ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    FB_IMG_1585785001164.jpg

    (Apr 1) คอลัมน์ แจงสี่เบี้ย: Social Distancing มิติสังคมวิทยา : พลังไทย'อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ' - สถานการณ์ COVID-19 ระบาด ไม่หยุดทั่วโลก ณ วันที่ 29 มี.ค.2563 มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 6 แสนราย โดย WHO เตือนว่า สหรัฐอาจกลายเป็นศูนย์กลาง การระบาดใหม่ ขณะที่ไทยมีผู้ป่วย เพิ่มขึ้นเร็วสะสมกว่าพันราย ซึ่งล้วน กระจุกอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยวและชายแดนภาคใต้ จนทำให้รัฐบาลตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)

    * ทำไมต้องใช้มาตรการ Social Distancing

    ในทางระบาดวิทยาเป็นที่ยอมรับกันว่า การต่อสู้กับโรค COVID-19 มี 2 แนวทาง คือ (1) การบรรเทาความเสียหาย โดยให้กลุ่มเสี่ยงเช่นแยกตัวผู้สูงอายุออกหรือ การกักโรค(Quarantine) ผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง (2) การยับยั้งโรคโดยใช้ Social Distancing เพื่อชะลอการแพร่ระบาดไม่ให้จำนวนผู้ป่วยสูงจนเกินขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข หรือเป็นอาวุธสำคัญในการ "ลดระดับความชัน ของเส้นโค้ง" ของจำนวนผู้ป่วยได้

    บทเรียนการระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปนเมื่อ 100 ปีที่ผ่านมาชี้ว่า "Social Distancing" ไม่ล้าสมัย และเป็นหนึ่งใน ยุทธวิธีที่ดีที่สุดที่ใช้ต่อสู้กับโรคระบาด ต่างกันที่ในครั้งนี้มีการใช้เทคโนโลยี Big Data และ AI ร่วมด้วย ทั้งการรวมฐานข้อมูลสุขภาพกับข้อมูลการเข้าเมืองเพื่อระบุตัวตน ติดตามประวัติการเดินทาง และแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ซึ่งภาครัฐ ก็ใช้มาตรการสู้วิกฤตินี้อย่างเข้มข้น ทั้ง แอพพลิเคชั่นติดตามตัว การทำงานที่บ้าน การห้ามชุมนุม การปิดสถานประกอบการและสถานศึกษา รวมทั้งการตั้งจุดคัดกรองผู้เดินทางข้ามจังหวัดอย่างเข้มข้น

    หลังจากมีการปิดสถานประกอบการ ในกรุงเทพฯและปริมณฑล เราทราบข่าวความลำบากของแรงงานจำนวนมาก และภาครัฐก็ไม่ได้นิ่งนอนใจโดยได้ออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาลดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจต่อทุกกลุ่ม หนึ่งในนั้นคือ การจ่ายเงินเยียวยาให้แรงงานนอกระบบตามมาตรา 39 และ 40 ลูกจ้างชั่วคราว และอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบรายละ 5,000 บาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน ส่วนแรงงานในระบบได้รับเงินชดเชยตามเกณฑ์ประกันสังคม ซึ่งพบว่า ณ วันที่ 29 มี.ค.63 มีผู้สมัครกว่า 17 ล้านคนหลังจากเปิดลงทะเบียนไปเพียงวันเดียว

    จากงานศึกษาของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) St.Louis (2020) พบว่า Social Distancing กระทบต่อแรงงานทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องติดต่อกับลูกค้าใกล้ชิด ส่วนใหญ่เป็นงานบริการ อาทิ ช่างตัดผม นักกายภาพ และพนักงานเสิร์ฟ ซึ่งในสหรัฐ มีอยู่ราว 27.3 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 5 ของ แรงงานรวม เมื่อเราใช้หลักการเดียวกัน มาวิเคราะห์ พบว่า แรงงานนอกระบบของไทย ที่เปราะบางมากคืออาชีพบริการ 5 ล้านคน อาชีพพื้นฐาน เช่น กลุ่มผู้ใช้แรงงาน พนักงานรับส่งเอกสาร และพนักงานทำ ความสะอาด ที่ 1.8 ล้านคน รวม 6.8 ล้านคน คิดเป็นประมาณ 1 ใน 5 ของแรงงานรวม ใกล้เคียงกับกรณีศึกษาในสหรัฐ ขณะที่ การทำงานที่บ้านก็มีความท้าทาย (Pew Research Centre, 2020) ในสหรัฐมีเพียง 7% ของแรงงานภาคเอกชนและ 4% ของแรงงาน ภาครัฐ ที่สามารถทำงานที่บ้านได้ ส่วนใหญ่ เป็นผู้บริหาร และพนักงานออฟฟิศ ซึ่งในไทย ก็น่าจะมีความท้าทายคล้ายกัน

    * มิติสังคมวิทยา: แรงงานอพยพเพื่อความอยู่รอด

    "Social Distancing" ทำให้แรงงานในเมืองมีรายได้ลดลงขณะที่ค่าใช้จ่าย ยังสูง ไม่มีความคุ้มครองทางสังคม ซึ่งเป็น ปัจจัยผลักดันในเชิงประชากรศาสตร์ ที่ก่อให้เกิดคลื่นอพยพของแรงงาน ผล การสัมภาษณ์แรงงานนอกระบบที่เป็น เครือข่ายศูนย์ประสานงานเพื่อการวิจัยแรงงาน จุฬาฯ พบว่า แรงงานที่กลับบ้าน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรายได้น้อย ลูกจ้างรายวัน เป็นแรงงานหญิงในภาคบริการ โรงแรม และ ภัตตาคาร การตัดสินใจกลับภูมิลำเนาถือเป็น หนึ่งในยุทธวิธีปรับตัวเพื่อความอยู่รอดใน ช่วงวิกฤติ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้

    (1) กลุ่มที่จำเป็นต้องกลับ ได้แก่ กลุ่มที่ถูกเลิกจ้างเพราะสถานประกอบการปิดถาวร และกลุ่มที่ถูกเลิกจ้างชั่วคราว เช่นถูกลดวันทำงาน ลดค่าจ้าง หรือให้หยุดงาน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง รายได้ที่ลดลงทำให้ ไม่สามารถแบกรับภาระค่าครองชีพในเมือง ที่สูงได้ แต่ยังโชคดีที่มีภูมิลำเนาเดิม ให้กลับไปพึ่งพิง ส่วนใหญ่เป็นครัวเรือน เกษตรในชนบท ทั้งนี้ คาดว่าแรงงานบางส่วน อาจกลับภูมิลำเนาถาวรหากสามารถหางาน หรือทำธุรกิจส่วนตัวได้

    (2) กลุ่มที่กลับดีกว่าไม่กลับ ได้แก่ กลุ่มที่หยุดงานเพราะสถานประกอบการปิดชั่วคราว และกลุ่มที่นายจ้างให้ทำงานที่บ้าน แม้บางรายมีรายได้หรือเงินออมพอต่อการดำรงชีวิตในเมือง แต่ต้องการกลับภูมิลำเนาเพื่อลดต้นทุน คาดว่าแรงงานกลุ่มนี้สามารถกลับมาทำงานได้เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ

    (3) กลุ่มที่กลับเพื่อพักผ่อนหรือทำงานจากบ้านในต่างจังหวัดชั่วคราว ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่มีทักษะที่ทำงาน ที่บ้านได้ กลุ่มนี้แม้ไม่ได้รับผลกระทบ แต่ตัดสินใจกลับ เพราะคิดว่าการใช้ชีวิต ในเมืองไม่สะดวก บางรายตัดสินใจกลับก่อน ไม่ได้หยุดสงกรานต์ หรือประเมินว่าอาจมีการห้ามเดินทาง

    ที่น่าสนใจคือ แรงงานบางกลุ่มปรับตัว ได้ด้วยการเปลี่ยนวิถีการประกอบอาชีพให้สอดรับกับความต้องการของเมือง โดยเปลี่ยนไปทำงานที่ใกล้เคียงเดิมตาม ความถนัด เช่น เปลี่ยนจากเย็บเสื้อผ้าเป็นเย็บหน้ากากผ้าขาย จากขับรถรับจ้างเป็นขับรถรับส่งอาหาร

    * "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ฝ่าวิกฤติ COVID-19

    ยามวิกฤติเช่นนี้ "ความเข้าใจ" บริบททางสังคมของประชาชนแต่ละกลุ่มเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะกลุ่มไม่มีทรัพยากรพื้นฐานของการเว้นระยะห่างทางสังคม เช่น กลุ่มหาบเร่แผงลอย คนไร้บ้าน ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเร่งด่วน รวมถึงการเร่งสร้างงานรองรับแรงงานย้ายถิ่นในพื้นที่ต้นทาง และการช่วยเหลือเงินทุน ตั้งต้น ความรู้และเทคโนโลยีหากต้องการทำธุรกิจส่วนตัว

    การเพิ่มความสามารถใน "การเข้าถึง" อุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของที่ใช้ ในการต่อสู้กับ COVID-19 มีความสำคัญยิ่ง เหนือสิ่งอื่นใด ความสำเร็จของ Social Distancing ขึ้นกับการร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวของคนไทยทุกคนในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอเป็นตัวแทนคนไทยส่งกำลังใจให้บุคลากรการแพทย์และวิชาชีพสุขภาพทุกท่านที่ได้ทุ่มเทและเสียสละดูแลผู้ป่วยและประชาชนในยามวิกฤตนี้ แล้วเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

    โดย ดร.เสาวณี จันทะพงษ์
    ทศพล ต้องหุ้ย
    ผศ.ดร.รัตติยา ภูละออ
    ดร.มนทกานต์ ฉิมมามี

    (บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคลซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยและของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/649854
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก China Report ASEAN - Thailand

    ไม่มีมาตรการใดดีไปกว่า ‘การปิดเมือง’
    .
    1.ผลงานวิจัยที่เป็นความร่วมมือระหว่างนักวิชาการสหรัฐฯ อังกฤษ และจีน ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการรายสัปดาห์ชื่อ Science
    .
    2.งานวิจัยล่าสุดเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ผลของมาตรการปิดเมืองที่รัฐบาลจีนบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมกับเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
    .
    3.งานวิจัยระบุว่า การปิดเมืองมีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถทำลายห่วงโซ่การแพร่ระบาด ตัดขาดระหว่างผู้ติดเชื้อกับบุคคลแวดล้อมได้อย่างเด็ดขาด
    .
    4.หากย้อนกลับไปดูในวันที่ 50 ของการระบาดในจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งตรงกับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ มีตัวเลขผู้ป่วยในจีนประมาณ 30,000 คน
    .
    5.ถ้าหากไม่มีการปิดเมือง คือปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปตามปกติ จำนวนผู้ป่วยในจีน ณ วันที่ 50 อาจสูงถึง 700,000 คน
    .
    6.ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่า ไม่มีมาตรการใดดีไปกว่า การปิดเมือง ปิดสถานที่ที่ผู้คนจะไปรวมตัวกัน และให้ประชาชนอยู่กับบ้าน
    .
    7.สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในจีนประจำวันที่ 1 เมษายน คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย รวมเป็นจำนวนผู้เสียชีวิต 3,312 คน
    .
    8.พบผู้ป่วยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่อีก 36 คน เป็นการติดเชื้อภายในประเทศเพียงคนเดียว อีก 35 คนอยู่ในกลุ่มโควิดนำเข้า คือผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 81,554 คน
    .
    9.การรายงานสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดประจำวันที่ 1 เมษายนนั้น เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจีนเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งมีจำนวน 1,367 คน
    .
    10.ผู้ป่วยกลุ่มนี้อยู่ภายใต้การสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ และเป็นที่น่าสังเกตว่า จาก 1,367 คน 205 คนเป็นกลุ่มผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ
    .

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 2 "พายุฤดูร้อน" 30 จว.รับมือ "ฝน-ลม-ฟ้าผ่า" บางแห่งมีลูกเห็บตก
    อุตุฯ เผยไทยตอนบนมี "พายุฤดูร้อน" โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ เตือนประชาชนระวังอันตราย ส่วนกลางวันไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    การจลาจลในอิสราเอลในยาโฟหลังจากตำรวจจับกุมผู้คนหลายคนเนื่องจากละเมิดข้อ จำกัด ของกระทรวงสาธารณสุข

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    ชาวยิว ultra-Orthodoxไม่ต้องการกฎการกักกันเนื่องจาก coronaviruses พวกเขาเป็นตัวแทนเพียง 14% ของประชากรของประเทศ แต่ 60% ของผู้ป่วยที่มี coronavirus ที่โรงพยาบาล Tel HaShomer เป็น ultra-Orthodox

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    นักข่าวชาวเอกวาดอร์หลั่งน้ำตาสดต่อหน้ารายงานเกี่ยวกับ coronavirus เอกวาดอร์กำลังประสบกับสถานการณ์ที่สำคัญในการเผชิญกับการระบาดใหญ่เนื่องจากโรงพยาบาลที่ล้มเหลว ได้รับรายงานและพบศพแม้กระทั่งบนถนน

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาตรการกักกันไม่ประสบผลสำเร็จเต็มร้อย

    Rodolfo Brenes

    คนล้มตัวลงในหูเป่ย, จีน

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การที่กรุงปักกิ่งแถลงการณ์ "เช็งเม้งปีนี้ ใครออกไปนอกปักกิ่ง กลับมาต้องกักตัวอยู่บ้าน 14วัน น่าจะเป็นเพราะปักกิ่งรู้ว่าพื้นที่อื่นๆของประเทศจีนยังคงมีเชืัออยู่

    มาตรการกักกันใช้ไม่ได้ผลเต็มร้อยในการจัดการกับเชื้อ แต่จีนใช้ได้เพราะมีทรัพยากรจำนวนมาก และไม่ได้ปิดทั้งประเทศ ถึงปิดส่วนอื่นๆก็ปิดแค่ในช่วงสั้นๆ ที่สำคัญที่สุดเขามีเงินเก็บไว้เป็นจำนวนมาก การใช้เงินออกมาแก้ปัญหาจัดหาเวชภัณฑ์สร้างสถานพยาบาลและอื่นๆ ก็ไม่ได้กระทบอะไรมากแต่ถ้าประเทศอื่นๆ ไปหลงเชื่อใข้ตามมาตรการของเขาหมดรับประกันได้ล่มจม เพราะหลังจากปิดประเทศแล้วพอผู้ติดเชื้อลดลง ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
    -------
    กรุงปักกิ่งแถลงการณ์ "เช็งเม้งปีนี้ ใครออกไปนอกปักกิ่ง กลับมาต้องกักตัวอยู่บ้าน 14วัน เพื่อป้องกันและควบคุม COVID-19" ด้านชาวโซเชียลจีนแสดงความเห็นติดตลก "สบายเลย ทีนี้ก็ได้หยุดอยู่บ้านเพิ่มอีก 14วัน

    อ้ายจงอ้างอิงจาก

    Weibo: 人民日报

    #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    ฌาปนสถานต่างๆ และโรงพยาบาลมีผู้ป่วยล้นในเอกวาดอร์ ศพนอนอยู่บนพื้นและกั้นพื้นที่รักษาความปลอดภัย

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    ศพถูกเผาบนถนนสาธารณะในเอกวาดอร์

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    โรงพยาบาลเอกวาดอร์ล้มเหลวลง เนื่องจากรัฐบาลซ่อนข้อมูลผู้เสียชีวิต

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    นี่เป็นอีกวิดีโอหนึ่งที่โรงพยาบาล Ceibos, Guayaquil ล้มเหลว ศพอยู่ด้วยกันกับคนที่ป่วยด้วย coronavirus

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    ช่วงเวลาที่พวกเขานำศพออกไปหลังจาก 2 วันแห่งความตายใน Guayaquil, เอกวาดอร์

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    คนทรุดตัวลงบนถนนของ Guayaquil, เอกวาดอร์

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    ศพหลายร้อยร่างในเอกวาดอร์

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาบานก่อนตรวจ

    gQ0g8bZ8XLpAgAy00t1bjI4CtUDLy4cP1d2_nPnIvgDw&_nc_ohc=dr0OOxclkI0AX-MU8Hk&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่วงนี้สวนสัตว์ปิดเลยรีโนเวทบ้านทำหน่อย
    .
    นี้ต้องมายืนคุมงานเองเลย ปกติเวลาสวนสัตว์เปิดต้องรับนักท่องเที่ยวตลอดไม่มีเวลาแบบนี้หรอก
    .
    ที่มาภาพ Twitter #papakrab จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว
    .
    * ฮิปโปถือเป็นสัตว์ที่ดุร้าย คนที่เข้าไปใกล้ได้ขนาดนี้เป็นคนที่มันคุ้นเคยเท่านั้น
    JwNpFrYNN9hrueS2rfaiqB6HMi9jweQbCKVK0FEuXXxA&_nc_ohc=jk7Wl7zeDOwAX-Kypp-&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ใช้เครื่องช่วยหายใจเก่าไปก่อน
    .
    rod.www.spiegel.de%2Fimages%2Fb7e5fd8b-dec1-4ae8-9fbc-a6e9df00b83a_w1280_r1.77_fpx33.84_fpy49.97.jpg
    Der Spiegel สัมภาษณ์บอส Dräger ผู้ผลิตเครื่องช่วยหายใจชั้นนำของโลก เห็นว่าการที่บริษัทรถและอื่นๆหันมาผลิตเครื่องช่วยหายใจไม่ใช่เรื่องง่าย แนะให้นำเครื่องรุ่นเก่าที่เลิกใช้แล้วกลับมาใช้ดีกว่า
    CR TW #pimx

    https://www.spiegel.de/internationa...5xfFsNIw7IYEcCpDwVM2RU94oW1f08LmI3D2z1vrSSi70
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "ชุดผลิตฮอร์โมน ที่สามารถทำให้คุณพ่อ ป้อนนมลูกจากเต้าของตัวเองได้ !"
    &w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fwww.flagfrog.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2018%2F10%2Fdf89g79erwt.png
    “Chestfeeding” ชุดผลิตฮอร์โมน ที่สามารถเปลี่ยนหน้าอกผู้ชายให้เป็นเป็นเต้านม moobs หรือ man-boobs ที่พร้อมด้วยน้ำนมสำหรับให้นมลูก ซึ่งหากทานยาอย่างต่อเนื่อง เต้านมจะใหญ่ขึ้นเหมือนหน้าอกของผู้หญิงคัพ B เลยทีเดียว
    ถึงอย่างไรก็ตามไม่มีอะไรมารับประกันว่าเมื่อผู้ชายมีเต้านมเหมือนผู้หญิงแล้ว พวกเขาจะมีน้ำนมออกมาหรือไม่และน้ำนมที่ได้มีสารอาหารเพียงพอหรือไม่ อีกทั้งปัญหาเรื่องของสุขภาพจิต ที่หลังจากพวกเขาหยุดใช้ยาเหล่านี้ พวกเขาจะกลับมารู้สึกเป็นผู้ชายปกติได้อีกหรือเปล่า

    https://www.flagfrog.com/dad-feed-baby-by-own-breast/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,785
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เผยโฉมห้องคัดกรองโควิด-19 ติดตั้งเสร็จใน 2 วัน มูลนิธิเอสซีจีจัดให้ รพ.ราชวิถี แห่งแรก เขียนวันที่วันอังคาร ที่ 31 มีนาคม 2563 เวลา 17:45 น.

    มูลนิธิเอสซีจี ส่งมอบนวัตกรรมห้องคัดกรองและตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงที่ใช้เวลาติดตั้งหน้างานเพียง 2 วัน ให้โรงพยาบาลราชวิถีเป็นแห่งแรก พร้อมระบบที่ตอบโจทย์การใช้งานและความปลอดภัย ทั้งการแยกพื้นที่ทีมแพทย์และคนไข้ออกจากกัน มีระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม จึงช่วยลดโอกาสติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ และผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

    310320_scg12.jpg

    นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า “แม้จะผ่านมากว่า 3 เดือน หลังจากมีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาเป็นครั้งแรก ปัจจุบันยังคงมีผู้ป่วยใหม่หรือกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงที่มารับการตรวจในคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ของโรงพยาบาล จำนวนมากพอสมควร โรงพยาบาลจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเอสซีจี ในการสร้างห้องตรวจที่มีประสิทธิภาพแห่งนี้ ซึ่งสามารถรองรับจำนวนผู้ที่เข้ามาตรวจคัดกรองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ห้องคัดกรองและตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้ถูกแยกออกจากตัวอาคารโรงพยาบาล จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อให้กับทีมแพทย์ พยาบาล ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งยังสร้างความปลอดภัยกับผู้ป่วยอื่น ๆ ได้อีกทางหนึ่งด้วย”

    310320_scg14.jpg

    ด้าน นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการมูลนิธิเอสซีจี และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยว่า “ด้วยความห่วงใยในการทำงานของทีมแพทย์ พยาบาล ตลอดจนบุคลากรที่ทำงานในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นด่านหน้าในการต่อสู้และยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ เอสซีจี จึงได้เร่ง ออกแบบประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมของ SCG HEIM และ Living Solution พัฒนามาเป็นห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดโควิด-19 โดยใช้เวลาติดตั้งเพียง 2 วัน เพื่อส่งมอบให้ทีมแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลราชวิถี ให้สามารถรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดที่มีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นได้อย่างทันท่วงที และช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล”

    ขณะที่ นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวเสริมว่า “หลังจากที่ทีมงานได้ศึกษาความต้องการและสังเกตการทำงานของทีมแพทย์ พยาบาล ที่โรงพยาบาล ทำให้สามารถพัฒนาห้องคัดกรองและตรวจผู้ที่มีความเสี่ยง ที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด กล่าวคือ นอกจากโครงสร้างกว่าร้อยละ 70-80 จะถูกประกอบขึ้นรูปภายในโรงงาน ที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิตแล้ว ภายในห้องยังถูกออกแบบให้มีระบบและความดันที่เหมาะสม โดยทีมแพทย์จะอยู่ในห้องที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องที่ป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ทีมแพทย์

    ได้แก่ ระบบควบคุมแรงดัน และการหมุนเวียนของอากาศ ที่สะอาด ปลอดภัย ลดโอกาสติดเชื้อ และ ระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air tightness) ที่ช่วยป้องกันฝุ่น เสียง และอากาศ เข้า-ออกตัวอาคาร

    310320_scg13.jpg

    โดย ห้องคัดกรอง (Modular Screening Unit) จะถูกปรับความดันอากาศให้ผลักอากาศเสียออก และเพิ่ม Bio-polar Ion เพื่อจับเข้ากับโมเลกุลของเชื้อไวรัสที่อาจหลุดรอด ซึ่งทีมแพทย์ พยาบาล จะอยู่ในห้องปิดสนิท และซักประวัติผู้ป่วยผ่านกระจกที่มีอุปกรณ์สื่อสาร ส่วน ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) จะแยกคนไข้มาอยู่ในห้องปรับความดันอากาศ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสฟุ้งกระจาย พร้อมใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังการใช้งานห้องทุกครั้ง ซึ่งการเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกเพื่อเก็บตัวอย่าง จึงลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้ที่เข้ารับการตรวจ ทั้งนี้ ห้องปฏิบัติการทั้งหมดจะถูกแยกเป็นส่วนย่อย ๆ (Cell) เพื่อแยกปิดได้ในกรณีฉุกเฉินที่เกิดการรั่วระหว่างห้องบุคลากรทางการแพทย์กับห้องผู้เข้ารับการตรวจอีกด้วย”

    นอกจากนี้ มูลนิธิเอสซีจี ยังส่งมอบห้องน้ำสำเร็จรูป (Modular Bathroom) ให้โรงพยาบาลราชวิถีจำนวน 12 ห้อง โดยโครงสร้างผลิตจากคอนกรีตเบาแบบเบ็ดเสร็จพร้อมใช้งานจากโรงงาน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อง่ายจึงช่วยสร้างสุขอนามัยที่ดี โดยจัดวางแยกพื้นที่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจคัดกรองอีกด้วย

    Modular Screening & Swab Unit และ Modular Bathroom นี้จึงถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาและต่อยอดด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของทีมงาน เพื่อช่วยสนับสนุนให้การทำงานของทีมแพทย์ พยาบาล สามารถต่อสู้กับเชื้อร้ายโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย ราบรื่น และรวดเร็วยิ่งขึ้น

    310320_scg11.jpg

    https://www.isranews.org/article/isranews-pr-news/87079-news-10.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...