ติดตามสถานะการณ์

#พิธีฝังศพหมู่ของชาวนิวยอร์ค
#ย้อนอดีตเกาะสุสานHart_Island

แชร์ข่าวรอบโลกวันนี้ รัฐบาลของรัฐนิวยอร์คประกาศว่า จะทำพิธีฝังศพหมู่ผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส Covid-19 บนเกาะ Hart Island เกาะเล็กๆ ที่อยู่นอกชายฝั่งทางด้านตะวันตกสุดของ Long Island South ในรัฐนิวยอร์ค

และเมื่อวานนี้ ก็ได้มีการลำเลียงศพผู้เสียชีวิตไปฝังแล้วกว่า 40 ศพ ที่จะบรรจุศพปิดผนึกในโรงไม้เรียบๆ โดยมีชื่อของผู้เสียชีวิตแกะสลักอยู่บนฝาโลง

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมคนอเมริกันใช้วิธีจัดการกับศพผู้เสียชีวิตแบบนั้น แต่ว่านี่เป็นหนึ่งในธรรมเนียมของชาวนิวยอร์ค ที่กำหนดให้ฝังศพผู้ไร้ญาติ ไร้บ้าน ระบุตัวตนไม่ได้ หรือ เป็นความประสงค์ของญาติพี่น้องที่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจัดพิธีศพในสุสานเอกชนที่มีค่าใช้จ่ายสูง ก็จะฝากศพให้ทางการรัฐนิวยอร์คจัดการฝังศพหมู่กันบนเกาะแห่งนี้

จนทำให้เกาะแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นสุสานรัฐบาล ที่ใช้งบจากภาษีประชาชนสูงที่สุดในสหรัฐ หรืออาจจะสูงที่สุดในโลกก็ได้

อดีตของเกาะ Hart Island แต่เดิมเป็นเกาะรกร้าง ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ จนกระทั่งรัฐบาลสหรัฐเข้ามาสำรวจ และปรับพื้นที่แห่งนี้ เป็นค่ายทหารสำหรับฝึกพลทหารผิวสีในปี 1864

แล้วหลังจากนั้นก็สร้างคุกกักขังนักโทษในช่วงสงครามกลางเมือง มีโรงพยาบาลจิตเวช มีศูนย์กักผู้ป่วยวัณโรค ศูนย์พักพิงสำหรับคนไร้บ้าน โรงเรียนดัดสันดานเยาวชน ศูนย์บำบัดผู้ติดยา และสุสานขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า Potter's Field สำหรับฝังศพไร้ญาติ ศพทารกแรกเกิด ศพของคนยากจน นักโทษที่เสียชีวิตในคุก หรือแม้แต่ชิ้นส่วนศพที่ระบุไม่ได้จากเหตุฆาตกรรม

และสุสาน Potter's Field แห่งนี้ ใช้ฝังศพหมู่เหล่านี้มานานกว่า 150 ปีแล้ว ประมาณได้ว่าน่าจะมีศพฝังอยู่ในสุสานกลางทะเลนี้เกินล้านคน

โดยพื้นที่ในสุสาน Potter's Field จะไม่มีป้ายหลุมศพใดๆเป็นสัญลักษณ์ถึงใคร การฝังศพ จะทำเพียงขุดหลุมขนาดใหญ่แล้ววางโลงศพวางเรียงกันไปแล้วกลบฝังเท่านั้นเอง

และในวันนี้ ทางรัฐบาลนิวยอร์คตัดสินใจใช้สุสาน Potter's Field บน Hart Island มาใช้ฝังศพผู้เสียชีวิตชาวนิวยอร์คบางส่วนที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรน่า ในกรณีที่ญาติไม่มีงบจัดพิธีศพ หรือ ไม่สามารถจัดการฝังศพได้ทัน

สำนักข่าว New York Post ให้ข้อมูลว่า โดยปกติจะมีศพ มาฝังใน Potter's Field สัปดาห์ละ 25 โลง ที่ทางการจะใช้แรงงานจากนักโทษมาขุดหลุมฝังศพให้

แต่ทว่าในวิกฤติไวรัสโคโรน่า ที่ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสูงมาก จนจำนวนศพที่จำเป็นต้องฝังใน Potter's Field กลายเป็นวันละ 25 ศพ x 7 วัน อาศัยแค่แรงกายนักโทษขุดคงไม่ทัน ทางการรัฐนิวยอร์คจึงจำเป็นต้องจัดจ้างผู้รับเหมาเพิ่มเข้าไปช่วยขุด เพื่อความรวดเร็ว โดยทุกคนที่ทำงานฝังศพหมู่ต้องสวมชุดป้องกันเต็มสูบเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย

อาจจะฟังแล้วหดหู่ แล้วบ้านเราอาจไม่คุ้นเคยกับวิธีการจัดการศพแบบนี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ชาวนิวยอร์คเขารับได้ และทำมาร้อยกว่าปีแล้วค่ะ

เราก็ทำได้เพียงร่วมส่งกุศลจิตให้ผู้เสียชีวิตไปสู่สุขติ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องร่วมกันสู้ให้รอดไปด้วยกัน และฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้นะคะ

แหล่งข้อมูล
https://nypost.com/2020/04/09/nyc-to-bury-coronavirus-dead-on-hart-island-potters-field/

https://www.dailymail.co.uk/news/ar...ontinue-dig-mass-graves-NYCs-Hart-Island.html

https://www.aljazeera.com/news/2020...coronavirus-deaths-surge-200409202454538.html

https://www.nytimes.com/interactive/2016/05/15/nyregion/new-york-mass-graves-hart-island.html

https://en.wikipedia.org/wiki/Potter's_field

 

ผู้เสียชีวิตจาก #โควิด19 รายแรกจ.ฉะเชิงเทรา แม่ค้าขายอาหารในโรงงานวัย 42 ปี พบป่วย เข้ารับการรักษาและเสียชีวิต ก่อนที่จะทราบผลทางแล็บว่าติดเชื้อฯ

 

Ep3 วันนี้วันเดียวยอดตายของคนสหรัฐพุ่งถึง 1,800 ราย ทำให้ยอดตายสะสม เกือบ 26,000 ราย และมีคนติดเชื้อไปแล้ว เกือบ 470,000 ราย

ทำไมประเทศใหญ่เทคโนโลยีล้ำขนาดนี้ถึงกลายเป็นอันดับต้นของการติดไวรัสโควิด19ได้ ติดตามความเห็นของ คุณ Ong Arttasan คนไทยที่อยู่ในสหรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์นี้

Part 3 มุมมองถึงข้อผิดพลาดที่คนอเมริกันปฏิบัติตัวจนเกิดการระบาดอย่างหนัก

1. เมื่อคนไม่มีประกันสุขภาพ แล้วพอป่วย ช่วงแรกๆ เป็น covid อาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ดี ก็ยังไม่ไป รพ. แน่ๆ นั่นคือปัจจัยแรก เพราะถ้าไปเมื่อไร ค่าใช้จ่ายแพงมหาศาล อาจจะล้มละลายตายก่อน covid ฉะนั้น พอป่วยแล้วไม่ไปรักษา (คาดว่าคงไม่ได้กักตัว) เชื้อก็แพร่กระจายออกไป ยิ่งใน New York City จะมีย่านที่ค่อนข้างน่ากลัว อยู่กันแบบชุมชนแออัด แถวๆ Bronx ประชาชนมีสุขอนามัยไม่ดีเท่าไร เชื้อไวรัสเลยแพร่กระจายได้ไวมาก

2. เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย แต่ถ้าผู้นำเป็นภัยเอง แล้วเชื่อผู้นำ ชาติก็คงแย่กันหมด เริ่มจากท่านผู้นำได้ตัดงบป้องกันโรคไปก่อน และในช่วงแรกท่านทรัมป์บอกว่า “It’s just a flu”
คนก็แบบเฮ ไข้หวัดใหญ่ธรรมดา คนอเมริกันในพื้นที่ชนบท เชื่อประธานาธิบดีมากๆ พูดอะไร เชื่อหมด แล้วอีกอย่างสื่อก็ประโคมข่าวกัน ว่า It’s just a flu คนก็ไม่ตื่นตัว
3. ความตระหนักรู้ในการป้องกันโรคต่ำมาก ถ้าเคยได้ยินว่าอิตาลีระบาดหนักเพราะคนไม่ใส่ mask ใช้ชีวิตปกติ ไม่กลัวอะไร ที่นี่ก็เป็นแบบนั้นเลย มีแต่คนเอเชียที่ตื่นตัวใส่ mask ฝรั่งยังมองแปลกๆ เหยียดๆอีก แถมจะถูกโดนตีหัวเลือดอาบ รุมทำร้ายถุยน้ำลายใส่ บอกว่าพวกเอเชียเอาโรคมาแพร่บ้านเขา

4. ระบบโรงพยาบาล ไม่ได้วางแผนเตรียมว่าจะเกิดแบบนี้ขึ้น ส่วนมากวางแผนไว้กับโรคที่เกิดทุกปี เช่น ไข้หวัดใหญ่ ทำให้อุปกรณ์มีจำกัด ถ้าเกิดเหตุเพิ่มเติมขึ้นมาก็คือไม่สามารถรองรับโรคระบาดได้ โรงพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เงินไปกับเงินเดือนหมอ หรือสนับสนุนงานวิจัยหมดแล้ว ไม่ได้เผื่องบฉุกเฉินตรงนี้ไว้เลย อีกอย่างคือคนอเมริกันรุ่นใหม่ พวก hipsters มีความคิดต่อต้านวัคซีนมาก คิดไกลไปถึงว่ารัฐบาลวางแผนให้พวกเค้าติดเชื้อเพื่อจะได้ขายยาให้เค้า ชาวฮิปสเตอร์ขอกินผักออร์แกนิคปลอดสารไม่กินยาดีกว่า จะได้มีชีวิตสู่นิพพานโดยสะอาดสวยสุขติแบบรูปใน instagram เลยพาลทำให้คนอายุน้อยกลุ่มนี้ติดโรคง่ายขี้นเพราะไม่มีภูมิคุ้มกัน

5. เนื่องจากระบบการปกครองของสหรัฐฯ มีรัฐหลายๆ รัฐ แต่ละรัฐ นโยบายก็ต่างกัน รัฐบาลกลางจะไปยุ่งมากไม่ได้ ระบบรันด้วยเอกชนอีก ยิ่งไปจัดการได้น้อยมาก แถมรัฐบาลกลางก็ไม่ค่อยช่วย อย่างท่านทรัมป์ เหมือนจะไม่ชอบนิวยอร์กบ้านเกิดท่านเท่าไร (เค้าว่าไม่ใช่ฐานเสียงรีพับลิกัน) ผู้ว่ารัฐนิวยอร์กขอเครื่องช่วยหายใจ 30,000 ตัว ก็ไม่ส่งไปให้ เพราะกลัวว่า ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กจะเป็นฮีโร่ สมัครเข้าชิงตำแหน่งกับตนสมัยหน้า เลยสะกัดดาวรุ่ง เอางบไปช่วยรัฐอื่นที่เป็นฐานเสียงของตนดีกว่า เราจะเห็นข่าวที่ตามไปดูชีวิตหมอใน รพ. ที่นิวยอร์ก ตอนนี้เหมือนระบบ healthcare ที่นั่นล่มสลายไปแล้ว น่ากลัวมากจริง ๆ

สรุป ทุนนิยมสวยหรู พา healthcare ประเทศไปได้สุดมาก เราอาจจะชินกับภาพการรักษาอันเลิศเลอ อลังการ เครื่องมือไฮโซ แลปอันใหม่ล่าสุดของโลก และยาสุดล้ำที่บริษัทต่างๆ นำเสนอ แต่นั่นแหละ ความจริงก็คือ คนที่เข้าถึงพวกนี้ได้ ก็ไม่ใช่ทุกคน อย่างน้อยต้องมีเงิน มีประกันไฮโซ ซึ่งเบี้ยแพง ขนาดอเมริกายังมีคนอีก 30% ที่ไม่มีประกันเลย ตอนนี้รัฐเริ่มประกาศให้คนที่ไม่มีประกันอีก 30% สมัครได้ฟรีแล้วแต่มีกำหนดวันตายตัว ไม่งั้นคือระวังตัวเองเลย

#คุณหมอขอบอก #DrTalk #ศบค #covid19 #โควิดเราต้องรอด #กองทุนพัฒนาสื่อสร้างสรรค์และปลอดภัย

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Apr 10) มหาวิกฤตเศรษฐกิจในรอบ 90 ปี (ตอนที่ 1) : 2 เดือนก่อนหน้านี้ผมได้เตือนถึงผลกระทบของโควิด-19 ไปแล้ว ในบทความนี้ขอชี้ให้เห็นชัดว่า ผลกระทบของโควิด-19 ในด้านเศรษฐกิจ คือ ปีนี้ทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างแรงจากเศรษฐกิจทั้งด้านอุปสงค์ (กำลังซื้อหายไปฉับพลันจากมาตรการคุมโรค) และด้านอุปทาน (การผลิตหยุดชะงักจากมาตรการคุมโรคเช่นกัน)

ภาคธุรกิจ ประชาชนจะประสบปัญหาเงินสดตึงตัว (cash crunch) และจะนำไปสู่ปัญหาสินเชื่อตึงตัว (credit crunch) และส่งผลลบกลับไปที่ภาคธุรกิจและประชาชน วนกลับไปมาที่สถาบันการเงินย้อนกลับไปกลับมาแต่ละรอบที่ผลกระทบสะท้อนกลับไปมายิ่งทำให้เศรษฐกิจทรุดหนักถ้าภาครัฐและธนาคารกลางไม่เข้ามาหยุดยั้งวงจรป้อนกลับเชิงลบนี้ (negative feedback loop)

มหาวิกฤตนี้แตกต่างจากวิกฤตเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่น ๆ ในรอบ 90 ปี ไม่เพียงแต่ครั้งนี้จะรุนแรงที่สุดหากแต่ต้นเหตุของวิกฤตมิใช่วิกฤตภาคการเงิน (financial crisis) เหมือนปี 2008 หรือวิกฤตหนี้สินสาธารณะภาครัฐแบบวิกฤตหนี้สินสาธารณะกลุ่มประเทศยูโรโซน (European debt crisis) ในปี 2010 หรือวิกฤตอัตราแลกเปลี่ยน และตามมาด้วยวิกฤตการเงินไทยในปี 1997

มหาวิกฤตในปี 2020 เกิดจากไวรัส SARS-CoV-2 ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ หยุดชะงักโดยเฉพาะภาคเศรษฐกิจจริง ทำให้กระแสเงินสดที่เคยเป็นกระดูกสันหลังของระบบธุรกิจอยู่ในภาวะ cash crunch เพราะมาตรการคุมโรคระบาดที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกใช้กันเป็นมาตรการที่รุนแรงและเข้มงวดมาก ทำให้คนต้องอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ กำลังซื้อหายไป (อุปสงค์ชะงักอย่างแรง) ภาคการผลิตชะลอการผลิต (อุปทานได้รับผลกระทบแรง) ธุรกิจต่าง ๆ ขาดแคลนเงินสด ไม่มีลูกค้า

ขณะที่ภาคการผลิตเมื่อไม่มีลูกค้าและถูกจำกัดกิจกรรมการผลิต เพราะต้องดำเนินการตามมาตรการคุมโรค การปลดคนงานและไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ยธนาคาร เงินเดือนลูกจ้างและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้น ยิ่งใช้เวลายาวนานเท่าไหร่ในการคุมโรค เศรษฐกิจจริงจะหดตัวลงแรง และในที่สุดผลกระทบลบจะไปสู่สถาบันการเงินและตลาดการเงินของประเทศนั้น ๆ ถ้าธนาคารกลางและรัฐบาลประเทศนั้น ๆ ไม่รีบเข้ามาช่วยเหลือด้วยมาตรการการเงินและการคลังที่มีขนาดใหญ่พอ ผลคือสถาบันการเงินที่ซ่อมแซมตัวเองกว่า 10 ปีที่ผ่านมาจากวิกฤตการเงินโลกในปี 2008 จนมีทุนที่แข็งแกร่ง จะเผชิญปัญหาหนี้เสียพุ่งทะยาน

ดังนั้น สถาบันการเงินจะลดวงเงินสินเชื่อและเรียกสินเชื่อคืนเพื่อมิให้หนี้เสียเพิ่มขึ้น และหลีกเลี่ยงการต้องเพิ่มทุน เกิดภาวะ credit crunch ในระบบการเงินโลกซ้ำเติมเศรษฐกิจให้ดิ่งลงกว่าเดิม เมื่อบริษัทห้างร้านกว่า 30% ของประเทศล้มละลาย สถาบันการเงินหลายแห่งจะต้องล้มตามไปด้วย และผลลบจะย้อนกลับมาทำลายธุรกิจที่ดี สถาบันการเงินที่ดี และตลาดการเงินที่เข้มแข็งให้พังทลายลงไปด้วยจากการผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้จำนวนมาก การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารคุณภาพดี และบริษัทจดทะเบียนกว่า 40% ของมูลค่าตลาดทุนขึ้นไปจะรายงานผลประกอบการขาดทุน

คอลัมน์ ลงทุนทั่วโลก
โดย สุรศักดิ์ ธรรมโม บลจ.วรรณ

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/finance/news-447434

 

นางโคราคะเทวี นางสงกรานต์ 2563 คําทํานาย “โหดมาก” ไร้ปราณี

นางโคราคะเทวี นางสงกรานต์ 2563 คําทํานาย “โหดมาก” อ่านแล้วหลายคนรู้สึกว่าจริง เตรียมรับมือความลำบากในปีนี้ กลับกันก็มีสิ่งดีๆที่อาจเกิดขึ้นจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้เช่นกัน

นางสงกรานต์ 2563 และคําทํานาย : มีนามว่า นางโคราคะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดาหาร ภักษาหารน้ำมัน (กินน้ำมัน) หัตถ์ขวาทรงขรรค์ หัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จไสยาสน์ลืมเนตร (นอนลืมตา) มาเหนือหลังพยัคฆ์ (เสือ) เป็นพาหนะ

เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปี 2563 นี้ ศุกร์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า

เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีเมถุน ชื่อวาโย (ธาตุลม) น้ำพอประมาณ พายุจัด (เกิดวาตภัย)

เกณฑ์ธัญญาหาร ชื่อ ปาปะ ข้าวกล้าในไร่นา จะได้ 1 ส่วน เสีย 10 ส่วน คนทั้งหลายจะตกทุกข์ได้ยากลำบากแค้นเพราะกันดารอาหารบ้างจะฉิบหายเป็นอันมากแลฯ ในเสียยังมีดี ปีนี้เป็นปีแห่งการศึกษา วิทยาการ นวัตกรรมของโลกใหม่ จะเริ่มต้นขึ้น !!

Cr. Hatyai Life Society

The post นางโคราคะเทวี นางสงกรานต์ 2563 คําทํานาย “โหดมาก” ไร้ปราณี appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ประกันสังคม เตรียมโอนเงินเยียวยา ผู้ว่างงานจาก "โควิด-19" กว่า 4 แสนคน
ผู้ประกันตนเฮ สำนักงานประกันสังคม เตรียมโอนเงินเยียวยาให้ ผู้ลงทะเบียนว่างงานจาก โควิด-19 กว่า 4 แสนคน รายละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

สลด โควิดระบาด นิวยอร์กให้คนงานใส่ชุดป้องกัน ฝังศพเพียบในหลุมใหญ่บนเกาะ
ทางการนครนิวยอ์ก ไม่มีทางเลือก ให้คนงานกว่าสิบคนใส่ชุดป้องกันเชื้อมิดชิด ลำเลียงศพผู้เสียชีวิตที่ไม่มีญาติมารับศพ ฝังลงในหลุมขนาดใหญ่บนเกาะฮาร์ต ขณะเชื้อโควิดกำลังระบาดหนัก
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ประกาศสงกรานต์ ปีพุทธศักราช 2563

ปีชวด (เทวดาผู้ชาย ธาตุน้ำ) โทศก จุลศักราช 1382 ทางจันทรคติ เป็น อธิกวาร
ทางสุริยคติ เป็น อธิกสุรทิน

วันที่ 13 เมษายน เป็น วันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติตรงกับวันจันทร์ แรม 6 ค่ำ
เดือน 5 เวลา 20 นาฬิกา 48 นาที

นางสงกรานต์ ทรงนามว่า โคราคะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดาหาร
ภักษาหาร น้ำมัน พระหัตถ์ขวาทรงธนูหรือไม้เท้า พระหัตถ์ซ้ายทรงพระขรรค์ เสด็จไสยาสน์
ลืมเนตรมาเหนือหลังพยัคฆะ เป็นพาหนะ

วันที่ 16 เมษายน เวลา 01 นาฬิกา 24 นาที 36 วินาที
เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1382 ปีนี้
วันพฤหัสบดี เป็น ธงชัย,
วันอาทิตย์ เป็น อธิบดี,
วันพุธ เป็น อุบาทว์,
วันอังคาร เป็น โลกาวินาศ

ปีนี้ วันศุกร์ เป็นอธิบดีฝน บันดานให้ฝนตก 600 ห่า
ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า
ตกในมหาสมุทร 120 ห่า
ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า
ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า
นาคให้น้ำ 1 ตัว

เกณท์ธัญญาหาร ได้เศษ 0 ชื่อ ปาปะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 1 ส่วน
เสีย 9 ส่วน มหาชนร้อนใจด้วยอาหารแล
เกณท์ธาราธิคุณ ตกราศีวาโย (ลม) น้ำน้อย

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

https://sites.google.com/site/bannsangkaphan/prakas-sngkrant-2554

 

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รุนแรงกว่าสงครามโลก

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะรุนแรงขนาดนี้ จากการศึกษาประวัติศาสตร์ เชื่อว่าการระบาดของเชื้อต่างๆ อาจจะกลับมาทุก 100 ปี ถ้าศึกษาย้อนไป 100 ปีก่อนนั้นก็มีการระบาดใหญ่ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ญี่ปุ่นเช่นกัน

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่าเรามาตกในช่วง 100 ปีพอดิบพอดี การระบาดของเชื้อโควิด 19 ในปัจจุบัน เปรียบเทียบกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ญี่ปุ่น เมอร์ส ซาร์ส หวัดหมู หรือแม้แต่อีโบลา เชื้อไวรัสโควิด 19 ยังรุนแรงมากกว่าเยอะ

ด้วยลักษณะบริบทของแต่ละโรคนั้นไม่เหมือนกัน จากการศึกษาพบว่า โรคระบาดที่มีความรุนแรงจนทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว การระบาดนั้นจะไม่รุนแรง คือจะไม่เป็นวงกว้าง เนื่องจากเสียชีวิตอย่างรวดเร็วเกินไป จนทำให้โอกาสที่จะระบาดและเผยแพร่ไปสู่คนอื่นจะเกิดขึ้นได้น้อย

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 นั้น หากมีผู้ติดเชื้อ 100 คน พบว่า ใน 80 คน ที่ได้รับเชื้อแล้วจะไม่แสดงอาการ ซึ่ง 80 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่แสดงอาการนั้นมีโอกาสที่จะเผยแพร่เชื้อไปให้แก่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มที่มีอาการ ก็จะแบ่งเป็นกลุ่มที่มีอาการน้อย ปานกลาง และ มีอยู่ 5 เปอร์เซ็นต์เป็นกลุ่มที่มีอาการรุนแรง

กลุ่มที่มีอาการรุนแรง อัตราการตายนั้นสูงมาก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน มะเร็ง ซึ่งมีความอ่อนแอทางด้านภูมิคุ้มกันอยู่ก่อนแล้ว จะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูง ยิ่งในกลุ่มที่มีอาการรุนแรงแล้วต้องใส่เครื่องช่วยหายใจนั้น พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตสูงมากๆ ดังนั้น ถ้าเกิดจะเปรียบเทียบการระบาดของเชื้อต่างๆ พบว่า เชื้อไวรัสโควิด 19 มีลักษณะของการระบาดที่น่ากลัวกว่าโรคอื่นๆ ที่ผ่านมา อาจมีความรุนแรงมากกว่าสงครามโลกด้วยซ้ำ

จะเห็นว่าไวรัสโควิด 19 แพร่เชื้อไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เกือบ 200 ประเทศ ขณะที่สงครามโลกมีการสู้รบกันในบางสถานที่เท่านั้น เราสามารถหลบในที่ที่ไม่มีสงครามได้ แต่ไวรัสโควิด 19 นั้น ไปในทุกๆ ที่ ไม่มีพรมแดน ไปในทุกที่ที่มีคน สามารถเกิดการระบาดของโรคนี้ได้เสมอ

การระบาดของโรคนี้เป็นภัยเงียบ ซึ่งล่องลอยอยู่ในอากาศ หรืออยู่ตามสิ่งต่างๆ ไม่รู้เลยว่าเชื้อนั้นอยู่ตรงไหนบ้าง

เชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้เกิดผลกระทบในเชิงลบทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นคนยากดีมีจน คนที่อยู่ในต่างจังหวัด หรือคนที่อยู่ในเมือง คนทุกช่วงอายุ

สิ่งที่จะช่วยกันได้ในภาวะที่เชื้อไวรัสโควิด 19 กำลังแพร่ระบาดนี้ ก็คือ พยายามรักษาตัวเองให้ดี ไม่เป็นผู้ที่กระจายแพร่เชื้อไป นี่คือสิ่งที่ ทำได้ทุกคน ทุกสถานที่ ทุกเวลา ถ้าเราช่วยกัน การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ก็จะหายไปได้

รศ.นพ.นริศ กล่าวว่า ปัจจุบัน ยาที่คาดว่าจะได้ผลดีกับการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ชื่อ ฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งมีกำลังการผลิตจำกัด ดังนั้นด้วยปริมาณยาที่มีจำกัดอยู่ ก็เลยจะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง

ด้วยประสบการณ์ของแพทย์ไทย พบว่า การได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ในระยะแรกๆ สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยพัฒนาไปเป็นกรณีมีอาการรุนแรงได้ และอาจจะป้องกันการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้ด้วย ปัจจุบัน จึงเริ่มมีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในคนไข้ที่มีอาการน้อยๆ เพื่อป้องกันความรุนแรงของโรค

การที่คนติดเชื้อโรคนี้แล้วเริ่มมีอาการทางปอด พบว่า มีการเกิดพยาธิสภาพถาวรในปอดขึ้น เป็นพังผืดต่างๆ เพราะฉะนั้น คนที่เป็นโรคนี้ หลังจากหายแล้วจะมีการทำงานของปอด หรือ สมรรถภาพการทำงานของปอดลดลง เช่น การหายใจมีการแลกเปลี่ยนก๊าซไม่ดี เหนื่อยง่ายขึ้น หรือ อาจมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในอนาคตได้

วิธีที่ดีที่สุดคือป้องกัน อย่าให้ตนเองเป็นโรค เมื่อเป็นโรคแล้วจะต้องได้รับการรักษามีการป้องกันตนเองที่รวดเร็ว

The post การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รุนแรงกว่าสงครามโลก appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

#ข่าวเช้าตรู่ส่งถึงมือคุณ! โดยเพจ "ถามอีก กับอิก"
.
========
.
1.JPMorgan ฟันธงเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสลดลง 40% ในไตรมาสที่ 2 และอัตราการว่างงานพุ่งกระฉูด 20%
.
เป็นตัวเลขคาดการณ์ที่ฟังดูแล้วเหลือเชื่อครับ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงมากในยุคนี้ โดยนักเศรษศาสตร์ของ JPMorgan มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสลดลงถึง 40%
.
ในขณะที่จะมีคนว่างงานมากถึง 25 ล้านคนหรือ 20%
.
แต่ต้องบอกก่อนว่า นี่อยู่บนสมมติฐานว่าครึ่งปีหลัง เจ้าโควิดจะหายไปแล้วนะครับ นั่นหมายความว่าถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อก็ต้องมีการปรับเป้าประมาณการณ์กันใหม่ครับ
.
ซึ่งถ้าวิกฤตจบภายในช่วงมิถุนายน ก็มองว่าเศรษฐกิจไตรมาสที่สามของสหรัฐจะดีดขึ้นแรงมากถึง 23% ครับ และไตรมาสที่ 4 เองก็มีโอกาสไปต่อได้ 13%
.
ผลกระทบรอบนี้หนักจริงๆครับเพราะกระทั้งฝั่ง demand และ supply ซึ่งเป็นผลจากมาตรการในการกักตัวให้อยู่บ้านในหลายประเทศ
.
“มาตรการลดกำลังการผลิตในระยะยาว ทำให้การประเมินผลกระทบค่อนข้างยาก แต่ที่แน่ๆคือรู้ว่ากระทบหนักมากๆครับ”
.
========
.
2.สายการบิน British Airways ถูกลดอันดับเครดิตเหลือระดับ “ขยะ”
.
Fitch Ratings สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชื่อดัง ลดอันดับเครดิตระยะยาว เหลือระดับขยะ Junk
.
โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจสายการบิน เพราะต้องหยุดการดำเนินการไปเป็นผลจากโรคระบาด แถมยังบอกด้วยครับว่าอาจจะลดอันดับเครดิตของสายการบินอื่นๆด้วยเช่นกัน
.
ผลกระทบคือ อาจจะทำให้สายการบินยักษ์ใหญ่อย่าง British Airways มีความยากในการกู้ยืมเงิน หรือกู้เงินด้วยต้นทุนที่แพงขึ้น
.
“คาดว่า British Airways จะไม่มีเที่ยวบินในช่วง เดือนเม.ย.-มิถุนายน” ก่อนที่จะเริ่มฟื้นในช่วงครึ่งปีหลัง ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2022
.
ทั้งนี้มองว่าสายการบินในยุโรปจะได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากวิกฤตรอบนี้ และจะมีเงินสดเหลือเพียงพอแค่ 2 เดือนโดยเฉลี่ยครับ นั่นหมายความว่าถ้าวิกฤตโควิดยืดเยื้อก็จะทำให้สายการบินจำนวนมากมีความเสี่ยงที่จะล้มหายตายจากกันไป
.
========
.
3.ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ Walmart จ้างงานเพิ่ม 1 แสนคนหลังจากที่ความต้องการซื้อสินค้าพุ่งหนักมาก
.
“ตอนนี้เราจ้างงานเพิ่ม 1 แสนตำแหน่ง แต่คิดว่าอาจจะต้องรับคนเพิ่มเป้น 1.5 แสนคน” ผู้บริหารของ Walmart บอกครับ
.
หลังจากที่ตอนนี้่มีความต้องการสินค้าเช่น ทิชชู่ และสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งสูงมากๆ ทำให้มีความจำเป็นต้องจ้างพนักงานเพิ่มหนักมาก สวนกระแสธุรกิจอื่นๆ
.
ไม่ใช่แค่นี้ครับตอนนี้สินค้าที่ลูกค้าสามารถ ช่วยดูแลตัวเองได้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากครับ เช่นการย้อมสีผม, เครื่องโกนหนวด หรือแม้กระทั่งจักรเย็บผ้าก็ขายดีแบบสุดๆครับ
.
หลักๆแล้วตอนนี้ จะจ้างงานให้มาช่วยงานในการสต๊อคสินค้า และจัดสินค้า ให้ทันกับความต้องการที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะ มาจากยอดคำสั่งซื้อออนไลน์ครับ
.
แต่ยอมรับว่าการจ้างงานครั้งนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นแบบชั่วคราวนะครับ แต่จะมีสัดส่วนประมาณ 10-15% ที่เป็นการจ้างให้เป็นพนักงานประจำ โดยหลักๆแล้วพนักงานใหม่ก็มาจากอุตสาหกรรมที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง เช่นการท่องเที่ยว แล้วทำให้ตกงาน
.
========
.
4.เฟดจัดเต็มมาตรการ 2.3 ล้านล้านเหรียญ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสหรัฐพุ่งเป็น 16 ล้านคน
.
#ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก
.

.
========
.
5.มาอัพเดทตลาดกันหน่อยครับ
.
สหรัฐ บวก +1.22%
.
เยอรมนี บวก 2.24%
.
ทองคำ 1740 เหรียญ บวกแรง
.
น้ำมัน Brent 32.03 เหรียญ ลบแรง
.
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Fox, CNN, Yahoo Finance
.
========
.
เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
.
อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
.
ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

 

หุ้นสายการบินของไทยตัวไหนร่วงจาก IPO มากที่สุด
.
#ถามอีกกับอิก
.
แม้ว่าจะเป็นอุตสาหกรามที่เจ็บหนักจากโควิด-19 แต่ในช่วง 5 วันทำการล่าสุดหุ้นกลุ่มนี้บวกมาแล้วเฉลี่ย 17-89% (มีหุ้นบางตัววิ่งชน ceiling 4 วันติดแล้ว)
.
========
.
อันดับ 1 คือ NOK (บมจ.สายการบินนกแอร์) ร่วงจาก IPO มาแล้วกว่า 96%
.
ปัจจุบันมี Market cap: 3,169 ล้านบาท
.
วันที่เข้า IPO : 20 มิถุนายน 2556
.
ปี 2019 ขาดทุน: 2.05 พันล้านบาท
2018 ขาดทุน: 2.78 พันล้านบาท
2017 ขาดทุน: 1.85 พันล้านบาท
.
ปล 1: นกแอร์หยุดบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทางไปจนถึง 31 พ.ค.และขอยืดเวลาจ่ายคืนหนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 พันล้านบาท
.
ปล. 2: ราคาหุ้น 5 วันล่าสุดบวกแล้วกว่า 29%
.
========
.
อันดับ 2 คือ THAI (บมจ.การบินไทย) ร่วงจาก IPO 91%
.
ปัจจุบันมี Market cap: 1.05 หมื่นล้านบาท
.
วันที่เข้า IPO : 23 ก.ค. 2535
.
ปี 2019 ขาดทุน : 1.2 หมื่นล้านบาท!
2018 ขาดทุน: 1.1 หมื่นล้านบาท
2017 ขาดทุน: 2 พันล้านบาท
.
ปล.1 : มีการเก็งกำไรว่า รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน และไม่ปล่อยให้ล้ม และมีข่าวว่าจะมีบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาถือหุ้น
.
แต่ผู้บริหารยืนยันว่ายังไม่มีการหารือกับ strategic partner รายใด
.
ปล.2: ราคาหุ้น 5 วันล่าสุดบวกแล้วกว่า 89% จากจุดต่ำสุด (ชน ceiling ไปแล้ว 4 วันติดๆ) อย่างนี้เค้าไม่ได้เรียกว่าตกรถละ ตกเครื่องบินต่างหาก
.
========
.
อันดับ 3 คือ BA (บมจ.การบินกรุงเทพ ) ร่วงจาก IPO 81%
.
ปัจจุบันมี Market cap: 9.8 พันล้านบาท
.
วันที่เข้า IPO : 3 พ.ย. 2557
.
ปี 2019 กำไร : 350 ล้านบาท (ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไปถือหุ้นบริษัทอื่นด้วย)
2018 กำไร: 250 ล้านบาท
2017 กำไร: 787 ล้านบาท
.
ปล.1 : มีโครงการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 10% สูงสุด 90 ล้านบาท ช่วง 18 มีค.-17 ส.ค.
.
ปล.2: ราคาหุ้น 5 วันล่าสุดบวกแล้วกว่า 17%
.
========
.
อันดับ 4 คือ AAV (บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น ) ร่วงจาก IPO 63%
.
ปัจจุบันมี Market cap: 7.08 พันล้านบาท
.
วันที่เข้า IPO : 31 พ.ค. 2555
.
ปี 2019 ขาดทุน : 474 ล้านบาท
2018 กำไร: 69 ล้านบาท
2017 กำไร: 1.4 พันล้านบาท
.
ปล.1 : AAV มีเงินสดในมือมากถึง 3.9 พันล้านบาท แต่น้อยกว่า BA ที่มีเงินสด 5.2 พันล้านบาท
.
ปล.2: ราคาหุ้น 5 วันล่าสุดบวกแล้วกว่า 42%
.
========
.
ข้อสังเกตของ #ถามอีกกับอิก
.
1.ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจนี้แข่งขันดุเดือดทำให้ผลประกอบการโดยรวมขาดทุนเสียเป็นส่วนใหญ่ หลายบริษัทต้องเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้น
.
2.เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ แต่ก็เป็นอุตสาหกรรมที่รัฐบาลทั้งโลก เลือกที่จะให้เงินสนับสนุน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเป็นอุตสาหกรรมที่จ้างงานเยอะมากๆ
.
3.ถ้าผ่านวิกฤตโควิด ไปได้คงต้องมาวิเคราะห์กันใหม่ว่า จะเหลือใครในตลาดกันบ้าง และจะมีรายใหม่เข้ามาไหม หรือจะมีการซื้อขายกิจการกันหรือป่าว
.
4.ราคาหุ้นระยะสั้นดีดกลับขึ้นมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะร่วงแรงมากๆก่อนหน้านี้ และมีแรงเก็งกำไรด้วยเหตุผลต่างต่างนานาเพราะฉะนั้นระมัดระวังในการซื้อขายด้วยครับ
.
ปล.ข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2563
.
========
.
เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
.
อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
.
ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

 

*ข่าวด่วน*
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลงการณ์ขยายมาตรการควบคุมการสัญจร (Movement Control Order - MCO) โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 28 เมษายน 2563 (จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 14 เมษายน 2563) สถานเอกอัครราชทูตฯ จะมีประกาศอย่างเป็นทางการต่อไปเมื่อมีข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มเติม

 

ช่างตัดผม โอดยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 5 พันบาท จากโครงการเราไม่ทิ้งกัน เผยได้รับความเดือดร้อนนานแล้วจากคำสั่งปิดร้าน มีแต่รายจ่ายไม่มีรายได้ แม้จะเข้าใจในสถานการณ์ แต่อยากให้รัฐมองเห็นและมาเหลียวแลบ้าง #ข่าวช่องวัน #ช่างตัดผม #โควิด19

 

สี จิ้นผิง ย้ำ เข้มงวดมาตรการ สกัดกั้น ‘โควิดนำเข้า’
.
1.วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เป็นประธานการประชุมเตรียมการครั้งใหม่ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาด รับมือผลกระทบที่จะตามมาหลังวิกฤต เพื่อให้คณะทำงานกลับมาทำงานเต็มรูปแบบให้ได้เร็วที่สุด
.
2.ในที่ประชุม นอกจากจะมีการวิเคราะห์ถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แล้ว อีกประเด็นที่สำคัญคือ การสกัดกั้นการติดเชื้อไวรัสจากผู้คนที่กลับจากต่างประเทศ
.
3.สี จิ้นผิง ย้ำให้รักษามาตรการอย่างเข้มงวด สกัดกั้น ‘โควิดนำเข้า’ จากต่างประเทศ เพื่อป้องกันการระบาดซ้ำ
.
4.เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การแพร่ระบาดทั้งในจีนและในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
.
5.สิ่งสำคัญคือ รับมือต่อสถานการณ์อย่างฉับไว ตรงเป้าหมาย มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่ไร้อาการ
.
6.สี จิ้นผิง กำชับให้ดูแลผู้ป่วยไร้อาการทุกคนอย่างตรงจุด เพื่ออุดช่องโหว่ทั้งหมดที่อาจจะนำไปสู่การระบาดซ้ำ
.
7.สำหรับเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ที่ยังคงมีผู้ป่วย ให้เน้นการรักษาผู้ป่วยหนัก ส่วนผู้ป่วยที่หายดีแล้ว กลับบ้านแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ออกไปเยี่ยมเยียน เพื่อตรวจสอบสุขภาพ
.
8.ด้านมาตรการต่างๆที่เคยบังคับใช้เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดในมณฑลหูเป่ย ให้ปรับเปลี่ยนอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์
.
9.ส่วนภูมิภาคอื่นๆของจีน รวมถึงเมืองหลวง กรุงปักกิ่ง จะต้องรักษามาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และประสานงานต่อไป เพื่อยับยั้งโรคระบาด
.
10.ที่ประชุมได้พูดถึงด้านเศรษฐกิจด้วย โดยรัฐบาลจีนจะใช้มาตรการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมขึ้น 2 เท่า เพื่อลดการสูญเสียที่เกิดจากวิกฤตไวรัสโควิด-19
.
อ่านเพิ่มเติม: พบ ‘พาหะเงียบ’ ในจีนเพิ่มขึ้น ติดเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการ จีนเฝ้าระวังเข้ม ลดความเสี่ยงแพร่ระบาดระลอก 2
.

 

ประธานาธิบดีมุนแจอิน
หลังจากวันอีสเตอร์และการเลือกตั้งทั่วไปเสร็จสิ้น เราอาจจะได้เปลี่ยนจากการ เว้นระยะห่างทางสังคม มาเป็นการดูแลป้องกันชีวิตประจำวัน

ประธานาธิบดีมุนแจอินโพสต์ข้อความต่อไปนี้ผ่านทาง SNS

"ในที่สุด ยอดผู้ป่วยรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันในแทกูนั้นเป็นเหลือแค่ '0' นับเป็นครั้งแรกในรอบ 52 วันนับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกในแทกู"

"มันเป็นความสำเร็จครั้งแรกหลังจากผ่านมากว่า 42 วันนับตั้งแต่วันที่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 741 ราย"

ในที่สุดจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันใหม่ทั้งหมดในเกาหลีวันนี้อยู่ที่ 27 ราย"

"เป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ป่วยใหม่ที่ได้รับการยืนยันลดลงต่ำกว่า 30 ราย"

“แต่เราก็ยังจะต้องเฝ้าระวังอยู่ เราคิดว่าเราสามารถที่จะพูดได้เลยว่า เราจะเป็นอยู่แบบนี้ไปอีกหน่อยเดียว”

"เราขอบใจผู้ที่เสียสละในการทำงานอย่างหนัก รวมทั้งประชาชนชาวแทกูเองด้วยที่ร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง นี่จะเป็นการให้กำลังใจและแสดงความขอบคุณจากใจจริงของเรา"

"พี่น้องและประชาชนชาวแทกูทั้งหลาย เราขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการทำงานอย่างหนัก มาร่วมแรงร่วมใจไปด้วยกันอีกสักหน่อยเถิดหนา..."

 

จ.ร้อยเอ็ดปิดเมือง แจ้งพี่น้องที่จะใช้ทางสัญจร ขณะนี้ได้ปิดถนนเส้นทาง ลัดพนมไพร-ยโสธร แล้ว บริเวณสะพานโรงเเรมเจพี

Cr. ตนท้องถิ่น พนมไพร

 

ไฟป่าลุกเผาไหม้ศาลาปฎิบัติธรรม วัดอนาลโยฯ อ.เมือง จ.ลำพูน วอดเสียหาย2หลัง

บ่ายวันนี้ เกิดเหตุไฟป่าลามไหม้ศาลาปฏิบัติธรรมไม้สัก ใกล้กับเจดีย์พุทธคยาจำลอง วัดอนาลโยฯ ต.สันป่าม่วง อ.เมือง จ.พะเยา เจ้าหน้าที่เร่งสะกัดเพลิง

เบื้องต้นพบศาลาปฏิบัติธรรมจำนวน 2 หลังถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
.
.
.
.
.
.
.
เครดิตภาพ/ข่าว MGonline ภาคเหนือ และ Aekchai witchart

 

น่าคิดนะครับ ... กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดิอาระเบีย (Sovereign Wealth Fund) ได้ไล่สะสมหุ้นในบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ในยุโรปถึง 4 แห่งรวมมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทในช่วงที่ราคาหุ้นตกต่ำลงจากการประกาศสงครามราคาน้ำมันจากทางประเทศซาอุเอง...

ตั้งแต่เกิดสงครามราคาขึ้น ทุกๆคนตั้งคำถามเดียวกันหมดว่า #ซาอุจะประกาศสงครามราคาไปทำไม ? ทั้งๆที่คนที่จะเสียหายกับราคาน้ำมันที่ลดลงที่สุดก็คือประเทศของซาอุเอง

“ซาอุดิอาระเบียได้เข้ามาซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันยุโรป (Total, Shell, Equinor) เกือบทุกวันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้กำลังโดนเทขายเพราะราคาน้ำมันที่ตกหนักเพราะพวกเขาเชื่อว่าราคานั้นต่ำกว่าราคาพื้นฐานในระยะยาวแล้ว” แหล่งข่าวของ Reuters รายงานจนทำให้น่าคิด

กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติหรือว่า Sovereign Wealth Fund คือกองทุนของรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อนำสภาพคล่องส่วนเกินของประเทศไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ อย่างเช่น หุ้นสามัญ ตราสารหนี้ภาคเอกชน ทองคำ หรือบางประเทศอาจนำเงินกองทุนนี้ไปลงทุนในธุรกิจที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ซึ่งในครั้งนี้ทางซาอุกลับเลือกที่จะลงทุ้นในหุ้นน้ำมัน !

มันน่าแปลกมากที่ประเทศซาอุซึ่งมีธุรกิจน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่แล้วและน่าจะอยากลดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจต้องพึ่งพาราคาน้ำมันอย่างมหาศาลอยู่แล้ว จะไปซื้อหุ้นธุรกิจน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก.... #เว้นแต่ พวกเขาทราบดีว่าการร่วงลงของราคาจะเป็นแค่ช่วงชั่วคราว...

หลังจากซื้อหุ้นไปเป็นจำนวนมากแล้วทางซาอุก็ได้ปรับจุดยืนในสงครามครั้งนี้อย่างรวดเร็ว (แบบเราตั้งตัวไม่ทัน) โดยการเรียกประชุมและนำทีมในการลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ในการประชุมกลุ่มโอเปกและพันธมิตรเมื่อคืนนี้ และได้อาสาเป็นเจ้าภาพในการประชุมด้านพลังงานของ G20 ในคืนนี้อีก...

#ทำให้น่าคิดว่า ทั้งหมดนั้นเป็นแผนที่วางไว้แล้วหรือไม่ ...

หรือว่าฟอร์มการเตะของ #แมนฯยู หลังๆนี่จะแย่... เป็นเพราะว่าเจ้าชายซาอุอยุ่เบื้องหลังเพื่อรอช้อนซื้อหุ้นในราคาถูกอยู่เช่นกัน...

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

เมื่อคืนนี้เราได้เห็นข้อสรุปของการประชุมกลุ่มโอเปกไปแล้ว (โพสต์เมื่อคืนนี้) แต่มาเช้านี้นั้นทาง Mexico ก็ได้ชี้ให้เราเห็นถึง #จุดอ่อนของข้อตกลงนี้... นั้นคือ...

หากไม่ลงเรือลำเดียวกันอย่างเต็มใจ เรือนั้นก็อาจจะแตกได้ง่ายๆ

ต้องบอกว่าทางทางซาอุและรัสเซียนั้นทำได้ดีกว่าที่คาดในฐานะพี่ใหญ่ของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร โดยการกำลังการผลิตไปมากกว่า 20%-25% เป็นการแสดงถึงความตั้งใจของผู้นำที่ดีแล้ว แต่การรวมตัวของผู้ผลิตมากถึง 20 กว่าประเทศขาดนี้ ทุกๆคนต้องเห็นพ้องต้องกันจริงๆและยอมเสียสละเท่าๆกัน ข้อตกลงจึงจะบรรลุผลได้

เช้านี้เราได้รับรายงานว่าทาง Mexico ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกลุ่มโอเปกมาระยะนึงแล้ว ได้โดนทางกลุ่มขอให้ลดกำลังการผลิตที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ⚠️ แต่ทาง Mexico กลับปฏิเสธและจะขอลดเพียง 1 แสนบาร์เรลต่อวันเท่านั้น

ทำให้ทางโอเปกโดยเฉพาะซาอุนั้นโกรธมากและถึงขั้นจะยกเลิกข้อตกลงทั้งหมดและกลับไปทำ #สงครามราคาน้ำมันใหม่ อีกครั้ง !

ข้อเสนอต่อเม็กซิโกนั้นแฟร์หรือไม่ ?

ประเทศเม็กซิโกนั้นเคยเป็นประเทศที่การผลิตเฟื่องฟู โดยในปี 2006 นั้นทางเม็กซิโกเคยผลิตน้ำมันได้มากถึง 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ต่อมากการผลิตก็ค่อยๆลดน้อยลงมาตลอดเพราะต้นทุนในการผลิตนั้นแพงและคุณภาพน้ำมันที่ได้ออกมานั้นก็เป็นน้ำมันดิบประเภทหนักซึ่งมีมูลค่าน้อย ทำให้ในปีนี้นั้นการผลิตของเม็กซิโกนั้นหล่นไปอยู่ที่เพียง 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน

หากทางเม็กซิโกจะต้องลดกำลังการผลิตที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวันตามข้อเสนอโอเปกจะหมายความว่าเม็กซิโกจะต้องลดกำลังการผลิตสูงถึง 23.5% ซึ่งก็แฟร์ในสายตาของพี่ใหญ่ของกลุ่ม แต่อาจจะดูมากเกินไปในสายตารัฐบาลเม็กซิโก

ทางเราเชื่อว่าทั้งสองฝั่งน่าจะต่อรองและกลับมายอมตกลงกันที่ตัวเลข 3.0 หรือ 3.5 แสนบาร์เรลต่อวันได้ เพราะไม่เช่นนั้นทางเม็กซือโกจะถือว่าไม่เสียสละกับเพื่อนๆและข้อตกลงอาจล่มได้

สิ่งสำคัญอื่นๆที่ต้องรู้วันนี้

1️⃣ วันนี้ทางตลาดน้ำมันทั้ง Brent และ WTI ปิดตลาดทั้งคู่เพราะวันหยุด Easter ใครที่ถือเทรดหุ้นพลังงานและอยากลดความเสี่ยงจากข้อพิพาท Mexico และผลการประชุม G20 ควรทำภายในวันนี้ เพราะถ้าตลาดเปิดจริงๆราคาอาจจะปรับตัวลงไปมากกว่านี้แล้วเพราะข้อพิพาท Mexico (แต่ยังไม่รวมผลของ G20)

2️⃣ การประชุม G20 จะเริ่มเวลา 1 ทุ่มบ้านเรา (19.00น) โดยให้จับตามองว่าทางกลุ่มผู้ผลิตที่เหลือจะยอมรับเงื่อนไขการลดการผลิตอีก 5 ล้านบาร์เรลต่อวันที่ทางโอเปกจะเสนอหรือไม่

3️⃣ ประเทศหลักๆที่ทางโอเปกต้องการความร่วมมือจากคือ สหรัฐ + แคนนาดา + บราซิล ผู้ผลิตอันดับที่ 1 , 4 และ 6 ของโลกตามลำดับที่อยู่นอกกลุ่มโอเปกแต่อยู่ในกลุ่ม G20 และทางเม็กซิโกก็อยู่ในกลุ่ม G20 ด้วยทำให้เราต้องจับตามองผลการประชุมอย่างเข้มข้น

4️⃣ เชื่อว่าทางสหรัฐคงไม่สามารถหลบหนีข้อตกลงนี้ได้หลังทางทรัมป์เป็นผู้โทรสายตรงไปขอให้การประชุมโอเปกนัดยุติสงครามราคาน้ำมันโลกนี้ให้เกิดขึ้นเอง แต่ต้องดูกันต่อไปว่าสหรัฐจะมีวิธีการกำหนดให้ผู้ผลิตรายย่อยกว่าหลายร้อยบริษัทนั้นลดกำลังการผลิตกันอย่างไรถึงจะแฟร์

ติดตามบทวิเคราะห์การประชุม G20 และผลกระทบต่อตลาดไปกับเพจเราได้ครับ แนะนำให้ทุกท่าน กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจไว้ได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆที่ทันตลาด

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

สรุปผลการประชุมโอเปกในคืนนี้ ! มีประเด็นอะไรสำคัญที่เราจะต้อง #ทำความเข้าใจ บ้าง ?

หลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดตลาดที่ 31.5 เหรียญ ลดลงประมาณ -1.2 เหรียญหรือ -3%

นี่ป็นครั้งแรกที่ทางกลุ่มโอเปกมีมาตรการในการลดกำลังการผลิตลงและจะค่อยปรับแบบขั้นบันไดเมื่อการใช้น้ำมันจากไวรัสเริ่มดีขึ้น ! โดยทางประเทศโอเปกและพันธมิตรจะร่วมกันลดการผลิตออกเป็น 3 ช่วงเวลาต่อๆกัน

1️⃣ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ปีนี้ (2 เดือน)
2️⃣ 8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม ปีนี้ (6 เดือน)
3️⃣ 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนมกราคม - เมษายน ปีหน้า (4 เดือน)

และทางกลุ่มจะเสนอให้ทางกลุ่ม G20 และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มพันธมิตรลดการผลิตอีก 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (สหรัฐ + แคนนาดา + บราซิล + นอร์เวย์) ในการประชุมพลังงานของกลุ่ม G20 ในวันพรุ่งนี้

ทางด้านการเคลื่อนไหวของราคานั้นก็คล้ายกับกรอบที่เราได้ให้ไว้เลยนะครับ (ตามคอมเม้นท์จากโพสต์ก่อน)

⏰ 21.45น. ในช่วงเริ่มประชุมมีรายงานว่าทางกลุ่มอาจจะการผลิตได้ 20 ล้านบาร์เรลต่อวันรวมกัน ทางเราบอกแล้วว่ายังไม่เชื่อข่าวนี้ แต่ตลาดก็ขยับไปทางกรอบราคาที่ 1) ที่เราได้ให้ไว้ และ Brent ดีดขึ้นไปแตะ 36 เหรียญ

⏰ 22.00น. ราคาน้ำมันเริ่มโดนเทขายลงมาหลังจากข่าวว่าทางกลุ่มกำลังถกกันเรื่องการลดการผลิตเพียง 10-15 ล้านบาร์เรลต่อวัน

⏰ 23.30น. ช่วงนี้เราถึงได้รับรายงานว่าโอเปกกำลังเริ่มถกการลดการผลิตแบบขั้นบันไดและจะคงการลดที่ไม่เกิน 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงต้น ทำให้ราคาน้ำมันโดน Sell on fact ลงมาเทรดที่ระดับ 33 เหรียญ (ต่ำกว่าช่วงเริ่มประชุม) ตามที่เราคาดการณ์ไว้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากที่สุด

#สิ่งที่เราควรทราบจากการประชุมครั้งนี้

1️⃣ ในกลุ่มผู้ผลิตนั้นทางพี่ใหญ่อย่าง ซาอุและ รัสเซียน่าจะลดกำลังการผลิตกันเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดที่ประมาณ 20-25% โดยทั้งคู่จะลดการผลิตลงมาเหลือ 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวันทั้งคู่ แปลว่าทางซาอุและรัซเซียจะลดประมาณ 3.5 และ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวันจากที่ผลิตอยู่กันตามลำดับ

2️⃣ หลังการประชุม G20 พรุ่งนี้ทางกลุ่มจะนัดพบกันอีกทีในเดือนมิถุนายน ทำให้หากสภาพตลาดดีขึ้นจริงๆการลดกำลังการผลิตจากนั้นไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงอีกทีได้ ตลาดจึงไม่ได้ให้น้ำมันของการลดเดือนหลังเท่ากับ 2 เดือนแรก

3️⃣ ในการประชุม G20 พรุ่งนี้จะยิ่งดึกกว่าวันนี้ ! และวันนี้ทางตลาดน้ำมันทั้ง Brent และ WTI ปิดตลาดทั้งคู่เพราะวันหยุด Easter นะครับ #สำคัญมาก ใครที่มีการเทรดหุ้นและอยากลดความเสี่ยงควรทำภายในวันศุกร์นี้

4️⃣ การลดกำลังการผลิตในช่วงสั้นแค่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันนี้ไม่ช่วงให้น้ำมันหายล้นตลาดแน่ๆ แต่จะพอช่วงพยุงให้การล้นตลาดไม่มากจนเกินไปจนถังน้ำมันยังพอรับได้อยู่ และช่วงสิ้นปีเมื่อการใช้กลับมาจะทำให้ตลาดเริ่มตรึงตัวขึ้น

5️⃣ เรายังมองราคาน้ำมันในวันพรุ่งนี้ในกรอบเดิมที่เราให้ไว้ก่อนประชุมที่ 31.5-34 เหรียญเพราะผลการประชุมไม่ต่างกับที่ตลาดรับรู้ไว้ก่อนหน้านี้ แต่หลักๆจะขึ้นอยู่กับ G20 แล้ว

ทางเพจได้อัพเดทมุมมองต่อการประชุม G20 ที่จะเริ่ม 19.00น. ในคืนนี้ไว้แล้วนะครับ



แนะนำให้ทุกท่าน กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจไว้ได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆที่ทันตลาด

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP