้นลงไปคือ ตราสารอนุพันธ์ Interest Rate Swap ....นี่คือ swap trade (การซื้อความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย) ที่พวกเฮ็ดจ์ฟันด์จะชอร์ตอัตราดอกเบี้ย และลองพันธบัตร US Treasury (เพื่อไม่ให้นักลงทุนทิ้งพันธบัตร...ผู้แปล) .....แต่ผมมีข่าวจะบอก..ว่ามันพังลงแล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ....จน Fed ต้องเข้ามาพิมพ์เงินเพื่อซื้อทุกอย่างที่เห็นอยู่ไม่ว่าจะเป็นของใคร



     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    NOAA อ้างว่าในปี 2020 มีโอกาส 75% ที่จะเป็นปีที่ร้อน รุนแรงที่สุด และยังคงเป็นเพียงเดือนเมษายนเท่านั้น: ส่วนต่าง ๆ ของยุโรปตะวันตกและสหราชอาณาจักรมีประมาณ 5% ของปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในเดือนเมษายนของพวกเขา

    NOAA is claiming 2020 has already a 75% chance of being the hottest year ever and it's still only April: Many parts of Western Europe and the UK have had only around 5% of their average April rainfall: Parts of US driest since 1500s

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์อาจขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีกรอบ ชี้เป็นเครื่องมือในการเจรจาที่ดีที่สุด:โดนัลด์ ทรัมป์ อาจเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนอีกครั้ง โดยกล่าวว่าการใช้ประเด็นภาษีนำเข้าสินค้ากับจีนนั้นถือเป็นเครื่องมือไว้เจรจากับจีนที่ดีที่สุด

    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวว่าสหรัฐอาจใช้มาตรการตอบโต้ขั้นสูงสุดแก่ประเทศจีน คือการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน อย่างไรก็ดีเขาเองยังไม่ได้ตอบว่ามาตรการนี้ทำเพื่อลงโทษจีนที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาด COVID-19 รวมไปถึงความโปร่งใสในการเผยแพร่ข้อมูลของจีนเอง ส่งผลทำให้ประเทศอื่นๆ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ

    โดยก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้มีแนวคิดที่จะใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าตอบโต้จีน

    ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับ Fox News คืนวันอาทิตย์ของสหรัฐ ว่า “จีนได้ทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐ และเขาเองได้พูดคุยกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เรื่องนี้ทั้งคุยด้วยความมีมารยาทและรวมถึงการพูดคุยแบบไม่เป็นมิตร” และประธานาธิบดีสหรัฐเองยังได้กล่าวว่า “ภาษีนำเข้าสินค้าเป็นเครื่องมือเจรจาที่ดีที่สุด”

    ทรัมป์เองได้กล่าวถึงเรื่ององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ว่า สหรัฐมอบเงินให้ปีละ 450 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่จีนมอบเงินให้ WHO เพียงแค่ 38 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ WHO กลับเอนเอียงไปยังประเทศจีน อะไรที่ประเทศจีนทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องหมด

    ไม่เพียงแค่นั้นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังได้กล่าวพาดพิง อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ อย่าง บารัค โอบาม่า รวมไปถึง โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ที่กำลังจะลงแข่งขันในศึกชิงชัยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ว่า “ทั้ง 2 คนไม่เคยทำอะไรเลยเกี่ยวกับนโยบายจีน”

    ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสหรัฐและจีนได้ทำสงครามการค้าผ่านมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าซึ่งกันและกัน โดยสหรัฐได้ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ารวม 360,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่จะมีการลงนามข้อตกลงการค้าฉบับแรก โดยจีนจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐมูลค่ากว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร พลังงาน ฯลฯ เพื่อที่จะลดการได้ดุลการค้าจากสหรัฐลง

    อย่างไรก็ดีทรัมป์เองไม่ได้กล่าวว่ามาตรการขึ้นภาษีนำเข้านี้นั้นลงโทษจีนในกรณีเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของ COVID-19 หรือไม่ และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่าเรื่องของภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นเกมที่มีความซับซ้อน และเขากล่าวอะไรได้ไม่มากนัก

    ขณะเดียวกันทรัมป์ยังได้กล่าวเสริมว่า วัคซีนรักษา COVID-19 ของสหรัฐจะพัฒนาได้ในช่วงปลายปีนี้ และเขาเองคาดว่าสหรัฐจะพัฒนายาปฏิชีวนะไม่ต้องพึ่งพาประเทศจีนได้ภายใน 2 ปีหลังจากนี้

    ความกังวลว่าสหรัฐอาจขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเปิดตลาดลดลงจากประเด็นนี้

    โดย Wattanapong Jaiwat

    Source: Brandinside.asia
    https://brandinside.asia/us-trump-m...about-greatest-tool-to-talk-with-china-may-4/

    เพิ่มเติม
    - Futures hit by U.S.-China tension; airlines tumble as Berkshire pulls away
    https://www.reuters.com/article/us-...-tumble-as-berkshire-pulls-away-idUSKBN22G16U

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (May 4) อิหร่านเตรียมตัดเลข 0 ออกจากธนบัตร 4 ตัว : รัฐสภาอิหร่านอนุมัติร่างกฎหมาย อนุญาตให้รัฐบาลตัดเลขศูนย์ 4 ตัวออกจากมูลค่าธนบัตรเงินเรียล หลังจากค่าเงินของประเทศร่วงดิ่ง จากผลพวงการคว่ำบาตรของสหรัฐ และเตรียมเปลี่ยนชื่อสกุลเงินของประเทศใหม่

    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ว่า ที่ประชุมรัฐสภาอิหร่านในกรุงเตหะราน อนุมัติร่างกฎหมายที่จะให้รัฐบาลตัดเลข 0 ออกจากธนบัตรเงินเรียล 4 ตัว เพื่อแก้ปัญหาค่าเงินเรียลตกต่ำ และภายใต้ร่างกฎหมายฯ สกุลเงินแห่งชาติอิหร่าน จะเปลี่ยนชื่อจาก เรียล (Rial) เป็น โตมาน (Toman) ซึ่งเงิน 1 โตมานจะมีค่าเท่ากับ 10,000 เรียลเดิม

    สำนักข่าวนักศึกษาอิหร่าน หรือ อิสนา รายงานว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปเงินตรา ต้องได้รับการอนุมัติขั้นตอนต่อไป จากองค์กรผู้นำทางศาสนา เพื่อให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย ส่วนรายงานของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่าน กล่าวว่า ธนาคารกลางอิหร่านมีเวลา 2 ปี ในการดำเนินการไปสู่การเปลี่ยนสกุลเงินของประเทศเป็น โตมาน

    แนวคิดตัดเลข 0 ออก 4 ตัวออกจากธนบัตรอิหร่าน ถูกเสนอตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 แต่ได้รับแรงสนับสนุนในวงกว้างหลังจากปี 2561 เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ตัดสินใจถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ระหว่างอิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจโลก รวมถึงสหรัฐ และประกาศมาตรคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ส่งผลให้เงินเรียลอิหร่านอ่อนค่าลงกว่า 60 %

    ข้อมูลจากเว็บไซต์อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ เงินเรียลอิหร่านซื้อขายแลกเปลี่ยน ในอัตราประมาณ 156,000 เรียลต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดไม่เป็นทางการเมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.)

    ค่าเงินที่อ่อนลง บวกกับอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้เกิดการเดินขบวนประท้วงบนท้องถนนเป็นระยะในอิหร่าน นับตั้งแต่ปลายปี 2560

    Source : เดลินิวส์ออนไลน์ https://www.dailynews.co.th/foreign/772667

    เพิ่มเติม

    - Iran parliament approves bill to slash four zeroes off sanctions-hit currency : https://english.alaraby.co.uk/english/news/2020/5/4/iran-slashes-four-zeroes-off-currency

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ส้มผักเสี้ยนฆ่าเชื้อในอากาศ หอมสดชื่น ต้านฝุ่นจิ๋ว&โควิด
    สมุนไพรเหลวยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในอากาศจากส้มผักเสี้ยน เสริมกลิ่นยูคาลิปตัส เป็นผลงานสิ่งประดิษฐ์ด้านเทคโนโลยีชีวภาพของทีมนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคระยอง ได้รับรางวัล ชนะเลิศ ระดับภาค
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "คุณชาย"ขายไก่ย่าง
    หาเงินช่วยพนักงานโรงแรมโฆษะ

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สยองแทน!เอกสารหลุดคาดไม่นานสหรัฐฯจะติดเชื้อโควิด-19วันละ2แสน,ตายวันละ3พันหลังปลดล็อกดาวน์
    เผยแพร่: 5 พ.ค. 2563 04:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000004813301.jpg
    ซีเอ็นเอ็น/เอเอฟพี - โมเดลหนึ่งของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คาดหมายว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19)ในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยอาจมีคนตายสูงสุดถึง 3,000 คนต่อวัน อย่างเร็วสุดในช่วงต้นเดือนมิถุนายน จากเอกสารภายในที่ทางสำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์ได้มา

    ตัวเลขประมาณการนี้เป็นตัวแทนของจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะหลัง โดยตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว มีอเมริกันชนเสียชีวิตจากโควิด-19 ราวๆ 2,000 คนต่อวัน จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อปกินส์ ขณะที่การคาดการณ์ดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของโมเดลหนึ่งของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งรัฐบาลกลางสหรัฐฯ

    ในเอกสารของรัฐบาลคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 คนต่อวัน อย่างช้าในวันที่ 1 มิถุนายนและตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มเป็น 3,000 คนต่อวัน เปรียบเทียบกับระดับปัจจุบันซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละราวๆ 25,000 คน-30,000 คนต่อวัน เสียชีวิตราว 1,500 คนถึง 2,000 คนต่อวัน

    เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯรายหนึ่งยืนยันกับซีเอ็นเอ็นว่าเอกสารที่สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์สได้มานั้นเป็นของจริง โดยมันเป็นเอกสารที่แจกจ่ายไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับตัวเลขการประมาณการทั้งหลายแหล่

    ผู้สื่อข่าวของซีเอ็นเอ็นติดต่อไปยังทำเนียบขาวเพื่อสอบถามเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้ แต่ทางทำเนียบขาวบอกว่าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่เห็นเอกสารที่หลุดถึงมือสำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ส

    563000004813302.jpg
    "มันไม่ใช่เอกสารของทำเนียบขาวหรือเป็นตัวแทนของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโคโรนาไวัส หรือเอกสารที่ส่งผ่านระหว่างหน่วยงาน" จัดด์ เดียร์ "ข้อมูลนี้ไม่ได้สะท้อนโมเดลใดๆของคณะทำงานเฉพาะกิจหรือข้อมุลที่คณะทำงานเฉพาะกิจวิเคราะห์" เขากล่าว

    "คำแนะนำเปิดอเมริกาอีกครั้งอย่างเป็นขั้นเป็นตอนองประธานาธิบดีเป็นแนวทางที่ขับเคลื่อนโดยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งพวกผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของรัฐบาลกลางเห็นพ้องด้วย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพของอเมริกันชนเป็นอันดับหนึ่ง และจะเป็นเช่นนั้นต่อไปในขณะที่เราจับตาความเคลื่อนไหวผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐต่างๆ"

    การปรับเพิ่มประมาณการตัวเลขผู้เสียชีวิตมีขึ้นในขณะที่รัฐต่างๆได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากช่วงสุดสัปดาห์ ชาวอเมริกันจำนวนมากออกมานอกบ้านเพื่อประท้วงหรือสัมผัสกับแสงแดดฤดูใบไม้ผลิตามสวนสาธารณะต่างๆ

    ทั้งนี้รัฐฟลอริดา, โคโรลาโด, อินดีแอนา, เนบราสกา, เซาท์แคโรไลนา,เวสต์เวอร์จิเนีย เช่นเดียวกับรัฐอื่นๆ เริ่มเคลื่อนไหวผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ในความพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจที่แตกเป็นเสี่ยงๆและสยบความรู้สึกกระสับกระส่ายของประชาชน

    563000004813303.jpg
    อย่างไรก็ตามในการคาดการณ์ชัดเจนว่าการเปิดเศษฐกิจของรัฐต่างๆนั้นอาจต้องแลกกับความเสี่ยงขั้นถึงตาย "มันเป็นตรรกะง่ายๆ" เอลิซาเบธ เคเฮน ผู้สื่อข่าวสายสาธารณสุขของซีเอ็นเอ็นกล่าว "เมื่อคุณบอกประชาชนว่า เฮ้ คุณสามารถออกไปบาร์ ไปร้านอาหารได้แล้วนะ จำนวนผู้เสียชีวิตก็จะสูงขึ้น"

    จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อปกินส์ พบว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้คร่าชีวิตผู้คนในสหรัฐฯไปแล้วกว่า 1,170,000 คน ในนั้นเสียชีวิตกว่า 68,000 คน

    ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยคาดหมายว่าจะมีชาวสหรัฐฯตายในโรคระบาดใหญ่นี้ที่ราวๆ 65,000 คน แต่เมื่อคืนวันอาทิตย์(3พ.ค.) เขาปรับเพิ่มคาดการณ์เป็น 80,000 ถึง 90,000คน อย่างไรก็ตามบางทีมันอาจไม่ใช้การปรับเพิ่มคาดการณ์เป็นครั้งสุดท้าย

    ดร. เดบอราห์ เบิร์กซ์ (Dr. Deborah Birx) หนึ่งในคณะทำงานด้านการรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาว บอกว่าจากการประมาณการต่างๆพบว่าแม้กระทั่งยังคงมีคำแนะนำด้านการเว้นระยะห่างทางสังคม ก็น่าจะมีอเมริกันชนราว 100,000 ถึง 240,000 คนเสียชีวิตจากวิกฤตครั้งนี้

    https://mgronline.com/around/detail...f21eQw9tlOgHilgFpP5Ht-yPLSgpjq2YwhWfquC7LSk-0
     

แชร์หน้านี้

Loading...