ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฉลองปีใหม่ด้วยขีปนาวุธ และสงคราม

    Setiawan


    สงครามครั้งใหม่เพิ่งเกิดขึ้นในแบกแดด, อิรัก ในปีใหม่อีฟ 2020


    #HeavyNewYear2020


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


    มีรถยนต์หลายสิบคันถูกจุดไฟเผาในปารีส ฝรั่งเศสก่อน 1 ชั่วโมงของการฉลองส่งท้ายปี


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    วาติกันผู้หญิงคว้าแขนของสมเด็จพระสันตะปาปาอย่างรุนแรงเพื่อดึงเขาเข้าหาเธอ ปฏิกิริยาของสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นไปอย่างรวดเร็ว 2563 เริ่มด้วยความยากลำบากอย่างแน่นอน


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    อินโดนีเซียเกิดน้ำท่วมฉับพลันในวันปีใหม่ของประเทศ #2020


     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan


    ปีใหม่หนักๆ 2020!

    จาการ์ตาด้วย❤

    จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 1 มกราคม 2020


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำแรงดีน่ะครับ

    Setiawan


    ปีใหม่หนักๆ 2020!

    จาการ์ตาด้วย❤

    จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 1 มกราคม 2020


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rosh Hashanah นี่เป็นเวลาแห่งเสียงแตรเขาสัตว์

    blowingshofar.jpg สวัสดีครับเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเราชาวคริสตชนเพราะจะมีเทศกาลต่างๆตามปฏิทินยิวที่เป็นตารางเวลานัดพบกับพระเจ้า เทศกาลต่างๆมีความสำคัญและมีความหมายในฝ่ายวิญญาณ บางท่านอาจจะคิดว่าเทศกาลต่างๆของพระเจ้านั้นไม่มีประโยชน์อะไรสําหรับผู้เชื่อเลย แต่ว่าใน โคโลสี บทที่่ 2 อัครทูตเปาโลได้สอนไว้ว่าเราไม่ควรที่จะ “ยอมอยู่ใต้บัญญัติต่างๆอันเป็นหลักธรรมและคําสอนของมนุษย์” (โคโลสี 2:20,22) ที่จะทําให้เราหยุดปฏิบัติตามเทศกาลต่างๆได้อย่างถูกต้อง อัครทูตเปาโลได้เขียนไว้ว่า “อย่าให้ผู้ใดพิพากษาปรักปรำท่านใน...เรื่องเทศกาล วันต้นเดือน หรือวันสะบาโตสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเงาของเหตุการณ์ที่จะมีมาในภายหลัง” โคโลสี 2:16- 17)
    อัครทูตเปาโลได้กล่าวไว้ว่าเทศกาลต่างๆนั้นเป็นเงาของเหตุการณ์ที่จะมีมาภายหลัง ฉะนั้นเทศกาลต่างๆของพระเจ้าสอนเราเกี่ยวกับแผนของพระเจ้า
    พระเจ้าได้ทรงบรรยายถึงทุกเทศกาลของท่านไว้ใน เลวินิติ บทที่ 23 ได้เริ่มต้นด้วยคําว่า “พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า เทศกาลเลี้ยงตามกําหนดแด่พระเจ้า ซึ่งเจ้าจะต้องประกาศว่าเป็นการประชุมบริสุทธ์” (เลวินิติ 23:1-2)
    เทศกาลเหล่านี้เป็นวันประชุมบริสุทธ์ที่ทุกคนจะมาประชุมกันและเรียนรู้ถึงแผนการของพระเจ้า

    บางคนมีความเชื่อว่าพระเจ้าได้ให้ชาวอิสราเอลถือเทศกาลเหล่านี้แต่เพียงพวกเดียว แต่พระเยซูได้ทรงสอนทุกคนให้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ (มัทธิว 5:17-19) พระองค์ไม่ได้มาเลิกล้างธรรมบัญญัติ แต่พระองค์ทำให้สมบูรณ์
    อัครทูตเปาโล ยอห์นและศิษย์คนอื่นทุกคนก็ได้สอนให้ทุกคนประพฤติตามธรรมบัญญัติและรวมทั้งเทศกาลต่างๆด้วยเช่นกัน (1 โครินธ์ 5:8,1 ยอห์น 5:3) พระเยซูก็ได้ปฏิบัติตามเทศกาลต่างๆเช่นกัน (ยอห์น 2:23,7:10,14,37)
    และผู้เชื่อช่วงระยะเริ่มต้นก็ได้ปฏิบัติตามเทศกาลต่างๆเช่นกัน (กิจการของอัครทูต 2:1,18:21, 20:6, 16)
    และในอนาคตนั้นทุกคนจะกระทําการฉลองเทศกาลต่างๆ ดังที่พระธรรม เศคาริยห์ 14:16 กล่าวเป็นเชิงพยากรณ์ไว้ว่า
    เศคาริยห์ 14:16 และอยู่มาบรรดาคนที่เหลืออยู่ในประชาชาติทั้งปวงซึ่งยกขึ้นมาสู้รบกับเยรูซาเล็ม จะขึ้นไปนมัสการกษัตริย์ปีแล้วปีเล่า คือพระเจ้าจอมโยธา และจะถือเทศกาลอยู่เพิง

    พระเจ้าได้ทรงสร้างเทศกาลต่างๆไว้สําหรับทุกคน

    เราไม่ได้เลียนแบบวิธีการฉลองเทศกาลต่างๆ แต่เราเรียนรู้จากหลักการฉลองเทศกาลต่างๆ เพื่อเตรียมชีวิตของเราสู่วาระเวลาของพระเจ้า เพื่อเคลื่อนไปตามพระองค์

    ในครั้งนี้ผมขอนำคำสอนของอ.นิมิต พานิชที่สอนในเรื่อง Rosh Hashana นี่เป็นเวลาเแห่งเสียงแตรเขาสัตว์ มาสรุปให้อ่านดังนี้ครับ

    เลวีนิติ 23:23-25
    23 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
    24 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ในวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ด เจ้าทั้งหลายจงถือเป็นวันหยุดพักสงบวันหนึ่ง เป็นวันประชุมบริสุทธิ์ประกาศเป็นที่ระลึกด้วยเสียงแตร
    25 เจ้าอย่าทำงานหนัก และเจ้าจงนำเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระเจ้า"


    เนื่องจากในช่วงเย็นวันที่ 28 กันยายน 2011 ตามปฏิทินยิว เป็นช่วงเวลาเริ่มต้นเทศกาลแห่งเสียงแตรเขาสัตว์ Rosh Hashanah หรือที่เราเรียกว่า ร้อช ฮ้าชชะนาห์ (28 ก.ย.-30 ก.ย.) ซึ่งเป็นเทศกาลเริ่มต้นปี (Head of the year) มีความสำคัญและมีความหมายฝ่ายวิญญาณมาก HeadOfTheYear5772.jpg

    เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา อ โรเบิร์ต ไฮด์เลอร์(Robert Heidler) ได้มาสอนให้เราเข้าใจเรื่องความหมายของปฎิทินยิวในปี 5772 ตามปฏิทินฮีบรู เป็นปีของอักษรבע"Ayin-Bet"คือ
    พระเจ้าเฝ้าดูเหนือบ้านของพระองค์ ที่สำคัญสุดคือพันธสัญญา (covenant) เป็นปีของการเข้าใจเรื่องพันธสัญญา พระเจ้าไม่เพียงแต่ต้องการให้เราเดินในพันธสัญญา แต่พระองค์ถักทอเชื่อมเราไว้ในพันธสัญญาของพระองค์

    และอ.แอแลน ฟาบิยอน (Allen Faubion)ได้สอนเราให้เข้าใจในเรื่องการป่าวประกาศฤดูกาลใหม่ด้วยเสียงแตรเขาสัตว์(Shofar)
    ดังนั้นให้เราพิจารณาถึงเทศกาลนี้ เพื่อจะมีความเข้าใจและก้าวไปสู่เวลาใหม่ของพระเจ้า

    เทศกาลเสียงแตรมีขึ้นในวันแรกของเดือนที่เจ็ด (เดือนทีชรี) เป็นเดือนที่สำคัญมากเพราะในเดือนนี้มีเทศกาลอยู่ถึงสามเทศกาลได้แก่ เทศกาลเป่าแตรเขาสัตว์(Rosh Hashanah) เทศกาลวันลบมนทิลบาป (Day of Atonement)และเทศกาลอยู่เพิง (Feast of Tabernacles)



    ในปี 2011 จะเป็นช่วงเวลาในเดือนกันยายน-ตุลาคม จะมีเทศกาลดังนี้


    1. เทศกาลแห่งเสียงแตรเขาสัตว์ Rosh Hashanah (ร้อช ฮ้าชชะนาห์) ช่วงวันที่ 28 ก.ย.-30 ก.ย.
    2. เทศกาลวันลบมนทิลบาป (Day of Atonement) (Yom Kippur - ยม คิปปูร์)ช่วงวันที่ 7-8 ต.ค.ในช่วง 10 วันตั้งแต่ Rosh Hashanah ถึง Yom Kippur เป็นช่วงวันแห่งความยำเกรงพระเจ้า (Days of Awe)(Awesome)
    3. เทศกาลอยู่เพิง (Feast of Tabernacles)(Sukkot-สุคต)ช่วงวันที่ 12-19ต.ค.
      ทั้ง3เทศกาลนี้เป็นแบบที่ทำให้เห็นแผนการแห่งการไถ่ที่สมบูรณ์ของพระเจ้า
    ในแต่ละปีทางศาสนาของยิวนั้นจะมีการเป่าแตรเขาสัตว์ แต่การเป่าแตรในเทศกาลเป่าแตรเขาสัตว์ ซึ่งอยู่ในเดือนที่เจ็ดนั้น ถือเป็นการเป่าแตรเขาสัตว์ ในช่วงระยะเวลาท้ายสุดของปี เพื่อบอกถึงการสำเร็จเสร็จสิ้น ความสมบูรณ์ในแผนการของพระเจ้าสำหรับการไถ่บาป และเปิดฉากสู่การก้าวสู่เวลาใหม่ มิติใหม่ หรือ ก้าวสู่ New world

    ในพระคัมภีร์เดิม เทศกาลเป่าแตรมีขึ้นในวันแรกของเดือนที่เจ็ด หรือเดือนทีชรี แต่เดิมเรียกว่าเดือนเอธานิม ซึ่งปรากฏใน
    1 พงศ์กษัตริย์ 8:2 และผู้ชายทั้งสิ้นของอิสราเอลก็ประชุมต่อพระพักตร์พระราชาซาโลมอน ณการเลี้ยงในเดือนเอธานิม ซึ่งเป็นเดือนที่เจ็ด
    แต่มาภายหลังเมื่ออิสราเอลกลับจากการเป็นทาสที่บาบิโลนจึงเรียกชื่อเดือนนี้ใหม่เป็นเดือนทิชรี ทิชรีจึงเป็นเดือนแรกในปฏิทินชาวบาบิโลน
    ชาวยิวเรียกวันแรกในเดือนทิชรีนี้ว่า ร้อช ฮ้าชชะนาห์ ซึ่งแปลตามตัวอักษรหมายถึง ต้นปี (Head of the year)คนยิวจึงถือเอาวันนี้เป็นวันปีใหม่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้น คือ เริ่มต้นสิบวันแห่งการกลับใจใหม่ หรือ เริ่มต้นวันอันน่ายำเกรง (Days of Awe) นี่เป็นสิบวันแห่งการเตรียมตัวสู่วันลบมลทินบาปหรือวันยมคิปปูร ซึ่งอยู่ในวันที่สิบของเดือนที่เจ็ด
    เทศกาลเสียงแตรและวันแห่งการลบมลทินบาปนี้ มีความแตกต่างจากเทศกาลอื่น ๆ นั่นก็คือ

    ประการแรก เทศกาลทั้งสองนี้ไม่มีความเชื่อมโยงใด ๆ กับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของชาติ มีการเฉลิมฉลองเทศกาลนี้อย่างเป็นส่วนตัว เพราะถือว่าเป็นเวลาส่วนตัวที่เล็งถึงแต่ละคนจะยืนขึ้นต่อหน้าพระเจ้าที่ทรงประทับบนบัลลังก์การพิพากษาและร้องขอการอภัยบาป และการชำระบาป

    ประการที่สอง เทศกาลอื่น ๆ จะเฉลิมฉลอง เน้นความชื่นชมยินดีในจิตวิญญาณ แต่เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่เน้นการใคร่ครวญทางจิตวิญญาณ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเสด็จกลับมาพิพากษาและปกครองโลก


    เทศกาลเสียงแตรถือเป็นหนึ่งในสองเทศกาลที่มีบรรยากาศจริงจัง ซึ่งมาจากข้อพระวจนะใน เลวีนิติ 23:24 บอกให้เป็นวันที่ระลึกด้วยเสียงแตรและในกันดารวิถี 29:1 บอกว่าเป็นวันที่ให้คนทั้งหลายเป่าแตรในพระคัมภีร์เดิมมีการอ้างถึงเทศกาลเสียงแตรครั้งแรกใน เลวีนิติ 23:24
    24 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ในวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ด เจ้าทั้งหลายจงถือเป็นวันหยุดพักสงบวันหนึ่ง เป็นวันประชุมบริสุทธิ์ประกาศเป็นที่ระลึกด้วยเสียงแตร
    และมีการอ้างถึงครั้งที่สองใน กันดารวิถี 29:1"ในวันที่หนึ่งเดือนที่เจ็ดเจ้าจงมีการประชุมบริสุทธิ์ เจ้าอย่าทำงานหนัก เป็นวันให้เจ้าทั้งหลายเป่าแตร" โดยปกติแล้วก็มีการเป่าโชฟาร์ ทุกต้นเดือน (Rosh Khodesh) โรช คอเดช

    กันดารวิถี 10:10 ในวันที่เจ้าทั้งหลายมีความยินดี และในงานเทศกาลและในวันต้นเดือนของเจ้า เจ้าจงเป่าแตรเหนือเครื่องเผาบูชาและเหนือสัตวบูชาอันเป็นเครื่องศานติบูชา เป็นที่ให้พระเจ้าของเจ้าระลึกถึงเจ้า เราเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า"
    แต่การเป่าแตรในเดือนเจ็ดนี้พิเศษกว่าเดือนอื่น ๆ ตรงที่เป็นการปลุกให้คนยืนขึ้นเพื่อเตรียมตัวให้พรอ้มก่อนการพิพากษาของพระเจ้าจะมาถึง
    การเป่าแตรเป็นการเรียกให้กลับใจใหม่ก่อนวันแห่งการลบมลทินบาปซึ่งเล็งถึงวันแห่งการพิพากษาของพระเจ้า
    โดยทั่วไป การเป่าแตรในแต่ละเดือนนั้นใช้แตรสั้น แต่การเป่าแตรในเดือนเจ็ดนั้นเป็นการเป่าแตรโดยใช้แตรที่มีขนาดยาว แตรแบบนี้จะให้เสียงดังกว่าเสียงดังจะปลุกจิตวิญญาณที่หลับใหลให้ตื่นขึ้น

    คำว่า ร้อช ฮ้าชชะนาห์ แปลว่า จุดเริ่มต้นของปี (Head of the year) คนยิวจะมีปฏิทินแตกต่างกัน คือ ปฏิทินทางศาสนา และปฏิทินทั่ว ไป ปฏิทินทางศาสนานั้นจะเริ่มต้นนับในฤดูใบไม้ผลิ ดังที่บันทึกในอพยพ12:2 เฉลยธรรมบัญญัติ 16:1

    เดือนแรกในปีทางศาสนา คือ เดือนที่คนอิสราเอลออกจากอียิปต์ และได้ฉลองเทศกาลปัสกา ซึ่งถือเป็นเทศกาลแห่งการไถ่ เรียกกันว่าเดือนอาบิบ คือ เดือนแห่งการได้ยินเสียง แต่ภายหลังเมื่อคนอิสราเอลกลับจากการเป็นทาสที่บาบิโลน ได้ตั้งชื่อเดือนอาบิบใหม่เป็นเดือนนิสาน ซึ่งเริ่มต้นในวันเพ็ญของเดือนมีนาคม หรือเมษายน
    ส่วนปีที่ประชาชนทั่วไปยึดถือกัน เป็นปีทางการเกษตร ไม่ใช่ปฏิทินทางศาสนานั้นเชื่อว่า การเริ่มต้นปีอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ล่วงซึ่งอยู่ในเดือนที่เจ็ด ภายหลังจากที่อิสราเอลกลับจากการเป็นเชลย ได้เรียกเดือนนี้ว่าเดือนทิชรี

    ตามประวัติศาสตร์พบว่าเครื่องมือที่ใช้ในการเป่าในวัน ร้อช ฮ้าชชะนาห์ ในอดีตเคยใช้โชฟาร์ ซึ่งเป็นเขาแกะที่มีลักษณะโค้ง
    แต่ต่อมาในสมัยหลังๆ คนยิวส่วนใหญ่กลับใช้แตรเงิน ซึ่งเชื่อกันว่า การเป่าด้วยแตรเงินมีความหมายยิ่งใหญ่กว่าการเป่าด้วยโชฟา เพราะว่า แตรเงินมักนำมาใช้อย่างกว้างขวางในพิธีทางศาสนามากกว่า
    การเป่าเสียงแตรนั้นจะกระตุ้นความรู้สึก ออกจากความเฉื่อยชา และทำให้เกิดการตระหนักรู้ ใคร่ครวญในจิตวิญญาณ เสียงการเป่าโชฟาร์นั้นมีครั้งแรกที่พระเจ้าสำแดงบนภูเขาซีนาย

    อพยพ 19:16 อยู่มาพอถึงรุ่งเช้าวันที่สาม ก็บังเกิดฟ้าร้องฟ้าแลบ มีเมฆอันหนาทึบปกคลุมภูเขานั้นไว้กับมีเสียงแตรดังสนั่น จนคนทั้งปวงที่อยู่ในค่ายต่างก็พากันกลัวจนตัวสั่น

    การเป่าโชฟาร์ ในเทศกาลเสียงแตรเขาสัตว์ หรือ ร้อช ฮ้าชชะนาห์ มีความหมายอย่างไรบ้างและเป่าอย่างไร ลองพิจาณากันโดยสังเขปดังนี้
    (ข้อมูลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Rosh_Hashanah)


    1. เป่าแบบเทคีอาห์ (Tekiah) เป่าเสียงเดียวยาวใช้เพื่อเรียกประชุม ความหมายฝ่ายวิญญาณหมายถึงข้อตกลง (Agreement)
      กันดารวิถี 10:3 เมื่อเป่าแตรทั้งสองนั้นก็ให้ชุมนุมชนทั้งหมดมาประชุมพร้อมกันกับเจ้าที่ประตูพลับพลาแห่งชุมนุม

    2. เป่าแบบเชวาริม (Shevarim) เป่าเสียงแตก 3 ครั้ง เพื่อเคลื่อนขบวนทัพความหมายฝ่ายวิญญาณหมายถึงการกลับใจ (repentance) กันดารวิถี 10:5 เมื่อเป่าแตรปลุกให้บรรดาค่ายที่ตั้งอยู่ด้านตะวันออกยกออกเดิน

    3. เป่าแบบเทรูอาห์ หรือ เทรัวห์ (Teruah)เป่าเสียงสั้น 9 ครั้ง เพื่อทำการรบในสงคราม ความหมายฝ่ายวิญญาณหมายถึงการรับใช้ (ministry) กันดารวิถี 10:9 และเมื่อเจ้าทั้งหลายจะไปทำศึกในแผ่นดินของเจ้าสู้ศัตรูผู้มาบีบบังคับเจ้า ก็ให้เป่าแตรทำเสียงปลุก และเจ้าจะเป็นที่ระลึกต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะได้พ้นจากศัตรูของเจ้า

    press_shofar_300dpi.jpg นอกจากนี้เป็นการเป่าแบบผสมผสาน เช่น แบบเทคีอาห์ กีโดอาห์ Tekiah Gedolah เป่าเสียงดังยาวนานใช้เมื่อจบการอธิษฐานที่เรียกว่า Ashkenazi rite prayer services
    อพยพ19:16 อยู่มาพอถึงรุ่งเช้าวันที่สาม ก็บังเกิดฟ้าร้องฟ้าแลบ มีเมฆอันหนาทึบปกคลุมภูเขานั้นไว้กับมีเสียงแตรดังสนั่น จนคนทั้งปวงที่อยู่ค่ายต่างก็พากันกลัวจนตัวสั่น
    อพยพ19:19 เมื่อเสียงแตรยิ่งดังขึ้น โมเสสก็กราบทูล พระเจ้าก็ตรัสตอบเป็นเสียงร้อง


    ในครั้งนี้เราจะมาพิจารณาในเรื่องเวลาแห่งเสียงแตรเขาสัตว์ 4 ประการคือ

    1 เสียงปลุกให้ตื่นตัวฝ่ายวิญญาณ (Revive)
    (Revive! wake up !:จงฟื้นขึ้น จงตื่นตัว!)

    ผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์เดิมใช้เป็นคำว่า “โชฟาร์” เป็นอุปมาเปรียบเทียบถึงการเรียกผู้คนให้กลับใจและหันกลับมาหาพระเจ้า จากการหลับไหลในฝ่ายวิญญาณ
    ตัวอย่างเช่น ผู้เผยพระวจนะโยเอล เป่าแตรหรือโชฟาร์ ในศิโยนเพื่อเรียกให้คนกลับใจใหม่
    โยเอล 2:15 จงเป่าเขาสัตว์ที่ในศิโยน จงเตรียมทำพิธีอดอาหาร จงเรียกประชุมตามพิธี
    ในระหว่างการปฏิรูปศาสนาของกษัตริย์อาสา คนอิสราเอลแสวงหาพระเจ้า
    2 พงศาวดาร 15:12 และเขาก็เข้าทำพันธสัญญาที่จะแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา ด้วยสุดจิตสุดใจของเขา
    และเขาได้ประทับคำสัญญาของพวกเขาด้วยเสียงแตร
    2 พงศาวดาร 15:14 เขาทั้งหลายได้กระทำสัตย์สาบานต่อพระเจ้าด้วยเสียงอันดัง และด้วยเสียงโห่ร้อง และด้วยเสียงแตรและเขาสัตว์
    เสียงโชฟาร์เป็นเสียงแห่งการต่อต้านความบาป



    อิสยาห์ 58:1 จงร้องดังๆอย่าออมไว้ จงเปล่งเสียงของเจ้าเหมือนเป่าเขาสัตว์ จงแจ้งแก่ชนชาติของเราให้ทราบถึงเรื่องการทรยศของเขา แก่เชื้อสายของยาโคบเรื่องบาปของเขา

    เสียงของโชฟาร์เป็นเสียงเรียกให้ตอบสนอง เพื่อใคร่ครวญดูการกระทำของตน และดำเนินชีวิตใหม่ให้ถูกต้อง ก่อนวันแห่งการพิพากษา เป็นการหวนระลึกถึงการกระทำของตน เป็นการเผชิญหน้ากับจิตวิญญาณภายในของตน
    พระเจ้ามักสื่อสารและเตือนประชากรของพระองค์ล่วงหน้าเสมอ ก่อนที่พระองค์จะทำการพิพากษา พระเจ้าเตือนประชากรของพระองค์ก่อนน้ำจะท่วมโลก และเตือนนินะเวห์ก่อนจะเกิดหายนะ
    เทศกาลแห่งเสียงแตรสะท้อนถึง พระประสงค์ของพระเจ้าที่จะรวบรวมประชากรของพระองค์ให้กลับใจใหม่ เพื่อว่าพระองค์จะสามารถกู้พวกเขาในวันแห่งการพิพากษาได้

    ชาวยิวมีช่วงเวลาสิบวันเรียกว่า “สิบวันแห่งการสำนึกบาป” ซึ่งเริ่มขึ้นในเทศกาลเสียงแตร และสิ้นสุดในวันทำการลบมลทินบาปซึ่งนับว่าเป็นวันสำคัญที่สุดในปฏิทินอิสราเอล
    ในระหว่างเวลาเหล่านี้ พวกประชาชนต่างพยายามแสวงหาโอกาสคืนดีกับศัตรู ระลึกถึงคนอนาถา และจะกลับใจจากบาป เพื่อเตรียมใจสำหรับวันลบมลทินที่จะมาถึง
    เทศกาลเป่าแตรสำคัญมาก เป็นการเปิดฉากการพิพากษาของสวรรค์ ซึ่งนำไปสู่วันลบมนทิลบาป ซึ่งจะเผยให้เห็นบาปของคนอิสราเอลแต่ละคน นี่เป็นภาพที่เล็งไปถึงการเสด็จกลับมาของพระคริสต์ เพื่อพิพากษาโลกนี้ ในวันสุดท้ายนั้น บาปของทุกคนจะถูกเปิดออกให้เห็น

    คนยิวเชื่อว่า การพิพากษาครั้งสุดท้ายได้เปิดฉากในเทศกาลร้อช ฮ้าชชะนาห์ ด้วยเสียงแตร และจะปิดฉากเมื่อครบกำหนดสิบวันหลังจากนั้น ซึ่งเป็นวันลบมลทินบาป
    วันทำการลบมนทิลจะตรงกับวันที่สิบของเดือนที่เจ็ด ในวันนี้มหาปุโรหิตจะแยกตัวออกจากคนอื่น ๆ ปุโรหิตจะถอดเครื่องยศบริสุทธิ์และงดงามออก สวมเพียงเสื้อกางเกงและหมวกผ้าป่านสีขาว (ซึ่งเล็งถึงความเป็นมนุษย์ของพระคริสต์” เขาจะชำระกายห้าครั้งกับล้างมือและเท้าสิบครั้ง
    แพะสองตัวเป็นลักษณะเฉพาะที่สำคัญอย่างหนึ่งของวันทำการลบมลทิน ตัวหนึ่งจะเป็นแพะรับบาป และแพะตัวนี้จะถูกปล่อยเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร พร้อมทั้งบรรทุกเอาความบาปทั้งสิ้นของประชาชนไปด้วย (เลวีนิติ 16:20-22)
    มีการถวายบูชาหลายอย่างที่กำหนดให้ทำในวันทำการลบมนทินนี้ มหาปุโรหิตจะถวายวัวหนุ่มตัวหนึ่งเป็นเครื่องไถ่บาปของตน แพะตัวที่สองจะถูกแยกไว้เพื่อถวายแด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของประชาชน
    เขาจะนำเลือดวัวและเลือดแพะประพรมอภิสุทธิสถาน ม่าน แท่นเผาเครื่องหอม และแท่นเครื่องเผาบูชา เพื่อชำระทุกสิ่งเหล่านี้ให้ปราศจากมลทิน
    มหาปุโรหิตจะเข้าไปในอภิสุทธิสถานเพียงปีละครั้ง คือ ในวันทำการลบมลทินบาป และต้องนำเลือดเข้าไปถวาย
    มหาปุโรหิตไม่เพียงแต่นำเลือดของสัตว์ที่ถวายบูชาเข้าไปในอภิสุทธิสถานเท่านั้น เขายังต้องนำกระถางเผาเครื่องหอมมีถ่านลุกอยู่มาจากแท่นเผาเครื่องหอม ใส่เครื่องหอมทุบละเอียดสองกำมือไว้ และควันเครื่องหอมจะคลุมพระที่นั่งกรุณาซ่อนพระสิริเสียจากสายตาของเขา และมหาปุโรหิตจะได้รอดตาย เพราะขณะนั้นเขาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าและวิงวอนพระองค์เพื่อประชาชน โดยออกพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ คือ ยาเวห์

    พระคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมหาปุโรหิตแล้ว พระองค์ก็ได้เสด็จเข้าไปสู่เต็นท์อันใหญ่ยิ่งกว่าแต่ก่อน พระองค์ได้เสด็จเข้าไปสู่วิสุทธิสถานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และพระองค์ไม่ได้ทรงนำเลือดแพะและเลือดลูกวัวเข้าไป แต่ทรงนำพระโลหิตของพระองค์เข้าไป และทรงสำเร็จการไถ่บาปชั่วนิรันดร์ (ฮีบรู 9:11-12)
    อย่างไรก็ตามสำหรับคนยิวแล้ว วันทั้งสิบวันก่อนวันลบมนทินนั้น ถูกเรียกกันว่า วันแห่งความยำเกรงพระเจ้า
    เทศกาลเสียงแตรหรือร้อช ฮ้าชชะนาห์ ถือเป็นวันที่เข้าสู่การพิพากษา แต่วันที่ประทับตราคำพิพากษาคือวันลบมนทิลบาป หรือยมคิพปูร์ ว่าผลจะออกมาอย่างไรถ้ากลับใจบาปก็ถูกลบ หรือชำระให้หมดสิ้นได้


    นี่เป็นภาพที่เล็งถึงการเสด็จกลับมาของพระคริสต์ ที่บอกเราให้มีชีวิตยำเกรงพระเจ้า
    วิวรณ์ 14:7 ท่านประกาศด้วยเสียงอันดังว่า "จงยำเกรงพระเจ้า และถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะถึงเวลาที่พระองค์จะทรงพิพากษาแล้ว และจงนมัสการพระองค์ ผู้ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเล และบ่อน้ำพุทั้งหลาย"
    2.เสียงเรียกเพื่อกลับมาแสวงหาพระเจ้า (Return)
    (Turn and Return :Draw near & be made whole ! :จงเปลี่ยน และหันกลับอย่างสิ้นเชิง จงเข้ามาชิดใกล้ และยอมเปลี่ยนทั้งหมด)
    นอกจากนี้การเป่าเสียงแตรด้วยโชฟาร์ ยังเป็นการเรียกเพื่อกลับมาแสวงหาพระเจ้า
    เลวีนิติ 25:9 เจ้าจงให้เป่าเขาสัตว์ดังสนั่นในวันที่สิบเดือนที่เจ็ด เจ้าจงให้เป่าเขาสัตว์ทั่วแผ่นดินในวันทำการลบมลทิน
    เสียงแห่งการประกาศถึงการเริ่มต้นสู่การพิสูจน์ และสำรวจใจ
    การเป่าโชฟาร์ในวันร้อช ฮ้าชชะนาห์ ยังเป็นการประกาศก้องถึงการเริ่มต้นของการเข้าสู่การสำรวจใจ ก่อนวันแห่งการพิพากษา การสำรวจนี้กินเวลา สิบวัน จนกระทั่งวันลบมลทินบาป (หรือ วันยมคิปปูร์) มาถึง
    ในระหว่างสิบวันนี้ ชาวยิวจะตระหนักถึงชีวิตของตน เหมือนเอาชีวิตไปชั่งบนตาชั่ง พวกเขาจะได้ตระหนักถึงความเปราะบางของชีวิต และจะถามคำถามตนเองว่าถ้าชีวิตของเขาจบลงในวันนี้ เขาได้ใช้ชีวิตคุ้มค่า หรือสมควรแล้วหรือไม่
    ช่วงเวลาแห่งการใคร่ครวญนี้ จะทำให้ได้ตระหนักว่าชีวิตของคนแต่ละคนนั้น เป็นชีวิตที่อยู่ภายใต้พระหัตถ์ของพระเจ้า เราไม่สามารถกำหนดทุกสิ่งได้ด้วยตนเอง

    เสียงโชฟาร์จะประกาศให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่หลบซ่อนในใจได้ เหมือนการยืนอยู่ต่อหน้าหมู่ทหารที่ทำการยิงเป้า ซึ่งต้องพิสูจน์ในระดับลึกของจิตใจ ในสมัยพระคัมภีร์ใหม่ เทศกาลเสียงแตรนี้ เล็งถึงการกลับมาของพระคริสต์ เพื่อประกาศเวลา ฤดูกาลใหม่ ที่พระองค์ทรงปฏิเสธการดำเนินชีวิตอย่างศาสนา แต่สถาปนาการนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง
    ดังนั้นการเป่าแตรจึงเป็นสัญลักษณ์ของการประกาศการหลุดพ้นจากวิถีเดิมแห่งพันธการ การตกอยู่ภายใต้วิญญาณแห่งกฏเกณฑ์ และการดำเนินชีวิตอย่างเป็นรูปแบบ

    3 เสียงแห่งการรื้อฟืน (Restore)
    (Be Restored! To God and His covenant plan! : จงรับการรื้อฟื้น สู่พระเจ้าและแผนการในพันธสัญญาของพระองค์)
    ในพระคัมภีร์เดิม พระเจ้าทรงสัญญาจะส่งพระเมสิยาห์มาปลดปล่อยชนชาติของพระองค์
    เสียงโชฟาร์จึงเป็นเครื่องหมายแห่งการระลึกถึงพระสัญญาของพระเจ้าที่จะส่งพระเมสิยาห์ ผู้ที่จะเสด็จมามารวบรวมลูก ๆ ที่กระจัดกระจายให้กลับมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว
    อิสยาห์ 27:13
    13 และในวันนั้นเขาจะเป่าเขาสัตว์ใหญ่ และบรรดาผู้ที่กำลังพินาศอยู่ในแผ่นดินอัสซีเรีย และบรรดาผู้ถูกขับไล่ออกไปยังแผ่นดินอียิปต์จะมานมัสการพระเจ้า บนภูเขาบริสุทธิ์ที่เยรูซาเล็ม


    เสียงโชฟาร์ไม่เพียงเป็นการประกาศถึงการเสด็จมาเพื่อรวบรวมผู้คนของพระเมสสิยาห์ที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์เดิม (อิสยาห์ 27:13)
    ในพระคัมภีร์ใหม่ เป็นการประกาศถึงการครอบครอง การปกครองของพระคริสต์บนแผ่นดินโลก

    1เธสะโลนิกา 4:16 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ ด้วยพระดำรัสสั่ง ด้วยสำเนียงเรียกของเทพบดีและด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงในพระคริสต์ที่ตายแล้วจะเป็นขึ้นมาก่อน

    1โครินธ์ 15:52 ในชั่วขณะเดียว ในพริบตาเดียว เมื่อเป่าแตรครั้งสุดท้าย เพราะว่าจะมีเสียงแตร และคนที่ตายแล้วจะเป็นขึ้นมาปราศจากเน่าเปื่อย แล้วเราทั้งหลายจะถูกเปลี่ยนแปลงใหม่

    วิวรณ์ 11:15-18
    15 และทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดก็เป่าแตรขึ้น และมีเสียงหลายๆเสียงกล่าวขึ้นดังๆในสวรรค์ว่า "ราชอาณาจักรแห่งพิภพนี้ ได้กลับเป็นราชอาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และเป็นของพระคริสต์ของพระองค์ และพระองค์จะทรงครอบครองตลอดไปเป็นนิตย์ "
    16 และผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนซึ่งนั่งในที่นั่งของตน เบื้องหน้าพระเจ้าก็ทรุดตัวลงกราบนมัสการพระเจ้า


    พระคริสต์จะเสด็จมาเพื่อรวบรวมคนทั้งปวงที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้แล้ว
    มัทธิว 24:30-31
    30 เมื่อนั้นนิมิตแห่งบุตรมนุษย์ จะปรากฏขึ้นในท้องฟ้า มนุษย์ทุกชาติทั่วโลกจะตีอกร้องไห้ บุตรมนุษย์เสด็จมาบนเมฆในท้องฟ้า ทรงฤทธานุภาพและพระสิริเป็นอันมาก
    31 พระองค์ทรงใช้เหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ มาด้วยเสียงแตรอันดังยิ่งนัก ให้รวบรวมคนทั้งปวงที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้แล้ว ทั้งสี่ทิศนั้น ตั้งแต่ที่สุดฟ้าข้างนี้จนถึงที่สุดฟ้าข้างโน้น



    เมื่อเราได้รู้แล้วว่าเทศกาลเสียงแตรนี้ เป็นการสัญลักษณ์ของยุคพระเมสสิยาห์ หรือของพระคริสต์ที่จะเสด็จกลับมารวมรวมผู้คน เมื่อเสียงแตรดังขึ้นให้เราอธิษฐานขอการเชื่อมต่อพระกาย และรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว ขอความเป็นเอกภาพ การรวมเป็นหนึ่งเดียวระหว่างพี่น้องในคริสตจักร ระหว่างคริสตจักรต่าง ๆ และความเป็นเอกภาพหนึ่งเดียวของคนในประเทศชาติ อธิษฐานขอการที่คริสตจักรเข้าไปเชื่อมต่อกับอิสราเอล
    อธิษฐานขอให้พี่น้องที่หลงหายไปในที่ต่าง ๆ กลับมาหาพระเจ้า

    4 เสียงร้องชื่นชมในการทรงสถิต(Rejoice)
    (Rejoice! In His presence is fullness of joy! : จงชื่นชมยินดี ในการทรงสถิตของพระเจ้าเป็นความชื่นชมอย่างเต็มล้น)
    เสียงของโชฟาร์ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเป่าเพื่อให้พระเจ้าเสด็จเข้ามาครอบครอง การทรงสถิตของพระเจ้าเป็นความชื่นชมอย่างเต็มล้น
    การพิพากษาของพระเจ้าและการครอบครองเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กัน เมื่อไรก็ตามที่พระเจ้าทรงสถิตและครอบครอง เมื่อนั้น สิ่งผิดสิ่งถูกจะถูกชี้ชัด คนจะเห็นความบาปผิดของตนเอง
    เป็นภาพของกษัตริย์นั่งบนบัลลังก์แห่งการครอบครอง และพิพากษาเหนือประชากรของพระองค์
    พระวจนะบันทึกเหตุการณ์ว่าเมื่อกษัตริย์ใหม่ขึ้นนั่งครอบครอง จะมีการเป่าแตรเพื่อป่าวประกาศบัลลังก์ของพระองค์
    1 พงศ์กษัตริย์ 1:39 แล้วศาโดกปุโรหิตได้นำเขาสัตว์ที่บรรจุน้ำมันมาจากเต็นท์ของพระเจ้า และเจิมตั้งซาโลมอนไว้ และเขาทั้งหลายก็เป่าเขาสัตว์ และประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า "ขอพระราชาซาโลมอน ทรงพระเจริญ"
    เช่นเดียวกันที่ในเทศกาลเสียงแตรที่เป่าออกไปเพื่อประกาศก้องว่าพระคริสต์ทรงยิ่งใหญ่และทรงเสด็จมาครอบครอง ด้วยเสียงแห่งความชื่นชมยินดี พระธรรมสดุดีบางบทก็ได้บันทึกถึงเสียงแตรแห่งการเฉลิมฉลองการครอบครองของพระเจ้า
    ตัวอย่างเช่น สดุดี 47 :1-9
    สดุดี 98:6 ด้วยเสียงแตรและเสียงเป่าเขาสัตว์ จงกระทำเสียงชื่นบานถวายพระมหากษัตริย์ คือพระเจ้า

    เสียงของโชฟาทำให้ระลึกถึงการครอบครองที่เปี่ยมด้วยความยุติธรรมและเมตตา
    พระคริสต์ปรารถนาจะสถิตอยู่ในชีวิตของเรา ทรงปรารถนาการครอบครองเหนือตัวเรา เหนือคริสตจักร

    การเป่าแตรเขาสัตว์เป็นการเตือนให้ระลึกถึงความเมตตาของพระเจ้า การให้อภัยบาปของพระองค์ อย่างที่เขาไม่สมควรได้รับ
    เพื่อเตือนใจให้ระลึกถึงความเมตตาของพระเจ้า ในวันนี้คนยิวจะอ่านพระวจนะในธรรมศาลาถึงเรื่องราวของอับราฮัมในการถวามอิสอัค (ปฐมกาล 22) และอับราฮัมได้ชื่นชมกับพระเมตตาของพระองค์ที่พระองค์ได้ส่งแกะมาเพื่อถวายบูชาแทนอิสอัค

    นี่เป็นที่มาว่าเหตุใดคนยิวจึงใช้เขาแกะปลายงอนเป่า ทั้งนี้เพื่อจะได้หวนกลับไประลึกถึงพระเมตตาที่ทรงกระทำต่ออับราฮัม
    เขาจากแกะที่ถูกจับได้จากพุ่มไม้ กลายมาเป็นสัญลักษณ์ เพื่อระลึกถึงคนบาป และการลบล้างบาป
    การเป่าแตรในการออกศึกสงครามนั้นก็เป็นการเชื่อมโยงถึงเทศกาลเสียงแตร เพื่อเตือนใจว่าพระเจ้าระลึกถึงเรา และจะช่วยเราซึ่งเป็นประชากรของพระองค์ เช่นเดียวกัน ในขณะนี้เราอยู่ท่ามกลางสงครามฝ่ายวิญญาณ และเมื่อเราเดินหน้าในงานพระเจ้า เรารู้ว่าจะมีการปะทะในฝ่ายวิญญาณ
    เสียงแตรที่เราจะเป่านี้ ก็เป็นการประกาศก้องว่า พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ทรงระลึกถึงเรา และจะช่วยเราให้มีชัยเหนือมารซาตานได้
    Pray4Thai1.jpg
    ภาคประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน
    การเป่าเสียงแตรเป็นช่วงเวลาของการทำลายสิ่งเก่าและรุกเข้าไปสู่สิ่งใหม่

    จงออกมาจากรูปแบบเดิมที่รู้สึกมั่นคง
    คำอธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์แสวงหาความมั่นคงปลอดภัยในพระองค์

    จงทำลาย นิสัยเดิมๆ
    คำอธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ใจของข้าพระองค์ปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลง


    กลับใจจากวิธีคิดแบบเดิมๆ
    คำอธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์ออกจากสิ่งเก่าเข้าสู่สิ่งใหม่

    พระเจ้าตรัสว่า เสียงของแตรเขาสัตว์ ถูกสร้างมาเพื่อกระตุ้นเร้าสิ่งที่อยู่ในจิตวิญญาณของคุณ ขอพระองค์ที่เคลื่อนไปตามเสียงแตรเขาสัตว์
    แผนการของพระเจ้าสำหรับการเริ่มต้นปี


    1. จงฟื้นขึ้น จงตื่นตัว!

    2. จงเปลี่ยน และหันกลับอย่างสิ้นเชิง จงเข้ามาชิดใกล้ และยอมเปลี่ยนทั้งหมด

    3. จงรับการรื้อฟื้น สู่พระเจ้าและแผนการในพันธสัญญาของพระองค์

    4. จงชื่นชมยินดี ในการทรงสถิตของพระเจ้าเป็นความชื่นชมอย่างเต็มล้น
    เมื่อได้ยินเสียงแตร จงเคลื่อนไป!

    ประสบการณ์สู่พระสิริของพระเจ้า
    1. ฟังเสียงปลุกให้ตื่น ดังเช่นการเข้าสู่เทศกาลเสียงแตรโดยตื่นจากหลับใหลเข้าสู่เวลาของพระองค์
    2. เสาะแสวงหาพระเจ้า ในช่วง 10วันแห่งความยำเกรง
    3. รับการรื้อฟื้น อธิษฐานสารภาพบาปในวันลบมลทินบาป กลับใจจากสิ่งเลวร้าย เข้ามาพึ่งพาพระคุณพระเจ้า
    4. ชื่นชมในการทรงสถิตของพระเจ้า ดังเช่นการเข้าสู่เทศกาลอยู่เพิง ด้วยความหวังใจ พระเยซูเป็นดังที่พำนักในชีวิตของเรา พระองค์ทางอยู่ทามกลางเรา

    พระเจ้าทรงตั้งปฏิทินของพระองค์ ไว้เพื่อนำเราก้าวไปสู่ 4 ขั้นนี้ในแต่ละปี
    ขั้นตอนทั้ง 4 ขั้นนี้เป็นรูปแบบเพื่อการฟื้นฟูในระดับปัจเจกบุคลและในระดับประเทศ!



    ที่ กันยายน 25, 2554

    pattamarot.blogspot.com/2011/09/rosh-hashanah.html?m=1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2020
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Gill Broussard


    ตำแหน่ง "ประมาณการ" ของ PLANET-7X สำหรับมกราคม 2563

    IMG_5996.JPG IMG_5995.JPG

    THE "ESTIMATED" POSITION OF PLANET-7X FOR JANUARY 2020


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


    เฮลิคอปเตอร์ apache จากกองทัพสหรัฐฯ Uu พวกเขาแสดงการสาธิตการยิงพลุไฟเหนือสถานทูตอเมริกาในแบกแดด


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


    เฮลิคอปเตอร์สหรัฐฯยิงพลุไฟทั่วสถานทูตในแบกแดด, อิรัก


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


    น้ำท่วมฉับพลันในจังหวัด padalarang อินโดนีเซีย #31 ธ. ค.


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


    เมฆแปลกๆใน östersund, สวีเดน #31 ธ. ค.


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan


    ประโยชน์อย่างหนึ่งของน้ำท่วมฉับพลันคือปลาฟรี


    เจริญอาหาร


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan


    กิจกรรมในภูเขาไฟ Anak Krakatau เพิ่มขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา


    กิจกรรมปะทุขนาดเล็กถึงขนาดกลางปรากฏว่าบ่อยครั้งขึ้นหากไม่ได้ต่อเนื่อง


    VAAC ดาร์วินมีการปล่อยเถ้าอย่างต่อเนื่องระหว่าง 8,000 ถึง 10,000 ฟุต (2.4-3 กม.) สร้างไอน้ำและเถ้าลอยไปทางใต้เป็นเวลาหลายสิบกิโลเมตร


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดวงเมืองปี63 ปฏิวัติซ้อน-ศก.วิกฤตกว่าปี40
    ดวงเมืองปี63 – การเมืองเข้มข้นข้ามปี สภาวะเศรษฐกิจก็ถดถอยต่อเนื่อง

    ทำให้เห็นเค้าลางล่วงหน้าปี 2563 นี้ สถานการณ์บ้านเมืองไม่ราบรื่นแน่

    คำทำนายของนักโหราศาสตร์ชื่อดังเห็นไม่ต่างกัน และมองว่าหนักหนาสาหัสกว่าปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำ

    8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B540.jpg

    • โสรัจจะ นวลอยู่
      โหรชื่อดัง นอสตราดามุสเมืองไทย
    ดวงเมืองปี 2563 ภาพรวมเป็นปีที่มีดาวใหญ่คือดาวมฤตยู เข้ามาสถิตในราศีเมษ ลัคนาเมือง เข้ามาระยะหนึ่งแล้ว และยังอยู่ต่อถึงวันที่ 7 ก.ค. 2565 ถึงจะย้ายออก แต่ก่อนจะย้ายออกจะส่งผลกับบ้านเมืองเรา

    ที่จริงแค่ดาวมฤตยูก็หนักแล้วแต่ยังมีดาวเสาร์ย้ายจากราศีธนูขึ้นไปราศีมังกร วันที่ 2 มี.ค. 2563 ไปตั้งฉากกับดาวมฤตยูและตั้งฉากกับราศีเมษ ซึ่งเป็นดวงเมือง ซึ่งจะอยู่ไปถึง 2 ปี 7 เดือน ส่งผลให้ ปี 2563 ปีใหม่เป็นต้นไป และจะเห็นชัดขึ้นในเดือนมี.ค.บ้านเมือง จะยุ่งหลายเรื่อง

    ตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจ จะว่าเผาจริงก็ได้ น่าเป็นห่วงเพราะไม่ใช่ดาวเสาร์เป็นเรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว อาจจะหมายถึงความขัดแย้งหลายเรื่อง เช่น การเมืองอาจมีความคิดแตกต่าง และความขัดแย้งทุกวงการ

    อาจสืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งก็เผชิญวิกฤตการเงิน การส่งออก เงินบาทจะสูงค่ามากขึ้นคุมไม่อยู่ เหมือนจะแก้ปัญหาได้ไม่เต็มที่ โอกาสจะแก้ไขแทบไม่มีเพราะขัดแย้งกันเรื่องผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย มีโอกาสกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ สิ่งเหล่านี้อาจเกิดหลังเดือนมี.ค.หรือปลายปี 2563 ซึ่งจะหนักกว่าปี 40

    การบ้านการเมืองมีความขัดแย้ง มีโอกาสที่ผู้นำรัฐบาลต้อง ตัดสินใจ โดยดาวเสาร์ตั้งฉากกับดาวมฤตยูไปอยู่ภพที่ 10 ของดวงเมือง เกี่ยวกับการเงิน ชื่อเสียง ซึ่งจะตรงและเกี่ยวกับความขัดแย้ง ด้านการเมือง นักการเมือง เศรษฐกิจ

    ด้านการเมืองร้อนแรงตลอดทั้งปี มีโอกาสจะขัดแย้งกันจนพรรคร่วมไปไม่ได้และมีโอกาสยุบสภาได้ในที่สุด ถ้าเกิดการยุบสภาก็ไม่แน่ว่าอาจนำไปสู่เหตุการณ์ใหญ่ จนเกิดการรัฐประหารครั้งใหญ่ หรือปฏิวัติซ้อนได้ เพราะดาวมฤตยูอยู่ไปถึงปี 2565

    ซึ่งเป็นการทำนายตามดวงดาว อาจเกิดหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นต้องอดทน อย่าประมาท อย่าขัดแย้ง ขอให้ทำบุญเยอะๆ ให้บ้านเมือง โดยผู้นำรัฐบาลต้องเป็นผู้นำทำบุญประเทศ จะช่วยคลายไปได้บ้าง

    ภัยพิบัติก็รุนแรงกว่าทุกปี ภัยแล้งที่ว่าปี 2562 แล้งแล้ว ปี 2563 จะแล้งกว่า บางช่วงสลับน้ำท่วมเป็นระยะแต่ภัยแล้งจะมีมาก เกิดไฟป่า ฝุ่นละออง น้ำในเขื่อนไม่มี ชาวไร่ ชาวนา เกษตรกรรมจะ เสียหายเยอะ เกิดปัญหาข้าวยากหมากแพง เดือดร้อนไปทั่ว

    และสะท้อนไปที่การเมือง จะมีม็อบออกมาเต็มเมืองทั่วประเทศ เรียกร้องในสิ่งที่เขาเดือดร้อน เพราะปีหน้าเผาจริงเศรษฐกิจจะแย่มาก ประกอบรัฐบาลมีปัญหาคอร์รัปชั่นต่อเนื่อง บ้านเมืองจะฟื้นขึ้นค่อนข้างยาก

    อีกเรื่องที่เกี่ยวกับภัยพิบัติใหญ่ หลังมี.ค. 2563 จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศ อาจทำให้ตึกรามบ้านช่อง ล้มระเนระนาดเสียหายเกือบทั่วประเทศ ทำให้มีคนเสียชีวิต หรือ สึนามิก็เกิดขึ้นได้ ถือเป็นครั้งใหญ่อีกครั้ง

    ดวงผู้นำรัฐบาลอาจวุ่นๆ ให้ทำบุญเยอะๆ มีเมตตา ระวังคนรอบข้างอาจให้คำแนะนำไม่ตรงกับสิ่งที่จะช่วยเหลือชาวบ้าน ช่วยคนยากคนจนได้ โดยเฉพาะคนใกล้ตัวที่เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ อาจเตือน ในสิ่งที่ผิดพลาดตรงกันข้าม ซึ่งตัวช่วยรัฐบาลก็น้อยลงริบหรี่เหมือนช่วยไปก็ผิดทาง ทำให้บ้านเมืองยิ่งตกต่ำ

    เริ่มปีใหม่เหตุการณ์จะยุ่ง หลายเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่มารวมกัน ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ มีทางเดียวอาจจะยุบสภา



    • บุศรินทร์ ปัทมาคม
      นักโหราศาสตร์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง
    เหตุการณ์ปี 2563 จะวนเวียนอยู่กับความไม่สามัคคีและปัญหาเงินทุน รัฐบาลจะมีปัญหางบประมาณไม่พอใช้จ่าย

    ดวงเมืองปี 2563 เหตุการณ์จะเกิดขึ้นจากดาวพระเคราะห์หลัก คือดาวพฤหัสฯ (๕) และดาวเสาร์ (๗) จร โคจรเดินหน้าและถอยหลังอยู่ในราศีธนู เรือนชะตาที่เกี่ยวกับความสุข และราศีมังกร หรือเรือนกัมมะ การงานของบ้านเมือง

    ดาวพฤหัสฯ (๕) โคจรร่วมราศีเดียวกับดาวเสาร์ (๗) เป็นสัญลักษณ์ความแตกแยก ขัดแย้งอย่างไม่ลดราวาศอก บ้านเมือง จึงสงบยาก 17 มี.ค. ถึง 12 ก.ค. 2563 เป็นช่วงที่รัฐบาลต้องเจอกับงานหนักที่ยุ่งยากยิ่งขึ้น เพราะอำนาจที่มีอ่อนตัวลง ประชาชนส่วนใหญ่เกรงกลัวรัฐบาลน้อยลง

    ครั้นถึงวันเกิดดวงเมือง 21 เม.ย. 2563 อายุย่าง 239 ปี นับทักษาจรตกปูมดาวพุธ (๔) เป็นบริวารจร และมีดาวอังคาร (๓) เป็นกาลกิณีจร ปัญหาสังคมและการเมืองจะทรุดตัว หรือดวงตกอย่างน่าเป็นห่วง ระหว่าง 14 มี.ค. ถึง 13 เม.ย. 2563 จะเกิดเรื่องซึมเศร้า หรือท้อถอยได้ง่าย

    B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1.jpg

    ตั้งแต่วันเกิดของดวงเมือง คือ 21 เม.ย. 2563 จะวุ่นวายเรื่องงานไปจนถึง 1 พ.ค. และบ้านเมืองจะมีเกณฑ์ดุเดือดเลือดพล่านอีกครั้ง เมื่อดาวอังคาร (๓) ซึ่งเป็นกาลกิณีจร โคจรขึ้นทับลัคนา (ลั) ดวงเมืองระหว่างวันที่ 10 ส.ค. ถึง 1 ต.ค.

    ปลายปีบรรยากาศทางสังคมจะปั่นป่วนวุ่นวายและสับสน อีกครั้ง เมื่อดาวพฤหัสฯ (๕) โคจรถอยกลับไปในราศีธนู หรือ เรือนศุภะ หลังจากวันที่ 12 ก.ค. ดาวเสาร์ (๗) จร โคจรถอยหลัง เข้าเรือนศุภะ ในวันที่ 17 ก.ค. ดาวพฤหัสฯ (๕) ก็ถอยหลังตามมาเข้าเรือนศุภะติดๆ บรรยากาศของความแตกแยกก็จะเหมือนอย่างปลายปี 2562

    มีเกณฑ์ดุเดือดเลือดพล่าน เมื่อดาวอังคาร (๓) ซึ่งเป็นกาลกิณีจร โคจรขึ้นมาทับลัคนา (ลั) ดวงเมือง ความสับสนวุ่นวายและความไม่สงบจะรุนแรงขึ้นทุกหย่อมหญ้า ความแตกแยกระหว่างพรรค ระหว่างกลุ่มคนในพรรครัฐบาล ความวุ่นวายและความสับสนอลหม่านจะรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่าง 10 ส.ค. ถึง 9 ต.ค. โดยรุนแรงไม่แพ้ปลายปี 2562 คาบเกี่ยวต้นปี 2563

    โดยเฉพาะดวงชะตาจะตกรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อดาวอาทิตย์ (๑) จร โคจรเข้าไปในเรือนอริของดวงเมือง ระหว่าง 17 ก.ย. ถึง 17 ต.ค. ช่วงนี้ถ้าจะเกิดปฏิวัติรัฐประหารซ้อนก็ได้ เพราะรัฐบาลไม่น่าเลื่อมใส ความน่ากลัวก็ลดลง พระเดชอ่อน เดชเต็มเป็นกาลกิณีจร

    เศรษฐกิจจะทรุดหนักยิ่งขึ้นอีกช่วงปลายปี 2563 โดยเริ่มเด่นชัดมาหลัง 10 ก.ย. ดาวราหู (๘) จร จะโคจรเข้าเรือนกดุมภะ หรือ ราศีพฤษภ ซึ่งเป็นเรื่องการเงินของดวงเมือง ดาวราหู (๘) เป็นดาววิบากกรรม จะคอยรังแกลัคนา (ลั) ของดวงเมืองอยู่แล้ว ดังนั้น ช่วงปลายปี 2563 ดาวราหู (๘) จรก็จะทับเข้าไปในเรือนหลักทรัพย์ของดวงเมือง ราหู (๘) จร ล้วงทรัพย์ตัวจริง

    เศรษฐกิจที่ทรุดโทรมอยู่แล้วจะหักโค่นลงแบบช่วยไม่ได้ ระหว่าง 18-25 พ.ย. ดาวศุกร์ (๖) และดาวพุธ (๔) เล็งลัคนา (ลั) ในขณะเดียวกับดาวอังคาร (๓) จรโคจรเข้าเรือนวินาศ ที่ต้องจับตามองไว้เป็นกรณีพิเศษก็คือ ระหว่าง 19-25 พ.ย. 2563 โดยเฉพาะวันที่ 24-25 พ.ย. เป็นจังหวะบ้านเมืองตกต่ำลงอย่างมากที่สุด

    การเงินจะบอบช้ำ วุ่นวาย หุ้นตกรุนแรง ระหว่าง 18 พ.ย. ถึง 12 ธ.ค. โดยวันที่ 27 ธ.ค. ดาวอังคาร (๓) จร โคจรเดินหน้าเข้าทับลัคนา (ลั) ของดวงเมืองอีกครั้ง จนถึง 24 ก.พ. 2564 กระเป๋าฉีก สถานการณ์การเงินจะทรุดหนัก จะเหมือนสมัยพล.อ.ผิน ชุณหะวัณ พล.อ.กาจ เก่งระดมยิง ปฏิวัติพระยามโนปกรณ์ นิติธาดา 8 พ.ย. 2490 เพราะเศรษฐกิจตกต่ำเป็นเหตุ

    สรุปว่าช่วงปลายปี 2563 เศรษฐกิจจะตกต่ำ รุนแรงกว่าปีที่แล้วๆ มา รัฐบาลกระเป๋าฉีก เรียกว่าดาวราหู (๘) ล้วงทรัพย์ตัวจริง



    • ภิญโญ พงศ์เจริญ
      นายกสมาคมโหราศาสตร์แห่งชาติ
    ตลอดปี 2563 ดาวมฤตยูจะโคจรอยู่ตรงราศีเมษ โคจรอยู่ตรงไหนก็มักเกิดการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ปี 2557 ดาวมฤตยูยกเข้าราศีเมษ คสช.ก็ยึดอำนาจ การโคจรเข้าราษีเมษทางลัคนาเมืองทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

    ดาวมฤตยูยังโคจรมาสัมพันธ์กับดาวอังคาร เทพแห่งสงคราม อุบัติเหตุ ความขัดแย้ง พระอังคารในปี 2563 ปลายปีจะโคจรวิปริตตรงราศีเมษ ตั้งแต่ 10 ส.ค.-27 ธ.ค. เป็นพื้นที่อันตราย ต้องระมัดระวังให้มากโดยเฉพาะความขัดแย้ง

    พระราหู ต้นปีจะโคจรอยู่ตรงราศีมิถุน จนถึงวันที่ 10 ก.ย. ราศีมิถุนคือภพสหัชชะของดวงเมือง หมายถึงการคมนาคม การขนส่ง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเจ้าเรือนลาภะ แปลว่ารายได้ จะมีการระดมทรัพย์สินเงินทองเข้ามาปรับปรุงการคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรถไฟ รถไฟฟ้า การติดต่อสื่อสาร รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน

    ก.ย.จะมีการร่วมลงทุนกับชาติแถบตะวันออก จีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี และจะเกิดการรวมกลุ่มทุน 2 กลุ่มคนละขั้ว จีน สหรัฐ ที่ต้องเผชิญหน้า ท้าทาย ต่อรอง

    พระราหูยังยกเข้าราศีพฤษภจนถึงสิ้นปี ราศีพฤษภคือเรือนกดุมภะ แปลว่าการเงิน การคลัง เศรษฐกิจ ในตำราเรียก “ราหูค้นทรัพย์” หมายถึง มีการนำงบประมาณของชาติเอามาใช้จำนวนมากจนเกิดปัญหา และมีการกู้ยืมเงินด้วย

    เศรษฐกิจประเทศจะเกิดการเหลื่อมล้ำที่ชัดเจนมากขึ้น แต่จะเกิดการปรับตัวเพื่อให้เกิดสมดุลตามมา เศรษฐกิจกับการเมืองจะอยู่คู่กันไป ปัญหาปากท้องที่สุมอยู่มากมายจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนจนเกิด “ระบบเศรษฐกิจและการเมืองแบบใหม่”

    เรื่องสำคัญที่สุดของปีจะอยู่ที่ดาวพระเสาร์กับดาวพระพฤหัสฯ หากเคลื่อนมาเจอกันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยเลย ก็ว่าได้ เป็นดาวคู่แห่งการเปลี่ยนแปลง มีการกุมกันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 397 ปี มากกว่าอายุดวงกรุงเทพฯ

    ดาวสองดวงนี้ปกติกุมกันทุกๆ 20 ปี ประเทศจึงมักเกิดการเปลี่ยนยุคทุก 20 ปี ดาวทั้งสองดวงโคจรมาซ้อนทับกันเป็นดวงเดียววันที่ 21 ธ.ค. ซึ่งจะกุมกันครั้งยิ่งใหญ่ถึง 3 ครั้ง ในปี 2563 จะกุมกันตรงราศีธนูช่วงหนึ่ง และราศีมังกรอีกช่วงหนึ่ง

    มีทั้งด้านที่ให้คุณและให้โทษ ดาวพฤหัสฯถือว่าเป็นดาวประธานฝ่ายศุภเคราะห์ ให้คุณมากกว่าให้โทษ ให้ผลทางด้านความดี ความสงบเรียบร้อย ศาสนา การศึกษา กฎหมายต่างๆ ตลอดจนการเดินทางไกลและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    ส่วนดาวเสาร์เป็นดาวประธานฝ่ายบาปเคราะห์ มักจะให้โทษ ให้ทุกข์ ต้องเหนื่อยยากตรากตรำ พระเสาร์เป็นตัวแทนมหาชน เรื่องของคนส่วนใหญ่ เมื่อดาวทั้งสองกุมกันจะเกิดการรวมตัวกันทั้งสองฝ่ายที่ตรงกันข้าม เช่น ฝ่ายดี-ฝ่ายร้าย คนจน-คนรวย คนส่วนใหญ่-คนส่วนน้อย คนชั้นสูง-คนชั้นต่ำ อาจแปลได้ว่าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้น

    การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดช่วง 2563-2565 ตามความหมายของดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์ แต่จะเข้าสู่การเปลี่ยน แปลงมากที่สุดในปี 2563 ภาษาทางโหรา ศาสตร์เรียกว่า The Great Conjunction 2020 โดยเมื่อดาวพฤหัสฯ กับดาวเสาร์โคจรถอยหลัง ตั้งแต่ 11 พ.ค.-23 ก.ย. จะเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อาจไปถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

    จะโคจรมาบรรจบกันอย่างแนบแน่นที่สุดวันที่ 21 ธ.ค. การเมืองจะร้อนรุ่มจนถึงขีดสุด ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน หรือคณะรัฐมนตรีจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกว่าทุกครั้ง อาจถึงขั้นยุบสภา หรือถึงขั้นวิกฤตแบบรัฐประหาร

    สังคมและโลกจะโกลาหล จะเกิดอัคคีภัย แผ่นดินไหว ธรณีพิบัติ ภูเขาไฟระเบิด หรือพายุที่รุนแรงตามมา และกลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ

    ผู้นำประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีลัคนาอยู่ตรงราศีมังกร ในปี 2563 ดาวพฤหัสฯ กับดาวเสาร์อยู่ตรงราศีธนู จะเป็นภพวินาศของนายกฯ ต้องระมัดระวังอย่างมากและอยู่ให้เป็น

    หากผู้นำไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมให้ปรับปรุง เกรงว่าจะเกิดวิกฤตตามวงรอบของดาวเสาร์ 30 ปี ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565



    • ฟองสนาน จามรจันทร์
      โหรสมัครเล่นชื่อดัง
    ตลอดปี 2563 คาดว่าการเมืองยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของการปฏิวัติเปลี่ยน แปลงใหญ่ ทั้งเมือง สภาพแวดล้อมต่างๆ บางครั้งเกิดแบบกะทันหันเกินคาดคิด ซึ่งเกิดต่อเนื่องจากช่วงมี.ค.2559 มาแล้ว เป็นผลมาจากมฤตยูจรเข้าราศีเมษ ทับลัคนาดวงเมืองที่ เป็นราศีเมษ ทับพระอาทิตย์ดวงเดิม ซึ่งหมายถึงการเมือง บุคคลสำคัญในเมือง

    มฤตยูคือเรื่องของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่ ทันสมัย ใครที่ตามไม่ทันก็จะบอกว่าเป็นพวกวิปริต เป็นเรื่องของการสร้างสิ่งใหม่และทำลายสิ่งเก่า มฤตยูจะอยู่ที่ราศีเมษถึงเดือนก.ค.2565

    ฉะนั้นตลอดทั้งปี 2563 เมืองจึงอยู่ภายใต้ของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่ จะคล้ายๆ เงาะถอดรูปหรือลอกคราบประเทศไปสู่สิ่งที่ไม่คุ้นเคย สิ่งที่ล้ำสมัยซึ่งมีด้านดีและร้าย อันเกิดจากมฤตยูจร การปฏิวัติใหญ่ภัยอาเพศเกินคาดคิดอยู่ในราศีเมษทับลัคนาดวงเมือง

    มีเกณฑ์ทางโหรที่น่าสนใจมากต่อสถานะเมืองที่น่าจะถูกทบทวน ปรับแผน แก้ไขอย่างคึกคักตั้งแต่ต้นก.ย.2563 เป็นต้นไปจนถึง สิ้นปี ตอนนั้นมฤตยูเดินถอยหลังก็หมายถึงการทบทวน

    การเมืองท้องถิ่นเริ่มมีปี่กลองคึกคักตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงต้นปี 2563 เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ของการเลือกตั้งท้องถิ่นหลังถูก แช่แข็งมานาน แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่วายสร้างความแปลกประหลาด อาจมีรายการล็อกถล่มเพราะมฤตยูจรยังคงทับลัคนาดวงเมืองอยู่

    ขณะที่การเมืองระดับประเทศจะเดินหน้าไปถึงปลายปี และเริ่มเห็นแววยุบสภาหรือเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ การเมืองจะมีเรื่อง ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอดเวลา พรรคการเมือง นักการเมือง องค์ประกอบต่างๆ ทางการเมืองจะถูกเขย่า เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่

    ชนิดที่ว่าใครไม่เปลี่ยนจะถูกเปลี่ยนหรือไล่ล่า ใครที่ฝืนกระแสก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งจะสร้างความประหลาดใจ เพราะมฤตยูจรที่ราศีเมษยังทับพระอาทิตย์ดวงเดิม

    การเกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดจากจิตใจประชาชนที่พลิกผัน ทำให้ช่วงมี.ค.2563 มีการตรึงกำลังการเมืองระหว่างสองฝ่าย ซึ่งตรึงกันมาตั้งแต่ 30 ต.ค.2562 แล้ว และจะตรึงไปถึง 1 มี.ค.2563 เพราะทั้งสองฝ่ายจะปรับกลยุทธ์สู้กัน

    ตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ถึงสิ้นปี 2563 รัฐบาลจะรับภาระหนัก ด้วยตัวแทนรัฐบาลยืนอยู่ราศีมังกรหมายถึงการแบกภาระที่หนัก ขณะที่ฝ่ายค้านมีเคราะห์เช่นกัน การปรับคณะรัฐมนตรีคาดว่าจะมีขึ้นวันที่ 15 พ.ค.

    ตั้งแต่ 16 ก.ย.2563 ต้องระวังปรากฏการณ์ที่โดดเด่นขึ้นมา อาจมีต่างประเทศเข้ามาแทรกแซงหรือแอบชักใยกิจการภายในประเทศ

    สถานการณ์ความขัดแย้งที่ดูจะลดลงชั่วคราวตั้งแต่ 9 ก.พ. 2563 แต่วันที่ 12 พ.ย. เป็นต้นไปแรงการเมืองจะเพิ่มขึ้น และกลางเดือนพ.ย.2563 เป็นต้นไปส่อแววยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ถ้าไม่ใช่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลอย่างน่าแปลกประหลาด หรือไม่ก็อาจมีกิจกรรมใหญ่ในรัฐธรรมนูญเป็นที่โดดเด่น อันเกิดจากพฤหัสบดีจรรวมกับพระราหูจร

    คาดว่าการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรัฐบาลอาจเกิดขึ้นช่วงปลายธ.ค.2563 ข้ามไปถึงก.พ.2564

    ตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. เป็นระยะเวลาเหมาะที่จะทำอะไรให้กับวงการตำรวจ เพราะราหูที่เกี่ยวกับตำรวจเป็นราศีดีกับดวงเมือง แต่ทหารบกจะมีเรื่องไม่ค่อยเป็นมงคลเกิดขึ้นบ่อยตั้งแต่เม.ย. เพราะดาวอังคารตัวแทนทหารเป็นกาลกิณี

    เกณฑ์โชคของเมืองจะเกิดเป็นระยะ เกณฑ์โชคใหญ่ในเมืองระหว่าง 1 มี.ค.-กลางก.ค. จะพบทรัพย์ในดินสินในน้ำ หรือมหาสมบัติของบรรพบุรุษ แต่ไม่ว่าจะได้อะไรก็จะเกิดการกระทบกับเขตแดนอธิปไตยของประเทศ

    https://www.khaosod.co.th/politics/news_3297779
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2020
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทะเลสาบ conjola รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    น้ำท่วมในจาการ์ตาอินโดนีเซีย วันที่ 1 มกราคม 2020 เวลา 4 pm


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ปีใหม่หนัก 2020!

    จากพระจันทร์กับ ❤


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บ้านและทรัพย์สินถูกทำลายที่ทะเลสาบ conjola
    รูปภาพโดย karleen minney

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สองถ้วยและช้อนเดียวเป็นสิ่งที่พบได้ในทรัพย์สินของชาว Cobargo : Barbara และ Dave Rugendyke ได้เลี้ยงดูเด็ก 400 คนในช่วง 27 ปีที่ผ่านมา ซาราห์ลูกสาวบุญธรรมของพวกเขาถือตุ๊กตาไอเท็มชิ้นเดียวที่เธอนำติดตัวไปเมื่อครอบครัวอพยพในเช้าวันอังคาร ภาพสุดท้ายที่นี่แสดงให้เห็นว่าแมวของครอบครัว โชคดีที่ลูกชายคนหนึ่งของบาร์บาร่าและเดฟพบแมวอยู่ใต้บ้านเพื่อนบ้านของพวกเขา ภาพถ่ายโดย James Brickwood

     

แชร์หน้านี้

Loading...